Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เล่ม KM เล็ก 2563 ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนชลบุรี

เล่ม KM เล็ก 2563 ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนชลบุรี

Published by นุชจรีย์ กันท้วม, 2020-04-19 23:43:13

Description: เล่ม KM เล็ก 2563 -2 : KM หน่วงงาน

Search

Read the Text Version

ปก

คำนำ

สำรบญั

นิยำมกำรจัดกำรควำมรู้ “การจดั การความรู้” Knowledge Management หรอื ทเ่ี รียก ส้ัน ๆ ว่า KM เป็นกระบวนการในการ นาความรู้ที่มีอยู่กระจดั กระจายภายในตวั บคุ คล เอกสารและองคก์ รมาใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์สงู สดุ ต่อองค์กร โดยผ่านกระบวนการต่างๆ เช่น การเสาะแสวงหา ค้นหา รวบรวม สร้าง แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน นามาพัฒนาให้เป็นระบบ เพื่อให้ทุกคนได้เข้าถึงองค์ความรู้และใช้ประโยชน์จากองค์ความรู้เพ่ือ ต่อยอดในการทางานให้เกิดผลสัมฤทธิ์ดีข้ึนกว่าเดิม โดยการค้นหา ความรู้ ความชานาญที่แฝงเร้นอยู่ในตัวคน สร้างเป็นความรูใ้ หม่ให้ง่าย ต่อการใช้ประโยชน์ มีการต่อยอดให้เกิดส่ิงใหม่หรือนวัตกรรมปรับให้ เหมาะสมกับสภาพความเป็นจริง ซึ่งเราสามารถใช้การจัดการความรู้ เป็นเคร่ืองมือเพอื่ การบรรลเุ ป้าหมายอยา่ งน้อย 4 ประการ ดังน้ี 1. บรรลุเป้าหมายการพัฒนาคน 2. บรรลุเปา้ หมายการพฒั นางาน 3. บรรลุเป้าหมายการพฒั นาองคก์ ร 4. บรรลเุ ปา้ หมายการพัฒนาสงั คม และชมุ ชน

ทม่ี ำและควำมสำคญั ในกำรจัดทำองคค์ วำมรู้ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนชลบุรีได้จัดการความรู้เพื่อพัฒนา คุณภาพคน งาน และองค์กรข้ึนเป็นประจาทุกปี โดยมีวัตถุประสงคใ์ ห้ เกิดการจดั การความรูร้ ่วมกันของบคุ ลากรในองค์กร เพ่ือพัฒนาองค์กร ไป สู่ อ ง ค์ ก ร แ ห่ งก า รเรี ย น รู้ ( Learning Organization) โ ด ยใน ปีงบประมาณ 2563 ได้มีการจัดเวทีวิเคราะห์ ทบทวนค้นหา/บ่งช้ี ความรู้ทีจ่ าเปน็ ในการปฏิบัตงิ านของบคุ ลากรและองค์กรรว่ มกนั โดยนา หลักการส่งเสรมิ มาตรฐานการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของสถาบันการ พัฒนาชุมชนมาเป็นเครอื่ งมือในการวิเคราะหง์ านขององค์กรเพือ่ คน้ หา องค์ความรใู้ นการพัฒนางานให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลยง่ิ ข้นึ ซ่ึงมาตรฐานการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของสถาบันการพัฒนาชุมชนมี จานวน 3 มาตรฐาน ไดแ้ ก่ 1. มาตรฐานการดาเนินการฝึกอบรม : TOP Training 2. มาตรฐานนักทรัพยากรบุคคล : Talent Trainer 3. มาตรฐานการใหบ้ ริการ : Better Touch Point โดยบุคลากรศนู ยศ์ กึ ษา และพัฒนาชุมชนชลบุรีทุกคนได้ร่วมกันวิเคราะห์จุดสัมผัส Touch Point ท้ัง 3 ด้านแล้ว พบว่า การดาเนินงานท่ีมีปัญหาหรือมีจุดอ่อน มากท่ีสุด คือ ด้านมาตรฐานการดาเนินการฝึกอบรม : TOP Training ซ่ึงเป็นกระบวนงานที่ซับซ้อนมีรายละเอียดในการดาเนินงานหลาย ขน้ั ตอน ดงั นน้ั เพ่อื เป็นการพัฒนางานของศูนย์ศกึ ษาและพัฒนาชุมชน ชลบรุ ีไปสู่ “องค์กรเป็นเลศิ บริการดีเย่ยี ม” บุคลากรจงึ รว่ มกนั วิเคราะห์ จุดสัมผัส Touch Point ด้านกระบวนการฝึกอบรมที่ผ่านมาของศูนย์ ศึกษาและพฒั นาชมุ ชนชลบรุ ี พบวา่ ปญั หาหรอื จดุ อ่อน Pain Point ท่ี มคี ะแนนติดลบมีเพียงเร่ืองเดยี ว คอื การทากจิ กรรมนันทนาการละลาย พฤติกรรมเพื่อเสรมิ สร้างความสมั พันธ์ด้วยการเกมส์/เพลงตา่ งๆ โดยมี ผลการวเิ คราะห์ ดงั นี้

รปู ภาพ (รอจากไก)่

ปัญหำทีพ่ บ/ปัญหำทเี่ กดิ ขนึ้ ระหวำ่ งกำรดำเนินงำน ศูนย์ศึกษาและพฒั นาชุมชนชลบุรี มีบทบาทหน้าท่หี ลกั ในการ ให้บริการด้านวิชาการแก่หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เจ้าหน้าท่ี พัฒนาชุมชน ผู้นา กลุม่ /องค์กร เครือขา่ ย และประชาชนทั่วไปซง่ึ ถือว่า เป็นภารกิจหลักในปัจจุบัน น่ันก็คือการจัดการฝึกอบรม/สัมมนาเพ่ือ พัฒนาศักยภาพของบคุ คล ทาให้บุคคลทมี่ ีบทบาทหนา้ ที่ความเปน็ มาท่ี หลากหลายแตกต่างกัน ได้มีโอกาสมาพบและเจอกันในโครงการ ฝกึ อบรมต่างๆ แลว้ เราจะทาอย่างไรใหบ้ คุ คลเหล่านร้ี ว่ มมอื รว่ มใจกนั ทา กิจกรรมไปด้วยกันอย่างเต็มที่ในทุกกระบวนการฝึกอบรม หรือตลอด ระยะเวลาที่อบรมร่วมกันน้ันอาจจะเป็นเรื่องยาก เพราะแต่ละคน อาจจะไม่ได้รู้จักกันมาก่อน หรือรู้จักกันมาบ้างแล้วแต่ไม่สนิทกันนัก หรือมีความเป็นมาท่ีแตกต่างกัน เช่น อาชีพ อายุ การศึกษา ความคิด และทัศนคติพ้ืนฐานการใช้ชีวิตไม่เหมือนกัน ฯลฯ แล้วเราจะมีวิธีการ อย่างไรทจ่ี ะทาให้บุคคลเหลา่ นน้ั ร่วมแรงรว่ มใจกันไดด้ ว้ ยความเตม็ ใจ เกมและกิจกรรมนันทนาการ จึงได้เข้ามามีบทบาทในการ ฝึกอบรม/สัมมนามากขนึ้ จนกระทัง่ กลายเป็นกิจกรรมทตี่ ้องทาในแตล่ ะ ช่วงเวลา เพื่อเชื่อมโยงก่อนเข้าถึงกระบวนการทางวิชาการ หรือเรา อาจจะใช้กิจกรรมนันทนาการมาช่วยในแต่ละช่วงเวลาสลบั กับเน้ือหา ทางวิชาการเพอื่ ไมใ่ ห้เกดิ ความเบือ่ หน่ายในการฝกึ อบรม อีกทง้ั เป็นการ เสริมสร้างความสมั พนั ธ์ทดี่ ีต่อกนั ทาให้ทุกคนเกดิ ความผ่อนคลายเปน็ การเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่กระบวนการเรียนรู้ การทากิจกรรม นันทนาการเล่นเกมส์/ร้องเพลง จึงเป็นเรื่องสาคัญขาดไม่ได้สาหรับ โครงการฝึกอบรม ดังนั้น วิทยากรกจิ กรรมนันทนาการจะต้องมีเทคนคิ ในการทางานให้ประสบความสาเร็จ แต่จากการดาเนินงานท่ีผ่านมา ศูนย์ศกึ ษาและพฒั นาชมุ ชนชลบุรคี ้นพบปญั หา ดงั นี้ 1. บคุ ลากรยงั อธบิ ายขัน้ ตอน/วธิ กี ารการเลน่ เกมส์/รอ้ ง เพลง ยังไม่ชัดเจนพอ ทาให้ทกุ คนยังไมเ่ ปดิ ใจในร่วมกจิ กรรม

2. บคุ ลากรร้องเพลงนันทนาการแลว้ รสู้ กึ ขาดความมั่นใจ 3. ดงึ การมสี ่วนร่วมของผเู้ ข้าอบรมได้ยงั ไมเ่ ต็มที่ แนวทางการแก้ไขปญั หา ศนู ยศ์ ึกษาและพฒั นาชมุ ชนชลบรุ ไี ด้จัดเวที จัดการความรขู้ องบุคลากรร่วมกนั ภายในหน่วยงานเพอ่ื แลกเปล่ยี น เรียนรู้ประสบการณท์ างาน คน้ หาปญั หาและแนวทางการแกไ้ ขปญั หา ทาให้คน้ พบองคค์ วามรูว้ ิธีการปฏบิ ัตงิ านท่ีดี (Best Practice) ที่ เก่ยี วขอ้ งและเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบตั งิ านของบคุ ลากร ดังน้ันจงึ ได้ จัดทาองคค์ วามรู้ของหน่วยงานเก่ียวกบั กจิ กรรมนันทนาการเกมส์/เพลง ในชอื่ ชุดความรู้ “นนั ทนาการสานความสัมพันธ์ สร้างความรกั ความ สามคั คี” ขนึ้ โดยมเี น้อื หา ดงั นี้ 1. เทคนคิ การเตรยี มความพร้อมก่อนเล่นกจิ กรรมนันทนาการ 2. เทคนคิ การเปน็ วิทยากรนันทนาการใหป้ ระสบความสาเรจ็ เราตอ้ งทาอยา่ งไร 3. นนั ทนการสานความสัมพันธ์ สรา้ งความรกั ความสามคั คี ประกอบดว้ ยเกม/เพลงต่างๆจานวน 4 หมวด ดังนี้ 3.1. เกมการทดสอบสมอง/เตรยี มความพร้อมกอ่ นการ เรยี นรู้ 3.2. เกม/เพลงสร้างความคนุ้ เคยและทกั ทายร้จู กั กัน (ฉันและเธอเรามารจู้ กั และทกั ทายกัน) 3.3. เกมการสร้างทมี งาน 3.4. กิจกรรม Walk Rally

1. เทคนคิ การเตรียมความพร้อมก่อนเลน่ กิจกรรมนนั ทนาการ 1. วิทยากรผู้ทาหน้าที่นาเล่นเกม และกิจกรรมนันทนาการ จะต้องหาข้อมูลทุกคร้ังว่ากลุ่มเป้าหมาย ที่เข้าอบรมเป็นใครบ้าง มา จากไหน เพศอะไร อายุเท่าไหร่ จานวนเท่าใด มาอบรมเร่ืองอะไร และ มาก่ีวัน ฯลฯ เพ่ือที่จะวางแผนการละเล่นให้เหมาะสมกับสถานท่ีและ ประสบการณ์ของกลุ่มเปา้ หมาย 2. วิทยากรจะต้องมีการจัดเตรียมสื่อประกอบการสอนให้ พร้อม รวมถึงเครอ่ื งมอื ทจ่ี ะใช้ในการประกอบการละเลน่ เชน่ เกม เพลง กลอง ฉ่งิ ฉาบ วัสดุ อุปกรณ์ ดนตรี ฯลฯ 3. วิทยากรจะตอ้ งมกี ารเขียนแผนการสอนเพื่อท่จี ะวางแผนไว้ ลว่ งหนา้ วา่ จะตอ้ งดาเนินการอยา่ งไรบ้างให้เปน็ ไปตามข้ันตอน 4. การเลน่ กิจกรรมนนั ทนาการนน้ั จะต้องทางานเปน็ ทมี อย่าง น้อย 2-3 คน เพื่อดูแลกลุ่มเป้าหมายให้เป็นไปตามกระบวนการ และ คอยชว่ ยเหลอื กันในการหยิบจับหรอื แจกอปุ กรณต์ ่างๆใหร้ วดเรว็ ยิง่ ข้ึน

2. เทคนิคการเป็นวิทยากรนันทนาการใหป้ ระสบความสาเร็จ เราต้อง ทาอย่างไร 1. วิทยากรจะตอ้ งสร้างบรรยากาศด้วยการกลา่ วทักทายสวสั ดี ชวนพูดคุย ซักถาม สร้างความเป็นกันเอง ความคุ้นเคยต่อกันก่อน เพ่อื ให้ทุกคนเกิดความผอ่ นคลายก่อนทากิจกรรมฯ 2. วทิ ยากรตอ้ งสรา้ งความประทบั ใจดว้ ยนา้ เสียงทีจ่ ริงใจ และ กิริยาท่ีสุภาพ 3. วิทยากรต้องพึงระลึกไว้อยู่เสมอว่า กลุ่มเป้าหมายของเรา คือแขกต้องปฏิบตั กิ ับแขกให้ดีทง้ั ทางกาย วาจา และใจ 4. วิทยากรต้องอธิบายขั้นตอนอย่างชัดเจนในการนากิจกรรม นันทนาการท่ีเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย และต้องมีการวางแผน เตรียมการไว้ลว่ งหน้า 5. การเลอื กเกมทนี่ ามาเล่นควรเลน่ ได้อย่างท่วั ถึงทกุ คน (เน้น เกมการมีส่วนรว่ ม และไม่ยากจนเกินไป) เปน็ เกมเชงิ สรา้ งสรรค์ 6. มีการชี้แจงวัตถุประสงค์ของการเล่นกิจกรรมนันทนาการ และสรปุ ผลจากการเลน่ กิจกรรมฯ ทกุ ครั้งเม่อื กิจกรรมนนั ทนาการจบ ลง

3. นนั ทนกำรสำนควำมสมั พันธ์ สร้ำงควำมรกั ควำมสำมคั คี ประกอบด้วยเกม/เพลงตา่ งๆจานวน 4 หมวด ดงั น้ี 3.1. เกมส์การทดสอบสมอง/เตรยี มความพรอ้ มก่อนการ เรียนรู้ 3.2. เกมส์/เพลงสรา้ งความคนุ้ เคยและทักทายรจู้ กั กัน (ฉันและเธอเรามารจู้ กั และทกั ทายกนั ) 3.3. เกมสก์ ารสร้างทมี งาน 3.4. กิจกรรม Walk Rally