หน่วยที่2 เรื่องการทำงานของคอมพิวเตอร์

หน่วยท่ี 2 การทางานของคอมพวิ เตอร์[ช่ือเร่ืองรองของเอกสาร]วิทยาลยั เทคนิคคเู มอื งICEC [ทอี่ ย่บู ริษทั ]

หนว่ ยท่ี 2 การทางานของคอมพิวเตอร์สาระการเรียนรู้ 2.1 องค์ประกอบของคอมพวิ เตอร์ 2.2 หลกั การทางานของคอมพิวเตอร์ 2.3 ส่วนประกอบของคอมพวิ เตอร์ผลการเรียนรทู้ ่ีคาดหวัง 1. เพ่อื ใหส้ ามารถบอกความหมายของคอมพวิ เตอรไ์ ด้ 2. เพื่อใหส้ ามารถบอกประโยชน์และการใช้งานคอมพวิ เตอร์ได้

หน่วยท่ี 2 การทางานของคอมพิวเตอร์สาระสาคัญประจาหน่วย เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์โดยลาพงั จะไมส่ ามารถทางานได้ตามลาพังได้ด้วยตนเอง จาเปน็ ต้องมอี งค์ในการทางานของคอมพวิ เตอร์ประกอบอยู่ 4 อยา่ งด้วยกัน ที่มคี วามสาคญั เทา่ เทยี บกันและตอ้ งทางานประสานกัน จึงจะทาใหร้ ะบบคอมพิวเตอร์สามารถทางานได้2.1 องคป์ ระกอบของเครือ่ งคอมพิวเตอร์ ในบทเรียนนจี้ ะได้ศกึ ษาเก่ียวกับองค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ วา่ ประกอบด้วยองค์ประกอบใดบา้ ง แต่ละองคป์ ระกอบมคี วามสาคญั อยา่ งไรซง่ึ จะเปน็ พนื้ ฐานสาคญั ทจ่ี ะทาใหเ้ ขา้ ใจเก่ยี วกับคุณลกั ษณะ และหน้าที่จองอุปกรณ์ต่างๆ ภายในระบบของคอมพวิ เตอร์ รวมไปถึงการทางานของระบบ ซงึ่ พอจะสรปุ ถึงองค์ประกอบของระบบคอมพวิ เตอร์ท่ีสาคัญไดด้ ังนี้ 1. องคป์ ระกอบทางดา้ นฮาร์ดแวร์ (Hardware) เป็นองค์ประกอบของตวั เครอื่ งที่สามารถจบั ต้องได้ เช่น จอภาพ เครื่องพมิ พ์ เทป แปน้ พมิ พ์ ดิสก์ไดรฟ์ หรือแม้แตว่ งจรไฟฟ้าในตัวเครอ่ื ง ฯลฯ 2. องคป์ ระกอบทางดา้ นซอฟตแ์ วร์ (Software) เป็นกล่มุ ของคาส่งั เรียกวา่ โปรแกรมท่ีถา่ ยทอดแนวความคิดของผู้ท่ีเขียนโปรแกรมเพอ่ื สั่งงานให้คอมพวิ เตอร์ทางาน 3. องค์ประกอบทางดา้ นบคุ ลากร (Personnel) เป็นองค์ประกอบท่เี กี่ยวข้องกบั การใช้พัฒนาระบบคอมพวิ เตอร์ และการใช้งานระบบคอมพิวเตอร์ 4. องค์ประกอบทางด้านข้อมูล (Data) เปน็ ข้อมลู ท่ีจะนาเข้าส่รู ะบบคอมพิวเตอร์พรอ้ มกบัโปรแกรม เพื่อทาการประมวลผล รปู ที่ 2.1 องค์ประกอบของคอมพวิ เตอร์2.1.1 องคป์ ระกอบทางดา้ นฮารด์ แวร์ ฮาร์ดแวร์ หมายถึง สว่ นประกอบของตวั เครอ่ื งที่เราสามารถจับต้องได้ จะสามารถแบ่งสว่ นประกอบของฮาร์ดแวร์ออกไดเ้ ป็น 4 หนว่ ยที่สาคญั ดงั นี้

2.1.1.1 หนว่ ยรับขอ้ มูล (Input Unit) ทาหน้าทีใ่ นการรับโปรแกรม และขอ้ มูลเขา้ สู่คอมพวิ เตอร์ ตัวอยา่ งของอุปกรณ์ทีใ่ ชร้ บั ขอ้ มูล ได้แก่ แปน้ พมิ พ์ หรือคยี ์บอร์ด (Keyboard) เครื่องสแกนต่างๆ เช่น เครอ่ื งรดู บัตร สแกนเนอร์ ฯลฯ 2.1.1.2 หน่วยความจา (Memory Unit) ทาหนา้ ท่เี กบ็ โปรแกรมหรอื ข้อมลู ท่รี ับมาจากหน่วยรบั ข้อมูล เพือ่ เตรยี มสง่ ใหห้ น่วยประมวลผลกลางาการประมวลผล และรบั ผลลัพธท์ ไ่ี ด้จากการประมวลผล เพ่ือเตรยี มส่งออกหน่วยแสดงขอ้ มูลต่อไป 2.1.1.3 หนว่ ยประมวลผลกลาง (CPU หรือ Central Processing Unit) ทาหน้าท่ีปฏิบตั ิงานตามคาสั่งท่ปี รากฏอยใู่ นโปรแกรม หน่วยน้จี ะประกอบด้วยหนว่ ยย่อยๆ อีกหนว่ ย ไดแ้ ก่ หน่วยคานวณเลขคณติ และตรรกวทิ ยา (ALU หรอื Arithmetic and LogicalUnit) หนว่ ยควบคมุ (CU หรอื Control Unit) หน่วยเก็บขอ้ มูลสารอง (Secondary Storage) ทาหน้าท่ีเก็บขอ้ มูลหรือโปรแกรมทจ่ี ะป้อนเขา้ สูหนว่ ยความจาภายในเครอ่ื งก่อนทาการประมวลผลด้วยซีพยี ู รวมทงั้ เป็นแหล่งเกบ็ผลลพั ธ์จากการประมวลผลดว้ ย เพือ่ การใช้งานในภายหลงั 2.1.1.4 หน่วยแสดงข้อมูล (Output Unit) ทาหน้าทแ่ี สดงผลจากการประมวล เชน่จอภาพ เคร่ืองพมิ พ์ เป็นตน้ รปู ที่ 2.2 องค์ประกอบทางดา้ นฮาร์ดแวร์2.1.2 องคป์ ระกอบทางดา้ นซอฟตแ์ วร์ ซอฟต์แวร์ หมายถึง โปรแกรมหรอื ชุดคาส่งั ทถ่ี กู เขียนเพื่อส่ังให้คอมพวิ เตอรท์ างานซอฟต์แวร์ จะเปรยี บเสมือนตัวเชอ่ื มระหว่างผู้ใช้เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ และตวั เครอื่ งคอมพวิ เตอร์ ซอฟต์แวรร์ ะบบ (System Software) ซอฟต์แวรป์ ระยุกต์ (Application Software) ซอฟตแ์ วร์สาเรจ็ รูป (Package Software)

2.1.2.1 ซอฟต์แวรร์ ะบบ ซอฟตแ์ วร์ระบบ หมายถึง ชุดของาสง่ั ท่เี ขียนไวเ้ ป็นคาสงั่ สาเร็จรปู ซ่ึงจะทางานใกล้ชดิกับคอมพิวเตอรม์ ากีส่ ดุ เพื่อคอยควบคุมการทางานของฮาร์ดแวร์ ทุกอย่างและอานวยความสะดวกใหก้ บั ผใู้ ช้ในการใชง้ าน ซอฟต์แวรร์ ะบบนี้ สามารถแบง่ ออกได้อกี ดงั นี้ - ซอฟตแ์ วร์ควบคมุ ระบบปฏิบัตกิ าร (Operating System) หรอื OS - ซอฟตแ์ วรจ์ ดั การอปุ กรณ์ต่อพ่วง (Device Diver Software) - ซอฟตแ์ วร์การส่ือสาร (Communications Software) - ซอฟต์แวร์ช่วยพัฒนาโปรแกรม (Program Development Software) - ซอฟตแ์ วร์อานวยความสะดวก (Utility Software) 2.1.2.2 ซอฟตแ์ วรป์ ระยกุ ต์ ซอฟตแ์ วร์ประยกุ ต์ คอื ซอฟตแ์ วรห์ รือโปรแกรมทถี่ กู เขยี นขึน้ เพื่อการทางานเฉพาะอย่างท่เี ราตอ้ งการ เชน่ งานส่วนตัว งานทางด้านธุรกิจ หรืองานทางด้านวทิ ยาศาสตร์ เราอาจเรยี กโปรแกรมประเภทน้วี า่ (User’s Program) ซอฟตแ์ วรป์ ระเภทนี้โดยสว่ นใหญม่ กั ใชภ้ าษาระดับสงู ในการพฒั นา เชน่ ภาษาซี ภาษาโคบอล ภาษาปาสคาส ภาษาเบสิก ฯลฯ ตัวอย่างของโปรแกรมที่พัฒนาขึ้นในทางธุรกิจ เช่น โปรแกรมการาบัญชีจ่ายเงินเดือน (Payroll Program) โปรแกรมระบบเช่าซ้ือ (Hire Purchase) โปรแกรมการาสินค้าคงคลงั (Stock Program) ฯลฯ ซ่ึงกฎเกณฑ์ของแต่ละหน่วยงานทีใ่ ช้โปรแกรมประเภทนี้จะสามารถดัดแปลงแก้ไขเพม่ิ เตมิ ในบางส่วนของโปรแกรมเองได้ เพอื่ ให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานโปรแกรม 2.1.2.3 ซอฟตแ์ วร์สาเรจ็ รปู ซอฟต์แวรส์ าเร็จรปู เปน็ ซอฟตแ์ วรห์ รอื โปรแกรมประยุกตม์ ีผจู้ ัดทาไวเ้ พอ่ื ใชใ้ นการทางานประเภทต่าง ๆ โดยให้คนอนื่ ๆ สามารถนาซอฟต์แวรป์ ระเภทน้ไี ปใช้กับขอ้ มูลของตนได้ แต่จะไมส่ ามารถทาการดัดแปลงหรือแกไ้ ขโปรแกรมได้ ผูใ้ ชไ้ มจ่ าเปน็ ต้องเขยี นโปรแกรมข้นึ มาเองขงึ เป็นการประหยัดเวลา แรงงาน และค่าใชจ้ า่ ยในการเขียนโปรแกรม นอกจากนย้ี งั ไมต่ ้องใชเ้ วลามากในการฝกึ และปฏบิ ัติอีกดว้ ย ซอฟตแ์ วร์สาเรจ็ รูปน้ี มักจกี ารใช้งานในหนว่ ยงานที่ขาดบุคลากรทีม่ ีความชานาญเป็นพิเศษในการเขยี นโปรแกรม ดังนน้ั การใชซ้ อฟต์แวร์สาเรจ็ รูปจึงเป็นสิ่งที่อานวยความสะดวกและเปน็ ประโยชน์อยา่ งย่งิ ตวั อย่างของซอฟตแ์ วรส์ าเรจ็ รปู เช่น ซอฟตแ์ วร์ระบบจัดการฐานขอ้ มูล ซอฟต์แวร์จดั พมิ พ์รายงาน หรอื เวิร์ดโปรเซสเซอร์ ซอฟตแ์ วรก์ ระดาษอเิ ล็กทรอนิกส์ หรอืโปรแกรมตารางคานวณ หรอื สเปรดชตี (Spreadsheet)

รปู ท่ี 2.3 องค์ประกอบทางดา้ นซอฟต์แวร์2.1.3 องค์ประกอบทางดา้ นบคุ ลากร (Personnel) ถงึ แมร้ ะบบคอมพิวเตอร์จะประกอบด้วยองค์ประกอบท้ังทางดา้ นฮาร์ดแวรแ์ ละซอฟตแ์ วร์แตร่ ะบบคอมพิวเตอรจ์ ะไมส่ ามารถทางานได้ถา้ ขาดอกี องคป์ ระกอบหน่งึ ซึง่ ได้แก่ องคป์ ระกอบทางด้านบคุ ลากร ที่จะเป็นผู้จดั การและควบคุมและระบบคอมพวิ เตอรใ์ ห้สามารถปฏิบตั ิงานไดอ้ ยา่ งราบรน่ื คอยแกไ้ ขปัญหาต่างๆ เกิดข้ึนกับระบบคอมพวิ เตอร์ พฒั นาโปรแกรมประยกุ ต์ต่างๆ รวมไปถงึ การใช้งานโปรแกรมประยกุ ต์ท่ถี ูกพฒั นาขน้ึ เราสามารถแบ่งบคุ ลากรทีม่ ีหนา้ ทเ่ี กย่ี วกบั คอมพิวเตอรอ์ อกไดเ้ ป็น 5 ประเภทตามลกั ษณะของงานดงั น้ี 2.1.3.1 หวั หน้าหน่วยงานคอมพิวเตอร์ (EDP Manager หรอื Electronic Data Processing Manger) หัวหนา้ หนว่ ยงานคอมพิวเตอร์ เปน็ บคุ ลากรทอ่ี ยใู่ นตาแหนง่ ทางบรหิ าร ซึง่ จะเป็นหัวหน้าของบคุ ลากรทางคอมพิวเตอร์ทั้งหมด จะมหี น้าทว่ี างแผนงาน กาหนดนโยบายของหน่วยงานจัดทาโครงการและแผนงานการใช้ระบบคอมพวิ เตอร์ จดั หาฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่จาเป็นจะตอ้ งใชใ้ นองค์กร อานวยการฝึกอบรมความรใู้ ห้กบั บุคลากรทางคอมพิวเตอร์ เพ่อื ใหส้ ามารถทางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนอกจากนี้จะต้องเปน็ ผู้คอยตรวจสอบและตดิ ตามผลงานของผทู้ ่ีอยู่ใต้บังคับบญั ชาว่ามคี วามก้าวหน้าในการางานอยา่ งไรด้วย ดงั นน้ั บคุ ลากรในตาแหนง่ น้ีจะตอ้ งเปน็ ผทู้ ี่มีความรบั ผิดชอบสงู มีความรู้ความสามารถ มองเหน็ การณไ์ กล และต้องหม่นั ตดิ ตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอยูเ่ สมอ 2.1.3.2 บคุ ลากรทางดา้ นระบบ (System) บุคลากรทางด้านระบบ ประกอบดว้ ยบคุ ลากรที่มีตาแหน่งดังต่อไปนี้ 2.1.3.2.1 นักวิเคราะหร์ ะบบ (System Analyst หรอื SA) เป็นผม่ี หี น้าท่ใี นการวเิ คราะหแ์ ละออกแบบระบบ โดยจะรวบรวมข้อมลู ต่างๆ ที่เกีย่ วขอ้ งกบั ระบบงานเดิมและมคี วามตอ้ งการผใู้ ช้เพอ่ื นาการวิเคราะหแ์ ละออกแบบระบบงานใหม่หรือปรับปรงุ ระบบงานเดมิ เพอื่ ให้การทางานในระบบงานใหม่มปี ระสิทธภิ าพดขี น้ึ กวา่ ระบบงานเดิมโดยปกตนิ ักวเิ คราะหร์ ะบบจะตอ้ งเป็นผูท้ มี่ คี วามรู้เก่ยี วกบั ระบบคอมพิวเตอรเ์ ปน็ อย่างดี โดยเฉพาะอย่างย่งิ จะต้องเป็นผูท้ ี่มปี ระสบการณท์ างานมาพอสมควร และควรมีพน้ื ฐานการเขียนโปรแกรมมา

ก่อนถงึ แม้ว่านักวเิ คราะหร์ ะบบ จะไมไ่ ดเ้ ปน็ ผเู้ ขียนโปรแกรมเอง แต่นกั วเิ คราะหร์ ะบบ จะต้องเปน็ ผู้คน้ หาวธิ กี ารและข้นึ ตอนต่างๆ ในการเขยี นโปรแกรมส่งให้กับนักเขยี นโปรแกรมทาการเขียนอีกทหี นึง่นอกจากนนี้ ักวเิ คราะห์ระบบควรจะเป็นผ้ทู ี่มคี วามคดิ รเิ ริม่ สรา้ งสรรค์ มมี นุษยสมั พันธด์ ี เพราะจะต้องมีหนา้ ทีต่ ิดตอ่ กับคนในหลายระดับ ซงึ่ ในบางองค์กรอาจมีพนักงานบางคนไมเ่ ข้าใจในระบบคอมพวิ เตอร์ และตอ่ ต้านการนาระบบคอมพวิ เตอรเ์ ขา้ มาใช้ ดงั นั้นนักวิเคราะหร์ ะบบจะตอ้ งเปน็ ผูท้ ี่มีความสามารถในการชีน้ าใหเ้ ขาเหน็ ถงึ ประโยชน์ของการนาคอมพิวเตอร์เขา้ มาช่วยในการทางานได้ 2.1.3.2.2 นักเขียนโปรแกรมระบบ (System Programmer หรือ SP ) นักเขียนโปรแกรมระบบ จะมหี นา้ ที่เขยี นโปรแกรมระบบควบคุมเคร่อื งจะคอยตรวจสอบและแก้ไข เมอ่ื ระบบคอมพวิ เตอร์มปี ญั หา บุคลากรประเภทนจี้ ะต้องมีความร้างดา้ นฮาร์ดแวรเ์ ปน็ อย่างดี เพราะตอ้ งมีหนา้ ทใี่ นการใหค้ าปรึกษาตา่ งๆ เกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์ เมอื่ระบบคอมพวิ เตอร์มปี ญั หา และต้องคอยพฒั นาโปรแกรมอานวยความสะดวกตา่ งๆ ขนึ้ มา เช่นโปรแกรมท่ชี ว่ ยในการสารองขอ้ มูลในแต่ละวนั หรือแต่ละสัปดาห์ เพ่อื ชว่ ยให้การใชง้ านระบบคอมพิวเตอร์มคี วามสะดวกมากยิง่ ข้นึ 2.1.3.3 บุคลากรางด้านการเขียนโปรแกรม บุคลการทางด้านการเขียนโปรแกรม ไดแ้ ก่ นกั เขียนโปรแกรม หรอื โปรแกรมเมอร์(Programmer) จะทาหนา้ ท่ีเขียนโปรแกรมประยุกต์ (Application Program) ทางคอมพิวเตอร์ตามขน้ึ ตอนวธิ ที ีน่ กั วิเคราะหร์ ะบบได้ออกแบบไว้ เพอื่ ใหผ้ ู้ใชง้ านคอมพิวเตอรส์ ามารถใช้งานโปรแกรมประยุกตน์ ั้นได้ นกั เขียนโปรแกรมจึงควรเป็นผู้ที่มคี วามรู้เกย่ี วกับซอฟต์แวร์เป็นอยา่ งดี แต่อาจไม่จาเปน็ ตอ้ งมีความรใู้ นรายละเอยี ดเกีย่ วกบั ฮาร์ดแวร์กไ็ ด้ ควรเปน็ คนมคี วามอดทนในการทางานสงู เนื่องจาการเขียนโปรแกรมจะต้องพบกบั ข้อผิดพลาด (Errors) ของโปรแกรมทเ่ี กดิ ขึ้นมากมาย ซึ่งจะตอ้ งใชเ้ วลาในการแกไ้ ขขอ้ ผิดพลาดที่เกิดข้นึ นัน้ ใหไ้ ด้ นอกจากน้คี วรมีความรอบคอบและมีความคดิ ริเรม่ิ สรา้ งสรรค์ หมั่นติดตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยี หาความรใู้ หม่ๆ เพ่ิมเติมอยู่ตลอดเวลา เพอื่ พัฒนาเทคนิคท่เี หมาะสมในการพัฒนาโปรแกรมใหม้ ีประสทิ ธิภาพย่งิ ขึ้น (นกั เขียนโปรแกรมยังสามารถแบ่งออกไดอ้ กี เปน็ 2 แบบ ตามลกั ษณะงานดงั นี้) งานการสร้างโปรแกรมประยุกต์ (Application Programmer) เป็นผู้ทีม่ หี นา้ ที่ในการเขียนและพฒั นาโปรแกรมประยกุ ต์ท้ังหมดของระบบตามท่ีนักวเิ คราะห์ระบบเป็นผอู้ อกแบบให้ ซงึ่ มักเป็นระบบที่เรม่ิ มีการพัฒนาเปน็ ครง้ั แรก งานการบารุงรกั ษาโปรแกรม (Maintenance Programmer) ระบบอาจมกี ารพัฒนาเสรจ็ แลว้ แต่ตอ่ มาต้องการเปล่ยี นแปลงระบบงานบางจดุ เชน่ อาจต้องมกี ารปรับปรุงใหม้ คี วามทนั สมยั ดังนั้นนักเขียนโปรแกรมทางดา้ นนี้จึงตอ้ งคอยตามแก้ไขโปรแกรมเกา่ ๆ ในระบบทีเ่ ขียนไวแ้ ล้วเพอ่ื ใหเ้ ปน็ ไปตามความตอ้ งการใหมข่ องระบบดีบเี อ (DBA จะ

เป็น Base Administrator) เปน็ บุคลากรท่ีจะพบในองคก์ รท่ีมกี ารจดั การขอ้ มลู แบบฐานข้อมูล ซึ่งDBA จะเป็นผู้ที่มหี นา้ ท่ีในการออกแบบและควบคุมการใชง้ านฐานขอ้ มลู จะสามารถสรา้ งและแก้ไขเปลีย่ นแปลงโครงสร้างของฐานขอ้ มลู ได้ ซง่ึ โดยปกตผิ ู้ใชง้ านทั่วไปจะไมส่ ามารถเขา้ ไปยุ่งหรอื จัดการกบั ฐานขอ้ มลู นอกจากนจี้ ะต้องควบคุมดแู ลให้ฐานขอ้ มลู มกี ารเก็บข้อมูลท่ถี กู ต้อง ทันสมยั อยู่ตลอดเวลา และยงั คอยแกป้ ัญหา เม่อื ระบบขอ้ มลู มีปัญหาเกิดขน้ึ ดว้ ยผู้ปฏบิ ัติการ จะเป็นเจ้าหน้าที่คอมพวิ เตอรท์ ี่มหี น้าทคี อยเปดิ และปิดเครือ่ งคอมพวิ เตอร์ และคอยเฝ้าดูระบบ เมอื่ มปี ัญหาใดๆเกยี่ วกับระบบคอมพิวเตอร์กจ็ ะเป็นผูแ้ จ้งใหก้ ับนักเขียนโปรแกรมทราบเพือ่ ทาการแกไ้ ขต่อไป และยงัมีหนา้ ท่สี ง่ งานต่างๆ เขา้ ไปประมวลผลในคอมพิวเตอร์ และคอยรบั รายงานการประมวลผล เพื่อแจกจา่ ยใหแ้ กฝ่ า่ ยทีเ่ กี่ยวขอ้ ง นอกจากน้ียังตอ้ งทาหนา้ ทสี่ ารองข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอรข์ น้ึ ไปเก็บไว้ในสอื่ บนั ทกึ ข้อมูลเช่น เทป ทุกส้นิ วันหรือสิ้นเดือน เพ่ือป้องกันความเสยี หายทอ่ี าจเกิดข้นึ กับขอ้ มูลในระบบคอมพิวเตอรไ์ ด้ เชน่ กรณีทีเ่ ครื่องคอมพิวเตอร์ขดั ข้อง หรอืดิสกเ์ กดิ ความเสยี หาย บุคลากรทางดา้ นนี้ไม่จาเป็นต้องมีความรูส้ ูงนกั เนอ่ื งจากลักษณะงานเป็นส่งิ ที่มกี ารกาหนดขึ้นตอนไวต้ ายตัวแล้ว แต่ต้องเปน็ ผู้ท่ีมคี วามรบั ผิดชอบ และใส่ใจในการทางาน ผู้ใชร้ ะบบคอมพวิ เตอร์ซงึ จะมคี วามสาคญั ตอ่ การใหร้ ะบบคอมพวิ เตอรท์ างานอะไรบา้ ง ซง่ึ บรรดานกัคอมพวิ เตอร์ต่างๆ กจ็ ะตอ้ งพยายามตอบสนองความตอ้ งการของผู้ใชน้ นั้2.1.4 องคป์ ระกอบทางดา้ นข้อมลู (Data) ขอ้ มลู เป็นองค์ประกอบท่ีสาคญั อยา่ งหน่งึ ในระบบคอมพวิ เตอร์ เป็นส่ิงที่ตอ้ งปอ้ นเขา้ ในคอมพวิ เตอร์พรอ้ มกับโปรแกรมที่นกั เขียนโปรแกรมเขียนขนึ้ เพอื่ นาไปใช้ในโปรแกรมและผลิตผลลัพธ์ที่ต้องการออกมา ดังนั้น ข้อมลู ท่ีนาเขา้ จะตอ้ งมคี วามถูกต้องสมบรู ณ์ จึงจะผลติ ผลลัพธ์ท่ีถกู ต้องสมบรู ณอ์ อกมาได้ ข้อมูลที่จะนาเข้าระบบคอมพวิ เตอร์ จะมหี น่วยของข้อมูลทเี่ ล็กทส่ี ุด ไดแ้ ก่“ตวั อกั ษร” (Character) อนั ประกอบด้วย ตัวอักษร ตวั เลข และสัญลกั ษณ์ต่างๆ เม่ือนาตวั อกั ขระเหล่าน้ีมาประกอบกันจะทาใหไ้ ด้หน่วยขอ้ มลู ทใ่ี หญ่ขึน้ เรียกวา่ “ฟิลด์” (Field) และการนาฟิลด์มาประกอบกนั จะทาให้ได้สงิ่ ที่เรียกวา่ “เรคอรด์ ” (Record) และถา้ นาเรคอรม์ าประกอบกัน ก็จะไดส้ งิ่ทเ่ี รียกว่า “ไฟลข์ ้อมูล” (Data File)

รปู ที่ 2.4 โครงสร้างข้อมูล2.2 หลกั การทางานของคอมพิวเตอร์ การทางานของคอมพิวเตอรไ์ ม่วา่ รุน่ ใด แบบใด จะมขี นาดเล็ก หรอื ขนาดใหญ่ หลกั การทางานของคอมพวิ เตอร์สามารถแบง่ ออกได้ 3 ขนั้ ตอนดว้ ยกันดงั นี้2.2.1 หนว่ ยรบั ขอ้ มลู นาเขา้ (Input) เป็นส่วนท่ีรับคาสั่งจากผู้ใช้เครื่องคอมพิวเตอรน์ าขอ้ มลู เขา้ ไปในเครอ่ื ง โดยผา่ นอุปกรณ์นาเข้า เช่น คยี บ์ อร์ด เมาส์ จอยสติก ฯลฯ รูปที่ 2.5 อปุ กรณน์ าเขา้2.2.2 หนว่ ยประมวลผล (Processing) หนว่ ยประมวลผลจะทาหน้าที่ประมวลผลข้อมูลตามคาส่งั ทีไ่ ดร้ ับ หน่วยประมวลผลนิยมเรียกกันว่า ซพี ียู (CPU : Central Processing Unit) ซีพยี ู เปรียบได้เหมือนสมองของคอมพวิ เตอร์สมรรถนะของเคร่ืองจะขึน้ กบั ความเรว็ ในการทางานของหน่วยประมวลผล ชดุ คาสงั่ ท่ปี ้อนให้กับหน่วยประมวลผลเรยี กว่า “โปรแกรม”

รปู ที่ 2.6 หน่วยประมวลผลขอ้ มลู2.2.3 หนว่ ยแสดงผล (Output) หน่วยแสดงผล เป็นส่วนทแ่ี สดงขอ้ มูลจากการประมวลผลใหผ้ ู้ใช้คอมพวิ เตอร์มองเห็นจากจอภาพ ได้ยินเสยี งจากลาโพง รปู ที่ 2.7 อุปกรณ์แสดงผล นอกจากการทางานของเครอ่ื งคอมพิวเตอร์ดงั ทก่ี ล่าวมาแล้ว 3 ข้ันตอน ยังมีส่วนสาคญั อีกสว่ นหนึง่ คอื “หนว่ ยความจา” (Memory) หนว่ ยความจาจะเป็นตวั พัก หรอื เกบ็ ข้อมูล เพ่ือนามาใช้ในการประมวลผลการเกบ็ ขอ้ มลู ในหน่วยความจาจะเกบ็ ในรปู สญั ญาณทางไฟฟ้า คอื เลข 0 และเลข 1 เทา่ นน้ั เลข 0 และเลข 1 หนว่ ยเปน็ “บติ ” (Bit) ขอ้ มลู แต่ละบติ ท่ีนามาเรียงตอ่ กัน 8 บติ เรียกวา่ “ไบต์” (Byte) หนว่ ยที่ใชใ้ นการวัดขนาดของหนว่ ยความจาของเคร่ืองคอมพวิ เตอร์เรยี กกัน ดังต่อไปนี้

รูปท่ี 2.8 องคป์ ระกอบของคอมพิวเตอร์2.3 สว่ นประกอบของคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์มีส่วนประกอบภายนอกแตล่ ะส่วนดังนี้ 2.3.1 ตวั เครือ่ ง หรอื เคส (Case) เคส มีลักษณะเป็นกลอ่ งสี่เหลยี่ มใช้บรรจุแผงวงจรหลัก หรอื เรียกว่าแมนบอรด์ (MainBoard) เคสที่ใช้กันอยูใ่ นปจั จุบันมี 2 แบบ ดว้ ยกันคอื - แบบเดสทอ๊ ป (Desktop) เป็นเคร่อื งที่วางแบบแนวนอน - แบบทาวเวอร์ (Tower) เป็นเครือ่ งท่ีวางแบบแนวต้ัง เป็นทีน่ ยิ มใชก้ นั ในปจั จุบนั รปู ที่ 2.9 เคส แบบเดสทอ๊ ป เคสแบบทาวเวอร์แบ่งออกได้ 3 แบบดงั นี้ - เคสแบบทาวเวอรข์ นาดเล็ก (Mini Tower) - เคสแบบทาวเวอรข์ นาดกลาง (Medium Tower) - เคสแบบทาวเวอรข์ นาดใหญ่ (Full Tower)

รปู ที่ 2.10 เคสแบบทาวเวอร์ รปู ที่ 2.11 แสดงอุปกรณป์ ระกอบดา้ นหนา้ เคส ทด่ี า้ นหน้าของตัวเคส จะประกอบด้วย ปมุ่ สวิตช์ เปดิ -ปดิ เครือ่ งคอมพวิ เตอร์ เปน็ ปมุ่ ทมี่ ีขนาดใหญท่ ี่สุด ปุม่ สาหรบั ปิด และเปิดเครอื่ งใหม่ (Reset) ใช้ทาหน้าทใ่ี ห้คอมพวิ เตอรท์ างานใหม่เหมอื นกับตอนเปิดเครือ่ งคอมพวิ เตอร์ในครัง้ แรก ช่องสาหรับใสฟ่ ล็อบปี้ดสิ กไ์ ดร์ฟ และซดี ีรอมไดรฟ์2.3.2 จอภาพหรือมอนเิ ตอร์ (Monitor) จอภาพใชใ้ นการแสดงผลการทางานของคอมพิวเตอรใ์ นปัจจบุ ัน จอภาพสว่ นใหญ่ใชห้ ลอดภาพหรอื นิยมเรยี กกันว่า หลอด CRT (Cathode Roy Tube) เนอ่ื งจากมีราคาถกู จอภาพของคอมพวิ เตอร์โน้ตบุค๊ เปน็ จอภาพแบน จะใช้จอผลกึ เหลว (LCD : Liquid CrystaiDisplay)

รปู ท่ี 2.12 จอภาพ2.3.3 คยี บ์ อร์ด (Keyboard) คยี ์บอรด์ เป็นอปุ กรณ์ใชใ้ นการป้อนขอ้ มลู นาเข้า เครอ่ื งคอมพิวเตอรม์ ลี ักษณะคลา้ ยกับแป้นพิมพ์ดดี แต่มีการเพิม่ แป้นพมิ พท์ ม่ี ีลกั ษณะเหมอื นเครือ่ งคดิ เลขเพิ่มเข้ามา ทางด้านขวามือเพ่ือเพม่ิ ขอ้ มลู ที่เป็นตัวเลข นอกจากปมุ่ ตัวเลขแล้วยงั มปี ่มุ ควบคุมต่างๆ เพือ่ ใช้ส่งั งานคอมพวิ เตอร์ รปู ท่ี 2.13 แป้นพิมพ์2.3.4 เมาส์ (Mouse) เมาส์ เปน็ อุปกรณ์ท่ีสาคัญในการสัง่ งานคอมพวิ เตอรไ์ ม่ว่าจะเปน็ การช้เี พ่อื เลอื กใชง้ านตา่ งๆ ที่แสดงให้เห็นสญั ลกั ษณ์ของเมาส์ บนจอภาพ เมาส์พอยเตอร์ (Mouse Pointer) เมาสท์ ี่ใชก้ นั ในปจั จบุ ันเปน็ แบบพีเอสทู (PS/2) เมาส์ ท่ัวๆ ไปอาจแบ่งเป็นแบบ 2 ปมุ่ หรอื แบบ3 ปมุ่ ด้วยการเพิม่ปมุ่ กลางขึน้ มา เพ่ือใชก้ ับโปรแกรมบางโปรแกรม เมาส์รุ่นใหม่ๆ ไดม้ กี ารปรบั ปรุงให้มีลอ้ (Wheel)เพิ่มข้นึ ตรงกลาง เพือ่ อานวยความสะดวกในการเล่ือนหน้าจอในกรณขี องการแสดงข้อมูลท่ีหนา้ จอแสดงได้ไม่ทั้งหมด วธิ กี ารต่อเมาส์กบั เคร่อื งพซี ีในปัจจุบนั มีหลายรปู แบบ คอื ตอ่ เขา้ ทพ่ี อร์ตเมาส์ พีเอสทู พอร์ตอนุกรม (Serial Port) หรอื พอรต์ ยเู อสบี (USB)

รปู ท่ี 2.14 เมาส์แบบต่างๆ2.3.4 โมเดม็ (Modem) โมเดม็ ใช้สาหรับตอ่ กับเครอ่ื งคอมพิวเตอรเ์ พื่อใช้ส่ือสารขอ้ มูลทางระบบอินเทอร์เน็ต โมเด็มโดยทั่วๆ ไปมี 2 แบบคือ 2.3.5.1 แบบภายใน (Internal) เป็นแบบใชก้ ารการ์ดเสียบอยภู่ ายในเคร่อื งคอมพิวเตอร์ โดยการด์ จะเสียบอยบู่ นสล็อต บน แผน่ เมนบอรด์ สามารถรบั ส่งขอ้ มลู ผ่านสายโทรศัพทไ์ ปยงั คอมพวิ เตอร์ตวั ท่ตี อ้ งการจะตดิ ตอ่ ดว้ ย รปู ท่ี 2.15 โมเดม็ ภายใน

2.3.5.2 แบบภายนอก (External) ตัวเครอื่ งโมเดม็ แบบภายนอกจะตอ่ อยู่ภายนอกเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ผา่ นพอรต์ ส่อื สารแบบขนานดว้ ยคอนเนค็ เตอร์แบบ 9 เขม็ และในโมเดม็ รนุ่ ใหม่สามารถที่จะตอ่ ผ่านพอร์ตยเู อสบีได้ โมเด็มแบบนม้ี สี ถานะบอกการทางานดว้ ยไฟให้เห็นการทางานอย่างชัดเจนและสามารถติดตัง้ ได้ง่าย รปู ท่ี 2.16 โมเดม็ ภายนอก2.3.6 เครือ่ งพมิ พ์ (Printer) เปน็ อุปกรณท์ ่ีใชใ้ นการแสดงผลทางกระดาษ แบ่งประเภทออกเปน็ 3 ประเภทใหญๆ่ คือ 2.3.6.1 เครอื่ งพมิ พแ์ บบเข็ม (Dot Matrix) เครือ่ งพมิ พแ์ บบเขม็ เป็นเครอ่ื งพิมพท์ ีใ่ ชผ้ ้าหมึกพิมพ์ และหัวเขม็ ออกมาตบี นผ้าหมกึจานวน 9 เขม็ และ 24 เขม็ รปู ที่ 2.17 เคร่อื งพิมพแ์ บบเข็ม 2.3.6.2 เครื่องพิมพ์แบบอิงค์เจ็ท (Inkjet) เคร่ืองพิมพแ์ บบอิงค์เจ็ท เครอ่ื งพิมพ์แบบน้ใี ช้การฉีดหมึกลงบนกระดาษ

รูปท่ี 2.18 เคร่ืองพิมพ์แบบอิงคเ์ จ็ท 2.3.6.2 เครอื่ งพิมพแ์ บบเลเซอร์ เครื่องพิมพแ์ บบเลเซอร์ เครอ่ื งพิมพ์แบบเลเซอร์เปน็ เครอื่ งพมิ พท์ ีท่ างานโดยใชเ้ ทคโนโลยีสูง คลา้ ยกับการทางานของเครอ่ื งถา่ ยเอกสาร รูปท่ี 2.19 เครอ่ื งพิมพ์แบบเลเซอร์ 2.3.6.3 สแกนเนอร์ (Scanner) สแกนเนอร์ เปน็ อุปกรณ์ท่สี าคญั อกี ชนิดหน่ึงใช้ในการอ่านภาพและเอกสารต่างๆ มาเก็บไว้ในเครือ่ งคอมพวิ เตอร์ รูปที่ 2.20 สแกนเนอร์

ใบงาน 2 กาทางานของคอมพิวเตอร์ชอ่ื นาย\นางสาว....................................สาขาวชิ า....................กลุ่มที.่ ..................เลขท่.ี .................... 1. จงศกึ ษาคน้ ควา้ เร่ือง การทางานของคอมพิวเตอร์ และจดั ทารายงานเสนอหนา้ ชั้นเรียนโดยการศึกษาจากเวบ็ ไซต์ 1.1 แบ่งนกั ศึกษากลุม่ ละ 3- 4 คน 1.2 ศึกษาการติดต้ังเคร่อื งคอมพวิ เตอร์ และอปุ กรณ์ต่อพว่ ง 1.3 รายงาน และสาธิตหน้าชั้นเรียน……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… แบบฝกึ หัดหนว่ ยท่ี 2ตอนท่ี 1 จงเตมิ คาหรอื ขอ้ ความในชอ่ งว่างให้ถูกตอ้ ง1. ..............................................................................................เป็นองค์ประกอบทางด้านฮาร์ดแวร์2 .............................................................................................เป็นองค์ประกอบทางด้านซอฟต์แวร์3. ....................................................................................................เป็นองค์ประกอบางด้านบุคลากร4. ...................................................................................................เป็นองค์ประกอบทางด้านข้อมูล5. องคป์ ระกอบดา้ นฮาร์ดแวร์แบ่งไดก้ ่ีหนว่ ย....................................................................................

6. เครื่องรูดบัตรและสแกนเนอร์ เป็น...............................................................................................7. จอภาพ เคร่ืองพิมพ์ เป็น...............................................................................................................8. องค์ประกอบทางด้านข้อมูล ทาหนา้ ท่ี ........................................................................................9. หนว่ ยเก็บข้อมูลสารอง ทาหนา้ ที่ ................................................................................................10. หนว่ ยความจา ทาหนา้ ที่ ............................................................................................................ตอนที่ 2 จงทาเครอ่ื งหมายกากบาท (X) ลงหน้าขอ้ ท่ีถกู ต้องท่ีสุด1. การแบง่ ซอฟตแ์ วรส์ ามารถแบง่ ไดเ้ ปน็ 7. การต่อเมาส์มีวิธีการต่อก่แี บบกป่ี ระเภท ก. พอรต์ พีเอสทู ก. 2 ประเภท ข. พอร์ตอุกรม ข. 3 ประเภท ค. พอรต์ ยเู อสบี ค. 4 ประเภท ง. ถูกทกุ ข้อ ง. 5 ประเภท 8. โมเดม็ ที่ใช้สาหรับสอื่ สารข้อมูลกบั2. องคป์ ระกอบของคอมพิวเตอร์มกี ีส่ ว่ น คอมพิวเตอรม์ ีกี่แบบ ก. 2 ส่วน ข. 3 ส่วน ก. แบบภายใน ค. 4 สว่ น ง. 5 ส่วน ข. แบบภายนอก3. ตวั เคร่ืองหรือเคสมีก่แี บบ ค. ขอ้ ก. และ ข. ถกู ก. 2 แบบ ข. 3 แบบ ง. ข้อ ก. และ ข. ผดิ ค. 4 แบบ ง. 5 แบบ 9. เครือ่ งพิมพอ์ ิงค์เจ๊ท เป็นเครื่องพมิ พแ์ บบใด4. เคสแบบทาวเวอร์แบง่ ออกได้กแ่ี บบ ก. เครือ่ งพมิ พแ์ บบขาว - ดา ก. 1 แบบ ข. 2 แบบ ข. เครือ่ งพิมพแ์ บบเข็ม ค. 3 แบบ ง. 4 แบบ ค. เครื่องพมิ พ์แบบสี5. การ Reset เครื่องหมายถึงข้อใด ง. เคร่อื งพิมพ์ฉดี หมึกลงบนกระดาษ ก. เปิดเครือ่ งคอมพวิ เตอร์ ข. การปดิ โปรแกรม ค. การบู๊ทเครือ่ งใหม่ ง. การยกเลิกการทางาน 10. จอภาพทีใ่ ช้กบั คอมพวิ เตอรโ์ นต๊ บคุ๊ เป็น6. เครอื่ งพิมพ์แบบเข็มมีจานวนเข็มสงู สุด จอแบบใด ก. 9 เขม็ ข. 20 เข็ม ก. แบบใช้หลอดภาพ ค. 24 เข็ม ง. 29 เข็ม ข. แบบใช้ผลกึ เหลว ค. จอ

ง. ถูกทกุ ขอ้ตอนที่ 3 จงตอบคาถามตอ่ ไปนใี้ ห้ไดใ้ จความสมบูรณ์1. หนว่ ยประมวลผลกลางทาหน้าที่อะไร2. องคป์ ระกอบทางดา้ นฮารด์ แวร์สามารถแบ่งได้เป็น 4 อะไรบ้าง3. ซอฟตแ์ วร์ท่ีใช้กับคอมพวิ เตอรม์ กี ี่ชนดิ อะไรบ้าง4. จงบอกชอื่ อปุ กรณร์ บั ข้อมูลเขา้5. สามารถใชค้ อมพวิ เตอรช์ ่วยในการสอนไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง