วิถชี วี ติ พนื้ ถน่ิ อุดรธานี Udon Thani’s Way of Life แผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยที่ 1 วิวัฒนาการความเป็นมาและลกั ษณะทว่ั ไปของวิถีชวี ิต พ้ืนถ่ินอดุ รธานี วตั ถุประสงค์ท่ัวไป 1. ทราบวิวฒั นาการความเปน็ มาของสงั คมวิถชี วี ิตพื้นถิน่ อุดรธานี 2. เขา้ ใจความหมาย ลกั ษณะท่ัวไป และองคป์ ระกอบของโครงสร้างสงั คมวิถชี วี ติ พ้ืนถิน่ อดุ รธานี 3. เขา้ ใจการอยูร่ ่วมกันของมนษุ ย์และหน้าที่ของตนเองต่อสงั คมวิถชี ีวติ พน้ื ถน่ิ อุดรธานี วัตถปุ ระสงค์เชิงพฤตกิ รรม 1. อธบิ ายถงึ วิวัฒนาการของของสงั คมวถิ ีชีวติ พน้ื ถิน่ อดุ รธานี 2. อธิบายองค์ประกอบ ลักษณะทั่วไป และความสาํ คัญของของสงั คมวิถชี ีวติ พืน้ ถ่ินอุดรธานไี ด้ 3. อธิบายความต้องการอยรู่ ่วมกนั ของมนษุ ย์และทําหนา้ ที่ตอ่ ของสงั คมวถิ ชี วี ติ พนื้ ถน่ิ อุดรธานไี ด้ 4. วเิ คราะหจ์ ดุ เดน่ และจดุ ดอ้ ยของของสังคมวถิ ีชีวิตพนื้ ถน่ิ อดุ รธานไี ด้ สาระการเรยี นรู้ 1. วิวัฒนาการของของสังคมวิถชี วี ิตพนื้ ถ่ินอดุ รธานี 2. ลักษณะท่วั ไปของของสงั คมวถิ ีชวี ิตพืน้ ถิน่ อุดรธานี 3. โครงสรา้ งของของสังคมวิถชี วี ติ พน้ื ถนิ่ อดุ รธานี 4. บทสรปุ 5. คําถามท้ายหน่วย กิจกรรมการเรยี นการสอน 1. ศกึ ษาเน้ือหาในเอกสารประกอบการสอน และหนงั สอื ตาํ ราทีม่ เี นอ้ื หาเก่ยี วข้อง 2. แบ่งกลุ่มศกึ ษาถึงวิวฒั นาการของสังคมวิถีชวี ิตพื้นถิน่ อดุ รธานีในอดีตถึงปจั จุบัน โดยวิเคราะหถ์ ึง ลักษณะทางสงั คม เศรษฐกิจและการเมืองในแตล่ ะยุคสมัย ร่วมถึงปัจจัยที่มีผลตอ่ การเปล่ียนแปลงแตล่ ะ สมัย และองคป์ ระกอบทส่ี ่งผลทาํ ให้ของสงั คม วิถีชีวติ พืน้ ถ่ินอดุ รธานีผ่าน พ้นวิกฤตต่างๆ โดยออก นาํ เสนอหนา้ ช้ันเรียน 3. ศึกษาถงึ ลกั ษณะท่วั ไป องค์ประกอบและโครงสรา้ งของสังคม วถิ ีชวี ิตพื้นถิน่ อุดรธานี เพื่อ วเิ คราะห์ถงึ สถานบทบาทและหน้าทข่ี องตนเองในของสังคมวิถีชีวิตพ้นื ถ่นิ อุดรธานีพร้อมยกตัวอย่างหนา้ ช้นั เรียนเป็นการแลกเปลีย่ นเรยี นรู้ 4. บรรยายสรุปสถานการณ์ของสงั คมวถิ ีชีวิตพนื้ ถ่นิ อดุ รธานใี นยุคโลกาภิวัฒนโ์ ดยอาจารย์ผสู้ อน สือ่ การเรียน-แหลง่ เรียนรู้ 1. เอกสารคําสอนรายวชิ าวิถชี วี ติ พ้ืนถิ่นอุดรธานี ผ้ชู ว่ ยศาสตราจารยน์ วรัตน์ บุญภลิ ะ หนา้ 1
วถิ ชี ีวติ พ้ืนถิ่นอุดรธานี Udon Thani’s Way of Life 2. วดี ที ศั นว์ ิวัฒนาการของของสังคมวิถีชวี ิตพน้ื ถน่ิ อดุ รธานี 3. รปู ภาพ แผนทพ่ี นื้ ถิ่นอดุ รธานี 4. Power Point Presentation การวัดและการประเมินผล 1. วิธีวดั และประเมนิ ผล - สังเกตพฤติกรรมการเรียนรขู้ องนักศึกษา 2. เครื่องมือวดั และประเมิน – แบบสงั เกตพฤตกิ รรม 3. เกณฑก์ ารประเมินผล - แบบสงั เกตพฤตกิ รรมได้คะแนน 6 คะแนนขนึ้ ไป กจิ กรรมเสนอแนะ 1. คําถามทา้ ยหน่วยที่ 1 หน้า 2 ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์นวรัตน์ บุญภลิ ะ
วิถีชีวติ พน้ื ถนิ่ อุดรธานี Udon Thani’s Way of Life หน่วยท่ี 1 วิวฒั นาการความเป็นมาและลกั ษณะทวั่ ไปของวิถีชวี ิตพนื้ ถนิ่ อดุ รธานี ววิ ฒั นาการความเปน็ มาของวิถชี วี ิตพนื้ ถน่ิ อดุ รธานี จากหลักฐานทางประวัตศิ าสตร์และโบราณคดพี บว่า บรเิ วณพื้นที่ที่เปน็ จงั หวดั อุดรธานีใน ปัจจบุ นั เคยเปน็ ถ่ินท่ีอยู่ของมนษุ ย์มาต้งั แต่สมยั ก่อนประวตั ศิ าสตร์ ประมาณ 5,000-7,000 ปี จาก หลักฐานการคน้ พบท่บี ้านเชยี งอําเภอหนองหาน และภาพเขยี นสีบนผนงั ถํา้ ท่อี ําเภอบา้ นผอื เปน็ สง่ิ ที่ แสดงใหเ้ หน็ เปน็ อยา่ งดี จนเป็นที่ยอมรับนับถือในวงการศึกษาประวัติศาสตรแ์ ละโบราณคดรี ะหวา่ ง ประเทศวา่ ชุมชนท่เี ปน็ ถนิ่ ท่ีอยู่ของมนษุ ย์ก่อนประวตั ิศาสตร์ทีจ่ งั หวัดอดุ รธานี มอี ารยะธรรมความเจริญ ในระดบั สงู และอาจถา่ ยทอดความเจรญิ น้ไี ปสปู่ ระเทศจีนกอ็ าจเป็นได้ โดยเฉพาะอย่างย่ิง เครอ่ื งปนั้ ดินเผาสลี ายเส้นทบี่ า้ นเชียงนน้ั สันนษิ ฐานว่าอาจเปน็ เครือ่ งป้นั ดนิ เผาสีลายเส้นทีเ่ กา่ ทสี่ ุดของ โลก หลังจากยคุ ความเจริญทีบ่ ้านเชยี งแลว้ พ้นื ทที่ เ่ี ป็นจงั หวัดอดุ รธานกี ย็ ังคงเป็นทอี่ ยู่อาศัยของมนุษย์ สืบต่อมาอีก จนกระท่ังสมยั ประวตั ิศาสตรข์ องประเทศไทยนับตัง้ แตส่ มัยทวาราวดี (พ.ศ. 1200-1600) สมัยลพบุรี(พ.ศ. 1200-1800) และสมัยสุโขทยั (พ.ศ. 1800-2000) จากหลกั ฐานท่ีพบ คือ ใบเสมาสมยั ทวาราวดี ลพบุรี และภาพเขยี นปนู บนผนงั โบสถท์ ี่ปรกั หักพงั บรเิ วณเทือกเขาภูพานใกลว้ ัดพระพทุ ธบาท บัวบก อําเภอบ้านผอื แตท่ ั้งน้ียังไม่ปรากฏหลักฐานชื่อจงั หวัดอุดรธานปี รากฏในประวัติศาสตร์แต่อยา่ งใด รปู ภาพ 1.1 แหลง่ มรดกโลกบ้านเชียง ท่มี า http://www.thepannaraihotel.com/images/news_images/2/IMG_8310.jpg ผูช้ ว่ ยศาสตราจารย์นวรตั น์ บญุ ภลิ ะ หนา้ 3
วถิ ีชวี ติ พ้นื ถิน่ อุดรธานี Udon Thani’s Way of Life ในสมัยกรุงศรีอยธุ ยา พ.ศ. 2112 ไทยเสยี กรงุ ศรีอยุธยาครง้ั ที่ 1 ใหแ้ กพ่ มา่ ตรงกับสมยั พระเจา้ บเุ รงนอง กษัตรยิ ์กรงุ หงสาวดี ได้มีหมายเกณฑ์ใหส้ มเด็จพระมหาธรรมราชา ไปช่วยตีเมืองเวยี งจนั ทน์ ในคร้งั นี้สมเดจ็ พระนเรศวรไดร้ ่วมเสดจ็ ไปในกองทพั พระราชบดิ าเปน็ ครงั้ แรก สมทบกับกองทัพพม่า ไปตีเมืองเวียงจันทน์ เนือ่ งจากพระเจา้ ไชยเชษฐาธริ าช ยกทัพไปตเี มืองญวนแล้วหายสาบสญู พระเจ้า บุเรงนองเหน็ โอกาสจงึ ยกทพั ตโี ดยใหก้ องทัพกรงุ ศรีอยธุ ยามาสมทบ สมเดจ็ พระมหาธรรมราชาและ สมเด็จพระนเรศวรได้ยกทัพไปถงึ เมืองหนองบัวลําภู เมืองหนา้ ด่านทางใตข้ องเวียงจันทน์ ขณะนนั้ มี สมเดจ็ พระนเรศวรมี พระชนมายุได้ 19 พรรษา จงึ ได้นาํ กองทัพพักแรมท่ี เมืองหนองบัวลําภู เน่อื งจาก มที ัศนยี ภาพทส่ี วยงาม มีดอกบวั หลวงขนึ้ เตม็ ท่ีหนองนาํ้ สวยงามมาก และหนองนํา้ มีความอุดมสมบรู ณ์ เหมาะแกก่ ารตัง้ พักแรมของกองทัพที่ มไี พร่พลจํานวนมาก และดอกบัวหลวงก็ใชเ้ พือ่ ประกอบพิธกี รรม ทางศาสนา เพ่ือความเปน็ ศิรมิ งคลแก่กองทัพ เพม่ิ ขวญั กําลังใจในการออกศึกคร้งั นี้ แตส่ มเดจ็ พระ นเรศวรทรงประชวรเปน็ ไข้ทรพษิ ระหวา่ งเดนิ ทัพ พระเจา้ บเุ รงนองเห็นว่าสงครามจวนจะเสร็จสิน้ จึง อนญุ าตให้กลับไปรกั ษาพระองค์ การที่สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช ไดเ้ คยเสดจ็ มาประทบั แรมทีเ่ มอื ง หนองบวั ลาํ ภูเมอื่ พ.ศ.2117 นนั้ ทําใหช้ ือ่ เมืองหนองบัวลาํ ภูได้จารึกไวใ้ นประวัติศาสตรไ์ ทย ทเี่ มือง หนองบวั ลาํ ภนู ่เี องสันนิษฐานว่าเคยเป็นเมืองที่มคี วามเจริญมาตงั้ แต่สมยั ขอมเรอื งอํานาจ รูปภาพที่ 1.2 ศาลพระนเรศวรท่จี งั หวดั หนองบวั ลาํ ภู http://www.nongbualamphu.go.th/390/index.php หนา้ 4 ผู้ช่วยศาสตราจารยน์ วรตั น์ บญุ ภิละ
วิถชี วี ิตพ้นื ถ่นิ อุดรธานี Udon Thani’s Way of Life ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์เปน็ ราชธานีน้ัน รัชสมยั พระบาทสมเด็จพระพทุ ธยอดฟาู จุฬาโลกทรงให้ เจา้ นันทเสนไปปกครองเวยี งจนั ทน์ ตอ่ มา เจ้านันทเสน เปน็ กบฏ จึงมรี บั ส่งั ประหารชวี ิตและทรงให้ เจ้าอนิ ทรป์ กครองแทน หลังเจา้ อนิ ทร์ถึงแกพ่ ริ าลยั กท็ รงใหเ้ จา้ อนวุ งศป์ กครองแทนโอกาสทเี่ จา้ อนวุ งศ์ มาถวายพระเพลงิ พระบรมศพพระบาทสมเดจ็ พระพุทธเลศิ หล้านภาลยั ในปี พ.ศ. 2367 ได้ทลู พระบาทสมเดจ็ พระนั่งเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ขอแบง่ ชาวเวยี งจันทน์เม่อื ครัง้ ถกู กวาดตอ้ นลงมายงั ไทยคร้ัง สงครามสมัยกรุงธนบุรี พระบาทสมเดจ็ พระนัง่ เกล้าเจา้ อยหู่ วั ดาํ ริวา่ ไมเ่ หมาะ จงึ ไมพ่ ระราชทานให้ เจ้าอนวุ งศ์รู้สึกอัปยศ เมอื่ กลับไปยังเมืองแล้วกค็ ดิ แผนกบฏต่อไทยเจ้าอนวุ งศ์พิจารณาเหน็ วา่ ไทย กาํ ลัง เผชิญศกึ สองดา้ น คือ ท้ังพมา่ และญวน เจ้าอนวุ งศ์จงึ หันไปฝักใฝุญวน ด้วยเหน็ ว่าหากตั้งตนเป็นอิสระ แลว้ ไทยคงไม่กลา้ ยกทพั มาปราบปราม คร้ังใน พ.ศ. 2369 มีข่าวลอื ว่าองั กฤษจะนําเรือรบมายึด กรงุ เทพมหานคร เจ้าอนุวงศเ์ ห็นเปน็ โอกาส จึงยกกองทัพมายึดหัวเมืองทางตะวันออกเฉียงเหนอื ของไทย โดยทพั ท่ีจัดมามี 3 ทัพ ไดแ้ ก่ ทพั เจ้าเมอื งจําปาศักดข์ิ องเจ้าราชบตุ ร ยกเขา้ มาทาง อุบลราชธานี , ทัพของพระอปุ ราช ยกเขา้ มาทางรอ้ ยเอ็ด และทพั หลวงของเจ้าอนุวงศ์ยกมาทาง นครราชสีมา เจา้ อนวุ งศ์ออกอุบายแกเ่ จา้ เมอื งตามรายทางวา่ องั กฤษกําลังเตรียมนาํ ทพั เรอื มายึด กรงุ เทพมหานคร พระบาทสมเด็จพระนัง่ เกล้าเจ้าอย่หู วั ทรงใหเ้ จา้ อนุวงศ์เกณฑก์ องทัพเวยี งจันทนล์ งมา ช่วยทําศึก เจา้ เมืองตามรายทาง เชน่ ร้อยเอ็ด กาฬสนิ ธุ์ ขอนแกน่ สุรินทร์ ขขุ นั ธ์ หลงเช่อื และให้การ สนบั สนุนเจ้าอนวุ งศ์ ยอมใหเ้ ดนิ ทัพผ่านโดยสะดวก และมอบเสบยี งอาหารใหเ้ พ่ิมเติมด้วย จนกระทงั่ ทพั เวียงจันทน์มาถึงนครราชสีมา ขณะน้ันพระยานครราชสมี าและพระยาปลัดไม่อยู่ว่าราชการ เจา้ อนุวงศ์กเ็ ขา้ ยึดนครราชสีมาและสง่ กองทพั ไปกวาดตอ้ นผคู้ นถึงสระบรุ ี ทางกรุงเมือ่ ทราบขา่ ว ก็มกี าร แต่งทพั ออกไปชว่ ย โดยใหก้ รมพระราชวังบวรมหาศกั ดิพลเสพย์ยกกองทพั ไปยังสระบุรี ครน้ั ทัพหน้า เวยี งจนั ทนท์ ราบข่าวกถ็ อยไปยังนครราชสมี าฝาุ ยเจา้ อนุวงศไ์ ด้กวาดตอ้ นชาวเมืองและยดึ ทรพั ย์สินจาก นครราชสมี า คณุ หญงิ โม ภริยาพระยาปลัดเมอื งนครราชสมี าเปน็ หนึง่ ในผู้ทีถ่ กู กวาดตอ้ นไปดว้ ย จงึ ออก อบุ ายขอใหผ้ ่อนผนั ใหค้ วบคุมไปชา้ ๆ เพือ่ รอให้บรรดาชาวเมอื งไปให้ทันกนั ครัน้ ถึงทุ่งสมั ฤทธ์ิ คุณหญงิ โมกเ็ ล้ยี งสุราแก่ทหารลาว เมื่อเห็นได้โอกาส ชาวเมอื งทัง้ หลายต่างกใ็ ชอ้ าวธุ ฆ่าฟันทหารลาวตายเปน็ จาํ นวนมาก ทพั ลาวได้แตกทัพหนีไป สว่ นชาวเมอื งท้งั หลายก็ตั้งคา่ ยทท่ี ่งุ สัมฤทธ์ิ และมชี าวเมอื งท่ี หลบหนมี าเข้าสมทบด้วยเปน็ จาํ นวนมาก เจ้าอนวุ งศ์ส่งกองทพั มาตีก็ถกู ตพี า่ ยกลบั ไป ครน้ั เมอ่ื ทราบข่าว ทางกรุงยกทพั มาชว่ ยนครราชสมี า เจ้าอนุวงศ์ก็นําทพั กลบั ไปยังเวียงจนั ทน์ โดยจดั ทพั คอยสกดั ตามด่าน ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์นวรัตน์ บุญภิละ หน้า 5
วถิ ชี วี ิตพื้นถน่ิ อดุ รธานี Udon Thani’s Way of Life เพือ่ เตรยี มการตอ่ สูพ้ ระบาทสมเดจ็ พระนั่งเกลา้ เจ้าอยหู่ วั ทรงใหพ้ ระยาราชสภุ าวดคี ุมทัพที่สองไปปราบ กบฏทางอบุ ลราชธานแี ละร้อยเอด็ แล้วไปบรรจบกบั ทพั แรกทเ่ี วียงจนั ทน์ และทรงให้เจา้ พระยา อภัยภธู รคุมทัพท่ีสามไปปราบเมืองหลม่ และหวั เมอื งขึน้ แลว้ ไปบรรจบกนั ทเ่ี วียงจนั ทน์อกี ทพั หนึง่ กองทัพของพระยาราชสภุ าวดีตพี วกกบฏตัง้ แต่ พิมาย ยโสธร ไปจนถึงจาํ ปาศักด์ิ ได้จับตัวเจ้านคร จาํ ปาศักด์ิและบตุ รหลานของเจ้าอนวุ งศ์ ท้ังหมด แล้วเดนิ ทางผา่ นนครพนมไปสมทบกนั ที่เวยี งจันทน์ อีกดา้ นหน่ึง ทัพหลวงของกรมพระราชวงั บวรมหาศกั ดพิ ลเสพย์ตดี า่ นหนองบวั ลาํ ภู ค่ายท่งุ สม้ ปอุ ย ใกล้ กับช่องเขาขา้ มไปยงั เวียงจันทน์ ทหารลาวส่งกองทพั มาลอ้ มสกู้ นั เปน็ เวลา 7 วัน กองทัพลาวก็ถกู ตีพา่ ย กลบั ไป เสร็จแล้วก็ยกทพั เขา้ เวียงจันทนไ์ ด้ ฝุายเจา้ อนุวงศท์ ี่เหน็ วา่ กองทัพลาวท่ดี ่านหนองบัวลาํ ภูแพ้ แลว้ กไ็ ม่คดิ ต่อสู้อีก เจ้าอนวุ งศน์ าํ ครอบครวั หนีไปยงั ญวน แตถ่ ูกจับตัวได้ ถกู ส่งมายงั กรงุ เทพมหานคร พร้อมครอบครัว ครัน้ เจา้ อนุวงศม์ าถงึ กรงุ เทพมหานคร พระบาทสมเด็จพระนง่ั เกลา้ เจา้ อยู่หวั ทรงให้ ทาํ กรงขังเจ้าอนุวงศแ์ ละครอบครัวเปน็ การประจาน ประชาชนไปดูและสาปแชง่ ทุกวนั เจา้ อนุวงศถ์ ูกขงั ได้ 7-8 วันกป็ วุ ยตาย เจา้ พระยาราชสุภาวดีใหท้ าํ ลายสถานที่สาํ คัญในเวียงจนั ทนจ์ นหมด และกวาด ต้อนผูค้ นมายังหวั เมืองช้นั ใน พระบาทสมเด็จพระนัง่ เกลา้ เจ้าอยูห่ ัวทรงเลือกพระยาที่จงรักภกั ดไี ป ปกครอง หัวเมืองทข่ี ึ้นกับเวียงจันทน์ใหข้ ึน้ กับหลวงพระบางแทน ต้ังแต่นัน้ ลาวกข็ ึน้ กับไทยเรื่อยมา จนกระทั่งตกเปน็ อาณานิคมของฝรั่งเศส อุดรธานี ได้เกยี่ วข้องกับการศกึ สงคราม กล่าวคอื ในระหว่าง พ.ศ. 2369-2371 ไดเ้ กิดกบฏเจา้ อนุวงศย์ กทพั เข้ามา ยดึ เมืองนครราชสีมา ซงึ่ มีผ้นู ําคอื คุณหญิงโม(ทา้ วสุรนารี) ได้โจมตกี องทัพเจ้า อนวุ งศแ์ ตกพา่ ยถอยทพั มาต้ังรบั ทเ่ี มืองหนองบัวลาํ ภู และได้ตอ่ สู้กบั กองทพั ไทยและชาวเมือง หนองบัวลาํ ภู กระท่ังในปลายสมัยสมเด็จพระจอมเกลา้ เจา้ อย่หู ัว รัชกาลท่ี 4 ประมาณ พ.ศ. 2411 พวก ฮ่อได้รุกราน มาทางดา้ นหลวงพระบาง สบิ สองจไุ ท กลา่ วคอื พ.ศ. 2394 ฮ่อ หรอื กองกําลังชาวจนี ทตี่ ่อตา้ นราชวงศ์แมนจู ได้ก่อการกบฏโดยเรยี กกลมุ่ ตวั เองว่า กบฏไทผ้ ิง เพ่อื ปลดปลอ่ ยตนเองออกจาก การปกครองของราชวงศแ์ มนจูท่ีเป็นใหญ่ยดึ ครองประเทศจนี อยู่ในขณะนน้ั จนเกิดการรบพงุ่ กนั เป็น การใหญ่ เมือ่ ปี พ.ศ. 2405 พวกไท้ผิงพา่ ยแพ้ตอ้ งหลบหนีไปซมุ่ ซ่อนตวั ตามปาุ เขาในมณฑลต่างๆ ของจนี ทัง้ ในมณฑลยนู นาน ฮกเอี้ยน กวางไส กวางตงุ้ เสฉวน และส่วนหน่ึงหลบหนมี ายงั ตงั เก๋ีย ทางต้ังเก๋ียจึงดําเนนิ การปราบปรามทาํ ใหพ้ วกฮ่อตอ้ งหนมี าอยูท่ ี่เมืองซนั เทยี น หน้า 6 ผูช้ ว่ ยศาสตราจารย์นวรตั น์ บุญภลิ ะ
วถิ ชี ีวิตพน้ื ถ่ินอดุ รธานี Udon Thani’s Way of Life ในสมัยรัชกาลที่ 5 พวกฮอ่ ภายใตก้ ารนําของ \"ปวงนนั ชี\" ซ่องสุมกาํ ลังท่ีหลวงพระบาง ท่งุ ไหหนิ อยใู่ นเมืองโพนสะหวนั แขวงเชยี งขวาง ทางทิศตะวันออกเฉยี งเหนอื ของลาว เปน็ กลุ่มโจรปล้นบ้านเมือง ในดินแดนสบิ สองจุไทและเมืองพวน ซงึ่ ขณะนนั้ ถอื เปน็ อาณาเขตของฝุายไทย กองกําลังฮอ่ ได้เตรยี ม กาํ ลังออกเป็น 2 ทัพ ทัพท่ี 1 จะเดินทพั ลงมาท่เี มืองเวียงจันทรแ์ ลว้ จะเขา้ ตีเมอื งหนองค่าย(ช่อื เดิมของ หนองคาย) ส่วนทพั ท่ี 2 จะเดินทัพไปทางหวั เมืองพันหา้ ท้งั หก จะเขา้ ตเี มืองหลวงพระบาง พ.ศ. 2418 เมือ่ พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกล้าเจ้าอยูห่ ัว ทรงทราบขา่ วศึกฮ่อ จึงโปรดเกล้าฯ ให้เจา้ พระยา มหาอํามาตย์(ชนื่ กลั ยาณมิตร) จัดส่งกองทพั จากกรุงเทพ ฯ ไปปราบฮอ่ ทไี่ ด้ยกกําลงั ลว่ งล้าํ เข้ามาจนถึง เมอื งเวียงจนั ทน์ ในปีพ.ศ. 2426 พวกฮ่อยกมารกุ รานเมืองหลวงพระบางอีก โปรดใหพ้ ระยาพิชยั (มิ่ง) พระยา สุโขทยั (ครุธ) คมุ กาํ ลงั ไปชว่ ยก่อน แลว้ ให้พระยาราชวรานกุ ลู (เอก บญุ ยรัตนพันธ์ุ) เป็นแมท่ พั ยกตาม ไป ฮ่อได้ขา่ วกถ็ อยหนีไปปกั หลกั สทู้ ี่ค่ายทุ่งเชียงคํา ซง่ึ มีแนวกอไผ่แน่นหนาเป็นปูอมปราการ ฝุายไทย ตามไปถึง ก็ยิงปนื ใหญเ่ ขา้ ใส่ แตก่ ระสุนตดิ กอไผ่ ทาํ อะไรพวกฮอ่ ไมไ่ ด้ พระยาราชวรานกุ ลู ขัดใจ ยกกําลังบุกเข้าไปถูกฮ่อยงิ ดว้ ยปืนใหญ่เขา้ ทีข่ าบาดเจบ็ สาหัส รกุ คืบหน้าไมไ่ ด้ กไ็ ดแ้ ตล่ ้อมคา่ ยเอาไวส้ อง เดือน ฮ่อเรมิ่ อดอาหารบาดเจ็บลม้ ตาย แต่ยังไม่ยอมแพ้ การปราบปรามฮอ่ ของไทยดําเนนิ การอยจู่ นถึง ปี พ.ศ. 2428 จงึ ได้ถอนกําลงั จากทุ่งเชยี งคาํ กลบั มายงั เมอื งหนองคาย เนือ่ งจากขาดเสบยี งอาหารและ แม่ทพั คือพระยาราชวรากลู ถูกฮ่อยิงบาดเจบ็ ในปี พ.ศ. 2428 ครั้งสมยั พระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกลา้ เจ้าอยูห่ วั พวกฮ่อไดร้ วมตัวก่อการ ร้ายกาํ เริบเสิบสานข้ึนอกี คร้งั ร.5 จงึ โปรดเกลา้ ฯ ใหก้ รมทหารทไ่ี ด้รับการฝึกหดั ตามแบบยุโรปข้นึ ไป ปราบฮอ่ โดยจดั เปน็ สองกองทพั คอื กองทัพฝุายใตแ้ ละกองทพั ฝุายเหนอื กองทัพฝาุ ยใต้มีนายพนั เอก พระเจา้ น้องยาเธอกรมหมนื่ ประจักษ์ศิลปาคมเป็นแม่ทัพยกไปปราบฮ่อในแคว้นเมอื งพวน มณฑลลาว พวนฝัง่ ซา้ ยแมน่ า้ํ โขง ท่ีเปน็ หวั เมืองฝาุ ยเหนอื ของไทย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจา้ อย่หู วั โปรด ให้พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอกรมหมนื่ ประจักษศ์ ลิ ปาคม เป็นแม่ทพั ใหญฝ่ ุายใต้ และเจ้าหมนื่ ไวยวรนาถ เป็นแมท่ พั ใหญ่ฝาุ ยเหนือ ไปทาํ การปราบปรามพวก ฮอ่ \"กรมหลวงประจักษศ์ ิลปาคม\" ดํารัสให้ พระอมรวไิ สยสรเดช (โต บุญนาค) ม.ร.ว.วรณุ พระยาสรุ ยิ เดช พระราชวรรนิ ทร์ และพระเจริญราช อาณาเขตยกกองทัพไปสมทบ กองทพั ไทยได้เอาปืนใหญ่ยงิ เข้าไปในคา่ ยของพวกฮ่อจนฮ่อแตกหนีไป กองทพั จงึ ได้ยก กองทพั กลับเมืองหนองคายและได้ตัง้ กองบัญชาการกองทัพอยทู่ ี่เมอื งหนองคาย แล้วให้ ผ้ชู ่วยศาสตราจารยน์ วรตั น์ บุญภิละ หนา้ 7
วถิ ีชวี ติ พื้นถ่นิ อดุ รธานี Udon Thani’s Way of Life พระอมรวิไสยสรเดช (โต บนุ นาค) ยกทพั หน้าไปตีคา่ ยฮอ่ ท่ีทุ่งเชียงคาํ พวกฮ่อได้หนไี ปในเขตญวน กองทัพไทยจึงร้อื ค่ายฮอ่ ที่ทงุ่ เชยี งคาํ เสยี กองทัพฝาุ ยเหนอื มนี ายพันเอก เจา้ หมน่ื ไวยวรนาถ (เจมิ แสง- ชูโต) เป็นแม่ทัพยกไปปราบฮอ่ ในแควน้ หัวพันห้าทง้ั หก โดยไปชมุ นุมทัพท่เี มืองพชิ ยั แล้วเดนิ ทัพต่อไปยงั เมอื งนา่ น แล้วยกกาํ ลังไปถึงเมอื งหลวงพระบาง จากนั้นไดเ้ คลอ่ื นกาํ ลังเข้าสูแ่ ควน้ หัวพนั หา้ ท้งั หก เม่อื ปราบฮอ่ ในแคว้นน้ไี ด้แล้วจงึ ไดย้ กกาํ ลังไปปราบฮ่อในแควน้ สิบสองจไุ ท พ.ศ. 2429 สามารถปราบ ฮ่อได้ราบคาบแล้วจงึ ยกกาํ ลังกลับถงึ กรุงเทพฯ เมอ่ื วันท่ี 7 มิถุนายน พ.ศ. 2430 เมือ่ เหตุการณต์ า่ งๆ สงบเรียบรอ้ ยแล้ว กรมหลวงประจกั ษ์ศลิ ปาคมจึงโปรด ให้สรา้ งอนสุ าวรยี ์ ปราบฮ่อขึ้นที่ เมอื งหนองคาย เพอ่ื บรรจุอฐั ิทหารจากกรม กองต่างๆ ที่เสียชพี เพอ่ื ชาตใิ นคร้ังนั้น ดงั น้ี - กรมทหารอาสาวเิ ศษ - กรมแปดเหลา่ - กรมฝรงั่ แมน่ ปืน - กรมทหารมาลา - กรมสสั ดี - กรมเรอื ต้น - กรมทหารมหาดเล็ก - กรมการหวั เมือง ที่ด้านขา้ งอนุสาวรยี ท์ ง้ั 4 ดา้ นได้จารกึ อักษรไว้ 4 ภาษา ได้แก่ ภาษาไทย ภาษาอั งกฤษ ภาษาจีนและภาษาลาว มีขอ้ ความว่า “ปางน้จี กั แสดง พจน์พรอ้ มผู้ภกั ดี ในอนุสาวรยี ์ ไว้เป็นทรี่ ะลึกตาม ผู้กอปรด้วยภักดี ดงั อาภรณ์ ประดบั งาม ชพี มลายขจรนาม ปรากฏเกยี รตินิรันดร สญู สรุ ิยจ์ ันทร จึงจะสญู ซ่ึงความดี วายชีพทําการ กิจ โดยความสวามี ภักดตี อ่ ชลุ ี ละอองบาททบมาลย์ ปวงปราชญ์คงจักซ้อง ศรบั แล้วสาธุการ นับวา่ เปน็ ทยั สญู ขมขี ลาดขยาดขยอ่ น องอาจตอ่ ราชกิจ มไิ ดค้ ิดแต่ความมรณ์ คณะเทพไตรสร จักชูช่วย อาํ นวยผล นาํ ขันธ์เสวยสขุ นฤทกุ ข์บได้ผล สุขขกิจจงจกั ดล ประโลกยบั แปรปรวน สุดท้ายมคี าํ จารกึ ไว้ วา่ \"อนุสาวรยี น์ ไี้ ด้เปดิ แต่ศกั ราช 1247 ควบ 1248 พทุ ธศกั ราชล่วงแลว้ ” ภายหลังการปราบปรามฮ่อสงบแลว้ ในปี พ.ศ.2434 ไดโ้ ปรดเกลา้ ฯ ใหร้ วมหัวเมอื งฝุายเหนือ และจัดแบ่งออกเปน็ ภาค ๆ เพอื่ สะดวกในการปกครอง โดยมขี า้ หลวงไปประจํารกั ษาเป็นภาค ๆ ดังนี้ ภาคลาวกาว มเี มืองอุบล เมืองจมั ปาศกั ดิ์ เมอื งเชียงแตง เมืองแสนปาง เมืองสีทันดร เมืองอตั บอื เมอื งสาลวนั เมอื งคําทองใหญ่ เมอื งสรุ นิ ทร์ เมืองสังขะ เมอื งขุขนั ธ์ เมืองเดชอุดม เมอื ง ศรษี ะเกษ เมอื งยโสธร เมอื งเขมราฐ เมอื งกมลาศยั เมืองกาฬสนิ ธ์ุ เมอื งภแู ลน่ ช้าง เมืองสุวรรณภมู ิ เมือง ร้อยเอด็ เมอื งมหาสารคามรวมเมอื งใหญ่ 21 เมอื ง เมอื งขึน้ อกี 43 เมอื ง มกี รมหลวงพชิ ิตปรีชากร เป็นขา้ หลวงใหญ่ หนา้ 8 ผ้ชู ว่ ยศาสตราจารย์นวรัตน์ บญุ ภิละ
วถิ ีชวี ติ พืน้ ถิ่นอดุ รธานี Udon Thani’s Way of Life รปู ภาพท่ี 1.3 อนุสาวรยี ์ปราบฮ่อ หนา้ ศาลากลางจังหวดั หนองคายหลังเดมิ ทม่ี า https://th.wikipedia.org รูปภาพที่ 1.4 จอมพล เจ้าพระยาสุรศกั ด์มิ นตรี (เจมิ แสง-ชูโต) แมท่ ัพปราบฮอ่ ฝาุ ยไทย (นั่งทางซา้ ย) ถ่ายรปู ค่กู บั เจ้าราชวงศ์ (คําสุก) แห่งหลวงพระบางทก่ี องบัญชาการเมืองซ่อน ท่ีมา https://th.wikipedia.org/wiki/ ผ้ชู ว่ ยศาสตราจารย์นวรตั น์ บญุ ภลิ ะ หนา้ 9
วิถีชวี ติ พืน้ ถ่ินอดุ รธานี Udon Thani’s Way of Life รปู ท่ี 1.5 พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอชน้ั 4 พระองค์เจ้าคัดณางยคุ ล กรมหลวงพิชติ ปรชี ากร ข้าหลวงใหญ่มณฑลลาวกาว ท่มี า http://www.bloggang.com/ ภาคลาวพวน มีเมอื งหนองคาย เมอื งเชยี งขวาง เมืองบริคณั หนคิ ม เมอื งโพนพสิ ัย เมือง นครพนม เมืองท่าอุเทน เมืองไชยบรุ ี เมืองสกลนคร เมอื งมกุ ดาหาร เมืองขอนแกน่ เมอื งหล่มศกั ดิ์ รวม เมืองใหญ่ 11 เมอื ง เมืองขนึ้ อีก 36 เมอื ง มกี รมหมน่ื ประจักษ์ศิลปาคม เป็นขา้ หลวงใหญ่ ในเวลาน้นั เมืองอดุ รธานยี งั ไมป่ รากฏช่ือ เพยี งแต่ปรากฏชอื่ บ้านหมากแข้ง หรอื บ้านเด่อื หมากแขง้ สงั กัดเมือง หนองคาย การปกครองขนึ้ กบั มณฑลลาวพวน และกรมหมน่ื ประจกั ษศ์ ิลปาคมแม่ทัพใหญ่ฝุายใต้ ได้ เดินทพั ผา่ นบา้ นหมากแขง้ ไปทาํ การปราบปรามพวกฮ่อจนสงบ หนา้ 10 ผู้ช่วยศาสตราจารยน์ วรัตน์ บญุ ภิละ
วถิ ีชีวติ พื้นถิน่ อุดรธานี Udon Thani’s Way of Life รปู ท่ี 1.6 พระเจ้าบรมวงศ์เธอช้ัน 4 พระองคเ์ จา้ ทองกองก้อนใหญ่ กรมหลวงประจักษศ์ ลิ ปาคม เสนาบดกี รมวัง และข้าหลวงใหญ่มณฑลลาวพวน ทมี่ า http://www.bloggang.com/ ภาคลาวเฉยี ง มเี มืองเชยี งใหม่ เมอื งลําปาง เมืองลาํ พนู เมืองนา่ น เมอื งแพร่ เมอื งเถนิ เมอื ง เชียงราย และเมอื งข้นึ ของหวั เมอื งเหลา่ นนั้ มีพระยาไกรโกษา เป็นขา้ หลวงใหญ่ ภาคลาวพงุ ขาว มเี มอื งหลวงพระบาง สิบสองปนั นา สิบสองจไุ ท หัวพันทง้ั ห้าทั้งหก ซง่ึ เป็น หัวเมืองขึ้นในพระราชอาณาเขต มกี รมหมนื่ สรรพสิทธิประสงค์ เปน็ ข้าหลวงใหญ่ และไดใ้ ห้ พระยาฤทธริ งคร์ ณเฉท (ศุข) รกั ษาราชการแทน สําหรับหวั เมอื งในแควน้ สิบสองจุไท และหัวพันทั้งห้าทั้งหก บางคราวหวั เมืองดงั กลา่ วกอ็ ยู่ ใตอ้ ทิ ธิพลของญวน เรียกวา่ เมืองสองฝาุ ยฟาู คอื ข้นึ กับทงั้ สองฝุาย คือ ข้ึนกับหลวงพระบางดว้ ยและ ข้นึ กับญวนดว้ ยในเวลาเดียวกนั สว่ นเมืองท่ีอย่ใู กลก้ ับจีนกจ็ ําต้องข้นึ กบั จีนด้วย เรยี กวา่ เมอื งสามฝาุ ยฟูา ภายหลงั การปราบปรามฮ่อสงบแล้ว ประเทศ ไทยมกี รณีพิพาทกบั ฝรงั่ เศสเนอ่ื งจากฝร่ังเศส ต้องการลาว เขมร ญวนเปน็ อาณานิคม เรยี กว่า กรณีพิพาท ร.ศ. 112 (พ.ศ. 2436) วันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2436 รฐั บาลฝร่ังเศสได้แจ้งแก่ฝุายไทยว่า ผู้การโบรี ( Bory) จะนาํ เรอื ปืนแองกงสตอง ผู้ชว่ ยศาสตราจารยน์ วรัตน์ บุญภลิ ะ หน้า 11
วิถชี วี ติ พ้นื ถนิ่ อุดรธานี Udon Thani’s Way of Life (Inconstant) และ เรือโกแมต (Comete) เขา้ มายงั กรงุ เทพฯ กรมหลวงเทวะวงศว์ โรปการ ทรงคัดคา้ น ว่าละเมิดสนธสิ ัญญาฉบับ พ.ศ. 2399 แต่ในวันท่ี 11 กรกฎาคม เรอื ทัง้ สองลาํ จึงมุ่งหน้ามากรงุ เทพฯ ซ่ึงเปน็ การละเมิดอธิปไตยของไทย จึงไดเ้ กิดการตอ่ ส้บู ริเวณปอู มพระจุลจอมเกลา้ และปอู มผเี สื้อสมทุ ร ตา่ งฝาุ ยได้รบั ความเสียหาย โดยฝรงั่ เศสสามารถฝาุ กระสุนเข้ามาจอดที่หน้าสถานทตู ฝรัง่ เศสได้และยนื่ คาํ ขาดต่อไทยดังน้ี 1. ไทยต้องเพกิ ถอนสิทธเิ หนอื ดนิ แดนฝงั่ ซ้ายของแมน่ ้าํ โขงและเกาะต่างๆ ตั้งแต่ภาคเหนือ ของลาวไปจนถงึ พรมแดนเขมร 2. ใหไ้ ทยร้อื ถอนดา่ นทง้ั หมดบนฝัง่ ซา้ ยของแมน่ าํ้ โขงให้เสรจ็ ภายใน 1 เดอื น 3. ให้ไทยจดั การปญั หาทุ่งเชยี งคาํ เมอื งคาํ พวน และความเสยี หายทเี่ รือรบฝรัง่ เศสและชาว ฝรัง่ เศสไดร้ บั จากการปะทะกนั 4. ให้ไทยลงโทษเจ้าหน้าทีฝ่ ุายไทยท่รี บั ผดิ ชอบในการยงิ ปืนที่ปากนํ้า 5. ให้ไทยชดใช้ค่าเสียหายใหช้ าวฝร่งั เศสเปน็ เงิน 2 ลา้ นฟรงั ก์ ฝุายไทยยอมรับทกุ ขอ้ ยกเว้นข้อ 1 ทําให้ฝร่ังเศสไมพ่ อใจจงึ ถอนคณะทตู ออกจากประเทศไทย และเรือรบไดไ้ ปยงั เกาะสชี งั และปฏบิ ัติการปดิ อา่ วไทย จึงเป็นเหตุใหไ้ ทยรับเงื่อนไขคําขาดโดยไม่ สามารถตอ่ รองใดๆ เพอื่ ให้ฝรงั่ เศสยุติการปิดอา่ ว แต่รัฐบาลฝรง่ั เศสกลบั ย่ืนเงอ่ื นไขเพม่ิ เตมิ ทีร่ นุ แรงขน้ึ คอื เรยี กร้องจะเข้ายดึ ครองแมน่ ้าํ และทา่ เรอื จังหวัดจนั ทบุรี และไทยต้องไม่มีกาํ ลงั ทหารอยทู่ ี่ เมืองพระตะบองเมืองเสียมราฐและบรเิ วณรัศมี 25 กิโลเมตรบนฝงั่ ขวาของแมน่ าํ้ โขง ฝาุ ยไทยจึงยอมรบั เง่ือนไขท่เี พิ่มเติมแตโ่ ดยดี หลังจากน้ันฝรงั่ เศสได้ส่งผูแ้ ทนรฐั บาลมาเจรจาขอทาํ สนธสิ ัญญาเพื่อยุตกิ รณี พพิ าท ร.ศ. 112 ในร่างสัญญาดงั กล่าวไทยมขี ้อเสยี เปรยี บหลายประการโดยเฉพาะเมอื งจนั ทบรุ ี มสี าระสําคัญดงั นี้ 1. รัฐบาลไทยสละสทิ ธทิ ัง้ หมดในดนิ แดนบนฝ่ังซ้ายของแม่นาํ้ โขงและเกาะต่างๆในแม่นํ้านัน้ 2. หา้ มรฐั บาลไทยส่งเรือรบเข้าไปในทะเลสาบ ในแม่นาํ้ โขง และลํานํา้ ท่แี ยกมา 3. หา้ มรฐั บาลไทยสร้างดา่ นหรอื ค่ายทหารในเมอื งพระตะบอง และเสียมราฐ 4. ฝรั่งเศสสงวนสิทธิจะตง้ั กงสลุ ณ ทใี่ ดกไ็ ด้ โดยเฉพาะทีน่ า่ นและโคราช โดยฝร่ังเศสจะยดึ เมืองจันทบุรไี ว้เปน็ ประกนั จนกว่าไทยจะปฏิบัติตามสญั ญาจนครบ จากเหตกุ ารณ์คร้งั นที้ ําให้ไทยต้องเสียดินแดนคร้งั ท่สี ําคญั ของไทยคอื ราชอาณาจักรลาวเกอื บทงั้ หมด หนา้ 12 ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์นวรัตน์ บญุ ภิละ
วิถชี ีวิตพน้ื ถน่ิ อุดรธานี Udon Thani’s Way of Life รวมทัง้ สิบสองจูไทยตอ้ งตกอยู่ใต้ปกครองของฝรั่งเศส รวมเนอื้ ทที่ ้ังหมดประมาณ 143,800 ตาราง กโิ ลเมตร พลเมืองประมาณ 600,000 คน หลงั การลงนามในหนังสือสญั ญา เม่ือวันที่ 3 ตลุ าคม พ.ศ. 2436 แลว้ เรื่องทต่ี ้องดาํ เนนิ การตอ่ มาซ่งึ สบื เนอื่ งกับวิกฤตการณ์คอื การถอนทหารออกจาก ฝั่งซ้ายแมน่ าํ้ โขง การประกาศใหค้ นฝั่งซ้ายแม่นํา้ โขงที่เข้ามาอย่ทู างฝ่ังขวาแมน่ าํ้ โขงกลบั ถิน่ ฐานของ ตนเอง การพจิ ารณาคดีพระยอดเมอื งขวาง เรอื่ งท้งั หลายทางรัฐบาลไทยพยายามดําเนินการให้เรยี บรอ้ ย เพอื่ ใหฝ้ ร่งั เศสถอนกาํ ลังทหารออกจากเมืองจันทบุรซี งึ่ ยึดไว้ตง้ั แต่เดอื นสงิ หาคม พ.ศ. 2436 โดยเร็ว แต่ปญั หาก็ยงั ไม่ยุตลิ งง่าย ๆ โดยเฉพาะกรณีพระยอดเมอื งขวางข้าหลวงไทยประจาํ เมอื งคําเกดิ คํามวน ผูน้ ําในการตอ่ สูก้ บั ทหารฝร่งั เศส เม่ือปลายเดอื นพฤษภาคม พ.ศ. 2436 ทาํ ให้ทหารฝร่งั เศสช่ือ นายโกรส กแู รง กับทหารญวน อกี 12 คนถงึ แกค่ วามตาย (แต่ฝร่ังเศสกล่าวหาวา่ มีทหารเสยี ชวี ติ ระหวา่ ง 16 - 24 คน) ฝาุ ยไทยเสยี ชีวติ 6 คน บาดเจบ็ 5 คน ฝรง่ั เศสต้องการให้ลงโทษ พระยอดเมืองขวาง รัฐบาลไทยจงึ ตั้ง “ศาลรบั สงั่ พิเศษ ” ขึน้ มาพิจารณาคดีน้แี ละมคี าํ ตัดสนิ ว่า พระยอดเมอื งขวางไม่ผดิ เพราะเปน็ การปฏิบัตงิ านในหนา้ ที่ ซ่งึ ทําให้ฝรัง่ เศสไม่พอใจจงึ เรยี กรอ้ งใหไ้ ทย ตั้ง “ศาลผสม” ฝร่งั เศส-ไทย ขน้ึ ทําหน้าท่พี พิ ากษาคดี ทําให้ฝุายไทยไมพ่ อใจมาก พระบาทสมเด็จ พระจลุ จอมเกล้าเจา้ อยู่หวั ถึงกบั ทรงปรารภว่า “แลไม่เหน็ เลยว่าจะจบเพยี งใด กว่าจะไดต้ ดั หัวพระ ยอด” ศาลผสมได้ตดั สินคดใี นเดือนมถิ นุ ายน พ.ศ. 2437 ว่าพระยอดเมอื งขวางมีความผิดใหจ้ าํ คุก เป็นเวลา 20 ปี พระยอดเมอื งขวางถกู จําคุกอยูจ่ นเดือนพฤศจกิ ายน พ.ศ. 2441 จึงได้รับการปล่อยตวั โดยข้อตกลงระหวา่ งไทยกบั ฝร่งั เศส หนังสอื สญั ญาข้างตน้ เพยี งทาํ ใหก้ ารคุกคามไทยผอ่ นคลายลงเพราะ ทหารฝร่งั เศสได้ถอนตวั ออกจากจันทบุรี แตไ่ ปอยทู่ ่ีตราดที่หา่ งไกลออกไปแทน นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเกย่ี วกับการปกั ปันเขตแดน ปญั หาคนในบังคับซึ่งเปน็ ชาวเอเชีย ในตอน แรกฝร่ังเศสเสนอจะแลกนครวดั ซึ่งในเวลานั้นยังเปน็ ของไทย กับเมอื งด่านซ้ายและเมอื งตราด แต่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจ้าอยู่หวั ทรงรสู้ กึ ว่า “ทีจ่ ะเอานครวัดมาแลกดมู ากมายเหลือเกนิ อยู่สัก หนอ่ ย” การเจรจาดาํ เนนิ ตอ่ ไปที่กรงุ เทพฯ โดยมนี ายเอดเวริ ์ด สโตรเบล ( Edward Strobel) ท่ีปรึกษา ราชการทั่วไปของไทย รว่ มเจรจากับนายวกิ เตอร์ คอลแลง เดอ ปลงั ซี ( Victor Collin de Plancy) อัครราชทตู ฝรัง่ เศสประจําไทยดว้ ย จงึ สามารถทําข้อตกลงและลงนามในหนังสอื สัญญาได้ เมือ่ วนั ที่ 23 มนี าคม พ.ศ. 2449 โดยมสี าระสาํ คญั คือ ไทยจะยกเมอื งพระตะบอง เสยี มราฐ และ ศรีโสภณใหแ้ ก่ฝรงั่ เศส ฝรั่งเศสจะยกดนิ แดนเมอื งดา่ นซ้ายและเมืองตราดกบั เกาะทงั้ หลายใตแ้ หลมสิงห์ ผชู้ ว่ ยศาสตราจารยน์ วรัตน์ บุญภลิ ะ หน้า 13
วถิ ีชีวิตพื้นถนิ่ อดุ รธานี Udon Thani’s Way of Life จนถึงเกาะกุดให้ไทย คนเอเชียในบังคบั ฝรง่ั เศส ถ้าจดทะเบยี นหลงั หนงั สอื สญั ญานี้เม่อื ทาํ ผิดต้องขึ้นศาล ไทย หนังสอื สญั ญาไทย - ฝรั่งเศส พ.ศ. 2449 ถือได้ว่าเป็นการส้นิ สดุ วกิ ฤตการณ์ ร.ศ. 112 ซ่งึ ยดื เย้อื มาเกอื บ 14 ปี ซงึ่ ในสายตาของท้ังไทยและฝรั่งเศสต่างมคี วามเหน็ ตรงกนั วา่ ฝรัง่ เศสได้มากกว่าเสยี และไทยเสยี มากกวา่ ได้ สว่ นชาวเมืองพระตะบองมปี ฏกิ ิริยาไม่พอใจกบั การทีไ่ ปอย่ภู ายใตก้ ารปกครอง ของฝรง่ั เศส แต่สําหรบั รฐั บาลไทยถอื ได้ว่ามีความรู้สกึ ปลอดภยั และมนั่ คงมากข้ึน เพราะฝรงั่ เศสได้ถอน ทหารพ้นจากผนื แผ่นดินไทย นบั ไดว้ า่ เปน็ การสนิ้ สุดของลัทธิจกั รวรรดินิยมท่เี กิดขึ้นจากฝรงั่ เศส ด้วยพระปรีชาญาณของพระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกล้าเจ้าอยู่หวั ทีท่ รงยอมเสยี สละดนิ แดน ต่างๆ เพื่อรกั ษาประเทศไว้ จงึ ทรงสละดินแดนฝงั่ ซ้ายแม่น้าํ โขงใหแ้ กฝ่ รัง่ เศสและตามสนธิสัญญา ทที่ าํ ข้นึ ระหวา่ ง 2 ประเทศ มีเงื่อนไขหา้ มประเทศสยามต้ังกองทหารและปูอมปราการอยู่ในรัศมี 25 กิโลเมตร ของฝั่งแมน่ ้าํ โขง ดังน้นั หนว่ ยทหารไทยทต่ี ั้งประจําอยทู่ เี่ มืองหนองคาย อันเปน็ เมือง ศนู ยก์ ลางของหัวเมอื ง หรือ“มณฑลลาวพวน ” ซง่ึ ภายหลงั เปลยี่ นชอ่ื เปน็ มณฑลอุดร ในขณะนนั้ กรมหลวงประจักษ์ศลิ ปาคม เมื่อยังเป็นกรมหม่นื และเปน็ เสนาบดกี ระทรวงวงั เปน็ ข้าหลวงใหญอ่ ยู่ ณ เมืองหนองคาย ซ่งึ มีกรมหมื่นประจักษศ์ ลิ ปาคมเป็นขา้ หลวงใหญส่ ําเรจ็ ราชการ จําตอ้ งอพยพ เคล่ือนย้ายลึกเขา้ มาจนถึงหมู่บ้านแห่งหน่งึ ช่ือ บา้ นเดือ่ หมากแข้ง (ซึ่งเปน็ ที่ต้งั จังหวัดอดุ รธานีปจั จบุ นั ) ห่างจากฝั่งแมน่ า้ํ โขงกว่า 50 กโิ ลเมตร เมอื่ ทรงพจิ ารณาเหน็ แลว้ ว่าหมู่บ้านแหง่ นี้มีชัยภมู ิทเี่ หมาะสม เพราะมีแหลง่ นํ้าดี เช่น หนองนาเกลือ (หนองประจกั ษ์ ปัจจบุ นั ) และหนองนํา้ อกี หลายแห่ง รวมทัง้ ห้วยหมากแข้ง ซ่งึ เป็นลําห้วยนํ้าใสไหลเย็น กรมหม่ืนประจกั ษ์ศิลปาคม ทรงบญั ชาให้ตงั้ ศูนย์ มณฑลลาวพวนและตัง้ กองทหารขน้ึ ณ หมู่บา้ นเดอื่ หมากแข้ง จึงพอเห็น ได้วา่ เมอื งอดุ รธานี น้ันได้ เกิดขน้ึ โดยบงั เอญิ เพราะเหตผุ ลทางการเมอื งระหว่างประเทศ ยิง่ กว่าเหตุผลทางการค้า การคมนาคม หรือเหตุผลอน่ื ดังเช่น หวั เมอื งสาํ คัญต่างๆ ในอดตี กรมหลวงประจกั ษศ์ ิลปาคม จัดตั้งกองบญั ชาการ มณฑลลาวพวนท่ีบ้านหมากแข้ง ในพุทธศักราช 2436 ไดท้ รงริเรมิ่ สร้างบา้ นหมากแข้งใหเ้ กิดความเจริญ จากหมู่บา้ นชนบทจนเป็นเมอื งอดุ ร ทรงเปน็ ผ้รู ิเรม่ิ ก่อต้ังเมอื งอดุ รธานี พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกล้า เจ้าอยูห่ ัว ไดม้ ีกระแสพระบรมราชโองการให้จัดต้ังเมอื งอุดรธานีขึน้ ทบ่ี า้ นหมากแขง้ เปน็ ศนู ยก์ ลางของ มณฑลอุดร ครอบคลุม จงั หวัดอดุ รธานี ขอนแก่น หนองคาย เลย หนองบวั ลําภู บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหารในสมยั นนั้ อย่ใู นการปกครองของมณฑลอุดร และตอ่ มาได้ยกฐานะเป็นจงั หวดั นบั เปน็ การก่อสรา้ งรากฐานความเจริญวฒั นาถาวรใหเ้ กดิ แก่เมอื งอุดรธานีจวบจนปัจจุบัน หน้า 14 ผูช้ ว่ ยศาสตราจารย์นวรัตน์ บญุ ภิละ
วิถีชวี ิตพนื้ ถิน่ อุดรธานี Udon Thani’s Way of Life อย่างไรกต็ ามคาํ ว่า “อุดร” มาปรากฏชื่อเมอื่ พ .ศ. 2450 (พิธตี ้ังเมืองอดุ รธานี ร.ศ. 127 ในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2450) โดยพระยาศรีสุริยราชวรานวุ ตั ร “โพธิ์ เนติโพธ์ิ” หลังการเปล่ยี นแปลง การปกครองจากระบอบสมบรู ณาญาสิทธิราชมาเปน็ ระบอบประชาธปิ ไตย เมอ่ื วนั ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 แล้วได้มกี ารปรบั ปรุงระเบยี บการบริหารราชการแผ่นดนิ ยกเลิกการปกครองระบบมณฑล ในส่วนภูมิภาคยังคงเหลอื เฉพาะจังหวัดและอาํ เภอเท่านัน้ มณฑลอุดรจงึ ถูกยุบเลิกไปเหลือเพยี งจงั หวัด \"อดุ รธานี\" เทา่ น้นั อย่างไรก็ตามอุดรธานียังคงมีหน่วยงานราชการดา้ นการปกครองของกระทรวงต่าง ๆ ทีจ่ ดั ต้งั ในสว่ นภมู ิภาคท่แี สดงเค้าโครงของศูนย์กลางการปกครองในพื้นที่อสี านตอนบน เชน่ สาํ นกั บรหิ ารการทะเบียนราษฎร์ ภาค 4 คลงั เขต 4 สรรพสามติ เขต 4 ศาล ตํารวจภธู รเขต 4 เปน็ ตน้ รูปภาพท่ี 1.7 จงั หวัดอุดรธานีในแผนที่ประเทศไทย ที่มา https://sites.google.com/site/kantimakedsing/canghwad-xudrthani-doy-baengkh ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์นวรัตน์ บญุ ภลิ ะ หน้า 15
วถิ ชี วี ิตพน้ื ถ่นิ อุดรธานี Udon Thani’s Way of Life บคุ คลสาคัญของเมืองอุดรธานี 1. พระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ พระองค์เจา้ ทองกองก้อนใหญ่ กรมหลวงประจักษศ์ ลิ ปาคม รูปภาพที่ 1.8 พลตรี พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ พระองค์เจา้ ทองกองกอ้ นใหญ่ กรมหลวงประจกั ษศ์ ิลปาคม แม่ทพั ฝุายใต้ (ฉายก่อนหนา้ ที่จะยกกองทัพไปปราบฮอ่ วันหนง่ึ ) ท่ีมา https://th.wikipedia.org/wiki พระเจา้ บรมวงศ์เธอ พระองคเ์ จา้ ทองกองกอ้ นใหญ่ กรมหลวงประจกั ษ์ศลิ ปาคม ประสตู ิวันท่ี 5 เมษายน 2399 เปน็ พระราชโอรสในพระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจ้าอยหู่ วั กบั เจา้ จอมมารดาสังวาล หมอ่ มหลวงแพรวทอง ทองใหญ่ ได้เลา่ พระประวตั ขิ องพระองค์ในหนังสอื “101 จลุ จกั รี 101 ปี จลุ จอมเกลา้ ” ไว้วา่ “การทรงงานท่ีสาํ คญั ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองคเ์ จ้าทองกองกอ้ นใหญ่ กรม หนา้ 16 ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์นวรัตน์ บุญภลิ ะ
วถิ ีชวี ิตพนื้ ถน่ิ อดุ รธานี Udon Thani’s Way of Life หลวงประจักษ์ศลิ ปาคม หรือ “กรมหลวงประจักษ์ ” คือ งานด้านความมัน่ คง ดว้ ยพระนิสยั ที่เด็ดขาด มีการตัดสนิ พระทัยเหมอื นกบั ทหาร พระองค์จึงเปรยี บเสมอื นพระหัตถ์ขวาในดา้ นการปอู งกันประเทศ ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจ้าอย่หู วั เม่อื พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจ้าอยู่หวั เสดจ็ ฯ ไปทีใ่ ดไดท้ รงพระกรณุ าให้ “กรมหลวงประจักษ์” ตามเสด็จไปด้วยเกือบทุกคร้ัง ด้วยเหตทุ ีพ่ ระพักตร์ ของทงั้ 2 พระองคค์ ลา้ ยกนั เม่ือเสด็จฯ ในสถานทที่ ่ีคาดวา่ จะมอี ันตราย บางครัง้ “กรมหลวงประจักษ์” ได้ปลอมพระองค์ เสดจ็ ไปสํารวจลว่ งหน้าเพ่อื ถวายความปลอดภยั ให้กบั พระเชษฐา “กรมหลวง ประจกั ษ์” ไม่ทรงถนัดงานด้านต่างประเทศ พระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกลา้ เจ้าอยหู่ ัว จึงทรงพระ เมตตาให้ดแู ลงานปอู งกันประเทศอยภู่ ายในประเทศ ซึ่งครง้ั แรก “กรมหลวงประจกั ษ์” ได้เป็นแม่ทพั ไป ปราบฮ่อท่อี ีสาน เมือ่ สําเรจ็ แลว้ จงึ ไดร้ บั การสถาปนาใหเ้ ป็นข้าหลวงต่างพระองค์ ปกครองมณฑล ลาวพวนบริเวณภาคอีสานตอนเหนือ เมื่อเกดิ เหตกุ ารณใ์ น ร.ศ. 112 ฝรั่งเศสได้เขา้ มายึดประเทศลาว “กรมหลวงประจกั ษ์” ได้ไปตง้ั กองทพั อย่ทู ีห่ นองคาย เพื่อต่อต้านการรุกรานของฝรงั่ เศสบริเวณแมน่ ํ้า โขง ซ่ึงฝร่ังเศสไดบ้ บี บังคับให้ประเทศไทยถอยทพั ออกมา “กรมหลวงประจักษ์ ” จงึ ได้หาทาํ เล ทเี่ หมาะสมท่ีสดุ สําหรับสร้างเมือง พระองคท์ รงเลอื กพ้ืนทเ่ี มอื งอุดรแลว้ สร้างใหเ้ ปน็ เมอื งใหญ่ พระองค์ ก็ไดช้ ื่อว่าเปน็ ผู้สรา้ งเมอื งอดุ รธานี” ในเวลาตอ่ มาทรงดาํ รงตาํ แหน่งข้าหลวงตา่ งพระองคส์ ําเรจ็ ราชการมณฑลฝุายเหนือ พ.ศ. 2436 ทรงตง้ั กองบญั ชาการมณฑลลาวพวนท่ีบ้านหมากแข้ง ทรงสรา้ งความเจริญจากหมูบ่ า้ นชนบทจนเป็น เมอื งอุดรซงึ่ ต่อมาได้ยกฐานะเป็นจงั หวดั อุดรธานี พ.ศ. 2442 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ใหเ้ ปน็ กรม หลวงประจกั ษศ์ ิลปาคม ทรงดาํ รงตาํ แหน่งเป็นผู้บัญชาการทหารเรือ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมหลวง ประจักษศ์ ลิ ปาคม สน้ิ พระชนม์ ณ วงั ตรอกสาเก เมอ่ื วันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2467 จากโรคอนั ตะ พิการ (ลาํ ไสใ้ หญ่ ) สิริพระชันษาได้ 67 ปี ผูช้ ่วยศาสตราจารยน์ วรัตน์ บญุ ภิละ หน้า 17
วิถชี วี ติ พ้นื ถิน่ อดุ รธานี Udon Thani’s Way of Life รูปภาพท่ี 1.9 ประเพณีรําบวงสรวงราํ ลึกถงึ พระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ กรมหลวงประจกั ษศ์ ิลปาคม ท่ีมา http://www.pracharkomnews.com/wp-content/uploads/รปู ปก2-212.jpg รปู ภาพท่ี 1.10 ข้าราชการพ่อค้าประชาชนรว่ มพิธรี ําลกึ ถงึ กรมหลวงประจกั ษ์ศิลปาคม หน้า 18 ผู้ชว่ ยศาสตราจารยน์ วรตั น์ บญุ ภิละ
วถิ ีชีวิตพ้ืนถ่ินอดุ รธานี Udon Thani’s Way of Life 2. พระวรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จา้ วัฒนา รูปภาพท่ี 1.11 พันเอก มหาอํามาตย์ตรี พระวงศเ์ ธอ พระองค์เจา้ วฒั นา ทีม่ า https://th.wikipedia.org/wiki พนั เอก มหาอํามาตยต์ รี พระวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จ้าวัฒนา เปน็ พระโอรสพระองค์ใหญ่ในพระเจา้ ราชวรวงศเ์ ธอ พระองค์เจ้ารองทรง กรมหมนื่ สิทธิสุขมุ การ เดิมทรงพระยศเปน็ หม่อมเจา้ และได้รบั สถาปนาเป็นพระองค์เจ้าเมื่อเสดจ็ ไปเปน็ เทศาภบิ าล ณ มณฑลอุดร ครน้ั เมอ่ื ร.ศ. 118 ตรงกับปีกุน โปรดฯ ใหก้ รมหลวงประจักษ์ศิลปาคม เสด็จกลับลงมารบั ราชการในกรงุ เทพฯ จงึ พระกรณุ าโปรดเกล้าฯ ใหพ้ ระองค์เจา้ วัฒนาเป็นตาํ แหนง่ ข้าหลวงเทศาภบิ าลมณฑลอดุ รแล้วทรงสถาปนาพระยศเลอ่ื นขน้ึ เปน็ พระองค์เจา้ เมอ่ื พระองคเ์ จา้ วฒั นารบั ราชการในตําแหนง่ สมหุ เทศาภิบาลไดท้ รงพระอตุ สาหะ จัดราชการในมณฑลนนั้ เรียบรอ้ ย และทาํ นบุ ํารงุ ผลประโยชนต์ า่ งๆ ให้เกดิ ขึ้นหลายอย่าง กอปรดว้ ย พระอัธยาศัยซง่ึ ทรงเมตตาปราณแี กค่ นทง้ั หลาย และเปน็ ทน่ี ิยมนบั ถือของบรรดาข้าราชการผใู้ หญ่ผู้นอ้ ย ตลอดจนประชาราษฎรทว่ั ทกุ จงั หวัดในมณฑล เป็นเหตุใหไ้ ดร้ บั พระราชทานเครอ่ื งราชอิสริยาภรณ์ ผูช้ ว่ ยศาสตราจารยน์ วรัตน์ บญุ ภลิ ะ หนา้ 19
วิถชี วี ติ พน้ื ถน่ิ อดุ รธานี Udon Thani’s Way of Life มงกฎุ สยามชั้นที่ 1 เม่ือเป็นตาํ แหนง่ ข้าหลวงเทศาภบิ าลอยูน่ น้ั พระองค์เจา้ วฒั นาเปน็ ข้าหลวง เทศาภบิ าลมณฑลอยู่ 6 ปี รวมเวลาไดแ้ ต่เสด็จไปรบั ราชการอยู่ในมณฑลอุดร 15 ปี ถงึ ร.ศ. 125 ตรง กบั ปีมะเมยี พ.ศ. 2449 หลังจากท่ีพระองคเ์ จ้าวัฒนาได้ออกจากตําแหน่งข้าหลวงเทศาภบิ าลแลว้ ทรงกลับลงมาสร้างวงั ตั้งตําหนักอยู่ทรี่ มิ คลองแสนแสบใกลเ้ ชงิ สะพานเฉลิมโลกในอําเภอปทมุ วัน อยู่เป็น ปกติมาหลายปจี งึ ประชวรดว้ ยพระโรคชราและสิ้นพระชนมเ์ ม่อื วนั ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2461 ปีมะเมยี สิรพิ ระชันษาได้ 71 ปี 3. พระศรสี ุริยราชวรานวุ ัตร์ (โพธ์ิ เนติโพธิ์ ) รปู ภาพที่ 1.12 พระศรสี ุริยราชวรานวุ ตั ร์ (โพธ์ิ เนตโิ พธ์ิ ) ที่มา http://www.oknation.net/blog/wut2013/2014/10/28/entry-1 หน้า 20 ผู้ชว่ ยศาสตราจารยน์ วรัตน์ บญุ ภลิ ะ
วถิ ีชีวิตพืน้ ถ่ินอุดรธานี Udon Thani’s Way of Life ในสมัยพระศรีสรุ ยิ ราชวรานุวัตร์ (โพธิ์ เนติโพธ์ิ) สมุหเทศาภบิ าล มณฑลอดุ ร ทา่ นได้กอ่ รา่ ง สร้างเมอื งอดุ รธานใี ห้มคี วามเจรญิ สืบตอ่ จาก พลตรพี ระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ กรมหลวงประจักษศ์ ลิ ปาคม และพระองค์เจา้ วัฒนานุวงศ์ เปน็ อันมาก อาทิเช่น ทา่ นไดน้ ําขา้ ราชการ พ่อคา้ ประชาชนตดั ถนน วางผงั เมอื งอุดรข้นึ ใหม่หลายสาย และท่านไดส้ รา้ งวัดข้นึ วัดหน่งึ ซง่ึ เวลาน้ันเป็นเพยี งสํานักสงฆ์ยังไม่มีช่ือ ซง่ึ สมเดจ็ พระสงั ฆราชเจ้า กรมหลวงชนิ วรสิรวิ ัฒน์ทรงประทานชื่อว่า วดั โพธิสมภรณ์ เป็นวดั ธรรมยุติ วดั แรกในจงั หวัดอุดรธานี ซ่งึ ชาวจังหวัดอดุ รธานีเรียกกนั สบื มาวา่ วดั โพธิ์ เพอ่ื ระลกึ ถงึ คณุ งามความดี ของพระยาศรสี รุ ยิ ราชวรานวุ ัตร์ (โพธ์ิ เนตโิ พธ์ิ) นอกจากนนั้ ทางด้านการศึกษาของกุลบตุ ร ไดส้ ่งเสรมิ ใหร้ าษฎรมณฑลอดุ รส่งบุตรหลานเข้าเรียนท่โี รงเรียนอุดรพทิ ยานุกลู ซ่ึงในขณะน้นั เปน็ โรงเรียนทีอ่ าศยั บริเวณของวดั มัชฌิมาวาสและต่อมาได้ขยายมาอยูบ่ ริเวณทเ่ี ป็นวทิ ยาลยั เทคนิคอดุ รธานใี นปัจจบุ ัน สําหรบั การจดั การศกึ ษาใหแ้ กก่ ุลสตรี พระยาศรีสรุ ิยราชวรานุวัตร์ (โพธ์ิ เนตโิ พธิ์) และคณุ หญิง ได้ชักชวนพอ่ คา้ ข้าราชการ และประชาชนบริจาคทรัพยต์ ามกาํ ลงั ศรทั ธาสมทบทนุ กบั รายไดข้ องมณฑล เพอ่ื สร้างโรงเรียนสําหรบั กลุ สตรหี ลังใหม่ เนื่องจากเห็นว่าโรงเรียนอปุ ถมั ภน์ ารีหลังเก่าคับแคบ ตอ่ มา ไดร้ ับพระราชทานนามจากพระบาทสมเดจ็ พระมงกุฏเกลา้ วา่ สตรีราชนิ ูทิศ เพอื่ เปน็ การระลกึ ถงึ และ บําเพ็ญพระกุศลถวาย สมเดจ็ พระนางเจา้ เสาวภาผอ่ งศรี พระบรมราชินนี าถในพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจา้ อยูห่ วั ใน พ.ศ. 2464 ในรชั กาลของพระบาทสมเด็จพระมงกฏุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ไดม้ ี พระบรมราช-โองการ โปรดเกลา้ ฯ ใหร้ วมมณฑลอดุ ร มณฑลอุบลราชธานี และมณฑลรอ้ ยเอ็ดเป็นภาค เรียกว่า ภาคอีสาน ต้งั ท่ีบญั ชาการมณฑลภาคทเ่ี มืองอุดรธานี มีเจ้าพระยามุขมนตรี (อวบ เปาวโรหิต) ดาํ รงตาํ แหน่งอปุ ราชภาคอีสาน และเป็นสมหุ เทศาภบิ าลมณฑลอดุ รอกี ตําแหน่งหน่ึงด้วย ต่อมาใน พ.ศ. 2468 ในรชั กาลพระบาทสมเดจ็ พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เนอ่ื งจากสภาพเศรษฐกิจตกต่ําทั่วโลก และ มผี ลกระทบถงึ ประเทศไทยดว้ ย จงึ ไดท้ รงประกาศยกเลกิ ภาคอสี าน และโปรดเกลา้ ฯ ใหเ้ จ้าพระยา มุขมนตรี ยา้ ยไปดํารงตําแหนง่ สมุหเทศาภบิ าลมณฑลพายพั พ.ศ. 2470 โปรดเกล้าฯ ให้พระยาอดลุ ย เดชสมยามเมศรวรภักดี (อยุ้ นาครธรรพ) เป็น สมหุ เทศาภบิ าลมณฑลอดุ ร พ.ศ. 2473 โปรดเกลา้ ฯ ให้ พระยาตรงั คภูมาภิบาล (เจมิ ปันยารชุน) เปน็ ผู้รัง้ สมหุ เทศาภบิ าลอุดรคนสดุ ท้าย ผู้ช่วยศาสตราจารยน์ วรัตน์ บญุ ภลิ ะ หนา้ 21
วถิ ีชวี ิตพ้ืนถ่ินอุดรธานี Udon Thani’s Way of Life ขอ้ มลู พน้ื ฐานเมอื งอดุ รธานี จงั หวดั อุดรธานีมพี ืน้ ที่ 11,730 .30 ตารางกโิ ลเมตร หรือประมาณ 7 ,331,438.75 ไร่ เป็น จงั หวดั ที่มพี น้ื ท่ีมากเปน็ อนั ดบั 4 ของภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ ตั้งอยทู่ ี่เสน้ รงุ้ ท่ี 17 องศาเหนอื เส้นแวง ท่ี103 องศาตะวนั ออก อย่ทู างทศิ ตะวนั ออกเฉียงเหนอื ของประเทศไทยห่างจากกรุงเทพมหานครตาม ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 ระยะทาง 564 กิโลเมตร อาณาเขตติดต่อ นายงู เลย หนองคาย สร้างคอม บ้านดุง ท่งุ ฝน นา้ โสม บ้านผอื เพ็ญ N กดุ จับ พิบูลย์รักษ์ สกลนคร เมอื ง หนองหาน หนองบัวลาภู หนองววั ซอ ก.ประจักษ์ ก่แู ก้วไชยวาน พืน้ ท่ี หนองแสงกมุ ภวาปี ศรีธาตุ วงั สามหมอ กาฬสินธ์ุ 20 อาเภอ โนนสะอาด 155 ตาบล ประชากร 1,880 หม่บู ้าน ขอนแก่น 1,529,573 คน ชาย 765,261 คน หญงิ 764,312 คน ทมี่ า : ทที่ าการปกครองจงั หวดั อดุ รธานี ณ 1 กรกฎาคม 2550 รปู ภาพท่ี1.13 แผนท่ีเมอื งอดุ รธานี จงั หวดั อุดรธานี มอี าณาเขตติดตอ่ กบั จังหวัดต่างๆ 6 จงั หวดั ดังนี้ ทิศเหนอื : ตดิ ตอ่ กบั จงั หวัดหนองคาย ทศิ ตะวนั ออก : ตดิ ตอ่ กบั จงั หวดั สกลนคร ทศิ ใต้ : ติดตอ่ กับจังหวดั ขอนแกน่ และจังหวัดกาฬสนิ ธุ์ ทศิ ตะวนั ตก : ตดิ ตอ่ กับจังหวดั หนองบวั ลําภู และจงั หวดั เลย หนา้ 22 ผูช้ ว่ ยศาสตราจารยน์ วรตั น์ บุญภิละ
วิถีชีวิตพ้ืนถน่ิ อดุ รธานี Udon Thani’s Way of Life ตราประจาเมอื งอดุ รธานี รปู ท้าวเวสสุวัณ หรือทา้ วกุเวร ประทับยืนถอื กระบอง หมายถงึ เทพผ้คู มุ้ ครองรกั ษาประจําทศิ อดุ ร จงั หวดั อุดรธานี ใช้อักษรย่อวา่ \"อด\" รปู ภาพท่ี1.14 ตราประจําจังหวัดอุดรธานี ทมี่ า https://sites.google.com/site/noobeebear/_/ ธงประจาเมอื งอดุ รธานี ลกั ษณะพนื้ ผา้ เป็นสีสม้ มีตราประจาํ จังหวดั อดุ รธานี คือ ทา้ วเวสสวุ ณั อยู่ภายใน รูปภาพท่ี1.15 ธงประจําจงั หวดั อดุ รธานี หน้า 23 ท่ีมา http://www.thaigoodview.com/files/u4567/flug.jpg ผู้ช่วยศาสตราจารยน์ วรตั น์ บุญภลิ ะ
วถิ ชี ีวิตพืน้ ถ่ินอดุ รธานี Udon Thani’s Way of Life ดอกไมป้ ระจาเมอื งอดุ รธานี ชือ่ ดอกไม้ ดอกทองกวาว Butea monospermous O.ktze ชอื่ วงศ์ PAPILIONACEAE ภาษาอีสานเรยี กว่า \"ดอกจาน\" รปู ภาพท่ี1.16 ดอกไมป้ ระจําจงั หวดั อุดรธานี ท่มี า http://www.herb-health.com/wp-content/uploads/2015/04/ทองกวาว.jpg สภาพภมู ปิ ระเทศ สภาพภมู ปิ ระเทศของจังหวดั อดุ รธานี มลี กั ษณะคล้ายผีเสอ้ื ตัวใหญ่กระพอื ปีกบิน ลกั ษณะภูมิ ประเทศท่ัวไปประกอบไปด้วยภเู ขาสงู ที่ราบล่มุ และพ้ืนที่ลูกคล่นื ลอนต้นื แบง่ ออกได้ 2 แบบ คือ 1. บรเิ วณทสี่ งู ทางทิศตะวันตกและทางทศิ ใต้ สภาพภูมิประเทศส่วนใหญเ่ ปน็ พ้ืนท่ีภเู ขาบางสว่ น เปน็ พ้ืนทลี่ กู คลื่นลอนตื้นหรอื ลอนลึก มีความสูงจากระดับน้ําทะเลประมาณ 200 เมตร สภาพภมู ิ ประเทศลักษณะนคี้ รอบคลุมพนื้ ทใ่ี นเขตอําเภอนํ้าโสม อาํ เภอหนองววั ซอ อาํ เภอโนนสะอาด อําเภอ ศรีธาตุ อําเภอวงั สามหมอ และดา้ นตะวันตกของอาํ เภอกดุ จบั และอําเภอบา้ นผอื มเี ทือกเขาสูง สลับเนนิ เต้ีย บางส่วนเปน็ พนื้ ทีล่ กู คลน่ื ลอนตน้ื สลบั พืน้ ทน่ี ามีที่ราบลุ่มอยบู่ ริเวณรมิ แม่น้าํ เช่น ลาํ นา้ํ โมง ลําปาว เปน็ ตน้ 2. บรเิ วณพื้นท่ีลกู คลืน่ ทางตะวนั ออกเฉยี งเหนือและทศิ ตะวนั ออก สภาพภูมิประเทศสว่ นใหญ่ เปน็ พ้ืนท่ีลูกคลน่ื ลอนตน้ื มที ่ดี อนสลับทน่ี า บางส่วนเปน็ เนนิ เขาเตี้ยๆ มคี วามสงู จากระดบั น้ําทะเล ปานกลางเฉล่ยี น้อยกว่า 200 เมตร สภาพภูมิประเทศนี้ครอบคลมุ พ้นื ท่ีอาํ เภอบา้ นผอื อําเภอเมือง หนา้ 24 ผชู้ ่วยศาสตราจารยน์ วรตั น์ บุญภลิ ะ
วิถชี วี ิตพ้ืนถิ่นอดุ รธานี Udon Thani’s Way of Life อาํ เภอกมุ ภวาปี อําเภอหนองแสง อาํ เภอไชยวาน อาํ เภอเพ็ญ อาํ เภอทงุ่ ฝน อาํ เภอสร้างคอม อาํ เภอ บ้านดงุ มีที่ราบลุ่มเป็นบรเิ วณใหญใ่ นเขตอาํ เภอเมืองและอาํ เภอกมุ ภวาปี ซ่ึงเป็นต้นกาํ เนดิ ลาํ นาํ้ ปาว พื้นทีล่ กู คลืน่ ดงั กลา่ วจะมีพื้นท่ีสูง ซ่ึงเป็นปาุ สงวนเดมิ ทางทศิ ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ทาง อาํ เภอบ้านดงุ นอกจากนี้ยงั มีพื้นท่ีราบลุ่มบรเิ วณแม่น้าํ ตา่ งๆ เช่น หว้ ยนา้ํ สวย ห้วยหลวง ลาํ นํา้ เพญ็ หว้ ยดาน หว้ ยไพ จานใหญ่ และแมน่ ํ้าสงคราม (ทีม่ า : สานกั งานสถิตจิ งั หวดั อดุ รธานี ข้อมลู ณ ปี 2558) ลักษณะภูมิอากาศ สภาพอากาศของเมืองอุดรธานีแบ่งออกเป็น 3 ฤดู ไดแ้ ก่ ฤดรู อ้ น ฤดูฝน และฤดูหนาว เนอ่ื งจาก เป็นท่ีราบสูง มีเทือกเขาที่ติดตอ่ กนั เปน็ แนวยาว โดยทว่ั ไปจังหวัดอุดรธานจี ะมอี ากาศรอ้ นจัด ในฤดูร้อนและหนาวจดั ในฤดูหนาว โดยอุณหภูมิสงู สดุ ในเดือนเมษายน 40.2 องศาเซลเซยี สและตํ่าสุด ในเดือนมกราคม 8 องศาเซลเซยี ส และปรมิ าณนา้ํ ฝนทั้งปีวดั ได้ 1,513.90 มิลลิเมตร (ทม่ี า : วกิ พี ิเดยี สารานุกรมเสรี ข้อมูล ณ ปี 2558) การปกครอง เมืองอดุ รธานีแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 20 อําเภอ 155 ตําบล 1,880 หมบู่ ้าน 404,064 หลังคาเรือน 403 ชมุ ชน แยกเปน็ องคก์ ารบริหารส่วนจงั หวัด 1 แหง่ เทศบาลนครอุดรธานี 1 แห่ง มี 100 ชุมชนเทศบาลเมือง 3 แห่ง/เทศบาลตําบล 49 แหง่ มี 303 ชมุ ชน และองค์การบริหารสว่ นตําบล 127 แหง่ (ทม่ี า: สํานกั ทะเบยี นกลาง กรมการปกครอง ณ 31 ธนั วาคม 2558) เชือ้ ชาติ ประชากรจงั หวดั อดุ รธานี สว่ นใหญป่ ระมาณรอ้ ยละ 95 เปน็ คนไทย มีเพยี งสว่ นนอ้ ยท่ีเปน็ ชาวตา่ งชาติท่ีสําคญั ได้แก่ คนจนี คน เวียดนาม และชาวตะวันตก จงั หวัดอุดรธานีไดจ้ ดั ตง้ั ครงั้ แรก เม่ือ พ .ศ.2436 ประชากรสว่ นใหญอ่ พยพมาจากถิ่นอ่ืนและมาต้งั หลกั แหลง่ ประชาชนทเ่ี ปน็ ชาวพนื้ เมอื งจึงแทบไม่มี จะมีแต่พวกชาวไทพวนและผู้ไท ทต่ี งั้ หลกั แหลง่ อาศัยอยู่ทีอ่ าํ เภอวังสามหมอ อําเภอศรีธาตุ ซงึ่ มีจาํ นวนไม่มาก ในปัจจบุ ันจาํ นวนประชากรจงั หวดั อดุ รธานี มีจํานวนทั้งสน้ิ จาํ นวน 1,538,940 คน (ทมี่ า: กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย, ขอ้ มูล ณ 31 ธนั วาคม 2558) การศาสนา ประชากรในจงั หวัดอุดรธานี สว่ นใหญน่ ับถือศาสนาพุทธนอกจากน้ียงั มปี ระชากรบางส่วนนับถอื ศาสนาอื่นๆ ไดแ้ ก่ ศาสนาครสิ ต์ และอสิ ลาม ผู้ชว่ ยศาสตราจารยน์ วรัตน์ บญุ ภิละ หน้า 25
วิถีชวี ิตพ้ืนถ่นิ อุดรธานี Udon Thani’s Way of Life ศิลปวัฒนธรรมและประเพณี ศิลปวฒั นธรรมของจังหวดั อดุ รธานี มดี งั น้ี 1. ศลิ ปะการละเล่นพนื้ เมืองได้แก่ หมอลาํ กลองยาว แมงตับเต่า เซิ้งปั้นหม้อ 2. พพิ ิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ 1 แหง่ 3. ศูนยว์ ฒั นธรรมจังหวัด/อาํ เภอ 3 แห่ง 4. แหลง่ โบราณสถาน 41 แหง่ 5. อุทยานประวัตศิ าสตร์ 1 แห่ง การศึกษา จงั หวัดอุดรธานีมกี ารจัดบรกิ ารทางการศกึ ษาต้งั แต่ระดับอนบุ าลถึงระดับอุดมศึกษาในปี การศกึ ษา ปี พ .ศ.2555 จงั หวัดอุดรธานีนั้น มจี าํ นวนโรงเรียนแยกตามสงั กดั 927 โรงเรียน มี มหาวทิ ยาลัย/วทิ ยาลยั เช่น -มหาวิทยาลัยราชภัฎอดุ รธานี -วทิ ยาลัยเทคนคิ อดุ รธานี -วิทยาลยั อาชีวศึกษาอดุ รธานี -วิทยาลยั พลศกึ ษาอดุ รธานี -วิทยาลัยสารพัดชา่ งอดุ รธานี -วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีอุดรฯ -วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีอุดรธานี -วทิ ยาลยั เทคนคิ กาญจนาภเิ ษกอุดรฯ -โรงเรียนอดุ รพาณชิ ยการ-ช่างกล -วทิ ยาลัยชา่ งกลอุดรธานี -โรงเรยี นโปลีเทคนิคอดุ รธานี -วิทยาลยั สันตพลอดุ รธานี -วิทยาลยั เทคโนโลยอี ีสานเหนือ -มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชธานี -วทิ ยาลัยการอาชพี บา้ นผอื -วิทยาลยั การอาชพี กมุ ภวาปี -วิทยาลยั การอาชพี หนองหาน -วิทยาลยั บริหารธรุ กิจและการท่องเท่ียว อุดรธานี การคมนาคม 1. รถยนต์ จากกรุงเทพมหานครไปตามทางหลวงหมายเลข 2 ถนนมติ รภาพผ่านจงั หวัดสระบุรี จงั หวดั นครราชสีมา จงั หวัดขอนแกน่ ถึงจังหวดั อดุ รธานี รวมระยะทางประมาณ 564 กิโลเมตร 2. รถโดยสารประจําทาง มบี รกิ ารรถโดยสารทั้งรถธรรมดาและรถปรับอากาศว่ิงระหวา่ ง กรุงเทพฯ -อุดรธานี ทุกวนั หนา้ 26 ผู้ชว่ ยศาสตราจารยน์ วรตั น์ บญุ ภลิ ะ
วิถีชีวิตพื้นถิน่ อุดรธานี Udon Thani’s Way of Life 3. รถไฟ การรถไฟแห่งประเทศไทย จัดบรกิ ารรถไฟว่ิงระหวา่ งกรงุ เทพฯ-อุดรธานี ทกุ วนั 4. เคร่ืองบนิ (อุดรธาน–ี กรงุ เทพฯ) สําหรับการเดินทางภายในจังหวัดอดุ รธานี นอกจากจะเดนิ ทางโดยรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และรถยนต์ส่วนตัว ยงั มบี ริการรถสามล้อถบี รถสามลอ้ เครอ่ื ง รถโดยสารประจําทาง และรถโดยสารสองแถว เส้นทาง คมนาคม มจี ํานวนท้ังสนิ้ 74 สายทาง แยกไดเ้ ป็น 2 สว่ น คือ 1. เสน้ ทางคมนาคมทีอ่ ยูใ่ นความรบั ผดิ ชอบของสาํ นกั งานทางหลวงชนบทจังหวัดอดุ รธานี มี โครงข่ายทางหลวงชนบททร่ี บั ผิดชอบ จาํ นวน 57 สายทาง ครอบคลมุ ทกุ อําเภอในเขตจังหวดั ระยะทาง ทุกสายรวม 950.104 กิโลเมตร ประกอบด้วย 2. เสน้ ทางคมนาคมท่อี ยูใ่ นความรบั ผิดชอบของแขวงการทางอุดรธานี มีสายทางที่รบั ผิดชอบ รวม 17 สายทาง ระยะทางรวม 711.50 กิโลเมตร ประกอบด้วย เส้นทางเช่ือมโยงระหว่างจังหวดั และประเทศเพอื่ นบา้ น 2.1. อุดรธานี – เลย 2.2. อดุ รธานี – หนองคาย – นครหลวงเวยี งจันทน์ 2.3. อุดรธานี – สกลนคร – นครพนม – เวียดนาม 2.4 อดุ รธานี – ขอนแก่น ขอ้ มลู ดา้ นเศรษฐกจิ ในปี พ.ศ.2555 สาํ นักงานคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ ไดร้ ายงานวา่ จังหวัดอดุ รธานีมผี ลติ ภัณฑ์จังหวดั (GPP) ตามราคาประจําปี 80,743ลา้ นบาท ผลติ ภัณฑ์จังหวัดเฉลี่ย ต่อหัว (Percapita GPP) 49,854 บาท เปน็ ลําดบั ท่ี 4 ของภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ รองจากจังหวดั ขอนแก่น จังหวดั นครราชสมี า และจงั หวัดเลย และเปน็ ลําดบั ที่ 58ของประเทศ สาขาทม่ี ีมูลคา่ ผลิตภณั ฑ์มากท่สี ดุ คอื การขายสง่ และการขายปลกี ฯ รองลงมาได้แก่ สาขาเกษตรกรรม ฯ และสาขา การผลิตอุตสาหกรรม ตามลําดบั จงั หวดั อดุ รธานมี รี ายไดเ้ ฉลีย่ ต่อเดอื นต่อครวั เรือน ประมาณ 16,684 บาท และรายได้ที่เปน็ ตัวเงนิ 13,361 บาทต่อเดอื นต่อครวั เรอื น ในปี 2555 จังหวดั อดุ รธานี มีจํานวน โรงงานอุตสาหกรรมทั้งสนิ้ 1,267แห่ง โดยประเภทอุตสาหกรรมที่มีการประกอบกจิ การ มากทสี่ ดุ คือ อุตสาหกรรมดา้ นการเกษตร และรองลงมาไดแ้ ก่อตุ สาหกรรมขนสง่ และผลติ ภัณฑ์อโลหะ ตามลําดับ ผูช้ ว่ ยศาสตราจารย์นวรัตน์ บุญภิละ หนา้ 27
วถิ ีชวี ติ พื้นถ่นิ อุดรธานี Udon Thani’s Way of Life เนอื่ งจากพ้ืนทสี่ ่วนใหญ่เป็นที่ราบสงู เปน็ ดินปนทรายและดินลกู รัง พืชเศรษฐกจิ ทีท่ าํ รายได้ ใหแ้ ก่จงั หวัดอดุ รธานีเป็นอันดับแรก ได้แก่ ออ้ ยโรงงาน รองลงมาไดแ้ ก่ มนั สาํ ปะหลัง และ ขา้ ว(ขา้ วนา ปี+ข้าวนาปรงั ) ตามลาํ ดบั การทอ่ งเท่ียวแห่งประเทศไทย ภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ เขต 5 จงั หวัด อดุ รธานีได้รายงานวา่ ในปี พ.ศ. 2550 มีจาํ นวนนักท่องเท่ียวทัง้ สิ้น 1,464,509 คน จํานวนนกั ทัศนาจร 618,573 คน มจี ํานวนโรงแรมทั้งสนิ้ 43 แหง่ ข้อมูลดา้ นความมัน่ คง ปัญหาอาชญากรรมเพ่มิ สงู ขึน้ โดยเฉพาะคดีเก่ยี วกับความปลอดภัยในชวี ิตและทรพั ย์สนิ ของ ประชาชนคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวญั คดีเกย่ี วกบั ชีวติ ร่างกาย และเพศ ตลอดจนคดีประทุษรา้ ย ต่อทรพั ยม์ ีแนวโน้มเพ่ิมสงู ขึน้ เชน่ กนั สําหรับปญั หายาเสพติดไม่พบวา่ จงั หวดั อุดรธานี มีผู้ค้ารายใหญอ่ ยู่ ในพ้ืนที่ แต่เป็นเส้นทางลาํ เลยี งยาเสพติดมาจากประเทศเพ่ือนบา้ นผ่านแนวตะเข็บชายแดน อย่างไรก็ ตาม จากขอ้ มูลการประเมินสถานการณข์ องศูนย์ปูองกนั และปราบปรามยาเสพติดจังหวดั อุดรธานี ปพี .ศ. 2555 พบว่า จาํ นวนผเู้ ก่ียวขอ้ งกบั ยาเสพตดิ เพิ่มขึ้นทกุ กลุ่ม ทงั้ ผู้คา้ รายย่อยผเู้ สพ ข้อมูลด้านทรัพยากรธรรมชาติและส่งิ แวดล้อม ทรัพยากรดิน ทรัพยากรดินพบวา่ ดินท่ีเปน็ ปญั หาของจังหวดั อุดรธานีมีดว้ ยกัน 3 ประเภท คือ ดินเคม็ ดนิ ทราย และดนิ ตืน้ ดินเคม็ โดยพ้ืนท่ดี นิ เค็มท้งั หมดอยใู่ นทร่ี าบครอบคลุมพนื้ ท่ี 5,561.60 ตาราง กโิ ลเมตร (3,476,000 ไร่) คดิ เป็นรอ้ ยละ 47.41 ของพน้ื ทจี่ งั หวดั ครอบคลุมพ้นื ที่ 16 อําเภอจาก ทงั้ หมด 20 อําเภอ และอําเภอท่ไี ม่มีดินเคม็ เลย ไดแ้ ก่อาํ เภอวังสามหมอ อาํ เภอน้าํ โสมและอาํ เภอนายูง พ้นื ทดี่ ินเค็ม ในจงั หวดั อุดรธานี มที ั้งหมด 6 สภาวะ ดงั นี้ 1. บรเิ วณทม่ี ีดินเค็มมาก มคี ราบเกลอื มากกว่ารอ้ ยละ 50 ของพนื้ ท่ี 2. บริเวณที่มีดนิ เค็มปานกลาง มีคราบเกลือมากกวา่ รอ้ ยละ 10 – 50 ของพ้นื ท่ี 3. บรเิ วณที่มดี ินเคม็ น้อย มคี ราบเกลอื มากกว่าร้อยละ 1 – 10 ของพน้ื ท่ี 4. บรเิ วณที่ราบต่ําทมี่ ีศกั ยเ์ ปน็ ดนิ เค็ม 5. บรเิ วณทส่ี งู ทม่ี ชี ั้นหนิ เกลืออยูช่ นั้ ล่าง 6. บริเวณทส่ี งู ทีม่ ีชั้นเกลืออย่ชู ั้นลา่ ง/บรเิ วณทีต่ ่ําที่ศกั ย์เปน็ ดนิ เคม็ หน้า 28 ผ้ชู ว่ ยศาสตราจารย์นวรัตน์ บุญภลิ ะ
วิถชี วี ติ พ้นื ถ่ินอุดรธานี Udon Thani’s Way of Life ทรพั ยากรนา้ จงั หวดั อุดรธานตี ้ังอยู่ในพื้นท่ีลมุ่ นํ้าหลัก 2 ลมุ่ นาํ้ ได้แก่ ลุ่มนํ้าชแี ละล่มุ นาํ้ โขง โดยมีรายละเอียด ดงั นี้ ลมุ่ นํ้าชี (บรเิ วณตน้ น้ําพองและตน้ ลําปาว ) ได้แก่ พืน้ ท่ีในเขต อาํ เภอกุมภวาปี อาํ เภอหนองแสง อําเภอโนนสะอาด อาํ เภอศรธี าตุ อาํ เภอวังสามหมอ ซึง่ ประกอบด้วยลุ่มนํ้ายอ่ ย ดังนี้ 1. ล่มุ น้ําปาว เกดิ จากลาํ ห้วยสาขาต่างๆ มารวมกนั ทีอ่ ําเภอหนองหาน อําเภอกุมภวาปี ไหล ผ่านอาํ เภอศรธี าตุ และอาํ เภอวงั สามหมอ ลงสูเ่ ขอ่ื นลาํ ปาว จงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ พื้นท่ลี ่มุ น้ํา ครอบคลุม อาํ เภอเมือง อาํ เภอหนองแสง อาํ เภอกมุ ภวาปี อาํ เภอประจักษ์ศลิ ปาคม อําเภอกู่แก้ว อําเภอหนองหาน อาํ เภอไชยวาน อาํ เภอศรธี าตุ อําเภอโนนสะอาด และอําเภอวงั สามหมอ 2. ลุม่ นาํ้ เสอื เตน้ เกิดจากลําห้วยสาขาของเทือกเขารอยต่อระหว่างอําเภอโนนสะอาด อาํ เภอ หนองววั ซอ จังหวดั อดุ รธานี และอาํ เภอเขาสวนกวาง จงั หวดั ขอนแก่น ไหลลงส่ลู ําหว้ ยเสือเตน้ อําเภอ โนนสะอาด และไหลลงสู่ลํานํ้าพองในเขตพน้ื ทจ่ี งั หวัดขอนแกน่ พ้ืนที่ลุ่มนา้ํ ครอบคลมุ อําเภอโนน สะอาด 3. ลุ่มน้ําโขง ได้แก่ พนื้ ทอี่ ําเภอเมือง อาํ เภอหนองววั ซอ อําเภอกดุ จับ อาํ เภอน้ําโสม อาํ เภอ บ้านผอื อําเภอนายงู อาํ เภอเพ็ญ อําเภอสร้างคอม อําเภอบา้ นดุง อําเภอหนองหาน อาํ เภอพิบูลยร์ ักษ์ อาํ เภอไชยวาน และ อําเภอฝน ประกอบดว้ ยลุ่มนํา้ ยอ่ ย ดังนี้ 3.1. ลุ่มนา้ํ โสม เกดิ จากลําหว้ ยในเขตพน้ื ทอ่ี าํ เภอน้ําโสม จงั หวัดอุดรธานี และ อําเภอ นาด้วง จงั หวดั เลย ไหลลงสลู่ ําห้วยนํา้ โสม อาํ เภอนายงู และไหลลงสูน่ ํ้าโขงในพ้ืนทจี่ ังหวดั หนองคาย 3.2 ลาํ นํ้าคะนาน ครอบคลมุ พ้นื ทีบ่ างส่วนของอําเภอนา้ํ โสม และไหลผ่านไปทางทศิ ใต้ เขา้ สจู่ งั หวัดหนองบัวลําภูพนื้ ที่ล่มุ นาํ้ 178 ตารางกโิ ลเมตร 4. ลุม่ นา้ํ โมง เกิดจากลาํ ห้วยสาขาจากเทือกเขาในเขตอาํ เภอสวุ รรณคหู า จังหวัดหนองบวั ลาํ ภู กับอาํ เภอนาดว้ ง จงั หวัดเลย ไหลรวมกันเปน็ ลําน้ําโมง ผ่านอาํ เภอสุวรรณคูหา อาํ เภอบา้ นผอื และไหล เขา้ สู่เขตพ้ืนทอี่ าํ เภอทา่ บ่อจงั หวดั หนองคาย พื้นทล่ี ่มุ นํ้าครอบคลมุ อําเภอบ้านผือ อําเภอกุดจับ 5. ลุ่มน้ําหว้ ยคกุ เกิดจากท่ีราบสงู ในเขตอําเภอบา้ นผอื ไหลไปลงแมน่ าํ้ โขงในเขตอําเภอท่าบอ่ จังหวดั หนองคาย พ้นื ที่ลมุ่ นาํ้ ครอบคลุมอําเภอบา้ น ผ้ชู ว่ ยศาสตราจารยน์ วรตั น์ บญุ ภิละ หนา้ 29
วถิ ชี ีวิตพน้ื ถนิ่ อุดรธานี Udon Thani’s Way of Life 6. ลุม่ นํ้าสวยเกิดจากลาํ หว้ ยสาขาในเขตรอยต่ออําเภอบ้านผอื อําเภอเพ็ญ และอําเภอเมอื ง จงั หวัดอุดรธานี ไหลลงส่นู ํา้ สวยผา่ นอําเภอเพ็ญและอาํ เภอเมอื ง ลงส่แู ม่นาํ้ โขง พืน้ ทล่ี ุม่ นํ้าครอบคลุม อําเภอเพญ็ อาํ เภอเมืองและอาํ เภอบา้ นผอื 7. ลุม่ น้ําหว้ ยหลวง เกดิ จากเทือกเขาในเขตอําเภอหนองวัวซอ ไหลลงสลู่ ํานา้ํ ห้วยหลวง และ ไหลลงแม่นํา้ โขง ในพื้นทีจ่ ังหวัดหนองคาย พน้ื ที่ลุม่ นาํ้ ครอบคลมุ อาํ เภอหนองววั ซอ อําเภอกดุ จับ อําเภอเมือง อาํ เภอประจกั ษศ์ ิลปาคม อําเภอหนองหาน อาํ เภอเพญ็ อําเภอทุ่งฝน อาํ เภอพิบูลย์รกั ษ์ อําเภอบา้ นดงุ และอําเภอสรา้ งคอม 8. ลุ่มนา้ํ สงคราม เกิดจากลําหว้ ยสาขาต่าง ๆ ทีไ่ หลลงจากภูเขาในเขตอําเภอวงั สามหมอ อําเภอไชยวาน และอาํ เภอส่องดาว จงั หวัดสกลนคร แมน่ า้ํ สงครามเปน็ เขตแดนกนั้ ระหวา่ งจังหวัด อุดรธานแี ละสกลนคร ไหลผา่ นจงั หวัดหนองคาย และลงสู่แมน่ า้ํ โขงท่ีจงั หวดั นครพนม พ้ืนที่ลมุ่ นา้ํ ครอบคลุม อาํ เภอไชยวาน อําเภอหนองหาน อาํ เภอทุ่งฝน อําเภอบา้ นดุง ทรพั ยากรป่าของจังหวดั อุดรธานี มปี ระมาณ 2,908,723.50 ไร่ (39%) ของพน้ื ทจี่ งั หวดั อดุ รธานีท้ังหมด มีสภาพสมบูรณ์ จาํ นวน 903,970.91 ไร่คดิ เป็นรอ้ ยละ 12.33 ของพน้ื ที่จงั หวดั ปจั จุบนั มีสภาพ เสื่อมโทรมจากการถูกทําลาย เข้าครอบครองบกุ รกุ เพอ่ื ตดั ไม้ทําลายปาุ ทาํ การเกษตรในเขตลุ่มนํ้าโมง (ปุานายูง นา้ํ โสม) สง่ ผลใหเ้ กิด อุทกภยั เปน็ ประจํา ปัญหาดินเสอื่ มสภาพจากการถูกชะลา้ ง และการเผาทําลายวัชพชื นอกจากน้ียังมี ปญั หาดินเคม็ และดินเสยี ในระดบั ตา่ งๆ จํานวน 1,111,983 ไร่ ทรพั ยากรแร่ จังหวัดอุดรธานีมีทรพั ยากรแรท่ ่ีมมี ูลค่าทางเศรษฐกจิ สูงหลายชนิด ไดแ้ ก่ 1. ถ่านหนิ ทต่ี ําบลบ้านผือ อาํ เภอบ้านผือ และตาํ บลหว้ ยทราย อาํ เภอนายูง 2. ดินขาว ในตาํ บลโนนทอง อําเภอนายงู 3. แบไรต์ ท่ตี ําบลนาแค อาํ เภอนายูง 4. ทองคํา ท่ีตาํ บลบา้ นเพม่ิ และตําบลนาแค อาํ เภอนายูง 5. โปรแตซ ทอ่ี ําเภอประจักษ์ศลิ ปาคม และอําเภอเมอื งอุดรธานี 6. เปน็ อตุ สาหกรรมชนดิ หนิ ปูน อาํ เภอนาํ้ โสม หน้า 30 ผชู้ ว่ ยศาสตราจารยน์ วรัตน์ บญุ ภิละ
วถิ ชี ีวิตพืน้ ถิ่นอดุ รธานี Udon Thani’s Way of Life ปัจจุบันมีโครงการทไี่ ดร้ ับประทานบัตรทําเหมอื งแร่ ซ่ึงกาํ ลังเปดิ ดําเนนิ การ จํานวน 3 แหง่ คือ 1. แรห่ ินอตุ สาหกรรมชนิดหนิ ปนู เพอื่ อุตสาหกรรมกอ่ สรา้ ง เปิดทาํ การอยู่ 3 แปลง ท่ตี ําบลสามัคคี อาํ เภอนํ้าโสม มีโรงโม่หิน 2 แหง่ 2. แรด่ ินขาว เปดิ ทําการอยู่ 3 แปลง ทตี่ าํ บลโนนทอง อําเภอนายงู 3. แรแ่ บไรต์ เปิดทําการอยู่ 1 แปลง ทต่ี าํ บลนาแค อําเภอนายงู การสาํ รวจแรใ่ นเขตจงั หวัดอุดรธานีมีการสาํ รวจพบแร่และดาํ เนนิ การขอประทานบตั รแลว้ ได้แก่ 1. แร่โปรแตซ ท่อี ําเภอเมอื งอุดรธานีและอําเภอประจักษ์ศิลปาคม มปี รมิ าณแร่ท่ี สาํ รวจพบแล้วประมาณ 300 ลา้ นตัน และขอประทานบัตร 4 แปลง 2. แรแ่ บไรต์ ที่อําเภอนายูง และขอประทานบตั รแล้ว 1 แปลง 3. แร่หนิ อุตสาหกรรมชนดิ หนิ ปูน (เพอ่ื อุตสาหกรรมก่อสรา้ ง) ทอี่ าํ เภอนํ้าโสม และขอ ประทานบตั รแลว้ 5 แปลง แหลง่ ก๊าซธรรมชาติ ไดม้ กี ารสาํ รวจแหล่งก๊าซธรรมชาติภฮู อ่ ม พื้นท่ีรวม 232.20 ตาราง กโิ ลเมตร ต้ังอยใู่ นพ้ืนท่ีอาํ เภอหนองแสง อําเภอหนองววั ซอ อาํ เภอโนนสะอาด จงั หวัดอดุ รธานี โดยบริษัทเอสโซอ่ ดุ ร จํากัด เปน็ ผ้ไู ด้รับสัมปทานเรม่ิ เจาะเมื่อวันท่ี 4 กุมภาพนั ธ์ – 28 มถิ นุ ายน 2526 ความลึกสุดท้าย 3,827 เมตร พบก๊าซธรรมชาติในหินปนู อตั ราการไหล 3.84 ลา้ นลูกบาศกฟ์ ุตตอ่ วัน และก๊าซธรรมชาตเิ หลว 1.5 บาร์เรลตอ่ ล้านลกู บาศก์ฟตุ สถานการณ์ด้านมลพิษสิ่งแวดล้อม จากสถติ ิปญั หาเรอ่ื งร้องเรียนดา้ นส่ิงแวดลอ้ มของสาํ นักงานทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ ม และสิง่ แวดล้อมจงั หวัดอดุ รธานี พบวา่ ปญั หามลพษิ ทางอากาศจากโรงสีข้าวและลานตากมันสําปะหลัง เปน็ เหตุร้องเรียนดา้ นสง่ิ แวดล้อมทมี่ กั จะเกดิ ขน้ึ ซา้ํ ซากเป็นประจําทกุ ปี และมกั เกิดกบั สถาน ประกอบการทเ่ี คยถกู ร้องเรยี นมากอ่ นแล้ว ท้งั น้ีปญั หาผลกระทบดงั กลา่ วส่วนใหญแ่ ลว้ เกิดจาก การจัดการส่งิ แวดล้อมภายในสถานประกอบการท้งั ในเร่อื งของการปรบั เปลย่ี นวธิ ีการผลิตและการลงทนุ ตดิ ต้ังหรอื ปรับปรงุ อุปกรณเ์ ป็นต้นดังนนั้ การแก้ไขปญั หาผลกระทบดงั กล่าวจําเปน็ ต้องใช้มาตรการจงู ใจ ในการสร้างจติ สาํ นึกและความตระหนกั แก่ผูป้ ระกอบการในการปรับปรุงสภาพแวดลอ้ มภายในสถาน ประกอบการ ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์นวรัตน์ บญุ ภิละ หนา้ 31
วถิ ชี ีวติ พ้ืนถน่ิ อุดรธานี Udon Thani’s Way of Life สถานการณด์ ้านเครือข่ายความร่วมมอื การอนรุ ักษท์ รัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม เครอื ข่ายอาสาสมัครพิทกั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมหมู่บ้านของจังหวัดอดุ รธานี ได้มกี ารจัดตั้งขน้ึ เมื่อ ปี พ.ศ.2547 โดยปัจจบุ ันน้ีมีการขยายเครอื ข่ายและสมาชิกมากกวา่ 7,000 คน อย่างไรก็ตาม ในปจั จุบันนี้มีสมาชกิ เครอื ขา่ ยฯไมค่ รอบคลุมในระดบั หมู่บา้ นและระดับตําบล ซึ่งตาม หลักการทาํ งานของเครือขา่ ยความร่วมมอื ในการจัดการสงิ่ แวดลอ้ มแล้ว การมเี ครือขา่ ยครอบคลมุ ในทกุ ระดับพืน้ ท่ีจะทาํ ให้การดําเนินการมปี ระสทิ ธภิ าพมากท่ีสุด จากการประเมินผลการดาํ เนินงานเครอื ข่าย อาสาสมคั รพิทกั ษท์ รัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อมหมู่บา้ นของจงั หวัดอดุ รธานีท่ี ผ่านมา พบว่ามี ปญั หาอุปสรรคเกี่ยวกบั การประสานงานและการดําเนนิ กจิ กรรมของเครอื ข่ายฯ ท้ังน้ี สืบเนื่องจากไมม่ ี องค์กรหรือหนว่ ยงานทท่ี าํ หน้าทป่ี ระสานงานเครือข่ายในระดบั อําเภอทําใหก้ ารดําเนินงานเครือขา่ ยขาด ความตอ่ เนื่อง ดงั นนั้ การจดั ต้ังศูนยป์ ระสานงานเครือข่ายอาสาสมัครพทิ กั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละ สง่ิ แวดล้อมหม่บู า้ นในระดบั อําเภอจงึ เป็นแนวทางหนึ่งท่ีจะสามารถชว่ ยให้การดําเนนิ งานเครือข่ายเกดิ ความคล่องตวั และเข้าถึงประชาชนไดม้ ากขึ้น วิสัยทศั นใ์ นการพัฒนาเมอื งอดุ รธานี เมืองอดุ รธานี ได้ใหค้ วามสาํ คัญในการส่งเสรมิ กระบวนการสร้างความเขม้ แข็งของชมุ ชน ในปี พ.ศ. 255 5 เมืองอุดรธานไี ด้กาํ หนดนโยบายในการดาํ เนนิ การพัฒนาให้มีคณุ ภาพและมาตรฐาน และสามารถบรู ณาการกบั การพฒั นาทีไ่ ดร้ ับการสนับสนนุ จากองค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่ และหน่วยงาน ที่เกย่ี วขอ้ งได้ โดยใช้ภาคที เี่ ปน็ หนว่ ยงานราชการและองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิ่นโดยยดึ พรบ.ลกั ษณะ ปกครองทอ้ งท่ี (ฉบับท่ี 11) พ.ศ. 2551 มาตรา 28 ตรี วรรคสาม “ให้คณะกรรมการหมู่บา้ น เป็นองค์กรหลักทรี่ บั ผิดชอบในการบูรณาการจดั ทําแผนพฒั นาหมู่บ้านและบริหารจัดการกจิ กรรม ทดี่ าํ เนินงานในหมบู่ ้าน รว่ มกับองค์กรอ่ืนๆทกุ ภาคสว่ น ” เปน็ หลกั ในการบูรณาการจดั ทาํ แผนพัฒนา หม่บู ้านและนาํ แผนพัฒนาหมู่บา้ น ท่ีจดั ทํา เป็นข้อมูลในการจัดทําคําของบประมาณของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และองค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่ จังหวดั อดุ รธานีไดบ้ ูรราการทํางานร่วมกบั หนว่ ยงานภาคีเพ่ือทาํ งานรว่ มกนั อยา่ งเปน็ รปู ธรรม ดังนี้ 1. เพอื่ นอ้ มนําพระราชดําริและแนวพระราชดาํ รัสขององค์พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู ัว ตลอดจนยดึ ถือเอาพระราชปณิธานของพระองค์มาเปน็ แนวทางในการประพฤตปิ ฏิบัตติ น เพ่ือสร้าง หนา้ 32 ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์นวรัตน์ บุญภลิ ะ
วิถชี วี ิตพน้ื ถิ่นอดุ รธานี Udon Thani’s Way of Life ประโยชน์สงู สดุ ให้กับประชาชนและส่วนรวม ตลอดจนการสรา้ งความสมานฉันทใ์ หเ้ กดิ ในสังคมไทย ผลักดันและขบั เคล่ือนให้เกดิ การแกไ้ ขปญั หาและพฒั นาหม่บู า้ น / ชุมชนให้กา้ วหนา้ และยัง่ ยนื จงั หวัด อุดรธานี จึงได้จดั ทาํ โครงการขบั เคลอื่ นแผนชุมชนอใุ ห้มคี ุณภาพ ขนึ้ และไดม้ าตรฐานตามเกณฑ์ อกี ทงั้ สามารถบรู ณาการกิจกรรม / โครงการในแผนชมุ ชนเขา้ กับแหลง่ เงนิ ทนุ ตา่ งๆ ได้ ภายใตก้ ารสนบั สนุน ส่งเสริมจากคณะกรรมการขับเคลื่อนแผนชมุ ชนระดับจงั หวดั และระดบั อาํ เภอ รวมทัง้ ทีมปฏบิ ัติการ ตําบลทกุ ตาํ บล 2. เปน็ การ เพือ่ นอ้ มนาํ พระบรมราโชวาท และพระราชดําริของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั ฯ ในเรื่องคุณธรรม การรู้รกั สามัคคี การดาํ เนนิ วิถชี วี ติ ตามแนวปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง ไปเผยแพรแ่ ละ สร้างจิตสํานกึ ให้กับประชาชนนําสกู่ ารปฏบิ ตั ใิ ห้เกดิ ผลเปน็ รูปธรรม และส่งเสรมิ กระบวนการมสี ว่ นร่วม ของประชาชนในการแกไ้ ขปญั หา และพัฒนาหมบู่ า้ น/ชมุ ชนใหก้ า้ วหน้าอยา่ งยง่ั ยนื ด้วยการพ่งึ พา ตนเองเป็นหลกั 3. เพ่ือเสริมสรา้ งศักยภาพคณะกรรมการหมูบ่ า้ น(กม.) ให้สามารถทําหนา้ ท่ีเปน็ อาสาสมคั ร ปกปูองสถาบนั (อสป.) และพฒั นากระบวนการเรียนรูร้ ว่ มกนั ของคนในชุมชนตามแนวทาง ประชาธปิ ไตย ทีม่ กี ารปฏบิ ตั ิตามเสียงข้างมาก และรับฟงั เสียงข้างนอ้ ย ยดึ หลกั กฎหมาย ความมเี หตุผล และแนวทางสันติวิธี มีความรับผิดชอบต่อส่วนรวมรว่ มกนั 4. เพ่ือพัฒนาและยกระดับคณุ ภาพของแผนชมุ ชนใหไ้ ด้มาตรฐานตามเกณฑ์ท่ีกาํ หนด สามารถ เชอื่ มโยงกบั แหลง่ เงนิ ทุนต่างๆ 5. เพือ่ ปลุกจติ สาํ นกึ และรวมกลุ่มพลังมวลชนตา่ งๆเปน็ อสป. สรา้ งความสามัคคสี มานฉนั ท์ ใหเ้ กิดขน้ึ ในชาติ โดยมีสถาบนั พระมหากษตั รเป็นศูนย์รวมยดึ เหนย่ี วจติ ใจ และคงอยู่ค่ชู าติไทยตลอดไป เมอื งอดุ รธานีกบั ศักยภาพในการพัฒนา (SWOT) จุดแขง็ (Strength) การพัฒนาการเกษตร/การส่งเสรมิ อาชพี ประชาชนมีอาชีพหลักด้านการทาํ การเกษตร ทาํ นา ทาํ ไร่ ทําสวนมีทด่ี ินเปน็ ของตนเอง มพี ชื เศรษฐกิจสําคัญ เช่น ยางพารา มนั สาํ ปะหลงั ขา้ วโพด อ้อย เปน็ ตน้ คณุ ภาพดนิ ดเี หมาะกบั การทาํ เกษตรอินทรีย์ เช่น การทํานาปี และทาํ นาปังเพ่ือผลิตข้าวทีม่ ี ชือ่ เสยี ง เชน่ ข้าวมะลหิ อมทอง เปน็ ตน้ มขี ้าวพันธุ์ดี บางพน้ื ท่ี ทํานาปลี ะ 2 คร้ัง ผชู้ ่วยศาสตราจารย์นวรัตน์ บญุ ภลิ ะ หน้า 33
วถิ ชี ีวิตพืน้ ถน่ิ อุดรธานี Udon Thani’s Way of Life ภมู ปิ ัญญาท้องถน่ิ หม่บู า้ น /ชมุ ชน มปี ราชญ์ชาวบ้านมผี ้ทู รงคณุ วุฒดิ า้ นต่างๆสามารถ ถา่ ยทอดความรไู้ ดด้ ี การพัฒนาสงั คมและคุณภาพชีวิต หมู่บ้าน / ชมุ ชน มแี ผนชมุ ชนทม่ี ีมาตรฐาน เป็นเคร่อื งมือ ในการบรหิ ารและจัดกชาุมรชน มีความสมานฉนั ทส์ ามัคคี และบรู ณาการร่วมกัน มีการแก้ไขปัญหาการแพร่ ระบาดในพ้นื ทเ่ี ปน็ ระบบและมีผลสําเร็จสูง คนชราในชมุ ชนมอี าชพี เสริมมรี ายได้ ประชาชนทกุ ระดับ ในพื้นทไ่ี ด้รับโอกาสทางการศกึ ษา วิถชี วี ติ ของคนในชมุ ชนมคี วามสมั พันธแ์ บบเครอื ญาติ การอนุรกั ษท์ รัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ้ ม มที รัพยากรธรรมชาติ ด้านแหล่งนาํ้ ทส่ี ําคญั ของภูมปิ ระเทศ คอื ลาํ น้ําปาว หว้ ยหลวง มที รัพยากรธรรมชาติและปุาไม้ท่สี มบรู ณห์ ลากหลาย เปน็ แหลง่ ต้นนํา้ หลายสาย พื้นดินมคี วามอดุ มสมบูรณ์สามารถทาํ การเพาะปลกู ไดด้ แี ละพื้นทีส่ ว่ นใหญ่ เป็นภูเขา การท่องเทยี่ ว/วฒั นธรรม มสี ถานทท่ี ่องเทยี่ วสาํ คญั หลายแห่ง เชน่ มรดกโลกบ้านเชียง มแี หล่ง วฒั นธรรมสาํ คัญหลายแห่ง เช่น วดั ปุาภกู อ้ น วดั ปาุ นาคาํ นอ้ ย คําชะโนด เป็นตน้ จดุ ออ่ น(Weaknesses) การพฒั นาการเกษตร/การสง่ เสริมอาชีพ เกษตรกรสว่ นใหญ่มปี ญั หาหนี้สนิ ทง้ั ในระบบและ นอกระบบ และความดอ้ ยประสบการณ์ ในการบรหิ ารจัดการทนุ ชมุ ชนท่เี ป็น“ตวั เงนิ ” ดนิ ขาดการ บาํ รุงรักษา ไม่มคี วามอดุ มสมบรู ณ์ทาํ ให้ผลผลติ ที่ได้จากการเกษตรเชน่ ปลูกขา้ ว ออ้ ย มนั สาํ ปะหลงั ไม่ไดผ้ ลผลิตอยา่ งเตม็ ที่ พน้ื ที่ราบส่วนใหญ่ถูกนํา้ ทว่ มขังเปน็ เวลานาน ประชาชนขาดพลงั อาํ นาจในการ ต่อรองในการตลาด และในดา้ นอืน่ ๆ แหล่งนํา้ ไม่เพยี งพอสาํ หรับทาํ การเกษตรบางจุดประสบปญั หานาํ้ ทว่ มทกุ ปี เนอื่ งจากลําหว้ ย คลอง บึง ตน้ื เขนิ ระบายนาํ้ ไม่ทนั ในชว่ งฤดูฝน การขาดเอกสารสิทธิในทีด่ นิ ทาํ กินและทอี่ ยู่อาศัย ประชาชนขาดการรวมกลุ่มในการประกอบอาชีพท้งั อาชีพหลักและอาชพี เสริม การบริหารจัดการด้านการเกษตรไม่เหมาะสม เชน่ ระบบการจดั การแหลง่ นาํ้ ไมส่ ามารถนาํ นํา้ ไปใช้ ประโยชนไ์ ดเ้ ตม็ ที่ ไม่มตี ลาดกลางในพนื้ ท่ีรองรบั ผลติ ภณั ฑ์ของเกษตรกร เช่นตลาดรับซอ้ื ผลผลติ การพฒั นาสังคมและคุณภาพชวี ิต ประชาชนไม่ใส่ใจตระหนักในการดแู ลสุขภาพ ของตนเอง และครอบครวั การจัดเวทีประชาคมเพือ่ จัดการและบริหารชุมชนยังขาดความตอ่ เนือ่ งเข้มข้นประชาชน ผู้ดอ้ ยโอกาสไม่ได้รบั การพฒั นาอย่างต่อเนื่องไมท่ ว่ั ถงึ ประชาชนไม่มคี วามปลอดภัยในชวี ิตและทรพั ย์สนิ เกิดการมว่ั สมุ ยาเสพตดิ ในวยั รุ่นและประชาชนกล่มุ เส่ยี ง การ ไม่ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง กฎระเบียบ หนา้ 34 ผชู้ ่วยศาสตราจารยน์ วรตั น์ บุญภิละ
วิถีชีวติ พื้นถิน่ อุดรธานี Udon Thani’s Way of Life ขอ้ บงั คับของชมุ ชน เกดิ ปญั หาการไมม่ งี านทาํ รายไดน้ อ้ ย หมกมุ่นในอบายมขุ การขาดเอกสารสิทธิใน ทีด่ นิ ทํากินและทอี่ ยู่อาศยั คนในหม่บู ้านไมม่ ีอาชพี เสรมิ หลงั จากการทํานา ประชาชนส่วนใหญม่ ฐี านะ ยากจน รายไดไ้ มเ่ พยี งพอต่อรายจ่าย หน้ีสนิ มาก ประชาชนวัยทํางานส่วนใหญไ่ ดร้ ับการศึกษาเพียงข้นั พืน้ ฐาน การคา้ การลงทุน สภาพถนนทใี่ ชใ้ นการคมนาคมทั้งเพ่อื สญั จรไปมาและเพอื่ การขนถา่ ยผลผลติ มีสภาพถนนทแ่ี คบ บางแห่งเป็นถนนลูกรัง ขรขุ ระไมส่ ะดวกในการเดนิ ทาง การคมนาคมไม่สะดวกใน การขนถา่ ยผลติ ผลทางการเกษตร โครงสร้างพนื้ ฐานยงั ไมเ่ พยี งพอตอ่ ประชาชนในพ้นื ท่ี การอนุรกั ษท์ รัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อม ประชาชนขาดจิตสํานึกในการอนุรกั ษ์ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อมการทาํ ลายทรพั ยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม การทอ่ งเที่ยว/วฒั นธรรม ขาดการประชาสมั พนั ธ์แหล่งทอ่ งเท่ียว ทพี่ กั ผ่อนและการบริหารจัดการท่ี มีประสิทธิภาพ ประชาชนมีคา่ นยิ มเปลี่ยนแปลงไปใช้วิถีชีวิตแบบทุนนยิ ม จนทาํ ให้วิถีชีวติ ประเพณี วฒั นธรรมอนั ดงี ามแบบด้ังเดิมของทอ้ งถิ่นถูกละเลย โอกาส ( Opportunity) โครงการพระราชดาริมีโครงการพระราชดาํ รใิ นพ้นื ท่ี เปน็ ศนู ย์การเรยี นรู้ ในการดาํ รงชีพของ ประชาชน กระแสพระราชดาํ รัส และพระราชเสาวนยี ท์ ี่มีตอ่ การอนรุ ักษท์ รพั ยากรธรรมชาติ โครงการ ตามพระราชดาํ ริ องค์กรเอกชน ใหก้ ารสนบั สนุน เชน่ โครงการอาหารกลางวนั ในโรงเรยี น มลู นิธศิ ุภนมิ ติ ด้านทนุ การศึกษา การบริหารจดั การ นโยบายรฐั บาล ยุทธศาสตรก์ ารพัฒนาจงั หวัด และยุทธศาสตรก์ ารพัฒนา อําเภอท่ีเออ้ื อํานวยต่อการพัฒนาหม่บู า้ นและชมุ ชน การมีทรพั ยากรมนุษย์ทตี่ ระหนกั รู้และเขา้ ถึงความรู้ ข้อมูลขา่ วสาร สทิ ธิทางการเมือง ระเบียบกฎหมาย ที่จาํ เป็นในการดํารงชวี ติ การมีระบบการบรหิ าร และจัดการข้อมลู เพือ่ การพัฒนาทีม่ ีประสิทธภิ าพ การพัฒนาการเกษตร สง่ เสริมใหป้ ระชาชนทําการเกษตรแบบผสมผสานส่งเสรมิ ให้ประชาชน รวมกลุ่มเพอื่ ตอ่ รองราคาผลิตผลทางการเกษตร ส่งเสรมิ ให้ประชาชนปลูกพืชเศรษฐกิจ เชน่ ยางพารา การพฒั นาสังคมและคุณภาพชวี ิต ประชาชนในพ้นื ท่ไี ด้รบั โอกาสทางการศึกษา วาระของ กฎหมายและนโยบายท่ีเน้นการกระจายอาํ นาจและมีส่วนร่วมของประชาชน ผชู้ ่วยศาสตราจารย์นวรัตน์ บุญภิละ หน้า 35
วถิ ชี วี ติ พน้ื ถนิ่ อดุ รธานี Udon Thani’s Way of Life การเสรมิ สรา้ งความเขม้ แขง็ ของหมูบ่ ้าน/ชมุ ชน ภาครัฐไดส้ นบั สนนุ วชิ าการท้ังด้าน การ ประกอบอาชีพหลกั อาชพี เสริม ใหก้ ับประชาชนอย่างตอ่ เน่ือง มงี บประมาณสนบั สนุนจากภาครัฐ ทง้ั จากองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ราชการ ในการพัฒนาทางการเกษตรและใหก้ ารลงทุน ทกุ หม่บู ้าน ไดร้ บั งบประมาณจากรัฐบาล เชน่ กองทุนหมบู่ ้านฯ กข.คจ. เอสเอ็มแอล ยุทธศาสตรอ์ ยู่ดีมสี ุขการเขา้ ถึง แหล่งทนุ ตา่ งๆ อุปสรรค(Threats) ภยั ธรรมชาติ ปญั หาภัยธรรมชาติ เช่น ภยั แล้ง อทุ กภยั วาตภยั การระบาดของศตั รพู ชื เศรษฐกิจ สภาพภูมอิ ากาศแปรปรวนทําให้มผี ลกระทบตอ่ ผลผลติ ทางการเกษตร การบรหิ ารจดั การ นโยบายในการแก้ไขปัญหาความเดอื ดรอ้ นจากการประกอบอาชีพ ไม่ สามารถบรรเทาความเดือดร้อนได้อยา่ งทั่วถงึ และครบวงจร ความผันผวนและความไมม่ ัน่ คงทางการ เมอื ง ทาํ ให้ประชาชนตืน่ ตระหนกในปญั หาต่างๆทจ่ี ะตามมา การค้าการลงทนุ ภาวะวกิ ฤติทางการเงินทางการตลาดท่ผี ันผวน ทาํ ใหเ้ กษตรกรปรบั ตวั และแก้ปญั หา ไมท่ นั ประชาชนถกู เอาเปรยี บด้านราคาสินคา้ เกษตร ขาดการต่อรองราคาสนิ คา้ และสภาพภมู ิอากาศไม่ เออ้ื อาํ นวยการประกอบอาชพี ต้นทุนในการผลติ สูงเนอ่ื งจากการผลิตองิ อยู่กับระบบทนุ นิยม การพฒั นาสงั คมและคุณภาพชวี ติ เกิดปญั หาการว่างงาน เน่อื งจากภาวะค่าครองชีพสูง และ ปญั หาการเมอื งในปจั จบุ ันการเคลื่อนย้ายแรงงานของแรงงานตา่ งด้าว (ลาว) และการยา้ ยถ่ินของ ชาวตะวนั ตกทั้งทถ่ี กู ต้องและไมถ่ ูกตอ้ งตามกฎหมาย การวิเคราะหจ์ ุดแข็ง จดุ ออ่ น โอกาส และอุปสรรคท่สี าคญั จดุ แขง็ ทส่ี าคญั จังหวดั อุดรธานีเป็นจงั หวดั ทมี่ พี ื้นที่อุดมสมบรู ณเ์ หมาะกับการทาํ การเกษตร การทาํ นาปแี ละนาปงั การทําการเกษตรอินทรีย์ เป็นแหลง่ ผลิตข้าวพันธ์ดีมีแหล่งท่องเทย่ี วทห่ี ลากหลาย เชน่ มรดกโลกบา้ นเชยี ง แหลง่ ทอ่ งเที่ยว 3 ธรรม ธรรมชาติ ธรรมมะ วัฒนธรรม กระจายอยูต่ ามอาํ เภอ ตา่ งๆ มีพืชเศรษฐกิจสําคัญทเี่ ป็นทต่ี ้องการของตลาดในระดับสากล เช่น ออ้ ย ยางพารา มนั สาํ ปะหลงั มีทรพั ยากรธรรมชาติ ด้านแหล่งนํา้ ท่สี ําคญั เชน่ ลาํ นํา้ ปาว ลาํ ห้วยหลวง โครงการสง่ เสรมิ และบาํ รงุ ห้วยหลวง เขือ่ นกุดลิงงอ้ ฯลฯ ประชาชนในพนื้ ทมี่ ที ่ีทํากนิ เปน็ ของตนเอง และใชว้ ถิ ชี วี ิตตามแนว เศรษฐกิจพอเพยี ง หนา้ 36 ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์นวรัตน์ บญุ ภิละ
วถิ ชี วี ิตพ้นื ถ่ินอุดรธานี Udon Thani’s Way of Life จุดออ่ นที่สาคญั การบรหิ ารจัดการแหล่งนา้ํ ยังไมส่ ามารถนําทรพั ยากรนํา้ ไปใช้ประโยชน์ได้ เตม็ ท่แี ละระบบชลประทานยังไม่ทว่ั ถงึ ดนิ ขาดการบาํ รุงรกั ษา ขาดความอดุ มสมบรู ณ์ทําใหผ้ ลผลติ จาก การเกษตรไม่ได้ผลเตม็ ท่ี ประชาชนสว่ นใหญม่ ีรายได้ไมเ่ พียงพอต่อรายจา่ ย เกษตรกรมีปัญหาภาวะ หนี้สินและมวี ถิ ีชวี ติ แบบทุนนยิ ม ไม่มีอาชพี เสรมิ หลังจากทําอาชีพหลัก ประชาชนบางส่วนขาด จติ สํานึกในการอนุรกั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม ปญั หาการวา่ งงาน ทาํ ใหห้ มกมนุ่ ในอบายมุข ม่ัวสุมยาเสพติดในกลุม่ เส่ยี ง การบรหิ ารจดั การชุมชนยงั ไม่เข้มแขง็ ด้อยประสบการณ์ในการบรหิ ารทุน ชมุ ชนทเี่ ป็นตวั เงิน โครงสรา้ งพืน้ ฐานยงั ไม่เพยี งพอตอ่ ความตอ้ งการของประชาชน เช่น สภาพถนนใน การคมนาคมการขนถ่ายผลติ ผลทางการเกษตรมสี ภาพคบั แคบ ขรุขระ เป็นลกู รัง ไม่สะดวกในการ เดนิ ทางและขนถ่ายผลติ ผลทางการเกษตร ประชาชนขาดการรวมกลุ่มในการประกอบอาชีพท้งั อาชีพ หลักและอาชีพเสริมทําใหข้ าดพลงั และอาํ นาจในการต่อรอง โอกาสท่สี าคญั กระแสพระราชดาํ รสั และพระราชเสาวนียท์ ่ีมีตอ่ การอนรุ กั ษ์ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อม นโยบายรฐั บาล วาระของกฎหมาย เน้นการกระจายอาํ นาจ การมี ส่วนร่วมของประชาชนและการเสรมิ สร้างความเข้มแขง็ ให้หมู่บา้ น/ชมุ ชน รัฐสนบั สนุนงบประมาณ ทั้งจากองคก์ รปกครองสว่ นท้องถน่ิ สว่ นราชการต่างๆ ในรปู แบบต่างๆเชน่ กองทุนหมบู่ ้านและชมุ ชน เมือง โครงการแก้ไขปญั หาความยากจน เอสเอ็มแอล ยุทธศาสตรอ์ ยู่ดีมสี ุข เศรษฐกิจพอเพยี งการเขา้ ถงึ แหล่งทุนได้ง่ายข้นึ โครงการตามพระราชดําริในพื้นท่ี เปน็ ศนู ยก์ ารเรยี นรู้ เป็นแบบอยา่ งในการดํารงตน ของประชาชน หน่วยงานราชการพร้อมส่งเสรมิ ให้ประชาชนทาํ การเกษตรท่เี หมาะสม การปลูกพชี เศรษฐกจิ การรวมกลุ่มเพื่อรักษาผลประโยชน์ ประชาชนได้รบั โอกาสทางการศึกษาจากสถาบนั การศกึ ษา จากภายในท่ีเข้ามาใหบ้ ริการ เช่น มหาวทิ ยาลัยราชภฏั อุดรธานีและจากภาย นอกทห่ี ลากหลาย เชน่ สถาบนั บณั ฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคาํ แหง มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม มหาวทิ ยาลยั สโุ ขทยั ธรรมมาธริ าช อปุ สรรคท่สี าคญั ตน้ ทนุ การผลิตสงู ภาวะวกิ ฤติทางการเงิน การผลิตองิ ระบบทนุ นยิ ม ภยั ธรรมชาติ สภาพภมู ิอากาศแปรปรวนสง่ ผลกระทบต่อการประกอบอาชพี เกษตรกรรมการเคลือ่ นยา้ ย แรงานตา่ งดา้ วและการย้ายถนิ่ ของชาวตะวันตกทง้ั ที่ถกู ต้องและไม่ถกู ตอ้ งตามกฎหมาย ความไมม่ น่ั คง ทางการเมอื ง ทาํ ใหป้ ระชาชนตน่ื ตระหนก สบั สน ในปญั หาตา่ งๆท่ีตามมา ประชาชนถูกเอาเปรยี บด้าน ราคาผลิตผลการเกษตร ขาดการตอ่ รองราคาสินค้า ผู้ช่วยศาสตราจารยน์ วรตั น์ บญุ ภลิ ะ หน้า 37
วิถชี ีวติ พื้นถ่นิ อุดรธานี Udon Thani’s Way of Life บทสรุป จากการวเิ คราะห์สภาวะแวดลอ้ มของจงั หวดั อุดรธานีไดป้ ระเมนิ ศกั ยภาพในปัจจุบันและโอกาส ในการพัฒนาในอนาคต ประกอบดว้ ยการวิเคราะหจ์ ดุ แขง็ จุดอ่อน โอกาสและอปุ สรรค (SWOT Analysis) รวมทั้งการวเิ คราะหร์ ว่ มกบั การเปลยี่ นแปลงของโลกปจั จบุ ัน แผนพฒั นาเศรษฐกิจแห่งชาติ นโยบายรฐั บาล ยุทธศาสตรก์ ารพฒั นาของภาคตะวันออกเฉยี งเหนือยทุ ธศาสตร์ รายสาขา และความ ตอ้ งการของประชาชนในทอ้ งถนิ่ จงั หวดั อุดรธานี จงึ ไดก้ ําหนดจุดเนน้ หรือทศิ ทางการพัฒนาจังหวดั อดุ รธานี ประกอบด้วย 6 ประเดน็ ภายใต้ศกั ยภาพการพฒั นาจังหวดั สรปุ ได้ดังน้ี 1.ดา้ นการคา้ การลงทุน จากข้อมูลเชิงปริมาณและการวเิ คราะหส์ ภาวะแวดล้อมดา้ นเศรษฐกิจ ของจังหวัดอุดรธานที งั้ ภายนอกและภายในพบวา่ การท่จี งั หวดั อุดรธานจี ะเป็นศนู ย์กลางการค้าและการ ลงทุนน้ันไมไ่ กลเกนิ เออื้ ม เพราะดว้ ยจดุ แขง็ ท่มี ีซึง่ ประกอบไปดว้ ย เส้นทางคมนาคม ส่งิ อํานวยความ สะดวกรองรบั นักลงทนุ ตลอดจนความเขม้ แข็งของภาคเอกชน(หอการคา้ และสภาอุตสาหกรรม)และยัง ได้รับการสนบั สนุนจากภาครัฐรวมทง้ั กลุม่ ประเทศเศรษฐกิจอาเซยี นดังน้นั การท่จี ังหวดั อดุ รธานีจะมุ่งสู่ วิสยั ทศั น์เป็นศูนย์กลางการค้าน้นั เป็นพันธกิจท่ีไมย่ ากนัก 2 .ดา้ นการเกษตร การทจี่ ะเป็นศูนย์กลางแหลง่ อุตสาหกรรมการเกษตรได้นัน้ ยอ่ มยากสาํ หรับ จังหวดั ทไ่ี ม่มศี ักยภาพหากจะกลา่ วถึงจงั หวัดอุดรธานีแลว้ เปน็ จงั หวัดที่มศี ักยภาพด้านการเกษตรสูง พอสมควรซ่งึ ดไู ด้จากจังหวดั อุดรธานีมปี ริมาณนาํ้ ฝนที่อย่ใู นระดับปานกลางถงึ ค่อนขา้ งมากเม่ือเทียบกบั จงั หวัดทอ่ี ยูใ่ นภาคตะวันออกเฉียงเหนือดว้ ยกันและมีพืน้ ทีท่ ีส่ ามารถปลูกพชื ทสี่ าํ คัญ ได้หลายชนดิ เช่น อ้อยโรงงานมนั สาํ ปะหลงั ขา้ ว ตลอดจนยางพาราซ่งึ เป็นพชื เศรษฐกิจทีม่ แี นวโน้มเปน็ ความต้องการของ ตลาด โลกประกอบกับจังหวัดอดุ รธานีมยี ทุ ธศาสตร์สนบั สนนุ ด้านการคา้ การลงทุนจึงทาํ ให้จังหวัด อุดรธานีสามารถเป็นศนู ย์กลางอตุ สาหกรรมการเกษตรไดไ้ ม่ไกลเกนิ ฝนั นกั 3. ด้านการท่องเท่ยี ว มรดกโลกบา้ นเชียงเป็นสถานท่ที อ่ งเที่ยวท่นี ักท่องเทย่ี วทว่ั โลกร้จู กั ดังนน้ั การทจ่ี งั หวัดอุดรธานมี แี หลง่ อารยะธรรมมีเส้นทางการคมนาคมทง้ั ทางบกและทางอากาศทีส่ ะดวกมี ผลิตภณั ฑ์ OTOP ที่มชี อ่ื เสียงมสี ่ิงอํานวยความสะดวกและท่พี ักพร้อมสําหรบั นกั ท่องเท่ยี วรวมทง้ั แหล่ง ทอ่ งเที่ยวทางธรรมชาติทมี่ ีอยู่ในจังหวัดอดุ รธานีและภายในกลุม่ จงั หวดั ภาค ตะวนั ออกเฉียงเหนอื ตอนบน1 ส่ิงท่ีกล่าวมาขา้ งต้นจะเปน็ แรงผลกั ให้จงั หวดั อดุ รธานีก้าวเขา้ สกู่ ารท่องเที่ยวเชงิ นิเวศและ ธรรมชาตไิ ด้ไมย่ ากนัก หน้า 38 ผู้ชว่ ยศาสตราจารยน์ วรัตน์ บุญภลิ ะ
วิถชี ีวิตพน้ื ถิ่นอดุ รธานี Udon Thani’s Way of Life 4. ดา้ นสังคมและคณุ ภาพชีวติ ดว้ ยศักยภาพของจังหวัดอดุ รธานถี ึงแมจ้ ะมีความขดั แยง้ ทาง การเมืองบ้างแต่ก็ทําใหป้ ระชาชนในจงั หวดั อดุ รธานมีสังคมและคณุ ภาพชีวิตที่ดี การท่จี ะทาํ ให้สงั คม จังหวดั อดุ รธานเี ปน็ สังคมที่น่าอยู่ภายใตก้ ารเปน็ ศูนยก์ ลางการคา้ และ แหลง่ อุตสาหกรรมการเกษตร สังเกตไดจ้ าก GPP จงั หวดั และGPPดา้ นการเกษตรมีแนวโนม้ สูงขึน้ นั่นหมายความว่าจังหวดั อดุ รธานีจะ เป็นเมืองนา่ อยใู่ นมุมมองท่มี กี ารลงทนุ อตุ สาหกรรมการเกษตรและการทอ่ งเทย่ี วเชงิ นเิ วศนนั้ สามารถ เปน็ จริงได้ในระยะเวลาที่ไม่ไกลมากนกั 5. ด้านทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ ม จากวสิ ยั ทศั นจ์ งั หวัด จะพบว่าจังหวัดอุดรธานี จะต้องอยูใ่ นระบบผสมผสานระหวา่ งการคา้ การลงทุน อุตสาหกรรมและระบบนเิ วศจึงมคี วามจาํ เป็น อยา่ งยิง่ ท่ีจงั หวัดอุดรธานีจะต้องนาํ จุดแข็งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาตแิ ละวัฒนธรรมและโอกาสท่ีมอี ยู่ คอื การสนับสนนุ ของภาครฐั และประชาคมโลกท่ีกาํ ลงั ตระหนักดา้ นสิง่ แวดลอ้ มตลอดจน ความ รับผดิ ชอบทางสงั คมมาขับเคลอ่ื นใหจ้ ังหวดั อดุ รธานีเป็นจังหวัดทมี่ ีการพฒั นาด้านเศรษฐกจิ และ สง่ิ แวดล้อมควบค่ไู ปด้วยกันได้อยา่ งยั่งยนื 6. ด้านการบริหารจัดการจังหวดั แบบบูรณาการ การขบั เคลือ่ นวิสัยทัศน์จังหวัดอดุ รธานดี ว้ ย ยุทธศาสตร์ดา้ นการบรหิ ารจดั การจงั หวัดแบบบูรณาการน้ันถอื วา่ จาํ เป็นอยา่ งยิ่งเพราะจงั หวัดยังมี จุดออ่ นเกยี่ วกบั ระบบฐานขอ้ มูลเพือ่ การพฒั นาจงั หวดั และการพฒั นาความรู้ของเจ้าหนา้ ท่ี เพอื่ รองรับ การบรกิ ารแบบสมยั ใหม่และให้มปี ระสิทธิภาพจงั หวดั จึงมคี วามจาํ เปน็ ที่จะตอ้ งใชย้ ทุ ธศาสตร์การ บริหารจดั การ จังหวดั แบบบรู ณาการไปขบั เคลือ่ น 5 ยุทธศาสตร์ข้างต้นใหเ้ กดิ ประสทิ ธภิ าพและ ประสทิ ธิผลเพอื่ ให้บรรลุเปาู ประสงค์และ วสิ ยั ทัศน์ภายในระยะเวลาทก่ี าํ หนด ผูช้ ว่ ยศาสตราจารย์นวรัตน์ บุญภลิ ะ หน้า 39
วถิ ีชวี ิตพนื้ ถ่นิ อดุ รธานี Udon Thani’s Way of Life คาถามทา้ ยหนว่ ยท่ี 1 1. อธิบายถงึ ประวัตคิ วามเป็นมาของเมอื งอุดรธานี 2. บอกถงึ ความเป็นมาของคาํ ขวญั จงั หวัดอดุ รธานี 3. แนะนําสถานทท่ี อ่ งเท่ยี วทส่ี าํ คัญในเมืองอดุ ร 3 แห่ง(ประวตั ิความสาํ คญั ,การเดินทาง 4. จงวเิ คราะหแ์ นวโน้มสถานการณข์ องจงั หวัดอุดรธานี ในประชาคมอาเซยี น 5. จงวิเคราะห์แนวโน้มการพัฒนาเมอื งอดุ รธานใี นกระแสโลกภิวัฒน์ หนา้ 40 ผชู้ ่วยศาสตราจารย์นวรัตน์ บญุ ภลิ ะ
วิถชี วี ิตพืน้ ถนิ่ อุดรธานี Udon Thani’s Way of Life อ้างองิ ดนัย ไชยโยธา. (2546). ประวัติศาสตร์ไทย: ยุคกรุงธนบุรีถงึ กรุงรัตนโกสนิ ทร์. สํานักพิมพโ์ อ เดยี นสโตร์. ISBN 974-276-111-6. หนา้ 67-71. ราชกจิ จานเุ บกษา,พระราชทานบําเหนจ็ ความชอบ,หน้า 263, เลม่ 4, 30 พฤศจกิ ายน 2430 อนสุ าวรยี ์ปราบฮอ่ . \"ประวตั สิ งครามปราบฮอ่ \". สถานท่สี าํ คญั ทางประวัตศิ าสตร์ อนสุ าวรยี ์ ปราบฮอ่ . สบื ค้นเมื่อ 2015-12-21. องค์การบรหิ ารสว่ นจังหวัดอดุ รธานี.(2554) . อุดรธานี :วิถชี ีวิต อารยธรรม และการพฒั นา. อดุ รธานี : สํานกั งานจงั หวดั อดุ รธานี ศาลากลางจังหวดั อดุ รธาน.ี องคก์ ารบรหิ ารส่วนจังหวดั อดุ รธานี. (2556) . 121 ปี จงั หวดั อุดรธานี . อดุ รธานี: สํานักงาน จงั หวดั อุดรธานี ศาลากลางจงั หวัดอุดรธาน.ี http://www.herb-health.com/wp-content/uploads/2015/04/ทองกวาว.jpg http://www.thaigoodview.com/files/u4567/flug.jpg(ธงประจาํ จังหวดั อดุ รธานี) https://sites.google.com/site/noobeebear/_/(ตราประจําจงั หวดั ) http://www.oknation.net/blog/wut2013/2014/10(พระยาศณีสรุ ิยราชวรานวุ ตั ร์) https://th.wikipedia.org/wiki/(พนั เอก มหาอาํ มาตยต์ รี พระวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวัฒนา) https://th.wikipedia.org/wiki(พระองคเ์ จา้ ทองกองกอ้ นใหญ่ กรมหลวงประจักษศ์ ิลปาคม) https://sites.google.com/site/kantimakedsing/canghwad-xudrthani-doy(แผนท่ี) http://www.bloggang.com/(พระองคเ์ จา้ ทองกองก้อนใหญ่ กรมหลวงประจกั ษศ์ ิลปาคม) http://www.bloggang.com/(พระองค์เจ้าคดั ณางยคุ ล กรมหลวงพิชิตปรชี ากร) https://th.wikipedia.org/wiki/(เจ้าพระยาสรุ ศกั ด์มิ นตรี (เจมิ แสง-ชโู ต) https://th.wikipedia.org(อนสุ าวรียป์ ราบฮ่อ) http://www.nongbualamphu.go.th/390/index.(ศาลพระนเรศวรทจ่ี งั หวัดหนองบัวลาํ ภ)ู http://www.udonthani.com/krom.htm (พลตรพี ระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงประจกั ษ์ ศลิ ปาคม) ผู้ชว่ ยศาสตราจารยน์ วรัตน์ บุญภิละ หนา้ 41
วถิ ีชีวติ พ้ืนถ่นิ อดุ รธานี Udon Thani’s Way of Life หนา้ 42 ผ้ชู ่วยศาสตราจารยน์ วรตั น์ บญุ ภลิ ะ
Search
Read the Text Version
- 1 - 42
Pages: