วฒั นธรรมและขนบธรรมเนยี มของชาวองั กฤษ
โครงงาน เรอ่ื ง วฒั นธรรมและขนบธรรมเนยี มของชาวองั กฤษ จดั ทาโดย นาย ศรายุท หินทอง ม.5/3 เลขท่ี10 นาย ปัญจพล นวลนลิ ม.5/3 เลขที่18 นาย ภรู ิภทั ร เกสร ม.5/3 เลขท่ี 22 นาย พพี ัรฒน์ สอนน้อย ม.5/3 เลขที่ 11 นางสาว เบญจวรรณ ชุม่ ทรวง ม.5/3 เลขท่ี 29 นางสาว ศริ พิ ร เกิดเมฆ ม.5/3 เลขท่ี30 นาเสนอ คุณครู อมรรัตน์ พันธ์พุ ิมพ์ โรงเรยี นบางปะหัน อ.บางปะหัน จ. พระนครศรอี ยธุ ยา
สารบญั หน้า เร่ือง 1 1.ความเปน็ มาของประเทศองั กฤษ 2 2.การทักทาย 3 3.การให้ความสาคัญเรอื่ งเพศ 4 4.มารยาทบนโต๊ะอาหาร 5 5.เร่อื งของเวลา 6 6.กฬี า 7 7.ศลิ ปะการละคร 8 8.วธิ ีปฏบิ ตั ิในท่สี าธารณะ 9 9. การกล่าว ขอบคุณ / ขอโทษ / ได้โปรด
1.ความเปน็ มาของประเทศองั กฤษ (england) เป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ท่ีสุด และมีประชากรมากท่ีสุดเม่ือเปรียบเทียบกับ ประเทศอื่นๆ ในสหราชอาณาจักร ประวัติศาสตร์ยุคก่อนประวัติศาสตร์อังกฤษเริ่ม ข้ึนเม่ือมีการต้ังถ่ินฐานของมนุษย์เมื่อหลายพันปีมาแล้ว ภูมิภาคที่ตั้งปัจจุบันของ อังกฤษ เคยเป็นที่ตั้งถ่ินฐานของมนุษย์นีอันเดอร์ธอลราว 230,000 ปีมาแล้ว ขณะที่มนุษย์โฮโมเซเพียนซ่ึงเป็นมนุษย์สมัยใหม่ เร่ิมเข้ามาต้ังถิ่นฐานราว 29,000 ปีมาแล้ว แต่การต้ังชุมชนอยู่ต่อเน่ืองกันโดยตลอดเร่ิมขึ้นราว 11,000 ปีมาแล้ว โดยมีร่องรอยของมนุษย์สมัยต่างๆ ท่ีเข้ามาต้ังถิ่นฐานท่ีเริ่มต้ังแต่ยุคหินกลาง, ยุค หินใหม่ และ ยุคสาริด เช่น สโตนเฮนจ์ และเนินดินที่เอฟบรี ในยุคเหล็กอังกฤษก็ เช่นเดียวกับบริเตนทั้งหมดทางใต้ของเฟิร์ธ ออฟฟอร์ธ เป็นที่ตั้งถ่ินฐานของชน เคลต์ที่เป็นกลุ่มชนที่เรียกว่า บริเตน (Briton) หรือเผ่าเบลแจ ในปี ค.ศ. 43 ชาว โรมันก็เร่ิมเข้ามารุกรานบริเตน โรมันปกครองจังหวัดบริทายามาจนถึง คริสต์ศตวรรษที
2.การทกั ทาย (Greeting) ผู้คนในประเทศอังกฤษใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก ซึ่งหากคิดจะไปเรียนต่อ ต่างประเทศ คุณก็น่าจะคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษเป็นอย่างดีอยู่แล้วในระดับหนึ่ง หรือถ้าต้องการศึกษาเพ่ิมเติม ในประเทศอังกฤษก็มี คอร์สภาษาอังกฤษมากมาย หลายระดับให้คุณเลือก ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยของท่ีนี่ค่อนข้างผ่อนคลายและมี ความเป็นกันเองสูง เจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ยินดีให้ปรึกษาในเรื่องต่างๆ แกค่ ณุ โดยไม่ได้จากดั วา่ จะต้องปรึกษาแคเ่ ร่อื งการเรียนเท่าน้ัน เม่ือมปี ัญหาใดๆ ท่ี อาจส่งผลกระทบต่อการเรียนหรือการใช้ชีวิต คุณสามารถปรึกษาเจ้าหน้าที่ มหาวทิ ยาลยั ไดท้ ันที โดยไมต่ อ้ งเกรงใจหรือรู้สึกไม่กล้า พวกเขาพร้อมจะช่วยเหลือ คุณอยู่เสมอ และไม่ได้คิดว่ามันเป็นการรบกวนจนเกินเหตุแต่อย่างใด นอกจากน้ี มหาวิทยาลัยหลายแห่ง ยังมีการก่อต้ังศูนย์ให้บริการนักศึกษาต่างชาติข้ึนมา โดยเฉพาะ เพอ่ื อานวยความสะดวกให้แกค่ ุณอยา่ งเตม็ ที่
3.การศึกษาของประเทศอังกฤษ(British education) การศกึ ษาภาคบังคับของประเทศอังกฤษนัน้ เร่ิมตั้งแต่อายุ 5 ถึง 16 ปี โดยแบ่งเป็น โรงเรียนรฐั บาล (State-funded) และ โรงเรยี นเอกชน (Independent schools) จะเนน้ การรว่ มกิจกรรมการเรยี นการสอนของนักศึกษา และการเรียนรูด้ ้วย ตนเอง สว่ นใหญเ่ ดก็ นักเรียนทอี่ งั กฤษส่วนใหญจ่ ะเรยี นในโรงเรียน แตถ่ า้ เป็น นกั เรยี นตา่ งชาตทิ มี่ าศึกษาต่อท่อี ังกฤษ ในระดบั มธั ยมศกึ ษานักเรียนจะต้องลงเรยี น ในโรงเรยี นเอกชนเทา่ น้นั การศกึ ษาทีเ่ ปิดเรยี นจะแบ่งออกเป็นท้งั หมด 3 ชว่ ง 1.ภาคต้น (Autumn Term) จะเร่ิมเรยี นในชว่ งปลายเดอื นกนั ยายนถึงกลางเดือน ธนั วาคม 2.ภาคกลาง (Spring Term)จะเร่มิ เรียนในช่วง เริม่ กลางเดอื นมกราคมถึงปลายเดอื น มีนาคม 3.ภาคปลาย (Summer Term) จะเริม่ เรยี นในชว่ งเร่มิ ปลายเดอื นเมษายนถงึ ตน้ เดอื นกรกฎาคม
4.การใหค้ วามสาคญั เรือ่ งเพศ (Focusing on sex) ผู้ชายและผู้หญิงในประเทศอังกฤษจะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน และคุณอาจพบว่า ความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงของท่ีน่ี ค่อนข้างเป็นทางการน้อยกว่าคนในแถบเอเชีย นอกจากน้ี วธิ ีการปฏิบตั ิตวั ต่อกันระหว่างชายหญิง ก็ยังแตกต่างกันออกไปข้ึนอยู่กับระดับอายุและสถานภาพ ของแต่ละคนด้วย หากไม่ม่นั ใจว่าจะต้องปฏิบัติตัวอยา่ งไร คณุ ควรหมน่ั สังเกตผู้คนรอบตัวว่าเขามี ปฏิสัมพนั ธก์ นั อยา่ งไรบ้าง แล้วจงึ นามาปรบั ใชใ้ ห้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่างๆ
มารยาทบนโตะ๊ อาหาร Table manners คนอังกฤษใช้ส้อมและมีดในการรับประทานอาหาร ใช้ช้อนสาหรับตักซุป ใน ลักษณะตักออกจากตัว ถือส้อมในมือซ้าย ถือมีดในมือขวา (ถ้าถนัดซ้ายก็ กลับข้างได้) ใช้ส้อมจ้ิมช้ินอาหารที่ต้องการตัดและใช้มีดห่ันอาหารแบบ สไลด์เป็นช้ินเล็กออก ใช้ส้อมจิ้มอาหารใส่ปากโดยคว่าส้อม (การหงายส้อม จ้ิมอาหารเขา้ ปากเป็นกริ ิยาไม่สภุ าพ) ห้ามใช้มีดจิ้มอาหารใส่ปากเป็นอันขาด จาเป็นหลักไว้เบื้องต้นว่า บน โต๊ะอาหาร จานวางขนมปังสาหรับเราจะอยู่ด้านซ้ายบน หากมีมีดส้อมเรียง กันอยู่มาก ให้หยิบใช้จากนอกเข้าหาใน (จากจานแรกไปจนจานสุดท้ายที่ เสริ ฟ์ ) ชอ้ นส้อมมดี เลก็ ๆ ทว่ี างเหนอื จานด้านบนใช้สาหรบั กินของหวาน
5.เรอื่ งของเวลา (Time) คนอังกฤษให้ความสาคัญกับการตรงต่อเวลามาก หากมีการนัดหมายหรือได้รับเชิญไปดิน เนอร์ คุณควรไปให้ถึงตามกาหนดเวลาไม่ควรไปสายเด็ดขาด และในการไปดินเนอร์ท่ีบ้าน เพื่อนนั้น โดยมารยาทแล้วคุณควรมขี องขวัญเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่น ไวน์ ช็อกโกแลต หรือ ดอกไม้ ติดมือไปฝากเจ้าของบ้านด้วยและถ้าเป็นงานปาร์ต้ี โดยท่ัวไปแล้วแขกจะต้องนา เคร่ืองดม่ื อย่างเช่นไวน์หรอื เบยี ร์ ติดไมต้ ดิ มอื ไปร่วมงานด้วย เพ่ือแบ่งปันกันด่ืมในหมเู่ พื่อน ฝงู อังกฤษค่อนข้างเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมสูง เพราะประชากรมาจาก หลายเชื้อชาติด้วยกันและคนอังกฤษส่วนใหญ่ก็ใจกว้างและยินดีต้อนรับชาวต่างชาติด้วย ความเป็นมิตรไม่ว่าคุณจะมาจากประเทศไหน ก็สามารถเข้าร่วมสังคมกับพวกเขาได้อย่าง สบายใจ
6.กฬี า (Sport) กีฬาเป็นงานอดิเรกที่ได้ความนิยมอย่างมากในประเทศอังกฤษ และจากความสาเร็จของ ลอนดอนเกมส์ ในปีค.ศ. 2012 ก็ยิ่งทาให้การกีฬาในประเทศอังกฤษได้รับความนิยมมากขึ้น ชาวอังกฤษชอบเล่นและชอบดูการแข่งขันกีฬามาก ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอล รักบ้ี ข่ีจักรยาน วิ่ง และกฬี าอนื่ ๆ อีกมากมาย เมอ่ื มเี วลาว่างพวกเขามักจะไปเล่นกีฬาในโรงยิม หรือว่ิงออกกาลังกายในสวนสาธารณะ และ มหาวทิ ยาลยั ส่วนใหญ่ก็จะมีชมรมกีฬาหลายประเภท ให้นักศึกษาได้เลือกตามความสนใจ ซ่ึงมี ให้เลือกต้ังแต่กีฬาทั่วไปอย่างฟุตบอล เน็ตบอล ไปจนถึงกิจกรรมแปลกๆ อย่างเต้นระบาหน้า ท้อง หรือ ศิลปะป้องกันตัวคาโปราอีร่า(Capoeira) การเข้าร่วมกิจกรรมเหล่าน้ีนอกจากจะทา ให้คุณได้ออกกาลังกายเพ่ือสุขภาพแล้ว คุณยังจะได้เข้าสังคมเพ่ือทาความรู้จักกับเพ่ือนใหม่ๆ อกี ดว้ ย และหากคุณช่ืนชอบการผจญภัยเล็กๆ น้อยๆ ประเทศอังกฤษก็มีภูเขาท่ีมีวิวทิวทัศน์สวยงาม เหมาะแก่การปีนข้ึนไปเพื่อออกกาลังกายและชมวิว เช่น ภูเขา Snowdonw ใน North Wales
7.ศิลปะการละคร(Theatrical arts) ในประเทศอังกฤษ ศิลปะการแสดงต่างๆ ได้รับความนิยมอย่างมาก เมือง ใหญ่อย่างกรุงลอนดอนมกี ารจัดแสดงโชว์เต้น การแสดงมวิ สิคอล และละคร เวที มากมายในแต่ละเดือน โดยการแสดงส่วนใหญ่จะตระเวนเดินทางจัด แสดงไปท่ัวประเทศ ไม่ว่าคุณจะเลือกอยู่เมืองไหนของประเทศอังกฤษ ก็ สามารถเดินทางไปรับชมการแสดงได้ ท่ีโรงละครในระแวกชุมชนท่ีคุณอาศัย อยู่ นอกจากสงิ่ ทนี่ ่าสนใจตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นแล้ว อังกฤษยังเป็นประเทศที่มี ประวัติศาสตร์น่าสนใจเป็นอย่างย่ิง หากมีโอกาสได้มาเรียนหนังสือและใช้ ชีวิตอยู่ที่น่ี คุณไม่ควรพลาดการไปเยี่ยมชมปราสาทโบราณอันสวยงาม โบสถ์เก่าแก่ที่มีเร่ืองราวน่าสนใจมากมาย และสถาปัตยกรรมต่างๆ ท่ีมีเสน่ห์ เฉพาะตัว ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวทางวัฒนธรรมของอังกฤษ ท่นี ่าสนใจมาก
8.วิธีปฏบิ ตั ใิ นสถานที่สาธารณะ (The park) เป็นเร่ืองท่ีไมส่ ุภาพที่จะจ้องคนในท่ีสาธารณะ และถ่มน้าลายบนถนน พยายามอย่าสั่ง น้ามูกหรือแคะจมูกในที่สาธารณะ แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้โปรดใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือกระดาษ ทิชชแู่ ทน ชาวองั กฤษส่วนใหญย่ ินดีทจ่ี ะใหค้ าแนะนาหากคณุ เข้าไปหาพวกเขาดว้ ยท่าทีสภุ าพ
9.การกลา่ ว ขอบคณุ / ขอโทษ / ไดโ้ ปรด (Thank/Sorry/Please) ชาวองั กฤษมักจะกล่าวขอบคุณซ้าๆ แมก้ ระทั่งเรื่องเล็กน้อย รวมถึงการกล่าวคาขอ โทษที่บางคร้ังตัวเขาไม่ได้ผิดอะไร ซ่ึงสิ่งเหล่าน้ีอาจดูน่าขาในสายตาของคนที่ไม่ เข้าใจ บางครั้งชาวอังกฤษพูดว่า ‘ cheers’ แทนท่ีจะขอบคุณ ซึ่งคุณอาจได้ยินพร้อมกับ คาวา่ “good bye ” ทีห่ มายความถึงการขอบคุณและลาก่อน การทาตามข้อปฏิบัติที่แม้จะดูยุ่งยากไปสักนิด แต่ก็เป็นสิ่งดีๆ ที่จะทาให้คุณ กลายเป็นคนที่น่ารักต่อผู้คนรอบข้าง และการเป็นคนน่ารักมักจะทาให้คุณได้รับ ความประทับใจไม่ว่าจะอยทู่ ่ีไหนกต็ าม
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: