Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิชาประวัติศาสตร์ 2 เรื่อง ประวัติศาสตร์ไทยสุโขทัย

วิชาประวัติศาสตร์ 2 เรื่อง ประวัติศาสตร์ไทยสุโขทัย

Published by rawatjansa2535, 2020-02-27 11:28:20

Description: วิชาประวัติศาสตร์ 2 เรื่อง ประวัติศาสตร์ไทยสุโขทัย

Search

Read the Text Version

1 วชิ าสงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม เร่ือง ประวัตศิ าสตร์ไทยสุโขทยั ผงั มโนทัศน์สาระการเรียนรู้ 1. การสถาปนาอาณาจักรสโุ ขทยั 1.1 การขับไลเ่ ขมรและการตง้ั ราชวงศ์พระรว่ ง เมอ่ื พ่อขนุ ศรีนาวนาถุมส้ินพระชนม์ ขอมสบาดโขลญลาพงขุนนางเขมร ได้เข้ายึดครอง สุโขทัยไว้ พ่อขุนผาเมืองร่วมมือกับพ่อขุนบางกลางหาวพระสหายขับไล่พวกขอมสบาดโขลญลาพงออกไปได้ พอ่ ขนุ ผาเมอื งได้อภเิ ษกพ่อขนุ บางกลางหาวเป็นกษตั รยิ ์สโุ ขทยั พ่อขุนบางกลางหาวข้ึนครองราชย์ พ.ศ. 1792 และทรงมีพระนามว่า พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ ทรงเปน็ ตน้ ราชวงศ์พระร่วง 1.2 ปจั จยั ทเี่ ออ้ื ตอ่ การสถาปนาอาณาจกั รสโุ ขทัย 1.2.1 ปัจจยั ภายใน 1) มผี ้นู าที่เข้มแข็ง 2) รกั ความเปน็ อิสระ 3) สุโขทัยอยู่ในทาเลท่ีเหมาะสม คือ ต้ังอยู่บนที่ราบเชิงไม่ไกล จากแม่นา้ ยม อีกทง้ั ยังอย่หู ่างไกลจากเขมร 1.2.2 ปัจจัยภายนอก การเส่ือมอานาจของขอมจากการทาสงครามยืดเยื้อ และความส้ินเปลืองจากการทมุ่ เทสร้างเทวสถาน 1.3 พระมหากษัตริย์แห่งอาณาจักรสุโขทัย เปน็ ราชวงศพ์ ระร่วง มี 9 พระองค์ 1.3.1 พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ มีพระนามเดิมว่า พ่อขุนบางกลางหาว ได้ร่วมมือกับ พ่อขุนผาเมือง ขับไล่เขมร และได้ข้ึนเสวยราชย์เป็นกษัตริย์ ทรงพระนามว่า พ่อขุนศรีอิทราทิตย์ สมัยนี้สุโขทัย ไม่กวา้ งขวางมากนัก และยงั ถกู โจมตีจากเมืองอื่น เชน่ ขุนสามชน เจ้าเมอื งฉอด 1.3.2 พ่อขุนบานเมือง เป็นกาลงั สาคัญในการปกป้องและขยายอานาจของอาณาจักร

2 1.3.3 พ่อขนุ รามคาแหงมหาราช พระราชกรณยี กจิ ทีส่ าคญั ไดแ้ ก่ 1) ทรงขยายอาณาเขตไดก้ ว้างขวางที่สุดในสมัยสโุ ขทยั 2) ทรงประดิษฐ์ลายสอื ไทยขน้ึ ใช้ 3) ทรงยกเว้นการเก็บภาษีผ่านด่าน และทรงส่งเสริมการค้ากับ ดนิ แดนใกล้เคียง 4) อัญเชิญพทุ ธนกิ ายเถรวาทแบบลังกาวงศ์ข้ึนมาประดิษฐานที่สโุ ขทัยแลว้ 5) ทรงปกครองแบบพ่อปกครองลูก แขวนกระด่ิงไว้ให้ประชาชน ท่เี ดือดร้อนมาสัน่ กระดงิ่ รอ้ งทกุ ข์ 6) ทรงรักษาความสัมพันธ์กับอาณาจักรล้านนาและแคว้นพะเยามาตลอด ทรงผูกมิตรกับจนี ซ่งึ เป็นมหาอานาจ ทรงอุปถัมภ์ผู้ท่ีเข้ามาสวามิภักด์ิ เช่น มะกะโท ซ่ึงภายหลังได้เป็นกษัตริย์มอญ หลังจากพ่อขุนรามคาแหงมหาราชสวรรคตใน พ.ศ. 1841 อาณาจกั รสุโขทัยก็แตกเป็นเสี่ยง ๆ เพราะบ้านเมือง ทีเ่ คยอยูใ่ ต้อานาจตา่ งตง้ั ตนเปน็ อิสระ 1.3.4 พระยาเลอไทย เป็นพระโอรสของพ่อขุนรามคาแหงมหาราช เสวยราชย์ ต่อจากพระบิดา 1.3.5 พระยางวั่ นาถมุ หลงั จากพระยางั่วนาถุมสวรรคต เกิดเหตุการณ์วุ่นวาย ข้นึ ในกรุงสุโขทัย มผี ไู้ ม่เหมาะสมตงั้ ตนข้นึ เป็นกษตั รยิ ์ พระยาลิไทยจงึ ยกทัพจากศรสี ชั นาลยั มาปราบปราม 1.3.6 พระมหาธรรมราชาท่ี 1 (ลิไทย) เป็นโอรสของพระยาเลอไทย ปราบดาภิเษกขึน้ เปน็ กษัตรยิ ์ ทรงเปน็ นักปราชญ์ทัง้ ทางด้านการปกครอง ศาสนา อักษรศาสตร์ และด้านอื่น ๆ อีกท้ังทรงรวบรวมอาณาจักรสุโขทัยกลับมาเป็นปึกแผ่นอีกครั้ง แม้ว่าอาณาเขตจะไม่กว้างขวางเท่าสมัย พอ่ ขุนรามคาแหงมหาราช 1.3.7 พระมหาธรรมราชาท่ี 2 ตกเป็นเมืองประเทศราชของอยุธยา ต่อมา พ.ศ. 1931 ไดร้ บั เอกราชกลบั มา

3 1.3.8 พระมหาธรรมราชาที่ 3 (ไสลือไทย) สุโขทัยตกเป็นประเทศราช ของอยธุ ยาอีกคร้งั และไดม้ ีการสรา้ งความสมั พนั ธ์ทางเครือญาติ โดยสมเด็จพระอินทราชาแห่งอยุธยาทรงสู่ขอ พระราชธิดาของพระมหาธรรมราชาที่ 2 ให้แก่เจ้าสามพระยา ซึ่งภายหลังขึ้นครองราชย์กรุงศรีอยุธยา ทรงพระนามวา่ สมเดจ็ พระบรมราชาธิราชท่ี 2 และมพี ระโอรส คอื สมเดจ็ พระบรมไตรโลกนาถ 1.3.9 พระมหาธรรมราชาท่ี 4 (บรมปาล) สมเด็จพระอินทราชาแห่งอยุธยา อภิเษกให้เป็นกษัตริย์ ทรงพระนามว่า พระเจ้าสุริยวงศ์บรมปาลมหาธรรมราชาธิราช เรียกกันท่ัวไปว่า พระมหาธรรมราชาท่ี 4 ปกครองสุโขทัยในฐานะประเทศราชของอยุธยา พระมหาธรรมราชาที่ 4 สวรรคตใน พ.ศ. 1981 ไม่ได้ตั้งผู้ใดเป็นมหาธรรมราชาของอาณาจักรสุโขทัยอีกแต่ให้ผู้มีเชื้อสายราชวงศ์พระร่วงเป็น เจ้าเมืองพษิ ณโุ ลกต่อมา จนถงึ พ.ศ. 2006 เปน็ สมัยของสมเดจ็ พระบรมไตรโลกนาถแหง่ อยธุ ยา ได้ไปประทับท่ี เมอื งพิษณุโลกตลอดมาจนสนิ้ พระชนม์ อาณาจกั รสุโขทยั กถ็ ูกผนวกเขา้ กบั อาณาจกั รอยธุ ยาโดยสมบรู ณ์ 2. การเมอื งการปกครองสมัยสโุ ขทยั 2.1 ลักษณะการปกครอง 2.1.1 ก า ร ป ก ค ร อ ง ส มั ย สุ โ ข ทั ย ต อ น ต้ น พ . ศ . 1792–1841 พระมหากษัตรยิ ์ทรงปกครองประชาชนอย่างใกลช้ ิด เรียกว่า การปกครองแบบพอ่ ปกครองลกู 2.1.2 การป กครอ งสมัย สุโ ข ทัยตอ นปลา ย พ. ศ. 1841–2006 มีการปกครองท่ียึดหลักพระพุทธศาสนา เรียกว่า การปกครองแบบธรรมราชา ซ่ึงกษัตริย์ต้องทรงอยู่ใน ทศพิธราชธรรม ซ่ึงท่ีจริงแล้วแนวคิดแบบธรรมราชาแทรกอยู่ทั่วไปในนโยบายการปกครองอาณาจักรที่นับถือ พระพุทธศาสนา 2.2 การปกครองราชธานแี ละเมืองลกู หลวง 2.2.1 ราชธานีหรือเมืองหลวง เป็นศูนย์กลางทางการปกครอง เปน็ ท่ปี ระทบั ของพระมหากษตั รยิ ์ 2.2.2 เมืองลกู หลวงและเมืองหน้าด่าน ตงั้ อยใู่ กลร้ าชธานี เมืองลูกหลวง พระมหากษัตรยิ ส์ ่งเจ้านายไปปกครอง ได้แก่ เมืองศรีสัชนาลัย เมืองสระหลวงสองแคว (พิษณุโลก) เมืองหน้าด่าน เป็นเมืองท่ีคอยปกป้องราชธานีจากข้าศึก และมีเจ้านายปกครองเช่นกัน ได้แก่ เมืองนครชุม (อยู่ในจังหวัด กาแพงเพชร) 2.3 กฎหมายและกระบวนการยตุ ิธรรม 2.3.1 กฎหมาย 1) กฎหมายว่าด้วยมรดก ระบุว่า เม่ือผู้ใดถึงแก่กรรม ทรัพย์สิน ย่อมตกแตล่ กู ของผ้นู น้ั 2) กฎหมายลักษณะโจร เป็นกฎหมายของอยุธยา ซึ่งบัญญัติ เก่ียวกับการลักพา การลักทรัพย์ โดยเนื้อหาบางส่วนกาหนดว่า ประชาชนต้องช่วยจับคนร้ายด้วย ถ้าจับได้

4 ก็จะได้รางวัล แต่ผู้ใดวางเฉย หรือจับคนร้ายได้แล้วปล่อยไป หรือไม่ช่วยจับกุมให้ปรับไหมตามโทษ และของท่ีเสยี หายเพราะคนร้ายชงิ เท่าไหร่ ใหผ้ ู้นัน้ ใช้ท้ังสิ้น 2.3.2 กระบวนการพจิ ารณาคดี 1) การพิจารณาคดีของตุลาการ ตุลาการสอบสวนให้ได้ความจริง แล้วตัดสนิ ดว้ ยความเป็นธรรม 2) การถวายฎีกา ผู้ใดต้องการถวายฎีกาไปสั่นกระด่ิงที่ประตูพระราชวัง พระมหากษตั รยิ ์จะทรงรบั เรือ่ งและตัดสนิ ด้วยพระองคเ์ อง 2.4 ความเสือ่ มของอาณาจักรสโุ ขทัย 2.4.1 การแตกแยกภายใน 2.4.2 ความไมเ่ ข้มแข็งของพระมหากษตั ริย์ 2.4.3 การถกู ตดั เส้นทางการค้ากบั ตา่ งประเทศ 3. ความสัมพนั ธร์ ะหว่างประเทศสมัยสโุ ขทัย 3.1 ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งอาณาจกั รสุโขทยั กบั รฐั ใกลเ้ คยี ง 3.1.1 อาณาจักรล้านนา เม่ือพระยามังรายสร้างเมืองเชียงใหม่ก็ได้เชิญ พระสหายทั้งสองไปร่วมปรึกษาหารือ ซ่ึงเป็นการแสดงถึงความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ต่อมาสมัยพระมหาธรรมราชาท่ี 1 (ลิไทย) พระเจา้ กือนาแหง่ ล้านนาไดส้ ่งทตู มาอาราธนาพระเถระของสุโขทัยไปสืบพระพุทธศาสนาแบบลังกาวงศ์ท่ีล้านนา จงึ ทาให้ความสมั พนั ธ์แนน่ แฟ้นกนั 3.1.2 แควน้ พะเยา เนือ่ งจากพระยางาเมืองเป็นพระสหายของพ่อขุนรามคาแหงมหาราช อาณาจกั ร สุโขทยั กับแควน้ พะเยาจึงมคี วามสัมพนั ธ์ทด่ี ตี ่อกัน 3.1.3 เมืองน่าน เคยเป็นประเทศราชของสุโขทัยในสมัยพ่อขุนรามคาแหงมหาราช สุโขทยั และน่านได้ทาสญั ญาที่จะชว่ ยเหลอื กนั ไม่รุกรานต่อกัน สร้างความสัมพันธ์ทางเครือญาติ ความสัมพันธ์ส้ินสุดลง เมื่อสุโขทยั ถูกรวมกบั อยธุ ยา และน่านไปรวมกบั ล้านนา 3.1.4 เมืองนครศรีธรรมราช สมัยพ่อขุนรามคาแหงมหาราชสุโขทัยมีอานาจ ทางการเมืองเหนือนครศรีธรรมราช มีความสัมพันธ์ทางด้านกิจการทางพุทธศาสนา ความสัมพันธ์สิ้นสุดลง เมอ่ื สิ้นสมยั ของพ่อขุนรามคาแหงมหาราช 3.1.5 อาณาจักรมอญ มีอาณาเขตติดต่อกับสุโขทัย มีความสัมพันธ์ทางการเมือง ทางการค้า ทางวัฒนธรรม และทางพระพุทธศาสนา มีความสัมพันธ์ทางเครือญาติเกิดจากมะกะโท ราชบุตรเขย ของพ่อขุนรามคาแหงมหาราช ไดร้ ับพระราชทานนามวา่ เจา้ ฟา้ รว่ั เป็นกษตั รยิ ป์ กครองอาณาจกั รมอญ 3.1.6 อาณาจักรอยุธยา สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) สถาปนา อาณาจักรอยุธยาขึ้นใน พ.ศ.1893 ตรงกับสมัยของพระมหาธรรมราชที่ 1 (ลิไทย) แห่งสุโขทัย ต่อมาสุโขทัย ถูกผนวกเป็นส่วนหนึง่ ของอยธุ ยา

5 ความสัมพนั ธ์ทางเครือญาติครงั้ แรกระหวา่ งสโุ ขทัยกับอยธุ ยา 3.2 ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งอาณาจกั รสุโขทยั กบั รัฐทห่ี ่างไกลออกไป 3.2.1 ลังกา มีพระสงฆ์สุโขทัยไปศึกษาพระไตรปิฎกที่ศรีลังกา จึงได้รับเอา ความเชอ่ื ทางศาสนาบางประการของศรีลังกาเขา้ มา 3.2.2 จนี ใน พ.ศ. 1835 พอ่ ขนุ รามคาแหงมหาราชได้ส่งคณะทูตไปเจริญสัมพันธไมตรี สุโขทัยได้รับผลประโยชน์จากจีน เช่น ทาให้สินค้าจากสุโขทัยได้รับการยกเว้นภาษี และยังได้เรียนรู้วิธีการทา สังคโลกจากจีน จนสามารถนามาผลติ เป็นสินคา้ ส่งออกได้ 4. เศรษฐกจิ สมัยสุโขทยั 4.1 การเกษตร สุโขทัยมีการทานา ทาไร่ ทาสวน บริเวณ แม่น้าปิง แม่น้ายม และ แม่น้าน่าน สุโขทัยได้นาระบบชลประทานเข้ามาช่วยในการเกษตร นอกจากน้ียังมอบกรรมสิทธิ์ที่ดินให้กับ ราษฎรทาการเกษตร 4.2 การค้า 4.2.1 การค้าภายในประเทศ ชุมชนในสุโขทัยต้ังอยู่ตามลาน้า มีการค้าขาย โดยเส้นทางตอ่ ไปนี้ 1) ทางบก มที างเดินหรือถนนเชือ่ มระหวา่ งเมือง 2) ทางนา้ มีแม่น้าปิง แมน่ า้ ยม และแมน่ ้าน่าน ส่วนมากจะนยิ มทาการค้าทางบก เพราะมีความสะดวกกว่า ถนนพระร่วง มี 2 สาย คือ สายเหนอื จากสุโขทัยถงึ ศรีสชั นาลัย และสายใต้ จากกาแพงเพชรถงึ สโุ ขทัย 4.2.2 การค้ากับต่างประเทศ สมัยสุโขทัยมีการค้าขายกับ อินเดีย มลายู ญ่ีปุ่น จนี ชวา ลังกา อิหร่าน อาณาจักรสุโขทยั เปน็ ตลาดกลางขนถ่ายสินค้า เช่น เครื่องสังคโลก ผลิตทางการเกษตร และของป่า 4.3 การทาเคร่ืองสังคโลก การผลิตเครื่องสังคโลกในสุโขทัย มีการออกแบบลวดลายท่ีสวยงาม และพัฒนาจนเปน็ ผลผลิตท่ีได้รับความนิยมมาก ส่งออกไปยัง ญี่ปุ่น ชวา มลายู ฯลฯ

6 5. สงั คมสมยั สโุ ขทัย สงั คมสโุ ขทัยประกอบดว้ ยชนช้นั ตา่ ง ๆ ดงั น้ี 5.1 พระมหากษตั รยิ ์ 5.2 เจ้านายและขุนนาง 5.3 พระสงฆ์ พระมหากษัตรยิ ์ เจ้านายและขนุ นาง และพระสงฆ์ อยใู่ นชนชัน้ ปกครอง 5.4 ประชาชน 5.5 ทาส 6. ศลิ ปวฒั นธรรมสมยั สโุ ขทยั 6.1 ศาสนา พระพทุ ธศาสนาในสุโขทยั รบั มาจากทอี่ ื่น แบง่ เปน็ 3 ระยะ คอื 6.1.1 สมยั พ่อขนุ รามคาแหงมหาราช ทรงนมิ นตพ์ ระเถระจากนครศรีธรรมราช มาเผยแผพ่ ระพุทธศาสนานิกายเถรวาท 6.1.2 สมัยพระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไทย) มีพระพุทธศาสนาแบบลังกาวงศ์เก่า หรือรามญั วงศ์ จากมอญ 6.1.3 สมัยพระมหาธรรมราชาท่ี 4 (บรมปาล) นาคัมภีร์พระพุทธศาสนาแบบ ลงั กาวงศ์ใหม่จากลังกาเข้ามาเผยแผ่ 6.2 ศลิ ปะกรรม 6.2.1 ส ถ า ปั ต ย ก ร ร ม มี ค ว า ม ง ด ง า ม ต า ม แ บ บ อ ย่ า ง ข อ ง สุ โ ข ทั ย ซง่ึ มีลกั ษณะเฉพาะเปน็ ของตนเอง 1) เจดยี ท์ รงยอดดอกบวั ตมู หรือเจดีย์ทรงพมุ่ ขา้ วบิณฑ์ 2) เจดีย์ทรงกลมแบบลงั กา

7 3) เจดีย์แบบศรีวิชยั ที่ฐานทาเปน็ สเ่ี หล่ียมและองค์ระฆังสูง บางองค์ มีคูหาประดษิ ฐานพระพุทธรปู ด้วย ตอนบนเปน็ ทรงกลมแบบลังกา และมเี จดยี อ์ งคเ์ ล็ก ๆ ประกอบมมุ ท้งั ส่ี 6.2.2 ประตมิ ากรรม นยิ มหลอ่ พระพทุ ธรปู สาริดซึ่ง เป็นศลิ ปะแบบสโุ ขทยั 6.2.3 ภาพลายเส้น มีภาพจาหลักลายเส้นลงในแผ่นหินชนวนเป็นภาพชาดก พบท่ีวัดศรชี ุม อทุ ยานประวตั ิศาสตร์สโุ ขทยั

8 6.3 วรรณกรรม วรรณกรรมในสมยั สโุ ขทัยเขียนเป็นร้อยแก้ว เรอ่ื งท่สี าคญั ได้แก่ 6.3.1 จารึกหลกั ท่ี 1 ศิลาจารึกพอ่ ขุนรามคาแหง 6.3.2 ไตรภมู พิ ระร่วง หรือเตภมู กิ ถา

9 6.4 ขนบธรรมเนียมประเพณี ขนบธรรมเนียมประเพณีของสุโขทัยที่เป็นมรดกมาถึงปัจจุบัน ส่วนมากเกี่ยวกับ พระพทุ ธศาสนา และยังมีประเพณีท่ีรับมาจากศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เช่น พระราชพิธีราชาภิเษก พระราชพิธี จรดพระนงั คลั 7. ภูมปิ ัญญาไทยสมัยสุโขทยั ภมู ิปัญญาแบง่ เป็น 2 ระดบั คอื ภมู ิปัญญาชาวบา้ นกับภมู ปิ ัญญาไทย ภูมปิ ัญญาชาวบา้ นหรือภูมิปัญญาทอ้ งถ่ิน คือ สงิ่ ทชี่ าวบ้านคิดคน้ เพอ่ื แกป้ ญั หาการดาเนนิ ชวี ติ ภูมิปัญญาไทย คือ ความรู้ความสามารถของสว่ นรวม เป็นท่ยี อมรับระดบั ชาติ เชน่ ภาษาไทย 7.1 อกั ษรไทย ภูมปิ ญั ญาไทยสมยั สุโขทัยทีน่ ับว่ามคี วามสาคัญมาก ได้แก่การประดิษฐ์อักษรไทย ของพ่อขุนรามคาแหงมหาราชใน พ.ศ. 1826 ในสมัยพระมหาธรรมราชาท่ี 1 (ลิไทย) มีการเปลี่ยนแปลง ตาแหนง่ ของสระหลายตัวให้อยขู่ ้างบนและข้างล่างคล้ายกับอักษรเขมร โดยอาจมีสาเหตุมาจากคนไทยคุ้นเคย กับการวางรปู สระแบบเขมรหลงั จากพ่อขุนรามคาแหงมหาราชประดิษฐ์อักษรไทยข้ึนแล้ว ได้มีการทาจารึกพ่อ ขุนรามคาแหงโดยใช้อกั ษรไทย

10 7.2 การชลประทาน ระบบชลประทานทสี่ ุโขทัยนามาใชม้ หี ลายลกั ษณะ เช่น 7.2.1 เหมืองฝาย 7.2.2 ทานบ 7.2.3 สระนา้ และบอ่ นา้ 7.3 เคร่ืองสังคโลก เป็นช่ือเคร่ืองปั้นดินเผาเคลือบเนื้อละเอียด สันนิษฐานว่าได้รับ อิทธิพลจากเคร่ืองเคลือบของเขมร อันนัม (เวียดนาม) และจีน แต่นักวิชาการบางท่านเชื่อว่า การทาเครื่อง สังคโลกเป็นพฒั นาการดา้ นเทคนิคที่เกดิ ข้ึนเองในท้องถน่ิ ก่อนต้งั อาณาจกั รสุโขทัย แลว้ รบั เอาเทคนคิ จากจีนภายหลัง คาสาคัญ ขอมสบาดโขลญลาพง พระรว่ ง ศรสี ชั นาลยั สังคโลก พมุ่ ขา้ วบณิ ฑ์ แหล่งทีม่ าของเนอ้ื หา : สานักพมิ พ์วัฒนาพานชิ www.wpp.co.th


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook