Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชุดกิจกรรม ดาวฤกษ์ 1

ชุดกิจกรรม ดาวฤกษ์ 1

Published by rutchaneewan188, 2020-06-10 01:34:35

Description: ชุดกิจกรรม ดาวฤกษ์ 1

Search

Read the Text Version

ช่อื -สกลุ : ช้นั เลขท่ี

ก คานา เอกสารชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เร่ือง ดาวฤกษ์ (STAR) รายวิชาโลก ดาราศาสตร์และอวกาศ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 จดั ทาขึน้ เพอื่ มงุ่ ส่งเสรมิ ใหผ้ ู้เรยี นไดร้ ับท้งั ความรู้ และ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ มีความมุ่งม่ันที่จะศึกษาค้นคว้าสืบเสาะหาความรู้เพ่ือรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ ผลนาไปสู่คาตอบของคาถาม มีการร่วมกันคิด ลงมือปฏิบัติจริง อันจะส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทาง การเรยี นสูงขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ประกอบด้วยชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ จานวน 5 ชดุ รวมท้ังสิน้ 10 ช่ัวโมง ดงั น้ี ชุดกิจกรรมท่ี 1 เร่ือง กาเนดิ และวิวฒั นาการของดาวฤกษ์ ชดุ กจิ กรรมท่ี 2 เรอื่ ง ความสอ่ งสวา่ ง โชติมาตร สี และอณุ หภมู ิของดาว ชุดกิจกรรมท่ี 3 เรือ่ ง ระยะห่างของดาวฤกษ์ ชุดกิจกรรมที่ 4 เร่อื ง เนบิวลา และแหล่งกาเนดิ ของดาวฤกษ์ ชุดกจิ กรรมที่ 5 เรื่อง ระบบของดาวฤกษ์ และมวลของดาวฤกษ์ สาหรบั เนื้อหาของชุดกิจกรรมการเรยี นรเู้ ล่มน้ี เป็นชุดกิจกรรมที่ 1 เร่อื ง กาเนิดและวิวัฒนาการของ ดาวฤกษ์ ใช้เวลา 2 ช่ัวโมง เพ่ือให้นักเรียนได้ศึกษาเรียนรู้อย่างเข้าใจ นาไปสู่กระบวนการเรียนรู้ท่ีมี ประสทิ ธิภาพ ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าชุดกิจกรรมการเรียนรู้เล่มน้ี จะเกิดประโยชน์ให้นักเรียนนาไปใช้ใน การเรยี นร้แู ละประสบผลสาเรจ็ ในการเรยี น และเป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมนี้ สาหรบั ครูผสู้ อนหรอื ผ้ทู ีม่ คี วามสนใจในเรอื่ งดงั กลา่ ว นางสาวรชั นีวรรณ เทียนทอง ผจู้ ดั ทา

ข สารบญั เรอื่ ง หน้า คานา..……………………………………………………………………………………………………………… ก สารบัญ…………………………………………………………………………………………………………….. ข คาแนะนาการใช้ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ สาหรบั ครู……………………………………………….. 1 แผนผังการจดั ช้นั เรียน……………………………………………………………………….………………. 2 กระบวนการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5E…………………………………………………………. 3 คาช้แี จงการใช้ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ สาหรบั นกั เรยี น………………………………………….. 4 ขน้ั ตอนการใช้ชดุ กิจกรรมสาหรบั นักเรยี น..................................................................... 5 ขอบข่ายการเรียนรู้……………………………………………………………………………………………. 6 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น.................................................................................................. 7 กระดาษคาตอบแบบทดสอบกอ่ นเรยี น………………………………………………………………… 9 กจิ กรรมการเรียนรู้ เรอื่ ง กาเนิดและววิ ัฒนาการของดาวฤกษ์………………………………… 10 1. ข้ันสร้างความสนใจ………..……………………………….……………………………..…. 10 กจิ กรรมที่ 1............................................................................................... 10 2. ขัน้ สารวจและคน้ หา.................................................................................... 11 ใบความรู้.................................................................................................... 12 กจิ กรรมท่ี 2.1............................................................................................ 15 กิจกรรมท่ี 2.2............................................................................................ 15 3. ขนั้ อธบิ ายและลงขอ้ สรุป............................................................................. 16 กิจกรรมที่ 3................................................................................................ 16 4. ขั้นขยายความรู้........................................................................................... 17 ใบความรเู้ พ่มิ เติม....................................................................................... 17 กจิ กรรมท่ี 4.1............................................................................................ 19 กิจกรรมที่ 4.2............................................................................................ 20 5. ขน้ั ประเมนิ ................................................................................................. 21 แบบฝึกเสรมิ ทกั ษะ.................................................................................... 21 แบบทดสอบหลังเรียน.................................................................................................. 22 กระดาษคาตอบแบบทดสอบหลังเรยี น……………………..………………………………….……… 24 ภาคผนวก..................................................................................................................... 25 1. เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น........................................................................ 26 2. แนวคาตอบกจิ กรรม................................................................................... 27 3. เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน ....................................................................... 31 เอกสารอ้างองิ ............................................................................................................... 32

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ เรอ่ื ง ดาวฤกษ(์ STAR) ชดุ กิจกรรมท่ี 1 เร่อื งกาเนิดและวิวัฒนาการของดาวฤกษ์ 1 คาแนะนาการใช้ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ สาหรับครู ชุดกิจกรรมน้ีใช้สาหรับประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ แบบวัฏจักรการเรยี นรู้ 5 ขั้น (5E) วิชาวิทยาศาสตร์พ้ืนฐาน (โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ) หน่วยการเรียนรู้กาเนดิ และววิ ัฒนาการของดาวฤกษ์ ซ่ึงครูต้องดาเนนิ การดงั นี้ ขั้นเตรยี มการ ครูควรเตรียมความพรอ้ มก่อนดาเนนิ การจัดการเรียนรู้ ดังน้ี 1. ศึกษารายละเอียดในคู่มอื การใช้ชุดกิจกรรมเลม่ น้ี เพ่อื ใหเ้ ขา้ ใจชัดเจน 2. ตรวจสอบความสมบูรณ์ของชดุ กจิ กรรมและอุปกรณ์การทดลองก่อนใช้งาน 3. เตรียมชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ซ่ึงประกอบด้วย แบบทดสอบก่อนเรียน ใบความรู้ ชุดกิจกรรม และแบบทดสอบหลงั เรยี น ตลอดจนอปุ กรณต์ ่างๆ ให้ครบถ้วน 4. จัดเตรยี มห้องเรยี นให้พรอ้ มและเหมาะสม 5. จดั นักเรียนเปน็ กลุ่ม 6 กลุ่ม กลุ่มละ 5-7 คน แบบคละความสามารถ ขน้ั ดาเนนิ การจัดการเรียนรู้ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ครูจะต้องจัดกิจกรรมให้ครบตามท่ีระบุไว้ในแผนการจัดการเรียนรู้ เพ่ือให้ กิจกรรมเปน็ ไปอย่างต่อเนื่องและบรรลตุ ามวัตถุประสงค์ ซึ่งครตู ้องดาเนินการดงั น้ี 1. ช้ีแจงวธิ ีการเรียนและคาแนะนาสาหรับนักเรยี น ใหน้ ักเรียนทราบก่อนเริ่มสอน 2. ใหน้ ักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรยี น 3. แจ้งจดุ ประสงค์การเรียนรู้ให้นกั เรยี นทราบ 4. ดาเนนิ การจดั กจิ กรรมการเรียนรตู้ ามแผนการจดั การเรียนรู้เพ่ือให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ การเรียนรู้ เน้อื หา และเวลาที่กาหนด 5. ขณะท่ีนักเรียนปฏบิ ัติกจิ กรรมครูคอยใหค้ าปรึกษา คาแนะนา ให้กาลังใจ ตลอดจนกระตุ้น และเปดิ โอกาสใหท้ ุกคนมีสว่ นรว่ มในกจิ กรรม ตามบทบาททีส่ มาชกิ มอบหมาย พร้อมท้ังมี การประเมินพฤติกรรมของนกั เรียนไปดว้ ย 6. เมอ่ื นักเรียนปฏบิ ัตกิ ิจกรรมครบถ้วน ใหน้ กั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน 7. ครตู รวจสอบการทากจิ กรรมของนกั เรยี นและสรปุ บทเรยี นร่วมกับนักเรยี น 8. เฉลยแบบทดสอบรายบคุ คล เพื่อใหน้ ักเรียนทราบคะแนนทันที แล้วแจง้ คะแนนใหน้ ักเรียนทราบ ความกา้ วหนา้ ขัน้ ประเมนิ ผลการจัดกิจกรรม 1. ตรวจ แบบทดสอบ ใบงาน ใบกจิ กรรม ของนักเรยี น (กรณีนกั เรียนทาแบบทดสอบหลังเรียน ไมผ่ า่ นเกณฑ์ ให้นักเรยี นกลับไปศึกษาชุดกจิ กรรมดว้ ยตนเอง แล้วทาแบบทดสอบใหม่อกี ครัง้ โดยดาวน์โหลดชดุ กิจกรรมดว้ ย Application Facebook กลุ่ม Sirin_Astronomy 2. ประเมนิ ผลการเรียนรจู้ ากแบบประเมินกจิ กรรมตา่ งๆ 3. บันทึกคะแนน บันทึกหลังการสอน ถงึ ข้อดี ข้อควรปรับปรุง ขอ้ สงั เกตต่างๆ ลงในแบบบนั ทกึ หลงั แผนการจดั การเรยี นรู้

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เรื่อง ดาวฤกษ(์ STAR) ชดุ กิจกรรมที่ 1 เรอื่ งกาเนิดและววิ ัฒนาการของดาวฤกษ์ 2 แผนผังการจดั ชน้ั เรียน การจดั การเรียนร้โู ดยใช้กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ แบบวัฏจกั รการเรียนรู้ 5 ขัน้ (5E) วชิ าวทิ ยาศาสตร์พนื้ ฐาน (โลก ดาราศาสตร์และอวกาศ) เพ่ือให้เกดิ ประสิทธิภาพ ครูควรดาเนินการ จัดแผนผังการจัดชนั้ เรยี นดงั น้ี กระดาน / จอแสดงภาพ มมุ หนงั สือ โต๊ะสอื่ การสอน โตะ๊ ครู กลุม่ ท่ี 1 กลุ่มท่ี 2 กล่มุ ท่ี 3 กลุ่มที่ 4 กลมุ่ ที่ 5 กลุ่มท่ี 6 โดยแบ่งนักเรยี นแบบคละความสามารถ เพอื่ ให้นักเรียนไดช้ ่วยเหลือกนั โดยกลุ่มท่แี บ่งกาหนดเป็น กล่มุ ถาวรตลอดหน่วยการเรียนรู้ เรื่องกาเนดิ และวิวฒั นาการของดาวฤกษ์

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เรือ่ ง ดาวฤกษ(์ STAR) ชุดกจิ กรรมท่ี 1 เรอ่ื งกาเนิดและวิวัฒนาการของดาวฤกษ์ 3 กระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5E ประกอบดว้ ยข้ันตอนท่สี าคัญ ดังแผนภาพ ขั้นที่ 2 ข้ันท่ี 1 สารวจและคน้ หา (Exploration) สรา้ งความสนใจ (Engagement) ขน้ั ที่ 5 ประเมนิ (Evaluation) ข้นั ที่ 4 ขน้ั ที่ 3 ขยายความรู้ อธิบายและลงขอ้ สรุป (Elaboration) (Explanation) ขนั้ ท่ี 1 สรา้ งความสนใจ (Engagement) การนาเข้าสู่บทเรียนด้วยเร่ืองที่สนใจ โดยครูสร้างสถานการณ์หรือเร่ืองราวท่ีน่าสนใจด้วยวิธีการท่ี หลากหลาย เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนสังเกต สร้างคาถามในสถานการณ์น้ันๆ ด้วยตัวของนักเรียนเอง ทาให้ได้ ประเด็นหรือคาถามท่สี นใจจะศึกษาอยา่ งถ่องแท้ ขั้นท่ี 2 สารวจและค้นหา (Exploration) นักเรียนวางแผนกาหนดแนวทางการสารวจตรวจสอบ ต้ังสมมติฐาน กาหนดทางเลือกที่เป็นไปได้ ลงมือปฏบิ ตั ิเพือ่ เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ขอ้ สนเทศตา่ งๆ ขน้ั ที่ 3 อธบิ ายและลงขอ้ สรุป (Explanation) นักเรียนนาข้อมลู ขอ้ สนเทศทไี่ ด้มาวิเคราะห์ แปลผล สรุปผล และนาเสนอผลทไี่ ดใ้ นรปู ตา่ งๆ ขน้ั ที่ 4 ขัน้ ขยายความรู้ (Elaboration) นักเรียนนาความรู้ท่ีสร้างข้ึนไปเชื่อมโยงกับความรู้เดิม หรือแนวคิดที่ได้ค้นคว้าเพิ่มเติม หรือข้อสรุปที่ ได้ไปใช้อธิบายสถานการณ์หรือเหตุการณ์อื่น ซึ่งก็จะช่วยให้เช่ือมโยงกับเร่ืองต่างๆ และทาให้เกิดความรู้ กวา้ งขวางขึน้ ขั้นที่ 5 ขนั้ ประเมนิ (Evaluation) ครูประเมินการเรียนรู้ด้วยกระบวนการต่างๆ ว่านักเรียนเกิดองค์ความรู้อะไร อย่างไร และมากน้อย เพยี งใด จากขนั้ นจ้ี ะนาไปสู่การนาความรู้ไปใช้อธบิ ายหรอื ประยุกต์ใชก้ บั เหตุการณ์หรือเรื่องอ่ืนๆ

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เรอ่ื ง ดาวฤกษ(์ STAR) ชุดกจิ กรรมท่ี 1 เรือ่ งกาเนิดและววิ ัฒนาการของดาวฤกษ์ 4 คาชแี้ จงในการศกึ ษาชุดกิจกรรมสาหรับนักเรยี น ให้นกั เรยี นปฏิบตั กิ จิ กรรมตามขั้นตอน ดงั น้ี 1. ศกึ ษาจุดประสงค์การเรียนรู้ประจาชุดกิจกรรม 2. ทาแบบทดสอบก่อนเรยี น 3. ปฏิบตั ิกจิ กรรมตามข้นั ตอนในชุดกจิ กรรม ซึ่งมขี น้ั ตอนดังน้ี 3.1 ขน้ั สร้างความสนใจ เป็นข้ันของการนาเข้าสู่บทเรียนซ่ึงทาให้ผเู้ รียนสนใจในกจิ กรรม 3.2 ขน้ั สารวจและคน้ หา เป็นข้ันท่ีผู้เรียนได้ดาเนินกิจกรรมต่างๆ ในการสารวจ ค้นหาและ สร้างแนวคิดของตนเอง ด้วยการลงมือทากิจกรรม ศึกษาจากใบความรู้ สื่อการเรียนรู้ และแหลง่ เรยี นรูต้ ่างๆ 3.3 ข้ันอภิปรายและลงข้อสรุป เป็นข้ันที่ได้จากการสารวจและค้นหา แล้วสามารถกาหนด ความคิดรวบยอด และประมวลความรู้เพ่ือถ่ายทอดไปยังผู้อ่ืนได้ โดยการทาใบกิจกรรม เพม่ิ เตมิ เสริมความรู้ 3.4 ขั้นขยายความรู้ เป็นขั้นท่ีได้จากการอภิปรายและลงข้อสรุป ซึ่งผู้เรียนได้ดาเนินการ มาแล้ว รวมทั้งความรู้เพ่ิมเติมจากการศึกษาใบความรู้ การทาใบกิจกรรม แล้วสามารถ นาความรูไ้ ปประยุกตใ์ ช้ในสถานการณอ์ ืน่ ได้ ด้วยการทากจิ กรรมเสรมิ ทกั ษะการเรียนรู้ 3.5 ข้ันประเมินผล ข้ันน้ีเป็นขั้นตอนท่ีสาคัญ เนื่องจากนักเรียนจะได้รับผลสะท้อนย้อนกลับ ทาให้สามารถประเมินความเข้าใจของตนเองดว้ ยการทาแบบทดสอบหลังเรียน 4. หากมีข้อสงสัยระหวา่ งการทากิจกรรมการเรยี นรูใ้ หร้ ีบปรึกษาครผู สู้ อนทนั ที 5. เม่ือปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ ตามใบกิจกรรมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ตรวจสอบคาตอบได้จากเฉลย ใบกิจกรรมในภาคผนวกตอนทา้ ยของชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ 6. ทาแบบทดสอบหลงั เรียน 7. สาหรับนกั เรยี นที่ต้องการทบทวนบทเรียนนอกเวลาเรยี นสามารถศึกษาผา่ นช่องทาง Application Facebook กลุ่ม Sirin_Astronomy โดยสามารถดาวนโ์ หลดชุดกิจกรรมเพ่ือไปศึกษานอก เวลาได้

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เร่อื ง ดาวฤกษ(์ STAR) ชุดกจิ กรรมท่ี 1 เรอ่ื งกาเนิดและววิ ฒั นาการของดาวฤกษ์ 5 ขัน้ ตอนการใชช้ ดุ กจิ กรรมสาหรบั นักเรยี น อ่านคาชแ้ี จง และศกึ ษาจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ศึกษา/ดาวน์โหลด ทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน ชดุ กิจกรรมผ่านทาง ปฏบิ ตั ติ ามขัน้ ตอน 5E ในชดุ กจิ กรรม Application Facebook ทาแบบทดสอบหลังเรียน กลมุ่ Sirin_Astronomy ตรวจสอบความถูกต้องของคาตอบ สรุปผลการทากิจกรรม (ผ่าน/ไมผ่ า่ น) ไมผ่ า่ น รอ้ ยละ 80 ผา่ น รอ้ ยละ 80 (ทากิจกรรมชุดต่อไป)

ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ เรื่อง ดาวฤกษ(์ STAR) ชุดกิจกรรมท่ี 1 เร่ืองกาเนดิ และวิวัฒนาการของดาวฤกษ์ 6 ขอบข่ายการเรยี นรู้ ชดุ กจิ กรรมที่ 1 เรอ่ื ง กาเนดิ และววิ ฒั นาการของดาวฤกษ์ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 7.1 เข้าใจวิวัฒนาการของระบบสุริยะ กาแล็กซีและเอกภพ การปฏิสัมพันธ์ภายในระบบ สุริยะและผลต่อสิ่งมีชีวิตบนโลก มีกระบวนการสืบเสาะ หาความรู้และจิตวิทยาศาสตร์ การส่ือสารส่ิง ท่เี รียนรู้และนาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ ตวั ชี้วัด ว 7.1 ม.4-6/2 สืบคน้ และอธิบายธรรมชาตแิ ละวิวัฒนาการของดาวฤกษ์ สาระสาคัญ ดาวฤกษ เป็นก้อนแก๊สร้อนขนาดใหญ่ กาเนิดมาจากเนบิวลา ท่ีมีองค์ประกอบส่วนใหญ่เป็น ธาตไุ ฮโดรเจน ท่ีแกนกลางของดาวฤกษจ์ ะเกดิ ปฏกิ ิริยาเทอรโมนิวเคลียร์แบบฟิวชัน หลอมนิวเคลียสของ ไฮโดรเจน 4 นิวเคลยี ส เป็นนิวเคลียสของฮเี ลยี ม 1 นวิ เคลียสและไดพ้ ลังงานออกมา สาระการเรยี นรู้ สาระสาคญั 1. กาเนิดของดาวฤกษ์ 2. ววิ ัฒนาการของดาวฤกษ์ เชน่ ดวงอาทติ ย์ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระสาคัญ 1. อธบิ ายขั้นตอนการเกิดของดาวฤกษ์ได้ (K) 2. อธิบายวิวฒั นาการของดาวฤกษ์ได้ (K) 3. เขยี นแผนผงั มโนทศั น์สรปุ ความรู้เก่ยี วกบั กาเนดิ และวิวัฒนาการของดาวฤกษ์ได้ (P) 4. ซือ่ สัตยส์ จุ รติ มีวนิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งมัน่ ในการทางาน (A)

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ดาวฤกษ(์ STAR) ชุดกจิ กรรมท่ี 1 เร่ืองกาเนิดและวิวัฒนาการของดาวฤกษ์ 7 แบบทดสอบก่อนเรียน ชุดกจิ กรรมท่ี 1 เรือ่ ง กาเนิดและวิวัฒนาการของดาวฤกษ์ คาชแี้ จง 1. ขอ้ สอบเปน็ ข้อสอบปรนยั 4 ตัวเลือก จานวน 10 ข้อ คะแนนเตม็ 10 คะแนน สาระสาคัญ มีเวลาทาข้อสอบ 10 นาที 2. ใหน้ กั เรยี นเลือกคาตอบที่ถกู ทส่ี ุดเพยี งขอ้ เดยี ว แลว้ ทาเครือ่ งหมายกากบาท (X) ลงใน ช่องกระดาษคาตอบทตี่ ้องการ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. ดาวฤกษแ์ ต่ละดวงเหมือนกนั ในเร่ืองใด ก. มวล ข. อุณหภูมผิ วิ ค. สแี ละความสวา่ ง ง. พลังงานในตวั เอง 2. ดาวฤกษ์กอ่ นเกิด มีลักษณะอย่างไร ก. อุณหภมู ิแก่นกลางสงู กว่าขอบนอกหลายแสนองศาเซลเซียส ข. อุณหภูมิขอบนอกสูงกว่าแก่นกลางหลายแสนองศาเซลเซียส ค. ความดนั ของแกส๊ ลดลง ง. แรงโนม้ ถ่วงลดลง 3. ขอ้ ใดกล่าวถูกต้องเกยี่ วกับการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเทอร์โมนิวเคลียร์ในดวงอาทติ ย์ ก. หลอมนวิ เคลียสของฮเี ลียมเป็นนวิ เคลยี สของไฮโดรเจน ข. หลอมนวิ เคลียสของไฮโดรเจนเปน็ นวิ เคลียสของฮเี ลียม ค. ระเบิดอะตอมของฮีเลียมให้แตกตัว ง. ระเบดิ อะตอมของคารบ์ อนให้แตกตัว 4. เนบวิ ลา มีลักษณะอย่างไร ก. กลุ่มของดาวฤกษ์ ข. กลุม่ ของดาวหาง ค. กลมุ่ ของฝนุ่ และแก๊ส ง. กลุ่มของดาวเคราะห์ 5. พลังงานของดาวฤกษ์เกดิ จากปฏกิ ริ ยิ าใด ก. ปฏกิ ริ ิยานิวเคลยี ร์ฟิชชนั ข. ปฏิกิริยานวิ เคลยี รฟ์ ิวชัน ค. การเผาไหม้อย่างต่อเน่ือง ง. การระเบดิ อยา่ งต่อเนื่อง

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เร่ือง ดาวฤกษ(์ STAR) ชดุ กจิ กรรมท่ี 1 เรือ่ งกาเนดิ และววิ ฒั นาการของดาวฤกษ์ 8 6. ดาวฤกษท์ ี่มีมวลสาร 0.08 – 9 เทา่ ของดวงอาทติ ย์ และจบชีวติ โดยกลายเป็นดาวในขอ้ ใด ก. ดาวนิวตรอน ข. ดาวแคระนา้ ตาล ค. ดาวแคระขาว ง. หลุมดา 7. การระเบดิ อยา่ งรุนแรงของดาวยักษ์แดงเรียกวา่ อะไร ก. หลมุ ดา ข. ลมสรุ ยิ ะ ค. ซเู ปอรโ์ นวา ง. ปฏกิ ริ ยิ าเทอร์โมนิวเคลยี ร์ 8. ขอ้ ใดกล่าวถูกต้อง ก. ดวงอาทติ ยจ์ ดั เปน็ ดาวฤกษ์ท่ีมีมวลมาก ข. ดาวฤกษเ์ กิดจากการยุบตวั ของหลมุ ดา ค. ดาวฤกษ์ที่มีมวลมากจะมชี ว่ งชวี ิตทย่ี าวกว่าดาวฤกษ์ที่มีมวลน้อย ง. จุดจบของดาวฤกษ์ท่ีมีมวลมาก คอื การระเบิดอยา่ งรนุ แรงท่ีเรยี กว่า ซเู ปอร์โนวา 9. ในววิ ัฒนาการของดาวฤกษ์ ชว่ งเวลาในข้อใดมีอตั ราการใชเ้ ชอื้ เพลิงมากทส่ี ุด ก. ดาวยักษแ์ ดง ข. ดาวแคระขาว ค. ดาวแคระดา ง. เนบิวลา 10. ข้อสรุปใดไม่ถูกต้อง ก. ดาวฤกษ์จะอยู่ในช่วงทเ่ี ป็นดาวยกั ษแ์ ดงไมย่ าวนาน ข. เนบิวลาดาวเคราะหค์ ือเนบิวลาท่ีปกคลุมดาวเคราะห์ ค. ดาวแคระขาวเป็นดาวท่ียังมีพลงั งานและแสงสวา่ งในตวั เอง ง. ดาวฤกษ์ทมี่ ีมวลน้อยจะมีชว่ งชวี ิตทีย่ าวนานกว่าดาวฤกษ์มวลมาก

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ เรอ่ื ง ดาวฤกษ(์ STAR) ชุดกิจกรรมท่ี 1 เร่ืองกาเนดิ และวิวัฒนาการของดาวฤกษ์ 9 กระดาษคาตอบ สาหรบั แบบทดสอบกอ่ นเรียน ชุดกจิ กรรมที่ 1 เรื่อง กาเนิดและวิวัฒนาการของดาวฤกษ์ ชอ่ื -สกลุ ............................................................................ช้ัน.............เลขที่........ ข้อ ก ข ค ง A B C D 1 ผลคะแนน 2 3 4 5 6 7 8 9 10

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ดาวฤกษ(์ STAR) ชดุ กิจกรรมท่ี 1 เรือ่ งกาเนิดและวิวฒั นาการของดาวฤกษ์ 10 กจิ กรรมการเรียนรู้ เรอื่ ง กาเนดิ และวิวัฒนาการของดาวฤกษ์ ขน้ั ที่ 1 สรา้ งความสนใจ (Engagement) คาชแี้ จง : ให้นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ปฏิบตั ิกจิ กรรมที่ 1 ใชเ้ วลา 10 นาที กจิ กรรมที่ 1 1. ใช้แว่นขยายสารวจภาพท่ี 1.1 ภาพแสดงดาวฤกษ์บริเวณกลุ่มดาวกางเขนใต้(กลางภาพ) และข้างเคียง ดาวฤกษ์ดวงสว่างท่ีสุดในภาพ คือ ดาวดวงสว่างซ้ายมือสุด ชื่อ แอลฟาเซนเทารี ซ่ึงเป็นดาวฤกษ์ท่ีอยู่ใกล้ ระบบสรุ ยิ ะที่สุด สังเกตและบรรยายลักษณะของกลุม่ ดาวท่เี ห็น 2. ให้นักเรียนสังเกตกลุ่มดาวกางเขนใต้จากโปรแกรม Stellarium ดังภาพที่ 1.2 ภาพแสดงดาวกางเขนใต้ แลว้ เปรียบเทยี บกบั ภาพที่ 1.1 ภาพที่ 1.1 ดาวฤกษบ์ ริเวณกลุ่มดาวกางเขนใต(้ กลางภาพ) ภาพที่ 1.2 ดาวกางเขนใต้ ท่ีมา : สสวท. (2554) ท่ีมา : โปรแกรม Stellarium 1. สังเกตและบรรยายลักษณะของกลมุ่ ดาวทเ่ี ห็นในภาพที่ 1.1 ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... 2. จากการสังเกตดาวฤกษ์บรเิ วณกล่มุ ดาวกางเขนใต้ ภาพที่ 1.1 และเปรียบเทียบกบั ภาพท่ี 1.2 นกั เรียนคดิ วา่ ดาวฤกษด์ วงใดมคี วามสวา่ งมากทส่ี ุด ......................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ......................

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ เรอ่ื ง ดาวฤกษ(์ STAR) ชดุ กิจกรรมท่ี 1 เร่ืองกาเนิดและวิวฒั นาการของดาวฤกษ์ 11 ข้นั ท่ี 2 สารวจและคน้ หา (Exploration) คาชี้แจง : นักเรียนปฏบิ ัติกิจกรรมตามขนั้ ตอน ดังน้ี 1. แบง่ กลุ่มแบบคละความสามารถออกเปน็ 6 กลุ่ม กลุ่มละ 5-7 คน 2. ศกึ ษาวดิ โี อเกย่ี วกับกาเนิดและววิ ัฒนาการของดาวฤกษ์ 10 นาที 3. ศกึ ษาใบความรู้ เรื่อง กาเนิดและววิ ฒั นาการของดาวฤกษ์ 10 นาที 4. ทากจิ กรรมท่ี 2.1 และกจิ กรรมท่ี 2.2 เขียนแผนผังมโนทศั นส์ รปุ เรอ่ื ง กาเนิดและวิวัฒนาการของ ดาวฤกษ์ที่มมี วลต่างกัน ในเวลา 10 นาที วดิ โี อ กาเนดิ และววิ ัฒนาการของดาวฤกษ์ นักเรียนสามารถศกึ ษาวดิ ีโอเกยี่ วกับกาเนดิ และวิวัฒนาการของดาวฤกษ์ ได้ 2 วธิ ี ดงั น้ี 1. ผา่ นทาง Facebook กล่มุ Sirin_Astronomy เลือกวดิ ีโอ เลอื กชมวดิ ีโอเร่ืองกาเนดิ และ วิวฒั นาการของดาวฤกษ์ 2. ผา่ นทาง Youtube โดยดูต้ังแตเ่ ริม่ ตน้ จนจบวดิ โี อ ภาพท่ี 1.3 ตัวอยา่ งวิดโี อเรื่องกาเนดิ และววิ ฒั นาการของดาวฤกษ์ ทีม่ า : https://www.youtube.com/watch?v=t7MnrQ-ZKIk&t=24s

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เร่อื ง ดาวฤกษ(์ STAR) ชุดกจิ กรรมท่ี 1 เร่อื งกาเนดิ และวิวัฒนาการของดาวฤกษ์ 12 ใบความรู้ เรื่อง กาเนิดและวิวัฒนาการของดาวฤกษ์ ดาวฤกษ์ เมอ่ื เราแหงนหนา้ มองท้องฟา้ ในคืนที่ไม่มีเมฆมาบดบัง จะสังเกตเห็นดวงดาวจานวนมากมาย หากลอง สังเกตดวงดาวเหล่าน้ันให้ดี แล้วจะพบกับความประหลาดใจว่า ดวงดาวที่เห็นบนท้องฟ้าส่วนใหญ่จะเรียงกัน เป็นรูปร่างที่ไม่เปล่ียนแปลง แต่ก็ยังมีดวงดาวเพียง 5 ดวงเท่านั้นท่ีเปลี่ยนตาแหน่งเทียบกับดาวที่เรียงเป็ น รปู ร่าง ดวงดาวทเ่ี รียงเป็นรูปร่างน้นั คอื ดาวฤกษ์ สว่ นดวงดาวที่เคล่อื นท่ี คอื ดาวเคราะห์ ดวงอาทิตย์เป็นดาวฤกษ์ดวงหน่ึงท่ีอยู่ใกล้โลกที่สุด และปรากฏสว่างท่ีสุด จึงมองเห็นดวงอาทิตย์ ปรากฏเป็นดวงกลมโต ในขณะท่ีเห็นดาวฤกษ์เป็นจุดสว่างเพราะอยู่ไกลมากกว่าดวงอาทิตย์หลายแสนหลาย ล้านเท่า แสงจากดาวฤกษ์เหล่าน้ีเข้าตาเราในลักษณะท่ีเป็นเส้นแสงเล็กๆ แต่เน่ืองจากบรรยากาศโลก แปรปรวน เส้นแสงดาวฤกษ์นีจ้ ะหักเหไปมาทาให้เห็นเป็นการกะพริบของดาว ดาวฤกษ์จึงปรากฏกระพริบแสง ส่วนดาวเคราะห์อยู่ใกล้โลกมากกว่าดาวฤกษ์มาก จึงทาให้แสงสะท้อนที่ผ่านบรรยากาศโลกมีลักษณะเป็น ลาแสงสะทอ้ นซ่งึ ประกอบดว้ ยเสน้ แสงจานวนมาก ผู้สงั เกตไม่สามารถสังเกตการณ์หักเหแสงภายในลาแสงจาก ดาวเคราะห์ได้ ดังน้ันผู้สังเกตบนโลกจึงไม่เห็นว่าดาวเคราะห์ดวงน้ันกะพริบ ยกเว้นขณะท่ีดาวเคราะห์อยู่ใกล้ ขอบฟ้าและปรากฏริบหร่ี ดาวฤกษ์ คือ ก้อนแก๊สร้อนขนาดใหญ่มีองค์ประกอบส่วนใหญ่ประมาณ 99% เป็นธาตุไฮโดรเจน รองลงมาคือธาตุฮีเลียมรวมตัวอยู่ในสภาวะสมดุลระหว่างแรงโน้มถ่วงท่ีมีทิศทางเข้าสู่ศูนย์กลางกับแรงดันของ แก๊สในทิศทางตรงกันข้าม ดาวฤกษ์ทุกดวงมีสมบัติท่ีเหมือนกันอยู่ 2 ประการ คือ สามารถสร้างพลังงานได้ ด้วยตนเองและมีวิวัฒนาการ การวิวัฒนาการของดาวฤกษ์จะทาให้เกิดธาตุหนักหลายชนิด เช่น ธาตุฮีเลียม ลิเทียม เบริลเลียม ส่วนธาตุท่ีมีนิวเคลียสขนาดใหญ่ เช่น เหล็ก ทองคา ยูเรเนียม จะเกิดจากวิวัฒนาการของ ดาวฤกษท์ ี่มีมวลมากกว่าดวงอาทิตย์มากๆ เท่านั้น ภาพท่ี 1.4 ภาพของดาวแอลฟาเซนเทารี(ดาวทางซ้ายมือ) และพรอกซิมา เซนเทารี (ดาวในวงกลมขวาลา่ งของภาพ) ซ่งึ เป็นดาวฤกษ์ท่ีอยู่ใกลร้ ะบบสุรยิ ะที่สดุ (ทมี่ า : https://abenteuer-astronomie.de/exoplanet-beim-sonnennaechsten-stern- proxima-centauri-wir-wissen/)

ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ เรอ่ื ง ดาวฤกษ(์ STAR) ชดุ กจิ กรรมท่ี 1 เรื่องกาเนดิ และวิวฒั นาการของดาวฤกษ์ 13 แม้จะมีความเหมือนกันใน 2 เรื่องดังกลา่ ว แต่ดาวฤกษ์ยังมีความแตกต่างกันในหลายเรือ่ งตอ่ ไปน้ี คือ การสร้างธาตุ ระบบของดาวฤกษ์ ขนาด มวล อุณหภูมผิ ิว สเปกตรมั หรือสีของดาวฤกษ์ องค์ประกอบทางเคมี ระยะห่าง และความส่องสวา่ ง วิวฒั นาการของดาวฤกษ์ ดาวฤกษ์ท้ังหลายเกิดจากการยุบรวมตัวของเนบิวลาซึ่งกลายเป็น ดาวฤกษ์ก่อนเกิด (protostar) การท่โี ปรโตสตาร์ยุบตัวลงอยา่ งต่อเน่ืองทาให้เกดิ ผลดังน้ี คือ (1)โปรโตสตารม์ ขี นาดเลก็ ลง โดยมี (2) แกนกลาง ทรี่ อ้ นและเรืองแสงสว่างมากขึน้ และ (3)โปรโตสตาร์เร่มิ หมุนรอบตัวเอง และกลายเป็นดาวฤกษ์ในที่สุด สมบัติ และกระบวนการในการววิ ัฒนาการของดาวฤกษจ์ ะขึน้ อยู่กบั มวลของดาวฤกษ์กอ่ นเกดิ ดังภาพที่ 1.5 ดาวฤกษ์ที่มีมวลน้อย แสงสว่างไม่มาก จะใช้เชื้อเพลิงในอัตราที่น้อย จึงมีช่วงชีวิตที่ยาวและจบชีวิต ด้วยการไม่ระเบิด เช่น ดวงอาทิตย์จะจบชีวิตลงด้วยการเป็นดาวแคระขาว และบรรยากาศรอบนอกจะ กลายเป็นเนบิวลาดาวเคราะห์ ดาวฤกษ์ที่มีขนาดใหญ่มีมวลมาก มีแสงสว่างมาก จะใช้เชื้อเพลิงอย่างสิ้นเปลืองในอัตราที่สูงมากจึงมี ช่วงชีวิตที่ส้ันกว่า และจบชีวิตด้วยการระเบิดรุนแรง ท่ีเรียกว่า ซูเปอร์โนวา (supernova) ดาวฤกษ์ท่ีกาเนิด จากดาวฤกษ์ก่อนเกิด (protostar) ที่มีมวลขนาดเดียวกันจะมีวิวัฒนาการเหมือนกัน ดังเช่น ดาวฤกษ์ที่มีมวล ใกล้เคียงกบั มวลดวงอาทติ ย์ จะมชี ่วงชีวิตและการเปล่ยี นแปลงแบบเดยี วกบั ดวงอาทิตย์ ภาพที่ 1.5 วิวัฒนาการของดาวฤกษ์ ท่มี า : สสวท.(2554)

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ เรอ่ื ง ดาวฤกษ(์ STAR) ชดุ กจิ กรรมท่ี 1 เร่อื งกาเนิดและวิวัฒนาการของดาวฤกษ์ 14 จุดจบของดาวฤกษ์ที่มีมวลต้ังต้นมากกว่า 9 เท่าของดวงอาทิตย์(M) คือการระเบิดท่ีเรียกว่า ซูเปอรโ์ นวา แรงโน้มถว่ งจะทาใหด้ าวยบุ ตวั ลงกลายเปน็ ดาวนวิ ตรอนหรือหลุมดา ในขณะเดียวกันการระเบิดน้ี มีอุณหภูมิสูงเพียงพอที่จะสังเคราะห์ธาตุหนักชนิดต่างๆ เช่น ดีบุก ตะกั่ว ยูเรเนียม ทองคา เป็นต้น หลังการระเบิดธาตุหนักเหล่าน้ีจะกระจายออกสู่อวกาศกลายเป็นส่วนประกอบของเนบิวลารุ่นใหม่ และระบบ สุริยะเกิดจากเนบิวลารุ่นใหม่ ซ่ึงเกิดจากการระเบิดของดาวยักษ์ใหญ่ในยุคก่อน ดังน้ันจึงพบธาตุหนักดังกล่าว ในดวงอาทิตย์ และในดาวบริวารของดวงอาทิตย์ โลกซึ่งเป็นท่ีอยู่อาศัยของมนุษย์และส่ิงมีชีวิตท้ังหลายก็เป็น หน่ึงในดาวบริวารของดวงอาทิตย์ ดังนั้น เนบิวลา ดาวฤกษ์ การระเบิดของดาวฤกษ์ ดาวเคราะห์ โลกของเรา และสิง่ มีชวี ิตบนโลก จึงมคี วามสมั พันธ์กนั ตารางท่ี 1.1 วิวัฒนาการของดาวฤกษ์ ตามขนาดและมวลดาวฤกษ์ก่อนเกิด(M) เมื่อเปรียบเทียบกับมวลของ ดวงอาทิตย์ มวลดาวฤกษ์กอ่ นเกิด(M) ววิ ัฒนาการของดวงอาทติ ย์ เทยี บกับมวลดวงอาทติ ย(์ M) M ≥ 25 M ดาวยกั ษใ์ หญ่สีนา้ เงิน (blue super giant) และสุดทา้ ยเปน็ หลุมดา 9 M ≤M < 25 M ดาวยกั ษ์ใหญส่ นี ้าเงนิ ดาวยักษแ์ ดง และสดุ ทา้ ยเป็นดาวนิวตรอน 0.08 M ≤M < 9 M ดาวฤกษค์ ล้ายดวงอาทติ ย์ และสดุ ท้ายเป็นดาวแคระขาว(white dwarf) M < 0.08 M ไมก่ ่อกาเนิดเป็นดาวฤกษ์ แตจ่ ะเป็นดาวแคระน้าตาล (brown dwarf)

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ เรอ่ื ง ดาวฤกษ(์ STAR) ชดุ กิจกรรมที่ 1 เรือ่ งกาเนิดและวิวฒั นาการของดาวฤกษ์ 15 กิจกรรมท่ี 2.1 คาชแี้ จง : ใหน้ กั เรยี นตอบคาถาม 1. ดาวฤกษม์ ีกาเนิดอย่างไร ดาวฤกษ์เกิดจากการยุบตัวของเนบิวลาด้วยแรงโน้มถ่วง จนในที่สุดเกิดสภาวะสมดุลระหว่างแรงโน้มถ่วง กบั แรงดันของแก๊สรอ้ น ........ 2. ดาวฤกษ์สรา้ งพลังงานได้อย่างไร ท่แี กน่ ของดาวฤกษ์มีอณุ หภมู ิสงู ถงึ 15 ลา้ นเคลวนิ จนเกิดปฏิกริ ิยาเทอรโ์ มนวิ เคลียร์ ซึง่ เปลย่ี นสสาร..... เปน็ พลังงานทีท่ าใหด้ าวฤกษ์สอ่ งแสงได้ ....... กจิ กรรมท่ี 2.2 เขียนแผนผงั มโนทัศน์สรุปองคค์ วามรู้ คาชี้แจง : นักเรียนสรุปความรู้เกี่ยวกับกาเนิดและวิวัฒนาการของดาวฤกษ์ท่ีมีมวลต่างกันโดยเขียน เปน็ แผนผงั มโนทศั น์ โดยแบง่ ชนดิ ของดาวฤกษ์เป็น (1)ดาวฤกษม์ วลนอ้ ย (2)ดาวฤกษม์ วลมาก (3)ดาวฤกษ์มวล สูงมากๆ จดุ ประสงคก์ จิ กรรม : เขยี นแผนผงั มโนทศั น์สรุป เร่อื ง กาเนิดและววิ ฒั นาการของดาวฤกษท์ ี่มมี วลตา่ งกันเพอ่ื สรปุ เป็นองค์ความรไู้ ด้ ดาวฤกษม์ วลนอ้ ย ดาวฤกษม์ วลมาก ซเู ปอร์โนวา ดาวฤกษม์ วลสูงมากๆ ซเู ปอร์โนวา

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ เร่อื ง ดาวฤกษ(์ STAR) ชุดกิจกรรมที่ 1 เรอ่ื งกาเนดิ และวิวฒั นาการของดาวฤกษ์ 16 ขั้นที่ 3 อธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) กจิ กรรมที่ 3 รวบรวมความคิด พิชิตงานกลมุ่ นักเรยี นปฏบิ ตั ิกิจกรรมตามขน้ั ตอน ดังน้ี (เวลา 20 นาที) 1. ให้นักเรียนแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันเขียนแผนผงั มโนทัศน์สรุปองค์ความรเู้ กี่ยวกบั วิวัฒนาการของ ดาวฤกษท์ ีม่ ีมวลตา่ งกัน โดยนาแผนผังมโนทัศนข์ องสมาชิกกลมุ่ แต่ละคน มาสรุปเป็น แผนผงั มโนทศั น์ของกลุ่ม (เวลา 10 นาท)ี 2. นาเสนอผลงานกลมุ่ หนา้ ช้นั เรยี น 3 กลุม่ (โดยการจับฉลาก) นักเรียนอกี 3 กลุ่ม ให้ซักถาม แลว้ เสนอแนะเพิม่ เตมิ รว่ มกนั อภปิ ราย และปรับปรงุ แกไ้ ขเพ่ือใหผ้ ลงานสมบรู ณ์ (เวลา 10 นาที) ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- กลุ่มท่ี ............. ชอื่ กลุ่ม ..................................................................... รายช่ือสมาชิก 1. ................................................... 2. ................................................... 3. ................................................... 4. ................................................... 5. ................................................... 6. ................................................... -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เรอื่ ง ดาวฤกษ(์ STAR) ชุดกจิ กรรมท่ี 1 เรื่องกาเนดิ และวิวฒั นาการของดาวฤกษ์ 17 ขั้นท่ี 4 ขยายความรู้ (Elaboration) คาชีแ้ จง : นกั เรียนศึกษาใบความรเู้ พ่ิมเติม เรือ่ ง กาเนิดและววิ ัฒนาการของดวงอาทติ ย์ ใชเ้ วลา 10 นาที แลว้ รว่ มกันอภิปรายกลุ่มในกจิ กรรมที่ 4.1 (10 นาที) และกิจกรรมที่ 4.2 (10 นาที) ใบความรู้เพ่ิมเตมิ เรื่อง กาเนิดและวิวัฒนาการของดวงอาทิตย์ กาเนดิ ดวงอาทติ ย์ ดวงอาทิตย์เป็นดาวฤกษ์ท่ีอยู่ใกล้โลกมากท่ีสุด จึงเป็นดาวฤกษ์ท่ีนัก ดาราศาสตร์ศึกษามากท่ีสุดเมื่อเทียบกับดาวฤกษ์ดวงอ่ืนๆ ดวงอาทิตย์เกิดจาก การยุบรวมตัวของเนบิวลาด้วยแรงโน้มถ่วงของเนบิวลาเอง การยุบตัวทาให้ ความดันของเนบวิ ลาเพมิ่ ขึน้ ผลท่ตี ามมาคอื อณุ หภูมภิ ายในเนบิวลาสูงขึ้นด้วย เม่ืออุณหภูมิสูงขึ้นเป็นแสนเคลวิน เนบิวลาจะกลายเป็นดวงอาทิตย์ก่อนเกิด (protosun) แรงโน้มถ่วงมากกว่าแรงดัน ดวงอาทิตย์ก่อนเกิดจึงยุบตัวลงต่อไป อีก จนอุณหภูมิท่ีแก่นสูงข้ึนประมาณ 15 ล้านเคลวิน ทาให้เกิดปฏิกิริยา ภาพท่ี 1.6 ความสมดลุ ระหว่าง เทอร์โมนิวเคลียร์ที่แก่นและเป็นแหล่งพลังงานของดวงอาทิตย์ก่อนเกิดซ่ึง แรงดนั กบั แรงโนม้ ถว่ ง ขณะนี้กลายเปน็ ดวงอาทติ ย์ก่อนเกิด ดวงอาทิตย์เร่ิมอยู่ในสภาพสมดุลระหว่าง ทีม่ า : สสวท.(2554) แรงโนม้ ถว่ งกับแรงดัน ดงั ภาพที่ 1.6 ปฏกิ ิริยาเทอร์โมนิวเคลยี รท์ ่แี ก่นกลางของดวงอาทิตย์ เกิดจากโปรตอนหรือนวิ เคลียสของธาตไุ ฮโดรเจน 4 นิวเคลียส หลอมไปเปน็ นวิ เคลยี สของธาตุฮเี ลียม 1 นิวเคลยี ส ปรากฏว่านิวเคลียสของธาตุฮีเลียม 1 นิวเคลียสน้อยกว่ามวลของโปรตอน 4 โปรตอน มวลของโปรตอน (m) ท่ีหายไปนเ้ี องกลายเป็นพลงั งานของดวงอาทิตย์ (E) ซ่งึ คานวณได้จาก E = mc2 เมอ่ื c คือ อัตราเรว็ ของแสงสวา่ งในอวกาศ มคี ่าเท่ากบั 300,000 กิโลเมตร/วนิ าที การคานวณหารอ้ ยละของไฮโดรเจนที่หลอม ไฮโดรเจน 4 นวิ เคลียสมมี วล = 4 x 1.6726 x 10-27 kg = 6.6905 x 10-27 kg ฮีเลยี ม 1 นวิ เคลยี สมมี วล = 6.6435 x 10-27 kg ดังนน้ั มวลหายไป 0.0470 x 10-27 kg หรอื 0.7% ของไฮโดรเจนทห่ี ลอม การคานวณว่าในแต่ละวินาทีไฮโดรเจนจานวนเท่าใดทท่ี าปฏิกิริยา ไฮโดรเจนทหี่ ลอมร้อยละ 0.7 = 4.2 ลา้ นตัน ดังนนั้ ไฮโดรเจนที่หลอม 100 % = (4.2/0.7) x 100 ล้านตนั = 600 ล้านตัน นนั่ คอื แต่ละวนิ าที ดวงอาทติ ยผ์ ลิตฮีเลียมไดเ้ พิม่ ขน้ึ 596 ล้านตนั และเบาลงประมาณ 4 ล้านตนั การคานวณหามวลของดวงอาทิตยท์ เ่ี ปลี่ยนเป็นพลงั งานใน 1 วนิ าที ใน 1 วนิ าทีดวงอาทิตย์ให้พลงั งาน E = 3.85 x 1026 วตั ต์ ใน 1 วนิ าทดี วงอาทิตย์ไดพ้ ลงั งานจาก m = E/c2 = = 4.2 X 109 kgs-1 หรอื ประมาณ 4 ลา้ นตันตอ่ วนิ าที

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เรอื่ ง ดาวฤกษ(์ STAR) ชุดกิจกรรมท่ี 1 เรื่องกาเนิดและววิ ัฒนาการของดาวฤกษ์ 18 นกั วทิ ยาศาสตร์คาดคะเนว่า ในอนาคตเมื่อธาตไุ ฮโดรเจนท่ใี ช้เป็นเชื้อเพลิงเหลือน้อย แรงดันจะลดลง แรงโน้มถ่วงเน่ืองจากมวลของดวงอาทติ ย์สงู กว่าแรงดัน ทาใหด้ วงอาทิตย์ยุบตัวลง ส่งผลให้แก่นกลางของดาวมี อุณหภมู ิสูงขึน้ มากกวา่ เดมิ เป็น 100 ลา้ นเคลวนิ จนเกิดปฏิกิริยาเทอร์โมนิวเคลียร์หลอมรวมนิวเคลียสของธาตุ ฮีเลียมเป็นนิวเคลียสของธาตุคาร์บอน ในขณะเดียวกันไฮโดรเจนท่ีอยู่รอบนอกแก่นฮีเลียมมีอุณหภูมิสูงขึ้น เกิดปฏิกิริยาหลอมไฮโดรเจนเป็นฮีเลียมอีกคร้ังหนึ่ง ผลคือ ได้พลังงานออกมาอย่างมหาศาล ทาให้ดวงอาทิตย์ ขยายตัวมีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 100 เท่าของขนาดปัจจุบัน เพราะแรงดันเพ่ิมข้ึน เม่ือผิวด้านนอกขยายตัว อุณหภูมิผิวจะลดลง สีจึงเปลี่ยนจากสีเหลืองเป็นสีแดง ดวงอาทิตย์จึงกลายเป็นดาวฤกษ์สีแดงขนาดใหญ่มาก เรยี กว่า ดาวยกั ษแ์ ดง (red giant) ภาพท่ี 1.7 วิวฒั นาการของดวงอาทิตย์ ท่มี า : https://www.sciencelearn.org.nz/images/1993-lifecycle-of-the-sun ปจั จุบันดวงอาทิตย์มอี ายปุ ระมาณ 4,600 ลา้ นปี เป็นดาวฤกษ์สีเหลือง นับจากปัจจุบันไปอีกประมาณ 5,000 ลา้ นปี เมอื่ ดวงอาทิตย์มีอายปุ ระมาณ 10,000 ลา้ นปี ดวงอาทติ ย์จะเปลีย่ นเป็นดาวยักษ์แดง ในช่วงท้าย ของชีวติ แก่นของดวงอาทิตยท์ ี่เปน็ ดาวยักษแ์ ดงจะไมเ่ กิดปฏกิ ริ ยิ าเทอร์โมนิวเคลียร์ท่ีหลอมฮีเลียมเป็นคาร์บอน อีกต่อไป เพราะอุณหภูมิภายในไม่สูงพอ แรงดันจึงลดลง แรงโน้มถ่วงมากกว่าแรงดันจะทาให้ดาวยักษ์แดง ยุบตัวลงกลายเปน็ ดาวแคระขาว ทีม่ ีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 13,000 กิโลเมตร หรือประมาณ 1 ใน 100 ของดวงอาทิตย์ในปัจจุบัน แต่ในขณะท่ีเกิดการยุบตัว มวลของผิวดาวรอบนอก เกิดเป็นเนบิวลาดาวเคราะห์ (planetary nebula) ซึ่งจะเคล่ือนห่างออกไปจากดาวแคระขาว กระจายออกไปในอวกาศ ดวงอาทิตย์ใน สภาพดาวแคระขาวจะส่องแสงสว่างไปได้อีกนานนับหลายพันล้านปี โดยปฏิกิริยาที่ให้ความร้อนวิธีอื่นซ่ึงไม่ใช่ ปฏิกิริยาเทอร์โมนิวเคลียร์ ดังนั้นดาวแคระขาวพร้อมกับเนบิวลาดาวเคราะห์จึงเป็นจุดสุดท้ายของวิวัฒนาการ ของดวงอาทติ ย์

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ เรอ่ื ง ดาวฤกษ(์ STAR) ชดุ กิจกรรมท่ี 1 เรอ่ื งกาเนดิ และววิ ัฒนาการของดาวฤกษ์ 19 กจิ กรรมท่ี 4.1 ร่วมกันอภิปราย คาชีแ้ จง : ให้นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันอภิปรายกลมุ่ เพื่ออธิบายหัวขอ้ ต่อไปนี้ (10 นาที) 1. เหตุใดดวงอาทติ ยจ์ ึงเปน็ ดาวฤกษ์ทนี่ กั ดาราศาสตรใ์ ชเ้ ปน็ ตวั อยา่ งในการศึกษามากทสี่ ดุ ............................................................................................................................. .................................... ............................................................................................. .................................................................... ............................................................................................................................. .................................... 2. ให้ใช้ปากกาสีแดงขีดเส้นใต้คาที่แสดงถึงชนิดของดาวท่ีเกิดการเปลี่ยนแปลงในวิวัฒนาการ ของดวงอาทติ ย์ วิวัฒนาการของดวงอาทิตย์ เกิดข้ันเมื่อเนบิวลายุบตัวด้วยแรงโน้มถ่วง การยุบตัวทาให้ความดัน ของเนบิวลาเพิ่มขึ้น และมีอุณหภูมิสูงข้ึนด้วย เมื่อสูงถึงแสนเคลวิน เนบิวลาจะกลายเป็นดวงอาทิตย์ ก่อนเกิด เมื่อแรงโน้มถ่วงมากกว่าแรงดัน ดวงอาทิตย์ก่อนเกิดจึงยุบตัวลงไปอีกจนอุณหภูมิท่ีแก่นสูง ประมาณ 15 ล้านเคลวนิ ซงึ่ สงู มากพอที่จะเกิดปฏกิ ิริยาเทอร์โมนิวเคลียร์ นิวเคลียสของธาตุ H หลอม รวมกันเป็นนิวเคลียสของธาตุ He ให้พลังงานออกมาเป็นพลังงานของดวงอาทิตย์เกิดใหม่ ภายใต้ ความสมดุลระหว่างแรงโน้มถ่วงกับแรงดัน ส่วนปฏิกิริยาเทอร์โมนิวเคลียร์ที่เกิดในช่วงดวงอาทิตย์ ขยายตัวเป็นดาวยักษ์แดงเพราะการเปลี่ยนแปลงที่แก่น เม่ือธาตุไฮโดรเจนท่ีใช้เป็นเชื้อเพลิงท่ีแก่นลด น้อยลง อุณหภูมิแก่นกลางจะลดลงทาให้แรงดันน้อยกว่าแรงโน้มถ่วง ทาให้ดวงอาทิตย์ยุบตัวลงทาให้ อณุ หภูมสิ งู ขึ้นมากกว่าเดมิ เป็น 100 ลา้ นเคลวนิ จะเกดิ ปฏิกิริยาเทอร์โมนิวเคลียร์หลอมรวมนิวเคลียส ของ He เป็นนิวเคลียสของ C ในขณะเดียวกันไฮโดรเจนท่ีอยู่รอบนอกแก่น He จะมีอุณหภูมิสูงข้ึน ด้วย บริเวณน้ีมีอุณหภูมิสูงถึง 15 ล้านเคลวิน จะเกิดปฏิกิริยาเทอร์โมนิวเคลียร์หลอม H เป็น He ครั้งใหม่ ผลก็คือได้พลังงานออกมามหาศาลทาให้ดวงอาทิตย์มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 100 เท่าของ ดวงอาทิตย์ในปัจจุบัน เม่ือผิวนอกขยายตัว อุณหภูมิจะลดลง สีจะเปล่ียนจากสีเหลืองเป็นสีแดง ดวงอาทิตย์จึงกลายเป็นดาวยักษ์แดง ในช่วงท้ายชีวิตของดวงอาทิตย์ในสภาพดาวยักษ์แดง บริเวณ แกน่ กลางไม่เกดิ ปฏกิ ิริยาเทอรโ์ มนวิ เคลียร์ แรงโน้มถ่วงมากกว่าแรงดัน แก่นกลางของดาวยักษ์แดงจึง ยุบตัวเป็นดาวแคระขาว ดวงอาทิตย์ในสภาพดาวแคระขาวจะมีความสว่างลดลง และอุณหภูมิภายใน ลดตา่ ลงจนไมเ่ กิดปฏิกริ ยิ าเทอรโ์ มนวิ เคลยี ร์ 3. ดวงอาทติ ยข์ ณะเป็นดาวยกั ษ์แดงมีลกั ษณะอยา่ งไร ............................................................................................................................. .................................... ............................................................................................................................. .................................... .............................................................................................. ................................................................... ............................................................................................................................. .................................... ....................................................................................................................................................... ..........

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เรื่อง ดาวฤกษ(์ STAR) ชดุ กจิ กรรมท่ี 1 เรอื่ งกาเนิดและวิวัฒนาการของดาวฤกษ์ 20 กจิ กรรมที่ 4.2 แผนผงั มโนทัศนส์ รุป เรอ่ื ง วิวฒั นาการของดวงอาทติ ย์ คาช้ีแจง : 1. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั เขยี นแผนผงั มโนทัศนส์ รุป เรื่อง วิวฒั นาการของดวงอาทิตย์ ในเวลา 10 นาที 2. ให้นักเรียน 2-3 กลุม่ นาเสนอแผนผงั มโนทัศนห์ นา้ ชนั้ เรียน ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- กลมุ่ ท่ี ............. ชอ่ื กลุม่ ..................................................................... รายชื่อสมาชิก 1. ................................................... 2. ................................................... 3. ................................................... 4. ................................................... 5. ................................................... 6. ................................................... -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ เรอ่ื ง ดาวฤกษ(์ STAR) ชุดกจิ กรรมท่ี 1 เร่ืองกาเนิดและวิวัฒนาการของดาวฤกษ์ 21 ขัน้ ท่ี 5 ประเมิน (Evaluation) แบบฝึกเสรมิ ทกั ษะ ช่อื -สกุล ............................................................................. ช้นั ............. เลขที.่ ........ ตอนที่ 1 ตอบคาถามต่อไปนี้ ใช้เวลา 5 นาที (5 คะแนน) 1. ดาวฤกษแ์ ต่ละดวงมีคุณสมบตั ิใดท่ีเหมอื นกนั ............................................................................................................................. ............................. .......................................................................................................................................................... 2. ตน้ กาเนดิ ของดาวฤกษ์คืออะไร แบง่ ออกเปน็ กปี่ ระเภท อะไรบ้าง ............................................................................................................................. ............................. ..................................................................................................... ............................................. 3. วาระสุดท้ายของดวงอาทิตย์จะเป็นอย่างไร ............................................................................................................................. ............................. ............................................................................................................................. ............................. 4. ซเู ปอรโ์ นวา (supernova) คอื อะไร .......................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................. 5. ดาวนิวตรอน คืออะไร ............................................................................................................................. ............................. ........................................................................................ .................................................................. ตอนท่ี 2 ทาเครื่องหมายหน้าขอ้ ความทค่ี ิดเหน็ วา่ ถูกตอ้ ง และเครื่องหมาย  หน้าข้อความที่ คิดเห็นวา่ ไม่ถูกตอ้ ง ใชเ้ วลา 5 นาที (5 คะแนน) ………. 1. ดาวฤกษ์ทุกดวงมีกระบวนการเกิดเหมอื นกัน แตม่ ีววิ ฒั นาการต่างกันขนึ้ อยู่กับ มวลของดาวก่อนเกิด ………. 2. การเกิดปฏกิ ิริยาเทอรโ์ มนิวเคลียร์ เกดิ จากการหลอมไฮโดรเจน 4 นวิ เคลียส เป็น นวิ เคลยี สของคาร์บอน 1 นิวเคลียส ………. 3. ระยะสดุ ท้ายของดาวฤกษ์จะมคี วามหนาแน่นมากกวา่ ดาวในระยะแรกเกดิ ………. 4. ดวงอาทติ ยผ์ ลติ He ไดเ้ พิ่มขึ้น 596 ล้านตนั และเบาลงประมาณ 4 ล้านตนั /วนิ าที ………. 5. ธาตหุ นกั ชนิดตา่ งๆ ทีเ่ กดิ ข้นึ ในเอกภพเกิดจากการระเบดิ ของดาวฤกษ์ทีม่ ีมวลมากกวา่ ดวงอาทติ ย์ 9 – 25 เทา่

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรอื่ ง ดาวฤกษ(์ STAR) ชุดกิจกรรมท่ี 1 เร่อื งกาเนิดและวิวฒั นาการของดาวฤกษ์ 22 แบบทดสอบหลงั เรียน ชุดกิจกรรมท่ี 1 เร่อื ง กาเนดิ และววิ ัฒนาการของดาวฤกษ์ คาชแี้ จง 1. ขอ้ สอบเป็นข้อสอบปรนัย 4 ตัวเลอื ก จานวน 10 ขอ้ คะแนนเต็ม 10 คะแนน สาระสาคญั มเี วลาทาข้อสอบ 10 นาที 2. ให้นักเรยี นเลือกคาตอบที่ถกู ทสี่ ุดเพียงขอ้ เดียว แล้วทาเครื่องหมายกากบาท (X) ลงใน ชอ่ งกระดาษคาตอบท่ีต้องการ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. ดาวฤกษ์กอ่ นเกิด มลี กั ษณะอยา่ งไร ก. อุณหภูมขิ อบนอกสงู กวา่ แกน่ กลางหลายแสนองศาเซลเซียส ข. อุณหภมู แิ ก่นกลางสงู กว่าขอบนอกหลายแสนองศาเซลเซียส ค. ความดันของแกส๊ ลดลง ง. แรงโนม้ ถว่ งลดลง 2. เนบวิ ลา มีลักษณะอยา่ งไร ก. กล่มุ ของดาวเคราะห์ ข. กลุ่มของฝุ่นและแกส๊ ค. กลุ่มของดาวฤกษ์ ง. กลมุ่ ของดาวหาง 3. ขอ้ ใดกล่าวถกู ต้อง ก. จดุ จบของดาวฤกษ์ท่ีมีมวลมาก คือ การระเบดิ อย่างรนุ แรงที่เรยี กว่า ซเู ปอร์โนวา ข. ดาวฤกษ์ท่มี มี วลมากจะมีชว่ งชวี ติ ทีย่ าวกวา่ ดาวฤกษท์ ่ีมมี วลน้อย ค. ดวงอาทติ ย์จดั เปน็ ดาวฤกษ์ท่ีมมี วลมาก ง. ดาวฤกษเ์ กดิ จากการยบุ ตวั ของหลมุ ดา 4. ดาวฤกษ์แตล่ ะดวงเหมือนกันในเรอื่ งใด ก. มวล ข. อณุ หภูมผิ วิ ค. พลงั งานในตวั เอง ง. สแี ละความสวา่ ง 5. ขอ้ ใดกลา่ วถูกต้องเกี่ยวกับการเกดิ ปฏกิ ิรยิ าเทอร์โมนิวเคลียร์ในดาวฤกษ์ ก. ระเบดิ อะตอมของฮเี ลยี มให้แตกตัว ข. ระเบดิ อะตอมของคาร์บอนให้แตกตัว ค. หลอมนวิ เคลียสของฮเี ลียมเป็นนวิ เคลียสของไฮโดรเจน ง. หลอมนวิ เคลียสของไฮโดรเจนเปน็ นิวเคลียสของฮเี ลยี ม

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เรอื่ ง ดาวฤกษ(์ STAR) ชุดกจิ กรรมที่ 1 เร่อื งกาเนิดและวิวฒั นาการของดาวฤกษ์ 23 6. ดาวฤกษ์ท่ีมมี วลสาร 0.08 – 9 เท่าของดวงอาทติ ย์ และจบชีวิตโดยกลายเปน็ ดาวในขอ้ ใด ก. ดาวแคระขาว ข. ดาวนวิ ตรอน ค. หลุมดา ง. ดาวแคระนา้ ตาล 7. ขอ้ สรุปใดไม่ถูกต้อง ก. ดาวฤกษ์จะอยู่ในชว่ งท่เี ป็นดาวยกั ษ์แดงไม่ยาวนาน ข. เนบวิ ลาดาวเคราะห์คือเนบิวลาท่ีปกคลมุ ดาวเคราะห์ ค. ดาวแคระขาวเป็นดาวทย่ี งั มีพลงั งานและแสงสวา่ งในตวั เอง ง. ดาวฤกษ์ทม่ี ีมวลน้อยจะมีชว่ งชีวิตท่ยี าวนานกวา่ ดาวฤกษ์มวลมาก 8. พลงั งานของดาวฤกษ์เกดิ จากปฏกิ ิรยิ าใด ก. การระเบิดอย่างต่อเน่ือง ข. การเผาไหม้อย่างต่อเน่ือง ค. ปฏกิ ริ ิยานิวเคลียร์ฟิชชัน ง. ปฏกิ ริ ยิ านวิ เคลยี ร์ฟิวชนั 9. ในววิ ัฒนาการของดาวฤกษ์ ชว่ งเวลาในข้อใดมีอัตราการใช้เชือ้ เพลิงมากทสี่ ุด ก. ดาวยักษ์แดง ข. ดาวแคระดา ค. ดาวแคระขาว ง. เนบิวลา 10. การระเบิดอย่างรนุ แรงของดาวยกั ษ์แดงเรียกวา่ อะไร ก. หลมุ ดา ข. ลมสุรยิ ะ ค. ซเู ปอรโ์ นวา ง. ปฏกิ ิรยิ าเทอร์โมนวิ เคลียร์

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ เร่อื ง ดาวฤกษ(์ STAR) ชดุ กจิ กรรมที่ 1 เรื่องกาเนิดและววิ ัฒนาการของดาวฤกษ์ 24 กระดาษคาตอบ สาหรับแบบทดสอบหลังเรียน ชุดกิจกรรมท่ี 1 เร่ือง กาเนิดและววิ ฒั นาการของดาวฤกษ์ ช่ือ-สกลุ ............................................................................ช้นั .............เลขที่........ ข้อ ก ข ค ง ผลคะแนน A B C D ก่อนเรยี น = 1 หลังเรียน = หลงั – กอ่ น = 2 3 4 5 6 7 8 9 10 นาคะแนนเทยี บกับเกณฑ์ ดังน้ี ผลการประเมนิ 0 – 4 เกณฑ์ ปรับปรุง 5 - 6 เกณฑ์ พอใช้ ดีมาก 7 - 8 เกณฑ์ ดี ดี 9 -10 เกณฑ์ ดีมาก พอใช้ ปานกลาง ลงชื่อ ผู้ประเมิน (.................................................) วันที่.........เดือน.......................พ.ศ. ...........

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ เร่อื ง ดาวฤกษ(์ STAR) ชดุ กจิ กรรมที่ 1 เร่อื งกาเนิดและววิ ฒั นาการของดาวฤกษ์ 25 ภาคผนวก

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ เรือ่ ง ดาวฤกษ(์ STAR) ชุดกจิ กรรมที่ 1 เรอ่ื งกาเนดิ และววิ ฒั นาการของดาวฤกษ์ 26 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น ชุดกิจกรรมท่ี 1 เร่อื ง กาเนิดและววิ ฒั นาการของดาวฤกษ์ ขอ้ ก ข ค ง A B C D 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เรือ่ ง ดาวฤกษ(์ STAR) ชดุ กจิ กรรมท่ี 1 เร่ืองกาเนิดและววิ ฒั นาการของดาวฤกษ์ 27 แนวคาตอบกจิ กรรม ข้ันท่ี 1 สรา้ งความสนใจ กจิ กรรมที่ 1 1. สงั เกตและบรรยายลักษณะของกลุ่มดาวที่เหน็ ในภาพที่ 1.1 กลุ่มดาวกางเขนใต้ ประกอบด้วย ดาวฤกษ์ท่ีมีความสว่าง 4 ดวง ท่ีเราสามารถลากเส้นตรงเช่ือมโยง ดาวดวงบนมายังดาวดวงล่างและเส้นตรงอีกเส้นหนึ่งระหว่างดาวดวงด้านข้าง 2 ดวง จะได้รูปคล้าย ไม้กางเขน 2. จากการสังเกตดาวฤกษ์บริเวณกลุ่มดาวกางเขนใต้ ภาพที่ 1.1 และเปรียบเทียบกับภาพท่ี 1.2 นักเรียน คดิ วา่ ดาวฤกษ์ดวงใดมีความสว่างมากทส่ี ุด มีดาวสว่างมาก 2 ดวง อยู่ซ้ายมือของกลุ่มดาวกางเขนใต้ ดวงซ้ายมือคือ ดาวแอลฟาเซนเทารี เป็น ดาวฤกษท์ ี่สว่างท่ีสดุ บรเิ วณนี้ และเปน็ ดาวฤกษ์ท่อี ยใู่ กลร้ ะบบสุริยะมากท่สี ดุ ขั้นท่ี 2 สารวจและคน้ หา กิจกรรมท่ี 2.1 1. ดาวฤกษ์มีกาเนิดอย่างไร และสร้างพลงั งานไดอ้ ยา่ งไร ดาวฤกษ์เกิดจากการยุบตัวของเนบิวลาด้วยแรงโน้มถ่วง จนในท่ีสุดเกิดสภาวะสมดุลระหว่างแรงโน้มถ่วง กบั แรงดนั ของแก๊สรอ้ น ........ 2. ดาวฤกษส์ ร้างพลังงานได้อย่างไร ทแี่ กน่ ของดาวฤกษ์มีอณุ หภูมิสูงถงึ 15 ล้านเคลวิน จนเกิดปฏิกริ ยิ าเทอร์โมนวิ เคลียร์ ซงึ่ เปล่ียนสสาร..... เปน็ พลงั งานทท่ี าใหด้ าวฤกษ์ส่องแสงได้ ....... กิจกรรมท่ี 2.2 ดาวฤกษม์ วลน้อย ดาวยักษ์แดง ดาวแคระขาว + เนบิวลาดาวเคราะห์ ดาวฤกษม์ วลมาก ดาวยกั ษ์แดง ดาวแคระขาว + เนบวิ ลา ซเู ปอร์โนวา

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ เรือ่ ง ดาวฤกษ(์ STAR) ชดุ กิจกรรมท่ี 1 เร่อื งกาเนิดและววิ ฒั นาการของดาวฤกษ์ 28 ดาวฤกษ์มวลสูงมากๆ ดาวยักษ์ใหญ่สีนา้ เงนิ ซเู ปอร์โนวา หลมุ ดา + เนบิวลา ขัน้ ที่ 3 อธิบายและลงขอ้ สรปุ ให้อย่ใู นดลุ ยพนิ จิ ของครู ข้ันท่ี 4 ขยายความรู้ กิจกรรมที่ 4.1 1. เหตุใดดวงอาทติ ยจ์ ึงเป็นดาวฤกษ์ทนี่ กั ดาราศาสตรใ์ ช้เป็นตัวอยา่ งในการศึกษามากทีส่ ุด ดวงอาทิตย์เปน็ ดาวฤกษ์ที่อยใู่ กล้โลกท่ีสุด การเปลย่ี นแปลงบนดวงอาทิตย์ส่งผลกระทบต่อโลกได้อย่าง ชัดเจน เช่น ลมสุริยะทาให้เกิดปรากฏการณ์แสงเหนือแสงใต้ จึงเป็นดาวฤกษ์ที่นักดาราศาสตร์ศึกษามาก ทสี่ ุดเม่ือเทยี บกบั ดาวฤกษ์ดวงอน่ื ๆ 2. ให้ใชป้ ากกาสแี ดงขีดเส้นใตค้ าทแ่ี สดงถึงชนดิ ของดาวท่เี กดิ การเปลีย่ นแปลงในวิวฒั นาการของดวงอาทติ ย์ วิวัฒนาการของดวงอาทิตย์ เกิดข้ันเม่ือเนบิวลายุบตัวด้วยแรงโน้มถ่วง การยุบตัวทาให้ความดันของ เนบิวลาเพิ่มขึ้น และมีอุณหภูมิสูงขึ้นด้วย เมื่อสูงถึงแสนเคลวิน เนบิวลาจะกลายเป็นดวงอาทิตย์ก่อนเกิด เม่ือแรงโน้มถ่วงมากกว่าแรงดัน ดวงอาทิตย์ก่อนเกิดจึงยุบตัวลงไปอีกจนอุณหภูมิที่แก่นสูงประมาณ 15 ล้านเคลวิน ซ่ึงสูงมากพอท่ีจะเกิดปฏิกิริยาเทอร์โมนิวเคลียร์ นิวเคลียสของธาตุ H หลอมรวมกันเป็น นิวเคลียสของธาตุ He ให้พลังงานออกมาเป็นพลังงานของดวงอาทิตย์เกิดใหม่ ภายใต้ความสมดุลระหว่าง แรงโน้มถ่วงกับแรงดัน ส่วนปฏิกิริยาเทอร์โมนิวเคลียร์ท่ีเกิดในช่วงดวงอาทิตย์ขยายตัวเป็นดาวยักษ์แดง เพราะการเปลี่ยนแปลงท่ีแก่น เมื่อธาตุไฮโดรเจนท่ีใช้เป็นเช้ือเพลิงท่ีแก่นลดน้อยลง อุณหภูมิแก่นกลางจะ ลดลงทาใหแ้ รงดนั น้อยกวา่ แรงโน้มถว่ ง ทาให้ดวงอาทิตย์ยุบตัวลงทาให้อุณหภูมิสูงข้ึนมากกว่าเดิมเป็น 100 ล้านเคลวิน จะเกิดปฏิกิริยาเทอร์โมนิวเคลียร์หลอมรวมนิวเคลียสของ He เป็นนิวเคลียสของ C ใน ขณะเดียวกันไฮโดรเจนท่ีอยู่รอบนอกแก่น He จะมีอุณหภูมิสูงขึ้นด้วย บริเวณน้ีมีอุณหภูมิสูงถึง 15 ล้าน- เคลวิน จะเกิดปฏิกิริยาเทอร์โมนิวเคลียร์หลอม H เป็น He คร้ังใหม่ ผลก็คือได้พลังงานออกมามหาศาล ทาให้ดวงอาทิตย์มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 100 เท่าของดวงอาทิตย์ในปัจจุบัน เมื่อผิวนอกขยายตัว อุณหภูมิจะ ลดลง สีจะเปล่ียนจากสีเหลืองเป็นสีแดง ดวงอาทิตย์จึงกลายเป็นดาวยักษ์แดง ในช่วงท้ายชีวิตของ ดวงอาทิตย์ในสภาพดาวยักษ์แดง บริเวณแก่นกลางไม่เกิดปฏิกิริยาเทอร์โมนิวเคลียร์ แรงโน้มถ่วงมากกว่า แรงดัน แก่นกลางของดาวยักษ์แดงจึงยุบตัวเป็นดาวแคระขาว ดวงอาทิตย์ในสภาพดาวแคระขาวจะมี ความสวา่ งลดลง และอุณหภูมิภายในลดต่าลงจนไมเ่ กดิ ปฏกิ ิริยาเทอรโ์ มนิวเคลียร์

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ เรอ่ื ง ดาวฤกษ(์ STAR) ชดุ กจิ กรรมท่ี 1 เร่ืองกาเนดิ และววิ ัฒนาการของดาวฤกษ์ 29 3. ดวงอาทติ ยข์ ณะเป็นดาวยกั ษ์แดงมลี กั ษณะอย่างไร ดวงอาทิตย์ขณะเป็นดาวยักษ์แดงใช้เช้ือเพลิงมากขึ้น(จากปฏิกิริยาหลอมฮีเลียมเป็นคาร์บอนท่ีแก่น และหลอมไฮโดรเจนเป็นฮีเลียมรอบแก่น) แรงดันของแก๊สมากกว่าแรงโน้มถ่วง ดวงอาทิตย์จึงขยายตัวและ ให้พลงั งานมากข้ึนดว้ ย ผลก็คือ ดาวพุธ ดาวศุกร์ ถูกกลืนกิน ส่วนโลกจะถูกเผาไหม้ จึงไม่เหลือส่ิงมีชีวิตบน โลก กิจกรรมท่ี 4.2 ตวั อยา่ งแผนผงั มโนทัศนส์ รุป เรอ่ื ง ววิ ฒั นาการของดวงอาทิตย์ เนบิวลา ยุบตวั ดวงอาทติ ย์ก่อนเกดิ (protosun) ชีวิตสว่ นใหญเ่ ป็นดาวฤกษ์สเี หลอื ง ดวงอาทิตย์ เกิดปฏิกริ ิยาเทอรโ์ มนวิ เคลียร์ หลอม H --> He และ He --> C ดาวยักษ์แดง ประกอบด้วย ประกอบดว้ ย แก่นกลาง รอบนอกแก่นกลาง ดาวยกั ษแ์ ดง ดาวยกั ษแ์ ดง ดาวแคระขาว เนบวิ ลาดาวเคราะห์

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ เร่อื ง ดาวฤกษ(์ STAR) ชุดกิจกรรมที่ 1 เร่อื งกาเนดิ และววิ ฒั นาการของดาวฤกษ์ 30 ขั้นท่ี 5 ประเมิน แบบฝึกเสรมิ ทกั ษะ ตอนท่ี 1 1. ดาวฤกษแ์ ต่ละดวงมคี ุณสมบตั ิใดทเ่ี หมือนกัน ดาวฤกษ์ทุกดวงมสี มบตั ิทเี่ หมอื นกันอยู่ 2 ประการ คือ สามารถสร้างพลงั งานได้ด้วยตนเองและมี ววิ ัฒนาการ 2. ต้นกาเนดิ ของดาวฤกษ์คืออะไร แบ่งออกเปน็ ก่ปี ระเภท อะไรบา้ ง ตน้ กาเนดิ ของดาวฤกษ์ คอื เนบิวลา แบง่ ออกเป็น 3 ประเภท คือ (1)เนบวิ ลาสว่าง (หรือเนบวิ ลา สะท้อนแสง) (2)เนบวิ ลาเรืองแสง และ(3)เนบวิ ลามดื 3. วาระสุดท้ายของดวงอาทิตยจ์ ะเปน็ อย่างไร ดวงอาทิตยจ์ ะมีแรงดนั ลดลง ทาให้แรงโน้มถ่วงมากกว่าแรงดันดาวยักษแ์ ดงจงึ ยุบตัวลงกลายเป็น ดาวแคระขาว แต่ในขณะที่เกิดการยบุ ตัว มวลของผิวดาวรอบนอก เกดิ เปน็ เนบิวลาดาวเคราะห์ท่ี เคลื่อนห่างออกไปจากดาวแคระขาว กระจายออกไปในอวกาศ 4. ซเู ปอร์โนวา (supernova) คืออะไร ซูเปอร์โนวา คอื การระเบดิ อยา่ งรนุ แรงของดาวฤกษท์ ่ีมีมวลมากกวา่ ดวงอาทิตยต์ ั้งแต่ 9 เท่าข้นึ ไป และการระเบดิ น้ีจะปล่อยพลังงานจานวนมหาศาลออกมาพร้อมกับธาตหุ นัก 5. ดาวนิวตรอน คืออะไร ดาวนวิ ตรอน คือ ดาวทป่ี ระกอบด้วยอนุภาคนิวตรอน ทย่ี ุบตวั ลงดว้ ยแรงโนม้ ถว่ งของตัวเอง มี ขนาดเล็กมาก มวล 1.5 – 3 เท่าของดวงอาทิตย์ ความหนาแนน่ ประมาณ 1,017 kg/m3 ตอนท่ี 2 ………. 1. ดาวฤกษ์ทกุ ดวงมกี ระบวนการเกดิ เหมอื นกนั แต่มีววิ ฒั นาการตา่ งกันข้นึ อยู่กับ มวลของดาวก่อนเกิด ………. 2. การเกดิ ปฏกิ ริ ิยาเทอร์โมนวิ เคลียร์ เกดิ จากการหลอมไฮโดรเจน 4 นวิ เคลยี ส เป็น นวิ เคลยี สของคาร์บอน 1 นิวเคลียส ………. 3. ระยะสดุ ท้ายของดาวฤกษ์จะมีความหนาแน่นมากกวา่ ดาวในระยะแรกเกดิ ………. 4. ดวงอาทิตย์ผลติ He ได้เพิม่ ขน้ึ 596 ล้านตนั และเบาลงประมาณ 4 ลา้ นตัน/วนิ าที ………. 5. ธาตุหนักชนดิ ต่างๆ ทเ่ี กิดขึน้ ในเอกภพเกดิ จากการระเบดิ ของดาวฤกษ์ทม่ี ีมวลมากกวา่ ดวงอาทิตย์ 9 – 25 เทา่

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เร่อื ง ดาวฤกษ(์ STAR) ชุดกจิ กรรมท่ี 1 เรื่องกาเนิดและวิวัฒนาการของดาวฤกษ์ 31 เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน ชดุ กจิ กรรมท่ี 1 เร่อื ง กาเนดิ และววิ ฒั นาการของดาวฤกษ์ ข้อ ก ข ค ง A B C D 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 

ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ เร่อื ง ดาวฤกษ(์ STAR) ชุดกิจกรรมที่ 1 เรื่องกาเนดิ และววิ ัฒนาการของดาวฤกษ์ 32 เอกสารอา้ งอิง วภิ ู รโุ จปการ. (2554). เอกภพเพื่อความเข้าใจในธรรมชาติของจักรวาล. พิมพ์ครั้งท่ี 12. กรุงเทพฯ : บริษัท นานมบี ุ๊คสพ์ บั ลเิ คชนั่ จากดั . พัฒนาคุณภาพวิชาการ, สถาบัน. (2560). คู่มือครูหนังสือเรียนกระบวนการเปลี่ยนแปลงของโลก ดารา ศาสตร์และอวกาศ ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : สานักพิมพ์ บริษัทพัฒนาคุณภาพ วชิ าการ (พว.) จากัด. ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, สถาบัน. (2553). คู่มือครู รายวิชาพื้นฐาน โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ สาหรบั นกั เรียนที่เน้นวทิ ยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปี ท่ี 4-6 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551. พิมพ์คร้ังท่ี 1. กรงเทพฯ : โรงพิมพ์ สกสค. สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, สถาบัน. (2554). หนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ สาหรับนกั เรียนที่เน้นวิทยาศาสตร์ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4-6 ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. พมิ พ์ครงั้ ที่ 3. กรงเทพฯ : โรงพมิ พ์ สกสค. . (2557). กาเนดิ ดาวฤกษ์ [ออนไลน์]. สืบค้นเม่ือ 9 เมษายน 2559 จาก https://www.youtube. com/watch?v=t7MnrQ-ZKIk&t=24s. Daniel Fischer. (2559). Exoplanet beim sonnennächsten Stern Proxima Centauri: was wir wissen [ออนไลน์]. สืบคน้ เม่ือ 9 เมษายน 2559 จาก https://abenteuer-astronomie.de/ exoplanet-beim-sonnennaechsten-stern-proxima-centauri-wir-wissen/. . (2553). Lifecycle of the Sun [ออนไลน์]. สืบค้นเมอื่ 9 เมษายน 2559 จาก https://www. sciencelearn.org.nz/images/1993-lifecycle-of-the-sun.

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เร่อื ง ดาวฤกษ(์ STAR) ชดุ กิจกรรมที่ 1 เรื่องกาเนดิ และววิ ฒั นาการของดาวฤกษ์ 33


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook