1
ก ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ด้วยเทคนิค STAD แบบอิเล็กทรอนิกส์ เร่ือง เลขยกกาลัง กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สาหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1 นี้ ได้จัดทาขึ้นเพื่อใช้เป็นส่ือ นวตั กรรมการเรียนรู้ครั้งน้ี โดยยดึ ผู้เรียนเปน็ สาคัญ ให้นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมและกระบวนการ เรียนรู้ สามารถสร้างองคค์ วามร้ไู ดด้ ว้ ยตนเองท้ังเป็นรายบุคคลและรายกลุ่ม สร้างสถานการณ์การเรียนรู้ ท้ังในห้องเรียนและนอกห้องเรียน โดยใช้ควบคู่กับคู่มือการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ด้วย เทคนิค STAD แบบอิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง เลขยกกาลัง กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สาหรับ นักเรียนชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 เพอื่ เป็นแนวทางในการจัดการเรยี นรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ เร่ือง เลขยกกาลัง กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สาหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1 นี้ ได้จัดทาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ซึ่งครอบคลุมมาตรฐานการเรียนรู้และ ตัวชว้ี ัด ตลอดจนจุดประสงค์การเรียนรู้ ตามสาระการเรียนรู้ เร่ือง เลขยกกาลัง กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ สาหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1 ทาให้นักเรียนสามารถเชื่อมโยงความรู้ได้ในเชิงบูรณา การด้วยวิธีการท่ีหลากหลาย เน้นกระบวนการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ แก้ปัญหา และสรุปความรู้ด้วย ตนเอง ทาให้นักเรียนได้รับการพัฒนาทั้งด้านความรู้ ด้านทักษะ/กระบวนการ และด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ มและคุณลักษณะทพี่ ึงประสงคท์ ดี่ ี นาไปสู่การอยรู่ ่วมกนั ในสังคมอย่างสันติสุข ท้ังนี้ ผู้จัดทามุ่งหวงั เป็นอยา่ งย่ิงว่า คมู่ ือการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ด้วยเทคนิค STAD แบบอิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง เลขยกกาลัง กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สาหรับนักเรียนช้ัน มัธยมศึกษาปที ่ี 1 นี้ จะเปน็ ประโยชน์ตอ่ การจดั การเรียนรู้ของนักเรียน ครู และผู้สนใจได้เป็นอย่างดี ยง่ิ เพอ่ื การพฒั นาคุณภาพทางการเรียนร้สู าหรบั นกั เรยี นใหบ้ รรลเุ ปา้ หมายของหลักสูตรต่อไป สธุ นี เจะนะ
ข การสร้างคู่มือการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ด้วยเทคนิค STAD แบบ อเิ ลก็ ทรอนิกส์ เร่อื ง เลขยกกาลัง กล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ สาหรบั นกั เรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1 น้ี ได้จัดทาขึ้นเพอ่ื ใช้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้ โดยยดึ ผเู้ รียนเปน็ สาคัญให้นักเรียนมีส่วนร่วม ในกจิ กรรมและกระบวนการเรียนรู้ สามารถสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเองท้ังเป็นรายบุคคลและรายกลุ่ม สร้างสถานการณ์การเรียนรู้ทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน โดยการใช้สื่อนวัตกรรมการเรียนรู้ ประกอบควบคู่ครั้งน้ี คือ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ด้วยเทคนิค STAD แบบอิเล็กทรอนิกส์ เร่ือง เลขยกกาลงั กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ สาหรับนักเรยี นชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ด้วยเทคนิค STAD แบบอิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง เลขยกกาลัง กล่มุ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ สาหรบั นักเรียนชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 จานวน 7 ชุด ดงั นี้ ชดุ ที่ 1 ความหมายของเลขยกกาลงั ชดุ ท่ี 2 เลขยกกาลังทมี่ เี ลขชี้กาลังเป็นจานวนเตม็ บวก ชดุ ที่ 3 การคณู เลขยกกาลงั ท่ีมฐี านเดียวกัน และเลขช้กี าลังเปน็ จานวนเต็มบวก ชดุ ที่ 4 การหารเลขยกกาลงั ที่มฐี านเดียวกัน และเลขช้ีกาลังเป็นจานวนเตม็ บวก ชุดท่ี 5 การคูณและการหารเลขยกกาลัง เมื่อเลขช้ีกาลังเป็นจานวนเตม็ บวก ชดุ ที่ 6 การใช้เลขยกกาลงั แสดงจานวนในรปู สัญกรณว์ ทิ ยาศาสตร์ ชุดที่ 7 โจทย์ปัญหาเกย่ี วกบั เลขยกกาลงั สาหรับชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ด้วยเทคนิค STAD แบบอิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง เลข ยกกาลงั กลมุ่ สาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์ สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีลักษณะของสื่อการ เรียนรู้แบบอิเล็กทรอนกิ ส์ (E-Book) ควบคู่กบั รูปเล่ม สามารถเข้าใช้งานผ่านอินเตอร์เน็ตด้วยเข้าลิงค์ https://pubhtml5.com/bookcase/yxuz หรือการสแกน QR-Code ต่อไปนี้ QR-Code
ค แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง เลขยกกาลัง กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สาหรับนักเรียน ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 1 นี้ ได้จัดทาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ซึ่งครอบคลุมมาตรฐานการเรียนรู้และ ตัวช้ีวัด ตลอดจนจุดประสงค์การเรียนรู้ ตามสาระการเรียนรู้ เร่ือง เลขยกกาลัง กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ทาให้นักเรียนสามารถเช่ือมโยงความรู้ได้ในเชิง บูรณาการด้วยวิธีการท่ีหลากหลาย เน้นกระบวนการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ แก้ปัญหา และสรุป ความรู้ด้วยตนเอง ทาให้นักเรียนได้รับการพัฒนาทั้งด้านความรู้ ด้านทักษะ/กระบวนการ และด้าน คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยมและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ที่ดี นาไปสู่การอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสันติสุข แผนการจัดการเรียนรู้ จานวน 16 แผน แผนละ 1 ช่ัวโมง รวมใช้เวลา 16 ช่ัวโมง รวมเวลาในการทดสอบ วดั ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นก่อนเรียนและหลังเรียน ดงั น้ี กาหนดแผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี เวลาเรียน/ช่ัวโมง แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1 การทดสอบวดั ผลสัมฤทธิท์ างการเรียนก่อนเรียน 1 แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 2 ความหมายของเลขยกกาลงั 1 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 3 ความหมายของเลขยกกาลงั (ต่อ) 1 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 4 เลขยกกาลังที่มีเลขชี้กาลังเปน็ จานวนเตม็ บวก 1 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 5 เลขยกกาลงั ทมี่ ีเลขช้ีกาลังเป็นจานวนเต็มบวก (ต่อ) 1 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 6 การคูณเลขยกกาลงั ทมี่ ฐี านเดยี วกนั และเลขชี้กาลัง เป็นจานวนเต็มบวก 1 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 การคณู เลขยกกาลงั ท่มี ฐี านเดยี วกนั และเลขช้กี าลงั เป็นจานวนเตม็ บวก (ต่อ) 1 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 8 การหารเลขยกกาลงั ทม่ี ฐี านเดียวกันและเลขช้ีกาลงั เปน็ จานวนเตม็ บวก 1 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 9 การหารเลขยกกาลงั ทีม่ ฐี านเดียวกันและเลขชก้ี าลงั เปน็ จานวนเต็มบวก (ต่อ) 1 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 10 การคูณและการหารเลขยกกาลัง เมือ่ เลขชีก้ าลงั เป็นจานวนเต็มบวก 1 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 11 การคูณและการหารเลขยกกาลัง เมอ่ื เลขชีก้ าลังเปน็ จานวนเตม็ บวก (ต่อ) 1 แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 12 การใชเ้ ลขยกกาลังแสดงจานวน ในรูปสญั กรณว์ ทิ ยาศาสตร์ 1 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 13 การใชเ้ ลขยกกาลงั แสดงจานวน ในรูปสญั กรณว์ ิทยาศาสตร์ (ต่อ) 1 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 14 โจทยป์ ญั หาเกีย่ วกบั เลขยกกาลัง 1 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 15 โจทยป์ ัญหาเก่ียวกับเลขยกกาลงั (ต่อ) 1 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 16 การทดสอบวัดผลสัมฤทธิท์ างการเรยี นหลงั เรียน 1
ง สาหรับแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง เลขยกกาลัง กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สาหรับนักเรียนช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 สามารถสรุปเปน็ ขน้ั ตอน 3 ข้ันตอนหลกั ดงั นี้ 1. นำเข้ำสบู่ ทเรยี น 2. เรียนรแู้ ละฝึกทักษะ (เทคนคิ STAD) ข้ันที่ 1 นาเสนอเน้ือหา โดยการทบทวนพื้นฐานความรู้เดิม จากนั้นครูสอนเนื้อหาใหม่ กับนกั เรยี นกลุ่มใหญท่ ง้ั ชั้น ขั้นที่ 2 ปฏิบัติกิจกรรมกลุ่ม โดยนักเรียนในกลุ่ม 4-5 คน ร่วมกันศึกษากลุ่มย่อยนักเรียน เกง่ จะอธบิ ายให้นักเรยี นอ่อนฟังและช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการทากิจกรรม ขั้นที่ 3 ฝึกทักษะหรือทดสอบย่อย นักเรียนแต่ละคนจะทาแบบทดสอบด้วยตนเอง ไมม่ ีการชว่ ยเหลือกนั ข้ันที่ 4 คิดคะแนนความก้าวหน้าแต่ละคน และของกลุ่มย่อย ครูตรวจผลการสอบของ นักเรยี น โดยคะแนนทีน่ กั เรยี นทาได้ในการทดสอบจะถือเป็นคะแนนรายบุคคล แล้วนาคะแนนรายบุคคลไปแปลงเป็นคะแนนกลุม่ ข้ันที่ 5 ชมเชย ยกย่อง บุคคลหรือกลุ่มท่ีมีคะแนนยอดเยี่ยม นักเรียนคนใดทาคะแนน ได้ดีกว่าคร้ังก่อน จะได้รับคาชมเชยเป็นรายบุคคล และกลุ่มใดทาคะแนนได้ ดีกวา่ ครั้งก่อนจะได้รับคาชมเชยทั้งกล่มุ 3. กำรสรุปและประเมินผล
จ ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ด้วยเทคนิค STAD แบบอิเล็กทรอนิกส์ เร่ือง เลขยกกาลัง กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สาหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1 น้ี ได้จัดทาข้ึนเพื่อใช้เป็นส่ือ นวตั กรรมการเรียนรู้ครงั้ นี้ โดยยดึ ผ้เู รียนเป็นสาคัญ ให้นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมและกระบวนการ เรยี นรู้ สามารถสรา้ งองคค์ วามรู้ได้ดว้ ยตนเองท้ังเป็นรายบุคคลและรายกลุ่ม สร้างสถานการณ์การเรียนรู้ ท้งั ในหอ้ งเรียนและนอกหอ้ งเรยี น มีคาแนะนาสาหรับครแู ละนกั เรยี น ดงั น้ี คำแนะนำสำหรับครู 1. ศึกษาและทาความเข้าใจคู่มือการใช้และชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ด้วยเทคนิค STAD แบบอิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง เลขยกกาลัง กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สาหรับนักเรียนช้ัน มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 ใหเ้ ขา้ ใจก่อนนาไปใช้งาน 2. จัดเตรียมชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ด้วยเทคนิค STAD แบบอิเล็กทรอนิกส์ เร่ือง เลขยกกาลงั กลมุ่ สาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์ สาหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีลักษณะของสื่อ การเรียนรู้แบบอิเลก็ ทรอนกิ ส์ (E-Book) ควบคู่กับรูปเล่ม สามารถเข้าใช้งานผ่านอินเตอร์เน็ตด้วยเข้า ลิงค์ https://pubhtml5.com/bookcase/yxuz หรือการสแกน QR-Code สาหรับแจกใหน้ กั เรยี น 3. แนะนาการใช้งานชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ด้วยเทคนิค STAD แบบอิเล็กทรอนิกส์ เร่อื ง เลขยกกาลัง กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ สาหรับนกั เรยี นชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 4. ให้นักเรียนลงมือทาแบบทดสอบก่อนเรียนประจาชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ด้วย เทคนิค STAD แบบอิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง เลขยกกาลัง กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สาหรับ นกั เรียนชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 1 5. ให้นกั เรยี นแบ่งกลุม่ เปน็ กลุ่มละ 5-6 คน เพ่อื ร่วมกนั ศึกษากลุม่ ยอ่ ย นักเรยี นเก่งจะอธิบาย ใหน้ กั เรียนออ่ นฟังและชว่ ยเหลอื ซึ่งกันและกนั ในการทากิจกรรม 6. ใหแ้ ต่ละกลมุ่ ศึกษาใบความรู้ด้วยตนเอง ตามกระบวนการเรียนรู้ (ดว้ ยเทคนิค STAD) 7. ให้นกั เรยี นทบทวนความรู้ ความเข้าใจ ด้วยการทากจิ กรรมฝกึ ทักษะให้ครบถ้วน 8. ให้นักเรียนลงมือทาแบบทดสอบหลังเรียนประจาชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ด้วย เทคนิค STAD แบบอิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง เลขยกกาลัง กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สาหรับ นกั เรียนชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 9. ครนู านกั เรียนตรวจคาตอบและเฉลยคาตอบ เพอ่ื บนั ทึกคะแนนท้ายชุดกิจกรรมการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ด้วยเทคนิค STAD แบบอิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง เลขยกกาลัง กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ สาหรับนักเรยี นชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 1 10. ระหว่างดาเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ครูเป็นเพียงผู้คอยแนะนาช่วยเหลือนักเรียน และอธิบายเพม่ิ เติมบางประเด็นที่นักเรยี นเกิดข้อสงสัย หรือไม่เขา้ ใจ หมำยเหตุ : สังเกตพฤตกิ รรมนกั เรียนระหว่างทากจิ กรรม
ฉ คำแนะนำสำหรับนกั เรียน 1. เข้าใช้งานชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ด้วยเทคนิค STAD แบบอิเล็กทรอนิกส์ เร่ือง เลขยกกาลัง กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ผ่าน อินเตอร์เนต็ ดว้ ยเข้าลิงค์ https://pubhtml5.com/bookcase/yxuz หรอื การสแกน QR-Code 2. ศึกษาและทาความเข้าใจการใช้งานชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ด้วยเทคนิค STAD แบบอิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง เลขยกกาลัง กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สาหรับนักเรียนชั้น มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 ให้เข้าใจก่อนนาไปใช้งาน 3. นักเรยี นลงมือทาแบบทดสอบกอ่ นเรียนประจาชุดกจิ กรรมการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ด้วยเทคนิค STAD แบบอิเล็กทรอนิกส์ เร่ือง เลขยกกาลัง กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สาหรับนักเรียนช้ัน มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 4. นกั เรยี นแบง่ กลุ่มเปน็ กล่มุ ละ 5-6 คน เพ่ือรว่ มกันศึกษากลมุ่ ย่อย นักเรยี นเก่งจะอธิบายให้ นกั เรียนออ่ นฟังและช่วยเหลอื ซ่ึงกันและกนั ในการทากิจกรรม 5. นักเรยี นแต่ละกลุม่ ศึกษาใบความรู้ดว้ ยตนเอง ตามกระบวนการเรยี นรู้ (ดว้ ยเทคนิค STAD) 6. นักเรียนทบทวนความรู้ ความเขา้ ใจ ดว้ ยการทากจิ กรรมฝึกทกั ษะใหค้ รบถ้วน 7. ให้นักเรียนลงมือทาแบบทดสอบหลังเรียนประจาชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ด้วย เทคนิค STAD แบบอิเล็กทรอนิกส์ เร่ือง เลขยกกาลัง กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สาหรับ นักเรยี นชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 8. นักเรียนตรวจคาตอบและเฉลยคาตอบ เพื่อบันทึกคะแนนท้ายชุดกิจกรรมการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ด้วยเทคนิค STAD แบบอิเล็กทรอนิกส์ เร่ือง เลขยกกาลัง กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ สาหรับนกั เรียนชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 หมำยเหตุ : นกั เรยี นต้องตง้ั ใจทากิจกรรมการเรียนรู้ ซ่ือสัตย์ ตรงต่อเวลา และใหค้ วามร่วมมือ
ช มำตรฐำนกำรเรียนรแู้ ละตวั ช้ีวัด มำตรฐำน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการ ของจานวน ผลที่เกดิ ขึน้ จากการดาเนนิ การ สมบัติของการดาเนินการ และนาไปใช้ ตวั ชี้วัด ม.1/2 เข้าใจและใช้สมบตั ขิ องเลขยกกาลังที่มเี ลขชีก้ าลังเป็นจานวนเต็มบวกในการ แก้ปัญหาคณิตศาสตรแ์ ละปัญหาในชีวติ จริง สำระสำคญั การใช้เลขยกกาลังแสดงจานวนในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ เป็นการเขียนจานวนท่ีมีขนาด ใหญ่มาก ๆ หรือจานวนท่ีมีขนาดเล็ก มาก ๆ ให้อยู่ในรูปเลขยกกาลัง โดยเราจะเรียกเลขยกกาลัง ดังกล่าวว่า สัญกรณ์วิทยาศาสตร์ sciencetific notation บางทีเรียกว่า เลขสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ หรือสัญกรณ์แบบมาตรฐาน จานวนท่ีจะเรียกว่าเป็น สัญกรณ์วิทยาศาสตร์ sciencetific notation เมอ่ื เราเขยี นให้อยใู่ นรูป M × 10n เมอ่ื 1 ≤ M ‹ 10 เมื่อ M มีค่าอยู่ระหว่าง เท่ากับ 1 หรือ มากกว่า และ มีค่าน้อยกว่าสิบ โดยที่ n เป็นจานวน เต็ม เชน่ ความเรว็ แสง มคี วามเรว็ เท่ากบั 29,980,000,000 เซนติเมตร/วินาที เราสามารถเขียนให้อยู่ ในรปู สัญกรณ์วทิ ยาศาสตร์ sciencetific notation ไดเ้ ทา่ กับ 2.998 × 1010 เซนติเมตร/วินาที สำระกำรเรยี นรู้ การใช้เลขยกกาลงั แสดงจานวนในรปู สญั กรณ์วิทยาศาสตร์ จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ 1. อธิบายหลักการใช้เลขยกกาลงั แสดงจานวนในรูปสญั กรณ์วิทยาศาสตร์ไดถ้ ูกต้อง (K) 2. แสดงวธิ แี ละหาคาตอบของเลขยกกาลงั ได้ถูกต้อง (P) 3. สามารถใชท้ ักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ได้อย่างถูกต้อง (P) 4. ตง้ั ใจเรยี นรู้ดว้ ยความสนุกสนาน ชนื่ ชอบ มมี ารยาทในการอ่านและเขียน และมคี ุณลักษณะ อันพึงประสงค์ทางการเรียน (A) 5. สามารถในการแก้ปัญหา ใหเ้ หตุผล ส่ือสารความหมาย เชือ่ มโยงความรู้ และมคี วามคิด ริเริ่มสรา้ งสรรค์ (C) คณุ ลกั ษณะองั พึงประสงค์ 1. ความใฝร่ ูใ้ ฝ่เรยี น 2. ความซื่อสตั ย์
ซ 3. ความรับผิดชอบ 4. ความตรงตอ่ เวลา 5. ความมีระเบยี บวินยั 6. ความกลา้ แสดงออก 7. ความเอาใจใส่และให้ความร่วมมือ 8. เหน็ คณุ คา่ ของงานและการทางานเปน็ กลุ่ม ช้ินงำนหรอื ภำระงำน ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ด้วยเทคนิค STAD แบบอิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง เลขยกกาลัง กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สาหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1 ชุดท่ี 6 การใช้เลขยกกาลัง แสดงจานวนในรูปสญั กรณว์ ทิ ยาศาสตร์ 1. แบบทดสอบกอ่ นเรียน 2. กจิ กรรมการเรยี นรรู้ ะหวา่ งเรยี น 3. แบบทดสอบหลังเรยี น วิธีกำรวดั และประเมินผล เคร่อื งมือทใ่ี ชใ้ นกำรประเมนิ ประเด็นกำรประเมิน วธิ ีกำร/เครือ่ งมือ ผลงำน/ชิ้นงำน เกณฑก์ ำรผำ่ น ร้อยละ 80 ความรู้ และทักษะ/กระบวนการ - ทดสอบก่อนเรยี น - แบบทดสอบก่อนเรียน การใช้เลขยกกาลังแสดงจานวน รอ้ ยละ 80 ในรปู สัญกรณว์ ทิ ยาศาสตร์ - กิจกรรมระหว่างเรียน - กจิ กรรมท่ี 1-6 รอ้ ยละ 80 คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น - ทดสอบหลงั เรียน - แบบทดสอบหลังเรยี น สังเกต/ประเมิน แบบประเมิน สงั เกต/ประเมิน แบบประเมนิ
ฌ คานา หน้ำ คาชี้แจง ก คาแนะนา ข ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ด้วยเทคนคิ STAD แบบอิเล็กทรอนิกส์ จ เรื่อง เลขยกกาลัง กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์สาหรบั นกั เรยี นชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 1 ช ชุดท่ี 6 การใช้เลขยกกาลังแสดงจานวนในรูปสัญกรณว์ ทิ ยาศาสตร์ ฌ สารบัญ 1 แบบทดสอบกอ่ นเรียน 3 กระดาษคาตอบแบบทดสอบก่อนเรยี น 4 ใบความรู้ เร่อื ง การใชเ้ ลขยกกาลังแสดงจานวนในรูปสญั กรณ์วทิ ยาศาสตร์ 6 กิจกรรมท่ี 1 7 กจิ กรรมท่ี 2 8 กจิ กรรมท่ี 3 9 กิจกรรมท่ี 4 10 กจิ กรรมท่ี 5 11 กจิ กรรมท่ี 6 12 แบบทดสอบหลังเรยี น 14 กระดาษคาตอบแบบทดสอบหลังเรยี น 15 ภาคผนวก 16 เฉลยกจิ กรรมที่ 1 17 เฉลยกจิ กรรมท่ี 2 18 เฉลยกจิ กรรมท่ี 3 19 เฉลยกจิ กรรมท่ี 4 20 เฉลยกจิ กรรมท่ี 5 21 เฉลยกจิ กรรมท่ี 6 22 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรยี น 23 แบบบนั ทึกคะแนนกิจกรรมระหวา่ งเรยี น 24 บรรณานกุ รม 25 ประวัตยิ อ่ ผจู้ ัดทา
1 คำชแ้ี จง ใหน้ กั เรยี นทำเครือ่ งหมำย () ลงในกระดำษคำตอบใหถ้ ูกต้อง 1. 5,300 เขยี นในรปู สญั กรณ์วทิ ยาศาสตรไ์ ดด้ ังข้อใด ก. 5.3 × 102 ข. 5.3 × 103 ค. 5.3 × 10-2 ง. 5.3 × 10-3 2. 89,200 เขยี นในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตรไ์ ด้ดังข้อใด ก. 8.92 × 10-2 ข. 8.92 × 102 ค. 8.92 × 103 ง. 8.92 × 104 3. 257.069 เขียนในรปู สัญกรณว์ ิทยาศาสตรไ์ ดด้ งั ข้อใด ก. 2.57069 × 102 ข. 2.57069 × 103 ค. 2.57069 × 104 ง. 2.57069 × 105 4. 342 × 105 เขียนในรูปสัญกรณว์ ทิ ยาศาสตร์ไดด้ งั ขอ้ ใด ก. 3.42 × 102 ข. 3.42 × 103 ค. 3.42 × 107 ง. 3.42 × 108 5. 235 × 106 เขียนในรปู สัญกรณ์วิทยาศาสตร์ได้ดงั ขอ้ ใด ก. 2.35 × 109 ข. 2.35 × 108 ค. 2.35 × 105 ง. 2.35 × 104
2 6. 124.41 × 108 เขียนในรปู สญั กรณ์วทิ ยาศาสตร์ได้ดงั ขอ้ ใด ก. 1.2441 × 105 ข. 1.2441 × 106 ค. 1.2441 × 1010 ง. 1.2441 × 1011 7. 1.5 × 105 มคี ่าเท่ากับจานวนในขอ้ ใด ก. 1,500,000 ข. 150,000 ค. 15,000 ง. 1,500 8. 2.78 × 104 มคี า่ เท่ากับจานวนในข้อใด ก. 2,780 ข. 27,800 ค. 278,000 ง. 2,780,000 9. 7.9 × 103 มคี ่าเทา่ กับจานวนในขอ้ ใด ก. 790,000 ข. 79,000 ค. 7,900 ง. 790 10. 1.375 × 107 มีค่าเท่ากับจานวนในขอ้ ใด ก. 13,750,000,000 ข. 1,375,000,000 ค. 137,500,000 ง. 13,750,000
3 คำชีแ้ จง ให้นักเรยี นทำเครอื่ งหมำย () ลงในกระดำษคำตอบให้ถูกต้อง ขอ้ ก ข ค ง 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. รวมคะแนน สรปุ คะแนน สรุปผลกำรเรยี น คะแนนเต็ม คะแนนท่ไี ด้ ผา่ น ไมผ่ า่ น 10
4 สัญกรวิทยำศำสตร์ วทิ ยาการทางวิทยาศาสตรห์ รือดาราศาสตร์ จะพบการใชเ้ ลขยกกาลังแสดงการแทนจานวนท่ีมี ค่ามากๆ หรอื มีค่าน้อยๆ เช่น โลกอยู่ห่างจากดวงอาทติ ยป์ ระมาณ 1,496 108 กโิ ลเมตร และมมี วล ประมาณ 6 1024 กโิ ลกรัม 1 ปีแสง คดิ เป็นระยะทางประมาณ 9.4608 1012 กิโลเมตร เปน็ ต้น จะพบวา่ 1.496 108 6 1024 และ 9.46081012 เปน็ ตน้ ใช้สญั ญาลกั ษณ์แทนจานวนอีกรูปแบบหนึ่ง โดยเขยี นอยูใ่ นการ คณู ของเลขยกกาลังที่มฐี านเป็นสบิ และเลขชกี้ าลงั เปน็ จานวนเตม็ อยูใ่ นรปู ท่วั ไป ดังน้ี A10n เมื่อ 1≤A <10 และ n เป็นจานวนเตม็ เรยี กว่า การเขยี นจานวนในรูปสัญกรณ์ วิทยาศาสตร์ (scientific notation) กำรเขียนจำนวนที่มีคำ่ มำกๆ ให้อยูใ่ นรูปสัญกรณว์ ิทยำศำสตร์ กรณีทีต่ ้องเจยี นแสดงจานวนทม่ี คี ่ามากๆ เพื่อสะดวกและรวดเร็วในการอา่ น และเขยี นโดย เขียนจานวนนน้ั ๆ ในรปู A10n เมอ่ื ≤A <10 และ n เปน็ จานวนเตม็ ตวั อยำ่ ง ให้นกั เรียนเขียนจานวนต่อไปนใี้ หอ้ ยใู่ นรูปสัญกรณว์ ิทยาศาสตร์ (1) 30,000,000 (2)154,000 (3) 39,000,000 (4) 2,130,000 วิธที ำ (1) 30,000,000 = 310,000,000 = 3 107 (2) 154,000 = 1541,000 = 1.54102103 = 1.54105 (3) 39,000,000 = 391,000,000 = 3.910106 = 3.9107 (4) 2,130,000 = 21310,000 = 2.13102 = 2.13106 ข้อสงั เกต : 1. A แทนจานวนทเี่ ขียนในรปู ทศนิยม ซึง่ มีจานวนเต็มเปน็ เลขทา้ ยหลักเดยี ว นอกนนั้ อยู่หลงั จุด ทศนยิ ม 2. ถา้ จานวนที่กาหนดเป็นจานวนทมี่ ี m เป็นหลักแล้ว n = m-1 หลกั ตัวอยำ่ ง ประมาณกันว่า ในปี ค.ศ. 2060 โลกจะมปี ระชากรมากกว่า 10,000,000 คน ถ้าพ้นื โลกส่วนที่อยอู่ าศยั ไดม้ ีพืน้ ทป่ี ระมาณ 15107 ตารางกิโลเมตร จงหาความหนาแนน่ ของประชากรโลก โดยเฉลย่ี ตอ่ พ้ืนที่ 1 ตารางกิโลเมตร
5 วิธีทำ ในปี ค.ศ. 2060 โลกจะมีประชากรมากกวา่ 10,000,000 = 1010 คน ถา้ พ้ืนโลกสว่ นทอ่ี ยู่อาศัยได้มีพ้นื ที่ประมาณ 15107 ตารางกิโลเมตร ดงั น้ัน ความหนาแน่นของประชากรโลกโดยเฉลีย่ ตอ่ พื้นท่ี 1 ตารางกิโลเมตร 1×1010 ประมาณ คน = 105.0×61707 1010-7 = 6.710-2103 คน คน = 6.710 = 67 คน กำรเขยี นจำนวนที่มีค่ำนอ้ ยๆ ใหอ้ ยูใ่ นรูปสัญกรณว์ ิทยำศำสตร์ กรณีทต่ี ้องเขียนแสดงจานวนทีม่ คี า่ น้อยๆ เพื่อสะดวกและรวดเรว็ ในการอ่าน และเขียนโดย เขยี นจานวนน้ัน ๆ ในรูป A10n เมอ่ื 1≤ A < 10 และ n เป็นจานวนเต็ม ตัวอยำ่ ง ให้นักเรยี นเขียนจานวนต่อไปนใ้ี หอ้ ยใู่ นรปู สัญกรณว์ ทิ ยาศาสตร์ (1) 0.00097 (2) 0.00000213 (3) 0.000005 (4) 0.00000084 วิธีทำ 0.00097 = 9.710,1000 = 9.71104 = 9.710-4 (2) 0.00000213 = 2.131,0010,000 = 2.131106 = 2.1310-6 (3) 0.000005 = 51,0010,000 = 85.411016107 = 510-6 (4) 0.00000084 = 8.410,0010,000 = = 8.410-7 ตัวอย่ำง ถา้ มวลของออกซิเจน 1 โมเลกลุ หนกั 7.610-17 กรัม จงหามวลของออกซเิ จนจานวน 1.21027 วธิ ีทำ มวลของออกซเิ จน = 7.610-171.21027 ตอบ = (7.61.2) 10-17+27 9.121010 กรัม ข้อสังเกต : 1. เล่อื ยจดุ ไปทางขวามือไวห้ ลงั ตวั เลขทไ่ี ม่ใช่ 0 เพยี งตวั เดียว (วธิ คี ิดลดั ) 2. ถ้าเลือ่ นจดุ ไปทางขวา m หลกั เลขชก้ี าลงั จะเปน็ -m
6 คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเขยี นจำนวนต่อไปนใ้ี นรูปสัญกรณว์ ิทยำศำสตร์ ตวั อย่ำง 41,000,000 = 41107 1. 2,070,000 = ………………………………………………………………………………………….. 2. 52,000 = ………………………………………………………………………………………….. 3. 183,000,000 = ………………………………………………………………………………………….. 4. 345,000 = ………………………………………………………………………………………….. 5. 213,400,000 = ………………………………………………………………………………………….. 6. 9,624,000,000 = ………………………………………………………………………………………….. 7. 7,800,000 = ………………………………………………………………………………………….. 8. 430,000,000 = ………………………………………………………………………………………….. 9. 18,000,000 = ………………………………………………………………………………………….. 10. 0.00031 = ………………………………………………………………………………………….. สรุปคะแนน สรุปผลกำรเรียน คะแนนเต็ม คะแนนทีไ่ ด้ ผ่าน ไมผ่ า่ น 10
7 คำชี้แจง สัญกรณ์วิทยำศำสตรใ์ นแตล่ ะขอ้ ต่อไปนี้แทนจำนวนใด ตวั อยำ่ ง 3.1105 = 310,000 1. 1.47105 = ………………………………………………………………………………………….. 2. 2102 = ………………………………………………………………………………………….. 3. 1.01106 = ………………………………………………………………………………………….. 4. 1.5104 = ………………………………………………………………………………………….. 5. 7.31103 = ………………………………………………………………………………………….. 6. 2.005105 = ………………………………………………………………………………………….. 7. 2.07104 = ………………………………………………………………………………………….. 8. 4.3108 = ………………………………………………………………………………………….. 9. 5.2107 = ………………………………………………………………………………………….. 10. 9.510-6 = ………………………………………………………………………………………….. สรปุ คะแนน สรปุ ผลกำรเรียน คะแนนเต็ม คะแนนทไี่ ด้ ผ่าน ไมผ่ ่าน 10
8 คำชี้แจง ใหน้ ักเรยี นเขียนจำนวนตอ่ ไปน้ใี นรูปสัญกรณ์วิทยำศำสตร์ (แสดงวธิ ที ำ) ตัวอย่ำง 0.000065 = 6.5× 1 = 6.5× 1 = 6.5×10-5 100,000 10-5 1. 0.00004 = ……………………………………………………………………………………………. 2. 0.0491 = ……………………………………………………………………………………………. 3. 0.00145 = ……………………………………………………………………………………………. 4. 0.000009 = ……………………………………………………………………………………………. 5. 0.000074 = ……………………………………………………………………………………………. 6. 0.0003104 = ……………………………………………………………………………………………. 7. 0.000000206 = ……………………………………………………………………………………………. 8. 0.000000014 = ……………………………………………………………………………………………. 9. 0.000005 = ……………………………………………………………………………………………. 10. 0.00195 = ……………………………………………………………………………………………. สรุปคะแนน สรุปผลกำรเรียน คะแนนเต็ม คะแนนที่ได้ ผ่าน ไม่ผา่ น 10
9 คำช้แี จง ใหน้ กั เรียนหำคำ่ ของจำนวนท่กี ำหนดให้ต่อไปนี้ ตัวอยำ่ ง 0.095×106 = 9.5×104 1. 0.04107 = ……………………………………………………………………………………………. 2. 11.5104 = ……………………………………………………………………………………………. 3. 563.07105 = ……………………………………………………………………………………………. 4. 0.04059108 = ……………………………………………………………………………………………. 5. 730,000102 = ……………………………………………………………………………………………. 6. 0.0056031010 = ……………………………………………………………………………………………. 7. 0.003241011 = ……………………………………………………………………………………………. 8. 0.05681109 = ……………………………………………………………………………………………. 9. 0.8496108 = ……………………………………………………………………………………………. 10. 0.05108 = ……………………………………………………………………………………………. สรปุ คะแนน สรปุ ผลกำรเรียน คะแนนเต็ม คะแนนทไ่ี ด้ ผา่ น ไม่ผา่ น 10
10 คำชแ้ี จง ให้นกั เรียนเขียนจำนวนตอ่ ไปนีใ้ ห้อยู่ในรปู สัญกรณ์วิทยำศำสตร์ ตวั อย่ำง 212,000,000 = 1. 126.530,000 = ……………………………………………………………………………………………. 2. 5141023 = ……………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………. 3. 120,00070,000 = ……………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………. 4. 302.591017 = ……………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………. 5. 0.0000679 = ……………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………. 6. 0.4071018 = ……………………………………………………………………………………………. 7. 0.001910-5 = 8. 33110-3 = 9. 0.0017110-1 = 10. 50210-8 = สรปุ คะแนน สรุปผลกำรเรยี น คะแนนเต็ม คะแนนท่ีได้ ผ่าน ไม่ผ่าน 10
11 คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นเลอื กตัวอักษรหน้ำคำตอบทีก่ ำหนดใหท้ ำงขวำมือ มำใส่ลงหนำ้ ข้อคำถำม ใหถ้ ูกต้อง คำถำม คำตอบ ก. 3.25107 ตวั อยำ่ ง ข. 1,157 .........ก......... 32,500,000 ก. 9 10 ................... 1. (3a5)(-a7)(-2a6) มีคา่ เทา่ ไร ข. 504,000,000 ................... 2. (5108)(7109) มคี า่ เทา่ ไร ค. 1021 ................... 3. (32)(5)3-(-2)5 มีค่าเท่าไร ง. 6a18 ................... 4. [22+33-442]2 มีค่าเท่าไร จ. 25 ................... 5. [-{3×9(+2()-52)}+23]2 มคี ่าเท่าไร ฉ. 504108 ................... 6. โลกมพี นื้ ท่ีผิวประมาณ 5.04108 ช. 3.51018 ซ. 8.496104 ตารางกโิ ลเมตร เท่ากับข้อใด ฌ. 225 (8,000,000)2×(0.000003) ญ. 2110 ................... 7. (600,000)×(0.0002)4 ฎ. 21017 ฏ. (3+2)6 ................... 8. น.ส.อรอนงค์มเี งิน 8.1 107 บาท ฐ. 8.496107 ณ. 1,157 พบว่าพ่ีชายมเี งิน 90,000,000 บาท ปรากฏวา่ น.ส. ด. 1 อนอนงคม์ ีเงนิ เป็นก่ีเปอรเ์ ซน็ ของเงินท่ีพ่ีชายมีอยู่ ทั้งหมด ................... 9. โลกอย่หู า่ งจากดาวอังคารมากท่สี ดุ เป็นระยะทางประมาณ 84,960,000 กิโลเมตร เขียน ในรูปสญั กรณว์ ทิ ยาศาสตร์ เท่ากบั ข้อใด ................... 10. ในจกั รวาลมกี าแล็กซปี ระมาณ 1010 กาแล็กซี และในแต่ละกาแล็กซมี ีดวงอาทติ ย์หรือดาว ฤกษ์อยปู่ ระมาณ 1011 ดวง ดงั นน้ั จานวนดวงอาทิตย์ หรอื ดาวฤกษ์ในจักรวาลมีโดยประมาณเท่าไร สรปุ คะแนน สรปุ ผลกำรเรียน คะแนนเต็ม คะแนนที่ได้ ผา่ น ไมผ่ ่าน 10
12 คำช้แี จง ให้นกั เรียนทำเคร่ืองหมำย () ลงในกระดำษคำตอบใหถ้ ูกต้อง 1. 5,300 เขียนในรปู สญั กรณ์วทิ ยาศาสตรไ์ ด้ดังข้อใด ก. 5.3 × 103 ข. 5.3 × 102 ค. 5.3 × 10-2 ง. 5.3 × 10-3 2. 89,200 เขยี นในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตรไ์ ดด้ งั ข้อใด ก. 8.92 × 104 ข. 8.92 × 10-2 ค. 8.92 × 102 ง. 8.92 × 103 3. 257.069 เขียนในรูปสัญกรณว์ ิทยาศาสตรไ์ ด้ดังข้อใด ก. 2.57069 × 103 ข. 2.57069 × 102 ค. 2.57069 × 104 ง. 2.57069 × 105 4. 342 × 105 เขียนในรปู สญั กรณว์ ทิ ยาศาสตร์ไดด้ ังขอ้ ใด ก. 3.42 × 102 ข. 3.42 × 103 ค. 3.42 × 108 ง. 3.42 × 107 5. 235 × 106 เขียนในรูปสญั กรณว์ ทิ ยาศาสตร์ไดด้ งั ขอ้ ใด ก. 2.35 × 109 ข. 2.35 × 105 ค. 2.35 × 108 ง. 2.35 × 104
13 6. 124.41 × 108 เขยี นในรปู สัญกรณ์วิทยาศาสตรไ์ ด้ดงั ขอ้ ใด ก. 1.2441 × 1010 ข. 1.2441 × 105 ค. 1.2441 × 106 ง. 1.2441 × 1011 7. 1.5 × 105 มีค่าเท่ากับจานวนในข้อใด ก. 1,500,000 ข. 15,000 ค. 150,000 ง. 1,500 8. 2.78 × 104 มีค่าเท่ากับจานวนในข้อใด ก. 2,780 ข. 278,000 ค. 27,800 ง. 2,780,000 9. 7.9 × 103 มีค่าเทา่ กับจานวนในขอ้ ใด ก. 790,000 ข. 7,900 ค. 79,000 ง. 790 10. 1.375 × 107 มีค่าเทา่ กบั จานวนในขอ้ ใด ก. 13,750,000,000 ข. 13,750,000 ค. 1,375,000,000 ง. 137,500,000
14 คำชแ้ี จง ให้นักเรียนทำเครื่องหมำย () ลงในกระดำษคำตอบใหถ้ ูกต้อง ขอ้ ก ข ค ง 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. รวมคะแนน สรุปคะแนน สรปุ ผลกำรเรียน คะแนนเต็ม คะแนนท่ไี ด้ ผ่าน ไม่ผา่ น 10
15
16 คำช้ีแจง ใหน้ ักเรยี นเขยี นจำนวนต่อไปนใ้ี นรูปสญั กรณว์ ิทยำศำสตร์ 1. 2,070,000 = 2.07106 2. 52,000 = 5.2104 3. 183,000,000 = 1.83108 4. 345,000 = 3.45105 5. 213,400,000 = 2.134108 6. 9,624,000,000 = 9.624109 7. 7,800,000 = 7.8106 8. 430,000,000 = 4.3108 9. 18,000,000 = 1.81010 10. 0.00031 = 3.110-4
17 คำชีแ้ จง สญั กรณว์ ิทยำศำสตรใ์ นแตล่ ะข้อตอ่ ไปน้แี ทนจำนวนใด 1. 1.47105 = 147,000 2. 2102 = 200 3. 1.01106 = 1,010,000 4. 1.5104 = 15,000 5. 7.31103 = 7,310 6. 2.005105 = 200,500 7. 2.07104 = 20,700 8. 4.3108 = 430,000,000 9. 5.2107 = 52,000,000 10. 9.510-6 = 0.0000095
18 คำชี้แจง ให้นักเรียนเขยี นจำนวนต่อไปนใี้ นรูปสัญกรณว์ ิทยำศำสตร์ (แสดงวิธีทำ) 1. 0.00004 = 4× 1 =4× 1 =4×10-5 2. 0.0491 100,000 10-5 3. 0.00145 4. 0.000009 = 4.91× 1 =4.91× 1 =4.91×10-2 5. 0.000074 100 10-2 6. 0.0003104 7. 0.000000206 = 1.45× 1 =1.45× 1 =1.45×10-4 8. 0.000000014 10,000 10-4 9. 0.000005 10. 0.00195 = 9× 1 =9× 1 =9×10-6 1,000,000 10-6 = 7.4× 1 =7.4× 1 =7.4×10-5 100,000 10-5 = 3.104× 1 =3.104× 1 =3.104×10-4 10,000 10-4 = 2.06× 1 =2.06× 1 =2.06×10-7 10,000,000 10-7 = 1.4× 1 =1.4× 1 =1.4×10-8 100,000,000 10-8 = 5× 1 =5× 1 =5×10-5 100,000 10-5 = 1.95× 1 =1.95× 1 =1.95×10-4 10,000 10-4
19 คำช้แี จง ใหน้ กั เรียนหำคำ่ ของจำนวนทีก่ ำหนดใหต้ ่อไปน้ี 1. 0.04107 = 4105 2. 11.5104 = 1.115105 3. 563.07105 = 5.6307107 4. 0.04059108 = 4.059106 5. 730,000102 = 7.3107 6. 0.0056031010 = 5.603107 7. 0.003241011 = 3.24108 8. 0.05681109 = 5.681107 9. 0.8496108 = 8.496107 10. 0.05107 = 5105
20 คำช้แี จง ให้นกั เรียนเขียนจำนวนต่อไปนี้ใหอ้ ยู่ในรปู สัญกรณ์วทิ ยำศำสตร์ 1. 126.530,000 = 3.795106 2. 5141023 = 5.141025 8.4109 3. 120,00070,000 = 3.02591019 6.7910-5 4. 302.591017 = 4.071017 1.910-8 5. 0.0000679 = 3.3110-1 1.7110-4 6. 0.4071018 = 5.0210-6 7. 0.001910-5 = 8. 33110-3 = 9. 0.0017110-1 = 10. 50210-8 =
21 คำชแี้ จง ให้นักเรียนเลอื กตัวอกั ษรหน้ำคำตอบทกี่ ำหนดใหท้ ำงขวำมือ มำใส่ลงหนำ้ ขอ้ คำถำม ใหถ้ ูกต้อง คำถำม คำตอบ .........ง........ 1. (3a5)(-a7)(-2a6) มคี า่ เทา่ ไร .........ช....... 2. (5108)(7109) มคี า่ เท่าไร ก. 9 10 .........ณ...... 3. (32)(5)3-(-2)5 มคี ่าเทา่ ไร ข. 504,000,000 .........ฌ....... 4. [22+33-442]2 มคี า่ เทา่ ไร ค. 1021 .........จ........ 5. [-{3×9(+2()-52)}+23]2 มีค่าเทา่ ไร ง. 6a18 .........ข........ 6. โลกมีพนื้ ทผี่ วิ ประมาณ 5.04108 จ. 25 ฉ. 504108 ตารางกโิ ลเมตร เท่ากบั ข้อใด ช. 3.51018 (8,000,000)2×(0.000003) ซ. 8.496104 .........ฎ......... 7. (600,000)×(0.0002)4 ฌ. 225 ญ. 2110 ..........ก......... 8. น.ส.อรอนงค์มเี งิน 8.1 107 บาท ฎ. 21017 ฏ. (3+2)6 พบว่าพชี่ ายมีเงิน 90,000,000 บาท ปรากฏวา่ น.ส. ฐ. 8.496107 ณ. 1,157 อรอนงคม์ เี งินเป็นกเี่ ปอร์เซ็นของเงนิ ท่พี ชี่ ายมอี ยู่ ด. 1 ทง้ั หมด .........ฐ......... 9. โลกอยู่ห่างจากดาวองั คารมากท่สี ดุ เป็นระยะทางประมาณ 84,960,000 กโิ ลเมตร เขียน ในรูปสัญกรณว์ ิทยาศาสตร์ เท่ากบั ข้อใด .........ค......... 10. ในจักรวาลมีกาแล็กซีประมาณ 1010 กาแล็กซี และในแตล่ ะกาแลก็ ซมี ดี วงอาทติ ยห์ รือดาว ฤกษ์อยปู่ ระมาณ 1011 ดวง ดังน้นั จานวนดวงอาทติ ย์ หรือดาวฤกษใ์ นจักรวาลมโี ดยประมาณเท่าไร
22 คำช้แี จง ใหน้ ักเรียนทำเครอื่ งหมำย () ลงในกระดำษคำตอบให้ถูกต้อง ก่อนเรยี น หลังเรียน ขอ้ ก ข ค ง ขอ้ ก ข ค ง 1. 1. 2. 2. 3. 3. 4. 4. 5. 5. 6. 6. 7. 7. 8. 8. 9. 9. 10. 10. รวมคะแนน รวมคะแนน
23 แบบทดสอบก่อนเรียน 10 แบบทดสอบหลังเรยี น 10 เกณฑก์ ำรประเมิน ต้องผ่านร้อยละ 80 ขึน้ ไป หรือ 8 คะแนนข้นึ ไป ผา่ น ไม่ผ่าน กิจกรรมท่ี 1 10 กิจกรรมที่ 2 10 กจิ กรรมท่ี 3 10 กจิ กรรมท่ี 4 10 กจิ กรรมท่ี 5 10 กจิ กรรมท่ี 6 10 60 รวม ตอ้ งผ่านร้อยละ 80 ขึ้นไป หรอื 48 คะแนนข้ึนไป เกณฑ์กำรประเมนิ ผ่าน ไม่ผ่าน ลงชอื่ .....................................................ผปู้ ระเมนิ (....................................................)
24 กระทรวงศกึ ษาธิการ. (2551) หลักสตู รแกนกลำงกำรศกึ ษำขนั้ พื้นฐำน พทุ ธศกั รำช 2551. กรุงเทพฯ : ชุมนมุ สหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย. _______. (2552). มำตรฐำนและตวั ชวี้ ดั ตำมกลุ่มสำระกำรเรยี นร้คู ณิตศำสตร์หลกั สตู รแกนกลำง กำรศึกษำข้นั พนื้ ฐำน พทุ ธศักรำช 2551. กรงุ เทพฯ : ชมุ นมุ สหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย. _______. (2552). แนวทำงกำรจดั กำรเรยี นรู้ ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศกึ ษำขนั้ พน้ื ฐำน พุทธศักรำช 2551. กรุงเทพฯ : ชมุ ชนสหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย. _______. (2552). แนวกำรวัดผลและประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้น พน้ื ฐำน พุทธศกั รำช 2551. กรุงเทพฯ : ชมุ ชนสหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทย. _______. (2560). ตวั ชี้วัดและสำระกำรเรียนรูแกนกลำง กลุ่มสำระกำรเรียนรูคณติ ศำสตร์ (ฉบับ ปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตำมหลักสตู รแกนกลำงกำรศึกษำข้ันพืน้ ฐำน พทุ ธศกั รำช 2551. กรุงเทพฯ : ชมุ นมุ สหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย. ทิศนา แขมมณ.ี (2551).รูปแบบกำรเรียนกำรสอน. กรุงเทพฯ : ดา่ นสทุ ธาการพิมพ์. _______. (2560). ศำสตร์กำรสอน: องคค์ วำมร้เู พ่ือกำรจัดกระบวนกำรเรียนรู้ทีม่ ีประสิทธภิ ำพ. กรุงเทพฯ : ด่านสทุ ธาการพิมพ์. พสิ ณุ ฟองศร.ี (2559). กำรสร้ำงและพฒั นำเครื่องมือวจิ ัย. กรุงเทพฯ : บริษทั ด่านสุทธาการพมิ พ.์ _______. (2559). กำรวจิ ัยกำรศึกษำ. กรงุ เทพฯ : บรษิ ทั ด่านสุทธาการพิมพ์. โรงเรยี นชมุ ชนบ้านกะมิยอ. (2560). หลักสูตรสถำนศึกษำโรงเรยี นชุมชนบ้ำนกะมิยอ. ตามหลักสตู ร แกนกลางการศกึ ษาข้นึ พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551. ยะลา :โรงเรียนชมุ ชนบ้านกะมยิ อ. สาลี รักสุทธ.ี (2553). กำรจัดทำสื่อนวตั กรรมและแผนประกอบส่ือนวตั กรรม. นนทบุรี : เพม่ิ ทรัพย์ _______. (2553). คมู่ ือกำรจัดทำส่ือ นวัตกรรม และแผนฯ และกอบสื่อ นวัตกรรม. กรงุ เทพฯ : พัฒนาศกึ ษา. สวุ ทิ ย์ มูลคา. (2550). กลยุทธก์ ำรสอนคิดวเิ ครำะห.์ กรุงเทพฯ: หา้ งหุ้นสว่ น จากัดภาพพมิ พ.์ สุวิทย์ มูลคา และอรทัย มูลคา. (2545). 21 วิธีจดั กำรเรียนรู้ เพื่อพฒั นำกระบวนกำรคดิ . กรุงเทพฯ : ห้างหนุ้ สว่ น จากัดภาพพิมพ.์
25 ขอ้ มูลท่ัวไป ชื่อ – สกลุ นางสุธนี เจะมะ วนั เดอื น ปีเกดิ 11 เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. 2527 ภูมิลำเนำ จังหวดั ปัตตานี ตำแหน่งปัจจุบัน ครชู านาญการ สถำนท่ีทำงำน โรงเรียนชุมชนบ้านกะมิยอ วฒุ ิกำรศึกษำ ปริญญาตรี วทิ ยาศาสตร์บญั ฑิต (วท.บ.) วชิ าเอกคณิตศาสตร์ ท่ีอยู่ เลขท่ี 4/8 หมู่ท่ี 1 ถนน - ตาบลบานา อาเภอเมือง จังหวัดปตั ตานี รหสั ไปรษณยี ์ 94000 เบอรโ์ ทรศพั ท์ 084-9668389 ประวตั ิกำรศึกษำ พ.ศ. 2540 สาเรจ็ การศกึ ษาระดับประถมศึกษา โรงเรียนบ้านตันหยง อาเภอยะหริ่ง จังหวดั ปัตตานี พ.ศ. 2543 สาเร็จการศึกษาระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนสวุ รรณไพบูลย์ อาเภอยะหริง่ จังหวัดปัตตานี พ.ศ. 2546 สาเรจ็ การศึกษาระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรยี นเดชะปัตตนยานุกลู อาเภอเมือง จังหวดั ปตั ตานี พ.ศ. 2550 สาเร็จการศกึ ษาระดับปรญิ ญาตรี มหาวิทยาลัยทักษิณ อาเภอเมือง จังหวัดสงขลา พ.ศ. 2551 สาเรจ็ การศึกษาระดับประกาศนียบตั รบณั ฑิต วิชาชพี ครู มหาวทิ ยาลัยสงขลานครนิ ทร์ อาเภอเมือง จงั หวัดปตั ตานี ประวตั ิกำรทำงำน พ.ศ. 2551 ครผู ้ชู ่วย โรงเรียนชุมชนบ้านกะมิยอ ตาบลกะมิยอ อาเภอเมือง จังหวดั ปัตตานี สานักงานเขตพน้ื ที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 1 พ.ศ. 2553 ครู คศ.1 โรงเรียนชุมชนบา้ นกะมิยอ ตาบลกะมิยอ อาเภอเมือง จังหวัดปัตตานี สานกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 1 พ.ศ. 2556 ครู คศ.2 โรงเรยี นชุมชนบ้านกะมิยอ ตาบลกะมิยอ อาเภอเมือง จังหวัดปัตตานี สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 1
26
Search
Read the Text Version
- 1 - 36
Pages: