5. กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นำเขา้ สู่บทเรียน 1. แบ่งกลมุ่ นักเรยี น เล่นเกมเรยี งคำใหเ้ ป็นประโยคทส่ี มบูรณ์ โดยครูแจกบัตรคำเพ่ือให้นักเรียนนำมา ประกอบเป็นประโยคต่างๆ ท่ีสมบรู ณ์ โดยใชป้ ระโยคทนี่ กั เรียนได้เรยี นผา่ นมาแลว้ กลุ่มละ 5 ประโยค 2. แตล่ ะกลุ่มแบ่งกันเรียงประโยค กลุ่มไหนเสร็จก่อนเป็นผู้ชนะ ขั้นนำเสนอความรู้ 1. ครูสอนคำศัพท์เกีย่ วกบั “Adverb of frequency” 2. ครอู ่านคำศัพท์ให้นกั เรียนฟัง พร้อมกบั ชีไ้ ปทีละภาพ อธิบายความหมายของคำศัพท์ จากนัน้ ชใี้ ห้ นกั เรยี นออกเสยี งตาม และให้อ่านเองจนคลอ่ ง 3. ครยู กตัวอย่างประโยคท่ีมีคำศพั ท์ดังกลา่ วปรากฏอยู่ 4. ครอู ธิบายหลกั การเรื่อง “Present simple tense with adverb of frequency 5. ครชู ีอ้ า่ นประโยคบนชาร์ต พรอ้ มอธิบายถึงโครงสรา้ งของประโยค ใคร ทำอะไร เม่ือไหร่ บอ่ ยแค่ไหน ข้นั ลงมือเรียนรู้ 1. ใหน้ กั เรียนแบบฝกึ หัดใน Workbook หน้า 28 ขน้ั สรุปความรู้ 1. ครใู ห้นกั เรียนจดคำศัพทแ์ ละโครงสร้างประโยคใส่สมุด และทำแบบฝกึ หดั หน้า 29 ขั้นประยุกต์ใชค้ วามรู้ นกั เรยี นวาดรูปแล้วเขยี นเร่อื งราวของตนเอง 5-7 บรรทดั โดยใชใ้ บงาน “My Daily Activities” ใหม้ ี Adverbs of frequency ในประโยค 6. สือ่ การเรียนการสอน 1. ใบงาน “My Daily Activities” 2. หนังสือเรยี น ชดุ Step Up English ป.4 (Student’s Book) 3. หนังสอื แบบฝกึ หัด ชดุ Step Up English ป.4 (Workbook Book) 4. DVD ประกอบหนงั สือ ชุด Step Up English ป.4 7. การวัดและประเมิลผล ทกั ษะท่ตี อ้ งการวัด วิธีการ เครือ่ งมือ เกรณฑก์ ารประเมนิ ความรู้ (Knowledge : K) ตรวจผลงาน นกั เรยี นเขา้ ใจคาศพั ทเ์ รือ่ งเกี่ยวกบั เน้อื หาบทที่ 2 หน้า 28 ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ข้นึ ไป คากรยิ าวเิ ศษณบ์ อกความถ่ี และ การใชโ้ ครงสรา้ งไวยากรณ์ present
simple รว่ มกบั กรยิ าวิเศษณบ์ อก เนอื้ หาบทท่ี 2 หน้า 29 ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ขนึ้ ไป ความถ่ีไดถ้ กู ตอ้ งตามบริบท ทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) ตรวจผลงาน นกั เรียนสามารถพูดหรือเขียนใหข้ ้อมลู เก่ยี วกับและเร่ืองใกลต้ วั เช่น I always drink milk. We often play football เกณฑ์การประเมนิ ผลจากการทำใบกิจกรรม ใบงาน แบบฝกึ ปฏบิ ตั กิ ิจกรรม ใชเ้ กณฑด์ ังนี้ 80% ข้ึนไป หมายถงึ ดีมาก 70-79% หมายถงึ ดี 60-69% หมายถึง ปานกลาง 50-59% หมายถึง ผ่าน ต่ำกวา่ 50% หมายถงึ ปรับปรงุ
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 14 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 4 หนว่ ยที่ 2 เร่อื ง When do you … ? 1 ชวั่ โมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองที่ฟงั และอ่านจากส่ือประเภทต่าง และแสดงความคดิ เห็นอย่างมี เหตุผล มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนขอ้ มูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความ คดิ เหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่ืองตา่ งๆโดยการพูดและเขยี น ตวั ช้ีวัด มาตรฐาน ต 1.1 ป.4/4 ตอบคำถามจากการฟังและอ่านประโยค บทสนทนา และนทิ านง่ายๆ มาตรฐาน ต 1.2 ป.4/1 พูด/เขยี นโตต้ อบในการส่ือสารระหวา่ งบุคคล มาตรฐาน ต 1.3 ป.4/1 พูด/เขียนให้ข้อมลู เกยี่ วกบั ตนเองและเรือ่ งใกลต้ วั 2. สาระสำคญั การใช้คำศัพท์ โครงสร้างประโยคท่ีใช้ในการให้ข้อมูล เปน็ แนวทางการสอื่ สารเรื่องที่ฟังและอ่านได้อย่าง ถกู ต้อง เพื่อใช้สอ่ื สารในชวี ติ ประจำวัน 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ ความรู้ (Knowledge : K) นักเรยี นเขา้ ใจและนำโครงสร้างประโยค when do you…? ไปใชไ้ ดอ้ ย่างถูกตอ้ ง ทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) นกั เรียนสามารถพูดหรอื เขยี นให้ขอ้ มูลเกย่ี วกับเรื่องใกลต้ ัวเม่อื เจอคาถาม When do you…? ได้ เจตคติ (Attitude : A) มุ่งมั่นในการทำงาน 4. เน้อื หา 4.1 Two-words verbs, time markers, adverb of frequency 4.2 Question sentence structure [ When + do/does+ S+ V1 ? ] 4.3 Answer sentence structure [ S + V1 + time marker] 5. กิจกรรมการเรียนรู้ ขน้ั นำเขา้ สูบ่ ทเรียน 1. แบง่ กลมุ่ นักเรยี น เลน่ เกมเรียงคำใหเ้ ป็นประโยคท่สี มบรู ณ์ โดยครูแจกบตั รคำเพื่อใหน้ ักเรยี นนำมา ประกอบเป็นประโยคตา่ งๆ ท่ีสมบูรณ์ โดยใช้ประโยคท่ีนักเรยี นได้เรยี นผา่ นมาแล้ว กลุ่มละ 5 ประโยค
2. แตล่ ะกลุ่มแบ่งกันเรยี งประโยค กลมุ่ ไหนเสร็จก่อนเปน็ ผู้ชนะ ขนั้ นำเสนอความรู้ 1. ครูอธิบายหลักการเรื่องการถามและตอบดว้ ยประโยค When do you …? 2. ครูชี้อ่านประโยคบนชารต์ พร้อมอธิบายถึงโครงสรา้ งของประโยคโดยใชโ้ มเดลคำถามและคำตอบจาก Student’s Book หน้า 39 ขนั้ ลงมือเรียนรู้ 1. ใหน้ กั เรยี นแบบฝึกหัดใน Workbook หนา้ 30 ขนั้ สรปุ ความรู้ 1. ครใู ห้นกั เรียนจดคำศัพทแ์ ละโครงสรา้ งประโยคใส่สมดุ และทำแบบฝกึ หดั หนา้ 31 ขนั้ ประยุกต์ใชค้ วามรู้ นักเรยี นวาดรปู แลว้ เขียนเร่อื งราวของตนเอง 5-7 บรรทดั โดยใช้ชดุ คำถามจากแบบฝึกหน้า 30-31 เปน็ ฐานและ ให้นกั เรยี นเขียนตอบจากโครงสร้างประโยคทเ่ี รยี นมา 6. ส่ือการเรียนการสอน 1. หนงั สือเรียน ชุด Step Up English ป.4 (Student’s Book) 2. หนังสือแบบฝกึ หัด ชุด Step Up English ป.4 (Workbook Book) 7. การวดั และประเมลิ ผล ทักษะทต่ี อ้ งการวัด วธิ ีการ เคร่ืองมอื เกรณฑก์ ารประเมิน ความรู้ (Knowledge : K) ตรวจผลงาน นกั เรยี นเขา้ ใจและนาโครงสรา้ ง เนือ้ หาบทที่ 2 หน้า 30 ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 70 ขน้ึ ไป ประโยค when do you…? ไปใชไ้ ด้ อย่างถูกตอ้ ง ทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) ตรวจผลงาน เนือ้ หาบทที่ 2 หน้า 31 ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 70 ข้ึนไป นกั เรียนสามารถพูดหรือเขียนให้ข้อมูล เกีย่ วกบั และเร่ืองใกลต้ วั เมื่อเจอคำถาม When do you…? ได้
เกณฑ์การประเมินผลจากการทำใบกจิ กรรม ใบงาน แบบฝกึ ปฏบิ ตั ิกจิ กรรม ใชเ้ กณฑด์ ังน้ี 80% ขนึ้ ไป หมายถึง ดีมาก 70-79% หมายถงึ ดี 60-69% หมายถึง ปานกลาง 50-59% หมายถงึ ผ่าน ตำ่ กวา่ 50% หมายถงึ ปรบั ปรงุ
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 14 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ วิชาภาษาองั กฤษ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 4 หน่วยที่ 2 เรื่อง Punctuation 1 ชว่ั โมง 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วดั มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรอ่ื งทีฟ่ งั และอ่านจากสื่อประเภทต่าง และแสดงความคดิ เห็นอย่างมี เหตผุ ล มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการส่อื สารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนขอ้ มูลข่าวสาร แสดงความรูส้ ึกและความ คดิ เหน็ อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเร่ืองตา่ งๆโดยการพูดและเขยี น ตวั ชี้วัด มาตรฐาน ต 1.1 ป.4/4 ตอบคำถามจากการฟังและอ่านประโยค บทสนทนา และนิทานง่ายๆ มาตรฐาน ต 1.2 ป.4/1 พดู /เขยี นโต้ตอบในการส่อื สารระหว่างบุคคล มาตรฐาน ต 1.3 ป.4/1 พูด/เขียนให้ข้อมลู เก่ยี วกับตนเองและเรื่องใกลต้ ัว 2. สาระสำคัญ การใช้คำศัพท์ โครงสรา้ งประโยคท่ีใชใ้ นการให้ข้อมลู เปน็ แนวทางการส่ือสารเรื่องท่ีฟงั และอ่านไดอ้ ย่าง ถกู ต้อง เพื่อใช้ส่ือสารในชีวิตประจำวนั 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ ความรู้ (Knowledge : K) นักเรยี นเขา้ ใจและนำความรเู้ ร่ืองเครื่องหมาย question mark และ exclamation mark ไปใชไ้ ด้อย่างถูกต้อง ทักษะ/กระบวนการ (Process : P) นกั เรยี นสามารถมองประโยคและเขยี นใหข้ อ้ มูลเก่ียวกับความแตกต่างของ สองเครอ่ื งหมายไดถ้ ูกตอ้ ง เจตคติ (Attitude : A) มงุ่ ม่ันในการทำงาน 4. เน้ือหา 4.1 Question mark 4.2 Exclamation 4.3 Meaning in texts 5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้นั นำเขา้ สู่บทเรียน
1. ครเู ตรยี มความพรอ้ มก่อนเริ่มเรยี นดว้ ยเกม “cup” 2. ให้นักเรียนเลน่ เปน็ คู่ วางแกว้ ไว้บนโต๊ะ 1 ใบ 3. นักเรยี นใช้มอื แตะสว่ นตา่ งๆ ของร่างกายตามทีค่ ุณครูสัง่ เช่น head, shoulders, ears, ears head shoulders ใหถ้ ูกตอ้ ง เม่ือใดทค่ี รพู ดู ว่า “cup” ใหน้ ักเรยี นแย่งกนั จับแกว้ ทันที 4. คุณครูเรมิ่ พดู จากงา่ ย และเพม่ิ ความยากข้นึ โดยสลับคำไปมาให้ซับซอ้ นขึน้ เกมนี้อาจจะเล่นไดร้ าว 5นาที ขัน้ นำเสนอความรู้ 1. ครสู อนเรือ่ ง “Punctuation” 2. ครอู ธิบายหลกั การใชเ้ ครอ่ื งหมาย “Question Mark” และ “Exclamation Mark” อา่ นตวั อย่างประโยคให้นักเรียนฟัง จากนั้น ชใี้ ห้นกั เรียนออกเสียงตาม และใหอ้ า่ นเองจนคล่อง ขั้นลงมือเรียนรู้ 1. ครตู ดิ ตวั อยา่ งประโยคบนทง้ั สองชนดิ กระดาน ให้นักเรียนช่วยกันนำ แผน่ เคร่อื งหมาย ? และ ! ขึ้นไป ตดิ บนกระดาน ด้านท้ายประโยคที่ครตู ิดไว้ หากติดผดิ ครูอธิบายและแกไ้ ขให้ถูกต้อง 2. ครแู จกใบงาน “Punctuation” ใหน้ กั เรียนตัดเคร่ืองหมายดา้ นขวามือ นำมาติดลงในช่องส่ีเหลี่ยมให้ ถกู ต้อง ตัดตามรอยประ แลว้ ตดิ ลงในสมดุ 3. ให้นกั เรียนทำแบบฝึกหดั Student’s Book หน้า 41 และ Workbook หน้า 32 ข้นั สรุปความรู้ 1. ครูแจกใบงาน “Punctuation Sentences” ใหน้ ักเรียนตดั ตามรอยประ ทากาว แล้วตดิ ลงในสมดุ 2. เขยี นประโยคตวั อย่างทใี่ ช้ เครื่องหมาย Question Mark และ Exclamation Mark ลงในดา้ นล่าง ข้ันประยกุ ตใ์ ช้ความรู้ 1. ครูให้นกั เรียนเขยี นประโยคทใ่ี ช้ เครือ่ งหมาย Question Mask และเครือ่ งหมาย Exclamation Mask นอกเหนือจากที่ไดเ้ รยี นมาลงในสมดุ มาอย่างละ 5 ประโยค 2. นำเสนอประโยคของตนเองหน้าชน้ั เรียน 6. สอื่ การเรยี นการสอน 1. ใบงาน “Punctuation” 2. ใบงาน “Punctuation Sentences” 3. หนังสอื เรยี น ชุด Step Up English ป.4 (Student’s Book) 4. หนังสือแบบฝกึ หัด ชุด Step Up English ป.4 (Workbook Book) 5. DVD ประกอบหนงั สือ ชุด Step Up English ป.4
7. การวดั และประเมลิ ผล วิธีการ เครื่องมอื เกรณฑ์การประเมนิ ตรวจผลงาน เน้ือหาบทท่ี 2 หนา้ 32 ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ขนึ้ ไป ทักษะท่ตี อ้ งการวัด ตอนที่ 1 ความรู้ (Knowledge : K) นกั เรยี นเขา้ ใจและนาความรูเ้ รอื่ ง เครื่องหมาย question mark และ exclamation mark ไปใชไ้ ดอ้ ย่าง ถกู ตอ้ ง ทักษะ/กระบวนการ ตรวจผลงาน เนอ้ื หาบทที่ 2 หนา้ 32 ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 70 ข้นึ ไป ตอนที่ 2 (Process : P) ทกั ษะ/กระบวนการ นักเรยี นสามารถมองประโยคและเขยี น ใหข้ ้อมลู เกย่ี วกับความแตกตา่ งของ สองเคร่ืองหมายได้ถูกต้อง เกณฑ์การประเมินผลจากการทำใบกจิ กรรม ใบงาน แบบฝึกปฏบิ ัติกิจกรรม ใช้เกณฑ์ดงั น้ี 80% ขึน้ ไป หมายถึง ดมี าก 70-79% หมายถึง ดี 60-69% หมายถงึ ปานกลาง 50-59% หมายถงึ ผ่าน ตำ่ กว่า50% หมายถึง ปรับปรงุ
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 15 กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาองั กฤษ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 หน่วยที่ 2 เร่อื ง Jack and the Giant 2 ชว่ั โมง 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้ีวัด มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเร่อื งท่ฟี ังและอา่ นจากส่ือประเภทต่าง และแสดงความคิดเหน็ อย่างมี เหตผุ ล มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสือ่ สารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรูส้ กึ และความ คดิ เห็นอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรื่องต่างๆโดยการพูดและเขียน ตัวชี้วัด มาตรฐาน ต 1.1 ป.4/4 ตอบคำถามจากการฟงั และอา่ นประโยค บทสนทนา และนทิ านง่ายๆ มาตรฐาน ต 1.2 ป.4/1 พดู /เขียนโต้ตอบในการสอ่ื สารระหว่างบคุ คล มาตรฐาน ต 1.3 ป.4/1 พดู /เขียนใหข้ ้อมูล เก่ยี วกับตนเองและเรือ่ งใกล้ตวั 2. สาระสำคัญ การใชค้ ำศัพท์ โครงสรา้ งประโยคทีใ่ ชใ้ นการให้ข้อมลู เป็นแนวทางการส่ือสารเรื่องที่ฟงั และอา่ นได้อย่าง ถูกต้อง เพื่อใชส้ ือ่ สารในชีวิตประจำวัน 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ความรู้ (Knowledge : K) นกั เรียนเขา้ ใจและอธิบายเนอ้ื เรอ่ื งท่ีฟงั เกยี่ วกับ Jack and the Giant ไดถ้ กู ตอ้ ง ทักษะ/กระบวนการ (Process : P) นกั เรยี นสามารถตอบคำถามจากเร่ืองที่ฟงั และอ่านไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง เจตคติ (Attitude : A) มจี ิตสาธารณะ 4. เนื้อหา Passage: Jack and the giant 5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรยี น 1. ครอู ธิบายวธิ ีเล่น คอื ถา้ พูดว่า “cat” ใหต้ บมือ ถ้าพดู ว่า “rat” ให้ตบโต๊ะ และถ้าพูดว่า “dog” ให้ตบวืด 2. ข้ันแรกให้คุณครูพูดจงั หวะทงี่ า่ ยก่อน เช่น cat rat dog จากน้นั เริ่มสลบั คำ เชน่ rat dog cat และเพ่ิม จำนวนคำส่ังหรือเร็วขึ้น เชน่ cat rat dog cat, cat cat dog cat, cat dog cat rat เปน็ ตน้
ขั้นนำเสนอความรู้ 1. ครอู า่ นเรื่อง “Jack and the Giant” ใน Student’s Book หน้า 42 ให้นักเรียนฟงั 2. ครูและนกั เรียนอ่านพรอ้ มกัน ครูแปลเนอ้ื เรื่องใหน้ กั เรียนฟัง จากนัน้ ครถู ามเหตุการณ์ต่างๆ จาก เน้อื เรอ่ื ง เช่น Where does Jack live? Are they rich or poor? Why is Jack sad? Who does Jack meet at the market? What do the man give to Jack? เปน็ ตน้ 3. ครูสอนคำศัพท์ เรื่อง “Jack and the Giant” 4. ครูอ่านคำศัพท์ใหน้ ักเรียนฟัง พร้อมกบั ช้ีไปทลี ะภาพ จากนั้น ชใี้ หน้ ักเรียนออกเสียงตาม และให้อ่านเองจนคลอ่ ง ข้นั ลงมือเรยี นรู้ 1. ครแู จกใบงานจากเร่ือง “Jack and the Giant Story” ตัดใบงานตามรอยประ 2. จากน้นั ใหน้ ักเรียนเรียงเน้ือเรอ่ื งใหม่ใหถ้ ูกต้องตามลำดับเหตกุ ารณ์ ตรวจสอบความถกู ตอ้ งจากเนอื้ เร่ือง ในหนงั สือเรียน ระบายสีภาพให้สวยงาม แลว้ ตดิ ลงในสมุด 3. ใหน้ กั เรยี นทำแบบฝึกหดั Workbook หนา้ 33 ขั้นสรปุ ความรู้ 1. ให้นักเรียนทำแบบฝึกหดั Workbook หน้า 34-35 ขน้ั ประยกุ ตใ์ ช้ความรู้ 1. ใหน้ กั เรยี นจบั คกู่ ับเพ่ือน เลอื กข้อความจากนิทานตอนที่นกั เรยี นชอบ อา่ นให้เพ่ือนฟัง แล้วบอกว่า ทำไมชอบประโยคหรือข้อความน้ันๆ 2. ครอู ธิบายการนำเอาข้อคิดหรือความรู้ที่ได้รบั นำมาปรบั ใชเ้ ข้ากบั ชวี ิตประจำวนั โดยสมมุตจิ าก สถานการณจ์ รงิ เพือ่ ใหน้ กั เรียนเหน็ ภาพ 6. ส่อื การเรียนการสอน 1. ใบงาน “Jack and the Giant Story” 2. หนงั สอื เรยี น ชดุ Step Up English ป.4 (Student’s Book) 3. หนงั สือแบบฝึกหัด ชุด Step Up English ป.4 (Workbook Book) 4. DVD ประกอบหนังสือ ชดุ Step Up English ป.4
7. การวดั และประเมลิ ผล ทักษะที่ตอ้ งการวัด วิธกี าร เครอ่ื งมอื เกรณฑ์การประเมนิ ความรู้ (Knowledge : K) ตรวจผลงาน นกั เรยี นเขา้ ใจและอธิบายเนือ้ เรอ่ื งท่ี เน้อื หาบทท่ี 2 หน้า 33 ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 70 ขนึ้ ไป ฟังเก่ียวกบั Jack and the Giant ได้ ถกู ตอ้ ง ทักษะ/กระบวนการ ตรวจผลงาน เนอ้ื หาบทท่ี 2 ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 70 ข้นึ ไป หนา้ 34-35 (Process : P) ทกั ษะ/กระบวนการ นักเรียนสามารถตอบคำถามจากเรอื่ งที่ ฟังและอ่านได้อย่างถูกต้อง เกณฑ์การประเมนิ ผลจากการทำใบกิจกรรม ใบงาน แบบฝกึ ปฏิบตั ิกจิ กรรม ใช้เกณฑด์ ังน้ี 80% ขึน้ ไป หมายถึง ดมี าก 70-79% หมายถึง ดี 60-69% หมายถงึ ปานกลาง 50-59% หมายถงึ ผ่าน ตำ่ กวา่ 50% หมายถึง ปรับปรงุ
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 15 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 หนว่ ยที่ 3 The Fun Fair เร่อื ง Conversation, Games 2 ชวั่ โมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวัด มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรอ่ื งท่ฟี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง และแสดงความคดิ เหน็ อย่างมี เหตุผล มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสอื่ สารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นขอ้ มูลข่าวสาร แสดงความรสู้ ึกและความ คิดเห็นอย่างมปี ระสิทธิภาพ มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่ืองตา่ งๆโดยการพดู และเขยี น ตัวชี้วัด มาตรฐาน ต 1.1 ป.4/4 ตอบคำถามจากการฟังและอา่ นประโยค บทสนทนา และนทิ านง่ายๆ มาตรฐาน ต 1.2 ป.4/1 พดู /เขยี นโตต้ อบในการส่ือสารระหว่างบคุ คล มาตรฐาน ต 1.3 ป.4/1 พดู /เขียนให้ข้อมลู เก่ยี วกับตนเองและเร่ืองใกลต้ ัว 2. สาระสำคัญ การใช้คำศัพท์ โครงสรา้ งประโยคท่ีใชใ้ นการให้ข้อมลู เป็นแนวทางการสอื่ สารเร่ืองท่ีฟังและอ่านไดอ้ ย่าง ถกู ต้อง เพื่อใช้สือ่ สารในชีวิตประจำวัน 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ความรู้ (Knowledge : K) นักเรียนเข้าใจเร่ืองราวท่ีฟงั และคำศัพท์เก่ยี วกบั สวนสนุกแล้วตอบไดถ้ ูกต้อง ทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) นักเรยี นสามารถตอบคำถามจากเร่ืองที่ฟังและอ่านไดอ้ ย่างถกู ต้อง เจตคติ (Attitude : A) มีวนิ ัย 4. เน้ือหา 4.1 The Funfair story 4.2 Funfair vocabulary 5. กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้นั นำเขา้ สบู่ ทเรยี น 1. ครเู ปดิ เพลงRing o’ Roses ใหน้ ักเรยี นฟงั พรอ้ มหัดรอ้ งเพลง
2. นกั เรยี นจับมอื เป็นวงกลมทำทา่ เตะขาตามจังหวะเพลง เมือ่ ท่อน We all fall down. นกั เรยี นรีบ นงั่ ลงกับพื้น นกั เรยี นคนไหนนั่งลงคนสุดท้าย ให้บอกคำศัพทเ์ ก่าทเี่ พ่งิ เรียนผา่ นมาในบทก่อนหนา้ น้ี 3. ชอ้ี ่านเนอื้ เพลงด้วยกนั บนจอหรอื บนชาร์ต ข้ันนำเสนอความรู้ 1. ครูอา่ นบทสนทนาในหนงั สือเรียน Student’s Book หน้า 44 ให้นกั เรยี นฟัง (โดยเปิด DVD หน้า 44 ประกอบการสอนบนจอ) 2. ชี้ให้นักเรียนอา่ นออกเสยี งตามทลี ะประโยค จากนัน้ ชี้ให้นกั เรียนอา่ นเองพรอ้ มกันทั้งหอ้ ง 3. เปดิ DVD หน้า 44 ให้นักเรียนฟังการออกเสยี ง แล้วให้นกั เรยี นออกเสียงตาม 4. ครสู อนคำศัพท์ เรื่อง “The Funfair”และ เร่อื ง “Games” โดยใช้ภาพและคำศัพท์ จาก Student’s Book หน้า 45 และ 48 มาทำเป็นบัตรภาพและบัตรคำติดบนกระดานเคล่อื นที่ 5. ครอู ่านคำศัพท์ให้นกั เรียนฟงั พร้อมกับชีไ้ ปทีละภาพ จากน้ัน ช้ใี ห้นักเรียนออกเสยี งตาม และให้ อ่านเองจนคลอ่ ง ข้นั ลงมือเรยี นรู้ 1. ครแู จกใบงาน “My Funfair!” ให้นักเรยี นวาดรปู สวนสนุกตามจินตนาการของตนเอง จากน้ัน เขียนอธบิ ายรายละเอียดของสวนสนกุ ลงใบงาน โดยดตู ัวอย่างการเขยี นจากหนังสือเรยี น 2. นกั เรียนทำแบบฝกึ หดั Student’s Book หน้า 45, 48 และ Workbook หน้า 36-38 และ 41 (ส่วนบน) ขน้ั สรุปความรู้ 1. ครูแจกใบงาน “The Funfair Mini Book” เพ่อื ทำสมุดคำศัพท์เล่มเล็ก ใหน้ กั เรยี นเขียนคำศัพท์เรื่อง The Funfair ให้ตรงกบั รูปภาพ ระบายสใี ห้สวยงาม 2. ตดั ตามรอยประ พับตามเส้นทึบ แลว้ ทำเป็นสมดุ คำศพั ท์เลม่ เล็ก ข้นั ประยุกต์ใช้ความรู้ ครูหารปู สวนสนุกแปลกๆ มาเปิดบนจอให้ดู ใหน้ ักเรียนเขยี นคำศัพทจ์ ากภาพทีเ่ หน็ เช่น merry-go-round, ice cream, swimming pool, hopscotch เป็นต้น 6. สอ่ื การเรียนการสอน 1. ใบงาน “My funfair” 2. ใบงาน “The Funfair Mini Book” 3. กาว 4. กรรไกร 5. หนังสือเรียน ชดุ Step Up English ป.4 (Student’s Book) 6. หนงั สือแบบฝกึ หดั ชดุ Step Up English ป.4 (Workbook Book) 7. DVD ประกอบหนังสือ ชดุ Step Up English ป.4
7. การวดั และประเมลิ ผล ทักษะทตี่ อ้ งการวัด วิธกี าร เคร่อื งมอื เกรณฑก์ ารประเมนิ ความรู้ (Knowledge : K) ตรวจผลงาน เนอื้ หาบทที่ 3 ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 70 ขน้ึ ไป นกั เรยี นเขา้ ใจเรื่องราวท่ฟี ังและ หน้า 36-37 และ 41 คาศพั ทเ์ ก่ียวกบั สวนสนกุ แลว้ ตอบได้ ถกู ตอ้ ง ทักษะ/กระบวนการ (Process : P) ตรวจผลงาน เนื้อหาบทท่ี 3 หน้า 38 ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 70 ขน้ึ ไป นักเรียนสามารถตอบคำถามจากเร่อื ง ทฟ่ี งั และอ่านได้อย่างถูกต้อง เกณฑ์การประเมนิ ผลจากการทำใบกจิ กรรม ใบงาน แบบฝึกปฏิบตั ิกิจกรรม ใชเ้ กณฑด์ ังนี้ 80% ขน้ึ ไป หมายถงึ ดีมาก 70-79% หมายถึง ดี 60-69% หมายถงึ ปานกลาง 50-59% หมายถงึ ผา่ น ตำ่ กว่า50% หมายถึง ปรับปรงุ
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 16 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 4 หน่วยที่ 3 The Fun Fair เร่ือง Question Words 2 ชว่ั โมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง และแสดงความคิดเหน็ อย่างมี เหตผุ ล มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสอื่ สารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรูส้ กึ และความ คดิ เห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่ืองต่างๆโดยการพดู และเขียน ตวั ชี้วัด มาตรฐาน ต 1.1 ป.4/1 ปฏิบตั ติ ามคำสง่ั คำขอร้องและคำแนะนำ (Instructions) งา่ ยๆ ท่ีฟังหรืออ่าน มาตรฐาน ต 1.2 ป.4/1 พูด/เขียนโตต้ อบในการส่ือสารระหวา่ งบคุ คล มาตรฐาน ต 1.2 ป.4/4 พดู /เขียนเพื่อขอและใหข้ ้อมลู เกย่ี วกับตนเอง เพือ่ น และครอบครวั มาตรฐาน ต 1.3 ป.4/1 พูด/เขียนใหข้ ้อมลู เกย่ี วกบั ตนเองและเรอื่ งใกลต้ วั 2. สาระสำคญั การใชค้ ำศัพท์ โครงสร้างประโยคท่ใี ช้ในการให้ขอ้ มลู เปน็ แนวทางการส่ือสารเร่ืองท่ีฟงั และอา่ นได้อย่าง ถูกต้อง เพ่ือใช้สือ่ สารในชีวติ ประจำวัน 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ความรู้ (Knowledge : K) นักเรียนเขา้ ใจโครงสร้างประโยค question words และนำไปใชไ้ ด้ถกู บริบท ทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) นกั เรยี นสามารถพูด/เขยี นให้ข้อมลู เกยี่ วกับและเร่ืองใกลต้ วั เช่น Do you know any funfair in Thailand? , What’s it name? , Where is it? , Who do you go with? เจตคติ (Attitude : A) ใฝ่เรียนใฝร่ ู้ 4. เน้อื หา 4.1 Question word (who what where when) 4.2 Question words structure [Wh?+ V to be + O +?] 5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขั้นนำเข้าสบู่ ทเรียน ครูใหน้ ักเรยี นเคลื่อนไหวประกอบบทกลอน “The Funfair” จากใบงาน “Let's Chant : The Funfair” พรอ้ มกนั แลว้ สลับกันทำทา่ ประกอบบทกลอน
ขั้นนำเสนอความรู้ 1. ครถู ามคำถามนักเรยี นดว้ ย “Question Words” เช่น What time is it? What time do you get up? Why do you like apple juice? When will you go home? เป็นตน้ 2. จากนัน้ ครูอธิบายหลักการใช้ “Question Words” ความแตกต่างของ Who What Where When โดยใช้ภาพคำศัพท์และตวั อย่างประโยค จาก Student’s Book หนา้ 47 มาทำเป็นบัตรคำและแถบ ประโยคตดิ บนกระดานเคลือ่ นที่ 3. ครูอ่านประโยคบนกระดานใหฟ้ ัง พร้อมกบั ชี้ไปทีละประโยค และให้นักเรยี นอ่านตาม 4. ช้ีให้นกั เรียนออกเสียงตาม และใหอ้ ่านเองจนคลอ่ ง ข้ันลงมือเรียนรู้ 1. ครแู บ่งกลุ่มนักเรียน จากน้ันแจกใบงาน “Who What Where When” ให้กลุ่ม 1 ชดุ และแจก โพสตอ์ ิทแผน่ ใหญ่ 2. ใหน้ ักเรยี นช่วยกันคัดและเขยี นประโยคที่ขึน้ ตน้ ด้วยคำว่า Who What Where When อยา่ งละ 5 ประโยค 3. จากนนั้ ให้นกั เรียนแยกโพสอิทไปแปะภาพภาชนะท่ีแจกให้ 4. ใหส้ มาชิกในกล่มุ เขยี นตวั อยา่ งประโยคทั้งหมดของกลุ่มตัวเอง ลงในสมุดของตวั เอง 4. นักเรยี นทำแบบฝึกหดั Workbook 39 ขน้ั สรุปความรู้ 1. นักเรียนทำแบบฝกึ หดั Workbook 40 ขั้นประยกุ ต์ใช้ความรู้ 1. ครเู ขยี นประโยคท่ีผดิ ในรปู แบบคำถาม Wh-Questions จำนวน 10 ประโยค บนกระดาน เช่น When time is it? (ทจี่ รงิ ต้องเปน็ What) Why is your name? (ท่ีจริงตอ้ งเปน็ What) What is your home? (ที่จริงตอ้ งเปน็ Where) เปน็ ต้น 2. ใหน้ ักเรยี นในห้องชว่ ยกนั หาทีผ่ ิด แล้วใหต้ วั แทนนักเรียนออกมาแก้ไขให้เปน็ ประโยคที่ถูกต้อง จากน้นั เขียนประโยคที่ถกู ต้องลงในสมดุ ของตัวเอง 6. สือ่ การเรยี นการสอน 1. ใบงาน “Who What Where When”
2. กาว 3. กรรไกร 4. โพสต์อทิ 5. หนงั สอื เรยี น ชุด Step Up English ป.4 (Student’s Book) 6. หนังสอื แบบฝกึ หัด ชดุ Step Up English ป.4 (Workbook Book) 7. DVD ประกอบหนงั สือ ชุด Step Up English ป.4 7. การวัดและประเมิลผล ทกั ษะทีต่ ้องการวัด วิธกี าร เครอ่ื งมือ เกรณฑก์ ารประเมนิ ความรู้ (Knowledge : K) ตรวจผลงาน นกั เรยี นเขา้ ใจโครงสรา้ งประโยค เน้ือหาบทท่ี 3 หนา้ 40 ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 70 ข้ึนไป question words และนาไปใชไ้ ดถ้ กู บรบิ ท ทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) ตรวจผลงาน เนื้อหาบทท่ี 3 หน้า 39 ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 70 ขึ้นไป นกั เรียนสามารถพดู /เขยี นใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั และเรอ่ื งใกลต้ วั เช่น Do you know any funfair in Thailand? , What’s it name? , Where is it? , Who do you go with? เกณฑ์การประเมินผลจากการทำใบกจิ กรรม ใบงาน แบบฝกึ ปฏิบัตกิ ิจกรรม ใชเ้ กณฑ์ดงั น้ี 80% ขึ้นไป หมายถงึ ดมี าก 70-79% หมายถงึ ดี 60-69% หมายถึง ปานกลาง 50-59% หมายถงึ ผา่ น ต่ำกวา่ 50% หมายถงึ ปรับปรงุ
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 17 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 4 หน่วยท่ี 3 The Fun Fair เร่อื ง Asking Question 2 ชวั่ โมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวัด มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเร่อื งที่ฟงั และอา่ นจากส่ือประเภทต่าง และแสดงความคิดเหน็ อย่างมี เหตุผล มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปล่ียนขอ้ มลู ข่าวสาร แสดงความร้สู ึกและความ คดิ เหน็ อยา่ งมีประสิทธภิ าพ มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลความคิดรวบยอด และความคิดเหน็ ในเรื่องต่างๆโดยการพดู และเขยี น ตวั ช้ีวัด มาตรฐาน ต 1.1 ป.4/1 ปฏิบตั ติ ามคำสงั่ คำขอรอ้ งและคำแนะนำ (Instructions) ง่ายๆ ท่ีฟังหรืออา่ น มาตรฐาน ต 1.2 ป.4/1 พดู /เขียนโตต้ อบในการสอ่ื สารระหว่างบุคคล มาตรฐาน ต 1.2 ป.4/4 พดู /เขียนเพ่ือขอและให้ข้อมูล เกยี่ วกับตนเอง เพื่อน และครอบครัว มาตรฐาน ต 1.3 ป.4/1 พดู /เขียนให้ข้อมูล เกย่ี วกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั 2. สาระสำคัญ การใชค้ ำศัพท์ โครงสรา้ งประโยคที่ใชใ้ นการให้ข้อมลู เป็นแนวทางการสื่อสารเร่ืองท่ีฟงั และอ่านได้อย่าง ถกู ต้อง เพ่ือใช้สอื่ สารในชีวิตประจำวัน 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ความรู้ (Knowledge : K) นักเรยี นเขา้ ใจโครงสร้างการถามคำถามดว้ ย Wh-questions และ Do/does- question และนำไปใช้ได้ถูกต้อง ทักษะ/กระบวนการ (Process : P) นกั เรยี นสามารถเลือกใชค้ ำพูด ประโยคคาถาม/ข้อความทใ่ี ชใ้ นการสนทนา เชน่ การทกั ทาย กลา่ วลา ขอบคุณ เจตคติ (Attitude : A) ใฝ่เรียนใฝ่รู้ 4. เนือ้ หา 4.1 Question word (who what where when) 4.2 Question words structure [Wh?+ V to be + O +?] 4.3 Do/does and subject agreement 4.4 Do/Does +S+ want to play + game-vocabulary+?
5. กจิ กรรมการเรียนรู้ ขน้ั นำเขา้ สบู่ ทเรียน ครใู หน้ ักเรยี นเคลื่อนไหวประกอบบทกลอน “The Funfair”จากบทเรียนก่อนอีกครง้ั โดยใหค้ ณุ ครูคิดเปลย่ี นทา่ เป็นเคร่อื งเลน่ อยา่ งอืน่ บ้าง ข้นั นำเสนอความรู้ 1. ครูนำเข้าสู่บทเรยี น โดยถามคำถาม เชน่ Do you like pizza? Do I wear red shirt? Do you want to go to Pattaya? Does she speak Thai? Does she like badminton? นกั เรยี นอาจตอบไดบ้ า้ ง ไม่ได้บ้างก็ไมเ่ ปน็ ไร จากนั้นครูอธบิ ายหลักการใช้ “Do, Does” กับ Pronouns 2. ครอู ธิบายโครงสรา้ งประโยค เรือ่ ง “Asking Questions” และการตอบประโยคคำถาม ให้กับนกั เรยี น โดยการทำชาร์ตโครงสรา้ งประโยคและการตอบประโยคคำถาม จาก Student’s Book หน้า 49 และ 3. ทำแถบประโยคตัวอยา่ ง Do, Does จาก Student’s Book หนา้ 49 และ 51 ตดิ บนกระดาน 4. ครูอ่านประโยคให้นักเรียนฟัง พร้อมกับช้ไี ปทีละประโยค จากน้นั ชีใ้ ห้นักเรยี นออกเสียงตาม และให้ อ่านเองจนคลอ่ ง ขนั้ ลงมือเรยี นรู้ 1. ครเู ขียนประโยคผิดๆ ในรูปแบบคำถาม Do, Does Questions จำนวน 10 ประโยค บนกระดาน ตัวอยา่ งประโยคที่ผิด เช่น Does you like pizza? Do she drink coffee? Does you sing a song? Do my dad drive a car. ใหน้ ักเรียนในห้องช่วยกันหาท่ีผดิ แลว้ แกไ้ ขให้ถกู ต้องลงในสมดุ 2. นกั เรียนทำแบบฝึกหัด Workbook หนา้ 41 (ส่วนลา่ ง), 42 ข้นั สรุปความรู้ 1. นักเรยี นทำแบบฝึกหดั Workbook 43
ข้ันประยกุ ต์ใช้ความรู้ 1. ครใู หน้ กั เรยี นดูรูปภาพสวนสนุกทเี่ ตรยี มมา 2. ให้นักเรียนต้ังคำถามจากภาพ โดยใชป้ ระโยคคำถามทีข่ ึ้นตน้ ด้วย Do, Does Questions คนละ 5 คำถาม ลงในสมุด 6. ส่ือการเรยี นการสอน 1. หนังสือเรยี น ชดุ Step Up English ป.4 (Student’s Book) 2. หนังสอื แบบฝกึ หัด ชดุ Step Up English ป.4 (Workbook Book) 3. DVD ประกอบหนังสือ ชดุ Step Up English ป.4 7. การวดั และประเมลิ ผล ทกั ษะที่ต้องการวัด วธิ กี าร เคร่อื งมอื เกรณฑ์การประเมิน ความรู้ (Knowledge : K) ตรวจผลงาน เนอื้ หาบทที่ 3 ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ข้นึ ไป นกั เรียนเขา้ ใจโครงสรา้ งการถาม หนา้ 41 ดา้ นลา่ ง คาถามดว้ ย Wh-questions และ Do/does-question และนาไปใชไ้ ด้ ถกู ตอ้ ง ทักษะ/กระบวนการ (Process : P) ตรวจผลงาน เน้อื หาบทท่ี 3 ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ขน้ึ ไป นกั เรียนสามารถเลือกใชค้ าพดู หนา้ 42-43 ประโยคคาถาม/ขอ้ ความท่ใี ชใ้ นการ สนทนา เช่น การทกั ทาย กลา่ วลา ขอบคณุ เกณฑ์การประเมนิ ผลจากการทำใบกจิ กรรม ใบงาน แบบฝึกปฏิบัติกิจกรรม ใช้เกณฑ์ดังนี้ 80% ขน้ึ ไป หมายถงึ ดมี าก 70-79% หมายถึง ดี 60-69% หมายถงึ ปานกลาง 50-59% หมายถึง ผา่ น ต่ำกว่า50% หมายถึง ปรบั ปรงุ
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 18 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 4 หน่วยที่ 3 The Fun Fair เรอ่ื ง Everyday Symbols 1 ช่ัวโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรอื่ งทฟี่ งั และอา่ นจากสื่อประเภทต่าง และแสดงความคิดเห็นอย่างมี เหตุผล มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลีย่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความ คิดเหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรื่องต่างๆโดยการพูดและเขียน ตวั ชี้วัด มาตรฐาน ต 1.1 ป.4/1 ปฏิบัตติ ามคำสง่ั คำขอร้องและคำแนะนำ (Instructions) งา่ ยๆ ท่ีฟงั หรอื อ่าน มาตรฐาน ต 1.2 ป.4/1 พูด/เขยี นโตต้ อบในการส่อื สารระหว่างบุคคล มาตรฐาน ต 1.2 ป.4/4 พดู /เขียนเพื่อขอและให้ข้อมลู เกย่ี วกับตนเอง เพื่อน และครอบครัว มาตรฐาน ต 1.3 ป.4/1 พดู /เขียนให้ข้อมลู เก่ียวกับตนเองและเรือ่ งใกล้ตวั 2. สาระสำคัญ การใชค้ ำศัพท์ โครงสรา้ งประโยคทใ่ี ชใ้ นการให้ข้อมลู เป็นแนวทางการสือ่ สารเรื่องท่ีฟงั และอ่านได้อย่าง ถูกต้อง เพ่ือใช้สือ่ สารในชวี ติ ประจำวัน 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ความรู้ (Knowledge : K) นักเรียนเข้าใจปา้ ยสญั ลักษณ์และคำศพั ท์น้นั ๆและนำไปใช้ได้ถูกตอ้ ง ทักษะ/กระบวนการ (Process : P) นักเรียนสามารถพดู /เขียนให้ข้อมลู เก่ยี วกับและเรื่องใกลต้ ัว เช่น What is this sign? The exit sign is green. เจตคติ (Attitude : A) ใฝ่เรียนใฝ่รู้ 4. เนือ้ หา 4.1 Sign symbols 4.2 Vocabulary about sign 4.3 reading about sign description
5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นำเขา้ สบู่ ทเรียน 1. ครใู หน้ ักเรียนทำกิจกรรม “Do The Opposite” เพ่ือฝกึ สมองก่อนเขา้ สู่บทเรยี น โดยใหน้ ักเรียนฟัง และดูทา่ ทางของครู แล้วทำตามคำสง่ั เชน่ stand up, sit down, move to the left, move to the right, put your hand down, raise your hand up ครสู ลบั คำสั่งและใหท้ ำหลายๆ ครั้ง 2. เปลยี่ นกติกา โดยใหน้ กั เรียนทำตรงข้ามกบั คำส่งั เชน่ ครูพูดว่ายนื นักเรียนต้องนง่ั ครูพูดว่าน่งั นกั เรียนต้องยนื สลับคำสัง่ และให้ทำหลายๆ รอบ ขัน้ นำเสนอความรู้ 1. ครสู อนคำศัพทเ์ กีย่ วกับ “Everyday Symbols” โดยใช้ภาพและคำศัพท์ จาก Student’s Book หน้า 56 มาทำเป็นบัตรภาพและบตั รคำติดบนกระดานเคล่ือนที่ 2. ครูอ่านคำศัพทใ์ หน้ ักเรยี นฟงั พร้อมกับชไี้ ปทีละภาพ จากนัน้ ชใี้ ห้นักเรยี นออกเสียงตาม และให้ อ่านเองจนคล่อง 3. ครูหาแผนท่มี าใหน้ ักเรียนดู จากนัน้ ลองใหช้ ่วยกนั ดูตำแหน่งของป้ายสัญลกั ษณต์ า่ งๆ แล้วถามนักเรียน ถงึ ตำแหน่งท่ีต้ังของป้ายสญั ลักษณ์ภายในแผนท่ี 4. ใหต้ วั แทนนักเรียนออกมาช้ีจุดแลว้ ตง้ั คำถามและตอบคำถาม นกั เรียนถามวนไปเรื่อยๆ หลายๆ สถานที่ จนคลอ่ ง เช่น Where is the bus stop? Where is the taxi stand? Where is the hospital? Where is the market? เป็นต้น ขน้ั ลงมือเรยี นรู้ 1. นกั เรียนทำแบบฝกึ หดั Workbook หน้า 44 ขั้นสรุปความรู้ 1. ครแู จกใบงาน “My Dream Town” ใหน้ ักเรียนแบ่งกลุ่มวาดภาพแผนทีย่ ่านใดย่านหน่ึงของตัวเอง พรอ้ มท้ังเขยี นเครื่องหมาย สัญลักษณ์ต่างๆ ตามความเหมาะสม จากน้นั เขียนบอกว่าในภาพนักเรยี น ใช้สัญลักษณ์อะไรบ้าง ขนั้ ประยุกต์ใชค้ วามรู้ 1. ครูใหน้ ักเรยี นถ่ายภาพปา้ ยสญั ลักษณต์ ่างๆ นอกเหนือจากในบทเรยี น ท่สี ามารถพบเจอในชีวิต ประจำวนั มาคนละ 5 ป้าย 2. ปรนิ้ ทภ์ าพตดิ ลงในสมดุ แลว้ เขยี นชือ่ ป้ายสญั ลักษณ์ตา่ งๆ
6. สือ่ การเรยี นการสอน 1. หนังสือเรียน ชุด Step Up English ป.4 (Student’s Book) 2. หนังสอื แบบฝึกหดั ชดุ Step Up English ป.4 (Workbook Book) 3. DVD ประกอบหนังสือ ชดุ Step Up English ป.4 4. ใบงาน my dream town 7. การวดั และประเมิลผล วิธกี าร เคร่อื งมอื เกรณฑ์การประเมนิ ตรวจผลงาน เนือ้ หาบทท่ี 3 ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 70 ข้ึนไป ทกั ษะท่ีตอ้ งการวัด หนา้ 44 ความรู้ (Knowledge : K) นกั เรียนเขา้ ใจปา้ ยสญั ลกั ษณแ์ ละ คาศพั ทน์ นั้ ๆและนาไปใชไ้ ดถ้ กู ตอ้ ง ทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) ตรวจผลงาน ใบงาน my dream town ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 70 ข้นึ ไป นกั เรียนสามารถพดู /เขยี นใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั และเรื่องใกลต้ วั เชน่ What is this sign? The exit sign is green. เกณฑ์การประเมนิ ผลจากการทำใบกจิ กรรม ใบงาน แบบฝึกปฏบิ ตั ิกิจกรรม ใช้เกณฑ์ดังนี้ 80% ขึ้นไป หมายถงึ ดมี าก 70-79% หมายถึง ดี 60-69% หมายถงึ ปานกลาง 50-59% หมายถงึ ผ่าน ต่ำกวา่ 50% หมายถงึ ปรบั ปรุง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 19 กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 หนว่ ยที่ 3 The Fun Fair เร่ือง Adjectives 1 ชวั่ โมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่อื งท่ฟี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง และแสดงความคิดเห็นอย่างมี เหตผุ ล มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความร้สู ึกและความ คิดเห็นอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเร่ืองตา่ งๆโดยการพดู และเขียน ตัวชี้วัด มาตรฐาน ต 1.1 ป.4/1 ปฏบิ ัติตามคำสัง่ คำขอร้องและคำแนะนำ (Instructions) งา่ ยๆ ทฟี่ ังหรอื อ่าน มาตรฐาน ต 1.2 ป.4/1 พดู /เขยี นโตต้ อบในการสอ่ื สารระหวา่ งบคุ คล มาตรฐาน ต 1.2 ป.4/4 พดู /เขียนเพ่ือขอและใหข้ ้อมลู เก่ียวกับตนเอง เพอื่ น และครอบครัว มาตรฐาน ต 1.3 ป.4/1 พูด/เขียนให้ข้อมลู เกยี่ วกับตนเองและเรอื่ งใกล้ตวั 2. สาระสำคัญ การใชค้ ำศัพท์ โครงสรา้ งประโยคท่ีใชใ้ นการให้ข้อมลู เปน็ แนวทางการส่อื สารเร่ืองที่ฟังและอ่านได้อย่าง ถกู ต้อง เพื่อใช้ส่ือสารในชวี ิตประจำวนั 3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ความรู้ (Knowledge : K) นกั เรียนเขา้ ใจเรื่องคำคุณศพั ท์และคำนามและนำไปใช้ไดถ้ ูกต้อง ทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) นักเรียนสามารถพดู /เขยี นประโยคดว้ ยคาคณุ ศพั ทแ์ ละคานามไดถ้ กู ตอ้ ง ตามหลกั การ เจตคติ (Attitude : A) มีวินัย 4. เนอ้ื หา 4.1 Adjectives 4.2 Nouns 5. กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้นั นำเข้าสู่บทเรยี น
1. ครใู ห้นกั เรยี นทำกจิ กรรม “Do The Opposite” เพอ่ื ฝึกสมองกอ่ นเขา้ สบู่ ทเรียน โดยใหน้ ักเรียนฟัง และดูทา่ ทางของครู แล้วทำตามคำสั่ง เชน่ stand up, sit down, move to the left, move to the right, put your hand down, raise your hand up ครสู ลบั คำส่ังและให้ทำหลายๆ ครง้ั 2. เปลย่ี นกตกิ า โดยใหน้ ักเรียนทำตรงข้ามกบั คำสง่ั เชน่ ครพู ดู วา่ ยืน นักเรยี นต้องน่ัง ครูพดู วา่ นัง่ นักเรยี นต้องยนื สลับคำสัง่ และให้ทำหลายๆ รอบ ขั้นนำเสนอความรู้ 1. ครนู ำเขา้ สกู่ ารสอน “Adjectives” ดว้ ยการสนทนากับนกั เรียนโดยใช้ประโยคดังตัวอยา่ ง เช่น Do you like hot tea? Do you like cold milk? Is your hair long? Is this book green? Is he handsome? 2. ครสู อนคำ Adjectives จาก Student’s Book หน้า 58 โดยใช้ภาพและคำศพั ท์ จาก Student’s Book หนา้ 58 มาทำเป็นบตั รภาพและบตั รคำตดิ บนกระดานเคลื่อนที่ 3. ครูอธบิ ายการใช้ Adjectives แล้วอ่านคำศพั ท์ใหน้ ักเรยี นฟงั พร้อมกับช้ไี ปทีละภาพ จากน้นั ช้ีให้ นักเรยี นออกเสียงตาม และให้อ่านเองจนคลอ่ ง 4. ครูเขยี นคำ Adjectives และ Nouns ปนกนั บนกระดาน ใหน้ กั เรียนออกมาวงกลมล้อมรอบคำ Adjectives ดว้ ยปากกาหรอื ชอลก์ สแี ดง และวงกลมลอ้ มรอบ Nouns ดว้ ยปากกาหรือชอล์กสฟี า้ ขั้นลงมือเรียนรู้ 1. นักเรียนทำแบบฝึกหดั Workbook หน้า 45 ขัน้ สรุปความรู้ 1. นักเรยี นทำแบบฝึกหดั Workbook หน้า 46 ข้นั ประยุกต์ใชค้ วามรู้ 1. ครูให้นักเรยี นแต่งประโยคทใี่ ช้ Adjectives ท่ีขยายคำนาม นอกเหนือจากในหนังสือ มาคนละ 5 ประโยค 2. เขยี นประโยคลงในสมดุ 6. สอ่ื การเรยี นการสอน 1. หนงั สือเรยี น ชุด Step Up English ป.4 (Student’s Book) 2. หนังสอื แบบฝึกหัด ชุด Step Up English ป.4 (Workbook Book)
3. DVD ประกอบหนงั สือ ชดุ Step Up English ป.4 7. การวัดและประเมลิ ผล วิธกี าร เครือ่ งมอื เกรณฑก์ ารประเมนิ ตรวจผลงาน เนอื้ หาบทท่ี 3 ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ขึ้นไป ทกั ษะทีต่ ้องการวัด หนา้ 45 ความรู้ (Knowledge : K) นกั เรียนเขา้ ใจเร่ืองคาคณุ ศพั ทแ์ ละ คานามและนาไปใชไ้ ดถ้ ูกตอ้ ง ทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) ตรวจผลงาน เนอ้ื หาบทที่ 3 ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ขน้ึ ไป นกั เรยี นสามารถพดู /เขยี นประโยค หน้า 46 ดว้ ยคาคณุ ศพั ทแ์ ละคานามได้ ถกู ตอ้ งตามหลกั การ เกณฑ์การประเมนิ ผลจากการทำใบกจิ กรรม ใบงาน แบบฝกึ ปฏบิ ตั ิกิจกรรม ใชเ้ กณฑด์ ังน้ี 80% ขึน้ ไป หมายถงึ ดีมาก 70-79% หมายถงึ ดี 60-69% หมายถึง ปานกลาง 50-59% หมายถงึ ผ่าน ต่ำกว่า50% หมายถงึ ปรับปรุง
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 20 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 หนว่ ยที่ 3 The Fun Fair เร่ือง and, but 1 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้ีวดั มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรือ่ งท่ฟี ังและอา่ นจากส่ือประเภทต่าง และแสดงความคิดเหน็ อย่างมี เหตุผล มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปล่ียนขอ้ มลู ข่าวสาร แสดงความร้สู กึ และความ คิดเห็นอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเร่ืองต่างๆโดยการพดู และเขียน ตวั ช้ีวัด มาตรฐาน ต 1.1 ป.4/1 ปฏิบัตติ ามคำสง่ั คำขอร้องและคำแนะนำ (Instructions) ง่ายๆ ท่ฟี ังหรอื อ่าน มาตรฐาน ต 1.2 ป.4/1 พูด/เขยี นโตต้ อบในการสือ่ สารระหวา่ งบุคคล มาตรฐาน ต 1.2 ป.4/4 พูด/เขียนเพ่ือขอและใหข้ ้อมูล เก่ียวกับตนเอง เพื่อน และครอบครัว มาตรฐาน ต 1.3 ป.4/1 พดู /เขยี นใหข้ ้อมลู เกีย่ วกบั ตนเองและเรอ่ื งใกลต้ ัว 2. สาระสำคญั การใช้คำศัพท์ โครงสรา้ งประโยคท่ีใชใ้ นการให้ข้อมลู เปน็ แนวทางการสื่อสารเรื่องท่ีฟังและอา่ นไดอ้ ย่าง ถกู ต้อง เพ่ือใชส้ ื่อสารในชวี ิตประจำวนั 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ความรู้ (Knowledge : K) นักเรียนเขา้ ใจเร่ืองการใช้คำเช่อื ม and และ but โดยนำไปใชไ้ ด้ถูกตอ้ ง ทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) นกั เรยี นสามารถเขียนประโยคดว้ ยคาเช่ือม but และ and ไดถ้ กู ตอ้ งตาม หลกั การ เจตคติ (Attitude : A) มีจิตสาธารณะ 4. เน้อื หา 4.1 Conjuction [and, but] 5. กิจกรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นำเข้าสู่บทเรยี น 1. ครใู หน้ ักเรียนเล่นเกม “Up and Down” 2. แบ่งนกั เรยี นออกเปน็ กล่มุ กลุม่ ละ 3-5 คน 3. กำมือทัง้ สองข้าง แล้ววางต่อกนั (หา้ มวางมือตัวเองต่อกนั )
4. เม่อื ครูพูดวา่ up มือของคนทอ่ี ยู่ล่างสุด ต้องเอาขึ้นมาไว้บนสดุ ถ้าพดู ว่า down มือท่ีอยู่บนสุด ตอ้ งลงไปอยลู่ า่ งสุด 5. จากน้ันลองออกคำสงั่ ใหซ้ ับซ้อนข้ึน เช่น up up up, up down up, up down up up down ข้ันนำเสนอความรู้ 1. สนทนากับนักเรียนเพอ่ื นำเขา้ สูก่ ารสอน and และ but เชน่ Today is cold but you don't wear sweater. Lisa and Meena comes to school by bus. Please stand up and clap your hands. Please sit down and open your book. You like maths but she like Art. เป็นต้น 2. ครอู ธบิ ายหลกั การใช้ “and และ but” โดยใช้ประโยค จาก Student’s Book หนา้ 60-61 มาทำเป็น แถบประโยคติดบนกระดานเคลอื่ นที่ เพอ่ื แสดงให้เหน็ ถงึ ความแตกต่างของหลกั การใช้ and และ but 3. นักเรยี นดู DVD จาก Student’s Book หนา้ 60-61 ประกอบการอธิบาย 4. ครูอา่ นประโยคให้นักเรียนฟัง พร้อมชี้ไปทีละประโยค จากน้ัน ชใ้ี หน้ ักเรยี นออกเสยี งตาม ข้ันลงมือเรยี นรู้ 1. นกั เรยี นทำแบบฝึกหัด Workbook หน้า 47 ขน้ั สรุปความรู้ 1. นกั เรยี นทำแบบฝึกหัด Workbook หนา้ 48 ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ 1. ครูใหน้ ักเรียนแตง่ ประโยคทีใ่ ช้ and และ but นอกเหนือจากท่ีเรยี นมา อย่างละ 5 ประโยค 6. ส่อื การเรยี นการสอน 1. หนงั สือเรยี น ชุด Step Up English ป.4 (Student’s Book) 2. หนงั สอื แบบฝึกหัด ชดุ Step Up English ป.4 (Workbook Book) 3. DVD ประกอบหนังสือ ชดุ Step Up English ป.4
7. การวดั และประเมิลผล ทักษะทต่ี อ้ งการวดั วธิ กี าร เคร่อื งมือ เกรณฑก์ ารประเมิน เนอ้ื หาบทท่ี 3 ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 70 ขน้ึ ไป ความรู้ (Knowledge : K) ตรวจผลงาน หน้า 47 นักเรยี นเขา้ ใจเร่ืองการใช้คำเชือ่ ม and และ but โดยนำไปใชไ้ ด้ถูกต้อง ทักษะ/กระบวนการ (Process : P) ตรวจผลงาน เน้อื หาบทท่ี 3 ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ข้ึนไป นกั เรียนสามารถเขยี นประโยคดว้ ย หน้า 48 คาเช่ือม but และ and ไดถ้ ูกตอ้ ง ตามหลกั การ เกณฑ์การประเมินผลจากการทำใบกิจกรรม ใบงาน แบบฝึกปฏิบตั ิกจิ กรรม ใช้เกณฑด์ ังนี้ 80% ข้นึ ไป หมายถงึ ดมี าก 70-79% หมายถงึ ดี 60-69% หมายถึง ปานกลาง 50-59% หมายถงึ ผ่าน ตำ่ กว่า50% หมายถงึ ปรบั ปรุง
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 21 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาองั กฤษ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 4 หนว่ ยท่ี 3 The Fun Fair เรื่อง Big Bear Funfair 1 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวัด มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเร่อื งท่ีฟงั และอ่านจากส่ือประเภทต่าง และแสดงความคิดเหน็ อย่างมี เหตผุ ล มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสอื่ สารทางภาษาในการแลกเปลีย่ นขอ้ มูลข่าวสาร แสดงความรูส้ ึกและความ คดิ เห็นอย่างมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ความคิดรวบยอด และความคิดเหน็ ในเรื่องต่างๆโดยการพดู และเขยี น ตวั ช้ีวัด มาตรฐาน ต 1.1 ป.4/1 ปฏิบตั ิตามคำสงั่ คำขอรอ้ งและคำแนะนำ (Instructions) ง่ายๆ ท่ีฟังหรอื อา่ น มาตรฐาน ต 1.2 ป.4/1 พดู /เขียนโต้ตอบในการสื่อสารระหว่างบคุ คล มาตรฐาน ต 1.2 ป.4/4 พูด/เขียนเพ่ือขอและให้ข้อมูล เกี่ยวกับตนเอง เพือ่ น และครอบครวั มาตรฐาน ต 1.3 ป.4/1 พดู /เขยี นให้ข้อมลู เกีย่ วกบั ตนเองและเรือ่ งใกลต้ ัว 2. สาระสำคัญ การใช้คำศัพท์ โครงสร้างประโยคทใ่ี ชใ้ นการให้ขอ้ มูล เป็นแนวทางการส่ือสารเรื่องที่ฟังและอา่ นได้อย่าง ถูกต้อง เพ่ือใช้สื่อสารในชีวติ ประจำวัน 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ความรู้ (Knowledge : K) นกั เรียนเขา้ ใจเร่ืองที่อ่านเกีย่ วกบั โปสเตอร์งานเทศกาลและเข้าใจประโยคถูกต้อง ทักษะ/กระบวนการ (Process : P) นกั เรยี นสามารถเลือกใชค้ ำพดู ประโยค/ข้อความท่ีใชใ้ นการสนทนาและให้ ขอ้ มลู จากเร่ืองท่ีอ่านได้ เจตคติ (Attitude : A) มุ่งมั่นในการทำงาน 4. เนอ้ื หา 4.1 การอ่าน passage 4.2 wh-questions 4.3 symbols 4.4 do/does
5. กิจกรรมการเรียนรู้ ข้ันนำเข้าส่บู ทเรยี น 1. ครใู หน้ ักเรียนเล่นเกม “Up and Down” 2. แบ่งนักเรียนออกเปน็ กล่มุ กลมุ่ ละ 3-5 คน 3. กำมือท้ังสองขา้ ง แล้ววางต่อกัน (หา้ มวางมือตัวเองต่อกัน) 4. เมอ่ื ครูพดู วา่ up มือของคนทีอ่ ยลู่ า่ งสดุ ต้องเอาขน้ึ มาไว้บนสดุ ถา้ พดู วา่ down มือท่ีอยู่บนสุด ต้องลงไปอยู่ล่างสดุ 5. จากนัน้ ลองออกคำสงั่ ใหซ้ ับซ้อนขนึ้ เชน่ up up up, up down up, up down up up down ขน้ั นำเสนอความรู้ 1. ครอู า่ นเร่ือง “Big Bear funfair” จาก Student’s Book หน้า 62 ให้นักเรียนฟงั 2. เปิด DVD หน้า 62 ใหน้ ักเรียนฟงั จากนั้นครแู ละนักเรยี นอ่านพร้อมกนั 3. ครูถามนักเรยี นเกย่ี วกบั เน้ือหาในเรื่อง เชน่ Where is Big Bear Funfair? 4. ครูสอนคำศัพท์ใน เรอ่ื ง “Big Bear funfair” โดยใชภ้ าพและคำศพั ท์ จาก Student’s Book หนา้ 63 มาทำเปน็ บตั รภาพและบตั รคำติดบนกระดานเคล่อื นที่ 5. ครอู า่ นคำศพั ทใ์ หน้ กั เรยี นฟัง พร้อมกบั ชไี้ ปทลี ะภาพ จากนน้ั ช้ีใหน้ กั เรียนออกเสียงตาม และให้อา่ น เองจนคลอ่ ง ขน้ั ลงมือเรียนรู้ 1. ครูให้นกั เรียนอ่านเรอ่ื ง “Big Bear funfair” ในหนา้ 62 ให้ไฮไลทค์ ำศัพทจ์ ากกหน้า 63 ทอ่ี ยู่ในเร่ือง Big Bear funfair 2. นกั เรียนทำแบบฝกึ หัด Workbook หน้า 49-50 ขั้นสรุปความรู้ 1. นักเรียนทำแบบฝกึ หดั Workbook หน้า 51 ขั้นประยกุ ต์ใช้ความรู้ 1. ครูใหน้ กั เรยี นแบ่งกล่มุ แจกกระดาษปรูฟกลุ่มละ 1 แผน่ 2. ให้แต่ละกลมุ่ ออกแบบและทำโปสเตอร์ Funfair ดว้ ยตนเอง 3. นำเสนอผลงานของแตล่ ะกลุ่มหน้าชั้นเรียน 6. สือ่ การเรยี นการสอน 1. หนงั สือเรยี น ชดุ Step Up English ป.4 (Student’s Book) 2. หนงั สอื แบบฝึกหัด ชดุ Step Up English ป.4 (Workbook Book)
3. DVD ประกอบหนงั สือ ชุด Step Up English ป.4 7. การวดั และประเมลิ ผล วธิ ีการ เครอ่ื งมอื เกรณฑ์การประเมนิ ตรวจผลงาน เนอ้ื หาบทที่ 3 ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 70 ขึ้นไป ทักษะทีต่ ้องการวัด หน้า 49-50 ความรู้ (Knowledge : K) นกั เรยี นเขา้ ใจเรอื่ งท่ีอา่ นเกี่ยวกบั โปสเตอรง์ านเทศกาลและเขา้ ใจ ประโยคถกู ตอ้ ง ทักษะ/กระบวนการ (Process : P) ตรวจผลงาน เนื้อหาบทท่ี 3 ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ขนึ้ ไป นกั เรียนสามารถเลอื กใชค้ าพดู หนา้ 51 ประโยค/ขอ้ ความท่ใี ชใ้ นการสนทนา และใหข้ อ้ มลู จากเร่ืองท่ีอ่านได้ เกณฑ์การประเมินผลจากการทำใบกจิ กรรม ใบงาน แบบฝกึ ปฏิบตั ิกจิ กรรม ใช้เกณฑด์ ังนี้ 80% ข้ึนไป หมายถงึ ดีมาก 70-79% หมายถึง ดี 60-69% หมายถงึ ปานกลาง 50-59% หมายถงึ ผา่ น ตำ่ กว่า50% หมายถงึ ปรบั ปรงุ
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 22 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาองั กฤษ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 4 หนว่ ยท่ี 4 Day at the Museum เร่ือง Conversation 1 ช่ัวโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องทฟี่ ังและอา่ นจากสื่อประเภทต่าง และแสดงความคิดเห็นอย่างมี เหตผุ ล มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นขอ้ มลู ข่าวสาร แสดงความรสู้ ึกและความ คดิ เห็นอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องต่างๆโดยการพดู และเขียน ตวั ช้ีวัด มาตรฐาน ต 1.1 ป.4/1 ปฏิบัติตามคำสั่ง คำขอรอ้ งและคำแนะนำ (Instructions) ง่ายๆ ทฟ่ี ังหรอื อ่าน มาตรฐาน ต 1.2 ป.4/1 พดู /เขยี นโตต้ อบในการสอ่ื สารระหวา่ งบุคคล มาตรฐาน ต 1.2 ป.4/4 พูด/เขียนเพื่อขอและใหข้ ้อมลู เกย่ี วกับตนเอง เพ่อื น และครอบครัว มาตรฐาน ต 1.3 ป.4/1 พูด/เขยี นใหข้ ้อมลู เกยี่ วกับตนเองและเร่อื งใกล้ตวั 2. สาระสำคญั การเรยี นรคู้ ำศัพท์เก่ียวกับกิจกรรมยามวา่ งที่นกั เรยี นสนใจสามารถใช้โครงสร้างประโยคใชใ้ นการขอและให้ขอ้ มูล เก่ียวกบั ตนเอง เพื่อนและครอบครัว รวมไปถึง การขอร้อง การใหค้ ำแนะนำ และการถามตอบ เพื่อนำไปใชใ้ นการส่ือสารในชีวติ ประจำวัน 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ ความรู้ (Knowledge : K) นกั เรยี นเขา้ ใจเรื่องที่เหน็ และฟงั และอธิบายเหตการณ์ได้ถูกตอ้ ง ทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) นกั เรยี นสามารถเขยี นให้ขอ้ มูลเกย่ี วกบั เร่ืองท่เี ห็นและฟังได้ ขอ้ มลู จากเรื่องท่ีอา่ นได้ เจตคติ (Attitude : A) ใฝร่ ใู้ ฝ่เรยี น 4. เนอื้ หา 4.1 การอ่าน passage 4.2 คำศัพทเ์ กยี่ วกับ พิพธิ ภัณฑ์
5. กจิ กรรมการเรียนรู้ ขน้ั นำเข้าสบู่ ทเรียน 1. ครใู ห้นักเรยี นชว่ ยกันทำสลากคำศัพทจ์ ากบทก่อนหนา้ ท่ีเคยเรียนมาแลว้ เช่น street open close โดยให้นักเรยี นทกุ คนเขยี นใสก่ ระดาษแผน่ เล็กๆ ใส่ไวใ้ นแกว้ 2. จากน้ันครจู ับสลากคำศพั ท์ขน้ึ มาให้ 3. ใหต้ วั แทนนกั เรยี นออกมาใบค้ ำ นกั เรียนทีเ่ หลือชว่ ยกันทายคำศัพทค์ ำนั้น ผลัดกันใบค้ ำจนหมดคำศัพท์ ข้นั นำเสนอความรู้ 1. ครอู า่ นบทสนทนา เร่ือง “Day at the Museum” จากหนังสือเรยี น Student’s Book หน้า 64 ให้ นักเรยี นฟงั (โดยเปิด DVD หนา้ 64 ประกอบการสอนบนจอ) 2. ชใี้ ห้นักเรียนอา่ นออกเสียงตามทลี ะประโยค จากน้นั ช้ีใหน้ ักเรียนอา่ นเองพร้อมกนั ทั้งหอ้ ง 3. เปิด DVD หนา้ 64 ให้นกั เรยี นฟงั การออกเสียง แล้วให้นกั เรยี นออกเสยี งตาม แล้วครูสนทนา ซกั ถาม นกั เรียน เชน่ ถามว่า “What do you see in this video?” จากน้นั นักเรียนเริ่มตอบสงิ่ ทีน่ กั เรยี น เหน็ ทลี ะอย่าง 4. ครูสอนคำศัพท์ เรื่อง “Day at the Museum” โดยใช้ภาพและคำศัพท์ จาก Student’s Book หน้า 65 มาทำเป็นบัตรภาพและบัตรคำตดิ บนกระดานเคล่อื นท่ี 5. ครอู า่ นคำศพั ท์ใหน้ ักเรยี นฟงั พร้อมกับชี้ไปทีละภาพ จากน้ัน ชใ้ี ห้นกั เรียนออกเสยี งตาม และให้ อา่ นเองจนคล่อง ขน้ั ลงมือเรียนรู้ 2. นกั เรยี นทำแบบฝึกหัด Workbook หน้า 52 ข้นั สรุปความรู้ 1. นักเรยี นทำแบบฝึกหดั Workbook หนา้ 53 ขน้ั ประยุกต์ใชค้ วามรู้ 1. ใหน้ กั เรียนวาดรูปพิพิธภัณฑท์ ี่นกั เรยี นเคยไปมา หรือจากการค้นควา้ ใน Internet 2. เขียนคำศัพทส์ ำคัญจากภาพพิพิธภัณฑ์ 6. ส่อื การเรียนการสอน 1. หนังสอื เรยี น ชดุ Step Up English ป.4 (Student’s Book) 2. หนงั สือแบบฝึกหัด ชดุ Step Up English ป.4 (Workbook Book) 3. DVD ประกอบหนงั สือ ชดุ Step Up English ป.4
7. การวัดและประเมลิ ผล วิธีการ เคร่ืองมอื เกรณฑ์การประเมิน ตรวจผลงาน เน้ือหาบทท่ี 4 ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 70 ขน้ึ ไป ทกั ษะทีต่ ้องการวดั หนา้ 52 ความรู้ (Knowledge : K) นกั เรยี นเข้าใจเรื่องที่เห็นและฟงั และ อธบิ ายเหตการณ์ได้ถกู ต้อง ทักษะ/กระบวนการ (Process : P) ตรวจผลงาน เน้ือหาบทท่ี 4 ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 70 ขึน้ ไป นกั เรียนสามารถเขยี นใหข้ อ้ มลู หน้า 53 เก่ียวกบั เรื่องท่ีเห็นและฟังได้ ขอ้ มลู จากเรื่องท่ีอา่ นได้ เกณฑ์การประเมนิ ผลจากการทำใบกจิ กรรม ใบงาน แบบฝึกปฏิบัตกิ ิจกรรม ใช้เกณฑ์ดังนี้ 80% ขน้ึ ไป หมายถึง ดีมาก 70-79% หมายถึง ดี 60-69% หมายถึง ปานกลาง 50-59% หมายถงึ ผ่าน ตำ่ กว่า50% หมายถงึ ปรบั ปรงุ
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 23 กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 หนว่ ยท่ี 4 Day at the Museum เรอ่ื ง Time markers (past) 2 ชวั่ โมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวัด มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรอ่ื งทีฟ่ ังและอา่ นจากส่ือประเภทต่าง และแสดงความคดิ เห็นอย่างมี เหตผุ ล มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลีย่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความร้สู กึ และความ คิดเหน็ อย่างมปี ระสิทธิภาพ มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเร่ืองตา่ งๆโดยการพูดและเขยี น ตวั ช้ีวัด มาตรฐาน ต 1.1 ป.4/1 ปฏบิ ัตติ ามคำสง่ั คำขอรอ้ งและคำแนะนำ (Instructions) งา่ ยๆ ท่ีฟงั หรอื อ่าน มาตรฐาน ต 1.2 ป.4/1 พดู /เขยี นโตต้ อบในการสือ่ สารระหว่างบุคคล มาตรฐาน ต 1.2 ป.4/4 พูด/เขยี นเพ่ือขอและให้ข้อมูล เกีย่ วกับตนเอง เพ่อื น และครอบครัว มาตรฐาน ต 1.3 ป.4/1 พูด/เขียนให้ข้อมูล เก่ยี วกับตนเองและเรอ่ื งใกล้ตัว 2. สาระสำคญั การเรยี นรคู้ ำศัพท์เกย่ี วกับกิจกรรมยามวา่ งท่ีนักเรยี นสนใจสามารถใชโ้ ครงสรา้ งประโยคใชใ้ นการขอและให้ข้อมูล เกี่ยวกับตนเอง เพ่ือนและครอบครวั รวมไปถึง การขอร้อง การให้คำแนะนำ และการถามตอบ เพอ่ื นำไปใช้ในการสอ่ื สารในชีวิตประจำวนั 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ความรู้ (Knowledge : K) นักเรยี นเข้าใจคำบอกเวลาในอดีตและอธิบายการใช้ในโครงสร้างไวยากรณ์ past simple ไดถ้ ูกต้อง ทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) นักเรยี นสามารถเลือกใชค้ ำพูด ประโยค/ข้อความที่ใชใ้ นการสนทนาดว้ ยคำ บอกเวลาในอดตี ในไวยากรณ์ present simple tense ได้ เจตคติ (Attitude : A) ใฝ่รใู้ ฝเ่ รียน 4. เนือ้ หา 4.1 คำบอกเวลาในอดีต (Time markers) 4.2 ประโยคโครงสรา้ ง past simple tense [S+v3+o] และ [ S+v3+O/place + time marker]
5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นำเข้าสบู่ ทเรยี น 1. ครูใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันทำสลากคำศัพทจ์ ากบทก่อนหนา้ ที่เคยเรยี นมาแลว้ เก่ยี วกับพิพิธภณั ฑ์ 2. จากนั้นครจู บั สลากคำศพั ท์ขึน้ มาให้ 3. ใหต้ ัวแทนนกั เรยี นออกมาใบค้ ำ นักเรยี นทีเ่ หลือชว่ ยกันทายคำศัพท์คำนน้ั ผลดั กันใบ้คำจนหมดคำศัพท์ ข้นั นำเสนอความรู้ 1. ครสู นทนาด้วยประโยคทมี่ ี “Time Markers” เชน่ We went to the 300 yesterday. I slept well last night. You went to the Fun fair last week. จากนนั้ ครูอธบิ ายเร่ือง “Time Markers” ท่อี ยู่ในประโยคจาก Student’s Book หนา้ 67 โดยเปดิ DVD จากหนา้ 67 ประกอบการสอนบนจอ 2. ช้ีให้นกั เรียนอ่านออกเสียงทลี ะคำ จากนัน้ ชใี้ ห้นักเรียนอา่ นเองพร้อมกันทัง้ ห้อง 3. ครอู ธิบายนักเรยี นให้เขา้ ใจถึงธรรมชาติของภาษาอังกฤษท่มี กี ารแบ่งช่วงเวลาในการสอื่ สาร ครูนำภาพ 2 ภาพท่ีแสดงถึงเหตุการณใ์ นอดตี และเหตุการณ์ในปัจจุบนั มาให้นกั เรยี นดู พรอ้ มทงั้ บรรยายภาพ 4. ครูอธิบายหลกั การของการเปลีย่ นคำกริยาชอ่ งท่ี 1 (Present Tense) ไปเปน็ คำกริยาช่องที่ 3 (Past Tense) ยกตวั อย่างคำกรยิ าท้ัง 2 ประเภท คือ Regular verb และ Irregular verb โดยทำเปน็ บตั ร คำตดิ กระดานเคลื่อนที่ เช่น play - played , cooks - cooked , wash - washed 5. ครูอ่านคำศัพทใ์ ห้นกั เรยี นฟังพร้อมกบั ชไี้ ปทีละคำ จากนั้น ให้นกั เรียนออกเสยี งตาม และใหอ้ ่านเองจนคล่อง ขน้ั ลงมือเรยี นรู้ 1. นักเรียนทำแบบฝึกหดั จาก Workbook หนา้ 54-55-56 ขน้ั สรุปความรู้ 1. นกั เรียนทำแบบฝึกหัด Workbook หนา้ 57,62,63 ขน้ั ประยกุ ต์ใชค้ วามรู้ 1. ใหน้ กั เรยี นวาดรูปพิพิธภัณฑ์ทนี่ ักเรียนเคยไปมา หรอื จากการค้นคว้าใน Internet 2. เขยี นคำศัพท์สำคัญจากภาพพิพธิ ภณั ฑ์ 6. ส่อื การเรียนการสอน
1. หนังสือเรยี น ชดุ Step Up English ป.4 (Student’s Book) 2. หนังสือแบบฝกึ หดั ชุด Step Up English ป.4 (Workbook Book) 3. DVD ประกอบหนงั สือ ชุด Step Up English ป.4 7. การวดั และประเมลิ ผล วิธกี าร เครือ่ งมอื เกรณฑก์ ารประเมนิ ตรวจผลงาน เนื้อหาบทที่ 4 ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ขนึ้ ไป ทักษะท่ตี ้องการวัด หนา้ 52 ความรู้ (Knowledge : K) นกั เรียนเขา้ ใจเรื่องท่ีเหน็ และฟังและ อธบิ ายเหตการณ์ได้ถูกต้อง ทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) ตรวจผลงาน เน้ือหาบทที่ 4 ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 70 ขึ้นไป นกั เรียนสามารถเขยี นใหข้ อ้ มลู หนา้ 53,62,63 เกี่ยวกบั เรอ่ื งท่ีเหน็ และฟังได้ ขอ้ มลู จากเร่ืองท่ีอา่ นได้ เกณฑ์การประเมินผลจากการทำใบกิจกรรม ใบงาน แบบฝึกปฏิบตั กิ จิ กรรม ใช้เกณฑด์ งั น้ี 80% ขึน้ ไป หมายถึง ดมี าก 70-79% หมายถึง ดี 60-69% หมายถงึ ปานกลาง 50-59% หมายถึง ผ่าน ต่ำกวา่ 50% หมายถงึ ปรับปรุง
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 24 กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 4 หนว่ ยท่ี 4 Day at the Museum เรอ่ื ง Jobs และการใช้ articles 1 ช่ัวโมง 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรอื่ งท่ฟี งั และอา่ นจากส่ือประเภทต่าง และแสดงความคดิ เหน็ อย่างมี เหตผุ ล มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสือ่ สารทางภาษาในการแลกเปลีย่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความ คดิ เหน็ อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ความคิดรวบยอด และความคิดเหน็ ในเร่ืองต่างๆโดยการพดู และเขยี น ตวั ชี้วัด มาตรฐาน ต 1.1 ป.4/1 ปฏบิ ัตติ ามคำสัง่ คำขอร้องและคำแนะนำ (Instructions) งา่ ยๆ ทฟ่ี ังหรืออ่าน มาตรฐาน ต 1.2 ป.4/1 พูด/เขยี นโต้ตอบในการสอื่ สารระหวา่ งบคุ คล มาตรฐาน ต 1.2 ป.4/4 พูด/เขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล เก่ยี วกับตนเอง เพอื่ น และครอบครวั มาตรฐาน ต 1.3 ป.4/1 พูด/เขียนใหข้ ้อมูล เกย่ี วกบั ตนเองและเร่ืองใกลต้ วั 2. สาระสำคัญ การเรียนรู้คำศัพทเ์ กีย่ วกับกจิ กรรมยามวา่ งที่นักเรียนสนใจสามารถใช้โครงสรา้ งประโยคใช้ในการขอและให้ข้อมูล เกย่ี วกบั ตนเอง เพ่ือนและครอบครวั รวมไปถึง การขอร้อง การให้คำแนะนำ และการถามตอบ เพื่อนำไปใชใ้ นการสื่อสารในชีวติ ประจำวนั 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ ความรู้ (Knowledge : K) นักเรียนรู้ความหมายของคำศัพท์เกย่ี วกบั อาชีพและบอกความหมายได้ถกู ตอ้ ง ทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) นกั เรยี นสามารถเลือกใชค้ ำพดู ประโยค/ข้อความทใี่ ช้ในการสนทนาเกี่ยวกับ คำถามเรื่องอาชีพโดยใช้ article ไดถ้ กู หลกั เจตคติ (Attitude : A) ใฝร่ ู้ใฝเ่ รียน 4. เน้ือหา 4.1 Jobs vocabulary 4.2 การใช้ article a an s
5. กิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นนำเขา้ สูบ่ ทเรยี น 1. ครูใหน้ กั เรียนชว่ ยกนั ทำสลากคำศัพท์จากบทก่อนหนา้ ทีเ่ คยเรยี นมาแล้วเกยี่ วกบั พิพิธภัณฑ์ 2. จากน้ันครูจบั สลากคำศัพท์ขน้ึ มาให้ 3. ให้ตวั แทนนกั เรยี นออกมาใบ้คำ นกั เรยี นทเ่ี หลือชว่ ยกนั ทายคำศัพท์คำนนั้ ผลัดกันใบค้ ำจนหมดคำศัพท์ ขนั้ นำเสนอความรู้ 1. ครสู อนคำศัพท์ เรื่อง “Jobs” โดยใชภ้ าพและคำศัพท์ จาก Student’s Book หน้า 73 มาทำเป็นบัตร ภาพและบตั รคำติดบนกระดานเคลือ่ นที่ เช่น การสอนชื่ออาชีพตา่ งๆ เชน่ dentist waiter gardener 2. ครูอ่านคำศพั ทใ์ หน้ ักเรียนฟงั พร้อมกบั ชี้ไปทีละภาพ จากนั้น ช้ีใหน้ กั เรียนออกเสียงตาม และให้อา่ น เองจนคล่อง 3. ครูอธบิ ายโครงสร้างประโยคคำถาม-คำตอบเก่ยี วกับอาชีพ (Jobs) จาก Student’s Book หน้า 75 ใหน้ กั เรียนฟัง (โดยเปิด DVD หน้า 75 ประกอบการสอนบนจอ) เชน่ A : What do you do? B : I’m a tour guide. 4. ทำแถบประโยคตัวอยา่ ง จาก Student’s Book หนา้ 75 ติดบนกระดาน 5. ครอู ่านประโยคคำถาม พร้อมกบั ช้ีไปทีละประโยค จากน้ัน ชีใ้ หน้ ักเรยี นออกเสยี งตาม จากประโยคคำตอบ ขน้ั ลงมือเรียนรู้ 1. นักเรียนทำแบบฝึกหดั จาก Workbook หน้า 58 ด้านบน ข้นั สรปุ ความรู้ 1. นกั เรยี นทำแบบฝกึ หดั Workbook หนา้ 58 ดา้ นล่าง ขั้นประยกุ ต์ใชค้ วามรู้ 1. ครูให้นกั เรียนวาดภาพอาชีพในฝนั ของตัวเอง 2. ทำเส้นโยงเพอ่ื บรรยายลกั ษณะของอาชีพ เชน่ Build a car and houses. Wear a safety hat. 6. สื่อการเรียนการสอน 1. หนงั สอื เรยี น ชดุ Step Up English ป.4 (Student’s Book) 2. หนังสือแบบฝกึ หดั ชดุ Step Up English ป.4 (Workbook Book) 3. DVD ประกอบหนังสือ ชุด Step Up English ป.4 7. การวดั และประเมิลผล
ทักษะท่ีต้องการวัด วธิ กี าร เคร่ืองมือ เกรณฑก์ ารประเมิน ความรู้ (Knowledge : K) ตรวจผลงาน เนื้อหาบทท่ี 4 ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 70 ขึน้ ไป นกั เรยี นรูค้ วามหมายของคาศพั ท์ หน้า 58 ด้านบน เก่ียวกบั อาชีพและบอกความหมาย ไดถ้ กู ตอ้ ง ทักษะ/กระบวนการ (Process : P) ตรวจผลงาน เนือ้ หาบทที่ 4 ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 70 ข้นึ ไป นกั เรยี นสามารถเลือกใชค้ าพดู หน้า 58 ดา้ นล่าง ประโยค/ขอ้ ความท่ใี ชใ้ นการสนทนา เก่ียวกบั คาถามเรื่องอาชพี โดยใช้ article ไดถ้ กู หลกั เกณฑ์การประเมินผลจากการทำใบกิจกรรม ใบงาน แบบฝึกปฏบิ ตั ิกจิ กรรม ใชเ้ กณฑ์ดังนี้ 80% ขึน้ ไป หมายถงึ ดมี าก 70-79% หมายถงึ ดี 60-69% หมายถึง ปานกลาง 50-59% หมายถึง ผ่าน ต่ำกวา่ 50% หมายถงึ ปรบั ปรุง
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 25 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 หน่วยที่ 4 Day at the Museum เร่ือง was/were 1 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเร่อื งทฟ่ี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง และแสดงความคดิ เห็นอย่างมี เหตุผล มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรสู้ ึกและความ คดิ เหน็ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเร่ืองตา่ งๆโดยการพดู และเขยี น ตวั ช้ีวัด มาตรฐาน ต 1.1 ป.4/1 ปฏิบตั ิตามคำสั่ง คำขอร้องและคำแนะนำ (Instructions) งา่ ยๆ ทฟี่ งั หรอื อ่าน มาตรฐาน ต 1.2 ป.4/1 พดู /เขียนโตต้ อบในการส่อื สารระหวา่ งบุคคล มาตรฐาน ต 1.2 ป.4/4 พูด/เขยี นเพื่อขอและให้ข้อมูล เกยี่ วกับตนเอง เพือ่ น และครอบครวั มาตรฐาน ต 1.3 ป.4/1 พูด/เขยี นใหข้ ้อมลู เก่ยี วกบั ตนเองและเรื่องใกล้ตัว 2. สาระสำคญั การเรียนรคู้ ำศัพท์เก่ียวกบั กิจกรรมยามวา่ งที่นกั เรยี นสนใจสามารถใชโ้ ครงสร้างประโยคใชใ้ นการขอและให้ข้อมลู เกี่ยวกับตนเอง เพ่ือนและครอบครัว รวมไปถึง การขอร้อง การให้คำแนะนำ และการถามตอบ เพ่อื นำไปใชใ้ นการส่ือสารในชีวิตประจำวัน 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ความรู้ (Knowledge : K) นกั เรียนรู้หลักการใช้ was were อธบิ ายการผันกรยิ าตามโครงสร้างไวยากรณ์ได้ ถกู ต้อง ทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) นักเรยี นสามารถเลือกใช้คำกริยา was were ในการอธิบายสงิ่ ที่อ่านได้ตาม โครงสรา้ ง past simple tense ได้ถูกต้อง เจตคติ (Attitude : A) ใฝ่รู้ใฝเ่ รียน 4. เน้ือหา 4.1 Verb/ irregular verbs 4.2 Present simple tense 4.3 Past simple tense 4.4 was/were
5. กิจกรรมการเรียนรู้ ขน้ั นำเข้าส่บู ทเรียน 1. ให้นักเรยี นทอ่ งบทกลอน “An Old Woman” จาก Student’s Book หน้า 66 และเคล่อื นไหว ประกอบบทกลอนในทา่ ท่ีมีจังหวะสนุกสนาน เช่น ตบมอื ตวั เอง - ตบมือซ้ายบนโต๊ะ - ตบมอื ขวาบน โตะ๊ - ตบมอื ตวั เอง 2. ครูติดชาร์ตบทกลอน “An Old Woman” บนกระดานเคลือ่ นที่ ครูช้ีอ่านใหน้ กั เรยี นฟัง แลว้ ให้ นกั เรียนอา่ นตามทลี ะประโยคจนคล่อง ขน้ั นำเสนอความรู้ 1. ครอู ธิบายการใช้ “was และ were” ในประโยค Past Tense โดยใชภ้ าพและคำศัพท์ จาก Student’s Book หน้า 77 มาติดบนกระดานเคล่ือนท่ี เพื่อให้ให้นกั เรยี นเขา้ ใจถึงความแตกตา่ งและ การนำไปใช้ 2. ครอู ่านประโยคใหน้ กั เรยี นฟัง พร้อมกับชี้ไปทลี ะภาพประกอบ จากนัน้ ชใี้ ห้นกั เรยี นออกเสียงตาม เชน่ She was in China last week. She is in Thailand this week. 3. ครอู ธิบายการใช้ “was และ were” กบั คำสรรพนาม I, You, We, Ther, He, She, It จาก Student’s Book หนา้ 78 โดยเปดิ DVD หน้า 78 ประกอบการสอนบนจอ 4. ครูทำแถบประโยคตวั อยา่ ง แล้วติดบนกระดาน อา่ นให้นักเรยี นฟัง แลว้ ช้ีให้นกั เรยี นออกเสียงตาม ขนั้ ลงมือเรยี นรู้ 1. นกั เรียนทำแบบฝกึ หัดจาก Workbook หน้า 59-60-61 ขน้ั สรุปความรู้ 1. นกั เรียนทำแบบฝกึ หัด Workbook หนา้ 62-63 ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ นักเรยี นเขยี นเร่ืองราววนั สุดสปั ดาห์ทผี่ ่านมาของตนเอง โดยใช้ Past Simple Tense อย่างง่ายพร้อมทั้ง วาดภาพประกอบ เชน่ I was in Bangkok last week. It was the most visited city by tourists in 2017. It was a sunny day. There were many people in Wat Phra Kaew.
6. สอ่ื การเรียนการสอน 1. หนงั สือเรยี น ชุด Step Up English ป.4 (Student’s Book) 2. หนงั สือแบบฝกึ หดั ชุด Step Up English ป.4 (Workbook Book) 3. DVD ประกอบหนงั สือ ชุด Step Up English ป.4 7. การวดั และประเมิลผล วิธกี าร เครื่องมอื เกรณฑ์การประเมนิ ตรวจผลงาน เนือ้ หาบทท่ี 4 ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 70 ขึน้ ไป ทักษะท่ีตอ้ งการวดั หน้า 59-60 ความรู้ (Knowledge : K) นกั เรยี นรูห้ ลักการใช้ was were อธิบายการผันกรยิ าตามโครงสรา้ ง ไวยากรณ์ไดถ้ ูกตอ้ ง ทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) ตรวจผลงาน เนื้อหาบทท่ี 4 ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 70 ขึ้นไป นกั เรียนสามารถเลอื กใชค้ ากรยิ า หน้า 61 was were ในการอธิบายสง่ิ ท่อี า่ นได้ ตามโครงสรา้ ง past simple tense ไดถ้ กู ตอ้ ง เกณฑ์การประเมนิ ผลจากการทำใบกิจกรรม ใบงาน แบบฝึกปฏิบตั กิ ิจกรรม ใชเ้ กณฑด์ งั น้ี 80% ขนึ้ ไป หมายถงึ ดีมาก 70-79% หมายถึง ดี 60-69% หมายถงึ ปานกลาง 50-59% หมายถึง ผา่ น ตำ่ กวา่ 50% หมายถึง ปรบั ปรุง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 25 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ วิชาภาษาองั กฤษ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 4 หนว่ ยที่ 4 Day at the Museum เรื่อง “The World of Dinosaurs” 1 ชวั่ โมง 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้ีวัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรอื่ งท่ฟี ังและอา่ นจากส่ือประเภทต่าง และแสดงความคิดเหน็ อย่างมี เหตผุ ล มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการส่อื สารทางภาษาในการแลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสาร แสดงความร้สู ึกและความ คิดเหน็ อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่ืองตา่ งๆโดยการพูดและเขียน ตัวช้ีวัด มาตรฐาน ต 1.1 ป.4/1 ปฏิบตั ติ ามคำสัง่ คำขอร้องและคำแนะนำ (Instructions) งา่ ยๆ ที่ฟงั หรอื อ่าน มาตรฐาน ต 1.2 ป.4/1 พดู /เขยี นโต้ตอบในการสอ่ื สารระหว่างบคุ คล มาตรฐาน ต 1.2 ป.4/4 พดู /เขียนเพ่ือขอและให้ข้อมูล เกย่ี วกบั ตนเอง เพือ่ น และครอบครัว มาตรฐาน ต 1.3 ป.4/1 พูด/เขยี นให้ข้อมลู เก่ยี วกบั ตนเองและเรือ่ งใกลต้ ัว 2. สาระสำคัญ การเรยี นรคู้ ำศัพทเ์ กี่ยวกับกิจกรรมยามว่างที่นกั เรยี นสนใจสามารถใชโ้ ครงสร้างประโยคใชใ้ นการขอและให้ขอ้ มูล เก่ียวกบั ตนเอง เพื่อนและครอบครัว รวมไปถึง การขอร้อง การใหค้ ำแนะนำ และการถามตอบ เพ่ือนำไปใช้ในการสอื่ สารในชีวติ ประจำวนั 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ความรู้ (Knowledge : K) นักเรียนรู้ความหมายของคำศัพทใ์ นเร่ืองท่ีอ่านอธิบายการจากสง่ิ ท่ีอา่ นได้ ทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) นักเรยี นสามารถเลือกใช้ประโยคทใี่ นการอธบิ ายส่ิงท่อี า่ นได้ตามโครงสร้าง past simple tense ทถ่ี กู ต้อง เจตคติ (Attitude : A) ใฝร่ ใู้ ฝเ่ รยี น 4. เน้อื หา 4.1 passages: “The World of Dinosaurs” 4.2 Past simple tense 4.3 was/were
5. กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้ันนำเขา้ สู่บทเรียน 1. ใหน้ ักเรียนท่องบทกลอน “An Old Woman” จาก Student’s Book หน้า 66 และเคลอ่ื นไหว ประกอบบทกลอนในทา่ ทม่ี ีจังหวะสนุกสนาน เชน่ ตบมือตัวเอง - ตบมือซ้ายบนโตะ๊ - ตบมือขวาบน โตะ๊ - ตบมือตวั เอง 2. ครตู ดิ ชารต์ บทกลอน “An Old Woman” บนกระดานเคลอื่ นที่ ครชู ี้อา่ นใหน้ ักเรียนฟัง แลว้ ให้ นักเรียนอ่านตามทีละประโยคจนคล่อง ขนั้ นำเสนอความรู้ 1. ครูอา่ นเรอ่ื ง “The World of Dinosaurs” จาก Student’s Book หนา้ 81 ใหน้ ักเรียนฟงั 2. เปิด DVD หน้า 81 ใหน้ กั เรียนฟงั จากน้ันครแู ละนักเรยี นอา่ นพร้อมกัน 3. ครสู นทนาซักถามนกั เรยี นเกย่ี วกับเน้อื เร่ือง เชน่ Can you see the fossil of the dinosaur? Is T-Rex a big dinosaur? Did T-Rex eat small dinosaur? เป็นต้น 4. ครสู อนคำศัพท์ เร่ือง “The World of Dinosaurs” โดยใชภ้ าพและคำศัพท์ จาก Student’s Book หน้า 81 มาทำเป็นบตั รภาพและบัตรคำติดบนกระดานเคล่อื นที่ 5. ครอู ่านคำศัพท์ใหน้ กั เรียนฟงั พร้อมกับช้ีไปทีละภาพ จากน้ัน ช้ใี หน้ ักเรยี นออกเสยี งตาม และให้ อา่ นเองจนคล่อง ขนั้ ลงมือเรียนรู้ 1. นักเรียนทำแบบฝกึ หัดจาก Workbook หนา้ 64 ขั้นสรปุ ความรู้ 1. นกั เรยี นทำแบบฝกึ หัด Workbook หนา้ 65 ขั้นประยกุ ต์ใช้ความรู้ 1. ครูใหน้ กั เรยี นจับคู่กบั เพ่ือน ชว่ ยกันหาขอ้ มูลของสัตว์ชนิดใดชนิดหนง่ึ มาคนละ 5 ประการ เชน่ Elephants are the largest land animals. Elephants families are lead by females. เปน็ ตน้ 2. เขียนลกั ษณะและข้อมูลของสตั ว์ชนิดนน้ั ๆ โดยใช้ Past Simple ลงในกระดาษบรูฟ แล้วอา่ นให้เพื่อน ฟังหนา้ หอ้ งเรยี นในช่วั โมงถดั ไป
6. สอื่ การเรียนการสอน 1. หนังสอื เรยี น ชดุ Step Up English ป.4 (Student’s Book) 2. หนังสือแบบฝึกหดั ชุด Step Up English ป.4 (Workbook Book) 3. DVD ประกอบหนังสือ ชุด Step Up English ป.4 7. การวดั และประเมิลผล ทกั ษะทต่ี อ้ งการวัด วิธีการ เคร่ืองมอื เกรณฑก์ ารประเมนิ ความรู้ (Knowledge : K) ตรวจผลงาน เนื้อหาบทที่ 4 ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 70 ข้นึ ไป นกั เรียนร้คู วามหมายของคำศัพท์ใน หน้า 64 เรอ่ื งท่ีอา่ นอธบิ ายการจากสิ่งทอ่ี ่านได้ ทักษะ/กระบวนการ (Process : P) ตรวจผลงาน เนื้อหาบทท่ี 4 ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 70 ข้ึนไป นกั เรยี นสามารถเลอื กใชป้ ระโยคท่ใี น หน้า 65 การอธิบายสิ่งท่ีอ่านไดต้ ามโครงสรา้ ง past simple tense ท่ถี กู ตอ้ ง เกณฑ์การประเมินผลจากการทำใบกิจกรรม ใบงาน แบบฝกึ ปฏิบัติกิจกรรม ใชเ้ กณฑด์ งั นี้ 80% ขึน้ ไป หมายถึง ดีมาก 70-79% หมายถึง ดี 60-69% หมายถงึ ปานกลาง 50-59% หมายถงึ ผา่ น ต่ำกว่า50% หมายถึง ปรับปรุง
Search