Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

027

Published by suppachaipetchmak, 2020-09-17 08:57:06

Description: 027

Search

Read the Text Version

Krabi Province จงั หวดั กระบี

สารบัญ ข้อมลู ทัวไป 1 แหล่งทอ่ งเทียว 3 ของดขี องฝาก 13 ประเพณีเเละเทศกาลประจาํ ป 17 ประวตั ิจงั หวดั กระบี 21

1

2 เป็นจังหวดั หน่ึงในภาคใตของประเทศไทย เป็นเมืองทอง เทย่ี วท่ีมชี ่อื เสียงแหง หน่ึงของภาคใต มแี หลง ทอ งเท่ียวหลายแหง เชน หาดทรายขาว น้ําทะเลใส ปะการงั ถ้ํา และหมูเกาะน อย ใหญก วา 100 เกาะ และเป็นทตี่ งั้ ของเรอื นรับรองทป่ี ระทับ แหลมหางนาค ตน ไมประจาํ จงั หวดั : ตน ทงุ ฟ า ดอกไมประจําจังหวดั : ดอกทุงฟ า สตั วน้ําประจําจงั หวัด : หอยชกั ตีนหรือหอยสังขตีนเดียว อักษรยอ : กบ

3 แหล่งท่องเทียว

4 สระมรกต ตงั้ อยูทีอ่ ําเภอคลองทอ ม ในเขตรักษาพันธุสัตวป าเขาประ- บางคราม โดยมีตน กาํ เนิดมาจากธารน้ําอนุ ในผืนปาทรี่ าบ ต่าํ ภาคใต ไฮไลทอ ยูที่นักทองเท่ยี วจะไดช ่ืนชมกับสระน้ํา ธรรมชาติทม่ี ีสเี ขียวเหมอื นมรกตขนาดใหญลและมีความ ใสจนมองเห็นพ้นื หินขางลางไดอ ยา งชัดเจน รอบๆบริเวณยังมีศาลาเอาไวใหนักทอ งเท่ยี วไดน ัง่ พกั ผอ น ชมววิ ทวิ ทัศน รวมถงึ ยังไดเพลิดเพลนิ กบั การวา ยน้ําเลน

5 ทะเลแหวก หน่ึงในท่เี ทีย่ วสดุ อนั ซีนของกระบี่ทม่ี ีช่ือเสียงโดง ดงั ไปทัว่ โลก ซ่งึ มีทีม่ าจากปรากฏการณธรรมชาตเิ ม่ือยามน้ําลด ทจี่ ะพดั พาเอาเม็ดทรายมารวมกัน ณ ทน่ี ี้ และเผยใหเ หน็ แนวสันทรายยาวเช่อื มตอไดร ะหวา ง 3 เกาะ คอื เกาะไก เกาะหมอ และเกาะทบั นักทอ งเท่ียวสามารถเดินเลน ไป-มาระหวางเกาะ ทามกลางบรรยากาศน้ําสวยทะเลใส ของกระบี่

6 อ่าวนาง เป็นหาดท่ีมีช่อื เสยี งท่สี ดุ แหงหน่ึงของกระบี่ ดว ยเพราะ เป็นจุดตอ เรอื ไปยงั ท่ตี าง ๆ ไดส ะดวก จงึ ทําใหมนี ักทอง เทยี่ วแวะเขามาเทย่ี วที่อาวนางเป็นจํานวนมาก มลี ักษณะ เป็นหาดทรายทอดยาว มีถนนเลียบชายหาด มีภูเขาคนั่ ระหวา งชายหาด ทวิ ทัศนโดยรอบสวยงามแปลกตา และยงั เป็นสถานทท่ี ่ีเหมาะสําหรบั เป็นจดุ ชมพระอาทติ ยตกที่ สวยงาม

7 ปาพรุท่าปอม คลองสองนาํ ตัง้ อยทู ่บี า นหนองจิก ท่ีนี่มีแหลง น้ําจดื ท่ีใสสะอาดเสยี จน มองเหน็ พ้นื น้ําเบ้อื งลาง ประดบั ดวยรากไมป าหลุมพที ี่ เล้ือยไปเล้อื ยมา ยิง่ เม่ือแดดสาดแสงลงมาจบั ตอ งแองน้ํา เหลา นี้ ย่ิงกอ ใหเ กิดประกายระยบิ ระยับ นักทอ งเทีย่ วจะได เดินชมธรรมชาติบนสะพานไมร ะแนง ทอดตวั เล้อื ยไปตาม แองน้ํา บางชวงมีเกาอีไ้ มนัง่ พกั นัง่ ชมทัศนียภาพสองขา ง ทาง หรือเตมิ ดกี รผี จญภยั อีกนิดดว ยการพาย คายกั ลอ งไปตามแนวปาโกงกาง

8 นาํ ตกร้อนคลองทอ่ ม ตัง้ อยูใ นเขตอาํ เภอคลองทอม บรเิ วณบา นบางคราม-บาน บางเตยี ว มีลกั ษณะเป็นอางเก็บน้ําธรรมชาตกิ ลางปา รองรับน้ําตก ที่ไหลมาพรอมกบั สายน้ําแร และเป็นธารน้ําพุ รอ นผดุ ที่ข้นึ มาจากใตด นิ ตามธรรมชาติ ในอุณหภมู พิ อ เหมาะท่ีนักทอ งเท่ียวสามารถลงไปแชไ ด ซ่งึ เช่ือกนั วา สามารถบาํ บัดอาการไขขออักเสบ ปวดเม่ือยกลามเน้ือ และ เกี่ยวกับผิวหนัง

9 หาดถําพระนาง เช่อื กันวา สถานทแี่ หงนี้เป็นที่สถิตของพระนางอันศกั ดิส์ ิทธิ์ ซ่งึ ชาวเรอื แถบนี้เคารพสกั การะ หากแตสวยงามนาประทับ ใจ ลองนักทอ งเที่ยวเขา ไปอยูภายในถ้ํา และมองออกมา ขา งนอก ปากโพรงถ้าํ จะมหี ินยอ ยลงมาเป็นฉากระยา สวยงาม มที องทะเลกวา งและเกาะน อยใหญเ รียงราย ใน ยามพระอาทติ ยต กจะเป็นมมุ มองสวยงามท่ีสุดแหงหน่ึงใน เมืองไทย

10 หมูเ่ กาะห้อง ตัง้ อยูใ นเขตอทุ ยานแหง ชาตธิ ารโบกขรณี เป็นเกาะเลก็ ๆ ทมี่ ที ศั นียภาพสวยงามมาก ลอ มรอบดวยน้ําทะเลสีคราม มกี ลั ปังหาและปะการังรอบเกาะ มีเวงิ้ หาดสองหาดตดิ กนั โดยกนั้ ดวยโขดหินตรงกลาง น้ําทะเลใส หาดทรายขาว มี แนวปะการงั ทงั้ น้ําต้ืนและน้ําลึกเหมาะแกก ารดําน้ํา ตกปลา

11 หาดไร่เลย์ ตัง้ อยูใ นตาํ บลอา วนาง เป็นที่รูจักดใี นหมูนักทองเทย่ี ว โดย เฉพาะผทู ี่ช่ืนชอบกจิ กรรมปีนหน าผา และสามารถปีนได ตลอดทัง้ ปี และถูกภเู ขาลอ มรอบทกุ ดา น ทาํ ใหผูค นที่จะ เดินทางมาเทีย่ วหาดไรเลตอ งนัง่ เรอื เพยี งอยา งเดียว ซ่งึ นี่ อาจเป็นอกี เหตุผลหน่ึงทาํ ใหชาวบา นที่หาดไรเลย ยงั ไมถ กู เทคโนโลยหี รอื ความเจริญกลนื กิน รวมถึงวถิ ชี ีวิตของ หมบู านชาวประมงเลก็ ๆ ทป่ี รับตวั ใหเ ขา กบั ยุคสมยั

12 นาํ ตกธารโบกขรณี ตัง้ อยใู นบริเวณอทุ ยานแหง ชาติธารโบกขรณี มีลักษณะ เป็นธารน้ําธรรมชาตไิ หลลงมายงั แองน้ําน อยใหญไลระดับ กัน นักทอ งเทีย่ วสามารถลงเลนน้ําได บรรยากาศรม ร่ืน และสามารถเห็นทัศนียภาพของรากไมตา ง ๆ ท่ชี อนไชอยู ตามแอง น้ําอยา งสวยงาม

13 ของขนึ ชอื ของฝาก จากกระบี

14 ขนมเตา้ ส้อ หรอื ทใ่ี ครหลายคนเรยี ก ขนมเปี๊ยะ อันดามนั ท่มี ี หลากหลายรสชาติ อรอยทงั้ ไสไ ขเ คม็ และตอนนี้มี รสชาตใิ หมอ ยา ง กุงเสยี บไขเค็ม ชาไทย เรียกวา มา กระบ่ีทงั้ ที อยาพลาดชมิ เชียวนะ รสชาตจิ ะหอมๆ ละลายในปาก

15 กุ้งเสียบยาํ สมนุ ไพร รสชาตแิ ซบๆ ติดลิน้ เรียกวาเป็นรสชาตทิ ค่ี นไทย โปรดปราน เราจะคนุ ชนิ กบั รสชาติตมยาํ ของไทยไม น อย งานนี้กงุ เสียบถูกนํามาปรุงรสแลวในรปู แบบ สมนุ ไพร สายสขุ ภาพ สายเบริ น ทานแลวชอบในรส ชาตเิ ผ็ดๆ นี่หา มพลาดนะขอบอก

16 ขนมทรายลันตา หรอื ขนมขหี้ นู เป็นขนมไทยที่มคี วามหอม อรอ ย หวาน สวนใหญมักทานคกู บั มะพราวขูด สวนผสม มาจาก ขาวเจา กะทิ น้ําตาล สผี สมอาหารตามใจ ชอบ ถา อยากใหเ ปลีย่ น เอาเป็นวาเด๋ยี วนี้เขามีสตู ร สําเร็จ หาซ้อื ไมยาก และรับประทานไดเ ลย

17 ประเพณี งานประจาํ ป

18 ประเพณีลอยเรอชาวเล เป็นงานประเพณีเกาแกท ่หี าดูไดยากของชาวเล เกาะลันตา งานนี้จัดข้นึ ตรงกับวนั เพ็ญเดือน 6 และเดอื น 11 โดยกลุมชาวเลที่เกาะลันตาและ เกาะใกลเ คยี ง จะมาชุมนมุ กันทําพธิ ีลอยเรอื เพ่อื สะเดาะเคราะห บริเวณชายหาดใกลกับบา น ศาลาดา น มีการรองรําทําเพลง และการรา ยรํา รอบลําเรอื ดว ยจังหวะและทาํ นองเพลงรองเง็ง

19 งานประเพณีสารทเดอื นสิบ เดือนสิบเป็นประเพณีสําคญั ของชาวใตเ พ่ืออุทิศ สว นกศุ ลใหบ รรพบุรษุ ผูลวงลับ ขนมที่ขาดไมได คอื ขนมลา ขนมเจาะหู ขนมพอง ขนมบา และ ขนมกงหรือไขป ลา

20 เทศกาลกระบีเบกิ ฟาอันดามนั จัดข้นึ ในชว งประมาณเดอื นพฤศจิกายนของทกุ ปี ที่บริเวณใกลกบั ทา เรือเจา ฟ า ในเขต อ.เมือง นับ เป็นการเร่มิ เปิดฤดูกาลการทองเทีย่ วของ จ.กระบี่ ภายในงานมกี ารแสดงตางๆ เชน การ แสดง กิเกปา ราํ รองเง็ง การประกวดเทพี โดย เฉพาะกิจกรรมอยางหลงั นี้ ชวยสรางสสี นั และ ความสนกุ สนานใหแกน ักทองเที่ยวไดเป็นอยาง มาก นอกจากนี้ยงั มกี ารแขงขันกีฬาทางน้ําหลาย ชนิด และมกี ารจัดแสดงนิทรรศการเกีย่ วกบั สถานทีท่ อ งเที่ยวทน่ี าสนใจใจ จ.กระบ่ี ใหน ัก ทอ งเทีย่ วไดช มอีกดวย

21 ประวตั ิ จงั หวดั กระบี

22 จากหลกั ฐานทางโบราณคดสี นั นิษฐานไดว า บริเวณเมืองกระบเี่ คยเป็นแหลง ชุมชนโบราณกอ น ประวตั ศิ าสตรและตอเน่ืองมาจนถงึ สมยั ประวตั ศิ าสตร กลา วกนั วา ดินแดนนี้แตเ ดิมคือ เมอื งบนั ไทยสมอ 1 ใน 12 เมืองนักษตั ร ทใ่ี ชตราลงิ เป็นตราประจาํ เมืองข้ึนกับอาณาจักร นครศรีธรรมราช พระเจาศรธี รรมโศกราช ผูค รองอาณาจกั รนครศรธี รรมราชหรอื ตามพรลงิ ค ตราประจาํ จงั หวดั นครศรีธรรมราช ในอดตี คือตรา ประจาํ เมอื ง12นักษตั ร จังหวัดกระบหี่ รือเมอื งบันไท สมอคอื สัญลกั ษณรูปลิง เป็นตัวท่6ี เม่ือนับจากกระตา ย มาตามเขม็ นาฬิกา

23 จงั หวัดกระบ่ี ตัง้ ขนั้ สมยั รชั กาลท่ี 5 แหง กรุง รตั นโกสินทร ในอดตี เป็นเพียงแขวงหน่ึงอยูใ น อาํ นาจปกครองและบังคบั บัญชาของเมือง นครศรีธรรมราช เรยี กวา “แขวงเมอื งปกาสยั ” พระยาผคู รองเมืองนครศรีธรรมราช ใหปลัดเมอื งฯ มาตัง้ คา ยทําเพนียดจบั ชา งในทองถ่นิ ทตี่ ําบลปกาสัย และไดม รี าษฎรจากเมืองนครศรีธรรมราช อพยพมา ตงั้ หลักแหลง ทํามาหากินเพม่ิ มากข้ึน พระปลัด เมืองฯ ไดย กตาํ บลปกาสยั ขนั้ เป็น “แขวงเมอื ง ปกาสยั ” ข้ึนตอเมืองนครศรธี รรมราช ประมาณปี พ.ศ. 2415 พระบาทสมเด็จพระ จลุ จอมเกลา เจา อยูห ัว รัชกาลท่ี 5 ไดทรงพระกรณุ า โปรดเกลาฯ ใหย กฐานะข้นึ เป็นเมอื งปกาสัย และ พระราชทานนามวา “เมืองกระบี่” เม่อื ไดประกาศ ตัง้ ข้นึ เป็นเมอื งแลว โปรดเกลาฯ ใหต ัง้ ทที่ ําการอยูท่ี ตําบลกระบใี่ หญ (บา นตลาดเกา ) ในทอ งที่อาํ เภอ เมอื งกระบีป่ ัจจบุ ัน มหี ลวงเทพเสนาเป็นเจา เมอื ง กระบี่คนแรก ตอมาในปี พ.ศ. 2418 ได ทรงพระ กรณุ าโปรดเกลา ฯ ใหแยกเมืองกระบ่ีออกจากการ ปกครองของเมืองนครศรีธรรมราช เป็นเมืองจัตวา ข้นึ ตรงตอ กรงุ เทพฯ

24 ในปี พ.ศ. 2443 สมัยพระยารษั ฏานปุ ระดิษฐ (คอซิมบี้ ณ ระนอง) เป็นสมุหเทศาภบิ าลมณฑล ภเู ก็ต ไดพจิ ารณาเหน็ วา ศาลากลางจังหวดั ทบี่ า น ตลาดเกา นัน้ ไมส ะดวกตอการคมนาคม เพราะสมัย นัน้ ตอ งอาศยั เรอื เป็นพาหนะ จงึ ยา ยมาทต่ี ัง้ เมืองไป อยูต ําบลปากน้ํา ซ่งึ อยูใกลป ากอา วเป็นรอ งน้ําลึก เรือใหญสามารถเขา เทยี บทา ไดสะดวกทําใหเป็นที่ ตัง้ ศาลากลางจังหวัดจนถงึ ปัจจบุ ันนี้ พระยารษั ฏานปุ ระดษิ ฐ

25 ความหมายของคาํ วา “กระบี”่ มตี าํ นานเลา สืบตอ กัน มาวา ชาวบา นไดข ดุ พบมดี ดาบโบราณเลม หน่ึง นํา มามอบใหก บั เจาเมอื งกระบี่ และตอ มาไมนานก็ขุด พบมีดดาบโบราณเลมหน่ึง รูปรา งคลา ยกับมดี ดาบ โบราณเลม ใหญ จงึ นํามามอบใหก บั เจา เมอื งกระบี่ เชนกัน เจา เมืองกระบ่เี ห็นวาเป็นดาบโบราณสมควร เก็บไวเ ป็นดาบคูบา นคูเ มอื งเพ่อื เป็นสริ ิมงคล แต ขณะนัน้ ยงั สรา งเมอื งไมเ สร็จ จึงไดน ําดาบไปเกบ็ ไว ในถ้ําเขาขนาบน้ําหน าเมืองโดยวางดาบหรอื กระบี่ ไขวก ัน ซ่ึงลักษณะการวางดาบหรอื กระบไ่ี ขว เป็น สัญลกั ษณของตราประจําจังหวดั คอื รูปดาบไขวดา น หลังมภี ูเขาและทะเล โดยบา นท่ีขุดพบดาบใหญได ตัง้ ช่ือวา “บานกระบี่ใหญ” บา นท่ขี ดุ พบดาบเล็กได ตงั้ ช่ือวา “บานกระบี่น อย” แตมอี กี ตํานานหน่ึง สนั นิษฐานวา คําวา “กระบ่”ี อาจเรียกช่ือพนั ธไุ ม ชนิดหน่ึงท่มี ีมากในทองถ่ิน คือตน “หลุมพ”ี จงึ เรยี กช่ือทองถนิ่ วา “บา นหลมุ พี” ตอ มามีชาวมลายู และชาวจนี ที่เขา มาคาขายไดเรยี กเพีย้ นเป็น “บาน-กะ-ล-ู บ”ี หรือ “คอโลบ”ี นานๆ เขาก็ไดป รบั เป็นสาํ เนียงไทยวา “กระบ่ี”

26

มากระบี ต้องกิน หอยชกั ตีน! น า ย ศุ ภ ชั ย เ พ็ ช ร ม า ก ส า ข า วิ ช า ก า ร ท่ อ ง เ ที ย ว 6211011448027


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook