ong 2

องค์ประกอบของการประมวลผลด้วยคอมพวิ เตอร์[ชื่อเร่ืองรองของเอกสาร]peterpanCOMPUTER SCIENCE [ทอี่ ย่บู ริษัท]

องค์ประกอบของการประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์ องคป์ ระกอบของการประมวลผลด้วยคอมพวิ เตอร์มีองคป์ ระกอบในการทางานรว่ มกัน 5 สว่ นหลักๆ คือฮารด์ แวร์ (Hardware) ซอฟต์แวร์ (Software) ข้อมลู (Data) พเี พิลแวร์ (Peopleware) และขัน้ ตอนการปฏบิ ัติงานถา้ ขาดองคป์ ระกอบใดไปจะทา ดาเนนิ การประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์เป็นไปอย่างไมม่ ีประสทิ ธภิ าพเทา่ ทคี่ วรได้แก่ 1 ฮารด์ แวร์ (Hardware) หมายถึงอปุ กรณ์คอมพิวเตอรท์ ่ีเราสามารถมองเหน็ จบั ต้องสัมผสั ได้ มรี ปู รา่ งและขนาดหลากหลายรูปแบบ เช่น จอภาพ ตวั เครือ่ ง คีย์บอร์ด เครื่องพิมพ์ และเมาส์ เปน็ ต้นซึง่ เปน็ องค์ประกอบหลกั ท่จี ะต้องมี เพอ่ื ความพรอ้ มของการทางาน อุปกรณ์คอมพวิ เตอร์แบบต่างๆ 2 ซอฟตแ์ วร์ (Software) หมายถงึ โปรแกรมคอมพวิ เตอร์ทใ่ี ช้ในการควบคมุ การทางานของอุปกรณ์ฮารด์ แวร์ เพราะอุปกรณ์ฮาร์ดแวรแ์ ม้จะนามาประกอบเข้าดว้ ยกนั แล้วยงั คงใชง้ านอะไรไม่ได้ จะต้องมีซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมมาทาหนา้ ท่ีควบคมุ อีกทหี นง่ึ โปรแกรมซอฟต์แวรเ์ หลา่ น้ี เกดิ จากผ้เู ชีย่ วชาญด้านโปรแกรมใช้ภาษาคอมพิวเตอร์เขยี นขนึ้ เช่น โปรแกรมดอส (Dos) โปรแกรมวนิ โดวส์ (Windows) เป็นต้นหากไม่มซี อฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ก็ไม่สามารถทาอะไรได้เลยโปรแกรม Windows XP โปรแกรม Microsoft Word 3. ขอ้ มลู (Data) ข้อมูลเปน็ องค์ประกอบทส่ี าคัญอีกประการหนึ่งของการประมวลผลอาจจะเป็นตัวช้ีความสาเรจ็ หรอื ความล้มเหลวของระบบไดเ้ นื่องจากจะต้องมีการเกบ็ ข้อมูลจากแหลง่ กาเนดิ ข้อมูลจะต้องมีความถูกต้องมีการกลั่นกรองและตรวจสอบแล้วเท่านัน้ จึงจะมปี ระโยชน์ขอ้ มูลจาเป็นจะต้องมีมาตรฐานมีโครงสร้างในการจดั เกบ็ ท่เี ป็นระบบระเบียบเพื่อการสืบค้นทร่ี วดเร็วมปี ระสิทธภิ าพ มเิ ชน่ นนั้ แลว้ สิง่ ที่เราไดจ้ ากการประมวลผลก็จะขาดประสทิ ธิภาพตามไปดว้ ย

4. พเี พลิ แวร์ (Peopleware) หมายถึง บุคคลต่างๆ ทมี่ ีความร้คู วามชานาญในการใชค้ อมพวิ เตอร์ ได้แก่ผวู้ เิ คราะหแ์ ละออกแบบระบบงาน (System Analysis)ผูท้ ่ีมหี น้าท่ใี นการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือทเี่ ราเรยี กว่า นกั เขียนโปรแกรม (Programmer)ผู้ใช้โปรแกรม (Users)องค์ประกอบสาคญั ในความสาเรจ็ ของการประมวลผลบุคลากรมีความรู้ความสามารถทางคอมพวิ เตอร์มากเทา่ ใดโอกาสที่จะได้ผลงานทมี่ ปี ระสิทธภิ าพกย็ ง่ิ มีสงู ข้ึนตามไปดว้ ย5. ข้ันตอนการปฏบิ ัติงาน ขนั้ ตอนการปฏิบตั งิ านท่ีชดั เจนของผูใ้ ช้หรอื ของบุคลากรทเ่ี กย่ี วขอ้ งกเ็ ปน็ เร่ืองสาคญั อกี ประการหนงึ่ เม่ือได้พัฒนาระบบงานแล้วจาเปน็ ตอ้ งปฏบิ ตั ิงานตามลาดับขนั้ ตอนในขณะที่ใชง้ านกจ็ าเปน็ ตอ้ งคานึงถงึ ลาดับข้ันตอนการปฏิบัตขิ องคนและความสัมพันธ์กบั เคร่อื งทัง้ ในกรณีปกติและกรณฉี ุกเฉินเช่นขนั้ ตอนการบนั ทึกข้อมลูขนั้ ตอนการประมวลผลข้นั ตอนปฏบิ ตั เิ ม่อื เครื่องชารุดหรือข้อมลู สูญหายและขั้นตอนการทาสาเนาข้อมลู สารองเพ่ือความปลอดภัยเป็นต้นส่ิงเหล่าน้ีจะตอ้ งมกี ารซกั ซ้อมมกี ารเตรียมการและการทาเอกสารคมู่ อื การใชง้ านทชี่ ัดเจน

ใบความรทู้ ี่ 2.2 ทาความรจู้ กั กบั คอมพิวเตอร์ คอมพวิ เตอร์นบั เป็นอปุ กรณช์ ่วยงานชนิดใหมท่ เี่ ขา้ มามีบทบาทสาคญั ต่อกระบวนการทางานของมนษุ ย์ทง้ั ๆท่คี อมพิวเตอร์เปน็ เคร่ืองมือที่เพ่ิงได้รับการพฒั นาอย่างเต็มรูปแบบเมอ่ื ประมาณ 40 ปี ท่ีผ่านมานี้เอง แต่กลบั ได้รับความนยิ มจากผู้ใชอ้ ย่างแพร่หลาย ทงั้ นเี้ พราะคอมพวิ เตอร์มีความสามารถตรงตามวัตถปุ ระสงคก์ ารใช้งานอย่างครอบคลุมและครบถว้ น โดยเฉพาะอย่างย่งิ ในงานสานักงาน คอมพวิ เตอรส์ ามารถจดั การงานทัง้ งานเอกสาร งานขอ้ มูลภายใน และภายนอกสานักงานได้อยา่ งสะดวกและรวดเร็ว1.1 ความหมายของคอมพิวเตอร์ คาว่า คอมพิวเตอร์ เปน็ คาทับศัพท์มาจากภาษาอังกฤษว่า Computer ซง่ึ รากศัพท์เดิมมาจากภาษาละตนิ วา่ Computar แปลวา่ “การนับหรือการคานวณ” เมอ่ื นามาแปลเป็นภาษาไทย ในพจนานุกรมฉบับราชบณั ฑิตยสถาน พ.ศ.2525 ไดใ้ หค้ านิยามไวว้ ่า คอมพิวเตอร์ หมายถึง เครอ่ื งอเิ ลก็ ทรอนิกสแ์ บบอตั โนมตั ิ ทาหน้าทเี่ สมอื นสมองกล ใช้สาหรบั แก้ปัญหาตา่ งๆ ทง้ั ที่ง่ายและซับซ้อน โดยวิธกี ารทางคณิตศาสตร์ โดยสรุป คอมพวิ เตอร์ (Computer) คอื อุปกรณ์อิเล็กทรอนกิ สท์ ีม่ นุษย์พัฒนาข้นึ เพื่อชว่ ยใหก้ ารทางานท่มี ีความสลบั ซบั ซ้อน หรือมปี ริมาณมากเสรจ็ ลงได้อย่างถูกต้องภายในระยะเวลาอนั รวดเรว็ การทางานของคอมพวิ เตอร์ จะทางานตามลาดับคาสั่งทเ่ี ก็บไว้ภายในหน่วยความจา และสามารถรบั ข้อมลู จากภายนอก คานวณหรือเปรียบเทยี บ เพอ่ื ให้ไดผ้ ลลัพธ์ ที่เราเรียกวา่ “สารสนเทศ” ซง่ึ สามารถเกบ็ ไว้เพื่อนาไปใชต้ ่อไปจอภาพ (Monotor) เคส(Case)แสดงผลลพั ธ์เป็นภาพ บรรจอุ ปุ กรณ์ต่างๆ ไว้ภายในติดต่อกบั ผูใ้ ช้งาน สาหรบั การประมวลผลลาโพง(Speaker) เมาส์(Mouse)แสดงผลลพั ธ์เป็นเสียง ใชช้ ีแ้ ละเลือกทางานกบั ส่ิงต่างๆ ทีป่ รากฏบนจอภาพ คยี ์บอร์ด(Keyboard) อปุ กรณ์หลกั สาหรบั ป้ อนข้อมูล1.2 ประเภทของคอมพวิ เตอร์ การกาหนดชนดิ ของคอมพิวเตอร์ในท่ีน้ีจะแบ่งตามขนาดและประสทิ ธภิ าพในการทางานของเครื่องออกเปน็ 4 ประเภท คอื 1. ซเู ปอรค์ อมพวิ เตอร์ (Super Computer)หมายถงึ คอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่มาก ทางานด้วยความเร็วสูงสุด เหมาะกบั งานบางประเภท เชน่ งานด้านอตุ ุนยิ มวิทยา การปล่อยดาวเทยี ม การทดลองอาวธุและการค้นความทางอวกาศ เป็นตน้ ซูเปอร์คอมพวิ เตอร์ (Super Computer)

2. เมนเฟรมคอมพวิ เตอร์ (Mainframe Computer) เมนเฟร คอมพวิ เตอร์หมายถึง คอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ มีหน่วยความจาและ (Mainframe Computer)หนว่ ยประมวลผลขอ้ มูลมาก ทางานได้เร็ว ติดต้ังอุปกรณ์เสรมิ ไดม้ าก เหมาะสาหรบั สานกั งานขนาดใหญ่ เช่นรฐั วสิ าหกิจ โรงงานอตุ สาหกรรม ธนาคาร และหน่วยงานของรัฐท่ีมขี นาดใหญ่ 3. มนิ คิ อมพวิ เตอร์ (Minicomputer) หมายถงึ คอมพิวเตอร์ขนาดกลางท่ใี หญ่ขึ้นกวา่ ไมโครคอมพวิ เตอร์ สามารถประมวลผลได้จานวนมากขึน้ รองรับเครือข่ายจากผู้ใชง้ านหลายคนในเวลาเดยี วกันได้ นิยมใชใ้ นสานักงานขนาดกลางมีเครือข่าย50- 100 เครื่องต่อเชอ่ื มกัน มนิ ิคอมพวิ เตอร์ (Minicomputer) 4. ไมโครคอมพวิ เตอร์ (Microcomputer) หมายถงึ คอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก หน่วยประมวลผลหนว่ ยความจา และอปุ กรณ์ต่อเชอื่ มอืน่ ๆ ก็มขี นาดเล็ก เก็บขอ้ มูลไดไ้ ม่มาก นิยมใชต้ ามบ้าน หรือสานกั งานท่ัวไปบางทีกเ็ รียกว่า คอมพิวเตอร์ส่วนบคุ คล (Personal Computer : PC)ปัจจุบันคอมพวิ เตอรพ์ ัฒนาไปมากทง้ั รูปร่างก็สวยงามขนาดก็เล็กลง ราคาถูกลง แตค่ วามสามารถและประสิทธิภาพสงู ข้ึน มีการใช้งานไดห้ ลากหลายซงึ่คอมพิวเตอรป์ ระเภทนยี้ ังแบง่ ออกอีกหลายชนดิ ไดแ้ ก่ 4.1 คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป (Desktop Computer)มกั เรยี กว่าคอมพวิ เตอร์ตัง้ โต๊ะ ซงึ่ เปน็ คอมพิวเตอรท์ ม่ี ีการใช้งานมากทส่ี ุดในปัจจบุ ัน มคี วามสามารถสูง และราคาคอ่ นข้างถกูเมื่อเทยี บกบั คอมพวิ เตอรป์ ระเภทอืน่ ๆ

4.2 คอมพวิ เตอรโ์ นต้ บุ๊ก (Notebook Computer)มีขนาดเลก็ กวา่ คอมพวิ เตอร์เดสก์ทอ็ ป รวมเอาอุปกรณ์ท้งั หมดไวเ้ ป็นชน้ิ เดียว ทาใหส้ ามารถเคล่อื นยา้ ยไดส้ ะดวก และกาลงัได้รบั ความนิยมเพ่ิมมากขนึ้ ในปัจจุบัน แตร่ าคายังสงู กวา่คอมพิวเตอรป์ ระเภทแรกมาก 4.3 คอมพิวเตอร์แท็ปเล็ต (Tablet PC)เคร่อื งคอมพิวเตอร์สายพนั ลา่ สุดทรี่ วมเอาความสามารถของโนต้ บกุ๊ ไว้ โดยมีนา้ หนกั เบากว่าและสามารถป้อนข้อมูลรปู แบบใหม่ คือสามารถเขยี นขอ้ ความท่ตี ้องการลงบนหน้าจอได้ทันที

ใบความร้ทู ่ี 2.3 ส่วนประกอบสาคัญของคอมพวิ เตอร์ สว่ นประกอบสาคญั ของคอมพวิ เตอรท์ เ่ี ราสามารถมองเห็นไดภ้ ายนอก ไดแ้ ก่ ตัวเคร่อื งหรือเคส สาหรับใส่อุปกรณ์สาคัญๆ ภายใน จอแสดงผล เมาส์ คยี ์บอรด์ และลาโพง ดังรปูไดรว์ซีดี/ดวี ดี ี (CD/DVD) จอภาพ (Monitor)สาหรบั อ่าน/เขียนข้อมูลจากแผ่นซีดี เป็นส่วนทีใ่ ชแ้ สดงผลเคส (Case) ลาโพง (Speaker)เป็นส่วนตวั เครื่องประกอบด้วยอปุ กรณ์ภายใน เช่น ซีพียู หนว่ ยความจา และอปุ กรณ์บนั ทึกข้อมูลป่ ุม Power เมาส์ (Mouse)สาหรบั เปิ ดปิ ดเครื่อง เป็นอปุ กรณ์สาหรบั ใช้ชีเ้ ลือก ส่ิงต่างๆทีป่ รากฏบนจอภาพ คยี ์บอร์ด (Keyboard) สาหรบั ป้ อนข้อมูลเข้าสูค่ อมพิวเตอร์ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ออกเปน็ 4 ประเภทหลกั คอื 1. หน่วยนาเขา้ (Input Unit) ไดแ้ ก่ อปุ กรณ์ทที่ าหนา้ ท่รี ับสงิ่ เข้าจากภายนอก หรอื จากผู้ใช้เข้าไปเก็บไว้ในหนว่ ยความจาของคอมพวิ เตอร์ เพ่ือรอการประมวลผล ได้แก่ คียบ์ อร์ด เมาส์ เปน็ ตน้ 1.1 คยี ์บอรด์ (Keyboard) คีย์บอรด์ มีลักษณะเปน็ แป้นพิมพค์ ลา้ ยกบั แป้นพิมพ์ดีด แต่มกี ารเพ่มิ แป้นตัวเลขเขา้ มาทางด้านขวา เพื่อใชป้ ้อนข้อมลู ท่ีเป็นตัวเลข นอกจากนย้ี ังมีปมุ่ ปังก์ช่ันคยี ์ และปุม่ ควบคมุ ต่างๆ ที่ใชเ้ พอื่ ส่งั งานคอมพวิ เตอร์ดว้ ย คีย์บอร์ ด (Keyboard)

1.2 เมาส์ (Mouse) เมาส์ เป็นอุปกรณ์ส่งั งาน ไมว่ ่าจะเปน็ การช้ีหรือเลอื กส่ิงตา่ งๆบนจอภาพ ซง่ึ อาจจะมแี บบ 2 ป่มุหรือแบบ 3 ป่มุ หรือมีล้อเพม่ิ มาตรงกลาง เพื่อช่วยในการเล่ือนหนา้ จอ เปน็ ต้น และในปัจจบุ ันมีเมาสช์ นิดไรส้ าย ซ่ึงกาลงั ได้รับความนยิ มมากขึน้ เมาส์ (Mouse) 1.3 เครื่องสแกนเนอร์ (Scanner) เปน็ อปุ กรณ์สาหรับนาภาพ หรอื เอกสารจากภายนอกเข้ามาเก็บไว้ในคอมพวิ เตอร์ ในลักษณะของไฟล์ภาพ โดยความคมชัดขนึ้ อยู่กบั ประสทิ ธิภาพของเคร่ืองสแกนเนอร์ 2. หนว่ ยประมวลผลกลาง(Central ProcessingUnit)หรือ CPUเปน็ แผงวงจรอเิ ล็กทรอนิกส์ ทาหนา้ ที่สาคญั ในการประมวลผลข้อมูล และควบคมุ การทางานของอปุ กรณ์อน่ื ๆ ของคอมพิวเตอร์ 3. หน่วยส่งออก (Output Unit) ทาหนา้ ท่แี สดงผลลพั ธ์หรือสารสนเทศท่ีไดจ้ ากการประมวลผลในรูปท่ีมนุษยส์ ามารถเขา้ ใจได้ เช่น รายงาน รูปภาพภาพเคลื่อนไหว และเสยี ง เป็นต้นไดแ้ ก่ 3.1 จอภาพ หรือจอมอนเิ ตอร์ (Monitor) เป็นสว่ นทีใ่ ชแ้ สดงผล จอภาพในปจั จุบันท่ีนิยมใช้มีอยู่ 2 แบบ คอื 1) จอแบบหลอดภาพ หรือทีเ่ รียกว่า CRT (Cathode Ray Tube) ซึ่งมรี าคาถูก 2) จอแบบผลกึ เหลว หรือทเี่ รียกว่า LCD (Liquid Crystal Display) มลี กั ษณะแบนและบาง นยิ มใชก้ ับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก และกาลังไดร้ ับความนยิ มกับเครื่อง PC ทว่ั ไปจอภาพแบบ CRT จอภาพแบบ LCD

3.2 ลาโพง (Speaker) เปน็ อุปกรณส์ าหรับสง่ ออกเสียง ซง่ึ เสียงจะดีหรือไมข่ ้ึนอยูก่ ับคุณภาพของลาโพง 3.3 เครือ่ งพิมพ์ (Printer) เป็นอปุ กรณส์ าหรบั พิมพ์ไฟล์เอกสาร หรือภาพจากคอมพวิ เตอรอ์ อกสู่ภายนอกลงบนกระดาษมี 3 ประเภท คือ 3.1 เคร่อื งพิมพแ์ บบดอทเมทรกิ ซ์ (Dot Matrix) เคร่อื งพมิ พ์แบบจุดเป็นเคร่ืองพมิ พ์ขนาดเลก็ การทีเ่ รียกว่าเคร่ืองพิมพ์แบบจุดเพราะรูปลักษณะตวั อักษรทพี่ ิมพ์ออกมาจะเปน็ จดุ เลก็ ๆเรียงต่อกันมีราคาถกู คุณภาพอยู่ในเกณฑ์ดีใชง้ านได้ทั่วไปนิยมใชก้ ับงานที่ไม่ต้องการความละเอียดมาก แตข่ ้อเสีย คอื การพิมพ์ทาได้ช้า และมีเสยี งดงั 3.2 เครอ่ื งพมิ พแ์ บบองิ ค์เจ็ท (Ink Jet) เปน็ เครอ่ื งพิมพท์ ่ีอาศัยการพ่นผงหมกึ ไปตดิ ที่กระดาษทาให้ไดค้ ุณภาพงานที่คมชัดพอสมควร นิยมใช้กับงานกราฟิก พิมพร์ ูปภาพ ทีต่ ้องการความละเอียดสูง ราคาค่อนข้างถกู พิมพ์ได้รวดเรว็ และไมม่ เี สยี งดัง 3.3 เครอื่ งพมิ พ์แบบเลเซอร์ (Laser) เครื่องพิมพ์เลเซอร์ (laser printer) เปน็ เครื่องพมิ พท์ ่กี าลังได้รบั ความนิยมเคร่ืองพิมพ์น้ีอาศัยเทคโนโลยีไฟฟ้าสถิตย์ที่พบได้ในเครื่องถา่ ยเอกสารทั่วไปทาให้ได้งานที่มีคณุ ภาพสงู คมชัด และรวดเร็ว แตม่ ีราคาสงู กว่าทุกแบบเคร่ืองพมิ พ์แบบ Dot Matrix เคร่ืองพมิ พ์แบบ Ink Jet เครื่องพมิ พ์แบบ Laser4. หน่วยความจา (Memory Unit) ทาหน้าท่ีเก็บข้อมูลท่ีได้จากการประมวลผลของผู้ใช้ ซง่ึ อยใู่ นรปู ของไฟล์คอมพวิ เตอร์ ไดแ้ ก่ 4.1 แรม (Ram) เป็นแผงวงจรอิเล็กทรอนกิ ส์ขนาดบาง เชือ่ มตอ่ อยูก่ ับเมนบอร์ด ทาหน้าท่เี ก็บข้อมูลและพักข้อมลู ในขณะทคี่ อมพิวเตอร์ประมวลผลระยะสัน้ ๆ หากปิดเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ขอ้ มูลในแรมกจ็ ะหายไปหมด

4.2 ฮารด์ ดสิ ก์ (Harddisk)เปน็ อปุ กรณ์เก็บขอ้ มูลทต่ี ดิ ตง้ัอยู่ภายในเคส มีขนาดใหญ่และหนัก เกบ็ ข้อมูลได้มาก และถาวรแมป้ ดิ เคร่ืองคอมพวิ เตอร์แลว้ ขอ้ มลู กย็ งั อยู่ 4.3 ดสิ กไ์ ดรว์ (Disk Drive) เป็นอปุ กรณ์สาหรับอ่านและเขยี นข้อมลู ลงบนแผ่นดสิ ก์ (Diskette) ซ่งึ ปัจจบุ นั ไม่คอ่ ยได้รับความนยิ มเพราะความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมลู ตา่ ความจะของแผ่นดิสก์ก็น้อย 4.4 ซดี ีรอมไดรว์ (CD Rom Drive) เปน็ อปุ กรณส์ าหรบั อ่านและเขียนข้อมูลลงบนแผน่ ซีดี (Compact Disk) ปัจจบุ ันไดร้ ับความนยิ มสงู เพราะสามารถเกบ็ ข้อมลู ไดจ้ านวนมาก 4.5 แฟลชไดรว์ (Flash Drive) เป็นอปุ กรณ์สาหรบั เกบ็ ข้อมลู ท่ีได้รบั ความนิยมสูงสดุ ในปัจจบุ นั เพราะมีขนาดเล็ก เกบ็ ข้อมูลได้มาก และพกพาสะดวก มีลกู เลน่ มากมาย

5. อปุ กรณ์อน่ื ๆ 5.1 เมนบอรด์ (Mainboard) เป็นแผงวงจรอิเล็กทรอนิกสข์ นาดใหญ่ ติดตง้ั อยู่ภายในเคส ทาหน้าท่ีเป็นศูนย์กลางในการเช่อื มตอ่ กบั อปุ กรณ์ต่างๆ ภายในเครื่องคอมพวิ เตอรท์ ้งั หมด 5.2 เคส (Case) เคส เปน็ ส่วนประกอบภายนอกของเคร่ืองคอมพิวเตอรท์ เี่ ห็นได้ชัดเจน มีลกั ษณะเปน็กลอ่ งสี่เหลีย่ ม ภายในบรรจุอุปกรณต์ ่าง ปจั จุบนั มี 2 แบบ คอื 1. เคสแบบเดสกท์ ็อป (Desktop Case) 2. และเคสแบบทาวเวอร์ (Tower Case)Desktop Case Tower Case

ใบความรู้ที่ 2.4 การทางานของคอมพิวเตอร์การทางานของคอมพวิ เตอร์แบง่ ออกเปน็ 3 ขน้ั ตอน เรยี กว่า วงจรไอพีโอ (IPO) ไดแ้ ก่ ขั้นตอนที่ 1 การนาเข้าขอ้ มูล (Input) เป็นการนาข้อมลู เขา้ ไปในเคร่ือง โดยอปุ กรณ์นาเข้าชนิดตา่ งๆ เชน่แปน้ พิมพ์ เมาส์ จอยสติก ไมโครโฟน เครอ่ื งแสกน ฯลฯ ขัน้ ตอนท่ี 2 การประมวลผล (Process) เปน็ การนาข้อมลู ท่ีป้อนเขา้ ไปประมวลผลโดยหน่วยประมวลผลกลาง ซงึ่ เปน็ หนา้ ท่ขี องซีพยี ู (CPU) ท่อี ยภู่ ายในเคส (Case) น่ันเอง ขั้นตอนท่ี 3 การแสดงข้อมูลผลลัพธ์ (Output) เปน็ การแสดงผลข้อมูลท่ีได้ประมวลผลแลว้โดยแสดงออกทางอุปกรณ์แสดงผล เช่น จอภาพ ลาโพง เคร่ืองพิมพ์ การนาเข้า การประมวลผล การแสดงข้อมูล (Input) (Process) ผลลพั ธ์ (Output) หนว่ ยความจา Memory หน่วยประมวลผลอปุ กรณ์นาเอ้า อุปกรณ์ส่ งออก หน่วยความจา แผนภาพแสดงกระบวนการทางานอองคอมพวิ เตอร์

ใบความร้ทู ี่ 2.5 ซอฟต์แวร์ ซอฟต์แวร์ คอื ชดุ คาสั่งทีส่ ่ังงานคอมพวิ เตอรแ์ บง่ ออกได้หลายประเภทเชน่ 1. ซอฟตแ์ วร์ระบบ คือ ซอฟตแ์ วรท์ ี่ใชจ้ ดั การกับระบบคอมพวิ เตอร์และอปุ กรณต์ า่ งๆท่ีมอี ยใู่ นระบบเช่นระบบปฏบิ ตั กิ ารวนิ โดวสร์ ะบบปฏบิ ัติการดอสระบบปฏบิ ตั ิการยูนิกซ์ ระบบปฏิบตั ิการลีนุกซ์ระบบปฏบิ ัติการวนิ โดวส์ ระบบปฏบิ ัตกิ ารดอส2. ซอฟต์แวร์ประยกุ ต์ คอื ซอฟต์แวร์ทีพ่ ัฒนาข้ึนเพ่ือใช้งานดา้ นต่างๆตามความต้องการของผใู้ ช้ เช่นซอฟต์แวร์ประมวลคา ซอฟต์แวรก์ ราฟกิซอฟต์แวร์ตารางทางาน ซอฟต์แวร์นาเสนอข้อมูล