กาพย์เหเ่ รอื เจ้าฟา้ ธรรมธเิ บศร
การเห่เรือ เปน็ กิจกรรมที่ควบคู่มากบั การเดินทางทางนา้ จ้าแนกได้ 2 ประเภท คือ 1. การเห่เรือในงานพระราชพิธี \"การเหเ่ รือหลวง\" 2. การเห่เรือส้าหรับเที่ยวเตร่หรือในงาน \"เหเ่ รือเล่น\" ปจั จบุ ันการเห่เรือเล่นลดความสา้ คัญลงไป คงมีแต่การ เห่เรือหลวง ทีด่ ้ารงอยู่และถือเป็นโบราณราชประเพณที ี่ตอ้ ง รักษาไว้เป็นมรดกของชาตสิ ืบตอ่ ไป
การเห่เรือ ทม่ี าของการเห่เรือน้ัน ไม่เปน็ ทีท่ ราบแน่ชดั แต่สันนิษฐานว่า เปน็ ประเพณีของชนชาติต่าง ๆ หลากหลายชนชาติทีม่ ีเรือ พายใช้ เช่น อินเดีย จีน ญวน เปน็ ต้น
การเห่เรือ การเห่เรือ ของไทยนั้น นอกจากจะใหค้ วามรืน่ เริงแล้วยังเป็นการ ให้จงั หวะเพอ่ื ใหพ้ ลพายพายพร้อมกัน โดยท้าเป็นทา้ นองเห่เรอื ที่ แตกต่างกัน ข้ึนอยู่กับความต้องการใหพ้ ลพายพายช้าหรือเรว็ เช่น ขณะเริ่มออกเรอื ขณะพายเรอื ตามน้า จะใช้ท้านอง ชา้ ลวะเห่ เม่อื เรือจวนถงึ ทีป่ ระทบั จะใช้ท้านอง สวะเห่ ถ้าต้องการใหพ้ ายหนักจงั หวะเร็วจะใช้ทา้ นอง มูลเห่ สา้ หรับคนเห่หรือต้นบท ต้องเลือกคนที่มีเสยี งดีและเสียงดังพอให้ได้ยิน ไปทว่ั ลา้ เรือ
ตวั อย่างการเห่เรือ https://www.youtube.com/watch?v=WG_PuRY9ikw ขอขอบคณุ Chansak Moolkongsung
กาพย์เห่เรือ บทเห่เรือของเจา้ ฟ้าธรรมธิเบศรนี้ เป็นการชมพยุหยาตราทาง ชลมารคทีน่ ้ามาเป็นบทเรียน ประกอบด้วย เหช่ มเรือกระบวน เหช่ มปลา เห่ชมไม้ เห่ชมนก และเหค่ รวญ ทรงนิพนธ์ขึน้ ส้าหรับเห่เรือพระที่น่งั สว่ นพระองค์เมื่อตามเสด็จไปนมสั การพระพุทธบาทที่จงั หวัดสระบุรี ออกเดนิ ทางจากจงั หวัดพระนครศรีอยุธยาไปถึงท่าเจา้ สนุก
ลกั ษณะคาประพนั ธ์ • แต่งดว้ ยโคลงสีส่ ุภาพ ๑ บท ตามดว้ ยกาพยย์ านีหลายๆ บท ซง่ึ เนือ้ ความในกาพยย์ านนี น้ั จะขยายความของเน้อื ความในโคลง ข้างตน้ โคลงสีส่ ุภาพ
กาพย์ยานี ๑๑
เนือ้ หากาพย์เห่เรือ โดยแบ่งออกเปน็ 5 บท ดังนี้ คือ 1. ในเวลาเช้า พรรณนากระบวนเรอื พยุหยาตราทางชลมารค 2. ในเวลากลางวนั เป็นการพรรณนาชมปลาต่างๆ 3. ในเวลากลางวัน เปน็ การพรรณนาชมพนั ธุ์ไม้ต่างๆ 4. ในเวลาเย็น เป็นการพรรณนาชมนกต่างๆ 5. ในยามคา่ คืน เปน็ บทจบดว้ ยการเห่ครวญถึงนางผู้เปน็ ที่รกั
เป็นการพรรณนากระบวนเรือพยุหยาตราทาง ชลมารค ซ่งึ ประกอบดว้ ยเรอื พระที่นงั่ กิง่ และเรือที่มี โขนเรือเป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ ได้แก่ เรือครฑุ หยดุ นาค เรอื ไกรสรมุข เรือสมรรถชยั เรือสวุ รรณหงส์ เรือชยั เรอื คชสีห์ เรอื ราชสหี ์ เรอื มา้ เรอื สิงห์ เรอื มงั กร เรอื นาคา(วาสุกรี) เรอื เลียงผา เรืออนิ ทรี
เป็นการพรรณนาถึงปลา ซึ่งมีชื่อต่างๆ กัน แล้วน้าเอา ชื่อปลาเหล่าน้ันไปเชื่อมโยงกบั ความรู้สึกของกวีทีม่ ีต่อนางอัน เป็นที่รกั ทั้งความรู้สึกรักใคร่ เป็นห่วง หวงแหน และคิดค้านึง ชื่อปลาดงั กล่าวได้แก่ ปลานวลจนั ทร์ ปลาคางเบือน ปลา ตะเพียนทอง ปลากระแห ปลาแก้มช้า ปลาดุก ปลาน้าเงนิ ปลา กราย ปลาหางไก่ ปลาสร้อย ปลาเนื้อออ่ น ปลาเสอื ปลา แมลงภู่ ปลาหวีเกศ ปลาชะแวง ปลาชะวาด และปลาแปบ
๓. เห่ชมไม้ ลกั ษณะการพรรณนาเหมอื นเหช่ มปลา ชื่อไม้ ดอกต่างๆ มีดงั นี้ จาปา นางแย้ม ประยงค์ พดุ จบี พิกุล สกุ รม สายหยดุ พทุ ธชาด บนุ นาค ไมเ้ ตง็ ไมแ้ ต้ว ดอกแก้ว ดอก กาหลง มะลิวัลย์ ต้นจิก ต้นจวง ดอกลาดวน และดอกราเพย
๔. เหช่ มนก ชื่อนกที่กวีพรรณนาถึงมี ดังนี้ นกยูง สร้อยทอง สาลิกา นางนวล นกแก้ว ไก่ฟ้า แขกเต้า ดเุ หว่า โนรี สตั วา
คุณค่ากาพย์เห่เรือ กาพย์เห่เรือ ในพระนิพนธ์ของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร เป็นกาพย์เห่เรือเรื่องแรกที่ปรากฏในประวัติวรรณคดีไทย เป็นกาพย์เห่เรือที่ได้รับยกย่องว่าไพเราะมาก จนมีกวีใน สมัยหลังพยายามแต่งกาพย์เหเ่ รอื โดยยึดกาพย์เห่เรือฉบับนี้ เป็นแบบแผน
คุณค่ากาพย์เห่เรือ ๑. ดา้ นรูปแบบ ใช้รูปแบบของคาประพันธ์ที่เหมาะสม คือโคลงสี่ สุภาพและกาพย์ยานี เป็นคาประพันธ์ที่มีลักษณะงดงาม อ่อนช้อย เสียงสัมผัสทั้งสัมผัสในและสัมผัสนอกฟังไพเราะ คาในวรรคแต่ละ วรรคมีไม่มากนัก อ่านง่าย คาลงตัว รูปแบบของคาประพันธ์ ดังกล่าวจึงเหมาะสม งดงาม ชวนฟัง
คุณค่ากาพย์เห่เรือ ๒. ด้านวรรณศลิ ป์ การสร้างสรรค์งานประพนั ธ์เต็มไปดว้ ยศิลปะ มีการใช้โวหารภาพพจน์การร้อยเรียงและเรียงเรียงคาประณีต กลมกลืน ได้สัดส่วนทีเ่ หมาะสม ๒.๑ การใช้อปุ มา คือ การเปรียบเทียบ เช่น เลียงผาง่าเท้าโผน เพยี งโจนไปในวารี นาวาหน้าอนิ ทรี มีปีกเหมือนเลื่อนลอยโพยม
คุณค่ากาพย์เห่เรือ ๒.๒ การเล่นเสียงหรือสัมผัสพยัญชนะ เช่น เรือ่ ยเรือ่ ยมารอนรอน ทิพากรจะตกตา่ สนธยาจะใกล้ค่า คานงึ หนา้ เจ้าตราตรู รวยรินกลิ่นราเพย คิดพี่เคยเชยกลิน่ ปราง น่ังแนบแอบเอวบาง ห่อนแห่ห่างวา่ งเว้นวนั ๒.๓ การใช้คาที่ทาใหเ้ กดิ จินตภาพ เช่น เรือสิงห์วิง่ เผ่นโผน โจนตามคล่นื ฝืนฝ่าฟอง ดยู ิ่งสงิ ห์ลาพอง เปน็ แถวท่องลอ่ งตามกนั
คุณค่ากาพย์เห่เรือ ๒.๔ การเล่นคา คือ การนาคาคาเดียวกันมาใช้ตา่ งความหมาย เชน่ นวลจนั ทร์เปน็ นวลจริง เจา้ งามพริง้ ยิง่ นวลปลา คางเบือนเบือนหน้ามา ไม่งามเท่าเจ้าเบอื นชาย เน้ือออ่ นอ่อนแตช่ ื่อ เน้ือน้องฤาอ่อนท้ังกาย ใครต้องข้องจิตชาย ไมว่ ายนึกตรึกตรึงทรวง ๒.๕ การซ้าคา ซ้าเสยี ง ทาใหย้ ้าหรือเน้นความรู้สึกยิง่ ขึ้น เชน่ เสยี งสรวลระรีน่ ้ี เสยี งใด เสยี งนชุ พ่ฤี าใคร ใคร่รู้ เสยี งสรวลเสียงทรามวยั นุชพ่ี มาแม่ เสยี งบังอรสมรผู้ อืน่ นั้นฤามี
คุณค่ากาพย์เห่เรือ ๒.๖ การใช้คาทีท่ าใหเ้ กิดอารมณ์หรอื ความรู้สึกทีส่ ะเทอื นใจ เช่น แต่เช้าเท่าถึงเย็น กล้ากลืนเข็ญเป็นอาจิณ ชายใดในแผ่นดนิ ไม่เหมอื นพีท่ ี่ตรอมใจ เรียมทนทกุ ข์แต่เช้า ถึงเย็น มาสสู่ ุขคืนเขญ็ หม่นไหม้ ชายใดจากสมรเปน็ ทกุ ข์เท่า เรียมเลย จากคู่วันเดียวได้ ทุกข์ปิ้มปานมี
คุณค่ากาพย์เห่เรือ ๓. ด้านสงั คม ๓.๑ ด้านขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมไทย โดยเฉพาะงานพระราชพิธกี ระบวนพยุหยาตราทางชลมารค ซึง่ เป็น พระราชพิธีโบราณ เรื่อง กาพย์เห่เรือนี้จะทาให้ผู้อ่านได้ความรู้ เกีย่ วกับ พระราชพิธีนี้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีด้านอ่ืนๆ อีก เช่น การแต่งกาย การบอกเวลา
คุณค่ากาพย์เห่เรือ ๓.๒ การสร้างสรรค์งานศิลปะด้านวิจิตรศิลป์ คือ การสร้าง โขนเรือเป็นรูปสัตว์ต่างๆ ทั้งความอ่อนช้อยหรือคึกคะนอง เหมือนกับสัตว์ที่มีชีวิต นอกจากนี้ยังสะท้อนให้เห็นผลงานทางด้าน สังคีตศิลป์ทแ่ี สดงออกมาในรูปของการร้องเหป่ ระกอบดนตรี ๓.๓ สะท้อนภาพภูมิศาสตร์ของประเทศไทยในสมัยน้ัน จะ เห็นได้ว่ามีแม่น้าลาคลองมากอาศัยการคมนาคมทางน้าเป็นส่วน ใหญ่ จึงมีการสร้างยานพาหนะสาหรับใช้สัญจรทางน้า คือ เรือ กัน มา
Search
Read the Text Version
- 1 - 36
Pages: