Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

6

Published by kangkhen, 2020-04-07 12:48:47

Description: 6

Search

Read the Text Version

หน่วยที่ 6 : พระราชบญั ญัตโิ บราณสถาน โบราณวัตถุ ศลิ ปวตั ถุ และพิพธิ ภณั ฑส์ ถานแหง่ ชาติ (Archaeological sites, Antiques, Artifacts, and National Museums Act) - พระราชบัญญตั ิโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศลิ ปวตั ถุ และพพิ ิธภัณฑส์ ถาน แห่งชาติ พ.ศ. 2504 - พระราชบญั ญัตโิ บราณสถาน โบราณวตั ถุ ศลิ ปวตั ถุ และพิพิธภณั ฑส์ ถาน แหง่ ชาติ (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2535

2 พระราชบญั ญัติ โบราณสถาน โบราณวตั ถุ ศลิ ปวตั ถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 ------------------------------------------------------- ภมู ิพลอดลุ ยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันท่ี 2 สงิ หาคม พ.ศ. 2504 เป็นปีที่ 16 ในรชั กาลปัจจบุ ัน พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยทเี่ ปน็ การสมควรปรับปรงุ กฎหมายวา่ ดว้ ยโบราณสถาน ศิลปวัตถุ โบราณวตั ถุ และการพิพิธภณั ฑ์ แห่งชาติ จงึ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้ตราพระราชบัญญัตขิ ้ึนไว้โดยคาแนะนาและยินยอมของสภารา่ ง รัฐธรรมนูญ ในฐานะรัฐสภา ดงั ตอ่ ไปนี้ มาตรา 1 พระราชบัญญตั นิ ีเ้ รียกวา่ “พระราชบัญญตั โิ บราณสถาน โบราณวัตถุ ศลิ ปวัตถุ และ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ. 2504” มาตรา 2 พระราชบัญญตั ินี้ให้ใชบ้ ังคับเมื่อพ้นกาหนดสามสิบวนั นับแตว่ นั ประกาศในราชกจิ จา นุเบกษาเปน็ ต้นไป มาตรา 3 ใหย้ กเลิก (1) พระราชบัญญัติว่าด้วยโบราณสถาน ศิลปวัตถุ โบราณวัตถุ และการพิพิธภัณฑแ์ หง่ ชาติ พทุ ธศักราช 2477 และ (2) พระราชบญั ญัติว่าด้วยโบราณสถาน ศลิ ปวัตถุ โบราณวัตถุ และการพิพธิ ภัณฑแ์ ห่งชาติ (ฉบับท่ี 2) พุทธศักราช 2486 บรรดาบทกฎหมาย กฎ และข้อบังคับอนื่ ในสว่ นทม่ี ีบัญญตั ิไว้แลว้ ใน พระราชบัญญัติน้ี หรอื ซง่ึ ขัดหรอื แยง้ กับบทแห่งพระราชบัญญตั ิน้ี ใหใ้ ช้พระราชบัญญตั ินี้แทน มาตรา 4 ในพระราชบญั ญัตนิ ี้ “โบราณสถาน” หมายความว่า อสงั หารมิ ทรัพย์ซ่งึ โดยอายุหรอื โดยลักษณะแหง่ การก่อสร้าง หรอื โดย หลกั ฐานเก่ียวกับประวตั ิของอสังหารมิ ทรัพยน์ ัน้ เป็นประโยชนใ์ นทางศลิ ป ประวัติศาสตร์ หรือโบราณคดี ท้งั นี้ ใหร้ วมถึงสถานท่ีท่เี ป็นแหล่งโบราณคดี แหล่งประวัตศิ าสตร์ และอทุ ยานประวัตศิ าสตรด์ ้วย “โบราณวตั ถุ” หมายความว่า สงั หาริมทรัพย์ท่ีเป็นของโบราณ ไม่ว่าจะเปน็ ส่ิงประดิษฐ์หรือเป็นส่งิ ท่ี เกิดข้นึ ตามธรรมชาติ หรือทเ่ี ป็นส่วนหนึ่งสว่ นใดของโบราณสถาน ซากมนุษยห์ รือซากสัตว์ ซงึ่ โดยอายุหรือโดย ลักษณะแห่งการประดิษฐ์หรอื โดยหลกั ฐานเกี่ยวกบั ประวตั ขิ องสังหารมิ ทรัพยน์ น้ั เปน็ ประโยชนใ์ นทางศลิ ป ประวัตศิ าสตร์หรือโบราณคดี หน่วยท่ี 6 พรบ. โบราณสถาน โบราณวตั ถุ ศลิ ปวัตถุ และพิพิธภัณฑ์สถานแหง่ ชาติ รหัสวิชา: 3702 – 2006 ครูผ้สู อน นางสาวสปุ รียา ภผู าลา

3 “ศิลปวัตถุ” หมายความว่า ส่งิ ทที่ าดว้ ยฝีมืออย่างประณีตและมีคุณคา่ สูงในทางศิลปะ “สง่ิ เทียมโบราณวตั ถุ” หมายความว่า ส่ิงทที่ าเทียมโบราณวัตถหุ รือส่วนของโบราณวัตถุทไี่ ดข้ ึน้ ทะเบยี นไว้ตามพระราชบัญญัตนิ ้ี หรอื ที่อยู่ในความครอบครองของกรมศิลปากร “ส่ิงเทยี มศิลปวัตถุ” หมายความว่า ส่ิงท่ีทาเทยี มศลิ ปวตั ถุหรือส่วนของศลิ ปวัตถทุ ี่ได้ขนึ้ ทะเบียนไว้ ตามพระราชบัญญัตนิ ี้ หรือท่ีอยใู่ นความครอบครองของกรมศลิ ปากร “ทาเทียม\" หมายความวา่ เลียนแบบ จาลอง หรอื ทาเอาอย่างด้วยวิธีการใด ๆ ให้เหมือนหรือคลา้ ย ของจรงิ ทั้งน้ี ไม่วา่ จะมีขนาด รปู ลกั ษณะ และวัสดุอย่างเดิมหรอื ไม่ “พนกั งานเจา้ หน้าที่” หมายความวา่ ผ้ซู ึ่งรฐั มนตรแี ตง่ ตง้ั ให้ปฏิบตั ิการตามพระราชบัญญัติน้ี “อธิบดี” หมายความว่า อธบิ ดกี รมศิลปากร “รฐั มนตรี” หมายความวา่ รัฐมนตรีผรู้ ักษาการตามพระราชบัญญัติน้ี มาตรา 5 การออกหนังสืออนุญาตและการออกใบอนุญาตซ่ึงอธิบดีต้องกระทาตามพระราชบัญญัตนิ ี้ อธบิ ดีจะมอบหมายใหข้ า้ ราชการในกรมศิลปากรซึ่งมตี าแหนง่ ตัง้ แต่ผอู้ านวยการกองหรอื เทยี บเท่าขึน้ ไป กระทาแทน หรือผวู้ ่าราชการจังหวัดแหง่ ท้องทใ่ี ดเปน็ ผู้กระทาแทนสาหรบั ท้องท่ีนั้นก็ได้ การมอบหมายให้ ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา เมอื่ ได้มปี ระกาศมอบหมายใหผ้ วู้ ่าราชการจังหวัดแห่งทอ้ งทใ่ี ดกระทาการแทนอธิบดีตามความในวรรค หน่งึ แลว้ คาขอรับหนังสืออนุญาตและใบอนญุ าตให้ยนื่ ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดแห่งท้องท่นี ั้น มาตรา 6 ให้รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงวฒั นธรรม*รกั ษาการตามพระราชบญั ญัตนิ ี้ และให้มอี านาจ แตง่ ต้งั พนักงานเจ้าหน้าทก่ี ับออกกฎกระทรวงกาหนดค่าธรรมเนียมไม่เกนิ อัตราในบัญชีท้ายพระราชบญั ญตั นิ ี้ ยกเว้นคา่ ธรรมเนยี มและกาหนดกจิ การอื่นเพ่ือปฏบิ ัติการตามพระราชบัญญตั ินี้ กฎกระทรวงน้นั เมอ่ื ได้ประกาศในราชกจิ จานุเบกษาแล้วใหใ้ ช้บงั คบั ได้ หน่วยท่ี 6 พรบ. โบราณสถาน โบราณวตั ถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑ์สถานแหง่ ชาติ รหสั วิชา: 3702 – 2006 ครูผ้สู อน นางสาวสปุ รียา ภผู าลา

4 หมวด 1 โบราณสถาน มาตรา 7 เพื่อประโยชน์ในการดูแลรักษาและการควบคุมโบราณสถานให้เปน็ ไปตามพระราชบญั ญัติน้ี ให้อธิบดีมีอานาจประกาศในราชกิจจานุเบกษาข้ึนทะเบียนโบราณสถานใด ๆ ตามที่อธิบดีเห็นสมควรได้ และ ให้มีอานาจกาหนดเขตที่ดินตามที่เห็นสมควรเป็นเขตของโบราณสถาน โดยให้ถือว่าเป็นโบราณสถานด้วยก็ได้ ประกาศดังกล่าวน้ี อธิบดีจะเพิกถอนหรือแก้ไขเพิ่มเติมก็ให้กระทาได้โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา การขึ้นทะเบียนโบราณสถานตามความในวรรคก่อน ถ้าโบราณสถานน้ันมีเจ้าของหรือมีผู้ครอบครอง โดยชอบดว้ ยกฎหมาย ให้อธิบดีแจ้งเปน็ หนังสือให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองทราบ ถ้าเจ้าของหรอื ผู้ครอบครอง ไม่พอใจ ก็ให้มีสิทธิร้องต่อศาลภายในกาหนดสามสิบวันนับแต่วันท่ีอธิบดีแจ้งให้ทราบ ขอให้ศาลมีคาส่ังให้ อธิบดีระงับการขึ้นทะเบียนและหรือการกาหนดเขตที่ดินให้เป็นโบราณสถานแล้วแต่ กรณีได้ ถ้าเจ้าของ หรือผู้ครอบครองมิได้ร้องขอต่อศาล หรือศาลมีคาสั่งคดีถึงท่ีสุดให้ยกคาร้องขอของเจ้าของหรือผู้ครอบครอง ให้อธิบดดี าเนนิ การขึน้ ทะเบียนได้ มาตรา 7 ทวิ ห้ามมิให้ผู้ใดปลูกสร้างอาคารตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการก่อสร้างอาคาร ภายในเขตของโบราณสถาน ซึ่งอธิบดีได้ประกาศขึ้นทะเบียน เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากอธิบดีใน กรณีที่มีการปลูกสร้างอาคารโดยมิได้รับอนุญาต ให้อธิบดีมีอานาจสั่งระงับการก่อสร้างและให้ร้ือถอนอาคาร หรือสว่ นแห่งอาคารนัน้ ภายในกาหนดหกสบิ วนั นบั แตว่ นั ไดร้ บั คาสงั่ ผู้ใดขัดขืนไม่ระงับการก่อสร้างหรือรื้อถอนอาคารหรือส่วนแห่งอาคารตามคาสั่งอธิบดี มีความผิดฐาน ขัดคาสั่งเจ้าพนักงาน และให้อธิบดีดาเนินการร้ือถอนอาคารหรือส่วนแห่งอาคารนั้นได้ โดยเจ้าของผู้ ครอบครองหรือผู้ปลูกสร้างไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายหรือดาเนินคดีแก่ผู้ร้ือถอนไม่ว่าด้วยประการใดทั้งส้ิน สัมภาระที่ร้ือถอนถ้าเจ้าของไม่ขนย้ายออกไปจากเขตโบราณสถานภายในกาหนดสิบห้าวันนับแต่วัน รื้อถอนเสร็จ ให้อธิบดีจัดการขายทอดตลาดสัมภาระนนั้ เงินทีไ่ ด้จากการขายเมอื่ หักค่าใช้จ่ายในการรอื้ ถอนและ การขายแลว้ เหลือเทา่ ใดให้คืนให้เจ้าของสมั ภาระนนั้ มาตรา 8 บรรดาโบราณสถานซ่ึงอธิบดีกรมศิลปากรได้จัดทาบัญชีและประกาศในราชกิจจานุเบกษา ตามกฎหมายว่าด้วย โบราณสถาน ศิลปวัตถุ โบราณวัตถุ และการพิพิธภัณฑ์แห่งชาติแล้วก่อนวันที่ พระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับ ให้ถือว่าเป็นโบราณสถานที่ได้ข้ึนทะเบียนแล้ว ตามพระราชบัญญัติน้ีด้วย มาตรา 9 โบราณสถานท่ีได้ข้ึนทะเบียนแล้ว และเป็นโบราณสถานที่มีเจ้าของหรือผู้ครอบครองโดย ชอบด้วยกฎหมาย ชารุด หักพังหรือเสียหายไม่ว่าด้วยประการใด ๆ ให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองโบราณสถาน นนั้ แจ้งการชารุด หักพังหรือเสียหายเป็นหนังสือไปยังอธิบดีภายในสามสิบวันนับแต่วนั ท่ีเกิดชารุด หักพังหรือ เสยี หายนัน้ มาตรา 9 ทวิ โบราณสถานตามมาตรา 9 ที่ได้จดั ใหม้ ีการเรียกเก็บค่าเข้าชมหรือค่าบริการอื่นเป็นปกติ ธุระ หรือจัดเก็บผลประโยชน์ใด ๆ อันเกิดจากโบราณสถานน้ัน ให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองโดยชอบด้วย ก ฎ ห ม าย เป็ น ผู้ เสี ย ค่ าใช้ จ่ าย ใน ก า รซ่ อ ม แ ซ ม ท้ั งห ม ด ห รือ บ า งส่ ว น ต าม ที่ อ ธิ บ ดี ก าห น ด การกาหนดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมโบราณสถานตามวรรคหน่ึง ให้อธิบดีแต่งตั้งกรรมการขึ้นคณะ ห น่ึ งมี จ าน ว น ไม่ น้ อ ย ก ว่าส าม ค น โด ย ให้ เจ้ าข อ งห รือ ผู้ ค รอ บ ค รอ งร่ว ม เป็ น ก รรม ก ารด้ ว ย หน่วยท่ี 6 พรบ. โบราณสถาน โบราณวตั ถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑ์สถานแหง่ ชาติ รหสั วชิ า: 3702 – 2006 ครูผ้สู อน นางสาวสปุ รียา ภผู าลา

5 มาตรา 10 ห้ามมิให้ผู้ใดซ่อมแซม แก้ไข เปลี่ยนแปลง รื้อถอน ต่อเติม ทาลาย เคล่ือนย้าย โบราณสถานหรือส่วนต่าง ๆ ของโบราณสถาน หรือขุดค้นสิ่งใด ๆ หรือปลูกสร้างอาคารภายในบริเวณ โบราณสถาน เว้นแต่จะกระทาตามคาส่ังของอธิบดีหรือได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากอธิบดี และถ้าหนังสือ อนุญาตน้นั กาหนดเงอ่ื นไขไว้ประการใดก็ต้องปฏิบตั ิตามเง่ือนไขน้นั ดว้ ย มาตรา 10 ทวิ พนักงานเจ้าหนา้ ท่ีมีอานาจเข้าไปในโบราณสถานเพ่ือตรวจดูวา่ ไดม้ ีการซ่อมแซม แกไ้ ข เปลี่ยนแปลง รื้อถอน ต่อเติม ทาลายเคล่ือนย้ายโบราณสถานหรือส่วนต่าง ๆ ของโบราณสถาน หรือมีการขุด ค้นส่ิงใด ๆ หรือปลูกสร้างอาคารภายในบรเิ วณโบราณสถานหรือไม่ ในการนี้ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอานาจยึด ห รื อ อ ายั ด วั ต ถุ ที่ มี เห ตุ อั น ส ม ค ว ร ส งสั ย ว่ า จ ะ เป็ น วั ต ถุ ที่ ได้ ม า จ าก ก าร ขุ ด ค้ น ใน บ ริ เว ณ โบ ร าณ ส ถ าน ได้ การตรวจ ยึดหรืออายัดตามความในวรรคหนึ่ง ให้กระทาได้ระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก และเม่ือดาเนินการตรวจ ยึดหรืออายัดแล้ว ในเขตกรุงเทพมหานครให้รายงานต่ออธิบดี ในเขตจังหวัดอื่นให้ รายงานต่อผูว้ ่าราชการจงั หวดั และอธิบดีเพื่อทราบ มาตรา 11 โบราณสถานท่ีได้ขึ้นทะเบียนแล้วน้ัน แม้ว่าจะเป็นโบราณสถานท่ีมีเจ้าของหรือผู้ ครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมาย กใ็ หอ้ ธิบดีมีอานาจสั่งให้พนักงานเจ้าหนา้ ทหี่ รือบุคคลใด ๆ ทาการซอ่ มแซม หรือกระทาด้วยประการใด ๆ อันเป็นการบูรณะหรือรักษาไว้ให้คงสภาพเดิมได้ แต่ต้องแจ้งเป็นหนังสือให้ เจ้าของหรอื ผู้ครอบครองทราบกอ่ น มาตรา 12 ในกรณีท่ีมีการโอนโบราณสถานที่ได้ขึ้นทะเบียนแล้ว ผู้โอนจะตอ้ งแจ้งการโอนเปน็ หนังสือ โดยระบุชื่อและที่อยู่ของผู้รับโอน และวันเดือนปีท่ีโอนไปยังอธิบดีภายในสามสิบวันนับแต่วันโอน ผู้ได้รับกรรมสิทธ์ิโบราณสถานท่ีได้ข้ึนทะเบียนแล้วโดยทางมรดกหรือโดยพินัยกรรมต้องแจ้งการได้รับ กรรมสิทธ์ิไปยังอธิบดีภายในหกสิบวันนับแต่วันได้รับกรรมสิทธิ์ ในกรณีท่ีมีผู้ได้รับกรรมสิทธ์ิโบราณสถาน เดียวกันหลายคน เม่ือได้มีการมอบหมายให้ผู้มีกรรมสิทธิ์รวมคนใดคนหน่ึงเป็นผู้แจ้งการรับกรรมสิทธ์ิ และผู้ ได้รับมอบหมายได้ปฏิบัติการแจ้งน้ันภายในกาหนดเวลาดังกล่าวแล้ว ให้ถือว่าผู้มีกรรมสิทธิ์รวมทุกคนได้ ปฏิบตั กิ ารแจง้ นัน้ แล้วด้วย มาตรา 13 เพื่อประโยชน์ในการรักษาสภาพ ความปลอดภัย ความสะอาด และความเป็นระเบียบ เรียบร้อยของโบราณสถานทไ่ี ดข้ ึ้นทะเบียนแล้ว ให้รัฐมนตรีมีอานาจออกกฎกระทรวงกาหนดใหผ้ ู้เข้าชมปฏิบัติ ในระหว่างเขา้ ชมได้ และจะกาหนดให้ผเู้ ขา้ ชมเสยี คา่ เข้าชมหรือคา่ บรกิ ารอนื่ ด้วยก็ได้ การจัดให้เข้าชมโบราณสถานท่ีมีเจ้าของหรือผู้ครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมาย โดยเรียกเก็บค่าเข้า ชมหรือค่าบรกิ ารอื่น ต้องแจ้งเป็นหนังสือให้อธิบดีทราบก่อนและต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์วธิ ีการและเงอื่ นไข ท่ีอธิบดีประกาศกาหนดในราชกจิ จานุเบกษา มาตรา 13 ทวิ เพ่ือประโยชน์ในการส่งเสริมการศึกษาและเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม อธิบดีมีอานาจ อนุญาตเป็นหนังสือให้บุคคลใดเข้าไปดาเนินกิจการใด ๆ เพ่ือหาผลประโยชน์ในบริเวณโบราณสถานท่ีได้ขึ้น ทะเบียนแล้วและมิใช่เป็นโบราณสถานที่มีเจ้าของหรือผู้ครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมาย โดยให้ผู้รับอนุญาต ออกค่าใช้จ่ายในการดาเนินกิจการทั้งส้ิน และผู้รับอนุญาตต้องจ่ายเงนิ ค่าสิทธิค่าตอบแทน และค่าธรรมเนียม อื่นให้แก่กรมศิลปากรเพื่อสมทบกองทุนโบราณคดี ทั้งนี้ ตามระเบียบท่ีอธิบดีประกาศกาหนดในราชกิจจา นุเบกษา หน่วยที่ 6 พรบ. โบราณสถาน โบราณวตั ถุ ศลิ ปวัตถุ และพิพิธภัณฑ์สถานแหง่ ชาติ รหสั วชิ า: 3702 – 2006 ครูผ้สู อน นางสาวสปุ รียา ภผู าลา

6 หมวด 2 โบราณวัตถุและศิลปวตั ถุ มาตรา 14 เมื่ออธบิ ดเี ห็นว่าโบราณวัตถุหรือศิลปวตั ถใุ ดทมี่ ิได้อยู่ในความครอบครองของกรมศิลปากร มปี ระโยชน์หรือคุณค่าในทางศิลป ประวัติศาสตรห์ รอื โบราณคดีเป็นพิเศษ อธิบดีมีอานาจประกาศในราชกิจจา นุเบกษาข้นึ ทะเบียนโบราณวตั ถุ หรอื ศิลปะวัตถนั้น ในกรณีท่ีอธิบดีเห็นว่าโบราณวัตถุใดไม่ว่าจะได้ข้ึนทะเบียนแล้วหรือไม่ หรือศิลปวัตถุใดที่ได้ขึ้น ทะเบียนแล้ว สมควรสงวนไว้เป็นสมบัติของชาติ อธิบดีมีอานาจประกาศในราชกิจจานุเบกษากาหนดให้ โบราณวตั ถหุ รอื ศิลปวตั ถุนัน้ เป็นโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถทุ ี่ห้ามทาการค้า และหากเหน็ สมควรเกบ็ รกั ษาไว้เป็น สมบัติของชาติ ให้อธิบดีมอี านาจจดั ซ้ือโบราณวตั ถุหรอื ศิลปวัตถนุ ้นั ไวไ้ ด้ มาตรา 14 ทวิ เพ่ือประโยชน์ในการอนุรักษ์และการจัดทาทะเบียนโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุที่มีอายุ ตั้งแต่สมัยอยุธยาขึ้นไป ให้อธิบดีมีอานาจประกาศในราชกิจจานุเบกษากาหนดให้เขตท้องท่ีใดเป็นเขตสารวจ โบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุนั้น โดยให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองแจ้งปริมาณ รูปพรรณและสถานที่เก็บรักษา โบ ราณ วัต ถุ ห รือ ศิลป วัต ถุนั้ น ต่อ อธิบ ดี ตาม ห ลัก เกณ ฑ์ วิธีก ารและเง่ือ น ไขท่ี อธิบ ดี กาห น ด เม่ือได้มีประกาศตามวรรคหนึ่งแล้ว อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายมีอานาจเข้าไปในเคหสถานของ เจ้าของหรือผู้ครอบครอง หรือสถานท่ีเก็บรักษาโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุนั้น ระหว่างพระอาทิตย์ข้ึนถึงพระ อาทิตย์ตกหรือระหว่างเวลาทาการเพ่ือประโยชน์ในการจัดทาทะเบียน และในกรณีที่เห็นว่าโบราณวัตถุหรือ ศิลปวัตถุใดมีประโยชน์หรือคุณค่าในทางศิลป ประวัติศาสตร์ หรือโบราณคดีเป็นพิเศษ ให้อธิบดีมีอานาจ ดาเนินการตามมาตรา 14 ได้ มาตรา 15 โบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุที่ได้ข้ึนทะเบียนแล้วน้ัน ห้ามมิให้ผู้ใดซ่อมแซม แก้ไขหรือ เปล่ยี นแปลงเวน้ แต่จะไดร้ ับอนุญาตเป็นหนงั สือจากอธิบดี และถ้าหนังสอื อนญุ าตนั้นกาหนดเงอ่ื นไขไวป้ ระการ ใดกต็ อ้ งปฏบิ ตั ติ ามเงอื่ นไขน้นั ด้วย มาตรา 16 ในกรณีท่ีโบราณวัตถุหรอื ศิลปวัตถุทไ่ี ดข้ น้ึ ทะเบียนแล้วชารุด หักพัง เสียหาย สูญหาย หรือ มีการย้ายสถานที่เก็บรักษา ให้ผู้ครอบครองโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุน้ันแจ้งเป็นหนังสือไปยังอธิบดีภายใน สามสิบวันนับแต่วนั ชารดุ หักพัง เสยี หาย สญู หาย หรอื มกี ารย้ายนนั้ มาตรา 17 ในกรณีที่มีการโอนโบราณวตั ถหุ รอื ศิลปวตั ถุท่ีไดข้ ึ้นทะเบียนแลว้ ผูโ้ อนจะต้องแจง้ การโอน เปน็ หนังสอื โดยระบชุ ่ือและท่อี ยู่ของผู้รับโอน และวันเดือนปที ่ีโอนไปยังอธบิ ดีภายในสามสิบวนั นบั แตว่ ันโอน ผ้ไู ด้รับกรรมสิทธิ์โบราณวัตถุหรือศิลปวตั ถุท่ีได้ขึ้นทะเบียนแล้วโดยทางมรดกหรือโดยพินัยกรรม ต้อง แจ้งการได้รับกรรมสิทธ์ิไปยังอธิบดีภายในหกสิบวันนับแต่วันได้รับกรรมสิทธ์ิ ในกรณีท่ีมีผู้ได้รับกรรมสิทธิ์ โบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุเดียวกันหลายคน เม่ือได้มีการมอบหมายให้ผู้มีกรรมสทิ ธ์ิรวมคนใดคนหน่ึงเป็นผู้แจ้ง การรับกรรมสิทธิ์ และผู้ได้รับมอบหมายได้ปฏิบัติการแจ้งน้ันภายในกาหนดเวลาดังกล่าวแล้ว ให้ถือว่าผู้มี กรรมสทิ ธ์ิรวมทกุ คนไดป้ ฏบิ ตั ิการแจง้ น้นั แลว้ ด้วย มาตรา 18 โบราณวัตถุและศิลปวัตถุท่ีเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน และอยู่ในความดูแลรักษาของกรม ศลิ ปากรจะโอนกันมิได้ เว้นแต่อาศัยอานาจแห่งบทกฎหมาย แต่ถ้าโบราณวัตถุและศิลปวัตถุใดมีเหมือนกันอยู่ มากเกนิ ตอ้ งการอธบิ ดจี ะอนุญาตใหโ้ อนโดยวิธขี ายหรอื แลกเปล่ยี นเพ่ือประโยชน์แห่งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หน่วยที่ 6 พรบ. โบราณสถาน โบราณวตั ถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑ์สถานแหง่ ชาติ รหสั วิชา: 3702 – 2006 ครูผ้สู อน นางสาวสปุ รียา ภผู าลา

7 หรือให้เป็นรางวัลหรือเป็นค่าแรงงานแก่ผู้ขุดค้นก็ได้ ท้ังน้ีตามระเบียบที่อธิบดีประกาศกาหนดในราชกิจจา นเุ บกษา มาตรา 18 ทวิ โบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุท่ีอยู่ในความครอบครองของกรมศิลปากร หรือที่ได้ข้ึน ทะเบียนไว้และมีประโยชน์หรือคุณค่าในทางศิลป ประวัติศาสตร์หรือโบราณคดีเป็นพิเศษ รัฐมนตรีมีอานาจ ประกาศในราชกจิ จานุเบกษากาหนดให้โบราณวัตถหุ รือศิลปวตั ถนุ ั้นเปน็ โบราณวตั ถหุ รือศลิ ปวัตถุท่ีควบคมุ การ ทาเทยี ม เมื่อได้มีประกาศตามวรรคหน่ึงแล้ว การผลิต การค้า หรือมีไว้ในสถานที่ทาการค้าซึ่งสิ่งเทียม โบราณวัตถุหรือส่ิงเทียมศิลปวัตถุท่ีควบคุมการทาเทียมน้ัน ให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขท่ี อธิบดีประกาศกาหนดในราชกจิ จานุเบกษา และให้ผูป้ ระสงคจ์ ะผลิตส่ิงเทียมโบราณวัตถุหรอื สง่ิ เทียมศลิ ปวัตถุ ท่คี วบคมุ การทาเทยี มแจ้งรายการสิ่งทีต่ นจะผลิตตอ่ อธิบดีพรอ้ มท้ังตอ้ งแสดงให้ปรากฏทีส่ ่งิ ทต่ี นผลติ นั้นดว้ ยว่า เป็นส่ิงทีไ่ ดท้ าเทียมขึ้น เม่ือได้รับแจ้งตามวรรคสองแล้ว ให้อธิบดีแจ้งรายชื่อผู้ผลิตและรายการสิ่งเทียมโบราณวัตถุและสิ่ง เทยี มศิลปวตั ถทุ ่ีควบคุมการทาเทียมท่ีจะผลิตน้นั ต่ออธิบดีกรมศุลกากรเพ่ือประโยชน์ในการสง่ หรือนาออกนอก ราชอาณาจักรด้วย มาตรา 19 ผู้ใดประสงค์จะทาการค้าโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุท่ีมิได้ห้ามทาการค้าตามมาตรา 14 วรรคสอง ตอ้ งได้รบั ใบอนุญาตจากอธิบดี การขอรับใบอนุญาตและการอนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กาหนดใน กฎกระทรวง ในกรณีที่อธิบดีอนุญาต ให้อธิบดีประกาศรายช่ือผู้ได้รับใบอนุญาตในราชกิจจานุเบกษา ในกรณีที่อธิบดีไมอ่ นุญาต ผู้ขอรับในอนุญาตมีสทิ ธิอทุ ธรณ์เป็นหนงั สือตอ่ รัฐมนตรีภายในสามสิบวนั นับแตว่ ันท่ี ไดท้ ราบคาสัง่ คาวินจิ ฉยั ของรฐั มนตรีใหเ้ ป็นทีส่ ุด มาตรา 19 ทวิ ผใู้ ดจะแสดงโบราณวัตถหุ รือศิลปวตั ถุโดยเรยี กเก็บคา่ เขา้ ชมหรอื คา่ บริการอ่นื ต้องแจ้ง เป็นหนังสือให้อธิบดีทราบก่อน และต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเง่ือนไขที่อธิบดีประกาศกาหนดใน ราชกิจจานุเบกษา มาตรา 19 ตรี ใบอนญุ าตตามมาตรา 19 ให้มีอายุใช้ได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคมของปีท่ีออกใบอนุญาต ถ้าผู้รับใบอนุญาตประสงค์จะขอต่ออายุใบอนุญาตให้ย่ืนคาขอต่ออายุใบอนุญาตต่ออธิบดีก่อนใบอนุญาตส้ิน อายุ เม่ือได้ย่ืนคาขอแล้ว ให้ประกอบกิจการต่อไปได้จนกว่าอธิบดีจะสั่งไม่อนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาตน้ัน การขอตอ่ อายุใบอนุญาตและการอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธกี ารและเงื่อนไขทีก่ าหนดในกฎกระทรวง ในกรณีที่อธิบดีอนุญาต ให้อธิบดีประกาศรายช่ือผู้ได้รับใบอนุญาตในราชกิจจานุเบกษา ในกรณีที่อธิบดีไม่อนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาต ผู้ขอต่ออายุใบอนุญาตมีสิทธิอุทธรณ์เป็นหนังสือต่อ รัฐ ม น ต รีภ าย ใน ส าม สิ บ วั น นั บ แ ต่ วัน ท่ี ได้ ท ราบ ค าสั่ งค าวิ นิ จ ฉั ย ข อ งรั ฐ ม น ต รีให้ เป็ น ท่ี สุ ด ถ้ามีการอุทธรณ์การต่ออายุใบอนุญาตตามวรรคสามก่อนท่ีรัฐมนตรีจะมีคาวินิจฉัย รัฐมนตรีจะส่ัง อนุญาตใหป้ ระกอบกจิ การไปพลางก่อนเมอื่ มีคาขอของผู้อทุ ธรณ์กไ็ ด้ มาตรา 20 ผู้รับใบอนุญาตตามมาตรา 19 ต้องแสดงใบอนุญาตไว้ในท่ีเปิดเผยและเห็นได้ง่าย ณ สถานท่ีทาการค้า และให้ผู้รับใบอนุญาตทาบัญชีรายการโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุ หรือส่ิงเทียมโบราณวัตถุ หน่วยท่ี 6 พรบ. โบราณสถาน โบราณวตั ถุ ศลิ ปวัตถุ และพิพิธภัณฑ์สถานแหง่ ชาติ รหสั วชิ า: 3702 – 2006 ครูผ้สู อน นางสาวสปุ รียา ภผู าลา

8 หรือส่ิงเทียมศิลปวัตถุที่ควบคุมการทาเทียมท่ีอยู่ในความครอบครองของตนและรักษาบัญชีนั้นไว้ ณ สถานท่ี ดังกล่าว ทงั้ นี้ ตามระเบียบท่อี ธิบดปี ระกาศกาหนดในราชกิจจานุเบกษา มาตรา 21 ให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีมีอานาจเข้าไปในสถานท่ีผลิต สถานท่ีทาการค้า สถานท่ีแสดง หรือ สถานทีเ่ ก็บรักษาโบราณวัตถุหรอื ศิลปวัตถุ หรือส่งิ เทียมโบราณวัตถุหรือส่ิงเทียมศลิ ปวัตถุ ระหวา่ งพระอาทิตย์ ขน้ึ ถึงพระอาทิตย์ตกหรือระหวา่ งเวลาทาการ เพ่ือตรวจดูว่าได้มกี ารปฏิบตั ิถกู ต้องตามพระราชบัญญัตนิ ้ีหรือไม่ หรือเพือ่ ตรวจดูว่ามีโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุ หรือส่ิงเทียมโบราณวตั ถุ หรือสิ่งเทียมศิลปวัตถุที่ได้มาโดยมชิ อบ ด้วยกฎหมาย หรือมีสิ่งเทียมโบราณวัตถุ หรือสิ่งเทียมศิลปวัตถุที่มิได้ปฏิบัติตามประกาศที่อธิบดีกาหนดตาม มาตรา 18 ทวิ อยู่ในสถานที่น้ันหรือไม่ และในกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยว่ามิได้มีการปฏิบัติให้ถูกต้องตาม พระราชบัญญัติน้ี หรือมีโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุหรือส่ิงเทียมโบราณวัตถุหรือสิ่งเทียมศิลปวัตถุที่ได้มาโดยมิ ชอบด้วยกฎหมาย หรือสงิ่ เทยี มโบราณวตั ถหุ รือส่งิ เทียมศลิ ปวัตถุท่ีมิได้ปฏิบตั ิตามประกาศท่ีอธิบดีกาหนดตาม มาตรา 18 ทวิ ให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีมีอานาจ ยึดหรืออายัดโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุหรือสิ่งเทียมโบราณวัตถุ หรือสง่ิ เทียมศลิ ปวัตถนุ นั้ เพอ่ื ประโยชนใ์ นการดาเนนิ คดไี ด้ มาตรา 21 ทวิ ในการปฏิบัติหน้าที่ อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายหรือพนักงานเจ้าหน้าท่ี แล้วแต่ กรณี ต้องแสดงบัตรประจาตัวต่อเจ้าของ ผู้ครอบครอง ผู้รับใบอนุญาต หรือผู้ที่เกี่ยวข้องในสถานที่ท่ีทาการ ตรวจสอบตามมาตรา 14 ทวิ หรือมาตรา 21 และให้เจ้าของ ผู้ครอบครอง ผู้รับใบอนุญาต หรือผู้ท่ีเก่ียวข้อง ดังกล่าวอานวยความสะดวกตามสมควร บัตรประจาตัวพนักงานเจ้าหน้าท่ีให้เป็นไปตามแบบที่กาหนดใน กฎกระทรวง” มาตรา 21 ตรี ในการปฏิบัติหน้าที่ ให้อธิบดีหรือผู้ซ่ึงอธิบดีมอบหมายหรือพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นเจ้า พนกั งานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 22 ห้ามมิให้ผู้ใดส่งหรอื นาโบราณวัตถุหรือศิลปวตั ถุ ไม่ว่าโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุน้ันจะเป็น โบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุท่ีได้ขึ้นทะเบียนแล้วหรือไม่ ออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจาก อธิบดี การขอรับใบอนุญาตและการอนุญาตตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขท่ี กาหนดในกฎกระทรวง ความในวรรคหน่ึงมิให้ใช้บังคับแก่ศิลปวัตถุท่ีมีอายุไม่เกินห้าปีและไม่ได้ขึ้นทะเบียน และการนา โบราณวตั ถุหรอื ศิลปวัตถุผา่ นราชอาณาจักร มาตรา 23 บุคคลใดประสงค์จะส่งโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุออกนอกราชอาณาจักรเป็นการช่ัวคราว ให้ยื่นคาขอรับใบอนุญาตต่ออธิบดี ในกรณีท่ีอธิบดีมีคาสั่งไม่อนุญาต ผู้ขอมีสิทธิอุทธรณ์คาส่ังของอธิบดีต่อ รัฐมน ตรีภ ายใน กาหน ดสามสิบ วัน นับ แต่วันท ราบ คาส่ัง คาวินิ จฉัยของรัฐมน ตรีให้เป็ นท่ี สุด ในกรณีอธิบดีเห็นสมควรหรือรัฐมนตรีวินิจฉัยให้ออกใบอนุญาตให้ผู้ยื่นคาขอส่งโบราณวัตถุหรือ ศิลปวตั ถุออกนอกราชอาณาจักรเป็นการช่ัวคราว และเม่ือผู้ย่ืนคาขอได้ยินยอมปฏิบัติตามเงื่อนไข วิธีการและ ข้อกาหนดว่าด้วยการวางเงินประกัน และหรือการชาระค่าปรับตามท่ีกาหนดในกฎกระทรวงเก่ียวแก่การส่ง โบราณวัตถแุ ละศิลปวัตถุออกนอกราชอาณาจกั รเป็นการช่ัวคราวแล้วก็ใหอ้ ธิบดีออกใบอนญุ าตให้ผู้ย่ืนเร่อื งราว สง่ หรือนาวตั ถอุ อกนอกราชอาณาจักรเป็นการชัว่ คราวได้ หนว่ ยที่ 6 พรบ. โบราณสถาน โบราณวตั ถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑ์สถานแหง่ ชาติ รหสั วิชา: 3702 – 2006 ครูผ้สู อน นางสาวสปุ รียา ภผู าลา

9 มาตรา 23 ทวิ ในกรณีท่ีมีความจาเป็นท่ีต้องส่งหรือนาโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุ หรือช้ินส่วนของ โบราณวัตถุหรือศิลปวตั ถุที่อยู่ในความครอบครองของกรมศิลปากรออกนอกราชอาณาจักรเพ่ือการศึกษา การ วิเคราะห์ การวิจัยการซ่อมแซม หรือประกอบ ให้อธิบดีมีอานาจส่งหรือนาโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุ หรือ ชิ้นส่วนของโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุออกนอกราชอาณาจักรเป็นการช่ัวคราวได้ เว้นแต่เป็นช้ินส่วนของ โบราณวัตถหุ รือศิลปวตั ถทุ ่ีต้องนาไปแปรสภาพหรือทาลายไปโดยกระบวนการวเิ คราะห์หรือการวิจยั น้ัน อธิบดี จะสง่ หรอื นาออกนอกราชอาณาจกั รโดยไมต่ ้องนากลับก็ได้ มาตรา 24 โบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุที่ซ่อนหรือฝังหรือทอดท้ิงไว้ในราชอาณาจักรหรือในบริเวณเขต เศรษฐกิจจาเพาะโดยพฤติการณ์ซ่ึงไม่มีผู้ใดสามารถอ้างว่าเป็นเจ้าของได้ ไม่ว่าท่ีที่ซ่อนหรือฝังหรือทอดทิ้งจะ อยู่ในกรรมสิทธ์ิหรือความครอบครองของบุคคลใดหรือไม่ ให้ตกเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน ผู้เก็บได้ตอ้ งสง่ มอบ แก่พนักงานเจ้าหน้าท่ีหรือพนักงานฝ่ายปกครอง หรือตารวจ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา แลว้ มสี ิทธจิ ะไดร้ ับรางวัลไมเ่ กนิ หนึง่ ในสามแหง่ ค่าของทรัพยส์ นิ นั้น อธิบดีตัง้ กรรมการขึ้นคณะหนึ่งมจี านวนไม่น้อยกว่าสามคนเป็นผ้พู จิ ารณากาหนดค่าของทรัพย์สินและ เงินรางวัลตามวรรคหนึ่ง ผู้เก็บได้มีสิทธิอุทธรณ์การกาหนดของคณะกรรมการเป็นหนังสือต่ออธิบดีภายในสิบ ห้าวันนับแตว่ นั ทราบการกาหนด คาวินจิ ฉัยของอธิบดใี ห้เปน็ ทส่ี ุด มาตรา 24 ทวิ ในกรณีที่ใบอนุญาตที่ออกตามพระราชบัญญัตินี้สูญหายหรือถูกทาลายในสาระสาคัญ ให้ผู้รับใบอนุญาตยื่นคาขอรับใบแทนใบอนุญาตต่ออธิบดีภายในสิบห้าวันนับแต่วนั ท่ีทราบการสูญหายหรือถูก ทาลาย การขอรับใบแทนใบอนุญาตและการออกใบแทนใบอนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และ เงอ่ื นไขทกี่ าหนดในกฎกระทรวง หน่วยท่ี 6 พรบ. โบราณสถาน โบราณวตั ถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภณั ฑ์สถานแหง่ ชาติ รหัสวชิ า: 3702 – 2006 ครูผ้สู อน นางสาวสปุ รียา ภผู าลา

10 หมวด 3 พพิ ิธภณั ฑสถานแหง่ ชาติ มาตรา 25 ใหม้ พี พิ ธิ ภัณฑสถานแห่งชาติเปน็ ท่เี กบ็ รักษาโบราณวัตถุหรือศิลปวตั ถุอนั เปน็ ทรัพยส์ นิ ของ แผ่นดิน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาตจิ ะจัดตั้งข้ึน ณ ทีใ่ ด หรือจะให้สถานท่ีใดเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ตลอด ถึงการถอนสภาพ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ให้รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา ให้พิพิธภัณฑสถาน แห่งชาติท่ีมีอยู่แล้วในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ เป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติตามพระราชบัญญัตินี้ มาตรา 26 โบราณวัตถุและศิลปวัตถุซึ่งเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินและอยู่ในความดูแลรักษาของกรม ศลิ ปากรนั้น จะเก็บรักษาไว้ ณ สถานท่ีอ่ืนใดนอกจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติมิได้ แต่ในกรณีที่ไม่อาจหรือไม่ สมควรจะนามาเก็บรักษา ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติและได้รับอนุญาตจากอธิบดีแล้วจะเก็บรักษาไว้ ณ พิพธิ ภณั ฑอ์ ่ืน วดั หรือสถานทข่ี องทางราชการกไ็ ด้ ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคบั แก่กรณีที่อธิบดอี นุญาตให้นาโบราณวตั ถุหรือศิลปวัตถุไปแสดง ณ ที่ใด ๆ เป็นการช่ัวคราว หรือในกรณีที่อธิบดีมีคาสั่งให้นาโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุออกจาก พิพิธภัณฑสถาน แห่งชาติเพ่ือประโยชน์ในการซ่อมแซมหรือบูรณะ ในกรณีท่ีโบราณวัตถุและศิลปวัตถุใดมีเหมือนกันหลายช้ิน อธบิ ดจี ะอนุญาตให้กระทรวง ทบวง กรมใดเป็นผูเ้ กบ็ รักษาโบราณวัตถแุ ละศลิ ปวัตถุนัน้ บางชน้ิ กไ็ ด้ มาตรา 27 เพ่ือประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัย ความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อย ของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ให้รัฐมนตรมี ีอานาจออกกฎกระทรวงกาหนดให้ผูเ้ ข้าชมปฏิบัติในระหวา่ งเข้าชม ได้ และจะกาหนดใหผ้ เู้ ขา้ ชมเสยี คา่ เขา้ ชมหรอื ค่าบริการอน่ื ด้วยก็ได้ หน่วยท่ี 6 พรบ. โบราณสถาน โบราณวตั ถุ ศลิ ปวัตถุ และพิพิธภณั ฑ์สถานแหง่ ชาติ รหสั วิชา: 3702 – 2006 ครูผ้สู อน นางสาวสปุ รียา ภผู าลา

11 หมวด 4 กองทุนโบราณคดี มาตรา 28 ให้จัดให้มีกองทุนข้ึน เรียกว่า “กองทุนโบราณคดี” เพื่อใช้จ่ายในกิจการอันเป็นประโยชน์ แกโ่ บราณสถานหรอื การพิพธิ ภณั ฑ์ มาตรา 29 กองทนุ โบราณคดปี ระกอบด้วย (1) เงินทไ่ี ดม้ าตามบทแหง่ พระราชบัญญัตนิ ้ี (2) เงนิ ผลประโยชนอ์ ันเกิดจากโบราณสถาน (3) เงินหรอื ทรัพย์สนิ ทมี่ ีผู้อทุ ิศให้ (4) เงินทุนกองกลางและเงินทุนตามกฎหมายว่าด้วยโบราณสถาน ศิลปวัตถุ โบราณวัตถุ และการพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ ซ่ึงกรมศิลปากรมีอยู่แล้วในวันท่ีพระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับ มาตรา 30 การเก็บรักษาและการจ่ายเงินกองทุนโบราณคดี ให้เป็นไปตามระเบียบที่รัฐมนตรีกาหนด หนว่ ยท่ี 6 พรบ. โบราณสถาน โบราณวตั ถุ ศลิ ปวัตถุ และพิพิธภัณฑ์สถานแหง่ ชาติ รหัสวิชา: 3702 – 2006 ครูผ้สู อน นางสาวสปุ รียา ภผู าลา

12 หมวด 4 ทวิ การพักใช้และการเพกิ ถอนใบอนุญาต มาตรา 30 ทวิ ผู้รับใบอนุญาตผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติน้ี กฎกระทรวง ประกาศ หรือระเบียบท่ีออกตามพระราชบัญญัติน้ี หรือเงื่อนไขที่อธิบดีกาหนด อธิบดีมีอานาจส่ังพักใช้ใบอนุญาตได้มี กาหนดคร้ังละไม่เกินหกสิบวัน แต่ในกรณีที่มีการฟ้องผู้รับใบอนุญาตต่อศาลว่าได้กระทาความผิดตาม พระราชบัญญัติน้ี อธบิ ดจี ะส่ังพักใชใ้ บอนุญาตไวจ้ นกว่าจะมีคาพิพากษาถึงท่สี ุดกไ็ ด้ ผู้ถูกส่งั พกั ใช้ใบอนุญาตจะ ขอรบั ใบอนุญาตใด ๆ ตามพระราชบญั ญัตนิ ใ้ี นระหวา่ งถกู สง่ั พักใชใ้ บอนญุ าตนน้ั ไม่ได้ มาตรา 30 ตรี เมื่อปรากฏว่าผู้รับใบอนุญาตผู้ใดต้องคาพิพากษาถึงท่ีสุดว่ากระทาการฝ่าฝื พระราชบัญญัตินี้หรือฝ่าฝืนคาส่ังพักใช้ใบอนุญาต อธิบดีมีอานาจสั่งเพิกถอนใบอนุญาตได้ ผู้ถูกส่ังเพิกถอน ใบอนญุ าตจะขอรบั ใบอนญุ าตใด ๆ ตามพระราชบัญญัตินี้อกี ไม่ได้จนกว่าจะพ้นสองปนี ับตั้งแต่วันที่ถูกเพิกถอน ใบอนญุ าต มาตรา 30 จัตวา คาสั่งพักใช้และคาสั่งเพิกถอนใบอนุญาตให้ทาเป็นหนังสือแจ้งให้ผู้รับใบอนุญาต ทราบ ในกรณีท่ีไม่พบตัวหรือบุคคลดังกล่าวไม่ยอมรับคาส่ัง ให้ปิดคาสั่งไว้ ณ ท่ีเปิดเผยเห็นได้ง่ายที่สถานท่ีที่ ระบุไว้ในใบอนุญาตหรือภูมิลาเนาของผู้รับใบอนุญาตน้ัน และให้ถือว่าบุคคลดังกล่าวได้ทราบคาส่ังนั้นแล้ว ต้ังแต่วันที่ปดิ คาส่ัง คาส่ังพักใช้และคาสัง่ เพิกถอนใบอนุญาตตามวรรคหนง่ึ ใหป้ ระกาศในราชกจิ จานุเบกษาและจะโฆษณา ในหนังสอื พิมพห์ รือโดยวิธีอ่ืนด้วยกไ็ ด้ มาตรา 30 เบญจ ผู้ถูกส่ังพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตมีสิทธิอุทธรณ์เป็นหนังสือต่อรัฐมนตรีภายใน สามสิบวนั นับแตว่ ันท่ีทราบคาสงั่ คาวินจิ ฉยั ของรัฐมนตรใี หเ้ ปน็ ทสี่ ุด การอุทธรณ์ตามวรรคหนึง่ ไม่เป็นการทุเลาการบงั คับตามคาส่ังพักใช้หรือคาส่ังเพกิ ถอนใบอนุญาตนั้น หน่วยท่ี 6 พรบ. โบราณสถาน โบราณวตั ถุ ศลิ ปวัตถุ และพิพิธภัณฑ์สถานแหง่ ชาติ รหัสวิชา: 3702 – 2006 ครูผ้สู อน นางสาวสปุ รียา ภผู าลา

13 หมวด 5 บทกาหนดโทษ มาตรา 31 ผู้ใดเก็บได้ซึ่งโบราณวัตถุหรือศิลปวตั ถุท่ีซ่อนหรือฝังหรอื ทอดทิ้งโดยพฤติการณ์ซึ่งไม่มีผู้ใด สามารถอ้างวา่ เป็นเจา้ ของได้ และเบยี ดบังเอาโบราณวัตถหุ รือศิลปวัตถนุ นั้ เป็นของตนหรอื ของผู้อน่ื ต้องระวาง โทษจาคุกไมเ่ กินเจด็ ปี หรือปรับไม่เกินเจด็ แสนบาท หรือท้ังจาทงั้ ปรับ มาตรา 31 ทวิ ผู้ใดซ่อนเร้น จาหน่าย เอาไปเสีย หรือรับซ้ือรับจานา หรือรับไว้โดยประการใด ๆ ซ่ึง โบราณวตั ถุหรือศิลปวตั ถุอันได้มาโดยการกระทาความผิดตามมาตรา 31 ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินห้าปี หรือ ปรบั ไมเ่ กนิ ห้าแสนบาท หรือทั้งจาทัง้ ปรับ” ถ้าการกระทาผิดตามวรรคหน่ึงได้กระทาไปเพ่ือการค้า ผู้กระทาผิดต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินเจ็ดปี หรือปรบั ไม่เกนิ เจด็ แสนบาท หรอื ท้งั จาทง้ั ปรับ มาตรา 32 ผใู้ ดบุกรกุ โบราณสถาน หรือทาให้เสียหาย ทาลาย ทาใหเ้ สอ่ื มค่าหรอื ทาใหไ้ รป้ ระโยชน์ซึ่ง โบราณสถาน ต้องระวางโทษจาคกุ ไมเ่ กนิ เจ็ดปี หรือปรบั ไมเ่ กนิ เจ็ดแสนบาท หรอื ทัง้ จาท้งั ปรับ ถ้าการกระทาความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นการกระทาต่อโบราณสถานท่ีได้ขึ้นทะเบียนแล้ว ผู้กระทา ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไมเ่ กนิ สบิ ปี หรือปรับไม่เกนิ หนง่ึ ลา้ นบาท หรอื ทง้ั จาทงั้ ปรับ มาตรา 33 ผู้ใดทาให้เสียหาย ทาลาย ทาให้เส่ือมค่า ทาให้ไร้ประโยชน์หรือทาให้สูญหายซ่ึง โบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุที่ได้ขึ้นทะเบียนแล้ว ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินหน่ึงล้านบาท หรือทัง้ จาทง้ั ปรับ มาตรา 34 ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา 9 มาตรา 12 มาตรา 13 วรรคสอง มาตรา 14 ทวิ มาตรา 16 มาตรา 17 หรือมาตรา 20 หรือไม่ปฏบิ ัติตามกฎกระทรวงท่ีออกตามมาตรา 13 หรือมาตรา 27 ต้องระวางโทษ จาคุกไม่เกนิ หน่งึ เดือน หรอื ปรบั ไมเ่ กนิ หนึง่ หมนื่ บาท หรือทัง้ จาทง้ั ปรับ มาตรา 35 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 10 หรือไม่ปฏิบัติตามเง่ือนไขท่ีอธิบดีกาหนดไว้ในหนังสืออนุญาตตาม มาตรา 10 ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินสามแสนบาท หรือทั้งจาท้ังปรับ มาตรา 36 ผใู้ ดทาการค้าโบราณวตั ถหุ รอื ศิลปวตั ถุทห่ี ้ามทาการค้าตามประกาศที่ออกตามมาตรา 14 วรรคสอง หรือฝ่าฝืนมาตรา 15 หรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขท่ีอธิบดีกาหนดไวใ้ นหนังสืออนุญาตตามมาตรา 15 ต้องระวาง โทษจาคกุ ไมเ่ กนิ หา้ ปี หรอื ปรบั ไม่เกินหา้ แสนบาท หรือทงั้ จาทั้งปรบั มาตรา 36 ทวิ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามประกาศที่ออกตามมาตรา 18 ทวิ วรรคสอง หรอื ไม่แจง้ รายการสิ่งท่ี ตนผลิตต่ออธิบดี หรือไม่แสดงให้ปรากฏท่ีสิ่งที่ตนผลิตว่าเป็นสิ่งที่ได้ทาเทียมขึ้นตามมาตรา 18 ทวิ วรรคสอง ตอ้ งระวางโทษจาคุกไม่เกินหน่ึงปี หรือปรบั ไมเ่ กินหนึ่งแสนบาท หรือท้ังจาทั้งปรบั มาตรา 37 ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา 19 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกิน สามแสนบาท หรอื ทง้ั จาท้งั ปรับ มาตรา 37 ทวิ ผู้ใดไมป่ ฏบิ ัติตามมาตรา 19 ทวิ หรือประกาศทอี่ อกตามมาตรา 19 ทวิ ต้องระวางโทษ จาคุกไม่เกนิ หกเดือน หรือปรับไม่เกนิ ห้าหมนื่ บาท หรือทง้ั จาทัง้ ปรบั หนว่ ยที่ 6 พรบ. โบราณสถาน โบราณวตั ถุ ศลิ ปวัตถุ และพิพิธภณั ฑ์สถานแหง่ ชาติ รหสั วชิ า: 3702 – 2006 ครูผ้สู อน นางสาวสปุ รียา ภผู าลา

14 มาตรา 37 ตรี ผู้ใดขัดขวางหรือไม่อานวยความสะดวกตามสมควรแก่อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมาย หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับ ไม่เกนิ หน่งึ หมืน่ บาท หรือทั้งจาท้ังปรบั มาตรา 38 ผู้ใดส่งหรือนาโบราณวัตถุท่ีไม่ได้ข้ึนทะเบียนออกนอกราชอาณาจักร อันเป็นการฝ่าฝืน มาตรา 22 ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกนิ เจด็ ปี หรือปรบั ไมเ่ กนิ เจด็ แสนบาท หรอื ทง้ั จาทั้งปรับ มาตรา 39 ผู้ใดส่งหรอื นาโบราณวัตถุหรอื ศิลปวัตถุทไี่ ดข้ น้ึ ทะเบียนแล้วออกนอกราชอาณาจักรอันเป็น การฝ่าฝนื มาตรา 22 ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ต้งั แต่หนึง่ ปีถงึ สิบปี และปรับไม่เกินหนง่ึ ลา้ นบาท บทเฉพาะกาล มาตรา 40 ให้ผู้ทาการค้าโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุ หรือแสดงโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุให้บุคคลชม โดยเรียกเก็บค่าชมเป็นปกติธุระอยู่แล้วในวันท่ีพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ย่ืนคาขอรับใบอนุญาตจากอธิบดีให้ ทาการค้าโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุ หรือแสดงโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุให้บุคคลชมภายในสามสิบวันนับแต่ วนั ที่พระราชบัญญัติน้ใี ชบ้ ังคับ ความในมาตรา 19 และมาตรา 20 มิให้ใช้บังคับแก่ผู้ทาการค้าโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุ หรือแสดง โบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุให้บุคคลชมโดยเรียกเก็บค่าชมเป็นปกติธุระ ซ่ึงได้ยื่นคาขอรับใบอนุญาตโดยถูกต้อง ตามความในวรรคก่อน ทั้งนี้ตั้งแต่วันท่ีพระราชบัญ ญั ติน้ีใช้บังคับจนถึงวันที่ได้รับ ใบอนุญ าต ผรู้ ับสนองพระบรมราชโองการ จอมพล ส. ธนะรัชต์ นายกรฐั มนตรี หน่วยที่ 6 พรบ. โบราณสถาน โบราณวตั ถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑ์สถานแหง่ ชาติ รหสั วิชา: 3702 – 2006 ครูผ้สู อน นางสาวสปุ รียา ภผู าลา

15 อตั ราค่าธรรมเนยี ม (1) ใบอนญุ าตตามมาตรา 19 ฉบับละ 20,000 บาท (2) ใบอนุญาตตามมาตรา 22 (ก) โบราณวตั ถหุ รือศลิ ปวตั ถุซงึ่ กรมศิลปากรเหน็ ว่ามีอายุตั้งแต่ สมัยอยธุ ยาขน้ึ ไป ชิน้ ละไม่เกิน 2,000 บาท (ข) โบราณวัตถุหรือศลิ ปวัตถุซงึ่ กรมศิลปากรเห็นว่ามีอายุตา่ กวา่ สมัยอยุธยา ชนิ้ ละไมเ่ กิน 1,000 บาท (3) ใบแทนใบอนญุ าต ฉบบั ละ 100 บาท (4) การต่ออายุใบอนญุ าต ครง้ั ละเทา่ กับค่าธรรมเนยี มใบอนุญาตนัน้ หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากกฎหมายว่าด้วยโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติท่ีใช้อยู่ในปัจจุบันนี้ นอกจากมีบทกาหนดโทษผู้กระทา ความผิดต่ากว่าท่ีควรอยู่มากเป็นเหตุให้มีการลักลอบนาโบราณวัตถุและศิลปวัตถุออกนอกประเทศซ่ึงเป็นภัย ต่อการสงวนวัตถุเช่นวา่ น้นั แล้ว ยังมีบทบัญญัติท่ไี ม่เหมาะสมแกก่ ารปฏิบัตจิ ัดการเกี่ยวแก่การพพิ ิธภัณฑสถาน แห่งชาติและการโบราณคดีให้เป็นไปด้วยดีอีกหลายประการ จึงสมควรแก้ไขเพ่ิมเติมกฎหมายที่เกี่ยวแก่การน้ี เสยี ใหมใ่ ห้เหมาะสมยิ่งข้นึ หนว่ ยท่ี 6 พรบ. โบราณสถาน โบราณวตั ถุ ศลิ ปวัตถุ และพิพิธภัณฑ์สถานแหง่ ชาติ รหสั วชิ า: 3702 – 2006 ครูผ้สู อน นางสาวสปุ รียา ภผู าลา

16 ประกาศของคณะปฏวิ ตั ิ ฉบบั ที่ 308 ลงวันที่ 13 ธนั วาคม พุทธศักราช 2515 พระราชบญั ญัตโิ บราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพธิ ภณั ฑสถานแห่งชาติ (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2535 หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากกฎหมายว่าด้วยโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติท่ีใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน มีบทบัญญัติบางประการที่ไม่ เหมาะสมและไม่รัดกุมเพียงพอในด้านการคุ้มครองดูแลรักษา การบูรณะและการซ่อมแซมโบราณสถาน โบราณวัตถุและศลิ ปวตั ถุ และกาหนดอตั ราโทษไว้ต่ามาก ทาให้มีผู้กระทาผิดเก่ียวกับการลักลอบบุกรุก ขดุ ค้น และทาลายโบราณสถาน ลักลอบนาหรือส่งโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุท่ีมีคุณค่าทางศิลป ประวัติศาสตร์หรือ โบราณคดีออกนอกราชอาณาจักรมากข้ึน นอกจากนี้ ปรากฏว่าในปัจจุบันมีการผลิตและการค้าสิ่งเทียม โบราณวัตถุและสิ่งเทียมศิลปวัตถุเป็นจานวนมาก สมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และการควบคุมการผลิตและการค้าส่ิงเทียมโบราณวัตถุ หรือส่ิงเทียมศิลปวัตถุ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสมควรปรับปรุงบทบัญญัติเกี่ยวกับใบอนุญาตและ หนังสืออนุญาต อัตราโทษและอัตราค่าธรรมเนียมท้ายพระราชบัญญัติให้เหมาะสมย่ิงข้ึน รวมท้ังแก้ไข บทบญั ญตั อิ นื่ ทเี่ กีย่ วขอ้ งใหส้ อดคลอ้ งกันดว้ ย จงึ จาเป็นตอ้ งตราพระราชบญั ญัติน้ี *พระราชกฤษฎีกาแก้ไขบทบัญญัติให้สอดคล้องกับการโอนอานาจหน้าท่ีของส่วนราชการให้เป็นไป ตามพระราชบญั ญัตปิ รบั ปรงุ กระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 พ.ศ. 2545 ในพระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 ให้ แกไ้ ขคาว่า “รฐั มนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ” เปน็ “รฐั มนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม” หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 ได้บัญญัติให้จัดตั้งส่วนราชการข้ึนใหม่โดยมีภารกิจใหม่ ซึ่งได้มีการตราพระราช กฤษฎีกาโอนกิจการบริหารและอานาจหน้าที่ของสว่ นราชการให้เป็นไปตามพระราชบญั ญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม น้ันแล้ว และเน่ืองจากพระราชบัญญัติดังกล่าวได้บัญญัติให้โอนอานาจหน้าท่ีของส่วนราชการ รัฐมนตรีผู้ดารงตาแหนง่ หรอื ผซู้ ่งึ ปฏิบัติหนา้ ทใี่ นส่วนราชการเดิมมาเป็นของส่วนราชการใหม่ โดยใหม้ กี ารแกไ้ ข บทบัญญัติตา่ ง ๆ ให้สอดคลอ้ งกับอานาจหน้าที่ที่โอนไปด้วย ฉะน้ัน เพ่ืออนุวัติให้เป็นไปตามหลักการที่ปรากฏ ในพระราชบัญญัติและพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว จึงสมควรแก้ไขบทบัญญัติของกฎหมายให้สอดคล้องกับการ โอนส่วนราชการ เพอื่ ให้ผู้เกี่ยวข้องมีความชัดเจนในการใชก้ ฎหมายโดยไมต่ ้องไปค้นหาในกฎหมายโอนอานาจ หน้าท่ีว่าตามกฎหมายใดได้มีการโอนภารกิจของส่วนราชการหรือผู้รับผิดชอบตามกฎหมายน้ันไปเป็นของ หน่วยงานใดหรือผู้ใดแล้ว โดยแก้ไขบทบัญญัติของกฎหมายให้มีการเปลี่ยนชื่อส่วนราชการ รัฐมนตรี ผู้ดารง ตาแหน่งหรือผู้ซ่ึงปฏิบัติหน้าท่ีของส่วนราชการให้ตรงกับการโอนอานาจหน้าท่ี และเพ่ิมผู้แทนส่วนราชการใน คณะกรรมการให้ตรงตามภารกิจทีม่ ีการตดั โอนจากส่วนราชการเดมิ มาเปน็ ของสว่ นราชการใหม่รวมท้ังตัดส่วน ราชการเดิมที่มีการยุบเลิกแล้ว ซ่ึงเป็นการแก้ไขให้ตรงตามพระราชบัญญัติและพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว จึง จาเป็นตอ้ งตราพระราชกฤษฎีกานี้ หน่วยที่ 6 พรบ. โบราณสถาน โบราณวตั ถุ ศลิ ปวัตถุ และพิพิธภณั ฑ์สถานแหง่ ชาติ รหัสวิชา: 3702 – 2006 ครูผ้สู อน นางสาวสปุ รียา ภผู าลา

17 ภาพประกอบ ภาพโบราณวัตถุ; : เกียรตมิ ุขหรอื หนา้ กาล ปูนปั้นศิลปะสมัยสุโขทัย พุทธศตวรรษที่ 19-20 ภาพโบราณสถาน: อทุ ยานประวตั ศิ าสตร์พระนครศรีอยธุ ยา หน่วยท่ี 6 พรบ. โบราณสถาน โบราณวตั ถุ ศลิ ปวัตถุ และพิพิธภัณฑ์สถานแหง่ ชาติ รหัสวชิ า: 3702 – 2006 ครูผ้สู อน นางสาวสปุ รียา ภผู าลา

18 ภาพศิลปวัตถุ : ชามลายน้าทอง สมัยรัตนโกสนิ ทร์ ร. 2 ภาพพพิ ธิ ภณั ฑสถานแหง่ ชาติ พระนคร หน่วยที่ 6 พรบ. โบราณสถาน โบราณวตั ถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑ์สถานแหง่ ชาติ รหัสวชิ า: 3702 – 2006 ครูผ้สู อน นางสาวสปุ รียา ภผู าลา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook