E-BOOK การดูสเปคคอม

วิธีการ ดูสเปค NOTEBOOK ให้เหมาะกับ การใช้งาน ง า น นี้ เ ป็ น ส่ ว น ห นึ่ ง ข อ ง วิ ช า ก า ร ใ ช้ แ ล ะ บำ รุ ง รั ก ษ า อุ ป ก ร ณ์ ท า ง เ ท ค โ น โ ล ยี ก า ร ศึ ก ษ า 4 6 8 2 0 5 - 6 4 ค ณ ะ ศึ ก ษ า ศ า ส ต ร์ ส า ข า เ ท ค โ น โ ล ยี ก า ร ศึ ก ษ า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ศิ ล ป า ก ร

สำหรับการเลือกซื้อโน้ตบุ๊คนั้น ถือเป็น สิ่งที่ยากสำหรับมือใหม่ หรือผู้ที่ไม่ได้ มีความชอบหรือความรู้ด้านนี้อยู่แล้ว อาจเกิดคำถามมากมายเช่น เครื่องนี้ ทำงานลื่นไหม? เล่นเกมได้หรือเปล่า? ตัดต่อวิดีโอทำกราฟิกไหวหรือเปล่า? ทำให้การซื้อแต่ละครั้งต้องทำการบ้าน ในการหาข้อมูลอย่างมาก อาจเสียเวลา และเกิดความสับสนได้ แต่คู่มือ E-BOOK นี้จะทำให้การเลือกซื้อ นั้นง่ายขึ้นทั้งยังเหมาะแก่การใช้งานอีกด้วย สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเวลาจะซื้อโน้ตบุ๊ค คือ ซื้อโน้ตบุ๊คเพื่อมาทำอะไร หลักๆ แบ่งได้ 3 แบบ ซื้อมาเพื่อใช้ทำงานทั่วไป ซื้อมาเพื่อเล่นเกม หรือ Workstation ตั้งงบประมาณไว้เท่าไร เพราะโน้ตบุ๊คมีหลายช่วงราคา เริ่มต้นตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงหลักแสนบาท 1

CPU CPU ย่อมาจาก Central Processing Unit คือหน่วยประมวลผลกลาง เปรียบเสมือนสมองของ โน้ตบุ๊คที่ใช้ในการคำนวณจาก คำสั่งที่ได้รับมา ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักในการประมวลผล จะเร็วจะช้า เล่นเกมหรือทำงานก็ต้องเลือกให้ตรงกับการใช้งาน โดยปัจจุบัน CPU ในตลาดโน้ตบุ๊ค แบ่งออกเป็น 2 แบรนด์ด้วยกัน คือ Intel และ AMD 2

CPU: intel หลายคนก็น่าจะรู้จักกันหมดอยู่แล้ว เพราะเป็นเจ้าตลาดมานาน โน้ตบุ๊คที่ใช้ CPU Intel มีหลายราคาให้เลือกตั้งแต่ไม่ถึงหมื่น ไปจนถึงหลักแสน ซึ่งรุ่นที่มีวางขายในปัจจุบันแบ่งเป็น 2 ตระกูลใหญ่ๆ คือ Pentium ตระกูลน้องเล็กสุด ความเร็วเพียงพอใช้ทำงานเอกสาร ดูหนัง ฟังเพลง แต่งรูปเบาๆ ซึ่งจะอยู่ในโน้ตบุ๊คราคาไม่แพง หลักพันปลายๆ ไปจนถึงหมื่นกลางๆโดยสุดล่าสุดปี 2019 ของตระกูล Pentium จะมีตัว U ต่อท้ายตัวเลขเสมอ (ส่วนตัว N ที่อยู่ด้านหน้าจะเป็นรุ่นเก่าตั้งแต่ปี 2017) 3

CPU: intel Core i ตระกูลหลักของทางฝั่ ง Intel แบ่งออกเป็น 4 รุ่น ได้แก่ Core i3, Core i5, Core i7 และ Core i9 เรียงความแรงจาก น้อยไปมาก โดยตระกูล Core i ยังแบ่งอีก 2 ประเภทคือ รหัส U กับ H เช่น Core i5-8265U, Core i5-8300H โดยตัว U จะเป็นรุ่นประหยัดพลังงาน มักจะอยู่ในโน้ตบุ๊ค น้ำหนักเบา และตัว H หรือ HK จะเป็นรุ่นประสิทธิภาพสูง มักจะอยู่โน้ตบุ๊คเครื่องหนา กินไฟเยอะ และน้ำหนักมาก Core i3 ในโน้ตบุ๊ตปัจจุบันจะมีแค่รหัส U เท่านั้น เช่น i3-8130U, i3-8145U เป็นต้น ซึ่งจะอยู่ในโน้ตบุ๊คราคาหมื่นกลางๆ ถึงสองหมื่นต้นๆ ซึ่งประสิทธิภาพจะแรงกว่า Pentiumพอสมควร ในเรื่องการประมวลกราฟิก โดย Core i3 ในโน้ตบุ๊คปัจจุบันจะมี 2 Core/4 Thread 4

CPU: intel Core i5 รุ่นยอดนิยมที่ขยับขึ้นมาแรงอีกขั้นเป็น 4 Core/ 8 Thread มีทั้งรหัส U และ H เช่น i5-8250U, i5-9300H เป็นต้น มักจะอยู่โน้ตบุ๊คในช่วงราคาหมื่นปลายๆ ไปจนถึงสามหมื่น Core i7 รุ่นท็อปสำหรับเกมเมอร์ หรือสายทำงานหนักๆ มีทั้งที่เป็น 4 Core/ 8 Thread บนรหัส U และ 6 Core/12 Thread บนรหัส H เช่น i7-8565U, i7-9750H เป็นต้น ซึ่งจะอยู่ในช่วงราคาสองหมื่นบาทปลายๆ ขึ้นไป 5

CPU: intel Core i9 พี่เบิ้ม Hi-End สำหรับคนที่ต้องการความแรงที่สุด โดยมีจำนวนสูงสุดถึง 8 Core/ 16 Thread จะมีเฉพาะที่เป็นรหัส H หรือ HK เช่น i9-9880H, i9-9980HK เป็นต้น โดยจะอยู่ในโน้ตบุ๊คราคาเกือบแสนหรือหลักแสนขึ้นไป ความหมายของตัวเลข CPU INTEL ยกตัวอย่าง Intel Core i7-9750H เลข 9 คือ Gen ของCPU เลข 750 คือ เลข SKU ของรุ่นนั้นๆ ยิ่งเลขเยอะยิ่งแรง เช่น i7-9850H แรงกว่า i7-9750H 6

CPU: AMD ปัจจุบันน้ีเริ่มตีตลาดในส่วนของโน้ตบุ๊คขึ้นมาเยอะเลย จากแต่ก่อนที่มีแค่ไม่กี่รุ่น โดยโน้ตบุ๊คที่ใช้ CPU AMD มักจะมีราคาไม่แพง ไม่เกินสาม-สี่หมื่นบาท โดยรุ่นที่มีขายอยู่ในปัจจุบันจะสามารถแบ่งได้ เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ A, FX Series ตระกูลรุ่นเล็ก ซึ่งปัจจุบันไม่ค่อยวางจำหน่ายแล้ว โดยซีรีส์นี้จะมีรหัสเป็น A8-xxxx, A12-xxxx, FX-xxxx **ไม่แนะนำ ควรข้ามไปตัว Ryzen จะดีกว่า** Ryzen ตระกูลยอดฮิตซึ่งก็แบ่งออกเป็น 3 รุ่นได้แก่ Ryzen 3, Ryzen 5 และ Ryzen 7 เรียงความ แรงจากน้อยไปมาก โดยตระกูล Ryzen ก็แบ่ง ออกเป็น 2 ประเภท คือรหัส U และ H ยก ตัวอย่างเช่น Ryzen 7 3750H, Ryzen 7 7 3700U เป็นต้น โดยตัว U จะเป็นรุ่นประหยัด พลังงาน ตัว H จะเป็นรุ่นประสิทธิภาพสูง

CPU: AMD Ryzen 3 จะอยู่ในโน้ตบุ๊คหมื่นกลางๆ มีเฉพาะรหัส U และเป็นแบบ 2 Core/4 Thread เช่นรุ่น Ryzen 3 3200U, Ryzen 3 2200U เป็นต้น ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ Intel Core i3 Ryzen 5 รุน่ ยอดนิยมไม้เด็ดของ AMD มีทั้งรหัส U และ H เป็นแบบ 4 Core/8 Thread ประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับราคาแล้ว คุ้มมาก จะอยู่ในช่วงราคา หมื่นปลายๆ จนถึงสองหมื่นกลางๆ เช่น Ryzen 5 3500U, Ryzen 5 3550H ประสิทธิภาพมากกว่า Core i3 แต่ต่ำกว่า Core i5 ในรุ่น Gen Ryzen 7 8 รุ่นท็อปประสิทธิภาพสูง มีทั้งรหัส U และ H เป็นแบบ 4 Core/8 Thread เช่น Ryzen7 3750H, Ryzen7 3700U เป็นต้น โดยจะแตกต่างกับ Ryzen5 ตรงที่สปีดสูงกว่าและ ใช้การ์ดจอออนบอร์ดดีกว่า ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ Intel Core i5

สรุปการเลือก CPU ใช้งานไม่หนัก พิมพ์งานเบาๆ ดูหนัง ฟังเพลง Intel รหัสต่อท้ายเป็น U, G หรือ Y เช่น i5-10210U, i7-1065G7 และ i7-8500Y เป็นต้น AMD รหัสต่อท้ายเป็น U เช่น Ryzen 5 2500U หรือ Ryzen 7 3700U เป็นต้น เน้นกราฟิก ตัดต่อ เล่นเกมกราฟิกหนักๆ งบเยอะ Intel รหัสต่อท้ายเป็น H และ HK เช่น i7-9750H และ i9-9980HK เป็นต้น AMD รหัสต่อท้ายเป็น H เช่น Ryzen 7 3750H, Ryzen 5 3550H เป็นต้น 9 ความหมายรหัส U = Ultra Low Power Y = Extremely low power G = Built-in graphics processor H = High performance graphics HK = High performance graphics, unlocked ความหมายของตัวเลข CPU ยกตัวอย่าง Intel Core i7-9750H เลข 9 คือ Gen ของ CPU ซึ่งปัจุบันคือ Gen 9 เลข 750 คือ เลข SKU ของรุ่นนั้นๆ ยิ่งเลขเยอะยิ่งแรง เช่น i7-9850H แรงกว่า i7-9750H

HARDDISK ใช้จัดเก็บข้อมูล ในคอมพิวเตอร์ เมื่อบันทึกไฟล์ลงในคอมพิวเตอร์จะเป็น การบันทึกไฟล์ลงในฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ของคอมพิวเตอร์ ข้อมูลนี้รวมถึงรูปภาพ วิดีโอ เพลง เอกสาร แอปพลิเคชันทั้งหมด มันก็เปรียบเสมือนตู้เก็บของ ซึ่งในปัจจุบันนี้ Harddisk มี 2 ประเภทด้วยกันคือ HDD (Harddisk) โดยทั่วไปจะมีราคาถูกความจุเยอะแต่ความเร็วในการอ่านเขียน ไม่สูงมากปัจจุบันยังใส่มาในโน้ตบุ๊คระดับเริ่มต้น SSD (Solid State Drive) เป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลรุ่นใหม่ที่มีความเร็วในการอ่านเขียน ข้อมูลสูงมากในบางรุ่นอาจสูงกว่า HDD แบบธรรมดาถึง 10 เท่า 11

HARD DISK: HDD HDD ย่อมาจาก Hard Disk Drive มีลักษณะเป็นจานโลหะซึ่งจะหมุนอย่างรวดเรว็ เมื่อทำงาน ปัจจุบันนิยมเป็นขนาด 2.5นิ้ว ที่ใช้กับ Notebook เก็บข้อมูลได้เยอะ มีอายุการใช้งานที่ยาวนานเกือบ 10-15 ปี ราคาถูกกว่า SSD สามารดดัดแปลงเป็น external ได้ (เมื่อไม่ได้ใช้แล้ว) แต่ประสิทธิภาพการบันทึกข้อมูลไม่ได้เร็วมากเท่า SSD อาจเกิดเสียงเวลาทำงาน 12 ดัดแปลงเป็น external

HARD DISK: SSD SSD ย่อมาจาก Solid State Drive คือ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลชนิดหนึ่ง ที่เปลี่ยนจากจานแม่เหล็ก มาเป็น Flash Memory คล้ายกับการเก็บข้อมูลของ Flash Drive โดยจัดเก็บข้อมูลเหมือน Harddisk SSD ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทดแทน Harddisk จึงทำให้สามารถ ใช้งานแทนกันได้ และเนื่องจาก SSD ออกแบบมาโดย วงจรอิเล็กทรอนิกส์ จึงไม่มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหว ส่งผลให้ทนต่อแรงกระแทก หรือแรงสันสะเทือนได้ดี เพราะไม่มีจานหมุนอยู่ด้านใน สามารถอ่านเขียนข้อมูลได้เร็วกว่าฮาร์ดดิสมากกว่า 10 เท่า กินไฟน้อย มีความจุน้อย และราคาสูง เมื่อเปรียบเทียบกับ Harddisk มีขีดจำกัดในการเขียนซ้ำข้อมูล อายุการใช้งานน้อยกว่า หากเกิดความเสียหายแล้วจะไม่สามารถกู้ข้อมูลได้ 13

สรุปการเลือก HDD SSD HDD จะมากับโน้ตบุ๊คราคาย่อมเยา ใช้งานได้ยาวนานกว่าSSD เก็บข้อมูลได้มาก ชำรุ ดจากการอ่านข้อมูลได้ยาก สามารถปรับเปลี่ยนไปเป็น extenal ได้หรือสามารถ เพิ่มSSDที่หลังได้ SSD อ่านข้อมูลเร็วกว่าหลายเท่า เทคโนโลยีใหม่กว่า ขนาดที่เล็กกว่า ไม่ต้องกังวลหากเคลื่อนย้ายโน้ตบุ๊คขณะทำงานอยู่ ราคาถูกสมัยก่อนมาก โน้ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆนิยมใช้กัน 14

GRAPHIC CARD การ์ดจอหรือที่ชอบเรียกกันสั้นๆว่า GPU GPU ย่อมาจาก Graphics Processing unit ไว้สำหรับเป็น หน่วยประมวลผลด้านกราฟิก 3 มิติ สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆได้แก่ การ์ดจอออนบอร์ด การ์ดจอที่อยู่ใน CPU ประสิทธิภาพของการ์ดจอนี้จะไม่สูงนัก เพียงพอต่อการใช้พื้นฐาน ดูหนัง ฟังเพลง แต่งรูป หรือเล่นเกมเบาๆ โดยจะแบ่งเป็น 2 ประเภท ตามยี่ห้อซีพียูเลยคือ Intel ชื่อตระกูลจะเป็น HD และ UHD เช่น UHD Graphics 620, HD Graphics 530 ประสิทธิภาพ UHD จะดีกว่าตัว HD พอสมควร AMD แบ่งเป็น 2 แบบ คือ Radeon R ที่จะอยู่ในซีพียู A, FX Series และ Radeon RX VEGA ที่จะอยู่ในตระกูลโน้ตบุ๊คซีพียู Ryzen แน่นอนว่า RX VEGA ยังไงก็แรงกว่าตัว R ธรรมดาแน่นอน 15

GPU การ์ดจอแยก คือ ชิปประมวลผลที่แยกออกมาจาก CPU โดยมีหน้าที่ ประมวลผลด้านกราฟิกโดยเฉพาะ ทำให้มีประสิทธิภาพ เหนือกว่าการ์ดจอออนบอร์ดมากเลยทีเดียว สามารถแบ่งได้ออกเป็น 2 แบรนด์คือ NVIDIA และ AMD NVIDIA การ์ดจอฝั่ งค่ายเขียว ผู้เป็นเจ้าตลาดในตอนนี้ มีหลายรุ่นหลายแบบ หลายราคามาก ตามการใช้งาน แต่ละประเภท โดยหลักๆ แบ่งออก 3 ตระกูลคือ MX Series (MX150, MX250) ที่ใช้สำหรับโน้ตบุ๊คประหยัดพลังงาน GTX RTX Series (GTX 1050, RTX 2060)ที่ใช้สำหรับเกม มิ่งโน้ตบุ๊คหรือโน้ตบุ๊คประสิทธิภาพสูง และ Quadro Series (Quadro P6000, Quadro P3000) ที่ใช้สำหรับโน้ตบุ๊ค Workstation ทำงานออกแบบด้านกราฟิกโดยเฉพาะ 16

GPU MX Series ปัจจุบันรุ่นล่าสุดที่ใช้คือ MX250 ประสิทธิภาพสูงพอสมควร เล่นเกมอย่าง PUBG ได้สบาย รุ่นที่แนะนำเลยคือ MX250, MX150 โดยจะอยู่ในช่วงโน้ตบุ๊คราคาหมื่นปลายๆ ไปจนถึงสามหมื่นบาท GTX RTX Series รุ่นล่าสุดคือ RTX 2080 โดยคำว่า RTX จะหมายถึงรองรับการ เล่นเกมแบบเปิด Ray Tracing ซึ่งปัจจุบันมีแค่ไม่กี่เกม สำหรับใครที่อยากจะซื้อโน้ตบุ๊คมาเล่นเกมแนะนำตัวที่ใช้ GTX 1060 ขึ้นไปเล่น PUBG ความละเอียด Full HD ปรับ High ได้สบาย จะอยู่ในโน้ตบุ๊คช่วงราคาสองหมื่นกลางๆ ขึ้นไป Quadro Series เป็นการด์จอสำหรับงานออกแบบ เขียนแบบโมเดล 2D 3D เฉพาะทางสุดๆ ไม่ควรซื้อมาใช้เพื่อเล่นเกม มักจะอยู่ในโน้ตบุ๊คราคาห้าหมื่นบาทขึ้นไป **สำหรับคนที่เน้นใช้งานตัดต่อ Render ไฟล์วิดีโอทั่วไปแนะนำใช้ แค่ MX, GTX RTX Series ก็พอ 17

GPU ความหมายของตัวเลขการ์ดจอ NVIDIA ยกตัวอย่าง GTX 1080Ti GTX คือซีรีส์สำหรับเล่นเกม (GTX กับ RTX จะต่างตรงที่ RTX คือซีรีย์ล่าสุด รองรับ Ray Tracing และประสิทธิภาพเหนือกว่า) เลข 10 คือ Gen ของ GPU ซึ่งก็คือ Gen 10 ใช้สถาปัตยกรรม PASCAL (ปัจจุบันตัวล่าสุดคือ RTX 2080Ti) เลข 80 คือ เลข SKU ของรุ่นนั้นๆ ยิ่งเลขเยอะยิ่งแรง ตัวท็อปก็คือเลข 80 Ti หมายถึงรุ่นท็อปของ SKU เลขนั้น แน่นอนว่า GTX 1080Ti ย่อมแรงกว่า GTX 1080 18

GPU AMD ตอนนี้ในตลาดมีน้อยรุ่นมาก หลักๆ จะแบ่งเป็น 2 ตระกูลคือ Radeon กับ Radeon RX ยกตัวอย่างเช่น AMD Radeon 530, AMD Radeon RX560X เป็นต้น Radeon จะเป็นการ์ดจอรุ่นรองมักจะอยู่ในโน้ตบุ๊คที่ใช้ CPU ประหยัดพลังงาน ประสิทธิภาพใกล้เคียง NVIDIA MX Series แต่ต่ำกว่า ถ้าเลือกได้แนะนำหาตัวที่ใช้ MX Series ดีกว่า Radeon RX ในตลาดที่ใช้อยู่ตอนนี้มีอยู่แค่ไม่กี่ตัว ซึ่งก็คือ RX560X ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ GTX 1050 จะอยู่ในโน้ตบุ๊คตั้งแต่หมื่นกลางๆ ไปจนถึงสองหมื่นนิดๆ 19

สรุปการเลือก GPU ทำงานเบาๆ ดูหนังฟังเพลงทั่วไป Intel ออนบอร์ดจะเป็นตัว HD, UHD AMD ออนบอร์ดจะเป็นตัว Vega 3, 5, 7 NVIDIA การ์ดจอแยกจะเป็นรุ่น MX130, MX150, MX250 เป็นต้น เกมมิ่งโน้ตบุ๊ค AMD จะเป็นซีรีส์ Rade on หรือ Radeon RX เช่น Radeon 520 , Radeon RX5500M เป็นต้น NVIDIA จะเป็นซีรีส์ GeForce GTX หรือ RTX เช่น GTX 1660, RTX 2060 เป็นต้น การ์ดจอแยกจำเป็นอย่างมากสำหรับคนที่ตั้งใจ จะซื้อโน้ตบุ๊คมาเพื่อเล่นเกม ซึ่งประสิทธิภาพการเล่นเกม ตัว GPU มีผลมากกว่า CPU ยกตัวอย่างเช่นมี โน้ตบุ๊ค 2 เครื่อง สเปค i7-9750H+GTX1650 กับ i5-9300H+GTX1660Ti ควรเลือกตัวที่จะมาเล่นเกม คือi5-9300H + GTX 1660Ti เพราะสเปคนี้มีการ์ดจอประสิทธิภาพแรงกว่านั่นเอง 20

RAM RAM ย่อมาจาก Random Access Memory หน่วยความจำชั่วคราว ช่วยในการทำงานเพิ่มความเร็ว ในการเขียน/อ่านข้อมูล หากมีแรมที่สูงด้วยแล้ว คุณภาพในการทำงานของโน้ตุบ๊คก็จะสูงตามไปด้วย วิธีดูสเปค Ram จะดูที่ ความจุ, DDR และ Bus เป็นหลัก เช่น Ram 4 GB DDR3 Bus 1666, Ram 8 GB DDR4 Bus 2400 เป็นต้น GB คือพื้นที่ในการฝากข้อมูล การรันประมวลผลของ CPU ถ้าเรามีพื้นที่ในความจุน้อยก็จะส่งผลให้การส่งถ่าย ข้อมูลในการทำงานได้น้อยลงไปด้วย DDR (Double Data Rate RAM) ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่ม ความเร็วในการรับส่งข้อมูลระหว่างโปรแกรม คอมพิวเตอร์และหน่วยประมวลผลกลาง BUS 21 ตัวเลขที่แสดงค่าความเร็วในการส่ง สัญญาณข้อมูลไปยังส่วน CPU

RAM 8 GB DDR4 RAM 8 GB DDR3L แต่ตัวนี้เป็นแบบ Ram 4 GB 2 แถว แบบนี้จะแรงกว่าตัวบน เพราะทำงานเป็น Dual Channel 22

สรุปการเลือก RAM ทำงานเบาๆ ดูหนังฟังเพลงทั่วไป ความจุ ควรอยู่ที่ประมาณ 4-8 GB (ถ้ามีงบแนะนำ 8GB เพราะwindowสมัยนี้กินแรมมากขึ้น) DDR3 หรือ DDR4 ทำงานหนัก ตัดต่อ เล่นเกม กราฟิกหนักๆ ความจุ ควรอยู่ที่ประมาณ 8 GB หรือ 8GB ขึ้นไป (ถ้าอยากซื้อมาใส่เพิ่มก็ได้แต่ต้องเช็คสเปคเครื่องดีๆ) จะใส่ 2 แถว(หรือมากกว่า)ก็ได้ DDR4 หรือ DDR4X 23

DISPLAY SCREEN หน้าจอก็ถือเป็นส่วนสำคัญไม่แพ้กัน เพราะการแสดงผล หรือการใช้งานต่างๆก็ขึ้นอยู่กับหน้าจอด้วย อาการตาล้าจากการใช้โน้ตบุ๊คเพราะเราต้อง จ้องมองมันตลอดเวลาที่ใช้งาน มันจึงเป็นส่วนสำคัญ ที่ควรเลือกด้วยความใส่ใจเป็นอย่างมาก เพราะการเปลี่ยนจอเองนั้นอาจมีผล ทำให้หมดประกันอีกด้วย โดยสามารถแบ่งการดูสเปคจอได้ดังนี้ ชนิดของจอภาพ (Panel Type) เทคโนโลยีจอภาพนั้นมีหลากหลาย แต่ที่เห็นในโน้ตบุ๊คปัจจุบันจะมีเพียงแค่ พาเนล TN (Twisted Nematic) และพาเนล IPS (In-plane Switching) ซึ่งเทคโนโลยีจอเหล่านี้นั้นจะเป็นหน้าจอแบบ LCD ทั้งหมด 24

DISPLAY SCREEN พาเนล TN จะเป็นเทคโนโลยีเก่า ต้นทุนต่ำ ส่วนมากจะนำมาใช้กับ โน้ตบุ๊คราคาไม่เกิน 20,000 บาท ข้อเสียคือ มุมมองภาพแคบ เวลามองเหลือบ ๆ หรือมองจากด้านข้าง ก็จะเป็นสีฟุ้ง ๆ ภาพซีดจาง จึงไม่เหมาะที่จะทำงานด้านกราฟิก และยังไม่เป็นมิตร กับดวงตาเราด้วยหากใช้หน้าจอนี้นานๆ เหมาะกับการใช้งานทั่วไป สำหรับคนที่ไม่ได้คิดมาก ก็อาจจะเลือก TN Panel มาเป็นตัวเลือกสำหรับเรียน หรือทำงานเอกสารได้ เนื้องจากเป็นการลดต้นทุน ในการผลิตทำให้ โน้ตบุ๊คมีราคาที่ถูกลง 25

DISPLAY SCREEN พาเนล IPS เป็นเทคโนโลยีใหม่ ที่ทำให้จอภาพมีสีสันสดใส องศาการมองภาพกว้าง มีค่าสีที่แม่นยำ ส่วนมากจะใช้ สำหรับโน้ตบุ๊คที่ใช้งานด้านกราฟิก เนื่องจาก มีค่าความสว่าง และสีที่เที่ยงตรงมากกว่าแบบ TN จะเจอในโน้ตบุ๊คกลุ่มราคาประมาณ 15,000 ขึ้นไป การใช้งานจริงนั้นจอพาเนล IPS นั้นจะไม่ทำให้ปวดตา เมื่อใช้งานนาน ๆ เพราะเรื่องของมุมมอง และคอนทราสของหน้าจอที่ดีกว่า 26

DISPLAY SCREEN ขอบเขตสีของหน้าจอ (Color Space) การแสดงสีสันของหน้าจอนั้น ขึ้นอยู่กับความกว้างของ การแสดงสีตามมาตรฐานต่าง ๆ หลักๆจะมีอยู่ 3 แบบ ได้แก่ sRGB ขอบเขตสีเริ่มต้นที่ใช้แพร่หลายในยุคปัจจุบัน AdobeRGB ขอบเขตสีสำหรับการแต่งภาพและสื่อสิ่งพิมพ์ และ DCI-P3 ขอบเขตสีสำหรับคอนเทนต์ภาพยนต์ แต่ขอบเขตสี NTSC นั้น ไม่ได้ถูกนำมาใช้ หรืออ้างอิงในมาตรฐานปัจจุบันแล้ว แต่ทางผู้ผลิตหน้าจอกลับนำมาใช้เป็นตัวกำกับ ว่าหน้าจอนั้นๆแสดงสีได้ในระดับใด วิธีสังเกตุได้ดังต่อไปนี้ 45% NTSC คือการแสดงช่วงสี sRGB ที่ประมาณ 55-66% 72% NTSC คือการแสดงช่วงสี sRGB ที่ประมาณ 93-100% 94% NTSC คือการแสดงช่วงสี sRGB ที่ประมาณ 130% + ตัวอย่างสเปคหน้าจอที่อาจพบได้ 15.6 Full HD IPS 45% NTSC 15.6 Full HD IPS up to 100% sRGB 27

DISPLAY SCREEN หน้าจอที่แสดงตัวเลขเปอเซ็นต์ได้สูงบอกถึง จอที่แสดงสีได้กว้างขึ้น จอจะยิ่งมีสีสันที่จัดจ้านขึ้น สีสดขึ้น ไล่เฉดสีได้ดีขึ้น เม็ดสีดูละเอียด และยังทำให้เรามองเห็นรายละเอียดของส่วนเงามืดได้ดีขึ้น เรียกง่าย ๆว่าจอที่ขอบเขตสีกว้างนั้นเหมาะสำหรับทุกคน ไม่ได้จำเพาะเจาะจงว่าต้องเป็นคนที่ใช้แต่งภาพ ออกแบบ กราฟิก หรืองานเฉพาะทางเท่านั้น เพราะข้อดีขั้นพื้นฐาน ของมันคือ \"การทำให้จอดูสีสวยมากขึ้น\" ชนิดพื้นผิวของหน้าจอ ในปัจจุบันจะมี 2 ตัวจะมีเป็น ผิวด้าน (Anti-glare, Matte) ช่วยลดแสงสะท้อนเข้ามาที่จอ ทำให้เห็นภาพชัดเจน แม้อยู่ในที่ มีแสงสว่างมาก ปัจจุบันจอภาพส่วนใหญ่จะเป็นผิดด้านเกือบจะทั้งหมด ผิวมันเงา (Glossy) ผิวมันเงา คือจะให้ภาพที่ดูคมชัดกว่า ส่วนมากจะเป็นกระจก และมาพร้อมกันโน้ตบุ๊คที่เป็นจอสัมผัส หรืออาจจะเป็นการเครื่องฟิล์มมาเฉย ๆ ก็ได้ซึ่งจะไม่ใช่จอสัมผัสข้อเสีย ของจอแบบ Glossy คือ มันจะสะท้อน แสง หรือเงาของวัตถุต่าง ๆ ทำให้เราเกิดความรำคาญสายตาได้ 28

DISPLAY SCREEN ความละเอียด (Resolution) คือค่าความละเอียด ระบุเป็นพิกเซล ของจอภาพ ตัวอย่างเช่น HD 1366x768px, FHD 1920x1080px หรือ UHD 3840x2160px ซึ่งค่าตัวเลขเหล่านี้ จะเป็นค่าตัวเลขที่จอภาพสามารถแสดงออกมาได้ มันคือค่าด้านแนวนอน x แนวตั้ง เช่น 1920x1080px = แนวนอนมีเม็ดพิกเซลเรียงตัวกัน อยู่จำนวน 1920 Pixel และแนวตั้งมีค่าเม็ดพิกเซลเรียงตัวกัน ทั้งหมด 1080 Pixel นั้นเอง ยิ่งมีมาก จอภาพก็จะยิ่งละเอียดมาก ค่าความสว่าง (Brightness) จอภาพมีระดับความสว่างใช้หน่วยเป็น nits (นิตส์) จอโน้ตบุ๊คส่วนใหญ่จะมีค่าความสว่างอยู่ที่ 220 – 250 nits หรือหากเป็นจอที่เป็นเกรดสูง ๆ หน่อยก็จะมีค่าความสว่างที่ 300 – 350 nits ซึ่งยิ่งสว่างมาก ก็จะยิ่งสู้แสงภายนอกได้มาก จึงทำงานนอกสถานที่ได้ดี ที่มีแสงสว่างเยอะโดยรอบ ถ้าจอสว่างไม่เพียงพออาจทำให้เห็นภาพไม่ค่อยชัดเจนนั่นเอง 29

DISPLAY SCREEN Refresh Rate (อัตราการกระพริบ) ค่านี้มีผลต่อความลื่นไหลของภาพในการใช้งาน เป็นการแสดงผลในการกระพริบของหน้าจอ ค่ามาตรฐานของจอทั่วไปนั้นจะมีค่า Refresh Rate ที่ 60Hz ซึ่งหมายถึงใน 1 วินาทีนั้นหน้าจอจะมีรอบการกระพริบหน้าจอ ที่ความถี่ 60 ครั้งปัจจุบันมีราคาเฉลี่ยตั้งแต่ 2 หมื่นขึ้นไป ในซีรี่ย์ตระกูล Gaming ล้วนเป็นจอที่มี Refresh Rate สูง ๆ ตั้งแต่ 120Hz ถึง 144Hz นั่นหมายถึง ใน 1 นาที หน้าจอจะกระพริบถี่มาก ส่งผลต่อการแสดงผล ให้เราเห็นความลื่นไหลของภาพได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอนิเมชั่น การเลื่อนหน้าเว็บ การเล่นเกมที่ยิ่งGPU สามารถสร้างจำนวนเฟรม ต่อวินาทีได้สูง จอก็ยิ่งแสดงผลให้ตาเรา ได้เห็นความลื่นไหลนั้นมากยิ่งขึ้น 30

สรุปการเลือก หน้าจอ ทำงานเบาๆ ดูหนังฟังเพลงทั่วไป พาเนลแบบ TN อาจเพียงพอแต่อยากให้ใช้ IPS มากกว่า ความชัดและขนาดเลือกตามความเหมาะสมกับเรา Refresh Rate ที่ 60 Hz อาจเพียงพอ ทำงานหนัก ตัดต่อ เล่นเกม กราฟิกหนักๆ พาเนล IPS Full HD หรือ UHD+ Refresh Rate ที่ 120 Hzหรือมากกว่า ความชัดและขนาดเลือกตามความเหมาะสมกับเรา 31

WARRANTY การรับประกัน บริการหลังการขายก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะเราไม่รู้หรอกว่าเครื่องเราจะมีปัญหาขึ้นมาเมื่อไหร่ แต่หากเครื่องเสียขึ้นมาก็ต้องนำเครื่องไปเช็ค ไปซ่อมที่ร้านอยู่ดี การรับประกับศูนย์บริการของแบรนด์นั้นๆ ก็จะมีบริการที่ต่างกันเล็กน้อย ประกันเครื่องโดยทั่วไป จะมีประกันเครื่องในกรณีเสียหรือชำรุด เริ่มต้นที่ 1 ปี บางรุ่นอาจสูงถึง 3 ปีและอย่าลืมอ่านเงื่อนไขประกัน เพราะความเสียบางกรณีก็อยู่นอกเหนือการรับประกัน การรับประกันมีทั้งแบบติอต่อร้านเอง หรือ on-service โดยหลักๆบริการหลังการขายเราจะต้อง ไปดำเนินการที่ร้านค้า หรือติดต่อกับศูนย์เอง ไม่เหมือนกับตามสำนักงาน ที่จะมีบริการซ่อมอุปกรณ์ถึงที่ สรุป เราอาจจะดูว่ารับประกันกี่ปี มีส่วนไหนที่ไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขการรับประกันบ้าง 32

จัดทำโดย นาย ไกรวิชญ์ แก้วกัลยา รหัสนักศึกษา 630610471 ชั้นปีที่ 2 เทคโนโลยีการศึกษา ศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร

หวังว่าคู่มือนี้จะมีประโยชน์ กับผู้ที่สนใจไม่มากก็น้อย หากข้อมูลผิดพลาดประการใด ต้องขออภัย ณ ที่นี้ด้วย