Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชื่อผลงานข้าวธัญพืชสมุนไพรไผ่สีสุกและขนมแก้วบุหงา (1)

ชื่อผลงานข้าวธัญพืชสมุนไพรไผ่สีสุกและขนมแก้วบุหงา (1)

Published by ครูอาร์ตง, 2021-08-06 11:50:33

Description: ชื่อผลงานข้าวธัญพืชสมุนไพรไผ่สีสุกและขนมแก้วบุหงา

Search

Read the Text Version

ชอื่ ผลงาน ข้าวธญั พืชสมุนไพรไผ่สีสกุ และขนมแก้วบหุ งา ช่ือผ้เู สนอผลงาน นางสาวอริสรา สงแดง โรงเรียน บา้ นคลองววั สงั กัด สานักงานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาสรุ าษฎร์ธานี เขต 2 โทร 083-4406347 ผลงานสอดคลอ้ ง √ ทักษะกระบวนการคดิ √ ซอื่ สัตย์ สจุ รติ √ มีวินัย √ อยอู่ ย่างพอเพยี ง √ จติ สาธารณะ 1. ความสาคัญของผลงานหรือนวตั กรรมทน่ี าเสนอ Active Learning คือกระบวนการจัดการเรียนรู้ท่ีผู้เรียนได้ลงมือกระทาและได้ใช้กระบวนการคิด เกี่ยวกับส่ิงท่ีเขาได้กระทาลงไป (Bonwell,1991) เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ภายใต้สมมติฐานพื้นฐาน 2 ประการคือ 1) การเรียนรู้เป็นความพยายามโดยธรรมชาติของมนุษย์, และ 2) แต่ละบุคคลมีแนวทางในการ เรียนรู้ที่แตกต่างกัน (Meyers and Jones, 1993) โดยผู้เรียนจะถูกเปลี่ยนบทบาทจากผู้รับความรู้(receive) ไปสู่

การมีส่วนร่วมในการสร้างความรู้(co-creators) ( Fedler and Brent, 1996) Active Learning เป็นกระบวนการ เรียนการสอนอยา่ งหนึง่ แปลตามตวั ก็คอื เป็นการเรียนรผู้ า่ น การปฏบิ ตั ิ หรอื การลงมือทาซึ่ง ” ความรู้ “ที่เกิดข้ึน ก็เป็นความรู้ที่ได้จากประสบการณ์กระบวนการในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ท่ีผู้เรียนต้องได้มีโอกาสลงมือ กระทามากกว่าการฟังเพียงอย่างเดียว ต้องจัดกิจกรรมให้ ผู้เรียนได้การเรียนรู้โดยการอ่าน การเขียน การโต้ตอบ และการวิเคราะห์ปัญหา อีกทั้งให้ผู้เรียนได้ใช้ กระบวนการคิดขั้นสูง ได้แก่ การวิเคราะห์ การสังเคราะห์ และการประเมินค่าดังกล่าวนั่นเองหรือพูดให้ง่าย ข้ึนมาหน่อยก็คือ หากเปรียบความรู้เป็น ” กับข้าว ” อย่างหนึ่งแล้ว Active learning ก็คือ ” วิธีการปรุง ” กับข้าวชนิดนั้น ดังนั้นเพ่ือให้ได้กับข้าวดังกล่าว เราก็ต้องใช้วิธีการปรุงอันนี้แหละแต่ว่ารสชาติจะออกมา อย่างไรก็ขึ้นกับประสบการณ์ความชานาญของผู้ปรุง น่ันเอง(ส่วนหน่ึงจากผู้สอนให้ปรุงด้วย) “เป็นกระบวนการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างมีความหมาย โดย การร่วมมือระหว่างผู้เรียนด้วยกัน ในการน้ีครูต้องลดบทบาท ในการสอนและการให้ข้อความรู้แก่ผู้เรียน โดยตรงลง แต่ไปเพิ่มกระบวนการและกิจกรรมท่ีจะทาให้ผู้เรียนเกิด ความกระตือรือร้นในการจะทากิจกรรม ต่างๆ มากขึ้น และอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการแลกเปลี่ยน ประสบการณ์โดยการพูด การเขียน การ อภปิ รายกบั เพอื่ นๆ” กระบวนการเรียนรู้Active Learning ทาให้ผู้เรียนสามารถรักษาผลการเรียนรู้ให้อยู่คงทนได้มากและ นานกว่ากระบวนการเรียนรู้ Passive Learning เพราะกระบวนการเรียนรู้Active Learning สอดคล้องกับ การ ทางานของสมองที่เก่ียวข้องกับความจา โดยสามารถเก็บและจาส่ิงท่ีผู้เรียนเรียนรู้อย่างมีส่วนร่วมมีปฏิสัมพันธ์ กับเพือ่ น ผู้สอน ส่ิงแวดล้อม การเรียนรไู้ ดผ้ า่ นการปฏบิ ัติจรงิ โรงเรียนบ้านคลองวัว จึงได้จัดทาโครงงานอาชีพเร่ืองข้าวธัญพืชสมุนไพรไผ่สีสุกและขนมแก้วบุหงา ขึ้น เนื่องจากพื้นที่ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของอาเภอเป็นที่ราบสูงสลับภูเขา พื้นที่ตอนกลางเป็นที่ราบลุ่ม และทศิ ตะวนั ออกตดิ อ่าวไทย ธรรมชาติจึงมีความอุดมสมบูรณ์ด้วยพืชผักอาหารนานาชนิด ประชากรส่วนใหญ่ ประกอบอาชีพเกษตรกร จึงง่ายต่อการหาวัตถุดิบมาใช้ในการปรุงอาหาร ทั้งพืชผักสมุนไพรท่ีมีความ เพียบพร้อมและสมบูรณ์ในท้องถ่ิน นาเข้าสู่กระบวนการเรียนรู้การสอนในเรื่องของอาหารและโภชนาการโดย จัดการเรียนรู้แบบบูรณาการระหว่างเรียนกลุ่มสาระการงานอาชีพและเทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย สามารถนาความรู้สามารถไปสู่การต่อยอดอาชีพได้และได้นาวัตถุดิบในท้องถ่ินมาประยุกต์ใช้ในการทาอาหาร คาวหวานเพ่ือสุขภาพ เมนู ข้าวธัญพืชสมุนไพรไผ่สีสุกและขนมแก้วบุหงา จากวัตถุดิบที่มีประโยชน์และ มีคณุ ภาพมาประกอบอาหารได้อย่างลงตัว

2. จุดประสงค์และเป้าหมายของการดาเนินงาน จุดประสงค์ 1) เพ่อื ส่งเสริมการทาอาหารเมนรู ักษาสขุ ภาพ ข้าวธัญพชื สมนุ ไพรไผส่ ีสุกและขนมแก้วบุหงา 2) เพ่อื ให้นักเรยี นมีรายได้ระหวา่ งเรียน 3) เพอื่ นาความรทู้ ไี่ ดร้ ับไปใชใ้ นการประกอบอาชีพ เปา้ หมาย 1) นกั เรียนช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ไดเ้ รยี นรู้และฝึกทักษะการทาอาหารเมนูรักษาสุขภาพ ข้าวธัญพชื สมนุ ไพรไผ่สีสกุ และขนมแก้วบุหงา ร้อยละ 100 2) นักเรียนชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ทาอาหารรักษาสุขภาพ เมนูขา้ วธัญพชื สมนุ ไพรไผ่สีสุกและ ขนมแกว้ บุหงาจาหน่าย และมีรายได้ระหวา่ งเรียน ร้อยละ 80 3) นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 6 นาความรู้ทีไ่ ด้รบั ไปใชใ้ นการประกอบอาชพี ร้อยละ 80 3. กระบวนการหรอื ขนั้ ตอนการดาเนนิ งาน 1) ประชุมคณะครูและนักเรียนและปราชญ์ชาวบา้ นเพื่อช้แี จงการดาเนนิ งาน 2) เขยี นโครงการเพอ่ื ขออนมุ ัตงิ บประมาณ 3) วางแผนการปฏบิ ัติงาน โดยเตรยี มสถานที่ เครือ่ งมือเครื่องใช้ วสั ดุ/อปุ กรณ์และส่วนผสมต่างๆ 4) จดั ทาบัญชรี ายรบั - รายจา่ ย 5) สรปุ และรายงานผล วัตถุดบิ เครอื่ งปรงุ ขา้ วธัญพืช สมุนไพร ไผ่สสี กุ - หมูสันใน 500 กรัม - ปลาจติ รลดา 500 กรมั - แครอท ½ ถว้ ยตวง - ข้าวโพด 1 ถว้ ยตวง - เห็ดหอม ½ ถว้ ยตวง - ถว่ั ลันเตา 2 ถ้วยตวง - กระเทยี ม 2 ช้อนโตะ๊ - นา้ มนั ราข้าว 2 ชอ้ นโต๊ะ - ขิง 1 ชอ้ นโต๊ะ - เกาลดั ½ ถว้ ยตวง - ข้าวหอมมะลิ 500 กรมั - ขา้ วเหนียว ½ ถว้ ยตวง - นา้ ซปุ สมนุ ไพร 3 ถ้วยตวง - ถั่วแดง ½ถว้ ยตวง

- หมสู ันใน 500 กรัม เครอ่ื งปรุงหมักหมู - นมสด 6 ช้อนโต๊ะ - ซอสปรุงรสฝาเขียว 1ช้อนโตะ๊ - ผงปรุงรส 1 ชอ้ นโตะ๊ - น้าตาลทรายแดง 1ชอ้ นโต๊ะ - งาขาว 1 ช้อนโตะ๊ เครื่องปรงุ ปลาทอด - ปลาจติ รลดา 500 กรัม - เกลอื ป่น 1 ช้อนชา - แปง้ มนั สาปะหลัง 2 ถว้ ยตวง - น้ามนั พชื (มรกต)สาหรบั ทอด - พรกิ ข้หี นู 1 ช้อนโตะ๊ เคร่ืองปรุงน้าจ้มิ ซฟี ดู้ - เกลือ 1 ชอ้ นโตะ๊ - นา้ มะนาว ½ ถว้ ยตวง - ผักชีและราก ½ ถ้วยตวง - กระเทียม ½ ถว้ ยตวง สูตรสาเรจ็ ข้าวธัญพชื สมนุ ไพรไผส่ สี กุ เริ่มจากการเตรยี มวตั ถดุ บิ ให้พร้อม จดั เตรยี มใส่ภาชนะเพ่ือพร้อมปรุง เริ่มแรกลงมือผัดข้าว ต้ังกระทะ เปิดไฟ ใส่น้ามันราข้าวเล็กน้อย ตามด้วยแครอท ถ่ัวแดง ถั่วลันเตา ข้าวโพด เห็ดหอมที่ห่ันเตรียมไว้ลงไปผัด ผัดเห็ดให้หอมค่อยตามซอสปรุงรสฝาเขียว น้ามันหอย น้าตาลทรายแดง น้าปลาใส่ลงไปผัดรวมกัน ผัดต่อไป เล็กน้อยใสข้าวที่หุงตามลงไป ตามด้วยเกาลัด ผัดทุกอย่างจนได้ที่ชิมให้ออกรสชาติสามรสกลมกล่อม ตักขึ้นพัก ไว้ให้คลายร้อน จากน้นั รอจัดตกแต่งเสิรฟ์ ตามด้วยวิธีต่อไป สตู รสาเรจ็ หมูหมกั เตรียมเครื่องปรุงและส่วนผสมให้พร้อม ใช้หมูสันใน ซอสปรุงรสฝาเขียว น้ามันหอย นมสด น้าตาล ทราย งาขาว นาสว่ นผสมทุกอย่างคลกุ เคลา้ ใหเ้ ข้ากนั และนวดหมูประมาณ 5 นาที จากนน้ั นาหมูหมักไปแช่ตู้เย็น ทิง้ ไวอ้ ยา่ งตา่ ประมาณ 8 ชัว่ โมง

สูตรสาเร็จปลาทอด นาปลาล้างให้สะอาด ขอดเกลด็ ตดั ครบี จากนั้นนาปลามาแล่เอาแตเ่ นอ้ื หนั่ พอดีคา ปรุงรสด้วยเกลือป่น และพรกิ ไทย เตรยี มแป้งมัน นาปลาลงไปชุบแป้งบางๆ เคาะเบาะ จากนั้นตั้งน้ามันให้ร้อน นาปลาลงไปทอดให้ มีสีเหลอื งนวลตักขน้ึ สะเด็ดน้ามันพร้อมรอเสริ ์ฟ สูตรสาเรจ็ น้าจมิ้ ซฟี ู้ด เตรียมเครื่องปรุงและส่วนผสมให้พร้อม จากนั้นนา พริกข้ีหนูสวน ผักชีพร้อมราก มะนาว น้าตาลป๊ีบ เกลือ น้าตาลทราย กระเทียม ปั่นทุกอย่างพอหยาบๆ เทใส่ถ้วย รสชาติของน้าจิ้มต้องเปร้ียวนา ตามด้วยเผ็ด และหวานออกปลายเคม็ นิดๆ ถึงจะอร่อย จบทุกกระบวนการพรอ้ มเสริ ฟ์ สูตรสาเรจ็ ขา้ วหุง นาข้าวสารและข้าวเหนียวนามาล้างให้สะอาดพักให้สะเด็ดน้า จากนั้นนาขิงและกระเทียมซอยให้บาง ต้ังกระทะใส่น้ามันราข้าวตั้งไฟให้ร้อน ใส่ขิงและกระเทียมสับลงไปเจียว นาข้าวหอมมะลิและข้าวเหนียวใส่ กระทะผัดให้หอมและส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน จากนั้นนาไปใส่หม้อไฟฟ้า ตักน้าซุ ปสมุนไพรใส่พอดี หงุ ประมาณ 15 นาที จะได้ข้าวทเ่ี มล็ดเรยี งตวั สวยและหอมพร้อมท่จี ะนาไปปรงุ เคล็ดลับความอรอ่ ย เลือกวัตถุดิบและเครื่องปรุงท่ีสดใหม่ และเน้ือหมูท่ีใช้ต้องเป็นหมูสันในหมักให้เข้ากันในตู้เย็นไม่ต่า กว่า 8 ชวั่ โมง วัตถุดบิ ทน่ี ามาปรงุ ตอ้ งคดั สรรอยา่ งพถิ พี ถิ นั ข้าวตอ้ งเป็นข้าวหอมมะลิและผสมข้าวเหนียวเขี้ยวงู เม่ือผัดข้าวเสร็จแล้ว นามาใส่ในไผ่สานทรงกลมแล้วนาไปอบเอาไผ่สานทรงกลมไปย่างไฟให้หอม ทีเด็ดคือ น้าจ้ิมที่มกี ารผสมผสานอยา่ งลงตวั การจดั เสิรฟ์ จดั ใส่กระบอกไม้ไผ่สีสุกขนาดพอดี นาข้าวมาใส่ในกระบอกไม้ไผ่สีสุก จากน้ันตกแต่งผัก เตรียมเครื่อง เคียงจัดวางรอบๆ และนานา้ จมิ้ ใสถ่ ้วยใหส้ วยงามเป็นอันพรอ้ มเสริ ฟ์

วตั ถดุ บิ เครือ่ งปรุงสตู รสาเร็จขนมแก้วบุหงา ส่วนผสมของแปง้ - แป้งเค้ก 2½ ถว้ ยตวง - กะทอิ บควันเทยี น 250 ml - นมสด 150 ml - น้าต้มแกน่ ฝาง 100 ml - นา้ ตาลทราย 1½ ถ้วยตวง ส่วนผสมของไส้ขนมแกว้ บุหงา - ถ่ัวเหลืองนง่ึ 2½ ถ้วย - ไขแ่ ดงเคม็ ไชยา 5 ฟอง - น้าตาลทราย 1 ถว้ ย - กะทิ 125 ml - นมสด 150 ml - เกลือ ¼ ชอ้ นชา สตู รสาเร็จวิธีทาสว่ นผสมของแป้ง 1. เทแป้งใสล่ งในภาชนะ 2. นากะทิ นมสด นา้ ต้มแกน่ ฝาง นา้ ตาลทรายใสภ่ าชนะผสมคนเข้าดว้ ยกันจนน้าตาลละลาย จากนน้ั นามาผสมกบั แป้งทเี่ ตรียมไว้คนส่วนผสมจนแปง้ ละลายกรองด้วยกระชอนตาถ่ี 1 ครั้ง 3. ใสก่ ระทะต้ังไฟออ่ นกวนตลอดจนแปง้ ไม่ตดิ กระทะ ประมาณ 5-10 นาที 4. พกั ให้อุ่น นวดแล้วป้นั เป็นก้อน พักตั้งไว้ สตู รสาเร็จวธิ ีทาสว่ นผสมของไสข้ นม 1. นาถั่วเหลอื งนงึ่ น้าตาลทราย กะทิ นมสด เกลือ นาไปใส่โถปั่นจนละเอยี ด 2. เทใส่กระทะตง้ั ไฟออ่ น กวนจนกวา่ ไม่ตดิ กระทะจากนน้ั พกั ให้เย็น 3. ป้นั เป็นก้อนเล็กๆใส่ไข่แดงเค็มไชยาในไส้

ข้ันตอนการทาดอก 1. นาแป้งที่ปัน้ เป็นกอ้ นมาหอ่ ไส้คลึงให้กลม 2. ใชแ้ หนบใบไมจ้ ับจบี ให้สวยงาม 3. จดั ใส่ลงภาชนะ เคลด็ ลับความอร่อย การเลือกวัตถุดิบและเครื่องปรุงที่มีความเป็นไทยร่วมสมัย สัมผัสพิเศษของขนมที่มีการผสมกะทิอบ ควนั เทยี นกับนมโคพระราชทานมาผสมผสาน ทาให้เกิดความกลมกล่อม เพราะนมทาให้ขนมนมุ่ กะททิ าให้ขนม เคลือบเงาสวยงาม น้านมและน้ากะทิเม่ือนามาทาตัวแป้งและไส้ขนมจะมีความผสมผสานทาให้เกิดรสสัมผัส หอมนุ่มเม่ือนาไปกวนในกระทะ และในตัวขนม เม่ือนาแม่สีของไม้แก่นฟางมาผสมในแป้งจะได้สีชมพูโอรส ทาให้เกิดความพิเศษในของตัวสีของไม้แก่นฝาง ทาให้ขนมชวนน่ารับประทานมากย่ิงขึ้น รสชาติของขนม หวาน มนั กาลงั ดแี ละใสไ่ ขเ่ คม็ แดงไชยาเพิ่มความอร่อยยิง่ ขึ้น การจัดเสริ ฟ์ จัดขนมใส่ภาชนะ ตกแตง่ และเรียงขนมใหม้ คี วามสวยงาม เมอื่ รับทานให้ใช้ช้อนเล็กๆตักพอดีคา วิธีตัก ขนมให้ตักตวั แปง้ และไสใ้ หต้ ดิ ด้วยกัน เม่ือรับประทานจะไดเ้ กดิ ความจะได้กลน่ิ อายของความเปน็ ขนมไทยร่วม สมัย กลิน่ อายของความเป็นไทย เคียงคูก่ บั ชาสมนุ ไพรไมแ้ ก่นฝางทาใหเ้ กดิ ความ สดช่นื เม่อื ทานคู่กนั 4. ผลการดาเนนิ งานและประโยชน์ทไ่ี ดร้ ับ ผลการดาเนินงาน การทาข้าวธัญพืชสมุนไพรไผ่สีสุกและขนมแก้วบุหงา พบว่านักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ทุกคนมี ทกั ษะในการทา ไดเ้ รียนรู้ข้นั ตอน สว่ นผสม วิธกี ารทาอย่างละเอียดถี่ถ้วน จากการสอบถามผู้ซื้อและบุคคลท่ีได้ ชมิ รสชาติตา่ ง ๆ ลงความเหน็ วา่ รสชาตอิ ร่อยกลมกล่อม เปน็ อาหารทไ่ี ดท้ ้ังประโยชน์ ซึ่งมีโภชนาการเสริมสร้าง ให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง สมบูรณ์ เป็นแนวทางในการดูแลสุขภาพแบบใหม่ เป็นท่ีนิยม และแพร่หลายอย่าง มาก สรา้ งคุณค่าของอาหารและประโยชนต์ ่อผู้รับประทาน

ประโยชน์ที่ได้รบั 1) นกั เรียนมคี วามรแู้ ละมีทกั ษะในการทาอาหารรกั ษาสุขภาพเมนู ข้าวธญั พชื สมนุ ไพรไผส่ สี ุกและ ขนมแกว้ บุหงา 2) นักเรยี นมีรายได้ระหว่างเรียนและเป็นการเพม่ิ รายได้ให้กับครอบครวั 3) นักเรียนสามารถนาความรู้ที่ไดใ้ นการรับไปต่อยอดประกอบอาชีพได้ 4) นกั เรยี นสามารถนาความรู้ทไี่ ด้ในการทาอาหารรักษาสขุ ภาพ เมนขู า้ วธัญพืชสมนุ ไพรไผ่สสี ุกและ ขนมแกว้ บหุ งา ไปขยายผลส่คู รอบครวั ชมุ ชน และผ้ทู ่ีสนใจ 5) ครไู ด้จัดกิจกรรมการเรยี นรูท้ มี่ ่งุ เน้นให้นกั เรยี นได้ลงมือปฏบิ ัติจริง ทาให้เกิดทกั ษะประสบการณ์ สามารถสรา้ งอาชพี ได้ 6) โรงเรยี นและชุมชนได้มีการแลกเปลี่ยนเรยี นรซู้ ึง่ กันและกันและส่วนร่วมในการพัฒนานกั เรยี น 5. ปัจจัยความสาเรจ็ ในการดาเนินการทาขนมแก้วบุหงา ของโรงเรียนบ้านคลองวัวได้ส่งเสริมสู่การปฏิบัติ โดยส่งเสริม สนับสนุนให้มีการเรียนรู้วิชาการงานอาชีพในส่วนของการทาอาหารและต่อยอดสู่งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ออกแบบกิจกรรมเพิ่มเวลารู้ ด้วยวิธีการเหมาะสมกับบริบทของสถานศึกษาโดยเน้นการมีความร่วมของผู้ท่ี เกี่ยวขอ้ งทกุ ฝ่าย เพ่ือให้ผเู้ รยี นได้เรียนรู้ด้วยตัวเองท้ังในห้องเรียนและนอกห้องเรียนตามความถนัด ความสนใจ อย่างเต็มศักยภาพ จนได้รับเหรียญทองท้ังระดับเขตพิ้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 2 และ ระดับชาติ 6. บทเรียนท่ไี ด้รบั 1) นกั เรยี นได้รับความรู้ มที กั ษะในการปฏิบตั ิทาอาหารรักษาสุขภาพ เมนูขา้ วธญั พชื สมุนไพรไผ่สีสุก และขนมแกว้ บุหงา สามารถสร้างอาชีพสรา้ งรายได้ 2) นกั เรยี น ครู ปราชญ์ชาวบ้าน ได้มสี ว่ นรว่ มในการทาอาหารรกั ษาสุขภาพ เมนขู า้ วธัญพืชสมุนไพร ไผส่ ีสกุ และขนมแก้วบุหงา

7. การเผยแพร่/การไดร้ บั การยอมรับ/รางวลั ทไี่ ดร้ ับ 1) ประชาสมั พนั ธผ์ ลงานของโรงเรียนบา้ นคลองววั ผา่ นสื่อออนไลน์ เวบ็ ไซต์ของโรงเรยี น 2) โรงเรยี นบ้านคลองวัวเขา้ ร่วมแขง่ ขันงานศิลปหัตถกรรมนกั เรยี นจนได้รับรางวลั ในระดบั เขตพื้นท่ี การศึกษาสรุ าษฎร์ธานี เขต 2 และระดบั ชาตดิ งั นี้ ภาพเข้าร่วมแขง่ ขนั งานศลิ ปหตั ถกรรมนกั เรียน ระดบั เขตพื้นทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาสรุ าษฎรธ์ านี เขต 2 คร้งั ท่ี 69 ปีการศกึ ษา 2562

ภาพเขา้ รว่ มแขง่ ขนั งานศิลปหัตถกรรมนักเรยี น ระดบั ชาติ คร้ังที่ 69 ปีการศึกษา 2562

ภาพการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้โครงงานอาชีพในศตวรรษที่ 21 24 สงิ หาคม 2563 ณ โรงแรมบรรจงบรุ ี อาเภอเมือง จังหวดั สุราษฎรธ์ านี