Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ทศพร-11

ทศพร-11

Published by ทศพร ศรีปัดถา, 2020-02-18 21:01:47

Description: ทศพร-11

Search

Read the Text Version

ระบบเศรษฐกจิ ของประเทศติมอร์-เลสเต จัดทำโดย นายทศพร ศรีปัดถา ช้นั ปวช.2/1 แผนกคอมพวิ เตอร์ธุรกิจ เลขท่ี 11 เสนอ ครูจนั ทนา ลยั วรรณา รายการเลม่ น้ีเป็นส่วนหน่ึงของวชิ า เศรษศาสตร์เบ้ืองตน้ รหสั วิชา 2200-1001 ภาคเรียนที่ 2 ประจาปี การศึกษา 2562 วิทยาลยั เทคนิคจนั ทบุรี

ก คำนำ รายงานเลม่ น้ีจดั ทาข้ึนเพ่ือใหไ้ ดศ้ ึกษาเกี่ยวกบั ระบบเศรษฐกิจในประเทศ ติมอร์-เลสเตในปัจจุบนั รวมถึงศึกษาสภาพการณ์ดา้ นเศรษฐกิจของประเทศติมอร์- เลสเต หวงั วา่ รายงานน้ีจะเป็นประโยชนแ์ ก่ผอู้ า่ นไมม่ ากก็นอ้ ยหากผิดพลาดประการ ใดก็อภยั มา ณ ท่ีน้ี ผจู้ ดั ทา นายทศพร ศรีปัดถา

สำรบญั ข เร่ือง หน้ำ คานา ก สารบญั ข ขอ้ มลู ประเทศ 1-2 เศรษฐกิจ การคมนาคม 3 4-6 สภาพการณ์ดา้ นเศรษฐกิจ 7-9 สรุปขอ้ มลู เศรษฐกิจ 10 ค โครงสร้างเศรษฐกิจ บรรณานุกรม

1 ข้อมูลประเทศ ติมอร์-เลสเต มีช่ือเรียกอยา่ งเป็นทางการวา่ สาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์- เลสเต เป็นประเทศที่ต้งั อยบู่ นเกาะในภูมิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ ประกอบดว้ ย เกาะติมอร์ดา้ นตะวนั ออก เกาะอาเตารู (Atauro) และเกาะฌากู (Jaco) ท่ีอยใู่ กลเ้ คียง และเทศบาลโอเอกซู ี (Oecusse) ซ่ึงต้งั อยบู่ นฝ่ังตะวนั ตกของเกาะติมอร์ ติมอร์ ตะวนั ออกถูกลอ้ มรอบโดยพ้นื ที่ของประเทศอินโดนีเซีย แตเ่ ดิมประเทศติมอร์-เลสเตถูกปกครองโดยประเทศอินโดนีเซีย ซ่ึงไดย้ ดึ ครอง ติมอร์ตะวนั ออกเป็นจงั หวดั หน่ึงของประเทศเมื่อปี พ.ศ. 2518 (ค.ศ. 1975) และในปี พ.ศ. 2542 (ค.ศ. 1999) ติมอร์ตะวนั ออกไดแ้ ยกตวั เป็นอิสระ และไดร้ ับเอกราชอยา่ ง เตม็ ตวั เมื่อวนั ท่ี 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2545 (ค.ศ. 2002) เมื่อประเทศติมอร์ตะวนั ออกเขา้ ร่วมองคก์ ารสหประชาชาติในปี เดียวกนั กไ็ ดต้ กลงวา่ จะเรียกประเทศอยา่ งเป็นทางการ วา่ \"ติมอร์-เลสเต\" ซ่ึงเป็นช่ือในภาษาโปรตุเกส มีดอกไมป้ ระจาชาตคิ ือดอกกหุ ลาบ

2 ที่ต้งั :ทิศเหนือทิศตะวนั ออกทิศตะวนั ตกติดกบั อนิ โดนีเซียทิศใตต้ ดิ กบั ทะเลติมอร์ และ ออสเตรลีย พืน้ ท่ี :14,609ตารางกิโลเมตร(ประมาณจงั หวดั อุบลราชธานี) เมืองหลวง :กรุงดิลี ประชำกร :1.3ลา้ นคน(2560) ภำษำรำชกำร:โปรตเุ กสและเตตมุ ศำสนำ:คริสตน์ ิกายโรมนั คาทอลิกร้อยละ91.4 :คริสตน์ ิกายโปรเตสแตนท์ ร้อยละ2.6 : อิสลาม ร้อยละ 1.7 ประมขุ :ประธานาธิบดี ดร.ฟรงั ซิชกู กแู ตร์รึชลู โอลู ผ้นู ำรัฐบำล:นายกรัฐมนตรี ตาอรู ์ มาตงั รูวกั รัฐมนตรีต่ำงประเทศ:ดีโยนีซียู บาโบโซวารึช ระบอบกำรปกครอง:ประชาธิปไตยมีประธานาธิบดีเป็นประมขุ และมนี ายกรัฐมนตรีเป็น หวั หนา้ ฝ่ายบริหาร(ดารงตาแหน่งวาระละ5ปี ) เขตกำรปกครอง:13จงั หวดั วนั ชำติ :20พฤษภาคม วนั สถำปนำควำมสัมพนั ธ์ ทำงกำรทตู กบั ไทย:20พฤษภาคม2545 หน่วยเงนิ ตรำ:ดอลลาร์สหรัฐ(USD)

3 เศรษฐกจิ กำรคมนำคม ลูท่ างการคา้ การลงทุนในติมอร์ตะวนั ออกที่มีศกั ยภาพ คือ ไร่กาแฟ การ ประมง ธุรกิจการทอ่ งเที่ยว รวมถึงแหลง่ ทรพั ยากรประเภทน้ามนั ดิบ และก๊าซธรรมชาติในเขต Timor Gap ซ่ึงอยรู่ ะหวา่ งติมอร์ตะวนั ออกกบั ออสเตรเลีย อยา่ งไรกด็ ี ธุรกิจเหล่าน้ียงั จาเป็นตอ้ งไดร้ ับการพฒั นา และการสนบั สนุนดา้ น การเงินจากนกั ลงทุนภายนอกอยมู่ าก เนื่องจากติมอร์ตะวนั ออกยงั ขาดเงินทนุ และ ชาวติมอร์ตะวนั ออกยงั ขาดทกั ษะในการประกอบกิจกรรมทางเศรษฐกิจ กอปรกบั ในปัจจุบนั มีอตั ราผวู้ า่ งงานสูงประมาณร้อยละ 80 ซ่ึงในส่วนของนกั ธุรกิจไทย จาเป็นตอ้ งศึกษาความเป็นไปไดข้ องระเบียบรวมถึงอุปสรรคดงั กลา่ วต่าง ๆ ขา้ งตน้ เพอ่ื ประกอบการพจิ ารณาถึงความเสี่ยงในการลงทุนในติมอร์เลสเต และขณะน้ี สินคา้ ส่วนใหญ่ในติมอร์ตะวนั ออกนาเขา้ จากออสเตรเลีย เพอื่ รองรับการบริโภค ของคณะเจา้ หนา้ ที่จากสหประชาชาติและคณะทูตที่ปฏิบตั ิงานในติมอร์ตะวนั ออก ใจกลางกรุงท่าอากาศยานนานาชาติดิลี (Presidente Nicolau Lobato International Airport) เป็นสนามบินนานาชาติเพียงแห่งเดียวในติมอร์ตะวนั ออก และท่าเรือติมอร์ และ ทา่ เรือดิลี ท่าเรือสาคญั ของประเทศ

4 สภำพกำรณ์ด้ำนเศรษฐกจิ 1.1 ติมอร์-เลสเตยงั ไมม่ ีงบประมาณเป็นของตนเองในการฟ้ื นฟแู ละบรู ณะ ประเทศ งบประมาณส่วนใหญท่ ่ีใชใ้ น การบูรณะประเทศมาจากความช่วยเหลือจาก ตา่ งประเทศและการรับความช่วยเหลือจากนานาชาติผา่ นท่ีประชุมประเทศผู้ บริจาค เงินใหต้ ิมอร์-เลสเต (Donor’s Meeting) ซ่ึงจดั การประชุมแลว้ 5 คร้ัง คือ คร้ังแรกที่ กรุงโตเกียว เม่ือเดือน ธนั วาคม 2542 คร้ังที่สองเมื่อเดือนมิถนุ ายน 2543 ท่ีกรุงลิสบอน คร้ังท่ีสามเมื่อเดือนธนั วาคม 2543 ท่ี กรุงบรัสเซลส์ และคร้ังท่ี4 ณ กรุงออสโล เม่อื เดือนธนั วาคม 2544 ซ่ึงประเทศตา่ งๆไดส้ ญั ญาท่ีจะใหค้ วามช่วยเหลือดา้ นการเงินแก่ ติมอร์- เลสเตท้งั ในระยะส้ันและระยะยาว การประชุมฯ คร้ังสุดทา้ ยมขี ้ึนระหวา่ ง 14- 15 พฤษภาคม 2545 ท่ีกรุงดิลี 1.2 กิจกรรมทางเศรษฐกิจส่วนใหญใ่ นติมอร์-เลสเต จะเก่ียวขอ้ งกบั โครงการ ฟ้ื นฟบู รู ณะประเทศทีด่ าเนินการโดย UNMISET อยา่ งไรกด็ ี สภาพความเสียหาย ในช่วงการก่อความไมส่ งบของกองกาลงั militia ไดท้ าลายอาคารบา้ นเรือน ระบบการ สื่อสาร โครงสร้างพ้นื ฐานเกือบท้งั หมด รวมท้งั เอกสารหลกั ฐานทางราชการ ซ่ึงเป็น อปุ สรรคสาคญั ตอ่ การพฒั นา เศรษฐกิจของติมอร์-เลสเต ทาใหน้ กั ลงทนุ จากภายนอก ยงั ไม่มนั่ ใจท่ีจะเขา้ ไปลงทนุ อยา่ งถาวร อยา่ งไรก็ดี รัฐบาลและ UNMISET ไดพ้ ยายาม แกไ้ ขปัญหาในเบ้ืองตน้ โดยการจดั ระเบียบทางกฎหมายเพ่อื อานวยความสะดวกแก่ นกั ลงทุน ชาวตา่ งชาติ อาทิการดูแลสญั ญาเช่าที่ดินเพอ่ื ประกอบกิจการของบริษทั ต่างชาติ

5 1.3 ลทู่ างการคา้ การลงทุนในติมอร์เลสเตท่ีมีศกั ยภาพ คือ ไร่กาแฟ ภาคการ ประมง ธุรกิจการทอ่ งเท่ียว รวมถึง แหล่งทรพั ยากรประเภทน้ามนั ดิบและก๊าซ ธรรมชาติในเขต Timor Gap ซ่ึงอยรู่ ะหวา่ งติมอร์-เลสเตกบั ออสเตรเลีย อยา่ งไรก็ ดี ธุรกิจเหล่าน้ียงั จาเป็นตอ้ งไดร้ ับการพฒั นาและสนบั สนุนดา้ นการเงินจากนกั ลงทนุ ภายนอกอยมู่ าก เนื่องจากติมอร์-เลสเต ยงั ขาดเงินทุน และชาวติมอร์-เลสเตยงั ขาด ทกั ษะในการประกอบกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ในปัจจุบนั มีอตั ราผวู้ า่ งงาน สูงประมาณ ร้อยละ 80 ซ่ึงในส่วนของนกั ธุรกิจไทยจาเป็นตอ้ งศึกษาความเป็นไปไดข้ องระเบียบ รวมถึงอปุ สรรคดงั กลา่ วต่าง ๆ ขา้ งตน้ เพือ่ ประกอบการพจิ ารณาถึงความเส่ียงในการ ลงทนุ และขณะน้ีสินคา้ ส่วนใหญ่ในติมอร์-เลสเตนาเขา้ จาก ออสเตรเลียเพือ่ รองรับ การบริโภคของคณะเจา้ หนา้ ที่จากสหประชาชาติและคณะทตู 1.4 ความไมพ่ ร้อมในดา้ นตา่ ง ๆ ท าใหต้ ิมอร์-เลสเตประสบปัญหาเร่ืองการรักษา ความมน่ั คงภายใน ดงั น้นั ในช่วง แรกของการเป็นประเทศเอกราช ติมอร์-เลสเต จาเป็นตอ้ งดาเนินนโยบายทางการทตู เพอื่ ใหร้ ะบบการเมืองและเศรษฐกิจ ดาเนิน ตอ่ ไปไดอ้ ยา่ งตอ่ เน่ือง ติมอร์-เลสเตจาเป็นตอ้ งมีความสมั พนั ธ์ท่ีดีโดยเฉพาะกบั อินโดนีเซีย เพอ่ื ป้องกนั ปัญหาการ กระทบกระทงั่ ระหวา่ งกนั บริเวณชายแดนท่ีติดกบั ติมอร์ตะวนั ตกของอินโดนีเซีย การเจรจากรณี Timor Gap ซ่ึงเป็นปัญหา เขตทบั ซอ้ น ทางทะเลระหวา่ งติมอร์-เลสเตกบั ออสเตรเลีย รวมถึงการเขา้ ร่วมในองคก์ รท่ีสาคญั ใน ภมู ิภาค อาทิ อาเซียน ซ่ึง ในทางการเมืองจะเป็นหลกั ประกนั ท่ีดีต่ออธิปไตยและความ มน่ั คงของติมอร์-เลสเต หรือการเขา้ ร่วมกบั กลมุ่ ประเทศใน แปซิฟิ กใตจ้ ะทาใหต้ ิมอร์- เลสเตไดร้ ับสิทธิพเิ ศษทางภาษีศุลกากรและดา้ นการคา้ จากประเทศที่พฒั นาแลว้

6 1.5 การคา้ ระหวา่ งไทยกบั ติมอร์-เลสเตต้งั แตป่ ี 2543-2547 มีมูลคา่ การคา้ รวม เฉลี่ยปี ละ 4.29 ลา้ นดอลลาร์ สหรัฐ ในปี 2547 มลู ค่าการคา้ รวม ไดแ้ ก่ 2.43 ลา้ น ดอลลาร์สหรัฐโดยไทยไดด้ ุล 2.4 ลา้ นดอลลาร์สหรัฐ แร่ธาตทุ ่ีสาคญั ของติมอร์ น้ามนั ดิบ กา๊ ซธรรมชาติ. พืชสาคญั ของติมอร์ กาแฟ มะพร้าว โกโกข้ า้ วโพด สตั ว์ เศรษฐกิจท่ีสาคญั ของติมอร์ โค กระบือ แกะ มา้ ทรพั ยากรสตั วน์ ้า สินคา้ ส่งออกที่ สาคญั ของติมอร์ กาแฟ เน้ือมะพร้าวแหง้ สาหรบั ผลิตน้ามนั สินคา้ นาเขา้ ท่ีสาคญั ของ ติมอร์ น้ามนั ยานพาหนะ ขา้ ว แป้ งสาลี น้าตาล อาหาร และเครื่องจกั ร ตลาดส่งออก สาคญั ออสเตรเลีย ญี่ป่ นุ โปรตเุ กส สหรัฐฯ บงั กลาเทศ อิตาลี ตลาดนาเขา้ สาคญั อินโดนีเซีย ออสเตรเลยี สิงคโปร์ เวียดนาม บงั กลาเทศ โปรตเุ กส

7 สรุปข้อมูลเศรษฐกจิ ขอ้ มลู เศรษฐกิจของประเทศติมอร์-เลสเต ประเทศติมอร์-เลสเตนบั เป็นประเทศใหมข่ องโลก และอยใู่ นรายการของ United Nations ในฐานะที่เป็นประเทศดอ้ ยพฒั นา (Least developed country) ติมอร์- เลสเตมีแผนพฒั นาเศรษฐกิจโดยเนน้ การพฒั นาใน 3 เร่ืองหลกั คือ การบริหารจดั การ ประเทศที่ดี (good governance) การลดความยากจน และการพฒั นาในเร่ืองความมน่ั คง ทางอาหาร (food security) ในปี 2005 ติมอร์-เลสเตมีผลิตภณั ฑม์ วลรวมประชาชาติ (GDP) ประมาณ 336 ลา้ นเหรียญสหรัฐฯ และลดลงเลก็ นอ้ ยในปี 2006 ท่ีประมาณ 331 ลา้ นเหรียญสหรัฐฯ อยา่ งไรก็ดีนบั ต้งั แต่เดือนเมษายน 2007 ติมอร์-เลสเตมีการเติบโตทางเศรษฐกิจอยา่ ง รวดเร็ว ซ่ึง Asian Development Bank คาดการณ์วา่ อตั ราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP growth rate) ของติมอร์-เลสเตจะอยทู่ ี่ประมาณ 6.5 % หากประเทศอยใู่ นความ สงบและไมม่ ีสงครามกลางเมอื ง ติมอร์-เลสเตเป็นประเทศผผู้ ลิตสินคา้ เกษตรซ่ึงมีประสิทธิภาพการผลิตที่ต่า ประชากรส่วนใหญ่กวา่ ร้อยละ 90 ตอ้ งพ่งึ พาสินคา้ เกษตร ท้งั น้ีนบั ต้งั แต่ปี 2004 รายได้ ของประเทศมาจากน้ามนั และกา๊ ซธรรมชาติมมี ลู คา่ เพ่ิมมากข้ึน ทรัพยากรธรรมชาติที่สาคญั ของติมอร์-เลสเต คือแร่ธาตุ เช่น ทองคา เงิน ทองแดง มงั กานีส ซลั เฟอร์ และโปรแตสเซียม รวมท้งั หินออ่ นและหินทราย สาหรับ สินคา้ เกษตรที่สาคญั คือ กาแฟ ซ่ึงเป็นสินคา้ ส่งออกอนั ดบั หน่ึงของตมิ อร์-เลสเต โดย พชื เศรษฐกิจที่สาคญั คือ กาแฟ วานิลา และมะพร้าว นอกจากน้ียงั เป็นประเทศที่มีป่ าไม้ อุดมสมบูรณ์ มีปลาและสินคา้ ประมง และเป็นแหลง่ กา๊ ซธรรมชาติและน้ามนั ที่สาคญั

8 ใน Timor Sea ดว้ ย โดยต้งั แต่ปี 2002 ติมอร์-เลสเตไดม้ ีการลงนามใน Timor Sea Treaty กบั ประเทศออสเตรเลีย โดยกาหนด Joint Petroleum Development Area (JSDA) และ Timor Sea Designated Authority (TSDA) ซ่ึงมีผลใชบ้ งั คบั ต้งั แต่ 2 เมษายน 2003 ส่งผลใหเ้ กิดการสารวจและการผลิตน้ามนั และกา๊ ซธรรมชาติภายใต้ JPDA ขอ้ มลู การคา้ ระหวา่ งประเทศของติมอร์-เลสเต เม่ือพิจารณาจากขอ้ มลู ทางการคา้ ของติมอร์-เลสเต ซ่ึงขอ้ มลู ลา่ สุดที่มีอยเู่ ป็น ขอ้ มูลจาก UN ESCAP (ในปี 2008) เป็นขอ้ มลู สถิติการคา้ ถึงปี 2006 การคา้ ระหวา่ งประเทศของติมอร์-เลสเต ในช่วงปี 2004 และ 2005 อยใู่ นภาวะ ขาดดุลทางการคา้ โดยขาดดุลการคา้ ประมาณ 40.5 ลา้ นเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2004 และ 65.7 ลา้ นเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2005 ซ่ึงติมอร์-เลสเต เป็นประเทศดอ้ ยพฒั นาประเทศ ใหม่ งบประมาณส่วนใหญจ่ ึงมาจากความช่วยเหลือจากตา่ งประเทศ การนาเขา้ ในปี 2004 ติมอร์-เลสเต จะพ่งึ พาการนาเขา้ ในสินคา้ หลกั 3 ประเภท คือ เช้ือเพลงิ เครื่องจกั รเครื่องมือดา้ นการขนส่งและไฟฟ้า โดยสินคา้ หลกั สาคญั ดงั กลา่ วคิดเป็นมูลค่านาเขา้ ถึงประมาณร้อยละ 54 ของมลู ค่าการนาเขา้ ท้งั หมด สาหรับ สินคา้ ประเภทอาหารน้นั ติมอร์-เลสเตไมพ่ ่งึ พาการนาเขา้ สินคา้ อาหารมากเทา่ กบั สินคา้ ประเภททุน

9 เนื่องจากประเทศอยรู่ ะหวา่ งการบูรณะและพฒั นาประเทศ เมื่อพิจารณาจาก มูลคา่ การนาเขา้ สินคา้ จากตา่ งประเทศ ในปี 2006 ติมอร์-เลสเตนาเขา้ สินคา้ จาก ประเทศไทยเป็นอนั ดบั ท่ี 5 รองจากอนิ โดนีเซีย สิงคโปร์ ออสเตรเลีย และเวียดนาม ตามลาดบั โดยมีมูลคา่ นาเขา้ จากไทยประมาณ 3,031,000 เหรียญสหรัฐฯ เพ่มิ ข้ึนจาก 1,122,000 เหรียญสหรัฐฯ ในปี 2005 โดยสินคา้ สาคญั ท่ีนาเขา้ จากไทยคือ ขา้ ว น้าตาล และเครื่องยนตส์ ันดาปภายใน เป็นตน้ การส่งออก สินคา้ ส่งออกท่ีสาคญั ของตมิ อร์-เลสเต คือ กาแฟ โดยส่งออกไปยงั สหรัฐอเมริกาและอินโดนีเซียเป็นหลกั ซ่ึงตลาดส่งออกหรือประเทศผนู้ าเขา้ ท่ีสาคญั ของติมอร์-เลสเตในปี 2006 คือ สหรัฐอเมริกา เยอรมนี อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และ ออสเตรเลีย สาหรับประเทศไทยเป็นประเทศผนู้ าเขา้ ลาดบั ท่ี 6 โดยติมอร์-เลเตส่ง สินคา้ ไปยงั ประเทศไทยคิดเป็นมูลคา่ ประมาณ 212,000 เหรียญสหรัฐฯ สานกั งานส่งเสริมการคา้ ในตา่ งประเทศ ณ กรุงจาการ์ตา Upload Date : 4 สิงหาคม 2551

10 โครงสร้ำงเศรษฐกจิ 1. การเพาะปลูก ปลูกยางพารา มะพร้าว ผกั ผลไม้ แตพ่ ้นื ท่ีมีจากดั 2. อาศยั วตั ถุดิบจากประเทศเพื่อนบา้ น มีอตุ สาหกรรมเบา เช่น ผลิตยางพารา ขนมปัง เคร่ืองด่ืม และอตุ สาหกรรมหนกั เช่น อตู่ ่อเรือ ทาเหลก็ กลา้ ยางรถยนต์ มีกิจการกลนั่ น้ามนั ซ่ึงใหญ่เป็นอนั ดบั 2 ของโลกรองจากสหรัฐอเมริกาและเป็นผสู้ ร้างแทน่ ขดุ เจาะ น้ามนั รายใหญด่ ว้ ย 3. การคา้ ขาย เป็นทา่ เรือปลอดภาษี ประเทศต่าง ๆ ส่งสินคา้ ตา่ ง ๆ มายงั สิงคโปร์เพอ่ื ส่งออก และสิงคโปร์ยงั รับจากยโุ รป สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ญ่ีป่ นุ เพอ่ื ส่งไปขาย ต่อยงั ประเทศเพื่อนบา้ น มีท่าเรือน้าลึก เหมาะในการจอดเรือส่งสินคา้

ค บรรณำนุกรม https://th.wikipedia.org/wiki/ https://www.ryt9.com/s/expd/409013 http://www.eastasiawatch.in.th/th/information/8/


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook