Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ประเพณีวันลอยกระทง

ประเพณีวันลอยกระทง

Published by Guset User, 2023-03-06 07:51:25

Description: ประเพณีวันลอยกระทง

Search

Read the Text Version

ประเพณีวัน ลอยกระทง Loi Krathong Festival ให้ความรู้และขั้นตอน การทำกระทง

คำนำ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์(E-book)เล่มนี้เป็นการให้ความรู้และขั้นตอนวิธีการทำกระทง ในหนังสือเล่มนี้จะมีข้อมูลต่างๆกับการลอยกระทง เพื่อให้คนสมัยใหม่ได้รับรู้ว่าคน สมัยโบราณเคยว่ากล่าวไวอย่างนี้ ผู้จัดทำหวังว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็นความรู้สำหรับคนรุ่นใหม่ว่าทำไมเราจึงต้องมีป ประเพณีลอยกระทง หากหนังสือเล่นนี้มีผิดพลาดตรงไหนต้องขออภัยใน ณ ที่นี้ด้วย เด็กชายธีรพันธ์ ภาระ ผู้จัดทำหนังสื อเล่มนี้ 1

สารบัญ 1 2 คำนำ 3 สารบัญ 4 วันลอยกระทง 5 ประวัติ 8 ประเพณีในแต่ละท้องถิ่น 15 อุปกรณ์ 19 ขั้นตอนการทำ อ้างอิง 2

วันลอยกระทง วันลอยกระทง เป็นเทศกาลของกลุ่มชาติพันธุ์ไทตะวันออกเฉียงใต้รวมทั้งประเทศไทย ตรง กับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติไทย ประเพณีนี้กำหนดขึ้นเพื่อเป็นการ สะเดาะเคราะห์และขอขมาต่อพระแม่คงคาซึ่งเป็นเทวดาในคติฮินดู แต่เทศกาลนี้มีร่องรอย หลักฐานย้อนไปถึงจีนและอินเดียโบราณ ในประเทศไทยมีชื่อเรียกว่าลอยกระทง ส่วนประเทศอื่น ๆ มีชื่อเรียกแตกต่างกัน โดย ประเทศพม่ามีชื่อว่า \"เทศกาลตาซองได\", ประเทศศรีลังกามีชื่อว่า \"Il Full Moon Poya\" และ ประเทศจีนมีชื่อว่า \"เทศกาลโคมไฟ\" 3

ประวัติ ประเพณีลอยกระทงเป็นประเพณีโบราณของอินเดียที่ประเทศไทยรับเข้ามาปฏิบัติ แต่ไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจน ว่าทำกันมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เท่าที่ปรากฏกล่าวได้ว่ามีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยเป็นราชธานี พระบาทสมเด็จพระ จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสันนิษฐานว่า เดิมทีเดียวเห็นจะเป็นพิธีของพราหมณ์กระทำเพื่อบูชาพระผู้เป็นเจ้าทั้ง สาม คือ พระอิศวร พระนารายณ์ และพระพรหม ต่อมาได้ถือตามแนวทางพระพุทธศาสนามีการปล่อยโคมลอย เพื่อบูชาพระบรมสารีริกธาตุพระจุฬามณีในชั้นดาวดึงส์ และลอยกระทงเพื่อบูชารอยพระพุทธบาท ซึ่งประดิษฐาน ณ หาดทรายแม่น้ำนัมมทา (แม่น้ำนัมมทา เป็นแม่น้ำที่คู่ขนานกับทิวเขาวินธัย ไหลลงภาคตะวันตกของอินเดีย แบ่งเขตอินเดียออกเป็นภาคเหนือและภาคใต้) ตามเรื่องนางนพมาศ หรือ ตำรับท้าวศรีจุฬาลักษณ์ กล่าวไว้ว่าในรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหง มีนางนพมาศหรือท้าว ศรีจุฬาลักษณ์ เป็นผู้ประดิษฐ์กระทงขึ้นครั้งแรก โดยแต่เดิมเรียกว่าพิธีจองเปรียง ที่ลอยเทียนประทีป และนาง นพมาศได้นำดอกโคทม ซึ่งเป็นดอกบัวที่บานเฉพาะวันเพ็ญเดือนสิบสองมาใช้ใส่เทียนประทีป[ต้องการอ้างอิง] หนังสือเรื่องนี้ได้อ้างพระดำรัสของพระร่วงว่า \"จึ่งมีพระราชบริหารบำหยัดสาปสรรว่า แต่นี้สืบไปเบื้องหน้าโดยลำดับกษัตริย์ในสยามประเทศ ถึงการกำหนด นักขัตฤกษ์วันเพ็ญเดือน ๑๒ พระราชพิธีจองเปรียงแล้ว ก็ให้กระทำโคมลอยเป็นรูปดอกกระมุทอุทิศสักการบูชา พระพุทธบาทนัมมทานทีตราบเท่ากัลปาวสาน อันว่าโคมลอยรูปดอกกระมุทก็ปรากฏมาจนเท่าทุกวันนี้ แต่คำโลก สมมุติเปลี่ยนชื่อเรียกว่าลอยกระทงทรงประทีป เหตุดังนี้ข้าน้อยผู้ชื่อว่านพมาศก็ถึงซึ่งมีชื่อเสียงปรากฏอยู่ใน แผ่น ดินได้อย่างหนึ่ง...\" — ท้าวศรีจุฬาลักษณ์, ตำรับท้าวศรีจุฬาลักษณ์ แต่ปัจจุบันมีหลักฐานว่าไม่น่าจะเก่ากว่าสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น โดยอ้างอิงหลักฐานจากภาพจิตรกรรมการสร้าง กระทงแบบต่าง ๆ ในสมัยรัชกาลที่ 1 จากนั้นในสมัยรัชกาลที่ 2 ได้เปลี่ยนแปลงจากการทำจากดอกบัวเป็นต้น กล้วยเพราะดอกบัวดังกล่าวหายากและมีน้อย จึงใช้ต้นกล้วยทำแทนแล้วดูไม่สวยจึงใช้ใบตองมาพับแต่งจนสวย สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน 4

ประเพณีในแต่ละท้องถิ่น ภาคเหนือ ภาคเหนือ นิยมทำโคมลอย เรียกว่า \"ลอยโคม\" หรือ \"ว่าวลม\" หรือ \"ว่าวไฟ\" ทำจากผ้าบาง ๆ แล้วสุมควันข้างใต้ให้ลอยขึ้นไปในอากาศอย่างบัลลูนประเพณี ของชาวเหนือนี้เรียกว่า ยี่เป็ง หมายถึงการทำบุญในวันเพ็ญเดือนยี่ (ซึ่งนับวัน ตามแบบล้านนา ตรงกับวันเพ็ญเดือนสิบสองในแบบไทย) หรือโคมลอยบนน้ำ รูปทรงต่าง ๆ จังหวัดเชียงใหม่ มีประเพณี\"ยี่เป็ง\"เชียงใหม่ ในทุก ๆ ปีจะมีการจัดงานขึ้น อย่างยิ่งใหญ่ตระการตา และมีการปล่อยโคมลอยขึ้นเต็มท้องฟ้ า จังหวัดลำปาง มีประเพณี\"ล่องสะเปา\"(สะเปาหมายถึงกระทง) ซึ่งจะมีการ ประกวดอยู่สองวันด้วยกัน ได้แก่วันแรก\"สะเปาน้ำ\"จัดขึ้นในแม่น้ำวังและวันที่ สองจะมี\"สะเปาบก\" ซึ่งการประกวดในที่นี้ จะมีตั้งแต่ระดับกลุ่มหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ โรงเรียน มหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษาต่าง ๆ รวมไปถึงหน่วยการ ของภาครัฐ แต่ละขบวนจะมีการแสดงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นฟ้ อนรำ ดนตรีพื้น เมือง ความสวยงามของขบวน รวมไปถึงประกวดนางนพมาส ทั้งนี้ ชาวบ้าน คนเมืองลำปาง ค่อนข้างให้ความสำคัญแก่ประเพณีล่องสะเปา เนื่องจากเป็นวัน ที่ทุกคนจะร่วมสนุกสนานครื้นเคร้ง พบปะเพื่อนฝูงที่กลับมาจากการทำงานใน ต่างจังหวัด และที่สำคัญเป็นเทศกาลกลางแจ้งที่จัดขึ้นท่ามกลางอากาศที่เย็น สบายในทุก ๆ ปี จังหวัดตาก จะลอยกระทงขนาดเล็กทยอยเรียงรายไปเป็นสาย เรียกว่า \"กระทงสาย\" จังหวัดสุโขทัย ขบวนแห่โคมชักโคมแขวน การเล่นพลุตะไล ไฟพะเนียง 5

ประเพณีในแต่ละท้องถิ่น ภาคตะวันออกเฉี ยงเหนื อ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในอดีตมีการเรียกประเพณีลอยกระทงในภาค อีสานว่า สิบสองเพ็ง หมายถึงวันเพ็ญเดือนสิบสองซึ่งจะมีเอกลักษณ์แตก ต่างกันออกไป เช่น จังหวัดร้อยเอ็ด ถือเป็ นตัวแทนจัดงานลอยกระทงของภาคตะวันออกเฉียง เหนือ โดยมีชื่องานประเพณีว่า \" สมมาน้ำคืนเพ็ง เส็งประทีป \" ตามภาษา ถิ่นมีความหมายถึงการขอขมาพระแม่คงคาในคืนวันเพ็ญเดือนสิบสอง ความพิเศษของงานมีการแสดง แสงสีเสียง ตำนานเมืองร้อยเอ็ด จัดให้มี การตกแต่งบริเวณเกาะบึงพลาญชัย (สถานที่จัดงาน) ให้เป็ นเกาะสวรรค์ ตกแต่งสวยงาม ยิ่งใหญ่ มีขบวนกระทงอาเซียน มีการประกวดกระทง ประทีปใหญ่ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรม ราชกุมารี การประกวดกระทงอนุรักษ์ธรรมชาติ การประกวดขบวนแห่ กระทงประทีป 12 หัวเมือง ตามตำนานเมืองร้อยเอ็ด การประกวดรำวงสม มาน้ำคืนเพ็งเส็งประทีป การประกวดธิดาสาเกตนคร และกิจกรรมอื่น ๆ อีก มากมาย จังหวัดสกลนคร ในอดีตจะมีการลอยกระทงจากกาบกล้วย ลักษณะคล้าย กับการทำปราสาทผึ้งโบราณ เรียกงานนี้ว่าเทศกาลลอยพระประทีป พระราชทาน สิบสองเพ็งไทสกล 6

ประเพณีในแต่ละท้องถิ่น ภาคกลาง ภาคกลาง มีการจัดประเพณีลอยกระทงขึ้นทั่วทุกจังหวัด กรุงเทพมหานคร จะมีงานภูเขาทอง เป็ นรูปแบบงานวัด เฉลิมฉลองราว 7-10 วัน ก่อนงานลอยกระทง และจบลงในช่วงหลังวันลอยกระทง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีการจัดงานประเพณีลอยกระทงกรุงเก่าขึ้น อย่างยิ่งใหญ่บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ภายในงานมี การจัดแสดงแสง สี เสียง อย่างงดงามตระการต ภาคใต้ ภาคใต้ อย่างที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ก็มีการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ นอกจากนั้น ในจังหวัดอื่น ๆ ก็จะจัดงานวันลอยกระทงด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ในแต่ละท้องถิ่นยังอาจมีประเพณี ลอยกระทงที่แตกต่างกันไป และสืบทอดต่อกันเรื่ อยมา 7

อุปกรณ์ 1. หยวกกล้วย 8

อุปกรณ์ 2.ใบตอง 9

อุปกรณ์ 3.ดอกดาวเรือง 10

อุปกรณ์ 4.ดอกบัว 11

อุปกรณ์ 5. ธูป, เทียน 12

อุปกรณ์ 6. กรรไกร, คัตเตอร์ 13

อุปกรณ์ 7. ตะปูหมุด 14

ขั้นตอนการทำ 1. นำใบตองมาปูทีฐานกระทงกับด้านข้างและ ใช้ตะปูกดให้แน่น 15

ขั้นตอนการทำ ทำกลีบ 1.ตัดใบตองขนาดความกว้าง 1.5 นิ้ว ยาว 6 นิ้ว โดยประมาณ 2.พับเป็ นกลีบกุหลาบตามรูป จำนวน 3 กลีบ จากนั้นนำมาสวมเีัรียงกันให้มีระยะ ห่างพองามตามความชอบ ควรจัดให้ยอดของกลีบ และลอนของกลีบตรงเสมอเป็ น แนวเดียว ซึ่งจะทำให้ผลงานออกมาดูสวยงามเป็ นระเบียบเรียบร้อย 3.ใช้ด้ายสีเขียวใกล้เคียงกับใบตอง หรือสีดำมาเย็บติดกันด้วยด้นถอยหลังให้เป็ น แนวตรงเสมอกันโดยตลอด 4.พับกลีบใบตองแล้วเย็บต่อเนื่ องไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสามารถหุ้มขอบของฐาน กระทงได้โดยรอบ ตรึงกลับใบตองกับฐานของกระทงด้วยหมุด แล้วขลิบส่วนที่เลย พ้นฐานลงมาให้เรียบร้อยเสมอกับฐาน เมื่อทำเสร็จแล้วจะมีลักษณะคล้ายกับมงกุฏ สวมศีรษะ 16 5.จากนั้นประดับด้วยดอกไม้ตามความชอบ และปั กธูปเทียนลงไป เป็ นอันเสร็จ

ขั้นตอนการทำ 3.นำธูปและเทียนมาปลักใส่กระทงและตกแต่ง กระทงให้สวยงาม 17

ขั้นตอนการทำ 4.กระทงเป็นอันเสร็จสิ้น 18

อ้างอิง https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99% E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B 8%B0%E0%B8%97%E0%B8%87 19


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook