1983_1325_สำเนา ประวัติ รชยา

เรอ่ื ง.ลกั ษณะประชาธปิ ไตยในพระพทุ ธศาสนา 1. หลกั การทางพระพทุ ธศาสนากบั วทิ ยาศา สตร 2. การคดิ ตามนัยแหงพระพทุ ธศาสนาและก ารคดิ แบบวทิ ยาศาสตร 3. พระพทุ ธศาสนาเป็ นศาสตรแหงการศกึ ษ า 4. พระศาสนาเนนความสมั พนั ธของเหตปุ ั จ จยั และวธิ กี ารแกปั ญหา จดั ทาํ โดย. นางสาว รชยา โทรกั ษา ชนั้ มธั ยมศกึ ษาป่ี ท่ี 4/2 เลขที่ 2 โรงเรยี นเซนตโยเซฟศรเี พชรบรู ณ

1. ลกั ษณะประชาธปิ ไตยในพร ะพทุ ธศาสนา หลกั การของพระพทุ ธศาสนากบั หลกั การของวทิ ยาศาสตรมีทงั้ ส วนทสี่ อดคลอง และสวนทแี่ ตกต างกนั 1. ในดานความเชอื่ หลกั การวทิ ยาศาสตร ถอื หลกั วา จะเชอื่ อะไ รนัน้ จะตองมีการพิสจู นใหเห็นจริ งไดเสยี กอน หลกั การทางพระพทุ ธศาสนา มี หลกั ความเชอื่ วาไมไดสอนใหมนุ ษยเชอ่ื และศรทั ธาอยางงมงายใ นอทิ ธปิ าฏหิ ารยิ และอาเทศนาป าฏหิ ารยิ

2. หลกั การทางพระพทุ ธศา สนากบั วทิ ยาศาสตร สตู ปยปั ญญา ปั ญญาทเ่ี กดิ จากการไดรบั ฟั ง ไดเห็น ได ประสบมาดวยตนเองจากปร ะสบการณตาง ๆ

การศกึ ษาคนควาวจิ ยั ของนั กวทิ ยาศาสตรไมวาจะกระ ทาํ ตอเน่ืองนาน ลกึ ซงึ้ หรอื เ ขมขนมากเทาใด ก็เกดิ ปั ญ ญาเพียง 2 ประเภทแรกเทา นัน้ มีหลกั การเหมือนกนั คอื มีกา รสงั เกต บนั ทกึ พสิ จู น ทดลอ ง ใชเหตผุ ลอยางเต็มที่ ไมเช่ื องมงาย เชอ่ื เหมือนกนั วาผลยอมมาจา กเหตุ ปรากฏการณตาง ๆ ทเี่ กดิ ขนึ้ กบั ชวี ติ มนุษย

3.การคดิ ตามนัยแหงพระพุ ทธศาสนาและการคดิ แบบวิ ทยาศาสตร พระพทุ ธศาสนากบั เศรษฐกิ จพอเพียง พระพทุ ธศาสนาฝึ กคนไมให

ประมาท พระพทุ ธศาสนามงุ ประโยช นสขุ แกบคุ คล สงั คมและโล ก พระพทุ ธศาสนาเนนความสั มพนั ธของเหตปุ ั จจยั และวธิ ี การแกปั ญหา พระพทุ ธศาสนาเป็ นศาสตร แหงการศกึ ษา แผนผงั ไซต พระพทุ ธศาสนาเป็ นศาสตร แหงการศกึ ษา พระพทุ ธศาสนาเป็ นศาสตร แหงการศกึ ษา

ความหมายของคาํ วาการศกึ ษา คาํ วา “การศกึ ษา” มาจาก คาํ วา “สกิ ขา” โดยทวั่ ไปหม ายถงึ “กระบวนการเรยี น “ “การฝึ กอบรม” “การคนคว า” “การพฒั นาการ” และ “กา รรแู จงเห็นจรงิ ในสง่ิ ทงั้ ปวง” จะเห็นไดวา การศกึ ษาในพร

ะพทุ ธศาสนามีหลายระดบั ตงั้ แตระดบั ตาํ่ สดุ ถงึ ระดบั สู งสดุ เม่ือแบงระดบั อยางกวา ง ๆ มี 2 ประการคอื 1. การศกึ ษาระดบั โลกยิ ะ 2. การศกึ ษาระดบั โลกตุ ระ

4.พระพทุ ธศาสนาเป็ นศาสต รแหงการศกึ ษา พระพทุ ธศาสนาเนนความสั มพนั ธของเหตปุ ั จจยั หลกั ของเหตปุ ั จจยั หรอื หลั กความเป็ นเหตเุ ป็ นผล ซง่ึ เป็ นหลกั ของเหตปุ ั จจยั ทอี่ งิ อา ศยั ซง่ึ กนั และกนั ทเี่ รยี กวา \" กฎปฏจิ จสมปุ บาท\" 

5.พระพทุ ธศาสนาเนนความ สมั พนั ธของเหตปุ ั จจยั และ วธิ กี ารแกปั ญหา

พระพทุ ธศาสนาเนนความสมั พนั ธของเ หตปุ ั จจยั                        หลกั ของเหตปุ ั จ จยั หรอื หลกั ความเป็ นเหตเุ ป็ น ผล ซงึ่ เป็ นหลกั ของเหตปุ ั จจยั

ทอ่ี งิ อาศยั ซง่ึ กนั และกนั ทเี่ รยี ก วา \"กฎปฏจิ จสมปุ บาท\"น่ีเป็ นห ลกั ความจรงิ พืน้ ฐาน วาสง่ิ หน่ึง สง่ิ ใดจะเกดิ ขนึ้ มาลอย ๆ ไมได หรอื ในชวี ติ ประจาํ วนั ของเรา \"ปั ญหา\"ทเี่ กดิ ขนึ้ กบั ตวั เราจะเ ป็ นปั ญหาลอย ๆ ไมได จะตอง มีเหตปุ ั จจยั หลายเหตทุ ก่ี อใหเ กดิ ปั ญหาขนึ้ มา หากเราตองกา รแกไขปั ญหาก็ตองอาศยั เหตปุ ั จจยั ในการแกไขหลายเหตปุ ั จ จยั ไมใชมีเพียงปั จจยั เดยี วหรื อมีเพยี งหนทางเดยี วในการแก ไขปั ญหา จากกฏปฏจิ จสมปุ บาทหรอื กฎ อทิ ปั ปั จจยตาทว่ี าอวชิ ชาเป็ นตั

วเหตขุ องทกุ ส่งิ ทกุ อยาง  อวชิ ช าคอื ความไมรแู จงในอรยิ สจั  4 ดงั นัน้ กฎปฏจิ จสมปุ บาท เมื่ อกลาวโดยสรปุ แลวก็คอื  อรยิ สั จ 4 น่ันเอง     หลกั อรยิ สจั  4 หมายถงึ หลกั ความจรงิ อั นประเสรฐิ