molecule of water

โครงสรา้ งโมเลกลุ ของน้า น้า 1 โมเลกลุ (H2O) ประกอบดว้ ย ไฮโดรเจน 2 อะตอม และออกซิเจน 1 อะตอม เช่ือมต่อกนั ดว้ ยพนั ธะโควาเลนท์ (Covalent bonds) ซ่ึงใชอ้ ิเลกกตรอนร่วมกนั

พนั ธะโคเวเลนต(์ Covalent bond) มาจากคาว่า co + valence electron ซึ่งหมายถึง พนั ธะที่เกิดจากการใชเ้ วเลนซ์ อิเลกกตรอนร่วมกนั ดงั เช่น ในกรณีของไฮโดรเจน ดงั นน้ั ลกั ษณะท่ีสาคญั ของ พนั ธะโคเวเลนตก์ ก คือการที่อะตอมใชเ้ วเลนตอ์ ิเลกกตรอนร่วมกนั เปก นคู่ ๆ -สารประกอบท่ีอะตอมแต่ละค่ยู ึดเหน่ียวกนั ดว้ ยพนั ธะโคเวเลนต์ เรียกว่าสารโคเวเลนต์ -โมเลกลุ ของสารที่อะตอมแต่ละค่ยู ึดเหน่ียวกนั ดว้ ยพนั ธะโคเวเลนตเ์ รียกว่าโมเลกลุ โคเวเลนต์

การเกิดพนั ธะโคเวเลนต์ เนื่องจาก พนั ธะโคเวเลนต์ เกิดจากการใชเ้ วเลนตอ์ ิเลกกตรอนร่วมกนั ซ่ึงอาจจะใชร้ ่วมกนั เพียง 1 คู่ หรือมากกว่า 1 ค่กู กได้ - อิเลกกตรอนค่ทู ่ีอะตอมทงั้ สองใชร้ ่วมกนั เรียกว่า “อิเลกกตรอนค่รู ่วมพนั ธะ” - อะตอมที่ใชอ้ ิเลกกตรอนร่วมกนั เรียกว่า “อะตอมค่รู ่วมพนั ธะ” * ถา้ อะตอมค่รู ่วมพนั ธะใชอ้ ิเลกกตรอนร่วมกนั 1 ค่จู ะเกิดเปก นพนั ธะโคเวเลนตท์ ่ีเรียกว่า พนั ธะ เดี่ยวเช่น ในโมเลกลุ ของไฮโดรเจน * ถา้ อะตอมค่รู ่วมพนั ธะใชอ้ ิเลกกตรอนร่วมกนั 2 ค่จู ะเกิดเปก นพนั ธะโคเวเลนตท์ ี่เรียกว่า พนั ธะคู่ เช่น ในโมเลกลุ ของออกซิเจน * ถา้ อะตอมค่รู ่วมพนั ธะใชอ้ ิเลกกตรอนร่วมกนั 3 ค่จู ะเกิดเปก นพนั ธะโคเวเลนตท์ ่ีเรียกว่า พนั ธะ สามเช่น ในโมเลกลุ ของไนโตรเจน



การเปล่ียนสถานะของน้า ภายใตค้ วามกดอากาศ ณ ระดบั น้าทะเลปานกลาง น้ามีสถานะเปก นของเหลว น้าเปล่ียนสถานะเปก น แกส๊ (ไอน้า) เม่ือมีอุณหภมู ิสงู ถึงจุดเดือด (Boiling point) ท่ีอณุ หภูมิ 100°C และเปลี่ยน สถานะเปก นของแขกง เมื่ออุณหภมู ิลดตา่ ถึงจุดเยือกแขกง (Freezing point) ที่อุณหภมู ิ 0°C การ เปล่ียนสถานะของน้ามีการดดู กลืนหรือการคายความรอ้ น โดยท่ีไม่ทาใหอ้ ุณหภมู ิเปลี่ยนแปลง เรียกว่า ความรอ้ นแฝง (Latent heat)



สภาพขว้ั



พนั ธะไฮโดรเจน พนั ธะไฮโดรเจน คือ แรงดึงดดู ระหว่างโมเลกลุ ที่เกิดจากไฮโดรเจนอะตอมสรา้ งพนั ธะ โคเวเลนต์ กบั อะตอมท่ีมีค่าอิเลกกโทรเนกาติวิตีสงู ๆและมีขนาดเลกก ไดแ้ ก่ F , O และ N แลว้ เกิดพนั ธะโคเวเลนตม์ ีขว้ั ชนิดมีสภาพขว้ั แรงมาก ทง้ั น้ีเน่ืองจากพนั ธะท่ีเกิดข้ึนน้ี อิเลกกตรอนค่รู วมพนั ธะจะถกู ดึงเขา้ มาใกลอ้ ะตอมของธาตุท่ีมีค่าอิเลกกโทรเนกาติวิตีสงู มากกว่าทางดา้ นอะตอมของไฮโดรเจนมาก และอะตอมของธาตุท่ีมีค่าอิเลกกโทรเนกาติวิ ตีสงู ยงั มีอิเลกกตรอนค่โู ดดเดี่ยว จึงเกิดดึงดดู กนั ระหว่างอิเลกกตรอนค่โู ดดเด่ียวกบั อะตอมของไฮโดรเจนช่ึงมีอานาจไฟฟ้ าบวกสงู ของอีกโมเลกลุ หนึ่ง ทาใหเ้ กิดเปก นพนั ธะ ไฮโดรเจน





พนั ธะไอออนิก พนั ธะไอออนิก (Ionic bond) คือ แรงยึดเหน่ียวที่เกิดในสาร โดยท่ีอะตอมของธาตุที่มีค่า พลงั งานไอออไนเซชนั ตา่ (โลหะ) ใหเ้ วเลนตอ์ ิเลกกตรอนแก่อะตอมของธาตทุ ี่มีค่าพลงั งานไอออน ไนเซชนั สงู (อโลหะ) กลายเปก นไอออนท่ีมีประจุบวกและประจุลบ เมื่อไอออนทง้ั สองเขา้ มาอยู่ใกล้ กนั จะเกิดแรงดึงดดู ทางไฟฟ้ าท่ีแขกงแรงระหว่างประจุไฟฟ้ าตรงขา้ มเหล่านน้ั ทาใหไ้ อออนทง้ั สองยึด เหนี่ยวกนั ดว้ ย พนั ธะเคมีที่เรียกว่า “พนั ธะไอออนิก” เนื่องจากโลหะมีค่าพลงั งานไอออไนเซชนั ตา่ และอโลหะมีค่าพลงั งานไอออไนเซชนั สงู ดงั นน้ั พนั ธะไอออนิกจึงเกิดระหว่างธาตโุ ลหะ และอโลหะไดด้ ี กล่าวคือ อะตอมของโลหะใหเ้ วเลนต์ อิเลกกตรอนกบั อะตอมของอโลหะ แลว้ เกิดไอออนบวกของโลหะ และไอออนลบของอโลหะ ไอออน ทงั้ สองจะส่งแรงดึงดดู ระหว่างประจบุ วกและลบ เกิดเปก นพนั ธะไอออนิก

สตู รเคมี คือสญั ลกั ษณท์ ี่แสดงธาตุองคป์ ระกอบของสาร โดยสตู รเคมีประกอบดว้ ยสตู ร โมเลกลุ สตู รอย่างง่ายหรือ สตู รเอมพิริคลั และ สตู รโครงสรา้ ง 1. สตู รโมเลกลุ (Molecular formula) คือ กลุ่มสญั ลกั ษณท์ ่ีเขียนแทน 1 โมเลกลุ ของธาตหุ รือสารประกอบว่าประกอบดว้ ยธาตอุ ะไรบา้ ง อย่างละกี่อะตอม 2. สตู รอย่างง่ายหรือสตู รเอมพิริคลั (Simple formula or Empirical formula) คือสตู รเคมีที่เขียนข้ึนเพ่ือแสดงว่า 1 โมเลกลุ ของสาร ประกอบดว้ ยธาตุใดบา้ ง และอตั ราส่วนอย่างตา่ โดยอะตอมของธาตุในสตู รเปก นเท่าไร 3. สตู รโครงสรา้ ง (Structural formula) คือ สตู รเคมีท่ีบอกใหเ้ ราทราบว่า 1 โมเลกลุ ของสารนนั้ ประกอบดว้ ยธาตุใดบา้ ง อย่างละก่ีอะตอม และอะตอมของธาตแุ ต่ละตวั มี ตาแหน่งอย่างไร