ม.๑ เครื่องดนตรีไทย และสากล เรียบเรียงโดย นางสาว โยศิตา เนื่องอุตม์ นางสาว วรารัตน์ มีไผ่ขอ
\"ดนตรีสามารถ เปลี่ยนโลกได้เพราะ มันสามารถเปลี่ยน ผู้คนได้\" พันธบัตร, ผู้นำในตำนานของวง U2 นำเสนอภาพสะท้อนนี้ทางดนตรีโดยให้ ความสำคัญกับสังคมมากกว่า.
ก่อนที่เราจะมาเรียนรู้น้องๆสงสัย กันไหมคะว่าเราเรียนดนตรีแล้ว ได้ประโยชน์อะไรบ้าง?
1 ช่วยพัฒนาด้านสมอง เสียงเพลงจะช่วยให้เด็กๆรู้สึกผ่อนคลายและกระตุ้น การทำงานของสมองให้ทำงานได้อย่างเต็มที่ 2 ช่วยพัฒนาภาษา อีกวิธีการหนึ่งในรูปแบบการเรียนการสอนสำหรับเด็กที่ นิยมอย่างมากก็คือการสอนภาษาด้วยดนตรี เพราะการ สอนเพียงอย่างเดียวอาจจะทำให้เด็กไม่เพลิดเพลินมาก นัก การใช้เพลงเข้ามาช่วยจึงทำให้เด็กสนุกและอยากจะ เรียนรู้เรื่อยๆ
3 ช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อ ดนตรีสามารถช่วยกระตุ้นให้เด็กๆ ขยับร่างกายให้เข้า กับจังหวะดนตรี พัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กและมัดใหญ่ ให้มีความแข็งแรงมากขึ้น 4 ช่วยให้จิตใจมั่นคง เสียงดนตรีเบาๆช้าๆ จะช่วยกล่อมเกลาจิตใจทำให้เด็ก ความรู้สึกสงบ สามารถลดอาการขี้โมโห เอาแต่ใจ และฉุนเฉียวของเด็กลงได้เป็นอย่างดี และทำให้เด็กมี สมาธิมากยิ่งขึ้นด้วย
5 บำบัดอาการป่วยได้ น้อง ๆอาจจะเคยได้ยินคำว่า “ดนตรีบำบัด” ว่ากันง่ายๆ ก็คือ การรักษาอาการป่วยด้วยดนตรีนั่นเอง เพราะดนตรี มีผลต่อการ เปลี่ยนแปลงของร่างกาย จิตใจ สังคม และภูมิปัญญา โดยมีผล ต่อการทำงานของสมองในหลายๆ ด้าน องค์ประกอบต่างๆ ทาง ดนตรี ก็สามารถให้ประโยชน์ที่แตกต่างกันไปเช่นเดียวกัน ดัง นั้นจึงเกิดการรักษาด้วยดนตรีที่เรียกว่า ดนตรีบำบัดขึ้น 6 ช่วยให้กล้าแสดงออก เด็กที่ชอบดนตรีและยิ่งเราสนับสนุนลูกของเรา มากยิ่งขึ้นจะทำให้เด็กมีความกล้าแสดงออกที่จะ โชว์ความสามารถของตัวเองให้สาธารณะได้รับ ชม ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่ง เพราะเด็กส่วนมาก มักเขินอายเมื่อต้องอยู่ต่อหน้าผู้คนมากมาย การมี ดนตรีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งจะทำให้ลดความกังวล ไปได้เช่นกัน
7 ช่วยเข้าสังคมได้ง่ายขึ้น ดนตรีทำให้เด็กได้มีส่วนรวมและพัฒนาการทางสังคมได้เป็น อย่างดี เพราะการเล่นดนตรีนั้นเล่นคนเดียวก็ได้แต่เล่นกับผู้ อื่นก็ย่อมสนุกไปเช่นกัน ถึงขั้นมีคนเคยกล่าวด้วยว่า ดนตรีคือ ภาษา เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้คนสื่อสารกันได้โดยไม่จำเป็นต้อง ใช้คำพูดก็ได้ การเข้าสังคมของคนที่ชอบดนตรีเหมือนกันจึง เป็นเรื่องที่ง่ายยิ่งขึ้น
ในเมื่อรู้คุณค่าและประโยชน์ของ ดนตรีไปแล้วเรามาเข้าสู่เนื้อหา บทเรียนกันได้เล๊ย!!
ดนตรีหมายถึงอะไร? ดนตรี (อังกฤษ: music) คือ เสียงและโครงสร้างที่จัดเรียงอย่าง เป็นระเบียบแบบแผน ซึ่งมนุษย์ใช้ประกอบกิจกรรมศิลปะที่ เกี่ยวข้องกับเสียง โดยดนตรีนั้นแสดงออกมาในด้านระดับเสียง (ซึ่งรวมถึงท่วงทำนองและเสียงประสาน) จังหวะ และคุณภาพ เสียง ได้แก่ ความต่อเนื่องของเสียง เนื้อเสียง ความดังค่อย และพรรณลักษณ์ของเสียง ดนตรีในความหมายอย่างกว้าง หมายถึง กิจกรรมการ แสดงออกทางวัฒนธรรม (une activité culturelle) ของมนุษย์ ที่เกี่ยวกับการขับร้อง รวมถึงการสร้างจังหวะและทำนอง ดนตรีจึงมีความสำคัญ ไม่เพียงแค่ในเชิงการสื่อสาร หรือการใช้ เพื่อความบันเทิงและในพิธีกรรม แต่ยังรวมถึงความสำคัญใน ด้านศิลปะ และด้านสุนทรียศาสตร์ อีกด้วย
ดนตรีไทย จากการสันนิษฐานของท่านผู้รู้ทางด้าน ดนตรีไทย โดยการพิจารณาหาเหตุ ผลเกี่ยวกับกำเนิดหรือที่มาของดนตรีไทยก็ได้มีผู้เสนอแนวทัศนคติในเรื่องนี้ไว้ 2 ทัศนะ ที่แตกต่าง กันคือ ทัศนะที่ 1 สันนิษฐานว่า ดนตรีไทย ได้แบบอย่างมาจากอินเดีย เนื่องจากอินเดีย เป็นแหล่งอารยธรรมโบราณ ที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก อารยธรรมต่าง ๆ ของอินเดีย ได้เข้ามามีอิทธิพล ต่อประเทศต่าง ๆ ในแถบเอเชียอย่างมาก ทั้งในด้าน ศาสนา ประเพณีความเชื่อ ตลอดจน ศิลปะ แขนงต่าง ๆ โดยเฉพาะทางด้านดนตรี ปราก ฎรูปร่างลักษณะ เครื่องดนตรี ของประเทศต่าง ๆ ในแถบเอเชีย มีลักษณะ คล้ายคลึงกัน เป็นส่วนมาก ทั้งนี้เนื่องมาจากประเทศเหล่านั้นต่างก็ ยึดแบบฉบับดนตรี ของอินเดีย เป็นบรรทัดฐาน รวมทั้งไทยเราด้วย เหตุผลสำคัญที่ท่านผู้รู้ ได้เสนอทัศนะนี้ก็คือ ลักษณะของ เครื่องดน ตรีไทย สามารถจำแนกเป็น 4 ประเภท คือ เครื่องดีด เครื่องสี เครื่องตี เครื่องเป่า ทัศนะที่ 2 สันนิษฐานว่า ดนตรีไทย เกิดจากความคิด และ สติปัญญา ของคนไทย เกิดขึ้นมาพร้อมกับคนไทย ตั้งแต่ สมัยที่ยังอยู่ทางตอนใต้ของประเทศจีนแล้ว ทั้งนี้เนื่องจาก ดนตรี เป็นมรดกของมนุษยชาติ ทุกชาติทุกภาษาต่างก็มี ดนตรี ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ ของตนด้วยกันทั้งนั้น ถึงแม้ว่าในภายหลัง จะมีการรับเอาแบบอย่าง ดนตรี ของต่างชาติเข้ามาก็ตาม แต่ก็เป็น การนำเข้า มาปรับปรุง เปลี่ยนแปลงให้เหมาะสม กับลักษณะและนิสัยทางดนตรีของคนในชาตินั้น ๆ ไทยเราตั้งแต่สมัยที่ยังอยู่ทางตอนใต้ ของประเทศจีน ก็คงจะมี ดนตรี ของเราเองเกิดขึ้นแล้ว เช่น เกราะ, โกร่ง, กรับฉาบ, ฉิ่งปี่, ขลุ่ย ฆ้อง, กลอง
เครื่องดีด เช่น • พิณน้ำเต้า เป็นเครื่องดนตรีประเภทดีดที่มีสายเดียวชนิดนี้เข้าใจว่า ชาวอินเดียนำมาแพร่หลายอยู่ในดินแดนแหลมอินโดจีก่อนแล้วขอม โบราณหรือเขมรรับช่วงไว้ก่อนที่ชาวไทยจะอพยพลงมาถึงที่เรียก พิณน้ำเต้าก็เพราะนำผลเปลือกน้ำเต้ามาทำเป็นกระพุ้ง • พิณเพี๊ยะ เป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องดีดที่เก่าแก่ของชาว ลานนา ( เหนือ ) มีสายตั้งแต่ 2 สาย ถึง 7 สาย เดิมใช้เป็นเครื่องดีดสำหรับ แอ่วสาว นิยมดีดเพลงที่มีทำนองช้าๆ เช่น เพลงปราสาทไหว
• กระจับปี่ แต่เดิมคงใช้ดีดเล่นเป็นสามัญเช่นเดียวกับพิณเพี๊ยะและ เครื่องดนตรีอื่นๆ ในกฏมณเฑียรบาลสมัยกรุงศรีอยุธยา ได้กล่าวถึง กระจับปี่ไว้ตอนหนึ่งว่า \" ร้องเพลงเรือ เป่าปี่ เป่าขลุ่ย สีซอ ดีดจะเข้ กระจับปี่ ตีโทนทับโห่ร้องนี่นั่น\" ต่อมาพบว่านำไปดีดร่วมกับวงขับไม้ เรียกชื่อวงภายหลังว่า \"วงมโหรีเครื่องสี่และวงมโหรีเครื่องหก\" เครื่องสี เช่น • ซอด้วง เดิมเป็นเครื่องดนตรีของจีน ร่วมบรรเลงในวงเครื่องสาย เมื่อราวต้นสมัยรัตนโกสินทร์ หรือถ้าก่อนนั้นก็คงราวปลายสมัยกรุง ศรีอยุธยา พร้อมกันกับซออู้ มีหน้าที่เป็นผู้ทำทำนองเพลง สีเก็บถี่ๆ บ้าง โหยหวนเป็นเสียงยาวบ้าง เป็นหลักในการดำเนินเนื้อเพลง และ เป็นผู้นำวง ด้วยเหตุที่เรียก \"ซอด้วง\" ก็เพราะว่ากะโหลกซอนั้น มี ลักษณะคล้ายกับเครื่องดักสัตว์ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า \"ด้วงดักแย้\"
• ซออู้ เป็นเครื่องสีอีกประเภทหนึ่งที่เป็นคู่มากับซอด้วง เข้าใจว่าเป็น เครื่องดนตรีที่ชนชาติจีนเล่นมาก่อนมารวมเล่นเป็นวงเครื่องสายใน ระยะเดียวกับซอด้วง มีหน้าที่สีดำเนินทำนองเพลงในลักษณะหยอก ยั่วเย้าไปกับผู้ทำทำนองเพลงบางครั้งใช้สีคลอไปกับร้อง ด้วยภาย หลังเมื่อมีวงปี่พาทย์ดึกดำบรรพ์และวงปี่พาทย์ไม้นวม จึงได้นำซออู้ เข้ามาบรรเลงร่วมด้วย • ซอสามสาย เป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องสีที่เก่ามาแต่ครั้งกรุง สุโขทัยมีวิธีการประดิษฐ์ลักษณะของซอได้อย่างปราณีต สวยงาม มี เสียงไพเราะนุ่มนวล เดิมใช้เป็นเครื่องประกอบในพระราชพิธีโดย เฉพาะในวง“ขับไม้ “ ซึ่งใช้บรรเลงขับกล่อมในพระราชพิธี “กล่อมพระ อู่” หรือพระราชพิธีกล่อมช้าง\"
เครื่องตี เช่น • กรับคู่ กรับ ทำด้วยไม้ไผ่ซีก เหลาให้เรียบและเกลี้ยงเกลา เพื่อมิให้ ผิวและเสี้ยนบาดและตำมือ รูปร่างแบนตามซีกไม้ ไผ่และหนาตาม ขนาดของเนื้อไม่ เช่นหนาสัก ๑.๕ ซม. กว้างสัก ๓-๔ ซม. และตามยาว ประมาณ ๔๐ ซม. ทำเป็น ๒ อัน หรือคู่ ใช้ตีให้ผิวกระทบกันทางด้านแบ เกิดเสียงได้ยินเป็น\"กรับ-กรับ-กรับ\" • ระนาดเอกทุ้ม เป็นเครื่องดนตรีที่คิดสร้างขึ้นในรัชกาลที่ ๓ กรุง รัตนโกสินทร์เลียนแบบ ระนาดเอก แต่ลูกระนาดก็คงทำด้วยไม้ชนิด เดียวกับระนาดเอก เป็นแต่เหลาลูกระนาด ให้มีขนาด กว้างและยาว กว่าลูกระนาดเอก และประดิษฐ์รางให้มีรูปร่างต่างจากราง ระนาด คือมีรูปคล้ายหีบไม้ แต่เว้ากลางเป็นทางโค้งมี\"โขน\"ปิดทางด้านหัว และด้านท้าย
• ระนาดเอก มีวิวัฒนาการมาจากกรับ แต่เดิมก็คงใช้ไม้กรับ ๒ อันตี เป็นจังหวะแล้วต่อมาเกิดความรู้เอาไม้มาทำอย่างกรับหลายๆอัน วางเรียงตีให้เกิดเสียงหยาบๆขึ้นก่อนแล้วคิดทำไม้ รองรับเป็นราง วางเรียงราดไป เมื่อเกิดความรู้ความชำนาญขึ้นก็แก้ไขประดิษฐ์ให้มี ขนาดลดหลั่นกัน เครื่องเป่า เช่น • ปี่ชวา เป็นเครื่องเป่าอีกประเภทหนึ่งที่มีลิ้น ซึ่งนำแบบอย่างมาจาก ชวา เข้าใจว่าเข้ามา เมืองไทยในคราวเดียวกับกลองแขก โดยเฉพาะ ในการเป่าเพลงประกอบการรำ \" กริช \"ในเพลง \" สะระหม่า\" ในสมัย กรุงศรีอยุธยาตอนต้น
• แคน เครื่องเป่าพื้นเมืองของชาวอีสานเหนือที่ใช้ไม้ซางขนาดต่าง ๆ ประกอบกันเข้าเป็นตัวแคน แคนเป็นสัญลักษณ์ของภาคอีสาน เป็น เครื่องเป่ามีลิ้นโลหะ เสียงเกิดจากลมผ่านลิ้นโลหะไปตามลำไม้ที่เป็น ลูกแคน การเป่าแคนต้องใช้ทั้งเป่าลมเข้าและดูดลมออกด้วย จึงเป่า ยากพอสมควร • ขลุ่ยเพียงออ เป็นขลุ่ยที่มีเสียงปานกลางมีขนาดกลาง ใช้ในวงเครื่องสาย วงมโหรี วงปี่พาทย์ ไม้นวม และวงปี่ พาทย์ ดึกดำบรรพ์เป็นเครื่อง ดนตรีที่น่าส่งเสริมให้ฝึกหัดกันมากๆ
ดนตรีสากล ประวัติความเป็นมาของดนตรีสากล การ กำเนิดของเครื่องดนตรีเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยโบราณ โดยมนุษย์รู้จักการสร้าง เครื่องดนตรีง่ายๆ จากธรรมชาติรอบข้างคือ เริ่มจากการปรบมือผิวปาก เคาะหิน หรือนำกิ่งไม้มาตีกันซึ่งต่อมาได้มีการสร้างเครื่องดนตรีที่มี รูป ทรงลักษณะต่างๆ ที่แตกต่างกันไปในแต่ละชนชาติ โดยมีการแลกเปลี่ยนศิลป วัฒนธรรมและลักษณะเครื่องดนตรีของชนชาติต่างๆ โดยเฉพาะเครื่องดนตรี สากลที่เป็นเครื่องดนตรีของชาวตะวันตกที่นำมาเล่นกัน แพร่หลายในปัจจุบัน สำหรับการกำเนิดของดนตรีตะวันตกนั้นมาจากเครื่องดนตรีของชนชาติกรีก โบราณที่ วงดนตรีที่เกิดขึ้นในศตวรรษต้นๆจนถึงปัจจุบัน จะมีลักษณะแตกต่าง กันออกไป เครื่องดนตรีที่ใช้บรรเลงก็มีจำนวนและชนิดแตกต่างกันตามสมัยนิยม ลักษณะการผสมวงจะแตกต่างกันไป เมื่อผสมวงด้วยเครื่องดนตรีที่ต่างชนิดกัน เครื่องดนตรีสากลในปัจจุบันสามารถจำแนกหรือจัดเป็นประเภทใหญ่ๆ ตามลักษณะของเสียงที่คล้ายคลึงกัน และลักษณะของเครื่องดนตรี แบ่งออก เป็น 5 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้ เครื่องสาย เครื่องลมไม้ เครื่องลมทองเหลือง เครื่องลิ่มนิ้ว เครื่องกระทบ
เครื่องสาย เช่น • ไวโอลิน (Violin) เครื่องดนตรีที่ใช้เล่นท่วงทำนอง ประกอบด้วยสาย 4 สาย แต่ละสายเทียบเสียงห่างกันคู่ 5 เพอร์เฟค คือ เสียง G-D-A-E • วิโอลา (Viola) มีรูปร่างเหมือนไวโอลินทุกประการ แต่มี ขนาดใหญ่กว่าไวโอลิน ตั้งเสียงต่ำกว่าไวโอลินลงไปอีกคู่ 5 เพอร์เฟค คือ C-G-D-A มีเสียงทุ้มและนุ่มนวลกว่า ไวโอลิน
• เชลโล (Cello) มีรูปร่างเหมือนไวโอลินและวิโอลา แต่มีขนาดโตกว่า มาก ขณะเล่นต้องนั่งเก้าอี้ เอาเครื่องไว้ระหว่างขาทั้งสองข้าง เสียง ต่ำกว่าวิโอลา 1 ช่วงคู่ 8 คือ C-G-D-A เครื่องลมไม้ เช่น • ขลุ่ยรีคอร์เดอร์ (Recorder) เป็นเครื่องเป่าดนตรีสากล จัดอยู่ในประเภทเครื่องเป่าลมไม้ชนิดไม่มีลิ้น เป็นเครื่อง ดนตรีที่มีขนาดเล็ก โครงสร้างที่ไม่ซับซ้อน
• ฟลูต (Flute) เป็นเครื่องดนตรีที่เก่าแก่ที่สุดชนิดหนึ่งที่มีพัฒนาการ มาจากมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ที่คิดใช้กระดูกสัตว์หรือเขาของสัตว์ ที่เป็นท่อกลวงหรือไม่ก็ใช้ปล้องไม้ไผ่มาเจาะรูแล้วเป่า ให้เกิดเสียง ต่าง ๆ วัตถุนั้นจึงเป็นต้นกำเนิดของเครื่องดนตรีประเภทขลุ่ย ฟลูต เป็นขลุ่ยเป่าด้านข้าง มีความยาว 26 นิ้วมีช่วงเสียงตั้งแต่ C กลาง จนถึง C สูงขึ้นไปอีก 3 ออคเทฟ เสียงแจ่มใสจึงเหมาะสำหรับเป็น เครื่องดนตรีประเภทเล่นทำนองใช้เลียนเสียงนกเล็ก ๆ ได้ดี • คลาริเนต (Clarinet) เป็นเครื่องดนตรีที่รู้จักกันแพร่ หลายกว่าเครื่องอื่น ๆ ในบรรดาเครื่องลมไม้ด้วยกัน คลา ริเนตเป็นเครื่องดนตรีที่ใช้ได้ในวงดนตรีเกือบทุกประเภท และเป็นเครื่องดนตรีที่ำสำคัญในวงออร์เคสตรา วงโยธ วาทิต และวงแจ๊ส
เครื่องลมทองเหลือง เช่น • ทรัมเป็ต (trumpet) เป็นเครื่องดนตรีสากลในกลุ่มเครื่องลมทอง เหลือง(แตร) ประเภทเสียงสูง (high brass) เช่นเดียวกับเฟรนช์ฮอร์น กำเนิดเสียงโดยอาศัยลมจากการเป่าของผู้เล่นทำให้เกิดการสั่น สะเทือนของริมฝีปาก โดยทั่วไปมีปุ่มกด (valve) 3 อัน เรียงอยู่ใน ระนาบเดียวกัน มีทั้งที่เคลือบผิวด้วยทอง, เงิน, นิกเกิล, และแลก เกอร์ • ทรอมโบน (Trombone) เป็นเครื่องดนตรีสากลประเภท เครื่องเป่าทองเหลือง มีคันชักใช้สำหรับเปลี่ยนระดับเสียง โดยมากจะใช้ในวงโยธวาทิต วงดนตรีลูกทุ่ง รวมทั้งวง ซิมโฟนีออร์เคสตรา ในวงดนตรี ทรอมโบนจะทำหน้าที่ ประสานเสียงในกลุ่มแตรด้วยกัน
• ซูซ่าโฟน (Sousaphone) เป็นเครื่องลมทองเหลืองที่ใหญ่ที่สุด เป็น เครื่องดนตรีประเภทเดียวกับทูบา ลักษณะของเสียงจะต่ำทุ้มลึก เหมาะที่จะบรรเลงในแนวเสียงเบสมากกว่าแนวอื่น ชื่อซูซ่าโฟน ตั้ง ขึ้นเพื่อให้เกียรติกับ จอห์น ฟิลิป ซูซ่า (John Philip Sousa) นัก ประพันธ์เพลงผู้ควบคุมวงดนตรีที่มีชื่อเสียงของอเมริกา เครื่องลิ่มนิ้ว เช่น • เปียโน(piano) เป็นเครื่องดนตรีขนาดใหญ่ที่สร้างเสียงเมื่อคีย์ถูก กดและกลไกภายในเครื่องตีสาย คำว่าเปียโนเป็นตัวย่อของคำว่า ปีอาโนฟอเต(pianoforte)-ออกเสียงว่า (ปี-อ๊า-โน่-ฟอ-เต้) ซึ่งเป็น คำภาษาอิตาเลียนที่แปลว่า “เบาดัง” มาจากความสามารถของ เปียโนที่จะปรับความดังเบาตามแรงที่กดคีย์
• แอคคอร์เดียน (Accordion) เป็นเครื่องดนตรีประเภทลิ่มนิ้วเช่น เดียวกับเปียโนเสียงของ แอคคอร์เดียนเกิดจากการสั่นสะเทือนของ ลิ้นทองเหลืองเล็ก ๆ ภายในตัวเครื่องอันเนื่องมาจากการเล่น ผ่าน เข้า – ออกของลมซึ่งต้องใช้แรงของผู้เล่นสูบเข้า – ออก • คลาวิคอร์ด (clavichord) เป็นเครื่องดนตรีที่มีลักษณะคล้ายเปีย โน เป็นเครื่องดนตรีประเภทลิ่มนิ้ว (Keybroad instruments) ในยุค แรก ๆ ประเภทเกิดเสียงได้ จากการดีดโดยมีสายเสียงที่ขึงไปตาม ส่วนรูปของกล่องไม้สี่เหลี่ยม
เครื่องกระทบ เช่น • ไซโลโฟน (Xylophone) เป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่อง กระทบ(Percussion Instruments) ชนิดที่มีระดับเสียงแน่นอน (Definite Pitch) เป็นระนาดไม้ขนาดเล็กของดนตรีตะวันตก ลักษณะทั่วไปจะคล้าย กับมาริมบา หรือไวบราโฟน แต่ไวบราโฟนทำจากโลหะ และมีขนาดใหญ่ กว่าไซโลโฟน ลูกระนาดของไซโลโฟนทำด้วยไม้เนื้อแข็ง เช่น โร้สวูด เป็นต้น จัดเรียงลำดับเสียงตามบันไดเสียงโครมาติก (Chromatic) เช่นเดียวกับเปีย โนหรือออร์แกน ใต้ลูกระนาดมีท่อโลหะติดอยู่เพื่อเป็นตัวขยายเสียง คาดว่า มีต้นกำเนิดมาจากแอฟริกา และเอเชีย • ไวบราโฟน (Vibraphone) เป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องตี กระทบ(Percussion Instruments)ชนิดที่มีระดับเสียงแน่นอน (Definite Pitch) เป็นระนาดโลหะขนาดใหญ่ ลักษณะทั่วไปคล้าย กับมาริมบาหรือไซโลโฟน ใต้ลูกระนาดมีท่อโลหะเพื่อเป็นตัวขยาย เสียง มีแกนใบพัดเล็กๆ ประจำอยู่แต่ละท่อ ใช้ระบบมอร์เตอร์หมุน ใบพัดทำให้เกิดคลื่นเสียงสั่นรัว ดังก้องกังวาลอย่างต่อเนื่อง
• มาริมบา(Marimba) เป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องตี กระทบ(Percussion Instruments)ชนิดที่มีระดับเสียงแน่นอน (Definite Pitch) ลักษณะเหมือนกับระนาดไม้ขนาดใหญ่ ลูกระนาด ทำด้วยไม้พิเศษที่มีชื่อว่า “rosewood” ใต้ลูกระนาดจะมีท่อโลหะติด อยู่เพื่อเป็นตัวขยายเสียง
เครื่องดนตรีที่คนนิยมเล่นกัน มากที่สุดในปัจจุบัน?! น้อง ๆ อาจจะเคยเห็นเครื่องดนตรีพวกนี้ ผ่านตามาบ้างแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะพี่ ๆ จะมาอธิบายประโยชน์ของของเครื่อง ดนตรีพวกนี้ให้น้อง ๆ ได้ศึกษากันจะมี อะไรบ้างไปหน้าถัดไปกันเล๊ยย!!!
1. เปียโน เปียโนช่วยให้เด็กๆ เข้าใจทฤษฎีดนตรีได้ง่ายกว่าเครื่องดนตรีชนิดอื่น อีกทั้งยังฝึก ง่ายเพราะแค่ใช้นิ้วกดลงไปที่ปุ่มเดียวก็มีเสียงออกมาแล้ว การเริ่มฝึกจากเปียโนจึง ทำให้เด็กมีพื้นฐานทางดนตรีที่ดีและสามารถต่อยอดไปสู่การฝึกเล่นเครื่องดนตรีอื่นๆ ได้ 2. กีตาร์ เด็กๆ หลายคนมักอยากฝึกเล่นกีตาร์เพราะเห็นต้นแบบจากนักดนตรีที่ชื่นชอบหรือคน ใกล้ตัว เขาจึงเกิดแรงบันดาลใจอยากเก่งเหมือนไอดอลในดวงใจ ซึ่งการฝึกกีตาร์ก็ มีลักษณะคล้ายเปียโนตรงที่ช่วยสอนพื้นฐานด้านดนตรีเช่นกัน
3. เบส เบสเป็นเครื่องดนตรีที่มักถูกมองข้าม แต่จริงๆ แล้วเวลาเล่นเป็นวง เสียงเบสมีความ สำคัญมากเพราะเป็นสิ่งที่ช่วยคุมจังหวะและเป็นตัวประสานให้เพลงแน่นขึ้น ส่วนใน แง่ของการฝึกฝน ด้วยความที่เบสมี 4 สาย เด็กๆ จึงทำความเข้าใจเรื่องคอร์ดได้ไม่ ยาก แต่ก็ต้องออกแรงนิ้วในการกดพอสมควร จึงอาจต้องเริ่มฝึกจากเครื่องสาย ประเภทอื่นก่อนแล้วค่อยขยับมาเป็นเบส 4. อูคูเลเล่ อูคูเลเล่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่เด็กๆ เพราะมีขนาดเล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบา สายนิ่ม และมีคอร์ดพื้นฐานที่ง่ายต่อการเรียนรู้ นอกจากนี้ ยังเป็นเครื่องดนตรีที่ เสียงไม่ค่อยดังมาก จึงสามารถฝึกบ่อยๆ ได้เกือบทุกที่เพราะไม่ส่งเสียงรบกวนคน รอบข้าง
5. กลอง กลองเป็นเครื่องดนตรีที่สนุกมาก และเมื่อโตขึ้นลูกของคุณจะได้ใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ ในการแสดงออกทางความรู้สึก การฝึกกลองช่วงแรกๆ จะเน้นเรื่องการจับจังหวะ เป็นหลัก เด็กจึงชอบที่ไม่ต้องทำความเข้าใจทฤษฎีดนตรีอันซับซ้อน และทุกวันนี้ก็มีหู ฟังสำหรับกลองชุดแล้ว คุณพ่อคุณแม่จึงไม่ต้องกังวลเรื่องเสียงดังจนบ้านแตก 6. ขลุ่ยรีคอร์เดอร์ ฟลุต หรือคลาริเน็ต เครื่องเป่าเหล่านี้มีขนาดเล็กพกพาสะดวก หยิบออกมาฝึกได้แทบจะทุกที่ทุกเวลา สำหรับเด็กที่เริ่มฝึกใหม่ๆ แนะนำให้เริ่มจากขลุ่ยรีคอร์เดอร์ เพราะในทางเทคนิคถือว่า เป็นเครื่องดนตรีในกลุ่มเครื่องเป่าลมไม้ที่เล่นง่ายที่สุด โดยหลักการสำคัญคือการ ควบคุมลมหายใจและการวางตำแหน่งนิ้ว
7. แซกโซโฟน แซกโซโฟนเป็นเครื่องดนตรีที่ได้รับความนิยมในหมู่นักเรียนดนตรี เนื่องจากมีระบบ นิ้วที่จับถนัดมือและช่วงเสียงไม่กว้างมาก จึงฝึกเล่นได้ไม่ยากจนเกินไปนัก ถ้าจะให้ เด็กหัดเล่นแซกโซโฟนควรเลือกซื้อรุ่นที่เป่าง่ายไม่กินลม จะได้ไม่ต้องออกแรงเป่า เยอะจนเหนื่อยหอบก่อนเป่าได้เป็นเพลง 8. กลองคาฮอง กลองคาฮองมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมหน้าตาคล้ายกล่อง เป็นเครื่องดนตรีประเภทเพ อร์คัชชัน สามารถเลือกได้ว่าจะตีด้วยมือ ไม้ หรือแปรง ซึ่งแต่ละอย่างก็จะให้เสียง แตกต่างกันออกไป เด็กๆ จึงสนุกกับการได้เรียนรู้ โดยสามารถเริ่มฝึกได้ด้วยตัวเอง จากการดูคลิปง่ายๆ ในยูทูบและลองตีตามจังหวะเหล่านั้น
9. ไวโอลิน ไวโอลินเป็นเครื่องดนตรีที่ค่อนข้างมีความซับซ้อนขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง จึงเหมาะกับ เด็กอายุ 6 ขวบขึ้นไปที่มีสมาธิจดจ่ออยู่กับการเรียนได้ประมาณ 40 นาทีต่อครั้ง แต่ ถ้าเด็กอายุน้อยกว่านี้มีความพร้อมก็สามารถเริ่มฝึกได้ ซึ่งทุกวันนี้มีไวโอลินขนาดย่อ ส่วนที่ทำให้เด็กเล็กหัดเล่นได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น 10. ขิม แนะนำเครื่องดนตรีสากลไปเยอะแล้ว ขอปิดท้ายด้วยเครื่องดนตรีไทยอย่างขิม ซึ่งมี จุดเด่นที่เหมาะแก่การให้เด็กเล็กลองฝึกคือ มีตัวโน้ตที่แน่นอนและใช้แรงไม่เยอะ เด็ก จึงสามารถเริ่มเรียนได้ตั้งแต่วัยอนุบาล เพื่อเป็นการฝึกสมาธิและปลูกฝังให้รักดนตรี ชนิดอื่นต่อไป
ขอบคุณน้อง ๆ ที่เข้ามาศึกษาในE-bookที่สร้างสรรค์ ของพวกพี่ ๆ นะคะ
Search
Read the Text Version
- 1 - 32
Pages: