Drawing เรอ่ื ง เสน้ พ้ืนฐานการเขียนภาพ
เส้นพืน้ ฐานการเขยี นภาพ ในงานจิตรกรรม (Painting) ซ่ึงเป็นเรื่องการเขียนภาพระบายสี ซ่ึงไดก้ ล่าวไวแ้ ลว้ แบ่งออกเป็น สองส่วน คือ การวาดเสน้ และการระบายสี ท้งั สองส่วนมีความสมั พนั ธ์กนั มาก ถึงกบั มีผกู้ ล่าว วา่ \"ถา้ ใครมีพ้ืนฐานทางงานวาดเส้นมาดี จะทางาน งานจิตรกรรมหรือการเขียนภาพระบายสีไดด้ ี ไปดว้ ย\" ท้งั น้ีก่อนท่ีจะระบายสีตอ้ งมีการร่างภาพจนเหมาะสมสวยงามแลว้ จึงดาเนินการระบายสี ใหไ้ ดน้ ้าหนกั อ่อนแก่ โดยอาศยั ประสบการณ์จากการท่ีไดฝ้ ึกวาดเขียน เพราะการระบายสีในงาน จิตรกรรมก็คือ การแรเงาน้าหนกั ที่เปล่ียนจากสีขาว ดา มาเป็นสีธรรมชาติของวตั ถทุ ี่เป็นหุ่นจน ไปสู่การระบายสีนนั่ เอง มาเป็นสีธรรมชาติของวตั ถทุ ี่เป็นหุ่นจนไปสู่การระบายสี หลกั การเขียน ภาพระบายสี มีส่วนประกอบพอสรุปไดด้ งั น้ี 1. เส้น 2. รูปร่าง - รูปทรง 3. ขนาด - สดั ส่วน 4. การจดั ภาพ 5. การลงน้าหนกั 5.1 การแรเงา 5.2 การระบายสี
การวาดเสน้ ( Drawimg )
การระบายส(ี Painting)
เสน้ (Line) เสน้ เป็นมูลฐานสาคญั อนั ดบั แรกของงานศิลปะทุกประเภท และเป็นส่วน สาคญั ที่สุดของการเขียนภาพเพราะเสน้ ถูกใชง้ านในการสร้างรูปทรง น้าหนกั แส เงา ตามธรรมชาติ เพือ่ ใหเ้ กิดปริมาตรและความแน่นท่ีเป็น รูปทรงของภาพ ความหมายของเส้น คือ จุดหลายพนั จุดนบั ไม่ถว้ น เคล่ือนไหวไปใน บริเวณวา่ ง (Space) ตามทิศทางที่ผลู้ ากตอ้ งการ จากผลจากการเคลื่อนท่ี จากจุดหน่ึงไปอีกจุดหน่ึง เส้นจึงเกิดจากการลาก ขดู ขีด ดว้ ยวสั ดุตา่ งๆ เช่นดินสอ ปากา พกู่ นั แปรง ฯลฯ ขนาดของเส้นจึงมีความกวา้ ง ยาว หนา บางแตกตา่ งกนั ไปตามขนาดของวสั ดุท่ีเรานามาเขียน
ลกั ษณะของเสน้ เสน้ มีความสาคญั และมีความหมายในตวั ของมนั เอง ความรู้สึกที่เกิดจาก เสน้ น้ีเป็นผลจากการรับรู้มองเห็นเส้นแสดงลกั ษณะไปตามทิศทางตา่ งๆ เส้นแสดง ดงั น้ี 1. เส้นแสดงลกั ษณะของตวั เอง 2. เสน้ แสดงภาพ 2 มิติ 3. เสน้ แสดงภาพ 3 มิติ 4. เส้นแสดงค่าน้าหนกั (Value) 5. เส้นแสดงลกั ษณะของแสงเงา
1. เสน้ แสดงลกั ษณะของตวั เอง 1.1 เส้นต้ัง หรือ เส้นดง่ิ ใหค้ วามรู้สึกทาง ความสูง สง่า มน่ั คง แขง็ แรง หนกั แน่น เป็น สัญลกั ษณ์ของความซื่อตรง
1.2 เสน้ เฉยี ง หรอื เสน้ ทะแยงมุม ใหค้ วามรูส้ กึ เคลอ่ื นไหว รวดเรว็ ไมม่ น่ั คง
1.3 เสน้ นอน ใหค้ วามรูส้ กึ ทางความกวา้ ง สงบ ราบเรยี บ น่ิง ผอ่ นคลาย
1.4 เสน้ หยกั หรอื เสน้ ซกิ แซก ใหค้ วามรูส้ กึ เคล่อื นไหว อยา่ งเป็นจงั หวะ มี ระเบยี บ ไม่ ราบเรยี บ น่ากลวั อนั ตราย ขดั แยง้ ความ รุนแรง
1.5 เสน้ โคง้ แบบคลน่ื ใหค้ วามรูส้ กึ เคลือ่ นไหวอยา่ งชา้ ๆ ลนื่ ไหล ตอ่ เน่ือง สุภาพ ออ่ นโยน นุม่ นวล
1.6 เสน้ ขด มว้ น ขยกุ ขยกิ ใหค้ วามรูส้ กึ สบั สน วุน่ วาย
2. เสน้ แสดงภาพ 2 มิติ ภาพที่ 2 เส้นแสดงภาพ 2 มิติ ผลงานของ กิจวฒั น์ แสนศรีระ
3. เสน้ แสดงภาพ 3 มิติ ภาพที่ 3 เส้นแสดงภาพ 3 มิติผลงานของ กิจวฒั น์ แสนศรีระ
4. เสน้ แสดงค่านา้ หนกั (Value) โดยการ ขดี เรยี งชดิ ตดิ กนั หรือไขวก้ นั เป็นตน้ ภาพที่ 4 ลกั ษณะการขีดเสน้ แสดงน้าหนกั เขม้ มาออ่ น ผลงานของ กิจวฒั น์ แสนศรีระ
5. เสน้ แสดงลกั ษณะของแสงเงา ภาพที่ 5 เสน้ แสดงลกั ษณะของน้าหนกั เทคนิค ดินสอบนกระดาษ ผลงานของ กิจวฒั น์ แสนศรีระ
เทคนคิ วิธีการของการเขยี นเสน้ ในการเขียนภาพการฝึกวาดเส้นพ้ืนฐาน การลากเสน้ ในลกั ษณะตา่ งๆ มี ความจาเป็นมากในเบ้ืองตน้ เพราะจะช่วยใหม้ ีความคุน้ เคยกบั การจบั เครื่องมือในการวาดภาพ หรือเขียนภาพและมีทกั ษะในการบงั คบั ทิศทาง ของการลากเสน้ ซ่ึงพอจะแบ่ง ไดด้ งั น้ี 1. วธิ ีการเขียนเส้น 2. ตาแหน่งของปลายดินสอ 3. ขนาดของเสน้ 4. เส้นร่าง
1. วิธีการเขยี นเสน้ ดงั ท่ีกล่าวมาแลว้ เส้นเป็นพ้นื บานเบ้ืองตน้ ในการสร้างสรรคง์ านทศั นศิลป์ ทุกสาขา ซ่ึงข้ึนอยกู่ บั เทคนิควธิ ีการโดยทว่ั ไปการเขียนเส้นสามารถทาได้ 2 วธิ ีคือ 1. การเขียนเส้นโดยใชเ้ คร่ืองมือช่วยเขียน 2. การเขียนดว้ ยมือ
1. การเขยี นเสน้ โดยใชเ้ ครอ่ื งมือช่วยเขยี น ไมบ้ รรทดั วงเวยี น และเครื่องมืออ่ืนๆ มาเป็นส่วนช่วยประกอบบงั คบั ทิศทาง เสน้ ท่ีเกิดจากเครื่องมือช่วยเขียนเหล่าน้ี สามารถบงั คบั ทิศทางได้ ง่าย มีความเป็นระเบียบ ไม่สามารถเขียนใหเ้ ส้นอ่อนชอ้ ยไดต้ ามตอ้ งการ นิยมใชใ้ นการออกแบบ
ภาพท่ี 6 การเขียนเสน้ ดว้ ยเครื่องมือช่วยเขียน ผลงานของ นางสาวสุพตั รา พิมพส์ ุวรรณ
2. การเขยี นดว้ ยมือ เป็นการเขียนโดยใชข้ อ้ มือบงั คบั ทิศทางในการลากเสน้ ตามท่ีตอ้ งการ โดยผา่ นวสั ดุท่ีสามารถทาใหเ้ กิดเส้นได้ เช่น ดินสอ ปากกา เป็นตน้ การ เขียนลกั ษณะน้ีจะไดเ้ สน้ ท่ีมีความเป็นอิสระ ออ่ นชอ้ ยนุ่มนวล สวยงาม เหมาะสาหรับการเขียนภาพตา่ งๆ
ภาพท่ี 7 ลกั ษณะการเขียนเส้นดว้ ยมือ
ภาพท่ี 8 ผลงานการเขยี นดว้ ยมอื เสน้ ทม่ี ีความเป็นอสิ ระ ออ่ นชอ้ ย สวยงาม ผลงานของ นางสาวสุพตั รา พิมพส์ ุวรรณ
2. ขนาดของเสน้ การลากเสน้ ขนาดของเสน้ ข้ึนอยกู่ บั วสั ดุอปุ กรณ์ต่างๆ และเมื่อลากเสน้ ขนาดของเสน้ ยอ่ มเกิดจากอปุ กรณ์น้นั เช่น ขนาดจากเสน้ ปากกา เบอร์ ตา่ งๆ ขนาดจากปลายพกู่ นั ตลอดจนเส้นดินสอหรือถา่ น (ชาร์โคล) เพอ่ื ความเขา้ ใจง่ายๆ ขอแบ่งขนาดของเส้นออกไดด้ งั น้ี 1. เสน้ บางหรือขนาดเลก็ (Thin Line) 2. เสน้ ขนาดกลางหรือหนา (Thick Line) 3. เส้นขนาดใหญห่ รือทึบ (Variable Line)
ภาพ ก เสน้ บางหรือขนาดเลก็
ภาพที่ ข เสน้ ขนาดกลางหรือหนา
ภาพ ค เสน้ ขนาดใหญห่ รือทึบ
ภาพ ง เส้นขนาดต่างๆ ในภาพเดียวกนั การจดั เสน้ (Composite Line)
3. ตาแหน่งของปลายดนิ สอ เทคนิคพ้ืนฐานของการวาดเส้นใหไ้ ดข้ นาดต่าง ๆ โดยการวางตาแหน่ง ของปลายดินสอ บนพ้ืนกระดาษ ในลกั ษณะของการจบั ดินสอ เอียง หรือ เฉียง จะเกิดความแตกตา่ งของขนาดเสน้ ท่ีได้ ถา้ จบั วาดใน แนวด่ิงจะไดเ้ สน้ เลก็ ถา้ เอียงมุมลง เส้นจะโตข้ึน หรือถา้ ตอ้ งการใหไ้ ด้ พ้ืนท่ีมากแบบระบาย กจ็ บั ดินสอใหเ้ อียงมากข้ึน
ขนาดของเส้น หนา บาง ใหญ่ หรือเลก็ น้นั ข้ึนอยทู่ ี่การควบคุมน้าหนกั มือ การพลิกเล่ือนหามุม และตาแหน่งที่ปลายดินสอ หากปลายดินสอท่ือ เสน้ ดินสอกจ็ ะใหญ่ หนา ถา้ ปลายดินสอแหลมเสน้ กจ็ ะเลก็ บาง ด้งั น้นั ผเู้ ขียนภาพส่วนมากจะใชว้ ธิ ีพลิกเลื่อนมือ หมุนดินสอเปล่ียนมุมไสด้ ินสอ หาแง่ท่ีแหลมทุกคร้ัง ที่ตอ้ งการใหเ้ ส้นเลก็ และตอ้ งการใหเ้ สน้ ใหญห่ รือ แรเงาเรียบๆกห็ ามุมท่ีตอ้ งการ
ภาพท่ี 11 ตาแหน่งของปลายดนิ สอ และการหมุนหามุม ดนิ สอ ตาแหน่งของปลายดินสอ ขนาดของเสน้ ทไ่ี ด้
4. เสน้ ร่าง เสน้ ร่าง เป็นเสน้ ท่ีมีความสาคญั มากในการร่างภาพโครงสร้าง ขณะวาดเสน้ และใช้ แนวดินสอทามุมระนาบของกระดาษประมาณ 15 องศา การวาดเส้นร่างจะวาดดว้ ยการ ทางานของช่วงขอ้ ศอกและแขน ดงั น้นั การจบั ดินสอจึงสามารถร่างดินสอไดค้ ลอ่ งตวั ทารัศมีของการร่างเส้นไดก้ วา้ งทวั่ ท้งั แผน่ ภาพ คือสามารถร่างเส้นจากส่วนบนของแผน่ ภาพลงมาส่วนลา่ งไดโ้ ดยการร่างเส้นเดียวติดต่อกนั โดยตลอดและรวดเร็ว การร่างภาพ จะร่างเสน้ ท่ีมีน้าหนกั เบา จะใชว้ ธิ ีผอ่ นน้าหนกั มือจากการจบั ดินสอน้นั เส้นร่างท่ีใชใ้ น การร่างภาพโครงสร้าง ถา้ คลาดเคลื่อนหรือผดิ พลาด ไมน่ ิยมลบออกทนั ทีเพราะการร่าง เสน้ ร่างน้นั ดว้ ยดินสออ่อน 2 บี ,4 บี และร่างดว้ ยเส้นเบาๆ ก่อน เมื่อผดิ พลาดกร็ ่างข้ึน ใหม่ เสน้ เก่าท่ีผดิ จะเป็นแนวเปรียบเทียบใหเ้ ส้นท่ีร่างข้ึนใหม่มีความถกู ตอ้ ง การลบทิ้ง เมื่อผดิ พลาดจะทาใหก้ ระดาษช้า และไม่มีเส้นไวเ้ ป็นเคร่ืองสงั เกต การควบคุมน้าหนกั มือน้นั มีผลตอ่ ลกั ษณะของเสน้ เช่นกนั ขณะท่ีลากเส้นดินสอหาก เนน้ น้าหนกั มือลงปลายดินสอ เส้นท่ีปรากกฎก็จะมีน้าหนกั เขม้ เส้นหนา และเม่ือ ตอ้ งการเส้นที่มีน้าหนกั ออ่ นเบา กจ็ ะใชว้ ธิ ีผอ่ นน้าหนกั มือจากการจบั ดินสอน้นั
สรปุ องคป์ ระกอบพ้ืนฐานการเขียนภาพระบายสี ประกอบไปดว้ ย เส้น รูปร่าง รูปทรง ขนาดสดั ส่วน การจดั ภาพ การลงน้าหนกั เส้นเป็นพ้ืนฐานของศิลปะทุก แขนงโดยเฉพาะจิตรกรรม ถึงกบั มีผกู้ ลา่ ววา่ \"ถา้ ใครมีพ้ืนฐานทางงานวาดเสน้ มาดีจะ ทางาน งานจิตรกรรมหรือการเขียนภาพระบายสีไดด้ ีไปดว้ ย\" ลกั ษณะของเส้นมีหลาย ลกั ษณะ คือ ความหมายในตวั เอง แสดงลกั ษณะ 2 มิติ แสดงลกั ษณะ 3 มิติ แสดง คา่ น้าหนกั แสดงลกั ษณะของแสงเงา ขนาดของเสน้ หนา บาง ใหญ่ หรือเลก็ น้นั ข้ึนอยทู่ ่ีตาแหน่งของปลายดินสอ และการพลิกเลื่อนหามุมท่ีปลายดินสอ การเขียนเสน้ มี 2 ลกั ษณะ คือ ใชเ้ ครื่องมือช่วยเขียน และใชม้ ือเขียน การควบคุมน้าหนกั มือหาก เนน้ น้าหนกั มือลงปลายดินสอ เสน้ ท่ีปรากกฎกจ็ ะมีน้าหนกั เขม้ เสน้ หนา และเมื่อ ตอ้ งการเขียนเส้นร่าง ซ่ึงเป็นเสน้ ที่มีน้าหนกั อ่อนจาง ก็จะใชว้ ธิ ีผอ่ นน้าหนกั มือจาก การจบั ดินสอ
Search
Read the Text Version
- 1 - 35
Pages: