Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การพิสูจน์ทราบเขตทางหลวง และการใช้งานระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการที่ดินในเขตทางหลวง

การพิสูจน์ทราบเขตทางหลวง และการใช้งานระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการที่ดินในเขตทางหลวง

Description: การพิสูจน์ทราบเขตทางหลวง และการใช้งานระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการที่ดินในเขตทางหลวง

Search

Read the Text Version

การพิสูจน์ทราบเขตทางหลวง และ การใช้งานระบบ สารสนเทศ การบริหารจัดการท่ีดินในเขตทางหลวง ของกรมทางหลวงชนบท

หัวขอ้ การบรรยาย ท่ี หวั ขอ้ หน่วยงาน ชว่ งเวลา 1 การพสิ ูจน์ทราบเขตทางหลวง สบร. 13.00 – 14.30 2 การใช้งานระบบสารสนเทศ การบริหารจดั การท่ีดินใน สบร. 14.30 – 16.00 เขตทางหลวง ของกรมทางหลวงชนบท วันที่ 8 กันยายน 2564

ความเปน็ มา ลกั ษณะโครงข่ายปัจจุบนั กรมทางหลวงชนบท มีสายทางในความรบั ผิดชอบมากกวา่ 48,000 กิโลเมตร มีความหลากหลายในการได้มาของเขตทางหลวง ของกรมทางหลวงชนบท ข้อจากดั  ขาดเอกสารการได้มาของเขตทาง เอกสารสูญหายหรอื สภาพใช้การไม่ได้ ไมท่ ราบแนวเขตทางทช่ี ดั เจน ผลกระทบ ขาดขอ้ มลู ประกอบในการพิจารณาขยายเขตทางในปจั จบุ ัน  ไม่สามารถวางแผนงบประมาณสาหรับใช้ในการขยายเขตทางในอนาคตได้ มีการรกุ ลาเขตทาง ของกรมทางหลวงชนบท ไมส่ ามารถบงั คบั ใชก้ ฎหมายได้

การดาเนินการให้ไดม้ าซ่ึงเขตทาง ระยะที่ 1 กระบวนการ ระยะที่ 2 กระบวนการ พิสจู น์ทราบเขตทาง (ปัจจบุ นั ) ให้ได้มาซง่ึ เขตทาง (อนาคต) การพสิ ูจนท์ ราบเขตทาง มีเป้าหมาย เพ่อื ให้ทราบ 1.ทด่ี นิ ของเอกชน พิจารณาดาเนนิ การ ถึงระยะห่างความกว้างของเขตทางหลวง ที่มีอยู่ • ขออุทิศ, จดั ซอื , เวนคนื ในปัจจุบัน และ ประเภทท่ีดิน ท่ีถนนของกรมทาง 2.ทดี่ นิ ของรฐั พจิ ารณาดาเนนิ การ หลวงชนบทตัดผ่าน เช่น ที่ดินของเอกชน หรือ • ขอใช้ประโยชน์ ทดี่ ินของรฐั โดยแบ่งออกเปน็ 2 ประเภทคือ • โอนกรรมสิทธิ์ 1.สายทางที่มีความชัดเจนของเขตทาง • ถอน/เปลีย่ นแปลงสภาพ/เปล่ียนแปลง 2.สายทางที่ไม่มีความชดั เจนของเขตทาง ผูด้ แู ล สรา้ งระบบฐานข้อมลู บรหิ ารงานดา้ นเขตทาง ของกรมทางหลวงชนบท

การดาเนินงาน ในขันตอนการพสิ ูจนท์ ราบเขตทาง ถนนท่อี ย่ภู ายใต้การดแู ลของกรมทางหลวงชนบท จานวน 3,280 สายทาง ระยะทางรวม 48,031 กโิ ลเมตร สายทางท่มี คี วามชดั เจนของเขตทางหลวง สายทางทไ่ี ม่มคี วามชัดเจนของเขตทางหลวง จานวน 440 สายทาง ระยะทาง 5,640 กม. จานวน 2,943 สายทาง ระยะทาง 42,391 กม. สายทางที่มคี วามชัดเจน สายทาง กรมชลประทาน สายทางท่ีไม่มีความชัดเจน สายทางทม่ี ีแผน, กอ่ สรา้ ง 123 สายทาง 1,283 กม. 317 สายทาง 4,357 กม. 2,865 สายทาง 41,878 กม. 78 สายทาง 513 กม. รวบรวมเอกสาร รวบรวมเอกสาร พิสจู น์ทราบเขตทาง พสิ ูจน์ทราบเขตทาง และให้ ไดม้ าซึ่งเขตทาง  As-built โครงการ  การรับมอบ ส่งมอบ สาย  บัญชีรายชื่อผู้ถูกเวนคืน ทางจากกรมชลประทาน สง่ อาคาร ส่ิงปลูกสร้าง ให้ สบร. รวบรวม  แผนผังท่ีดิน (ปูโฉนด) แสดง ตาแหน่งของอาคาร ส่ิงปลูก สร้าง ฯลฯ  ดาเนินการติดตั้งหลักเขต ทางหลวงชนบทใหช้ ดั เจน

การแบ่งชนั ทางหลวงชนบท ตามประกาศกรมทางหลวงชนบท เร่ือง มาตรฐานและลักษณะของ ทางหลวงและงานทาง รวมทังกาหนดเขตทางหลวง ที่จอดรถ ระยะ แนวต้นไม้ และเสาพาดสายเกี่ยวกับทางหลวงชนบท พ.ศ.2549 มี การแบ่งชันทางหลวงชนบทออกเป็น 4 ชัน

โดยมาตรฐานและลักษณะของทางหลวง งานทางและเขตทางหลวง ตอ้ งประกอบด้วย 10 ข้อ ดงั นี 1.ลักษณะผิวจราจร 2.การรบั น้าหนกั รถ และน้าหนกั บรรทกุ 3.ความกว้างผิวจราจร 4.ความกวา้ งทางเทา้ หรอื ไหลท่ างทั้งสองข้าง 5.เขตทางหลวง (RIGHT OF WAY) โดยแบ่งระยะเขตทางหลวงดงั นี้ ช้ันที่ 1 และ 2 มีความกว้างเขตทาง ≥20 ม. ชัน้ ที่ 3 และ 4 มีความกวา้ งเขตทาง ≥15 ม. 6.ความเร็วที่ใช้ในการออกแบบ (DESIGN SPEED) 7.การยกระดับของถนนบนทางโค้ง 8.ความลาดชันของถนน (GRADIENT) 9.รัศมีความโคง้ ของขอบถนนด้านในผวิ จราจร บรเิ วณทางแยกหัวมมุ ถนนซ่ึงเกดิ จากการ เช่อื มหรอื ตดั กนั ของถนน 10.ช่องลอดของถนน ระยะลอดในแนวด่ิง

การพิสจู นท์ ราบเขตทาง ขนั ตอนการดาเนนิ งาน กระบวนการพิสจู น์ทราบเขตทาง 2 สายทางทม่ี คี วามชัดเจนเรื่องแนวเขตทาง ทม่ี เี อกสาร สายทางท่ีมีความชดั เจนของเขตทาง คดั แยกสายทาง หลกั ฐานชดั เจน เช่น ถนนผังเมือง, ถนนกอ่ สรา้ งใหม,่ รวบรวมข้อมลู พร้อมทงั ทาแผนท่ี ถนนโลจสิ ติกส์ ฯลฯ เขตทางหลวงใหช้ ดั เจน 1 สายทางท่ีไมม่ คี วามชัดเจนเรื่องเขตทาง 4 สายทางถนนชลประทาน รวบรวมเอกสารหลักฐานการ ประสานไปยงั หนว่ ยงานทเี่ กย่ี วขอ้ ง เช่น กรมท่ดี ิน, กรมธนารกั ษ์, ส.ป.ก., สานกั งานพระ ถ่ายโอนมอบผิวทางจากกรมชลประทานให้ กรมทางหลวง ชนบทเป็นผู้ดูแล ตามเอกสารการทา MOU ระหว่างกรม พทุ ธฯ ฯลฯ ในพนื ที่เพื่อตดิ ต่อขอขอ้ มลู ชลประทานกบั กรมทางหลวงชนบท เพื่อนาไปสู่กระบวนการปูโฉนด 3 สายทางที่มีแผน กาลังดาเนินการกอ่ สร้างหรอื ยกระดับ ขทช., บทช. ดาเนนิ การนาข้อมลู ทไ่ี ด้ ทาการปูโฉนด แบง่ แยกประเภททดี่ ิน, เก็บขอ้ มูล มาตรฐานทาง ให้ดาเนินการดงั นี ความระยะความกว้างจากกง่ึ กลางถนนถงึ เขตทด่ี นิ ทีด่ นิ ของเอกชน ใหด้ าเนนิ การ ขออุทิศ, จดั ซอื , เวนคืน ท่ีดินของรัฐ ให้ดาเนนิ การ ขอใช้ประโยชน,์ โอนกรรมสทิ ธ์ิ, พร้อมทังทาแผนทก่ี าหนดแปลงทด่ี ิน ถอน/เปลย่ี นแปลงสภาพ/เปลย่ี นแปลงผูด้ ูแล รวบรวมข้อมูล สินสุดกระบวนการ พิสูจน์ทราบเขตทาง ของกรมทางหลวงชนบท และข้อมูลของสายทางที่มเี ขตทางหลวงชัดเจน สายทางท่ีไมม่ คี วามชัดเจนของเขตทาง

กรณที ี่ 2 สายทางทม่ี ีความชัดเจน ของแนวเขตทางหลวง ให้ดาเนินการรวบรวมเอกสารหลักฐานแสดงแนวเขตทางหลวงที่ ชดั เจน  บญั ชีรายช่อื ผู้ถูกเวนคืนอาคาร สงิ่ ปลูกสร้าง,  แผนผงั ทีด่ ิน (ปูโฉนด) แสดงตาแหน่งของอาคาร สงิ่ ปลูกสร้าง ฯลฯ  ดาเนนิ การติดตงั หลกั เขตทางหลวงชนบทให้ชดั เจน  ลงขอ้ มลู ในระบบ ROW ให้ครบถ้วน หมายเหตุ สายทางประเภทนี เช่น สายทางท่ีได้จากการเวนคืน หรือ มีการทาเรื่องขอใช้ประโยชน์ตามกฎหมายแล้ว (ถนนผังเมือง, ถนนท่ี ก่อสร้างใหม่หรือถนนยกระดบั มาตรฐานทาง, ถนนโลจิสติกส์ เป็นตน้ )

ตวั อย่างแผนที่อสงั หาริมทรพั ย์

กรณที ี่ 3 สายทางท่ีมแี ผน กาลงั ดาเนินการ ก่อสร้าง หรอื ยกระดบั มาตรฐานทาง ดาเนินการใหไ้ ด้มาซึ่งแนวเขตทาง ใหถ้ ูกตอ้ งตามกฎหมาย ท่ีดินเอกชน ท่ดี ินรัฐ เวนคนื ทีด่ ิน ขอใชป้ ระโยชน์ จัดซือท่ีดนิ ถอนสภาพ อุทศิ ทด่ี นิ เปล่ยี นแปลงสภาพ โอนกรรมสทิ ธ์ิ

แนวทางการดาเนินงานในสว่ นของการอทุ ิศที่ดิน หน่วยดาเนนิ งาน (ขทช., บทช.) 1. ให้ทาความตกลงกับเจ้าของที่ดิน กรณีประชาชนเจ้าของท่ีดินอุทิศท่ีดิน (บางส่วน) ให้เป็น ทางสาธารณประโยชน์ โดยค่าใช้จ่ายในการรังวัดกรมทางหลวงชนบทจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย แทนเจา้ ของทด่ี นิ สว่ นการจดทะเบยี นสิทธแิ ละนิตกิ รรม ได้รบั การยกเว้นค่าธรรมเนยี ม 2. ให้หน่วยดาเนินการทาหนังสือถึงสานักงานท่ีดินในพืนท่ี เพ่ือประสานขอความร่วมมือ ประมาณการค่าใช้จ่ายในการรังวัด กรณีประชาชนเจ้าของที่ดินอุทิศที่ดิน (บางส่วน) ให้เป็น ทางสาธารณประโยชน์ และให้หน่วยดาเนินงานรวบรวมเอกสารสรุปค่าใช้จ่ายในการรังวัด พร้อมค่าธรรมเนียมที่ต้องใช้ในกิจกรรมนี ส่งให้สานักบารุงทางเพ่ือพิจารณาจัดสรร งบประมาณ 3. เมื่อสานักงานท่ีดินในพืนที่ดาเนินการรังวัดแล้วเสร็จ ให้ถ่ายสาเนาเอกสารข้อมูล การอุทิศท่ีดินทังหมดโดยเรียงลาดับตามขันตอน ส่งให้สานักบารุงทางเพื่อรวบรวมไว้เป็น หลกั ฐาน หมายเหตุ ตามหนังสอื เวียน ท่ี คค 0724.2/ ว2443 ลว.3 กรกฎาคม 2560

กรณีท่ี 4 สายทาง หรือช่วงกม.ที่เป็นถนนของ กรมชลประทาน รวบรวมเอกสารหลักฐานการถ่ายโอนมอบผิวทางจากกรมชลประทานให้ กรมทางหลวงชนบทเป็นผู้ดูแล ตามเอกสารการทา MOU ระหวา่ งกรม ชลประทานกับ กรมทางหลวงชนบท ให้ครบทุกสายทาง พร้อมจัดส่ง ข้อมูลให้แก่สานักบารุงทางเพื่อจะได้นาไปรวบรวมจัดทาเป็นระบบ ทะเบยี นใช้ในการอา้ งองิ ต่อไป

ตวั อยา่ งบนั ทกึ รบั มอบ สง่ มอบ (ทช.-ชป.)

กรณที ี่ 1 สายทางทไ่ี ม่มคี วามชดั เจน ของเขตทางหลวง สบร. ได้จัดสรรงบ เพื่อใช้ในการดาเนินงานระยะท่ี 1 การพิสูจน์ทราบเขตทาง ให้แก่หน่วยดาเนินงาน (ขทช., บทช.) โดยขนั ตอนการดาเนนิ งานมดี งั นี 1. ตรวจสอบระวางแผนที่ท่สี ายทางพาดผา่ น 2. ตดิ ตอ่ ประสานงานกับหนว่ ยงานทเี่ ก่ียวข้องเพอื่ ขอขอ้ มูล 3. ดาเนนิ การปูโฉนดแผนท่ี 4. ทาการสารวจและรวบรวมขอ้ มูลประเภทท่ีดิน และระยะ ความกว้างจากกึ่งกลางถนนถงึ หมดุ หลกั เขตทด่ี ินหรอื แนว เขตแปลงทีด่ ิน 5. ลงข้อมูลในแบบฟอรม์ สบร.ขทล.02 (ประเภทท่ดี ิน) 6. ลงข้อมูลในแบบฟอรม์ สบร.ขทล.03 (ความกวา้ งเขตทาง)

คา่ ใชจ้ ่ายในการสืบคน้ ประเภทกรรมสิทธิ์ทีด่ นิ ระเบยี บกรมท่ดี ิน วา่ ดว้ ยการตรวจหลักฐานทะเบยี นท่ดี ิน การขอคดั ขอถา่ ยสาเนาเอกสาร และการตรวจสอบหลกั ทรพั ย์ พ.ศ.2556 สว่ นที่ 2 หนว่ ยงานของรฐั ขอตรวจหลกั ฐานทะเบียนทีด่ นิ ขอ้ 19 (2) กรณีมีหนังสือแจ้งขอความร่วมมือ ขอตรวจหลักฐานทะเบียนที่ดิน ขอคัดหรือ ขอถ่ายสาเนาเอกสารด้วยมือ โดยส่งเจ้าหน้าที่ของหน่วยงาน นนั มาคัดหรอื ถ่ายสาเนาเอกสารเอง พนักงานเจ้าหน้าท่ีของสานักงานท่ีดินมีเพียงหน้าท่ีเพียงแต่อานวยความ สะดวกด้านข้อมูลเท่านั้น ไม่ต้องเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเนื่องจากเป็นการ ประสานงานระหวา่ งหนว่ ยงาน

ดาเนินการปูระวางแผนท่ี โฉนดทดี่ ิน สปก. ราชพัสดุ วัด เอกชน ปา่ ไม้ กรมประมง สาธารณะประโยชน์ ป่าไม้

กม. 2+900 ท่วี ดั (วัดคลองโพธ์ศิ ร)ี ท่ีเอกชน (นส.4) 5.30 ม. หมดุ เขตท่ดี นิ 6.10 ม. แนวเขตแปลงที่ดนิ

กม. 4+300 ท่เี อกชน (นส.3) ทเ่ี อกชน (นส.4) 4.90 ม. หมดุ เขตที่ดิน แนวเขตแปลงทีด่ ิน 5.30 ม.

ผลการดาเนินงานพิสูจนท์ ราบเขตทางหลวง พิสูจนท์ ราบประเภท 12 3 ทีด่ ินในพนื ทท่ี ี่ สายทางของ 4 กรมทางหลวงชนบทตัดผา่ น 56 ช่วง กม. ประเภททด่ี นิ โฉนดเลขที่ ระยะทาง (กม.) ดา้ นซ้ายทาง ดา้ นขวาทาง ทดี่ นิ รัฐ ผถู้ อื ครอง/ผใู้ ช้ 26 1 กม.ที่ ถงึ กม.ที่ ทด่ี นิ เอกชน ทด่ี นิ รัฐ ผถู้ อื ครอง/ผใู้ ช้ ทด่ี นิ เอกชน 28 2 น.ส.3 460 3 0+550 - 0+800 0.250 1 น.ส.4 53 4 54 5 0+800 - 1+100 0.300 1 น.ส.4 น.ส.3 6 1+100 - 1+250 0.150 1 น.ส.4 1+250 - 1+400 0.150 1 น.ส.4 1+250 - 1+300 0.050 1 น.ส.4 1+300 - 1+550 0.250 1

ผลการดาเนินงานพิสจู น์ทราบเขตทางหลวง ตรวจสอบระยะจากแนว 2 เสน้ ก่งึ กลางถนนถึงบรเิ วณ 1 หลักเขตที่ดนิ และเส้น 3 แสดงแนวเขตแปลงท่ีดนิ ทุก 100 ม. หรอื ทุกระยะที่ มกี ารเปลยี่ นแปลงหลกั เขตทีด่ นิ ลาดบั ท่ี ตาแหนง่ หมุดทดี่ นิ ดา้ นซา้ ยทาง ดา้ นขวาทาง หมายเหตุ ความกวา้ งวดั ตงั้ ฉากจากกงึ่ กลางถนน (ม.) ความกวา้ งวัดตงั้ ฉากจากกง่ึ กลางถนน (ม.) ผวิ ทาง ไหลท่ าง คนั ทาง เขตทาง ความสงู คนั ทาง กม.ที่ ผวิ ทาง ไหลท่ าง คนั ทาง เขตทาง ความสงู คนั ทาง 3.00 4.00 5.00 8.20 0.50 1 1 1+100 3.00 4.00 5.00 7.00 0.50 3.00 4.00 5.30 7.40 0.50 2 2 1+250 3.00 4.00 5.20 7.80 0.50 3.00 4.00 4.80 7.85 1.00 3 3 1+300 3.00 4.00 5.00 6.80 1.00

การนาข้อมลู ไปดาเนนิ การในระยะตอ่ ไป สปก. ราชพสั ดุ วัด เอกชน ป่าไม้ ROW กรมประมง สาธารณะประโยชน์ ป่าไม้ ROW ระยะที่ 1 (ประเภททดี่ นิ + ระยะเบอื งต้น) ระยะท่ี 2 (ให้ได้มาซง่ึ เขตทาง) พิสูจนท์ ราบเขตทาง ทดี่ ินของรฐั ขอใชป้ ระโยชน์, ทีด่ นิ ของเอกชน โอนกรรมสิทธิ์, ถอนสภาพ - เปลีย่ นแปลงสภาพ, ขออทุ ิศ และใช้ในการ พิจารณางบประมาณทีจ่ ะตอ้ ง ใช้สาหรับจดั ซือ, เวนคนื รวบรวมฐานข้อมลู บริหารงานดา้ นเขตทางหลวง ของกรมทางหลวงชนบท

ปญั หา และข้อจากัดทพี่ บจากขนั ตอนการพิสูจนท์ ราบเขตทาง 1. ในการปูระวางแผนท่ีโดยใช้โปรแกรม จาเป็นต้องอาศัยบุคลากรที่มีความรู้ความ เชยี่ วชาญในการใช้โปรแกรม 2. เม่ือตรวจสอบการปรู ะวางแผนที่ แล้วพบว่ายงั คงมพี ้นื ท่ีท่ีเป็นช่องวา่ งเปน็ บางสว่ น สง่ ผลทาให้การพิสูจน์ทราบเขตทาง ยงั ไม่บรรลุเป้าหมาย 3. การสารวจเก็บขอ้ มูลในการพสิ ูจนท์ ราบเขตทาง ยงั ไม่ถกู ต้อง ครบถ้วน 4. การสารวจเก็บขอ้ มูลพบว่าเส้นกึ่งกลางถนนทไ่ี ดม้ ีความคลาดเคลื่อนกับความเป็นจริง 5. ขาดระบบบรหิ ารจัดการข้อมลู เพ่ือรองรบการสบื ค้น การแสดงผล และอานวย ความสะดวกในการนาขอ้ มูลไปใชว้ ิเคราะห์ ดังน้นั กรมทางหลวงชนบทจงึ ไดจ้ ัดทาระบบสารสนเทศ R.O.W. มาเพื่อใชส้ าหรับ รองรบั การจดั เก็บข้อมูลเขตทาง รวมถงึ อานวยความสะดวกให้แก่เจา้ หนา้ ท่ี ในการ เปล่ยี นแปลง แก้ไขเพ่มิ เติมข้อมลู เขตทางทีไ่ ด้จากการพิสจู นท์ ราบเขตทาง

การนาระบบสารสนเทศ มาใช้งานในกระบวนการพสิ ูจนท์ ราบ เขตทางหลวง วัตถุประสงค์ ประโยชน์ หลกั การและเหตผุ ล กรมทางหลวงชนบท มคี วามจาเปน็ ทจี่ ะตอ้ งมีระบบบรหิ ารจดั การกรรมสทิ ธิ์ ทีด่ ินในเขตทางหลวงชนบท ใหท้ นั สมัยและมปี ระสทิ ธิภาพ มเี อกสาร หลักฐานทีน่ า่ เชอ่ื ถือ เปน็ ท่ียอมรับในวงกวา้ ง เพอ่ื จดั เกบ็ ขอ้ มูลใหเ้ จา้ หน้าทใ่ี ชใ้ นการประกอบการ วางแผน วเิ คราะห์ ตัดสนิ ใจ ในการปฏบิ ตั หิ นา้ ทด่ี ้านงานทาง เชน่ การปรบั เขตพนื ทแี่ ละแบบกอ่ สร้างทาง การขยายชอ่ งจราจร วิเคราะหแ์ ละประเมนิ พนื ทร่ี อบขา้ งตามแนวเขตทาง เพอื่ ใหค้ รอบคลุม บริเวณคาดวา่ จะต้องการเพือ่ ใหไ้ ดม้ าซ่งึ แนวเขตทาง PLANING ANALYSIS DICISION

การนาระบบสารสนเทศ มาใชง้ านในกระบวนการพิสจู นท์ ราบ เขตทางหลวง วตั ถุประสงค์ ประโยชน์ วตั ถุประสงค์ 1 ศึกษา วิเคราะห์ เสนอกาหนดแนวทางการ 2 พัฒนาระบบสารสนเทศสาหรับบริหารจัดการ ดาเนินงาน และตรวจสอบความพร้อม และ กรรมสิทธิ์ที่ดินในเขตทางของกรมทางหลวงชนบท ความสมบูรณ์ของข้อมูลในการพิสูจน์ทราบ โดยเช่ือมโยงข้อมูลเข้ากับระบบภูมิสารสนเทศ แนวเขตทางของกรมทางหลวงชนบท (Geographic Information System: GIS) 3 จัดทาข้อมูลตามกระบวนการพิสูจนท์ ราบเขต นาข้อมูล ระบบสารสนเทศ ทางให้สมบูรณ์บนสายทางของกรมทางหลวง เขา้ ส่รู ะบบ ชนบท 4 กาหนดแนวทางในการดาเนินการ เพ่ือให้ จัดทาคู่มือและฝึกอบรมเจา้ หนา้ ท่ี ได้มาซ่ึงเขตทางหลวงชนบททังในส่วนของ ท่ีดินของภาครฐั และภาคเอกชน

การนาระบบสารสนเทศ มาใชง้ านในกระบวนการพสิ ูจนท์ ราบ เขตทางหลวง วตั ถปุ ระสงค์ ประโยชน์ ประโยชนท์ จี่ ะไดร้ บั 1 ได้ระบบสารสนเทศบริหารจัดการเพ่ือจัดเก็บและบริหารจัดการ กรรมสิทธท์ิ ีด่ ินในเขตทางของกรมทางหลวงชนบท • สามารถอานวยความสะดวกในการบริหารจัดการกรรมสิทธ์ิที่ดินในเขตทาง ของกรมทางหลวงชนบท เชน่ การช้ีแนวเขตทาง การให้ได้มาซ่ึงเขตทาง • สามารถวางแผนยกระดับมาตรฐานสายทางได้ในอนาคต 2 สามารถกาหนดวิธีการพิสูจน์ทราบแนวเขตทางเพ่ือเป็นแนวทางให้ กรมทางหลวงชนบท ดาเนนิ การได้ในอนาคต

การนาระบบสารสนเทศ มาใชง้ านในกระบวนการพสิ ูจนท์ ราบ เขตทางหลวง วตั ถปุ ระสงค์ ประโยชน์ 1. การใช้งานระบบ R.O.W. เพอื่ ตรวจสอบพนื ทเ่ี ขตทางหลวงเบืองตน้ ใช้สาหรับโครงการก่อสร้างทอ่ี าจสง่ ผลกระทบต่อพน้ื ท่ีนอกเหนือเขตทางหลวง เชน่ งานก่อสร้างขยาย ชอ่ งจราจร, งานยกระดับมาตรฐานชัน้ ทาง, งานก่อสรา้ งโครงสร้างระบายนา้ , งานปรบั ปรุงจดุ เสย่ี ง อันตราย ข้ันตอน 1. ประเมินความตอ้ งการขนั้ ต่าของระยะเขตทางหลวง 2. ตรวจสอบความสัมพนั ธข์ องปริมาณจราจร จากข้อมูลปรมิ าณจราจร (CRD) 3. เขา้ หนา้ จดั การเขตทาง (ROW) 4. คน้ หาสายทาง 5. ตรวจสอบพนื้ ทีต่ ้องระวงั (ป่าสงวน, อุทยาน, แนะนาไมท่ าในบรเิ วณช่วง กม. ดงั กล่าว) 6. เข้าหนา้ ขยายเขตทาง ใส่ขอ้ มูล ชว่ ง กม.ทตี่ อ้ งการขยาย, เลนท่ขี ยาย และระยะเขตทางท่ีต้องการ 7. กดคานวณ และ สง่ ออกรายงาน

การนาระบบสารสนเทศ มาใช้งานในกระบวนการพิสจู น์ทราบ เขตทางหลวง วตั ถุประสงค์ ประโยชน์ 2. การใชง้ านระบบ R.O.W. กรณเี มอื่ มกี ารอทุ ิศทีด่ นิ ให้กับกรมทางหลวงชนบท วธิ กี ารลงขอ้ มลู เอกสารตัดแบ่งแปลงที่ดิน ลงในระบบ เมื่อจบขน้ั ตอนการชรี้ ะวังแนวเขตทางหลวง การอทุ ิศ, จัดซ้อื , เวนคืน ข้นั ตอน 1. เม่อื ดาเนนิ การตัดแบง่ โฉนดจนแล้วเสรจ็ ขบวนการ ใหป้ รับข้อมลู ในฐานระบบ ROW โดยให้ ดาเนนิ การ กดเขา้ ไปทแี่ ปลงทตี่ ้องการแก้ไข - กดแกไ้ ข - การปรับ Node สามารถปรบั ด้วยวธิ กี ารใส่พกิ ดั (กรณี ไดข้ อ้ มูลพกิ ดั RTK จากสานกั งานทดี่ ิน) หรอื แกไ้ ข Node จากระยะทีว่ ดั หน้างาน แต่แนะนาให้ใส่ข้อมูลจากพกิ ดั จะละเอียดท่สี ุด - กดบนั ทกึ 2. แสกนขอ้ มลู ใสล่ งในแปลงทด่ี ิน ในระบบ ROW ท่ีปุ่มแนบเอกสารสิทธ์ิ

วิธกี ารใชง้ านระบบฯ ตรวจสอบความครบถ้วน ไมค่ รบถว้ น คดั ลอกระวางที่ดิน ตรึงพกิ ดั ระวางแผนท่ี ของแปลงทีด่ นิ จากสานกั งานท่ีดิน และ 3 1 2 หน่วยงานอื่นๆทเ่ี ก่ียวขอ้ ง ครบถ้วน สง่ ออกรายงาน สารวจข้อมูลเขตทางหลวง วาดแปลงทีด่ ินท่ขี าดหาย/ นาข้อมูลระวางแผนท่ีเข้าสู่ ระบบสารสนเทศฯ 7 6 5 ปรับแก้รปู แปลง 4

วิธีการใช้งานระบบฯ 1. ตรวจสอบความครบถว้ นของแปลงที่ดนิ กอ่ นการปรบั แก้ ตัวอย่างสายทาง ชพ.4012 แปลงที่ดนิ ขาดหายจานวนมาก

วิธกี ารใช้งานระบบฯ 2. คดั ลอกระวางแปลงทดี่ ิน เสน้ กึ่งกลางถนน

วิธกี ารใชง้ านระบบฯ 3.ใช้โปรแกรมทางภมู ิสารสนเทศในการตรึงมมุ ของระวางแผนท่ี

วธิ ีการใช้งานระบบฯ 3.ใช้โปรแกรมทางภมู สิ ารสนเทศในการตรงึ มมุ ของระวางแผนที่ (ตอ่ ) ตรงึ พกิ ดั ระวางแปลงท่ดี นิ มาตราสว่ นระวางทีด่ นิ ฉบับท1:1่ี2,000 ฉบบั ท2่ี ฉบับ1ท:23่ี ,000ฉบบั ท4่ี 1:4,000 ฉบบั ท่ี 1 ฉบบั ที่ 2 1:2,000 ฉบบั ท5่ี ฉบับท6่ี ฉบบั ท7่ี ฉบบั ท8่ี 1:1,000 ฉบบั 1ท:2,9่ี 000ฉบับท1ี่ 0 ฉบับ1ท:21ี่ ,0100 ฉบับท1่ี 2 ฉบับที่ 3 ฉบบั ท่ี 4 ฉบบั ท1่ี 3 ฉบบั ท1่ี 4 ฉบบั ท1่ี 5 ฉบับท1่ี 6

วิธกี ารใชง้ านระบบฯ ตรวจสอบความครบถว้ น ไม่ครบถว้ น คดั ลอกระวางท่ีดนิ ตรึงพกิ ัดระวางแผนที่ ของแปลงที่ดนิ จากสานกั งานท่ีดนิ และ 3 1 2 หนว่ ยงานอื่นๆท่ีเก่ียวข้อง ครบถว้ น สง่ ออกรายงาน สารวจขอ้ มูลเขตทางหลวง วาดแปลงท่ีดนิ ทข่ี าดหาย/ นาข้อมูลระวางแผนที่เขา้ สู่ ระบบสารสนเทศฯ 7 6 5 ปรบั แกร้ ปู แปลง 4

วิธกี ารใช้งานระบบฯ 4.นาขอ้ มูลระวางแผนท่เี ขา้ สูร่ ะบบสารสนเทศฯ ดาเนินการบนระบบผ่าน URL : row.drr.go.th

วิธกี ารใชง้ านระบบฯ 4.นาข้อมูลระวางแผนที่เขา้ สรู่ ะบบสารสนเทศฯ (ตอ่ ) เลือกมาตราส่วนระวางแผนที่ และฉบบั ทข่ี องระวางแผนที่

วิธกี ารใชง้ านระบบฯ 4.นาข้อมูลระวางแผนที่เขา้ สู่ระบบสารสนเทศฯ (ตอ่ ) เลือกมาตราส่วนระวางแผนที่ และฉบบั ทข่ี องระวางแผนที่

วิธีการใชง้ านระบบฯ 4.นาข้อมลู ระวางแผนทเ่ี ข้าสู่ระบบสารสนเทศฯ (ตอ่ ) การเปิดไฟลภ์ าพระวาง

วธิ กี ารใชง้ านระบบฯ ตรวจสอบความครบถ้วน ไมค่ รบถว้ น คดั ลอกระวางท่ีดนิ ตรึงพกิ ัดระวางแผนที่ ของแปลงทีด่ นิ จากสานักงานท่ีดิน และ 3 1 2 หนว่ ยงานอื่นๆทีเ่ กี่ยวข้อง ครบถว้ น สง่ ออกรายงาน สารวจข้อมลู เขตทางหลวง วาดแปลงท่ีดนิ ทขี่ าดหาย/ นาขอ้ มูลระวางแผนทีเ่ ขา้ สู่ ระบบสารสนเทศฯ 7 6 5 ปรับแก้รปู แปลง 4

วิธกี ารใช้งานระบบฯ 5. วาดแปลงทดี่ ินทข่ี าดหาย/ปรบั แกร้ ูปแปลง การดาเนินการแก้ไขแปลงทด่ี ิน

วธิ กี ารใชง้ านระบบฯ 5. วาดแปลงท่ีดินทีข่ าดหาย/ปรับแกร้ ูปแปลง (ตอ่ ) เครื่องมอื ต่าง ๆ เครอื่ งในการแกไ้ ขแปลงทดี่ ิน 2 246 1 เคร่ืองมือ ใช้ในการขยายแผนท่ี ที่ต้องการดู เครื่องมอื ใชใ้ นการวาดแปลงทีด่ ิน หลงั จากการ รายละเอียด ตรวจสอบพบวา่ มีการขาดหายไปของแปลงท่ดี นิ ดังกลา่ ว ผูใ้ ช้งานสามารถวาดแปลงทด่ี ินเพ่ิมเติมได้ 3 ใช้ในการกดยกเลิกคาส่ังของเครื่องมือแก้ไข 4 เคร่ืองมือ ใช้ในการลบหมุดท่ีดินที่ไม่ต้องการ 13 5 เครื่องมือ โดยกดปุ่มถังขยะ และไปเลือกหมุดที่ดินที่ต้องการลบ แปลง ออก 5 6 เครือ่ งมอื ใช้ในการสร้างแปลงทด่ี ิน ในกรณีท่รี คู้ ่า เครอื่ งมอื ใชใ้ นการคานวณแปลงท่ีดนิ ทไ่ี ดม้ ี พิกดั ของมุมแปลงตาแหน่งต่าง ๆ โดยพิกดั จะเป็นรปู แบบ การแก้ไขแล้วเสรจ็ เพ่อื ให้ระบบประมวลผลเขตทาง ละตจิ ูดและลองจิจูด แสดงรายละเอียดดงั ทัง้ หมดของท้งั สายทางอีกครง้ั

วิธกี ารใช้งานระบบฯ 5. วาดแปลงท่ดี นิ ที่ขาดหาย/ปรับแกร้ ูปแปลง (ตอ่ ) การดาเนนิ การเพ่ิมแปลงที่ดนิ

วิธกี ารใช้งานระบบฯ 5. วาดแปลงท่ดี นิ ที่ขาดหาย/ปรับแกร้ ูปแปลง (ตอ่ ) การดาเนนิ การเพ่ิมแปลงที่ดนิ

วิธกี ารใช้งานระบบฯ 5. วาดแปลงท่ดี นิ ที่ขาดหาย/ปรับแกร้ ูปแปลง (ตอ่ ) การดาเนนิ การเพ่ิมแปลงที่ดนิ

วธิ ีการใชง้ านระบบฯ 5. วาดแปลงท่ดี ินทีข่ าดหาย/ปรบั แกร้ ูปแปลง (ตอ่ ) แปลงท่ดี ินกอ่ นการปรบั แก้ แปลงทีด่ ินหลังการปรับแก้

วธิ ีการใชง้ านระบบฯ การคานวณเขตทางใหม่

วิธกี ารใชง้ านระบบฯ ตรวจสอบความครบถว้ น ไมค่ รบถ้วน คดั ลอกระวางที่ดนิ ตรงึ พกิ ดั ระวางแผนท่ี ของแปลงท่ีดนิ จากสานกั งานท่ีดิน และ 3 1 2 หนว่ ยงานอื่นๆทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ครบถ้วน ส่งออกรายงาน สารวจขอ้ มลู เขตทางหลวง วาดแปลงทีด่ นิ ท่ีขาดหาย/ นาขอ้ มูลระวางแผนท่ีเขา้ สู่ ระบบสารสนเทศฯ 7 6 5 ปรับแก้รูปแปลง 4

วิธกี ารใชง้ านระบบฯ 6. สารวจขอ้ มูลเขตทางหลวง การวัดระยะดว้ ยแถบวัดระยะ + Web Responsive เพ่ือดูตาแหนง่ หมดุ + *หมายเหตุ พกิ ัดอาจมีความคลาดเคลื่อนขนึ อยู่กบั ความสามารถของอปุ กรณ์ กรณีทตี่ อ้ งการ ยนื ยนั ความถกู ตอ้ ง ควรมกี ารสอบเขต

วธิ กี ารใช้งานระบบฯ ตรวจสอบความครบถว้ น ไมค่ รบถว้ น คัดลอกระวางท่ีดนิ ตรึงพกิ ดั ระวางแผนท่ี ของแปลงทดี่ นิ จากสานกั งานท่ีดิน และ 3 1 2 หนว่ ยงานอื่นๆที่เกย่ี วข้อง สง่ ออกรายงาน ครบถ้วน วาดแปลงท่ีดินทขี่ าดหาย/ นาขอ้ มูลระวางแผนท่ีเขา้ สู่ ระบบสารสนเทศฯ 7 สารวจขอ้ มลู เขตทางหลวง 5 ปรบั แก้รูปแปลง 4 6

วธิ ีการใช้งานระบบฯ 7. การส่งออกรายงาน