1
คำนำ ในยคุ สมยั น้ี ผคู้ นเร่มิ หนั มำค้นหำควำมสุขท่ีแท้จริง โดยกำรตั้งคำถำมว่ำ เรำเกดิ มำทำไม? ปรำรถนำทจี่ ะคน้ หำตัวตนท่ีแท้จริงของตนเองเพ่มิ มำกขึ้น ซ่ึงคำถำมเหลำ่ นไ้ี ม่สำมำรถหำคำตอบได้ จำกข้อมูลในโลกของอนิ เตอรเ์ น็ต ไม่วำ่ โลกจะเจริญก้ำวหน้ำทำงวัตถุและเทคโนโลยี่ก้ำวล้ำไปมำก เพียงใด สิง่ ทมี่ นุษยโ์ หยหำมำตลอดกค็ ือควำมสุข และเป็ นควำมสขุ ทีส่ มั ผัสไดภ้ ำยในจติ ใจของแตล่ ะ คน กำรท่ีได้พบเป้ำหมำยท่ีแท้จรงิ ของชีวิต ควำมสุขทไี่ ดเ้ ตมิ เต็มสร้ำงพลงั ชีวติ และจิตวญิ ญำณ ทำ ให้กำรใช้ชีวิตท่ีเหลอื อยู่ได้อย่ำงมีจุดหมำยและคุ้มค่ำกบั กำรมำเกดิ ชำติภพน้ี ควำมเข้ำใจเกี่ยวกับท่มี ำของมนุษย์ และควำมเชือ่ มโยงสัมพันธ์กันระหว่ำงมนุษย์และพระ เจำ้ เป็ นกำรแสวงหำทพี่ ึ่งตนเองเรียนรู้เพือ่ กำรวิวฒั น์ทำงด้ำนจติ วิญญำณภำยใน เกิดควำมเขำ้ ใจที่ ชัดเจนในกำรใชช้ ีวิต นอกจำกกำรทำงำนหำเงินเพ่ือปัจจัย4 ส่งิ ทม่ี นษุ ย์กลัวมำกทส่ี ดุ คอื ควำมตำย มนษุ ยไ์ มต่ ้องกลวั ควำมตำย เพรำะควำมตำยเป็ นกำรจำกไปเพียงร่ำงกำย จิตวิญญำณเป็ นอิสระมี ควำมเป็ นนริ นั ดร์ หำกมนษุ ยล์ ว่ งรูค้ วำมจรงิ แทข้ องชีวิต ว่ำมนุษยเ์ กิดมำอย่ำงมคี ำ่ และมีเป้ำหมำยทีส่ ูงสง่ มีพลังอำนำจกำรสร้ำงสรรค์ เป็ นหน่ึงเดียวกับพระเจำ้ มีควำมเป็ นพระเจ้ำ ควำมผำสุกและควำมเบิก บำนย่อมบังเกิดมีขึ้นในจติ ใจผนู้ ั้น หวังเป็ นอย่ำงยงิ่ ว่ำหนังสือเล่มน้ี ทเี่ ขียนเรียบง่ำย และใช้เวลำไม่มำกในกำรทำควำม เข้ำใจ จะเป็ นประโยชนไ์ ด้บ้ำงไม่มำกกน็ ้อย หำกมีสง่ิ ใดผิดพลำด ผู้เขยี นขออภัยท่ำนผอู้ ่ำนล่วงหน้ำ มำ ณ. โอกำสน้ี ดว้ ยควำมเคำรพ มนิ ตรำ 2
3
สำรบญั บทท่ี1: ควำมคดิ บทที่2: ไร้ขดี จำกดั บทท่ี3: กำรเป็ นผสู้ ร้ำง บทท4่ี : ควำมเป็ นหนึ่งเดียวกนั บทท่5ี : รูจ้ กั อัตตำ บทท6่ี : กำรสอ่ื สำรกบั เสยี งภำยใน 4
บทที่1: ควำมคิด ทุกคนรูจ้ กั และคนุ้ เคยกับการใชค้ วามคดิ มาตลอดทัง้ ชีวิต แตเ่ คยสงสยั ไหมวา่ ทาไมเราจงึ มีความคิด มากมายหล่งั ไหลมาตลอดเวลาทัง้ โดยตงั้ ใจใชค้ วามคิด และไม่ไดต้ งั้ ใจในการคิด หรอื จะเรยี กว่าโดยรู้ตัวมสี ติ ว่าขณะนีฉ้ นั กาลงั คิดอะไรอยู่ และสงิ่ ทเ่ี ราคดิ นน้ั มนั จะมบี ทบาทสาคญั อย่างไรกบั ประสบการณท์ ่เี ราจะได้พบ เจอในชวี ิตอย่างไรบา้ ง เหตุการณต์ ่าง ๆที่ไดเ้ กดิ ขนึ้ ในชีวิตจรงิ เราต่างสงสยั และมคี าถามตา่ ง ๆ มากมายเสมอ มากับความเป็นจริงของชีวิต ทาไมพวกเราถงึ มาเกิดบนโลกใบนี้ พวกเราต่างมหี น้าที่ และเชื่อมโยงกันทุกคนดว้ ยกระแสความคิดทัง้ ความคิดทเ่ี ป็นปัจเจกและความคิดมวลรวม และทุก ๆความคิดคือการสร้างสรรค์ คณุ คือภาพจาลองของความคิดจานวนนบั ไม่ถว้ น ทุกครง้ั ท่ีคณุ มีความคิดใหม่เกดิ ขนึ้ ความคิดเป็น นามธรรม ความคิดเหล่าน้ันจะเริ่มตน้ ในโลกทไี่ ม่ใชท่ างกายภาพ หรือที่เรยี กว่าโลกทางพลงั งาน แลว้ จะถูก ฉายภาพเขา้ สู่โลกทางกายภาพที่สามารถจับตอ้ งไดป้ รากฎเป็นวัตถุท่สี ามารถสัมผัสได้ เช่น คุณเคยมีความคิด วา่ จะมบี า้ นสกั หลงั เป็นของตนเอง และต่อมาสง่ิ น้นั ก็เกดิ ขนึ้ จรงิ มนั เร่ิมตน้ จากการมีความคิดก่อนใช่หรือไม่ ทกุ ๆ ความคดิ คอื การสรา้ งสรรค์ มนษุ ย์มสี ิง่ ทีส่ ามารถรบั รูไ้ ดโ้ ดยผา่ นประสาทสมั ผสั สามารถรูส้ กึ ลมิ้ รสได้ รบั กล่ินได้ มองเห็นได้ ไดย้ ิน เสยี งผ่านอายตนะ ทเี่ ราเรยี กกนั วา่ ตา หู จมกู ลนิ้ กาย ใจ ซง่ึ เป็นเสมือนอุปกรณใ์ นการรบั รู้ของร่างกายมนุษย์ ซึ่งทัง้ หมดนีค้ ือสงิ่ ท่ีพระเจา้ ไดม้ อบให้คุณมา เพ่ือประโยชนใ์ นการรบั รูป้ ระสบการณข์ องพระองค์เอง โดยผ่าน มนุษยแ์ ตล่ ะคน หรือพระเจา้ ทรงกาลงั ฉายภาพความคดิ ผ่านพวกเราแต่ละคนอยูต่ ลอดเวลา น่ันเอง 5
หากคณุ อยากรูจ้ ักความเป็นตัวตนที่แทจ้ ริงภายในของคณุ หนงั สอื เลม่ นี้อาจจะชว่ ยนาทางคณุ ไปพบ คาตอบไดบ้ า้ งไม่มากกน็ อ้ ย หากมีบางคนไดร้ บั ความคิดบางอยา่ งโดยไม่ทราบที่มาว่ามันมาจากไหน? พระ เจา้ กาลงั พยายามสื่อสารถึงคณุ ตลอดเวลาเสมอมา แต่ทาไมเราจึงไม่ทราบ ไม่ตระหนักรู้ และบางคนกไ็ มเ่ ช่ือ ว่ามีพระเจา้ อย่จู รงิ ฉะนั้นในหว้ งเวลาบางขณะท่คี ณุ เคลมิ้ หรือกาลงั เขา้ ภวงั ค์ ความเป็นอตั ตาของคณุ มกี าลงั นอ้ ยลง จงึ เป็นช่วงขณะท่ีทาให้คุณสามารถเชอ่ื มต่อ รบั รูข้ อ้ มลู ความคิดทีพ่ ระเจา้ กาลงั สง่ มาถึงคณุ ตลอดเวลา ได้ หรือถา้ จะใหเ้ ขา้ ใจก็คือ คณุ สามารถเปิดการเชื่อมตอ่ ได้ในบางครง้ั โดยบังเอิญ และสงสยั ว่า ความคิดนีค้ ุณ ไม่ไดค้ ิด มาจากที่ไหน อยา่ งไร? เปรียบเหมือนสญั ญาณอนิ เตอรเ์ น็ตไวไฟ ท่คี ณุ สามารถปรบั จูนเขา้ สชู่ ่องทาง เชอ่ื มต่อไวไฟใชง้ านได้ แตเ่ ม่ือคณุ ปิดเคร่ือง ตดั สญั ญาณกส็ นิ้ สุดการเช่ือมตอ่ ทนั ที ไม่สามารถรบั สญั ญาณได้ อกี เชน่ เดียวกบั อัตตา ซง่ึ เป็นเครื่องปิดก้ันท่จี ะทาใหค้ ุณไดย้ ินเสยี งภายในของคุณเอง การเช่ือมตอ่ กับตัวตนภายในจะใหค้ าตอบท่แี ทจ้ ริงได้ เมื่อคุณได้ตงั้ ถามกับตัวตนภายในของคณุ เอง เทา่ นั้น เพราะว่า ความจรงิ แทน้ ้นั อยู่ภายในตัวคุณ ไมใ่ ชก่ ารพ่ึงพาคาตอบจากผอู้ ื่นแต่อย่างใดคาถามและ คาตอบอยู่ภายในตัวคุณ แต่เครอ่ื งปิดกน้ั ทที่ กุ คนมีก็คืออตั ตา ความเป็นตัวตนของแตล่ ะคน ท่ีทาใหค้ ณุ ขาด การติดต่อกับพระเจ้า หรือไมส่ ามารถจะเชอ่ื มต่อได้ หากคณุ กาลงั ถอื หนังสือเล่มนอี้ ยู่อาจเป็นเพราะว่าเสยี งเรียกร้องจากตัวตนภายในของคุณนาพาใหเ้ รา ไดม้ าพบกนั เราต่างหลงลมื เสมือนอยู่ในเขาวงกตของโลกมายาเสมือนจริง หากวนั หนึ่งคุณถามตัวเองว่า ฉนั คือใครกนั แน่ ฉนั จะรูจ้ ักตวั ตนฉันเองไดอ้ ย่างไร? ท่ีไม่ใชเ่ ปลอื กความเป็นตัวตนในหนา้ ท่กี ารงานและสงั คม ฉันจะรูส้ กึ อ่มิ เอิบเบกิ บาน หากฉนั เขา้ ถงึ ความเป็น.... และฉันจะไดใ้ ชช้ ีวติ ทีเ่ หลือนีอ้ ย่างเตมิ เตม็ เสยี ที พระองคอ์ ยูก่ บั คณุ เสมอมา ..... 6
บทที่ 2: ไร้ขีดจำกดั คาถามและคาตอบ ( เสยี งภายในหรือผรู้ ู้ ) ต่อไปนีเ้ ป็นเพียงบทสนทนาเปรยี บเทียบเพอ่ื ใหเ้ กิดความเขา้ ใจได้ งา่ ยและการรบั รูว้ ่า คาตอบอยู่ภายในตวั คุณ สมมุตวิ ่าผถู้ ามคือ ผหู้ ญิงคนหน่ึงชือ่ พมิ พมิ : ไม่ทราบว่า พระเจา้ หมายถงึ ใครค่ะ คาตอบ: พระเจา้ คอื มอี ยู่ทกุ หนทกุ แห่งในสนามพลงั งานสากลทเ่ี ป็นจติ จักรวาล แต่เดมิ นน้ั มีความคิดของ พระเจา้ ดารงอยใู่ นโลกฝ่ายวญิ ญาณทกุ ๆอณูในพนื้ ที่ว่าง และโลกทม่ี นุษยด์ ารงอยู่นี้ เรียกวา่ เป็นโลกทาง กายภาพ พระเจา้ คิด และแลว้ ความคิดของพระเจา้ กส็ ามารถจะสร้างสรรคใ์ หป้ รากฎเกิดขนึ้ ไดท้ ันที ไมม่ ีสิ่งใด ในโลกกายภาพท่ไี ม่ไดเ้ ร่มิ มาจากความคิดกอ่ น รวมถงึ การสรา้ งสรรคท์ ุกสง่ิ ตอ้ งเร่มิ จากความคดิ ทัง้ สนิ้ พิม: ถา้ หากพระเจ้ามีอยูจ่ ริงในโลกของฝ่ายวิญญาณ แลว้ โลกกายภาพก่อกาเนดิ ขนึ้ มาไดอ้ ยา่ งไรละ่ คะ่ ท่าน พอจะอธิบายใหเ้ ขา้ ใจได้ไหมค่ะ คาตอบ : เริ่มแรก...มสี นามพลงั งานสากลที่กว้างใหญ่ไพศาลไม่มีที่สนิ้ สุด และพระเจา้ ก็เป็นจดุ เรม่ิ ตน้ ..ของ ทกุ ๆ สรรพสิ่ง และพระเจา้ กเ็ ป็นผูส้ รา้ งสรรค์ทกุ สรรพสิง่ ท่จี บั ตอ้ งได้ในโลกกายภาพซง่ึ เป็นวัตถธุ าตุ รวมถงึ ตวั มนษุ ย์ ซงึ่ มนั ไม่ไดม้ ีอยจู่ รงิ มนั ไดเ้ รม่ิ ตน้ จากความคิด จากการฉายภาพความคิดของพระเจา้ เองมาปรากฏเป็น โลกกายภาพท่ีเธออยู่ในขณะนี้ น่ีคือ ภาพรวมทอ่ี าจจะพอสามารถอธิบายใหเ้ ธอไดเ้ ขา้ ใจได้ พมิ : แลว้ พระผสู้ ร้าง ทา่ นคอื ใครกนั ล่ะค่ะ คาตอบ: ผสู้ รา้ งทกุ สรรพส่ิง 7
พมิ : ถา้ เชน่ นนั้ ทุกสิง่ ท่เี ป็นโลกกายภาพเกิดจากการกาหนดสร้างโดยพระเจา้ หรือพระผสู้ รา้ งใช่ไหมคะ่ คาตอบ : ถกู ต้อง พิม: แลว้ ทาไมพระเจา้ ถึงสรา้ งสรรคส์ ่งิ ต่าง ๆ รวมถงึ มนษุ ยล์ ่ะค่ะ คาตอบ: เพราะพระเจา้ เอง กอ็ ยากมปี ระสบการณ์ต่าง ๆ ผา่ นมนษุ ย์ พระเจา้ หรอื ฉนั เป็น.. ดารงอย่ใู นโลกทาง ฝ่ายวญิ ญาณ ที่ไมม่ ีร่างกาย ฉะนนั้ การที่จะสมั ผสั รบั รูป้ ระสบการณไ์ ดโ้ ดยผา่ นการรบั รูส้ มั ผัส มองเหน็ ไดย้ ิน ไดก้ ลน่ิ ลมิ้ รส ความรูส้ กึ ต่าง ๆทีม่ นุษยซ์ ง่ึ มีร่างกายสามารถจะรบั รู้ได้ น่ันเอง แรกเริม่ มีแตค่ วามคิดของพระ เจา้ เท่านนั้ และความคดิ ทัง้ หมดของพระเจ้าสามารถสรา้ งสรรค์ขนึ้ ไดท้ ันทที ันใด พิม: มนุษยจ์ ะสามารถส่ือสารหรือไดย้ ินเสยี งของพระเจา้ ไดห้ รือไม่ค่ะ? คาตอบ: พระเจา้ อยู่กับคุณตลอดเวลา และสรา้ งสรรคส์ ิ่งต่างๆ ผา่ นความคิดของคุณยังไงล่ะ เพยี งแต่บางครง้ั คุณไม่รูเ้ ทา่ น้นั พระเจ้าก็ยงั พยายามสื่อสารกับคุณตลอดเวลาดว้ ย หรอื ท่เี รียกว่าเสียงเล็กๆจากภายใน บาง คนก็สามารถรบั รูไ้ ด้ในบางครง้ั บางคนก็สงสยั ในเสยี งนนั้ วา่ เป็นการส่ือกบั สงิ่ อื่นที่อยนู่ อกตัวเอง ไม่ใชเ่ สียง ภายในของตัวเอง พมิ : อยา่ งเชน่ ท่ีบางครง้ั มักจะมีคนแนะนาว่าใหถ้ ามตัวตนภายใน แลว้ จะได้รบั คาตอบที่แทจ้ รงิ อย่างนน้ั หรือค่ะ? คาตอบ: ใช่ ใหต้ งั้ คาถาม พมิ : ทกุ คนหรือไม่คะ่ ทส่ี ามารถทาเชน่ นไี้ ด้ ? คาตอบ: ทกุ คนสามารถเขา้ ถึงเสียงภายใน หากยนิ ยอม พิม: แลว้ ทาไม บางคนไม่ไดย้ ินเสียงภายใน คาตอบ: อัตตาตัวตนเป็นเครื่องปิดก้ัน พิม: ทาไมมนษุ ยส์ ว่ นมากจงึ มีความวิตกกังวล ในการใชช้ ีวิตล่ะค่ะ? คาตอบ: กม็ นษุ ย์ไม่เขา้ ใจในการสรา้ งสรรค์ และไม่ตระหนักรูว้ ่ามนุษยม์ ีพลงั อานาจในการสรา้ งสรรคไ์ ด้ เชน่ เดียวกับพระเจา้ 8
มนษุ ยย์ ังไมร่ ูว้ า่ แทท้ ี่จรงิ แลว้ มนุษยค์ ือพระเจา้ พวกเราก็เป็นหน่ึงเดยี วกนั และมพี ลงั อานาจในการสรา้ งสรรค์ อย่างไรข้ ีดจากดั เนือ่ งจากมนษุ ยผ์ ่านการวนเวียนเกิดมานานแสนนานในโลกมายาพรอ้ มกับการถกู โปรแกรม จิตใหเ้ ชือ่ ว่า คุณทาไม่ได้ จากคนใกลต้ ัว คนในครอบครัวจากสิง่ แวดลอ้ มและสงั คม จนคุณไดห้ ลงลมื พลงั อานาจทแี่ ทจ้ ริงที่คุณสามารถทาได้ ลดทอนความเชื่อว่าคุณสามารถสรา้ งสรรคไ์ ดโ้ ดยไรข้ ดี จากัด จากการ เร่ิมตน้ ท่ีความคิด เริ่มจากจิต ไปสู่การสรา้ งสรรคส์ าแดงออกมาใหเ้ หน็ เป็นประสบการณต์ า่ งๆในโลกกายภาพ พมิ : ถา้ หากจะบอกวา่ ชีวติ คอื การสร้างสรรคอ์ ย่างน้ันใช่ไหมค่ะ? คาตอบ: ใช่ เพราะเราทกุ คนเชื่อมโยงและเป็นหน่งึ เดียวกนั เรามีตน้ กาเนิดมาจากแหล่งทม่ี าเดยี วกนั คือพระ ผสู้ รา้ ง ทีพ่ ระองคก์ าหนดสรา้ งเอกภพ เพื่อสมั ผัสประสบการณท์ ่พี ระเจา้ หรือบางคนเรียกว่า พระผสู้ รา้ งจะ สามารถจะทาไดโ้ ดยผา่ นทางความคิด ทกุ ๆความคิดเป็นการสรา้ งสรรค์ การจดจ่อความคิดอย่างมี สติสมั ปชัญญะ เป็นการสร้างสรรคท์ ี่เบกิ บานผา่ นการรูอ้ ยา่ งมีสติ บอ่ ยครง้ั ที่มนษุ ยส์ รา้ งสรรคจ์ ากความไม่รู้ เป็นการสรา้ งดว้ ยความกลวั พมิ : การที่มนุษยแ์ ตล่ ะคนมาเกิดบนโลกนี้ ไม่ใชเ่ รอ่ื งบงั เอญิ เหรอค่ะ คาตอบ: มนุษยม์ าเกดิ เพอ่ื เป็นผสู้ รา้ งสรรค์รว่ มเพื่อขยายจักรวาล เกดิ จากการกาหนดสรา้ งจากความว่างเปล่า ท่ีเป็นอากาศธาตุหรอื ทีเ่ รียกว่าอีเธอรแ์ ห่งจิตจักรวาลสากลของพระเจา้ พระเจ้าดารงอยูใ่ นโลกฝ่ายวิญญาณ เป็นพลงั งานจติ จกั รวาลสากล มนุษยเ์ ป็นผรู้ ่วมสรา้ ง มนุษยท์ ุกคนต่างก็มีพิมพเ์ ขียวทค่ี ุณมาทโี่ ลกแหง่ นี้ พิมพเ์ ขยี ว เสมือนเป็นจดุ ประสงคข์ องชีวิตว่าคณุ จะมาสร้างสรรคส์ ง่ิ ใด แตเ่ มือ่ คุณมาเกดิ บนโลกมายาที่ ดูเสมือนจรงิ มากๆ คุณอาจจะหลงลืมวัตถุประสงคด์ งั้ เดิมที่คณุ ไดว้ างแผนตงั้ ใจมาท่นี ่ี พมิ : จะทราบไดอ้ ย่างไรคะ่ ว่าพิมพเ์ ขยี วคืออะไร คาตอบ: ใหล้ องสงั เกตุดูว่าส่วนใหญแ่ ลว้ คุณจะตัดสินใจโดยใชห้ วั ใจตัวเองนาทางชวี ิต หรอื คุณฟังเสยี งจากคน รอบขา้ งกันแน่? บ่อยครง้ั ท่เี ราตัดสนิ ใจไม่ไดแ้ ลว้ ถามความคิดเหน็ จากคนในครอบครวั เพ่อื นหรอื จากแหล่ง ภายนอกที่เราคิดว่าเราไวใ้ จ น่ันจะบอกได้ว่าชีวติ และประสบการณท์ ี่ผ่านมาของคุณรูส้ ึกมคี วามสุขเตมิ เตม็ กับ ชีวติ หรือไม่? ใครเป็นผชู้ นี้ าทางอยเู่ บอื้ งหลงั การตัดสนิ ใจเหล่าน้ัน หากคุณไม่ทราบวา่ พมิ พเ์ ขียวของคณุ คืออะไร พิมพเ์ ขียวท่ีอาจจะสงั เกตได้ ก็คอื มนั เป็นสงิ่ ท่คี ุณ ปรารถนาอยากจะทามาโดยตลอด บางอย่างมนั เป็นความทา้ ทายในชีวิตมนั ไม่ใช่สิ่งทจี่ ะทาไดง้ ่าย แตใ่ นชีวิต 9
จรงิ คุณอาจเลอื กทีจ่ ะทาสงิ่ อน่ื แทนดว้ ยเหตผุ ลตา่ งๆ นานา หรือทาดว้ ยความคาดหวงั ของผอู้ ืน่ คาแนะนาจาก ผอู้ น่ื เพ่ือความม่นั ใจว่าการตัดสินใจนั้นทาใหค้ ุณอยใู่ นสภาวะปลอดภยั ลองเปลย่ี นการตัดสินใจโดยฟังเสยี งหัวใจตวั เองนาทางว่า แทท้ จ่ี ริงคุณอยากเป็น..... เสยี งภายใน เฝ้ารอทีจ่ ะแนะนาคุณเสมอมา แต่คณุ อาจจะไม่ไดย้ นิ หากคณุ ยนิ ยอมทจ่ี ะฟัง เสียงเล็กๆแตท่ รงพลงั คาตอบท่ี คุณไดอ้ าจไมเ่ หมือนกับส่งิ ท่คี ุณคาดคิด เพราะมนั อาจจะนาทางคุณไปสเู่ สน้ ทางใหม่ท่ีทา้ ทาย พมิ : สง่ิ แวดลอ้ มมีอิทธิพลอยา่ งมากต่อการตัดสนิ ใจของมนุษย์ คาตอบ: มนุษยท์ กุ คนต่างก็รว่ มสรา้ งสรรคส์ งิ่ ตา่ งๆใหส้ าแดงปรากฏออกมาสูโ่ ลกกายภาพ และต่างก็แวดลอ้ ม ไปดว้ ยทัง้ สิ่งท่ีตวั เองสรา้ งและผอู้ น่ื ไดส้ รา้ งสรรคเ์ อาไวเ้ ช่นกนั ตา่ งกเ็ ป็นผรู้ ่วมสรา้ งสรรคด์ ว้ ยกันทงั้ สนิ้ และแต่ ละคนก็มสี ิทธ์เิ สรีทจี่ ะเลอื กวา่ จะสร้างสรรคส์ ่งิ ใด ทางดา้ นดีและไม่ดี พมิ : อะไรก็ตามที่มนุษยส์ ร้างสรรคข์ นึ้ สามารถเปลย่ี นแปลงไดใ้ ช่ไหมคะ่ คาตอบ: เมื่อมนษุ ยส์ ร้างสรรคส์ งิ่ ต่าง ๆจากความคดิ ภายในจิต มันสามารถถกู เปลี่ยนแปลงแกใ้ ขไดด้ ว้ ย ความคิดสร้างสรรคใ์ หม่อนั ใหม่ พมิ : น่ันคอื มนั ไม่ใชส่ จั จธรรม คาตอบ: ใช่ สจั จธรรมคือ สิง่ ยังเป็นจรงิ อยไู่ ม่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา มนั ยังคงเป็นเช่นน้ันตลอดไป พมิ : การสรา้ งสรรคข์ องมนุษยก์ ส็ ามารถถกู ทาลายไดด้ ว้ ยการสรา้ งสรรค์อันใหมใ่ ช่ไหมค่ะ คาตอบ: ใช่ พมิ : เหมือนมีขอ้ จากัดของการสร้างสรรค์ คาตอบ: มันทาใหม้ นุษยส์ ามารถสรา้ งสรรคส์ ิง่ ใหมๆ่ ไดห้ ลากหลายไม่ซา้ กนั เป็นการเรียนรูป้ ระสบการณ์ ใหมๆ่ พมิ : ความกลวั เกดิ จากอะไรคะ่ คาตอบ: ความกลวั เกิดจากความไม่รู้ เชน่ มนุษยก์ ลวั ความตายเพราะมนุษยไ์ ม่รูว้ ่า จิตวิญญาณภายในไม่ตาย รา่ งกายเท่านน้ั ทส่ี ูญสลายไปเมื่อคุณตาย จิตวญิ ญาณยังคงมีอย่ชู ่วั นริ นั ดร์ เม่ือคณุ ตายจิตวญิ ญาณจะได้ 10
สมั ผัสความเป็นตัวตนทแี่ ทจ้ รงิ ในโลกวิญญาณ สัมผสั กบั ประกายแห่งความรกั ความตายและความเจบ็ ป่ วย เป็นสง่ิ สรา้ งสรรคท์ ี่มนุษยส์ ร้างสรรคข์ นึ้ อยู่ภายในขอบเขตความเช่ืออันจากัดของมนษุ ย์ ถา้ หากคุณเชื่อวา่ คณุ เป็น.... พระเจ้าคุณมีพลงั อานาจและความสมบรู ณเ์ ตม็ เปี่ยม ทกุ อยา่ งย่อมเป็นไปได้ สิ่งทคี่ ณุ คิด คุณเชื่อ คณุ เป็น คณุ จะเป็นเช่นนนั้ ไม่เหมือนกับโลกทางกายภาพตอ้ งใชก้ ารลงมือทาใหป้ รากฏมันเป็นกระบวนการของ การสรา้ งสรรค์ พิม: แต่มนุษยส์ ามารถสรา้ งสรรคท์ ัง้ ส่ิงทดี่ แี ละไม่ดีไดใ้ ชไ่ หมคะ่ คาตอบ: ใช่ เพ่ือโอกาสของการเรียนรูแ้ ละเติบโต 11
บทท3่ี : กำรเป็ นผู้สรำ้ ง เมื่อคุณนอนหลบั จิตของคณุ จะเช่ือมโยงกับจิตของพระเจา้ ที่อยู่ในโลกวญิ ญาณของจติ จกั รวาลโดย ปราศจากการถกู ปิดกนั้ ของอัตตาทีเ่ กิดขนึ้ ในขณะทค่ี ุณกาลงั ต่นื อยู่ การเช่ือมโยงทไ่ี ม่ถูกปิดกนั้ นจี้ ะเติม พลงั งานใหก้ บั ร่างกายของคุณ เมื่อคุณต่นื ขนึ้ คณุ จะรูส้ กึ สดชน่ื จากการไดน้ อนหลบั พักผอ่ น พระเจา้ และพวก เราทกุ คนเช่ือมโยงกัน เราเป็นหนง่ึ เดียวกนั ไม่วา่ จะเป็นมนุษย์ พชื สตั ว์ เชน่ เดียวกนั กบั ความคิดของมนษุ ยท์ ี่มีมากมายในแตล่ ะวัน ความคิดเหล่านีจ้ ะถูกเกบ็ รวบรวมความคิด ทัง้ หมดที่มนุษย์ไดเ้ คยคิดไว้ ลอ่ งลอยอยู่ในสนามพลงั งานของจิตจกั รวาลสากล ฉนัน้ ในระหวา่ งท่ีคุณนอนหลบั คุณก็อาจจะมีประสบการณท์ ่ีเกีย่ วขอ้ งกับความคดิ เหล่านี้ ทเี่ ราเรียกว่า ความฝัน หากมนุษย์คิดว่า ไรพ้ ลงั อานาจในการสร้างสรรคน์ นั้ เกดิ มาจากความกลวั ความเชอื่ ความสงสยั ไมแ่ น่ใจ เสมอื นกับการที่คุณออกห่างจากพระเจา้ ขาดการเชอ่ื มตอ่ กับพระเจา้ คณุ จึงคิดว่าคุณไมส่ มบูรณแ์ บบ แต่หาก คณุ เชื่อว่าคุณเป็นพระเจา้ คุณจะรบั รูไ้ ดถ้ งึ ความรูส้ ึกเบกิ บาน ในขณะท่ีคุณผอ่ นคลายร่างกายน่ังในสถานทเี่ งยี บๆ ไม่มเี สียงรบกวน ปลอ่ ยวางร่างกายและจติ ใจ แลว้ หายใจเขา้ ออกชา้ ๆ เมื่อคณุ รบั รูก้ ารมีอยขู่ องตวั ตนภายใน ตัวตนแก่นแทภ้ ายในทีร่ อจะได้พบกับคุณและ สอ่ื สารในสภาวะเคลมิ้ เหมือนการเขา้ ภวังคห์ รือชว่ งขณะจิตก่อนท่คี ุณจะหลบั อัตตาจิตสานึกทางานน้อยลง บางคนอาจจะไดย้ ินเสียงภายในในขณะที่คุณกาลงั อาบนา้ หรือทางานอดเิ รกทคี่ ณุ ชอบอย่กู ไ็ ด้ เดินเลน่ ใน สนาม อย่าคาดหวงั การฝึกชว่ งแรก ๆ ในสถานทเี่ งียบๆ เพอื่ ให้คนุ้ ชินกับสภาวะจติ เงียบจากความคิดฟ้งุ ซ่าน ใสใ่ จตระหนักรูท้ ี่จะฟังความคิด มสี ติอยกู่ ับลมหายใจเขา้ ออก โดยปกติคณุ มักจะคิดถงึ สิง่ อืน่ ภายนอกตัวตลอด 12
ทัง้ วัน พระเจา้ พูดกบั คุณเสมอมาแต่เราไม่ไดย้ นิ หรอื ไม่เชื่อ ถกู ปิดก้นั ดว้ ยอตั ตา ทาให้รูส้ ึกสบั สนหลงทางใน เป้าหมายชวี ิตรูส้ กึ ว่าชวี ิตมีความทุกขเ์ ศรา้ หมอง มันไม่ใชพ่ ลงั งานของความรกั การหาคาตอบจากแหล่งภายนอกเชน่ คนในครอบครวั คนท่ีคุณรกั เพ่ือน จะทาใหค้ ุณไดร้ บั คาตอบท่ี สนองความเป็นอัตตา และปกปอ้ งคณุ เพื่อใหค้ ุณรูส้ ึกมีความปลอดภัย เพราะพวกเขาเหลา่ นน้ั รกั คณุ บุคคลผทู้ ่ี ซ่งึ อาจมีความหวังดตี ่อคณุ มนั ไมใ่ ช่คาตอบท่ีแทจ้ ริง ท่ีคณุ จะเช่ือถอื มันได้ คณุ รูแ้ ลว้ ว่า คุณมาจากพระเจา้ คณุ เป็นพระเจา้ เสยี งภายในคอื เสียงท่พี ยายามผา่ นประตจู ิตสานกึ ฉะน้ันหากคณุ รูส้ ึกสบั สนหลงทางเสมอื นขาดเป้าหมายท่แี ทจ้ รงิ ลองตงั้ คาถามกบั ตนเองและรอคาตอบจาก เสียงภายในคุณเอง มนั คอื คาตอบทแี่ ทจ้ ริง! จกั รวาลประกอบไปดว้ ยสองสว่ นคอื 1.ส่วนทเ่ี ป็นโลกทางวิญญาณเป็นพลงั งานมองไมเ่ ห็นซึ่งมีจิต มากมายนบั ไม่ถว้ นอยู่ในสนามพลงั งานสากล พระเจ้าหรือพระผสู้ รา้ งเป็นผทู้ รงกาหนดสรา้ งทกุ สรรพส่ิงรวมถงึ มนุษย์ โลก กาแลคซี่ ดวงดาว ท่ดี ารงอยู่ภายในสนามพลงั งานจิตจกั รวาลสากล 2.โลกทางดา้ นกายภาพท่ีเป็นรูปธรรม สามารถมองเห็นและสมั ผสั ได้ ความเกลยี ดชงั จะทาใหเ้ กิดการหดตวั ซ่ึง ตรงกันขา้ มกบั ความรกั ทาใหเ้ กิดการขยายตัว “การสร้างสรรค”์ เป็นการแผข่ ยายจักรวาล และ พลงั งานของ ความรกั เป็นพลงั งานแหง่ จักรวาล หากคณุ ได้รบั รูว้ ่าตัวตนที่แทจ้ ริงแลว้ คุณเป็นใคร และไดเ้ ริ่มสรา้ งสรรคส์ ่งิ ที่ เป็นเป้าหมายของคณุ ในการมาอยู่ท่ีนีเ่ พอ่ื วตั ถปุ ระสงคท์ จี่ ะสรา้ ง คุณจะรูส้ กึ ได้ว่าตัวตนภายในของคุณยดื แผ่ ขยายออกไปเร่ือย ๆ กลายเป็นพลงั งานความรกั ท่ีแผ่ออกไปท่ัวทัง้ จกั รวาล วิธีงา่ ยๆ ใหล้ องถามตนเองว่า ขณะ นี.้ . คณุ อยากทาอะไรมากทีส่ ุด? โดยไมต่ ้องมีเหตุและผลใดๆมาเกย่ี วขอ้ ง และลงมอื ทาสงิ่ นน้ั ทนั ที คุณจะ ตระหนักรู้ว่า คณุ รูส้ กึ มีความสขุ เบกิ บานทไ่ี ดท้ าสิง่ น้ัน มันเป็นความปรารถนาทแี่ ทจ้ ริงภายใน ความเป็นตัวคุณ ถงึ แมม้ ันจะเป็นแคส่ ง่ิ เล็กๆ นอ้ ยๆ ก็ตาม การลงมือทาเป็นสิง่ สาคัญมนั จะช่วยใหส้ ิง่ ต่างๆทดี่ ูเหมือนยากจะค่อย ๆงา่ ยและมีความชัดเจนมากขนึ้ เมอ่ื คุณไดเ้ รม่ิ ลงมือทาบางสง่ิ บางอยา่ ง ภาพต่างๆจะค่อยๆชัดเจนมากขนึ้ เราทุกคนต่างมพี มิ พเ์ ขยี วทจ่ี ะต้อง คน้ หาและเติมเตม็ สงิ่ ทเี่ ราตงั้ เป้าหมายไวก้ ่อนมาท่ีโลกนี้ ถา้ หากยังไมท่ ราบใหล้ องถามเสียงภายในของคุณ เอง เฝา้ สงั เกต... รอคอยคาตอบ 13
เพราะคุณถูกสรา้ งสรรค์มาใหม้ ีความสามารถไรข้ ดี จากดั คุณสามารถเลอื กทจี่ ะทาตามพิมพเ์ ขียวหรือไม่ กไ็ ด้ หากคุณเลือกไมท่ าตามเปา้ หมายที่ได้วางไว้ จะทาใหค้ ณุ ออกห่างไปเร่ือย ๆ จนทาใหค้ ณุ เกดิ ความรูส้ กึ เศรา้ นจี่ งึ เป็นขอ้ สงั เกตุสาเหตุของความทุกขท์ ่ีคณุ เคยมีมากมาย เหมือนชวี ิตอยู่ในวังวน เนอ่ื งจากมนุษยป์ ระกอบไปดว้ ย ร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ ส่วนที่ทาให้คุณมาเกดิ และมีชวี ิตอยู่ได้ บนโลกใบนี้ คอื จติ วิญญาณ จิตวิญญาณมาสวมใส่สรา้ งชีวติ คอื ร่างกายและจติ ใจ โดยส่วนมากคณุ จะใชช้ ีวิต เพอื่ สนองความสขุ ทางดา้ นรา่ งกาย และอัตตา ความอยาก กิเลส รวมทงั้ การยอมรบั จากสงั คม สิ่งเหลา่ นีเ้ ม่ือ คณุ ไดร้ บั ในสงิ่ ท่ีคณุ ตอ้ งการเชน่ ความสาเรจ็ มเี งนิ ทองทรพั ยส์ ินมากมายเป็นทยี่ อมรบั ในสงั คม การงานอาชพี ท่ี ดี มักจะเป็นความสุขในระยะสน้ั ๆ และหมดไปอยา่ งรวดเร็วเช่น เมื่อคณุ ได้รบั ของขวญั ชนิ้ ใหม่ราคาแพง คณุ จะ รูส้ กึ เบอ่ื ในเวลาไม่นานนัก และต้องแสวงหาสง่ิ ล่อใจใหมๆ่ ตอ่ ไปอกี เร่ือย ๆ เป็นความสุขช่วั คราว เพราะนี่ไมใ่ ช่ เป้าหมายท่ีแทจ้ ริงทางจิตวญิ ญาณ หากคุณสามารถเขา้ ถงึ จิตวิญญาณภายในรบั รูไ้ ดย้ ินและคน้ พบเปา้ หมาย ทแ่ี ทจ้ รงิ ของจิตวิญญาณ คณุ จะมีชีวติ ที่มคี วามสขุ เบกิ บานอย่างแทจ้ รงิ การไดส้ รา้ งสรรคส์ ิง่ ใหม่ๆที่ไม่เคยมีใครสรา้ งสรรคม์ าก่อน เป็นส่งิ ทา้ ทายมากกว่าการสร้างสรรคใ์ นสง่ิ ท่ี เคยมคี นสรา้ งไวแ้ ลว้ เพราะการทาตามแบบเดิมความสขุ และสนุกจากการสรา้ งสรรคจ์ ะหมดไปอย่างรวดเรว็ ทาใหค้ ุณรูส้ กึ เบอ่ื หน่ายในการสรา้ งสรรคใ์ นแบบท่มี คี นเคยสรา้ งไวแ้ ลว้ แตกตา่ งกบั คนทส่ี รา้ งสรรค์คดิ คน้ ส่ิงประดษิ ฐใ์ หมๆ่ ทา้ ทาย การทคี่ ณุ มาอยูท่ ี่น่ีเพือ่ จะมาสรา้ งสรรคส์ ่งิ ใหมท่ ่ียังไม่เคยมีใครสร้างไวก้ ่อน ฉะนั้นผทู้ ่ี มีช่ือเสียงหรือผทู้ ยี่ ่งิ ใหญ่ประสบความสาเรจ็ ในอดีต คอื ผทู้ ่ีสรา้ งผลงานที่ไม่เคยมีใครทามาก่อน น่ันเอง การทางานของจิตเพอื่ สรา้ งสรรคโ์ ลกกายภาพจะเป็นกระบวนการฉายภาพออกมาสาแดงสู่โลกทาง กายภาพถกู สร้างขนึ้ อยา่ งต่อเนื่องโดยความคิดของมนุษย์ หากความคิดใดมีพลงั ความคดิ ท่ีเขม้ ขน้ ชัดเจน ตอ่ เน่ืองความคดิ นัน้ มกั จะมพี ลงั อานาจในการสรา้ งสรรค์มากกว่าโดดเด่นกว่าความคิดอืน่ ๆท่ีภาพภายในจิตไม่ ชดั เจน คุณมสี ิทธิใ์ นการเลอื กที่จะสรา้ งสรรคส์ ง่ิ ที่คณุ ตอ้ งการหรือไมต่ ้องการ? โดยมสี ติระลกึ รูก้ ับความคดิ ทุกๆ ขณะ คุณเป็นผสู้ รา้ งสรรคไ์ ดเ้ ชน่ เดยี วกนั ในปัจจบุ ันมสี ิง่ ท่ีมนษุ ยไ์ มไ่ ด้ตอ้ งการเกิดขนึ้ มากมายบนโลกจน ลน้ โลก เพราะคณุ ไม่ได้ตระหนกั รูอ้ ย่างมสี ติในการสรา้ งสรรค์ มนั กลายเป็นความมากลน้ เหตกุ ารณ์ตา่ งๆท่คี ุณ ไมช่ อบที่เกิดขนึ้ ในชวี ิต มันกเ็ กดิ มาจากท่ีคุณเลอื กสร้างสง่ิ ท่ีผอู้ น่ื อาจจะมีอทิ ธิพลต่อการตัดสนิ ใจของคุณ แต่ บางครง้ั คุณอาจจะไปโทษว่า สงิ่ ภายนอกว่าเป็นสาเหตุ จงตระหนักรู้ในความเป็นตัวคุณเอง มนษุ ยท์ กุ คนมี 14
พลงั อานาจในการสร้างสรรค์ ไมม่ ีอะไรทีเ่ กิดขนึ้ มาโดยบังเอิญ และหากไม่ตอ้ งการใหส้ ่ิงใดเกดิ ขนึ้ จงอย่าจดจ่อ ความคิดอยู่กบั สง่ิ นัน้ สิง่ ที่คุณตอ้ งควบคุมในการสร้างสรรคค์ ือ สภาวะอารมณ์ อารมณเ์ ป็นการแสดงออกสภาวะของจิต ถ้า หากคุณสามารถควบคุมอารมณ์ได้คณุ ก็สามารถควบคุมการสร้างสรรค์ไดท้ กุ อย่าง และอารมณย์ งั สง่ ผลตอ่ ความคิด อารมณย์ ังสามารถเบี่ยงเบนความคดิ การสร้างสรรคข์ องมนษุ ยจ์ ะสาเรจ็ ไดด้ ว้ ยการลงมอื ทาเท่านั้น ซึง่ ตอ้ งใชเ้ วลาการปรากฏออกสู่โลกกายภาพ ส่วนการสรา้ งสรรคข์ องพระเจา้ จะแตกต่างกบั การสรา้ งสรรคข์ อง มนุษย์ การสร้างสรรคข์ องพระเจา้ สามารถปรากฏสาแดงใหเ้ ห็นไดโ้ ดยทนั ทไี มต่ ้องมีการลงมือทา เนื่องจาก พระเจา้ ปราศจากอัตตามพี ลงั อานาจสูงสดุ ในการสรา้ งสรรคไ์ ด้อย่างสมบรู ณฉ์ ับพลนั 15
บทที่4: ควำมเป็ นหน่ึงเดียวกัน พวกเราทกุ คนและทกุ สรรพสงิ่ ลว้ นเป็นหนง่ึ เดียวกันถูกสรา้ งสรรคม์ าโดยพระผสู้ ร้างดารงอยใู่ นความว่าง ทัง้ ในรูปแบบทีเ่ ป็นนามธรรมหรือพลงั งาน และในแบบทเี่ ป็นรูปธรรมหรอื สสารท่รี บั รูส้ ัมผสั ความมตี ัวตนได้ พวก เราทุกคนจงึ เช่ือมโยงกันอย่างสมบูรณ์ในในพนื้ ทอี่ ันกวา้ งใหญ่ไพศาลของจติ จกั รวาลทีเ่ ป็นสากล การ หมุนเวียนเปล่ยี นรูปและกลมกลนื สอดคลอ้ งกนั อย่างเป็นธรรมชาติไมม่ กี ารแบง่ แยก เราตอ้ งเก่ยี วขอ้ งพ่ึงพา อาศัยซงึ่ กนั และกนั ในการดารงอยู่ร่วมกันอย่างเป็นเอกภาพ มีความเป็นกลาง มีแตท่ ่ีน่ี และเดี๋ยวนี้ เตม็ ไปด้วย ความรูส้ กึ สงบปิตสิ ุขและเบิกบาน พมิ : อภิปรชั ญาคืออะไรค่ะ? คาตอบ: การศึกษาหาความจรงิ แทท้ เ่ี กี่ยวขอ้ งกบั ความสมั พนั ธ์ของสรรพส่ิง จักรวาล และพระเจา้ พมิ : คาจากัดความของคาวา่ ศาสนา คืออะไรคะ่ ? คาตอบ: ศาสนาเป็นส่งิ ทีม่ นษุ ยเ์ ชือ่ ศรทั ธาตามคาสอนของศาสดาผู้ต่ืนรูท้ างจิตวญิ ญาณไดส้ อนเผยแผ่กนั มา นานในสจั จธรรมของชีวิต และไดม้ ีการบันทึกขนึ้ ในภายหลงั เป็นคาสอนระเบียบแบบแผนทปี่ ฏบิ ตั ิต่อๆกนั มา ตามความเชื่อ ความนับถอื แต่ละยุคสมัย อาจมีการแกไ้ ขปรบั ปรุงในภายหลงั โดยคนในยุคนั้น ศาสดาเป็นผู้ เห็นแจง้ ในสจั จธรรม พมิ : ส่ิงแวดลอ้ มคอื อะไรค่ะ คาตอบ: ทกุ คนรอบๆตัวคุณกาลงั สรา้ งสรรคค์ ุณและสิง่ แวดลอ้ มของคุณด้วยความคิดของพวกเขา โดยไม่ตอ้ ง สงสยั เลยว่า คณุ จะกลายเป็นด่งั เช่นท่ีพวกเขาเหน็ คณุ ถา้ หากคณุ เปลี่ยนแปลงความคิดท่คี ณุ กาลงั สรา้ ง เม่ือ 16
คณุ ลงมือทา คนอนื่ ก็จะเห็นและเปลย่ี นแปลงความคิดไปดว้ ย คนอ่ืนก็ย่อมไดร้ บั ผลกระทบจากการสรา้ งสรรค์ ของคณุ ด้วยเชน่ กัน เพราะความเป็นหน่งึ เดียวกนั เราต่างก็ไดร้ บั ผลกระทบจากการสร้างสรรคข์ องผอู้ ่ืน หาก คณุ มคี วามคิดทเ่ี ขม้ แข็งกว่าที่จะยนื หยดั สรา้ งสรรคเ์ พ่ือตัวคุณเอง การสรา้ งสรรคข์ องผู้อ่นื กไ็ มส่ ามารถมา แทรกแซงเปล่ยี นแปลงความเป็นตัวตนของคณุ ได้ ถา้ คณุ ไม่ยินยอม พิม: การเปล่ยี นแปลงใดๆ ในการสรา้ งสรรคเ์ ริม่ ตน้ ท่ีความคิดเหรอค่ะ คาตอบ: ใช่ ถูกตอ้ ง คณุ เรม่ิ มองเห็นภาพของการกระบวนการสรา้ งสรรคข์ องมนษุ ย์ พิม: มนุษยส์ ามารถท่ีจะคิดและสรา้ งสรรคส์ ง่ิ ตา่ งๆไดใ้ ช่ไหมค่ะ คาตอบ: ใช่แลว้ และเน่ืองจากมนุษย์อยู่บนโลกภายภาพ มนุษยส์ ามารถท่จี ะเลอื กไดว้ ่ามีอัตตา หรือไม่มีอัตตา กไ็ ด้ ถา้ หากมนษุ ยไ์ ม่มีอัตตา กจ็ ะกลายเป็นฉนั เป็น... โดยสมบูรณ์ พมิ : ความสงสยั สามารถทาใหห้ มดไปไดโ้ ดยวิธีใดค่ะ คาตอบ: เม่ือคณุ ไดล้ งมอื ทา ทาใหค้ วามสงสยั ถูกทาลายหมดสนิ้ ไป เมื่อคุณมีความคิดและลงมือทา คุณจะ ค่อยๆเกดิ ความเชื่อ ตอ่ มาความสงสยั กจ็ ะค่อยๆหมดไป พิม: มุมมองของมนษุ ยใ์ นเรื่องความยาก งา่ ย เกิดจากอะไรคะ่ คาตอบ: เป็นการวดั ค่าในภาษามนุษย์ เม่ือคุณทาสง่ิ ใดซ้าๆ หรอื เคยรบั รูม้ าก่อนหลายครงั้ สิง่ ที่คุณกาลงั ทาจะ ดเู หมอื นง่าย เพราะคณุ มนี ิสยั ในการรบั รูส้ ิง่ นีม้ าก่อนแลว้ คณุ เชอื่ วา่ มนั ง่ายท่จี ะทา พมิ : การทบี่ างคนสามารถเช่ือมตอ่ รบั การส่ือสารขอ้ ความที่มาจากพระเจา้ ไดเ้ กดิ ขนึ้ ได้อย่างไรคะ่ คาตอบ: ลองจนิ ตนาการว่าพระเจา้ เป็นจิตทกี่ วา้ งใหญ่ไพศาลไม่มรี ่างกายดารงอยใู่ นโลกวญิ ญาณในสนาม พลงั งานจิตจักรวาลสากล ซึ่งมีความคดิ จานวนมากมายนบั ไม่ถว้ น และแตล่ ะความคิดของพระเจา้ กก็ าลงั ฉาย ภาพมาสู่โลกทางกายภาพนีผ้ า่ นทางความคดิ ของมนษุ ยอ์ ย่างตอ่ เนื่อง ฉนั กค็ ือเธอซึ่งเป็นมนุษย์ เธอคือฉนั มี พลงั งานความคิดของพระเจา้ ไหลเวยี นอยูใ่ นตัวมนษุ ยต์ ลอดเวลา แต่มนุษยก์ ม็ ีอัตตาและตวั กรองคอื ความเชื่อ ท่ีจะไมเ่ ช่อื เรื่องเหล่านี้ บางคนปิดกั้นการรบั รูแ้ ละเกดิ ความสงสยั ไม่เชื่อ บางคนเปิดใจในการรบั รูแ้ ละเช่ือว่า พระเจา้ มีจรงิ ผทู้ ี่ไมเ่ ชอ่ื กจ็ ะปิดการเชือ่ มต่อกับพระเจา้ มนุษยเ์ ปรียบเสมือนเป็นยานพาหนะของพระเจา้ ทอี่ ยู่ บนโลกนี้ 17
พิม: ความคิดของพระเจา้ สามารถสรา้ งสรรคป์ รากฏขนึ้ ไดโ้ ดยทันทเี ป็นเพราะอะไรคะ่ คาตอบ: ทุกๆความคดิ ของพระเจ้าจะเกิดขนึ้ โดยทนั ทีทันใดไมม่ กี ารเบี่ยงแบน เพราะพระเจา้ ไม่มีอตั ตาไม่ จาเป็นท่จี ะตอ้ งมกี ารตดั สินใจ สว่ นมนษุ ยม์ อี ัตตา ความเชื่อ ขอ้ จากัดในทางโลกที่มนุษยร์ บั รูแ้ ละถกู ปลกู ฝังมา ในอดีตจนเป็นนสิ ยั ความเคยชนิ มีความอยาก มีความคาดหวงั กเิ ลสตัณหา พระเจา้ ปราศจากอัตตาสรา้ งสรรคโ์ ดยไม่ตอ้ งตดั สินใจ ส่งิ นน้ั จะเกดิ ขนึ้ โดยทนั ที แต่มนษุ ยย์ งั มกี าร ตดั สนิ ใจบนความเชอ่ื หากสงิ่ ใดทมี่ นุษย์คดิ ว่าทาไดง้ ่ายดาย ส่ิงนั้นกส็ าเรจ็ ไดง้ ่าย แต่ถา้ หากมนษุ ยค์ ิดว่าชวี ิต นีย้ ากลาบาก ผนู้ นั้ กจ็ ะมีประสบการณท์ ่นี าไปสู่ความยากลาบาก มันเป็นการสร้างสรรคจ์ ากความคดิ การมี อัตตาทาใหม้ นุษยต์ อ้ งมกี ารตัดสนิ ใจ มนั เป็นกระบวนการสรา้ งการรบั รู้วา่ ความคดิ นีก้ าลงั จะถูกสรา้ งสรรค์ ขนึ้ มาส่โู ลกทางกายภาพ พิม: คนท่ีอยูห่ า่ งไกลกันคนละประเทศ บางครง้ั สามารถรบั รูค้ วามรูส้ กึ ของกนั และกันได้ เพราะความเป็นหน่งึ เดียวกนั ใช่ไหมคะ่ คาตอบ: ใช่ กระแสจติ สามารถรบั รูถ้ งึ กนั ไดโ้ ดยเฉพาะคนที่มีความผกู พนั ธ์สายสมั พนั ธ์กนั ระยะทางและเวลา ไม่ใชข่ อ้ จากัด พมิ : มนุษยบ์ างคนไม่เช่อื แนวคิดทวี่ ่า ทกุ คนเป็นพระเจา้ ไมเ่ ขา้ ใจในความเป็นหน่ึงเดยี วกนั คาตอบ: สาหรบั คนที่มคี วามเป็นอตั ตาสงู จะยอมรบั สง่ิ นีไ้ ดย้ าก เพราะเขาคดิ แบบปัจเจกบคุ คล พมิ : พลงั งานประเภทใดท่มี อี านาจในการสรา้ งสรรค์มากท่ีสดุ ทรงพลงั มากท่ีสุด คาตอบ: พลงั งานของความรกั พลงั งานของความรกั จะเชื่อมโยงทกุ ส่งิ ทกุ อย่าง สรา้ งความสมั พันธ์ และเป็นพลงั งานแห่งจกั รวาล เชน่ ความรกั ของพ่อและแมท่ ี่มีตอ่ ลูกสายสมั พนั ธ์ที่เชื่อมโยงกนั ตัดกนั ไมข่ าด พมิ : ความหลงคืออะไรคะ่ คาตอบ: ความหลงคือความไม่รู้ เช่น หลงติดในโลกมายาเพราะความไมต่ ระหนกั รูใ้ นความเป็นจริง พมิ : พระเจา้ หรือพระผสู้ รา้ งในที่นี้มีเพียงหน่ึงเดยี วใช่ไหมค่ะ แตกตา่ งกบั ศาสดาในศาสนาตา่ งๆ 18
คาตอบ: พระเจา้ ในทน่ี ี้ หมายถงึ พระผสู้ ร้าง ( Prime Creator ) ผทู้ ่ที รงกาหนดสรา้ งทกุ สรรพสงิ่ รวมถงึ สรา้ ง เอกภพ และมนุษย์ ทรงสรา้ งสงิ่ ที่มีชีวิตและไม่มชี ีวิต ดังน้นั จงึ เป็นผูท้ ี่ดารงอยู่เหนอื ทกุ สรรพส่งิ พระองคท์ รง สรา้ งเอกภพและโลกเป็นหอ้ งทดลองเพ่ือการมีประสบการณ์ว่า พระองคจ์ ะสามารถทาอะไรไดบ้ า้ ง พระผสู้ รา้ งทรงสรา้ ง มนุษย์ โลก แผน่ ดิน น้า ทะเล อากาศ พชื พันธ์ธญั ญาหาร สัตว์ ที่อาศยั อยูบ่ นโลกนี้ และมนษุ ยก์ ็เป็นผรู้ ว่ มสรา้ งทีเ่ รียกวา่ Co-creator มนุษยส์ รา้ งสรรคส์ ง่ิ ต่างๆ เชน่ บา้ น รถยนตร์ เทคโนโลย่ี โรงพยาบาล โรงงาน โรงเรียน ศาสนา เขอื่ น โทรศพั ทม์ ือถือ โรงภาพยนตร์ วัตถตุ ่างๆมากมายทเี่ ห็นลน้ โลกอยู่ ในตอนนี้ คงทาใหม้ องเห็นภาพไดช้ ัดเจนยงิ่ ขนึ้ พระเจา้ ทรงคิดและสรา้ งโดยผา่ นร่างกายมนุษย์ แตม่ นุษยม์ ี เจตจานงคเ์ สรใี นการเลอื กว่า จะตัดสินใจอยา่ งไร และมนุษยท์ กุ คนมีเป้าหมายหรอื พิมพเ์ ขยี วตดิ ตัวในการมา เกิดบนโลกท่ีจะตอ้ งคน้ พบและทาใหช้ ีวติ เป็นไปตามวัตถุประสงคข์ องการมาเกิด พมิ : กฎธรรมชาติละ่ ค่ะ? คาตอบ: คอื กฎของการดารงอยู่ เกดิ ขนึ้ ตงั้ อยู่ ดบั ไป หมุนวนเป็นวัฏจักรเป็นวงกลม ทเ่ี รียกว่าสจั จธรรม พิม: มีคนเคยพูดว่า จกั รวาลภายนอกเป็นภาพสะทอ้ นของจกั รวาลภายในใชห่ รือไมค่ ่ะ คาตอบ: ใช่ ทุกอย่างเกิดจากความคิด จะเป็นการสะท้อนของการสร้างสรรคอ์ อกมาส่ปู ระสบการณภ์ ายนอก ถา้ หากอยากรู้วา่ ตัวเองเป็นคนเช่นไร ก็ใหส้ งั เกตจากความเป็นไปสงิ่ แวดลอ้ มรอบๆตวั เพื่อนสงั คมรอบขา้ ง พิม: ความตายของมนุษยค์ ืออะไรคะ่ คาตอบ: มนุษยป์ ระกอบดว้ ย 2 ส่วน คอื มนุษยม์ ีส่วนทเ่ี ป็นร่างกายและส่วนท่ีเป็นจิตวิญญาณ จิตวิญญาณ เขา้ มาสวมใส่อยู่ในร่างกายมนษุ ยเ์ พ่ือจะไดม้ ีประสบการณ์ตา่ งๆ เม่ือมนุษย์ตายอัตตากส็ ูญสลายไปดว้ ยเหลือ แต่จติ วญิ ญาณ จิตวญิ ญาณคือส่วนทเี่ ป็นตวั ตนแกน่ แทภ้ ายในอยู่ในรูปพลงั งานในโลกฝ่ายวิญญาณ ซึง่ ไม่ ตาย พมิ : ถา้ หากตอ้ งการตระหนักรูถ้ งึ ตัวตนภายในจะสามารถทาได้อยา่ งไรคะ่ ว่ามีจริงหรือไม?่ คาตอบ: ความรูส้ ึกยังไงละ่ ... ความรูส้ กึ เป็นภาษาของจติ วญิ ญาณ ท่บี างคนเคยพูดวา่ ถา้ ตดั สินใจอะไรไมไ่ ด้ กล็ องถามความรูส้ ึกภายในดูซิวา่ รูส้ กึ อย่างไร..? คาตอบที่แทจ้ ริงหาไดจ้ ากภายใน พมิ : ท่นี ่ี และเดีย๋ วนี้ มีความสาคัญอย่างไรค่ะ 19
คาตอบ: เวลาไม่มีอยู่จรงิ มีแตท่ ีน่ ่ีและเดยี๋ วนีข้ ณะนี้ อดีตผา่ นไปแลว้ ส่วนอนาคตยังมาไมถ่ ึง ที่มีอยจู่ ริงคือ ทน่ี ่แี ละเดีย๋ วนี้ การมีสติคอื การมีจิตระลกึ อยกู่ ับปัจจุบนั ทกุ ๆขณะ การมีสติอย่กู บั ปัจจบุ นั ทาใหท้ ุกๆขณะ ทุกๆวนิ าทลี ว้ นมีค่า มคี วามมหัศจรรยใ์ นการสรา้ งสรรคไ์ ดท้ รงพลงั และแม่นยา มคี วามตระหนักรูท้ ่ชี ัดเจน ถา้ หากควบคุมจิตไดก้ ส็ ามารถควบคมุ ทุกอยา่ งในชวี ิตไดเ้ ป็นมหาสติ ควำมหมำยทแ่ี ท้จรงิ ของมนุษย์ คำตอบล้วนมำจำกภำยในตนเอง 20
บทท5่ี : รู้จกั อตั ตำ พิม: ทาไมมคี นเพียงสว่ นนอ้ ยที่สามารถไดย้ นิ เสียงภายในตนเอง ส่งิ ทป่ี ิดก้นั การไดย้ นิ เสียงภายในคืออัตตา แลว้ อัตตาคืออะไรคะ่ คาตอบ: อตั ตาคอื บุคลกิ ภาพความเป็นตวั ตนเฉพาะของแตล่ ะคน มนุษยเ์ จด็ พันลา้ นคนแต่ละคนมีความ แตกต่างท่ีไม่มีใครเหมือนใครเลย แตล่ ะคนมีชื่อเรยี กแตกต่างกนั ท่ถี ูกตงั้ ขนึ้ มาเม่ือเกดิ เป็นมนษุ ยใ์ นแต่ละภพ ชาติ เชน่ ไมค์ เก๋ พลอย ฯลฯ ผคู้ นรอบตัวคุณต่างก็รบั รูใ้ นความเป็นบคุ ลิกภาพของคณุ ความคิดของคณุ คุณ ถูกสรา้ งสรรคต์ งั้ แต่ท่ีแม่เริม่ ตงั้ ครรภโ์ ดยตัวคณุ และคนที่อยแู่ วดลอ้ มทีค่ ิดเก่ียวกับคุณ ที่มกั จะพูดว่า คณุ เป็น คนหนา้ ตาดี มีความสามารถโดดเดน่ เป็นที่ยอมรบั ในสงั คม คุณเป็นเดก็ ดี รา่ เริง ทาใหค้ ณุ มปี ระสบการณถ์ งึ ความแตกต่างในความเป็นปัจเจกบคุ คล พิม: ความแตกต่างของแต่ละบคุ คล จะมีประโยชนอ์ ย่างไรค่ะ คาตอบ: อตั ตาชว่ ยใหม้ นุษยไ์ ดส้ มั ผัสกบั ประสบการณอ์ ันหลากหลาย และทาใหม้ นษุ ย์มปี ระสบการณแ์ ตกต่าง กนั มันเป็นของขวญั ท่พี ระเจา้ มอบใหม้ า แต่ละชาติภพคุณมคี วามเป็นตวั คณุ บคุ ลิกลักษณะเฉพาะทไ่ี ม่ เหมือนกนั และไม่มใี ครเหมือนใครเลย 21
พมิ : ถา้ หากมนุษยไ์ มม่ อี ัตตา มนุษยก์ ส็ ามารถเขา้ ถึงความเป็นพระเจา้ ไดใ้ ช่ไหมคะ่ คาตอบ: ใช่ การมีอัตตาเปิดโอกาสใหม้ นุษยไ์ ดเ้ รยี นรู้ และเตบิ โต ในความเป็นปัจเจกบคุ คล น่ันเอง เป็นมา่ น พรางในการคน้ หาความหมายที่แทจ้ ริงของชวี ิต พมิ : มนุษยส์ ่วนมากกย็ ึดม่นั ในความมีอัตตาอยา่ งเหนยี วแนน่ คาตอบ: ถกู ต้อง เพราะมันมคี วามกลวั ท่จี ะรบั รูว้ ่าอัตตาไม่มีอยู่จริงเหมือนภาพลวงตาท่ีถูกสรา้ งขนึ้ มา มนั เป็น แค่การสรา้ งสรรคโ์ ดยมนุษย์ จรงิ ๆแลว้ มันกร็ ูว้ ่าอัตตาไม่มอี ยู่จริง และรูว้ า่ แทท้ ่จี ริงแลว้ คุณเป็นใคร อัตตาจึงเป็น เสมอื นม่านบังตาของความเป็นพระเจา้ พิม: มนั เป็นการปกปอ้ งตนเองทจี่ ะยอมรบั ความจรงิ ใชไ่ หมคะ่ คาตอบ: อตั ตามสี องดา้ น คือดา้ นทเ่ี ชื่อวา่ แทท้ จี่ ริงคณุ เป็น ... ใคร กบั อีกดา้ นหนึ่งกพ็ ยายามยึดม่ันในความ เป็นอตั ตาต่อตา้ นปกป้องตัวมนั เองพยายามต่อสดู้ นิ้ รน มนุษยม์ กั มีความขดั แยง้ ภายในตนเอง เชน่ คณุ กาลงั สบั สนตดั สนิ ใจไม่ไดใ้ นเร่ืองใดเรื่องหนึ่ง เพราะเกิดความขัดแยง้ ต่อสกู้ ันเอง ความรูส้ กึ ภายในกับอตั ตา อตั ตาคอื คณุ ลกั ษณะต่าง ๆ ท่แี สดงออกถึงความเป็นตวั เอง เช่น บุคลิก นสิ ยั อารมณท์ ่ีแสดงออกมา รูปลกั ษณ์ ภายนอก อาชีพ หนา้ ท่ีการงาน ฐานะ ความเชอ่ื ส่วนตวั การเป็นทย่ี อมรบั ในสงั คม และมุมมองของคนอ่นื ทีมีต่อ คณุ กเ็ ป็นสิ่งสะทอ้ นออกมาใหเ้ หน็ ในความเป็นตัวคณุ พมิ : เหมือนกบั บางครงั้ ที่มนุษยต์ ัดสินปัญหาโดยถามคนรอบขา้ งและพยายามทีจ่ ะปกปอ้ งตนเองแทนที่จะฟัง เสยี งจากภายในความรูส้ ึกของตนเอง ซึง่ เป็นคาตอบท่ีแทจ้ รงิ คาตอบ: อตั ตาถกู สรา้ งสรรคข์ นึ้ มาโดยตวั คุณเอง และโดยคนรอบขา้ งที่มีส่วนคดิ วา่ คุณเป็นเช่นนน้ั มันเป็นผล สะทอ้ นของความมตี ัวตนเป็นบคุ ลกิ ลกั ษณะเฉพาะของแต่บุคคล พิม: มนุษยจ์ ะสามารถตระหนกั รูไ้ ดไ้ หมคะ่ วา่ เสยี งไหนเป็นเสยี งของพระเจา้ ในตนเอง และเสียงไหนเป็นเสียง ทบี่ ง่ บอกถงึ ความเป็นอตั ตาเป็นผพู้ ูด หรือเป็นขอ้ สงั เกตุใหเ้ หน็ ความแตกตา่ ง คาตอบ: เสยี งทีม่ าจากความคดิ ดา้ นบวกในหัวคณุ แสดงออกถงึ ความรกั คอื มาจากพระเจา้ และเสียงทมี่ าจาก ความคิดดา้ นลบในหัวคณุ แสดงออกถงึ ความช่ัวรา้ ยน่ันมาจากอตั ตา และบางครง้ั คณุ ก็อาจสบั สนว่าพระเจา้ เป็นสงิ่ ที่ช่วั รา้ ย 22
พิม: ถา้ กรณีที่เกิดมีความคิดสงสยั ไม่แน่ใจในคาตอบ น่ันกเ็ ป็นเสยี งจากอตั ตาใชไ่ หมค่ะ คาตอบ: ใช่ พมิ : ถา้ หากมนษุ ยย์ งั ไมเ่ ช่ือ หรือยังไม่เป็นพระเจา้ โดยสมบรู ณ์ การสรา้ งสรรคส์ ิ่งใดๆของมนษุ ยจ์ ะสาเรจ็ ได้ ดว้ ยการลงมือทา คาตอบ: ถกู ตอ้ ง มนุษยย์ ังต้องมีการลงมือทาเพื่อการตระหนักรู้ พิม: ฉะนั้นการทม่ี นุษยท์ ุกคนลว้ นมีประสบการณท์ ีแ่ ตกต่างกนั เพราะความมอี ัตตา คาตอบ: มีความเป็นปัจเจกบคุ คลทาใหพ้ ระเจา้ ไดร้ บั รูป้ ระสบการณต์ ่าง ๆผ่านมนษุ ย์ และการคน้ พบพมิ พ์ เขียวหรอื เป้าหมายในชวี ิตทาใหท้ า้ ทายมากยิง่ ขนึ้ พิม: ไม่ว่าดา้ นดีหรอื ไม่ดี มันคอื การสรา้ งสรรคใ์ ช่ไหมคะ่ คาตอบ: ใช่ พมิ : มนุษยม์ ีสิทธิในการตัดสินใจเลือกจะทาตามเป้าหมายหรือไม่ก็ได้ เพอ่ื เตมิ เตม็ ความรูส้ ึกภายใน ซึง่ แตกตา่ งจากสตั วท์ ่ีไม่มีเจตจานงเสรีโอกาสทางเลือก และไม่มกี ารสรา้ งสรรค์ เพยี งแต่ใชช้ ีวิตไปตามสญั ชาติ ญาณทถี่ กู กาหนดมาเพื่อความอยูร่ อด คาตอบ: วงจรชวี ิตของสตั ว์ เกิด เติบโต ขยายพันธ์และตาย พมิ : ความคิดสรา้ งหากมนษุ ยม์ ีความเชื่อวา่ อย่างไร กจ็ ะเป็นเช่นนน้ั ใชห่ รือไม่ค่ะ คาตอบ: ถา้ คุณคิดว่ายาก มนั กย็ าก ถา้ คุณคิดว่างา่ ย มันกง็ า่ ย ถา้ ตอ้ งการเปลี่ยนแปลงชีวิต ใหเ้ ปลี่ยนที่ ความคิด “ ทุกๆส่ิง เริม่ ตน้ จากจิต ” การลงมือทาเป็นสิ่งสาคัญสาหรบั มนษุ ยใ์ นการสรา้ งสรรค์ อยา่ งเชน่ ถา้ คณุ ไดร้ บั มอบหมายใหท้ างานชนิ้ หนงึ่ ถา้ มมุ มองของคณุ บอกว่ามนั เป็นงานท่ียาก มันกจ็ ะทาสาเรจ็ ไดย้ าก บางคนเห็นว่าตลอดทัง้ ชีวติ มแี ต่ความทุกข์ ทาใหเ้ ขาประสบแตป่ ัญหาเสมอมา คุณเป็นผสู้ รา้ งสรรคม์ ันขนึ้ มา เองดึงดูดสถานการณห์ ลา่ น้นั เขา้ มา คณุ เป็นผสู้ รา้ งประสบการณใ์ นชีวติ ของตนเอง 23
พมิ : ส่วนใหญ่มนุษยเ์ คยชินกับการฟังเสยี งจากอตั ตา จะมีวธิ สี รา้ งความตระหนกั รู้ในความเป็นพระเจา้ ใน ตนเองได้อยา่ งไรคะ่ คาตอบ: มีความรกั ในตนเอง ใหฝ้ ึกถามส่ือสารและฟังคาตอบจากความรูส้ ึกภายในโดยไม่แทรกแซง และลงมือ ทาไปตามนั้น หากคณุ ทาเชน่ นบี้ ่อยๆ เสยี งของอัตตาจะคอ่ ย ๆมีพลงั นอ้ ยลง เสียงของพระเจา้ จะดังขนึ้ คณุ จะ สามารถแยกแยะไดว้ ่าสิง่ ไหนเป็นเสยี งจากภายใน คุณจะมีความชัดเจนในความเป็นตวั คุณเองมากขนึ้ มคี วาม สขุ ในการใชช้ ีวิต 24
บทที่6: กำรส่ือสำรกับเสียงภำยใน พิม: วธิ กี ารทีจ่ ะฝึกเร่ิมตน้ สื่อสารกบั เสียงภายในทาอย่างไรค่ะ คาตอบ: จริงๆ แลว้ พระเจา้ สื่อสารกับมนุษยต์ ลอดเวลา แต่มนุษยข์ าดความตระหนกั รู้ จึงไม่ไดย้ นิ คณุ ลองหาช่วงเวาลาสน้ั ๆ หรือชว่ งเวลากอ่ นนอน หรือหลงั ต่ืนนอน ในสถานทเี่ งียบ สงบ ผอ่ นคลายรา่ งกาย และจติ ใจ ทาจิตใหเ้ งียบจากการคิด ตระหนกั รูถ้ งึ ลมหายใจเขา้ -ออก ลองตงั้ คาถามกบั ตัวเอง โดยไม่ตอ้ งรอฟัง คาตอบ ไม่ต้องกังวลหากช่วงแรก ๆคณุ ยงั ไม่ไดย้ นิ เสยี งอะไรเลย เป็นเร่ืองปกตธิ รรมดา ถา้ หากยงั ไม่ไดร้ บั คาตอบ ใหบ้ อกตวั เองว่า คุณเชื่อว่าคณุ จะไดร้ บั คาตอบในไม่ชา้ ไมว่ นั ใดกว็ นั หน่งึ รอคอย ..... อย่าคาดหวงั ใน คาตอบ หรือ วธิ ีการใดๆ ทคี่ าตอบจะปรากฏออกมา ในบางครงั้ คาตอบจะโผลม่ าแบบคุณไม่ทนั ได้ตงั้ ตวั โดย บงั เอญิ เชน่ ในขณะทีค่ ุณกาลงั อาบนา้ หรอื เดินเล่นในสวนโดยไม่ไดค้ ดิ อะไร แลว้ คาตอบกม็ า อย่าตัดสิน ถามคาถามแลว้ ก็ปลอ่ ยไป ทาบอ่ ยๆ หัวใจสาคัญคือ ตอ้ งเชอ่ื ว่าคุณทาได้ ฉันเป็น.... ฉันคอื พระเจา้ พมิ : การผ่อนคลายอารมณแ์ ละการปลอ่ ยวางความคดิ เป็นสงิ่ สาคญั ใช่ไหมค่ะ คาตอบ: ใช่ เป็นช่องทางที่จะเปิดประตูใหเ้ ราไดย้ ินเสียงภายในของเราเอง พมิ : บางคนมีความคิดมากมายตลอดทัง้ วัน 25
คาตอบ: ความคิดทม่ี นษุ ยไ์ ม่ไดต้ ระหนกั รูเ้ ป็นการคิดที่เกดิ ขนึ้ เองเป็นไปเองโดยอัตโิ นมัติ และความคิดทม่ี นุษย์ มีความตระหนกั รูว้ ่า ขณะนีก้ าลงั คิด คิดเร่ืองอะไร? ซงึ่ เมื่อคุณมีความตระหนักรู้ คณุ จะรูว้ า่ น่ีเป็นความคิดของ คุณ ขณะนีค้ ณุ กาลงั คิด....เร่อื งอะไร พมิ : แลว้ การทาสมาธลิ ะ่ ค่ะ คาตอบ: การทาสมาธเิ ป็นการปิดอายตนะทัง้ 5 หู ตา จมูก ลนิ้ กาย ใจ ไมใ่ ห้รบั รูส้ ิง่ ภายนอก ทาใหเ้ กิดความ สงบภายในใจเป็นการทาสมาธิแบบสมถะ และในขณะเดียวกันหากเป็นการฝึกการตระหนักรูภ้ ายใน พจิ ารณาสิง่ ท่ีเกิดขนึ้ ตามความเป็นจริงเรียกว่าเป็นการทาวิปัสสนา การพจิ ารณารูเ้ หน็ ตามความเป็นจรงิ พิม: ทาไมมนุษยท์ าในสิง่ ที่ไม่อยากจะทาละ่ คะ่ ? คาตอบ: มนั เป็นความเคยชนิ ที่มนุษยอ์ าจจะเสพติดการทาบางอยา่ ง การเสพตดิ น้นั ถูกโปรแกรมโดยนสิ ยั ที่ กระทามานานจนเคยชนิ เป็นการทาท่ีเป็นไปโดยอตั ิโนมัติไมร่ ู้ตวั การทีจ่ ะแก้ไขการไม่รูไ้ ดด้ ว้ ยการมสี ติระลึกรู้ เชน่ การฝึกสติ การฝึกวปิ ัสสนาเป็นวิธีหนงึ่ สามารถชว่ ยเปลย่ี นแปลงนสิ ยั ทไ่ี ม่ดีได้ นสิ ยั ท่ดี เี ช่น ความมีระเบียบ ในชีวติ ประจาวัน การตรงต่อเวลาเป็นการทาส่งิ ตา่ งๆ นิสยั ความเคยชนิ มี 2 ประเภท คือ เป็นนสิ ยั ความเคยชิน ในดา้ นท่ีดี และ เป็นนิสยั ความเคยชินในด้านที่ไม่ดี พมิ : มนุษยค์ วรมีความตระหนักรูใ้ นการคิด เพราะการคิดเป็นการสรา้ งสรรคท์ ัง้ ส่ิงท่ีดแี ละไม่ดี คาตอบ: การคิดทเ่ี ป็นไปโดยอตั ิโนมัตไิ ม่รูต้ ัวก็จะสรา้ งสรรคส์ ง่ิ ต่างๆออกมาสโู่ ลกกายภาพเชน่ กนั ส่วนการคิด แบบรูต้ ัวจะเป็นการเลอื กสรา้ งสรรคอ์ ยา่ งมสี ติที่จะเตมิ เตม็ สงิ่ ทีเ่ ราปรารถนาใหส้ มบรู ณ์ พิม: สง่ิ ทจี่ ะขัดขวางการลงมือทาในสิง่ ที่เราต้องการคืออะไรค่ะ? คาตอบ: ความลงั เลสงสยั ความสงสยั เป็นความคิดเป็นอัตตา เช่น อตั ตาบอกวา่ คุณทาไม่ไดห้ รอก คุณยงั ไม่ พรอ้ ม มันไม่ใช่คุณที่จะทางานแบบนีไ้ ด้ พิม: ถา้ หากเราเปิดใจ เราจะไดย้ ินเสียงภายใน และพบสง่ิ ทเ่ี รามองหาและตอ้ งการ คาตอบ: ย่งิ คุณเปิดใจ คณุ ก็จะย่ิงไดร้ บั คาตอบ บางครงั้ คาตอบอาจมาในรูปแบบอ่นื ๆ เช่น ไปพบกบั ขอ้ ความ ในหนงั สือ พบคนท่ีใช่ในเวลาท่เี หมาะเจาะพอดี เม่ือคุณเปิดใจมองหาสงิ่ นนั้ จะมา 26
พิม: ทกุ คนในโลกลว้ นเป็นหน่งึ เดียวกัน ต่างเป็นจิตวิญญาณทม่ี าเรยี นรูป้ ระสบการณใ์ นรา่ งกายมนุษย์ มาจากพระผสู้ รา้ ง ผทู้ รงใหก้ าเนดิ ทกุ สรรพสง่ิ คาตอบ: หากสงั คมในโลกนีม้ ีความเป็นกลางไม่มกี ารแบ่งแยกทางศาสนา โลกมีความสมดุลในความเชอ่ื ทาง จิตวิญญาณมีความเป็นเอกภาพเป็นหน่ึงเดียวกันอยู่ภายใตก้ ฎเกณฑข์ องธรรมชาติ 27
28
Search
Read the Text Version
- 1 - 28
Pages: