Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนยุทธศาสตร์กระทรวงศึกษาธิการ (พ.ศ. 2563 - 2565)-rev

แผนยุทธศาสตร์กระทรวงศึกษาธิการ (พ.ศ. 2563 - 2565)-rev

Published by ครูรุ่งทิวา สลากัน, 2020-04-08 22:43:09

Description: แผนยุทธศาสตร์กระทรวงศึกษาธิการ (พ.ศ. 2563 - 2565)-rev

Search

Read the Text Version

๔๔ โดยผ่านกลไกที่สำคัญคือ การจัดทำแผน การจัดทำและบริหารงบประมาณในระดับต่างๆ รวมทั้งการสร้าง ช่องทางให้ภาคประชาสังคมได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็นและมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาอย่างกว้างขวาง ภายใต้ยุทธศาสตร์กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ดงั นี้ ๑.๑ กลุ่มขับเคลอื่ นการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตรช์ าติ และการสรา้ งความสามัคคีปรองดอง กระทรวงศึกษาธิการ (ป.ย.ป. ศธ.) ซึ่งมีอำนาจหน้าทีเ่ ป็นหน่วยงานขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาตแิ ละการปฏิรูป ประเทศของกระทรวงศึกษาธิการ และกำกับ ติดตามการดำเนินงานของกระทรวงศึกษาธิการ ให้เป็นไปตาม แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตรช์ าติและแผนการปฏิรปู ประเทศ โดยกลุ่มขับเคล่ือนฯ ควรใหค้ วามสำคัญกับการ นำแผนยุทธศาสตร์กระทรวงฯ สำหรับใช้เป็นกรอบในการจัดทำแผนปฏิบัติการของกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทฯ แผนการปฏิรูปประเทศ ให้บรรลุตามเป้าหมาย ๑.๒ คณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค ซึ่งมีอำนาจหน้าที่กำหนดทิศทางการดำเนินงานของกระทรวงศึกษาธิการในระดับภูมิภาคหรือจังหวัด และ พิจารณาจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานของกระทรวงฯ ในระดับภูมิภาคหรือจังหวัด โดยคณะกรรมการฯ ควรให้ความสำคัญกับการใช้แผนยุทธศาสตร์กระทรวงฯ เพื่อเป็นกรอบในการกำหนดแผนพัฒนาการศึกษา ในระดับภาคตา่ งๆ ทจ่ี ะเช่อื มโยงไปสกู่ ารจัดทำแผนการศึกษาในระดับจังหวัด ๑.๓ คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในเขตจังหวัดตาม กฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ กำหนดยุทธศาสตร์ แนวทางการจัดการศึกษา และการส่งเสริมสนับสนนุ การจัดการศึกษาทุกระดับและทุกประเภทในจังหวัด โดยคณะกรรมการฯ ควรให้ความสำคัญกับการใช้ แผนยุทธศาสตร์กระทรวงฯ เพื่อเป็นกรอบในการจัดทำแผนพัฒนาการศึกษา แผนปฏิบัติการในระดับจังหวัด และการพิจารณาเสนอแนะการจัดสรรงบประมาณให้แกส่ ถานศึกษาในจังหวดั ๑.๔ แผนปฏิบัติราชการของกระทรวงศึกษาธกิ าร โดยยึดสาระสำคัญของแผนยุทธศาสตร์ กระทรวงศึกษาธิการ (พ.ศ.๒๕๖๓ – ๒๕๖๕) ได้แก่ เป้าหมายหลัก พันธกิจ และยุทธศาสตร์กระทรวงฯ สำหรับใช้จัดทำแผนปฏิบัติราชการ ระยะ ๓ ปี (พ.ศ.๒๕๖๓ – ๒๕๖๕) และแผนปฏิบัติราชการประจำปีของ กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อนำไปสู่การขอจัดตั้งและการบริหารงบประมาณของกระทรวงศึกษาธิการในแต่ละ ปงี บประมาณให้มคี วามสอดคล้องกับนโยบายของรฐั บาล ๑.๕ แผนปฏิบัติราชการของส่วนราชการระดับกรม /หน่วยงานในกำกับของกระทรวง ศึกษาธิการส่วนกลาง โดยยึดสาระสำคัญของแผนยุทธศาสตร์กระทรวงศึกษาธิการ (พ.ศ.๒๕๖๓ – ๒๕๖๕) ได้แก่ เป้าหมายหลัก พันธกิจ และยุทธศาสตร์กระทรวงฯ สำหรับใช้จัดทำแผนปฏิบัติราชการ ระยะ ๓ ปี (พ.ศ.๒๕๖๓ – ๒๕๖๕) และแผนปฏิบัติราชการประจำปีของส่วนราชการระดับกรม ซึ่งควรเน้นการวิเคราะห์ กำหนดแผนงาน /โครงการที่มีความสำคัญสูงภายใต้ยุทธศาสตรก์ ระทรวงฯ เพื่อนำไปสู่การขอจัดตั้งงบประมาณ ของกระทรวงศึกษาธิการในแต่ละปีงบประมาณ ให้มีความสอดคล้องกับแผนปฏิบัติราชการของกระทรวงฯ ๒. กลยทุ ธ์ /แนวทางดำเนนิ งาน เพื่อให้การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์กระทรวงศึกษาธิการ (พ.ศ.๒๕๖๓ – ๒๕๖๕) โดยผ่านกลไก กลุ่มขับเคลื่อนฯ และคณะกรรมการฯ แผนปฏิบัติราชการ แผนพัฒนา แผนปฏิบัติการ ของหน่วยงานทั้งใน ส่วนกลางและในระดับพื้นที่ภูมิภาคและจังหวัด สามารถสร้างผลผลิต ผลลัพธ์ให้ไปสู่เป้าหมายและบรรลุ วิสัยทัศน์ของกระทรวงศึกษาธิการในปี 2565 โดยผู้ที่เกี่ยวข้องอาจจะพิจารณานำกลยทุ ธ์ /แนวทางดำเนินงาน ภายใตย้ ทุ ธศาสตรก์ ระทรวงฯ มาใช้สำหรบั การวิเคราะหเ์ พอื่ จดั ทำแผนงาน โครงการ กจิ กรรม ดังนี้

๔๕ ๒.๑ ยุทธศาสตร์พัฒนาหลกั สตู ร กระบวนการจดั การเรียนรู้ การวดั และประเมินผล ๑) พัฒนาและปรับปรุงโครงสร้างของหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานให้ทันสมัย สอดคลอ้ งกบั ทกั ษะทจ่ี ำเป็นในศตวรรษท่ี ๒๑ และเหมาะสมกบั ผเู้ รียนในแตล่ ะช่วงวัย ๒) พัฒนาและใหก้ ารรบั รองหลักสูตรฐานสมรรถนะทส่ี อดคลอ้ งกบั กรอบคุณวุฒิแห่งชาติ รวมท้ังจดั ทำแผนการดำเนนิ งานเพอ่ื ผลักดันใหม้ กี ารเชอ่ื มโยงระหว่างวุฒิการศึกษาและมาตรฐานอาชพี ๓) พัฒนาและปรับปรุงหลักสูตรระยะสั้นของการศึกษานอกระบบให้มีมาตรฐาน อย่างต่อเนื่องตามบริบทท่ีเปล่ียนแปลงของประเทศ โดยเฉพาะหลักสูตรพัฒนาทักษะอาชีพที่เหมาะสมสำหรับ กล่มุ ผเู้ รียนวัยกำลงั แรงงาน และกลุ่มผู้สงู อายุ โดยร่วมกบั สถาบนั อุดมศึกษาในพนื้ ที่ ๔) นำมาตรฐานการศึกษาของชาติมาใช้เป็นเป้าหมายและกรอบสำหรับการจัดการศึกษา ของโรงเรยี น สถานศกึ ษา และหน่วยงานตน้ สังกัด ๕) จัดการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นพหุปัญญาของผู้เรียนตามศักยภาพ และสร้างทักษะพื้นฐาน ท่ีเชื่อมโยงสูก่ ารสร้างอาชีพและมงี านทำ ๖) จัดการเรียนรู้ให้ผู้เรียนไดล้ งมือปฏิบัติ (Active Learning) โดยใช้สถานการณ์จริง / สถานการณ์จำลองที่สอดคล้องเหมาะสมกับบริบทของแต่ละพื้นที่ และกำหนดกิจกรรมให้ผู้เรียนและครู ได้แสดงความคดิ เหน็ รว่ มกนั ๗) ออกแบบการเรียนรู้เพื่อฝึกทักษะการคิดแบบมีเหตุผลและเป็นขั้นตอน และเพม่ิ ระดบั ด้วยการเรียนการสอนวิชาภาษาคอมพิวเตอร์ (Coding) อย่างต่อเน่ือง ๘) จัดการเรียนรู้และกิจกรรมโครงงานด้วยแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม คณิตศาสตร์ และภูมิสังคม บูรณาการร่วมกับการส่งเสริมการนำคุณธรรม จริยธรรม และความเปน็ พลเมืองทเี่ ข้มแขง็ มาสู่ผูเ้ รียน (STAR STEMS) ๙) นำกระบวนการลกู เสือมาใช้ในกจิ กรรมเสริมทกั ษะชีวติ ผู้เรียนอย่างเขม้ ขน้ ตลอดจน พัฒนา /ปรับปรุงให้ค่ายลูกเสือเป็นแหล่งเรียนรู้ และจัดกิจกรรมเสริมสร้างระเบียบวินัย การมีจิตอาสา และการมีทศั นคตทิ ถ่ี ูกตอ้ งต่อการอยู่ร่วมกันในสังคม ๑๐) ส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสงิ่ แวดลอ้ ม ๑๑) ส่งเสริมการเรียนรู้ในการนำแนวคิดตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่ การปฏิบตั ใิ นการดำเนนิ ชวี ติ ๑๒) ส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อสร้างความเข้าใจ ความตระหนักในการเลือกรับ /การส่งต่อ ข้อมลู ข่าวสารจากส่ือเทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งถูกตอ้ ง ๑๓) จัดทำแผนขับเคลื่อน /ขยายผลการจัดการเรียนรู้ของสถานศึกษาในสังกัดกระทรวง ศกึ ษาธิการ ตามกฎหมายว่าด้วยพน้ื ท่ีนวตั กรรมการศึกษา ๑๔) ส่งเสริมกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อสร้างทักษะการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม การขจัดความขัดแย้ง และกิจกรรมสันติศึกษา รวมทั้งพัฒนาทักษะด้านอาชีพให้เยาวชน ประชาชนสามารถ ประกอบอาชีพ มงี านทำในพ้ืนท่ีชุมชนในจังหวดั ชายแดนภาคใต้ ๑๕) ปรับปรุงระบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติให้สอดคล้องกับการปรับปรุงหลักสูตร การศึกษาข้ันพน้ื ฐาน และหลกั สูตรฐานสมรรถนะ ๑๖) พัฒนาระบบประเมินผลการจัดการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับผลลัพธ์ของมาตรฐาน การศึกษาของชาติ

๔๖ ๒.๒ ยทุ ธศาสตรพ์ ัฒนาครแู ละบุคลากรทางการศึกษา ๑) พัฒนาครูให้มีความสามารถในการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้แบบบูรณาการ ที่มุ่งเน้นพหุปัญญาที่หลากหลาย การกระตุ้นความคิดและจินตนาการของผู้เรียน รวมทั้งสนับสนุนการเพ่ิม ความสามารถดา้ นภาษาและด้านดจิ ิทลั ให้แก่ครูและบคุ ลากรทางการศึกษา ๒) จัดทำแผนเพอื่ เพิ่มสมรรถนะทางวิชาชพี ครูอย่างเป็นระบบ ให้ครูสามารถปรบั บทบาท เป็นผู้อำนวยการเรียนรู้ และสอดคล้องกับการปรับปรุงโครงสร้างของหลกั สูตรโดยใชก้ ลไกกองทุนเพอื่ ความเสมอภาค ทางการศึกษามาใชส้ นบั สนุนในการขับเคลือ่ นแผนฯ ๓) พัฒนากระบวนการนิเทศ การวัดผล การประเมินผลครู ที่สะท้อนต่อผลลัพธ์ ทเ่ี กิดขน้ึ กบั ผเู้ รียน ๔) ประสานงานกับสถาบันการศึกษาที่ผลิตครู เพื่อร่วมวางแผนการผลิตและพัฒนาครู ให้ตรงกบั ความต้องการของการจดั การเรียนร้ใู นทกุ ระดับ /ทุกประเภทการศกึ ษา ๕) ปรบั ปรุงระบบบริหารงานบุคคล และจัดทำแผนการใช้อตั รากำลงั ครใู หม้ ีประสิทธิภาพ อยา่ งเป็นรูปธรรม โดยให้ความสำคญั กับครอู นุบาล (ปฐมวัย) และครูอาชวี ศกึ ษา ๖) ทบทวนและปรบั ปรงุ ระบบการออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ใหเ้ ออ้ื ต่อการแก้ไข ปญั หาความขาดแคลนครูในสาขาวชิ าทข่ี าดแคลน และพนื้ ทท่ี ุรกันดาร ๗) กำหนดให้สถาบันที่มีหน้าที่ในการพัฒนาครู ผู้บริหารสถานศึกษา และบุคลากร ทางการศึกษา จัดทำหลักสูตรการฝกึ อบรมให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้ ความเข้าใจในเร่ืองระบบหลกั สตู ร บทบาทการอำนวยการเรียนรู้ การวัดผลและประเมนิ ผลการเรยี นรขู้ องผู้เรยี น ๘) สร้างขวัญกำลังใจ สร้างแรงจูงใจให้แก่ครู เช่น ลดภารกิจอื่นๆ ในโรงเรียนที่ไม่ใช่ ภารกจิ ด้านการสอน แก้ไขปัญหาหนส้ี นิ ครอู ย่างเปน็ ระบบ ปรบั ปรุง/สร้างบา้ นพกั ครใู นพ้นื ท่ีที่หา่ งไกล ๒.๓ ยุทธศาสตร์ผลิตและพัฒนากำลังคนรวมทั้งงานวิจัยที่สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ ๑) ขยายการศึกษาสายอาชีวศึกษาให้มีสัดส่วนใกล้เคียงกับสายสามัญ และส่งเสริม คา่ นิยมและภาพลกั ษณข์ องการเรยี นอาชวี ศึกษาอย่างต่อเนอ่ื ง ๒) จัดทำแผนเพิ่มการผลิตกำลังคนด้านอาชีวศึกษาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เพียงพอกับความต้องการในสาขาเป้าหมายที่จำเป็นต่อการพัฒนาประเทศ ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน ดา้ นอุตสาหกรรม ดา้ นคมนาคมและระบบโลจิสตกิ ส์ และดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร ๓) ผลิตกำลังในภาคการบริการ โดยพิจารณาตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับ แนวโนม้ ทิศทางด้านการทอ่ งเทีย่ วของประเทศ ๔) เร่งขยายผลการจัดการอาชีวศึกษาในระบบทวิภาคี เพื่อเชื่อมโยงภาคการศึกษา กบั การปฏบิ ัติจริงในภาคธุรกจิ และพฒั นากำลงั คนทม่ี ีทกั ษะข้นั สูง ๕) วางรากฐานทักษะอาชีพของผู้เรียนทุกระดับให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงของ เทคโนโลยี และเสริมให้ผู้เรียนอาชวี ศึกษามีทักษะดา้ นภาษาอังกฤษและภาษาที่สาม เพื่อเพิ่มสมรรถนะสำหรับ การทำงานรองรับพืน้ ทีเ่ ขตเศรษฐกิจพิเศษ รวมทงั้ การเปน็ ผู้ประกอบการเอง (SMEs และ Start up) ๖) สนับสนุนให้ผู้เรียนที่มีความสามารถพิเศษ ช่วยสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมใหม่ๆ แก่ประเทศ โดยจดั หาโอกาสทำงาน /ฝึกปฏิบตั ิงานร่วมกับเครือข่ายองคก์ รสำคัญตา่ งๆ ๗) ส่งเสริมงานวิจยั ทีส่ ามารถสรา้ งนวัตกรรมเชงิ เศรษฐกจิ ทีส่ ามารถนำไปใชป้ ระโยชน์ได้ จริงในเชิงพาณิชย์ รวมทั้งสร้างเครือข่ายการพัฒนางานวิจัยเชิงพาณิชย์ร่วมกับสถาบันอุดมศึกษาและหน่วยงานอ่ืน ๘) ส่งเสริมงานวิจัยที่สามารถสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมเชิงสังคม โดยเน้นงานวิจัย ทสี่ ามารถชว่ ยแก้ปัญหาความเหลือ่ มล้ำในเชงิ พน้ื ที่ระดบั ภาคภูมิศาสตร์

๔๗ ๙) ขยายผลการนำกรอบคุณวุฒิแห่งชาติสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม โดยจัดทำระบบ เทียบโอนความรู้และทักษะของผู้เรียนจากงานสายอาชีพในสถานประกอบการ รวมทั้งจัดทำระบบใบรับรอง สำหรับแรงงานที่ระบุเกี่ยวกับประสบการณ์การทำงานและการฝึกอบรม เพื่อพัฒนาคุณภาพวิชาชีพและระดบั ฝมี อื แรงงาน ๑๐) เพิ่มกิจกรรมเสริมทักษะวิชาชีพท้องถิ่นในโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายสายสามัญ ในพื้นท่เี ขตเศรษฐกจิ พิเศษ เชน่ EEC SEC SEZ ๒.๔ ยุทธศาสตร์เพิม่ โอกาสใหค้ นทุกช่วงวยั เข้าถึงบริการทางการศกึ ษาอย่างตอ่ เน่ืองตลอดชีวิต ๑) ทบทวนหลักเกณฑ์ อัตราเงินและวิธีการจัดสรรเงินสนับสนุนค่าใช้จ่ายตั้งแต่ระดับ อนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่เหมาะสมกับสภาพฐานะที่แท้จริงของผู้เรียน ๒) นำกลไกกองทุนเพ่ือความเสมอภาคทางการศึกษา มาบูรณาการการดำเนินงานร่วมกับ หน่วยจัดการศึกษา โดยเน้นกลุ่มเด็กปฐมวัย กลุ่มเด็กวัยเรียนที่พลาดโอกาสจากการเข้าศึกษาในระบบปกติ และครทู ่สี อนเด็กด้อยโอกาส ๓) จัดทำระบบประกันโอกาสการเข้าถึงการศึกษาขั้นพื้นฐานให้ครอบคลุมทุกพื้นท่ี โดยเน้นกลุ่มเด็กพิการ และกลุ่มเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ รวมทั้งค้นหาวิธีการจัดเตรียมความพร้อม ใหเ้ ด็กท่ีมปี ัญหาในดา้ นการสือ่ สารทางภาษา ๔) พัฒนาการศึกษานอกระบบให้มีมาตรฐาน โดยเน้นกลุ่มเด็กที่หลุดออกจากระบบ การศึกษาปกติ กลุ่มเดก็ ในพ้นื ที่หา่ งไกลการคมนาคม และกล่มุ วัยกำลังแรงงาน ๕) ส่งเสริมการศึกษาตามอัธยาศัยให้สอดคล้องกับบริบทพื้นที่ชุมชน ท้องถิ่น โดยเน้น กล่มุ ผู้สูงอายุ ๖) พัฒนาศูนย์การเรียนรู้ให้แก่เด็ก เยาวชน และประชาชนในพื้นที่สูง พื้นที่ตามแนว ตะเข็บชายแดน และพ้ืนทเ่ี กาะแกง่ ชายฝ่ังทะเล ๗) พัฒนาระบบห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ (e – Library) เพอื่ การเรียนรู้อยา่ งตอ่ เน่อื งตลอด ชวี ติ ของประชาชน ๘) ปรับปรุงกิจกรรมแนะแนวการศึกษาต่อให้ทั่วถึงนักเรียนเป็นรายบุคคล รวมทั้ง รณรงค์ให้เด็กและผู้ปกครองเห็นถึงความสำคัญของการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต การฝึกฝนตนเอง เพือ่ มีงานทำ โดยเฉพาะการประกอบอาชพี อิสระ ๒.๕ ยทุ ธศาสตรส์ ่งเสริมและพฒั นาระบบเทคโนโลยีดจิ ิทัลเพ่ือการศึกษา ๑) เพิ่มและขยายช่องทางการเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลเข้าไปในการเรียนการสอน เพ่ือสร้างความคนุ้ เคยและยกระดับความสามารถด้านการอา่ นของนักเรยี น สำหรับเป็นฐานในการเรียนรู้วิชาอื่นๆ ๒) จัดหาและบริหารจัดการระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงที่ทันสมัยให้แก่ ทุกสถานศึกษา ๓) สรา้ งแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อการเรยี นรู้ และสนบั สนนุ ใหผ้ ู้เรียนใช้ดิจทิ ัลเป็นเคร่ืองมือ การเรยี นรู้และการสร้างอาชีพอย่างตอ่ เนอ่ื ง ๔) ส่งเสริมการผลิตสอื่ การเรยี นการสอน หนังสอื และตำราเรยี นในระบบดิจทิ ัล ๕) จัดทำระบบฐานข้อมูล (Big Data) และระบบรายงานผลการใช้ฐานข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน ทันสมัย และสามารถเชื่อมโยงเข้ากับระบบฐานข้อมูลการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของส่วนราชการ/ หนว่ ยงานอนื่ ๆ ๖) จัดหาวัสดุอุปกรณ์ที่มีมาตรฐานแก่สถานศึกษา เพื่อให้สามารถรองรับการจัดการเรียน การสอนทางไกลด้วยระบบ DLIT DLTV และ ETV

๔๘ ๗) ส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้เชิงลึกผ่านบทเรียน ทีห่ ลากหลาย (Massive Open Online Course : MOOCs) รวมท้ังสง่ เสรมิ การใชเ้ ทคโนโลยีดจิ ทิ ลั ทีเ่ หมาะสม สำหรบั ค้นหาชอ่ งทางในการสรา้ งอาชพี ๒.๖ ยุทธศาสตร์พัฒนาระบบบริหารจัดการและส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม ในการจัดการศึกษา ๑) ปรับปรุงโครงสร้างของกระทรวงศึกษาธิการให้มีเอกภาพและเกิดความคล่องตัว ในการบริหารจัดการในภาพรวม เพื่อให้สามารถดำเนินการปฏิรูปการศึกษาทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ๒) ทบทวน /ปรับปรุงกฎหมาย กฎกระทรวง ระเบียบที่เกี่ยวข้องให้ทันสมัย เหมาะสม และเออ้ื ตอ่ การปฏบิ ัตงิ านที่มปี ระสทิ ธภิ าพ ร่วมกบั ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ๓) สนับสนุนให้ภาคเอกชนจัดการสอนให้มากขึ้น โดยเฉพาะระดับอนุบาลและ โรงเรียนเอกชนประเภทนอกระบบ ปรับปรุงระเบียบการจัดตัง้ โรงเรียนเอกชนให้มีความยืดหยุ่นและสอดคลอ้ งกบั สภาพแวดล้อมของการลงทุน รวมทั้งทบทวนการกำหนดเพดานการจัดเก็บค่าธรรมเนียมที่เหมาะสม ๔) ขยายผลนวัตกรรมการจัดการเรียนการสอนและวิธีปฏิบตั ิที่ดีของสถานศึกษานำร่อง ในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งประเมินผลการจัดการศึกษา และรายงานให้สาธารณชน ไดร้ บั ทราบถงึ ผลสมั ฤทธิ์ เพ่อื สง่ เสริมภาพลักษณใ์ หเ้ กดิ ความร่วมมอื /เครอื ขา่ ยมากย่ิงขึน้ ๕) กำหนดหลักเกณฑ์และกลไกการจัดสรรงบประมาณ อัตรากำลังบุคลากร อาคารสถานท่ี และทรัพยากรทางการศึกษา ไปยังสถานศึกษาและหน่วยงานในพื้นที่ (School Mapping / Education Mapping) โดยใชจ้ ังหวัดเปน็ ฐาน ตามสภาพความต้องการจำเปน็ ทแ่ี ทจ้ ริง ๖) สร้างกลไกการบรหิ ารจัดการการศึกษาในพื้นที่ระดบั ภาคภูมิศาสตร์ ไดแ้ ก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ และภาคใต้ชายแดน ให้มีประสิทธิภาพ และธรรมาภบิ าล เพอื่ นำการศึกษาไปส่กู ารสนับสนนุ การพฒั นาในด้านเศรษฐกจิ และด้านความม่นั คง ๗) ปรับเปลี่ยนรูปแบบและวิธีการจัดการศึกษาระดับก่อนประถมศึกษา ทั้งในรูปแบบ อนุบาลศึกษา ชั้นเด็กเล็ก ให้เหมาะสมกับสภาพสังคมแต่ละท้องถิ่น โดยร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ ในพื้นที่ (บา้ น โรงเรียน และชมุ ชน) ๘) ปรับปรุงเกณฑ์การรับนักเรียนต่อที่เหมาะสม โดยให้มีพื้นที่บริการการศึกษา และสถานศึกษาที่รับผิดชอบในแต่ละพื้นที่ จากระดับอนุบาลต่อประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น จนถึง มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย /อาชีวศกึ ษา ตามลำดับ สว่ นท่ี ๖ : การประเมนิ แผนยทุ ธศาสตร์กระทรวงฯ ความสำเร็จในการดำเนินงานในภาพรวมของกระทรวงศึกษาธิการภายใต้แผนยุทธศาสตร์ กระทรวงศึกษาธิการ (พ.ศ. ๒๕๖๓ – ๒๕๖๕) จำเป็นต้องมีการกำหนดตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายที่สามารถ สะทอ้ นการบรรลุเป้าหมายหลักท่ีระบไุ ว้ในแผนยทุ ธศาสตร์ฯ และควรมกี ารกำหนดหนว่ ยงานท่เี ปน็ เจ้าภาพหลัก รับผิดชอบในแต่ละตัวชี้วัด เพื่อให้การจัดเก็บข้อมูลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซงึ่ การประเมินความสำเร็จเมอื่ สนิ้ สดุ แผนยทุ ธศาสตร์ฯ ในปี พ.ศ. ๒๕๖๕ มดี งั นี้

๔๙ ลำดบั เปา้ หมายหลัก ตวั ช้ีวดั และคา่ เป้าหมาย หน่วยงาน เจ้าภาพหลัก ๑ คุณภาพการศกึ ษาของไทยดีขนึ้ ตัวชี้วัด คา่ เปา้ หมาย ผู้เรยี นมคี ณุ ลกั ษณะตาม สทศ. มาตรฐานการศกึ ษาของชาติ คะแนนเฉลย่ี ผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี น เพิ่มข้ึน วิชาหลกั ระดบั การศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน รอ้ ยละ ๓ จากการทดสอบระดบั ชาติ (O – Net) จากปี ๒๕๖๒ ร้อยละของผู้เรยี นระดบั การศึกษา ร้อยละ ๕๐ สพฐ. ขั้นพ้ืนฐานที่มีทกั ษะในการทำงาน รว่ มกับผู้อ่ืน ๒ ครมู ีสมรรถนะตามมาตรฐาน ร้อยละของครูทีไ่ ดร้ บั การพฒั นา รอ้ ยละ ๙๕ คส. วิชาชพี ตามมาตรฐานวชิ าชีพ และผ่านการ ประเมนิ เพือ่ ตอ่ อายใุ บประกอบ วิชาชีพ ๓ สถานศึกษาขน้ั พ้ืนฐานในภมู ภิ าค รอ้ ยละของสถานศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน รอ้ ยละ ๙๕ สพฐ. มีทรัพยากรพืน้ ฐานท่ีเพยี งพอตาม ท่ีได้รบั บริการอนิ เตอรเ์ นต็ ความเรว็ เกณฑ์มาตรฐาน ไมต่ ำ่ กว่า ๓๐ Mbps ๔ ผูเ้ รียนทกุ กลุ่มทกุ ช่วงวยั ไดร้ ับ จำนวนปกี ารศึกษาเฉลีย่ ของคนไทย ๑๒ ปี สกศ. โอกาสในการเรียนรอู้ ย่างตอ่ เนอื่ ง อายุ ๑๕ – ๕๙ ปี ตลอดชวี ิต รอ้ ยละของผเู้ รียนพิการทข่ี ้ึนทะเบยี น รอ้ ยละ ๙๕ สพฐ. คนพกิ าร ไดร้ บั บรกิ ารทางการศกึ ษา ๕ ระบบและวิธกี ารคดั เลือกเพือ่ จำนวนหลกั เกณฑก์ ารคำนวณสดั ส่วน ๗๗ ฉบับ สป. การศกึ ษาต่อ ได้รับการพฒั นา การรับนกั เรียนเขา้ ศึกษาต่อในระดับ ปรับปรุงแกไ้ ข มธั ยมศึกษาตอนต้นและมธั ยมศกึ ษา ตอนปลาย ทเี่ หมาะสมกบั บรบิ ทพื้นที่ จังหวัด ๖ ผู้เรยี นในแต่ละระดบั การศกึ ษา รอ้ ยละของผู้เรยี นท่ไี ดร้ บั กิจกรรม รอ้ ยละ ๕๐ กศน. ไดร้ ับการเพม่ิ เตมิ ความรู้ ทักษะ เสริมทกั ษะในการประกอบอาชพี ในการประกอบอาชพี ที่ตรงกับ ท่ตี รงกบั ความตอ้ งการของพ้ืนท่ี

๕๐ ลำดบั เป้าหมายหลัก ตัวชวี้ ัดและคา่ เป้าหมาย หน่วยงาน ค่าเปา้ หมาย เจ้าภาพหลกั ตวั ชีว้ ัด สภาพตลาดแรงงานในพนื้ ทชี่ มุ ชน ชมุ ชน หรือจังหวดั หรอื ภาค สังคม จังหวัด และภาค ๗ กำลงั คนไดร้ ับการผลติ และพฒั นา ร้อยละของผสู้ ำเร็จการศกึ ษาระดบั รอ้ ยละ ๕๐ สอศ. ตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ อาชีวศึกษา มีทักษะการใช้เทคโนโลยี ดิจิทลั (ระดบั คุณวฒุ ิ ระดบั ที่ ๓) ๘ ผ้เู รยี นปฐมวยั ไดร้ ับการเตรียม ร้อยละของเด็กระดับชัน้ อนบุ าล รอ้ ยละ ๘๐ สป. ความพร้อมในดา้ นสุขภาพและ มีพัฒนาการด้านร่างกายทีส่ มวยั โภชนาการ รว่ มกับหน่วยงาน ตามเกณฑ์มาตรฐาน ท่เี กี่ยวขอ้ ง ๙ มีองค์ความรู้ นวัตกรรม รอ้ ยละขององคค์ วามร้แู ละ รอ้ ยละ ๘๐ สป. ส่ิงประดษิ ฐ์ ที่สนับสนนุ การ สง่ิ ประดษิ ฐ์ ทีน่ ำไปใชป้ ระโยชน์ พฒั นาหรอื แก้ไขปญั หาในพื้นท่ี ในชุมชนทอ้ งถ่ิน หรือจงั หวัด จงั หวดั และภาค หรอื ภาค ๑๐ ระบบบริหารจัดการการศกึ ษา จำนวนกฎหมายทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั การ ๒ ฉบบั สป. สป. ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ไดร้ บั บรหิ ารราชการและการแบง่ สว่ น การปรบั ปรุงให้มปี ระสทิ ธภิ าพ ราชการกระทรวงศกึ ษาธิการ เพื่อรองรบั พน้ื ทีน่ วัตกรรม ท่เี ออื้ ต่อการให้ภาคเอกชน และภาค การศึกษาร่วมกับทกุ ภาคส่วน ประชาสังคม เข้ามามสี ่วนร่วมในการ ดำเนนิ งาน ระดับความสำเร็จของการจัดทำ ระดบั ๕ ระบบฐานขอ้ มูลการบรหิ ารจดั การ การศึกษา ท่ีเชื่อมโยงกับระบบ ฐานข้อมลู ดา้ นการพฒั นาทรัพยากร มนษุ ย์ของประเทศ ในภาพรวมของ กระทรวงศกึ ษาธิการ อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดความคาดเคลื่อนในการจัดเก็บข้อมูล หน่วยงาน เจ้าภาพหลักจำเป็นท่ีจะต้องมีการกำหนดคำนิยามที่ชัดเจนของตัวชี้วัดแต่ละตัว รวมทั้งการประมวลผล

๕๑ ที่ถูกต้อง นอกจากนี้ ควรให้มีการทบทวนตัวชี้วัดที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายหรือ มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพจริงในการดำเนินงาน และหลังจากที่หน่วยงาน เจ้าภาพหลักได้ดำเนินการจัดเก็บข้อมูล / สถิติที่สะท้อนผลการดำเนินงานจริงในแต่ละตัวชี้วัด และนำมา วิเคราะห์เปรียบเทียบกับค่าเป้าหมายตามตัวชี้วัดที่ระบุไว้ในข้างต้นแล้ว ในภาพรวม กระทรวงศึกษาธิการ จะดำเนินการการรวบรวมและจัดทำรายงานสรุปผลการประเมินฯ และข้อเสนอแนะต่อผู้บริหารระดับสูง ทีส่ ำคัญคอื ผลการประเมินฯ จะเปน็ ฐานทน่ี ำไปสู่การวเิ คราะหเ์ พ่ือจดั ทำแผนยทุ ธศาสตร์กระทรวงศึกษาธิการ ฉบบั ใหม่ (พ.ศ. ๒๕๖๖ – ๒๕๗๐) ให้สอดคล้องกับแผนแมบ่ ทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติต่อไป

52 ภาคผนวก

๕๓ ตารางสรปุ ความสอดคลอ้ งเชือ่ มโยงระหว่างยทุ ธศาสตร์กระทรวงศกึ ษาธิการ ทตี่ อบสนองต่อเป้าหมาย /แนวทางการพฒั นาของแผนแมบ่ ทภายใต้ยทุ ธศาสตรช์ าติแต่ละฉบับ ยทุ ธศาสตร์ ยทุ ธศาสตร์ท่ี ๑ ยุทธศาสตรท์ ่ี ๒ ยทุ ธศาสตรท์ ี่ ๓ ยทุ ธศาสตร์ที่ ๔ ยุทธศาสตร์ที่ ๕ ยุทธศาสตรท์ ่ี ๖ ศธ. พัฒนาหลักสตู ร พฒั นาครูและ ผลติ และพฒั นา เพ่ิมโอกาสให้คน ส่งเสริมและพัฒนา พัฒนาระบบบริหาร กระบวนการจดั การ บุคลากรทางการศกึ ษา กำลังคน รวมทงั้ ทกุ ชว่ งวยั เข้าถึงบริการ ระบบเทคโนโลยีดจิ ิทลั จัดการและส่งเสรมิ ให้ แผนแม่บทฯ งานวจิ ัยที่สอดคล้องกับ ทางการศกึ ษาอยา่ ง ทกุ ภาคส่วนมีสว่ นร่วม เรียนรู้ ความตอ้ งการของ ต่อเน่ืองตลอดชวี ิต เพอื่ การศกึ ษา ในการจดั การศึกษา ๑. ความม่ันคง การวัดและประเมนิ ผล ประเทศ ๒. การตา่ งประเทศ ๓. การเกษตร ๔. อุตสาหกรรมและ บริการแหง่ อนาคต ๕. การทอ่ งเท่ยี ว ๖. พ้ืนทีแ่ ละเมอื งน่าอยู่ อัจฉรยิ ะ ๗. โครงสร้างพื้นฐาน ระบบโลจิสติกส์ และดิจทิ ัล ๘. ผูป้ ระกอบการและ วิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดยอ่ มยคุ ใหม่ ๙. เขตเศรษฐกิจพเิ ศษ ๑๐.การปรับเปลีย่ น ค่านยิ มและวฒั นธรรม ๑๑. ศกั ยภาพคน ตลอดชว่ งชวี ติ ๑๒. การพัฒนาการเรยี นรู้ ๑๓. การเสรมิ สรา้ งให้ คนไทยมสี ขุ ภาวะที่ดี ๑๔. ศกั ยภาพการกีฬา ๑๕. พลงั ทางสังคม ๑๖. เศรษฐกิจฐานราก ๑๗.ความเสมอภาคและ หลักประกนั ทางสงั คม ๑๘. การเตบิ โตอย่างย่งั ยนื ๑๙. การบริหารจัดการน้ำ ทงั้ ระบบ ๒๐. การบริการประชาชน และประสทิ ธภิ าพ ภาครฐั ๒๑. การตอ่ ตา้ นทุจรติ และประพฤตมิ ชิ อบ ๒๒. กฎหมายและ กระบวนการยุติธรรม ๒๓. การวิจยั และพัฒนา นวตั กรรม หมายเหตุ ตอบสนองโดยตรง มสี ่วนสนบั สนนุ

๕๔ ตารางสรปุ ความสอดคลอ้ งเช่ือมโยงระหวา่ งยุทธศาสตร์กระทรวงศึกษาธิการ ทม่ี ีส่วนสนับสนนุ ต่อเป้าหมายของแผนการปฏริ ูปประเทศทัง้ ๑๑ ด้าน ยุทธศาสตร์ ยทุ ธศาสตร์ท่ี ๑ ยุทธศาสตร์ท่ี ๒ ยุทธศาสตรท์ ่ี ๓ ยุทธศาสตร์ท่ี ๔ ยุทธศาสตรท์ ่ี ๕ ยุทธศาสตร์ที่ ๖ ศธ. พฒั นาหลักสตู ร พัฒนาครแู ละ ผลติ และพัฒนา เพ่มิ โอกาสให้คน ส่งเสรมิ และพฒั นา พัฒนาระบบบริหาร กระบวนการจดั การ บุคลากรทางการศึกษา กำลังคน รวมทงั้ ทุกชว่ งวยั เข้าถึงบรกิ าร ระบบเทคโนโลยดี ิจิทลั จดั การและสง่ เสริมให้ แผนการ งานวจิ ยั ทสี่ อดคลอ้ งกบั ทางการศกึ ษาอยา่ ง ทกุ ภาคส่วนมีสว่ นร่วม ปฏิรูปประเทศ เรยี นรู้ ความต้องการของ ตอ่ เนอ่ื งตลอดชวี ติ เพ่ือการศกึ ษา ในการจดั การศึกษา การวดั และประเมนิ ผล ๑. ดา้ นการเมือง ประเทศ ๒. ด้านการบริหาร ราชการแผ่นดนิ ๓. ด้านกฎหมาย ๔. ดา้ นยุติธรรม ๕. ดา้ นเศรษฐกิจ ๖. ดา้ นทรัพยากร ธรรมชาติและ สิ่งแวดลอ้ ม ๗. ดา้ นสาธารณสุข ๘. ดา้ นส่อื สารมวลชน เทคโนโลยสี ารสนเทศ ๙. ดา้ นสงั คม ๑๐. ด้านพลงั งาน ๑๑. ด้านการป้องกันและ ปรามปราบการทุจรติ และประพฤติมชิ อบ หมายเหตุ มีสว่ นสนบั สนุน

อกั ษรยอ่ สว่ นราชการในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) สป. กศน. องคก์ รหลัก ก.ค.ศ. ๑. สำนกั งานปลดั กระทรวงศึกษาธิการ สช. - สำนกั งานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย สกศ. - สำนกั งานคณะกรรมการข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา สพฐ. - สำนักงานคณะกรรมการสง่ เสริมการศึกษาเอกชน สอศ. ๒. สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ๓. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน คส. 4. สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา สกสค. หน่วยงานในกำกับ สสวท. ๕. สำนกั งานเลขาธิการครุ ุสภา สลช. ๖. สำนักงานคณะกรรมการส่งเสรมิ สวัสดกิ ารและสวัสดิภาพครู มวส. และบคุ ลากรทางการศึกษา สทศ. ๗. สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สมศ. ๘. สำนักงานลกู เสือแห่งชาติ ๙. โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ ๑๐. สถาบนั ทดสอบทางการศึกษาแหง่ ชาติ (องค์การมหาชน) ๑๑. สำนักงานรบั รองมาตรฐานและประเมินคณุ ภาพการศึกษา (องค์การมหาชน)