๒กิจกรรมท่ี ๓กิจกรรมท่ี ท�ำนาวิถีชาวบ้าน ๙ ไร่ บริหารงาน ท่ัวไป ปลกู ผักขาย เชน่ ผักคะน้า อาศยั ฝนตกตามธรรมชาติ ผกั กวางตงุ้ ผักชลี าว มะเขอื ต่างๆ เพอ่ื เปรียบเทียบใหเ้ หน็ ระหวา่ งแปลงนา เกษตรทฤษฎใี หมแ่ ละแปลงนาวิถชี าวบา้ น ยพลัดาืชกเผงินกั ินพืช ถึงคณุ ภาพและปรมิ าณผลผลิต ปลกู พชื หลงั นา เพอื่ บำ� รงุ ดนิ และขายผลผลติ เชน่ ล้ว แรส้อ่วปนยลทละี่ ง๔๓เก๗ษตรด้านอื่น ข้าวโพด การปลูกพืชหลังนา ช่วยให้ชาวบ้าน ปลกู พชื ไร่พชื สวน เชน่ ฝรั่ง มะนาว กลว้ ย มงี านทำ� ไมต่ อ้ งทงิ้ บา้ นทง้ิ นาไปหางานอยา่ งอนื่ ทำ� กระทอ้ น ยึดหลกั ปลกู พชื ทต่ี ้องการกิน เด็กๆ ชอบกินพืชผลอะไรกนั บา้ งเอ่ย กตาารมบแรนวิหคาิดรขจองัดพกระารราชนา�้ำ สท่ว่ีอนทย่ี ูอ่ ๔าศัย ร้อยละ ๖ อา่ งใหญ่ สู่ อ่างเล็ก อ่างเลก็ สู่ สระน้�ำ น�ำ้ มีกพารรระะรเาหชยาวคัน�ำลนะวณ๑พเบซวน่าติเมตร ดงั นค้ันวรหขาุดกสอรยะาลกึกมอีนยำ้� ่าใงชนพ้ อ้ อยเพ๔ยี งเตมลตอรดปี บา้ น โรงเกบ็ ของ โรงเลี้ยงสตั ว์ ถนนเขา้ บ้าน โรงสขี ้าวขนาดครัวเรือน ทน่ี ี่...เลี้ยงเปด็ และไก่เน้อื พ้นื เมอื งพนั ธดุ์ ี โครงการสาธิตทฤษฎีใหม่ อนั เน่ืองมาจากพระราชด�ำริ บา้ นฉัตรมงคล อ.ปกั ธงชัย จ.นครราชสีมา ๐๘ ๑๗๑๒ ๑๕๗๖, ๐๘ ๓๗๕๔ ๑๒๔๘ ปา้ สมควร มณสี รุ ิยา http://km.rdpb.go.th/ Project/View/7433 ๑ ใน ๓ ของ 49การเดนิ ทาง ผถู้ วายทด่ี นิ ผืนนี้
น้�ำคนื ชวี ติ ทสี่ ามเหล่ยี มมรกต โครงการอา่ งเก็บนำ�้ ห้วยพลาญเสอื อันเน่อื งมาจากพระราชดำ�ริ จ.อุบลราชธานี แต่เดิมพ้นื ท่บี ริเวณนี้มีปัญหาสงคราม คอมมวิ นสิ ตเ์ พราะอยขู่ อบชายแดน ชาวบา้ นถูกรกุ ราน บ่อยคร้งั จงึ อพยพทง้ิ ถน่ิ ฐานไปเปน็ ระยะเวลานาน พนื้ ทแ่ี หง่ น้ีถูกทิ้งร้าง ไมไ่ ด้ใชป้ ระโยชน์ พระราชาเลง็ เหน็ ว่าควรส่งเสรมิ ความมั่นคงและปรบั ปรุงพน้ื ท่ีจากความ แห้งแล้ง จัดสรา้ งอา่ งเก็บน้�ำห้วยพลาญเสือตอนบนและ ตอนลา่ ง ชาวบา้ นเม่ือรู้ จงึ พากันกลับมาอยู่อาศัยในพนื้ ที่ พร้อมสรา้ งผนื แผน่ ดินทเ่ี ขยี วขจอี กี ครง้ั 50
เพดลก็ าๆญรเู้ไปหน็ มคคำ� ำ� โวบา่ ราณ มคี วามหมายว่า “ลาน” 51
ขหอว้ จงยุดอพก่าลอ่งาสเกญร็บ้าเงสนอืำ�้ ตอนบนและตอนลา่ งน้ี อยใู่ กล้กบั รอยต่อของสามประเทศ คือ ไทย สปป.ลาว และกัมพชู า นำ้� ในอา่ งกักเก็บน�้ำมีสเี ขยี วมรกตดูสดใส ปา่ ไมร้ อบๆ มคี วามอุดมสมบูรณ์ จึงได้ชือ่ วา่ “สามเหลยี่ มมรกต” ปัจจบุ ันกลายพฒั นาเปน็ แหลง่ ทอ่ งเท่ยี วทีส่ �ำคัญ ชาวบา้ น เกษตรกร เป็นแนวกัน้ รวมถึงหนว่ ยทหารชายแดน เพอื่ ความมน่ั คง มนี ้ำ� กินนำ้� ใชใ้ นครวั เรอื น แนวชายแดน และการเกษตรอยา่ งทว่ั ถึง เป็นแหล่งเรียนรู้ ของเยาวชน ทั้งเรื่อง ประโยชน์ทัง้ ในหน้าแลง้ และหน้าฝน ขหอว้ งยอพ่าลงาเกญ็บเสนอื�้ำ ธรรมชาติ และประวัตศิ าสตร์ สมรภูมิรบ เปน็ แหลง่ เป็นแหลง่ ประมงนำ้� จดื ทอ่ งเที่ยว ของชาวบ้าน เชิงอนรุ กั ษ์ 52 น้�ำเดดสก็า้�ำนคๆใัญดคตบดิ ่อา้วชง่าีว?ิต
ลกั ษณะเป็น ท่ีสรอา้ ง่าทงเ�ำกนบ็ บนด�ำ้ นิ กั้น ล�ำหว้ ยพลาญเสอื ห้วอย่าพงเลกาบ็ ญนเำ้�สือ ทัง้ ตอนบนและตอนลา่ งน้ันมีการบรหิ าร จดั การน�ำ้ จากแหลง่ นำ�้ ธรรมชาติในอ่างเก็บนำ�้ มาใช้งานอยา่ งคุม้ คา่ ไดป้ ระโยชน์สงู สดุ ด้วยการจดั ตั้งกลมุ่ ผู้ใช้น�ำ้ ท่ีบริหารจัดการน�ำ้ ในยามแล้งได้ โดยพื้นท่ียงั มีนำ�้ เพยี งพอ สำ� หรับแปลงเพาะปลกู เท่ียวอ่างเก็บน้ำ� อ่างเก็บน�้ำห้วยพลาญเสือตอนบน บริเวณช่องบก มที วิ ทศั นท์ างธรรมชาตสิ วยงาม ชอมุ่ ชมุ่ ชนื่ มนี กนำ�้ และนกอพยพ แวะเวียนมาอาศัยตลอดปี ที่น.ี่ ..มีบรกิ ารบา้ นพกั และสถานทีก่ างเต็นท์ ส�ำหรับนักท่องเท่ยี วดว้ ย โครงการอา่ งเก็บน้ำ� หว้ ยพลาญเสอื ตอนบน อันเน่อื งมาจากพระราชดำ� ริ อ.ภูจอง-นายอย จ.อบุ ลราชธานี ๐ ๔๕๘๕ ๙๖๓๙ https://goo.gl/UW8p5m การเดินทาง 53
สนุกเรียนรู้ ทพ่ี พิ ธิ ภณั ฑธ์ รรมชาติจัดการน้ำ� ชุมชน ตามแนวพระราชดำ�ริ บา้ นลม่ิ ทอง จ.บุรรี มั ย์ แต่เดิมชุมชนบา้ นลมิ่ ทองแห่งนีเ้ ปน็ พ้ืนที่ น้�ำหลากช่วงหน้าฝนจนเกดิ น�้ำท่วมและเป็นพ้นื ท่นี ำ้� แลง้ ยามฝนทงิ้ ชว่ ง ไมม่ ีแหล่งกกั เก็บน้�ำเอาไว้ใช้ ผลผลิตการ เกษตรจงึ ไม่ไดผ้ ลดี ชาวบา้ นสงั เกต พดู คยุ ร่วมมอื ร่วมใจ ในการชว่ ยกันแก้ไขปญั หาด้วยการพ่ึงพาตนเองตามศาสตร์ พระราชา ในทส่ี ดุ กส็ ามารถแกไ้ ขปัญหาไดแ้ ละขยายผล ส่ชู มุ ชนข้างเคียงอยา่ งเกิดผล 54
รู้ไห‘มบ.รุ ..ีรสัมำ� นยว์ตน�ำน�้ำกนิ ’ 55 คอื อะไร? เปน็ ค�ำทค่ี นโบราณใช้ เปรยี บเปรยสภาพพ้นื ที่ จังหวัดบุรีรมั ย์ ถึงความแหง้ แล้งกันดาร
๑. ชุมชนเรียนรู้ แแบกบป้พงึ่ัญพาหตานนเอ้ำ� ง ชาวบ้านลงมือสำ� รวจ ปญั หาหลกั ของชมุ ชน คอื ๔. ๕. ขาดแคลนน้�ำ จงึ ชวนกัน วางแผนเพอื่ แก้ปัญหา น�ำผลสำ� รวจ จดั ท�ำแนวทาง มาวเิ คราะห์ พฒั นาแหลง่ นำ�้ ๒. ในชุมชน ตั้งคณะกรรมการ บริหารจดั การน�้ำชมุ ชน ได้รับการสนับสนุนจากหนว่ ยงานราชการ และเอกชน สนบั สนนุ จัดทำ� คลองดกั น�ำ้ หลาก ร่วมกับทีมนกั วิจยั และสระน้ำ� แกม้ ลงิ เช่อื มตอ่ คลองดกั น้ำ� หลาก เพอ่ื เก็บสำ� รองน้ำ� รวมถึงการจดั ท�ำสระน้�ำ ๓. ประจำ� ไร่นาเพ่ือใชป้ ระโยชนต์ ลอดปี ออกสำ� รวจพ้ืนทชี่ มุ ชน แหลง่ นำ้� และเส้นทางน้�ำเดิม ทีเ่ คยมี โดยใชแ้ ผนทดี่ าวเทยี ม และเคร่อื งระบพุ ิกดั GPS ชาวบา้ นใชเ้ วลาส�ำรวจ ท�ำแผนที่เสน้ ทางน้�ำ 56 เปน็ เวลา ๒ ปี ๘ เดือน
ระบบสระพวง คลองดักนำ�้ หลากแก้มลงิ และสระน้�ำประจำ� ไร่นา คทวิศามทลาาดงชัน หญา้ แฝก แสกร้มะนล�ำ้งิ หญ้าแฝก คลอง รับน�้ำหลาก ของพื้นที่ ดกั ตะกอน ดักตะกอน และน้ำ� ฝน และปอ้ งกนั คนั ดนิ และปอ้ งกนั คันดิน พังทลาย พงั ทลาย คลองทขี่ ุดลอก เพือ่ รบั น�ำ้ หลาก และน้ำ� ฝน สระน้�ำประจำ�ไรน่ า สระน้�ำประจำ�ไรน่ า สระน้ำ� ประจำ�ไรน่ า และเขสทุดียชส�ำาคสรวละลบแอะกงา้ ทดนม้ ่ีดกัลรนินิง่วข้�ำมเหอชกือ่ลงันมาตตกน่อคลอง เพ่อื เก็บน�้ำ กอ่ นสง่ ต่อไปยังสระนำ�้ ประจำ� ไร่นา ผา่ นคลองซอยที่ขดุ เพ่มิ จนเปน็ รูปแบบของ การดกั น้�ำหลากและสระพวง ชว่ ยแก้ปญั หา น้�ำทว่ มและขาดแคลนน้�ำยามแล้ง มกี ารพฒั นาใช้พลงั งานแสงอาทิตยจ์ าก แผงโซลารเ์ ซลลใ์ นแหลง่ นำ�้ ชมุ ชน5ด้ว7ย
ตบะอ่ กดอกั น ๑จุดดัก บอ่ ดกั ทศิ ทางไหลของนำ้� ตะกอน ตะกอน ถนน จุดดักตะกอนดนิ บอ่ ดัก ๒ สระนำ้� จากเดมิ มีปญั หาน้�ำหลาก ตะกอน หนองทองลมิ่ พดั ตะกอนดนิ ลงส่แู หล่งน้�ำ ชุมชนจงึ ขดุ บ่อดักตะกอน ๓จุดดกับอ่ ดัก เพื่อดกั และป้องกนั ตะกอนดนิ ตะกอน ก่อนจะปลอ่ ยเขา้ สูส่ ระน�ำ้ ตะกอน ระบบนำ้� เที่ยวท่งุ ‘ป้าน้อย’ สนทิ ทิพยน์ างรอง คพวปแอืเน้ืนพพรลกทะ้ืนกระลโ่ีทาทาบยบัะรุ่งีแ่รชจพนไรกนปัดเา้นื้มท์ไกกทลดาแลาีน่ิง้อปลรบั รายัญะใมปูกหา่คหาแงถ็น้งเบสาืออพ้�ำนูงบเยเือ่ปสข้ำ�หแู่ใทน็ดุา้ ชบนส่ว้บึ่งู่ม หน่ึงในแกนน�ำชมุ ชนผู้มีความคดิ ก้าวไกลในการศึกษาระบบจดั การน้�ำ เรียนรู้จาก โครงการตา่ งๆ ของพระราชา เรียนรผู้ า่ นการอบรมและ ดงู าน ท้งั คลองลัดโพธ์ิ แหลมผักเบยี้ การใชห้ ญา้ แฝก การใช้เทคโนโลยีใหมๆ่ และนำ� ความรู้ทไ่ี ดม้ า รว่ มพฒั นาชุมชน ...ถนนน้ำ� เดนิ คอื อะไร ใครร้บู ้าง... 58 ชุมชนช่วยกันท�ำถนนนำ้� เดินท่ปี กติเป็นเสน้ ทางสญั จร ชว่ งฝนตกถนนจะเปน็ เส้นทางน�ำ้ ใหน้ ำ้� ไหลตามทาง แล้วไปรวมในบ่อตะกอน ก่อนส่งตอ่ ไปยงั แก้มลิง
‘คลเงัดินอเาทหี่ยวาปรา่ ชคุมชลนังบยา้ นาหคนอลงังทคองวลาิม่ มร’ู้ แต่เดมิ ป่าแห่งนถี้ กู บกุ รุกทำ� ลาย เพ่ือน�ำไม้ไปใช้สอย จนปา่ สภาพเสอื่ มโทรม จนมกี ารจดั ตงั้ โครงการ “สรา้ งปา่ สรา้ งงาน” ใหช้ าวบา้ นในชุมชนชว่ ยกนั ปลกู ฟนื้ ฟู และดูแลปา่ แห่งนี้ ปัจจุบันป่าแห่งนี้มีพ้ืนที่ ๖๘ ไร่ มีพันธุ์พืชและสัตว์ป่าจ�ำนวนมาก โดยเปดิ ใหช้ าวบา้ นในชมุ ชนเขา้ มาใช้ ประโยชนร์ ว่ มกนั ไดภ้ ายใตก้ ฎระเบยี บ ท่ที กุ คนยดึ ถอื ท่ีน.่ี ..เปน็ ปา่ เตง็ รัง ๗๐มีตน้ ไมก้ ว่า ชนดิ มตี น้ ไมช้ ่ือแปลกๆ เต็มป่าเลยล่ะ ทั้งศรธี นนไชย มะม่วงหัวแมลงวนั มันเหบ็ พนั ซาด กระโดน จิก แตว้ ฯลฯ มีชาวบา้ นและเดก็ ในชมุ ชนทำ� หน้าที่มัคคเุ ทศกน์ อ้ ยพาทอ่ งไป ตามเสน้ ทางเดินในป่าที่มตี น้ ไม้กว่า ๗๐ ชนดิ สนกุ เพลดิ เพลนิ ใชเ้ วลาในการเดนิ ประมาณ ๑ ช่วั โมง หขอมงอหสมมู่บนุ า้ ไนพบรอกวา่ เด็กขาดสารอาหารและมพี ยาธิ การกินอาหารเปน็ ยา ปลายฝนตน้ หนาว ให้กินแก่นกระหาดต้มน�ำ้ ตามฤดูกาล ให้กนิ แกงส้มดอกแค เพือ่ ถ่ายพยาธิ จะชว่ ยใหร้ ่างกายแขง็ แรง เพม่ิ ความอบอนุ่ ชะเอม มคี ุณสมบัตแิ ก้เจบ็ คอ 59
เม่อื ปา่ อดุ มสมบรู ณ์ กจ็ ะมเี หด็ ตามมา ทงั้ อร่อยท้งั ขายได้ราคา ในป่าแห่งนีม้ เี หด็ มากกวา่ ๑๐ ชนดิ เลยนะ ประโยชนข์ องการปลกู ปา่ ที่พระราชาวา่ ไว้ ๓ปา่ปลกู อยา่ ง ๔ประโยชน์ อย่าง ๑ ปลูกไมใ้ ชส้ อย ๒ ปลูกไม้กินได้ เช่น ไม้ผล ไมใ้ บ ๓ ปลกู ไม้เศรษฐกจิ เพื่อเอาไว้ขาย เช่น สะเดา ไมไ้ ผ่ พืชผกั และสมุนไพรตา่ งๆ เชน่ เมื่อปลูกครบ 3 อย่าง ไม้เตง็ ไม้สะแบก ลกู นมวัว เลบ็ เหยย่ี ว มะหาด ก็จะเกดิ ประโยชนอ์ ยา่ งท่ี ๔ ยางนา มะขามปอ้ ม กะทกรก ผักหวาน คือ ช่วยอนุรักษด์ นิ และน้�ำ สวคนรปัวา่ เรชุือมนชน ‘ปา้ ไว’ ทองมว้ น รังพงศ์ สร้างพื้นท่ีของตวั เองสร้างเปน็ สวนป่าชมุ ชนครัวเรอื น เพาะพนั ธุก์ ลา้ ไมเ้ อาไวม้ ากมายส�ำหรบั แจกจ่าย ปลูกไม้ ทีใ่ ห้ประโยชน์ เชน่ สะเดา ข้เี หล็ก ปลกู พืชหมุนเวียน มแี ปลงผักนานาชนิดเอาไว้กินและขาย การปลูกพืช ผสมผสานทำ� ใหช้ าวบ้านในชมุ ชนมีงานทำ� ตลอดปี ไมต่ อ้ งย้ายถิ่นฐานหลงั หนา้ นาเหมอื นก่อน 60
ในชื่ภอาพคืชอผีสากั นผเหลลไมา่ น้ ี้ คอื ผกั อะไร ใครรู้จักบา้ ง? นั่นแน่...รู้แลว้ ก็เขียนบอกกนั ไดเ้ ลย บกั หงุ่ คอื ... ผกั อีฮมุ คอื ... แตงจิง คือ... บักสีดา คอื ... ผกั อีตู่ไทย คอื ... หมากตอ้ ง คอื ... บักนดั คือ... 61
รวมกลุ่มในชุมชน เพมิ่ ความเขม้ แขง็ นแนำ� ศวเคามสดิ ื่อตจ“รัด์อก“ยาเกรู่อนยษ้�ำ่าตไงดรพผ้ ทลอฤเชพษมุ ียฎชงนีใ”ตหอ่มมย”่าอใดชแด้ลมว้ะยกี กาารรท�ำ บัญชีครวั เรือน รวมกลุ่มใช้ปยุ๋ อินทรยี ์ ไมใ่ ช้ สารเคมี รวมตัวกนั ขายผลผลิตด้วยการจัดการ แบบหมนุ เวยี น การแปรรปู ผลติ ภัณฑ์ ส่งเสรมิ การปลกู ข้าวอนิ ทรีย์ทีข่ ายไดร้ าคามากกวา่ เพทิ่มค่ีชรอื าสาวยตู“บไลรด้างดน้า่ รมนยาคี ำ�ๆยวมจาาา่ มใยชส้ ุข” “เกษนำ� ตศารสทตรฤ์พรษะรฎาชี ใาหม่” “อยอู่ ยแา่ นงวพคิดอเพียง” น�ำมาปฏิบตั ิใช้ นำ� มาปฏิบัตใิ ช้ เใ‘ดลนก็ ดบๆร้าานคยตจดิ วั ่าวเย่าอมงเีวไพดิธม่ิ บ้ีไรห้าานงยนทไะดี่จ?้’ะ 62
ส่งตอ่ รุ่นส่รู ุ่น ภมูมปิกี ญัารญตา้งั ต“า่ งกๆลมุ่ จลากกู ผลูใ้ หิง”ญ่ถขูกนึ้ สง่เพต่ืออ่ ใสห่เู ย้เดาวก็ ชๆนใเหนน็ชมุถงึชน ความส�ำคญั ของความสามัคคี รว่ มแรงรว่ มใจในชุมชน การอนรุ ักษ์ธรรมชาติและส�ำนึกรกั บ้านเกิด โดยกลมุ่ ลกู ลงิ จะมีสว่ นร่วมในกจิ กรรมต่างๆ ของชมุ ชนสม่�ำเสมอ เดก็ ๆ คดิ วา่ ตัวเอง จะชสว่ งั ยคเหมรลอือบชุมๆชนตหวั รือ ไดอ้ ย่างไรบ้างนะ? พิพธิ ภณั ฑธ์ รรมชาติจัดการนำ้� ชุมชน ตามแนวพระราชดำ� ริ บา้ นล่ิมทอง ชุมชนบา้ นล่ิมทอง อ.นางรอง จ.บุรรี ัมย์ ๐๘ ๙๘๔๖ ๕๖๖๐ 63การเดนิ ทาง
ย่�ำตาม รอยเทา้ สตั ว์น้อยใหญ่ ในปา่ อนรุ ักษ์ โครงการสวนสตั ว์เปิดปา่ ภเู ขียว (สวนสัตวธ์ รรมชาตภิ เู ขียว) จ.ชัยภมู ิ เมอ่ื นานมาแล้ว พระราชาและพระราชินีน่งั เฮลิคอปเตอรผ์ า่ นผืนป่าแห่งน้ี ไดเ้ หน็ ความอดุ มสมบรู ณ์ และสัตวป์ า่ ท่ีอาศัยอยู่เปน็ จำ� นวนมาก จึงได้ให้อนุรักษ์ปา่ และ พนั ธ์สุ ัตวป์ ่าเอาไว้ เพือ่ เปน็ แหลง่ เรียนร้แู ละพฒั นาเปน็ สวนสตั ว์เปิดปา่ ภูเขียว โดยสรา้ งความ เข้าใจกับชาวบา้ นรอบพนื้ ท่ี และพัฒนาชีวติ ความเปน็ อยู่ของชาวบ้านใหอ้ ยูด่ กี นิ ดี จะได้ ไม่บุกรกุ ท�ำลายป่าและล่าสัตว์ปา่ ปลูกจติ สำ� นึกให้หวงแหนป่าไมแ้ ละสตั วป์ า่ ไวใ้ ห้ลูกหลาน พระราชินีสานต่อความคิดของพระราชาในการปลกู ปา่ ในใจคนและการอนุรกั ษ์ธรรมชาติ ใหน้ �ำพันธุส์ ัตว์ปา่ จากพ้ืนทตี่ ่างๆ มาปลอ่ ยและเพาะพันธุข์ ยาย ชาวบ้านรอบพ้ืนท่ี น�ำเคร่อื งมอื ล่าสัตว์มามอบใหพ้ ระราชนิ ี พรอ้ มให้สญั ญาวา่ จะไม่ลา่ สตั วแ์ ละทำ� ลายป่า 64
ปา่ ภูเขียว สูงจากระดับน้ำ� ทะเล ๑,๐๐๐ เมตร 65 เปน็ ป่าท่ีอดุ มสมบรู ณ์ ๑ ใน ๕ ของไทย
แภเขเูผตขนียรผักว-ังษทาพงุ่ กันะธมสุ์ งั ัตว์ป่า บนพืน้ ท่รี าบสูงอนั กว้างใหญ่ สลับกับปา่ สนเขา ป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ และปา่ ดงดิบ ทุ่งหญ้า และลานหนิ ของสวนสัตว์เปดิ จะได้พบสตั ว์ อะไรบ้าง จดุ ชมวิว เขอื่ นจุฬาภรณ์ หนว่ กวาง เก้ง นกยงู เรือนพกั EU ช้างป่า จดุ กางเต็นท์ โป่งสตั ว,์ ผเี ส้ือ จุดส่องสตั ว์ บงึ กระทอ่ มเป็ดแดง กระซ ู่ พน้ื ที่สำ�นกั งาน จดุ กางเต็นท์ จุดสอ่ งสัตว์ ...รู้หรือไม.่ ..? ...วา่ สตั วป์ ่า บชานงแชดิ ลนไ้วหดิ ทนถ�ำใึงไกสมลูญสส้ ตัพูญวันพป์ ธันา่ ์ุลธ่ะ์ุ? 66 หมปู า่
นกเงือกสีน�้ำตาล นกกระเต็น นกหัวขวาน ชะนี อ.คอนสาร อ.ชุมแพ ภเขูเตขียอนว-รุ ทักุ่งษก์พะันมธังุ์สทัตงุ่ วหป์ญา่า้ กวา้ งใหญ่ เป็นแหล่งอาหารที่สำ� คัญของสตั วก์ ินพชื บ.ท่งุ ลยุ ลาย มกี ารจดั ทำ� ดนิ โป่งในบรเิ วณทุ่งกะมัง ทล.๒๐๕๕ เพอ่ื ใหส้ ตั ว์มากนิ ดินโปง่ และเผาแปลง ทงุ่ หญ้า เพ่อื ให้เกิดหญ้าระบัดเป็นอาหาร วยฯ บางม่วง อ.ภูเขียว ของเกง้ กวาง ในชว่ งฤดแู ล้ง หน่วยฯ ศาลาพรม ทล.๒๐๑ หญา้ ระบัด หมายถึง หญ้าแบบไหนกัน? เสอื ดาว เสอื โครง่ จ.ชัยภูมิ ถงึ ชทอกำ�บันไกมนนิ สะดตั?ินวโ์ ป่ง ลานเฮลิคอปเตอร์ ท่งุ กะมงั จดุ ส่องสัตว์ กระทิง เรอื นทีป่ ระทบั หมีควาย อทุ ยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธ์สุ ัตว์ป่า 67
สถสาถนปาเี พนา่ าภนี ะเู่าขเแลียวย้ี วะง…ส.ตั ว์ สถานที่เพาะเล้ียงสตั ว์ปา่ สรา้ งแหลง่ อาหารและแหล่งน้ำ� ให้สตั ว์ป่า สร้างรม่ เงาให้สตั ว์ป่าอาศยั เพาะเลี้ยงและขยายพันธสุ์ ตั ว์ปา่ ท่ีน่ี...มเี จ้าหน้าทค่ี อยใหค้ วามร้เู ร่ืองปา่ ภูเขยี วและสัตวป์ า่ ดว้ ยนะ ทำ� ทุ่นเทยี ม ท�ำบอ่ ปลัก ทำ� แอ่งน�ำ้ เทียม มบีไ่อว้ทป�ำลไกั ม นกน�้ำ สำ� หรบั สตั ว์ปา่ สำ� หรับสตั วข์ นาดเล็ก กันนะ พๆี่ เจา้ หน้าท่มี งุ่ มั่นพทิ กั ษ์ รกั ษาปา่ และสตั ว์ป่า ไม่ให้ คนเข้าไปบุกรุกทำ� ลาย สามารถไปทอ่ งเทยี่ วได้ทัง้ แบบเช้าไปเย็นกลับ โดยเสียค่าตวั๋ ผา่ นดา่ น และแบบพักค้างแรม หากต้องการพักค้างแรมตอ้ งทำ� หนังสอื ขออนุญาต ลว่ งหน้า ๑๕-๓๐ วนั สอบถามข้อมลู ไดท้ ี่ : ส�ำนกั อนุรักษส์ ัตวป์ ่า กรมอุทยานแหง่ ชาตสิ ัตว์ปา่ และพันธพุ์ ชื โทร. ๐ ๒๕๖๑ ๔๒๙๑-๓ ตอ่ ๗๑๑ เปิดใหเ้ ข้าชมเวลา ๐๘.๐๐-๑๕.๐๐ น. และปิดใหเ้ ขา้ ชม ๓ เดอื น (ก.ค.-ก.ย.) 68
ประโยชน์ ..Good.. สวนสัตวทธ์่ีเกรดิ รจมากชาติแห่งน้ี รกั ษาพนั ธ์ุ รกั ษา เป็นแหล่งเรยี นรู้ สตั วป์ ่า ป่าไม้ ทางธรรมชาติ ปลกู จิตส�ำนกึ ใหแ้ ก่นกั เรยี น นกั ศกึ ษา ใหช้ าวบา้ น ประชาชน เปน็ แหลง่ ค้นควา้ วิจัย และเยาวชน ของไทยและตา่ งประเทศ รกั และหวงแหนป่า เกีย่ วกับทรัพยากรป่าไม้ สัตวป์ า่ และสัตว์ปา่ เปน็ แหลง่ เพาะพนั ธ์สุ ัตวป์ ่า รักษา ไม่ใหส้ ญู พันธุ์ ตน้ น้ำ� ล�ำธาร อย่างล�ำน้�ำพรม โครงการสวนสัตวเ์ ปิดปา่ ภเู ขียว (สวนสตั วธ์ รรมชาติภเู ขียว) อันเน่ืองมาจากพระราชดำ� ริ สำ� นกั งานเขตรกั ษาพนั ธสุ์ ัตว์ปา่ ภูเขียว ทงุ่ กะมงั จ.ชยั ภูมิ www.rdpb.go.th ทงุ่ กะมัง เขตรกั ษาพันธสุ์ ัตว์ปา่ ภูเขียว 69การเดนิ ทาง
หนงั สอื เดินทางตามรอยพระราชา “The King’s Journey” Learning Passport สร้างสรรคโ์ ดย ส�ำนกั งานสง่ เสริมสงั คมแห่งการเรยี นรแู้ ละพฒั นาคุณภาพเยาวชน (สสค.) ๓๘๘ อาคารเอส.พี. (อาคารเอ) ชนั้ ๑๓ ถนนพหลโยธนิ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ ๑๐๔๐๐ โทรศพั ท์๐ ๒๖๑๙ ๑๘๑๑ เวบ็ ไซต์ www.qlf.or.th วเิ คราะห์เน้อื หา นายเฉลิมพร พงศธ์ รี ะวรรณ ครูรางวัลสมเดจ็ เจา้ ฟา้ มหาจักรี ประจ�ำปี ๒๕๕๘ ผศ.ดร.ธนั ยวิช วเิ ชียรพันธ์ หัวหนา้ โครงการวิจัยพฒั นาเครื่องมือส่งเสรมิ และประเมนิ ทกั ษะความคดิ สรา้ งสรรค์และการคดิ วเิ คราะห์ ผลติ งานโดย บรษิ ทั รกั ลูกกรุป๊ จำ� กัด กล่มุ บริษทั อารแ์ อลจี (รักลูก เลิรน์ นง่ิ กร๊ปุ ) พมิ พ์ครง้ั ท่ี ๑ ธนั วาคม ๒๕๖๐ จำ� นวนพ มิ พ์ ๑๐,๐๐๐ เล่ม
จัดพมิ พโดย สรา งสรรคโดย สนบั สนนุ โดย ๔ มูลนธิ ิชัยพฒั นา
Search