Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ilovepdf_merged ถอดบทเรียนครัวเรือน คุณอภิวรรษจอมบึง

ilovepdf_merged ถอดบทเรียนครัวเรือน คุณอภิวรรษจอมบึง

Description: ilovepdf_merged ถอดบทเรียนครัวเรือน คุณอภิวรรษจอมบึง

Search

Read the Text Version

โครงการตลาดนดั ความรู้งานพัฒนาชุมชน (KM Market) ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2564 : โดย ศพช.เพชรบรุ ี

1 ข้อมลู ทวั่ ไปของครวั เรือน ชื่อ-สกุล นายอภิวรรษ สุขพ่วง เบอร์โทรศัพท์ 089-3798950 ท่อี ยเู่ ลขที่ 107 หม่ทู ่ี 10 ตาบลจอมบึง อาเภอจอมบึง จังหวดั ราชบุรี ตาแหนง่ ทางสังคม เจ้าของไรส่ ุขพ่วง / ศูนยก์ ารเรยี นรู้ Earth Safe อินทรีย์วิถไี ทย , ประธานวิสาหกจิ ชุมชน , ปราชญช์ ุมชน , วทิ ยากรจิตอาสาพัฒนาชุมชน , เกษตรกรต้นแบบ , เกษตรสานกึ รกั บา้ นเกิด โครงการตลาดนัดความร้งู านพัฒนาชุมชน (KM Market) ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2564 : โดย ศพช.เพชรบรุ ี

ขนาดพ้ืนท่ี ในการเข้ารว่ มโครงการฯ จานวน 15 ไร่ (CLM) 2 โครงการตลาดนัดความรงู้ านพัฒนาชุมชน (KM Market) ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2564 : โดย ศพช.เพชรบรุ ี

กจิ กรรมในพ้ืนท่ี ดาเนินการกจิ กรรมในพ้นื ทตี่ ามหลกั ทฤษฎใี หม่ โดยการจดั สรรทดี่ นิ ใหม้ ี 4 ปจั จัย คอื 3 1. “นา้ ” โดยการแบง่ ทด่ี ินจัดทาแหล่งนา้ รอ้ ยละ 30 2. “นา” เปน็ ชาวนาทานาขา้ ว 5 ไร่ 3. “ปลูกพืชผกั -ผลไม้ สมนุ ไพร/ ปศุสัตว์” เลยี้ งเปด็ -ไก-่ ปลา 4. “ท่อี ย่อู าศัย” บา้ น – คอกสตั ว์ จากการจดั สรรพ้นื ท่ดี ังกล่าว ทาให้เกดิ กิจกรรมในพนื้ ที่หลากหลายกิจกรรม เชน่ - การเล้ยี งไก่-เป็ด-หา่ น และนาผลผลติ มาแปรรูปเปน็ ไข่เคม็ ไข่อนิ ทรยี ์ - การทานา ได้ข้าวสาร และนา แกลบ รา ปลายขา้ ว มาทาอาหารสตั ว์ เล้ยี งสตั ว์โดยไมต่ ้องซ้ืออาหาร - การปลูกกล้วย นากลว้ ยสุกมาเป็นกล้วยตาก การนาหน่อกล้วยมาทาน้าหมัก - การปลกู อ้อย นามาทาน้าอ้อย แปรรูปเปน็ น้าตาลอ้อยแบบไซรับ-แบบผง – แบบก้อนใสพ่ มิ พ์ซิลิโคน - การทาทองมว้ นจากนา้ ตาลออ้ ย - ทาขนมกุย้ ชา่ ย จากการปลูกตน้ กุ้ยชา่ ยเอง - การปลูกพชื ผักสวนครัวบน “เนินพอกิน” - การใชแ้ ผงโซล่าเซลล์ รบั พลังงานแสงอาทติ ย์ มาแปรรูปเป็นพลังงานไฟฟ้า เป็นพลงั งานในการแปรรูป อาหารและผลผลติ ภายในไร่และจากคนในชุมชน เชน่ กล้วยตาก สมนุ ไพรตา่ งๆ - การทาปุ๋ยหมกั จากผักตบชวา เศษใบไม้ ใบไผใ่ นพืน้ ท่ี - การใชร้ ะบบพึ่งพาอาศัยโดยเลีย้ งสตั วร์ ่วมกบั การปลูกพชื การปลูกป่าไผ่ใหร้ ่มเงา ความร่มเย็น และ นาใบไผ่ มาเป็นปยุ๋ และเปน็ ส่วนผสมของดินใช้ในการปลกู พืช - การสานตะกร้าสาหรบั เป็นภาชนะปลูกผักสาหรบั คนมีพ้ืนทจ่ี ากดั - การปั้นดนิ เผา - เตาเผาถา่ นไรค้ วนั - การแปรรูปตาลงึ เปน็ อาหารแบบผง - การสกดั สารต่างๆจากพชื พันธตุ์ า่ งๆ เชน่ ออ้ ย , อญั ชัน - การจาลองพ้ืนท่ีการปศสุ ัตวแ์ บบพึ่งพาอาศัยกบั การปลูกต้นไม้ (การเกษตร) ฯลฯ โครงการตลาดนดั ความรู้งานพฒั นาชุมชน (KM Market) ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2564 : โดย ศพช.เพชรบรุ ี

4 โครงการตลาดนดั ความรู้งานพฒั นาชุมชน (KM Market) ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2564 : โดย ศพช.เพชรบรุ ี

5 4 ท. 1.1 ทัศนะ - อาชีพเกษตรกรเป็นอาชีพท่ีสาคัญท่ีสุดของประเทศไทย เป็นผู้ผลิตอาหารเลี้ยงคนทั้งประเทศ แต่ ปัจจุบันอาชีพเกษตรกรเริ่มสูญหาย จากสาเหตุหลายประการ เช่นราคาผลผลิตตกต่า ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ต้นทุน ดา้ นการเกษตรสงู ขน้ึ ทาใหเ้ กษตรกรเป็นหนส้ี ิน เกิดการขายทีด่ นิ ทากิน เขา้ เมืองเพ่อื รับจ้าง ลูกหลานทเ่ี ป็น คน รุ่นหลังก็เร่ิมไม่สนใจอาชีพเกษตรท่ีพ่อแม่ได้ทามา เน่ืองจากเรียนสูงข้ึนและมุ่งหวังจะทางานท่ีมีเงินเดือนสูงๆ อยู่ใน ห้องแอร์เยน็ ๆ ไม่ตอ้ งทนอาบเหง่อื ตา่ งนา้ จากการทาการเกษตรของครอบครัว ชวี ติ ทผ่ี า่ นมาไดม้ ีโอกาสพบเจอปญั หาจากประสบการณ์ชวี ติ ในช่วงวยั ท่ผี า่ นมาหลากหลายเหตุการณ์ ท้ังดา้ นเศรษฐกจิ การเมอื ง และปญั หาภยั ธรรมชาติ โรคระบาด ซึ่งสิ่งเหลา่ นท้ี าใหเ้ กิดความรู้สึกในใจวา่ หากเกดิ วิกฤต แบบทไี่ ด้พบเจอมา...คนเราจะอย่รู อดได้อยา่ งไร ในฐานะของคนรุ่นใหม่และประสบการณ์วิกฤตต่างๆทไี่ ด้พบเจอ ทาให้ เกิดความคิดที่จะกลับมาอยู่บ้าน มาพัฒนาบ้านเกิดของตัวเอง และชุมชน ให้สามารถอยู่รอดได้ มีชีวิตแบบมีกินมีใช้ ไม่เป็นหนี้สิน แก้ไขปัญหาความยากจนของคนในชุมชน โดยใช้บทบาทของความเป็นประชาชนช่วยประเทศชาติ บ้านเมืองด้วยการน้อมนาศาสตร์พระราชา ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรทฤษฎีใหม่ ของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภมู ิพลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรชั กาลท่ี 9 มาปฏบิ ัติใน ครอบครัวใหเ้ กดิ ผลสาเรจ็ อยา่ งเป็นรูปธรรม และนาความสาเร็จทไี่ ดร้ บั ไปชว่ ยเหลอื แบง่ ปันใหแ้ ก่ชมุ ชนให้มากทส่ี ุด โครงการตลาดนัดความร้งู านพัฒนาชุมชน (KM Market) ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2564 : โดย ศพช.เพชรบรุ ี

6 1.2 ทกั ษะ ได้เขา้ รบั อบรมหลกั สูตรโครงการพฒั นาพน้ื ท่ตี น้ แบบการพัฒนาคุณภาพชีวติ ตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกตส์ ู่ “โคก หนอง นา โมเดล” และโครงการอบรมวทิ ยากรจิตอาสาพฒั นาชมุ ชน (ครูวทิ ยากรจิตอาสาพัฒนา ชุมชน) การเป็นวิทยากรให้ความรู้ - ในฐานะของคนรุ่นใหม่ ท่ีได้ศึกษาจบมาใน “ระดับพอสมควร”ที่จะสามารถนาความรู้ที่ได้รับ มาปรับใชใ้ นการทางาน โดยได้มีโอกาสเป็น “ครูวทิ ยากรจิตอาสา” ทีไ่ ดใ้ ชค้ วามรูค้ วามสามารถเก่ียวกบั เทคโนโลยีและ นวัตกรรมมาปรับใช้ในการทางานในพ้ืนท่ี และปรับใช้กับแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสมัยใหม่ เป็นเศรษฐกิจ สร้างสรรค์ โดยยึดเก็บของเก่ามาปรับของใหม่ มาถ่ายทอดความรู้ต่างๆจากพื้นท่ีไร่สุขพ่วงที่ดาเนินการอยู่ เช่น การ ทาอาหารธรรมดาๆให้เป็นอาหารยุคสมัยใหม่ การปลกู พชื ผักแบบแปลง เปล่ียนมาเป็นการปลูกในภาชนะ เพอ่ื คนไม่มี พ้ืนท่ีมาก ซึ่งตอบโจทย์การดารงชีวิตแบบคนเมืองได้ดี การถ่ายทอดองค์ความรู้ในรูปแบบการประกอบอาชีพ ด้าน การตลาด การแปรรปู ผลผลติ เป็นอาหารและยารักษาโรค การเกบ็ พลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ประโยชน์ เช่นการแปรรูป ผลผลิต การปรบั เปน็ พลงั งานไฟฟา้ การปลกู พืชผกั และปา่ 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อยา่ ง ระบบการเล้ยี งสตั วแ์ บบพ่ึงพา อาศัยกับพืช ในการสรา้ งพ้นื ทส่ี ีเขยี วให้ชุมชน โดยมีการใชเ้ ทคโนโลยแี ละนวัตกรรมมาต่อยอดการสรา้ งอาหารสมัยใหม่ โดยอ้างอิงจากความเช่ือถือของคนรุ่นเก่า มาพัฒนาคนรุ่นใหม่ รวมท้ังได้เพิ่มพูนความรู้จากการเข้ารับการฝึกอบรม โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” ที่ ศูนย์ ศึกษาและพัฒนาชุมชนนครนายก ได้เรียนรู้การเขียนยุทธศาสตร์ชุมชน ที่ทาให้ได้เรียนรู้ถึงบทบาทภารกิจของการ พ้ืนที่เรียนรู้ชุมชนต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต (CLM) ท่ีต้องเป็นศูนย์เรียนรู้ โคก หนอง นา โมเดล จะเห็นว่า เยาวชนคนรุ่นใหม่มักนิยมเชื่อถือระบบเศรษฐกิจพอเพียง และจะท้ิงส่ิงนี้ไป เพราะเศรษฐกิจพอเพียงไม่สามารถทาให้ เกิดมรรคเกิดผล ไม่สามารถให้คนมีรายได้แบบทุนนิยม ที่เห็นเงินเป็นส่ิงสาคัญ ดังน้ันจึงต้องทาระบบเศรษฐกิจ พอเพียงให้เกิดเป็นรูปธรรม ไม่ใช่ระบบฤาษี ที่มีการปลูกผักกินเองอย่างเดียว จะต้องมีการแลกเปลี่ยน การสร้างแรง กระตุ้นเศรษฐกจิ ซง่ึ ประเทศไทยของเรามีข้อไดเ้ ปรยี บในการกระตุ้นเศรษฐกจิ จากการนาทรัพยากรที่มีอยูม่ าแปลงเป็น เงินไดง้ ่ายกวา่ ที่อน่ื ๆ อกี ทัง้ ต้องมกี ารร่วมการทางานกับภาคีเครือขา่ ยในการแก้ไขปญั หาต่างๆ ของชุมชน ตามบทบาท ภารกิจของหน่วยงานน้ันๆ ส่ิงท่ีเกิดข้ึนคือสามารถแก้ไขปัญหาการขจัดความยากจนทุกชว่ งวัย โดยการนาความรู้ทไ่ี ด้ จากการฝึกอบรม มาปรับใชเ้ ปน็ ความร้ใู หแ้ กค่ นในชมุ ชนทกุ ช่วงวยั ตงั้ แตเ่ ด็ก สงู อายุ ตลอดจนผพู้ ิการ ซึ่งเราจะมองว่า คนทุกช่วงวัยต้องมีรายได้ โดยการนาความรู้ที่ได้รับการฝึกอบรมมาให้ความรู้แก่คนในช่วงวัย โดยการจัดทาเป็น กจิ กรรมใหก้ ารเรยี นรู้ คอื เร่มิ ตงั้ แต่วยั เดก็ 0 - 20 ปี ตอ้ งศึกษาเรยี นรู้ หาความรู้ เราก็นาความรู้ไปสอดแทรกในสถานศึกษา เป็นเรอ่ื งท่ี เก่ียวกบั การเล้ียงสัตว์ การปลูกพืชผัก ช่วงวัยทางานอายุ 30 – 59 ปี ช่วงอายุการทางาน ต้องทามาหากิน ประกอบธุรกิจ สร้างหลักฐานในชีวิต ใหค้ วามรู้เก่ียวกับเกษตรทฤษฎีใหม่ท่นี ามาปรับในการทาธรุ กจิ ช่วงอายุ 60 – ตาย ไม่ให้รู้สึกว่าไร้ค่า ต้องเป็นภูมิปัญญาชุมชน ไม่ต้องทางานหนัก แต่ต้องเป็นผู้ถ่ายทอด ประสบการณ์ องคค์ วามรู้ถอดบทเรยี นการทางาน มาเปน็ ความรู้มาพฒั นาปรบั ปรุงเพ่ิมเตมิ เปน็ วิชาชพี ของคนรุ่นหลงั ส่วนคนพกิ าร.ได้หางานท่ีเหมาะสาหรับคนพกิ ารให้ทา เช่น การสานตะกร้า หรืองานอ่นื ท่เี หมาะสม โครงการตลาดนัดความร้งู านพฒั นาชุมชน (KM Market) ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2564 : โดย ศพช.เพชรบรุ ี

7 โครงการตลาดนดั ความรู้งานพฒั นาชุมชน (KM Market) ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2564 : โดย ศพช.เพชรบรุ ี

8 1.3 ทรัพยากร - ทรัพยากรหลักของไร่สุขพ่วง ก็คือ ท่ีดินที่เป็นของครอบครัวตนเอง และครอบครัวเป็นครอบครัว ใหญ่ที่มีสมาชิกทุกช่วงวัยอยู่ร่วมกันถือเป็นแรงงานหลักท่ีสาคัญ มีการถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถ่ิน หรือที่เรียกว่าองค์ ความรู้ชุมชน จากคนในครอบครัวและผู้สูงอายุที่อยู่ในชมุ ชน เช่น การแปรรูปอาหาร การทาสมุนไพรเป็นยารกั ษาโรค และมีหน่วยงานสนบั สนุนงบประมาณในบางกจิ กรรม เหลา่ น้ีถอื เป็นทรพั ยากรทสี่ าคญั ในการทางานของไรส่ ุขพว่ ง - เงินทุนมาจากการกิจกรรมในครอบครัว เป็นเงินทุนหมุนเวียน และเงินทุนจากหน่วยงานราชการ ต่างๆท่เี ข้ามาสนบั สนุนในการทากจิ กรรมท่เี รามีความสามารถทาเพื่อต่อยอดถ่ายทอดชมุ ชน - ภูมิปัญญาท้องถิ่นท่ีเรามีอยู่ในชุมชน ถือเป็นทรัพยากรที่สาคัญ ท่ีถ่ายทอดความรู้สืบต่อกันมา โดย ใชเ้ ทคโนโลยแี ละนวตั กรรมใหม่มาปรับใชเ้ ป็นอาชีพ เพื่อสรา้ งรายได้ 1.4 ทางออก จากปญั หาพน้ื ท่มี ีน้าไม่เพียงพอสาหรบั การทาการเกษตรเมื่อประมาณ 10 ปที ่ีผา่ นมา จงึ ทาให้ได้คิด บริหารจัดการพ้ืนท่ีของตนเองให้มีน้าเพียงพอสาหรับตนเอง โดยการขุดสระในพื้นที่ของตนเอง ประมาณร้อยละ 30 ของพื้นท่ี เพ่ือนามาใช้ในพ้ืนท่ี ท้ังในด้านการเกษตรและใช้ในการดาเนินการอื่นๆของครัวเรือน ทาให้สามารถแก้ไข ปัญหาเร่ืองน้าไปไดใ้ นระดบั หนึง่ และเมอื่ ไดเ้ ข้ารับการฝึกอบรมในโครงการพัฒนาพื้นท่ีต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” ก็ทาให้สามารถนาความรู้ที่ได้รับมาบริหารจัดการพื้นท่ี และ จัดรปู แบบการทางานใหต้ รงตามภูมิสังคมของตนเอง ซง่ึ นบั ว่าเกิดแนวทางการพัฒนาพืน้ ที่ ท่นี า่ พงึ พอใจอย่างย่ิง โครงการตลาดนดั ความรงู้ านพัฒนาชุมชน (KM Market) ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2564 : โดย ศพช.เพชรบุรี

9 2.การพฒั นาพ้ืนที่ 2.1 เรมิ่ ต้นอย่างไร ทาอย่างไร มีข้นั ตอนวิธีการอย่างไร หลงั จากเขา้ รับการฝึกอบรม เริ่มตน้ ดว้ ยการนาความรู้ท่ีได้มาพัฒนาพน้ื ที่ตนเอง โดยการสารวจพ้ืนท่ี ของตนเองจากภูมิสังคมท่ีเป็นจริง หลังจากน้ันร่วมกับสานักงานพัฒนาชุมชนอาเภอจอมบึง ผู้เกี่ยวข้องร่วมกัน ออกแบบพื้นท่ี เพื่อดาเนินการปรับพ้ืนท่ีตามรูปแบบและแนวทางที่กรมการพัฒนาชุมชนกาหนด โดยอิงกับสภาพ ภูมิสังคมของแต่ละพ้ืนท่ี ใช้วัสดุท่ีมีอยู่ในพ้ืนท่ีตามบริบทของตนเอง ซึ่งได้รับการสนับสนุนและประสานงานจาก สานกั งานพฒั นาชุมชนอาเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการร่วมออกแบบเพ่ือเปน็ แนวทางการบรหิ ารจัดการพื้นที่ เป็นอย่างดี 2.2 เจอปัญหาอย่างไร/แก้ไขปัญหาอยา่ งไร เน่ืองจากพื้นท่ีที่มีอยู่ไม่สามารถดาเนินการตามแบบท่ีกรมการพัฒนาชุมชนกาหนดได้ จึงได้มีการ ร่วมกับสานักงานพัฒนาชุมชนอาเภอจอมบึง สานักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดราชบุรี และหน่วยงานที่เก่ียวข้อง ดาเนินการออกแบบแปลนใหม่เพ่ือให้เหมาะสมกับพื้นท่ีตามภูมิสังคม ตามแบบมาตรฐานของกรมการพัฒนาชุมชน โดยออกแบบใหม่ และได้ดาเนินการส่งแบบแปลนให้สมาคมศิษย์เก่าคณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น พิจารณารับรองแบบซงึ่ คงตอ้ งใชร้ ะยะเวลาในการตรวจรบั รองมากพอสมควรเน่อื งจากไดร้ บั การประสานการขอตรวจ โครงการตลาดนดั ความร้งู านพัฒนาชุมชน (KM Market) ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2564 : โดย ศพช.เพชรบรุ ี

10 แบบแปลนจากทว่ั ประเทศ ซงึ่ ทางพน้ื ท่ีเราก็ได้มีการเตรียมความพร้อมรว่ มกบั สานักงานพัฒนาชมุ ชนอาเภอจอมบึงใน การเตรยี มงานการจัดทาฐานการเรยี นรู้เรียบร้อยแล้ว ซ่งึ ไดด้ าเนนิ การตามกระบวนการตามแนวทางการดาเนินการท่ี กรมการพฒั นาชมุ ชนกาหนด เพ่อื ใหก้ ารบริหารจดั การพ้นื ที่เกดิ ประสทิ ธภิ าพและบรรลุตามเปา้ ประสงค์ของโครงการฯ มากท่ีสุด 2.3 รูปแบบการประยุกตใ์ ช้ ทฤษฎี หลักการที่ไดร้ บั ไป เนอื่ งจากครอบครวั ได้มีการน้อมนาศาสตร์พระราชาของในหลวงรชั กาลที่ 9 มาปรับใชเ้ ป็นวิถชี ีวิตอยู่ แล้ว ทาใหส้ ามารถเรยี นรแู้ ละเข้าใจแนวทางการดาเนินการบริหารจัดการพ้นื ท่ตี ามหลกั กสกิ รรมธรรมชาติอยา่ งลึกซึง้ และสามารถนาแนวทางของหลักกสิกรรมธรรมชาติมาปรบั ใช้ ได้มีการวางแผนการดาเนินงานร่วมกับหน่วยงานภาคี การทางานต่างๆ ซึง่ ทาให้คาดหวงั ว่าจะเกดิ ความสาเรจ็ จากการบริหารจดั การพ้ืนท่ีตามโครงการฯได้สูงสดุ 3. เครือขา่ ย (กลไก 3 5 7) 3.1 มีเครือข่ายใดเขา้ มาร่วมบา้ ง แลว้ เขา้ มาร่วมพฒั นาอยา่ งไร กิจกรรมใดบา้ ง ในการดาเนินการตามโครงการฯ ได้มีหน่วยงานภาคีเครือข่ายการทางานหลากหลายองค์กร เร่ิมจาก จากเข้ารบั การฝึกอบรมในโครงการฯ ไดเ้ พอ่ื นๆจากผู้ที่ดาเนินการพื้นที่ตน้ แบบระดบั CLM เป็นเครอื ข่ายการทางาน ร่วมอุดมการณ์เดียวกัน มีการแลกเปล่ียนเรียนรู้การทางานกันอย่างกว้างขวางและต่อเน่ือง เรามีนักพัฒนาพ้ืนที่ ต้นแบบ (นพต.) ท่ีเข้ารับการฝึกอบรมที่ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนเพชรบุรี มาร่วมทางานในพื้นท่ี มีองค์กรภาค วิชาการคือ มหาวิทยาลัยราชภัฎจอมบึง โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช จอมบึง สานักงานพัฒนาชุมชนอาเภอ/ จังหวัด ส่วนราชการระดับอาเภอ มีภาคศาสนามาร่วมเป็นวิทยากร ตลาดนัดชุมชน ภาคประชาสังคมต่างๆ สื่อมวลชน/สื่อท้องถ่ิน และที่สาคัญคือภาคประชาชน ซึ่งเป็นคนในชุมชน ท่ีเป็นภาคีหลักท่ีสาคัญ ที่เราจะต้อง ดาเนินการให้เกิดเป็นผลสาเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ให้เห็นจริง จึงจะสามารถทาให้เกิดความเชื่อถือ และเช่ือใน ความสาเร็จในการเข้าร่วมกบั เรา โครงการตลาดนดั ความร้งู านพัฒนาชุมชน (KM Market) ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2564 : โดย ศพช.เพชรบุรี

11 3.2 ดงึ เครือข่ายเขา้ มารว่ มไดอ้ ย่างไร ใชว้ ิธีไหน หรอื มีปัจจยั ใดทที่ าให้หนว่ ยงานเข้ามา ตามที่กล่าวข้างตน้ หากเราต้องการมีเครือข่ายในการทางาน ไมว่ ่าจะเปน็ เครือข่ายภาคใดๆก็ตาม สงิ่ สาคัญคือต้องแสดงให้เห็นถึงเป้าหมายความสาเร็จร่วมกัน เพราะเป้าหมายการทางานที่สาคัญท่ีสุดคือความสาเร็จ ดังน้ันการจะทางานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เครือข่ายต้องได้ร่วมกันรับความสาเร็จเท่าเทียมกัน นาพา ความสาเร็จไปด้วยกัน โดยเฉพาะคนในชุมชน สิ่งสาคัญคือให้เขาเห็นถึงการแก้ไขปัญหาต่างๆจนเปน็ ผลสาเร็จ อย่าง เป็นรูปธรรม อันจะทาให้เกิดความเชื่อถือ ศรัทธา ในการร่วมกันดาเนินงานอย่างเต็มกาลังความสามารถเพื่อร่วมกัน รบั ผลประโยชนร์ ่วมกันและนาพากันไปสเู่ ป้าหมายสูงสดุ รว่ มกันเกิด 3.3 แต่ละเครอื ข่ายท่เี ข้ามาชว่ ยมคี วามแตกตา่ ง และมคี วามโดดเดน่ อย่างไร เครือข่ายแต่ละภาคส่วนที่เข้ามาช่วย แตกต่างกันไปตามบทบาทภารกิจหน้าท่ี หากจะพูดถึงความ โดดเด่นคงอาจแยกได้ยาก เพราะหน่วยงานรัฐย่อมมีบทบาทภารกิจที่สนับสนุนงานตามนโยบายของแต่ละภาคส่วน หนว่ ยงานทเี่ ป็นภาคเอกชน ภาคประชาชนก็จะมีบทบาทอีกอย่างทม่ี องว่าทุกภาคสว่ นมคี วามสาคญั ในเชิงการเป็นภาคี เครือข่ายการทางานเท่าๆกัน แต่สิ่งท่ีเราให้ความสาคัญคือ การต้องรู้ศักยภาพของตนเอง ต้องมีงานที่เป็นกิจกรรมที่ สามารถรว่ มกจิ กรรมเดียวกนั ได้ เชน่ ภาควชิ าการต้องการงานวจิ ัย โรงพยาบาลต้องการเรื่องสุขภาพ เราก็ต้องมีงาน ท่ีสอดคล้องกัน และท่ีสาคัญมากก็คือ ภาคประชาชน คือคนในชุมชน ท่ีเป็นคนท่ีใกล้ชิดเรา อาจเป็นญาติ เป็นพ่ีน้อง แต่มีความสาคัญสาหรับเราเพราะเราอยู่ร่วมกันในพ้ืนท่ีน้ี อันเป็นความตั้งใจตามทัศนคติความคาดหวังในการทางาน เพอ่ื ชุมชนตงั้ แต่แรก ในการตง้ั ใจจะพฒั นาชุมชนของตนเองในการแก้ไขปญั หาหนี้สิน ใหม้ วี ิถชี วี ิตการอยรู่ ว่ มกนั อย่างมี ความสขุ และขยายสูช่ มุ ชนอ่นื ๆตอ่ ไปใหม้ ากท่สี ดุ ซึ่งล้วนแล้วแต่จะตอ้ งรว่ มกบั ภาคเี ครอื ขา่ ยการทางานของเราทง้ั ส้ิน สาหรับเครือข่ายท่ีมีการขับเคลื่อนงานที่สาคัญอีกส่วนหนึ่งในขณะน้ี คือ เครือข่ายศูนย์ฯ CLM ภาค ตะวันตก จากการฝกึ อบรม จากจังหวัดกาญจนบุรี ถอื เป็นเครอื ข่ายทใ่ี หญ่มาก มีศูนยฯ์ CLM จานวนหลายแหง่ ซงึ่ ไดม้ ี การตดิ ตอ่ ประสานงานในการทากจิ กรรมต่างๆรว่ มกนั เชน่ การเอามือ้ การแลกเปลย่ี นเรียนรูง้ านของพืน้ ท่ี โดยไดม้ ีการ นานักพัฒนาพื้นท่ีต้นแบบเดินทางไปศึกษาเรียนรู้งานระหว่างกัน แลกเปลี่ยนการทางานร่วมกัน ทาให้เกิดงานและ กิจกรรมใหมๆ่ ข้นึ มาหลากหลายกิจกรรม และหน่วยงานที่สาคัญอีกหน่วยงานคือ สานักงานพัฒนาชุมชนอาเภอจอมบึง มีบทบาทสาคัญในฐานะของ ผู้อานวยการ ท่ีช่วยเหลือในแนวนโยบาย ช้ีแนะแนวทางให้เกิดความเป็นระบบระเบียบในการทางานให้ถูกต้องและ ประสานงานไปยังหน่วยงานอื่นท่ีเก่ียวข้อง คือเป็นผู้ช่วยเหลือ ผู้อานวยความสะดวกในการทางานที่จะสร้างงานเพื่อ ชมุ ชนรว่ มกนั 3.4 คิดว่ายงั ตอ้ งมหี นว่ ยงานไหนเขา้ มาช่วยอีก และมาช่วยเรอื่ งอะไร จากการได้ทางานร่วมกับต่างประเทศหลายเร่ือง หากเราดาเนินการ โครงการ โคก หนองนา โมเดล สาเรจ็ จะมกี ารสง่ ความสาเรจ็ ของโครงการเข้าประกวดไปสูส่ งั คมโลกท่กี าลังเผชิญกบั ภัยพบิ ัตติ ่างๆในขณะน้ี โดยเสนอ โครงการตอ่ องคก์ ารสหประชาชาติ ให้เห็นความสาเรจ็ ของโครงการ โคก หนอง นา โมเดล ของประเทศไทย ทจี่ ะทาให้ เห็นว่า การพัฒนาแบบทุนนิยมถึงทางตัน เกิดภาวะเงินเฟ้อ เงินทองเป็นของมายา เป็นเร่ืองจริง โดยเสนอให้เห็น ความสาคัญของหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ท่ีสามารถแก้ไขปัญหาความยากจนระดับครัวเรือน ให้สามารถมี ชีวิตอยู่รอดด้วยสัมมาชีพ พ้นจากความอดอยากหิวโหย มีการขยายสู่ชุมชน ภูมิภาค และประเทศตามลาดับ ซึ่งถือ เป็นความสาเร็จท่ีเป็นต้นแบบของ ภูมิภาค ทวีป และโลกของเราได้ในอนาคต ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลท่ี 9 ซ่ึงขณะนี้ หลายประเทศ ไดม้ ีการนาแนวทางดงั กลา่ วไปปฏบิ ตั แิ ล้ว ดงั นนั้ ในประเทศของเรา โดยเฉพาะภาคราชการควรหาผู้ท่ีมี โครงการตลาดนัดความรงู้ านพฒั นาชุมชน (KM Market) ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2564 : โดย ศพช.เพชรบุรี

12 ความรู้ความสามารถในการทาอักษรภาษาท่ีสามารถสื่อสารปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเรื่องราวของ การทา โคก หนอง นา โมเดล ให้เป็นภาษาท่ีหลากหลาย เพื่อจะทาให้ทุกประเทศในโลกได้เข้าใจและสามารถนาไปปรับใช้ได้ อันจะทาใหเ้ ราสามารถช่วยเหลอื กนั และกันไดท้ ั่วโลก 4. เทคนิค/เคลด็ ลบั เคลด็ ลับสาหรับการทางานทคี่ ดิ ว่าจะทาให้งานสาเรจ็ ได้ ต้องเป็นคนท่มี ลี ักษณะ ดังน้ี 1. “วติ ก” คือ ต้องเปน็ คนชา่ งสงั เกต สังเกตปัญหาที่เกดิ ขึ้นในพ้ืนที่ 2. “วจิ ารณ์” ตง้ั คาถาม พจิ ารณาแก้ปญั หา อะไรทีส่ ามารถจะแก้ปญั หาได้ 3. “วจิ ัย” การน้ันนาองค์ความรู้ที่มอี ย่ใู นโลกมาแก้ไขปัญหา หากต้องการจะเปล่ียนชุมชน ต้องเริ่มจากการพัฒนาคนเป็นอันดับแรก เพราะการพัฒนาใดๆก็ไม่ดี เท่าการพัฒนาคน หรือการพัฒนาความเป็นมนุษย์ จึงต้องเร่ิมจากการพัฒนาคนก่อน โดยให้ใช้แนวทาง 3 ห่วง 2 เงือ่ นไข ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง คอื 1. ความพอประมาณ คือการรู้จักตนเอง ประมาณตนเอง เข้าใจกาลังตนเองว่าตนเองเป็นใคร มี หนา้ ท่ีอะไร และตอ้ งทาอะไร 2. มเี หตผุ ล คือ หาเหตุผลในสงิ่ ท่ีทาให้ตนเองทุกข์ ให้หาสาเหตขุ องทกุ ขน์ ้ันตามส่ิงท่เี ป็นจรงิ 3. มีภูมิคุ้มกันตนเอง เปรียบเสมือน วัคซีนป้องกันโรค การป้องกันความเส่ียง จากอันตรายท่ีจะ เกิดขน้ึ ในอนาคต เง่ือนไขความรู้ เราสามารถหาได้จากประสบการณ์และการเสาะแสวงหาจากภายนอกนามาปรับใช้ให้เป็น ประโยชนแ์ ละแก้ไขปัญหาตา่ งๆ ท่ีเกดิ ขึ้น เงื่อนไขคณุ ธรรม การดาเนนิ ชีวติ ด้วยความแบ่งปนั ไม่โลภ รู้จกั พอ ดูแลชว่ ยเหลอื กันกันระหว่างเพือ่ นมนษุ ย์ 4.1 จากขน้ั ตอนการพฒั นาพื้นท่ที ี่ได้ทา ได้คน้ พบ เทคนิค เกิดความรู้อะไรใหมๆ่ บ้าง จากภูมิประเทศ ภูมิสังคมที่ไม่เหมาะสมกับแบบแปลนท่ีกาหนด จึงต้องร่วมกับสานักงานพัฒนา ชมุ ชนอาเภอจอมบงึ ในการชว่ ยประสานงานกับหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องมาช่วยดาเนินการปรับแบบแปลนใหเ้ หมาะสมกับ พ้ืนที่ และส่งไปขอการรับรองท่ีกรมฯ ทาให้เกิดความล่าช้าในการดาเนินงาน ซึ่งทาให้ต้องมีการวางแผนการใช้น้าใน การบริหารจัดการผลผลิตในพื้นท่ีให้ดี โดยการประสานความชัดเจนในการเข้าดาเนินการ เพ่ือจัดเตรียมความพร้อม ของพ้ืนท่ีในการดาเนินการปรับพ้ืนท่ีตามแบบแปลนท่ีกาหนด ซึ่งขณะที่รอดาเนินการ เราก็ได้มีการจัดเตรียมความ พรอ้ มด้านการสรา้ งฐานเรียนรเู้ รยี บร้อยแล้ว ความสาเร็จ 1. แรงบนั ดาลใจ แรงบนั ดาลใจในการทางานนี้เกดิ จากการศรทั ธาในพ่อหลวง พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภูมิ พลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร ในหลวงรชั กาลที่ 9 ทีท่ า่ นมสี ายพระเนตรทย่ี าวไกล ท่ีมองเห็นสิ่งที่จะเกิดข้ึนใน อนาคตท่ีเปน็ ภยั พิบัตติ ่างๆ จะเกิดปัญหาความอดยาก จากความเชื่อในแนวคิดของทา่ นทาให้สามารถนาความเชือ่ และแรงศรัทธาน้ันมาทาให้เกิดผลสาเร็จในพนื้ ทขี่ องตนเอง ทาให้ปัญหาต่างๆทเ่ี กดิ ขึ้นจากความผิดพลาดในการ โครงการตลาดนดั ความรู้งานพฒั นาชุมชน (KM Market) ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2564 : โดย ศพช.เพชรบรุ ี

13 ทาธุรกิจ การประกอบอาชีพก่อนหน้าน้ัน มีผลกระทบกับเราน้อยมาก น่ันเกิดจากความเชื่อมั่นและศรัทธาในแนวคิด ของทา่ น ซง่ึ ถอื เปน็ แรงบนั ดาลใจทส่ี าคัญท่ีสุดท่ีนาไปสคู่ วามสาเร็จ 2. ปัจจยั แห่งความสาเร็จ พิจารณา 3 มติ ิ ปัจจัยความสาเร็จของผมคือ การท่ีรอดพ้นจากความอดอยาก หิวโหย เกิดจากทัศนคติ แนวคิด ในการใช้ ชีวิตตามแนวทางท่ีต้องเปล่ียนความคิด คือ ในสถานการณ์เช่นน้ีเป็นสถานการณ์ท่ีหาเงินยาก จึงให้หยุดความคิดเร่ือง การหาเงิน แล้วให้หยุดใชเ้ งินโดยการคิดหาวิธกี ารหยุดใช้เงิน อะไรที่ต้องใช้เงินซื้อให้หาสิง่ ทดแทน เช่น น้ายาล้างจาน นา้ ยาซักผ้า สบู่ ข้าวสาร อนั จะสร้างความชวี ติ ที่มลี กั ษณะแบบ - พออยู่ พอกนิ คือ พอตามอตั ภาพ มีกนิ ไม่ตาย - มีอยู่ มกี ิน คอื เหลอื กิน เริ่มมเี หลอื - กินดี อยู่ดี คือ มี และสามารถแบง่ ปันได้ ความโดดเด่น สาหรับในความคิดของผมคือ ผมเป็นคนท่ีเข้าใจในหลวงรชั กาลท่ี 9 เป็นคนท่ีรู้และเข้าใจวา่ ถ้า ท่านอายุเท่าผม และเกิดมาในยุคสมัยนี้ ท่านจะรู้ว่าท่านต้องทาอะไร นับเป็นความโชดดีท่ีได้มีโอกาสเข้าถึงแนวคิด ของท่านที่คิดปรัชญาแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ที่ไม่ใช่แค่การเลี้ยงสัตว์ ไม่ใช่แค่การปลูกป่า แต่เป็นเร่ืองของการ พัฒนาคน ซึ่งเป้าหมายสูงสุดในชีวิตของผม คือ “การเป็นครู”ต้องการเป็นคนที่จะไปพัฒนาคน ไปให้ความรู้ เพราะ คิดว่าหากคน ได้รับการพัฒนาแล้ว จะสามารถมีชีวิตอยู่รอดได้ ในทางตรงกันข้ามหากเราให้เงิน ให้อาหารอาจจะเป็น การช่วยเหลือไดช้ วั่ คราวเท่าน้ัน ดังนั้น เปา้ หมายของ การเป็นพื้นท่ีต้นแบบการพัฒนาในระดบั CLM ของเราที่สาคัญ คอื “การพฒั นามนุษย์” โครงการตลาดนัดความร้งู านพฒั นาชุมชน (KM Market) ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2564 : โดย ศพช.เพชรบรุ ี

14 3. วางแผนพฒั นาต่อยอดพ้นื ท่ีอย่างไร - มีการวางแผนที่จะต่อยอดไปสู่การเป็นศูนย์ฝึกอบรม ศูนย์เรียนรู้ที่เป็นสถานท่ีให้ความรู้ของประชาชน ใน ระยะเวลายาว เช่น 4 คนื 5 วัน เพอื่ ให้ได้เรียนรู้ ศกึ ษางานกจิ กรรมในพน้ื ทไ่ี ดม้ ากที่สุด - มีการวางแผนจะดาเนินการจัดพื้นท่ีเป็นศูนย์อพยพ หลบภัย กรณีหากเกิดภัยพิบัติ เราจะสามารถรองรับ คนได้เปน็ ร้อยเป็นพันคน เพอ่ื ชว่ ยเหลอื เพือ่ มนษุ ย์ด้วยกัน ปัจจัยเสรมิ 1. มีอะไรจากภายนอกครวั เรอื นทเ่ี ข้ามาเสริมความสาเร็จ การทางานที่ประสบความสาเร็จ จะไม่มีคาว่า “One Man Show” ไม่มีใครเก่งคนเดียว สิ่งที่ทาให้ประสบ ความสาเร็จได้น้ัน เกิดมาจากการทางานร่วมกันของทีมงาน คือ คนในชุมชน หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนต่างๆ เครือข่ายกสกิ รรมธรรมชาติ ไดเ้ ข้ามามสี ว่ นร่วมในการสง่ เสรมิ สนบั สนนุ ความสาเร็จของเรา 2. การมีส่วนรว่ ม ความรว่ มมอื จากชมุ ชนเปน็ อย่างไร คนในชมุ ชนใหค้ วามสาคัญ และมีส่วนร่วมในการรว่ มเรียนรูใ้ นกิจกรรมของศูนย์ฯ การทาวสั ดุอปุ กรณม์ าเสริม ในกิจกรรมการเรียนรู้ เช่นการสานตะกร้า เป็นตะกร้าปลูกผักซึ่งเป็นฐานการเรียนรู้ท่ีสาคัญของศูนย์ รวมถึงการเข้า มารว่ มทากจิ กรรมในสว่ นทภี่ าครัฐมาสนบั สนนุ การดาเนินกิจกรรมของศูนย์อย่างต่อเนื่อง โครงการตลาดนัดความรงู้ านพฒั นาชุมชน (KM Market) ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2564 : โดย ศพช.เพชรบุรี

ทมี งาน KM ศูนยศ์ กึ ษาและพัฒนาชุมชนเพชรบุรี ขอขอบคณุ ... “คุณอภิวรรษ สขุ พว่ ง” และ “นอ้ งๆนกั พฒั นาพื้นท่ีต้นแบบทกุ คน” เปน็ อยา่ งสูง ที่ได้ถ่ายทอดผลความสาเรจ็ และความตั้งใจทจ่ี ะทางานเพ่อื เปน็ ตน้ แบบใหแ้ ก่ชมุ ชน เพอื่ สร้างทางรอดใหแ้ กช่ ุมชน... และ “เพื่อนมนุษยท์ วั่ โลก” **...ศนู ย์ศึกษาและพฒั นาชมุ ชนเพชรบรุ ี...** โครงการตลาดนดั ความรูง้ านพฒั นาชุมชน (KM Market) ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2564 : โดย ศพช.เพชรบุรี

ศูนยศ์ ึกษาและพฒั นาชุมชนเพชรบรุ ี โครงการตลาดนดั ความร้งู านพัฒนาชุมชน (KM Maสrkถetา)บปันระกจาาปรีงบพปฒัระมนาณาชพมุ .ศช.2น564กร: มโดกยารศพพชัฒ.เพชนรบารุ ชี ุมชน โครงการตลาดนัดความรงู้ านพัฒนาชุมชน (KM Market) ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2564