SSAARRAABBUURRII
สารบญั หนา้ ขอ้ มลู ทวั่ ไป 1 ประวัตจิ งั หวัดสระบรุ ี 7 เทศกาลและประเพณี 12 สถานที่ท่องเท่ยี ว 15 ของฝากขนึ้ ชอื่ จงั หวดั สระบรุ ี 24
ขอ้ มลู ทว่ั ไป
คาขวญั ประจาจงั หวดั พระพทุ ธบาทสงู ค่า เขอ่ื นป่ าสกั ชลสิทธ์ิ ฐานผลิตอตุ สาหกรรม เกษตรนาลา้ แหลง่ เท่ียว หนง่ึ เดยี วกะหร่ีปับ๊ นมดี ประเพณีตกั บาตรดอกไมง้ าม เหลืองอร่ามทงุ่ ทานตะวัน ลอื ลนั่ เมอื งชมุ ทาง
ท่ีตงั้ ตง้ั อยใู่ นบริเวณรอยตอ่ ระหว่างภาคกลางและภาคอีสานเป็ นจงั หวดั หนงึ่ ทีม่ ีทรั พยากรการทอ่ งเท่ียวทส่ี าคญั ทงั้ ดา้ นพทุ ธศาสนา ประวัตศิ าสตร์ ประเพณี และแหลง่ ทอ่ งเท่ียวทางธรรมชาตอิ ยเู่ ป็ นจานวนมาก ทง้ั ยงั อยไู่ มไ่ กลจากกรงุ เทพ สามารถเดนิ ทางไปกลบั ไดภ้ ายในวันเดียว และมกี ิจกรรมท่องเท่ยี วตา่ งๆ ผลดั เปลยี่ นหมนุ เวยี นกนั ไปในแตล่ ะฤดู ทาใหส้ ามารถทอ่ งเทย่ี วไดท้ ง้ั ปี ปัจจบุ นั จึงมีนกั ท่องเทีย่ วนยิ มไปท่องเที่ยวทส่ี ระบรุ ีกนั มากขนึ้ จงั หวดั สระบรุ ีมเี นอ้ื ที่ประมาณ 3,576.5 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 2,235,304 ไร่ จดั เป็ นจงั หวัดที่มีขนาดใหญเ่ ป็ นอนั ดบั ท่ี 56 ของประเทศไทย สภาพพน้ื ท่โี ดยทวั่ ไปทางตอนเหนอื ตะวนั ออก และตอนกลางของจงั หวดั เป็ นป่ า มีเนนิ เขาสลบั ที่ราบสงู เหมาะสาหรบั การปลกู พืชไร่ สว่ นทางตอนใตแ้ ละตะวันตกเป็ นพน้ื ทร่ี าบเหมาะสาหรบั การทานา มีคลองที่สาคญั หลายสาย เชน่ คลองรพีพฒั น์ คลองเริงราง คลองวิหารแดง และคลองเพรียว แตม่ ีแมน่ า้ สาคญั ทนี่ บั เป็ นเสน้ เลอื ดใหญ่ของจงั หวดั เพียงสายเดียว คือแมน่ า้ ป่ าสกั ไหลผา่ นจงั หวดั สระบรุ ี รวมความยาวประมาณ 105 กโิ ลเมตร โดยผา่ นทอ้ งทอ่ี าเภอมวกเหล็ก อาเภอแก่งคอย อาเภอเมืองฯ อาเภอเสาไห้ แลว้ ไปบรรจบกบั แมน่ า้ เจา้ พระยาทจ่ี งั หวัดพระนครศรีอยธุ ยา
อาณาเขต » ทศิ เหนอื : ตดิ ตอ่ กบั จงั หวัดลพบรุ ี » ทิศใต้ : ตดิ ตอ่ กบั จงั หวดั อยธุ ยาและจงั หวัดปทมุ ธานี » ทิศตะวนั ออก : ตดิ ตอ่ กบั นครราชสีมาและนครนายก » ทศิ ตะวนั ตก : ตดิ ตอ่ กบั อยธุ ยาและลพบรุ ี
ตราประจาจงั หวัด รปู มณฑป หมายถึง สถานท่อี นั เป็ นทีเ่ คารพบชู าสงู สดุ ของชาวจงั หวดั สระบรุ ีและชาวไทยทงั้ ประเทศ เป็ นรปู มณฑปปลกู ครอบรอยพระพทุ ธบาทของสมเด็จพระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ตงั้ อยทู่ ่ีวัดพระพทุ ธบาทราชวรมหาวิหาร ตาบลขนุ โขลน อาเภอพระพทุ ธบาท จงั หวดั สระบรุ ี จงั หวัดสระบรุ ี ใชอ้ กั ษรยอ่ ว่า \"สบ\" ดอกไมป้ ระจาจงั หวดั สระบรุ ี ดอกสพุ รรณิการ(์ Cochlospermum regium) ตน้ ไมป้ ระจาจงั หวดั สระบรุ ี ตะแบกนา (Lagerstroemia floribunda) สตั วน์ า้ จืดประจาจงั หวดั สระบรุ ี ช่อื ไทย : ปูนา้ ตกสระบรุ ี ช่อื พ้ืนบา้ น : ปูหิน (Larnaudia larnaudii)
แผนท่ีท่องเท่ียวจงั หวดั สระบรุ ี
ประวตั ิ จงั หวดั “สระบรุ ี”
มีความหมายว่า พระพทุ ธบาทสงู คา่ มรี อยพระพทุ ธบาทอย่แู ลว้ ทเ่ี ขาสวุ รรณบรรพตสมเด็จพระเจา้ ทรงธรรม ไดจ้ ดั ใหเ้ ป็ นพระพทุ ธบาทสระบรุ ีเป็ นพระอารามหลวงสถานทป่ี ระดิษฐานพระพทุ ธบา ท เข่ือนป่ าสกั ชลสิทธ์ิ เป็ นเขอ่ื นดินกกั เก็บนา้ ทย่ี าวทส่ี ดุ ในประเทศไทย ฐานผลิตอตุ สาหกรรม ภาคกลางส่วนใหญ่เป็ นฐานของอตุ สาหกรรมอย่แู ลว้ หลาย จงั หวัด รวมถึงจงั หวัดสระบรุ ีดว้ ยเชน่ กนั เกษตรนาลา้ แหลง่ เท่ียว ถึงจะเป็ นแหลง่ อตุ สาหกรรมแตจ่ งั หวัดสระบรุ ีก็เป็ นแหลง่ เกษตรกรรมดว้ ยเชน่ กนั ทง้ั ไรอ่ งนุ่ ฟารม์ โคนม ยงั เป็ นแหลง่ ทอ่ งเท่ียวเชงิ เกษตรทส่ี าคญั อกี ดว้ ย หน่ึงเดียวกะหรป่ี ั๊บนมดี ของขนึ้ ชอ่ื คือ นมโค และของฝากคอื กะหรี่ปับ๊ ประเพณีตกั บาตรดอกไมง้ าม ประเพณีตกั บาตรดอกไม้ เป็ นประเพณีประจาปี ขอ งจงั หวัดสระบรุ ีโดยจดั ท่ี วดั พระพทุ ธบาทราชวรมหาวิหารอาเภอพระพทุ ธบาท จงั หวัดสระบรุ ี เหลอื งอรา่ มท่งุ ทานตะวนั ทงุ่ ทานตะวัน สระบรุ ีสวยงาม ตระการตาเป็ นอย่างมาก ลอื ลนั่ เมืองชมุ ทาง สระบรุ ีเป็ นชมุ ทางสายสาคญั ไปส่จู ดุ หมายปลายทางยงั อีกหลา ยๆเป็ นเสมือนดา่ นผา่ นระหวา่ งภาคกลางกบั ภาคตะวันออกเฉียงเหนอื
เมือง “ สระบรุ ”ี มปี ระวัตอิ นั สนั นษิ ฐานวา่ ตง้ั ขน้ึ ประมาณ พ.ศ. 2092 ในรชั สมยั สมเด็จพระมหาจกั รพรรดิแ์ หง่ กรงุ ศรอี ยธุ ยา สบื เนอื่ งมาจากยามมศี ึกสงครามประชดิ ตดิ พระนคร ไมส่ ามารถเรียกระดมพลรกั ษาพระนครไดท้ นั เพราะหัวเมืองตา่ งๆตามทีม่ กี ารแบง่ การปกครองอยหู่ า่ งจากกรงุ ศรอี ยธุ ยามาก จงึ ตอ้ งตง้ั เมอื งใหมข่ น้ึ เพ่อื ใหส้ ะดวกรวดเร็วและไดผ้ ลทนั ตอ่ เหตกุ ารณย์ ามเกดิ ศึกสงคราม ส่วนทตี่ งั้ เมอื งสระบรุ คี ราวแรกไมม่ กี ารกาหนดเขตแดนไวแ้ นน่ อน สนั นษิ ฐานวา่ คงจะแบง่ เอาบางสว่ นจากทางเมอื งลพบรุ ี แขวงเมอื ง-นครราชสีมา แขวงเมอื งนครนายก ตง้ั ขนึ้ เป็ นเมอื งสระบรุ ี ทง้ั นเี้ พราะเขตทตี่ งั้ ขนึ้ เป็ นเมอื งสระบรุ ี เป็ นเขตทค่ี ลมุ บางส่วนของแมน่ า้ ป่ าสกั ซ่ึงสะดวกตอ่ การเดินทางไปทางภาคตะวนั ออก ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื และยงั เคยเป็ นเสน้ ทางทีพ่ วกขอมสมยั โบราณเคยใชเ้ ดินทางในการตดิ ตอ่ กบั ราชธานี (นครธม)สาหรบั ประวตั คิ วามเป็ นมาของสระบรุ มี ปี รากฏในหนงั สือ เรอ่ื ง “เที่ยวตามทางรถไฟ” พระนพิ นธข์ องสมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอกรมพระยาดารงราชานภุ าพ ซ่ึงไดท้ รงอธบิ ายแยกเรื่องความเป็ นมาของสระบรุ ี ในแตล่ ะยคุ แตล่ ะสมยั ดงั น้ี 1. สมยั กรงุ ละโว้ (ลพบรุ )ี ตอ่ มาถงึ สมยั อโยธยา “ทอ้ งทอี่ ันเป็ นเขตจงั หวดั สระบรุ นี ี้ แตโ่ บราณครงั้ เมอ่ื พวกขอมยงั เป็ นใหญ่ ในประเทศนี้ อย่ใู นทางหลวงสายหนงึ่ ซ่ึงพวกขอมไปมาตดิ ตอ่ กบั ราชธานที น่ี ครหลวง (ซ่ึงเรยี กในภาษาขอมว่า นครธม) ยงั มเี ทวสถาน ซ่ึงพวกขอมสรา้ งเป็ นปรางคห์ ินไวต้ ามท่ีไดต้ งั้ เมืองปรากฏอยเู่ ป็ นระยะมา คือ ในเขตจงั หวัดปราจีนบรุ ี มที ี่อาเภอวฒั นานครแหง่ หนง่ึ ที่ดงศรมี หาโพธิ์แหง่ หนงึ่ ตอ่ มาถึงเขตจงั หวัดนครนายก มที ด่ี งละครแหง่ หนง่ึ แลว้ มามที บี่ างโขมด ทางขนึ้ พระพทุ ธบาทอีกแห่งหนงึ่ ตอ่ ไปก็ถึงลพบรุ ี ซ่ึงเป็ นเมอื งหลวงของมณฑลละโว้ ทพี่ วกขอมมาตงั้ ปกครอง แตท่ ี่ใกลล้ านา้ ป่ าสกั ซง่ึ ตง้ั จงั หวดั สระบรุ ี หาปรากฏสงิ่ สาคญั ครง้ั ขอมอย่างหนงึ่ อยา่ งใดไม่ เพราะฉะนนั้ เมอื งสระบรุ เี ห็นจะเป็ นเมืองตงั้ ขนึ้ ตอ่ เมื่อไทยไดป้ ระเทศนจ้ี ากขอมแลว้ ขอ้ นสี้ มดว้ ยเคา้ เงอื่ นในพงศาวดาร
2. สมยั กรงุ ศรีอยธุ ยา “เมื่อพระเจา้ หงสาวดบี เุ รงนองยกกองทพั มาลอ้ มพระนครศรีอยธุ ยา พระไชยเชษฐาเจา้ กรงุ ศรสี ตั นาคนหตุ ยกกองทพั เมืองเวยี งจนั ทล์ งมาชว่ ยไทย เดินกองทพั เลยี บลานา้ ป่ าสกั ลงมา พระเจา้ หงสาวดใี หพ้ ระมหาอปุ ราชคมุ กองทพั ไปซมุ่ ดกั ทางอยทู่ เ่ี มอื งสระบรุ ี ตกี องทพั กรงุ ศรีสตั นาคนหตุ แตกกลบั ไป ดงั นเี้ ป็ นอนั ไดค้ วามวา่ เมอื งสระบรุ ตี งั้ มากอ่ น พ.ศ.2112 แตจ่ ะตงั้ เมอื่ ใดขอ้ นไ้ี ดส้ นั นษิ ฐานตามเคา้ เงอ่ื นทีม่ ีอยู่ คือเม่อื ในแผน่ ดินสมเด็จพระมหาจกั รพรรด์ิ พระราชบิดาของสมเด็จพระมหินทราธิราชนนั้ พระเจา้ หงสาวดตี ะเบงชะเวต้ี ยกกองทพั เขา้ มาตกี รงุ ศรอี ยธุ ยา เมอื่ พ.ศ.2091 ในสมยั นนั้ มเี มอื งป้ อมปราการเป็ นเขอ่ื นขณั ฑก์ นั ราชธานอี ยทู่ งั้ 4 ทศิ คอื เมอื งสพุ รรณบรุ อี ยทู่ างตะวันตก เมืองลพบรุ ีอยทู่ างทศิ เหนอื เมอื งนครนายกอยทู่ างทิศตะวนั ออก และเมอื งพระประแดงอย่ทู างทศิ ใต้ กองทพั พระเจา้ หงสาวดยี กเขา้ มาทาง ดา่ นพระเจดยี ส์ ามองค์ ขา้ งทิศตะวันตกกองทพั ไทยจงึ ไปตง้ั ตอ่ สอู้ ย่ทู ่เี มอื งสพุ รรณบรุ ี รบั ขา้ ศึกไมอ่ ยตู่ อ้ งถอยเขา้ มาเอาพระนครศรีอยธุ ยาเป็ นทมี่ นั่ จงึ ไดช้ ยั ชนะเป็ นเหตใุ หเ้ ห็นวา่ เป็ นเมอื งท่ีตงั้ เป็ นเขอื่ นขณั ฑก์ นั พระนครนน้ั หาเป็ นประโยชนด์ งั ทีค่ าดมาแตก่ อ่ นไมท่ สี่ รา้ งป้ อมปราการไว้ ถา้ ขา้ ศึกเอาเป็ นทมี่ นั่ สาหรับทาการสงครามแรมปี ตพี ระนคร ก็จะกลบั เป็ นประโยชนแ์ กข่ า้ ศึก จึงใหร้ ื้อป้ อมปราการเมืองสพุ รรณบรุ ี เมอื งลพบรุ ี และเมอื งนครนายกเสียทง้ั 3 เมืองคงไวแ้ ตเ่ มอื งพระประแดง ซ่ึงรักษาทางปากนา้ อกี ประการหนง่ึ เห็นวา่ ท่ีรวบรวมผคู้ นในเวลาเกณฑท์ พั ยงั มีนอ้ ยแห่งนกั จงึ ไดต้ ง้ั ตวั เมอื งเพมิ่ เตมิ ขนึ้ อีกหลายเมอื ง สาหรับเป็ นทร่ี วบรวมผคู้ นเพ่อื จะไดเ้ รียกระดมมารกั ษาพระนครไดท้ นั ทว่ งที ในเวลาการสงครามมมี าอีก เมอื งทตี่ งั้ ใหมค่ รั้งนนั้ ระบชุ อื่ ไวใ้ นหนงั สือพระราชพงศาวดาร แตท่ างทศิ ใตก้ บั ทางทศิ ตะวันตก คอื เมืองนนทบรุ ี 1 เมืองสาครบรุ ี 1 (สมทุ รสาคร) เมอื ง 1 และเมอื งนครไชยศรเี มือง 1 แตท่ างทศิ อนื่ หาไดก้ ล่าวไม่ เมอื งสระบรุ ี (และเมอื งฉะเชงิ เทรา) เห็นจะตง้ั ขน้ึ ในคราวนนี้ นั่ เอง คือตง้ั เมอื่ ราว พ.ศ.2092 กอ่ นปรากฏชอื่ ในพระราชพงศาวดารเพยี ง 20 ปี เหล่าเมอื งทต่ี ง้ั ครงั้ นน้ั เป็ นแตส่ าหรบั รวบรวมผคู้ นดงั กล่าวมา จงึ กาหนดแตเ่ ขตแดนมไิ ดส้ รา้ งบรเิ วณเมือง ผรู้ ัง้ ตง้ั จวนอยทู่ ไ่ี หนก็ชอื่ ว่าเมืองอย่ตู รงนนั้ ไมเ่ หมอื นเมอื งทตี่ ง้ั มาแตก่ อ่ น เชน่ เมอื งราชบรุ ี และเมืองเพชรบรุ ี เป็ นตน้
นามเจา้ เมืองสระบรุ ีคนแรก ไมป่ รากฏหลกั ฐาน คงมเี พียงตาแหนง่ บรรดาศักดิ์เจา้ เมอื งสระบรุ ี ซึ่งปรากฏเดน่ ชดั ในรชั สมยั สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เมอ่ื พ.ศ. 2125 ทราบแตว่ ่ามีบรรดาศักด์ิเป็ น “พระสระบรุ ี” เท่านนั้ โดยสนั นษิ ฐานวา่ นา่ จะเป็ นคนไทยภาคกลาง มหี นา้ ทีค่ มุ รักษาฉางขา้ วไวใ้ หก้ องทพั หลวงครงั้ ยกไปตเี ขมร ซ่ึงคงจะเป็ นเพราะใหช้ าวเมืองสระบรุ สี มยั นน้ั ทาไรท่ านาเก็บเกีย่ วไวส้ าหรบั งานสงคราม จวบจนถึงสมยั รชั กาลที่ 3 เจา้ เมอื งสระบรุ บี รรดาศักดิ์เป็ น “พระยาสรุ าราชวงศ”์ ซึ่งตามพงศาวดาร วา่ เป็ นชนเผา่ ลาวพงุ ดาซ่ึงถกู เกณฑอ์ พยพมาแตค่ รง้ั เจา้ พระยามหากษตั รยิ ศ์ ึก (รัชกาลท่ี 1) พาทพั ไปตนี ครเวียงจนั ท์ (สมยั กรงุ ธนบรุ )ี แลว้ มาตง้ั รกราก ณ แขวงเมืองสระบรุ ี พ.ศ.2324 ล่วงถงึ สมยั รชั กาลท่ี 4 ทางการมกี ารแตง่ ชอ่ื เจา้ เมอื งใหม่ ดงั นี้ เมอื งพระพทุ ธบาท(แกว้ ประศกั ด์เิ มอื งปรนั ตปะ) เดมิ นามว่า ขนุ อนนั ตครี ี ตงั้ ใหมเ่ ป็ นหลวงสจั จภญั ฑคิรี ศรรี ตั นไพรวนั เจตยิ าสนั คามวาสีนพคหู าพนมโขลน เมืองสระบรุ ี เดมิ นามว่า ขนุ สรบรุ ปี ลดั ตง้ั ใหมเ่ ป็ น พระสยามลาวบดปี ลดั ตาแหนง่ เจา้ เมืองในสมยั รัชกาลท่ี 5(พ.ศ.2435) มกี ารจดั รปู การปกครองใหมเ่ ป็ นเทศาภบิ าล โดยจดั ตงั้ เป็ นมณฑลเทศาภบิ าล จงั หวดั อาเภอ ตาบล หมบู่ า้ น ลดหลนั่ กนั ลงไป เมอื งสระบรุ ีขนึ้ อยกู่ บั มณฑล กรงุ เกา่ มกี ารสง่ ขา้ ราชการมาปกครองแทนการตง้ั เจา้ เมอื งสาหรบั ทต่ี ง้ั เมอื งสระบรุ คี รั้งแรกไมป่ รา กฏหลกั ฐานทแี่ นน่ อนคงทราบแตเ่ พยี งวา่ ตง้ั อย่ทู ี่หวั จวนบรเิ วณบึงหนองโงง้ ใกลว้ ดั จนั ทบรุ ี ตาบลศาลารลี าว ปัจจบุ นั คือ ตาบลเมืองเกา่ อาเภอเสาไห้ มพี ระยาสระบรุ ี (เลี้ยง) เป็ นเจา้ เมอื ง ปี พ.ศ. 2433 พระยาสระบรุ ี (เล้ยี ง) ถึงแกก่ รรม จ่าเรงิ เป็ นเจา้ เมืองแทน ไดย้ า้ ยศาลากลางเมอื งสระบรุ ีไปอยทู่ บี่ า้ นไผล่ อ้ มนอ้ ย อ.เสาไห้ ( บา้ นเรอื นที่เจา้ เมืองสรา้ งอย่อู าศยั คอื ศาลากลางเมอื ง ) จนถึงสมยั ทพี่ ระยาพชิ ยั รณรงคส์ งครามเป็ นเจา้ เมืองเห็นวา่ ตวั เมืองเดมิ ทเี่ สาไหอ้ ยหู่ ่างไกลจากทางรถไฟมาก (รชั กาลที่ 5 ไดโ้ ปรดใหส้ รา้ งทางรถไฟ สายตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ขน้ึ มาถึงเมืองสระบรุ ี เมือ่ พ.ศ.2439) ประกอบกบั ภมู ิประเทศไมเ่ หมาะสมกบั สภาพการณใ์ นสมยั นน้ั ยากแกก่ ารขยายเมืองในอนาคต จึงไดส้ รา้ งศาลาขน้ึ ใหม่ ณ บรเิ วณตาบลปากเพรียว การกอ่ สรา้ งเสร็จในสมยั เจา้ เมืองคนที่ 3 คือ พระยาบรุ สี ราธกิ าร (เป้ า จารเุ สถียร) ในปี
เทศกาล และ ประเพณี
ประเพณีแห่พระเขยี้ วแกว้ ชาว พทุ ธเชอื่ กนั ว่า \"พระเขยี้ วแกว้ \" เป็ นพระทนต์ (ฟัน) ของสมเด็จพระ สมั มาสมั พทุ ธเจา้ ซึ่งในวนั ขน้ึ 1 คา่ เดอื น 4 จะมกี ารจดั งานของชาวอาเภอพระพทุ ธบาท โดยอญั เชญิ พระเขย้ี ว แกว้ จากพพิ ิธภณั ฑว์ ดั พระพทุ ธบาทราชวรมหาวหิ ารออก แห่ฉลอง ไปรอบเมอื งพระพทุ ธบาท โดยมคี วามเชอ่ื ว่า หากมกี ารแห่พระเขยี้ วแกว้ แลว้ จะสามารถบนั ดาลให้ ประชาชนชาวพระพทุ ธบาทไดร้ ับ ความร่มเย็นเป็ นสขุ ทา มาคา้ ขายดกี นั ทวั่ หนา้ และเป็ นการจดั งานประจาปี ของ อาเภอพระพทุ ธบาท ประเพณีตกั บาตรดอกไม้ นบั ว่าเป็ นประเพณีทสี่ าคญั ของ อาเภอพระพทุ ธบาท โดยถอื เอาวนั เขา้ พรรษา ในวนั แรม 1 คา่ เดอื น 8 ของทกุ ปี กาหนดใหม้ งี านตกั บาตรดอกไม้ มปี ระชาชน ตา่ งพากนั ไปทาบญุ ตกั บาตรเนอื่ งในวนั เขา้ พรรษาท่วี ดั พรอ้ ม กบั ถวายเทยี นพรรษาแกว่ ดั พระพทุ ธบาท ซ่ึงตามประเพณีชาวพทุ ธทงั้ หลายเมอื่ เสร็จจากการทาบญุ ตกั บาตรในตอนเชา้ แลว้ ในชว่ งบ่ายของวนั เขา้ พรรษาจะมกี าร ตกั บาตรดอกไมท้ ี่ บริเวณวดั พระพทุ ธบาทราชวรมหาวหิ าร ตาบลขนุ โขลน อาเภอพระพทุ ธบาท ประชาชนจะพากนั ไปเก็บ ดอกไมช้ นดิ หนง่ึ มลี กั ษณะคลา้ ยตน้ กระชาย หรือตน้ ขมนิ้ มี ดอกสเี หลอื ง หรือดอกสขี าว เรียกว่า \"ดอกเขา้ พรรษา\" ซ่ึง ดอกไมช้ นดิ นช้ี อบขน้ึ ตาม ไหลเ่ ขา มเี ฉพาะในชว่ งเขา้ พรรษา ที่ จงั หวดั สระบรุ ีเพียงจงั หวดั เดยี วเทา่ นนั้ และในขณะท่ีพระภกิ ษุ เดนิ ขนึ้ บนั ได เพอ่ื ที่จะนาดอกเขา้ พรรษาไปนมสั การรอยพระ พทุ ธบาทนน้ั ชาวบา้ นก็จะนาขนั นา้ หรือภาชนะใสน่ า้ ลอย ดว้ ย ดอกพกิ ลุ นงั่ รออยตู่ ามขน้ั บนั ไดเพื่อคอยทจี่ ะลา้ งเทา้ ใหแ้ ก่ พระภกิ ษุ ดว้ ยความเชอื่ ท่วี ่าจะเป็ นการชาระบาปที่ไดก้ ระทามา ใหห้ มดสนิ้ ไป
ประเพณีเจา้ พ่อเขาตก หรือ งานแห่เจา้ พอ่ เขาตก เป็ นงานประเพณีประจาปี โดยในงานนจ้ี ะมี การแสดงอภนิ หิ ารตา่ งๆ ของเจา้ พ่อเขาตก ควบคู่ กนั ไปกบั การกระทาพิธลี ยุ ไฟแห่สงิ โตลอ่ โกะ และ การแสดงงวิ้ สว่ นมากชาวจนี ท่ีเป็ นลกู ศิษยอ์ ย่ทู วั่ ประเทศ จะเดนิ ทางมาร่วมงาน เร่ิมตง้ั แตว่ นั ขน้ึ 1 คา่ เดอื น 4 รวม 4 วนั ทีบ่ ริเวณวดั พระพทุ ธ บาท ราชวรมหาวหิ าร อาเภอพระพทุ ธบาท การแขง่ ขนั เรือยาวประเพณีลมุ่ นา้ ป่ าสกั จดั ใหม้ กี ารแขง่ ขนั เป็ นประเพณี ณ บริเวณทา่ นา้ หนา้ ท่วี า่ การอาเภอเสาไหท้ กุ ปี ในวนั เสาร-์ อาทติ ย์ สดุ ทา้ ยของเดอื นกนั ยายน โดยเชญิ เรือยาวจากจงั หวดั ตา่ ง ๆ แบ่ง ประเภทของเรือเป็ น 4 ประเภท เขา้ แขง่ ขนั หา ผชู้ นะเลศิ ถือว่าเป็ นการอนรุ ักษป์ ระเพณีของ ทอ้ งถน่ิ อยา่ งหนง่ึ ประเพณีนมสั การรอยพระพทุ ธ บาท รอยพระพทุ ธบาทคน้ พบในสมยั พระเจา้ ทรง ธรรม ไดม้ กี ารสรา้ งมณฑปครอบรอยพระพทุ ธ บาทไว้ ปัจจบุ นั รอยพระพทุ ธบาทตงั้ อยู่ ณ บริเวณวดั พระพทุ ธบาทราชวรมหาวิหาร ตาบล ขนุ โขลน แตล่ ะปี จะมปี ระชาชนทงั้ ชาวไทย ชาว ตา่ งประเทศเดนิ ทางไปนมสั การดว้ ยความเลอื่ มใส และศรทั ธา ไดก้ าหนดใหม้ กี ารจดั งานนมสั การปี ละ 2 ครัง้ ตง้ั แตว่ นั ขน้ึ 1 คา่ ถงึ 15 คา่ เดอื น 3 รวม 15 วนั และในวนั ขนึ้ 8 คา่ ถึง 15 คา่ เดอื น 4 รวม 8 วนั
สถานท่ี ท่องเท่ยี ว
วดั ป่ าสว่างบญุ ตงั้ อยทู่ ่ี อ.แกง่ คอย เนอ้ื ที่กว่า ๔๐๐ ไร่ ประชาชนนยิ มมาปฏบิ ตั ธิ รรม ในชว่ ง วันหยดุ สดุ สปั ดาห์ สิง่ ท่โี ดดเด่นของวัด คอื มหาเจดียน์ บั รวมกนั ได้ ๕๐๐ ยอด มชี อ่ื เต็มวา่ “พระมหารัตนโลหะเจดยี ศ์ รีศาสนโพธิสตั วส์ ว่างบญุ ” มเี จดียอ์ งคป์ ระธาน เสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลาง ๕๐ เมตร มที ง้ั หมด ๙ ชน้ั มบี ริวาร ๕๐๐ องค์ เจดียป์ ระธานองคใ์ หญอ่ ย่ตู รงกลางและมีองคเ์ จดียร์ ายองคเ์ ล็กตง้ั ลดหลนั่ กนั ลงมาอย่รู อบๆทศิ ตวั องคเ์ จดียเ์ ป็ นปูนป้ันรปู แบบ สวยงามประณีตเคลอื บสีทอง ทง้ั หมดทกุ องคผ์ นงั ดา้ นในของเจดยี อ์ งคป์ ระธานประดบั กระจกทับทิม โดยรอบสวยงาม มีภาพพระธาตเุ จดียส์ าคญั ๆ ทวั่ ประเทศไทยประดบั ไวด้ า้ นบนภายในองคเ์ จดีย์ ไดอ้ ญั เชญิ พระบรมสารีริกธาตจุ ากประเทศเนปาลอนิ เดีย ศรีลงั กาและสาธารนชุ น มาร่วมบรรจใุ นพระมหาเจดียค์ รบทงั้ ๕๐๐ ยอด รวมทง้ั ไดน้ าพระบรมสารีริกธาตุ วัตถมุ งคล และของมีค่ามาสกั การะบชู าจาานวนมากบรรจอุ ยใู่ นพระเจดยี อ์ งคป์ ระธาน
วดั พระพทุ ธบาทราชวรมหาวิหาร วดั พระพทุ ธบาทราชวรมหาวิหาร ตง้ั อยทู่ ่ี อาเภอพระพทุ ธบาท จงั หวัดสระบรุ ี ตามพระราชพงศาวดารกรงุ ศรีอยธุ ยากลา่ วว่า มีพระภิกษไุ ทยคณะหนง่ึ เดนิ ทางไปยงั ลงั กาทวีป เพ่อื นมสั การรอยพระพทุ ธบาท พระสงฆล์ งั กากล่าวว่า ประเทศไทยก็มีรอยพระพทุ ธบาทอยแู่ ลว้ ทเ่ี ขาสวุ รรณบรรพต จึงไดน้ าความกราบทลู สมเด็จพระเจา้ ทรงธรรมใหท้ รงทราบ และไดส้ ืบหาจนพบรอยพระพทุ ธบาท เพอ่ื เป็ นทีส่ กั การบชู า เป็ นศนู ยร์ วมแห่งพลงั ศรทั ธาอนั ยิ่งใหญ่ พระพทุ ธบาทสระบรุ ีเป็ นพระอารามหลวง ท่ีพระมหากษตั ริยแ์ ทบทกุ พระองคท์ รงทานบุ ารงุ และเสด็จไปนมสั การตลอดมา ตงั้ แตส่ มยั กรงุ ศรีอยธุ ยาจนถึงรัตนโกสินทร์
เขื่อนป่ าสกั ชลสทิ ธ์ิ เข่ือนป่ าสกั ชลสิทธิ์ เป็ นเขอ่ื นดนิ กกั เก็บนา้ ทยี่ าวที่สดุ ในประเทศไทย ตามแนวพระราชดาริของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัวเพอ่ื ป้ องกนั ปัญหานา้ ทว่ ม เริ่มดาเนนิ การกอ่ สรา้ งในวันที่2 ธนั วาคมพ.ศ. 2537โดยกรมชลประทานเป็ นผรู้ ับผดิ ชอบ นอกจากเขอื่ นป่ าสกั ชลสิทธิ์ จะทาการกกั เก็บนา้ แลว้ ยงั เป็ นสถานที่ทอ่ งเท่ียวสาคญั ของจงั หวดั ลพบรุ ี เขอ่ื นป่ าสกั ชลสิทธ์ิ เป็ นเขอื่ นดินกกั เก็บนา้ ทย่ี าวที่สดุ ในประเทศไทย และเป็ นสถานที่ท่องเทยี่ วสาคญั ของจงั หวดั ลพบรุ ี ทม่ี จี ดุ ท่องเท่ียวทีน่ า่ สนใจหลายจดุ ใหไ้ ดช้ ม ดงั น้ี ฝั่งจงั หวดั ลพบรุ ี สถานรี ถไฟเขอ่ื นป่ าสกั ชลสทิ ธ์ิ อยบู่ ริเวณทางเขา้ เขอ่ื นป่ าสกั ชลสิทธสิ์ ถานรี ถไฟเขอื่ นป่ าสกั ชลสิทธิอ์ าคารอเนกประสงค์ ริมอา่ งเก็บนา้ มีสถานท่ีปลอ่ ยปลา และ จดุ นงั่ ชมววิ ริมอา่ งเก็บนา้ เขอื่ นป่ าสกั ชลสทิ ธิ์หอคอยเฉลิมพระเกยี รติ พธิ ภณั ฑฯ์ เขอื่ นป่ าสกั ชลสิทธ์ิ สนั เขอื่ นป่ าสกั ชลสทิ ธ์ิ ซึ่งมบี ริการรถรางนาเทย่ี วชมวิวบริเวณสนั เขอ่ื นฯ ไป – กลบั ความยาว 9,720 เมตร ฝ่ังจงั หวดั สระบรุ ี พระพทุ ธรตั นมณีมหาบพิตรชลสิทธิม์ งคลชยั (หลวงป่ ูใหญ่ป่ าสกั ) อยบู่ ริเวณทา้ ยเขอ่ื นป่ าสกั ชลสิทธ์ิ ชมวิวริมสนั เขอื่ นอนั สวยงาม
ท่งุ ทานตะวนั เมอื่ เขา้ ส่ชู ว่ งปลายฝนตน้ หนาวระหวา่ งเดอื นพฤศจิกายน – ธนั วาคม ของทกุ ปี ฤดกู าลท่องเที่ยว ท่งุ ทานตะวัน จงั หวดั สระบรุ ี ริมฝัง่ ถนนจะสะพรงั่ ไปดว้ ยสีเหลืองของดอกทานตะวัน เป็ นทีส่ ะดดุ ตาแกผ่ ผู้ า่ นมาบริเวณนเี้ ป็ น อยา่ งมากจนกลายเป็ น แหล่ง ท่องเทีย่ วท่สี าคญั ของจงั หวัด และในทกุ ปี จงั หวัดสระบรุ ี จะจดั เทศกาลท่งุ ทาน ตะวนั บาน ในทกุ ปี สลบั หมนุ เวยี นไปในแตล่ ะ อาเภอพ้นื ท่ี เพื่อใหน้ กั ทอ่ งเทยี่ วไดเ้ ขา้ ไปชนื่ ชม และถา่ ยภาพ เป็ นทร่ี ะลึก ตลอดจนการ ใหค้ วามรเู้ ก่ียวกบั วิธกี ารปลกู ดอกทานตะวัน การนาเอาผลผลติ จาก เมล็ดทานตะวนั ไป ใชป้ ระโยชนใ์ นการอปุ โภคบริโภครวมท้งั การเลอื กซ้ืออาหารเพอื่ สขุ ภาพ เชน่ เมล็ดทานตะวนั ควั่ สดๆ จากไร่ หรือหาซ้ือนา้ ผง้ึ ทานตะวนั เป็ นของฝากจงั หวัดสระบรุ ีมีพ้นื ที่ปลกู ทานตะวันนบั หลายหมื่ นไร่ บริเวณเขตตดิ ตอ่ ระหว่างจงั หวัดลพบรุ ี และสระบรุ ี ตามเสน้ ทางสายพฒั นานคิ ม- วังมว่ ง มกี ารทาไร่ทานตะวนั กนั มาก รวมทง้ั ในอีก หลายอาเภอของสระบรุ ี เชน่ อาเภอพระพทุ ธบาทแกง่ คอย หนองโดน หนองแคและมวกเหล็ก แตท่ ีอ่ าเภอ
สวนบ๊ิกเต้ สวนดอกเบญจมาศบ๊กิ เต้ ตง้ั อยใู่ นอาเภอมวกเหล็ก จงั หวดั สระบรุ ี เป็ นแหลง่ ปลกู ดอกเบญจมาศที่ใหญ่ท่ีสดุ อีกแห่งนง่ึ ของมวกเหล็ก พรอ้ มเปิ ดเป็ นแหลง่ ทอ่ งเที่ยวเชงิ เกษตรใหน้ กั ท่องเที่ยวไดช้ มสวนดอกเบญจมาศหลายส ายพนั ธ์ุ หลากสีสนั อวดโฉมแบง่ บาน ละลานตา โดยที่ไมต่ อ้ งเดนิ ทางไปชมใหไ้ กลถึงภาคเหนอื แตม่ าที่สวนบก๊ิ เต้ ใชเ้ วลาเดนิ ทางเพยี ง 2 ชวั่ โมงครึ่ง จะไดพ้ บกบั ดอกเบญจมาศ ปลกู ภายในโรงเรือนสขี าวทา่ มกลางววิ ทิวทศั นข์ องหบุ เขา บนพ้ืนท่กี วา่ รอ้ ยไร่ มใี หช้ มตลอดทงั้ ปี
เจ็ดคต - โป่ งกอ้ นเสา้ ศนู ยศ์ ึกษาธรรมชาตเิ จ็ดคต-โป่ งกอ้ นเสา้ เป็ นสว่ นหนงึ่ ของพน้ื ทีอ่ ทุ ยานแหง่ ชาตเิ ขาใหญ่ แตถ่ กู แยกออกมาใหอ้ ยใู่ นความดแู ลของสานกั บริหารพ้ืนที่อนรุ ักษท์ ี่ 1 และยงั เป็ นสถานทท่ี ่องเทย่ี วและสถานท่ีพกั แรมสาหรับคนที่อยากมาพกั ผอ่ นทา่ มกลางธ รรมชาติ ริมอา่ งเก็บนา้ ซับป่ าว่าน ในส่วนของทีพ่ กั มีทงั้ บา้ นพกั ใหใ้ ชบ้ ริการ ความสะดวกตา่ งๆ หรือ ถา้ ชอบกางเตนทท์ ีน่ ก่ี ็มจี ดุ พกั สาหรับกางเตนทเ์ ชน่ กนั รบั รองว่าไดใ้ กลช้ ิดกบั ธรรมชาตไิ มม่ ีผดิ หวัง อีกทงั้ ยงั มีเจา้ กระตา่ ยทเ่ี ราสามารถเจอไดใ้ นท่ีนอ่ี กี ดว้ ย สาหรบั คนรกั การปัน่ ก็มเี สน้ ทางใหส้ าหรับนกั ปัน่ ใหไ้ ปผจญภยั ไดแ้ นน่ อน ส่งิ อานวยความสะดวกครบครนั ขนาดน้ี ไมม่ าไมไ่ ดแ้ ลว้ ละ่ ถา้ พลาดบอกเลยนา่ เสยี ดาย
น้าตกโกรกอีดก นา้ ตกโกรกอีดก อยใู่ นพื้นที่การดแู ลของศนู ยศ์ ึกษาธรรมชาตเิ จ็ดคต- โป่ งกอ้ นเสา้ นา้ ตกโกรกอดี ก มาจากภาษาชาวบา้ นท่เี รียก ตามภมู ิศาสตรข์ องภเู ขาโดยรอบทีม่ มี ากมายหลายเทอื กเขา ซึ่งคาว่า \"โกรก\" มาจาก \"ภเู ขา\" และ \"ดก\" มาจาก \"เยอะ\" ตอ่ มา ชาวบา้ นจงึ เรียกนา้ ตกแหง่ นว้ี า่ โกรกอีดก ลักษณะเป็ นนา้ ตกใหญท่ ส่ี วยงามแบ่งออกเป็ น 8 ชนั้ วัดความสงู ไดป้ ระมาณ 350 เมตร สามารถเท่ยี วชมไดท้ กุ ชนั้ แตน่ กั ทอ่ งเที่ยวนยิ มเที่ยวถึงชนั้ 7 เทา่ นน้ั เพราะความสวยงามของนา้ ตกแห่งนอ้ี ย่ทู ชี่ นั้ 6 และ 7 ซึ่งมคี วามสวยงามกว่าชนั้ อ่นื ๆ ชว่ งเวลาทีเ่ หมาะสม นา้ ตกโกรกอีดก มนี า้ ตลอดทง้ั ปี แตจ่ ะสวยมากในชว่ งฤดฝู นเพราะปริมาณนา้ จะไหลเต็มหนา้ ผา มนี า้ ตกครบทกุ สาย ชว่ งเวลาท่ี เหมาะสมคอื มิถนุ ายน- กนั ยายน มาประมาณชว่ งตน้ ฤดฝู นจะสวยกว่าเพราะพชื พรรณในป่ าฝนเริ่มออก มที ง้ั มอส เฟิ รน์ และเห็ดสวยงาม มใี หช้ ม เห็ดแชมเปญสชี มพสู วยๆ ก็มี ผเี ส้อื ก็เยอะ
น้าตกเจ็ดสาวนอ้ ย นา้ ตกเจ็ดสาวนอ้ ย ตง้ั อยภู่ ายในอทุ ยานแหง่ ชาตนิ า้ ตกเจ็ดสาวนอ้ ย บริเวณหมบู่ า้ นแกง่ หลุ ตาบลมวกเหล็ก อาเภอมวกเหล็ก จงั หวดั สระบรุ ี เป็ นนา้ ตกท่เี กดิ จากลาหว้ ยมวกเหล็ก มีลักษณะเป็ นชนั้ เตย้ี ๆ จานวน 7 ชนั้ รวมระยะทางทงั้ ส้นิ 490 เมตร แตล่ ะชน้ั มีความสงู ประมาณ 1-4 เมตร บางชนั้ จะมแี อง่ นา้ ต้นื ๆ ใหน้ กั ทอ่ งเทีย่ วไดล้ งเลน่ คลายรอ้ น นา้ ใสสะอาด ไมไ่ หลเช่ียว ปลอดภยั บริเวณรอบดา้ นของนา้ ตกเจ็ดสาวนอ้ ยจะมีตน้ ไมน้ อ้ ยใหญ่ใหร้ ม่ เงา บรรยากาศรม่ ร่ืน ชว่ งทน่ี า่ เที่ยวคอื เดือนพฤศจิกายน-เมษายน
ของฝาก ของทรี่ ะลึก
เน้ือนม่ ุ นมดี กะหรด่ี งั เพยี งแคไ่ ดฟ้ ังคาขวัญก็บง่ บอกชดั เจนว่า สระบรุ ีนข้ี น้ึ ชอื่ ในเรื่องของกนิ อย่างปฏิเสธไมไ่ ด้ วา่ กนั ว่าถา้ มาถึงสระบรุ ีแลว้ แตย่ งั ไมไ่ ดล้ องกนิ ของดที งั้ สามอย่างนี้ แปลวา่ ยงั มาไมถ่ ึงจริงๆ มคี ากลา่ วท่พี ดู ถึงกนั มาชา้ นานเกยี่ วกบั ของดีเมืองสระบรุ ีนน้ั คอื สเตกเนอื้ โคขนุ นมโคไทย-เดนมารค์ และกะหรี่ปับ๊ ทีอ่ าเภอมวกเหล็ก จงั หวดั สระบรุ ี
สเตกเน้ือน่มุ : ชมิ เนอื้ สเตกจากเนอื้ โคขนุ คณุ ภาพชน้ั เลศิ ที่นมุ่ ละมนุ สระบรุ ีนน้ั เตม็ ไปดว้ ย รา้ นสเตกขนึ้ ชื่อมากมายหลายเจา้ แตล่ ะเจา้ นน้ั ตา่ งก็มีเอกลกั ษณข์ องรสชาตเิ ฉพาะตวั ท่ีไมซ่ า้ กนั ทง้ั จากการเลอื กใชเ้ นอื้ การทานา้ ซอส ที่ แตกตา่ งกนั ออกไปนนั่ เอง แตไ่ มว่ ่าจะเป็ นรา้ น ไหน ก็รบั ประกนั ไดว้ ่า “อรอ่ ย” ไมแ่ พก้ นั “ “นมดี” เป็ นผลติ ผลจากววั นมที่เล้ียงกนั เป็ นลา่ เป็ นสนั ในพ้ืนที่สระบรุ ี นมววั ที่ จาหนา่ ยกนั สว่ นมากในประเทศก็มาจาก สระบรุ ีนแี่ หละ่ ถา้ นมไมด่ จี ริง ไหนเลยจะ ขายกนั ไดท้ วั่ ประเทศ สดุ ยอดนมโค จากแม่ โคสายพนั ธด์ุ ี ณ ฟารม์ โคนมแห่งแรกของ เมืองไทย ฟารม์ โคนมไทย-เดนมารค์ อ. มวกเหล็ก จ.สระบรุ ี องคก์ ารสง่ เสริม กิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ตงั้ อย่ทู ่ีถนนมติ รภาพ ตาบลมติ รภาพ ฝัง่ ตรงขา้ มกบั ตลาด อ.ส.ค. เปิ ดใหผ้ สู้ นใจเขา้ ชมเพื่อใหเ้ ป็ นแหลง่ ท่องเท่ียวเชิงเกษตร และจดุ เรียนรดู้ า้ นโคนมอยา่ งครบวงจร
พลาดไมไ่ ดก้ บั การแวะลองกะหรป่ี ๊ับมีช่ือที่ มีใหเ้ ลอื กหลายรสชาตดิ ว้ ยกนั ที่อาเภอ มวกเหล็ก หวานมนั เค็มลองมาหมดแลว้ คะ่ บอกไดค้ าเดียวอรอ่ ยมาก ขนมขนึ้ ช่ืออยา่ ง “กะหร่ีปับ๊ ” นนั้ ก็ไมค่ วรพลาดดว้ ยประการ ทง้ั ปวง ท่ีนขี่ ายกนั วนั ตอ่ วัน ทอดขายกนั สดๆ แป้ งบาง ไสห้ นา มใี หเ้ ลือกชมิ ถึงสิบ กว่ารสชาติ พดู ถึงขนมหวานเช่ือว่าหลายคนนา่ จะชอบ และมกั จะตามลา่ หาไอเทมอรอ่ ยๆ ขอ แนะนาอีกหนง่ึ รา้ น รา้ นบา้ นแมม่ ด ขนม เปี๊ ยะ เจา้ เด็ด ของฝากและของดขี น้ึ ช่อื ประจา อ.พระพทุ ธบาท จ.สระบรุ ี สว่ นเมนู อรอ่ ยหา้ มพลาดของรา้ นก็คอื ขนมเป๊ี ยะ สไตลโ์ มเมด เจา้ ของรา้ นลงมอื ทาเองในทกุ ขน้ั ตอน แป้ งบาง หอม ไสอ้ ดั แนน่ อรอ่ ยทกุ ลกู เตม็ อ่ิมทกุ คา มีใหเ้ ลอื กหลากหลายไส้ อาทิ ไสถ้ วั่ , ไขเ่ ค็ม, เผอื ก, งาดา, มนั มว่ งและ มนั เทศ ,ทเุ รียน (มีเฉพาะฤดกู าลเทา่ นนั้ )
SARABURI i
Search
Read the Text Version
- 1 - 30
Pages: