หน่วยที่ 7 การบริหารด้านผลิตภัณฑ์ และราคาสำหรับการค้าปลีก

หน่วยท่ี 7 การบริหารด้านผลิตภัณฑ์ และราคาสาหรับการค้าปลีก ครูกญั ฐณา โสมประโคน

สาระการเรยี นรู้ 1. ความสาคญั ของการจดั การผลิตภณั ฑ์ 2. การวางแผนสว่ นประสมผลติ ภณั ฑ์ 3. กลยทุ ธส์ ว่ นประสมผลติ ภณั ฑ์ 4. การวางแผนงบประมาณด้านผลติ ภัณฑ์ 5. การวางแผนการจัดซอื้ 6. การกาหนดผทู้ ีม่ ีหน้าที่รับผดิ ชอบในการจดั ซื้อและนโยบายราคา

ผลการเรยี นร้ทู คี่ าดหวงั 1. อธิบายความสาคญั ของการจดั การผลติ ภัณฑ์ได้ 2. อธบิ ายการวางแผนส่วนประสมผลิตภณั ฑป์ ลีกได้ 3. อธบิ ายกลยุทธส์ ่วนประสมผลิตภณั ฑไ์ ด้ 4. อธบิ ายการวางแผนงบประมาณด้านผลติ ภณั ฑไ์ ด้ 5. อธิบายการวางแผนการจดั ซอ้ื ได้ 6. อธิบายการกาหนดผทู้ ม่ี หี น้าทีร่ ับผดิ ชอบในการจดั ซ้อื และนโยบายราคาได้

ความสาคัญของการจดั การผลติ ภัณฑ์ ◦ คาวา่ \"ผลติ ภณั ฑ\"์ หรอื \"product\" มหี ลายความหมาย แต่ตามคาจากัดความของคอตเลอร์ และอาร์ม สตรอง ได้ให้ไว้ดังนี้ ◦ \"ผลติ ภณั ฑ\"์ หมายถึง ส่ิงใด ๆ ท่ีสามารถนาเสนอขายให้แก่ตลาดเพอ่ื ให้เกิดความสนใจ ความต้องการเป็น เจ้าของ การใช้ หรือการบริโภคซ่ึงเป็นส่ิงท่ี (อาจจะ) ตอบสนองความต้องการและความจาเป็นของผู้ซื้อให้ ได้รับความพอใจ ผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วยส่ิงขิงที่มีรูปร่าง บริการเหตุการณ์ บุคคล สถานท่ี องค์การ ความคิด หรือสิ่งเหลา่ น้ีรวมกัน ◦ ระดับของผลติ ภัณฑ์ ◦ 1.ผลิตภัณฑ์หลัก หมายถึง อรรถประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ท่ีให้แก่ผู้ซ้ือ ซ่ึงผู้ซื้อมีความต้องการเพราะ สามารถท่จี ะนาไปสนองความต้องการของเขาให้ได้รบั ความพอใจได้

ความสาคญั ของการจดั การผลติ ภณั ฑ์ (ตอ่ ) ◦ ระดบั ของผลิตภัณฑ์ ◦ 2. ผลติ ภณั ฑจ์ ริง หมายถึงส่วนท่ีเป็นลักษณะรูปร่างของผลิตภัณฑห์ รือบริการที่เสนอ ใหก้ บั ตลาด ผลติ ภณั ฑ์จรงิ ประกอบดว้ ยคณุ ลักษณะสาคัญ 5 ประการ คอื ◦ 2.1 ระดบั คณุ ภาพ ◦ 2.2 ลักษณะหรือสัญลกั ษณ์ ◦ 2.3 การออกแบบ ◦ 2.4 ชอื้ ตรา ◦ 2.5 การบรรจุภณั ฑ์

ความสาคญั ของการจัดการผลิตภณั ฑ์ (ต่อ) ◦ ระดบั ของผลิตภณั ฑ์ ◦ 3. ผลิตภัณฑ์ควบ หมายถึงบริการหรือประโยชน์ท่ีผู้วางแผนผลิตภัณฑ์เสนอให้เพิ่มเติม ควบคู่กับรายการผลิตภัณฑ์ เชน่ การติดตงั้ การบารุงรักษา หรือการบริการหลังการซ้ือ ◦ การจาแนกประเภทของผลติ ภณั ฑ์ ◦ สามารถแบง่ ออกเปน็ 2 ประเภทใหญ่ๆ คอื ◦ 1. ผลิตภัณฑเ์ พอ่ื การบรโิ ภค (consumer product) ◦ 2. ผลติ ภัณฑ์เพื่อการอตุ สาหกรรม (industrial product)

การวางแผนสว่ นประสมผลติ ภัณฑป์ ลกี

การวางแผนสว่ นประสมผลติ ภณั ฑ์ปลกี (ตอ่ )

การวางแผนสว่ นประสมผลติ ภณั ฑ์ปลกี (ตอ่ )

การวางแผนสว่ นประสมผลติ ภณั ฑ์ปลกี (ตอ่ )

การวางแผนสว่ นประสมผลติ ภณั ฑ์ปลกี (ตอ่ )

กลยทุ ธส์ ่วนประสมผลิตภัณฑ์ อาจพิจารณาสว่ นประสมผลติ ภณั ฑ์ของกจิ การใดกิจการหนึ่งออกได้เปน็ 3 ระดบั คอื 1. ความกว้างของผลิตภัณฑ์ (Product Width) หมายถึง จานวนสายของผลิตภัณฑ์ (Product Line) ท่ี กิจการจาแนกไว้ ธุรกิจส่วนใหญ่มักขายผลิตภัณฑ์มากกว่า 1 สาย เช่น บริษัทไล อ้อน (ประเทศไทย) จากัด มีผลิตภัณฑ์ ทั้งสนิ้ 8 สายผลติ ภัณฑ์ ไดแ้ ก่ ผลติ ภณั ฑ์ผงซักฟอก ผลิตภัณฑ์ซักผ้า ผลิตภัณฑ์ถนอมเส้ือผ้า ผลิตภัณฑ์เพอซัลนอล แคร์ ผลิตภณั ฑ์สาหรบั เด็ก ผลิตภัณฑส์ ารเคมี 2. ความบางของผลิตภัณฑ์ (Procuct Length) หมายถึง จานวนผลิตภัณฑ์ในแต่ละสายผลิตภัณฑ์ธุรกิจสามารถ หาความบางเฉล่ียของผลิตภัณฑ์ในแต่ละสายได้โดยใช้จานวนผลิตภัณฑ์ท้ังหมดท่ีมีไว้ขาย หารด้วยจานวนสายผลิตภัณฑ์ที่มี ในกรณขี องบรษิ ัท ไลออน (ประเทศไทย) จากดั มีจานวนผลิตภณั ฑใ์ นแต่ละสาย ไมเ่ ทา่ กนั ความบางเฉลีย่ ของผลิตภัณฑ์ คือ 40 ¸ 8 = 5 3. ความลึกของผลิตภัณฑ์ (Product Depth) หมายถึง ขนาด สีต่าง ๆ หรือความสูงต่าง ๆ กันของแต่ละ ผลิตภัณฑใ์ นสายความลึกเฉลย่ี ของแต่ละผลิตภณั ฑ์หาไดโ้ ดยบวกความลกึ ของทกุ ผลิตภณั ฑ์ หารด้วยจานวนผลติ ภณั ฑ์

กลยุทธส์ ่วนประสมผลิตภัณฑ์ (ตอ่ ) ในการจดั การสว่ นประสมของผลติ ภณั ฑเ์ พอ่ื ให้ผลิตภัณฑ์ที่มีไว้ขายทันสมัยอยู่เสมอและทากาไรให้กิจการกลยุทธ์การตลาดที่ ผูจ้ ดั การผลติ ภัณฑส์ ามารถใช้ได้มีดังน้ี 1. Expansion of Product Mix เป็นการขยายส่วนประสมของผลิตภัณฑ์ทาได้ท้ังการเพิ่มจานวนสายผลิตภัณฑ์ การเพม่ิ จานวนผลติ ภณั ฑใ์ นแต่ละสายและการเพ่ิมความลกึ เพื่อขายผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่แล้วเปน็ การเพ่ิมขนาดของผลติ ภณั ฑ์ ใด ๆ 2. Product Repositioning เป็นการปรับตาแหน่งผลิตภัณฑ์ในตลาด เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีภาพลักษณ์ที่ดีในสายตา ของผู้บริโภค 3. Trading up Trading down เป็นการขยายผลิตภัณฑ์ในสายผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่แล้ว ขณะเดียวกันก็ปรับตาแหน่ง ผลิตภัณฑด์ ้วย - Trading up เปน็ การเพิ่มผลิตภัณฑโ์ ดยขายในราคาสงู ขนึ้ ปรับตาแหนง่ ของผลติ ภัณฑต์ ัวเดิมใหผ้ ลิตภัณฑ์หรู เพอ่ื ดึงดูดผู้มรี ายไดส้ งู กวา่ ใหม้ าเป็นลูกคา้ และหวงั ว่าผลิตภัณฑต์ ัวใหม่จะช่วยเพิม่ ยอดขายของผลิตภัณฑ์เดิมท่ีราคาต่ากว่า และ จะสามารถตัดผลิตภัณฑต์ ัวเดิมที่ราคาต่าหว่าทิง้ ไปเมอื่ ถงึ เวลาอนั สมควร - Trading down เป็นการเพิม่ ผลิตภัณฑ์ราคาต่าเข้าไปในสายผลิตภัณฑ์ที่มีตาแหน่งหรู เพ่ือเป็นการตอบสนอง ลูกค้าที่ไม่มีกาลงั ซอ้ื แตอ่ ยากสรา้ งภาพลักษณ์หรู

กลยทุ ธส์ ่วนประสมผลติ ภัณฑ์ (ต่อ) สง่ิ ทีต่ ้องระวังในการทา Trading up Trading down คือ ลูกค้าอาจมีความสับสน และอาจทาให้กิจการเสียลูกค้า ท้ัง 2 กลมุ่ ไปในทส่ี ดุ ทัง้ นเ้ี พราะลูกค้าเดิมไม่ชัดเจนในตาแหน่งใหม่ของผลิตภัณฑ์และลูกค้าใหม่ก็ไม่เช่ือว่าผลิตภัณฑ์ที่เสนอ ขายจะมีคุณภาพดีกวา่ เดมิ 4. Alteration of Existing Product เป็นการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่แล้วให้ทันสมัยเสมอในสายตาของ ผบู้ ริโภค อาจปรบั สูตรส่วนผสมหรือการออกแบบผลติ ภณั ฑ์ ออกแบบและเปลย่ี นวสั ดุของบรรจุภณั ฑ์ เปน็ ตน้ 5. Contraction of Producer Mix เป็นการตัดทั้งผลิตภัณฑ์บางตัวในสายผลิตภัณฑ์หรืออาจตัดท้ิงสาย ผลิตภัณฑ์ทิ้งไป เม่ือพบว่าผลิตภัณฑ์น้ัน ๆ ล้าสมัย ไม่สามารถทากาไรได้อีกต่อไป หรือทากาไรได้แต่น้อยกว่าผลิตภัณฑ์ตัว อน่ื ๆ

การวางแผนงบประมาณด้านผลิตภัณฑ์ 1. ขน้ั ตอนในการทางบประมาณ ◦ สาหรับธุรกิจขนาดเล็ก ข้ันตอนในการวางแผนเริ่มต้นจากผู้บริหารระดับสูงกลุ่มหนึ่ง ซึ่งจะประกอบด้วยผู้เช่ียว๙ญจาก หลายๆฝ่ายในองค์กร ซ่ึงจะเป็นตัวแทนจากหน่วยงานแต่ละฝ่าย เช่น ฝ่ายผลิต ฝ่ายขาย ฝ่ายการเงินและบัญชี ฝ่าย จดั ซอื้ เป็นตน้ ซ่งึ ผู้บริหารแตล่ ะฝา่ ยจะมีความรคู้ วามชานาญในงานของตน 2. คณะกรรมการงบประมาณ มีบทบาทและหน้าที่ ดงั นี้ ◦ 2.1 กาหนดวัตถุประสงคแ์ ละ เปา้ หมายในการดาเนนิ งานของกจิ การสาหรบั งบประมาณช่วงระยะเวลา 1 ปี ◦ 2.2 วินจิ ฉัยปญั หาและข้อขัดแยง้ ต่าง ๆ ทีเ่ กดิ จากการทางบประมาณ ◦ 2.3 รวบรวมงบประมาณทด่ี าเนนิ การสมบรู ณ์แลว้ นาเสนอประธานหรอื ผมู้ ีอานาจ เพือ่ ขออนมุ ตั ิ ◦ 2.4 หากงบประมาณท่พี ิจารณาแลว้ พบปญั หาหรืออุปสรรค ทีอ่ าจเกิดขึ้นในการดาเนินงาน งบประมาณจะถูกส่ังกลับไป ทบทวน เพอ่ื ให้เกิดความเหมาะสม ◦ 2.5 หลังจากทบทวนปรับปรุงแก้ไขและผ่านการอนุมัติ จะนาไปจดั ทาเป็นคู่มืองบประมาณแจกจา่ ยให้พนักงานนาไปใช้ ปฏบิ ตั ิ

การวางแผนงบประมาณด้านผลิตภัณฑ์ 1. ขน้ั ตอนในการทางบประมาณ ◦ สาหรับธุรกิจขนาดเล็ก ข้ันตอนในการวางแผนเริ่มต้นจากผู้บริหารระดับสูงกลุ่มหนึ่ง ซึ่งจะประกอบด้วยผู้เช่ียว๙ญจาก หลายๆฝ่ายในองค์กร ซ่ึงจะเป็นตัวแทนจากหน่วยงานแต่ละฝ่าย เช่น ฝ่ายผลิต ฝ่ายขาย ฝ่ายการเงินและบัญชี ฝ่าย จดั ซอื้ เป็นตน้ ซ่งึ ผู้บริหารแตล่ ะฝา่ ยจะมีความรคู้ วามชานาญในงานของตน 2. คณะกรรมการงบประมาณ มีบทบาทและหน้าที่ ดงั นี้ ◦ 2.1 กาหนดวัตถุประสงคแ์ ละ เปา้ หมายในการดาเนนิ งานของกจิ การสาหรบั งบประมาณช่วงระยะเวลา 1 ปี ◦ 2.2 วินจิ ฉัยปญั หาและข้อขัดแยง้ ต่าง ๆ ทีเ่ กดิ จากการทางบประมาณ ◦ 2.3 รวบรวมงบประมาณทด่ี าเนนิ การสมบรู ณ์แลว้ นาเสนอประธานหรอื ผมู้ ีอานาจ เพือ่ ขออนมุ ตั ิ ◦ 2.4 หากงบประมาณท่พี ิจารณาแลว้ พบปญั หาหรืออุปสรรค ทีอ่ าจเกิดขึ้นในการดาเนินงาน งบประมาณจะถูกส่ังกลับไป ทบทวน เพอ่ื ให้เกิดความเหมาะสม ◦ 2.5 หลังจากทบทวนปรับปรุงแก้ไขและผ่านการอนุมัติ จะนาไปจดั ทาเป็นคู่มืองบประมาณแจกจา่ ยให้พนักงานนาไปใช้ ปฏบิ ตั ิ

การวางแผนงบประมาณด้านผลติ ภัณฑ์ (ต่อ) 3. งบประมาณเพ่ือการวางแผนและควบคุมสาหรบั ธุรกิจบริการและธุรกจิ จาหน่ายสนิ ค้า ◦ 3.1 ธรุ กจิ บริการ การจัดทางบประมาณสาหรับธุรกิจบริการ มีรายละเอียดไม่มาก งบประมาณไม่ซับซ้อนเร่ิมจากการ ประมาณรายได้ ทีถ่ กู กาหนดไวต้ ามเป้าหมายของผูบ้ ริหารมีการจดั ทางบประมาณค่าใช้จ่าย หลายประเภท ซ่ึงงบประมาณค่าใช้จ่ายนี้ จะแบ่งออกเป็นประเภทใหญ่ ๆ ตามความเหมาะสมของแต่ละกิจการนา งบประมาณรายได้ งบประมาณรายจ่าย มาจัดทางบกาไรขาดทุนโดยประมาณ เพื่อให้ทราบผลการ ดาเนินงานในอนาคต กิจการจาเป็นจะต้องจัดทางบประมาณเงินสด เพื่อให้ทราบถึงแหล่งที่มาและใช้ไป ของเงนิ สดให้อนาคต รวมถึงงบประมาณการลงทุน ที่กิจการอาจตั้งโครงการไว้ งบประมาณต่อไปน้ีคือการ จดั ทา งบดุลโดยประมาณ เพื่อใหท้ ราบฐานะทางการเงิน สภาพคลอ่ งของกิจการ

การวางแผนงบประมาณดา้ นผลติ ภัณฑ์ (ต่อ) 3. งบประมาณเพื่อการวางแผนและควบคุมสาหรบั ธุรกจิ บริการและธรุ กิจจาหนา่ ยสินค้า ◦ 3.2 ธุรกิจจาหนา่ ยสินคา้ ธุรกิจท่จี าหน่ายสินคา้ รูปแบบของธุรกิจ การดาเนนิ งานจะไมซ่ บั ซอ้ น ต้องการแสวงหากาไรสูงสุด มุ่งประโยชน์สูงสุดจากการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ ดังนั้น การจัดทางบประมาณจึงไม่ซับซ้อน การจัดทา งบประมาณขาย งบประมาณเงินสด เพื่อให้ทราบว่ากิจการมีเงินสดเพียงพอกับการใช้จ่ายหรือไม่จะต้อง จัดซ้ือสินค้าเท่าไร จึงจะเหมาะสม กิจการต้องมีการรวบรวมข้อมูลอย่างเพียงพอ เพ่ือก่อให้เกิด ประสิทธิภาพ ความคล่องตัวของสินทรัพย์หมุนเวียน ได้แก่ เงินสด สินค้าคงเหลือ และค่าใช้จ่ายในการ ดาเนินงาน กาไรขาดทุนโดยประมาณ ซ่ึงจะแสดงโดยสรุปลาดับงานก่อนหลังของงบประมาณท่ีจะจัดทา ตามแผนภูมิข้างล่าง สาหรับงบประมาณการเงิน ไม่ว่าธุรกิจจาหน่ายสินค้า หรือธุรกิจท่ีผลิตสินค้า เพ่ือ จาหน่ายเองจะมีวิธกี ารทางบประมาณเหมอื นกัน

การวางแผนการจดั ซอ้ื จดุ ประสงคข์ องการวางแผนการจัดซอ้ื มีดังน้ี ◦ 1. เพื่อใหม้ วี ตั ถดุ บิ และวัสดอุ ่นื ๆ เพียงพอในการผลิต ◦ 2. เพอื่ จดั ซ้ือวตั ถุดบิ ที่มีคุณภาพได้มาตรฐานเดียวกัน ◦ 3. เพื่อป้องกันความเสยี หายในระหวา่ งขนส่ง ◦ 4. เพ่อื หลกี เลีย่ งการสงั่ ซ้อื ทซี่ า้ ซอ้ น ◦ 5. เพื่อให้มตี ้นทนุ การจัดซอื้ ทตี่ า่ และไดร้ าคาวตั ถุดิบที่เหมาะสม

การวางแผนการจัดซ้อื (ตอ่ ) ◦ ผู้ประกอบการและพนักงานท่ีรับผิดชอบการจัดซื้อควรทราบถึงหลักการจัดซื้อท่ีดีซึ่งประกอบไปด้วยหลักความ ถกู ตอ้ ง 6 ประการ (6 Rights) 1. Right Quality คือ จัดซอ้ื ได้ถูกต้องตามคุณภาพท่ีต้องการ หน่วยงานหรือฝ่ายต่างๆในองค์กรมีความ ต้องการใช้สินค้าหรือวัสดุจาเป็นต้องกาหนดคุณสมบัติมาให้และฝ่ายจัดซื้อก็ควรมีส่วนร่วมในการกาหนด คณุ สมบตั ิ(Specifications) ของสินค้าที่สงั่ ซอ้ื ดว้ ยทาให้สนิ คา้ ท่ไี ด้รับจะมคี ุณสมบตั ติ รงตามที่ต้องการ 2. Right Quantity คือ จัดซ้ือได้ถูกต้องตามจานวนที่ผู้ใช้ต้องการ ปริมาณการส่ังซ้ือต้องตรงกับความ ต้องการไมค่ วรขาดไปหรือเกินไปเพ่ือต้นทุนการผลิตที่ต่า หากต้องส่ังซอ้ื วัตถุดิบจากต่างประเทศก็จาเป็นต้องวาง แผนการจัดซือ้ ให้มากขึ้นโดยการคาดการณ์หรือประมาณการเร่ืองของฤดูกาล ระยะเวลาขนส่งสินค้าและสถานที่ จัดเก็บดว้ ย

การวางแผนการจดั ซ้อื (ตอ่ ) ◦ 3. Right time คือ การส่งสินค้าถูกต้องตรงตามกาหนดเวลา การจัดซอ้ื ท่ีดีต้องกาหนดช่วงเวลาส่งสินค้า ให้กับผู้ขายได้และเปน็ ช่วงเวลาทท่ี ันตอ่ การผลติ 4. Right price คือ ผู้ส่ังซือ้ สามารถซ้อื สินค้าและวัตถุดิบได้ในราคาเหมาะสมยุติธรรม การซื้อในราคาแพง กว่าคู่แข่งขันมีผลทาให้ต้นทุนสินค้าสูงและแข่งขันยาก ผู้จัดซ้ือจึงต้องเทียบราคากับผู้ขายหลายๆแหล่งเพื่อให้ ทราบถึงราคาซือ้ ทเ่ี หมาะสม 5. Right source คือ แหล่งขายที่ถูกต้องและเช่ือถือได้ ฝ่ายจัดซ้ือต้องตรวจสอบประวัติผู้ขายก่อนการ ส่งั ซื้อ ซ่ึงจะใช้การสอบถามจากผู้ขายรายอนื่ หรือจากนกั จดั ซ้ือดว้ ยกัน นอกจากการสอบถามจากคนรู้จักแล้วฝ่าย จัดซ้ืออาจตรวจสอบประวัติการเงินจากงบการเงินของผู้ขายได้ที่ เว๊ป ไซค์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าของ กระทรวงพาณชิ ย์ 6. Right place คือ การจัดส่งไปยังสถานท่ีที่ถูกต้อง ฝ่ายจัดซอ้ื ต้องระบุสถานท่ีจัดส่งสินค้าให้ชัดเจนเพ่ือ ผูข้ ายจะได้สง่ ไปยังโกดังหรอื โรงงานท่ผี ลติ ได้อยา่ งถูกตอ้ ง

การกาหนดผทู้ ม่ี ีหน้าทร่ี บั ผิดชอบในการจัดซอ้ื และนโยบายราคา ◦ 1. การดาเนินงานในการจดั ซ้อื ◦ การดาเนินงานน้ีเป็นหนา้ ทโ่ี ดยตรงของแผนกจัดซ้อื ท่จี ะตอ้ งดาเนินการโดยมีขั้นตอน ดังนี้ ◦ 1. รบั ร้ถู ึงความตอ้ งการ ◦ 2. กาหนดรายละเอยี ดของวสั ดุ ◦ 3. เลือกแหล่งขาย ◦ 4. กาหนดราคา ◦ 5. การออกคาสัง่ ซอื้ ◦ 6. การติดตามคาสั่งซ้ือ ◦ 7. การตรวจสอบการเรยี กเกบ็ เงนิ ◦ 8. บันทึกผลการจัดซอื้

การกาหนดผ้ทู ีม่ หี นา้ ทรี่ บั ผดิ ชอบในการจดั ซ้อื และนโยบายราคา (ตอ่ ) ◦ 2. นโยบายการจัดซอ้ื ◦ ฝา่ ยจดั ซื้อต้องมกี ารตดั สินใจเกย่ี วกับนโยบายการจัดซอ้ื ดังนี้ ◦ 1. การผลิตเองหรือการซ้ือมา ◦ 2. การซ้อื จากแหล่งเดียวกันหรอื หลายแหล่ง ◦ 3. การซื้อจากผ้ผู ลิต ◦ 4. ใชก้ ารเจรจาตอ่ รอง ◦ 5. สัญญาสิน้ เปลืองระยะยาว ◦ 6. การซื้อต่างตอบแทน ◦ 7. สว่ นลดการซอ้ื ◦ 8. การรวมกนั ซือ้ ◦ 9. การซ้อื ลว่ งหนา้ ◦ 10. การซื้อตามงบประมาณ

การกาหนดผู้ที่มีหนา้ ท่ีรับผดิ ชอบในการจดั ซือ้ และนโยบายราคา (ตอ่ ) ◦ 3. งานทเ่ี กีย่ วข้องกับการจัดซือ้ ◦ นอกจากงานในหน้าที่การดาเนินการด้านการจัดซอ้ื แล้ว ยงั มีหน้าที่หรืองานด้านอ่ืน ๆ อีก เพ่ือช่วยในการอานวยความสะดวกให้สิ่งท่ีจัดซ้ือนั้นนามาใช้งานได้ตามวัตถุประสงค์ งานดงั กลา่ วมดี งั นี้ ◦ 1. การขนส่ง ◦ 2. การรับและการเกบ็ รักษาวัสดุ ◦ 3. การจาหนา่ ยของเหลอื ใช้และของเสยี

การกาหนดผูท้ ี่มีหนา้ ทร่ี ับผดิ ชอบในการจัดซื้อและนโยบายราคา (ตอ่ ) ◦ นโยบายราคา เปน็ แนวทางในการปฏิบตั ิตามวัตถุของกจิ การ โดยมกี ารวางแผนอาศยั วธิ ีต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ เพอื่ ให้เหมาะสมกบั สถานการณ์ และชว่ ยใหก้ จิ การบรรลวุ ตั ถปุ ระสงคซ์ ่งึ นโยบายราคาทนี่ ิยมใช้ ไดแ้ ก่ ◦ 1. นโยบายระดับราคา (Price Level Policy) แบง่ ออกเปน็ 3 ระดับ ดงั นี้ ◦ 1.1 ระดับราคาตามราคาตลาด (Meet the Market Price) เปน็ การกาหนดราคาหรือการตัดราคากัน เน่ืองจากตลาดมีการแข่งขันสมบูรณ์ (Pure Competition Market) และผลติ ภณั ฑไ์ มม่ คี วามแตกต่างกัน ◦ 1.2 ระดบั ราคาสูงกวา่ ราคาตลาด (Above the Market Price) กจิ การสามารถกาหนดราคาให้สูงกว่า คู่แข่งขันได้ เนื่องจากความเข้มแข็งของกิจการหรือมีข้อได้เปรียบในด้านต่าง ๆ ท่ีเหนือกว่าคู่แข่งขัน เช่น ตรา สินค้าเป็นที่ยอมรบั ของผูบ้ ริโภค ทาเลทตี่ ง้ั ของกิจการทเ่ี หมาะสม บคุ ลากร มคี วามชานาญ เปน็ ต้น ◦ 1.3 ระดับราคาต่ากว่าราคาตลาด (under the Market Price) เป็นนโยบายระดับราคาที่กิจการ ขนาดเล็กนิยมนามาใช้ เพ่ือต้องการส่วนแบ่งทางการตลาดในปริมาณมาก ๆ และให้สินค้ากระจายสู่ผู้บริโภค อย่างแพรห่ ลาย

การกาหนดผ้ทู ม่ี หี น้าทร่ี ับผดิ ชอบในการจัดซอ้ื และนโยบายราคา (ต่อ) ◦ 2. นโยบายราคาเดียว (One Price Policy) เป็นการกาหนดราคาสินค้าชนิดเดียวกัน สาหรับผู้ซื้อทุกรายในราคาเดียวกันภายใต้สถานการณ์และเงื่อนไขที่เหมือนกัน เพ่ือให้สะดวกต่อิการ ขายโดยตัดปญั หาในการเสนอราคา และการตอ่ รองราคา ◦ 3. นโยบายราคายืดหยุ่นได้ (Flexible Price Policy) เป็นการกาหนดราคาสินค้าสาหรับ ลูกค้าประเภทเดียวกัน ปริมาณเท่ากันในราคาท่ีแตกต่างกัน ราคาสินค้าจะถูกกาหนดให้สูงหรือต่า ข้นึ อยูก่ บั ความสาพนั ธร์ ะหวา่ งผู้ขายกบั ผู้ซือ้ การกาหนดราคายืดหยนุ่ ได้น้นี ยิ มใช้กันมากสาหรับกิจการ ขนาดเล็กและสินค้าที่ล้าสมัยง่ายหรือไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งกิจการจาเป็นต้องมีส่วนลด หรือส่วนยอมให้ กบั ผู้ท่ซี ือ้ สินค้าดังกล่าว

ครกู ัญฐณา โสมประโคน