Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 3_รายงานถอดบทเรียนCOVID-19_จังหวัด

3_รายงานถอดบทเรียนCOVID-19_จังหวัด

Description: 3_รายงานถอดบทเรียนCOVID-19_จังหวัด

Search

Read the Text Version

43 ส 4 สร้างสุขแบ่งปัน มีผู้เดินทางจากต่างถิ่นต่างแดน หรือกลุ่มเสี่ยงสูงเดินทางเข้ามา จงั หวัดสตลู จำเปน็ ต้องกักตัว ใหเ้ น้นเรื่องการสรา้ งสุข แบ่งปัน คอื คอยชว่ ยเหลอื ให้อาหารการกนิ ช่วยเป็นธุระ เพื่อไม่ให้ผู้ถูกกักตัวออกจากบ้าน หรือให้ผู้ถูกกักตัวอยู่ในสถานกักกันโรคในพื้นที่ (Local Quarantine : LQ) อยา่ งมคี วามสขุ พอท่จี ะดำรงชีวิตได้ ส 5 สามัคคีมีพลัง ช่วยกันเฝ้าระวังในชุมชน เป็นหูเป็นตา เป็นตาสับปะรด ช่วยดูว่า ใครมาจากต่างถน่ิ ต่างแดน ใหช้ ่วยกันสอดสอ่ งดแู ล แลว้ แจง้ เจา้ หนา้ ท่ีที่เก่ยี วขอ้ ง (2.8) Good HEALTH แกว้ ิกฤต COVID-19 สำนกั งานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติซ่ึงเป็นหน่วยงานประสานกลางในการขับเคล่ือน แผน “รวมพลังพลเมืองตื่นรู้ ช่วยกู้ภัยโควิด 19” ขอให้กระทรวงสาธารณสุขสนับสนุนให้คณะกรรมการพัฒนา คณุ ภาพชวี ิตระดับอำเภอดำเนินการ “รวมพลังพลเมืองต่ืนรู้ ชว่ ยกภู้ ยั โควดิ 19” ในช่วงเวลาของการแพร่ระบาด ของโรค COVID-19 ทุกพื้นที่ ให้ความสำคัญกับประเด็นการค้นหา เฝ้าระวัง ป้องกันโรค และลดความเสี่ยง การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 เปน็ ประเด็นการดำเนินการเปน็ ลำดบั แรก จังหวัดสุรินทร์นำแนวทางดังกล่ามาดำเนินการโดยใช้ชื่อว่า Good HEALTH แก้วิกฤต COVID-19 คนสุรินทร์ ฝ่าวิกฤต COVID–19 “ปฏิบัติการ 90 วัน คนสุรินทร์ ฝ่าวิกฤต COVID-19” โดยอาศัย กลไกความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในจังหวัด ได้แก่ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนร่วม วางแผน บูรณาการแผนงาน/โครงการที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดวิธีการป้องกันและแก้ไขปัญหาอันเกิดจาก โรคระบาดครอบคลุมทุกมิติ ภายใต้แนวคิด GOOD HEALTH เป็นกรอบสำหรับขับเคลื่อนการดำเนินงานให้เกิด ผลดี 6 ด้าน ดงั นี้ ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 1 ยกระดับการบริการ ด้านสาธารณสุข (H : Health Care) กลยุทธ์ท่ีสำคญั ได้แก่ ประชาสัมพันธเ์ พ่ือสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้องและ การปฏิบัติตัวในการป้องกันโรค เฝ้าระวังประชาชน กลุ่มเสี่ยงและสถานที่เสี่ยง การป้องกันและควบคุม การแพร่กระจายเชื้อ และการดูแลผู้ป่วย/ผู้ได้รับ ผลกระทบและการให้คำปรกึ ษา ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 2 ส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจในระดับพื้นที่ (E : Economics Problem Solving) กลยทุ ธ์ทสี่ ำคญั ได้แก่ พฒั นาและส่งเสริมการเกษตร พฒั นาและสง่ เสริม อุตสาหกรรม การค้า และบริการ ประเด็นยุทธศาสตรท์ ่ี 3 ส่งเสริมการปรับตวั เพ่ือการอยู่รอดอย่างยั่งยืน (A : Adaptation) กลยทุ ธ์ทสี่ ำคัญ ไดแ้ ก่ สร้างความมั่นคงทางอาหาร

44 ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 4 เพิ่มศักยภาพในการบังคับใช้กฎหมาย (L : Law Enforcement) กลยุทธ์ที่สำคัญ ได้แก่ สร้างการรับรู้/เข้าใจข้อกฎหมายให้แก่ประชาชนเพื่อยับยั้งและป้องกันการกระทำผิด กฎหมาย การปอ้ งกันและปราบปรามผู้กระทำความผิดและการติดตามและประเมินผลพฤติกรรมผู้กระทำความผิด ตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จังหวัดสรุ นิ ทร์ ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 5 ส่งเสริมการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการทำงาน (T : Technology) กลยุทธ์ที่สำคัญ ได้แก่ ส่งเสริมการพัฒนาและจัดทำเทคโนโลยีและนวัตกรรม ส่งเสริมการใช้ งานระบบเทคโนโลยี และพฒั นาระบบฐานข้อมูลกลางจังหวัด ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 6 ช่วยเหลือและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากมาตรการป้องกนั และแก้ไขปัญหา COVID-19 (H : Help and Support) กลยุทธ์ท่ีสำคัญ ได้แก่ การลดหนี้/ชะลอหนี้ และการ สงเคราะห์ผู้ได้รบั ผลกระทบ อย่างไรก็ตาม มาตรการป้องกันและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงตัวอย่างที่จังหวัดนำมาใช้เท่านั้น บางจังหวัดนำมาตรการที่เคยใช้ในสถานการณ์ การแพร่ระบาดครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2563 มาใช้อย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากสถานการณ์ในปี พ.ศ. 2564 มีความ แตกต่างจากปี พ.ศ. 2563 อย่างมาก ดังที่กล่าวแล้วข้างต้น การแพร่ระบาดในปี 2564 มีลักษณะเหมือน ดาวกระจาย การติดต่อมีลักษณะเป็นกลุ่มก้อน ผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการ ทำให้เกิดการแพร่ระบาดโดยไม่รู้ตัว การควบคุมโรคทำได้ค่อนข้างยาก ดังนั้น จึงเห็นได้ว่าหลายมาตรการได้รับการพัฒนาขึ้นมาใช้เพื่อรองรับ สถานการณ์ดังกล่าวใหส้ อดคล้องกับบริบทของสถานการณ์ที่เกิดข้นึ ในแต่ละจังหวดั เปน็ สำคัญ นอกจากน้ี การใช้ มาตรการใดมาตรการหนึ่งแต่เพียงอย่างเดียวไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องใช้ หลายมาตรการควบคู่กันไปจึงจะไดผ้ ลอย่างแทจ้ ริง จากการรายงานข้างตน้ ได้นำมาตรการท่ีมีความแตกต่างกันทาง สภาพทางภูมิศาสตร์ ความรุนแรงของสภาพปัญหา และภาวะเศรษฐกิจของจังหวัดมาเป็นตัวอย่างเท่านั้น เช่น จังหวัดพื้นที่ติดชายแดนจะมีความเข้มงวดกับการเฝ้าระวังพื้นที่ชายแดนเพิ่มขึ้น หรือจังหวัดท่องเที่ยวจะให้ ความสำคัญกับการเฝ้าระวัง ณ จุดเริ่มต้นของการเข้ามาของนักท่องเที่ยว เช่น สนามบิน เส้นทางการเดินทาง และสถานทท่ี อ่ งเท่ยี ว เป็นตน้ 2.1.3 การสอ่ื สารประชาสัมพันธ์ และการสรา้ งความรบั รู้ เขา้ ใจ การสื่อสารประชาสัมพันธ์ รวมทั้งการสร้างความรับรู้ความเข้าใจให้กับประชาชนในสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 นับเป็นหัวใจของการปฏิบัติงานประการหน่ึง การที่ประชาชน ไดร้ ับรู้ข้อมลู ข่าวสารท่ีถูกต้อง ทนั เวลา จะช่วยลดความตระหนก แตกต่ืน ทอ่ี าจเกดิ ข้นึ ได้ นอกจากนี้ การตอบโต้ ขา่ วลวงมคี วามจำเปน็ อย่างยิ่งในสภาพการณ์เช่นน้ี ทุกจังหวัดมีแนวทางและรูปแบบการสื่อสาร สร้างการรับรู้ เข้าใจที่ไม่แตกต่างกัน และโดยเฉพาะ ยุคสมัยทีเ่ ทคโนโลยมี ีความทันสมัย จงั หวดั ไดน้ ำเทคโนโลยีมาช่วยให้การประชาสัมพันธข์ ้อมูลขา่ วสารได้หลากหลาย ช่องทาง รวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์ และเข้าถึงประชาชนได้กว้างไกลยิ่งขึ้น ในการสื่อสารประชาสัมพันธ์สร้าง การรับรู้ เข้าใจ บางจังหวัดจะมีการแบ่งเนื้อหาข้อมูลข่าวสารตามช่วงเวลาของการเกิดเหตุ โดยแบ่งเป็น 3 ช่วง ได้แก่ (1) ก่อนเกิดเหตุการณ์ เป็นการสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ให้ข้อมูล ข้อควรปฏิบัติเพื่อเตรียมการป้องกัน เฝ้าระวังล่วงหน้า การให้ข้อมูลข้อมูลข่าวสารและติดตาม สถานการณ์ เกี่ยวกับเหตุวิกฤตที่เกิดขึ้นทั้งภายนอกประเทศ และภายในประเทศ (2) ช่วงระหว่างสถานการณ์ วิกฤตจากการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อโคโรนาไวรัส 2019 เป็นการให้ข้อมูลข่าวสารเบื้องต้นเกี่ยวกับเหตุการณ์

45 ข้อมูล ข้อเท็จจริง เกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งภายในและต่างประเทศ และ (3) หลังสถานการณ์วิกฤตจาก การแพรร่ ะบาดโรคติดเชื้อโคโรนาไวรสั 2019 เป็นการใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกับการใหค้ วามชว่ ยเหลือเยียวยาจากภาครัฐ ในรปู แบบต่าง ๆ บางจังหวัดอาจแบ่งตามกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ กลุ่มเป้าหมายภายใน ได้แก่ ข้าราชการ และกลุ่ม ภายนอก ได้แก่ กลุ่มผู้มีส่วนได้ ส่วนเสีย หรือบางจังหวัดแบ่งตามรูปแบบในการให้ข้อมูล อย่างไรก็ตาม รูปแบบ ในการประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้เข้าใจไม่มีความแตกต่างกัน ในที่นี้จะขอนำรูปแบบการประชาสัมพันธ์โดย แบง่ หลกั การสอื่ สาร 3 on ดังน้ี On Air : สร้างความรู้ความเข้าใจผ่านสถานีวิทยุในพืน้ ท่ี วิทยุกระจายเสียง วิทยุชุมชน เสียงตามสาย หอกระจายขา่ ว On Line : สร้างความรู้ความเข้าใจทางสือ่ สังคม (Social Media) อาทิ Facebook Page เว็บไซต์ สื่อภาพ Info Graphic คลิปวิดีโอ กลุ่มไลน์ การเปิดช่องทางรับฟังความคิดเห็นของประชาชน สายตรงโควิด สายดว่ น On Ground : สื่อสิ่งพิมพ์ ไวนิล แผ่นพับ ป้าย/คัตเอาท์ประชาสัมพันธ์ รถแห่ประชาสัมพันธ์ กลไกของฝ่ายปกครองในพ้ืนที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้าน บุคลากรสาธารณสขุ (เจ้าหน้าที่ สสอ./ รพ.สต.) อาสาสมัครสาธารณสุข และกลุ่มอาสาสมัครต่าง ๆ และศูนย์รับเรื่อง 24 ชม. การจัดกิจกรรมรณรงค์ กิจกรรมพิเศษ งานมหกรรมหรืองานบุญประเพณี งานประจำปี อย่างไรก็ตาม ในบางจังหวัดให้ขอ้ มูลในช่องทางและรูปแบบที่มลี กั ษณะพิเศษเฉพาะของพื้นที่ เช่น จังหวัดระนองและจงั หวดั สมุทรสาคร มีกลุ่มแรงงานขา้ มชาติเป็นกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญควบคู่ไปกบั ประชาชนใน จังหวัด การให้ความรู้ ความเข้าใจ และทักษะในการป้องกันและควบคุมโรค มีการอบรมอาสาสมัครสาธารณสุข ต่างด้าวและผลิตส่ือในการใหค้ วามรู้และประชาสัมพันธ์ 2 ภาษา อาทิ แผ่นพับ สปอตวิทยุ บิลบอร์ด รถกระจาย เสียง ประชาสมั พันธห์ อกระจายขา่ วในชุมชนที่พักอาศัยของแรงงานขา้ มชาติ หรอื ในการประชาสัมพันธ์กลุ่มคนใน ภาคใตท้ ่ปี ระชาชนส่วนใหญน่ ับถอื ศาสนาอสิ ลาม จงั หวัดนราธวิ าสมีการประชาสมั พันธใ์ นรูปของวิดีโอผนู้ ำศาสนา พทุ ธและอสิ ลามใหค้ วามรเู้ รือ่ งศาสนากับโควิด และภาษาท่ใี ชต้ อ้ งเหมาะสมกับกล่มุ เป้าหมายด้วย เป็นตน้ 2.1.4 นวัตกรรมเพ่ือสนับสนุนการปฏิบตั ิงานและการใหบ้ ริการของจงั หวัด ในยุคปัจจุบันที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว เมื่อมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โรค COVID–19 ทม่ี คี วามเสี่ยงในการติดต่อได้ง่าย ดังน้นั หลายจังหวดั จึงได้พัฒนานวัตกรรมข้ึนมาเพ่ือสนับสนุน การปฏบิ ตั ิงานรวมทง้ั การให้บรกิ ารประชาชน ในทน่ี ้ีขอยกตัวอย่างในการดำเนินงานของบางจงั หวดั ดังนี้ (1) นวัตกรรมเพ่ือสนบั สนนุ การปฏิบตั งิ าน (1.1) หุน่ ยนตช์ ว่ ยในการส่งอาหาร และเวชภัณฑใ์ นโรงพยาบาล จังหวัดมหาสารคาม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ประดิษฐ์หุ่นยนต์ ส่งของและฆ่าเชื้อโรค (Delivery and UV Sterilization Robot) ด้วยแสงอัลตราไวโอเลต เพื่อลดความเสี่ยง ในการติดเชื้อด้วยรังสียูวีซี หุ่นยนต์ฆ่าเชื้อด้วยแสงอัลตราไวโอเลตเป็นแบบบังคับระยะไกลด้วยรีโมทบังคับ สามารถควบคุมการเคลอื่ นที่ การเปดิ ปิดยวู ีซี โดยมหี ุ่นยนตอ์ ยู่ 2 ชนิดคือ หุ่นยนตฆ์ ่าเช้ือโรคบนพื้น และหุ่นยนต์ ฆ่าเชื้อโรคบนผนัง โดยแสงยูวีซีจะฉายเข้าพื้นหรือผนังเท่านั้น เพื่อไม่ให้ผู้ใช้งานหรือบุคคลใกล้เคียงสัมผัสแสง โดยตรง เนื่องจากแสงยูวีซีเป็นอันตรายกับมนุษย์เมื่อมีการสัมผัสโดยตรง เป็นหุ่นยนต์ฆ่าเชื้อโรคเฉพาะจุด สามารถใช้งานในขณะท่ีมคี นอยู่ในพื้นท่ไี ด้

46 “น้องกระติ๊บ” หุ่นยนต์แบบบังคับระยะไกลไร้สายผ่านรีโมท บังคับและมองภาพผ่านกล้อง สามารถส่งอาหาร ส่งยา หรือเข็น รถเข็นเพื่อส่งของใช้ในชีวิตประจำวัน ให้ผู้ติดเชื้อหรือผู้เฝ้าระวัง มีระบบฆ่าเชื้อตัวเองและสิ่งของรอบข้างด้วยรังสี UV มอบให้ โรงพยาบาลสุทธาเวชเพื่อใช้ในการส่งอาหารและยาให้ผู้ป่วยเพื่อ สนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ ในการชว่ ยส่งของ ลดความเส่ียง ในการติดเช้ือ จังหวัดกาฬสินธุ์ ประดิษฐ์หุน่ ยนต์ที่มีชื่อว่าน้องไออุน่ เป็นหุ่นยนต์ขนส่งเวชภัณฑ์ เป็นผลงาน สิ่งประดิษฐ์ในโครงการจิตอาสาสร้างสิ่งประดิษฐ์ให้กับบุคลากรทางการแพทย์และหน่วยงานเพื่อยับยั้งเชื้อ COVID-19 หุ่นยนต์ “น้องไออุ่น” ทำหน้าที่ขนส่งเวชภัณฑ์ เพื่อ ปอ้ งกนั การสัมผัสโดยตรงกับผ้ปู ว่ ยท่เี สีย่ งต่อการตดิ เชือ้ หรือผูป้ ่วย ทม่ี เี ชอื้ ปอ้ งกนั ไม่ใหบ้ คุ ลากรทางการแพทยเ์ ขา้ ใกลบ้ ผู้ป่วยทเี่ สีย่ ง ต่อการติดเชื้อหรือผู้ป่วยที่มีเชื้อ เพื่อความสะดวกในการขนส่ง ของเวชภัณฑ์ “น้องไออนุ่ 1” รนุ่ แรก จำนวน 1 ตวั และ “นอ้ งไอ อุ่น 2” จำนวน 2 ตัว ซง่ึ ไดบ้ รจิ าคให้โรงพยาบาลที่มีผู้ป่วยโรคติด เชื้อรุนแรง ได้แก่ โรงพยาบาลยางตลาด โรงพยาบาลกมลาไสย จังหวัดกาฬสนิ ธุ์ และโรงพยาบาลสงฆ์ จังหวัดสกลนคร วิทยาลัยเทคนิคสกลนคร ประดิษฐ์ หุ่นยนตส์ ง่ ยาและอาหารใหก้ บั ผปู้ ว่ ยที่ต้องอยูห่ ้องปลอดเชื้อ ในโรงพยาบาลสกลนคร เพื่อลดการใช้ชุดอุปกรณ์ป้องกัน ภัยส่วนบุคคล (PPE) ที่มีจำนวนจำกัดและใช้ได้เพียงครั้ง เดียวก็ต้องทิ้งไป หนุ่ ยนตน์ ี้ควบคุมด้วยจอยสต๊ิก (Joystick) จังหวัดยะลา (โรงพยาบาลรามัน) จุดเริ่มต้นของแนวคิดการพัฒนาหุ่นยนต์เกิดจากในพื้นที่ 3 จังหวดั ชายแดนภาคใต้มีการระบาดของโรค COVID-19 คอ่ นขา้ งมาก หากเทยี บกบั ภมู ิภาคอ่ืนของประเทศไทย และปรากฏวา่ มบี ุคลากรทางการแพทยใ์ นสามจังหวัดชายแดนภาคใตต้ ิดเช้ือ COVID-19 จำนวนหนงึ่ ซงึ่ ส่งผลต่อ กำลงั ใจของแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ในการปฏิบัติงานของโรงพยาบาลรามัน ประกอบกับโรงพยาบาลรามัน เป็นศนู ยก์ ลางของการสง่ ต่อผู้ป่วยยนื ยนั โรค COVID-19 จากโรงพยาบาลใกลเ้ คยี ง ได้แก่ โรงพยาบาลธารโต และ โรงพยาบาลกรงปินัง จึงเห็นว่าโรงพยาบาลรามันเป็นพืน้ ที่มีความเสี่ยงสูง และเพื่อมิให้บุคลากรทางการแพทย์มี ความเสี่ยงในการดูแลรักษาผู้ป่วย ทีมช่างเทคนิคของโรงพยาบาลร่วมกับโปรแกรมเมอร์ของโรงพยาบาลจึงได้ พฒั นาห่นุ ยนต์ขนึ้ มาเพ่อื ชว่ ยในการปฏบิ ัติงานของบคุ ลากรทางการแพทย์

47 โรงพยาบาลรามัน จังหวัดยะลา ได้ใช้เทคโนโลยีง่าย ๆ ที่มีอยู่ในชีวิตประจำวัน และอุปกรณ์ที่มีอยู่แล้วใน โรงพยาบาล มาประยุกต์ทำเป็นหุ่นยนต์ เพื่อช่วยส่ง อาหาร ยา เสื้อผ้า หน้ากากอนามัย รวมถึงสามารถ พูดคุยโต้ตอบกับผู้ป่วยได้ด้วย โดยหลักของหุ่นยนต์คอื เป็นรถบังคับวิทยุธรรมดานำมาประยุกต์ใช้กับรีโมท คอนโทรล ให้สามารถควบคุมอุปกรณ์ไปในทิศทางที่ ตอ้ งการได้ (1.2) การนำอากาศยานไร้คนขบั มาใชใ้ นการสำรวจพ้นื ท่เี สย่ี ง จังหวัดมุกดาหาร มีการจัดตั้งชุดปฏิบัติการเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 โดยใช้อากาศยานไร้คนขับเข้าไปสำรวจพื้นที่เสี่ยง สถานที่ชุมนุมชน (สถานที่ท่องเที่ยว ตลาด พื้นที่กักกันตัว หมบู่ า้ น/ชุมชน สวนสาธารณะ เป็นตน้ ) หรอื พ้นื ที่ทีไ่ ด้รบั การร้องขอให้เข้าไปตรวจสอบตามมาตรการ โดยมีการนำ ภาพเคลื่อนไหวทางอากาศมาวิเคราะห์สถานการณ์เพื่อสั่งการ ณ ศูนย์บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ของจงั หวัด ด้วยวิธีการดังกลา่ ว นอกจากช่วยลดความเสย่ี งให้เจ้าหน้าที่ไม่ต้องเข้าพ้ืนท่ีท่ีตรวจพบการแพร่ระบาด โดยตรงแล้ว ยงั สามารถนำภาพเคล่อื นไหวทางอากาศมาใชเ้ ป็นข้อมลู ในการวเิ คราะหส์ ถานการณเ์ พื่อปรับเปล่ียน มาตรการควบคุมและป้องกันโรคของจังหวัดได้ทันท่วงที อีกทั้งยังสามารถใช้ประโยชน์จากอากาศ ยานไร้คนขับ ในการบินสำรวจภูมิประเทศเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ได้อีกด้วย ทำให้ประชาชนมีช่องทางขอ ความช่วยเหลือจากภาครัฐที่สะดวกยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ฐานข้อมูลจากระบบต่าง ๆ มาบูรณาการ เพ่ือใหค้ วามชว่ ยเหลือประชาชนทไี่ ดร้ ับความเดอื ดรอ้ นเร่งดว่ นได้อยา่ งทว่ั ถงึ และไมซ่ ำ้ ซอ้ น (1.3) การใช้กลอ้ งวงจรปิดตรวจสอบการดำเนนิ การตามมาตรการ จงั หวัดมุกดาหาร นำระบบการลงทะเบียนลว่ งหน้าผ่านเวบ็ ไซต์เพ่ือให้บริการประชาชน ทั่วไปที่ต้องเดินทางเข้า-ออกจังหวัดมุกดาหาร โดยใช้ในการตรวจสอบการเดินทางในราชอาณาจักร ทำให้สามารถ จัดระเบียบจำนวนบุคคลที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรให้สอดคล้องกับความสามารถของเจ้าหน้าที่ในการ คดั กรอง และการจัดสถานที่ไว้แยกกัก กกั กัน หรือคุมไว้สังเกตสำหรับผู้เดนิ ทางเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งจะช่วย อำนวยความสะดวกในการผ่านด่านคัดกรองได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ ยังใช้ระบบกล้องวงจรปิด ณ ด่านตรวจหลัก (ช่องทางเข้า-ออกจังหวัดมุกดาหาร) โดยเชื่อมโยงระบบกับศูนย์บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินของอำเภอ และจังหวัด รวมถึงติดตั้งในอุปกรณ์เคลื่อนที่ของเจ้าพนักงานที่มีอำนาจหน้าท่ีเกี่ยวข้อง ผู้ปฏิบัติงานสามารถ ตรวจสอบขอ้ มลู ย้อนหลังหากเกดิ การไม่ปฏบิ ัติตามมาตรการทีภ่ าครัฐกำหนด

48 (1.4) การจดั ต้ังอาสาสมัครสาธารณสขุ ต่างด้าว อาสาสมัครสาธารณสุขต่างดา้ ว (อสต.) เป็นกลไกที่มีบทบาทสำคญั ในช่วงของการแพร่ ระบาดของโรค COVID-19 โดยทำหน้าท่ีหลักในการดูแลสุขอนามัยและสาธารณสุขในพื้นที่แรงงานข้ามชาติ ช่วย ควบคมุ ป้องกัน คัดกรอง และใหค้ วามรู้แก่กล่มุ คนข้ามชาติ และแรงงานต่างด้าว ไดเ้ ป็นอย่างดี นอกจากน้ี อสต. ยังทำหน้าท่ีส่ือสาร สร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับโรค การป้องกันตัว การดำเนินตามมาตรการที่ทางการ กำหนด รวมทง้ั เป็นล่ามในการสอื่ สารระหว่างเจ้าหนา้ ทส่ี าธารณสุขและกลุ่มแรงงานต่างด้าว นอกจากน้ี ข้อดีของ การมี อสต. คือ การได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากแรงงานต่างด้าวด้วยกัน โดยจังหวัดที่ให้ความสำคัญกับ อสต. ได้แก่ จงั หวดั สมทุ รสาคร ตาก ระนอง และภูเก็ต จากความสำคัญของ อสต. นี้เอง ทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครกำหนดให้ ทุกโรงงานท่ีมีการจ้างแรงงานต่างด้าว ตอ้ งมี อสต. ในสัดส่วน 1 คน ต่อแรงงานตา่ งด้าวไมเ่ กิน 100 คน เพื่อเป็น ตัวแทนดูแลหรือติดต่อประสานงานสุขภาพในแรงงานต่างด้าว นอกจากน้ี โรงพยาบาลจังหวัดสมุทรสาครได้ พัฒนาแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้ อสต. สื่อสารข้อมูลจากการลงพื้นที่ให้โรงพยาบาลทราบ (รายงานผู้สงสัย COVID-19 ผ่าน APP พ้นภัย และ APP อสต.ออนไลน์) โดยอาสาสมัครพิมพ์รายงานผล เปน็ ภาษาพม่า และระบบจะแปลให้เปน็ ภาษาไทยหรอื ภาษาอังกฤษเพื่ออ่านผลด้วย (1.5) การพฒั นาระบบคดั กรอง เฝ้าระวัง และติดตามกลุม่ เสยี่ ง จังหวัดได้พัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อช่วยในการปฏิบัติงานด้านสาธารณสุข อาทิ ระบบ ตดิ ตามตรวจสอบประวัติผูท้ ี่เดนิ ทางเขา้ -ออกจังหวัด เพ่ือเปน็ ฐานข้อมูล และระบบสารสนเทศในการป้องกันและ ควบคุมการแพร่กระจายโรค COVID-19 ทำใหล้ ดเวลาการทำงานของเจ้าหน้าท่ีที่อยู่ทีจ่ ุดตรวจคัดกรอง และลดเวลา การรอคอยของประชาชน ดงั ตวั อย่างดงั น้ี ระบบติดตามตรวจสอบประวัติ และเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยง จังหวัดนครพนม (NPM– IMMIG Control) ติดตามผู้ที่เดินทางเข้า-ออกจังหวัด จังหวัดสุรินทร์ พัฒนาโปรแกรม Surin COVID-19 Alert (www.covidalert.net) เพื่อใช้ติดตามและเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงทั้งหมดที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัด จังหวัด ชัยภูมิ พัฒนากระบวนการบันทึกข้อมูลและติดตามกลุ่มเสี่ยง COVID-19 ด้วย QR CODE จังหวัดอุตรดิตถ์ พัฒนาระบบฐานข้อมูลออนไลน์ UTTARADIT COVID19 ONLINE เพื่อใช้ในการจัดเก็บ รวบรวม และวิเคราะห์ ข้อมูลการเฝ้าระวังประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่เดินทางเข้าจังหวัด จังหวัดเพชรบุรี ใช้แอปพลิเคชัน DDC care ในการติดตามกลุ่มเสี่ยงสูงในการกักตัวที่บ้านให้ครบ 14 วัน และใช้ลิงก์ในการบันทึกข้อมูลโดย อสม. และ รพ.สต. นำ QR Code ไปให้กลุ่มเสี่ยงสูงสแกน เพื่อติดตามการกักตัวตลอด 14 วัน จังหวัดยะลา ใช้แอปพลิเคชนั “YALA SAFE ALEART” ลงทะเบียนรวบรวม ประวัตกิ ารเดนิ ทางของบุคคลท่เี ขา้ มาในพ้นื ที่ เปน็ ตน้ ระบบคัดกรองและติดตามผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง เช่น จังหวัดนครพนมพัฒนา แอปพลิเคชั่น Line โดยใช้ชื่อว่า NPM COVID-19 สำหรับบันทึกข้อมูลใบอนุญาตการเข้า-ออกจังหวัด เพื่อ อำนวยความสะดวกในการสืบค้น และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ได้มากยิ่งขึ้น จังหวัดตรัง ใช้โปรแกรม Trang Healthy Passport สำหรับติดตามผู้เดินทางจากพื้นที่เสี่ยงเข้ามาในจังหวัด จังหวัดชลบุรี นำโปรแกรม Thai QM บันทึกข้อมูลติดตามเฝ้าระวังผูเ้ ดินทางจากพื้นทีเ่ ส่ียงหรือผูผ้ ่านการกักกันจากนอกพื้นที่ในการเข้ามา ในพื้นทช่ี ุมชน/หมูบ่ ้าน จังหวดั ยโสธรพัฒนาระบบรายงานการเฝ้าระวังและคดั กรองผู้มาจากพ้ืนที่เสีย่ งท้ังในชุมชน และในสถานบริการผ่านหนา้ เว็บไซต์ http://203.157.181.13/cdyaso/ เปน็ ต้น

49 (1.6) การพฒั นาระบบฐานข้อมลู เพ่อื สนับสนุนการปฏบิ ตั งิ านและการตดั สนิ ใจ ในปงี บประมาณ พ.ศ. 2563 มหี ลายจงั หวัดพฒั นาระบบฐานขอ้ มลู เพอ่ื สนบั สนนุ ในการ ปฏิบัติงาน และเพื่อใช้ประกอบการตัดสินในการกำหนดมาตรการต่าง ๆ เช่น จังหวัดระนองจัดทำฐานข้อมูล แรงงานต่างด้าวด้วยระบบ IT เพื่อใช้ในการติดตามแรงงานต่างด้าวในจังหวัดระนอง จังหวัดชุมพรจัดทำ Chumphon COVID-19 Data Center โดยนำฐานข้อมูลที่ได้จากการบูรณาการทั้งจังหวัดเป็นฐานเดียวมาใช้ ในการกำหนดจุดเสี่ยง และกลุ่มเสี่ยง ดำเนินการกักกัน ป้องกัน ควบคุมโรค COVID-19 ได้ในเวลาอันจำกัด และมีประสิทธิภาพ จังหวัดสมุทรสาครนำระบบการพยากรณ์ตามหลักระบาดวิทยาคาดการณ์จํานวนผู้ติดเช้ือ รายใหม่ของแต่ละวัน ซึ่งได้รับการรายงานในสถานการณ์จริงมาคํานวณโปรแกรมเพื่อจําลองสถานการณ์ และ คาดการณ์จํานวนผู้ติดเชื้อในอนาคต เพื่อประเมินสถานการณ์ และกําหนดมาตรการที่จําเป็นในการควบคุม การระบาด และลดอตั ราการเสยี ชวี ิตของประชาชน ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 มีการจัดทำแผนบริหารจัดการวัคซีน โดยนำข้อมูล การจองฉีดวัคซีนของประชาชนจากแหลง่ ต่าง ๆ และจำนวนวคั ซีนท่ีได้รับจัดสรรให้ประชาชนกลุ่มเส่ียงมาวางแผน การบริหารจัดการฉีดวัคซีนท่ีทั่วถึงและเป็นธรรม นอกจากนี้ มีการจัดทำฐานข้อมูลที่เกี่ยวกับการแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยประสานรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ เว็บไซต์ของจังหวัดเพื่อเป็น แหล่งข้อมูลในการแลกเปลี่ยนในเรื่องการป้องกัน สกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทั้งภายใน และภายนอกพื้นที่จังหวัด เพื่อบูรณาการข้อมูลผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทั้งด้านการวินิจฉัยโรค (Co-Lab) ด้านการรักษาโรค ด้านการควบคมุ ป้องกันโรคให้มีประสิทธิภาพ ลดภาระให้กับบุคลากร และสามารถ เชื่อมโยงข้อมูลไปทุกมิติ เช่น จังหวัดกาญจนบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา เชียงใหม่ พะเยา กำแพงเพชร ขอนแก่น นครพนม ชุมพร เป็นตน้ (1.7) การบูรณาการการทำงานระหวา่ งหนว่ ยงาน จังหวัดมีการปรับกระบวนการทำงานในรูปแบบความร่วมมือ/การทำงานร่วมกันกับ ทุกภาคสว่ นของจังหวัด เช่น ระหวา่ งภาครัฐด้วยกัน (สว่ นราชการ จงั หวัด และ อปท.) ระหว่างภาครฐั ภาคเอกชน ภาคประชาสงั คม หรือสถาบันการศึกษา หรือการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายของหนว่ ยงานในการพัฒนาในพื้นท่ี เช่น จังหวัด อปท. ทำให้การใช้ทรัพยากรที่มอี ยู่ในการทำงานรว่ มกนั ภายในจังหวัดให้มปี ระสิทธิภาพสูงสุด การบูรณาการดังกล่าวมีหลายรูปแบบ เช่น การระดมสรรพกำลังจากหน่วยงานต่าง ๆ มาปฏิบตั งิ านร่วมกนั (การตงั้ ดา่ นควบคมุ คนตา่ งพน้ื ทเี่ ดินทางเข้ามาในจังหวัด การตง้ั จุดคดั กรอง การตรวจเชงิ รุก การเฝา้ ระวงั ในพ้นื ท่ีเสี่ยง แนวชายแดน สนามบิน สถานีขนส่งรถโดยสารประจำทาง และสถานรี ถไฟ เปน็ ตน้ โดย บูรณาการการทำงานของทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ สาธาธารณสุข อปท. ภาคเอกชน รวมทั้งประชาชนที่เข้าร่วม เป็นจิตอาสา) การบรู ณาการงบประมาณ และการใชท้ รัพยากรรว่ มกัน เป็นต้น (1.8) การปรับวธิ กี ารปฏบิ ตั ิงานภายใน นอกจากการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานโดยปฏบิ ตั ิงานทบี่ ้าน หรือทำงานเหลื่อมเวลา สลับวันทำงานแล้ว จังหวัดได้นำเทคโนโลยีสื่อสารทางไกลผ่านระบบต่าง ๆ เช่น VDO Conference, Zoom Meeting, Microsoft Team, Google Meet, Cisco Wedex Meeting และYealink Meeting เป็นต้น มาใช้ ในการประชมุ ร่วมกับหนว่ ยงานทั้งภายในและภายนอก เพอ่ื ติดตาม เตรยี มความพรอ้ มในการเผชิญเหตุและรับมือ กับสถานการณ์ การปอ้ งกนั การสกดั กน้ั การแพร่ระบาด การรักษา การส่งตอ่ และการบริหารจัดการโรงพยาบาล เป็นตน้

50 (2) การพัฒนานวัตกรรมในการใหบ้ ริการ (2.1) การปรบั เปล่ียนการบริการภาครัฐให้เปน็ บริการทางอิเลก็ ทรอนิกส์ (e-Service) จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ภาครัฐต้องปรับบทบาทในด้าน การให้บริการโดยนำเทคโนโลยมี าปรับใช้เพือ่ ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการได้สะดวก ง่ายยิ่งขึ้น รวมทั้งเพอื่ ลดความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการเดินทางมารับบริการที่หน่วยงาน หลายจังหวัดจึงมีการให้บริการด้วยระบบ อิเล็กทรอนิกส์ (e-Service) เช่น จังหวัดเชียงราย แพร่ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร นครสวรรค์ ขอนแกน่ นครพนม เพชรบุรี กระบี่ ตรัง ชยั นาท ฉะเชิงเทรา ชลบรุ ี ระยอง และตราด เปน็ ต้น ตัวอย่างงานบริการ e-Service ที่เปิดให้บริการ เช่น การขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน มาตรา 40 การข้นึ ทะเบยี นผ้วู า่ งงาน การขอรบั เงนิ เยียวยา ระบบการยืน่ คำรอ้ งขอรับสิทธก์ิ ารไดร้ บั เงินช่วยเหลือ ระบบคน้ หางาน (Smart Job Center) การขอใบอนญุ าตทำงานของคนต่างดา้ ว การคน้ หารปู แปลงทด่ี ิน การย่ืน จองคิวจดทะเบียน/จองควิ รังวัดที่ดิน e-QLands การชำระค่าไฟฟา้ และการขอใช้ไฟฟ้า เป็นต้น โดยงานบริการ ข้างตน้ เป็นการให้บริการ e-Service ทีส่ ่วนราชการส่วนกลางได้พัฒนาขน้ึ มาใช้ทัว่ ประเทศ ในช่วงของสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 จังหวัดได้นำระบบการให้บริการ e-Service มาใช้เพื่ออำนวยความสะดวก แก่ประชาชน และลดความเสีย่ งในการมารับบริการด้วย (2.2) การให้บรกิ ารทางการแพทย์ออนไลน์ จังหวัดนำโปรแกรม Zoom, Video Call, Video Conference มาใช้ในการสื่อสาร แบบเห็นหน้าหรือท่าทางของผู้ป่วย และผู้ป่วยสามารถโต้ตอบกับแพทย์และทีมงานของโรงพยาบาลได้ ทำให้ได้ ข้อมูลที่ชัดเจน ขณะเดียวกันก็ช่วยลดภาระและลดความกังวลของเจ้าหน้าที่ โดยไม่ต้องเข้าไปสัมผัสใกล้ชิด โดยตรงกับตัวผปู้ ่วย ซงึ่ มโี อกาสสงู ท่ีจะตดิ เชื้อ เช่น จังหวดั สงิ หบ์ ุรี ปราจนี บรุ ี ประจวบคีรีขนั ธ์ อำนาจเจริญ ตรัง และยะลา เป็นต้น นอกจากนี้ จงั หวัดนครนายกยังใช้ในการตรวจติดตามพฒั นาการเด็ก หากพบเด็กมีพัฒนาการ ล่าช้า เจ้าหน้าที่จะลงเยี่ยมบ้านเพื่อให้คำแนะนำแก่มารดาหรือผู้เลี้ยงดูเพื่อกระตุ้นพัฒนาการ สำหรับคลินิก สุขภาพเด็ก ปรับระบบการเยี่ยมบ้านของผู้ดูแล (Care Giver) โดยใช้แอปพลิเคชันไลน์ และวิดีโอคอลเพื่อให้ ความรู้และคำแนะนำแกญ่ าติในการดแู ลผสู้ งู อายุ เปน็ ต้น จงั หวดั นนทบรุ ีพัฒนาระบบเอสซีจอี อนไลน์คลินกิ (SCG Online Clinic) เพือ่ ประเมิน ความเสี่ยงหรือความรุนแรงผ่านวิดโี อคอล และจองคิวเพื่อเข้ารับการตรวจ หากตรวจแล้วพบว่าเป็นผูท้ ี่มีความเส่ยี ง หรือป่วยรุนแรงก็จะมีการเชื่อมต่อการรักษาตัวกับโรงพยาบาลใกล้บ้านที่เลือกรับบริการได้ทันที นอกจากน้ี จังหวัดนนทบุรีพัฒนาระบบฝากครรภ์ออนไลน์เป็นแอปพลิเคชันที่ใช้ดูแลเด็กและผู้หญิงโดยเฉพาะผู้หญิง ตั้งครรภ์ เพื่อให้เข้าถึงระบบการบริการของรัฐได้มากที่สุด โรงพยาบาลที่ได้รับเลือกการฝากครรภ์จะจัดเตรียม ช่องทางพิเศษในการนัดหมายเข้าฝากครรภ์และพัฒนาระบบเวชระเบียน และนัดหมายออนไลน์ เป็นการ ให้บริการนัดหมายผู้ป่วยด้วยระบบออนไลน์ของสถานบริการสุขภาพของรัฐ เพื่อลดความแออัดของผู้ป่วย ในโรงพยาบาลและเพิ่มความสะดวกแก่ประชาชนผมู้ ารับบริการ ประชาชนสามารถลงทะเบยี นจัดทำเวชระเบียน ออนไลน์และนัดหมายโดยเลือกโรงพยาบาลของรัฐ แผนกที่ต้องการตรวจและแพทย์เพื่อเข้ารับบริการตามท่ี นัดหมายได้ การเลือกโรงพยาบาลและแพทย์สามารถทำได้เมื่อระบบแจ้งจำนวนผู้รับบริการที่แพทย์แต่ละคน จะรับไดใ้ นแตล่ ะวัน ซง่ึ ระบบจะมีการตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่ประจำแผนกว่าทำการนัดหมายเสร็จเรียบร้อยแล้ว และจะแจ้งผลการนัดหมายเป็นไทม์ไลน์และมี QR Code ให้กับผู้ป่วยซึ่งสามารถนำไปแจ้งเจ้าหน้าที่ในวันที่ไป โรงพยาบาลได้

51 (2.3) การบริหารจดั การผู้ปว่ ย จากสถานการณ์การแพร่ระบาดที่มีความรุนแรง จำนวนผู้ติดเชื้อมีเป็นจำนวนมาก ขณะที่ระบบสาธารณสขุ ที่จะรองรบั ได้มจี ำนวนจำกัด ดังนั้น จังหวัดจึงตอ้ งพัฒนาระบบการบริหารจัดการผู้ปว่ ย เตยี งในการรักษา เพ่ือจัดลำดบั ความสำคัญของผู้ปว่ ยในการเข้ารับการรักษา เช่น จังหวัดศรสี ะเกษพัฒนาระบบ การรับส่งต่อผู้ป่วยผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (e-Refer) เป็นโปรแกรมที่ใช้สื่อสารข้อมูลการส่งต่อผู้ป่วย ทั้งหมดในจงั หวดั ทำให้คนไข้ในระบบสง่ ต่อได้รับการดูแลอยา่ งดี และพัฒนาโปรแกรมการสง่ กลับผูป้ ่วย (Bed Sharing) โดยแสดงอัตราการครองเตียงของทุกโรงพยาบาลเพื่อช่วยบริหารจัดการระบบในการส่งกลับผู้ป่วย Intermediate Care ไปรับการรกั ษาที่โรงพยาบาลชุมชนใกล้บา้ น ชว่ ยความแออัด กระจายเตยี งการรกั ษาผู้ป่วย จังหวัดสมุทรปราการพัฒนาโปรแกรมสำเร็จรูประบบการจัดหาเตียงผู้ป่วย COVID–19 อำนวยความสะดวก ในการจองเตียงของผู้รอคอยเตียงที่บ้าน และเจ้าหน้าที่สาธารณสขุ ในการส่งต่อผู้ติดเช้ือไปรบั การรักษาพยาบาล ทถี่ กู ตอ้ ง เป็นตน้ (2.4) การจองฉดี วคั ซีน ทุกจังหวัดตระหนักถึงความสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนได้เข้ารับ การฉดี วคั ซนี อย่างทั่วถงึ และเปน็ ธรรมในการสร้างภูมิคุ้มกันและลดอาการเจบ็ ป่วยทร่ี นุ แรงและเสียชีวิตได้ จังหวดั ได้พัฒนาระบบการจองฉีดวัคซีนทั้งการจองผ่านระบบและการจองผ่านโรงพยาบาลส่งเสริมสุ ขภาพตำบล (รพ.สต.) และ อสม. กำนัน ผู้ใหญ่บา้ น ตวั อยา่ งของการจองฉดี วัคซนี ในระบบ เชน่ จังหวัดสมุทรปราการ พัฒนาโปรแกรมสำเร็จรูปการจองวัคซีน “ปากน้ำพร้อม” เพื่อ รับขึ้นทะเบียนจองวัคซีนสำหรับกลุ่มองค์กร โรงงานอุตสาหกรรม และบุคคลทั่วไป ผ่าน Google Sheet และ Google Form นำมาประมวลผลดว้ ยโปรแกรมสำเรจ็ รปู เพอ่ื อำนวยความสะดวกให้แก่ผ้ทู ่ีประสงค์ฉดี วัคซีน และ มีระบบ SMS ในการแจ้งเตือนการมารับวัคซีน โดยสามารถจองวัคซนี ตามแบบสำรวจผ่านเว็บไซต์ของสำนักงาน สาธารณสขุ จงั หวัดสมทุ รปราการ จังหวัดพิษณุโลก พัฒนาโปรแกรมพิดโลกพร้อม (http://plkprom.plkhealth.go.th/) เพ่อื เป็นทางเลือกให้ประชาชนที่ไม่สามารถจองวัคซนี ผ่านไลน์หรือแอปพลิเคชันหมอพร้อมได้ โปรแกรม \"พิดโลก พรอ้ ม\" มขี น้ั ตอนการลงขอ้ มูลง่าย สะดวก พร้อมจดั คิวนัดฉีดวัคซนี ประชาชนสามารถตรวจสอบวันนดั ฉีดวัคซนี ได้ (2.5) การคดั กรองภาวะสุขภาพจิตผานระบบออนไลน (Mental Health Check In) ในช่วงสถานการณ์ดังกล่าว ประชาชนมีความเครียดทั้งจากภาวะการติดต่อ ความ หวาดหวั่นในการติดเชื้อ รวมทั้งสภาพทางเศรษฐกิจของครอบครัวที่เกิดจากผลกระทบของมาตรการต่าง ๆ เช่น ภาวะการไม่มีงานทำ ไม่มีเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน สภาพความเป็นอยู่ที่ฝืดเคือง ทำให้เกิดความเครียด มีพฤติกรรมการใช้ความรุนแรง จังหวัดนครสวรรค์เห็นความสำคัญในปัญหาด้านสุขภาพจิตจึงได้พัฒนาระบบ คัดกรองภาวะสุขภาพจิตผานระบบออนไลนและติดตามกลุมเสี่ยง เพื่อการประเมินสุขภาพจิตเบื้องตน และ คัดกรองความเสี่ยงตอปัญหาสุขภาพจิตจากสถานการณ COVID-19 ผานระบบออนไลน https://checkin.dmh.go.th/ หรือแอปพลิเคชัน Mental Health Check In โดยประชาชนและผูมีความเสี่ยงตอปญหาสุขภาพจิตสามารถ ประเมินตนเอง เพ่อื ใหไดรบั การประเมินภาวะสุขภาพจติ และไดรบั ชวยเหลอื เยียวยาอยา่ งรวดเร็ว (2.6) การรบั เร่อื งร้องเรยี น จังหวัดได้เพิ่มช่องทางรับเรื่องร้องเรียนในห้วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 โดยผ่านช่องทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เช่น Facebook Fanpage เว็บไซต์จังหวัด สายด่วน ไปรษณยี อ์ ิเลก็ ทรอนิกส์ โทรศัพท์ โทรสาร นอกเหนือไปจากการรับเรอ่ื งรอ้ งเรียนโดยตรงท่ีหนว่ ยงาน

52 2.2 กรณีตัวอยา่ งของจังหวัดทีม่ ีแนวทางการปฏิบตั ิท่ีดี (Good Practice) 2.2.1 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ระลอกแรก ที่รุนแรงและครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ทุกจังหวัดพยายามปกป้องพื้นที่จังหวัดอย่างเต็มกำลังเพื่อรักษาพื้นที่ ให้ปลอดจากการติดเชื้อ โดยมีการดำเนินมาตรการอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะการปฏิบัติการเชิงรุก การคัดกรอง ในพืน้ ทรี่ ะดับชมุ ชน มกี ำลงั ท่สี ำคญั ไดแ้ ก่ อาสาสมัครประจำหม่บู า้ น (อสม.) กำนนั ผู้ใหญ่บ้าน รวมท้ังประชาชน ท่ีเขา้ ร่วมเปน็ อาสาสมัครร่วมเคาะประตูบ้าน ไม่เพยี งแตค่ ัดกรองเท่านั้น ขณะเดียวกนั ก็ให้ความรู้ ประชาสัมพันธ์ ขอ้ มูลขา่ วสาร สร้างความรู้ความเข้าใจกนั อย่างเต็มกำลัง รวมทง้ั ให้ประชาชนในพนื้ ที่รว่ มกันสอดส่องและติดตาม กลุ่มเสี่ยง เป็นเสมือนตาสับปะรด โดยเฉพาะกับการติดตามบุคคลที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงทั้งต่างจังหวัดและ ต่างประเทศ จนกระทั่งสิ้นสุดการแพร่ระบาดระลอกแรกในราวเดือนกรกฎาคม 2563 พบว่ามี 9 จังหวัดทีไ่ ม่พบ การตดิ เชอื้ ได้แก่ จังหวัดนา่ น พิจติ ร กำแพงเพชร สงิ ห์บุรี ชยั นาท อ่างทอง ตราด ระนอง และบงึ กาฬ จึงได้ศึกษา วา่ แต่ละจังหวดั มจี ุดเดน่ หรือเน้นการทำงานอย่างไร หรอื มปี ัจจยั ใดเกื้อหนุน จงึ ทำใหป้ ระสบผลสำเร็จในการไม่พบ ผูต้ ิดเช้ือ (1) จงั หวดั นา่ น : คนนา่ นตา้ นโควิด ภูมหิ ลงั ของคนจงั หวดั นา่ นเปน็ สังคมที่เช่ือมโยงกัน อยู่ด้วยกนั แบบเกือ้ หนุน และมจี ติ สำนึกรัก ในบา้ นเกิดสงู ทกุ คนในชมุ ชนมีวิถชี วี ิตที่เช่ือมโยงเก่ียวพัน กลไกของสังคมจึงมีความเข้มแขง็ มีความร่วมมือร่วมใจ และมีนำ้ หน่งึ ใจเดยี ว และความเขม้ แขง็ และเป็นหน่ึงเดียวกนั ของชาวนา่ นน่เี องทส่ี รา้ งน่านให้เป็นจงั หวัดท่ีจัดการ โรค COVID-19 ได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ การรวมตัวของสื่อมวลชนชาวน่าน ก็มีบทบาทสำคัญในการดำเนินงาน การกระจายข้อมูล ที่เกี่ยวขอ้ งกับโรค COVID-19 ส่งผ่านส่ิงที่อยูใ่ นชีวิตประจำวันของชาวน่าน นั่นคือเสียงตามสาย รวมถึงกลุ่มไลน์ แชท คนนา่ นต้านโควิด ซง่ึ เป็นการรวมตวั จากทกุ ภาคสว่ นท้ังภาครัฐ เอกชน และประชาชนชาวน่าน จังหวัดน่านเน้นการสร้างการรับรู้ด้วยสื่อที่ง่าย เน้นสื่อที่เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เกิดข้ึน ในพื้นที่เพื่อลดความตระหนก และให้ความสำคัญกับการกระจายข้อมูลและรายงานสถานการณ์ COVID-19 ในจังหวัดให้เผยแพร่ได้อยา่ งทัว่ ถึงทกุ ภาคส่วน นอกจากปัจจัยเรื่องคนแล้ว จังหวัดน่านเน้นย้ำให้มีปฏิบัติการเข้มมาตรการควบคุมโรคติดตอ่ เช่น ปิดถนน-โป๊ะข้ามฟาก คัดกรองคนเข้า-ออก บูรณาการหน่วยงานและองค์กร สร้างความเข้าใจและขอความ ร่วมมอื ในการปิดสถานบนั เทิง รา้ นอาหาร หา้ งสรรพสนิ ค้า และพน้ื ท่สี าธารณะทีจ่ ะเปน็ แหลง่ รวมคน รวมถึงงดจัด กิจกรรมที่มีการรวมตัวและชุมนุมผู้คนจำนวนมากด้วย นอกจากนี้ยังสั่งการให้นายอำเภอและองค์กรปกครอง สว่ นทอ้ งถนิ่ ใช้มาตรการเขม้ ขน้ ในการเฝา้ ระวงั และคัดกรองกลมุ่ เสย่ี ง การตดิ ตามการกกั ตวั ของกลุ่มเสย่ี ง (2) จังหวดั กำแพงเพชร : ความรว่ มมอื ของประชาชนชาวกำแพงเพชรเป็นเรอ่ื งสำคัญ จังหวัดกำแพงเพชรได้รับความร่วมมือจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หน่วยงานภาครัฐ องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมมือบังคับใช้ประกาศอย่างจริงจัง ทำบัญชีคนเข้า-ออกจังหวัด ตั้งด่านตรวจคัดกรอง บังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือ วางแผนตามสถานการณ์ ต้องคาดเดาไปก่อน สองก้าว ประชุมศนู ย์ COVID-19 ในจงั หวดั เกอื บทุกวัน

53 ปัจจัยที่สำคัญคือความร่วมมือของประชาชนกำแพงเพชรที่ร่วมใจกันยับยั้งการแพร่ระบาด ปฏิบัติตามข้อกำหนดจนสามารถป้องกันโรค COVID-19 ไว้ได้ ในช่วงแรกของการแพร่ระบาดจังหวัดได้รณรงค์ ให้ประชาชนดูแลตัวเอง ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ กินร้อนช้อนกลาง และทิ้งระยะห่าง มีการตั้งด่านเฝ้าระวัง ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม เป็นด่านถาวรจำนวน 6 จุด ดำเนินการต่อเนื่องอย่างเข้มข้น ขณะเดียวกัน ยังตั้งด่าน ชั้นในและต้งั ด่านหมู่บ้าน โดยใหผ้ นู้ ำท้องถิ่น ผนู้ ำชมุ ชน อสม. อปพร. คณะกรรมการหมู่บ้าน จัดชุดเคลื่อนที่เร็ว ของตำรวจและฝา่ ยปกครองเฝ้าตดิ ตาม มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการในทุกอำเภอให้บันทึกประวัติการเดินทางเข้าหมู่บ้านทุกคนเพื่อ ติดตาม ค้นหา เฝ้าระวัง นอกจากนี้ ยังมีชุดปฏิบตั ิการคดั กรองในระดับท้องถิ่น โดยการสอบประวัติบนั ทึกข้อมลู หากพบมาจากพนื้ ที่ท่ีมีการระบาดหรือพนื้ ท่ีเส่ยี งเจ้าหนา้ ท่ีจะตรวจสอบทันที ปัจจัยความสำเร็จ คือ การบูรณาการการทำงานร่วมกันหลายหน่วยงาน ส่วนราชการ องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนให้ความร่วมมือ ประกอบกับการสื่อสารประชาสัมพันธ์มีลักษณะเด่น คือ เขา้ ถึงงา่ ย และเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามาใหข้ ้อมูลไดห้ ลายทาง ขณะเดยี วกนั กใ็ ช้ชอ่ งทางดงั กล่าวสร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง รวมทั้งมีการจัดทำ QR code และ APP Line ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแจ้ง เบาะแสกรณพี บบคุ คลทมี่ ีความเสี่ยง และผตู้ ิดเช้ือ และจุดเดน่ อกี ประการหน่ึงของจังหวัดกำแพงเพชร คือการให้ ข้อมลู รายงานสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดอย่างต่อเน่ืองผ่านทางเวบ็ ไซต์ของศนู ยป์ ระสานงานฯ ของจงั หวัด (3) จังหวัดพจิ ติ ร : ความเดด็ ขาดของผูว้ ่าราชการจงั หวดั ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรใช้ 3 ยุทธวิธีในการบริหารจัดการในการ เฝา้ ระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID–19 ไดแ้ ก่ (1) ยุทธวธิ ี “ชำระ ล้าง” โดยให้อำเภอ องค์การบริหารส่วนจังหวัด หมู่บ้าน/ชุมชน และภาคส่วน ตา่ ง ๆ รว่ มทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคในพน้ื ความรบั ผดิ ชอบ รวมทั้งพ้ืนท่ีสาธารณะ อย่างสม่ำเสมอ (2) ยุทธวิธี “รณรงค์” ให้ความรู้แก่ประชาชนเรื่องการป้องกัน การปฏิบัติตัว และมาตรการต่างๆ ของรัฐ โดยผ่านช่องทางที่หลากหลาย เช่น ส่ือโซเชียลมีเดยี สถานวี ทิ ยุกระจายเสยี ง หอกระจายขา่ ว และเสยี งตามสาย เป็นต้น รวมทั้งให้สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแจ้งข่าวสารที่ถูกต้อง กรณีมีข่าวปลอม หรือ Fake News และ (3) ยุทธวิธี “ส่งเสริม ยับยั้ง” ได้แก่ การแจกหน้ากาก อนามัย การให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกัน มอบหมายเจ้าหน้าที่ตรวจตรา รักษา ความสงบเรียบรอ้ ย และบังคบั ใช้กฎหมายตามข้อกำหนด ในช่วงที่มีการระบาดมาก ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งปิดพื้นที่เส้นทางการคมนาคมทุกช่องทาง ทั้งทางบก ทางน้ำและทางรถไฟ ห้ามคนพิจิตรที่อยู่ต่างจังหวัดกลับเข้าพืน้ ที่ ส่วนคนในพื้นที่กห็ ้ามออก มีการส่ง ชดุ ปฏบิ ัตกิ ารพเิ ศษประกอบดว้ ยฝา่ ยความมั่นคง ตำรวจ ฝา่ ยปกครองและเจ้าหนา้ ท่ีสาธารณสขุ ปพู รมปฏิบัติการ ตั้งด่านคัดกรองบนถนนทางหลวงสายหลักและสายรองที่เชื่อมต่อระหว่างจังหวัดพิจิตรกับจังหวัดใกล้เคียง เพื่อ คัดกรองบคุ คลทีจ่ ะเดนิ ทางเขา้ มาในพ้ืนทจ่ี ังหวัดพิจิตร ข้อดีในแง่ลักษณะทางภูมิศาสตรข์ องจังหวัดพิจิตร เพราะไม่ใช่เมืองที่เป็นทางผ่านต้องมาดว้ ย ความตั้งใจ และไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวหลัก มีความเป็นชนบทที่เรียบง่าย คุณลักษณะที่ดีอีกประการหนึ่งคือ คนพิจิตรตื่นตัวเรื่องนี้และให้ความร่วมมือดีมาก มีการปฏิบัติการตามมาตรการ เช่น สวมหน้ากากออกจากบ้าน ล้างมือ นอกจากนี้ ยังช่วยเป็นหูเป็นตาและแจ้งเบาะแส เนื่องด้วยความเป็นชนบท คนจึงรู้จักและคุ้นเคยกัน ดงั น้นั จึงง่ายตอ่ การสอดส่อง หากมีคนแปลกหนา้ เข้าพนื้ ทจี่ ะรู้และแจ้งสาธารณสุขอำเภอลงไปตรวจสอบทันที

54 (4) จังหวัดอา่ งทอง : เริ่มจากภายใน หลังจากที่กระทรวงสาธารณสุขออกประกาศให้โรค COVID—19 เป็นโรคติดต่ออันตราย ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 และประกาศในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทองมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดอ่างทอง โดยมีการประชุม ครั้งท่ี 1/2563 ตง้ั แต่วันท่ี 3 มนี าคม 2563 เปรียบเสมอื นรถกเ็ รยี กว่าออกตวั เร็ว นโยบายการดำเนินงานของผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทองชัดเจน เคร่งครัดและทันต่อเหตุการณ์ ไมใ่ ช้นโยบายปิดเมือง แต่เนน้ การจัดระเบยี บ คัดกรองเฝ้าระวัง สอ่ื สารและทำงานอย่างเป็นมิตร เพื่อให้ประชาชน สามารถใชช้ ีวิตอยอู่ ย่างมีความสุขตามสถานการณ์ทีเ่ กิดขน้ึ และฝกึ การปฏบิ ตั ติ ัวอยา่ งมวี นิ ัยจนถือเปน็ ธรรมเนียม ปฏิบัตใิ นสงั คมรว่ มกัน หลักการของจังหวัดคือ เริ่มต้นด้วยสุขอนามัยภายในครอบครัว สถานที่ทำงาน และพื้นท่ี สาธารณะก่อน โดยเน้นย้ำการทำความสะอาด ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ เริ่มตั้งแต่หัวหน้าส่วนราชการ จนถึง ผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชุมชน โดยส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นท่ีเพือ่ ทำความเข้าใจกับชาวบ้าน จากนั้นเริ่มลงพื้นที่ สาธารณะ จังหวัดอ่างทองมีจุดคัดกรองโดยรอบทั้งหมด 11 จุด มีเจ้าหน้าที่ส่วนราชการต่างๆ เข้าร่วม ทำงานกันตลอด 24 ชวั่ โมง ใครไม่ไดเ้ ข้าเวรจุดคัดกรอง ก็ไปทำงานประจำ บางคนทำงานประจำเสรจ็ ต้องมาเข้าเวร จุดคัดกรองตอ่ อีก ดำเนนิ การเชน่ น้ีอย่างต่อเน่อื ง 5 มาตรการเขม้ ของอ่างทองโมเดล คอื (1) ตง้ั จุดตรวจคัดกรองโรค 11 จดุ ในเขตรอยต่อจงั หวัด หากพบผู้มีไข้จะประสานโรงพยาบาลในพื้นทีท่ ันที (2) ขึ้นทะเบียนประชากรที่เข้าเดินทางเข้าจังหวัดทั้งที่มาจาก กรงุ เทพฯ ต่างจงั หวัด และต่างประเทศ (3) ใช้กลไกผู้นำชุมชน อสม. เดินสำรวจ (4) สร้างกลมุ่ ไลน์ เพอื่ ให้ประชาชน ลงทะเบยี นและติดตามข่าวสาร และ (5) รณรงค์ 2 เมตรหา่ งกัน (5) จังหวดั สิงห์บุรี : เนน้ การคดั กรองท่เี ข้มงวด มาตรการป้องกันและสกัดกั้นการนำเชื้อเข้าสู่จังหวัดโดยการคัดกรองผู้มาจากพื้นที่เสี่ยงและ การตั้งดา่ นตรวจ/จุดสกัดในพ้ืนที่จังหวดั สิงหบ์ รุ ีถือเป็นหนงึ่ ในมาตรการท่สี ำคัญด่านแรกในการคดั กรองบุคคลท่ีมี ความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 เข้ามาในพื้นที่ เนื่องจากลักษณะทางภูมิศาสตร์จังหวัดสิงห์บุรี แวดล้อมด้วยหลายจังหวัด จังหวัดจึงตัง้ จุดสกดั 7 จุด และด่านตรวจ 2 ด่าน โดยมีเจ้าหนา้ ทีฝ่ ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ แพทย์ ดูแลและคดั กรองตลอด 24 ชว่ั โมง จดุ อ่อนไหวของจังหวัดสงิ หบ์ รุ ีคือ มีสัดส่วนผู้สงู อายตุ อ่ ประชากรมากทส่ี ุด (ข้อมลู กรมการปกครอง ปี 2562) จงึ ตอ้ งให้ความสำคัญกับการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด นอกจากนี้ กรณผี เู้ ดนิ ทางเข้าพื้นที่หรือกลับมาจาก พื้นที่อื่นจะใช้แอปพลิเคชันในการติดตาม กรณีผู้ที่ไม่มีสมาร์ตโฟนจะใช้การสอดส่องดูแลโดยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และอาสาสมัครสาธารณสุข ช่วยกันสังเกตและรายงานข้อมลู อยา่ งตอ่ เน่ือง จงั หวัดสิงหบ์ รุ ีให้ความสำคัญกับการบรหิ ารข้อมลู ข่าวสารอย่างมาก มีการติดตามสถานการณ์ อย่างใกลช้ ดิ มกี ารจัดทำแผนสร้างการรบั ร้สู ่ชู ุมชน การบรหิ ารจดั การสื่อ จะมที ั้งเชิงรับ (รับข้อมูลจากส่วนกลาง) แล้วนำมาเผยแพร่ และเชิงรุกเป็นการวิเคราะห์ความเชื่อมโยงประเด็นจากส่วนกลางกับพื้นที่ และเผยแพร่ ในช่องทางทเี่ หมาะสมกบั สอื่ แต่ละประเภท และในรปู แบบทเ่ี หมาะสมกับพ้นื ท่ี

55 (6) จงั หวดั ชัยนาท : จติ สำนึกของประชาชนเป็นเรื่องสำคญั ปัจจัยสำคัญที่ทำให้จังหวัดชัยนาทปลอดจากผู้ติดเชื้อ COVID–19 ได้แก่ ข้อดีทางสภาพ ภูมศิ าสตรท์ ่ีไม่ใช่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ส่วนด้านภูมิสงั คมคนชยั นาทไม่มีใครออกนอกบ้านตอนดึก จึงมีส่วนช่วยด้วย สว่ นหนึ่ง และการทำงานร่วมกับระดับชุมชนจิตสำนึกของประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ ไมต่ อ้ งเฝ้าระวังคนอ่ืน เฝ้าระวัง ตัวเองอย่างเดียวให้ได้ก่อน ว่าเราจะต้องป้องกันตัวเอง การป้องกันตัวเองก็คือการป้องกันคนอื่นด้วย ต้องเห็น ประโยชนส์ ่วนรวมสำคญั กว่าประโยชนส์ ่วนตน จังหวัดชัยนาทมีความต่ืนตัวในการป้องกนั ต้งั แตร่ ะยะแรก มีการเฝา้ ระวงั ท้ังในชุมชน หมู่บ้าน และเข้มข้นขึ้นเมื่อมีการตั้งด่านคัดกรองเพิ่มมากขึ้นในช่วงที่เริ่มมีการอพยพของคนกรุงเทพฯ และจากพื้นที่อ่ืน เข้ามา โดยตั้งด่านคัดกรอง 5 ด่าน ครอบคลุม 4 อำเภอ คือ อำเภอเมือง อำเภอมโนรมย์ อำเภอวัดสิงห์ และ อำเภอหันคา มที ีมคดั กรองระดบั หมูบ่ ้าน โดยผ้ใู หญ่บา้ นและ อสม. ทำหนา้ ท่ีในการสำรวจ ตรวจสอบ และประเมิน ผู้ที่มาจากพื้นที่เสี่ยง มีการให้ความรู้ แนะนำการปฏิบัติตัวให้ประชาชนได้รับทราบ เพื่อให้เกิดความตระหนัก ในการระวังป้องกันโรค ในกรณีพบเป็นกลุ่มท่ีสงสัย มีความเสย่ี ง หรือพบผู้ปว่ ย จะกักตัวทนั ที แต่กรณียงั ไม่ป่วยก็จะ สง่ ตอ่ ขอ้ มลู ใหท้ มี เฝา้ ระวงั ในชมุ ชน (7) จงั หวัดตราด : เตรยี มความพรอ้ มและเกาะติดสถานการณอ์ ย่างต่อเน่ือง ความสำเร็จมาจากการเตรียมความพร้อมและเกาะติดสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และมี การประชุมชีแ้ จงเพ่ือให้ความรู้ในการป้องกันการแพร่ระบาด พรอ้ มกำหนดมาตรการก่อนที่รฐั บาลจะไดม้ ีข้อส่ังการ ออกมาโดยใช้คณะกรรมการโรคติดต่อของจงั หวดั เป็นผู้ดำเนินการในเบื้องต้น สิ่งสำคัญท่ีเป็นจดุ เปล่ียน คือ การ ตัดสินใจควบคุมกิจกรรมการรวมตวั ของชาวตราดและกิจกรรมต่าง ๆ ท้ังหมด ซึ่งไดร้ ับความรว่ มมือจากทุกภาคส่วน ตั้งแต่เริ่มต้น และเม่ือเร่ิมมาตรการท่ีเข้มงวดมากข้ึน ชาวตราดก็ให้ความรว่ มมืออย่างดี โดยเฉพาะการเว้นระยะห่าง สังคม การสวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่อออกจากบ้าน การทำงานที่บ้าน แม้จะได้รับผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน ชาวตราดทุกคนก็ให้ความร่วมมือด้วยดี สิ่งที่สำคัญ คือ ภาคเอกชน หน่วยงานท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. ในแต่ละชุมชนชว่ ยเหลือซึ่งกันและกัน และออกมาช่วยกนั ทำงานป้องกัน ช่วยกันตั้งจดุ คัดกรอง ช่วยกันเฝ้าระวงั ตลอด 24 ชั่วโมงทกุ วนั สภาพภูมิประเทศของจังหวัดตราดก็เป็นปัจจัยหน่ึง เพราะห่างไกลจากกรุงเทพฯ เดินทางไม่ง่าย นักท่องเที่ยวจึงไม่ค่อยนิยม ทำให้คนภายนอกเดินทางมาจังหวัดตราดไม่มากนัก ขณะเดียวกันพฤติกรรมของ คนตราดท่ีไมน่ ิยมไปทำงานต่างพ้ืนที่ จึงไม่มกี ารอพยพคนเหล่าน้ีเข้ามาในช่วงการแพร่ระบาดของโรค ไม่ต้องเจอกับ ปญั หาแรงงานกลบั ภมู ลิ ำเนาหลังเมอื งใหญ่ล็อกดาวน์ ที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือ ผู้ว่าราชการจังหวัดมีความเด็ดขาด ตัดสินใจได้รวดเร็ว มี คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดที่เข้มแข็ง มีทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญช่วยในการตัดสินใจ จัดทีมเกาะติด เหตุการณ์ ประเมินแนวทางป้องกันแบบวันต่อวัน บุคลากรทางการแพทย์เชี่ยวชาญ ลงให้ความรู้ประชาชน ถึงพ้นื ที่ ปจั จยั ทส่ี ำคัญอีกประการหนึง่ คอื ประชาชนร่วมมอื รว่ มใจ คนพ้ืนทดี่ ูแลตัวเองไดด้ ี ในส่วนของแหลง่ ท่องเที่ยวที่สำคัญ คือ เกาะช้าง มีระบบเฝ้าระวัง 2 ส่วน คือ หมู่บ้าน ชุมชน โดยมีกรรมการหมู่บ้าน ผู้ใหญ่บ้านเป็นเจ้าภาพสำรวจผู้ที่เดินทางเข้ามาในเขตรับผิดชอบและจัดทำรายงานส่ง อำเภอกอ่ น 10.00 น. ทุกวันเพ่ือรายงานจังหวดั อกี สว่ นคือ โรงแรม รีสอร์ท สำรวจสง่ ข้อมูลประวตั ผิ ู้มาพักทุกวัน พรอ้ มท้งั ตรวจวดั อณุ หภูมิ ดอู าการสง่ ข้อมลู แจง้ อำเภอทุกวนั โดยมีจุดประสงค์หลกั ใหค้ นบนเกาะช้างปลอดภยั

56 (8) จังหวัดระนอง : เน้นหนกั ทีค่ ัดกรอง และชุมชน/หมบู่ ้านเข้มแขง็ เป็นเกราะคมุ้ กนั ทสี่ ำคญั จังหวัดเริ่มมาตรการคัดกรองที่สนามบินเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2563 ผู้โดยสารขาเข้าทุกคน ทุกเที่ยวบินและขยายสู่การคัดกรองที่ท่าเรือ ท่าเรือน้ำลึก เรือท่องเที่ยว ตั้งด่านคัดกรอง 4 จุดหลักที่จะเข้าสู่ จงั หวัด ยกระดับไปสู่การตรวจรถขาเข้าทุกคัน เมอ่ื การแพรร่ ะบาดเข้าสู่จดุ สูงสุดเม่ือวันท่ี 8 เมษายน มีการประกาศ ผทู้ ่ีจะเขา้ สู่จงั หวัดต้องมีใบรบั รองแพทยว์ ่าไมต่ ิดเชื้อไวรสั COVID-19 ส่วนมาตรการบริเวณชายแดน จงั หวัดมีคำสั่งระงบั การใชช้ ่องทางจุดผา่ นแดน ได้แก่ จุดผ่านแดน ถาวรระนอง-เกาะสอง บริเวณช่องทางท่าเทียบเรือศุลกากรระนอง จุดผ่านแดนถาวรระนอง-เกาะสอง บริเวณ ช่องทางท่าเทียบเรือบริษัทอันดามัน คลับ (ท่าเรือแกรนด์อันดามัน) จุดผ่อนปรนเพื่อการค้าเขาฝาชี หมู่ที่ 4 ตำบลบางแก้ว อำเภอละอุ่น จังหวัดระนอง รวมถึงระงับการเข้า-ออกของบุคคล ยานพาหนะ และสิ่งของ ตลอด แนวชายแดนจังหวัดระนอง ยกเว้นการเข้า-ออก ณ จุดผ่านแดนถาวรระนอง-เกาะสอง บริเวณช่องทางท่าเทียบเรือ สะพานปลา จุดเน้นประการหนึ่งของผู้ว่าราชการจังหวัดคือ การสวมหน้ากาก โดยเสนอให้เป็น “ระนอง เมืองหน้ากาก” เพื่อรณรงค์ประชาชนสวมหน้ากากรับมือการแพร่ระบาดของโรคไวรัส ท้องถิ่นจังหวัดได้จัดต้ัง ทีมครู ก. เพือ่ ผลิตหน้ากากอนามัยชนิดผ้ามอบให้หน่วยงานที่เกย่ี วข้องเคาะประตบู ้านเพื่อแจกจ่ายได้ครอบคลุม และทั่วถึง มาตรการเกี่ยวกับแรงงานต่างด้าว ได้ขอความร่วมมือให้นายจ้างจัดหาหน้ากากอนามัย และกำชับ ลูกจา้ งให้สวมหนา้ กากอนามัยตลอดเวลาที่อยนู่ อกเคหสถาน หากฝ่าฝนื จะไม่ใหต้ ่อทะเบยี นแรงงานตา่ งดา้ ว ความสำเร็จครั้งนี้อยู่ที่ชาวระนองร่วมมือร่วมใจกัน รู้วิธีป้องกัน โดยใช้คาถา คือ กินร้อน ช้อนตัวเอง ล้างมือด้วยสบู่ สวมหน้ากากทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน และรักษาระยะทางสังคม ยุทธศาสตร์หลัก ทน่ี ำมาส่คู วามสำเรจ็ ของทีมระนองอยู่ท่ีหมู่บ้านและชุมชน จงึ มอบนโยบายด้วยการใชช้ มุ ชนและหมู่บ้านเข้มแข็ง ด้วยการรู้จักดูแลตัวเองและครอบครัว ขยายออกไปยังหมู่บ้าน ให้ทุกคนเป็นหูเป็นตาไม่ให้คนแปลกถิ่นต่างหน้า เข้ามา หากเข้ามาต้องมีการคัดกรอง สิ่งสุดท้ายคือ ทีมจิตอาสาCOVID-19 ที่มีความเข้มแข็ง ประกอบด้วย ปลัดอำเภอ ผ้ใู หญ่บา้ น ทมี สาธารณสขุ และ อสม. กลไกหลกั นีจ้ ะตอ้ งลงไปเคาะประตบู า้ นทุกหลงั ขณะที่แนวหน้า มกี ารต้ังด่านสกัดท้งั ทางหลัก ทางรอง เส้นทางธรรมชาติ ไปพร้อมกัน ทำใหร้ ะนองเปน็ จงั หวดั ที่ปลอดการระบาด จงั หวดั เดียวในภาคใต้ (9) จงั หวัดบงึ กาฬ : เขม้ งวดทุกเสน้ ทาง จงั หวัดบงึ กาฬเปน็ จังหวัดมีความเส่ียงในชว่ งระยะต้นของการตดิ เช้ือ เพราะมีผู้ท่ีเดินทางกลับ จากสาธารณรัฐเกาหลแี ละประเทศกลมุ่ เสย่ี งอนื่ ต้ังแตว่ ันท่ี 23 กุมภาพันธ์ รวม 117 คน ซ่ึงจงั หวัดให้ความสำคญั กับการดูแลผู้ที่กลับจากสาธารณรัฐเกาหลีอย่างเข้มงวด และให้สำรวจจำนวนคนไทยที่อยู่ในข่ายต้องเฝ้าระวัง และติดตามอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ดังนั้น จังหวัดจึงให้ความสำคัญกับการคัดกรองที่เข้มงวด ประกอบกับ จังหวัดบึงกาฬเช่ือมต่อกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อตามแนว พรมแดน ผู้ว่าราชการจังหวัดจึงประกาศปิดด่านผ่อนปรน ระงับการเดินทางเข้า–ออกบุคคลทุกสัญชาติ ณ จุดผ่านแดนถาวรด่านศุลกากรบึงกาฬ บ้านพันลำ รวมทั้งเพิ่มความเข้มงวดในการผ่านเข้าพื้นที่จังหวัดใน ทกุ เส้นทาง

57 มาตรการรบั มือผู้ท่ีกลับมาจากกรุงเทพฯ ในชว่ ง “ล็อกดาวน์” ตอ้ งมารายงานตวั กับเจ้าหน้าที่ ปกครอง กำนันผใู้ หญบ่ ้าน และควบคุมตวั เองไวท้ ่บี ้าน 14 วัน ไม่มขี ้อยกเวน้ เพ่ิมความเข้มงวดในการผา่ นเข้าพ้ืนที่ จังหวัดบึงกาฬ ในทุกเส้นทาง โดยเข้มงวดการผ่านทั้งคน และรถ (หรือการล็อกดาวน์ ห้ามรถโดยสารสาธารณะ เขา้ –ออก ในเขตพนื้ ทีจ่ งั หวดั บงึ กาฬ) จังหวัดบึงกาฬเป็นจังหวดั ใหมม่ ีพ้ืนที่ไม่มาก จุดเด่นของจงั หวัดบึงกาฬ คอื ระบบทะเบียนราษฎร์ ที่สามารถตรวจสอบได้อย่างรวดเร็วว่าใช่คนในพื้นที่หรือไม่ ประกอบกับประชาชนในพื้นที่ได้ให้ความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจตรวจสอบคนเดินทางเข้า-ออกว่าเป็นคนในพื้นที่ในจังหวัดหรือไม่ หากพบว่ามาจากจังหวัดที่มี ความเส่ียงก็จะดำเนนิ การตามมาตรการป้องกันทนั ที ทำให้จงั หวัดบงึ กาฬรอดพ้นจากภัยเชอ้ื โรค COVID-19 จังหวัดบึงกาฬมีข้อได้เปรียบประการหนึ่งคือ เป็นจังหวัดที่อยู่ไกล การเดินทางกว่าจะมาถึง จำเป็นต้องผ่านด่านคัดกรองมาหลายจังหวัด ประชาชนมาถึงลำบากขึ้น จึงเสมือนว่าจังหวัดอื่นเป็นชั้นกรองที่ดี สำหรบั จังหวัดบึงกาฬ จากภาพรวมของจังหวัดที่ไม่พบผู้ติดเชื้อ COVID–19 ทั้ง 9 จังหวัด พบว่า มีประเด็นร่วมกันที่เป็น ปจั จยั หลักทม่ี ผี ลตอ่ การไม่มีผูต้ ิดเช้ือในระลอกแรก ดังนี้ (1) สภาพภูมิศาสตร์ บริบทของจังหวัด และวิถีชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ได้แก่ จังหวัดที่ไม่มี ลักษณะโดดเด่นในเชิงเศรษฐกิจ เช่น ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวที่นิยม ไม่เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การเดินทาง ค่อนข้างไม่สะดวก ส่วนใหญ่คือไม่มีสนามบินเชิงพาณิชย์ ประกอบกับเป็นจังหวัดที่ไม่มีความเป็นเมืองสูง ตรงกันข้ามกลับมีลักษณะเป็นเมืองขนาดเล็ก ประชาชนมีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ไม่นิยมออกไปทำงานต่างพื้นท่ี เปน็ พื้นท่ที ่ีตอ้ งตงั้ ใจไป เป็นปจั จัยหน่งึ ทเี่ อ้อื ใหภ้ าวะเสีย่ งลดลง (2) ความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ การตระหนักของประชาชนในพื้นท่ี ดังที่ว่า แม้ว่าจะมี มาตรการดเี พียงใดแตห่ ากประชาชนไมใ่ ห้ความร่วมมือก็ยากที่จะประสบความสำเร็จ (3) การสื่อสารดว้ ยข้อความที่เรียบง่าย ขอ้ มูลท่ีชดั เจน ครอบคลุมทกุ กลมุ่ เปา้ หมาย โดยเฉพาะ อย่างยิ่งการให้ความสำคัญกับรูปแบบของสื่อ วิธีการส่งต่อสื่อที่เหมาะสมกับพื้นที่และพฤติกรรมของผู้รับสาร จะช่วยให้ประชาชนตระหนักรู้ และให้ความรว่ มมืออยา่ งเตม็ กำลงั (4) การบูรณาการการทำงานร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชน และ ประชาชน ความเสียสละ ความเอาจริงเอาจัง และความต่อเนื่อง เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้การดำเนินมาตรการ ตา่ ง ๆ ลลุ ว่ งไปได้ดว้ ยดี 2.2.2 ปงี บประมาณ พ.ศ. 2564 สำหรบั ปงี บประมาณ พ.ศ. 2564 ดังกลา่ วแล้วขา้ งต้น ลักษณะการตดิ เชือ้ COVID–19 แตกต่างจาก ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 หลายประการ โดยเฉพาะการแพร่ระบาดที่รวดเร็ว การพบผ้ตู ดิ เชอ้ื กระจายทุกจังหวัด และท่สี ำคญั การพบผู้ติดเชื้อในลักษณะเปน็ กลุ่มก้อน ดังน้นั ในรายงานฉบับน้ีจะได้นำตวั อย่างการบริหารจัดการ การแพร่เชื้อในลักษณะกลุ่มก้อน ที่พบผู้ติดเชื้อจำนวนมากในสองกรณี คือ การแพร่ระบาดที่ตลาดกลางกุ้ง จังหวัดสมุทรสาคร และกรณีที่สองคือ เรือนจำกลางจังหวัดเชียงใหม่ สำหรับกรณีที่ 3 เป็นปฏิบัติการเชิงรุกของ จังหวัดสมุทรสาครที่เรียกว่า สมุทรสาครโมเดล : ต้นแบบการทำ Factory Accommodation Isolation (FAI) โดยขอความร่วมมือจากสถานประกอบการให้มีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามภายในสถานประกอบการเพื่อรองรบั ผู้ติดเชื้อที่เป็นแรงงาน เพื่อให้กระทบต่อภาคการผลิตให้น้อยที่สุด ขณะเดียวกันก็เป็นการแบ่งเบาภาระของโรง พยาลาลของรฐั ซง่ึ ขณะนนั้ การรองรบั ผู้ปว่ ยเกินศักยภาพทมี่ ีอยู่ โดยมีรายละเอียดดงั น้ี

58 กรณีท่ี 1 ตลาดกลางกุ้ง จงั หวัดสมุทรสาคร จุดเริ่มต้นเกิดเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2563 พบการติดเชื้อของเจ้าของแพกุ้งคนไทยท่ีไม่มีประวัติ เดินทางไปต่างประเทศ จึงค้นหาและสอบสวนโรคและพบว่าผู้ติดเชื้อรายนี้มีความเชื่อมโยงกับแรงงานเมียนมา เขา้ มาทำงานในไทยทต่ี ลาดคา้ กุ้ง มหาชัย พื้นท่ีดังกลา่ วมีแรงงานเมียนมาเขา้ มาทำงานและพกั อาศัยอยู่หนาแน่น (ท่มี า : PPTV Online 21 ธันวาคม 2563) จังหวัดจึงเริ่มตรวจเชิงรุกกับกลุ่มเป้าหมายดังกล่าว พบผู้ติดเชื้อจำนวนมากถึง 548 ราย ซึ่งเป็น สถิติใหม่ที่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มในวันเดียวมากที่สุดในประเทศไทย นับตั้งแต่พบการระบาดครั้งแรกเมื่อช่วงปลายปี พ.ศ. 2562 ที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็นผู้ติดเชื้อชาวเมียนมาสูงถึงร้อยละ 90 และเป็นชาวไทยเพียงร้อยละ 10 ส่วนใหญ่ผู้ติดเชื้อที่ตรวจพบจะไม่มีอาการป่วย จึงทำให้เกิดการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นได้ง่าย โดยเฉพาะแรงงาน ชาวเมียนมาท่พี กั อาศัยในพนื้ ที่แออดั และใกล้ชิดกนั ตวั แปรทีเ่ กี่ยวขอ้ งกบั การตดิ เช้ือและการแพร่ระบาดในคร้ังน้ีมีหลาย กลุ่มเนอื่ งจากวงจรการคา้ กงุ้ มคี วามเช่อื มโยงกบั แรงงานหลายกล่มุ ดังน้ี • บ่อกุ้ง เช่น เจ้าของบ่อกุ้ง ผู้ได้รับการประมูล แรงงานที่ทำหน้าท่ี ลากกุ้งขึ้นจากบ่อ ซึ่งมีทั้งแรงงานคนไทย แรงงานข้ามชาติ พ่อค้า คนกลาง รวมถงึ พ่อค้าแม่ค้าบางสว่ นก็มาเลือกซื้อกงุ้ ทบี่ ่อเอง เมื่อลากกุ้ง ขึ้นจากบ่อ พ่อค้าคนกลางหรอื คนท่ีทำหน้าที่ขนส่งจะนำกุง้ ไปส่งตาม ตลาดขนาดใหญซ่ งึ่ เป็นตลาดค้าปลีก • ตลาดค้าปลีก เช่น ตลาดกลางค้ากุ้ง ตลาดมหาชัย ตลาดไท จะมี พ่อค้าคนกลาง แรงงานข้ามชาติ แรงงานไทย พ่อค้าแม่ค้ารายย่อย ผบู้ ริโภค ท่มี าซือ้ ไปขายต่อและซอื้ ไปประกอบอาหาร • ตลาดย่อย จะมีพ่อค้าแม่ค้าขายปลีกนำไปขายต่อ ซึ่งบางแผงร้านอาจมีแรงงานข้ามชาติเป็น คนขาย ขณะเดียวกันผู้บริโภคมาเลอื กซื้อสว่ นใหญ่มักสัมผสั อาหารทะเลด้วยมือเปล่า และดมกลิ่นเพื่อดคู วามสด พฤติกรรมของพ่อค้าแม่ค้าในตลาดที่ต้องเชิญชวนลูกค้าและจับต้องอาหารอยู่ตลอด และพฤติกรรมของผู้ซ้ือ รวมท้ังสภาพความชน้ื ในตลาดสดน้ี ยิ่งทำใหเ้ ช้อื โรคแพรก่ ระจายได้เรว็ มากข้นึ นอกจากมีผ้เู กี่ยวข้องจำนวนมากแลว้ พฤติกรรมของแรงงานเมยี นมาก็มีความเสย่ี งที่ทำให้การแพร่ ระบาดเชื้อ COVID-19 แพร่กระจายได้เร็วมากขึ้น เนื่องจากแรงงานเมียนมามีวัฒนธรรมการเข้าสังคมสูง ส่วนใหญม่ กั จะเดินทางไปมาหาสู่กันทง้ั ในพนื้ ที่เดียวกันและต่างพน้ื ท่ีในวันหยดุ เครือข่ายแรงงานเมียนมาเหล่านี้ กระจายอยู่ในพื้นทีต่ ่าง ๆ ทั้งกรุงเทพฯ และจังหวัดใกลเ้ คียง โดยเฉพาะตำบลสำโรงเหนือ จังหวัดสมุทรปราการ บางบอน พระราม 2 ตลาดกิ่งเพชร อิมพีเรียล ลาดพร้าว กรุงเทพฯ ตลาดกีบหมู ถนนสุเหร่า คลอง 1 จังหวัด ปทุมธานี ซ่งึ ส่วนมากเดินทางไปมาหาสู่กันโดยใชร้ ถโดยสารประจำทาง และรถแท็กซี่ นอกจากน้ี แรงงานเมียนมายังให้ความสำคัญกับการร่วมพธิ ีกรรมต่าง ๆ เชน่ งานแต่งงาน งานรับขวัญ เด็กเกิดใหม่ของเพื่อนและญาติ ส่วนใหญ่มักจัดงานในห้องพักซึ่งมีขนาดเล็ก และมีการทำอาหารรับประทาน ร่วมกัน ใช้มือรับประทานอาหาร และใช้ภาชนะร่วมกัน ส่วนที่พักอาศัยส่วนใหญ่พักอาศัยรวมกันเป็นกลุ่ม ในชุมชนเดยี วกนั ตกึ เดยี วกัน และพักรวมกันหลายคนในหอ้ งเดยี ว

59 การดำเนนิ งานของจังหวัด จากการตรวจพบผูต้ ิดเชื้อในรายแรก เมือ่ วนั ท่ี 17 ธนั วาคม 2563 ผู้วา่ ราชการจังหวัดโดยการสนับสนุน ของกรมควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เร่งตรวจค้นหาเชงิ รุกในพื้นทีต่ ลาดกลางกุ้งและหอพักศรีเมอื ง ซึ่งเป็นที่พักของกลุ่มแรงงานเมียนมา ที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงกับตลาดกลางกุ้ง จากการพบตัวเลขผู้ติดเชื้อด้วยตัวเลข สงู ถึง 548 ราย จังหวัดสมุทรสาครได้จัดการแถลงข่าวสถานการณ์โดยอธิบดีกรมควบคุมโรค ผู้ว่าราชการจังหวัด และรองผ้กู ารตำรวจภธู ร ภาค 7 เพื่อชีแ้ จงให้ประชาชนได้ทราบข้อมูล ข้อเทจ็ จริง ความรุนแรงของสภาพปัญหา การบริหารจัดการสถานการณ์ดังกล่าว และมาตรการที่จะดำเนินการต่อไป ประชาชนควรปฏิบัติตัวอย่างไร พร้อมทั้งสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนว่า การระบาดดังกล่าวเกิดในพื้นที่จำกัด และไม่มีผู้ป่วยรุนแรง แม้ว่า มแี นวโนม้ ท่ีจะพบผู้ติดเชื้อเพ่ิมข้ึนในชุมชนท่ีอยู่รอบตลาดกลางกุ้งก็ตาม แตจ่ ังหวัดจะสามารถรับมือกับสถานการณ์ ในครั้งน้ไี ด้ วันท่ี 19 ธนั วาคม 2563 มีการแถลงขา่ ว สถานการณ์ COVID-19 โดยมนี ายแพทย์ โอภาส การยก์ วินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุม โรค พล.ต.ท. ธนา ชวู งศ์ ผบู้ ญั ชาการ ตำรวจภูธร ภาค 7 และนายวรี ะศักดิ์ วจิ ติ รแสงศรี ผูว้ า่ ราชการจังหวดั สมุทรสาคร รว่ มแถลงขา่ วเก่ยี วกบั สถานการณท์ ่เี กิดขนึ้ ในการนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ออกคำสั่งเรื่อง มาตรการเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เป็นการชั่วคราว เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2563 กำหนดให้ปิดสถานที่ เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดต่อร้ายแรงเป็นการชั่วคราว อาทิ สถานที่เล่นการพนัน สถานศึกษา ตลาด ตลาดนัด ห้างสรรพสินค้า สวนสนุก โรงภาพยนตร์ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังสั่งปิดตลาดกลางกุ้งและหอพกั ศรเี มอื ง ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2563 ถึงวันที่ 3 มกราคม 2564 (ต่อมามีการขยายเวลาถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564) รวมทัง้ ขอความรว่ มมือประชาชนงดออกจากเคหสถาน ระหวา่ ง 22.00 น.–5.00 น. ของวนั รุ่งข้นึ ห้ามเคลอื่ นยา้ ย แรงงานตา่ งดา้ วเข้า-ออกจงั หวัดสมุทรสาคร ภาพการปดิ ตลาดกลางก้งุ มหาชัย และการทำความสะอาดบริเวณตลาด

60 ในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดดังกล่าว จังหวัดนำมาตรการ Bubble and Seal มาใช้ในพื้นที่ตลาดกลางกุ้งและหอพักศรีเมือง โดยกำหนดให้เป็นพื้นที่ควบคุมโรคเด็ดขาด ซึ่งหมายถึง “คนใน ห้ามออก คนนอกหา้ มเข้า” การดำเนินการอย่างเร่งด่วนอีกประการหนึ่งคือ การจัดตั้งโรงพยาบาลสนามภายในตลาดกลางกุ้ง โดยสถาบันบำราศนราดูร กรมควบคุมโรค ได้เข้ามาจัดตั้งโรงพยาบาลสนามในบริเวณตลาดกลางกุ้งเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2563 ลักษณะเป็น Cohort Ward โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การดูแลรักษาผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่ไม่มี อาการหรืออาการน้อย และให้การรักษาเบื้องต้นโรคทั่วไป วางแผนครอบครัว ฉีดยาคุมกำเนิด และสุขภาพจิต ตามหลกั มนุษยธรรม ภายในโรงพยาบาลสนาม แบ่งโซนบริการเป็น 3 โซน ได้แก่ โซนสีแดง คือ บริเวณหอพัก โซนสีส้ม คือ จุดรอรักษาและคัดกรอง และโซนสีเขียว คือ จุดพยาบาลปฏิบัติการ โดยได้รับการสนับสนุนเตียงจากทหาร รองรับได้สูงสุด 100 เตียง ในการรักษากลุ่มแรงงานต่างชาติ จะนำคนที่กักตัวครบ 14 วันมาเจาะเลือดตรวจหา ภูมิต้านทาน ซึ่งหากมีภูมิตา้ นทานแล้วถือวา่ หายป่วย จะย้ายไปอยูใ่ นบรเิ วณอื่นทีภ่ าครัฐจดั ไว้ให้สำหรับการดูแล สขุ ภาพแรงงานในหอพักท่ีตลาดกลางกุ้งเป็นการกักตวั เป็นกลุ่มก้อน (Cluster Quarantine) เพ่ือไม่ให้คนในกลุ่มน้ัน เดินทางและเกดิ การแพร่เช้ือ มีทมี อาสาสมัครแรงงานต่างด้าว (อสต.) ชว่ ยในการสอื่ สารและให้ความรู้ด้านสุขภาพ แก่ผู้ที่อยู่ภายในที่พัก จัดส่งอาหารและระบบป้องกันโรค และมีทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤต ลงพ้นื ที่ดูแลด้านสุขภาพจติ ดว้ ย โรงพยาบาลสนาม ตลาดกลางกงุ้ การเปิดตลาดกลางกุ้ง จากคำส่ังเดมิ กำหนดใหม้ กี ารปิดตลาดกลางกุ้งตัง้ แตว่ นั ที่ 19 ธันวาคม 2563 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2564 ต่อมาจังหวัดสมุทรสาครได้มีหนังสือคำสั่งจังหวัดสมุทรสาครอีก 2 ฉบับ โดยขอให้ ปิดตลาดกลางกุ้ง เนื่องจากสภาพตลาดกลางกุ้งและอาคารหรืออาคารที่พักอาศัยยังมีลักษณะไม่ถูกสุขลักษณะ ตามหลักสุขาภิบาล ต้องมีการปรับปรุงสภาพพื้นที่และที่อยู่อาศัยให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 เพราะหากให้ดำเนินการซื้อ การขาย การค้า และการทำการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการแปรรูปกุ้ง และ สัตว์น้ำประเภทอื่น ๆ ในขณะนี้อาจทำให้เกิดการระบาดของโรคขึ้นอีก จากคำสั่งดังกล่าวจึงได้มีการจัดระเบียบ ในส่วนของหอพักบริเวณโดยรอบตลาดกลางกุ้งให้เป็นไปตามมาตรการของสาธารณสุขเพื่อลดความแออัดก่อนเปิด ตลาดกลางกุง้ อกี ครงั้ หน่งึ

61 สาธารณสขุ อำเภอรว่ มกบั แรงงานตา่ งด้าววางแผนการจัดระเบยี บทพ่ี ักอาศัย บรเิ วณตลาดกลางกุง้ ในการดำเนินงานดังกล่าว ได้รับความร่วมมือจากแรงงานต่างด้าววางแผนจัดระเบียบหอพักหรือ ที่อยู่อาศัย โดยเบื้องต้นได้เร่งสำรวจความหนาแน่นของประชากรเนื่องจากไม่เคยสำรวจมาก่อน และไม่มีข้อมูล ชดั เจนนำมาใชใ้ นการวางแผนกรณีที่มปี ัญหาดา้ นสุขภาพหรอื เกีย่ วข้องกับความมัน่ คง ดงั นนั้ การสำรวจทะเบียน ราษฎรหรือสำมะโนประชากรจงึ ต้องเรง่ ดำเนนิ การเพื่อวางแผนด้านการสาธารณสุขในอนาคต เป็นการสร้างความ มั่นใจให้กับคนที่พักในตลาดกลางกงุ้ หลังจากการปฏิบัติตามมาตรการดังกลา่ วมาเปน็ เวลากว่า 2 เดือน ตลาดกลางก้งุ จึงกลบั มาเปิดขาย ได้อีกครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2564 อย่างไรก็ตาม หลังจากมีการเปิดตลาดกลางกุ้ง จังหวัดสมุทรสาครได้ กำหนดมาตรการคุมเข้มเพื่อป้องกันโรค COVID-19 โดยทุกคนปฏิบัติตามมาตรการด้านสุขอนามัยตามที่ กระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด อาทิ การผ่านจุดการคัดกรอง ตรวจอุณหภูมิร่างกาย สวมหน้ากาก อนามัยขณะอยู่ในตลาดตลอดเวลา โดยมีจุดบริการเจลล้างมือแอลกอฮอล์กระจายทั่วทั้งพื้นที่ตลาด ทั้งนี้ เพ่ือ สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค ขณะเดียวกันตลาดจัดให้มีที่นั่งโดยมีฉากกั้นเพื่อให้ผู้เข้าไปซือ้ สินค้าได้นั่งรอเพอ่ื ลดการสัมผัสกัน นอกจากนี้ เจ้าของแพกุ้งรวมไปถึงแรงงานทำหน้าที่คัดกุ้งในตลาดทุกคนจะต้องมีป้ายชื่อ ระบุ แพกุ้งที่ทำงาน ชื่อนายจ้าง พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ ซึ่งเป็นอีกมาตรการช่วยสร้างความเชื่อมั่นว่าจะไม่มี แรงงานผิดกฎหมายเขา้ มาทำงานในตลาด ปัจจัยทำให้การแกไ้ ขปัญหาการแพรร่ ะบาดทต่ี ลาดกลางกงุ้ ประสบความสำเร็จ ได้แก่ (1) การบริหารจดั การของผ้วู ่าราชการจังหวัดท่ีมีการตัดสินใจได้รวดเร็ว จรงิ จัง เด็ดขาด เห็นได้จาก การพบผู้ติดเชื้อวันแรก หลังจากมีการสอบสวนโรคพบต้นตอของปัญหา ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ออกคำสั่งเพ่ือ กำหนดแนวทางปฏิบัติของผู้ที่เกี่ยวข้องทันที โดยเฉพาะการปิดห้ามเข้า-ออกตลาดกลางกุ้งและหอพักศรีเมือง รวมทั้งมีการสนับสนุนให้มีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามขึ้นภายในสถานที่เกิดเหตุ การจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ในพื้นที่พบเหตุ นับเปน็ ตน้ แบบของการแก้ไขปญั หาพบการตดิ เชือ้ COVID-19 ในลกั ษณะเป็นกลุ่มก้อนในพน้ื ทอ่ี ื่น ๆ เชน่ เรือนจำจังหวัดนราธวิ าส เรอื นจำกลางจังหวัดเชียงใหม่ และสถานประกอบการ (Factory Quarantine) อำเภอ เขาย้อย จงั หวัดเพชรบุรี เป็นต้น (2) การส่อื สารสร้างความรู้ ความเขา้ ใจ เม่ือมีการพบตวั เลขจำนวนผูต้ ดิ เช้อื สูงเกินความคาดหมาย และเป็นตัวเลขสูงจนน่าตกใจ สร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวสมุทรสาคร การเร่ง ออกมาชี้แจงก่อนที่สถานการณ์ผึ้งแตกรังจะเกิดขึ้น การที่ผู้ว่าราชการจังหวัดออกมาแถลงข่าวร่วมกับอธิบดกี รม ควบคุมโรค นอกจากเป็นการลดความตื่นตระหนกได้แล้ว ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นกับประชาชนได้ในระดับ หน่งึ ขณะเดยี วกนั สามารถการส่อื สารเพ่อื ใหป้ ระชาชนได้ทราบถงึ แนวทางปฏบิ ตั ิ เพ่ือลดการแพร่ระบาดดงั กล่าว

62 (3) ความร่วมมอื จากหลายภาคสว่ นทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ด้วยลักษณะภารกจิ ดา้ นการเฝ้าระวัง และควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ในจงั หวดั (4) ความร่วมมือของผู้ประกอบการ แรงงาน และประชาชนที่อยู่ในพื้นที่จังหวัด ไม่เพียงเฉพาะ ตลาดกลางกุ้งและหอพักศรีเมืองเท่านั้น ในส่วนของผู้ประกอบการจะต้องปิดกิจการเป็นการชั่วคราว ประชาชน ได้รบั การรอ้ งขอให้งดออกจากบา้ นในช่วงเวลาท่ีกำหนด จากสถานการณ์ดังกลา่ วพบว่าผ้ปู ระกอบการและประชาชน ให้ความรว่ มมอื เป็นอย่างดี ไม่พบการกระทำความผิดหรือฝ่าฝืนมาตรการดังกล่าว ไม่มกี ารประท้วง หรือหลบหนี ออกจากพ้นื ท่คี วบคุม นอกจากปจั จัยท่ีกล่าวแล้วข้างตน้ กลไกท่ีสำคญั ประการหนึ่ง คือ การมอี าสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว (อสต.) ซึง่ ผู้ว่าราชการจงั หวดั ใหค้ วามสำคญั อย่างมาก ดงั จะเห็นไดจ้ ากการออกประกาศจังหวดั สมทุ รสาคร เร่ือง การอบรมอาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าวสำหรับสถานประกอบการในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 เม่อื วันที่ 2 กนั ยายน 2563 ด้วยเหน็ ว่าสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรค COVID-19 ในต่างประเทศ ยงั คงเพ่ิมสงู ขน้ึ อยา่ งตอ่ เนื่อง ขณะเดยี วกนั ในประเทศยงั มีการผ่อนผนั ผอ่ นคลายมาตรการตา่ ง ๆ รวมถงึ การเปิด ให้มกี ารเดนิ ทางเข้ามาจากต่างประเทศ จงั หวดั สมุทรสาครซงึ่ เปน็ แหลง่ อุตสาหกรรมสำคัญมีแรงงานต่างด้าวเข้ามา ทำงานในพื้นที่เป็นจำนวนมาก จึงกำหนดให้สถานประกอบการทุกแห่งที่มีแรงงานต่างด้าวจัดให้มี อาสาสมัคร สาธารณสุขต่างด้าวในสัดส่วน 1 คน ต่อแรงงานต่างด้าวไม่เกิน 100 คน เพื่อเป็นตัวแทนดูแลหรือติดต่อ ประสานงานด้านสุขภาพในแรงงานต่างด้าว (อสต.) โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวดั สมทุ รสาครจะให้ความรู้แก่ กลุ่มคนเหล่านี้ และอาศัย อสต. เหล่านี้ทำหน้าที่ให้ความรู้ด้านสาธารณสุข การดูแลการปฏิบัติตามมาตรการ รวมทง้ั เป็นลา่ มในการสอ่ื สารกับเจ้าหน้าทส่ี าธารณสุขในการปฏบิ ตั งิ านด้วย สูตรการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ที่ตลาดกลางกุ้ง จังหวัดสมุทรสาคร ถือเป็น ต้นแบบของการแก้ไขปัญหาที่ได้ผล และถูกนำมาปรับใช้กับการแพร่ระบาดในหลายพื้นที่ ทั้งนี้ ผู้ที่มีบทบาท จะต้องคำนึงถึงลักษณะเฉพาะของกลุ่มก้อนน้ัน ซง่ึ อาจจะมีธรรมชาติท่ีแตกตา่ งจากตลาดกลางกุ้งในบางประการ เช่น การนำรูปแบบจากจังหวัดสมุทรสาครมาใชใ้ นการคุมคลัสเตอร์แคมป์แรงงานก่อสร้างกรุงเทพฯ การระบาด ในอุตสาหกรรมการก่อสร้างมีจุดแข็ง คือ ส่วนใหญ่เปน็ คนในวัยแรงงาน สุขภาพแข็งแรง มีกลไกการทำงาน และ ใช้ชีวิตอย่างเป็นระบบ แต่ยังมีจุดอ่อนจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของแรงงานที่มักจะเกิดในช่วงพักรับประทาน อาหาร การทานเลี้ยงหลังเลิกงาน จุดสูบบุหรี่ ห้องน้ำ และบ้านพัก รวมถึงการเข้า-ออกของคนภายนอกภายใน แคมป์คนงาน ท่เี ปน็ ปัจจยั เส่ยี งของการติดเชอ้ื อย่างไรกต็ าม ปจั จัยความสำเร็จในกรณีของแคมป์คนงานก่อสร้าง ในกรงุ เทพฯ ไมต่ ่างจากจังหวดั สมทุ รสาครคืออาศัยความรว่ มมือของผปู้ ระกอบการและแรงงานในการปฏิบัติตาม มาตรการอยา่ งเคร่งครดั กรณีที่ 2 เรือนจำกลางจังหวัดเชียงใหม่ จดุ เริม่ ตน้ ของการพบการติดเช้ือเร่ิมตน้ เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2564 ตรวจพบผตู้ ้องขังในแดนแรกรับ ติดเชื้อ 37 คน และหลังจากเร่งตรวจเชิงรุกจนพบตัวเลขล่าสุดที่สูงถึง 3,793 คน (17 พฤษภาคม 2564) จาก จำนวนผู้ต้องขัง 10 แดน ทั้งหมด 6,311 คน สำหรับเหตุการณก์ ารระบาดในเรือนจำเริ่มตน้ พบจากผู้ต้องขังจาก แดน 4 ซึ่งเป็นแดนแรกรับ โดยผู้ต้องขังจากแดนนี้มีการไปทำกิจกรรมร่วมกับแดน 5 6 7 และ 8 ทำให้ การแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว และพื้นที่เรือนจำถือเป็นกลุ่มเปราะบาง มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดและ เสยี ชวี ติ ได้ง่าย จงึ ต้องเรง่ ดำเนนิ การควบคมุ โรค

63 การดำเนินงานของจงั หวดั การแก้ไขปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ได้นำมาตรการ Bubble and Seal ที่เคยได้ผลที่เรือนจำนราธิวาส และตลาดกลางกุ้ง จังหวัดสมุทรสาคร มาปรับใช้ตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 2564 โดยกระทรวงสาธารณสุขได้เข้าไปวางระบบภายในเรือนจำตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน 2564 มีการจำกัด คนเข้า-ออกเป็นเวลา 28 วัน เพื่อควบคุมโรคทุกแดนของพื้นที่เรือนจำกลางจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งคล้ายกับการ ล็อกดาวน์ โดยมาตรการ Bubble and Seal ที่เร่งดำเนินการ คือ (1) จำกัดควบคุมเขตการระบาดไม่ให้มีการ กระจายจากแดนสู่แดน และไม่ให้มีการกระจายสู่พื้นที่ภายนอก ในลักษณะ Seal เป็นเวลา 28 วัน (2) ระหว่าง การควบคมุ โรค เร่งคน้ หาผู้ทมี่ อี าการเพ่ือรักษาโดยเร่งด่วน (3) จดั ตงั้ โรงพยาบาลสนามภายในเรือนจำเพ่ือรองรับ ฝ่าย 28 วันคาดวา่ จะเหลือผตู้ ดิ เช้ือไม่เกินร้อยละ 10 ทย่ี งั ไม่มีภมู ิคมุ้ กนั สำหรับมาตรการ Bubble and Seal ท่ีนำมาใช้ในเรือนจำกลางเชียงใหม่ต้องจำกัดขอบเขต การควบคุมโรคไม่ให้มกี ารกระจายสู่แดนอื่นหรือพื้นที่ภายนอก โดยการ Seal หรือปิดพื้นที่ทีม่ ีการแพรร่ ะบาดไว้ 28 วัน และในระหว่างการควบคุมโรคจะต้องเร่งค้นหาผู้ที่มีอาการของโรค เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการการรักษา ให้รวดเร็วที่สุด ขณะเดียวกันได้จัดตั้งโรงพยาบาลสนามภายในเรือนจำ เพื่อรักษาผู้ป่วยที่มีอาการเล็กน้อย ถึงปานกลาง ส่วนผตู้ ้องขงั ทม่ี ีอาการหนกั จะทำการสง่ ตวั ออกมารกั ษาทโี่ รงพยาบาลภายนอก การจัดตั้งโรงพยาบาลสนามภายในเรือนจำในแดน 6 เนื่องจากมีพื้นที่แยกสัดส่วนจากแดนอ่ืน ชัดเจน กระทรวงสาธารณสุขได้วางระบบภายในวันที่ 27 เมษายน 2564 โดยได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่าย นอกจากบุคลากรทางการแพทย์ในจังหวัดเชียงใหม่แล้ว ยังได้รับการสนับสนุนจากจังหวัดข้างเคียง นายแพทย์ สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาครที่เคยมีประสบการณ์ในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามที่ตลาดกลางกุ้ง จังหวัด สมุทรสาครมาแล้วมาให้คำแนะนำ ปรึกษา รวมถึงกรมราชทัณฑ์ได้ขอความร่วมมือเสริมกำลังจากเรือนจำ ข้างเคียงและกองทพั ดว้ ย นอกจากนี้ กรมแพทย์ทหารบกจัดผู้เชี่ยวชาญพิเศษเพื่อสนับสนุนหน่วยงานของสาธารณสุข การให้บริการในพื้นที่เรือนจำ โดยทำหน้าที่เชื่อมต่อการดูแลรักษาพยาบาลระหว่างเจ้าหน้าที่ภายในเรือนจำ สำนกั งานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ และโรงพยาบาลในพ้นื ท่ี เพอื่ ลดภาระงานและลดข้อจำกัดในการดำเนินงาน และเพอื่ ลดการสง่ ออกผ้ปู ว่ ยท่ีมีอาการสีเหลือง สเี ขยี วเข้ม หรอื พ้นขดี ความสามารถของบุคลากรในเรือนจำ และ ได้จัดตั้ง Mini ICU ในเรือนจำ เพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง นอกจากการดำเนินงานตามมาตรการด้าน สาธารณสุขแล้ว เรือนจำได้ใช้ยาและสมุนไพรเสริมให้ผู้ต้องขังทั้งผู้ที่ติดเชื้อและไม่ติดเชื้อ โดยผู้ติดเชื้อจะ รับประทานควบคู่กับการรักษาแผนปจั จุบัน อาทิ ยาฟา้ ทะลายโจร นำ้ ขิง น้ำกระชายขาว และวติ ามนิ ซี ซึ่งพบว่า ผู้ต้องขงั ทตี่ ดิ เชอื้ กวา่ 3,000 คน อาการดีข้ึน และมภี ูมคิ ุม้ กนั เพมิ่ ข้นึ

64 ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ รองแม่ทัพภาคที่ 3 นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ผู้บัญชาการ เรือนจำกลางเชียงใหม่ รองเจ้ากรมการแพทย์ทหารบก และนายอำเภอแม่แตง ได้จัดแถลงข่าวเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2564 โดยได้ช้แี จงข้อเท็จจริงและรายละเอียดเกยี่ วกับสถานการณท์ ่ีเกดิ ขึ้น รวมท้ังมาตรการท่ีนำมาใช้ ในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 อาทิ ตัวเลขผู้ต้องขังติดเชื้อที่พบ การนำมาตรการ Bubble and Seal มาใช้ การจัดตัง้ โรงพยาบาลสนามในเรอื นจำกลาง การคดั กรองตรวจหาผูต้ ดิ เชื้อการตรวจหาภมู คิ ุ้มกัน โดยให้คำยืนยันว่า ผู้ต้องขังทุกคนจะอยู่ภายใต้การดูแลรักษาอย่างดี และคาดว่าจะสามารถส่งมอบคืนพื้นที่ให้ เรือนจำกลางเชียงใหม่ได้ในวันที่ 28 พฤษภาคม 2564 เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนว่า สถานการณ์ ดังกล่าวจะคืนสู่สภาพปกติได้ภายในส้ินเดือนพฤษภาคม และสร้างความเชื่อมั่นต่อว่าผู้ต้องขังสามารถกลับไปใช้ ชีวิตได้ตามปกติและไม่ส่งผลกระทบกับชุมชน โดยจะให้ผู้ที่พ้นโทษต้องได้รับการกักตัวอีก 14 วันใน Local Quarantine หรอื สถานท่ที ี่จดั ไวใ้ ห้ ผู้วา่ ราชการจังหวัดเชยี งใหม่ รองแม่ทัพภาคท่ี 3 นายแพทยส์ าธารณสขุ จงั หวัดเชียงใหม่ รองเจ้ากรมการแพทย์ทหารบก ผบู้ ญั ชาการเรือนจำกลางเชยี งใหม่ และนายอำเภอแม่แตง ไดจ้ ดั แถลงข่าว สถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 ในเรือนจำกลางเชยี งใหม่ หลังจากการดำเนินงานตามมาตรการ Bubble and Seal ครบ 28 วัน เมื่อวนั ที่ 14 มถิ ุนายน 2564 เรอื นจำกลางเชยี งใหม่ได้ประกาศเปน็ พื้นท่ีสีขาว ปราศจากการตดิ เช้ือ 100% หลงั จากน้ีจนถึงวันที่ 29 มิถุนายน 2564 เป็นระยะเวลา 14 วัน จะทำการเฝ้าระวัง หากไม่มีผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาอีก ไม่ว่าจะเป็นผู้ต้องขังหรือ เจ้าหน้าที่ ถือว่าเรือนจำกลางเชียงใหม่ได้ปฏิบัติตามแผน Exit Plan หรือการออกจากสถานการณ์อย่างสมบูรณ์ แบบ ผู้ตอ้ งขังกวา่ 6 พนั คน ไม่มกี ารตดิ เช้อื COVID-19 จะสามารถใชช้ วี ิตภายในเรือนจำได้อยา่ งปกติ

65 ทั้งนี้ อำเภอแม่แตงได้จัดตั้ง Local Quarantine จำนวน 4 ศูนย์ เพื่อรองรับผู้ท่ีได้รับการปล่อยตวั ออกมาจากเรือนจำกลางเชียงใหม่ ทั้งผู้ที่พ้นโทษและผู้ประกันตัวในชั้นศาล เนื่องจากเข้าไปอยู่ในพื้นที่เสี่ยงสูง มาก เพื่อติดตามและสังเกตอาการ โดยมีเจ้าหน้าท่ีจากโรงพยาบาลแม่แตง และสาธารณสุขอำเภอแม่แตงเข้ามา ดูแลและรักษาพยาบาล พร้อมทั้งมีการจัดตั้งเวรยามควบคมุ ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเป็นหลกั ประกันว่าจะไม่มีการ แพรเ่ ช้อื ออกไปสภู่ ายนอก ปัจจยั ที่ทำใหก้ ารแก้ไขปัญหาการแพรร่ ะบาดทีเ่ รอื นจำกลางจังหวดั เชยี งใหมป่ ระสบความสำเร็จ ได้แก่ (1) การไดร้ ับความรว่ มมือจากภาครฐั หลายหนว่ ยงาน เน่อื งจากเรือนจำกลางจงั หวดั เชียงใหม่เป็น ราชการส่วนกลางตั้งอยใู่ นภมู ิภาค ดังนนั้ ส่วนราชการตน้ สงั กดั (กรมราชทัณฑ์) ใหก้ ารสนับสนุนเพ่ือแก้ไขปัญหา นี้อย่างเต็มกำลงั โดยได้รบั ความรว่ มมือจากจังหวดั ใกลเ้ คยี งรวมทง้ั หน่วยงานของกระทรวงกลาโหม (2) บริบทของเรือนจำเป็นพื้นที่ปิด มีขอบเขตการแพร่ระบาดชัดเจน กลุ่มเป้าหมายชัดเจน จึงทำการควบคุมการแพร่ระบาดทำได้ง่ายกวา่ พ้ืนที่เปิด จากสถานการณ์ท่ีกล่าวมาข้างต้น จะเหน็ ว่าการแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นมีการกระจายตัวของเช้ืออย่าง รวดเร็ว เนื่องจากผู้ที่ติดเชื้อไม่แสดงอาการ การติดต่อมีลักษณะเป็นกลุ่มก้อนมีความเชื่อมโยงกันด้วยกิจกรรม และเมอื่ มีการระบาดอย่างรวดเร็วแล้ว มาตรการที่เร่งทำในเบ้ืองต้นของท้ังสองกรณี กค็ ือ การสอบสวนหาต้นตอ ของปัญหา ความเชื่อมโยง และรีบดำเนินการตามมาตรการ Bubble and Seal ทันที เร่งตรวจเชิงรุก ซึ่งใน ลักษณะนี้จะเป็นการตรวจเชิงรุกในกลุ่มคนเฉพาะเจาะจง มีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน ภารกิจสำคัญต่อไป คือ การ จัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ทั้ง 2 กรณี จัดตั้งโรงพยาบาลสนามภายในพื้นที่ที่เกิดการระบาดทันที เพื่อดำเนิน มาตรการทางด้านสาธารณสขุ การเกิดในพื้นที่จำกัดเป็นเงื่อนไขที่ดีทีท่ ำให้การจำกัดวงการแพร่ระบาดทำได้ง่าย และรวดเร็ว นอกจากมาตรการทางด้านสาธารณสุขที่ต้องเร่งดำเนินการแล้ว การสื่อสาร สร้างการรับรู้ เข้าใจ เป็นภารกิจที่สำคัญลำดับถัดไป ดังจะเห็นได้ชัดเจนกรณีของตลาดกลางกุ้ง เนื่องจากสถานการณ์ดังกล่าวเป็น จุดเริม่ ต้นของการแพรร่ ะบาดระลอกท่ี 2 โดยเปน็ การระบาดครั้งใหญ่ พบจำนวนผู้ติดเชอื้ จำนวนมากจนน่าตกใจ ดังนั้น ในกรณีของตลาดกลางกุ้ง การสื่อสาร สร้างความเข้าใจ ตลอดจนการสร้างความเชื่อมัน่ ในการทำงานของ ภาครัฐ เพื่อลดความต่นื ตระหนกของประชาชนอยา่ งจำเป็นเรง่ ดว่ น รวมท้งั ต้องชีแ้ จงให้ประชาชนทราบวา่ ภาครัฐ จะดำเนนิ การอย่างไร และประชาชนเองจะตอ้ งปฏบิ ตั ติ ัวอยา่ งไร สำหรับกรณีของเรือนจำกลางจังหวัดเชียงใหม่ จะเห็นว่าการออกมาแถลงสถานการณ์ ข้อเท็จจริง ต่างจากสถานการณ์แรก เนื่องจากมีบริบทที่แตกต่างกัน กล่าวคือ เรือนจำกลางเป็นพื้นที่เฉพาะสำหรับกลุ่ม ผู้ต้องขังเท่านั้น และเป็นพื้นที่ปิดโดยแทจ้ ริง การแพร่ระบาดภายในเรอื นจำสามารถควบคมุ ได้ง่ายกว่า ประกอบ กับไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนโดยทั่วไป จึงไม่เร่งรีบออกมาให้ข้อมูล ข้อเท็จจริง อย่างไรก็ตาม สาระของ การแถลงขา่ วไม่แตกตา่ งกนั คือ จะเน้นการรายงานสภาพปญั หาท่ีเกดิ ขน้ึ การดำเนนิ งานของภาครฐั และทส่ี ำคัญ คือการสรา้ งความมน่ั ใจว่าภาครฐั จะสามารถควบคุมสถานการณ์ดังกลา่ วได้ และจะเรง่ ดำเนินการให้กลบั สู่สภาวะ ปกติให้ไดโ้ ดยเรว็ สำหรบั การบริหารจัดการภายในของทั้ง 2 พืน้ ท่นี นั้ ไม่แตกตา่ งกนั ความคล้ายคลึงอีกประการหนึ่ง คือ การดำเนินการได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน กรณี ตลาดกลางกุง้ กลมุ่ บุคคลท่เี ก่ียวข้องจะมีมากและมีความหลากหลายมากกวา่ แตเ่ น่อื งด้วยเรือนจำเป็นสถานท่ีปิด อยแู่ ล้ว การเขา้ ไปมีสว่ นรว่ มของกล่มุ คนท่ัวไปจึงทำได้ค่อนขา้ งจำกัด

66 สำหรับความแตกต่างของทั้งสองกรณี คือ บทบาทของผู้ว่าราชการจังหวัดในการนำการบริหาร จดั การ กรณขี องตลาดกลางกุ้ง ผวู้ ่าราชการจงั หวัดมีบทบาทเปน็ เสมือนตวั เอก เน่อื งจากสถานที่เกิดเหตุการณ์อยู่ ในความรับผิดชอบของผู้ว่าราชการจังหวัดโดยตรง ขณะที่เรือนจำกลางจงั หวัดเชียงใหม่เป็นหน่วยงานส่วนกลาง สังกดั กรมราชทัณฑ์ แมว้ ่าผวู้ า่ ราชการจังหวดั จะมีบทบาทในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดก็ตาม แต่กรมราชทัณฑ์จะมีบทบาทหลักในการแก้ปัญหา และเนื่องจากเรือนจำกลางเป็นหน่วยงานปิดที่ห้ามไม่ให้ บคุ คลภายนอกเข้า-ออกอยู่แลว้ ดังน้ัน ความรว่ มมือหรือการสนบั สนุนสว่ นใหญ่จึงมาจากกองทพั เป็นหลัก กรณที ่ี 3 สมุทรสาครโมเดล : ต้นแบบการทำ Factory Accommodation Isolation (FAI) ปัจจบุ ัน “โรงงานอุตสาหกรรม” กลายเป็นหน่ึงสาเหตหุ ลกั ของการแพรร่ ะบาดของเชือ้ COVID-19 ในหลายจังหวัด ทั้งการแพร่ระบาดระหว่างพนักงานด้วยกันเอง จากพนักงานกระจายสู่ครอบครัว และแหล่งชุมชน เปน็ วงรอบท่ี 3 จังหวัดสมุทรสาครเป็นแหล่งผลิตอุตสาหกรรมที่สำคัญของประเทศ รายได้หลักมาจาก ภาคอุตสาหกรรมสูงถึงร้อยละ 98 มีโรงงานอุตสาหกรรมกว่า 6,000 แห่ง ทำให้จังหวัดสมุทรสาครเป็นแหล่ง รวมของแรงงานจำนวนมาก โดยเฉพาะแรงงานต่างด้าว การดำเนนิ งานของจงั หวดั ในระยะเร่ิมต้นการจัดต้ัง FAI ของจังหวัดสมุทรสาครเป็นการขอความรว่ มมือจากสถานประกอบการ แต่เมื่อสถานการณ์COVID-19 ของจังหวัดพบผู้ติดเชื้อสูงถึงวันละ 2,000 คน เกินศักยภาพของโรงพยาบาลและ บุคลากรทางการแพทย์ที่มีอยู่ ขณะเดียวกัน สถานที่ของชุมชนที่ทำเป็น CI (Community Isolation) โรงพยาบาลสนามที่มีอยู่ขณะนั้นสามารถรองรับผู้ป่วยได้ประมาณ 7,000 คน หากพนักงานแรงงานโรงงาน อตุ สาหกรรมในพ้ืนทม่ี ีการติดเช้อื จำนวนมาก สถานพยาบาลท่มี อี ยู่ก็ไมส่ ามารถรองรับไดเ้ พียงพอ ผู้ว่าราชการจังหวัดจึงได้หารือกับประธานสภาอุตสาหกรรมและประธานหอการค้าจังหวัด สมุทรสาครเพื่อหาแนวทางปกป้องการผลิตในภาคส่งออกให้สามารถเดินหน้าและขยายตัวได้มากขึ้น โดย ไม่สร้างภาระหรือความเสี่ยงต่อการระบาดในประเทศ โดยมีแนวทางสรุปว่า ให้โรงงานหรือสถานประกอบการ จัดตั้งโรงพยาบาลสนามขึ้น หรืออาจร่วมกับสถานประกอบการอื่นร่วมกันจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม เพื่อรองรับ กรณมี กี ารติดเชื้อของพนักงานของโรงงาน โดยไมต่ ้องปิดสถานประกอบการน้ัน ๆ หากสามารถดำเนินการควบคู่ กนั ได้ทงั้ ทางเศรษฐกิจและสาธารณสุข กจ็ ะทำใหล้ ดการสูญเสียลงได้ จากข้อตกลงร่วมกัน หากมีการจัดตั้ง FAI 10% ของพนักงาน หรือทำโรงงานละ 10 เตียง ก็จะได้ เตียงเพมิ่ ข้ึนมากกวา่ 60,000 เตียง ใหก้ ับผ้ตู ดิ เช้ือสีเขยี วที่ไม่มีอาการ โดยโรงงานรบั ผดิ ชอบค่าใชจ้ า่ ยเอง ขณะที่ โรงงานสนาม ศูนย์พักคอย (Community Isolation) หรือศูนย์ห่วงใยคนสาครที่ภาครฐั จดั ตั้งข้ึน ก็ให้ประชาชน ทว่ั ไปได้ใช้ประโยชน์ การจัดตัง้ FAI จงึ ช่วยลดภาระโรงพยาบาลไปได้มาก เมื่อได้ข้อยุติร่วมกัน ผู้ว่าราชการจังหวัดจึงมีคำสั่งจังหวัดสมุทรสาคร ที่ 2013/2564 ลงวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 เรื่อง ให้โรงงานหรือสถานประกอบการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม (Factory Accommodation Isolation : FAI) โดยมสี าระสำคัญ ดังนี้

67 (1) จังหวัดโดยผู้ว่าราชการจังหวัดออกคำสั่งให้โรงงานหรือสถานประกอบการที่มีแรงงานตั้งแต่ 50 คนขนึ้ ไป หรอื มีกำลงั เครื่องจักร 50 แรงม้าขึ้นไป ตอ้ งจดั ตัง้ โรงพยาบาลสนามในโรงงานหรือสถานประกอบการ เพื่อใช้แยกกักตัวและรักษาผู้ติดเช้ือ COVID-19 ในโรงงาน (2) โรงพยาบาลสนามในโรงงานต้องมีจำนวนเตียงไม่น้อยกว่า 10% ของจำนวนพนักงานและต้อง เพียงพอต่อการแยกกัก การควบคุมโรคที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด โดยอาจจัดตั้งโรงพยาบาลสนามภายใน หรอื ภายนอกสถานประกอบการ หรือรว่ มกนั จัดต้ังโรงพยาบาลสนามกับสถานประกอบการอืน่ ๆ เพียงแห่งเดียว เพื่อให้สะดวกในการวางมาตรการด้านสาธารณสุขทั้งเรื่องระบบการให้บริการทางการแพทย์ ลดจำนวนแพทย์ - พยาบาลทต่ี ้องมาดูแลรักษาผู้ติดเชื้อ และการกำจัดขยะติดเชื้อ เป็นตน้ และต้องจัดต้ังให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 กรกฎาคม 2564 หากไม่แล้วเสร็จภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ให้เสนอคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เพื่อพิจารณาปิดโรงงานหรือสถานประกอบการทันที (3) โรงงานรับผดิ ชอบคา่ ใช้จา่ ยเอง คือ การจัดต้ังโรงพยาบาลสนามและค่ารกั ษาพยาบาล สนับสนนุ โดยระบบสาธารณสุขของจังหวัด จากคำสั่งดังกล่าว พบว่า FAI ของโรงงาน ทำให้มีเตียงเพิ่มขึ้นเกือบ 50,000 เตียง (เฉพาะ รองรับแรงงาน) และบางแห่งมแี พทย์ พยาบาลที่โรงงานรับผิดชอบในการจัดหา ส่วนใหญ่ใช้วิธี Telemedicine เน่อื งจากเจ้าหนา้ ทสี่ าธารณสขุ ทเ่ี ปน็ ของรฐั ทด่ี แู ลโรงพยาบาลชุมชน ไมส่ ามารถดแู ล FAI ได้ทกุ ท่ี FAI จึงเรียกได้ว่าเป็น “สมุทรสาครโมเดล” ท่ีเปน็ ตน้ แบบของการมสี ว่ นรว่ มของภาคเอกชนในการ ป้องกันโรค COVID-19 ร่วมกับภาครัฐ เพื่อให้การค้า การผลิต ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องได้ โดยส่งผลกระทบ ต่อสถานประกอบการ แรงงาน และภาวะเศรษฐกิจของจังหวัดน้อยที่สุด ขณะเดียวกันก็ป้องกันไม่ให้โรงงาน กลายเป็นคลัสเตอร์การระบาดที่จะกระทบประชาชนในวงกว้าง นอกจากนี้ FAI ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของ สถานประกอบการในสายตาสงั คมและชุมชนท่มี สี ว่ นร่วมในช่วงทป่ี ระเทศและสงั คมมปี ัญหา ปัจจยั ท่ีทำให้การจดั ตงั้ FAI ของจังหวัดสมุทรสาครประสบความสำเร็จ ไดแ้ ก่ (1) การมีวิสัยทัศน์ของผู้ว่าราชการจังหวัด โดยพิจารณาจากปัจจัยแวดล้อมสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อของจังหวัดที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง กลุ่มแรงงานต่างด้าวที่เป็น สาเหตุหลักของการติดเชื้อในลักษณะกลุ่มก้อน บริบทของจังหวัด สภาพเศรษฐกิจ ข้อมูลความสามารถในการ รองรบั ของสถานพยาบาลภาครฐั ทไี่ ม่เพียงพอรองรบั ผู้ติดเชื้อจำนวนมาก และการคาดการณแ์ นวโน้มท่ีจะเกิดขึ้น ทำให้ผูว้ ่าราชการจังหวัดเตรยี มหาทางออกกอ่ นเหตุการณจ์ ะมาถงึ (2) การร่วมแรงร่วมใจ การเสียสละของสถานประกอบการ เนื่องจากการจัดทำ FAI เป็นการเพ่ิม ตน้ ทนุ ของผู้ประกอบการ เพราะตอ้ งกันพื้นที่สว่ นหน่งึ จดั ตัง้ โรงพยาบาลสนาม และการจดั หาอาหารสำหรบั ผูป้ ว่ ย เป็นตน้ (3) การเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดมาตรการรองรับ โดยมีการหารือ จนไดข้ อ้ ยุตริ ่วมกนั เป็นท่ียอมรับของท้งั ภาครัฐและเอกชน ผ้วู ่าราชการจงั หวัดจงึ ไดป้ ระกาศเปน็ คำสง่ั บังคับใช้

68 2.3 ปัจจัยท่ีแห่งความสำเรจ็ (Key Success Factors) ข้อสรุปจากรายงานการประเมินผลตนเองตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพการปฏิบัติราชการ ของจังหวดั พบวา่ ปัจจยั ทีเ่ อื้อต่อความสำเร็จในการดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่กระจายของเช้ือ COVID–19 ทัง้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 และ พ.ศ. 2564 ไมม่ ีความแตกตา่ งกนั กล่าวโดยสรปุ ดังนี้ (1) บทบาทของผู้วา่ ราชการจงั หวัด ขอกําหนดตามมาตรา 9 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ฉบับท่ี 1 ให้อำนาจสำคญั แกผ่ วู้ า่ ราชการจังหวดั เปน็ ผูก้ ํากับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ทุกมิติในเขตท้องที่ที่ตนรับผิดชอบ ประกอบกับพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มาตรา 20 กำหนดให้มี คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน การบริหารจัดการสถานการณ์การแพร่ ระบาดของโรค COVID-19 ของผู้ว่าราชการจังหวดั โดยอาศัยกฎหมายดังกล่าว ทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถ บริหารจัดการในพื้นที่ได้อย่างเบ็ดเสร็จ การบริหารงานมีความเป็นเอกภาพ การสั่งการจึงมีลักษณะเป็น Single Command ส่งผลการดำเนนิ งานเปน็ ไปในทิศทางเดยี วกนั และมุ่งสู่เป้าหมายเดยี วกนั ลดความซ้ำซ้อนและสับสน ของผ้ปู ฏิบัติ การบริหารงานภายใต้กลไกของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดที่มีองค์ประกอบจากหลาย ภาคส่วน ไม่ได้มีหน้าที่เพียงออกคำสั่ง กำหนดมาตรการแนวทางปฏิบัติเท่านั้น แต่ต้องรับฟังข้อมูลความคิดเห็น ของคนรอบขา้ ง เพอื่ ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของจังหวัดทง้ั ดา้ นเศรษฐกิจ สงั คม และความปลอดภัยให้น้อยท่ีสุด การกำหนดมาตรการด้านสาธารณสุขขั้นสูงสุดย่อมกระทบในเชิงผกผันกับความเจริญทางด้านเศรษฐกิจ ดังนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจำเป็นต้องคำนึงถึงผลกระทบที่เกิดตามมาให้มาก ที่สุดเท่าที่จะทำได้ คุณสมบัติของตัวผู้นำด้านการมีวิสัยทัศน์ มองการณ์ไกล กล้าคิด (นอกกรอบ) กล้าตัดสินใจ ตดิ ตามสถานการณ์และประเมินผลอย่างต่อเน่ือง และสามารถตอบสนองเหตุการณ์ได้ทันทว่ งที จึงเป็นคุณสมบัติ ของผูบ้ ัญชาการรบในสถานการณ์เชน่ น้ี (2) ความร่วมมือของประชาชน จากสถานการณ์ดังกล่าว จะเห็นพลังของประชาชนโดยเริ่มต้น มาจากภายในครอบครัว การให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการ แนวทางปฏิบัติที่กำหนด ถึงแม้ว่าจะส่งผล กระทบต่อการดำเนินชีวิตบ้างก็ตาม เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายลงได้ พลังความร่วมมือของประชาชนจึงเป็น ข้อกำหนดพื้นฐานของการดำเนินงานของภาครัฐ นอกจากนี้ พลังของประชาชนที่ส่งมาในรูปของการสนับสนุน การมีส่วนร่วมกับการดำเนินงานของภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นการเป็นหูเป็นตาในพื้นที่ การสอดส่องความผิดปกติ ในพื้นที่ การแจ้งเบาะแสเมื่อพบบุคคลต้องสงสัย หรือพบผู้ติดเชื้อ รวมทั้งร่วมเป็นจิตอาสาในกิจกรรมต่าง ๆ การสนับสนุนเงินทุน วัสดุ อุปกรณ์ หรือพื้นที่ดำเนินการ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญถึงแม้จะเป็น กลไกเลก็ ๆ ก็ตาม แต่มพี ลงั อนั ยง่ิ ใหญ่ (3) การบูรณาการการทำงานร่วมกันหลายภาคส่วน เห็นได้ว่าภาครัฐแต่เพียงลำพังหรือ เพียงหน่วยงานใดหน่วยงานหนึง่ ไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ให้ลุล่วงได้ จำเป็นต้องอาศัยการร่วมแรงร่วมใจจาก หลายภาคส่วน ดงั จะเหน็ ได้จากกรณีศึกษาของตลาดกลางกุ้งที่ไดร้ ับความรว่ มมือจากหนว่ ยงานภาครัฐทั้งภายใน จังหวัดและต่างพื้นที่ ผู้ประกอบการ แรงงานต่างด้าว องค์กรต่าง ๆ และประชาชน ทำให้สถานการณ์ดังกล่า ว คลี่คลายลงได้ นอกจากตัวอย่างดังกล่าว การปฏิบัติการเชิงรุกในพื้นที่ต้องอาศัยการร่วมแรง ร่วมใจ จากทั้ง

69 ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ สาธารณสุข อาสาสมัคร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนเข้าร่วมปฏิบัติการ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างรุนแรงที่ผ่านมาซึ่งเกินศักยภาพด้านสาธารณสุขที่มีอยู่จะรับมือไหว ทำให้ เห็นหลายปรากฏการณ์เกิดขึ้นตามมา ไม่ว่าจะเป็นการตั้งโรงพยาบาลสนาม Local Quarantine, Community Isolation ท้ังในวดั สถานประกอบการ โรงแรม สถานศึกษา สนามกีฬา หอพกั นกั ศกึ ษา และศูนย์ประชุม รวมท้ัง การรบั ผตู้ ิดเชื้อจากกรงุ เทพฯ และพ้ืนทสี่ ีแดงกลบั ไปรักษาทภ่ี ูมลิ ำเนา (4) ความพร้อมในการรับมือการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ไม่ว่าจะเป็นความพร้อม ด้านระบบการแพทย์และสาธารณสุข ความพร้อมดา้ นการรักษาพยาบาลและทรัพยากรท่ีเพียงพอ ความเชี่ยวชาญ ของบคุ ลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุข ความเข้มแขง็ ของสาธารณสุขมลู ฐาน อาสาสมคั รสาธารณสุขประจำ หมู่บ้าน (อสม.) ซึ่งส่งผลใหก้ ารติดตาม การป้องกัน และการควบคุมโรคเป็นไปอย่างมปี ระสิทธิภาพ ความพร้อม ดา้ นเคร่ืองมือ วสั ดอุ ปุ กรณ์ เวชภณั ฑ์ ครุภณั ฑ์ สถานท่ี (สถานบริการภาครฐั และเอกชน) รวมท้ังสถานท่ีกักกันตัว (State–Local Quarantine) ที่สามารถรองรับการทำงานได้อย่างเพียงพอ รวมทั้งความพร้อมด้านงบประมาณ ทสี่ ามารถนำมาใชใ้ นกรณีฉุกเฉนิ ไดท้ ันที รวมทงั้ มเี งินสำรองกรณีทย่ี ังไมส่ ามารถเบิกเงนิ งบประมาณมาใชไ้ ด้ (5) การสื่อสารประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ เข้าใจ เป็นอีกหนึ่งตัวแปรที่มคี วามสำคัญ ถึงแม้ว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 จะเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2562 แล้วก็ตาม แต่ในปี พ.ศ. 2564 มีความแตกตา่ งจากปี พ.ศ. 2562 ดว้ ยตัวเลขจำนวนผู้ติดเช้ือทเี่ พ่ิมสงู ขึ้นอย่างต่อเนื่อง การกลายพันธุ์ การ ติดต่อที่รวดเร็วและไม่รู้ตัว สถานการณ์เหล่านี้ล้วนสร้างความหวาดวิตกให้แก่ประชาชนอย่างมาก การให้ข้อมูล ข้อเท็จจริง การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร การชี้แจงสถานการณอ์ ย่างตอ่ เนื่อง การถ่ายทอดแนวทางปฏิบัติท่ชี ัดเจน รวมทั้งการตอบโต้กับข่าวลวง ล้วนเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อลดความตื่นตระหนกที่จะเกิดขึ้น และประชาชนจะได้ ตระหนักถึงความรุนแรงของสถานการณ์และมีการระมัดระวังมากยิ่งขึ้น ดังจะเห็นได้จากกรณีตัวอย่างเมื่อมี เหตุการณ์ทีร่ ุนแรง ผู้ว่าราชการจงั หวัดและผู้ท่ีเก่ียวข้องตอ้ งรบี ชี้แจงทันที พร้อมกำหนดแนวทางปฏบิ ัติท่ชี ัดเจน รวมทั้งสร้างความเช่ือมั่นแก่ประชาชนในพ้ืนท่ี การปกปดิ ขอ้ มลู มีแตจ่ ะทำใหส้ ถานการณ์นน้ั เลวร้ายลง (6) ระบบฐานข้อมูลที่ถูกต้อง ทันเวลา มีความจำเป็นอย่างมากในการบริหารสถานการณ์พิเศษ เชน่ นี้ ฐานข้อมลู ทถี่ ูกต้อง ทนั เวลา นำมาซง่ึ การตดั สนิ ใจท่ีถูกทาง ในการวางแผนการดำเนนิ งานจำเป็นต้องตั้งอยู่ บนพ้ืนฐานของข้อมลู ที่ชดั เจน ปัจจัยแห่งความสำเร็จข้างต้นนี้ เป็นเพียงปัจจัยร่วมที่กำหนดความสามารถในการบรรลุเป้าหมาย ที่กำหนดไว้เบื้องต้นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม บางจังหวัดที่มีความเฉพาะเจาะจงและมีบริบทที่แตกต่างกันไปอาจมี ปัจจยั อนื่ ๆ เขา้ มาเปน็ ตวั แปรสำคัญอีกกไ็ ดเ้ ชน่ กนั 2.4 ปญั หาอุปสรรค ปัญหาอุปสรรคที่สำคัญของการดำเนินงานเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ของ จังหวัดโดยรวมสรปุ ได้ดังต่อไปนี้ (1) ความไม่ชดั เจนของกฎ ระเบียบ กฎหมาย ประกาศ คำสัง่ ข้อสัง่ การ ในช่วงการแพร่ระบาดระยะเริ่มแรก ส่วนกลางต้องกำหนดมาตรการเพื่อรองรับสถานการณ์ เป็นการด่วน ทำให้กฎหมาย ระเบียบ ประกาศ หนังสือสั่งการบางฉบับมีความคลุมเครือ ขาดข้อมูลที่ครบถ้วน การตีความมีความคลาดเคลื่อนและสร้างความสับสนในทางปฏิบัติ นอกจากนี้ข้อสั่งการจากส่วนกลางบางประเด็น ขาดความชดั เจน สับสน และล่าช้า โดยเฉพาะนโยบายการบริหารจัดการวัคซนี

70 นอกจากนี้ กฎหมายที่ประกาศออกบังคับใช้มีทั้งของส่วนกลางและที่จังหวัดออกบังคับใช้เอง ซึ่งมีความแตกต่างในรายละเอียดและความเคร่งครัดที่แตกต่างกันในแต่ละจังหวัด ทำให้ประชาชนซึ่งอยู่ ตา่ งพ้นื ท่กี ัน มีความสับสน โดยเฉพาะเมื่อจะเดนิ ทางเขา้ -ออกพ้ืนทจี่ ังหวัด (2) การขาดแคลนวสั ดุ อุปกรณ์ ด้วยระยะเวลาการแพร่ระบาดท่ีรวดเร็วและขยายตัวในวงกว้าง ประกอบกับการเป็นโรคอุบัติใหม่ ทำให้ระยะแรกยังไม่มีการเตรียมความพร้อมด้านต่าง ๆ ล่วงหน้า และเมื่อสถานการณ์การแพร่กระจายตัว อย่างรวดเร็วสร้างความตระหนกให้แก่ประชาชน จงึ เกิดการกักตนุ สินค้า โดยเฉพาะสนิ คา้ ท่ีจำเป็นต่อการป้องกัน พน้ื ฐานของประชาชน เชน่ หนา้ กากอนามยั เจลแอลกอฮอล์ สเปรย์ฆ่าเชื้อ และเครือ่ งวดั อุณหภูมิ เป็นต้น สินค้า เหล่านี้ขาดตลาด ราคาสินค้าสูงขึ้นอย่างรวดเรว็ ขณะเดียวกันวัสดุ อุปกรณ์ เวชภัณฑ์ ในการป้องกันการติดเชือ้ ให้กบั บคุ ลากรทางการแพทยไ์ ม่เพียงพอเช่นกนั ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 การขาดแคลนวัสดุ อุปกรณ์ต่าง ๆ มีสาเหตุมาจากการแพร่ระบาด ที่รุนแรง การพบผู้ติดเชื้อจำนวนมากและมีอาการที่รุนแรงกว่าที่พบในระลอกแรก ทำให้เกิดการขาดแคลนวัสดุ อุปกรณ์ทจ่ี ำเปน็ ไมว่ ่าจะเป็นเตยี งรองรับผปู้ ว่ ย เครอ่ื งชว่ ยหายใจ เครือ่ งวัดออกซเิ จนปลายนิว้ เครอื่ งวัดความดัน ถังออกซเิ จน รวมทงั้ ชดุ ตรวจหาเช้ือ COVID-19 แบบแอนตเิ จน หรอื ATK (Antigen Test Kit) ในพืน้ ท่ี เนื่องจาก มจี าํ นวนผตู้ ิดเช้ือรายใหม่เพ่ิมขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีกลุ่มเส่ียงจำนวนมาก จงึ จําเป็นต้องมีการตรวจหาเชื้อเชิงรุก เพิ่มข้ึน นอกจากนี้ วคั ซีนทสี่ ่วนกลางสนับสนุนให้มีการฉีดเพ่ือป้องกนั กลับมีไม่เพียงพอกับความต้องการ ของประชาชนในพ้ืนที่ ความไมช่ ดั เจนของจำนวนวัคซนี และระยะเวลาที่จะไดร้ บั การจัดสรร ทำใหจ้ ังหวัดไมส่ ามารถ บรหิ ารจดั การตามแผนได้ (3) บคุ ลากรในการปฏบิ ัตงิ านไมเ่ พยี งพอและมคี วามเสี่ยง บุคลากรเป็นปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งในการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 จะเห็นได้ว่าทุกจังหวัดมีชุดปฏิบัติการที่มาจากการระดมสรรพกำลังจากหลายฝ่ายร่วมกันปฏิบัตกิ าร ทั้งส่วนราชการ ภาคเอกชน และประชาชน ซึ่งต้องปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจังหวัดที่มีขนาดใหญ่ จังหวัดทีเ่ ป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ จังหวดั ท่มี สี ถานประกอบการจำนวนมาก จังหวัดทม่ี ีผู้กักกันตัวจำนวนมาก และจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวัง การป้องกันขั้นสูงสุดมีความจำเป็นต้องใช้ บคุ ลากรจำนวนมาก ขณะทีท่ รพั ยากรบุคคลมีค่อนขา้ งจำกัด จากสถานการณ์ทผ่ี า่ นมาจงั หวดั ได้รับการสนับสนุน ด้านกำลังคนจากภาคเอกชนและประชาชนเข้ามาเป็นอาสาสมัครร่วมปฏิบัตงิ าน หากอาศัยเพียงบคุ ลากรภาครัฐ เทา่ น้นั กย็ ากทจ่ี ะประสบผลสำเรจ็ การบูรณาการการทำงานร่วมกันทุกภาคส่วนเป็นเง่ือนไขความจำเป็นในภาวะที่ต้องแก้ปัญหา เรง่ ด่วนเฉพาะหน้านี้ การปฏิบตั ิงานที่ใช้เวลายาวนานอย่างต่อเนื่อง ไม่มีโอกาสสลับสับเปลย่ี นเน่ืองจากบุคลากร ไม่เพียงพอ ขณะเดียวกันภารกิจงานประจำก็ไม่สามารถละเลยได้ส่งผลกระทบต่องานประจำเช่นกัน ในมิติของ เจ้าหน้าท่ีที่ต้องอยู่ท่ามกลางความเสี่ยงในการติดเชื้อเพราะมีโอกาสสัมผัสกับผู้ป่วยได้ง่ายกว่าหากระบบป้องกนั ไม่มีคุณภาพพอ การปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานโดยไม่มีการพักผ่อนที่เพียงพอย่อมนำมาซึ่ง ความเครียด ความเหนื่อยลา้ และเจา้ หนา้ ทบี่ างรายมีการเจบ็ ป่วยหรือเสยี ชีวิตจากการปฏิบัตงิ าน

71 (4) ความไมย่ ืดหยุ่นของระเบียบการเบิกจ่ายงบประมาณ และความไม่เพียงพอ งบประมาณเป็นปัจจัยสำคัญของการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาวิกฤตในช่วงของการแพร่ ระบาดของโรค COVID-19 ในทางปฏิบัตินอกจากพบว่างบประมาณที่ได้รับไม่เพียงพอที่จะรองรับการแก้ไข สถานการณ์ดังกล่าวโดยเฉพาะกับจังหวัดที่พบจำนวนผู้ติดเชื้อสูงและมีความรุนแรงแล้ว ยังพบ ข้อจำกัด ดา้ นระเบียบ ข้อกฎหมาย ระบบงบประมาณหลายประการท่ีไม่เอื้ออำนวยให้จังหวดั สามารถบริหารจัดการ/ปฏิบัติงาน ได้ทนั ทว่ งที เช่น • งบประมาณการจัดการภัยพิบัติจากงบฉุกเฉินไม่สามารถนำมาใช้กับบุคลากรบางวิชาชีพ หรือบางกลุ่มได้ เช่น กลุ่มแรงงานต่างด้าวหรือผู้ที่หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรอย่างผิดกฎหมาย บางจังหวัด มีแรงงานกลุ่มน้ีอยูเ่ ปน็ จำนวนมาก • งบประมาณที่ทุกจังหวัดได้รับจัดสรรตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีไม่สามารถดำเนิน โครงการได้ เนื่องจากขัดกับมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 แต่ผู้ว่าราชการจังหวัด ไมส่ ามารถโอนเปล่ยี นแปลงงบประมาณในส่วนน้ันมาเพือ่ ใชจ้ ่ายในการแกป้ ัญหาเร่งด่วนดังกลา่ ว หากจะนำมาใช้ได้ ตอ้ งผา่ นกระบวนการขั้นตอนต่าง ๆ และใช้เวลานาน • ระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่าย งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณี ฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 มีรายละเอียดและมีหลายขั้นตอน ทำให้การบริหารงานไม่มีความคล่องตัว เช่น การโอน เปลี่ยนแปลงรายละเอยี ดตอ้ งทำความตกลงกบั สำนักงบประมาณก่อนจงึ จะดำเนินการต่อได้ • ความเข้าใจในทางปฏิบัติตามระเบียบราชการการเบิกจ่ายงบประมาณในสถานการณ์ ฉุกเฉินทแ่ี ตกต่างกนั ของสว่ นราชการและองคก์ รปกครองส่วนท้องถนิ่ ทำใหเ้ กดิ ความลา่ ช้าในการดำเนนิ การ • การเบิกจ่ายงบประมาณในภาวะฉุกเฉินของหน่วยงานต่าง ๆ ยังไม่มีแนวทางปฏิบัติ ท่ีชดั เจน และมีข้อจำกัดและเง่ือนไขมาก เช่น งบยบั ยง้ั ภยั ภัยพิบัตกิ รณฉี กุ เฉนิ กรณีโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และงบเสี่ยงภัยของกระทรวงสาธารณสุข เป็นต้น ทำให้ ไมส่ ามารถตอบสนองตอ่ การปฏิบตั ิการในภาวะวกิ ฤตได้อย่างรวดเร็ว (5) ขาดการสอื่ สารสรา้ งการรับรู้ เข้าใจท่ีถูกตอ้ ง การสื่อสารประชาสัมพันธ์นับเป็นหวั ใจของการปฏิบัติงานนี้เช่นกัน เพราะเป็นเครื่องมือสร้าง ความเชื่อมั่นให้กับประชาชน จากรายงานการประเมินผลพบว่า ประชาชนยังมีความสับสนเกี่ยวกับข้อกฎหมาย ทสี่ ว่ นราชการประกาศบังคับใช้ และมาตรการท่ีจงั หวัดกำหนดใชใ้ นพ้นื ท่ี การเข้าถึงข้อมูลของประชาชนแต่ละกลุ่มยังไม่ทั่วถึง เนื่องจากช่องทางการรับข่าวสารของ ประชาชนไม่เหมือนกัน เช่น กลุ่มผู้สูงอายุมีข้อจำกัดเรื่องการรับข้อมูลผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย ทำให้ได้รับ ข้อมูลน้อยกว่ากลุ่มที่สามารถรับข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดีย ฯลฯ นอกจากนี้ การสร้างข่าวลวง ข่าวเท็จ มีให้เห็น โดยทั่วไป ทำให้ประชาชนตระหนกไปกับข่าวเหล่านั้น เช่น ประชาชนในบางพื้นที่ไม่ยอมรับหรือไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ ในกลุ่มผู้ป่วยท่ีรักษาหายแล้วหรือกลุ่มที่มาจากต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ เนื่องจากความเข้าใจที่คลาดเคล่อื น เกยี่ วกบั ธรรมชาติการเกดิ โรคและวิธีการแพร่กระจายเชือ้ ประชาชนบางส่วนท่ยี งั ไมเ่ ข้าใจหรือเข้าใจคลาดเคล่ือน เกี่ยวกับการใช้สถานที่ในการจัดต้ังเป็นสถานที่กักกันตัวสำหรับผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ (Local Quarantine) หรือการต้ังโรงพยาบาลสนาม จงึ เกดิ การปฏเิ สธและตอ่ ตา้ น เป็นต้น

72 (6) ฐานข้อมลู ไม่ครบถ้วน เนื่องจากเป็นโรคอุบัติใหม่ ข้อมูลในพื้นท่ีจึงยังไม่มีการจัดเก็บอย่างเป็นระบบ ข้อมูลยังอยู่ใน หนว่ ยงาน ข้อมลู ไม่ครบถว้ น และไม่อยูใ่ นรปู แบบดิจิทลั ท่ีสามารถเช่ือมโยงกันได้ จงึ ทำใหข้ าดฐานข้อมูลท่ีจำเป็น ในการวิเคราะห์เพื่อกำหนดนโยบาย การวางแผน และการตัดสินใจเพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาคุณภาพ การให้บริการประชาชน อาทิ การบริหารจัดการเตยี ง การบริหารจัดการวัคซนี และการควบคุมโรคของกลุ่มแรงงาน ต่างด้าว เปน็ ตน้ 2.5 สรปุ สาระสำคญั ผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ที่มีต่อการขับเคลื่อนประเด็น การพัฒนาของจังหวัด การให้บริการประชาชน ตลอดจนผลการดำเนินงานตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพ การปฏิบัติราชการของจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 และ พ.ศ. 2564 ทำให้จังหวัดต้องปรับรูปแบบ วธิ ีการปฏิบัติงานรวมท้ังพฒั นานวัตกรรมเพอ่ื ช่วยในการปฏบิ ัติและการใหบ้ ริการเพอื่ ลดความเสี่ยงท่ีอาจเกดิ ขึน้ เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 เป็นโรคอุบัติใหม่ ดังนั้น การดำเนินงานของจังหวัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 จึงเป็นการจำลองกลไกการดำเนินงานและมาตรการมาจาก ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เช่น มีการจัดตั้งศูนย์บริหาร สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ของจังหวัด และตั้งคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระดับจังหวัด การปิดสถานบริการ ปิดสถานที่ที่มีการรวมกลุ่มของคน จำนวนมาก งดกิจกรรมที่มีการเคลื่อนย้ายคนข้ามจังหวัดของหน่วยงานที่มีคนจำนวน งดการเรียนการสอนของ มหาวิทยาลัย วิทยาลยั และโรงเรียน เป็นต้น สำหรับการบริหารจัดการในพื้นท่ีส่วนราชการส่วนกลางมีการกำหนดแนวทางปฏบิ ัตใิ หจ้ ังหวัด โดย แต่ละจังหวัดอาจมีการปรับให้เข้ากับสภาพปัญหาที่เผชิญในแต่ละพื้นที่ให้เหมาะสมได้ เช่น กรมควบคุมโรค กำหนดมาตรการในการตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน โดยใช้หลัก 6 C (Capture, Case Management and Infection Control, Contact tracing and Containment, Communication, Communication Intervention and Law Enforcement และ Coordinating and Joint Information Center) หรือกลยุทธ์การสอบสวนโรค ของ กรมควบคมุ โรค (เตรียมใหพ้ รอ้ ม ตรวจให้พบ ตใี ห้เร็ว และตามใหห้ มด) เป็นต้น ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 มีลักษณะการกระจายตัวของการแพร่ระบาดที่รุนแรงกว่า มีการพบ การติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน จังหวัดจึงกำหนดมาตรการมารองรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในหลาย ๆ มาตรการ อาทิ การสวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกนอกเคหสถานหรือที่สาธารณะ มาตรการกักตัวผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง มาตรการงดออกนอกเคหสถาน และมาตรการ Bubble and Seal เป็นต้น และจากสถานการณ์การติดเชื้อที่อยู่ ในภาวะวิกฤต ระบบสาธารณสุขที่มอี ยู่ไม่สามารถรองรับไดเ้ พียงพอ จึงเกิดการกักตัว การรักษาในหลายรปู แบบ เชน่ การกักตวั ท่ีบ้าน (Home Isolation) ตั้งศนู ย์พกั คอย (Community Isolation) ในชุมชน ซ่ึงใช้เป็นสถานที่ สำหรับดูแลรักษาเบื้องต้นระหว่างรอเตียง Hospitel ที่มีการดัดแปลงโรงแรมเป็นสถานพยาบาลชั่วคราว เหมาะสำหรับผู้ป่วย COVID-19 ที่ต้องการความสะดวกสบาย เป็นส่วนตัวมากกว่าโรงพยาบาลสนาม รองรับ ผู้ป่วยที่มีอาการน้อยหรือไม่รุนแรง และโรงพยาบาลสนาม นอกจากกำหนดมาตรการในการปฏิบัติการตอบโต้สถานการณ์ดังกล่าวแล้ว จังหวัดได้พัฒนา นวัตกรรมขึ้นมาเพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการปฏิบัติงาน และนวัตกรรมในการให้บริการเพื่ออำนวยความสะดวก ให้แก่ประชาชน ตัวอย่างเช่น การสรา้ งห่นุ ยนต์เพ่ือช่วยในการส่งอาหารและเวชภัณฑ์ในโรงพยาบาล เพื่อช่วยลด

73 ความเสีย่ งของบุคลากรทางการแพทย์ พัฒนาระบบการให้บริการดว้ ยระบบออนไลน์เชน่ การจองคิว การนัดหมาย เข้ารับบริการ และการฝากครรภ์ เป็นต้น การนำอากาศยานไร้คนขับมาใช้ในการสำรวจพื้นที่เสี่ยง การใช้กล้อง วงจรปดิ ตรวจสอบการดำเนนิ การตามมาตรการ การพฒั นาระบบคดั กรอง/เฝา้ ระวงั และติดตามกลุ่มเสี่ยง โดยผา่ น ระบบออนไลน์ เปน็ ต้น จากการดำเนินมาตรการข้างต้นเมื่อสิ้นสุดการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ระลอกแรก (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563) พบว่ามี 9 จังหวัดที่ไม่พบผู้ติดเชื้อ ได้แก่ จังหวัดน่าน พิจิตร กำแพงเพชร บึงกาฬ สิงห์บุรี ชัยนาท อ่างทอง ตราด และระนอง จังหวัดเหล่านี้ให้ความสำคัญกับการดำเนินการที่แตกต่างกันไป ซ่ึง สว่ นใหญจ่ ะให้ความสำคัญกับประชาชนเปน็ หลัก โดยเน้นการสร้างวินยั ในการปฏบิ ตั ิตนเพ่ือใหห้ ่างไกลโรค เช่น รักษาระยะห่าง ไม่ออกจากบ้านหากไม่จำเป็น สวมหน้ากากอนามัย และล้างมือบ่อยครั้ง เป็นต้น รองลงมาคือ การเข้มงวดกวดขันในการคัดกรองเพื่อสร้างเกราะป้องกันประชาชนภายในจังหวัด หากพิจารณาจาก 9 จังหวัด ดังกล่าวพบว่าสภาพทางภูมิศาสตร์ของจังหวัดที่เข้าถึงไม่สะดวกนัก ต้องตั้งใจไปจริง ๆ รวมทั้งไม่ใช่เป็นเมือง ศนู ยก์ ลางทางเศรษฐกิจ หรอื มขี นาดเลก็ และประชาชนใชช้ วี ิตทเ่ี รียบง่าย คณุ สมบตั ดิ งั กล่าวกลายเป็นข้อดีที่ช่วย ปกป้องให้รอดพ้นจากการตดิ เชอ้ื ในคร้งั นี้ได้ สำหรับกรณีท่เี ป็นการปฏิบตั ิทีด่ ีในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ในรายงานได้นำเสนอกรณีตลาดกลางกุ้ง จังหวดั สมทุ รสาคร และเรอื นจำกลางจังหวัดเชียงใหม่ โดยทง้ั สองกรณีมีบรบิ ทของสถานที่ท่คี ่อนข้างใกล้เคียงกัน แมว้ า่ ตลาดกลางกงุ้ และบรเิ วณหอพักศรีเมืองจะไม่เป็นพ้ืนท่ีปดิ กต็ าม แตก่ ส็ ามารถ Seal พ้นื ท่ดี งั กลา่ วได้ ขณะท่ี เรือนจำกลางจังหวัดเชียงใหม่เป็นพื้นที่ปิดโดยแท้จริง จึงทำให้กรณีเรือนจำกลางนั้นบริหารจัดการค่อนข้างง่าย แต่ติดขัดที่ไม่สามารถเปิดโอกาสให้ภาคส่วนอื่นเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขสถานการณ์ได้ จำเป็นต้องอาศัย ส่วนราชการด้วยกันโดยเฉพาะกองทัพเข้ามาให้การสนับสนุน อย่างไรก็ตาม ทั้งสองกรณีมี แนวทางปฏิบัติ คล้ายคลึงกัน คือ การนำมาตรการ Bubble and Seal มาใช้ ควบคู่ไปกับการตั้งโรงพยาบาลสนามขึ้นภายใน บริเวณท่พี บการติดเช้ือ การเรง่ ตรวจเชิงรุก และการรกั ษาพยาบาล โดยปัจจยั แห่งความสำเรจ็ ของตลาดกลางกุ้ง ได้แก่ บทบาทในการบริหารจัดการสถานการณ์วิกฤตรวมทั้งคุณสมบัติของผู้ว่าราชการจังหวัดที่มีการตัดสินใจ เด็ดขาด รวดเร็ว (เนื่องจากเรือนจำกลางจังหวัดเชียงใหม่เป็นราชการส่วนกลาง สังกัดกรมราชทัณฑ์ ดังน้ัน กรมราชทัณฑ์จึงมีบทบาทหลักในการแก้ไขสถานการณ์นี้อย่างเต็มกำลัง) ส่วนปัจจัยแห่งความสำเร็จร่วม ได้แก่ การมีส่วนร่วมของหลายภาคส่วน รวมทั้งการสื่อสาร สร้างการรับรู้ ความเข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แนวทาง การดำเนินงานของภาครัฐ แนวทางปฏิบัติของประชาชน รวมถึงการสร้างความมั่นใจว่าภาครัฐสามารถแก้ไข สถานการณด์ งั กล่าวใหล้ ุลว่ งไดโ้ ดยเรว็ เพ่ือคลายความกังวลของประชาชน กล่าวในภาพรวม จากการรายงานของจังหวัดพบว่ามีหลายปัจจัยที่เอื้อต่อการประสบความสำเร็จ ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ประการสำคัญคือ การมอบอำนาจในการบริหารจัดการแก่ ผู้ว่าราชการจังหวัดภายใต้การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน การเป็นประธานคณะกรรมการโรคติดต่อ จังหวัดตาม พ.ร.บ. โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ทำให้ผู้ว่าราชการจงั หวัดสามารถบริหารจัดการได้อย่างเบด็ เสร็จ เกิด เอกภาพในการปฏิบัติงาน ลดความซำ้ ซ้อน นอกจากน้ี การบูรณาการการทำงานหลายภาคส่วนภายใต้การส่ังการ เดียว (Single Command) ของผู้ว่าราชการจังหวัดทำให้การปฏิบัติงานและเป้าหมายเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ปจั จยั อื่นทีม่ ีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน คือ ความพร้อมในด้านการแพทย์และการสาธารณสขุ งบประมาณ และเครื่องมือ อุปกรณ์ เวชภัณฑ์ เป็นต้น ความร่วมมือของประชาชน การสื่อสารประชาสัมพันธ์ สร้างความรู้ ความเขา้ ใจทถ่ี กู ต้อง ตลอดจนระบบข้อมูลเพอ่ื การตดั สนิ ใจทถ่ี ูกต้อง และทันการณ์

74 อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติจังหวัดยังคงพบกับปัญหาอุปสรรค และข้อจำกัดหลายประการที่ต้อง ได้รับการแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นความไม่ชัดเจนของกฎ ระเบียบ กฎหมาย ประกาศ คำสั่ง ข้อสั่งการ ทำให้ผู้ปฏิบัติ ตอ้ งใช้ดลุ พินจิ ในการตีความ นอกจากนี้ ประชาชนยงั พบกับความสับสนระหว่างประกาศหรือคำส่ังของส่วนกลาง และของจังหวัดซึ่งมีความคล้ายคลึงกัน ปัญหาที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือความไม่เพียงพอของบุคลากรในการ ปฏิบัติงาน เนื่องจากต้องดำเนินการเฝ้าระวงั และป้องกันการแพร่ระบาดให้ครอบคลมุ พื้นทีจ่ ังหวัดอย่างต่อเน่อื ง เป็นชว่ งเวลานาน โดยไมส่ ามารถหาอัตรากำลงั สำรองมาทดแทนได้ ทำใหผ้ ้ปู ฏิบัตงิ านเหนื่อยล้า เกดิ ภาวะเครียด และส่งผลตอ่ ปัญหาสุขภาพตามมา งบประมาณที่ไม่เพียงพอประกอบกับความไม่ยืดหยุ่นของระเบียบการเบิกจ่ายงบประมาณ สร้างความยุ่งยากและไม่คล่องตัวในการปฏิบัติ ส่งผลให้คณุ ภาพงานด้อยลงไปบ้าง นอกจากนี้ ยังขาดการส่ือสาร สร้างการรับรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง เนื่องจากภาระงานเฉพาะหน้าที่ต้องเร่งแก้ไขสถานการณ์ดังกลา่ ว การส่งต่อ ข้อมูลข่าวสารยังไม่กระจายถึงทุกกลุ่ม ทำให้ประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อน และบางครั้งนำมาสู่การปฏิเสธและ ต่อต้านการทำงานของภาครัฐ เช่น การตั้งโรงพยาบาลสนาม หรือการตั้งสถานที่กักกันในพื้นที่ เป็นต้น และ ประการสุดท้าย คือ ระบบฐานข้อมูลที่จำเป็นในการประกอบการตัดสินใจดำเนินมาตรการ การเชื่อมโยงข้อมูล ระหว่างหน่วยงานภายในด้วยกัน และการเชื่อมโยงกับสว่ นกลาง ยังเป็นปญั หาทีต่ อ้ งเร่งแก้ไข เพ่อื ใหม้ ีการตัดสินใจ ท่รี วดเร็ว และถูกต้อง จากข้อมูลการถอดบทเรียนของจังหวัดในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ข้างต้น จะไดน้ ำไปส่แู นวทางการแกไ้ ขและข้อเสนอแนะในบทต่อไป

75 บทที่ 3 บทสรุปและข้อเสนอแนะ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ท้าทายความสามารถของ ผ้วู า่ ราชการจังหวัดในการรับมือและการแก้ไขปัญหาในพืน้ ท่ี และจากการดำเนินงานทผ่ี ่านมาก็เป็นบทพิสูจน์ได้ว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถบริหารจัดการภายใต้สภาวะวิกฤตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้ง ๆ ที่จังหวัดจะมีความ แตกต่างกันทั้งในด้านภูมิศาสตร์ วิถีการดำรงชีวิตของประชาชน สภาพปัญหา และความรุนแรงของสถานการณ์ โดยที่การแก้ไขปัญหาดังกล่าวมิได้มีสูตรสำเร็จตายตัว แต่ขึ้นกับศาสตร์และศิลป์ของผู้ว่าราชการจังหวัดที่จะนำ ขึ้นมาใช้ 3.1 ข้อคน้ พบ จากการถอดบทเรียนดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างที่เกิดขึ้นระหว่างการบริหารงานของ ผู้ว่าราชการจังหวัดในสภาวะปกติและการบริหารงานภายใต้สภาวะวิกฤต และผลกระทบที่เกิดขึ้นมีลักษณะ อย่างไร สรปุ ดังน้ี เปรียบเทยี บการบรหิ ารจัดการของผู้ว่าราชการจังหวัดในภาวะปกติและสถานการณ์ฉกุ เฉิน และผลกระทบท่เี กิดจากการบริหารจดั การภายใตส้ ถานการณฉ์ ุกเฉนิ ประเดน็ ภาวะปกติ สถานการณฉ์ กุ เฉิน ผลกระทบ 1. โครงสรา้ งและการ • พระราชบญั ญตั ริ ะเบยี บ • อาศัยอำนาจตามพระราช • ตดั สนิ ใจไดอ้ ย่างรวดเร็ว บรหิ ารงาน บรหิ ารราชการแผน่ ดนิ กำหนดการบรหิ ารราชการ มปี ระสิทธิภาพ 2534 (ม. 57) ผู้ว่าราชการ ในสถานการณฉ์ กุ เฉนิ และ • ลดความทบั ซ้อนของการ จงั หวดั บรหิ ารราชการ พ.ร.บ. โรคติดตอ่ พ.ศ. ดำเนนิ งานระหวา่ งหนว่ ยงาน ตามทค่ี ณะรฐั มนตรี 2558 ต่าง ๆ ทีอ่ ย่ใู นภมู ิภาค กระทรวง ทบวง กรม • มุง่ เนน้ การบรหิ ารราชการ • การทำงานมีเอกภาพ มีทศิ ทาง มอบหมายหรอื ตามที่ แบบบูรณาการเพื่อแกไ้ ข เป้าหมายการทำงานทีช่ ัดเจน นายกรัฐมนตรสี ั่งการ ปัญหาในพ้นื ท่ี และ • ผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถ • สว่ นภูมภิ าคมีหนา้ ท่ี ตอบสนองความต้องการ สง่ั งานข้ามสายการบังคบั บัญชา ประสานและผลักดัน ของประชาชนที่มีความ ได้ นโยบายของการบรหิ าร หลากหลายได้ • ผ้วู า่ ราชการจงั หวดั เปน็ ราชการส่วนกลางสูก่ าร ผู้บญั ชาการสงู สดุ ปฏบิ ตั ิ • ผ้วู ่าราชการจงั หวดั สามารถ กำหนดมาตรการเฉพาะที่ • ผูว้ า่ ราชการจังหวดั สามารถ • กำกบั ดแู ลการบรหิ าร เหมาะสมกบั สภาพปญั หา สรา้ งกลไกในระดบั พื้นทีเ่ พอื่ ราชการสว่ นทอ้ งถ่นิ ให้ ในพ้ืนทเี่ องได้ แก้ไขปัญหา และตอบสนองต่อ เปน็ ไปแนวทางนโยบายการ ปัญหาของประชาชนไดร้ วดเรว็ พัฒนาของประเทศ • มกี ารแบ่งงาน ทีมทำงานที่ ชัดเจน ทำใหส้ ามารถ • การสัง่ การมีลกั ษณะ Top- รับผิดชอบงานในภารกจิ ท่ี Down ได้รบั มอบหมายได้ชัดเจน

76 ประเดน็ ภาวะปกติ สถานการณ์ฉกุ เฉนิ ผลกระทบ 2. งบประมาณ • มีหน่วยงานจำนวนมาก • มกี ารบรู ณาการการทำงาน • มีการคน้ คดิ นวัตกรรมเพ่อื มาใช้ ในพน้ื ท่ที ้งั สว่ นกลางและ หลายภาคสว่ น รวมทั้ง ในการปฏบิ ัตงิ าน และการให้ ส่วนภูมภิ าค ภาคเอกชน และประชาชน บริการซงึ่ ไมส่ ามารถดำเนินการ • การแก้ไขปญั หาอาศยั อย่างแท้จริง ได้ในภาวะปกติ ความสามารถสว่ นบคุ คล ของผวู้ า่ ราชการจงั หวดั ใน • มงี บประมาณเพ่อื แกไ้ ข • สอดคล้องกับแผนการปฏริ ูป การประสานงาน สถานการณ์จากหลาย ประเทศ ได้แก่ (1) จงั หวดั แหล่ง เรมิ่ ปรับเปลยี่ นรูปแบบการ • การแก้ไขปัญหาอาศยั บริหารงานและการใหบ้ รกิ าร ความสามารถสว่ นบคุ คล • มีการบรู ณาารงบประมาณ มาใชร้ ะบบดิจิทลั เพิ่มขึน้ (2) ของผ้วู า่ ราชการจังหวัด โครงสรา้ งการบรหิ ารงานมคี วาม ในการประสานงาน ยดื หยุ่น ไมย่ ดึ กรอบภารกจิ หน้าทีแ่ ละอำนาจของหนว่ ยงาน ยืดหยุ่น คลอ่ งตัว ปรับไดต้ าม สถานการณ์ สร้างความเข้มแข็ง ในการบริหารราขการในระดบั พืน้ ที่ โดยการมสี ว่ นรว่ มของ ประชาชน • กล่าวไดว้ า่ จงั หวดั เป็น จังหวดั ทม่ี ีผลสมั ฤทธ์ิสูง (High Performance Province) สามารถแก้ปัญหาไดต้ รง ประเด็นและทนั ตอ่ สถานการณ์ • จงั หวดั ต้องมีอำนาจเต็มในการ จดั การงบประมาณเพ่ือ ตอบสนองไดท้ ันการณ์ • ผ้วู ่าราชการจงั หวดั ยงั ไมส่ ามารถ ดำเนินการไดค้ ลอ่ งตัวเทา่ ที่ควร เน่อื งจากกฎระเบยี บในการ เบิกจา่ ยงบประมาณแตล่ ะแหลง่ แตกตา่ งกนั • การจัดซ้ือ จัดจ้างยังใช้ระเบียบ ปกติ ไมส่ อดคล้องกบั ภาวะวิกฤต ท่ีตอ้ งการความเร่งด่วนและ คลอ่ งตัวมากกวา่ • ยงั ไมม่ ีแนวทางการ เบกิ จา่ ย ท่ชี ัดเจน เน่ืองจากเป็น โรคอบุ ัติใหม่

77 ประเดน็ ภาวะปกติ สถานการณ์ฉุกเฉนิ ผลกระทบ 3.การบรหิ ารงาน • การใช้จา่ ยจากเงนิ บริจาคคล่องตัว บุคคล กวา่ • ไมส่ ามารถนำงบประมาณของ จังหวดั และกลมุ่ จงั หวัดมาใช้ใน การแกไ้ ขสถานการณไ์ ด้อย่าง ทนั ทว่ งที เน่ืองจากมีกฎเกณฑ์ ระเบยี บเฉพาะ • ผวู้ ่าราชการจังหวดั สังกัด • ผวู้ ่าราชการจังหวดั สามารถ • เป็นการทำงานที่มุ่งเนน้ การ กระทรวงมหาดไทย ระดมทรพั ยากรบคุ คลได้ ทำงานในเชิงพน้ื ทม่ี ากยิ่งข้นึ • การบริหารงานบุคคลยงั จากทกุ หน่วยงานในพน้ื ที่ • มเี อกภาพในการสัง่ การ รวมศนู ยท์ ีส่ ่วนกลาง • บริหารบุคคลทำได้งา่ ย หนว่ ยงานในพน้ื ที่ ผู้วา่ ราชการจังหวดั • มที ิศทางการทำงานท่ีชดั เจน สามารถโยกยา้ ยสับเปลยี่ น ไม่ทบั ซอ้ น ขา้ ราชการได้ภายในเขต จงั หวัดเท่าน้ัน และการ พิจารณาความดคี วามชอบ กย็ งั คงเปน็ อำนาจของ หวั หน้าส่วนราชการ และ อำนาจการเลอื่ นเงินเดอื น ของหวั หนา้ สว่ นราชการ ประจำจังหวดั ประเภท อำนวยการสูงเป็นของ หัวหน้าสว่ นราชการ จากการถอดบทเรียนการแก้ไขสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 และจากตาราง เปรยี บเทยี บขา้ งตน้ นำสูข่ ้อคน้ พบทั้งในส่วนทเ่ี ป็นจดุ แขง็ และจุดออ่ นหลายประการ ดังน้ี ข้อค้นพบประการแรกคือ การให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดบริหารจัดการภายในพื้นที่ได้เองอย่าง เบ็ดเสร็จ ภายใต้เงื่อนไขของความแตกต่างในบริบทของแต่ละจังหวัด ต้องอาศัยความสามารถเฉพาะตัวของผู้วา่ ราชการจังหวัด ซึ่งแต่ละจังหวัดจะมีรูปแบบ วิธีการที่แตกต่างกันไป ศาสตร์ และศิลป์ของผู้ว่าราชการ จังหวัดก็ เป็นทักษะที่จำเป็นในสถานการณ์ดงั กล่าว การบริหารจัดการในภาวะวิกฤตดงั กล่าวจะเป็นกระจกสะท้อนใหเ้ ห็น สัมฤทธิผลของผู้ว่าราชการจังหวัด ขณะเดียวกันก็ต้องตั้งคำถามว่า หากมีการบริหารจัดการแบบรวมศูนย์จะ สามารถแก้ไขปัญหาที่มีต้นเหตุ ความรุนแรง และปัจจัยแวดล้อมที่ต่างกันได้ทันการณ์และมีประสิทธิภาพได้ หรอื ไม่ และถงึ เวลาแลว้ หรือไม่ทจ่ี ะต้องทบทวนและนำระบบการบรหิ ารจัดการในภาวะวิกฤตมาเป็นวถิ ีการบริหาร จดั การยคุ ใหม่ (New Normal)

78 จากการถอดบทเรียนฯ พบว่า หัวใจของการบริหารจัดการของผู้ว่าราชการจังหวัดในภาวะวิกฤต คอื การมีอำนาจในการบริหารจัดการในพ้ืนที่ได้อยา่ งเบด็ เสรจ็ ดังกลา่ วแลว้ ข้างต้นในการบริหารจดั การสถานการณ์ ดังกล่าวผู้ว่าราชการจังหวัดต้องอาศัยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 2 ฉบับควบคู่กัน คือ พระราชกำหนดในการบริหาร ราชการในสถานการณ์ฉกุ เฉนิ และพระราชบญั ญตั ิโรคตดิ ต่อ พ.ศ. 2558 อย่างไรกต็ าม ในมุมมองท่มี ตี ่อกฎหมาย แตล่ ะฉบบั พบว่ามขี อ้ ดแี ละข้อเสียเช่นกนั โดยสรปุ ดังนี้ กฎหมาย ขอ้ ดี ข้อเสีย 1. พระราชกำหนดการบริหาร • คำวา่ “ฉุกเฉิน” มคี วามหมายเชิงลบ • ผวู้ า่ ราชการจังหวดั สามารถ ราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน บริหารจดั การในพื้นทไ่ี ดอ้ ย่าง สง่ ผลต่อความเชือ่ มัน่ ของตา่ งชาติ เบด็ เสรจ็ ประชาชนตระหนักว่า โดยเฉพาะสง่ ผลกระทบดา้ น 2. พระราชบญั ญตั ิโรคติดต่อ พ.ศ. เปน็ เรอ่ื งใกล้ตัว ท่ีทกุ คนได้รับ เศรษฐกิจ 2558 ผลกระทบในด้านใดด้านหน่งึ • การประกาศใช้ ใชเ้ ฉพาะกรณีฉกุ เฉนิ สง่ ผลตอ่ การดำรงชีวติ ทไ่ี มป่ กติ เท่านน้ั และควรใช้ในระยะเวลาส้ัน เม่อื เทยี บกบั สถานการณ์ทว่ั ไป • ประชาชนมองวา่ เปน็ เรื่องของ • ทำให้ประชาชนใหค้ วามร่วมมือ กระทรวงสาธารณสุข ไกลตวั เพราะการกระทำทฝี่ า่ ฝนื ย่อมมี จึงไมใ่ ห้ความสำคญั เท่าที่ควร ความผิดและถกู ลงโทษตามท่ี กฎหมายกำหนด • ใช้ไดเ้ ฉพาะกรณีเกดิ โรคระบาด เท่าน้นั • ใชใ้ นสถานการณ์การเกิด โรคระบาดเปน็ การเฉพาะ จะเห็นว่ากฎหมายแต่ละฉบับมีข้อดีข้อเสียต่างกันไป แต่เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดใช้อำนาจข้างต้น เอื้อให้สามารถบริหารจัดการแก้ไขสถานการณ์ในพื้นที่ได้อย่างคล่องตัว สถานการณ์ดังกล่าวเป็นเครื่องยืนยัน ให้เห็นว่า หากมีการกระจายอำนาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถบริหารจัดการได้โดยไม่ต้องรอรับการสั่งการ จากส่วนกลางแต่เพียงอย่างเดียว แต่ผู้ว่าราชการจังหวดั สามารถใช้ขอ้ มูลในพื้นที่มากำหนดมาตรการรองรับหรอื แก้ไขปัญหาในพื้นที่ได้ (Area Based Mangement) ผู้ว่าราชการจังหวัดจึงเปรียบเสมือนศูนย์กลางการสั่งการ (Command Center) นับเป็นจุดแข็งที่สำคัญในการแก้ไขสถานการณ์ในครั้งน้ี แต่อย่างไรก็ตาม โจทย์ที่ตามมา คือ ทำอย่างไรผู้วา่ ราชการจังหวดั จึงจะสามารถบริหารจดั การในลักษณะที่วา่ นี้โดยอาศัยกฎหมายฉบับเดยี ว เมื่อ เกดิ สถานการณ์วกิ ฤตผู้วา่ ราชการจังหวัดสามารถบริหารจัดการไดท้ นั ที จากกรณีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ครั้งนี้ เกิดขึ้นทั่วโลก การประกาศใช้ พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างต่อเนื่องยาวนานไม่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ หรอื ความเชอื่ มั่นของประเทศ เนอ่ื งจากทุกประเทศเผชิญเหตุการณ์ทว่ี ิกฤตเช่นเดยี วกัน การบรหิ ารจดั การภายใน ของแต่ละประเทศ จงึ ไมเ่ ปน็ ทจี่ ับตามอง

79 ขณะเดียวกัน ภาวะวิกฤตดังกล่าวเกิดขึ้นกับทุกจังหวัด ดงั นั้นการท่ีรัฐบาลประกาศใช้พระราชกำหนด การบรหิ ารราชการในสถานการณ์ฉกุ เฉินทั่วประเทศจึงเปน็ การสมควร แตห่ ากเกดิ เหตกุ ารณ์ขนึ้ เฉพาะบางจงั หวัด ทำอย่างไรผวู้ ่าราชการจังหวดั จะมีอำนาจในการบรหิ ารจดั การในพื้นที่ได้ทันสถานการณ์ โดยไมต่ ้องรอการสั่งการ จากส่วนกลาง ดังนั้น ควรมีกลไกพิเศษหรือกฎหมายเฉพาะที่ให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถบริหารงาน ในช่วงสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างเบ็ดเสร็จ ไม่เพียงแต่เฉพาะกรณีวิกฤตจากการแพร่ระบาดของโรคร้า ยแรง เท่านัน้ แตห่ ากรวมถึงกรณีวกิ ฤตอ่ืนที่อาจเกิดข้ึนในอนาคตด้วยเช่นกนั ทง้ั นี้ โดยไมต่ ้องอาศัยพระราชกำหนดการ บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อให้การบริหารจัดการภายในจังหวัดทำได้รวดเร็ว ทันต่อสถานการณ์ และมีประสิทธภิ าพ ซึ่งเป็นปัจจยั แห่งความสำเร็จประการสำคัญ และจะช่วยเสริมสร้างความเขม้ แข็งของจังหวดั ใหเ้ ป็น “จังหวัดท่มี ผี ลสัมฤทธิส์ งู ” (High Performance Provinces : HPP) ไดอ้ ย่างแท้จรงิ ข้อค้นพบประการถัดมาคือ การร่วมมือจากหลายภาคส่วน (Collaboration) การแก้ไขปัญหา วกิ ฤตท่ีผ่านมาพบว่า ผู้ว่าราชการจังหวดั ไมส่ ามารถแกป้ ัญหาแตเ่ พียงลำพังหรืออาศัยเพียงหนว่ ยราชการในพื้นที่ ได้ ดังจะเห็นได้จากหลายจังหวัดที่พบการติดเชื้อหลายกลุ่มก้อน และมีผู้ติดเชื้อจำนวนมากนั้นจนเกินศักยภาพ ของระบบสาธารณสุขที่มีอยู่จะรองรับได้ หากไม่ได้รับความร่วมมือ การสนับสนุนจากภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ภาคประชาชนในพื้นที่ก็ยากที่จะบรรลุผลได้ โดยการสนับสนุนดังกล่าวจะมีทั้งเงิน การให้ใช้พื้นที่ส่วนบุคคล ในการจัดทำโรงพยาบาลสนาม จัดทำ Local Quarantine และ Community Isolation เพื่อรองรับผู้ป่วย ที่ไม่สามารถเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลของรัฐได้ นอกจากนี้ ยังให้การสนับสนุนเครื่องมือ อุปกรณ์ทาง การแพทย์ ยาและเวชภัณฑ์ เปน็ ต้น จะเหน็ ไดว้ า่ การร่วมพลงั ของภาคเอกชนและประชาชนก็เป็นจุดแข็งท่ีสำคัญ อกี ประการหนง่ึ ของทกุ จังหวดั ที่ทำให้ปญั หาวิกฤตในจงั หวดั คลค่ี ลายลงได้ ข้อค้นพบอีกประการหนึ่งที่ต้องกล่าวถึงคือการทำงานของรัฐในรูปแบบใหม่ จากเดิมที่ทำงาน ในลักษณะแท่ง ยึดหน่วยงานเป็นหลักปฏิบัติ แต่การทำงานของรัฐในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 กลับสร้างแนวทางการปฏิบัติงานในลักษณะของ Agile Organization โดยเป็นการหลอมรวม หน่วยงานในพื้นที่เข้าร่วมในการปฏิบัติงานที่มีเป้าหมาย มุ่งสู่ทิศทางการทำงานเดียวกัน มีขอบเขตพื้นที่จังหวัด เป็นเป็นองค์กร ข้อดีของการทำงานในแนวคิด Agile คือการไม่มีกำแพงระหว่างหน่วยงาน เพราะทุกหน่วยงาน มาทำงานอยู่ในทีมเดียวกัน และทำงานแบบรุมกันทำ (scrum) การทำงานดังกล่าวทำให้เป้าหมายที่กำหนดไว้ บรรลุผลได้โดยง่าย ต่างคนต่างทำในบทบาทที่ได้รับมอบหมายจากศูนย์กลางคือ ผู้ว่าราชการจังหวัด นอกจากจะ ระดมสรรพกำลังในพื้นที่เข้ารว่ มปฏิบัติการแล้ว ยังสามารถระดมทรัยากร (Mobilized Resources) ที่มีมาใช้ใน การแก้ไขปญั หานไี้ ดเ้ ช่นกัน และกล่าวได้ว่าเปน็ จดุ แขง็ ประการท่สี ามในการแกไ้ ขสถานการณ์ในครั้งนี้ อยา่ งไรกต็ าม จากการถอดบทเรียนขา้ งตน้ ยังพบว่ามีจุดอ่อนบางประการท่ีต้องไดร้ ับการแก้ไข เพื่อ มิให้เป็นอปุ สรรคการปฏบิ ัติงานต่อไป จดุ ออ่ นสำคญั ประการแรกคือการแข็งตัวของกฎระเบียบท่ใี ช้ท้ังในภาวะ ปกติและในสถานการณ์ฉุกเฉิน กฎระเบียบที่ทุกจังหวัดเห็นว่าเป็นจุดอ่อนคือ ระเบียบการเบิกจ่ายเงิน งบประมาณที่ยังไมย่ ืดหยนุ่ ไม่คล่องตวั ไม่เหมาะสมกับช่วงการแก้ไขสถานการณ์วิกฤตที่ตอ้ งการความรีบด่วน ความรวดเรว็ ฉับไว ประกอบกับงบประมาณของแต่ละหนว่ ยงานก็มีระเบียบการเบิกจ่ายเฉพาะ สร้างความยุ่งยาก ในทางปฏิบตั ิ จังหวัดไมก่ ล้าดำเนนิ การเกรงจะกระทำผดิ ระเบียบ

80 จุดอ่อนประการถัดมาคือ ระบบฐานข้อมูลซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานในการบริหารจัดการ แม้ว่าจะมี การพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศขึ้นมาใช้เพื่อการบริหารจัดการภายในจังหวัดเองก็ตาม ที่มาของข้อมูลยังมี ความหลากหลาย มีรูปแบบการจัดเก็บ ห้วงเวลาการจัดเก็บที่แตกต่างกัน ทำให้ฐานข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ COVID-19 และข้อมูลที่เกี่ยวข้องยังมีลักษณะเฉพาะของแต่ละจังหวัด ยังไม่เป็น Real Time ข้อมูลดังกล่าว มคี วามเคล่ือนไหวอยู่ตลอดเวลา ไม่เพยี งต้องตดิ ตามสถานการณภ์ ายในจังหวัดอยา่ งใกลช้ ิดเทา่ นน้ั ยังจำเป็นต้อง ศึกษาและวิเคราะห์สถานการณ์แวดล้อมด้วย เช่น ข้อมูลจากพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง หรือประเทศเพื่อนบ้านกรณี ติดชายแดน เป็นต้น ซ่งึ ในช่วงภาวะวิกฤตนจี้ ำเป็นต้องอาศัยข้อมลู ที่ถูกต้อง รวดเร็ว ครบถว้ น เพ่ือสามารถนำมา คาดการณ์แนวโนม้ ทศิ ทางของสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และสามารถนำข้อมลู ดงั กลา่ วมาประกอบการ ตัดสินใจกำหนดนโยบาย หรือมาตรการรองรับท่เี หมาะสมกบั สถานการณแ์ ละความรุนแรงของปญั หา รวมทั้งไม่สามารถนำมาเชื่อมโยงเพื่อแสดงสถานการณ์ในภาพรวมของประเทศได้ จุดอ่อนน้ี ส่วนกลางควรเป็นผู้พฒั นาแพลตฟอร์มกลางในการรายงานข้อมลู รวมทั้งฐานขอ้ มูลร่วมท่ีทกุ จงั หวัดจำเป็นต้องมี รวมทั้งกำหนดรายละเอยี ดของการจัดเก็บข้อมลู เช่น นยิ ามของข้อมลู ชว่ งเวลาการจัดเกบ็ และแหล่งท่ีมาข้อมูล เป็นต้น เพื่อให้ข้อมูลที่ได้อยู่ในรูปของฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เป็นมาตรฐาน และสามารถนำมาใช้ ประโยชนใ์ นเชิงนโยบาย การดำเนินงาน การกำกบั ติดตาม การบริหารจัดการได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพมากขน้ึ นอกจากความไม่มีระบบข้อมูลที่สามารถเชื่อมโยงได้แล้ว บางจังหวัดไม่มีการรวบรวมข้อมูลท่ี จำเป็นไว้ ดังจะเห็นได้จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 พบว่ามีต้นเหตุสำคัญมาจากกลุ่ม แรงงานต่างด้าว ฐานข้อมูลเหล่านี้มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เพราะนอกจากแรงงานที่มีการเคลื่อนย้าย หางานไปหลายพื้นที่แล้ว การเคลื่อนย้ายแรงงานตามฤดูกาลเพื่อทำงานในช่วงผลผลิตเกษตรออกผล ทำให้ ไม่สามารถรวบรวมข้อมูลที่เป็นปัจจุบันได้ จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ทันเวลา ดังน้ัน ฐานข้อมูลที่ครบถ้วน ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน จึงเป็นปัจจัยพื้นฐานท่ีจำเป็นตอ้ งมีเพื่อประกอบการตัดสินใจได้อยา่ ง ทนั การณ์ จุดอ่อนที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ การสื่อสารสร้างการรับรู้เข้าใจ การมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ถูกนำมาใช้ทั้งในเชิงสร้างสรรค์และการทำลาย จะเห็นว่าหลายจังหวัดพัฒนารูปแบบการสื่อสารที่หลากหลาย เพอ่ื ใหเ้ ข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ทั่วถงึ ขณะเดยี วกันการสร้างข่าวลวง บดิ เบือนข้อเท็จจริงยังมใี ห้เหน็ โดยทัว่ ไป เป็น การสร้างความเข้าใจที่คลาดเคล่ือนให้กับประชาชน บั่นทอนความน่าเชื่อถือ ศรัทธาในการทำงานของหน่วยงาน ภาครัฐ ดังนั้น การประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจจึงเป็นหัวใจของการบริหารจัดการ เพราะจะนำมาซ่ึง ความร่วมมือ และปฏิบัติตาม ตัวอย่างที่เห็นคือในบางพื้นที่ประชาชนปฏิเสธการตั้งโรงพยาบาลสนาม และ Community Isolation ในพื้นที่ชุมชน การไม่ให้ผู้ที่หายจากการติดเชื้อ หรือผู้ที่พ้นการกักตัวเข้ามาอาศัย ในชุมชน เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม บางพื้นที่มีการให้ความรู้ สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องและต่อเนื่อง จะมีให้เห็น ในรปู ของการนำอาหาร สิง่ ของเคร่อื งใช้มาใหผ้ ู้ที่ตอ้ งกกั ตวั ในชมุ ชน เป็นตน้ จากข้อค้นพบดังกล่าว เมื่อวิกฤตคลี่คลายลงควรต้องกลับมาทบทวนจุดแข็ง จุดอ่อนเหล่านี้ เพื่อให้การบริหารจัดการมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น หากพบสถานการณ์วิกฤตอื่นที่อาจนำประเด็นเหล่านี้มาร่ว ม แก้ไขให้สามารถบริหารจดั การไดอ้ ยา่ งคล่องตวั มากข้นึ

81 หากพิจารณาจากแนวโน้มทิศทางของจำนวนผู้ติดเชื้อแล้ว ยังไม่พบจุดสิ้นสุดที่แน่ชัดได้ เพราะ ความเคลอ่ื นไหวของจำนวนผู้ตดิ เชอ้ื ยังไมล่ ดตำ่ ลงต่อเน่ืองอยา่ งที่ควรจะเป็น แตก่ ารณก์ ลับพบว่ามีการกลายพันธุ์ ของเชื้อไวรัสต่อไปไม่หยุดยั้ง และพัฒนาการของไวรัสยิ่งทำให้การแพร่เชื้อเกิดขึ้นง่ายขึ้น และขยายวงกว้าง อย่างรวดเรว็ การไม่แสดงอาการของผู้ตดิ เช้ือ ยิ่งเสรมิ พลังให้เช้ือดังกล่าวขยายตวั ได้เร็ว และหากเป็นเช่นน้ีต่อไป การปิดสถานที่เสี่ยงโดยเฉพาะสถานประกอบการ และการปิดประเทศจะส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจของ ประเทศอย่างมาก ซง่ึ รฐั บาลไมส่ ามารถชดเชยความเสียหายทเี่ กดิ ขึ้นได้ท่วั ถึงเป็นธรรม ดงั นนั้ การปรับตัวเพ่ือให้ อยู่ร่วมกับ COVID-19 โดยรักษาสุขภาพควบคู่กับการรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจจึงเป็นสิ่งท่ีต้องกลับมา ทบทวนก่อนจะมีผลกระทบเป็นระลอกคลื่นไปมากกว่านี้ เช่น การทำ Factory Accommodation Isolation : FAI ของจังหวัดสมุทรสาคร เปน็ แนวทางหนึ่งของการเติบโตทางเศรษฐกจิ ขณะเดียวกนั ก็รองรบั ปัญหาด้านสุขภาพ ของกลุ่มแรงงานด้วย จากบทเรียนที่จังหวัดบริหารจัดการในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 แล้ว สิ่งที่ จังหวัดควรต้องให้ความสำคัญในลำดับถัดไปคือ จะทำให้คุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนภายหลัง สถานการณ์ของโรค COVID-19 คลี่คลายลงได้อย่างไร ทั้งการฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจของจังหวัดให้สามารถ ขับเคลื่อนต่อไปได้ ขณะเดียวการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 ควรต้องให้ความสำคัญ ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ดังนั้น ประเด็นที่จังหวัดต้องให้ความสำคัญ คือ ฐานข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับ ผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 ที่ต้องการความช่วยเหลือ อาทิ กลุ่มผู้ตกงาน ข้อมูลจำนวนผู้ว่างงานและ ประสงค์จะทำงาน โครงการทจ่ี ะสนบั สนุนการฟื้นฟู เยยี วยา หรือการให้สินเช่ือดอกเบย้ี ต่ำ เป็นตน้ นอกจากนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นตามมาคือ ปริมาณขยะติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งที่มาจากโรงพยาบาล สนาม สถานบริการสาธารณสุขผู้ป่วยเฉพาะกิจ (Hospitel) ศูนย์ฉีดวัคซีน (Vaccine Pop-Up) การแยกกักตัว ที่บ้าน (Home Isolation) และการแยกกักตัวในชุมชน (Community Isolation) โดยขยะติดเชื้อที่พบมาก ในช่วงการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 เช่น หน้ากากอนามัย ชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ชุดป้องกัน อันตรายส่วนบุคคล (PPE) และแผ่นป้องกันใบหน้า (Face Shield) นอกจากนี้ในกรณีของสถานที่กักตัว หาก ผปู้ ่วยส่งั อาหารเดลิเวอรีมารบั ประทาน กล่องบรรจุอาหารและภาชนะทใี่ ช้แลว้ รวมทง้ั กระดาษทิชชู ก็มีแนวโน้ม ได้รับการปนเปื้อนเชื้อและกลายเป็นมูลฝอยติดเชื้อด้วย ซึ่งขยะเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการจัดการอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค ดังตัวอย่างจังหวัดอุตรดิตถ์ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำจัด ขยะติดเชื้อจากโรงพยาบาลสนามโดยใช้เตาเผาขยะลดมลพิษ ประหยัดพลังงาน แบบเคลื่อนที่ Mobile Burn ขององค์การบริหารส่วนจังหวดั อุตรดิตถ์ สามารถกำจัดขยะติดเชื้อได้ประมาณ 1,500 ตันต่อวัน ท่ีอุณหภูมิความ ร้อน 1,000 องศาขึ้นไป ภายใต้การควบคมุ ของเจ้าหนา้ ทีโ่ รงพยาบาลเพอ่ื ให้ถูกสขุ าภบิ าลและสร้างความมั่นใจแก่ ประชาชนในพนื้ ที่

82 3.2 บทสรปุ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของ จังหวัด ดงั น้ี (1) ผลกระทบต่อการขับเคลื่อนประเด็นการพัฒนาที่สำคัญของจังหวัด เนื่องจากไม่สามารถ ดำเนินการตามแผนงาน โครงการที่กำหนดไว้ อาทิ โครงการที่เกี่ยวกับการส่งเสริมการท่องเที่ยว การจัดงาน เทศกาล งานประเพณีต่าง ๆ งานแสดงสินค้า รวมทั้งการงดจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัวของคนจำนวนมาก ทำให้ กิจกรรมการพัฒนาศักยภาพของผลิตภัณฑ์ชุมชนและผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน การเตรียมความพร้อมของ เกษตรกรเพื่อยกระดับมาตรฐานการผลิต การใหค้ วามรู้แก่กลุ่มเสี่ยงด้านยาเสพติด และการจัดประชาคมในพื้นที่ ไมส่ ามารถดำเนินการได้ (2) การให้บริการประชาชนไม่สามารถให้บริการได้ตามปกติ เนื่องจากมาตรการจำกัดการรวมตวั ของคนจำนวนมากเพื่อลดความเสี่ยงที่เกิดจากการแพร่เชื้อ เช่น การจำกัดจำนวนผู้รับบริการงานทะเบียนและ บัตรประจำตวั ประชาชน การปดิ บริการศนู ยบ์ ริการร่วมอำเภอย้ิม การลด/รอ/เลื่อนนัดการให้บริการด้านสาธารณสุข ทไี่ มเ่ ร่งด่วน รวมทงั้ การงดการเยย่ี มญาตทิ ุกเรือนจำ เป็นตน้ (3) ผลกระทบต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่ไม่สามารถเข้าทำงานในสถานที่ตามปกติได้ ต้องมี การทำงานเหลื่อมเวลา สลับวันกันทำงาน รวมทั้งการปฏิบัติงานที่บ้าน (Work from Home) เพื่อลดความเสี่ยง ในการเดินทาง และลดความแออัดของสถานที่ทำงาน (4) ผลกระทบต่อการประเมินตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพในการปฏบิ ตั ิราชการ ประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2563 และ พ.ศ. 2564 ทำใหผ้ ลการประเมินไม่บรรลุเป้าหมายตามที่กำหนดไว้ สะท้อนให้เห็น ภาพที่ชัดเจนจากข้อมูลผลการดำเนินงานของตัวชี้วัดที่สำคัญ เช่น รายได้จากการท่องเที่ยวของประเทศที่ลดลง จากปีก่อนหน้าเกือบร้อยละ 50 หรือรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน จากเดิมที่เคยเพิ่มขึ้นมากกว่า ร้อยละ 20 แต่ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 9 และร้อยละ 8 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เปน็ ตน้ การดำเนนิ การของจงั หวัดเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019 เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 เป็นโรคอุบัติใหม่ ดังนั้น การดำเนินงานของจังหวัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 จึงเป็นการจำลองกลไกการดำเนินงาน และมาตรการมาจาก ศูนย์บรหิ ารสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เชน่ จดั ตงั้ ศูนย์บรหิ ารสถานการณ์ การแพรร่ ะบาดของโรค COVID-19 ของจงั หวัด และตง้ั คณะกรรมการบรหิ ารสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรค ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระดบั จงั หวดั มมี าตรการปดิ สถานบรกิ าร งดกจิ กรรมทีม่ กี ารเคลอ่ื นย้ายคนขา้ มจังหวัด ของหน่วยงานท่มี ีคนจำนวนมาก งดการเรียนการสอนของมหาวทิ ยาลยั วิทยาลยั โรงเรยี น เปน็ ต้น จากที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้ว่าการบริหารจัดการกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 สามารถสะท้อนให้เห็นถึงการเป็นจังหวัดที่มีผลสัมฤทธ์ิสูงตามเจตนารมณข์ องกิจกรรมปฏิรูป ท่ี 4 สร้างความเข้มแข็งในการบรหิ ารราชการในระดับพืน้ ทีโ่ ดยการมสี ว่ นร่วมของประชาชน ภายใตแ้ ผนการปฏิรูป ประเทศด้านการบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับปรับปรุง) กล่าวคือ มีการบูรณาการการทำงาน ในทุกภาคส่วน มีกฎหมาย ระเบยี บ แนวทาง เปา้ หมายทชี่ ดั เจน มกี ารออกแบบระบบการบริหารงาน มีโครงสรา้ งสนับสนุนการทำงาน มีการพัฒนาการให้บรกิ ารโดยใชเ้ ทคโนโลยีดิจิทลั สารสนเทศ และการระดมสรรพกำลังจากทุกภาคสว่ น ในสังคม กลา่ วโดยสรุปดังน้ี

83 3.2.1 การบรหิ ารงานและโครงสร้าง (1) การมอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้กํากับบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินทุกมิติในเขต ท้องที่ที่ตนรับผิดชอบ ตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และการให้มีคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน ตามมาตรา 20 แห่ง พระราชบัญญัติโรคติดตอ่ พ.ศ. 2558 เป็นการให้อำนาจอยา่ งเบ็ดเสร็จ ทำให้ผู้ว่าราชการจงั หวัดสามารถบรหิ าร จดั การไดอ้ ยา่ งมีเอกภาพและการมีเปา้ หมาย ทศิ ทางทีช่ ดั เจน เป็นหลกั ประกันไดว้ ่าผู้วา่ ราชการจังหวดั จะบริหาร งบประมาณ บคุ คล และทรพั ยากรทมี่ ีเพอ่ื ผลกั ดันใหเ้ ป้าหมายท่ีกำหนดไวบ้ รรลุผลได้ (2) การบูรณาการการทำงานหลายภาคส่วน (Collaborative Government) ทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาชน รว่ มมอื ช่วยเหลอื และร่วมกนั ขบั เคล่อื นการทำงาน ทำให้การแก้ไขปัญหาของจังหวดั ประสบความสำเร็จ ไดง้ า่ ยขึ้นและรวดเรว็ ขึน้ 3.2.2 รปู แบบการบรหิ ารงานตามแนวคดิ จงั หวดั ผลสมั ฤทธ์ิสูง การบริหารจัดการของจังหวัดในการแก้ไขสถานการณ์ดังกล่าวสอดคล้องกับรูปแบบการขับเคลื่อน จังหวัดี่มีผลสมั ฤทธส์ิ ูงทั้ง 3 ประการ ดงั นี้ (1) การนำระบบดิจิทัลมาใช้ในการทำงาน (Digital Government) และการให้บริการ พบวา่ จังหวัด ได้นำระบบดิจิทัลมาช่วยในการปฏิบัติงานมากขึ้น เนื่องจากไม่สามารถปฏิบัติงานเช่นภาวะปกติได้ เนื่องจาก ขัดกับมาตรการที่กำหนด และเพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง จึงต้องปรับวิธีการทำงานใหม่ เช่น การปฏิบัติงานที่บ้าน (Work from Home) การปรับรูปแบบการประชุมหรือทำงานร่วมกันผ่านระบบ VDO Conference, Microsoft Team และแอปพลิเคชันไลน์ หรือการพัฒนาแอปพลิเคชันมาช่วยในการปฏิบัติงาน เช่น การจองฉีดวัคซีน การติดตามกลุ่มเสี่ยง และพัฒนาระบบฐานข้อมูลเพื่อการบริหารจัดการ เป็นต้น สำหรับ การใหบ้ ริการมีการนำ e-Service มาใหบ้ รกิ ารมากขึ้น (2) การพัฒนานวัตกรรม (Public Innovation) เพื่อช่วยการทำงาน ได้แก่ การปรับกระบวนการ ทำงานในรูปแบบความร่วมมือ/การทำงานร่วมกันกับทุกภาคส่วนเช่น การร่วมมือกับภาครัฐด้วยกัน การร่วมมือ ระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และสถาบันการศึกษา นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนานวัตกรรมอื่น ข้ึนมาเพอื่ ช่วยลดความเสีย่ งในการปฏิบัติงาน เช่น การนำหุ่นยนตม์ าช่วยในการขนส่งอาหารและเวชภัณฑ์ภายใน โรงพยาบาล การใชอ้ ากาศยานไร้คนขับสำรวจพืน้ ท่เี สีย่ ง หรือการพฒั นาอาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว เพ่ือช่วย ดแู ลด้านสาธารณสุขแก่กลมุ่ แรงงานตา่ งดา้ ว เป็นต้น (3) การพัฒนาไปสู่ราชการระบบเปิด (Open Government) จังหวัดเปิดโอกาสให้ภาคเอกชน ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เช่น การบรหิ ารจัดการเรื่องร้องเรียน หรือการปรึกษาหารือร่วมกับผู้ประกอบการก่อนกำหนดมาตรการเพื่อบังคับใช้ เปน็ ตน้

84 3.3 ข้อจำกัดในการปฏิบัติงาน 3.3.1 ด้านโครงสรา้ งและการบรหิ ารงาน (1) การปรบั วถิ ีการทำงานภาครฐั แนวใหม่ที่ให้ปฏิบตั ิงานท่บี ้าน พบวา่ งานบางประเภทไม่สามารถ ปฏิบัตงิ านนอกสถานทีต่ ้ังได้ เช่น งานให้บริการประชาชน งานรักษาพยาบาล งานในห้องปฏิบัตกิ าร งานป้องกัน ภัยพิบัติและสถานการณ์ฉุกเฉิน รวมทั้งงานสนับสนุนต่าง ๆ เช่น งานด้านการเงิน และการพัสดุ เป็นต้น นอกจากน้ี ยังพบขอ้ จำกัดทที่ ำให้การปฏิบตั งิ านทีบ่ ้านไม่สามารถทำไดจ้ ริงจังเท่าทค่ี วร เชน่ ขอ้ จำกัดในเร่ืองของ ทกั ษะและขีดสมรรถนะด้านเทคโนโลยีของเจ้าหน้าท่ี ความพร้อมของเครื่องมืออุปกรณ์ และความครอบคลุมของ เครือขา่ ยอนิ เทอร์เนต็ เปน็ ต้น (2) โครงการเพื่อขบั เคลื่อนประเด็นการพัฒนาทส่ี ำคัญไมส่ ามารถดำเนินการได้ โดยเฉพาะโครงการ เกี่ยวกับศึกษา อบรม รวมทั้งการจัดงานประเพณี กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว เนื่องจากขัดกับมาตรการ การป้องกนั และแพร่ระบาดของโรค COVID-19 3.3.2 ดา้ นกฎหมาย (1) ความไม่ชัดเจนของข้อกฎหมายทำให้หน่วยปฏิบัติดำเนินงานล่าช้า เช่น ประเด็นการจัดต้ัง โรงพยาบาลสนาม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนนิ การได้หรอื ไม่ เนื่องจากองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินมีอำนาจ หน้าทใ่ี นการป้องกนั และการระงับโรคติดต่อ แตไ่ มม่ ีหนา้ ทใี่ นการรักษา (2) การฝ่าฝืนกฎหมายทำใหก้ ารควบคุมสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคยงุ่ ยากมากข้นึ เชน่ การ ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายของแรงงานต่างด้าว การปกปิดข้อมูลแรงงานต่างด้าวในสถานประกอบการ กลุ่มคนเหล่าน้ีมีความเส่ียงสูงในการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 นอกจากนี้ ประชาชนเองก็ขาดความตระหนัก และความรับผิดชอบต่อสงั คม ยังพบมกี ารจบั กล่มุ เล่นการพนัน ดมื่ เหล้า เปน็ ตน้ (5) การบงั คบั ใช้กฎหมายที่เขม้ งวดส่งผลกระทบต่อการดำรงชวี ิตของประชาชน และสภาพเศรษฐกิจ สร้างความไม่พอใจกบั กลุ่มบคุ คลท่ีไดร้ ับผลกระทบ ดังจะเห็นอยูบ่ อ่ ยครัง้ ท่ีมกี ารเรียกร้องให้ผ่อนคลายมาตรการ นอกจากนี้ ยงั มีให้เหน็ ถึงการละเลย ไม่ปฏิบตั ติ ามมาตรการแนวทางทก่ี ำหนด 3.3.3 ด้านการจดั การขอ้ มลู และการให้บรกิ าร (1) การขาดการบูรณาการข้อมูลระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ในบางพื้นที่ ทำให้การทำงานซ้ำซ้อน ประสิทธิภาพในการปฏิบัตงิ านลดลง (2) การบริการภาครัฐท่ีขาดความต่อเน่ืองในสถานการณ์ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เชน่ บางงานบริการ ยังไม่สามารถดำเนินการผ่านระบบออนไลน์ และความไม่เพียงพอของเครื่องมือและอุปกรณ์ที่รองรับการบริการ ผา่ นระบบออนไลน์ (3) การบริหารจัดการเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ไม่เป็นไปตามแผน เนื่องจากจำนวน/ประเภทของวัคซนี ท่ีไดร้ ับจดั สรรไมเ่ พยี งพอต่อความตอ้ งการของประชาชน ความไมช่ ดั เจนของ ช่วงเวลาท่ีจะไดร้ บั จดั สรร นอกจากนก้ี ารลงทะเบียนเพอ่ื ขอรบั วคั ซีนมหี ลากหลายชอ่ งทาง อาทิ หมอพร้อม อสม. แพลตฟอรม์ ของจังหวัด ทำใหป้ ระชาชนเกดิ ความสับสนและอาจเสียสทิ ธิการได้รบั วัคซนี (4) การให้บริการไมส่ ามารถทำไดเ้ ตม็ ศักยภาพ ต้องจำกัดจำนวนผู้มารับบริการในแต่ละวัน รวมทั้ง มีการเล่ือนการใหบ้ รกิ ารบางประเภททไ่ี ม่ใช่กรณเี รง่ ด่วนออกไปเพื่อใหเ้ ปน็ ไปตามมาตรการป้องกันที่กำหนด

85 3.3.4 ดา้ นงบประมาณ (1) ความไม่ยืดหยุ่นของระเบียบการเบิกจ่ายงบประมาณ ทำให้ไม่สามารถแก้ไขปัญหา/บรรเทา ความเดือดร้อนได้ทันเวลา (2) ความล่าช้าของการเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อจัดซื้อเครื่องมือ อุปกรณ์ เนื่องจากบางกิจกรรม มคี วามซ้ำซอ้ นกับการเบิกจ่ายงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่นิ (3) แนวทางการปฏิบัติตามระเบียบการเบิกจ่ายงบประมาณส่วนราชการและองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นแตกต่างกัน การนำงบประมาณจากแหลง่ ต่าง ๆ มาบูรณาการการแก้ไขปัญหาร่วมกนั ยังไม่สามารถ ดำเนนิ การไดค้ ลอ่ งตัว ทำให้เกดิ ความลา่ ชา้ นอกจากข้อจำกัดที่พบข้างต้นแล้ว ปัญหาที่ตามมาในทุกพื้นที่คือ ปริมาณขยะติดเชื้อที่เกิดจาก สถานที่ที่เปิดมารองรับผู้ป้วยในรูปแบบต่าง ๆ เช่น โรงพยาบาลสนาม Home Isolation, Home Quarantine, Community Isolation, Hospitel และตั้งจุดพักคอยขึ้นเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ปริมาณขยะติดเชื้อในพื้นท่ี เพมิ่ สงู ขนึ้ เกินกวา่ ระบบปกติจะรองรบั ได้ จำเป็นต้องเร่งหาทางกำจดั อย่างถกู ต้องตามหลกั วิชาการ ข้อจำกัดที่พบอาจมีความแตกต่างกันไปบ้างในบางพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดที่มีสภาพทางภูมิศาสตร์ ท่ตี ่างกนั เชน่ จังหวดั ท่ีมีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน มีชอ่ งทางธรรมชาติทั้งทางบก ทางทะเล จำนวนมาก (จังหวัดระนอง และจังหวดั ประจวบคีรีขนั ธ์ เป็นต้น) หรือสภาพภูมปิ ระเทศที่เป็นเขา พื้นที่สงู (จังหวัดนา่ น และ แมฮ่ ่องสอน เปน็ ต้น) ยากแกก่ ารเขา้ ถึง จงึ ยากแก่การควบคุม และป้องกันการแพร่ระบาด สภาพทางเศรษฐกิจ ที่ต้องพ่ึงพาแรงงานตา่ งดา้ ว จังหวัดทีม่ ีโรงงานอตุ สาหกรรมจำนวนมาก ทำใหม้ ีแรงงานต่างด้าวเป็นประชากรแฝง จำนวนมาก (เช่น จังหวัดสมุทรปราการ และจังหวัดสมุทรสาคร) แรงงานบางกลุ่มมีอัตราการเคลื่อนย้ายสูง โดย ปราศจากการควบคมุ ประกอบกบั พฤตกิ รรมทางสังคม วฒั นธรรมประเพณี ยงิ่ ทำใหก้ ล่มุ เหลา่ นี้มีความเส่ียง และ โอกาสในการติดเชอ้ื สูง 3.4 ขอ้ เสนอแนะ บทเรียนที่ได้จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ที่ผ่านมา เป็นการส่งสัญญาณว่า การทำงานหลงั COVID-19 ตอ้ งปรบั เปลี่ยนไป จังหวัดตอ้ งมีความพร้อมในการรองรบั สถานการณ์อย่างทันการณ์ การปฏบิ ัติงานตอ้ งยืดหยนุ่ และคล่องตัวมากย่งิ ข้นึ ในการศกึ ษาน้ีจงึ มขี อ้ เสนอแนะ ดังน้ี 3.4.1 การขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัลเพื่อเป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนการปฏิบัติงานและ การใหบ้ ริการในภาวะวิกฤตไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ (1) พฒั นาโครงสรา้ งพ้นื ฐานดา้ นดจิ ิทัลของหนว่ ยงานภายในจังหวัดให้มีความพร้อมเพื่อให้ การบริหารงานและการให้บริการสามารถรองรับ ตอบสนองภาวะวิกฤตและภัยคุกคามรูปแบบใหม่ท่ีอาจเกิดขึ้น ในอนาคตให้สามารถดำเนนิ การได้อยา่ งต่อเนอื่ งและมีประสิทธภิ าพ (2) พัฒนาระบบฐานข้อมูลในระดบั จงั หวดั ให้เปน็ ดิจทิ ัล มมี าตรฐานและนำสู่การเปิดเผย ต่อสาธารณะเพื่อให้สามารถเชื่อมโยงกับข้อมูลกับหน่วยงานในพื้นที่และส่วนกลาง โดยส่วนกลางควรพัฒนา แพลตฟอร์มกลางในการเก็บรวบรวมและการรายงานข้อมูล กำหนดฐานข้อมูลร่วมที่ทุกจังหวัดจำเป็นต้องมี รวมทั้งกำหนดรายละเอียดของการจัดเก็บข้อมูล เช่น นิยามของข้อมูล ช่วงเวลาการจัดเก็บ และแหล่งที่มาข้อมูล เป็นต้น เพื่อให้ข้อมูลที่ได้อยู่ในรูปของฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เป็นมาตรฐาน และสามารถนำมาใช้ ประโยชนใ์ นเชงิ นโยบาย การดำเนนิ งาน การกำกับติดตาม การบรหิ ารจดั การไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพมากข้ึน

86 (3) พัฒนาทักษะของบุคลากรให้พร้อมสู่การเป็นองคก์ รดิจทิ ัล สถานการณ์การแพร่ะบาด ของโรค COVID-19 ที่ผ่านมา พบวา่ บคุ ลากรยงั ไม่สามารถปฏิบัตงิ านนอกสถานท่ไี ด้อยา่ งเต็มทนี่ ัก ซงึ่ ปัญหาสำคัญ นอกจากความพร้อมของเครื่องมืออุปกรณ์แล้ว ทักษะความเข้าใจและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลยังเป็นข้อจำกัด ดังนั้น จงั หวดั จงึ ควรเรง่ พัฒนาบคุ ลากรด้านดิจทิ ลั เพ่ือยกระดับและเตรียมความพร้อมส่กู ารเป็นองค์กรดิจทิ ัล (4) จังหวัดควรสนับสนุนให้หน่วยงานนำระบบการให้บริการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Service) มาเพิ่มช่องทางการให้บริการ และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนมากขึ้น โดยเฉพาะการ ให้บริการที่อำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เนื่องจากเป็นหน่วยงานที่ใกล้ชิดกับประชาชน ขณะเดียวกัน ส่วนราชการเจา้ ของงานบริการควรพัฒนาระบบใหส้ ามารถให้บรกิ ารไดอ้ ยา่ งเบ็ดเสร็จ ณ หนว่ ยให้บรกิ าร 3.4.2 การบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ จังหวัดควรกำหนดแนวทาง รปู แบบการทำงานร่วมกับภาคีเครือข่าย วางแนวทางการส่ือสาร เพอ่ื สร้างความรับรู้ เข้าใจ รวมทัง้ รบั ฟังความคิดเห็น ของภาคส่วนต่าง ๆ ในพื้นที่ เพื่อลดปัญหาความขัดแย้ง และสร้างการมีส่วนร่วมในการส่งเสริมและสนับสนุน การปฏบิ ตั ิงานของจงั หวดั 3.4.3 การยกระดับแผนบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต (Business Continuity Plan: BCP) : จังหวัดควรทบทวน ซักซ้อม และปรับปรุงแผน BCP อย่างต่อเนื่อง และนำแผนไปใช้อย่างจริงจัง เมื่อเกิดเหตุวิกฤต เพื่อลดผลกระทบต่อการให้บริการประชาชนให้สามารถดำเนินต่อไปได้โดยไม่สะดุดหยุดลง โดยเหน็ ควรให้สำนักงาน ก.พ.ร. และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นนำประเด็นการจัดทำและทบทวนแผน BCP ไปกำหนดเป็นส่วนหนึ่งของ เกณฑ์การประเมินสถานะของหน่วยงานภาครัฐในการเป็นระบบราชการ 4.0 (PMQA 4.0) และการประเมิน ประสทิ ธิภาพขององคกรปกครองสว่ นท้องถิ่น (Local Performance Assessment : LPA) 3.4.4 การวางระบบการบริหารงบประมาณในระดับพื้นที่ : เนื่องจากหน่วยงานระดับจังหวัดเป็น ด่านหน้าและเป็นผู้ปฏิบัติงานหลักในการแก้ไขสถานการณ์ในภาวะวิกฤต ซึ่งปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงแผนงาน โครงการของจังหวัดที่กระทบกับแผนงานเดิม จำเป็นต้องพิจารณาผ่านกระบวนการต่าง ๆ ซึ่งใช้ระยะเวลานาน และอาจไม่ทนั ต่อสถานการณ์ในการแก้ไขปัญหาในภาวะวิกฤต จงึ มขี อ้ เสนอ ดงั นี้ (1) งบประมาณที่ได้รับจัดสรรตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ควรเสนอคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพัฒนาภาค (ก.บ.ภ.) พิจารณาปรับแนวทางการโอนเปลี่ยนแปลง งบประมาณเพ่ือแก้ไขในภาวะวิกฤตในกรณีที่มีมติคณะรัฐมนตรีรองรับ ให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการบริหาร จังหวัดแบบบูรณาการ (ก.บ.จ.) และ/หรือคณะกรรมการบริหารงานกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.บ.ก.) แล้วจึง รายงานใหส้ ่วนกลางรับทราบ เพอื่ ให้สามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ อาจกำหนดให้มีการ หารือกับผู้อำนวยการกองจัดทำงบประมาณเขตพื้นที่ สำนักงบประมาณ เพื่อดำเนินการตามระเบียบการบริหาร งบประมาณทเ่ี กี่ยวข้อง (2) งบประมาณที่ได้รับจัดสรรเพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จากทุกแหล่งที่จัดสรรให้จังหวัด คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติควรวางแนวทาง หลักเกณฑ์ในการบูรณาการ เพื่อให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสามารถบริหารจัดการให้มีเอกภาพ ลดความซ้ำซ้อน และเกิดประสิทธิภาพ สูงสุด

87 (3) หนว่ ยงานท่มี บี ทบาทสำคญั ด้านการตรวจสอบ เชน่ สำนักงานตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ควรสรุป บทเรียนเพื่อใช้เป็นแนวทางในการตรวจสอบการดำเนินงานและการใช้จ่ายงบประมาณในภาวะวิกฤตและ สถานการณ์ฉุกเฉนิ ตา่ ง ๆ เพื่อใหห้ นว่ ยงานทีเ่ กย่ี วข้องใช้เปน็ แนวทางปฏบิ ตั ิเมื่อมีเหตกุ ารณ์ท่ีอาจเกิดข้นึ ในอนาคต 3.4.5 พัฒนากลไกหรือเครื่องมือในการบริหารจัดการในพื้นที่ในสถานการณ์วิกฤตอื่นที่มิใช่ โรคระบาด หรือภัยคุกคามรูปแบบใหม่ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยการปรับปรุงกฎหมายที่มีอยู่หรือพัฒนา กฎหมายฉบับใหม่ให้ครอบคลุมเพื่อสามารถรองรับภัยพิบัติฉุกเฉินรูปแบบใหม่ ซึ่งอาจเกิดขึ้นเฉพาะบางพื้นท่ี เท่านั้น เมื่อเผชิญสถานการณ์ผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถประกาศใช้ได้ทันที โดยไม่ต้องรอการสั่งการจาก สว่ นกลาง หรอื การประกาศใชพ้ ระราชการกำหนดการบรหิ ารราชการในสถานการณ์ฉกุ เฉนิ .......................................................

88 เอกสารอา้ งองิ กรมการปกครอง. หนงั สอื ดว่ นท่สี ดุ ท่ี มท 0309/ว 8039 ลงวันที่ 25 มีนาคม 2563 เรอื่ งมาตรการเฝา้ ระวงั และ ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคตดิ เช้ือไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) ในส่วนของการใหบ้ รกิ ารประชาชน กับงานทะเบยี นและบัติรประชาชน. กรมการปกครอง. สำเนาวิทยุกรมการปกครอง ด่วนที่สุด ที่ มท 0309/ว7694 ลงวันที่ 23 มีนาคม 2563 สั่งปิด การให้บริการศูนยบ์ ริการรว่ มอำเภอยิม้ เป็นการช่วั คราว. กรมที่ดิน. ประกาศกรมที่ดิน เรื่อง ขอความร่วมมือประชาชนติดต่อรับบริการงานที่ดิน ช่วงสถานการณ์แพร่ ระบาดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนา 2019 หรอื โรคโควิด 19 วนั ท่ี 25 มีนาคม 2563. กรมที่ดิน. ประกาศกรมที่ดิน เรื่อง ขอความร่วมมือประชาชนติดต่อรับบริการงาน ณ สำนักงานที่ดิน ในช่วง สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนา 2019 (โควดิ -19) วันท่ี 5 พฤษภาคม 2564. กรมราชทัณฑ์สั่งการให้ทุกเรือนจำงดการเยี่ยมญาติตั้งแต่วันที่ 18 – 31 มีนาคม 2563 เผยแพร่ : 18 มีนาคม 2563 สืบคน้ จาก https://today.line.me/th/v2/article/371knW. กรมราชทัณฑ์. หนังสือกรมราชทัณฑ์ ด่วนที่สุด ที่ ยธ 0704.12/10006 ลงวันที่ 30 มีนาคม 2563 เรื่อง มาตรการปอ้ งกันและควบคุมการแพรร่ ะบาดของเช้ือไวรสั โคโรนา 2019 ในเรอื นจำ. คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มมส สง่ มอบ 3 นวตั กรรมให้ รพ.มหาสารคาม ชว่ ยแพทย์ลดความเสี่ยงตดิ เช้ือไวรัส COVID-19 เผยแพร่ : 20 กรกฎาคม 2563 สืบค้นจาก http://www.web.msu.ac.th/ssystem/msuhotnews/ detailnews.php?hm=&hotnewsid=9237&uf=&qu=. จังหวัดกำแพงเพชร. คำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกำแพงเพชร ที่ 2/2563 วันที่ 23 มีนาคม 2563 เรื่อง มาตรการเร่งด่วนในการป้องกันวิกฤตการณ์จากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Coronavirus Disease 2019 : COVID-19) ตามมติคณะรัฐมนตรี เม่ือวันที่ 17 มนี าคม 2563 (ฉบบั ท่ี 2). จังหวัดสมุทรสาคร. คำสงั่ จงั หวัดสมทุ รสาคร ท่ี 3443/2563 ลงวนั ท่ี 19 ธนั วาคม 2563 เรื่อง มาตรการเฝ้าระวัง และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชือ้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) (ฉบบั ท่ี 22) จังหวัดสมุทรสาคร. คำสั่งจังหวัดสมุทรสาคร ที่ 2013/2564 ลงวันท่ี 23 กรกฎาคม 2564 เรื่อง ให้โรงงานหรือ สถานประกอบการ จดั ตัง้ โรงพยาบาลสนาม (Factory Accommodation Isolation : FAI) จังหวัดสมุทรสาคร. ประกาศจังหวัดสมุทรสาคร เรื่องการอบรมอาสาสมัครสาธารณสุขด่างด้าว (อสต.) สำหรับ สถานประกอบการ ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-2019) ลงวนั ที่ 2 กันยายน 2563. ชน่ื ชม 11 จงั หวัด! ตัง้ ปอ้ มสกัดเชือ้ COVID-19 เหนียวแนน่ ! เผยแพร่ : 6 เมษายน 2563 สืบคน้ จาก https://www.thebangkokinsight.com/wp- content/uploads/2020/04/. ถอดบทเรยี น 9 จว. อยอู่ ย่างปลอดโควดิ เผยแพร่ : 2 พฤษภาคม 2563 สืบค้นจาก https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_2166921. ทิพิชา โปษยานนท์ นภินทร ศิริไทย ศิริธร อรไชย “รวมพลังพลเมืองตื่นรู้ ช่วยชาติ สู้ภัยโควิด 19: สำนักงาน คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) เมษายน 2563.

89 ที่แรกของโลก \"ไทย\" ร่วมถอดบทเรียน \"โควิด-19\" กับ WHO และองค์กรระหว่างพฤษภาคม 2563 ประเทศ เผยแพร่ : 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 สบื คน้ จาก https://www.thaipost.net/main/detail/72303. นักเรียนและครูในเครอื ข่ายมลู นิธิฯ ร่วมกนั จัดส่งหนุ่ ยนต์ “นอ้ งไออุ่น” ขนส่งเวชภณั ฑช์ ว่ ยหมอทำงาน เผยแพร่ : 17 มถิ นุ ายน 2563 สบื ค้นจาก https://www.pmca.or.th/thai/?p=8602. บึงกาฬประกาศล็อกดาวน์ รักษาจังหวัดสีขาวไร้โควิด ตั้งแต่บัดนี้-30 เม.ย. 63 เผยแพร่ : 6 เมษายน 2563 https://www.dailynews.co.th/regional/766935. เปิดโมเดล 13 จังหวัดรอด “โควิด” “ผู้ว่าฯ หมูป่า” ชูโมเดลป้อง “ลำปาง” เผยแพร่ : 28 มีนาคม 2563 สืบค้น จาก https://www.prachachat.net/covid-19/news-439500. เปิดโมเดล 3 ชุมชน พลิกวิกฤต “โควิด-19” สู่นวัตกรรมสร้างสุข เผยแพร่ : 9 มิถุนายน 2563 สืบค้นจาก https://www.bangkokbiznews.com/recommended/detail/2245. ผู้จัดการรายวัน. หนังสือพิมพ์. คอลัมภ์ มุมจีน : สรุปบทเรียน 10 ปัจจัยความสำเร็จ ไต้หวัน สู้ภัยCOVID-19 แบบไม่ล็อกดาวน์ วนั อังคารที่ 19 พฤษภาคม 2563 ปีที่ 12 ฉบบั ที่ 3173. มหาดไทย. กระทรวง หนังสือกระทรวงมหาดไทย ด่วนที่สุด ที่ 1816.4/ว1628 ลงวันที่ 18 มีนาคม 2563 เรื่อง การป้องกันการแพร่ระบาดจองโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สังกัด องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิน่ . มหาดไทย. กระทรวง หนังสือกระทรวงมหาดไทย ที่ มท 0206.2/ว1824 ลงวันที่ 26 มีนาคม 2563เรื่อง การส่ง ข้อมลู เพอื่ สรา้ งการรบั รสู้ ชู่ มุ ชน ครั้งท่ี 11/2563. รพ.มหาสารคาม รับมอบ “น้องกระติ๊บ” หุ่นยนต์ส่งของและฆ่าเชื้อด้วยแสงอัลตร้าไวโอเลต หุ่นยนต์ตรวจวัด อุณหภูมิ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ จาก มมส. เผยแพร่ : 20 กรกฎาคม 2563 สืบค้นจาก https://www.mkh.go.th/th/node/15085. รุ่งทิวา มากอิ่ม ฐิติกร โตโพธิ์ไทย และชมพูนุท โตโพธิ์ไทย. วารสารวิจัยระบบสาธารณสุข สถาบันวิจัยระบบ สาธารณสุข. บทเรียนจากการป้องกันและควบคุมการระบาดของ โควิด-19: กรณีศึกษาเทศบาลเมือง อ่างทอง. ปีท่ี 14 ฉบบั ที่ 4 ตุลาคม-ธนั วาคม 2563. ผู้จดั การออนไลน์. ผวู้ ่าฯ เชยี งใหมน่ ำแถลงยืนยนั คุมCOVID-19 เรอื นจำกลางอยหู่ มัด-ดูแลผ้ตู ้องขังทุกคนอย่างดี. เผยแพร่: 17 พ.ค. 2564. ผ้จู ดั การออนไลน์. ผู้วา่ ฯ ส่งั ล็อกดาวน์ “สมุทรสาคร” หา้ มเข้า-ออกพ้ืนที่ หลงั แถลงติดCOVID-19 เพิม่ 516 ราย เผยแพร:่ 19 ธ.ค. 2563. ผู้จัดการออนไลน์. บ.เรือนจำกลางเชียงใหม่เผยเคล็ด (ไม่) ลับ “ฟ้าทะลายโจร-ขิง-กระชายขาว” เสริมภูมิ ผูต้ อ้ งขงั สยบCOVID-19 เผยแพร่: 3 ม.ิ ย. 2564 มหาดไทย, กระทรวง. หนังสือกระทรวงมหาดไทย ด่วนที่สุด ที่ มท 0309.2/ว 364 ลงวันที่ 18 มกราคม 2564 เรื่อง การขยายกำหนดเวลาทำบัตรประจำตัวประชาชนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือ ไวรสั โคโรนา 2019 (โควดิ -19). รู้แล้ว! ทำไม\"ชัยนาท\"ปราศจากCOVID-19 พบทุกฝ่ายช่วยกัน และประชาชนให้ความร่วมมือ เผยแพร่: 1 เม.ย. 2563 สบื ค้นจาก https://mgronline.com/local/detail/9630000033381.

90 วท.สกลนคร สรา้ งหนุ่ ยนตส์ ่งยา-อาหารผู้ปว่ ยCOVID-19 ชว่ ยเซฟบุคลากรทางการแพทย์ เผยแพร่ : 20 เมษายน 2563 สบื คน้ จาก http://www.focusnews.in.th/7555. สุดยอดไอเดยี “รพ.รามนั ” นำหนุ่ ยนต์สง่ ยา-อาหาร คนไข้ COVID-19 เผยแพร่ : 26 เมษายน 2563 สืบค้นจาก https://www.77kaoded.com/news/idongphoto/1574678. สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรีอน. หนังสือสำนักงาน ก.พ. ที่ นร 1007.4/326 ลงวันที่ 5 มีนาคม 2563 เรื่อง หลักเกณฑ์สำหรบั ให้ขา้ ราชการปฏบิ ตั งิ านภายในท่พี กั ตามข้อส่ังการของนายกรฐั มนตรี. สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ร่วมกับมูลนิธิสถาบันอนาคตไทยศึกษา. มองภาพอนาคต ประเทศไทย แนวทางการรบั มอื หลังวิกฤต COVID-19 ไม่ระบุปที พี่ ิมพ์. อภิชาติ โตดิลกเวชช์ สมาชิกวุฒิสภา การแก้ไขสถานการณ์โควิด 19 ในระดับพื้นที่และชุมชนของจังหวัด 7 เมษายน 2563. อ่างทอง ผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์ รณรงค์เข้ม-ชาวบ้านร่วมมือ ต้นแบบป้องกันโควิด-19. เผยแพร่ : 29 มีนาคม 2563 สืบค้นจาก https://www.mtoday.co.th/49081. HOW TO... 'รอด' - ถอดรหัส 'บึงกาฬ-พิจิตร-ชัยนาท' ทำอย่างไร? ปลอดเชื้อCOVID-19 เผยแพร่ : 8 เมษายน 2563 สืบคน้ จาก ://www.isranews.org/article/isranews-scoop/87369-repoer06-3.html. PPTV Online. เจาะแนวคิด \"ผู้ว่าฯ ปู\" สู้COVID-19 สมุทรสาครโมเดล กับการทำ FAI รักษา พนง. โรงงาน อตุ สาหกรรม. เผยแพร่ 19 ส.ค. 2564. PPTV Online. เปดิ สายพาน “ตลาดกุง้ ” จุดเรม่ิ ต้นโควิดระบาด. เผยแพร่ 21 ธ.ค. 2563.