งานชิน้ ท่ี 1 เร่ือง… องค์ประกอบของระบบคอมพวิ เตอร์ จัดทาโดย นางสาวเบญจวรรณ ขวญั จิตร์ ปวส.1 คอบพวิ เตอร์ธุรกจิ 2 เลขที่ 15 เสนอ อาจารย์ทวศี ักด์ิ หนูทมิงานชิ้นนีเ้ ป็ นส่วนหน่ึงของวชิ าการประกอบเครื่องคอมพวิ เตอร์ วทิ ยาลยั อาชีวศึกษานครศรีธรรมราช
คอมพวิ เตอร์ทางานอย่างเป็ นระบบ (System) หมายถึง ภายในระบบงานคอมพวิ เตอร์ประกอบดว้ ยองคป์ ระกอบยอ่ ยท่ีมีหนา้ ที่เฉพาะ ทางานประสานสัมพนั ธ์กนั เพ่อื ใหง้ านบรรลุตามเป้าหมายในระบบงานคอมพิวเตอร์ การท่ีมีเครื่องคอมพวิ เตอร์เพียงอยา่ งเดียว จะยงั ไมส่ ามารถทางานไดด้ ว้ ยตวั เอง ซ่ึงหากจะให้คอมพิวเตอร์ทางานไดอ้ ยา่ งเป็นระบบและมีประสิทธิภาพแลว้ ระบบคอมพิวเตอร์ควรจะประกอบไปดว้ ยองคป์ ระกอบคือ บุคลากร (Peopleware) ฮาร์ดแวร์ (Hardware) ซอฟตแ์ วร์ (Software)ขอ้ มูล(Data) สารสนเทศ(Information) และกระบวนการทางาน ( Procedure ) 1. ฮาร์ดแวร์ ( Hardware ) ฮาร์ดแวร์เป็นองคป์ ระกอบของตวั เครื่องท่ีสามารถจบั ตอ้ งได้ ไดแ้ ก่วงจรไฟฟ้า ตวั เครื่อง จอภาพ เครื่องพมิ พ์ คียบ์ อร์ด เป็นตน้ ซ่ึงสามารถแบ่งส่วนพ้ืนฐานของฮาร์ดแวร์เป็น 4 หน่วยสาคญั 1.1 หน่วยรับข้อมูลหรืออนิ พุต ( Input Unit) ทาหนา้ ท่ีรับขอ้ มูลและโปรแกรม ไดแ้ ก่ คีย์บอร์ด (Keyboard) อุปกรณ์รับขอ้ มูลจากการกดแป้นแลว้ ทาการเปลี่ยนเป็นรหสั เพอ่ื บอกใหค้ อมพวิ เตอร์รู้วา่ มีการกดตวั อกั ษรอะไร แผงแป้นอกั ขระส่วนใหญ่เป็ นไปตามมาตรฐานของเครื่องพมิ พด์ ีด ซ่ึงระบบรับรหสั ตวั อกั ขระท่ีใชใ้ นทางคอมพวิ เตอร์เป็นรหสั 7 หรือ 8 บิต (Operator) เมาส์ (Mouse) อุปกรณ์นาเขา้ ขอ้ มูลโดยการเลื่อนเมาส์เพอื่ บงั คบั ตวั ช้ีไปยงัตาแหน่งต่างๆ บนหนา้ จอ
OCR (Optical Character Reader) อุปกรณ์นาเขา้ ขอ้ มูล โดยใชว้ ธิ ีการอา่ นขอ้ มูลดว้ ยลาแสงในลกั ษณะพาดขวางบนเอกสารที่มีขอ้ มูลอยู่ แลว้ แปลงรหสั เป็นสัญญาณไฟฟ้าเขา้ ไปเกบ็ ในเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์โอซีอาร์ท่ีเราสามารถพบเห็นไดใ้ นชีวติ ประจาวนั ไดแ้ ก่ เครื่องอา่ นรหสั แทง่(Barcode reader) สแกนเนอร์ (Scanner) เป็นอุปกรณ์นาเขา้ ขอ้ มูลท่ีเป็นเอกสาร รูปภาพหรือรูปถ่าย
อุปกรณ์รับข้อมูลเสียง (Voice Input Devices) หรือเรียกอีกอยา่ งหน่ึงวา่ไมโครโฟน เป็ นอุปกรณ์รับขอ้ มูลในรูปแบบเสียง โดยจะทาการแปลงสญั ญาณเสียงเป็ นสัญญาณดิจิทลั แลว้จึงส่งไปยงั คอมพวิ เตอร์ 1.2 ระบบประมวลผลกลางหรือซีพยี ู (CPU : Central Processing Unit) ทาหนา้ ที่ในการทางานตามคาสง่ั ท่ีปรากฏอยใู่ นโปรแกรม ปัจจุบนั ซีพยี ขู องเคร่ืองพซี ี รู้จกั ในนามไมโครโปรเซสเซอร์( Micro Processor) หรือ Chip เช่นบริษทั Intel คือ Pentium หรือ Celelon ส่วนของบริษทั AMD คือ K6,K7(Athlon) เป็นตน้ ไมโครโปรเซสเซอร์ มีหนา้ ที่ในการประมวลผลขอ้ มูล ในลกั ษณะของการคานวณและเปรียบเทียบ โดยจะทางานตามจงั หวะเวลาที่แน่นอน เรียกวา่ สญั ญาณ Clock เม่ือมีการเคาะจงั หวะหน่ึงคร้ัง ก็จะเกิดกิจกรรม 1 คร้ัง เราเรียกหน่วย ท่ีใชใ้ นการวดั ความเร็วของซีพยี ูวา่ “เฮิร์ท”(Herzt) หมายถึงการทางานไดก้ ี่คร้ังในจานวน 1 วนิ าที เช่น ซีพยี ู Pentium4 มีความเร็ว 2.5GHz หมายถึงทางานเร็ว 2,500 ลา้ นคร้ัง ในหน่ึงวนิ าที กรณีท่ีสัญญาณ Clock เร็วก็จะทาใหค้ อมพิวเตอร์เครื่องน้นั มีความเร็วสูง และ ซีพียทู ่ีทางานเร็วมาก ราคาก็จะแพงข้ึนมากตามไปดว้ ย 1.3 หน่วยเกบ็ ข้อมูล ( Storage ) ซ่ึงสามารถแยกตามหนา้ ที่ไดเ้ ป็น 2 ลกั ษณะ คือ 1.3.1 หน่วยเกบ็ ข้อมูลหลกั หรือความจาหลกั ( Primary Storage หรือ MainMemory ) ทาหนา้ ท่ีเกบ็ โปรแกรมหรือขอ้ มูลที่รับมาจากหน่วยรับขอ้ มูลเพอื่ เตรียมส่งใหห้ น่วยประมวลผลกลางทาการประมวลผล และรับผลลพั ธ์ท่ีไดจ้ ากการประมวลผลเพื่อส่งออกหน่วยแสดงขอ้ มูลตอ่ ไปซ่ึงอาจแยกไดเ้ ป็น 2 ประเภท คือ หน่วยความจาหลกั แบบอ่านได้อย่างเดียว (Read Only Memory – ROM) เป็นหน่วยความจาแบบสารก่ึงตวั นาชวั่ คราวชนิดอา่ นไดอ้ ยา่ งเดียว ใชเ้ ป็นส่ือบนั ทึกในคอมพิวเตอร์ เพราะไม่สามารถบนั ทึกซ้าได้ (อยา่ งง่ายๆ) เป็นความจาท่ีซอฟตแ์ วร์หรือขอ้ มูลอยแู่ ลว้ และพร้อมท่ีจะนามาต่อกบั ไมโครโพรเซสเซอร์ไดโ้ ดยตรง หน่วยความจาประเภทน้ีแมไ้ ม่มีไฟเล้ียงตอ่ อยู่ ขอ้ มูลก็จะไม่หายไปจากหน่วยความจา (nonvolatile)โดยทวั่ ไปจะใชเ้ กบ็ ขอ้ มูลที่ไม่ตอ้ งมีการแกไ้ ขอีกแลว้ เช่น เก็บโปรแกรมไบออส(Basic Input output System : BIOS) หรือเฟิ ร์มแวร์ ที่ควบคุมการทางานของคอมพวิ เตอร์ใชเ้ ก็บโปรแกรม
การทางานสาหรับเคร่ืองคิดเลขใชเ้ ก็บโปรแกรมของคอมพิวเตอร์ท่ีทางานเฉพาะดา้ น เช่น ในรถยนตท์ ี่ใช้ระบบคอมพวิ เตอร์ควบคุมวงจร ควบคุมในเคร่ืองซกั ผา้ เป็ นตน้ - หน่วยความจาหลกั แบบแก้ไขได้ (Random Access Memory – RAM) เป็นหน่วยความจาหลกัท่ีใชใ้ นระบบคอมพวิ เตอร์ยคุ ปัจจุบนั หน่วยความจาชนิดน้ี อนุญาตให้เขียนและอา่ นขอ้ มูลไดใ้ นตาแหน่งต่างๆ อยา่ งอิสระ และรวดเร็วพอสมควร ซ่ึงตา่ งจากส่ือเก็บขอ้ มูลชนิดอ่ืนๆ อยา่ งเทป หรือดิสก์ ท่ีมีขอ้ จากดัในการอา่ นและเขียนขอ้ มูล ท่ีตอ้ งทาตามลาดบั ก่อนหลงั ตามท่ีจดั เก็บไวใ้ นสื่อ หรือมีขอ้ กาจดั แบบรอมที่อนุญาตให้อา่ นเพียงอยา่ งเดียว ขอ้ มูลในแรม อาจเป็ นโปรแกรมท่ีกาลงั ทางาน หรือขอ้ มูลท่ีใชใ้ นการประมวลผล ของโปรแกรมท่ีกาลงั ทางานอยู่ ขอ้ มูลในแรมจะหายไปทนั ที เม่ือระบบคอมพวิ เตอร์ถูกปิ ดลงเนื่องจากหน่วยความจาชนิดน้ี จะเก็บขอ้ มูลไดเ้ ฉพาะเวลาท่ีมีกระแสไฟฟ้าหล่อเล้ียงเท่าน้นั
1.3.2 หน่วยเกบ็ ข้อมูลสารอง ( Secondary Storage ) เป็ นหน่วยท่ีทาหนา้ ท่ีเก็บขอ้ มูล หรือโปรแกรมที่จะป้อนเขา้ สู่หน่วยความจาหลกั ภายในเครื่องก่อนทาการประมวลผลโดยซีพยี ูรวมท้งั เป็ นท่ีเกบ็ ผลลพั ธ์จากการประมวลผลดว้ ย ปัจจุบนั รู้จกั ในนามฮาร์ดดิสก์ (Hard disk) หรือแผน่ ฟร็อปปี ดิสก์ (Floppy Disk) ซ่ึงเม่ือปิ ดเครื่องขอ้ มูลจะยงั คงเก็บอยู่ 1.4 หน่วยแสดงข้อมูลหรือเอาต์พุต ( Output Unit ) ทาหนา้ ท่ีในการแสดงผลลพั ธ์ที่ไดจ้ ากการประมวลผล ไดแ้ ก่ จอภาพ และลาโพง เป็นตน้ จอภาพ (Monitor) จอภาพ เป็ นอุปกรณ์ที่รับสัญญาณจากการ์ดแสดงผล มาแสดงเป็นภาพบนจอภาพซ่ึงเทคโนโลยจี อภาพในปัจจุบนั คงจะเป็น จอภาพแบบ Trinitron และ Flat Screen(จอแบน) ไม่วา่ จะเป็นCRT(moniter ทวั่ ไป) หรือ LCD (จอท่ีมีลกั ษณะ แบนเรียบท้งั ตวั เคร่ือง) จอแบนจะมีประสิทธิภาพ ในการแสดงผลมากกวา่ จอปกติ เพราะสามารถลดแสงสะทอ้ นไดด้ ีกวา่ ทาใหไ้ ม่เกิดอาการเมื่อยลา้ และปวดตาเมื่อตอ้ งทางานนาน ๆ แต่ ราคาของจอแบนยงั มีราคาสูงกวา่จอภาพแบบ CRT จอภาพแบบ LCD
ลาโพง เป็นอุปกรณ์ส่งออกที่แสดงผลขอ้ มูลเสียง โดยตอ้ งใชง้ านคู่กบั อุปกรณ์ ที่เรียกวา่ การ์ดเสียง(sound card) ซ่ึงเป็นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ที่เสียบอยกู่ บั เมนบอร์ด ภายในตวั ถงั หรือท่ีเรียกวา่ เคท (cartridge)ของเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ตวั น้ีทาหนา้ ท่ีแปลง สัญญาณดิจิทลั ท่ีส่งมาจาก เครื่องคอมพิวเตอร์ ใหเ้ ป็นสญั ญาณแอนาล็อก แลว้ ส่งผา่ นไปยงั ลาโพง ซ่ึงจะแปลงสญั ญาณท่ีไดร้ ับ เป็ นเสียงใหเ้ ราไดย้ นิ ไมว่ า่ จะเป็นเสียงเพลง หรือ เสียงเตือนถึงขอ้ ผดิ พลาด 2 ซอฟต์แวร์ ( Software ) ซอฟตแ์ วร์ คือโปรแกรมหรือชุดคาส่ัง ที่สั่งใหฮ้ าร์ดแวร์ทางาน รวมไปถึงการควบคุมการทางาน ของอุปกรณ์แวดลอ้ มต่างๆ เช่น ฮาร์ดดิสก์ ดิสกไ์ ดร์ฟ ซีดีรอม การ์ดอินเตอร์เฟสตา่ ง ๆ เป็นตน้ ซอฟตแ์ วร์ เป็ นส่ิงท่ีมองไม่เห็นจบั ตอ้ งไมไ่ ด้ แต่รับรู้การทางานของมนั ได้ ซ่ึงตา่ งกบัฮาร์ดแวร์ (Hardware) ท่ีสามารถจบั ตอ้ งได้ ซ่ึงแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ 2.1 ซอฟต์แวร์ระบบ ( System Software ) คือโปรแกรม ที่ใชใ้ นการควบคุมระบบการทางานของเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ท้งั หมด เช่น การบูตเครื่อง การสาเนาขอ้ มูล การจดั การระบบของดิสก์ชุดคาสั่งท่ีเขียนเป็นคาสัง่ สาเร็จรูป โดยผผู้ ลิตเคร่ืองคอมพิวเตอร์ และมีมาพร้อมแลว้ จากโรงงานผลิตการทางานหรือการประมวลผล ของซอฟตแ์ วร์เหล่าน้ี ข้ึนกบั เคร่ืองคอมพิวเตอร์แตล่ ะเคร่ือง ระบบของซอฟตแ์ วร์เหล่าน้ี ออกแบบมาเพอื่ การปฏิบตั ิควบคุม และมีความสามารถในการยดื หยนุ่ การประมวลผลของเครื่องคอมพวิ เตอร์ แบ่งออกเป็ น 4 ประเภทคือ 2.1.1 โปรแกรมระบบปฏบิ ตั ิการ (Operating System) เป็ นโปรแกรมท่ีใชค้ วบคุมและติดตอ่ กบั อุปกรณ์ตา่ ง ๆ ของเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะการจดั การระบบของดิสก์ การบริหารหน่วยความจาของระบบ กล่าวโดยสรุปคือ หากจะทางานใดงานหน่ึง โดยใชค้ อมพวิ เตอร์เป็นเคร่ืองมือ ในการทางาน แลว้ จะตอ้ งติดต่อกบั ซอฟตแ์ วร์ระบบก่อน ถา้ ขาดซอฟตแ์ วร์ชนิดน้ี จะทาใหเ้ คร่ืองคอมพิวเตอร์ไมส่ ามารถทางานได้ ตวั อยา่ งของซอฟตแ์ วร์ประเภทน้ี ไดแ้ ก่ โปรแกรม
ระบบปฏิบตั ิการ Unix Linux DOS และ Windows (เวอร์ชนั่ ตา่ ง ๆ เช่น 95 98 me 2000 NT XPVista) เป็นตน้ 2.1.2 ตัวแปลภาษา (Translator) จาก Source Code ใหเ้ ป็ น Object Code (แปลจากภาษาท่ีมนุษยเ์ ขา้ ใจ ใหเ้ ป็ นภาษาท่ีเครื่องเขา้ ใจ เปรียบเสมือนล่ามแปลภาษา) เป็นซอฟตแ์ วร์ที่ใชใ้ นการแปลภาษาระดบั สูง ซ่ึง เป็นภาษาใกลเ้ คียงภาษามนุษย์ ใหเ้ ป็นภาษาเครื่องก่อนท่ีจะนาไปประมวลผลตวั แปลภาษาแบ่งออกเป็นสองประเภทคือ คอมไพเลอร์ (Compiler) และอินเตอร์พที เตอร์ (Interpeter) คอมไพเลอร์จะแปลคาสงั่ ในโปรแกรมท้งั หมดก่อน แลว้ ทาการลิ้ง(Link) เพื่อใหไ้ ด้คาส่ังท่ีเครื่องคอมพิวเตอร์เขา้ ใจ ส่วนอินเตอร์พีทเตอร์จะแปลทีละประโยคคาส่งั แลว้ ทางานตามประโยคคาสั่งน้นั การจะเลือกใชต้ วั แปลภาษาแบบใดน้นั จะข้ึนอยกู่ บั ภาษาท่ีใชใ้ นการเขียนโปรแกรม ซ่ึงมี 2 แบบไดแ้ ก่ ภาษาแบบโครงสร้าง เช่น ภาษาเบสิก (Basic) ภาษาปาสคาล (Pascal) ภาษาซี (C) ภาษาจาวา(Java)ภาษาโคบอล (Cobol) ภาษา SQL ภาษา HTML เป็นตน้ ภาษาแบบเชิงวตั ถุ ( Visual หรือ ObjectOriented Programming ) เช่น VisualBasic,Visual C หรือ Delphi เป็นตน้ 2.1.3 ยตู ิลติ ี้ โปรแกรม (Utility Program) คือซอฟตแ์ วร์เสริมช่วยใหเ้ ครื่องทางานมีประสิทธิภาพ มากข้ึน เช่น ช่วยในการตรวจสอบดิสก์ ช่วยในการจดั เกบ็ ขอ้ มูลในดิสก์ ช่วยสาเนาขอ้ มูลช่วยซ่อมอาการชารุดของดิสก์ ช่วยคน้ หาและกาจดั ไวรัส ฯลฯ เป็นตน้ โปรแกรมในกลุ่มน้ีไดแ้ ก่โปรแกรม Norton Winzip Scan virus Sidekick Scandisk Screen Saver ฯลฯ เป็นตน้ 2.1.4 ตดิ ต้ังและปรับปรุงระบบ (Diagonostic Program) เป็นซอฟตแ์ วร์ที่ใชใ้ นการติดต้งั ระบบ เพ่ือใหค้ อมพวิ เตอร์สามารถติดต่อและใชง้ านอุปกรณ์ตา่ ง ๆ ที่นามาติดต้งั ระบบ ไดแ้ ก่โปรแกรม Setupและ Driver ต่าง ๆ เช่น โปรแกรม Setup Microsoft Office โปรแกรม Driver Sound ,DriverPrinter , Driver Scanner ฯลฯ เป็นตน้ 2.2 ซอฟต์แวร์ประยกุ ต์ (Application Software) คือ ซอฟตแ์ วร์หรือโปรแกรมที่ทาให้คอมพิวเตอร์ทางานตา่ งๆ ตามท่ีผใู้ ชต้ อ้ งการ ไม่วา่ จะดา้ นเอกสาร บญั ชี การจดั เกบ็ ขอ้ มูล เป็นตน้ ซอฟตแ์ วร์ประยกุ ตส์ ามารถจาแนกไดเ้ ป็น 2 ประเภท คือ 2.2.1 ซอฟต์แวร์สาหรับงานเฉพาะด้าน (Special Purpose Software) คือโปรแกรมซ่ึงเขียนข้ึนเพอ่ื การทางานเฉพาะอยา่ งที่เราตอ้ งการ บางที่เรียกวา่ User’s Program เช่น โปรแกรมการทาบญั ชีจ่ายเงินเดือน โปรแกรมระบบเช่าซ้ือ โปรแกรมการทาสินคา้ คงคลงั เป็นตน้ ซ่ึงแต่ละโปรแกรมกม็ กั จะมีเงื่อนไข หรือแบบฟอร์มแตกตา่ งกนั ออกไปตามความตอ้ งการ หรือกฎเกณฑข์ องแต่ละหน่วยงานท่ีใช้ ซ่ึงสามารถดดั แปลงแกไ้ ขเพม่ิ เติม (Modifications) ในบางส่วนของโปรแกรมได้ เพื่อใหต้ รงกบั ความตอ้ งการของผใู้ ช้ และซอฟตแ์ วร์ประยกุ ตท์ ี่เขียนข้ึนน้ีโดยส่วนใหญม่ กั ใชภ้ าษาระดบั สูงเป็นตวั พฒั นา
2.2.2 ซอฟต์แวร์สาหรับงานทวั่ ไป (General Purpose Software) เป็นโปรแกรมประยกุ ตท์ ี่มีผจู้ ดั ทาไว้ เพ่ือใชใ้ นการทางานประเภทต่างๆ ทวั่ ไป โดยผใู้ ชค้ นอื่นๆ สามารถนาโปรแกรมน้ีไปประยกุ ตใ์ ชก้ บั ขอ้ มูลของตนได้ แตจ่ ะไม่สามารถทาการดดั แปลง หรือแกไ้ ขโปรแกรมได้ ผใู้ ชไ้ มจ่ าเป็นตอ้ งเขียนโปรแกรมเอง ซ่ึงเป็ นการประหยดั เวลา แรงงาน และคา่ ใชจ้ ่ายในการเขียนโปรแกรม นอกจากน้ี ยงั ไม่ตอ้ งเวลามากในการฝึกและปฏิบตั ิ ซ่ึงโปรแกรมสาเร็จรูปน้ี มกั จะมีการใชง้ านในหน่วยงาน ซ่ึงขาดบุคลากรที่มีความชานาญเป็นพเิ ศษในการเขียนโปรแกรม ดงั น้นั การใชโ้ ปรแกรมสาเร็จรูปจึงเป็นสิ่งท่ีอานวยความสะดวกและเป็นประโยชน์อยา่ งยง่ิ ตวั อยา่ งโปรแกรมสาเร็จรูปท่ีนิยมใชไ้ ดแ้ ก่ MS-Office, Lotus, AdobePhotoshop, SPSS, Internet Explorer และ เกมส์ต่างๆ เป็นตน้ 3 บุคลากร ( Peopleware ) บุคลากรจะเป็นสิ่งสาคญั ที่จะเป็นตวั กาหนดถึงประสิทธิภาพถึงความสาเร็จและความคุม้ คา่ ในการใชง้ านคอมพิวเตอร์ ซ่ึงสามารถแบ่งบุคลากรตามหนา้ ที่เกี่ยวขอ้ งตามลกั ษณะงานได้ 6 ดา้ น ดงั น้ี 3.1 นักวเิ คราะห์และออกแบบระบบ (Systems Analyst and Designer : SA ) ทาหนา้ ท่ีศึกษาและรวบรวมความตอ้ งการของผใู้ ชร้ ะบบ และทาหนา้ ท่ีเป็นส่ือกลางระหวา่ งผใู้ ชร้ ะบบและนกั เขียนโปรแกรม (Programmer) หรือปรับปรุงคุณภาพงานเดิม นกั วเิ คราะห์ระบบตอ้ งมีความรู้เก่ียวกบั ระบบคอมพิวเตอร์ พ้ืนฐานการเขียนโปรแกรม และควรจะเป็ นผมู้ ีความคิดริเริ่มสร้างสรรคม์ ีมนุษยส์ มั พนั ธ์ที่ดี 3.2 โปรแกรมเมอร์ ( Programmer ) คือบุคคลท่ีทาหนา้ ที่เขียนซอฟตแ์ วร์ต่างๆ(Software )หรือเขียนโปรแกรมเพื่อส่งั งานใหเ้ คร่ืองคอมพิวเตอร์ทางานตามความตอ้ งการของผใู้ ช้ โดยเขียนตามแผนผงัที่นกั วเิ คราะห์ระบบไดเ้ ขียนไว้ 3.3 ผู้ใช้ ( User ) เป็นผใู้ ชร้ ะบบคอมพวิ เตอร์ ซ่ึงจะเป็นผปู้ ฏิบตั ิหรือกาหนดความตอ้ งการในการใชร้ ะบบคอมพวิ เตอร์วา่ ทางานอะไรไดบ้ า้ ง ผใู้ ชง้ านคอมพวิ เตอร์ทว่ั ไป จะตอ้ งเรียนรู้วธิ ีการใช้เครื่อง และวธิ ีการใชง้ านโปรแกรม เพื่อใหโ้ ปรแกรมที่มีอยสู่ ามารถทางานไดต้ ามท่ีตอ้ งการ 3.4 ผ้ปู ฏบิ ัตกิ าร (Operator ) สาหรับระบบขนาดใหญ่ เช่น เมนเฟรม จะตอ้ งมีเจา้ หนา้ ท่ีคอมพิวเตอร์ที่คอยปิ ดและเปิ ดเครื่อง และเฝ้าดูจอภาพเมื่อมีปัญหาซ่ึงอาจเกิดขดั ขอ้ ง จะตอ้ งแจง้ System Programmer ซ่ึงเป็นผดู้ ูแลตรวจสอบแกไ้ ขโปรแกรมระบบควบคุมเคร่ือง(System Software) อีกทีหน่ึง 3.5 ผู้บริหารฐานข้อมูล ( Database Administrator : DBA ) กลุ่มบุคคลท่ีทาหนา้ ที่ดูแลขอ้ มูลผา่ นระบบจดั การฐานขอ้ มูล ซ่ึงจะควบคุมใหก้ ารทางานเป็นไปอยา่ งราบรื่น นอกจากน้ียงั ทาหนา้ ท่ีกาหนดสิทธิการใชง้ านขอ้ มูล กาหนดในเรื่องความปลอดภยั ของการใชง้ าน พร้อมท้งั ดูแลดาตา้ เบสเซิร์ฟเวอร์ (Database Server) ใหท้ างานอยา่ งปกติดว้ ย
3.6 ผ้จู ัดการระบบ (System Manager) คือ ผวู้ างนโยบายการใชค้ อมพิวเตอร์ใหเ้ ป็ นไปตามเป้าหมายของหน่วยงาน เป็นผทู้ ่ีมีความหมายตอ่ ความสาเร็จหรือลม้ เหลวของการนาระบบคอมพวิ เตอร์เขา้ มาใชง้ านเป็นอยา่ งมาก 4. ข้อมูลและสารสนเทศ หมายถึง ขอ้ เทจ็ จริงหรือเหตุการณ์ที่เกิดข้ึน แลว้ ใชต้ วั เลขตวั อกั ษร หรือสญั ลกั ษณ์ ตา่ งๆ ทาความหมายแทนสิ่งเหล่าน้นั เช่น คะแนนสอบวชิ าภาษาไทยของนกั เรียน อายขุ องพนกั งานในบริษทั ชินวตั รจากดั ราคาขายของหนงั สือในร้านหนงั สือดอกหญา้ คาตอบท่ีผถู้ ูกสารวจตอบในแบบสอบถาม หมายถึง ขอ้ สรุปต่างๆ ท่ีไดจ้ ากการนาขอ้ มูลมาทาการวเิ คราะห์ หรือผา่ นวธิ ีการท่ี ไดก้ าหนดข้ึน ท้งั น้ีเพ่ือนาขอ้ สรุปไปใชง้ านหรืออา้ งอิง เช่น เกรดเฉล่ียของวชิ าภาษาไทยของนกั เรียน อายเุ ฉล่ียของพนกั งานในบริษทั ชินวตั รจากดั ราคาขายสูงสุดของหนงั สือในร้านหนงั สือดอกหญา้ ขอ้ สรุปจากการสารวจคาตอบในแบบสอบถาม 5. กระบวนการทางาน ( Procedure ) องคป์ ระกอบดา้ นน้ีหมายถึงกระบวนการทางานเพือ่ ใหไ้ ดผ้ ลลพั ธ์ตามตอ้ งการ ในการทางานกบัคอมพิวเตอร์ผใู้ ชจ้ าเป็ นตอ้ งทราบข้นั ตอนการทางานเพ่ือใหไ้ ดง้ านที่ถูกตอ้ งและมีประสิทธิภาพ ซ่ึงอาจจะมีข้นั ตอนสลบั ซบั ซอ้ นหลายข้นั ตอน ดงั น้นั จึงมีความจาเป็ นตอ้ งมีคูม่ ือปฏิบตั ิงาน เช่น คู่มือผใู้ ช้( user manual ) หรือคูม่ ือผดู้ ูแลระบบ ( operation manual ) เป็นตน้
Search
Read the Text Version
- 1 - 10
Pages: