Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เอกสารเผยแพร่งานวิจัยและนวัตกรรมโรงเรียนลำปางกัลยาณี 2563

เอกสารเผยแพร่งานวิจัยและนวัตกรรมโรงเรียนลำปางกัลยาณี 2563

Published by achara chuenjai, 2021-06-14 12:57:35

Description: D.เอกสารเผยแพร่ การวิจัยและนวัตกรรมการพัฒ

Search

Read the Text Version

51 นวัตกรรม : นวตั กรรมแบบฝึกทักษะการคดิ วเิ คราะห์ สาระประวตั ิศาสตร์ จัดทาขึ้นเพอื่ ใช้ในการพัฒนาทักษะการคดิ วิเคราะห์ของนกั เรยี น ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 เร่ือง ความเป็นมาของชนชาตไิ ทย โรงเรยี นลาปางกัลยาณี จังหวัดลาปาง นางสาวเมธาพร สงกานต์ทิพ ครูกลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม นวัตกรรมแบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ สาระประวัติศาสตร์ จัดทาข้ึนเพ่ือใช้ในการ พัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4 เร่ือง ความเป็นมาของชนชาติไทย โรงเรียนลาปางกัลยาณี จังหวัดลาปาง สอดคล้องกับสภาพปัญหาและความต้องการในการจัดการ เรียนรู้ รายวิชาประวัติศาสตร์ ระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ดังนี้ ปญั หาและความต้องการ 1) หนังสือแบบเรียนรายวิชาประวัติศาสตร์ไทย ม.4-6 เป็นแบบเรียนที่ใช้ต้ังแต่ระดับ ม.4-6 จงึ มีเนือ้ หาทกี่ วา้ งแตไ่ ม่เจาะลกึ สง่ ผลให้จดั กิจกรรมการจดั การเรยี นการสอนคลุมเครอื 2) นักเรียนยงั ขาดการคิดวิเคราะห์ประเด็นสาคัญทางประวัติศาสตร์ 3) สื่อในการจดั กระบวนการจัดเรียน การสอนเกี่ยวกบั ประวตั ศิ าสตรใ์ นโรงเรียน ทท่ี ันสมัยมนี อ้ ย 4) โรงเรยี นขาดสอ่ื การเรยี นรู้ ทีเ่ หมาะสมกบั ผเู้ รยี นและทันตอ่ วัยของผู้เรียน 5) ต้องการสร้างและพัฒนาส่ือการสอน วิธีการจัดการเรียนรู้แบบใหม่ในการจัดการ เรียนรู้ 6) ตอ้ งการยกระดับผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี นรายวชิ าประวัติศาสตร์ 7) ตอ้ งการพฒั นาทกั ษะการคดิ ใหผ้ เู้ รยี น 8) ต้องการทราบความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการคิด วเิ คราะห์ วตั ถุประสงค์ 1. เพ่อื สร้างและพฒั นาแบบฝึกทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ รายวิชา ประวตั ิศาสตร์ ส31102 สาหรับนกั เรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 โรงเรียนลาปางกัลยาณี จงั หวดั ลาปาง 2. เพ่ือศึกษาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้แบบฝึกทักษะ การคิดวิเคราะห์ รายวิชาประวัติศาสตร์ ส31102 สาหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4 โรงเรียน ลาปางกัลยาณี จงั หวดั ลาปาง 3. เพ่ือศึกษาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ เรื่อง ความเป็นมาของชนชาติไทย สาหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนลาปางกัลยาณี จังหวัดลาปาง หลังจากจัดการเรียนรู้ ด้วยแบบฝกึ ทักษะการคิดวเิ คราะห์ สาระประวตั ิศาสตร์

52 4. ศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการคิด วิเคราะห์รายวิชาประวัติศาสตร์ ส31102 สาหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4 โรงเรียนลาปาง กลั ยาณี จงั หวดั ลาปาง วิธกี ารดาเนนิ การศกึ ษา เครื่องมือท่ใี ชใ้ นการศึกษา เครื่องมือที่ใชใ้ นการศกึ ษา มี 5 เครอื่ งมอื ดงั น้ี 1. แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ รายวิชาประวัติศาสตร์ ส31102 เร่ือง ความเป็นมาของชน ชาติไทย สาหรบั นกั เรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4 จานวน 6 ชุด ดงั นี้ ชุดท่ี 1 วิธกี ารทางประวัติศาสตร์ ชดุ ที่ 2 อาณาจักรโบราณในดินแดนประเทศไทยและปจั จัยท่มี ีอิทธิพลตอ่ สังคมไทย ชดุ ท่ี 3 รัฐไทยในดนิ แดนไทย ชดุ ที่ 4 พัฒนาการของชาติไทยในสมยั สโุ ขทยั ชดุ ท่ี 5 วัฒนธรรมและภมู ิปัญญาไทยในสมยั สุโขทยั ชดุ ที่ 6 บุคคลสาคัญในสมยั สโุ ขทยั 2. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เร่ือง ความเป็นมาของชนชาติไทย เป็น แบบทดสอบแบบเลือกตอบชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จานวน 40 ข้อ ท่ีผ่านการหาค่าความเชื่อมั่น โดยวิธี KR-20 ของคเู ดอร์ ริชารด์ สัน (Kuder-Richardson Formular 20) 3. แผนการจัดการเรียนรู้การคดิ วิเคราะห์ สาระประวัติศาสตร์ รายวชิ าประวัติศาสตร์ ส31102 เรือ่ ง ความเปน็ มาของชนชาติไทย จานวน 18 แผน 4. แบบทดสอบความสามารถในการคิดวิเคราะห์ เร่ือง ความเป็นมาของชนชาติไทยของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4 ก่อนและหลังจากการจัดการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ รายวิชาประวตั ิศาสตร์ ส31102 เปน็ แบบทดสอบแบบปรนยั 4 ตวั เลือก จานวน 60 ข้อ 5. แบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วย แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ รายวิชาประวัติศาสตร์ ส31102 จานวน 15 ข้อ ซึ่งเป็นแบบมาตรา ส่วนประมาณค่า 5 ระดับ คือ เห็นด้วยมากที่สุด เห็นด้วยมาก เห็นด้วยปานกลาง เห็นด้วยน้อย และ เห็นด้วยนอ้ ยทีส่ ดุ ในการวิจยั ในครั้งน้ีใชว้ ิธีการสอนตามหลักการของบลมู (อา้ งใน ประพนั ธ์ศิริ สุเสารัจ, 2551: 49-52) ได้จาแนกพฤติกรรมการคิดวิเคราะห์ไว้ คือ การคิดวิเคราะห์ความสาคัญ (Analysis of Element) การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ (Analysis of Relationship) และการวิเคราะห์หลักการ (Analysis of Organizational Principles) ผลการศึกษา ข้าพเจ้าได้พัฒนานวัตกรรมชุดแบบฝึกทักษะการคิดววิเคราะห์น้ีข้ึนเพ่ือใช้แก้ปัญหาใน ด้านผลสัมฤทธิท์ างการเรียนดา้ นการคดิ วิเคราะหป์ ระเดน็ สาคญั ทางประวตั ิศาสตร์ กับผเู้ รียนระดบั ช้ัน มัธยมศึกษาปีท่ี 4 รายวิชา ส31102 ประวัติศาสตร์ ได้ตรงตามกลุ่มเป้าหมาย เน่ืองจากได้มีการ

53 ออกแบบตามหลักวิชาการ ผ่านการหาประสิทธิภาพจากผู้เช่ียวชาญ มีการทดลองใช้กับผู้เรียนตาม รปู แบบกระบวนการวจิ ยั และการพัฒนาส่อื การเรียนรู้ตามหลักวิชา มผี ลดงั น้ี 1) แบบฝึกทักษะการคิดวเิ คราะห์ สาระประวัติศาสตร์ เรื่อง ความเป็นมาของชนชาติ ไทย สาหรับนักเรยี นชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4 โรงเรียนลาปางกัลยาณี จังหวดั ลาปาง มปี ระสทิ ธิภาพเทา่ กับ 91.84/93.61 เป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ซ่ึงเป็นตามวัตถุประสงค์ เน่ืองจากชุดแบบฝึกทักษะการคิด วเิ คราะห์ สาระประวัติศาสตร์ เรื่อง ความเปน็ มาของชนชาติไทย สาหรบั นักเรียนชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4 โรงเรียนลาปางกัลยาณี จังหวัดลาปาง ได้ดาเนินการตามหลักการสร้างแบบฝึกทักษะอย่างเป็นระบบ โดยมกี ารศึกษาหลกั สตู รและวเิ คราะห์เน้ือหาและกิจกรรม กาหนดจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ วางแผนการ สอน พิจารณาถึงความเหมาะสม คือ ไม่ยาก ไม่ง่ายเกินไป และมีหลายรูปแบบ จากง่ายไปหายาก เพื่อเป็นการดึงดูดความสนใจ ไม่เกิดความเบื่อหน่าย ตลอดจนทาให้บรรจุจุดมุ่งหมายอย่างมี ประสิทธภิ าพ อีกทั้งชุดกิจกรรมท่ีข้าพเจ้าสร้างขึ้นได้ผ่านการประเมินคุณภาพจากผู้เช่ียวชาญ 5 ท่าน เพ่ือหาข้อบกพร่องของแบบฝึกทักษะ และนาข้อบกพร่องมาปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้อง นอกจากนี้ได้มี การหาประสทิ ธิภาพกอ่ นนาแบบฝึกทักษะไปใช้จรงิ 2) ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของผู้เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ สาระ ประวัติศาสตร์ เรื่อง ความเป็นมาของชนชาติไทย สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ ระดับ .05 โดยคะแนนเฉลย่ี ก่อนเรียนเท่ากบั 17.44 และคะแนนเฉลี่ยหลังเรยี นเท่ากบั 35.85 สรุปได้ ว่าแบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนสูงขึ้น ท้ังน้ีเป็นผล เนื่องมาจากแบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ผ่านการตรวจสอบคุณภาพ และประเมินคุณภาพจาก ผู้เชี่ยวชาญในด้านแผนการจัดการเรยี นรู้ ด้านส่อื การเรียนรู้ ด้านกจิ กรรมการเรียนการสอน ด้านการ วัดผลประเมินผล และมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลายกระตุ้นการเรียนรู้ โดยเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้าข้อมูลต่างๆ ด้วยตนเอง ทาให้ผู้เรียนมีความอยากรู้อยากเห็น มีการนาความรู้ มาแลกเปลี่ยนอภิปรายกัน แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์เน้นให้ผู้เรียนมีความรู้และเข้าใจ ได้เรียนรู้ จากการลงมือปฏิบัติกิจกรรมจริงจากการเรียนรู้จากส่ิงต่างๆ รอบตัวมาใช้ประโยชน์ในการจัด ประสบการณ์และทาให้เกิด การเรียนรู้อยา่ งไม่รูต้ ัว ทาให้รู้สึกเรียนงา่ ย สนุก และมีการทางานรว่ มกัน เปน็ กลมุ่ ผู้เรียนทุกคนมบี ทบาทสาคัญในการทากิจกรรมได้แสดงความคิดเห็น โดยมีครูคอยชว่ ยชี้แนะ แนวทางและให้คาปรึกษาเมื่อมีปัญหาในการปฏิบัติกิจกรรม ทาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดีกว่าการ ฟังคาบรรยายภายในหอ้ งเรียนเพียงอยา่ งเดยี ว และสง่ ผลใหผ้ ้เู รยี นมีผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนท่ีสูงขึ้น 3) ผลของการจัดการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการคดิ วิเคราะห์ฯ ท่ีมตี ่อความสามารถ ในการคิดวิเคราะห์ เร่ือง ความเป็นมาของชนชาติไทย จากผลการศึกษาที่พบว่าหลังจากการจัดการ เรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ นักเรียนมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ เร่ือง ความ เป็นมาของชนชาติไทย รวมเป็นร้อยละ 84.47 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์เป้าหมายของโรงเรียนลาปางกัลยาณี อันกาหนดไว้ท่ีร้อยละ 70 ทั้งน้ีเนื่องจากในการจัดการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์คร้ังน้ี แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ฯ ทุกชุด มีกิจกรรมให้นักเรียนได้ฝึกคิดวิเคราะห์ ฝึกจาแนกข้อมูล ให้ เหตุผลของประเด็นสาคัญทางประวตั ิศาสตร์ รวมถึงหาความสมั พันธ์ของข้อมูล และฝึกตอบข้อคาถาม ในแบบฝึกฯ อยู่เสมอ อีกท้ังในแบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์น้ีช่วยให้นักเรียนได้ศึกษาเรียนรู้ด้วย

54 ตัวเองเพิ่มเติมนอกเวลาเรียน และเม่ือนักเรียนได้ฝึกคิดวิเคราะห์เป็นประจาจึงเกิดการพัฒนาทักษะ การคดิ วเิ คราะห์ข้ึน 4) ความคิดเห็นของนักเรียนท่ีมีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการคิด วิเคราะห์ สาระประวัติศาสตร์ เร่อื ง ความเป็นมาของชนชาตไิ ทย จากผลการศึกษาทพ่ี บวา่ นักเรยี นช้ัน มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 โรงเรียนลาปางกลั ยาณี จังหวดั ลาปาง มคี วามคิดเห็นในระดับเห็นดว้ ยมาก กับการ จัดการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ สาระประวัติศาสตร์ เรื่อง ความเป็นมาของชนชาติ ไทย แสดงให้เห็นว่านักเรียนมีความคิดเห็นว่าแบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์น้ีมีประโยชน์ สามารถ ส่งเสริมทักษะการคิดวเิ คราะห์ เรอ่ื ง ความเป็นมาของชนชาตไิ ทยของนักเรยี นได้ ชนั้ เรียนออนไลน์ใช้ google meet, facebook และเอกสารออนไลน์ประกอบการสอนรายวิชา ประวตั ศิ าสตร์ ประกอบการจัดการเรยี นการสอนในยุคปจั จุบัน ภาพแสดงตัวอย่างแบบฝึกทกั ษะชดุ ท่ี 4 พฒั นาการของชาติไทยในสมยั สุโขทัย

55 ภาพแสดงตัวอย่างแบบฝึกทักษะชดุ ที่ 4 พัฒนาการของชาติไทยในสมัยสุโขทยั ภาพแบบฝกึ ทักษะการคิดวิเคราะห์ สาระประวตั ิศาสตร์ จัดทาขึน้ เพอื่ ใชใ้ นการพฒั นาทักษะ การคดิ วิเคราะห์ของนกั เรียนชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 เรื่อง ความเปน็ มาของชนชาติไทย โรงเรียนลาปางกลั ยาณี จงั หวดั ลาปาง

56 การวิจัย: การประยุกต์ใช้วธิ ีสอนออนไลน์ดว้ ยชุดเครือ่ งมือ Google Apps for Education เพอื่ ยกระดับผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนกั เรียนชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 4/12 รายวิชาศิลปะ (ทัศนศิลป์1) รหสั วิชา ศ31101 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2563 นายปฐวี มณีวงศ์ ครูกลุ่มสาระการเรยี นรู้ศิลปะ บทคัดย่อ การวิจัยน้ีมีวัตถุประสงค์เพ่ือ1) เพ่ือศึกษาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของผู้เรียนรายวิชาศิลปะ (ทศั นศิลป์1) รหสั วิชา ศ31101โดยใช้วิธีการสอนดว้ ยการประยุกตใ์ ช้วธิ สี อนออนไลนด์ ้วยชุดเคร่ืองมือ Google Apps for Education และ 2)เพื่อต้องการให้นักเรียนมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนเฉลี่ยท่ี 3 ถึง 4 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคร้ังนี้ น้ี เป็นนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4/12 โรงเรียนลาปางกัลยาณี รายวิชาศิลปะ(ทัศนศิลป์1) รหัสวิชา ศ31101 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 จานวน 45 คน เคร่ืองมือที่ใช้ในการวิจัย คือ การจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนโดยใช้วิธีสอนออนไลน์ด้วยชุดเครื่องมือ Google Apps for Education ระยะเวลาจานวน 1 ภาคเรยี น ผลการศึกษาพบว่า ภายหลังจากการใช้การเรียนโดยใช้วิธีสอนด้วยการประยุกต์ใช้วิธีสอน ออนไลน์ด้วยชุดเครื่องมือ Google Apps for Education ควบคู่ไปกับการเรียนแบบปกติ ปรากฏว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/12 โรงเรียนลาปางกัลยาณี รายวิชาศิลปะ(ทัศนศิลป์1) รหัสวิชา ศ31101 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2563 มีผลสัมฤทธิท์ างการเรียนอยู่ใน เกณฑ์ดีมาก สังเกตได้จาก การระดบั เกรดหลังเรียน เมื่อนาสัดส่วนคะแนนมาเปรียบเทียบและหาคา่ เฉล่ีย พบว่าผลคะแนนอยูใ่ น ระดบั 3.68

57 ตาราง สถติ ผิ ลการเรียนของนักเรยี นชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 4 /12 รายวิชาวิชาทศั นศลิ ป์ 1 รหสั วชิ า ศ 31101 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2563 จานวน 45 คน ระดบั ผลการเรียน ความหมาย จานวนนกั เรยี น รอ้ ยละ 0 ต่ากวา่ เกณฑ์ 0 0.00 1 ผ่านเกณฑ์ข้ันต่า 1 2.22 1.5 2 4.44 2 พอใช้ 2 4.44 2.5 ปานกลาง 0 0.00 3 ค่อนข้างดี 1 2.22 3.5 3 6.7 4 ดี 36 80.00 ดมี าก หมายเหตุ ดเี ย่ียม คา่ สถติ ิ 45 ประสิทธิภาพอยู่ในระดับดี จานวนนักเรยี น 83.57 คะแนนเฉล่ยี 51.00 คะแนนต่าสุด 98.00 คะแนนสงู สดุ 11.31 คา่ เบีย่ งเบนมาตรฐาน(S.D.) คา่ ความแปรปรวน 127.97 ค่าสมั ประสิทธขิ์ องการกระจาย (C.V.) 13.53 จากตารางสถติ ิผลการเรยี นของนักเรียนชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 4 /12 รายวชิ าวิชาทศั นศลิ ป์ 1 รหัส วิชา ศ 31101 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2563 จานวน 45 คน พบว่า คะแนนต่าสดุ คือ 51 คะแนน และคะแนนสูงสดุ 98 คะแนน มีคะแนนเฉล่ยี 83.57 คะแนน อย่ใู นระดับ ดีมาก

58 ภาพการสรา้ งห้องเรยี นออนไลน์ Google Classroom ดว้ ยชดุ เครอ่ื งมือ Google Apps for Education รายวชิ า ทัศนศิลป์ 1 รหัสวชิ า ศ31101 ระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4/12 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2563 ภาพการเผยแพร่สอ่ื การสอน ด้วยชดุ เครื่องมือ Google Apps for Education รายวิชา ทศั นศิลป์ 1 รหสั วชิ า ศ31101 ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 4/12 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563

59 ภาพกระบวนการพบปะนักเรียนออนไลน์ Google meet ด้วยชุดเครอ่ื งมือ Google Apps for Education รายวิชา ทศั นศิลป์ 1 รหัสวชิ า ศ31101 ระดับช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4/12 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2563

60 ภาพกระบวนการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนออนไลน์ด้วยชดุ เครื่องมือ Google Apps for Education รายวชิ า ทศั นศิลป์ 1 รหสั วิชา ศ31101 ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 4/12 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2563

61 การวจิ ยั : การพฒั นาทักษะการคิดวิจารณญาณและจติ สาธารณะ ของนักเรียนชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 4 โรงเรยี นลาปางกลั ยาณี โดยใช้หลกั โยนโิ สมนสิการบูรณาการกิจกรรมศูนยค์ รอบครัวพอเพยี ง นางโสภิณ ศริ ิคานอ้ ย ครูกล่มุ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ความเป็นมาและความสาคัญของปัญหา ในปัจจุบันสังคมมีการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็วและมีความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอย่างไม่ หยุดยั้งส่งผลกระทบต่อคนในสังคม ทาให้เกิดการปรับตัว มีการแข่งขัน มีค่านิยมทางวัตถุสูงขึ้น ขาด คุณธรรมจริยธรรม มุ่งแสวงหาผลประโยชน์ให้กับตนมากกว่าส่วนรวม ซ่ึงเป็นสัญญาณถึงการขาด จิตสาธารณะของคนในชาติสูงขึ้น จิตสาธารณะเป็นความรู้สึกนึกคิดการเป็นเจ้าของในส่ิงที่เป็น สาธารณะในสิทธิและหน้าที่ท่ีจะดแู ลบารุงรกั ษารว่ มกันเชน่ การชว่ ยกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมการดูแล รักษาสาธารณสมบัติตลอดจนช่วยกันให้ความช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก หรือผู้ท่ีร้องขอความ ชว่ ยเหลอื เท่าที่จะทาได้ตลอดจนร่วมมอื กระทาเพอ่ื ไมใ่ หเ้ กิดปัญหาหรอื ช่วยกันแก้ปัญหาแต่ต้องไม่ขัด ต่อกฎหมายเพ่ือจะรักษาประโยชน์ส่วนรวม บุคคลที่มีจิตสาธารณะแสดงถึงเป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบ ต่อตนเองเพอื่ ไม่ใหเ้ กิดผลกระทบและเกิดความเสยี หายต่อส่วนรวม มีบทบาทท่ีช่วยสังคมในการรักษา ประโยชน์ของส่วนรวมเพื่อแก้ปัญหาสร้างสรรค์สังคมซ่ึงถือเป็นความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม จะเห็นว่า ปัญหาต่าง ๆ ท่ีเกิดขึ้นมาจากการขาดจิตสานึกของคนส่วนรวมในสังคม เยาวชนต้องให้ ความสาคัญไม่ทาให้ผู้อ่นื หรือสังคมเดอื ดร้อนได้รบั ความเสียหาย ดังนั้นเยาวชนต้องมีความรับผดิ ชอบ ตอ่ ตนเอง ต่อครอบครวั ตอ่ โรงเรยี น และต่อบคุ คลอนื่ ในฐานะเป็นพลเมอื ง ผู้วิจัยมองเห็นจุดท่ีควรจะพัฒนาเพ่ือแก้ปัญหาดังกล่าวซ่ึงที่มาของวิธีการพัฒนานักเรียน ใช้กจิ กรรมการเรียนการสอนวิชาสงั คมศกึ ษาพ้ืนฐานบูรณาการกบั กิจกรรมของศนู ยค์ รอบครัวพอเพยี ง โรงเรียนลาปางกัลยาณี ซึ่งเกิดจากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยกระบวนการPLC (Professional Learning Community)ของคณะครูกล่มุ สาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม โรงเรียน ลาปางกัลยาณี ในปีการศึกษา 2562 –2563 พบว่า สังคมปัจจุบันมีการเปล่ียนแปลงซึ่งส่งผลต่อ พฤติกรรมของนักเรียนประกอบกับการเปล่ียนแปลงเป้าหมายของหลักสูตรสถานศึกษาที่ต้องการให้ ผู้เรียนทักษะการเรยี นรู้ในศตวรรษที่ 21 (21st Century Skill) รวมท้ังนโยบายการสอบเข้าศึกษาต่อ ในระดับอุดมศึกษาจากภายนอก เป็นเป้าหมายร่วมกันที่ครูผู้สอนสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ โรงเรียนลาปางกัลยาณี ต้องหาแนวทางพัฒนาการเรียนสอนอย่างไร เพ่ือยกระดับคุณภาพผู้เรียนไป พร้อมกับดูแลช่วยเหลือผู้เรยี นเตรยี มความพร้อมโอกาสในการศึกษาต่อของนกั เรยี น วัตถปุ ระสงค์การวจิ ัย 1. พัฒนาการจัดการเรียนการสอนที่ส่งเสริมการคิดเชิงวิจารณญาณและจิตสาธารณะของ นักเรยี นโรงเรียนลาปางกัลยาณี

62 2. ศึกษาการเปล่ียนแปลงของผู้เรียนทางด้านการคิดเชิงวิจารณญาณ จิตสาธารณะ และ ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี น กล่มุ ตัวอย่าง นกั เรียนโรงเรียนลาปางกัลยาณี ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 4/1 จานวน 45 คน ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 กรอบแนวคิดในการพัฒนาทักษะการคิดวิจารณญาณและจิตสาธารณะ ของนักเรียนช้ัน มัธยมศึกษา ท่ี 4 โรงเรียนลาปางกัลยาณี โดยใช้หลกั โยนโิ สมนสกิ ารบรู ณาการกิจกรรมศูนย์ครอบครัว พอเพียงให้เกิดประสิทธิภาพ และประสิทธิผลจนเกิดผลงานปฏิบัติที่เป็นเลิศน้ัน มีหลักการคิดและ แนวทางดงั น้ี ปัญหาผ้เู รียน จดุ รว่ มของการ ปัญหาผสู้ อน แกป้ ญั หาและ การพัฒนา PLC กลุ่มสาระ การเรียนรู้ ประชุมทบทวน กระบวนการมี ข้อเสนอแนะใหม่ สว่ นร่วมจากทุก นาผลการประเมนิ รายงานความสาเรจ็ มาพัฒนาเพ่อื จัด ภาคสว่ น ของการจดั การเรยี นการสอน กจิ กรรมการเรียน ขอ้ ตกลงพัฒนาร่วมใน การจัดกิจกรรม การสอนแบบบูรณาการ ในปีต่อไป ประเมนิ ผล เพอื่ ถอดบทเรียน

63 แผนภาพแสดง กระบวนการนอ้ มนา “ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” มาใช้ในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ อีกทั้งเกิดจากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยกระบวนการPLC (Professional Learning Community) ของคณะครูกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม โรงเรียนลาปาง กัลยาณี โดยมีขนั้ ตอนและกระบวนการ ดงั นี้ ขั้นตอน/กจิ กรรม เปา้ หมาย ระยะเวลา ดาเนนิ การ 1. PLC โรงเรยี นลาปางกัลยาณี เพอ่ื สรา้ งความเข้าใจและศึกษา วิธีการสารวจค้นหาปญั หาของ มีนาคม 2. PLC กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ ผู้เรยี นและเสนอแนวทางเบือ้ งตน้ 2563 วิธีการแก้ปญั หาร่วมกัน ในระดับ 3. ประชุม PLC เสนอการดาเนินกจิ กรรมการ โรงเรยี น มนี าคม ดาเนินงานพัฒนาหรือแก้ปัญหา ผูเ้ รียน -พฤษภาคม 4. นาเสนอรูปแบบกิจกรรมการพัฒนาและ เพือ่ ค้นหาปัญหาของผ้เู รียน ประชุมหารอื รว่ มกับคณะครกู ลมุ่ สาระการ และหาวิธกี ารแกป้ ัญหาร่วมกัน 2563 เรียนรู้ และคณะครูแกนนา ศูนย์ครอบครัว โดยบรู ณาการกับคณะครูในกลุ่ม พอเพียง รวมถึง การประชมุ ปรึกษารว่ มกับ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนา พฤษภาคม และวฒั นธรรม 2563 มนี าคม แผนการดาเนนิ งาน ข้อเสนอแนะใหม่ พฤษภาคม 2563 รูปแบบกจิ กรรมการเรยี นการสอน และการบูรณาการเพ่ือพัฒนา คณุ ภาพแบบรอบด้าน

64 มลู นิธิครอบครวั พอเพยี ง และฝา่ ยบรหิ าร ประชุม PLC การส่งเสริมนกั เรียน พฤษภาคม โรงเรยี นเพือ่ วางแผน การดาเนินกิจกรรมใช้ ผมู้ ีความเป็นเลศิ ดา้ นสวดมนต์และ 2563 นโยบาย L.K.S. SMART SCHOOL MODEL พัฒนาด้านจิตอาสา ประจาปี ในการบริหารงานเพือ่ พัฒนาคณุ ภาพรอบด้าน การศกึ ษา 2563 พฤษภาคม 5.เสนอการพัฒนาตอ่ ผู้บริหารโรงเรียนเพอื่ 2563 ขออนุมัติดาเนนิ การ งบประมาณ 6..ประชุมคณะครกู ล่มุ สาระการเรียนรสู้ ังคม ศกึ ษาฯ และคณะครแู กนนา ศนู ย์ครอบครวั พอเพยี ง ศึกษาสภาพปญั หาสารวจความ ตอ้ งการ และวางแผนเพือ่ จัดกจิ กรรมเพื่อการ พัฒนารว่ มกนั 3.เสนอการพฒั นาตอ่ ผบู้ ริหารโรงเรยี นเพือ่ ขออนมุ ัติดาเนินการ 4.ปฏบิ ตั ิกิจกรรม ประชมุ PLC อย่างต่อเนื่อง ครแู ละนกั เรียนไดร้ ับการพัฒนาตาม พฤษภาคม และสมา่ เสมอ เพ่ือเสนอความคบื หนา้ และ แผนการพฒั นาทว่ี างไว้ – มนี าคม ปัญหาอปุ สรรคท่ีเจอ ผลการประเมนิ 2563 5.ประเมนิ ผลการจดั กจิ กรรมอย่างต่อเนอ่ื ง และเปน็ ปัจจบุ นั ตลอดปี การศกึ ษา 2563 ซ่ึงการประชุมระดมความคิดเพ่ือวางแผนการจัดการ เป็นกจิ กรรมที่ต้องร่วมกนั หลายฝ่าย มีการปรึกษากับผู้ร่วมงานทั้งจากโรงเรียนคือ ผู้บริหาร วิทยากร ผู้สนับสนุนแผนงานตามที่กาหนด กาหนดรูปแบบ เน้ือหา และวัตถุประสงค์ ข้าพเจ้าใช้วิธีบริหารจัดการ L.K.S. SMART SCHOOL MODEL เป็นวิธีดาเนินการให้กิจกรรมพัฒนานักเรียนให้มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในเร่ือง หลักธรรมนาไปสู่การคิดได้ถูกตามกระบวนการและสามารถเชื่อมโยงไปสู่การปฏิบัติกิจกรรม หลากหลายนาไปสู่การค้นหาศักยภาพในตนเองบนพ้ืนฐานขอความแตกต่างระหว่างบุคคลผู้เรียน ส่งผลต่อการแสดงออกทางพฤตกิ รรมทางบวก มผี ลงานเชิงประจักษท์ เี่ กดิ จากการเข้าร่วมกจิ กรรมต่าง ๆ ทั้งระดับสถานศึกษา ระดับจังหวัด ระดับเขต ระดับภาคและระดับประเทศ และมีผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรยี นทส่ี ูงขน้ึ ผลการวิจัย พบว่า นักเรียนส่วนใหญ่มีความรู้ความเข้าใจท่ีถูกต้องในเรื่องหลักธรรมและ สามารถคิดได้ถกู ตามกระบวนการคิดและสามารถเชื่อมโยงไปสู่การปฏบิ ัติกจิ กรรมหลากหลายนาไปสู่ การค้นหาศักยภาพในตนเองบนพ้ืนฐานขอความแตกต่างระหว่างบุคคลผู้เรียน สามารถอภิปราย กระบวนทางความคิดและยกตัวอย่างกิจกรรมที่แสดงถึงการมีจิตสาธารณะได้ถูกต้อง มีกระบวนการ คิดเรื่องจิตสาธารณะจนสามารถพัฒนาตนเอง โดยมีการปรับเปล่ียนพฤติกรรมและสามารถจัด

65 กิจกรรมเพ่ือสร้างประโยชน์แก่ส่วนรวมได้ และนักเรียนส่วนใหญ่มีความ พึงพอใจต่อการจัดกิจกรรม การเรยี นการสอนเรื่องจิตสาธารณะโดยนักเรียนท้ังห้องให้ความร่วมมือและมีพฤติกรรม กิจกรรมต่าง ๆ ทั้งระดับสถานศึกษา ระดับจังหวัด ระดับเขต ระดับภาคและระดับประเทศ นอกจากนั้นผู้วิจัย พบว่าการจัดการเรียนการสอนเพ่ือพัฒนานักเรียนให้มีกระบวนการคิดและเกดิ จิตสาธารณะ ต้องผ่าน การเรียนรู้จากการกระบวนการคิดและการกระทาท่ีเกิดข้ึนด้วยตนเอง มีลาดับขั้นตอน กระตุ้นให้ นักเรียนกระทาซ้า ๆ และใช้วิธีการท่ีหลากหลาย และจัดกิจกรรมใหม่ที่เชื่อมโยงกับกิจกรรมเดิม เพอ่ื ใหก้ ิจกรรมทเี่ รียนรใู้ หม่มีความต่อเน่ืองกัน และสร้างกจิ กรรมใหม่จากกิจกรรมเดิม นอกจากนั้น จากการส่งเสริมและพัฒนาทักษะการคิดวิจารณญาณและจิตสาธารณะ ของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4 โรงเรียนลาปางกัลยาณีโดยใช้หลักโยนิโสมนสิการบูรณาการ กิจกรรมศูนย์ครอบครัวพอเพียง ส่งผลให้นักเรียน ครู ผู้บริหารและโรงเรียนลาปางกัลยาณีได้รับ การยกย่องชมเชยและได้รับรางวัลจากการเข้ารว่ มกิจกรรมอย่างสม่าเสมอ ดังน้ี ชือ่ รางวลั ท่ีได้รบั รางวลั การประกวดสวดมนต์หมสู่ รรเสริญพระรตั นตรยั ทานองสรภญั ญะ ประจาปี พ.ศ. 2562 ระดบั ประเทศ ประเภททมี หญิงล้วน รางวลั การประกวดสวดมนต์หมสู่ รรเสริญพระรตั นตรยั ทานองสรภญั ญะ ประจาปี พ.ศ. 2562 ระดบั ประเทศ ประเภททีมชายล้วน ถว้ ยเกยี รตยิ ศ \" ระดับยอดเยยี่ ม \" ในการขับเคล่อื นศนู ย์ครอบครวั พอเพยี งดเี ดน่ ระดับภาคเหนือแกน่ กั เรียนแกนนาเยาวชน ครอบครวั พอเพยี ง ประทานโดย...สมเดจ็ พระอรยิ วงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรณิ ายก โล่รางวลั Volunteer Star ๒๐๑๘ (ฝา่ ยหญงิ ) ( ดาว)ชนะเลิศระดบั ภาคเหนือ มอบโดย...ปลดั กระทรวงศกึ ษาธิการ โล่รางวลั Volunteer Star ๒๐๑๘ (ฝา่ ยหญิง)( ดาวเด่น ) ชนะเลศิ ระดับภาคเหนอื มอบโดย...ปลดั กระทรวงศกึ ษาธิการ รางวลั ชนะเลศิ การประกวดการสวดมนตห์ มู่สรรเสรญิ คณุ พระรัตนตรัยทานองสรภญั ญะ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (4th MCU Contest) รางวัลรองชนะเลศิ การประกวดการสวดมนตห์ มู่สรรเสรญิ คณุ พระรตั นตรยั ทานองสรภญั ญะ ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย (4th MCU Contest) รางวัลเหรียญทอง ชนะเลศิ กิจกรรมประกวดสภานกั เรยี น ระดับชั้น ม.1 – ม.6 งานศลิ ปหัตถกรรม ระดบั เขตพน้ื ที่ ครั้งที่ 69 รางวลั เหรยี ญทอง กิจกรรมประกวดสภานักเรียน ระดบั ชัน้ ม.1 – ม.6 งานศิลปหัตถกรรม ระดบั ชาติ ครง้ั ท่ี 69 รางวัลการประกวดสวดมนต์หมสู่ รรเสริญพระรตั นตรยั ทานองสรภญั ญะ ประจาปี พ.ศ. 2562 ระดับประเทศ ประเภททมี หญิงลว้ น รางวัลการประกวดสวดมนตห์ มสู่ รรเสริญพระรตั นตรยั ทานองสรภญั ญะ ประจาปี พ.ศ. 2562 ระดบั ประเทศ ประเภททมี ชายล้วน รางวลั ถว้ ยเกยี รตยิ ศ \" ระดบั ยอดเยย่ี ม \" ในการขบั เคลือ่ นศูนยค์ รอบครวั พอเพียงดเี ดน่ ระดับภาคเหนือแกน่ ักเรียนแกนนาเยาวชน ครอบครวั พอเพียง ประทานโดย...สมเด็จพระอรยิ วงศาคตญาณ สมเด็จพระสงั ฆราช สกลมหาสงั ฆปรณิ ายก โลร่ างวลั Volunteer Star ๒๐๑๘ (ฝ่ายหญิง) ( ดาว)ชนะเลิศระดบั ภาคเหนอื มอบโดย...ปลัดกระทรวงศกึ ษาธกิ าร โล่รางวลั Volunteer Star ๒๐๑๘ (ฝ่ายหญิง)( ดาวเดน่ ) ชนะเลศิ ระดบั ภาคเหนือ มอบโดย...ปลดั กระทรวงศึกษาธิการ รางวัลชนะเลิศ การประกวดการสวดมนตห์ ม่สู รรเสรญิ คุณพระรัตนตรัยทานองสรภญั ญะ ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย (4th MCU Contest) รางวลั รองชนะเลิศ การประกวดการสวดมนต์หม่สู รรเสรญิ คณุ พระรตั นตรยั ทานองสรภญั ญะ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (4th MCU Contest) รางวลั เหรยี ญทอง ชนะเลศิ กิจกรรมประกวดสภานกั เรยี น ระดบั ช้นั ม.1 – ม.6 งานศลิ ปหัตถกรรม ระดบั เขตพนื้ ที่ ครงั้ ท่ี 69 รางวลั เหรยี ญทอง กจิ กรรมประกวดสภานักเรียน ระดบั ชนั้ ม.1 – ม.6 งานศลิ ปหัตถกรรม ระดับชาติ ครัง้ ที่ 69 รางวลั เชิดชเู กียรตจิ ากนายกรฐั มนตรี “รางวัลขับเคลื่อนศูนยค์ รอบครวั พอเพียงดีเด่นระดับภาคเหนอื ” ระดับยอดเย่ยี ม ในการขับเคล่ือนพนั ธกิจศนู ยค์ รอบครวั พอเพยี ง

66 รางวัล \"ครดู ศี รแี ผ่นดนิ \" ในการขบั เคล่ือนพนั ธกิจศนู ยค์ รอบครวั พอเพียง รางวลั ชนะเลิศ ในการขบั เคล่ือนพนั ธกิจศูนย์ครอบครัวพอเพียงดเี ดน่ ระดบั ภาคเหนือ “ด้านสังคม” รางวลั ชนะเลิศ ในการขบั เคลอื่ นพนั ธกจิ ศนู ย์ครอบครวั พอเพียงดเี ดน่ ระดับภาคเหนือ “ดา้ นเศรษฐกจิ ” รางวัลรองชนะเลศิ อันดับ 2 ในการขับเคลื่อนพนั ธกจิ ศนู ย์ครอบครวั พอเพยี งดีเด่น ระดบั ภาคเหนือ “ด้านสิ่งแวดลอ้ ม” รางวลั รองชนะเลิศอนั ดับ 2 ในการขับเคล่ือน พันธกิจศนู ย์ครอบครวั พอเพยี งดีเดน่ ระดบั ภาคเหนือ “ดา้ นประชาธิปไตย” รางวลั รองชนะเลิศอนั ดับ 3 ในการ “ขบั เคลื่อนพนั ธกจิ ศนู ย์ครอบครัวพอเพียงดเี ดน่ ระดบั ภาคเหนอื “ดา้ นศาสนาวฒั นธรรมและ สถาบันพระมหากษัตริย์” ขา้ พเจ้าไดร้ ่วมขบั เคลอ่ื นและบูรณาการพันธกจิ ศูนย์ครอบครวั พอเพยี งทาให้นักเรยี นได้รับรางวัลประเภทดีเยี่ยม การประกวด cover เพลง 77 ดนิ แดนแสนวเิ ศษ ข้าพเจ้าไดข้ บั เคลือ่ นและบรู ณาการพันธกจิ ศูนยค์ รอบครัวพอเพยี งทาให้นกั เรยี นได้รับรางวัลชนะเลิศ การประกวด MV เพลง ครอบครวั พอเพยี ง ข้าพเจา้ ได้ขับเคล่อื นและบรู ณาการพนั ธกิจศนู ยค์ รอบครัวพอเพียงทาใหน้ กั เรียนได้รับโลร่ างวลั เชดิ ชเู กยี รตจิ ากนายกรฐั มนตรี “รางวลั Volunteer Star” ระดับมัธยมศึกษา ประเภทดาว

67 การวจิ ยั : กระบวนการบรหิ ารจัดการส่งเสรมิ นกั เรียนผมู้ ีความเป็นเลิศ ด้านทัศนศลิ ป์สู่มหาวิทยาลัยโดยใช้ค่ายเปน็ ฐาน นางสาวสริ ญิ า ศรีชยั ครูกล่มุ สาระการเรียนรู้ศิลปะ เมื่อกล่าวถึงเด็กและเยาวชนผู้มีความสามารถด้านทัศนศิลป์ ปัญหาหลักในสังคมไทยตอนนี้ คือการพัฒนาองค์กรให้เห็นภาพชัด เพ่ือจะได้กาหนดสภาพตัวบ่งชี้และบุคลิกลักษณะของผู้ที่มี ความสามารถพิเศษ พร้อมท้ังกาหนดแผนงานและโครงการต่างๆ เพ่ือพัฒนาให้เด็กและเยาวชนผู้มี ความสามารถพิเศษด้านทัศนศิลป์ ได้พัฒนาได้อย่างเต็มศักยภาพ ครอบคลุมท่ัวประเทศ เพื่อให้ สังคมไทยได้มีผู้มีความสามารถอย่างแท้จริงในการสร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ ทัศนศิลป์สาหรับปัจจุบัน และอนาคต ทศั นศลิ ป์ในสังคมไทยและในสังคมโลก จากการจัดการเรียนการสอนวิชาศิลปะในระยะแรกพบว่านักเรียนให้ความสาคัญกับวิชา ศิลปะค่อนข้างน้อย รวมถึงการสนับสนุนจากผู้ปกครอง ชุมชนก็น้อยเช่นเดียวกัน โดยยังมองไม่เห็น คุณค่าของวิชาศิลปะว่าเรียนไปแล้วนาไปใช้ในอนาคตได้อย่างไร เช่น การประกอบอาชีพ การศึกษา ต่อ หรือแม้แต่การนาเอาศิลปะแขนงต่างๆ มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้นได้ อย่างไร แต่กพ็ บว่ามีนักเรียนส่วนหนึ่งท่ีมีความสนใจ มีแววทางศลิ ปะ อยากจะทางานหรือสร้างสรรค์ งานศิลปะ ไม่ว่าจะเป็นงานทัศนศิลป์ งานดนตรี หรือแม่แต่งานนาฏศิลป์ แต่เด็กยังขาดโอกาสที่จะได้ เรียนรู้อย่างจริงจัง ทาให้ขาดโอกาสท่ีดีในการพัฒนาคนเองให้เต็มศักยภาพตามความถนัด ตามความ สนใจของคนเอง จากสภาพปัญหาโรงเรียนลาปางกัลยาณี อาเภอเมือง จังหวัดลาปาง ผู้วิจัยมองเห็น จุดท่ีควรจะพัฒนา เพ่ือแก้ปัญหาที่มาของวิธีการพัฒนานักเรียน โดยใช้กิจกรรมการอบรมเชิง ปฏิบัติการส่งเสริมนักเรียนผู้มีความเป็นเลิศด้านทัศนศิลป์ ประจาปี 2563 เกิดจากการจากการ แลกเปล่ียนเรียนรู้ด้วยกระบวนการ PLC (Professional Learning Community) สาระทัศนศิลป์ โรงเรียนลาปางกัลยาณี ในปีการศึกษา 2562 – 2563 พบว่า ปัญหาการพัฒนาสื่อการเรียนการสอน ของครูและแหล่งเรียนรู้ทางศิลปะที่ไม่เพียงพอ ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงเป้าหมายของหลักสูตร สถานศึกษาที่ต้องการให้ผู้เรียนทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 (21st Century Skill) รวมท้ัง นโยบายการสอบเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาจากภายนอก เป็นเป้าหมายร่วมกันที่ครูผู้สอนสาระ ทัศนศิลป์ โรงเรียนลาปางกัลยาณี ต้องหาแนวทางพัฒนาการเรียนสอนอย่างไร เพ่ือยกระดับคุณภาพ ผู้เรยี นไปพรอ้ มกบั ดูแลช่วยเหลือผ้เู รียนเตรยี มความพร้อมโอกาสในการศึกษาต่อของนักเรยี น ผวู้ ิจัยจึงมีกรอบแนวคิดในการการจัดกิจกรรมค่ายอบรมเชิงปฏิบัติการผ่านกระบวนการทาง ศิลปะ กิจกรรมทางศิลปะ ที่ต้องคิดและทาอย่างสนุกสนาน ทาให้ผู้เข้าค่ายเกิดพัฒนาการทางด้าน ทักษะ ทัศนคติการอยู่ร่วมกนั และมุ่งเน้นพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นรูปแบบหน่ึงของกิจกรรม การเรียน รู้นอกห้ องเรีย นท่ีเอื้ อต่ อการจั ดกระบ วนการ เรียน รู้ที่แต กต่ างจ ากการเรียน การส อน ใน ห้องเรียน กลา่ วคอื การจดั ค่ายเป็นแหล่ง

68 เรียนรเู้ ปน็ ช่วงระยะเวลาทผี่ ู้เรียนจะได้ประสบการณร์ ่วมกบั เพอ่ื นๆ เป็นหมคู่ ณะทีม่ คี วามสนใจในด้าน ศิลปะเหมือนกนั การจัดการค่ายจะแตกต่างจากการจัดกจิ กรรมในห้องเรียน คือ การเปลยี่ นวิธีการรับ ความรู้ เปลี่ยนสถานที่เรียนรู้ เปล่ียนบริบทของการ เรียนรู้จากการเรียนรู้จากตาราเรียนและครู ไปสู่ การเรียนรู้จากสถานการณ์ ประสบการณ์จริงในอีกหลายมิติ และที่สาคัญส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ลงมือ ปฏิบัติได้ด้วยตนเอง มีกระบวนการคิดวิเคราะห์ เชื่อมโยงองค์ความรู้ ซึ่งเป็นปัจจัยสาคัญท่ีจะกระตุ้น ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้มากยิ่งขึ้น และมีส่วนส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ท่ีมีความแตกต่างจากสภาพ ห้องเรียนปกติ นักเรียนมีความสุข และสนุกสนานกับการเรียนรู้ มีวิธีดาเนินการให้บรรลุผล ซ่ึงการ ประชุมระดมความคิดเพื่อวางแผนการจัดการ เป็นกิจกรรมที่ต้องร่วมกันหลายฝ่าย มีการปรึกษากับ ผู้ร่วมงานท้ังจากโรงเรียนคือ ผู้บริหาร วิทยากร ผู้สนับสนุนงบประมาณเพื่อวางแผนกาหนดรูปแบบ เน้ือหา และวัตถุประสงค์ของการดาเนินงานตามข้ันตอน สอดคล้องกับแนวทาง LKS SMART School Model ซ่ึงเป็นการพฒั นางานท่ีถกู กาหนดขึ้นเพื่อเป็นแนวทางในการบริหารงานวชิ าการของ โรงเรียนลาปางกัลยาณีที่ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ของโรงเรียนลาปางกัลยาณี ใช้พัฒนากลุ่มสาระการ เรยี นรู้เพื่อใหเ้ กิดทศิ ทางเดยี วกนั อยา่ งเปน็ ระบบ ผู้วิจัยได้จัดทากิจกรรมโครงการการอบรมเชิงปฏิบัติการส่งเสริมนักเรียนผู้มีความเป็นเลิศ ด้านทัศนศิลป์ ประจาปี 2563 ระยะเวลา จานวน 5 วัน โดยวิทยากรจากวิทยาลัยอาชีวศึกษาลาปาง ครูจากโรงเรียนปางศิลาทองศึกษา จ.กาแพงเพชร และมีครูสาระทัศนศิลป์ โรงเรียนลาปางกัลยาณี เปน็ วิทยากรพ่ีเลี้ยงในแต่ละวนั มีกลุ่มเป้าหมายในการรว่ มกิจกรรม คือ ครูและนักเรียนช้ันมัธยมศึกษา ตอนปลาย รูปแบบการดาเนินกิจกรรมคู่ขนานท้ังในด้านการบรรยายความรู้ทางวิชาการและการ ปฏิบัติการทางศิลปะ (workshop) มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมการอบรม คือ มุ่งนักเรียนได้พัฒนาการเรียนรู้อย่าง เป็นระบบ ต่อเนื่องและเป็นข้ันตอน มีความรู้ความสามารถและทักษะทางศิลปะ และครูผู้เข้าอบรม เข้าใจเก่ียวกับหลักสูตร การสอบปฏิบัติ และวิธีดาเนินการเข้าศึกษาต่อ คณะทางศิลปกรรมและการ ออกแบบ ตลอดจนสรา้ งเครือขา่ ยความร่วมมอื ทางวิชาการระหว่างสถานศึกษา วัตถปุ ระสงค์ของโครงการ 1. เพ่ือพัฒนาทกั ษะ และกระบวนการสรา้ งสรรค์ผลงานดา้ นทัศนศิลป์ของนกั เรียนโรงเรียน ลาปางกลั ยาณี 2. เพื่อสนับสนุนให้นกั เรียนไดส้ รา้ งสรรคผ์ ลงานทศั นศลิ ปต์ ามความสนใจ 3. เพ่ือแลกเปล่ียนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน ในอันท่ีจะส่งเสริมและให้โอกาสผู้เรียน ค้นพบตัวเอง 4. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของครูและนักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมค่ายศิลปะจากการ ประเมินผลหลังส้ินสุดโครงการโดยแบบสอบถาม ครู-อาจารย์และนักเรียนทีร่ ่วมอบรม พบว่า มีความ พงึ พอใจในในระดับ ดีมาก แตก่ ็มขี ้อเสนอทน่ี ่าสนใจเพ่อื นามาปรับปรุงพัฒนาต่อไป เชน่ - อยากใหข้ ยายกลมุ่ เป้าหมายเป็นนกั เรียนระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้ ทส่ี นใจดา้ นศิลปะ - มีการร่วมกลุ่มแสดงผลงานศลิ ปะเพือ่ เปน็ การนาเสนอผลงานศิลปะออกสสู่ าธารณะ

69 สรุปได้ว่า โครงการการอบรมเชิงปฏิบัติการส่งเสริมนักเรียนผู้มีความเป็นเลิศด้านทัศนศิลป์ ประจาปี 2563 ทั้งกระบวนการข้ันตอนการจัดกิจกรรม ใช้บุคลากรและงบประมาณได้อย่างคุ้มค่าที่ สาคญั ตอ้ งได้รบั การสนบั สนุนจากผ้บู รหิ าร คณาจารย์ วิทยากร และครูในเครือข่าย เพอ่ื ให้กิจกรรมจะ สามารถดาเนินตอ่ เน่ืองไดอ้ ยา่ งยัง่ ยนื ซ่ึงการประชุมระดมความคิดเพื่อวางแผนการจัดการ เป็นกิจกรรมท่ีต้องร่วมกันหลายฝ่าย มีการปรึกษากับผู้ร่วมงานทั้งจากโรงเรียนคือ ผู้บริหาร วิทยากร ผู้สนับสนุนงบประมาณเพ่ือวางแผน กาหนดรูปแบบ เน้ือหา และวัตถุประสงค์ ข้าพเจ้าใช้วิธีบริหารจัดการ L.K.S. SMART SCHOOL MODEL เป็นวิธีดาเนนิ การใหโ้ ครงการอบรมมกี ารพฒั นาคุณภาพแบบรอบดา้ น แผนภาพที่ 1 แสดง L.K.S. SMART School Model

70 บทสรุป การใช้ส่ือ นวัตกรรมและการวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียน เป็นสาคัญ จากการพัฒนาในฐานะวิธีปฏิบัติของ SMART Teacher น้ัน ล้วนมีส่วนส่งเสริม กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญโดยตรงจากความชัดเจนดังท่ีได้กล่าวมา ทั้งหมด และตอบโจทย์ทิศทางของการพัฒนาเพ่ือเข้าสู่เป้าหมายของคณะกรรมการงานวิจัยเพ่ือ พัฒนาคุณภาพการศึกษา และงานพัฒนากระบวนการวิจัยเพื่อส่งเสริมการบริหารจัดการช้ันเรียน คุณภาพ ฝ่ายวิชาการ โรงเรยี นลาปางกัลยาณี ท่ีพยายามแก้ไขกระบวนการการพฒั นานวัตกรรม ตาม ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาสู่นวัตกรรมหรือแบบอย่างที่ดี ของคณะกรรมการสานักงานรับรอง มาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) ในช่วงการประเมินคุณภาพภายนอกรอบ 4 (โครงการ “การอบรมเชิงปฏิบัติการการทาวิจัยในชั้นเรียน เพื่อส่งเสริมการใช้นวัตกรรม L.K.S. SMART Schoolในสถานศึกษา” วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ.2563) ซึ่งจัดข้ึนเพ่ือ 1) นานวัตกรรม หลักของโรงเรียนลาปางกัลยาณีมาใช้ต่อยอดจากเดิมอย่างเป็นรูปธรรม 2) สร้างความเข้าใจร่วมกัน เกี่ยวกับตัวช้ีวัดของ SMART School SMART Teacher และ SMART Student และ 3) สร้างส่วน ของกระบวนการการใช้นวัตกรรม L.K.S. SMART School ให้มคี วามชดั เจน เขา้ ใจตรงกันท้ังโรงเรยี น ตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสานักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) ในช่วงการประเมินคุณภาพภายนอกรอบ 4 และการใช้นวัตกรรม “L.K.S. SMART” ของโรงเรียนยัง เป็นไปเพื่อการขับเคล่ือนใช้แนวคิดการสร้างโรงเรียนที่ประสบความสาเร็จ จากเกณฑ์รางวัลคุณภาพ OBEC QA เป็นมาตรฐานในการกาหนดทิศทางของการปฏิบัติงาน ดังนี้ โรงเรียนได้ดาเนินงานตาม วิสัยทัศน์ “มุ่งพัฒนาผู้เรียนเป็นคนดี มีความรู้ และทักษะในศตวรรษที่ 21” ขับเคล่ือนภารกิจตาม ค่านิยมองค์กร คือ รับผิดชอบต่อสังคม เพ่ือพัฒนาปัจจัย 3 ด้านท่ีสาคัญ ได้แก่ 1) ด้านสถานศึกษา 2) ดา้ นนกั เรียน และ 3) ดา้ นบุคลากร ตามแนวทางกระบวนการสรา้ งโรงเรยี นท่ีประสบความสาเร็จ

71 บรรณานุกรม บรรเจดิ สระปญั ญา. 2563. รายงานโครงการการอบรมเชิงปฏิบตั ิการการทาวจิ ัยในชั้นเรยี น เพอ่ื สง่ เสริมการใชน้ วัตกรรม L.K.S. SMART School ในสถานศึกษา. รายงานเสนอต่อ ผู้บริหารสถานศึกษา โรงเรียนลาปางกัลยาณี. พรรณี ภบิ าลวงษ.์ (2557). ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนวิชาชีววทิ ยา เร่ือง พนั ธศุ าสตรแ์ ละเทคโนโลยี ทางดเี อน็ เอของนักเรียนช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้ชดุ กิจกรรมการเรยี นรแู้ ละการสอน แบบปกติ. วิทยานิพนธว์ ิทยาศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวชิ าชวี วิทยาศึกษา, มหาวทิ ยาลัย มหาสารคาม. มยุรา ลีหัวสระ. (2555). ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรวู้ ชิ าวทิ ยาศาสตรต์ ามทฤษฎกี ารเรยี นรเู้ พ่อื สร้างสรรคด์ ว้ ยปัญญาเพ่ือพัฒนาทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรข์ ้ันพนื้ ฐาน ทกั ษะ การคิดวิเคราะห์ และผลสัมฤทธขิ์ องนกั เรยี นช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 6. วิทยานพิ นธ์ศกึ ษา ศาสตรมหาบณั ฑติ , สาขาวชิ าการสอนวทิ ยาศาสตร์, มหาวทิ ยาลัยบูรพา. รัตตยิ า จันทาครี . (2558). การพัฒนาชุดฝกึ ทักษะการเรียนรู้ตามทฤษฎคี อนสตรัคติวสิ ตร์ ว่ มกบั เทคนิคการเรียนแบบรว่ มมอื ทส่ี ง่ ผลต่อผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี น ความสามารถในการ แกป้ ญั หาและเจตคติตอ่ วิชาคณติ ศาสตรข์ องนักเรยี นช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 3. วารสาร บัณฑติ ศึกษา, 12(56), 51-62. สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี. (2551). การจดั สาระการเรยี นร้กู ล่มุ วิทยาศาสตร์ หลกั สูตรการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน. กรุงเทพฯ: สถาบนั ส่งเสริมการสอน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. สานกั งานรบั รองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศกึ ษา (องค์การมหาชน). 2562. รายงานการ ประเมินคณุ ภาพภายนอกรอบส่ี (พ.ศ.2559 – 2563) ระดับการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน. รายงานเสนอต่อสถานศึกษา. สานักงานเลขาธกิ ารสภาการศึกษา กระทรวงศกึ ษาธิการ. (2552). ข้อเสนอการปฏริ ูปการศกึ ษา ในทศวรรษท่ีสอง(พ.ศ.2552-2561). กรุงเทพฯ: พรกิ หวานกราฟฟิค. Ausubel, D. P. (1968). Educational psychology. A cognitive view. New York: Holt, Rinehart and Winston, Inc. Gall, Borg, Gall. (1996). Educational research: An introduction (6th Ed.). New York, NY: Longman Publishers.

72 ติดตอ่ บรรณาธิการ นายบรรเจิด สระปญั ญา โทรศพั ท์ 092-2695294 E-mail: [email protected] โรงเรยี นลาปางกัลยาณี สงั กดั เขตพ้นื ทก่ี ารศึกษามัธยมศกึ ษาลาปาง ลาพนู ที่อยู่ 224 ถนนพหลโยธนิ ตาบลเวยี งเหนอื อาเภอเมืองลาปาง จังหวดั ลาปาง 52000 โทรศัพท์ 0-5422-7654 แฟกซ์ 0-5422-4389