Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เก็บสุข กลางทุกข์

เก็บสุข กลางทุกข์

Published by jariya5828.jp, 2022-08-25 02:54:09

Description: เก็บสุข กลางทุกข์

Search

Read the Text Version

ขมุ ทรพั ย์หน้างาน เรอ่ื งเลา่ จากใจ คนรกั palliative care ศรนี ครนิ ทร์ ศนู ยก์ ารณุ รกั ษ์ โรงพยาบาลศรนี ครินทร์ สธุ ีรา พิมพร์ ส http://www.gotoknow.org/posts/555613 เม่ือกล่าวถึงงานการดูแลผู้ป่วยระยะท้ายหลายคนมองว่าเป็นงานที่อยู่กับความทุกข์ ความเศร้า ความสลด หดหู่ “จะดีหรือมาท�ำ งานน้ี ท�ำ ไดอ้ ย่างไร ไม่เอาหรอก กลวั รอ้ งไหต้ ามคนไข้” “ใครทท่ี �ำ ได้ ต้องยอมรับ ขอชื่นชม” หรือบุคลากรทางการแพทย์หลายท่านบอกว่า อยากทำ�แต่ไม่รู้จะควบคุมความ รู้สึกและอารมณ์ไม่ให้หวั่นไหวไปกับผู้ป่วยและครอบครัวได้หรือไม่ ไม่มีองค์ความรู้ ไม่รู้จะทำ�อะไรบ้าง เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ป่วยระยะท้าย การส่ือสารกับคนท่ีมีเวลาเหลืออยู่บนโลกใบนี้เพียงไม่ก่ีวัน ไม่ก่ีเดือน จะพูดกับเขาอย่างไร เร่ิมต้นตรงไหน หลายเหตุผลที่เป็นเสมือนกำ�แพงขวางกั้นให้คนท่ีอยากมาทำ�งาน ด้าน palliative care ต้องหยดุ คิดและสะดุดลง ความรูส้ กึ กลวั กลัวความเศร้า กลัวตอ้ งเผชญิ กบั ความทกุ ข์ทรมานหรอื การตายของผ้ปู ่วยท่กี ำ�ลัง จะมาถึง แลว้ ไม่สามารถรบั ได้ ไม่สามารถใหก้ ารช่วยเหลอื ได้ กลัวจะตอ้ งหวั่นไหวไปกบั ความทุกขน์ น้ั และ สง่ ผลให้ตวั เองเกิดความหดหู่ พระไพศาล วสิ าโล ท่านเคยสอนไวว้ ่า “ความตายไม่ใชเ่ หตุแห่งทุกข์ ทศั นคติ ท่าทขี องเราตอ่ ความตายตา่ งหากท่เี ป็นตัวการส�ำ คญั ตาย ไมน่ ่ากลวั เท่าการกลัวตาย ตายไมส่ ร้างทุกข์ ตายไม่ใชว่ ิกฤติแต่เปน็ โอกาสด้านจิตใจ น�ำ พาผู้คนสู่ความ สุขสงบโดยการยกระดับทางจิตใจ จิตวิญญาณ เพราะฉะนั้นเราต้องทำ�เสมือนว่า ให้ระลึกถึงความตาย เปน็ เร่อื งปกติ ดังค�ำ พระพทุ ธเจา้ สอน” อย่างไรก็ตามก็ยงั มีแพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ส่วนหนง่ึ ใหค้ วามสนใจกบั งานดา้ น การดูแลผ้ปู ่วยที่อยู่ในระยะใกล้ตาย หนว่ ยการณุ รกั ษ์ โรงพยาบาลศรนี ครนิ ทร์ กอ่ ตงั้ ขน้ึ เมอื่ ปี 2553 โดยรองศาสตราจารย์ แพทยห์ ญงิ ศรเี วียง ไพโรจนก์ ลุ ได้รบั การสนับสนุนจากผู้บริหารทกุ ฝา่ ยในคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแกน่ และงบประมาณการก่อต้ังส่วนหนึ่งจากสำ�นักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เราเร่ิมต้น นับหนึง่ จากแพทย์ประจ�ำ หน่วย 1 คน และพยาบาล 2 คน จากเลก็ ๆ คอ่ ยๆ เตบิ โต ภารกิจตา่ งๆ ใน เก็บสุข กลางทกุ ข์ วธิ คี ดิ และแนวทางเปลย่ี นทุกข์... เปน็ สุข 45

การปฏิบัติการให้การดูแลเยียวยาผู้ป่วยระยะท้ายให้มีโอกาสได้ตายดี โดยให้ช่วยเหลือจัดการอาการ ไม่สุขสบายด้านร่างกาย บรรเทาความปวดและอาการอื่นๆ ส่ือสารกับผู้ป่วยและครอบครัวให้ได้มีส่วน ร่วมในการวางแผนดูแลในระยะท้าย ประสานเครือข่ายดูแลต่อเนื่องใกล้บ้านเม่ือผู้ป่วยต้องการกลับไป เสยี ชีวิตท่ีบ้าน สิ่งเหลา่ นี้ เปรยี บเหมอื นตน้ ไมท้ ่ีแตกก่งิ ก้านสาขาและคอ่ ยๆ เติบโตและแข็งแรง และการท่ีตน้ ไม้ จะเตบิ โตแขง็ แรงไดส้ ง่ิ ส�ำ คญั คอื ตน้ ไมต้ น้ นนั้ จะตอ้ งฝงั รากลงลกึ ดแู ลตวั ของมนั เองไดด้ ว้ ยเพราะมเิ ชน่ นนั้ ต้นไม้อาจล้มลงได้ หากเปรียบหน่วยการุณรักษ์ก็คงเปรียบเสมือนต้นไม้ต้นหนึ่งท่ีเป็นจุดเร่ิมต้นของการ ขยายเมล็ดพันธุ์ไม้ คนทำ�งานในหน่วยการณุ รักษก์ ็คงเปรียบเหมอื นก่ิงกา้ นสาขา กิง่ กา้ นจะงดงามเขยี ว ชอมุ่ กอ็ ยทู่ กี่ ารดแู ลใสป่ ยุ๋ รดน�้ำ พรวนดนิ แตส่ �ำ คญั ไปกวา่ นน้ั คอื การทเ่ี รามเี มลด็ พนั ธท์ุ ดี่ แี ละสมบรู ณก์ อ่ น ทกุ ชวี ติ ทผ่ี า่ นเขา้ มาใหท้ มี ไดด้ แู ลคอื บทเรยี นรทู้ มี่ คี ณุ คา่ สงิ่ ส�ำ คญั คอื เราไดเ้ รยี นรคู้ วามเปน็ ตวั เรา มองเห็นสมรรถนะของตัวเราคนหนา้ งาน ความเป็นตวั ตนของคน palliative care ถ้าเปรียบก็คือเมล็ด พันธุ์ palliative care ทีด่ นี ้นั ควรจะมคี ุณสมบตั อิ ย่างไร 1. ความม่ันคง หนักแน่น (sustaining oneself) ถ้าเปรียบส่วนของต้นไม้สมรรถนะน้ีคือส่วน ของราก รากที่ทำ�ใหต้ ้นไม้ม่ันคงจะต้องเป็นรากที่แข็งแรงด้วย ซึ่งหมายถึงรากฝอยท่ีดีนั่นเองมารวมกัน นัน่ หมายถึงผู้ทีท่ �ำ งานด้าน palliative care จะตอ้ งมีตวั ตนท่แี ขง็ แรงมัน่ คง และยัง่ ยนื กบั สิ่งท่ีเป็นดงั นี้ 1.1 เปน็ ผู้ใหแ้ ละผู้รับ 1.2 จรงิ ใจ 1.3 เสียใจเปน็ 1.4 รู้จกั ผ่อนคลาย 1.5 เตมิ เต็ม เติมพลงั ใหพ้ รอ้ มอยู่เสมอ การเปน็ คนท�ำ งาน palliative care เราต้องท�ำ ดว้ ยความเตม็ ใจ สมัครใจ และเป็นงานทเี่ รา อยากท�ำ ให้คดิ ว่าเราสวยจากภายใน เปน็ คนที่สวยทั้งภายนอกและภายใน งานทำ�ให้เรารู้สึกว่าตัวเองมี คุณค่า ไดส้ รา้ งบญุ สร้างกุศล ส�ำ คญั เพราะผูป้ ว่ ยระยะท้ายผู้ป่วยจะอ่อนไหวตอ่ ปฏกิ ริ ิยาของเรา รับรู้ได้ วา่ เราจริงใจกับเขาหรอื ไม่ เต็มใจที่จะช่วยเขาหรอื ไม่ ทสี่ �ำ คัญอกี อย่าง คนท�ำ งานด้าน palliative care ต้องมีพ้ืนที่ปลอดภัยให้มีโอกาสได้ระบายความรู้สึกถ้าหากรู้สึกเศร้าไปตามผู้ป่วยกลับไปถึงที่ทำ�งานแล้ว อยากรอ้ งไห้ ก็ร้องได้ จะต้องมแี หลง่ สนับสนนุ ทด่ี ี เหมอื นมีเสบยี งสะสม หรอื บางคนไมอ่ ยากร้องไหแ้ ตม่ ี วธิ กี าระบายออกในรปู แบบอนื่ ขน้ึ อยกู่ บั แตล่ ะบคุ คลเพราะทกุ คนตา่ งมเี ปา้ หมายและความคดิ การวางแผน ชีวิตที่แตกตา่ ง 46 โครงการจัดการความรู้ สขุ ภาวะระยะทา้ ย เล่ม 2

2. พร้อมที่จะเผชิญตอ่ ความกลัว คนทำ�งานด้าน palliative care ตอ้ งเผชิญหนา้ ตอ่ ความกลัว ตายของผู้ป่วย ของญาติ และเมอ่ื หันกลับมามองดตู วั เอง ท�ำ ใหเ้ กิดกลวั ความทกุ ข์ทรมาน มองเห็นความ ทุกข์ ความกลัวของตัวเอง ถามตัวเองวา่ ถา้ เป็นเรา เราจะเป็นอยา่ งไร ในขณะที่ช่วยผปู้ ว่ ยท่มี ีความกลวั ใหห้ ายจากความกลวั ตัวเองกย็ ่งิ จะกลวั เพราะฉะนน้ั เราจะต้องดแู ลตวั เองเพ่อื ไม่ใหเ้ กดิ ความกลวั 3. ความสามารถในการส่อื สารและการสร้างสมั พันธภาพกับผปู้ ว่ ยและครอบครัว พฒั นาความไว้ วางใจให้ผูป้ ่วยมีความเช่ือมั่น ให้เวลาและเป็นผ้ฟู ังทด่ี ี อยู่ตรงนน้ั เปน็ เพอ่ื น 4. ดูแลจัดการความไม่สขุ สบายทางดา้ นร่างกายจิตใจและจติ วญิ ญาณ 5. เปน็ ผู้ใหก้ ารสนบั สนนุ เราจะตอ้ งเชอื่ มนั่ วา่ ผปู้ ว่ ยเขาเลอื กทจ่ี ะตายตามทต่ี อ้ งการ ทมี มบี ทบาท เปน็ ผู้ใหก้ ารสนับสนุน เช่นเมื่อดูแล้วว่าการรักษาไมเ่ ป็นผล เราต้องคุยกับผู้ป่วยและครอบครัวตามความ เปน็ จริง คุยถึงทางเลือก 6. พูดความจริง คนสว่ นใหญอ่ ยากร้คู วามจรงิ ว่าตวั เองอยู่ในระยะสดุ ท้าย คนท�ำ งาน palliative care ควรจะพดู ความจริงเกีย่ วกบั ระยะสดุ ท้ายของผู้ป่วย 7. สามารถให้การช่วยเหลือดูแลครอบครัว ประเมินความสามารถ พัฒนาศักยภาพของผู้ดูแล สนับสนุนให้เกิดการเสริมพลังความสามารถ เปิดโอกาสให้ครอบครัวผู้ดูแลได้พักผ่อนหรือมองหาแหล่ง ชว่ ยเหลอื ถ้าครอบครวั มีภาระทยี่ ากลำ�บาก 8. สามารถให้การดแู ลในมิติจิตวิญญาณ คณุ คา่ ความหมายชวี ติ ความเชือ่ มองหา unresolved issue ผปู้ ่วยอยากบอกอะไร อยากส่งั เสยี อะไร เราสามารถช่วยเตมิ เตม็ ใหม้ คี วามสมบูรณเ์ ทา่ ที่จะท�ำ ได้ 9. เปน็ ผทู้ ม่ี จี ติ ใจหนกั แนน่ ยอมรบั คำ�ตเิ ตยี น ค�ำ ชน่ื ชม เพราะงาน palliative care ในประเทศไทย ยังเป็นที่รู้จักน้อย บางครั้งการเข้าหาผู้ป่วยอาจจะถูกมองว่า มาทำ�อะไร ฉันยังไม่ตาย ฉันยังไม่พร้อม ท่ีจะให้ทีมน้ีเข้ามาดูแล บางครั้งเราถูกปฏิเสธ เห็นทีมน้ีมาแล้วไม่ค่อยสบายใจ ทีมนี้เป็นสัญลักษณ์ของ ความตาย ไมต่ อ้ งการให้ทีมน้ีเข้ามาดูแล 10. เป็นผทู้ มี่ บี ุคลิกภาพ m Emotional Stability: เปน็ ความสามารถของบคุ คลในการรองรบั แรงกดดนั ควบคมุ อารมณ์ บุคลิกที่สำ�คัญ คือ สุขุม สงบ เพราะผู้ป่วยระยะท้ายและครอบครัวมักจะมีปฏิกิริยาต่อ การสูญเสียที่รุนแรง ในบางครั้ง มีความต้องการการประคับประคอง ต้องการการได้รับ การตอบสนองอยา่ งรวดเรว็ บางครงั้ แสดงอารมณ์ไมพ่ งึ ประสงค์ เชน่ โกรธ พดู จาไมส่ ภุ าพ ไมย่ อมรบั ฟังในสงิ่ ที่เราใหค้ ำ�แนะนำ� เกบ็ สขุ กลางทุกข์ วธิ ีคิดและแนวทางเปลี่ยนทุกข.์ .. เป็นสขุ 47

m Agreeableness: มคี วามผอ่ นปรนกบั ผู้อนื่ มคี วามสามารถในการประสานงานท่ดี ี เช่อื ใจ ได้ มีความยดื หยุน่ สงู รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผ้อู ืน่ m Empathy: มีความเห็นอกเหน็ ใจเขา้ ถงึ จิตใจผปู้ ่วยและครอบครัว 48 โครงการจดั การความรู้ สขุ ภาวะระยะท้าย เล่ม 2

สง่ นางฟ้ากลบั สวรรค์ สธุ ีรา พิมพ์รส http://www.gotoknow.org/posts/452721 กลบั จากบรรยายที่โรงพยาบาลมหาสารคาม ฉนั กบั อาจารยห์ มอศรเี วยี งมนี ดั กนั วา่ เราจะไปดคู นไข้ ที่อยู่ในความดูแลของหน่วย และเรม่ิ รบั ไว้ในโปรแกรมต้ังแตต่ น้ เดือนพฤษภาคม ซงึ่ อาการตอนน้ีนา่ เป็น หว่ งกวา่ คนอน่ื ๆ ในโปรแกรม ฉันกำ�ลังพูดถึงบุ๋ม บุ๋มเป็นหญิงสาวหน้าตาสะสวย วันแรกท่ีได้รับการปรึกษาให้ทีมมาร่วมดูแล ฉนั เองไดร้ บั ทราบเรอ่ื งราวอาการเจบ็ ปว่ ยดว้ ยโรคมะเรง็ เตา้ นมของบมุ๋ นบั ตงั้ แตป่ ี 2552 จนกระท่งั ครงั้ นี้ ท่ีตอ้ งมานอนโรงพยาบาล ท้ังท่ียงั แต่งงานได้ไม่ถึงสปั ดาห์ ท�ำ ใหฉ้ ันรสู้ กึ สะเทือนใจไม่น้อย ระหว่างนัง่ รถไปมหาสารคาม อาจารยเ์ อ่ยกับฉันวา่ “บมุ๋ แยแ่ ลว้ กุง้ ตอนน้อี าการไมด่ เี ลย หมอคดิ ว่าเขาคงมเี วลาอกี ไม่ก่ีวนั หมอคุยกบั แม่ แมต่ อ้ งการให้หมอบอกความจรงิ กบั บุม๋ หมอกพ็ ยายามพูดกบั เขา เขาถามหมอวา่ บุ๋มมเี วลาอกี นานแคไ่ หน หมอตอบเขาไปวา่ อยูท่ รี่ ่างกายของบุ๋มจะต่อสู้ไปได้ แต่ เม่ือถงึ วันนั้นจริงๆ หมอจะชว่ ยหนูเตม็ ที่ไม่ใหเ้ จ็บปวด ไม่ใหท้ รมาน หมอสัญญา” นค่ี อื ค�ำ บอกเลา่ ถงึ อาการลา่ สดุ ของบมุ๋ จากอาจารยห์ มอศรเี วยี ง ไดฟ้ งั ดงั นน้ั ฉนั จงึ บอกกบั อาจารย์ ว่า “เย็นน้ีกลับจากบรรยายท่มี หาสารคาม กุ้งจะแวะไปดูบุ๋ม” อาจารยเ์ ลยบอกกับฉนั วา่ “บ๋มุ เขาถามหาก้งุ ดว้ ย งน้ั เย็นนี้เราไปดูบุ๋มพรอ้ มกนั ” หกโมงตรง ทันทีที่ล้อรถหยุดหมุนมาจอดท่ีหน้าอาคารสว. เราสองคนต่างไม่รอช้าตรงดิ่งไปท่ีช้ัน 15 ทันท ี ภาพทเ่ี หน็ ก็คอื บ๋มุ เร่มิ หายใจลำ�บาก ภาพหญงิ สาวหนา้ ตาสวยผวิ พรรณผ่องใส วันนยี้ ังมเี ค้าให้ เหน็ แต่ส่ิงหนงึ่ ท่ีเปล่ยี นไปคือ บมุ๋ ไมร่ ูส้ ึกตัวแล้ว ทันทที เี่ ห็นฉนั เดนิ เข้าไปกับอาจารย์ นนท์..สามขี องบมุ๋ ที่ พึง่ แต่งงานกันยงั ไม่ถึง 3 เดอื นลุกจากทน่ี ั่งขา้ งเตยี งเปล่ียนใหฉ้ ันเขา้ ไปนง่ั แทน พรอ้ มกบั เอย่ วา่ “พ่กี ุ้ง ช่วยสอนฝึกสมาธิ ฝึกลมหายใจเลยครับ พวกผมสวดมนตห์ ลายรอบแลว้ ” แม่บุ๋มอยู่ในอาการเศร้าโศกกับการท่ีก�ำ ลังจะสูญเสียลูกสาวท่ีรักยิ่ง โผเข้ากอดอาจารย์พร้อมกับ ปล่อยโฮ ฉนั เขา้ ไปนัง่ แทนทนี่ นท์ พร้อมกบั บอกบุม๋ ว่า เกบ็ สขุ กลางทกุ ข์ วธิ ีคิดและแนวทางเปลี่ยนทกุ ข.์ .. เป็นสขุ 49

“พก่ี งุ้ มาแลว้ ตงั้ สตใิ หม้ น่ั ใหน้ กึ ถงึ พระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ์ไว้ มอื ขา้ งซา้ ยลบู ทศ่ี รี ษะเธอเบาๆ ใหน้ กึ ถงึ วนั ทเ่ี ราไปถวายพระพทุ ธรปู ดว้ ยกนั คณุ นนทก์ ็ไปดว้ ย และยงั ไดอ้ ทุ ศิ สว่ นกศุ ลใหล้ กู ดว้ ย ใหน้ กึ ถงึ สิ่งดดี ที ที่ �ำ มารว่ มกนั กับพ่อ แม่ น้อง ใหเ้ กาะเก่ยี วเอาสง่ิ เหล่าน้ี ไปดว้ ย และไม่ตอ้ งห่วงอะไร” ขณะน้ันใจฉันก็คิดถึงพระท่ีจะมาช่วยส่งบุ๋ม ไม่รอช้าฉันรีบหยิบโทรศัพท์เพ่ือโทรหาพระอาจารย์ ซ่ึงตอนนี้ท่านมานอนรักษาที่หอผู้ป่วยสงฆ์อาพาธ และท่านก็เคยช่วยเมตตาคนไข้ระยะสุดท้ายท่ีฉันและ ทีมดูแลมาหลายคนแลว้ “กราบนมัสการเจ้าคะ่ กุ้งมคี นไข้ทอ่ี ยู่ในความดูแล ใกล้จะเสยี ชวี ติ แล้ว จะขอ นมิ นต์พระอาจารย์มาชว่ ยโปรดเจ้าค่ะ คนไข้อยู่ท่ีตกึ สว .15 เจา้ ค่ะ” ทันทที ่พี ดู จบพระอาจารยบ์ อกวา่ “อาตมาจะไปเดี๋ยวนเ้ี ลย” ไม่ถงึ 10 นาทพี ระอาจารย์ก็มาถึง ประโยคแรกทที่ ่านถามขึน้ มาคือ “คนไข้ชอ่ื อะไร” ฉนั รีบตอบ “ชื่อบมุ๋ เจ้าค่ะ” “อา้ วโยมบุม๋ ใหก้ ำ�หนดสตินะ อยา่ ยึดม่นั ถอื ม่ัน รา่ งกายนี้มนั ไม่ใช่ของเรา ให้จับทีอ่ ารมณ์ท่ดี ี ไม่ เกาะกับอารมณ์ รกั โลภ โกรธ หลง ให้นกึ ถึงพระพทุ ธรปู ” สกั พกั ทา่ นถามขนึ้ ทา่ มกลางผคู้ นทรี่ ายลอ้ มตวั บมุ๋ ซง่ึ ลว้ นแลว้ แตเ่ ปน็ คนทรี่ กั บมุ๋ และบมุ๋ รกั “โยมบมุ๋ เขายงั ห่วงอะไรหรือเปลา่ ” “เม่ือแรกท่ีมารับการรกั ษาทเี่ ราหมอตรวจพบวา่ โรคลุกลามไปทป่ี อด และตรวจพบว่าบ๋มุ ต้ังครรภ์ จึงจำ�เป็นต้องทำ�แท้งออกเพื่อการรักษาที่ปลอดภัยสำ�หรับบุ๋ม บุ๋มเขาจึงรู้สึกผิดกลัวบาป กลัวลูกโกรธ เจ้าคะ่ ” ฉนั ตอบแทนทุกคน “ว่าแล้ว อาตมาว่าต้องมีอะไรแน่ๆ เดินเข้ามารู้สึกว่ามันไม่โล่ง แล้วจิตก็สัมผัสได้ว่ามีเด็กวิ่งวน เวียน แสดงว่าเขาห่วงลูกเขา เขาจึงยงั ไปไมไ่ ด้ อา้ วไป ไปเตรยี มผา้ ขาว ฝ้ายขาวมา สงั ฆทาน ผา้ สบง ด้วยนะ” ทา่ นหนั ไปบอกลกู ศษิ ย์ เม่ือได้สิ่งต่างๆ ครบแล้ว พิธีสวดบังสุกุลตายเป็นภาษาบาลีให้ลูกของบุ๋มก็เริ่มข้ึน จากน้ันสวด บังสกุ ลุ เปน็ ให้บมุ๋ “ถา้ รอดกร็ อดดว้ ยปาฏิหาริย์นะ แตถ่ ้าไมไ่ หวกค็ งไปตามสงั ขาร” สวดเสร็จทา่ นไดห้ ัน มาที่ทุกคนท่ีน่ังรายล้อมบุ๋มอยู่ ซึ่งมีท้ังแม่ พ่อ น้องสาว น้องเขย หลาน สามี และพ่ีพยาบาล หมอ “การเกิดมาเป็นคนนั้นมันทุกข์ ถ้าเปรียบถ้วยชามก็คือ เราไปซ้ือถ้วยมา คือการเกิดละ ใช้ถ้วยใบน้ัน กค็ อื การตั้งอยู่ ถว้ ยแตกกค็ ือการดับไป นีแ่ หละคอื เหตแุ หง่ ทุกข์ ไม่เหน็ มันจะสุขตรงไหนเลย เกดิ เปน็ คน คนพูดอยู่ (ทา่ นหมายถึงตัวทา่ น) ก็ยังจะแตกดบั เหมอื นกัน” 50 โครงการจดั การความรู้ สุขภาวะระยะท้าย เล่ม 2

เสรจ็ พิธีท่านก็ให้พร กรวดน�้ำ อุทิศสว่ นกุศลให้กบั เจ้ากรรมนายเวร และท่านจงึ ขอตวั กลับ ฉันกบั อาจารยห์ มอศรเี วยี งอยู่เปน็ เพือ่ นครอบครัวสักพัก และกล่าวลาบมุ๋ เปน็ คร้งั สุดทา้ ย เพราะเทา่ ทีด่ อู าการ บ๋มุ แลว้ อาจารย์บอกวา่ อาจจะไม่สามารถผ่านคืนนี้ไปได ้ แล้วเราจึงขอตัวกลับ ก่อนกลบั แม่บุ๋มขอบคณุ ทุกคนและขอบคุณที่มีหน่วยการดูแลแบบประคับประคอง “ช่วยเราได้เยอะ ขอเป็นก�ำ ลังใจให้ขยายผล ตอ่ ไป” ส่ที ุ่มกวา่ ๆ เสียงโทรศพั ท์ดังข้ึน กรง๊ิ ๆๆ ฉนั เดาไมผ่ ดิ ว่าต้องเป็นแมบ่ มุ๋ “คณุ กุง้ น้องบ๋มุ เสียแลว้ นะ คะ ไปแบบสงบ เหมือนหลบั ไปเลย เขารอแมพ่ น่ี นท์ แมพ่ นี่ นท์มาไม่ถงึ สบิ นาที บุ๋มก็ไป” แม่บมุ๋ บอกขา่ ว การจากไปของบมุ๋ ดว้ ยน�ำ้ เสยี งส่ันเครอื “กงุ้ เสียใจด้วยนะคะแม่ เราท�ำ เต็มทแี่ ล้ว ทุกคนทำ�ดีทีส่ ดุ แลว้ แต่โรคมนั สดุ วสิ ยั จรงิ ๆ กงุ้ ขอเป็น ก�ำ ลังใจให้นะคะ” “ขอบคุณอาจารยศ์ รีเวยี ง ขอบคณุ คุณกุ้ง และพีๆ่ พยาบาลท่ตี ึก สว. 15 ทกุ คน” จบจากคยุ กบั แม่บุ๋ม ฉันก็ผล็อยหลับไปด้วยอาการง่วงจัด แต่ก่อนหน้าน้ีตามันไม่ยอมปิด เหมือนกับจะรอฟังข่าว ดว้ ยความกงั วลใจ เชา้ วนั ตอ่ มาฉนั มาท�ำ งานตามปกติ หลงั ประชมุ กบั อาจารยแ์ ลว้ ฉนั ขอตวั ไปดคู นไขท้ อ่ี ยู่ในโปรแกรม อีก 3-4 คน แต่ใจยงั คิดห่วงครอบครัวบุ๋มเลยโทรหาแม่ ทนั ทีทท่ี ราบว่าทางครอบครวั ยงั ไม่ไดร้ ับบมุ๋ กลบั บา้ น ตอนนอี้ ยทู่ ี่ห้องพิธีกรรม จงึ บอกแม่วา่ “เดย๋ี วกงุ้ จะไปสง่ ” ขณะทเี่ ดนิ ไปใกลจ้ ะถงึ หอ้ งพธิ กี รรม เสยี งโทรศพั ทก์ ด็ งั ขน้ึ ตน้ สายคอื พระอาจารย์ “คณุ กงุ้ คณุ บมุ๋ เป็นยังไงบ้าง” “บุ๋มเสยี เลว้ เจ้าค่ะ ต้งั แตเ่ มอ่ื คนื กุ้งกำ�ลังจะไปส่งท่หี อ้ งพธิ ีกรรม” “ถ้างั้นอาตมาจะไปสง่ ดว้ ย ถอื ว่าไปเมตตาเปน็ คร้ังสุดทา้ ย” ฉันดีใจมากที่ท่านจะมาเมตตาบุ๋มอีกคร้ัง ท่านเคยบอกกับพวกเราซ่ึงเป็นลูกศิษย์เสมอว่าท่าน บวชเป็นพระ บวชเพ่อื ที่จะมาให้ ไมไ่ ด้บวชที่จะมาเอา ทา่ นบวชมาเมตตาโดยแท้ เก็บสขุ กลางทกุ ข์ วิธีคดิ และแนวทางเปล่ยี นทกุ ข์... เป็นสุข 51

ประมาณ 20 นาที พระอาจารย์ก็เดินมาถึงท่ีห้องพิธีกรรม ฉันเข้าไปขออนุญาตเจ้าหน้าท่ีห้อง พิธีกรรมเพ่ือขอทำ�พิธีส่งดวงวิญญาณบุ๋ม เจ้าหน้าท่ีเขาเอื้อเราอย่างมาก ฉันเองรู้สึกขอบคุณ โดยเข็น ร่างอันไร้วิญญาณของบุ๋มเพื่อนำ�มาให้พระอาจารย์ทำ�พิธี “อ้าว! เมื่อวานสวดบังสุกุลตายให้ลูกแล้ว วันน้ที �ำ ให้แม่นะ” ท่านเอย่ กบั ทุกคน หลังเสร็จพิธี ท่านบอกให้นนท์ผู้เป็นสามีบวชและบวชให้ครบ 3 เดือนด้วย แล้วอุทิศส่วนกุศล ให้กับบุ๋มและลูก การบวชเป็นบุญท่ีมีอานิสงค์ยิ่งใหญ่ เป็นบุญหนัก ถ้าเขายังมีห่วง เขาจะได้ปลดห่วง ฉันเห็นด้วยกับท่ีพระอาจารย์แนะนำ� นนท์รับปากว่าจะทำ�ในสิ่งท่ีท่านแนะนำ� แต่ขอเวลาจัดการงานที่ บรษิ ัทของตัวเองกอ่ น เสร็จภารกจิ เช้านีฉ้ นั ร้สู ึกถึงความสุขใจ อมิ่ บญุ ที่ไดส้ ่งคนไขอ้ ีกคนในความดแู ลจนถงึ วาระสดุ ท้าย นับเป็นกุศลและเป็นมงคลของชีวิต แต่ฉันก็ได้แต่ถามตัวเองว่า จะมีอีกสักกี่คนนะที่จะจากไปอย่างสงบ อยา่ งบมุ๋ หรือในทางพทุ ธเราเรียกว่า ‘ตายด’ี หลับให้สบายนะ บมุ๋ ดวงตะวันนนั้ ลาลบั ขอบฟา้ ยังสญั ญาพรุ่งน้จี ะมาใหม่ แตด่ วงจิตดวงน้อยคลอ้ ยลบั ไป เหลือเพียงรอยอาลัยให้จาบัลย์ ฟ้าวนั นเ้ี ปิดทางสว่างแลว้ รับดวงแกว้ กลับสูส่ รวงสวรรค์ รับนางฟา้ วชิ ดุ ากลบั บา้ นพลัน สู่วมิ านหลงั เก่าเจา้ เคยครอง ขอตง้ั มัน่ น้อมจติ อธษิ ฐาน เทพยดาทกุ วิมานทว่ั ทัง้ ผอง โปรดจงรบั นางฟ้าสู่ หอทอง สุขสมปองสูส่ รวงสวรรค์ นริ นั ดร์เทอญ แด่…….นอ้ งบ๋มุ สุธีรา พิมพ์รส ประพนั ธ์ 52 โครงการจัดการความรู้ สขุ ภาวะระยะท้าย เล่ม 2

ความดที ่เี ยียวยา สธุ รี า พิมพ์รส http://www.gotoknow.org/posts/376431 ความดีทเี่ ยยี วยาในหอผ้ปู ว่ ยทารกแรกเกิดระยะวกิ ฤต บ่ายแก่ๆ ของวันศุกร์สุดสัปดาห์ หลังเสร็จสิ้นภารกิจงานการช่วยเหลือคนไข้ระยะสุดท้ายท่ีหอ ผปู้ ว่ ยเดก็ มะเรง็ 3ง ฉนั เดนิ กลบั ไปทหี่ นว่ ยเพอ่ื จดั การงานทย่ี งั คง่ั คา้ ง ทนั ทท่ี ปี่ ระตหู อ้ งเปดิ เสยี งโทรศพั ท์ กด็ งั ขนึ้ กรง๊ิ ! กร๊ิง! ตน้ สายคอื หัวหนา้ หอผูป้ ่วยทารกแรกเกดิ ระยะวกิ ฤต “สวัสดคี ่ะกุง้ พ่ีป๋อมนะคะ พอดมี ี case จะ consult ทางหน่วยคะ่ เปน็ คนไขเ้ ดก็ อายุ 3 วันคลอด โดยการผา่ ตดั แม่อายุ 27 ปี กอ่ นหน้าที่จะตงั้ ครรภแ์ ม่เข้ารับการรักษาโรคหวั ใจโดยใสล่ ้นิ หวั ใจเทียมจงึ ต้องทานยาคูมาดิน หลังคลอดเดก็ ไมค่ ่อยดีมีปญั หาเลอื ดออกในสมอง plan palliative care อาจารย์ วา่ จะขอปรึกษาทางหน่วยใหช้ ว่ ยมาดพู ่อกับแม่หน่อยค่ะ” สิ้นเสียงพป่ี อ๋ ม ฉันตอบกลบั ไปทนั ทีว่า “ได้ค่ะ เดยี๋ วกงุ้ ไปเดี๋ยวนเ้ี ลย ใบ consult ก้งุ ไปรบั ท่ี ward ก็ไดน้ ะคะ” ฉันใช้เวลาประมาณ 10 นาทีก็เดินมาถึงหอผู้ป่วยทารกแรกเกิดระยะวิฤตหรือที่เราเรียกกันสั้นๆ ว่าหอผปู้ ว่ ย NICU เมื่อมาถึงภาพที่เห็นคอื เดก็ นอ้ ยนอนอยบู่ นเตยี งทารกแรกเกดิ หายใจโดยใช้เครือ่ ง ช่วยหายใจ รอบตัวเต็มไปสายระโยงระยาง ศีรษะโตผิดปกติ กระหม่อมโป่งตึง ทีมซึ่งประกอบไปด้วย พยาบาลหอผู้ป่วย NICU หมอเจ้าของไข้ ไดเ้ ชญิ แม่น้องซง่ึ อยู่ในสภาพนง่ั รถเขน็ เน่ืองจากผา่ ตดั คลอด ยังไม่สามารถเดินได้ เข้าไปคุยในห้องให้ค�ำ ปรึกษาพร้อมทั้งพ่อด้วย เพื่อบอกให้ทราบถึงอาการของน้อง และการวางแผนการดูแลรักษารว่ มกัน ทีมแนะน�ำ ฉันใหพ้ ่อแมไ่ ดร้ จู้ ัก กอ่ นท่ีการสนทนาจะเร่มิ ตน้ ขึน้ “ลกู ผมเป็นไงบา้ งครับ” เป็นคำ�ถาม แรกที่พ่อเอย่ ข้ึนทา่ มกลางความเงยี บ “จากการตรวจเอกซเรย์สมองทำ�ใหท้ ราบว่านอ้ งมเี ลือดออกในสมองค่อนข้างมาก เป็นผลทำ�ให้มี ภาวะสมองบวม” หมอเจา้ ของไข้ตอบค�ำ ถามพอ่ “ผมอยากตรวจซำ้�อกี จะได้มั้ยครบั ” พ่อบอกถงึ ความต้องการ “หมอคดิ วา่ ยงั ไมม่ ขี อ้ บง่ ชี้ในการตรวจซ�้ำ นะคะ และตอนนเี้ ราตดิ ตามดภู าวะเลอื ดออกงา่ ยจากการ เจาะเลอื ดน้องดทู ุกวันอยแู่ ลว้ ยังไมป่ รากฏวา่ มอี ะไรเปลย่ี นไปคะ่ ” เกบ็ สุข กลางทุกข์ วิธคี ิดและแนวทางเปลีย่ นทุกข.์ .. เปน็ สุข 53

“คณุ พอ่ ก�ำ ลังกังวลว่าจะมเี ลอื ดออกเพิม่ เหรอคะ” ฉนั สะทอ้ นความร้สู ึกของพอ่ “ครบั อกี อยา่ งผมกล็ ุ้นว่ามนั จะดขี น้ึ เผื่อว่าจะมีความหวงั ขึน้ มาบา้ ง แตถ่ ้าหมอยนื ยันตามน้ีแล้ว ผมก็ o.k. ครับ เวลาเหลอื นอ้ ยแล้ว ผมขอไปดูลูกก่อนนะครับ ขอบคณุ ทกุ คนทมี่ าเป็นกำ�ลังใจใหผ้ มและ แฟนผม” พูดจบพลาง เข็นรถพาแมเ่ ข้าไปหานอ้ งซงึ่ อยู่ในห้องแยก โดยทมี หอผู้ปว่ ย NICU นัน้ ได้ตระหนกั ถงึ ความส�ำ คญั ของการจดั สง่ิ แวดลอ้ มทีเ่ ออ้ื ตอ่ การเยยี วยา (healing environment) โดยเฉพาะในผปู้ ว่ ย ระยะสดุ ทา้ ยจะตอ้ งการความเปน็ สว่ นตวั คอ่ นขา้ งมาก ฉนั เดนิ ตามครอบครวั เขา้ ไปดนู อ้ งพรอ้ มกบั แนะน�ำ ตัวเองกับครอบครัวอีกครง้ั “พีช่ อ่ื พก่ี ุง้ นะ มาจากหนว่ ยการดแู ลผู้ปว่ ยแบบประคบั ประคอง พีจ่ ะมาช่วย ทมี ดูแลน้องและครอบครัว มีอะไรให้ชว่ ยขอให้บอกได้” “ผมชื่อพีครับ แฟนผมช่อื นิด (นามสมมตุ )ิ ” พ่อแนะน�ำ ตัวตอบฉันบ้าง ในขณะที่ฉันคุยอยู่กับพีนั้น นิดผู้เป็นแม่ดูจะไม่ได้สนใจส่ิงอ่ืนนอกจากลูกน้อย นิดเอามือไปแตะที่ แขนลกู พรอ้ มกบั ลูบไปมาเบาๆ ประหนึ่งจะบอกว่า “แม่อยู่น่ี แม่รักลกู นะ” สว่ นพีนั้นยืนมองทง้ั แมแ่ ละ ลกู ดว้ ยแววตาท่ฉี ายแววแหง่ ความกงั วล สักพกั ฉันเห็นพีกดชตั เตอรเ์ พอ่ื ถ่ายภาพนอ้ งจากกล้องในมอื ถอื เห็นดังน้นั ฉนั เริ่มร้แู ล้ววา่ พีกำ�ลัง พยายามทจ่ี ะเกบ็ เกย่ี วความทรงจำ�ดดี ที ม่ี ตี อ่ ลกู นอ้ ย และนคี่ งเปน็ อกี ชอ่ งทางหนง่ึ ทพี่ เี ลอื กทำ� ฉนั ไมร่ อชา้ รีบหยิบกล้องทพ่ี กตดิ กระเป๋าขน้ึ มาและบอกกับท้ังสองคนวา่ “อยากได้ภาพครอบครัวสามคน พอ่ แม่ ลกู ม้ยั ? มา พ่ถี า่ ยให”้ พีไมล่ งั เลท่ีจะบอกฉนั ว่า “อยากไดค้ รับ” หลังเกบ็ ภาพประทับใจเสร็จเรียบร้อยแลว้ ฉันรับปากกับพแี ละนิดว่า “พี่จะรีบทำ�ภาพมาให้นะ” การเก็บความทรงจำ�ท่ีมีต่อลูกน้อย ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่าย หรือการกระตุ้นให้ครอบครัวได้เล่าถึง ความทรงจำ�ท่ีดีในระหว่างต้ังครรภ์ ฉันคิดว่านี่เป็นการเตรียมหัวใจของคนเป็นพ่อแม่ท่ีรู้ว่ากำ�ลังจะ สูญเสียลูกน้อยให้แข็งแรง ท่ีเราเรียกว่า bereavement care ความทรงจำ�เหล่าน้ีจะมีค่าที่สุดในวันท่ี ลูกน้อยได้จากไปแล้ว ฉันเริ่มเห็นรอยย้ิมของนิดผู้เป็นแม่ และพีก็ค่อยๆ ถ่ายทอดเรื่องราว ความเป็น ไปของครอบครัวให้ฉันฟัง และนี่เป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่าสัมพันธภาพใหม่ระหว่างฉันกับพีและนิดได้เกิด ข้ึนแล้ว ในระหว่างการสนทนาฉันพยายามค้นหาปัญหา ความต้องการของครอบครัวท้ังด้านจิตสังคม การปรับตัวของครอบครัวกับสภาวะท่ีเกิดข้ึน สถานะทางเศรษฐกิจ ที่สำ�คัญไม่แพ้กันคือความต้องการ ดา้ นจิตวิญญาณ 54 โครงการจดั การความรู้ สุขภาวะระยะท้าย เลม่ 2

การทำ�งานของฉันในวันนี้ ถึงแม้จะเป็นจุดเร่ิมต้นของการลงพ้ืนท่ีให้การช่วยเหลือผู้ป่วยระยะ สดุ ทา้ ยในหอผ้ปู ว่ ยทารกแรกเกดิ ระยะวิกฤต แต่กพ็ อจะเร่มิ มองเห็นชอ่ งทางท่จี ะเดนิ ไปแล้ว และสิ่งหนงึ่ ท่ีได้เรียนรู้ น่ันคือการเยียวยาได้เกิดข้ึนแล้วในขณะท่ีฉันประเมินครอบครัว เพราะในขณะพูดคุยฉันเอง พยายามท่ีจะเป็นผู้ฟังท่ีดี พยายามที่จะเข้าใจความรู้สึกของเขาท้ังสอง ถ้าพูดตามหลักกระบวนการ พยาบาล assessment กบั nursing intervention ไปดว้ ยกันได้อย่างไม่นา่ เช่อื และเมอื่ คยุ ไปได้สกั พกั ฉันกเ็ ริม่ รสู้ กึ ว่าทงั้ สองคนให้ความไวว้ างใจผูม้ าใหมอ่ ยา่ งฉัน วนั น้พี ีกับนิดก็ได้บอกถงึ ความต้องการดา้ นจิตวญิ ญาณของเขาทงั้ สองว่า “ผมชอบยงิ หวั นก และ ชอบตกปลา สงสยั กรรมท่ผี มเคยฆ่าสตั ว์ ท�ำ ให้ลูกผมเปน็ แบบนี้ ดหู วั ลูกผมสบิ วมซะอย่างนั้น” “พรุ่งน้ี เปน็ วันเกดิ หนู หนอู ยากทำ�สงั ฆทาน อยากไถช่ วี ติ สตั ว์ เพ่อื เป็นกุศลกับตวั เองและลูก หนอู ยากปลอ่ ยปลา จะเป็นไปไดม้ ยั้ พี่กงุ้ ” นิดเอ่ยข้นึ บา้ ง “เอาสิ พรงุ่ น้ีเลยดีมัย้ ไปทำ�บุญทีต่ ึกสงฆก์ ็ได้ อยู่ใกลๆ้ น่ีเอง สว่ นเรอื่ งปลอ่ ยปลาเดี๋ยวจะไปหาซ้ือ ปลาให้ เสร็จแล้วถ้านิดไปไม่ได้ก็ใช้วิธีอธิษฐานแผ่เมตตา แล้วพ่ีเอาไปปล่อยให้” ฉันไม่ลังเลท่ีจะช่วย ทั้งสองคนในการที่จะทำ�ในสิ่งที่เขาปรารถนา เพราะน่ีเป็นเส้นทางแห่งบุญที่ฉันเองก็จะขออาศัยไปด้วย และทุกคร้งั ที่ได้ทำ�แบบนี้ก็มักจะบอกตวั เองเสมอว่า วนั น้ีธนาคารความดไี ด้เปดิ ทำ�การแล้ว และฉันเคย อ่านหนงั สือเลม่ หนงึ่ ที่ไดก้ ล่าวถงึ อานภุ าพแหง่ ความดี วา่ “การท�ำ ความดี หมนั่ สรา้ งกศุ ล ไมเ่ พยี งแตช่ ว่ ย ให้มชี ีวิตทผี่ าสกุ เทา่ น้ัน หากยังอำ�นวยใหม้ คี วามสขุ ในเวลาละโลกนี้ไป ดังพระพทุ ธองค์ตรัสว่า บุญยอ่ ม ทำ�ให้เกิดสุขในเวลาสิ้นชีวิต ความดีหรือบุญกุศลน้ันนอกจากจะน�ำ ความแช่มช่ืนเบิกบานมาสู่จิตในขณะ กระทำ�แลว้ ยังอำ�นวยใหเ้ กิดความอ่ิมเอิบ ปลาบปลื้มใจในเมอื่ ระลกึ นกึ ถงึ ” กอ่ นจะลาจากมา ฉนั ใหค้ วามมน่ั ใจนดิ กบั พอี กี ครงั้ วา่ พรงุ่ นี้ เขาจะไดท้ �ำ ในสงิ่ ทเ่ี ขาตอ้ งการแนน่ อน พรอ้ มกับประโยคสง่ ทา้ ยทม่ี ักจะพูดกับคนไขเ้ สมอคอื “เปน็ กำ�ลงั ใจใหน้ ะ มีอะไรก็โทรหาพี่จะแวะมาเย่ยี ม บ่อยๆ” ขณะเดินกลับไปทีห่ น่วย ในใจก็คิดว่านเี่ ป็นอกี หน่ึงความดีท่เี กดิ ขนึ้ ในงานการดแู ลผู้ปว่ ยเดก็ ระยะ สุดท้าย และเปน็ ความดที ่ีคอยเยยี วยา และหล่อเลี้ยงให้ชวี ติ ที่ก�ำ ลังทดท้อ ไดม้ ีแรงกำ�ลังที่จะเดนิ ต่อไป ข้างหน้าดว้ ยความหวัง ไมว่ า่ จะเกดิ อะไรขึ้นก็ตาม เก็บสขุ กลางทกุ ข์ วิธีคดิ และแนวทางเปล่ยี นทกุ ข์... เป็นสขุ 55

รอยยมิ้ ของพ่อ ตอนจบ สธุ รี า พมิ พร์ ส http://www.gotoknow.org/posts/567843 5 โมงเย็น ได้เวลานดั หมายครบู าหนมุ่ พระจิตอาสาในโปรแกรม เพ่ือมารบั สงั ฆทานจากเด็กชาย บญุ รอดและพ่อแม่ เป้าหมายของการพาบุญรอดท�ำ บญุ ใหญ่วันน้ี หวงั ผลเพอื่ ใหบ้ ญุ รอดไดม้ เี สบียงบุญใน การเดินทางในภพใหม่ทดี่ ี และเพอ่ื เยียวยาจติ วญิ ญาณของคนเปน็ พ่อแม่ ทีก่ ำ�ลังจะสูญเสียลกู ชาย เมอื่ ทกุ อยา่ งพรอ้ ม อนั ประกอบไปดว้ ยเครอ่ื งปจั จยั ไทยทาน พรอ้ มดว้ ยทมี การพยาบาลและพอ่ แม่ บญุ รอด เราจงึ เรม่ิ พธิ สี วดมนต์ไหวพ้ ระและอาราธนาศลี รบั ศลี และฟงั ธรรมะบรรยายแบบสน้ั เรอ่ื ง อนจิ จงั ไมเ่ ทย่ี ง ความไมย่ ดึ มน่ั ถอื มน่ั ในสงิ่ ของของเรา เมอ่ื เสรจ็ พธิ กี รรมแลว้ เปน็ ขนั้ ตอนกระบวนการถอดถอน เคร่ืองพยุงชีพ ตามที่ได้ประชุมและตกลงร่วมกันกับครอบครัว ทีมกุมารแพทย์ผู้เช่ียวชาญและทีม การดแู ลแบบประคบั ประคอง เมื่อโรคท่ีบญุ รอดเปน็ น้นั เกนิ เยียวยารกั ษา และเปน็ โรคทางพนั ธกุ รรมทม่ี ี ความผดิ ปกติรนุ แรง น่ันคือ โรคไตรโซมี่ 18 เปน็ ความผิดปกติของโครโมโซมคู่ที่ 18 และพบอตั ราการ เกดิ ในทารก 7000 คน เกิด 1 คน (1: 7000) ข้อมลู จากอาจารย์นายแพทย์กุณฑล วิชาจารย์ กุมารแพทย์ ผู้เช่ียวชาญโรคทางพันธุกรรม ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หนูน้อยท่ีเป็นโรคนี้ 100 เปอรเ์ ซนต์ มชี วี ิตอยไู่ ด้ไมเ่ กนิ 1 ปี และในกรณที คี่ ลอดกอ่ นกำ�หนด อัตราการตายยง่ิ สูงและเสยี ชวี ิต เร็วขึ้น ในกรณีบุญรอดความผิดปกติรุนแรงที่ท�ำ ให้เสียชีวิตคือหัวใจล้มเหลวและระบบหายใจก็ล้มเหลว ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา เม่ือทราบดังน้ี งานสำ�คัญของเราก็คือการวางแผนร่วมกับทีม กุมารแพทยเ์ พอ่ื ประชมุ ครอบครวั ในการวางแผนบอกความจริง พร้อมทัง้ เสนอทางเลอื กให้กบั ครอบครวั เมือ่ เสรจ็ พธิ ีทางศาสนา ทีมเปดิ โอกาสให้พอ่ กบั แม่บุญรอดเข้ามาอยู่ใกลช้ ิดกบั ลกู เทา่ ทค่ี รอบครัว ตอ้ งการ ถ้าหากพอ่ แมพ่ รอ้ ม เราจะเริม่ ข้นั ตอนต่อไป คอื การถอดถอนเครือ่ งพยุงชีพ เวลาผา่ นไปสบิ นาที พอ่ กบั แมห่ นั มาสง่ สญั ญาณความพรอ้ ม ระหวา่ งนี้ในแนวปฏบิ ตั เิ ราไดเ้ รม่ิ กระบวนการใหย้ าเพอื่ ใหบ้ ญุ รอด หลับและไม่เจ็บปวดใดใด การตัดสินใจเกี่ยวกับบุญรอดในครั้งน้ี พ่อแม่เป็นผู้ตัดสินใจแทนโดยชอบตาม กฎหมาย และได้แสดงเจตนาถอดถอนเครื่องพยุงชีพเพ่ือปลดเปล้ืองความทุกข์ทรมานให้กับหนูน้อยบน พน้ื ฐานการไดร้ บั ขอ้ มลู ทตี่ รงจรงิ ขนาดของยาเปน็ ไปเพอื่ ใหเ้ ดก็ หลบั ไมไ่ ดท้ ำ�เพอ่ื เรง่ กระบวนการการเสยี ชีวิตให้เร็วขนึ้ 56 โครงการจัดการความรู้ สขุ ภาวะระยะทา้ ย เลม่ 2

เมอื่ เหน็ วา่ บญุ รอดหลบั ไดแ้ ลว้ ทมี การพยาบาลชว่ ยกนั ดดู เสมหะเพอื่ ท�ำ ทางเดนิ หายใจให้โลง่ หลงั ค่อยๆ ลดเครอื่ งช่วยหายใจจังหวะน้ัน ดูว่าบญุ รอดไม่กระสับกระส่าย จึงมาถึงข้ันตอนถอดทอ่ ชว่ ยหายใจ ในท่ีสดุ ทุกขณะ เราจะประเมนิ ความสขุ สบายไม่ให้คลาดสายตา ขณะนั้นพ่อกับแม่นั่งห่างออกไปและปฏิเสธที่จะมาดูบุญรอด แต่ฉันไม่ละความพยายามท่ีจะเชิญ ชวนใหพ้ อ่ แมเ่ ขา้ มาดแู ลบญุ รอด “คุณพ่อคะ บุญรอดก�ำ ลงั จะไปแล้ว เค้าคงดีใจถ้าเคา้ ไดจ้ ากไปในอ้อม กอดของพ่อแม่เคา้ ” ทันทีทพ่ี ดู จบ พอ่ ลกุ จากที่น่งั ก่อน และเขา้ ไปขออมุ้ บญุ รอด พวกเรารีบจดั หาที่นงั่ เพ่ือใหแ้ มเ่ ขา้ มา นงั่ ใกลๆ้ เรายงั จบั อตั ราการเตน้ ของหัวใจของบญุ รอด ดเู หมือนหัวใจจะเต้นชา้ ลง 40 ถึง 50 คร้งั ต่อนาที แตท่ นั ทที พ่ี ่ออุม้ หัวใจบญุ รอดกลบั มาเต้นแรงอกี ครงั้ ถงึ 120 คร้ังตอ่ นาที ฉันรบี ฉวยโอกาสนี้ รบี บอกวา่ เพราะบุญรอดต่ืนเต้นดีใจที่พ่ออุ้ม หัวใจเลยเต้นแรงเร็วขึ้น ทันใดนั้นแม่ขยับเข้ามาเสริมทัพ จากนั่งหัน หลังไมม่ อง ตา่ งช้ีชวนใหก้ ันชมจมูก ปาก ช่างเหมือนใคร ฉนั แอบเหน็ พอ่ ยมิ้ ทงั้ น�้ำ ตาขณะทบ่ี รรจงหอมแกม้ บญุ รอด จากพอ่ อมุ้ กส็ ลบั ใหแ้ มบ่ า้ ง เวลาผา่ นไป ประมาณคร่ึงช่ัวโมง สัญญาณชีพทุกอย่างดับลงพร้อมกับร่างอันไร้วิญญาณของบุญรอดหลับพักอยู่ใน ออ้ มกอดของพ่อ พรอ้ มกบั ดวงตะวันที่ลาลบั ขอบฟา้ แมห่ ลับให้สบายนะคะ เก็บสุข กลางทกุ ข์ วธิ ีคดิ และแนวทางเปลี่ยนทุกข์... เป็นสุข 57

แม่หลับให้สบายนะคะ มารยาท สุจริตวรกุล http://www.gotoknow.org/posts/568111 เธอเปน็ คุณแมข่ องลูก 3 คน ลกู ชาย 2 คน ลูกสาว 1 คน เปน็ มะเร็งปอดระยะสดุ ทา้ ย เคยไดร้ ับ การผ่าตัดเอาเน้ือปอดออกบางส่วนแล้ว แต่มะเร็งลุกลามไปท่ีต่อมนำ้�เหลืองบริเวณรักแร้และส่วนต่างๆ ของร่างกาย ขณะรบั เขา้ มารักษาในหอผ้ปู ่วย ผ้ปู ่วยมอี าการท้องบวมโต ขาท้ัง 2 ขา้ งบวมเป่ง ผู้ป่วย ไม่สามารถขยับขาได้เลย ถา้ ไม่มีใครชว่ ยพลิกตะแคงตวั ชว่ งลา่ งให้ มีอาการหอบเหนอื่ ยมาก ไมส่ ามารถ นอนราบได้ ต้องนอนศรี ษะสงู และนง่ั ตลอดเวลา ให้ออกซเิ จนไวป้ ระมาณ 4-5 ลติ ร และใหย้ าพน่ ขยาย หลอดลมเป็นระยะ ผู้ป่วยรายนี้เข้ามารับการรักษาในหอผู้ป่วยเนื่องจากแพทย์ผู้รักษาและญาติต้องการ ให้ไดร้ ับการดูแลในระยะสดุ ท้ายของชวี ิตให้ผู้ป่วยทุกขท์ รมานนอ้ ยที่สดุ แรกเรม่ิ ทพี่ บกบั เธอนนั้ เธอจะมลี กั ษณะของการปฏเิ สธสงั คมรอบๆ ขา้ ง ไมค่ อ่ ยยอมพดู คยุ ทง้ั กบั ญาติและพยาบาลท่ีดูแล ห้องจะปิดม่านมืดทึบตลอดเวลา ลูกๆ ท่ีเฝ้าอยู่จะคอยระมัดระวังไม่ให้เกิด เสยี งรบกวนการนอนของแม่ เธอจะมแี ผลเปดิ ระบายน�้ำ เหลืองออกจากปอดบริเวณสขี า้ งด้านขวา จะมี นำ้�เหลืองไหลซึมออกมาตลอดเวลา ถ้าแผลชุ่มมาก เธอจะหงุดหงิดมากถ้าไม่ได้รับการเปลี่ยนแผลให้ ทนั ที และจะหายใจหอบเหนือ่ ยเม่อื ตอ้ งพลกิ ตะแคงตวั ทำ�แผล พยาบาลต้องพยายามพดู คยุ กับเธอตลอด เวลาขณะให้การพยาบาล ทตี่ อ้ งใชค้ ำ�วา่ ‘พยายาม’ เพราะเธอจะไม่ยอมพดู คุยด้วยเลย ในระยะแรกที่เจอกนั พยาบาลได้สอบถามประวตั แิ ละแผนการดูแลของญาติ ซึ่งลูกสาวไดบ้ อกวา่ “แม่ทำ�ใจไมไ่ ดต้ ่อการเจ็บปว่ ย และเป็นห่วงสามีและลูกๆ ทุกคนมาก เศรา้ โศกเสยี ใจกับการทจี่ ะตอ้ งจาก ไปจากคนท่ีตนรัก ลูกชายคนโตมีความคิดว่าจะบวชให้แม่ได้ผลบุญอันนี้แล้วจะได้จากไปอย่างสงบไป สภู่ พภมู ิที่ดี ไมท่ กุ ข์ทรมาน” ซึ่งในเวลาตอ่ มา ลูกชายไดบ้ วชให้กบั แม่ไดส้ �ำ เร็จ เธอไดเ้ หน็ ลกู บวชกม็ กี �ำ ลังใจขึ้น พยาบาลได้พดู คยุ กบั ผปู้ ว่ ยบอ่ ยครงั้ ขน้ึ เธอมที า่ ทยี อมรบั พดู คยุ ดว้ ยมากขน้ึ ตามล�ำ ดบั พยาบาลชว่ ยอ�ำ นวยความสะดวก และบรรเทาความทุกข์ทรมานให้ตามท่ีผู้ป่วยต้องการ ให้ผู้ป่วยได้อยู่ในท่าท่ีสุขสบายมากท่ีสุด ซักถาม ผู้ปว่ ยถงึ ความตอ้ งการในดา้ นตา่ งๆ เช่น การใส่บาตร และการฟังเทปหรอื ซดี ธี รรมะ บทสวดมนต์ บ้าง หรอื ไม่ ในระยะแรกผ้ปู ว่ ยปฏเิ สธ อกี 2-3 วันตอ่ มาเธอบอกกับลูกวา่ ตอ้ งการฟังบทสวดมนต์เจ้าแม่กวนอิม พยาบาลได้จัดหาบทสวดมนต์มาให้ และนมิ นตพ์ ระมาให้เธอได้ใสบ่ าตรในตอนเชา้ หลงั จากนนั้ พยาบาลไดพ้ ดู คยุ กบั ลกู สาวของเธอถงึ การพดู กบั แม่ในขณะทเี่ ธอใกลเ้ ขา้ สวู่ าระสดุ ทา้ ย 58 โครงการจดั การความรู้ สุขภาวะระยะทา้ ย เลม่ 2

ในวนั ต่อๆ มาไดฝ้ ึกให้เธอฝกึ การหายใจ โดยการสดู ลมหายใจเขา้ ใหล้ กึ ๆ โดยหายใจเข้าท้องปอ่ ง หายใจ ออกยาวๆ จนทอ้ งแฟบลง ให้ผปู้ ่วยฝึกลักษณะนอ้ี ย่เู ปน็ ประจ�ำ ทกุ วนั โดยมีลกู ชายและลกู สาวของผู้ปว่ ย คอยใหก้ ำ�ลงั ใจอยไู่ ม่หา่ ง ผู้ป่วยผ่อนคลายจากความเครียด ลกู ชายและลกู สาวร้สู ึกดีขน้ึ เม่อื เห็นแมส่ งบ มากขน้ึ ไม่กระวนกระวาย เช้าวันสุดท้าย เธอมีอาการหอบเหน่ือยมากขึ้น ความเข้มข้นของออกซิเจนในกระแสเลือดลดลง พยาบาลเพมิ่ การใหอ้ อกซเิ จนกบั ผปู้ ว่ ยเปน็ แบบหนา้ กากครอบ และพดู คยุ กบั ผปู้ ว่ ยถงึ การหายใจทเี่ คยฝกึ ไว้และให้ความมั่นใจกับเธอว่า “คุณทำ�ตามท่ีเราได้เคยฝึกกันไว้นะคะ ไม่ต้องกลัวหรือกังวลอะไรท้ังนั้น ทั้งคุณหมอและพยาบาลจะคอยอยู่ใกลต้ ลอดเวลา รวมทั้งลูกๆ ของคุณดว้ ยคะ่ เราพร้อมจะใหก้ ารช่วย เหลอื คุณคะ่ ” โดยแนะนำ�ลูกชายและลูกสาวคอยอยู่ใกลก้ บั เธอ ใหจ้ ับมือแม่ไว้ และพดู คุยกบั แมไ่ ว้ บอก ใหแ้ มน่ บั ลมหายใจ และพดู คยุ ใหผ้ ปู้ ว่ ยอบอนุ่ วา่ มที ง้ั ลกู และพยาบาลคอยอยู่ใกลเ้ ขา และพรอ้ มจะใหค้ วาม ชว่ ยเหลอื ลูกสาวเรม่ิ พดู กบั แม่วา่ “แมน่ อนหลบั ซะนะ ไมต่ ้องห่วงลกู ทกุ คน ลกู ๆ ทกุ คนจะรกั กันมากๆ ไม่ ทะเลาะกนั จะดแู ลกนั ตลอดเวลา และจะชว่ ยกนั ดแู ลปา๊ ดว้ ย แมไ่ ปไหวพ้ ระใหส้ บายใจนะ เอาเงนิ นี่ (ลกู สาว เอาเงนิ ใส่มอื แม่) แม่ ไปท�ำ บุญนะ ใครเรยี กแม่ ไมต่ ้องหนั กลบั มาดูนะจ๊ะแม่ ลกู ๆ ทุกคนโชคดที ี่ได้เกดิ มา เป็นลูกของแม่ แม่หลับให้สบายนะคะ” ขณะที่ลูกสาวผู้ป่วยพูดนั้น เป็นน้ำ�เสียงที่น่าฟังมาก สมำ่�เสมอ ไมม่ สี น่ั เครอื เลย หลงั จากลกู สาวพดู จบ ผปู้ ว่ ยหายใจแผว่ เบาลงเรอ่ื ยๆ และคอ่ ยๆ จากไปอยา่ งสงบพรอ้ ม ลูกๆ ทกุ คนท่ีอยรู่ อบตัว สหี นา้ ของเธอเหมือนคนนอนหลับสงบนิ่งมากๆ ในการให้การดูแลผู้ป่วยในระยะสุดท้ายน้ัน นอกจากการช่วยบรรเทาอาการทุกข์ทรมานแล้ว พยาบาลไม่จำ�เป็นต้องพูดอะไรมากเลย ในขณะท่ีผู้ป่วยมาถึงวาระสุดท้ายแห่งชีวิต เพียงแต่พยาบาล คอยให้การดูแลอย่างใกล้ชิด คอยให้คำ�แนะนำ�ญาติผู้ป่วยเท่านั้น ญาติของผู้ป่วยจะรับรู้ได้เองโดย สัญชาติญาณว่าผปู้ ว่ ยต้องการอะไร หรอื มีห่วงอะไรอยู่ พวกเขาเหล่านนั้ สามารถพดู กบั ผู้ปว่ ยให้คลาย ความห่วงหาลงได้ และจากไปอย่างสงบ และเปน็ ที่หวงั แหง่ สคุ ติภมู ิเปน็ เบ้อื งหน้า หมายเหตุ : สงิ่ ทีร่ ู้สกึ ประทับใจมากทส่ี ุดในกรณนี ้ี คือ การที่ไดช้ ว่ ยให้ครอบครัวสามารถเผชญิ กับ การจะจากไปของผ้ปู ว่ ย และมีสตริ ะลกึ ไดว้ ่าส่ิงที่ค้างคาอยู่ในใจผู้ป่วยคอื อะไร และประทับใจในพลงั แห่ง ความรกั ของคนในครอบครัว เป็นสิ่งสำ�คญั ที่สดุ ทีจ่ ะทำ�ให้ผ้ปู ่วยไดเ้ ผชิญกับความตายได้อย่างสงบ อ่นุ ใดๆ โลกนี้มิมเี ทียบเทียม เก็บสขุ กลางทกุ ข์ วิธคี ดิ และแนวทางเปลย่ี นทกุ ข์... เป็นสุข 59

อ่นุ ใดๆ โลกนี้มมิ ีเทียบเทยี ม คนบ้านไกล - นามแฝง https://www.gotoknow.org/posts/391446 ทพิ ยสถานมหาราชกิ า แมเ่ กดิ เมือ่ วันท่ี 18 พฤศจิกายน 2458 ทีต่ ำ�บลเนนิ ขเ้ี หลก็ อำ�เภอลาดยาว จงั หวัดนครสวรรค์ เปน็ ลกู สาวคนสดุ ทอ้ งของหมน่ื เรอ่ื งระงบั ภยั และนางล�ำ ภู บดิ าประกอบอาชพี เปน็ เจา้ หนา้ ทฝ่ี า่ ยปกครอง มารดาเป็นคหปตานี พี่สาวเล่าวา่ ยายมีที่นามากมาย สุดลกู หลู ูกตา เวลาหน้าท�ำ นา จะมีชาวบา้ นเอาข้าวมาใหก้ องไว้ ท่ีบ้านยายใหญ่โตมโหฬาร ตอนสาวๆ แม่สวยมาก นายอำ�เภอไปขอแม่กับตา เพราะนายอำ�เภอต้อง มากินและพักอาศัยบ้านตาเปน็ ประจำ� แตแ่ มป่ ฏิเสธ แมจ่ บการศึกษาช้นั ประถมปีสี่ โรงเรยี นวัดเนนิ ข้ีเหลก็ จบการศกึ ษาแลว้ ได้ประกอบอาชีพเปน็ ครู สอนหนังสือ จนได้พบกับพ่อ จากการแนะนำ�ของพ่ชี ายคนโต เมือ่ สมรสแลว้ จงึ เปลยี่ นมาประกอบอาชีพ คา้ ขาย มบี ตุ รธิดาเก้าคน ผมเป็นคนทแ่ี ปด พอ่ ผมเสยี เมอ่ื ผมเปน็ เดก็ ๆ อายคุ งไม่เกินสามสขี่ วบ แมต่ อ้ ง เลี้ยงดูลูกๆ คนเดียว ไม่เคยไปขอความช่วยเหลือจากยายเลย ซ่ึงถ้าแม่ขอ ยายก็คงจะให้เพราะเป็น ลูกสาวคนเล็ก ยายรักแมม่ าก เรยี กแม่ว่า “อีหนู” ทกุ คำ� พี่น้องคนอื่นๆ ไปขอความช่วยเหลือจากยาย ยายจะแบ่งที่นาให้ไปเก็บทำ�กินทีละมากๆ แม่เป็น คนเก่ง เป็นแม่ค้าท่ีคนชอบ เพราะแม่พูดได้หลายภาษา แม่พูดจีนแต้จิ้วก็ได้ ไหหลำ�ก็ได้ อิสานก็พูดได้ เวลาแมข่ ายอะไร ลกู ค้ามักจะซอื้ เสมอๆ ให้เจ้าเปน็ เด็กดี ใหเ้ จา้ มพี ลงั ใหเ้ จา้ เป็นความหวงั ของแม่ต่อไป แมไ่ ม่ไดส้ อนอะไรผมมาก เกอื บจะไม่สอนเลย ให้เรยี นร้เู อาเองเทา่ ทผี่ มจำ�ได้ แมส่ อนว่าอยา่ งไป เอา ไปขออะไรจากใคร จะเปน็ หนบี้ ญุ คณุ ชาตหิ น้าตอ้ งมาใชเ้ ขาเพราะเหตนุ ้ี แมแ้ ม่จะมปี ญั หาเรือ่ งเงนิ ทอง เพราะพ่อเสียชีวิต ต้องทำ�งานอยู่คนเดียวเลี้ยงลูกเก้าคน แม่ก็ไม่เคยไปขอความช่วยเหลือจากพ่ี น้อง หรือแม้กระทั่งยายเอง อีกอย่างแม่สอนว่า ถ้ามีคนมาขอความช่วยเหลือหรือเรี่ยไรทำ�บุญ อย่า ปฎิเสธ คนเขาจะเสยี น�้ำ ใจ มศี รทั ธามาก ก็ใหม้ าก มศี รัทธาน้อยก็ใหน้ อ้ ย ใหต้ อบวา่ ได้ไวก้ อ่ น 60 โครงการจัดการความรู้ สุขภาวะระยะท้าย เล่ม 2

แมส่ อนพสี่ าวผมวา่ เคลด็ ลบั ในการท�ำ อาหารใหอ้ รอ่ ยอยทู่ ก่ี ะทะ ตอ้ งให้ไฟแรงทอดแลว้ เอาขนึ้ เลย ถ้าผัดเสน้ ก๋วยเตี๋ยวแลว้ มันจะหอม ผมไมเ่ คยเหน็ แมไ่ ปเขา้ กรรมฐานท่ีไหน แมช่ อบแทงหวยมาก ชอบมหี มอดมู าดอู ยทู่ บี่ า้ นเปน็ ประจำ� ก่อนวนั หวยออก ตอนเดก็ ๆ ผมเคยนัง่ ฟงั เปน็ ประจำ� แตแ่ มร่ ู้จกั ภาวนา พุทโธ ธมั โม สังโฆ มีคนไปนั่ง กรรมฐานแล้วจิตไม่สงบ แม่จะบอกว่า ก็ศีลมันไม่บริสุทธ์ิ มันจะไปเห็นอะไร ตอนแม่อายุมาก แม่นอน ภาวนา พุทโธ ธัมโม สังโฆ เป็นประจำ� เพราะตอนน้ัน ตาแมไ่ ม่ค่อยดีแล้ว ตอนท่ีแมม่ าอย่กู บั ผมท่อี เมริกา ตอนนัน้ แม่อายเุ จ็ดสิบเหน็ จะได้ แมห่ กล้มหลังบ้านสะโพกหกั แม่ บอกผมวา่ มเี ดก็ ผิวคลำ้�ๆ มาผลกั ข้างหลัง ตอนอยู่โรงพยาบาล แมเ่ ลา่ ให้ฟังว่า มเี ดก็ ไม่ใส่เสือ้ สองคนมา ยนื อยูท่ ป่ี ลายเตียง ก่อนหกล้มแมบ่ อกแมเ่ ห็นเด็กผิวคล�้ำ ถอดเสื้อมาปรากฏตวั ท่ีหนา้ ต่าง ผมก็ไมไ่ ดส้ นใจ จนกระทงั่ ผมได้พาย่กี ู๋มารกั ษาแมท่ บี่ า้ นตอนแมข่ าหัก ยี่กมู๋ าท�ำ พิธีแบบจนี ปนไทย สวดมนต์เปน็ ไทย แต่มี การเผากระดาษเงินกระดาษทอง ท�ำ พิธแี บบวันตรุษจนี เลย ยี่กู๋ หมอเทวดา ผู้หยง่ั รู้ดนิ ฟ้ามหาสมุทร ผมได้ร้จู กั สาวบญั ชรี ่นุ เดียวกนั หลายคนตอนไปค่ายบญั ชี ย่ีกเู๋ ปน็ อาของสาวบญั ชีคนหนึ่ง ย่กี เู๋ ป็น ซินแสทที่ �ำ พธิ กี รรมทางพุทธศาสนาผสมประเพณจี ีน เพอื่ รักษาและใหก้ ำ�ลงั ใจผปู้ ่วยไข้ หาตัวได้ยากมาก พอดพี อผมบอกว่าเปน็ เพ่ือนของหลานสาว ยกี่ ๋กู ็เต็มใจมาชว่ ยผมเตม็ ทีเ่ พราะถอื เป็นญาตคิ นุ้ เคยกนั พอ ยกี่ มู๋ าท�ำ พธิ ชี ว่ ยแมผ่ ม ผมบอกวา่ แมผ่ มบอกวา่ โดนเดก็ ผลกั ขา้ งหลงั ยก่ี ตู๋ อบวา่ แมล่ อ้ื เกง่ มาก ทสี่ ามารถ รับรู้ได้ เด็กผิวคล้ำ�ที่ไม่ใส่เสื้อนั้นคือวิญญาณของเด็กอินเดียนแดงที่ยังไม่ได้ไปผุดไปเกิด อินเดียนแดง พวกนี้โดนพวกผวิ ขาวฆา่ เพอื่ ทจ่ี ะเอาท่ที �ำ กินของชาวอนิ เดยี นแดงมาเป็นของตนเอง วิญญาณเขาอยู่ใน บริเวณแถวบา้ นคณุ เน่ืองจากบา้ นผมอยู่ไม่ไกลจากหนองน�ำ้ สันนิษฐานว่าชาวอินเดียนแดงคงมาต้ังหลักแหล่งอยู่ท่ีนี้มาก่อนในอดีต คร้ันโดนฆ่า ด้วยความ อาฆาตแค้น วิญญาณจึงยังไม่ได้ไปเกิดใหม่ วนเวียนอยู่แถวนี้ ย่ีกู๋ทำ�พิธีแผ่ส่วนบุญไปให้ แล้วบอกว่า พวกเขาโชคดีที่ได้รู้จักคุณ ตอนนี้พวกเขาไปดีแล้ว หลังจากทำ�พิธีแล้วผมและแม่รู้สึกเหมือนว่าได้เอา ภูเขาออกจากอก แม่ผมมีกำ�ลังใจดีขึ้น ผมมีกำ�ลังใจดีข้ึนไม่เครียดเหมือนเมื่อก่อน แม่หายวันหายคืน ต้องขอบพระคุณย่ีกูเ๋ ป็นอยา่ งมาก เนอื่ งจากยีก่ ู๋คงมีความรสู้ ึกกบั ผมคล้ายเป็นหลานชาย จงึ ได้บอกความลบั ของชวี ติ ตา่ งๆ ใหผ้ มฟัง ผมไปเจอยก่ี ไู๋ ปท�ำ บญุ ทว่ี ดั ไปเจอผชู้ ายฝรง่ั แตง่ งานกบั สาวไทย พาลกู มาท�ำ บญุ ยก่ี บู๋ อกผมวา่ คนอเมรกิ นั เก็บสุข กลางทกุ ข์ วธิ ีคดิ และแนวทางเปลี่ยนทุกข.์ .. เปน็ สุข 61

คนนี้ ชาติก่อนเขาเคยเป็นคนไทย ผมได้ยินแล้วขนลุก ย่ีกู๋รู้ความลับของฟ้าดินด้วยหรือ ย่ีกู๋เล่า ให้ฟัง อีกสองเรื่อง ตอนอยู่เมืองไทยว่า มีคนให้ไปทำ�พิธีให้ญาติที่ป่วยในโรงพยาบาล เพราะป่วยโคม่ามา นานแล้ว ไม่ฟ้ืนสักที พอยกี่ ู๋ไปที่โรงพยาบาล ยกี่ บู๋ อกว่าไปเจอวญิ ญาณทส่ี ิงอยู่ในร่างคนเจบ็ ทจี่ ริงคนเจ็บ ตายไปนานแล้ว พอเจอย่ีกู๋วิญญาณกลัวก็เลยออกจากร่าง คนป่วยก็ได้ตายสมใจ อีกรายเป็นแม่ของ เจา้ สวั อภิมหาเศรษฐี ป่วยมานาน จะกินอะไรก็ไมไ่ ด้ ย่ีกู๋บอกผมว่า มันจะมปี ระโยชนอ์ ะไร มเี งนิ ลน้ ฟา้ เวลาจะกิน อาหารตั้งเต็มโต๊ะแบบฮ่องแต้ แต่จะกินอะไรก็ไม่ได้เพราะอีไปทำ�ปาณาติบาต ฆ่าไก่ไว้เป็น จ�ำ นวนมาก เวรกรรมตามสนองเลยในชาตนิ ้ี อวั้ ก็ไดแ้ ตไ่ ปสวดให้สบายใจเท่าน้นั หลังจากย่ีกู๋ทำ�พิธีให้แม่ผม และทำ�พิธีทำ�บุญบ้าน ย่ีกู๋บอกผมว่าทุกบ้านจะต้องมีวิญญาณเจ้าท่ี เจ้าทางอยู่เสมอ ผมก็เลยถามยี่กู๋ว่า ถ้าผมก็ย้ายไปอยู่บ้านใหม่ กต็ ้องเจออีก อยู่บ้านนต้ี ่อไม่ดีกว่าหรือ ยี่กู๋ตอบว่า ถา้ คุณซื้อบ้านใหมก่ ็เรียกให้อั้วมาท�ำ พิธอี ีก ไมเ่ ห็นจะไปยากอะไร แต่ทุกอย่างก็เป็นไปตามพระไตรลักษณ์ ต่อมาแม่ผมก็สิ้นชีวิตเม่ืออายุได้เก้าสิบปี ย่ีกู๋ไปส้ินบุญ ที่เมืองไทย เหลือแต่ความทรงจำ� เตือนให้ระลึกว่า เราต้องทำ�ความดีให้มากๆ วิญญาณ นรก สวรรค์ มีจริง อยา่ ไดป้ ระมาทเป็นอนั ขาด ความตายมาถึงเราได้ทกุ เวลา สวรรคบ์ นดิน ตอนแมอ่ ยู่กบั ผม ผมพาแมไ่ ปเท่ียวลาสเวกสั พาไปเล่นสล็อตแมชชนี เคร่ืองแบบนี้เอาเงนิ หยอด แล้วหมนุ หรือกดปุ่ม ถ้าเลขข้นึ มาพร้อมๆ กันสามตวั กจ็ ะได้รางวลั พ่ีสาวเอาเงินไปแลกเหรียญใหแ้ มเ่ ลน่ ประมาณร้อยเหรียญ บอกว่าแมเ่ ลน่ ใหพ้ อ เล่นให้สนุก พอถูกแจ็ตพอ๊ ต ได้เลขเดยี วเรียงกันสามตัวเสยี ง เหรียญตกลงมาเปน็ อนั มาก แมม่ ีความสุข น่งั โยกเครื่องทัง้ วันก็ไม่เบ่อื พอกลับมาห้องพักในโรงแรมซ่ึงอยู่ช้ันย่ีสิบกว่า แม่มองออกไปทางหน้าต่าง ได้เห็นแสงไฟ ท่ีเขาประดับประดาตามโรงแรมต่างๆ สวยงามมาก แม่ย้ิมด้วยความดีใจ แล้วพูดว่า สวรรค์มันเป็น อย่างน้ีเอง น้ำ�ตกแองกาลา่ แคนาดา ผมพาแม่ไปเทยี่ วนำ้�ตกแองกาล่า แคนาดา ตอนไปถึงโรงแรมใกล้น้�ำ ตก ก็มดื แลว้ ผมชวนแมไ่ ปดู น้ำ�ตกตอนกลางคืน เพราะเขาฉายไฟเป็นแสงสีต่างๆ สวยงามมาก แม่ปฏิเสธไม่ยอมไป ผมก็แปลกใจ แต่ไม่กล้าขัดใจ แต่วันรุ่งข้ึนแม่มาบอกว่ามืดๆ ตามันมองไม่เห็น ไปก็ไม่เห็นอะไร แต่กลางวันพาแม่ไป 62 โครงการจดั การความรู้ สขุ ภาวะระยะท้าย เล่ม 2

ดูน้ำ�ตก แม่ดีใจและสุขใจ ต่ืนเต้นท่ีได้เห็นนำ้�ตกท่ีใหญ่ท่ีสุดในโลก แม่กอดหลานสาวไว้แน่น หล านกับ ย่าคุยกัน ใช้ชีวิตช่วงสุดท้ายด้วยกัน แม่ตอนนั้นอายุเกือบเจ็ดสิบ ลูกสาวผมอายุตอนนั้นอายุเจ็ด แปดขวบได้มีวาสนาใช้ชีวิตสั้นๆ ร่วมกัน พอแม่กลับถึงแม่ไทย แม่จะเอารูปที่ผมถ่ายที่แคนาดาไปอวด ชาวบ้านรา้ นตลาด วา่ ลกู ชายพาแม่ไปถงึ นำ้�ตกแองกาลา่ แลว้ นะ ทง้ั ตลาดคงมีแมค่ นเดียวกระมังท่ีได้ไป เท่ยี วแคนาดา และไปเลน่ สลอ็ ตแมชชนี ท่ีลาสเวกัส ดูแมม่ คี วามสขุ ความภูมใิ จมากๆ อ่นุ อกออ้ มแขน อ้อมกอดแม่ตระกอง - กอดแม่เปน็ ครงั้ แรก ผมไม่เคยกอดแม่มาก่อน มีน้องชายคนสุดท้องคนเดียวที่มีโอกาสได้กอดแม่ เพราะแม่มีลูกมาก ถ้ากอดกันทุกคนแล้ว ก็คงจะต้องไม่มีเวลาทำ�มาหากิน ตอนแม่มาอยู่กับผมที่อเมริกา ช่วงนั้นเป็น วันแม่ ทางคณะครูอาสาสมัครของโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์วัดพุทธธรรม จากโครงการสอน ภาษาไทยและวัฒนธรรมไทยในต่างแดน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซ่ึงเป็นโครงการดีมากๆ สนับสนุน ให้ผู้ปกครองนำ�ลูกและแม่ของตัวเองไป เพื่อท่ีจะทำ�พิธีวันแม่ ผมเอาดอกไม้ไปให้แม่แล้วกอดแม่เป็น ครั้งแรกในชีวิต แม่เขิน เพราะลูกชายไม่เคยกอด แต่ก็ยอมให้กอด ต้ังแต่น้ันเป็นตอนมา ผมเจอแม่ ที่ไร ต้องไปกอด ลูกๆ ผมเจอคุณย่าก็ต้องเข้าไปกอดเพราะเป็นธรรมเนียมฝรั่งการกอดกนั ถอื เป็นเรื่อง ปรกติ แม่ก็เคยชักคุ้นกับธรรมเนียมตะวันตก ลูกสาวคนโตของผม ตอนผมกอดเธอคร้ังแรกตอนอยู่ชั้น ประถมกเ็ ขนิ เหมอื นกนั เพราะไปกอดเธอตอนเธอโตแลว้ แตเ่ ดยี๋ วนเี้ จอพอ่ ตอ้ งมากอดพอ่ กอ่ น ของดตี อ้ ง ฝีกต้องสอน ตอ้ งใช้ความพยายาม ไม่เหมอื นของชั่ว ไม่สอนกท็ ำ�ได้ พอแม่อายุ 88 ปี ความชรา ความแก่ ความปว่ ยไขก้ เ็ ขา้ มาเยือน แมเ่ ปน็ มะเร็งกระดูกขั้นสุดท้าย ทงั้ ๆ แม่กแ็ ข็งแรง ยงั ทำ�กายบริหารได้ แมต่ อ้ งไปฉายแสงที่โรงพยาบาลศริ ริ าช หมอบอกวา่ คงอยไู่ ดอ้ ีก สามถึงหกเดือน เอาแน่อะไรไม่ได้ เพราะแม่ก็แก่แล้ว ผมกลับไปเยี่ยมไปพยาบาลแม่ ให้กำ�ลังใจแม่ ตอนแม่นั่งกินข้าวเงียบๆ อยู่คนเดียว หันหน้าไปทางหน้าต่าง เห็นแม่นำ้�เจ้าพระยา เห็นมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ที่ผมเคยเรียน แสงแดดส่องมาทางหน้าต่างมาถูกตัวแม่สวยงามมาก แม่มีความสุขเงียบๆ มลี กู ชายนงั่ เฝา้ คอยใหก้ �ำ ลงั ใจ พอมพี ส่ี าวมาดแู ลแม่ ผมกถ็ อื โอกาสขา้ มเรอื จากฝงั่ ศริ ริ าชมาทา่ พระจนั ทร์ เดนิ เข้าไปในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตกึ โดมยงั ยืนเด่นเป็นสงา่ ทุกอย่างเปลยี่ นแปลง ธรรมศาสตร์ท่ี ดูใหญ่โตกลับเล็กลง เดินมาเยี่ยมชุมนุมใต้ตึกเศรษฐศาสตร์ก็หายไปหมดแล้ว ไม่มีอะไรเหลือไว้ให้เห็น เหลือไว้แต่ความทรงจำ�ในอดีตเป็นเมฆหมอกจางๆ ได้แต่เห็น คร้ันจะคว้าจับมาถือไว้ก็อันตรธานหายไป ชวี ิตกเ็ ปน็ อย่างนี้ เกบ็ สุข กลางทุกข์ วธิ คี ิดและแนวทางเปลี่ยนทุกข์... เป็นสุข 63

ผมลางานมาปฏบิ ัติดแู ลแม่สามสบิ วัน แม่ยา้ ยกลับมาอยู่กับพ่ชี ายที่บา้ น ผมนอนข้างๆ แม ่ทุกวัน พอแมข่ บั ถ่ายออกมา ผมจะเปน็ คนเอากระโถนไปเทในห้องน�ำ้ ไม่ไดด้ แู ลแม่มาเสยี นานเป็นเวลาย่สี บิ กว่า ปี อยากจะทำ�ความดีเล็กๆ น้อยๆ เพ่ือตอบแทนบุญแม่ มีวันหน่ึงผมขออนุญาตแม่ออกไปซ้ือของท่ี ศูนย์การค้าซีคอน บอกแม่ว่าไม่ต้องรอเพราะอาจจะกลับดึก พอผมกลับมาก็ดึกแล้ว คนดูแลแม่มา บอกว่าคุณผู้ชายยังไม่กลับ คุณย่าก็ไม่ยอมทานข้าว จะรอคุณผู้ชาย ผมต้องมานั่งกินข้าวกับแม่ซ่ึงรอ ผมอยู่ แม่คงรักและยงั เปน็ ห่วงเราเหมอื นตอนท่ีเรายังเปน็ เดก็ อยา่ งไรกอ็ ย่างงั้น รักเจ้า จงึ ปลกู รกั ลกู แมย่ อ่ มหว่ งใย ไม่อยากจากไปไกล แมเ้ พียงครงึ่ วนั วันสุดทา้ ยทีผ่ มต้องกลบั อเมรกิ า แม่นอนอยู่ในห้องคนเดียว ผมบอกแม่วา่ ผมจะต้องกลับอเมรกิ า แล้วนะ น้ำ�ตาแม่ไหลออกมา เหมือนจะล่วงรู้ว่า แม่กับลูกจะไม่ได้เจอกันอีกแล้วในชาตินี้ ผมก็ได้แต่ ปลอบใจแม่ จูบแม่ท่ีหน้าผาก บอกแม่ว่าแล้วผมจะกลับมาอีก แต่ผมก็กลับมาไม่ทันที่จะเห็นใจแม่ แม่สิ้นบุญในเดือนกุมภาพันธ์ปีต่อมา ผมบวชให้แม่เป็นคร้ังที่สองพร้อมๆ กับหลานชายและน้องชาย เดินนำ�ศพแมข่ น้ึ สเู่ ชงิ ตระกอน เรียนถามพระอาจารย์ท่ผี มฝากตวั เป็นศษิ ยว์ า่ แม่ผมไปอยู่ท่ีไหนตอนนี้ พระอาจารย์ตอบ แมค่ ณุ ตายสวย รา่ งยังมีความสวยงาม เหมอื นคนนอนหลับ ตอนน้ขี นึ้ ไปเสวย ผลบุญอยู่บนสวรรค์ ช้นั จตุมหาราชกิ าแล้ว จบบรบิ รู ณ์ เริ่มเขยี นวันท่ี 11 สิงหาคม เขียนจบเมื่อวนั ท่ี 19 สงิ หาคม 2553 หมายเหต:ุ ทพ่ี อเหน็ สุขกลางทกุ ข์ได้ ก็ตอ้ งอาศัยเวลา เอาเขา้ จรงิ ๆ ถ้าไม่เตรียมตวั ไวก้ อ่ น ตามมนั ไม่ทันหรอกครับ เหน็ แต่ทุกขเ์ กือบท้งั น้ัน 64 โครงการจัดการความรู้ สุขภาวะระยะท้าย เลม่ 2

แลว้ ... เสอื ... ก.็ .. กงั สดาล ชวลิตธ�ำ รง http://www.gotoknow.org/posts/568724 ในท่ีสุด... วันนี้กม็ าถงึ ทั้งทีเ่ ตรยี มใจไว้บา้ งแลว้ แต่เมอ่ื ถงึ เวลา ก็อดไมไ่ ดท้ ี่จะ...เศรา้ ใจ... ‘เจ้าเสือ’ลูกหมาบ้านผสมบางแก้วท่ีแม่อุ้มเข้ามาบ้านต้ังแต่ยังไม่หย่านมดี และตั้งแต่วันนั้น มัน กลายเป็นขวัญใจของบา้ นและเปน็ สว่ นหน่ึงของครอบครวั เรามาจนถึงวนั น้ี วันสดุ ทา้ ย... เกือบ 19 ปีทอ่ี ยดู่ ้วยกนั แมฉ้ ันเปน็ เพียงหมายเลข 2 ของมนั ฉันยงั เศร้าใจไดถ้ ึงขนาดนี้.. ยังจ�ำ ไดว้ า่ .. ครง้ั หนง่ึ แมเ่ ข้าไปในครวั และถามฉันวา่ จะทานอะไร ฉนั ตอบไปวา่ “ไข่ดาวสักฟองก็ พอคะ่ ” เพื่อไม่อยากให้แมต่ อ้ งยุ่งยากมาก พอเสร็จ... แมท่ ำ�ข้าวผดั ตอ่ ใสซ่ อส ใส่ไข่ ครบเครอ่ื ง ฉันเหน็ จงึ เปลย่ี นใจ ขอทานขา้ วผดั บา้ ง แมว่ า่ ... “ไหนวา่ เอาแค่ไขด่ าว…” “ก็เหน็ ขา้ วผดั หอมน่าทาน จะขอทานดว้ ยคะ่ ” ฉนั ตอบ “อันน้ี ของเสือ แมไ่ มไ่ ดท้ ำ�เผ่อื ลกู ....” เก็บสขุ กลางทุกข์ วิธคี ดิ และแนวทางเปลี่ยนทกุ ข.์ .. เป็นสุข 65

ฉันโวยวายใหญ่ แตก่ ็ไรผ้ ล ไดแ้ ต่กม้ หน้ากม้ ตากนิ ไข่ดาวไป ขณะท่ีเสือเอรด็ อร่อยกบั ขา้ วผ ดั จาน พเิ ศษ คงไม่ต้องบอกวา่ ใคร... เป็นหมายเลข 1 ของเสือ เจ้าเสือ...จากไปอยา่ งสงบด้วยความชราในมุมโปรดของมัน ไม่ไดท้ นทกุ ขท์ รมานอะไร ซงึ่ ยงั นบั ว่า โชคดี ....อีกหนึง่ ชีวิตนอ้ ยๆ ในครอบครวั ได้จากไปแล้ว ...ครั้งสุดท้ายที่ไปโรงหมอเพ่ือหาซ้ือยาบำ�รุงให้เจ้าเสือ และหลังจากท่ีเค้าทราบอายุของมันจาก การซกั ประวตั ิ ฉนั เจอค�ำ ถามระหวา่ งท่ีก�ำ ลงั รับยา “ถา้ มันไม่อยู่แลว้ จะหาสตั ว์อ่นื มาเลีย้ งอกี มยั้ ?” ฉันหยุด.. เงยหน้าข้ึนมองไปยังตน้ เสียงทีถ่ าม...ส่งย้มิ ให้ 1 หวาน เพราะในใจยงั ไมม่ ีคำ�ตอบ จนวนั นี้ ฉนั มีค�ำ ตอบแลว้ ... ถ้า... ไมพ่ รอ้ ม...ท่จี ะท�ำ ใจ..ให้ไมร่ กั .. กต็ ้องตดั ไฟเสยี แตต่ ้นลม.. ไมส่ ร้างความรกั ความผูกพนั กบั ชวี ติ น้อยๆ ใดๆ ข้นึ ใหม่อกี เพราะไมอ่ ยากเสียศูนย์ กบั ความสญู เสีย... ขอจงเปน็ สุขเปน็ สขุ เถดิ นะ...เสอื น้อย... การสญู เสียชีวติ น้อยๆ ซึ่งเปน็ สว่ นหนึ่งของครอบครัวเราไปนน้ั ไมม่ ีใครสามารถห้ามไม่ใหเ้ กิดข้ึน ได้ หากแต่ความเศร้าเสียใจจากความสูญเสีย พอจะยังประโยชน์บ้างด้วยการมองให้ทะลุเหตุการณ์น้ัน ตัง้ สตแิ ละเรียนรู้เพ่อื ไม่ใหก้ ารสูญเสยี นน้ั ... สูญเปล่า เมื่อเอาตวั ออกจากทุกข์ มองทะลุ เราจะเหน็ ความสขุ อย่างน้อย ก็ไม่สร้างเหตุแห่งทุกข์ใหมข่ ึน้ มาอกี เมือ่ ทกุ ขน์ ้อยลง สุขกเ็ ข้าแทนทีเ่ พม่ิ ข้ึน ...อยากแบ่งปนั มุมมองจากประสบการณท์ ่ีไดร้ ับ จากชีวิตเล็กๆ ชวี ิตหนึง่ ในครอบครัว ปล. ขออโหสิกรรมแทน ‘เจ้าเสือ’ ต่อผู้ที่เคยโดนเสือล้อเล่นแรงๆ แง่งๆ งั้มๆ ใส่ ตามประสา หมาดุ... ส่วนรูปเขียนน้ี เคยให้เพื่อนช่วยเขียนให้นับว่าใกล้เคียงท่ีสุด ทั้งสีและลีลา เพราะภาพถ่าย หายากเหลอื เกนิ โดย เกลียวซ้าย 66 โครงการจดั การความรู้ สขุ ภาวะระยะท้าย เลม่ 2

สัมผัสของเมีย รัชวรรณ พลศกั ด์ิ http://www.gotoknow.org/posts/568973 “ในยามไมม่ ีใคร เรายงั มีสองคนผวั เมยี ” แม…่ เคยบอกผ้เู ขียน เมอื่ ผเู้ ขยี นบอกวา่ จะไมแ่ ต่งงาน “ใครๆ ก็ไม่เหมือนผัวเมยี เวลาเจบ็ ปวด ใครจะกล้าเปิดผา้ ถงุ เช็ดข้ีเยย่ี วไดเ้ ท่าผวั เมยี ” การปฏิบตั ติ ัวของบวั เลยี นต่อสามี ทำ�ใหผ้ เู้ ขียนคดิ วา่ ‘ค�ำ พูดของแมเ่ ปน็ เรอ่ื งจริง’ สามีของบัวเลียนหย่าเครื่องช่วยหายใจไม่ได้ คุณหมอคุณพยาบาลพยายามเท่าใดแล้วก็ไม่เป็น ผล แม้จะถูกเจาะคอ เสมหะก็ยังมีเป็นจำ�นวนมาก ไอ ขับเสมหะไม่ได้เลย บัวเลียนต้องท้ิงสวนยางมา เฝ้าสามีที่โรงพยาบาล ปล่อยให้ลูกๆ เป็นผู้ดูแลสวน ส่วนบัวเลียนรับหน้าที่ดูแลสามี นานๆ คร้ังเป็น เดอื น ลกู ๆ ถึงจะมาหาสักที มีคร้ังหนึ่ง บัวเลียนพูดกับผู้เขียน คล้ายจะน้อยใจว่า “ดีเหมือนกันได้มาอยู่โรงพยาบาล ไม่ต้อง ทำ�สวน ขาวขึ้นเยอะเชยี ว ลกู ๆ คงดำ�จนขึ้นมนั กนั แลว้ ” บัวเลียนไม่รู้จะทำ�กิจกรรมอะไรให้สามีบ้างในแต่ละวันเม่ือถึงเวลาเย่ียม ผู้เขียนจึงชวนเชิญให้ บวั เลียนนวดสัมผัสใหส้ ามี ในวันแรกที่เราฝึกไปด้วยกัน ผู้เขียนได้เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของสามีบัวเลียน บัวเลียนยิ้มท้ัง น้ำ�ตาใหผ้ เู้ ขียนและสามี เราเปลี่ยนเป็นนวดเทา้ บ้างนวดมอื บ้างสลบั กนั ไป เธอหยอกลอ้ สามวี ่า “กินขา้ ว เยอะๆ นะ จะได้ไม่เจ็บมือเวลานวด เพราะเหลือแตก่ ระดูก” สามีบวั เลียนจะผอมลงมากจริงๆ คุณหมอ ต้องเพิ่มไข่และแคลอรีให้อีก ผู้เขียนสังเกตว่า เสมหะของสามีบัวเลียนลดน้อยลง จนดูเหมือนจะถอด เคร่ืองช่วยหายใจได้ แต่ก็น่าเสียดาย เม่ือเขาได้รับการฝึกหายใจสลับระหว่างออกซิเจนและเครื่องช่วย หายใจ ในวันหนึ่ง สามีบัวเลียนส่ายหน้าไม่ยอมรับการฝึกหายใจ ดูเขาอ่อนเพลียมาก ผู้เขียนแนะนำ� ให้บวั เลยี นนวดหนา้ ผาก นวดศรี ษะให้ เขาไมม่ รี อยย้ิม กลบั มีรอยน้ำ�ตาซึมที่เบา้ ตา สามบี วั เลียนตดิ เชอ้ื ดอ้ื ยา ไม่ตอบสนองตอ่ ยา คุณหมอคณุ พยาบาลบน่ ผิดหวงั เก็บสุข กลางทุกข์ วธิ คี ิดและแนวทางเปลี่ยนทุกข.์ .. เป็นสขุ 67

แต่...บัวเลียน กลับบอกว่า “เราได้ทำ�ดีท่ีสุดแล้ว ได้เห็นรอยยิ้ม ได้เห็นร้ิวรอยของการขม วดคิ้ว หายไปจากหนา้ สามกี เ็ ปน็ สขุ อนั ยิง่ ใหญแ่ ลว้ ไม่มีอะไรติดคา้ งคาใจแล้ว” ลูกๆ มารบั ศพของพอ่ กลบั บ้าน เราจัดรถโรงพยาบาลไปส่ง ญาตๆิ ตา่ งขอบคณุ ทเ่ี หน็ ว่า ‘เราท�ำ ดี กับคนไข้’ บัวเลียนยังแวะมาเย่ียมเราทุกครั้งที่เข้าเมือง เราต่างไม่ได้หวังอะไรมากไปกว่า ‘ความสุข ของประชาชน แมว้ า่ มบี างชวี ติ ต้องจากไป’ เราขอให้บัวเลยี นมีความสขุ เช่นกัน มีความสขุ ภายใตส้ ขุ ภาพ ดที ัง้ กายท้งั ใจ หวังวา่ เราจะได้พบกันในสถานะ ‘ผแู้ วะมาเยย่ี มเยือน ไม่ใชผ่ ู้แวะมานอนรักษาตวั ’ 68 โครงการจดั การความรู้ สุขภาวะระยะทา้ ย เล่ม 2

พรุง่ น้ที ่ีไม่มีวนั มาถงึ เบญจรตั น์ สัจกลุ http://www.gotoknow.org/posts/569086 บ่ายแก่ๆ ของเย็นวันศุกร์ที่ 15 มีนาคม ปี 2556 มีเสียงโทรศัพท์สายหนึ่งโทรเข้ามาในขณะท่ี ฉันกำ�ลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องสมุด ผู้หญิงในปลายสายมีนำ้�เสียงเรียบๆ ค่อยๆ บอกเล่าเรื่องราว ต่างๆ ให้ฉันฟังเนื่องด้วยวันน้ันเป็นวันฝนตก ลมพัดแรง ทำ�ให้เสียงท่ีฉันได้ยินจากปลายสายไม่ค่อย ชดั เจนนกั แต่ประโยคท่ฉี นั ไดย้ ินชดั เจนและดงั ก้องท่สี ุดในตอนนัน้ ฉันยงั จ�ำ ได้ดี แม่ : ผลตรวจของแม่เมอ่ื เชา้ หมอบอกวา่ ...แม่เปน็ โรคร้าย ฉัน : โรคร้าย?? คือ โรคอะไรคะ แม่ : ก.็ .น่ันแหละ โรคน้นั แหละ ฉนั : แม่เป็นอะไร? (ใจคอเรมิ่ ไมด่ ีแลว้ ) แม่ : แมเ่ ปน็ มะเร็ง เป็นมะเร็งเมด็ เลือดขาว ฉนั : ........................................... (นิ่งไปประมาณ 1 นาท)ี ฉัน : แล้วแมอ่ ยทู่ ี่ไหน อยกู่ บั ใคร แม่เปน็ ไงบา้ ง..... (ค�ำ ถามต่างๆ พรง่ั พรขู น้ึ มาในสมอง จนฉัน เรยี บเรยี งประโยคผดิ ๆ ถกู ๆ) จนกระท่งั ได้สติ จงึ รบี วางสายจากแม่ แลว้ โทรหาพชี่ ายและพดู เก่ียวกบั เรอ่ื งราวต่างๆ ทีเ่ กิดขน้ึ จนไดข้ ้อสรปุ ตรงกันว่า เราท้งั สองคนจะเดินทางกลบั ตา่ งจังหวดั เพื่อไปเยยี่ มแม่ที่โรงพยาบาล ฉันรีบเก็บข้าวของที่วางบนโต๊ะ แล้ววิ่งออกจากห้องสมุดโดยเร็ว จนลืมไปเลยว่าข้างนอกฝน ก�ำ ลังตกหนัก ณ วินาทีนั้น ฉันไม่คิดแม้แต่จะหยิบร่มในกระเป๋ามากางกันฝน รีบว่ิงให้ไปถึงป้ายรถเมล์ให้เร็ว ท่ีสดุ เพ่ือให้ไปถึงปลายทางเรว็ ทสี่ ดุ ฉันและพี่ชายจัดเตรียมส่ิงของเพื่อกลับต่างจังหวัดด้วยเวลาอันรวดเร็ว ฉันเก็บของไปร้องไห้ ไปพลาง พ่ีชายกค็ อยปลอบใจ และให้ก�ำ ลงั ใจ บอกวา่ “แม่ตอ้ งไม่เป็นอะไรๆๆ” (พดู แบบนซี้ ำ�้ ๆ) เก็บสขุ กลางทกุ ข์ วิธีคิดและแนวทางเปลย่ี นทกุ ข.์ .. เป็นสุข 69

ระหว่างการเดินทาง ฉันและพี่ชายแทบจะไม่พูดคุยอะไรกันเลย ต่างคนเหมือนกำ�ลังนั่งคิด อะไร บางอย่างอย่กู บั ตัวเอง... จนกระทง่ั วนั เสารท์ ่ี 16 มนี าคม 2556 (เดนิ ทางครบ 12 ชวั่ โมงเตม็ ) ฉนั และพช่ี ายมาถงึ โรงพยาบาล และรีบมุ่งตรงไปยงั หอผูป้ ่วยทีแ่ ม่นอนพักรักษาตวั อยู่ เปดิ ประตหู ้องเขา้ ไป... ส่ิงแรกท่ีเจอ คือ แม่อยู่ในชุด รพ.สีเขียวอ่อน รีบเดินเข้ามาหาพวกเราทั้งสองคน เข้ามากอด แล้วรอ้ งไห้ เราสามคนแม่ลูกกอดกันโดยไม่มีคำ�พูดใดๆ มีเพียงเสียงสะอื้นของผู้เป็นแม่ ที่กอดเราทั้งสองคน ดว้ ยความคดิ ถงึ และด้วยความเศร้าทกุ ขร์ ะทมกบั ความเจ็บปว่ ยทเ่ี กิดข้นึ หลังจากนน้ั ... ฉนั และพ่ชี ายเก็บขา้ วของ และมานั่งคยุ กบั แม่ ดูแลแม่ (เทา่ ท่จี ะทำ�ได)้ ชว่ งเวลา เหล่านน้ั ฉนั ไมร่ ูเ้ ลยจริงๆ ว่าฉนั ต้องทำ�อะไรบ้าง มันดสู บั สนไปหมด แต่ในใจก็ยังคิดอยเู่ สมอว่า ‘แม่ต้อง ไม่เปน็ อะไร’ ทกุ ครงั้ เวลาทฉี่ นั นง่ั คยุ กบั แมข่ า้ งๆ เตยี ง ฉนั มกั จะถามแมเ่ สมอวา่ “แมเ่ จบ็ มยั้ ปวดตรงไหนรเึ ปลา่ ” แม่ก็มักจะตอบว่า “ปวดเหมือนๆ เดิม เหมือนท่ีเคยปวด เม่ือยตรงน้ันตรงน้ี เพลียๆ นิดหน่อย” เป็น คำ�ตอบท่ีได้ยินบ่อยคร้ัง อาการเดิมๆ เหมือนท่ีเคยเป็น เหมือนตอนที่แม่กำ�ลังย่างเข้าสู่วัยทองใหม่ๆ หรือตอนทแี่ มพ่ ักผอ่ นนอ้ ย เน่อื งจากนอนไมห่ ลบั แตท่ �ำ ไมครง้ั นห้ี มอตอ้ งใหย้ า ใหเ้ ลอื ดตง้ั เยอะตง้ั แยะ แมเ่ ปน็ มะเรง็ เมด็ เลอื ดขาว แลว้ ยงั ไงตอ่ ละ่ ? อาการตอ่ จากน้ีจะเป็นยังไง ต้องดูแล ตอ้ งรักษาตอ่ แบบไหน ต้องนอนท่ีโรงพยาบาลอกี กว่ี นั ฯลฯ ฉันมีค�ำ ถามในใจมากมาย.. พี่ชายฉันหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต อ่านอาการของโรค การรักษา รวมท้ังวิธีการดูแลผู้ป่วยให้ ฉันฟังอย่างละเอียดยิบ และนำ�ไปถ่ายทอดให้แม่ฟังเก่ียวกับโรคน้ี พร้อมทั้งบอกให้แม่คลายความกังวล ว่าโรคน้มี คี นเปน็ กันเยอะ คนทีเ่ ปน็ แล้วหายกม็ ีอยไู่ ม่นอ้ ย แตแ่ มต่ ้องเข้มแข็ง ต้องมกี �ำ ลังใจที่ดี แล้วแม่ จะตอ่ สู้กับโรคนี้ได้ ตอนนั้น สีหน้าแม่ดูสดชื่นขึ้นอย่างชัดเจน บรรยากาศในวันน้ันเป็นปกติดีทุกอย่าง แม่กินข้าวได้ นอนหลับพักผ่อนเป็นช่วงๆ ฉันและพี่ชายสลับกันดูแลแม่ พ่ีชายพาแม่เข้าห้องนำ้�บ้าง ฉันเช็ดตัวให้ แม่บ้าง ช่วยกันตักข้าวให้แม่ทานบ้าง ช่วงเวลานั้น ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาท่ีแม่กำ�ลังเจ็บป่วย แต่ฉัน 70 โครงการจดั การความรู้ สุขภาวะระยะท้าย เลม่ 2

รู้สึกว่า มันก็ดีนะ เราไม่ได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาแบบนี้ต้ังนานหลายเดือน ต่างกันแค่ส ถานท่ี เทา่ น้ันเอง เปล่ยี นจากทบี่ ้านมาอยู่ท่ีโรงพยาบาล... แม่ดูมีความสุข เวลาที่พวกเราสองคนนั่งใกล้ๆ และได้พูดคุยเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้กันในเวลา กลางคืนของวันน้ัน พ่ีชายชักชวนให้แม่สวดมนต์ก่อนนอน แม่พยายามปฏิเสธ บอกว่าสวดไม่ไหว เพลยี ๆ เหนอื่ ยๆ พี่ชายก็คะยนั้ คะยอ จนกระทั่งแม่ยอมสวดจนจบ (น่เี ปน็ ครงั้ แรกที่เราสวดมนตพ์ รอ้ มกันสามคน) สวดเสร็จก็รีบปิดไฟ เพ่ือให้แม่ได้นอนพักผ่อน ฉันกับพี่ชายตกลงกันว่าจะสลับเปล่ียนผลัดกันดูแลแม่ ในช่วงที่พี่ชายหลับ ฉันจะอยู่เฝ้า ในช่วงที่ฉันหลับ พ่ีชายจะอยู่เฝ้า ขณะท่ีฉันนอนเฝ้าแม่ตอนกลางคืน ฉันไม่สามารถข่มตาหลับได้อย่างสนิทใจ มันเหมือนมีหลายๆ อย่างที่ต้องคิด พยายามตัดใจจะไม่คิด แต่อดคิดไม่ได้ ร้สู กึ กงั วลตลอดเวลาทแ่ี มน่ อนหลับ ย่งิ เวลาท่แี ม่ไอ หรอื เวลาที่แมพ่ ลกิ ตัวไปมา ก็ยงิ่ รสู้ กึ กังวล สภาพทเี่ ปน็ คอื การหลับๆ ตืน่ ๆ ตลอดท้งั คืน เช้าวันอาทิตย์ ท่ี 17 มนี าคม 2556 ฉันและพ่ีชายตื่นขึ้นมาจัดเตรียมของต่างๆ เปลี่ยนเส้ือผ้าให้แม่ เพ่ือเตรียมรอเวลาท่ีหมอจะ เข้ามาตรวจอาการอีกทีในช่วงสายๆ ระหว่างที่รอหมอ มีญาติๆ และเพ่ือนร่วมงานของแม่มาเย่ียมโดย ไม่ขาดสาย พอคนน้ีกลับคนโน้นก็มา บางคนหุงข้าว ทำ�กับข้าวใส่ป่ินโตมาฝาก บางคนซื้อของท่ี แม่ชอบมาฝาก ทุกคนท่ีมาเย่ียมแม่ เป็นห่วงแม่กันทุกคน แม่ก็มีสีหน้าท่ีปกติ พุดคุยหัวเราะ ร่าเริง ได้เหมือนเดิม จนกระท่ังหมอเข้ามาตรวจช่วงสายๆ หมอบอกว่าเกร็ดเลือดแม่ตำ่�ทำ�ให้ภูมิคุ้มกันใน ร่างกายพลอยตำ่�ไปด้วย ต้องระมัดระวังให้มากๆ และหมอบอกว่างดเย่ียม เนื่องจากคนที่มาเยี่ยมอาจ นำ�เชอ้ื โรคมาให้แมไ่ ด ้ ขนาดตอนทีง่ ดเยีย่ ม กย็ ังมเี พอื่ นๆ มาโผลห่ น้าตรงประตูยืนดแู ม่ ถึงเขา้ มาไมไ่ ด้ แตข่ อผา่ นมาเยย่ี มก็ยงั ดี ในชว่ งเวลาแบบน้ี มีคนทค่ี อยแวะเวียนมาให้ก�ำ ลงั ใจแม่ไมข่ าดสาย แม่โชคดีจงั :) ใครๆ ตา่ งพา กันรัก เพราะแม่ใจดีกับทุกคน แม่ช่วยเหลือคนอ่ืนมาตลอด นี่คงเป็นอีกช่วงเวลาหน่ึง ที่เป็นความสุข ระหว่างทาง ในเสน้ ทางของความทุกขส์ ินะ... เย็นวันนั้น ก่อนท่ีฉันจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ เน่ืองจากต้องทำ�ธุระบางอย่าง ฉันและพี่ช่วยกัน อาบน�้ำ เปลี่ยนเส้ือผ้าให้แม่ ฉันตัดเล็บมือเล็บเท้าให้แม่ หวีผมให้แม่ ทาแป้งหอมๆ ให้แม่ (ทำ�ทุกอย่าง ให้ดที ีส่ ุดเทา่ ทีจ่ ะทำ�ได้) ก่อนเวลาเดินทางกน็ ง่ั คยุ กับแม่ใกล้ๆ สลบั กนั ป้อนขา้ วตกั อาหารให้แม่กบั พีช่ าย สองคน เก็บสขุ กลางทกุ ข์ วิธีคดิ และแนวทางเปล่ียนทุกข์... เปน็ สุข 71

วินาทีนน้ั เป็นอกี ช่วงเวลาแห่งความสขุ ทเี่ กิดขน้ึ ฉนั อยากหยดุ เวลาไว้ตรงนั้นนานๆ อยากใช ้เวลา ด้วยกันสามคนแม่ลูก แบบน้ี ไปเร่ือยๆ จนใกล้เวลาเดินทางฉันเข้าไปกอดแม่ หอมแก้มแม่เหมือนทุกๆ ครงั้ แลว้ บอกแมว่ ่า “พรุง่ นเี้ จอกนั นะแม่” ฉันไม่อยากจะหันหลังให้กับแม่ แล้วปล่อยให้แม่อยู่แบบนี้เลย ถ้าไม่ใช่ธุระจำ�เป็นจริงๆ ฉันคง ไม่ไป... นี่เป็นครั้งแรก ท่ีฉันเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยไม่มีแม่ไปส่งท่ีบขส. เหมือนเคย ใจมันหวิวๆ แปลกๆ แตฉ่ นั ก็พยายามฝืนใจ และบอกตวั เองว่า “ยังไงเดย๋ี วกก็ ลบั มา ไปเดยี๋ วเดยี ว พช่ี ายก็ยังอยทู่ ีน่ ่ี ท้ังคน” ฉันเดินมาจนถึงประตูห้อง แล้วเดินกลับไปหาแม่อีกคร้ัง และกอดแม่อีกคร้ังแล้วก็ย้ำ�กับแม่ว่า “พรงุ่ นี้จะกลบั มานะแม”่ แม่ก็ลุกจากเตียงตามมาส่งถึงหน้าประตูห้อง ต้ังแต่วินาทีที่ก้าวออกจากห้อง จนกระทั่งก้าว ข้ึนรถเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ ฉันรู้สึกว่าไม่อยากกลับๆๆ อยู่ซำ้�ๆ ระหว่างที่นั่งอยู่บนรถ ก็พยายาม ฟังเพลงเพื่อจะได้หลับ แต่ก็หลับไม่ลง จนกระท่ังเวลาประมาณทุ่มเศษๆ ระหว่างที่กำ�ลังเดินทางพี่ชาย โทรเขา้ มาแลว้ เลา่ อาการของแม่ใหฟ้ ัง พี่ชายบอกว่าแม่อาการไม่ค่อยดีดูเบลอๆ ยังไงแปลกๆ เหมือนไม่ค่อยมีสติด้วยซำ้� พอพูดจบ พี่ชายก็รีบวางสายบอกว่า จะไปตามหมอมาดูอาการ ระหว่างน้ันฉันใจคอไม่ดีเลย คิดไปต่างๆ นานา ภาวนาขอให้แม่ไม่เป็นอะไร หลังจากนั้นประมาณ 20 นาที พี่ชายโทรมาอีกครั้งบอกว่าให้ฉันตีตั๋วรถ กลับด่วน เพราะแมอ่ าการไม่คอ่ ยดี ความดันต�ำ่ เรมิ่ จะไม่มีสติ ได้ยินแบบนั้นแล้ว ฉันรู้สึกเหมือนโลกมืดมิดไปหมด คิดอะไรไม่ออกทำ�อะไรไม่ถูก จนกระท่ังเริ่ม ได้สติ หันไปมองข้างทางเพ่ือหาจุดสังเกตว่าเดินทางไปถึงไหน ตอนน้ันเดินทางไปถึง อ.สวี จ.ชุมพร ซ่ึงเดนิ ทางไกลพอสมควรจากต้นทาง จงึ รบี เดินไปหาพนกั งานขับรถดา้ นหนา้ เพือ่ สอบถามว่ามจี ุดไหนท่ี สามารถแวะลงระหว่างทางได้บ้าง ขอเป็นจุดท่ีมีบ้านคนอาศัยหรือมีอะไรท่ีเด่นๆ เพ่ือที่ว่าคนท่ีจะมารับ กลบั หาเจอไดส้ ะดวก จดุ ท่ีจอดลงคอื สน.สวี จ.ชุมพร ขา้ งๆ มีปัม๊ น้�ำ มนั ตอนนัน้ เวลาประมาณ 2 ทุ่มเศษๆ ฉนั ไมร่ ู้เลย ดว้ ยซำ้�วา่ จะมีท่ีไหนทฉ่ี ันสามารถน่ังรอไดบ้ ้าง เพราะปกติตา่ งจังหวัด เวลาท่มุ -สองท่มุ คนก็พากนั ปดิ บ้านกนั หมด ฉนั จึงเดินไปทปี่ อ้ มต�ำ รวจข้างๆ สน. เหน็ มีไฟเปดิ อยู่ เลยสันนษิ ฐานว่า นา่ จะมีคนเขา้ เวรอยู่ แถวๆ นน้ั แต่ก็ไมเ่ ปน็ อย่างที่คิด แถวนนั้ ไม่มีใครเลยสักคน ตอนนั้นรสู้ ึกกลัว จงึ กดโทรศัพทห์ าอาจารย์ ท่านหน่ึง (ซง่ึ เปน็ อาจารยท์ ่ีมหาวทิ ยาลัยท่เี คยสอนฉนั และพี่ชายของฉนั รวมทัง้ คอยช่วยเหลอื อบรมสง่ั สอนพวกเราสองพ่ีนอ้ งมาโดยตลอด) อาจารย์บอกวา่ ใหพ้ ยายามมีสติลองดวู ่า แถวนนั้ มจี ดุ ไหนทย่ี ังพอ แวะพกั ไดบ้ า้ ง ใหร้ ะมดั ระวงั ดแู ลตวั เองใหด้ ๆี ถา้ แวะไปที่ไหน ให้โทรบอกรายงานความคบื หนา้ เปน็ ระยะๆ 72 โครงการจัดการความรู้ สุขภาวะระยะท้าย เลม่ 2

ทนั ใดน้ัน ฉนั หันไปเจอปั๊มน้ำ�มันเลก็ ๆ ใกล้ๆ กับสน. จึงเขา้ ไปสอบถามเด็กป๊มั วา่ ทน่ี เี่ ปดิ ถ ึงกที่ ุ่ม เดก็ ปมั๊ บอกวา่ 3 ทุ่ม ปั๊มกจ็ ะปิด ฉนั กม้ มองนาฬกิ าอกี 15 นาที กจ็ ะสามทมุ่ จะนงั่ รอทน่ี ค่ี งไมไ่ ดแ้ น่ เพราะ พอถงึ เวลาปมั๊ ปดิ ทน่ี ี่คงมดื มาก ฉันจึงเดนิ ออกจากปัม๊ ดว้ ยอาการคอตก รู้สกึ ผิดหวงั เดนิ ไปน้�ำ ตาคลอไป ชีวติ แลดเู หมอื นไร้จุดหมายปลายทาง ฉนั ได้แตเ่ ดินหนา้ ต่อไปเร่อื ยๆ ขา้ งทางกม็ ดื แสนมดื แต่ฉนั กย็ งั เดิน ไปเร่อื ยๆ หวงั ว่าจะเจอบา้ นผูค้ นหรอื รา้ นค้าอยูข่ ้างหน้า เดนิ ไปสกั พกั ... ฉนั มองเหน็ ปา้ ยรมิ ทางปา้ ยใหญเ่ ขยี นวา่ ‘รา้ น...ขา้ วตม้ โตร้ งุ่ ’ จงึ รบี เดนิ มงุ่ ไปทร่ี า้ น หาที่นงั่ ทีม่ คี นน่ังอยูเ่ ยอะๆ คณุ ป้าเจ้าของร้านเดินมาแลว้ ยื่นรายการอาหารมาให้ ฉันพลิกรายการอาหาร ไปมาอยู่หลายรอบ จนตัดสินใจเลือกอาหารไดอ้ ย่างสองอย่าง ทงั้ ๆ ท่ีใจไมค่ ิดอยากจะกนิ แตจ่ ำ�เป็นตอ้ ง สั่ง ไหนๆ นัง่ รา้ นเคา้ ท้ังที นำ�้ เปล่าอยา่ งเดยี วก็เกรงใจ ระหว่างท่รี ออาหาร ฉันได้แตน่ ั่งร้องไห้เงยี บๆ อยู่ คนเดียว ระหว่างนั้น ญาติที่จะมารับโทรมาบอกว่า กำ�ลังจะขับรถมาจากสุราษฎร์ฯ (ระยะทางจากท่ีสุ ราษฎรถ์ ึงจุดทีฉ่ ันอยูห่ า่ งกนั เกอื บ 200 กิโลเมตร) ทกุ นาทีทร่ี อมนั ช่างนานแสนนาน... ความรสู้ ึกในการรอคอย ณ ตอนนนั้ เป็นความรู้สกึ ท่เี กินคำ�อธบิ าย ตลอดเวลาทร่ี อ อาจารย์คอย โทรมาสอบถามตลอดเวลาด้วยความเปน็ หว่ งวา่ แถวน้ันเปล่ยี วมย้ั มีใครอยู่บ้างม้ัย ฉนั ยังคงรู้สึกอนุ่ ใจ ท่ี ยังมีคนท่ีคอยอยู่เคียงข้างเสมอ ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาหนึ่งที่เลวร้าย แต่ก็ยังพอมีส่ิงดีๆ ให้จดจำ�ได้ใน ระหว่างทาง... จนกระท่ังญาตมิ าถงึ จุดทฉ่ี ันน่ังรอ หลังจากทรี่ อมานานถงึ 4-5 ชัว่ โมง กอ่ นออกจากร้าน ฉนั ได้แต่ พูดขอบคุณคุณปา้ และคุณลุงเจา้ ของรา้ นอยู่ซ�ำ้ ๆ พวกเขาดีกับฉันมาก ท้ังท่ีไมเ่ คยรจู้ ักกันเลยสักนิด ใน ระหว่างท่ีรอ เขากม็ าน่ังคยุ เปน็ เพอื่ น คอยถามวา่ เป็นยังไง จะเดินทางไปที่ไหน แลว้ ทำ�ไมถงึ มาคนเดยี ว พอบอกว่าจะเดินทางกลับไปเย่ยี มแมท่ ีป่ ่วยหนกั เขาก็ยง่ิ สงสารและคอยปลอบใจ ตอนก่อนออกจากรา้ น จะจ่ายเงินคา่ อาหาร คณุ ปา้ กับคุณลุงก็ไม่คดิ ค่าอาหาร (ให้ท้ังทนี่ ง่ั พักพงิ ใหท้ ้ังอาหาร) ก่อนจะข้นึ รถ ก็ ยงั อวยพรใหฉ้ ันกลับไปทนั ดูใจแม่ ซง้ึ ใจจริงๆ ระหวา่ งชว่ งเวลาทเี่ ดนิ ทางกลบั มสี ายเรยี กเขา้ จากพช่ี าย ตอนนน้ั เวลาประมาณเทย่ี งคนื -ตี 1 ของ วนั ที่ 18 มนี าคม 2556 พชี่ ายบอกวา่ อยากใหพ้ ดุ อะไรกบั แมเ่ ปน็ ครงั้ สดุ ทา้ ย เพราะแมอ่ าการแยล่ งเรอ่ื ยๆ ความดนั ต�ำ่ แตย่ ังพอมีสตหิ ายใจไดอ้ ยู่ ฉนั เลยรบี คว้าโอกาสนน้ั รวบรวมสตไิ ม่ฟมู ฟาย แล้วพูดทกุ อยา่ งที่ ต้องการพดู ฉันเรยี กแม่เบาๆ แล้วบอกวา่ “แมไ่ มต่ ้องเป็นห่วงหนูนะ ถ้าแม่เหนอื่ ย แมก่ พ็ กั เถอะ หนอู ยู่ ดูแลตวั เองได้ อะไรท่หี นลู ว่ งเกนิ แม่ไป แม่อโหสใิ หห้ นดู ว้ ยนะ รักแมน่ ะคะ” หลังจากพูดจบ ฉันร้องไห้อย่างหนัก ไม่คิดว่าช่วงเวลาในการจากลาจะสั้นถึงเพียงน้ี ไม่คิดว่า ‘เม่ือวาน’ คอื ช่วงเวลาสุดทา้ ยของการใชเ้ วลาอยู่ด้วยกนั และไมค่ ิดเลยวา่ ‘พรุ่งน้’ี เราจะไม่ได้เจอกันอีก เก็บสขุ กลางทุกข์ วิธคี ดิ และแนวทางเปล่ยี นทุกข.์ .. เปน็ สุข 73

รักและระลึกถึงเสมอแม่ผ้เู ปน็ ท่ีรกั ... บทเรยี นเก็บสุขกลางทกุ ข์ 1. การทำ�ปัจจุบันขณะให้ดีที่สุดต่อตนเองและต่อคนรอบข้างคือส่ิงที่สำ�คัญ เราไม่มีวันรู้เลยว่า จะมี ‘พรุ่งน้’ี เกิดขนึ้ ได้อีกกีค่ รงั้ 2. ในช่วงเวลาแห่งความทุกข์ เรามักจะได้เห็นถึงนำ้�ใจที่คนรอบข้างมอบให้เสมอๆ ทำ�ให้เรา เห็นได้ว่า เราไม่ได้เผชิญกับโชคชะตาเหล่านั้นแต่เพียงคนเดียว ช่วงเวลาในการข้ามผ่าน ความทกุ ขย์ าก มีหลายคนท่ีอยู่เคียงขา้ งเราเสมอ 3. เวลาไมเ่ คยรอใคร ทำ�ทกุ วันใหม้ คี วามสขุ พรุ่งนห้ี รอื ชาติหน้า ไม่มีใครรวู้ ่าอะไรมาก่อนมาหลัง (พระไพศาลวิสาโลเคยกลา่ วไว้) 4. ทุกช่วงเวลาแห่งความทุกข์ มีความสุขได้เสมอ และทุกช่วงเวลาแห่งความสุข ก็มีความทุกข์ เกิดขึ้นได้เสมอเช่นกัน เพราะฉะน้ัน จงเตรียมพร้อมท่ีจะรับมือกับความทุกข์และความสุข ท่ีจะเกดิ ข้ึน เหตุการณท์ ง้ั หมดท่เี กดิ ข้ึนในครัง้ นี้ นับเป็นจดุ เปลย่ี นในชีวติ ท่ียง่ิ ใหญ่ทสี่ ดุ ไม่ใชแ่ คค่ วามสญู เสีย แต่มีทั้งความทุกข์ท่ีมาพร้อมกับความสุข หลังจากที่เหตุการณ์ผ่านไปได้ มีโอกาสกลับมานั่งทบทวนส่ิง ที่เกิดขึ้นกับสภาพท่ีตัวเองเป็นอยู่ในปัจจุบัน ถือว่าเราเข้มแข็งและแกร่งพอท่ีจะเผชิญกับอุปสรรคต่างๆ ในเรอ่ื งอ่นื ๆ ไดเ้ หมือนเปน็ บททดสอบครง้ั ใหญ่และดา่ นที่โหดท่ีสดุ ความสญู เสยี ยงั สอนใหร้ คู้ ณุ คา่ ในการมอี ยู่ และมกี �ำ ลงั ใจในการท�ำ ในสง่ิ ทม่ี คี ณุ คา่ ทง้ั ตอ่ ตวั เองและ ต่อคนอ่ืน 74 โครงการจัดการความรู้ สขุ ภาวะระยะทา้ ย เล่ม 2

ด้วยมอื ของลูกชาย รชั วรรณ พลศักด์ิ http://www.gotoknow.org/posts/569050 เคยไดย้ นิ ผู้เฒา่ ผแู้ ก่บอกวา่ “ถ้ามลี ูก ขอให้ได้ลูกสาว เขาจะได้ดูแลยามแกเ่ ฒ่าเจบ็ ปว่ ย” ทกุ เชา้ ทผ่ี เู้ ขยี นมาท�ำ งาน จะมเี ดก็ หนมุ่ ตาใสๆ คนหนง่ึ คอยถามทกุ วนั วา่ “พอ่ มอี าการเปน็ อยา่ งไร บ้าง” หนุ่มน้อยเป็นชาวลาวท่ีพาพ่อข้ามมารักษาท่ีฝั่งไทย พ่อของเขาติดเช้ือในกระแสเลือดอย่าง รุนแรง จนโรงพยาบาลท่เี ขาไปรักษา รกั ษาไม่ได้ ไมม่ ีเครื่องช่วยหายใจ จงึ ต้องส่งตัวมายงั โรงพยาบาล ของผเู้ ขียน เดก็ หนุ่มดแู ลพอ่ ดมี าก คอยเชด็ ตัว คอยนวดแขนขาให้พอ่ ญาติผ้ปู ่วยหลายคน มกั จะถามเขาว่า “ไม่มีพี่น้องเป็นผู้หญิงเหรอ” เพราะต่างประหลาดใจ ไม่ค่อยเจอลูกผู้ชายมาดูแลพ่อแม่ยามเจ็บป่วย เขาจะตอบว่า “ให้พ่ีสาวอยู่เปน็ เพอ่ื นแม่ เขาท�ำ หนา้ ทอ่ี ยูก่ บั พอ่ ” พยาบาลหลายมักจะเอน็ ดเู ขา เพราะแนะนำ�อะไร จะรีบปฎิบัตติ ามทุกครงั้ แม้ว่าบางครั้งตา่ งไม่ เขา้ ใจในภาษาที่ส่ือสารกนั มคี ร้งั หน่งึ เรานมิ นตห์ ลวงพอ่ มารบั สังฆทาน หนมุ่ น้อยไมร่ จู้ กั สงั ฆทาน วฒั นธรรมบา้ นเขาไมเ่ คย ถวายสังฆทาน เขาทำ�ตามญาติผู้ป่วยคนไทยอย่างงงๆ จนถึงช่วงรดนำ้�มนต์ เขาดูตื่นเต้นมาก แววตา สกุ สดใส ขอน้�ำ มนตเ์ ยอะๆ พ่อจะได้หายไวไว ถามหลวงพ่อวา่ “มฝี า้ ยผูกแขนไหม” สมัยกอ่ น คนอสิ าน คนลาว จะทำ�สิง่ ใดๆ แมก้ ารเจ็บปวด ก็มักจะใหห้ ลวงพอ่ ผกู แขนและรดน�้ำ มนต์ให้ เด็กหนุ่มไหว้ขอบคุณผู้เขียน บอกว่าดีใจมาก พรุ่งนี้จะโทรบอกให้แม่เอานำ้�มนต์มาให้พ่ออีก เขาเล่าว่า อยากเอาน้ำ�มนต์มาให้พ่อมาก แต่ไม่กล้านำ�มา เกรงว่าจะผิดระเบียบของทางโรงพยาบาล คราวนีร้ แู้ ลว้ ว่าท�ำ ได้ คนไทยก็มีน้�ำ มนตเ์ หมือนกนั ถึงเวลาเลิกงาน เขามารอผู้เขียนอยู่หน้าประตูห้อง บอกว่าจะรอไปส่งแม่หมอที่รถ แม้ผู้เขียน จะสะดุดกับคำ�วา่ ‘แม่หมอ’ แตก่ อ็ ดยนิ ดีไม่ได้ ที่เห็นเด็กน้อยตาแป๋ว ดใู สซือ่ ปฏบิ ตั อิ ย่างนั้น พร้อมกบั รู้สึกดีท่ีไดเ้ ข้าถึงจิตวิญญาณของคนไข้และญาติ ผู้เขยี นลืมถามไปจริงๆ วา่ “เขาต้องการส่งิ ใด ทีอ่ ยาก ปฏบิ ัตติ ่อพ่อ” แต่… กเ็ ป็นสุขใจ ท่ีไดเ้ ห็นโอกาสของเขา จติ วญิ ญาณของเขา ของชาวบ้าน ในวนั นั้น... เกบ็ สขุ กลางทกุ ข์ วิธีคดิ และแนวทางเปล่ยี นทกุ ข์... เปน็ สขุ 75

รอยย้มิ ...สุดทา้ ย สมพร สายสิงห์ทอง http://www.gotoknow.org/posts/570068 บ่ายวันหน่ึงของกลางเดือนมีนาคม 2554 ซึ่งอากาศร้อนมาก แต่ด้วยความมุ่งม่ันของทีมงาน ซ่ึงมีแพทย์ประจำ�ศูนย์เป็นทีมนำ� ได้ออกหน่วยไปเยี่ยมคุณยายพิการตามคำ�ร้องขอของอสม.ที่บ้าน ซ่ึงเป็นบ้านไม้แบบทรงไทยใต้ถุนสูง เก่าครำ่�คร่า สภาพโยกเอนเล็กน้อย แต่รูปทรงของบ้านยังแสดง ให้ทราบถงึ ฐานะของผู้อาศยั ซงึ่ แตเ่ ดมิ คงเปน็ ผู้มีอนั จะกนิ เมื่อขึ้นบันไดที่โยกเอนกพ็ บคณุ ยายวัย 89 ปี อาศยั อยู่กบั ลกู ชายโรคจติ เภท อายุ 52 ปี ที่ไมร่ บั รู้ ถึงสังคมรอบตัวและการมีชีวิตอยู่ของผู้เป็นแม่ โดยจะทำ�ตัวเหมือนนกที่จะออกจากบ้านต้ังแต่เช้ามืด และกลับเข้าบ้านเพื่อหลับนอนในตอนกลางคืน ยังดีที่คุณยายมีหลานชายวัย 32 ปีอยู่ร่วมชายคาอีก 1 คน ทำ�หน้าท่ีคอยดูแลน�ำ ขา้ วปลามาให้ยายกินในแตล่ ะวัน คุณยายเดินไม่ได้เพราะขาท้ัง 2 ข้างไม่มีแรง สืบเน่ืองจากการหกล้มแต่ไม่ได้รับการรักษาใดๆ มีปัญหาเรื่องการควบคุมการขับถ่าย สภาพของยายขณะท่ีไปเย่ียมคร้ังแรกคือการนั่งแช่อยู่บนกอง อุจจาระปัสสาวะของตัวเองท้ังวัน รอบๆ ตัวยายเต็มไปด้วยคราบอุจจาระท่ีแห้งบ้าง ช้ืนแฉะบ้าง ส่งกล่ินคละคลุ้ง ทุกครั้งท่ีวางเท้าลงบนพ้ืนจะรู้สึกได้ถึงความเหนียวหนึบ แทบยกเท้าไม่ข้ึน หลานชาย บอกว่ายายเป็นคนหัวโบราณจึงไม่ยอมให้หลานซึ่งเป็นผู้ชายอาบน้ำ�ให้ ต้องรอให้หลานสาวที่อาศัยอยู่ นอกเมือง มาชว่ ยอาบนำ้�ให้วันละ 1 ครง้ั ตอนเยน็ ๆ ทั้งหมอทงั้ พยาบาลถึงกับนิง่ อึง้ คณุ หมอถามวา่ “ทำ�ยงั ไงดพี ”ี่ ฉนั เข้าใจความร้สู กึ ของหมอดี ส่งิ แรกท่ีถามญาตกิ ค็ ือ “คุณยายมแี ผลกดทับไหม” หลานบอกว่า “ไม่มคี รับ” คุณยายมีปัญหาเร่ืองหูตึง ทำ�ให้การส่ือสารเป็นไปด้วยความยากลำ�บาก สิ่งที่คิดได้ ในตอนนั้น คอื เกา้ อ้ีน่ังถ่าย 4 ขา ดว้ ยคดิ ว่าจะท�ำ ให้คุณภาพชีวติ ของคณุ ยายดขี นึ้ และยงั ชว่ ยป้องกัน pressure sore3 ไดด้ ้วย เม่อื ไปติดตอ่ ทีง่ านกายอปุ กรณ์โรงพยาบาล กพ็ บวา่ ต้องสง่ั ซื้อเอง เพราะคณุ ยายใชส้ ทิ ธ์ิ 3แผลกดทับ 76 โครงการจัดการความรู้ สขุ ภาวะระยะท้าย เลม่ 2

สูงอายุ เบิกไม่ได้ ราคาตัวละ 2,500 บาท...จะเอางบมาจากไหนดี เทศบาล...ช่วยได้ม้ัย เมื่อไป ติดต่อ เทศบาลๆ ใหท้ ำ�หนังสอื ราชการเพอ่ื ขอความอนเุ คราะห์ แต่ระเบยี บขั้นตอนราชการช่างย่งุ ยาก เช่อื งชา้ เหลือเกนิ อาทิตย์แรก...ไปเย่ียมคุณยายอีก 2 คร้ังพบว่าทั้งคุณยายและบ้านสะอาดข้ึน 1 อาทิตย์กว่าๆ น้องพยาบาลจากเทศบาล โทรศัพท์มาบอกว่า...คุณยายคงไม่สามารถใช้เก้าอ้ีน่ังถ่ายได้เพราะคุณยาย น่ังไมไ่ ด้ ด้วยความสงสัยจึงกลับไปเยี่ยมบ้านยายอีกคร้ัง ภาพที่พบทำ�ให้ทุกคนอึ้งย่ิงขึ้นไปอีก คือภาพ คุณยายนอนขดตัว งองุ้ม ร่างกายเปลือยเปล่า มีผ้าเช็ดตัวขนาดกลางคลุมทับร่างเอาไว้ มีผงแป้งฝุ่น โรยทวั่ ตวั เพ่ือกลบกล่ินท่ีไมพ่ งึ ประสงค์ เสยี งคุณยายร้อง “แม่..เจบ็ ....” เสยี ดแทงเขา้ ไปในอก จับท่ตี ัวของยายรอ้ นระอุ ไขค้ งไมต่ ่ำ�กว่า 40 องศา ชีพจรเบาเร็ว ทั้งไหล่ที่เอื้อมมือไปจับ ตามลำ�ตัว ก้นกบ มีแผลท่ีเต็มไปด้วยหนองสีเขียว บวมแดงมาก มีส่ิงมชี วี ติ ตัวเลก็ ๆ ดนิ้ ขยกุ ขยิก แป้งฝนุ่ ที่โรยตามตวั และพ้นื บา้ นไมไ่ ด้ชว่ ยอะไรเลย การ ขอญาติใหพ้ าผปู้ ่วยไปโรงพยาบาลเป็นส่ิงแรกท่เี อย่ ปากบอกออกไป คำ�ตอบของหลานชายคือ “ผมไมส่ ามารถตัดสินใจได้ ต้องรอญาติอกี คนซึ่งอยกู่ รงุ เทพฯ ซง่ึ กำ�ลัง จะมาเย่ียมคุณยาย คงจะมาถึงเยน็ วนั พร่งุ น้”ี จึงตอ้ งเกลย้ี กลอ่ มญาตดิ ว้ ยเหตุผลว่า “ถ้าอยู่แบบน้ี ยาย อาจจะอย่ไู ม่ถึงวันพรุ่งนน้ี ะ พข่ี อคยุ โทรศัพทก์ ับญาตคิ ุณยายได้ม้ยั ” หลานชายจงึ โทรศพั ท์ไปถามญาติ ซง่ึ อนญุ าตให้พาคณุ ยายไป รพ.ทนั ที จึงประสาน 1669 ขอรถ มารบั คณุ ยายไป รพ. เม่ือตามไปเยยี่ มคณุ ยายบนตึกน้องพยาบาลบอกวา่ ชว่ ยกนั ทำ�ความสะอาดคุณยายมา 3 วนั แลว้ แตย่ ังมีคราบสีเหลอื งหลงเหลือทฝี่ า่ เทา้ ของคณุ ยาย ผลเลือดคณุ ยายพบภาวะไตวายเฉียบพลนั BUN > 100 Cr 34 ฉันบอกน้องพยาบาลว่า “ทำ�บญุ เถอะนะน้องนะ สำ�หรบั พ่คี ิดอย่างเดยี ว คอื ถา้ ยายจะจากไป ก็ขอ ใหย้ ายจากไปด้วยสภาพท่ีสะอาดหมดจด สมศกั ดศ์ิ รขี องความเป็นมนุษย์...” ในใจคิดวา่ ยายคงไม่ไดก้ ลับ บา้ นแนแ่ ลว้ 4คา่ ผลเลอื ดแสดงวา่ ไตท�ำ งานผดิ ปกติ เก็บสุข กลางทุกข์ วิธคี ิดและแนวทางเปล่ยี นทกุ ข.์ .. เปน็ สขุ 77

ขอ้ มลู ท่ีไดร้ บั จากนอ้ งพยาบาลคอื ญาตคิ ณุ ยายรปู หลอ่ แตง่ ตัวดี มาเย่ียมคุณยาย ในใบ tr eat- ment5 มลี ายมอื ญาตเิ ขียนขอ้ ความแสดงความจ�ำ นง No Tube, No CPR6 แต่วันพญาวันหลังนอน รพ. 7 วัน แพทย์จ�ำ หนา่ ย คณุ ยายไดก้ ลับบา้ นที่บ้าน คณุ ยายไดท้ ี่นอนลม และเตียง Fowler7 พัดลม และกาต้มน้ำ�ใหม่ ท่ีญาติๆ จัดหามาให้ ทุกวันจะมีพยาบาลมาทำ�แผลให้ ที่บ้าน และมีญาติมาเย่ียมทุกเย็น ขณะที่ไปติดตามเย่ียมบ้าน พบคุณยายคนใหม่...แม้จะยังสวมใส่ชุด โรงพยาบาล แตก่ ็ดูสะอาดสะอา้ น แผลแห้งดี มี อสม. ท่ีอยหู่ นา้ บา้ นคอยดูแลป้อนข้าวปอ้ นน้ำ�ให้ ค�ำ ถามแรกท่ีถามข้างหูยายคือ “ยาย...เจบ็ ม้ยั ” ยายย้มิ แล้วตอบวา่ “ไมเ่ จบ็ แล้ว” สดุ ทา้ ยยายกจ็ ากไปอยา่ งสงบทบ่ี ้านของยาย...สสู่ ุคตนิ ะคุณยาย ปัญหาผูส้ งู อายุทีถ่ กู ทอดทงิ้ ขาดผดู้ แู ลเพมิ่ มากขึน้ พรอ้ มกับวฒั นธรรมและสงั คมตะวนั ตกทห่ี ลั่ง ไหลอย่างเชี่ยวกราก ทำ�อย่างไร ถึงจะบรรเทาปัญหานี้ลงได้ มือของบุคลากรถึงจะมีน้อย แต่ถ้าเรา ค่อยๆ ฉดุ คอ่ ยๆ ดงึ ทีส่ ุด...เราจะไดส้ ังคมที่เอื้ออาทรกลบั มา... ช่วยกันนะคะ เพ่ือให้ผู้ป่วยระยะสุดท้ายมีรอยยิ้ม มีความสุขก่อนจะจากไปอย่างสมศักด์ิศรีของ ความเปน็ มนษุ ย์ 5ใบส่ังการรกั ษา 6ไม่ใสท่ อ่ ช่วยหายใจ ไม่ท�ำ ปฏิบตั กิ ารชว่ ยชีวติ เมอ่ื หวั ใจหยดุ เตน้ 7เตียงท่ีสามารถยกดา้ นศรี ษะของผนู้ อน ชว่ ยให้ลำ�ตัวส่วนบนต้งั ขน้ึ ได้ 78 โครงการจัดการความรู้ สขุ ภาวะระยะท้าย เลม่ 2

10 สง่ิ ทผี่ มเรยี นรูเ้ กี่ยวกบั ความสุขในชีวติ จากการเป็นผปู้ ว่ ยมะเรง็ ระยะ 4 สมาชกิ เวบ็ บอร์ด Pantip หมายเลข 1451102 - นามแฝง http://pantip.com/topic/32137686 https://www.facebook.com/Aboutlifethailand http://www.gotoknow.org/posts/570072 Life is …………. ผมเช่ือวา่ คำ�ตอบของคำ�ถามนแ้ี ต่ละคนคงไมเ่ หมอื นกนั แตส่ �ำ หรบั ผม คำ�ตอบ ณ วนั นมี้ นั ชดั เจน และเต็มไปด้วยความรู้สึกดีใจที่หาคำ�ตอบของคำ�ถามนี้ ได้ แม้ว่าต้นทุนในการตอบคำ�ถามมันจะสูงมาก กต็ าม “Life is Miracle” น่นั คอื คำ�ตอบของผม ผมไดย้ ินคำ�น้ีครงั้ แรกมาจากพ่ที ่านหนง่ึ พรอ้ มกับค�ำ พูดปลอบใจจากเพือ่ นๆ พๆ่ี ท่านอืน่ ๆ ต่างๆ มากมาย แต่สิ่งท่ีทำ�ให้ผมเลือกคำ�น้ีข้ึนมา ส่วนหน่ึงคงมาจากส่ิงท่ีผมจะเล่าให้ฟังข้างล่างนี้ โดยเร่ือง ทผี่ มจะเลา่ ตอ่ ไปนี้ ผมว่ามนั ไม่ใชเ่ รอ่ื งใหม่แตอ่ ยา่ งใดเลย เพียงแตเ่ ปน็ เร่อื งง่ายๆ ที่ผมเช่อื วา่ ส่วนมาก ของผู้ที่ก�ำ ลังอ่านอยู่เข้าใจ แต่ทำ�ไมไ่ ดซ้ กั ที ดงั นนั้ ลองมาอา่ นมนั ผา่ นประสบการณข์ องคนทขี่ าขา้ งหนง่ึ อยบู่ นความตายตลอดเวลาอยา่ งผมกนั ครบั ผมเชื่อวา่ มันจะทำ�ให้คุณน�ำ ไปปฏบิ ัติมันได้เรว็ ขึ้น ทีส่ ำ�คญั เรอ่ื งน้ีฟรคี รบั ไมต่ ้องเอาชีวิตมาเสย่ี งเอง ใช้เวลาไม่นานผ่านประสบการณ์ท่ีผมใช้เวลาปีคร่ึงแลกมา ลองเอาไปปรับใช้กันนะครับ แต่ละคนก็มี ปัญหารูปแบบของชีวิตต่างกันไป เร่ืองราวของผมคงเป็นได้เพียงไกด์ลาย บางคนทำ�ให้มันเป็นความ เคยชินได้เรว็ บางคนอาจจะชา้ หน่อย แต่ผมเช่อื ว่าทกุ คนทำ�ใหเ้ คยชินได้นะครับ และส�ำ หรับผมใช้เวลา ประมาณปีครึ่ง คณุ อาจจะเร็วกวา่ ผมก็ไดค้ รบั ซง่ึ ในแตล่ ะขอ้ ผมจะแทรกมุมมองของผปู้ ว่ ยท่ีตอ้ งเจอใน เหตกุ ารณต์ ่างๆ ลงไปนะครบั ส่วนใครมีมุมมองเพิ่มเติม ลองแชร์กันออกมาครับ หลายๆ ความคิดย่อมดีกว่าความคิดเดียว ขอย้อนกลับไปที่ข้อมูลพ้ืนฐานคร่าวๆ เก่ียวกับตัวผมสักนิดนะครับ เพื่อให้เข้าใจทัศนคติของผม ที่มอง ชีวิต ท้งั ก่อนเป็น กบั หลังเป็นมะเรง็ ว่าเปลีย่ นไปอย่างไร ส่วนเร่ืองเกยี่ วกบั ขั้นตอนการรักษา ผมจะเขียน แชร์แยกต่างหากนะครบั (คอื เรือ่ งของข้ันตอนการรักษามนั เยอะมากตามแบบของมะเร็ง ผมอยากเขียน ใหล้ ะเอยี ดๆ จะไดม้ ปี ระโยชนแ์ กค่ นทเ่ี ปน็ ทา่ นอน่ื ) รบั รองวา่ มคี รบทกุ รสเลยครบั ตอนรกั ษา ระยะสนี่ รี้ กั ษา กนั สนกุ มากครบั เก็บสุข กลางทกุ ข์ วธิ ีคดิ และแนวทางเปล่ยี นทกุ ข์... เปน็ สขุ 79

โดยมะเร็งชนิดท่ีผมเป็นเรียกว่า มะเร็งหลังโพรงจมูก (nasopharyngeal carcinoma) โ ดยอยู่ ระดบั stage 4b (T1N3M0 ) (การจดั stage ของ มะเรง็ หลงั โพรงจมกู ต่างกับมะเร็งชนดิ อ่นื หน่อยตรง ท่ี 4 ของชนดิ ท่ีผมเปน็ ยงั ไมแ่ พรก่ ระจายไปอวยั วะอื่น) ซึง่ ปจั จุบนั นผี้ มอายปุ ระมาณ 30 ปีนิดๆ เป็นชว่ ง ชีวติ ที่โบราณบอกว่า เปน็ หน่ึงในช่วงรอยตอ่ ในชวี ติ ท่ีส�ำ คัญ (ซึ่งผมคดิ วา่ มันกจ็ ริงนะ) ชวี ติ ผมต้ังแตเ่ ด็กจนถงึ มหา’ลยั กถ็ ูกส่ังสอนเหมือนเด็กทัว่ ๆ ไป คือ พยายามเรียนให้เก่ง พยายาม สอบให้ไดท้ ่ดี ๆี เข้ามหา’ลัยดๆี ให้ได้ ซ่งึ หลงั จากท่ีเขา้ เรียนทีจ่ ุฬาฯไดแ้ ล้วชวี ิตผมก็คอ่ ยเปลยี่ นไป อสิ ระ ในชีวิตเยอะขึ้น จนหลังจากจบมาซักพัก ชีวิตผมก็เร่ิมหมุนไปสู่อีกด้านของเหรียญเต็มตัว ผมออกมา ใช้ชีวิตแบบท่ีผมอยากใช้ โดยไม่สนอย่างอ่ืนรอบตัวเลยจริงๆ ย่ิงช่วงสามสี่ปีหลังๆ ที่หันมาทำ�งาน ทีเ่ กีย่ วข้องกับธรุ กจิ กลางคนื ทำ�ใหช้ ีวิตส่วนใหญต่ ่นื ในเวลากลางคนื นอนกลางวัน สังคมก็เปน็ ไปในอีก รปู แบบหนงึ่ จนอายุ 29 เกือบหน่ึงปกี อ่ นทีจ่ ะตรวจพบ ผมตัดสินใจเปล่ียนมาทำ�งานกลางวัน เพราะความรู้สึกช่วงท่ีก่อนออกมา มันเป็นอารมณ์รู้สึก รับไม่ไหวกับชีวิตแบบนี้แล้ว ส่ิงที่เคยสนุกมันไม่สนุกอีกต่อไป งานที่ทำ�ก็ส่งล่าช้า ซ่ึงมันจะกลายเป็น ภาระให้ตวั ผมเอง ใหห้ ัวหน้า ใหบ้ ริษทั เลยตดั สินใจลาออกมาต้งั หลักใหม่ ช่วงหลังจากออกมาน้ัน เป็นหนึ่งปีท่ีชีวิตเต็มไปด้วยความสับสน จนถามตัวเองหลายครั้งว่า ตอ้ งการอะไรจากชีวิตจริงๆ เพราะชวี ิตสองแบบทัง้ สองข้วั ทีผ่ มเจอมา มันก็ไม่ใชท่ ้ังคู่ และก็เหมือนชีวติ จะรู้ว่าผมต้องการหาคำ�ตอบอะไรซักอย่างเลยจัดการให้ โจทย์ใหม่มา โจทย์ที่ให้สติมาเป็นเครื่องมือ แต่ผมตอ้ งใช้ ปัญญา (wisdom) กบั ความเพยี ร (grit) (ซ่ึงท้ังสองอย่าง ผมมีน้อยมากๆๆ) หาค�ำ ตอบ ออกมาให้ได้ จริงๆ มันมีองค์ประกอบมากกว่าน้ี แต่ในส่วนน้ีผมขอเน้นไปท่ีสองตัวนี้ก่อนและคำ�ตอบ ท่วี ่าน้นั คอื ความสุข (happiness) ในแบบทผ่ี มก�ำ ลงั จะพูดถงึ ตอ่ ไปน้ีครับ 1. เริม่ หนั มามคี วามสขุ กับสิ่งเล็กๆ รอบตวั ผมอยากจะบอกวา่ ไมว่ า่ คุณจะใช้ชีวิตในรปู แบบไหน ชีวติ มรี ปู แบบอน่ื ๆ ซ่อนไว้ให้คณุ ค้นหา มันเสมอ มุมเหล่านั้นในชีวิต คุณจะไม่มีทางมองเห็นเลย ถ้าคุณไม่เปิดใจกับมัน ....ผมขอยกตัวอย่าง แบบน้ีล่ะกัน ......ช่วงท่ีรักษาตัว ถ้าไม่อยู่บ้านก็โรงพยาบาล เป็นอย่างนี้อยู่นานมาก ลองนึกตามว่า จากคนที่แทบไม่ค่อยอยู่บ้าน กลับต้องมาทำ�อะไรแบบนี้ หนทางเดียวท่ีจะทำ�ชีวิตให้มีความสุขกับมันได้ คือ วิธีมองโลกใบเดิมในมุมมองที่ต่างไป ผมจำ�ความรู้สึกของข้าวต้มหมูหยองชามแรก หลังจากที่ต่อม รบั รสกลับมาท�ำ งานอีกครงั้ ไดเ้ ลยครบั มันคือ รสชาตทิ ่ีไมไ่ ดข้ ึ้นกับความรู้สกึ ท่ีวา่ มันอรอ่ ยหรอื ไม่อร่อย 80 โครงการจดั การความรู้ สขุ ภาวะระยะท้าย เลม่ 2

แตม่ นั เปน็ การรบั รู้ในรปู แบบของการไดก้ ลบั มารบั รรู้ สชาตอิ าหารอกี ครง้ั มนั เปน็ ความรสู้ กึ พเิ ศษ ท ผี่ มไม่ เคยได้รบั มากอ่ นในตลอดสามสิบปี ทง้ั ที่ข้าวต้มแบบน้ี ผมเคยกนิ มาเปน็ พนั ครง้ั หามันใหเ้ จอครบั ความ รูส้ กึ รูปแบบในชวี ติ ทซ่ี อ่ นอยู่ อยา่ งละนดิ ละน้อย ผสมๆ กันไป มันจะออกมาเป็นวันทส่ี ุดแสนพิเศษได้ เสมอ 2. สขุ ภาพดกี บั ครอบครัว (รวมถงึ ทกุ คนบนโลกท่คี ุณรกั และรกั คุณนะครับ) ทอี่ บอุน่ เปน็ ตน้ ทนุ ของฟรี ท่บี างคนไมค่ อ่ ยจะเห็นคา่ กัน มีเร่ืองจริงอย่างหน่ึงเก่ียวกับมะเร็งที่จะเกิดข้ึนกับทุกครอบครัวเลย คือ เวลามีคนใดคนหน่ึง เป็นมะเร็ง คนทั้งครอบครัวก็เหมือนจะเป็นไปด้วย ยิ่งใกล้ชิดผูกพันกันเท่าไร ยิ่งแสดงออกมามาก เทา่ นัน้ …… ในกรณีของผม ชว่ งวันแรกๆ ท่หี มอบอกวา่ ผลออกมา สิ่งหนง่ึ ทีย่ ากสุดๆ เลย คือ ผมจะหา วิธีการบอกกับที่บ้านอย่างไร ความรู้สึกท่ีว่า ต้องเดินไปบอกกับท่ีบ้านว่า ผมกำ�ลังจะตาย ความรู้สึก ตอนนน้ั มนั ผสมระหวา่ งความกงั วลกบั เสียใจ อารมณต์ อนนั้น มันออกแนวตื้อๆ ยิง่ คณุ ลงุ ของผมเคยเสีย ด้วยมะเร็งด้วยแล้ว การที่ผมจะบอกกับป้าท่ีเลี้ยงผมมาอย่างไร แกก็อายุมากแล้ว ที่บ้านเลยกลัวเร่ือง สภาพจิตใจของแกจะแย่ลงไปอีก.... ดังนั้น เวลาเกิดเร่ืองประเภทแบบน้ี ผมแนะนำ�เลยว่าหาคนท่ีมี สติ พอจะรับมือกับปัญหาได้พูดคุยเป็นคนแรกจะง่ายและดีท่ีสุด รวมถึงความรู้สึกของคนอ่ืนๆ ในบ้าน หลังจากที่ผมตัดสินใจบอกไป บรรยากาศผมสัมผัสได้ทันทีถึงความตึงเครียดท่ีเข้ามา ถึงแม้ทุกคนจะ พยายามยิม้ แล้วก็ตาม 3. รับมือกับอดีตดว้ ยการยอมรบั ความจริงในปจั จบุ นั หนงึ่ ข้อเทจ็ จริงในชวี ติ คอื คุณไมส่ ามารถแก้ไขอดีตได้ ดงั นัน้ เรื่องทเ่ี กดิ ไปแลว้ มนั เปลีย่ นอะไร ไม่ไดแ้ ลว้ อย่าปล่อยใหเ้ ร่อื งในอดตี มารบกวนจติ ใจ จนชวี ิตในปัจจุบนั แย่ไปด้วย 4. อยา่ เอาตวั ไปเปรยี บเทยี บกบั คนอืน่ เชื่อเถอะว่าทุกคนมีปัญหา มีรูปแบบของชีวิตที่แตกต่างออกไป ไม่ว่าใครก็ตาม ความทุกข์ ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ดังนั้นความสุขของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน เช่ือผมเถอะครับ ไม่ว่าคุณเป็น ใครในโลกใบนี้ จะรวยหรือจน จะสวย จะหล่อ หรือรูปร่างหน้าตาไม่ดี ถ้าเอาชีวิตไปเทียบกับคนอ่ืน มันไม่มีความสุขหรอก เพราะธรรมชาติของมนุษย์ มักมองหาความสมบูรณ์แบบ เวลาคุณเอาตัวไป เทียบกับคนอื่นแล้วเจอความไม่สมบูรณ์ในตัวคุณ มันจะเป็นจุดกำ�เนิดของความทุกข์ หันมามองส่ิง ทจ่ี ะสร้างความสขุ ใหต้ วั คณุ เองจริงๆ ดกี วา่ เช่น เรื่อง The Bucket List ท่ีผมจะเขยี นไวข้ า้ งล่าง 5. ร้ถู งึ คณุ คา่ ของตวั เอง แตอ่ ยา่ มองตวั เองเปน็ ศนู ยก์ ลางของทกุ สง่ิ เรม่ิ มองหาคณุ คา่ ของตวั เอง มนั จะมมี มุ หนงึ่ ในชวี ติ เกบ็ สขุ กลางทกุ ข์ วิธีคดิ และแนวทางเปลีย่ นทุกข์... เป็นสุข 81

คณุ ท่มี คี ่าควรแกก่ ารมีชวี ิต คณุ เชือ่ ผมเถอะว่า ตัวคุณมคี ่าแก่ใครคนหนง่ึ บนโลกนี้เสมอ อย่างน้อ ยที่สุด กก็ ับตัวคุณเองน้ันแหละครบั 6. หาความฝันจรงิ ๆ ให้เจอ มันควรจะเป็นความฝันของคุณเอง ไม่ใช่ความฝันของคนอ่ืน หรือส่ิงท่ีสังคมคาดหวัง เพราะ ตอนคุณจะตาย ความฝนั จะเป็นส่งิ ที่คุณนกึ ถงึ อย่างแรกๆ ไม่ใช่เงนิ ทอง ฐานะทางสังคมอะไรพวกนนั้ เลย และรู้ไว้เถอะว่า คนเรามีความฝันได้มากกว่าหน่ึงอย่าง วิธีที่ผมจะแนะนำ�ง่ายๆ คือ เขียน list มัน ออกมาใส่กระดาษ เพราะความฝันบางอย่าง แก่แล้วก็ทำ�ไม่ได้ บางอย่างอาจต้องใช้เงินทองสูง ผม เลยอยากให้เร่ิมเขียน list มันออกมาครับ คุณจะเห็นภาพและวางแผนถูก นั้นคือ ประเด็นที่สำ�คัญ เพราะเมื่อเริ่มเขียนมันออกมา คุณจะเห็นภาพความฝันของคุณชัดเจนข้ึน คุณจะเร่ิมแยกออกว่าสิ่งไหน คือความฝันจรงิ ๆ สง่ิ ไหนเปน็ มายาคติ ทีเ่ กดิ จากการหล่อหลอมจากส่งิ แวดลอ้ มรอบตวั คณุ ... 7. ความกงั วล การคิดมากจนเกนิ ไป ไมช่ ว่ ยให้ผลลพั ธ์ต่างๆ ออกมาดีขนึ้ มแี ตจ่ ะคอยท�ำ ให้ผลลพั ธท์ ่อี อกมาแยล่ ง บางทีค�ำ วา่ รจู้ ักพอ กเ็ หมาะกับหลายๆ สถานการณ์ เชน่ ในกรณขี องผปู้ ว่ ยมะเรง็ ทกุ คนทเี่ ลน่ อนิ เตอรเ์ นต็ เปน็ เวลาไดร้ บั การวนิ จิ ฉยั วา่ เปน็ มะเรง็ รอ้ ยทงั้ รอ้ ย มกั จะ Google หาวา่ ชนดิ ทตี่ วั เองเปน็ มีโอกาสรอดมากไหม มคี นเปน็ เยอะไหม รกั ษาท่ีไหน ตอ้ งกนิ อาหาร อะไร ทำ�ตัวเป็นแก้วก้นร่ัว ท่ีหาข้อมูลเท่าไรก็ไม่พอ ซ่ึงมันจะทำ�ให้ความคิดในแง่ลบเข้ามามีอิทธิพล เหนือจิตใจเรา ส่งผลให้จิตตก เครยี ด ขาดสติ รา่ งกายแยต่ ามไปดว้ ย ยงิ่ ขอ้ มูลในอนิ เตอร์เน็ต ณ ปัจจุบัน คณุ จะเจอขอ้ มูลเชงิ ลบเยอะไปหมด (อารมณป์ ระมาณว่า ไมเ่ คยมีใครรอดจากมะเร็งเลย เปน็ แล้วตายหมด) เชอ่ื ผมเถอะอ่านพวกน้มี ากๆ แล้วจติ ตก ผมผ่านมา แล้ว รวมถึงคำ�แนะนำ�ที่ไม่ได้มาจากผู้รู้ท่ีศึกษามันจริงๆ จังๆ ยาวิเศษ อาหารมหัศจรรย์ที่ถูกแชร์กัน จนการรักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบันกลายเป็นทางเลือกรอง (ผมไม่ได้ต่อต้านการขายอาหารเสริม นะครบั แตผ่ มตอ่ ตา้ นคนท่เี อามันไปใชผ้ ดิ ๆ) ซง่ึ นั้น คอื หนงึ่ ในเหตผุ ลหลกั ท่ผี มอยากเขียนแชร์มมุ มอง ในด้านน้ีเก่ียวกับมะเร็งข้ึนมา เพราะส่ิงที่เกิดขึ้นกับผมหลายๆ อย่างในช่วงรักษา มันเป็นผลสะท้อน มาจากการทสี่ งั คมเรามองเรอื่ งเกย่ี วกบั มะเรง็ คลาดเคลอ่ื นไปจากสง่ิ ทเ่ี กดิ ขน้ึ จรงิ มนั สง่ ผลใหห้ ลายอยา่ ง คลาดเคล่ือนตามกันไปหมดครับ เช่น เรามองศาสนาเป็นเคร่ืองมือรักษาท่ีตัวโรคที่เป็นเลย ไม่ได้มอง ในมมุ ของการปฏิบตั เิ พอื่ ยกระดับจิตใจให้มสี ติ และ ปัญญาในการรบั มือกบั สง่ิ ทีเ่ กิดได้อยา่ งถูกต้อง ผล เสียในเร่อื งนี้มนั เกิดขนึ้ ทง้ั ระดับจติ ใจ (อย่างน้อยท่ีสุดก็เกดิ paradox of choice ขน้ึ ละ่ ) และในระดบั ของตัวโรคเองทกี่ ารรักษาท่ีถกู ตอ้ งจะช้าออกไป ซงึ่ เวลา 1 อาทติ ย์ หรือ 1 เดือน นัน้ อาจหมายถึงชวี ิต ของคนๆ หนง่ึ ทีเดียว ซง่ึ เรอ่ื งแบบน้ีผมเจอกบั ตวั เองเลย 82 โครงการจัดการความรู้ สุขภาวะระยะท้าย เล่ม 2

เร่อื งที่ถูกสง่ ไปรักษาดว้ ยพลงั มหัศจรรย์น้ี เขียนไดเ้ ป็นฉากเลย เดยี๋ วจะเล่าใหฟ้ งั ครบั สว่ นท่ี บอกว่า ถ้าไมอ่ ยากให้กังวลมากไปควรท�ำ ไง ท�ำ อยา่ งไรให้มีความพอดี อ่านขอ้ ข้างล่างตอ่ เลยครับ 8. สติ ควรอย่กู บั ตดิ กบั ตวั ให้เป็นความเคยชนิ คือเรื่องน้ี ผมเชอ่ื ว่าหลายๆ คนคงรวู้ ่ามันสำ�คญั ยังไง แต่หลายๆ ครง้ั ในสังคมเรา ท่ีสงิ่ น้ีถกู แทนท่ีด้วยอารมณ์ ไมว่ า่ จะเป็นอารมณ์โกรธ อารมณก์ ลวั อารมณ์ เศร้า คำ�แนะนำ�งา่ ยๆ ของผม ทจ่ี ะท�ำ ให้อารมณ์เหลา่ นล้ี ดลง คือ หม่นั ฝึกการเจรญิ สตบิ อ่ ยๆ บางคน ท�ำ สมาธิ บางคนเนน้ สวดมนต์ แต่ในกรณขี องผมคอื ผสมๆ กนั ไป ถา้ รวู้ า่ จติ จะตก ใหเ้ รมิ่ ฟงั เพลงคลาสสคิ พวก Mozart, Chopin อะไรพวกน้ัน (ต้องบอกว่าก่อนหน้าน้ีไม่เคยฟังเลย) รวมถึงเย็นๆ เดินจงกรม (แต่ไม่เต็มรูปแบบ) เพราะเน่ืองจากมันเป็นการออกกำ�ลังกายไปในตัว ก่อนนอนนั่งสมาธิ สวดมนต์ ซกั หน่อย (ผมทำ�เพอื่ มีสตินะครบั ไม่เกี่ยวกบั ปาฏิหารยอ์ ะไรทง้ั น้ัน) พรอ้ มท้งั ใหเ้ ช่อื ผมเถอะว่า ชวี ิตเกดิ มาเพื่อถูกทดสอบตลอดเวลา ตราบที่คุณยังมีลมหายใจ ซ่ึงสติจะช่วยให้คุณผ่านบททดสอบไปได้อย่าง ไม่ยากเย็นในทุกๆ คร้ัง ยิง่ ในผูป้ ่วยมะเร็งดว้ ยแล้ว สิ่งต่างๆ เกิดขึ้นได้ในเวลาไมค่ าดฝันเสมอ อยา่ งเชน่ ในวันที่ทุก อยา่ งดเู หมอื นปกตงิ า่ ยๆ วนั หนงึ่ ผมนง่ั ดทู วี อี ยู่ในบา้ นดๆี เหมอื นจะไมม่ อี ะไร แตเ่ กดิ จามแคท่ เี ดยี ว เลอื ด ก็ไหลออกจากจมูกไม่หยุด ต้องไปที่ห้องฉุกเฉินที่โรงพยาบาลเลยทีเดียว (ส่วนสาเหตุ เน่ืองมาจากช่วง ที่ผมรับการฉายแสง เน้ือเย้ือบริเวณจมูกเปราะบางมากกว่าปกติ) เรียกได้ว่าช่วงนั้น ร่างกายพร้อมจะ เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้เสมอ ค่าตัวเลขต่างๆ ของร่างกายแย่กว่ามาตรฐานคนปกติทุกอย่าง ซึ่ง สวนทางกับอารมณ์ของผู้ป่วยที่รับคีโม ท่ีมักจะอารมณ์ฉุนเฉียวกว่าคนปกติ (ผมรับทั้งคีโมและฉายแสง พร้อมกัน) สติเลยต้องอยู่กับตัวตลอดเวลา เพราะนอกจากมันจะส่งผลต่อชีวิตเราแล้ว มันยังส่งผลต่อ คนรอบข้างเราด้วย และเวลามีสติรอยยิ้มกับอารมณข์ นั มันมักจะตามออกมา 9. ความหวงั เป็นส่งิ ที่ดี เพียงแต่คุณควรเตรยี มวิธรี บั มือกับความผิดหวังไว้ดว้ ย ในผู้ปว่ ยมะเรง็ ทุกคน หรือแม้แต่มนษุ ย์บนโลกเราทกุ ชวี ิต ความหวังเป็นเหมอื นสิง่ ทช่ี ว่ ยท�ำ ให้ ความทุกขถ์ ูกลมื ออกไปจากชีวิต ดังนั้นถา้ เราพฒั นา ฝกึ รบั มอื กับความผดิ หวังไว้ดว้ ยแล้ว เราจะสามารถ ใชช้ วี ติ บนความหวงั ไดอ้ ยา่ งไมม่ ีค�ำ วา่ สะดุด ไมว่ ่าจะเกิดอะไรขึ้น... ในกรณขี องผม ในชว่ งการรกั ษาหลายๆ ครัง้ การทีต่ ้องเดินเข้าไปในห้องตรวจ แล้วคณุ หมอ มองผลตรวจ ทำ�สีหน้าไม่ค่อยสู้ดี พร้อมบอกว่า ผลการรักษาไม่เป็นไปตามที่หวัง ตัวรอยโรคยังคง ไมห่ ายไป (ทกุ ครงั้ หมายถงึ เวลาบนโลกของผมเหลอื นอ้ ยลงไปทกุ ท)ี เกดิ ขน้ึ หลายครง้ั มาก แตส่ งิ่ ทต่ี า่ งกนั ออกไประหว่างครั้งแรกๆ กบั ครงั้ หลงั ๆ คือ ความสุขของชวี ิตผมไม่เคยสะดดุ ลงไปดว้ ย กลบั กนั ที่ความ เกบ็ สขุ กลางทุกข์ วธิ ีคิดและแนวทางเปล่ยี นทกุ ข.์ .. เป็นสขุ 83

หวังมันกลับโตมากขึ้นทุกครั้ง บรรยากาศที่ควรจะเต็มไปด้วยความตึงเครียด ถูกแทนท่ีด้วยรอย ยิ้มที่ เรียบงา่ ย คำ�พดู พร้อมเสยี งหัวเราะเบาๆ ทบี่ อกว่า “อย่าเพ่งิ เบอ่ื หน้าผมนะครบั ” 10. ออกจากเง่อื นไขของ ‘เวลา’ ข้อน้ีเป็นข้อท่ีผมมองว่าสำ�คัญมากที่สุด เพราะถ้าทำ�ข้อนี้ ได้ 9 ข้อข้างบนก็จะทำ�ง่ายตามไป ด้วย รวมถึงเป็นเหมือนเสาหลักท่ียึดโยงแนวคิดด้านบน ท่ีผมเขียนมายาวๆ เข้าด้วยกัน เป็นรูปแบบ การใช้ชีวิตเฉพาะตัวของแต่ละคนข้ึนมา ...โดยในกรณีของผมและผู้ป่วยมะเร็งหลายๆ คน โชคดีที่ ถูกบังคับด้วยตัวโรค ที่เป็นทำ�ให้เร่ิมมองเห็นความสำ�คัญของข้อน้ีแบบจริงจัง ถ้ากำ�ลังงงว่า ผมกำ�ลัง พูดถงึ อะไร ผมขออธบิ ายแบบนลี้ ะกนั ... คณุ อาจเคยไดย้ นิ ค�ำ พดู ประมาณวา่ “จงใชช้ วี ติ เหมอื นวนั นเ้ี ปน็ วนั สุดท้าย” พวกน้ันบ่อยๆ ซึ่งในผู้ป่วยมะเร็ง คำ�พูดประมาณนี้ มันเปล่ียนจากคำ�คมบนหน้าเฟซบุ๊คมา เป็นความรสู้ กึ ท่ีเกิดขน้ึ จรงิ ทกุ ๆ วนั คำ�พูดตา่ งๆ ท่ชี อบพดู ในอดตี เชน่ วันนี้ไมม่ ีเวลา หรือ เด๋ียวค่อย ท�ำ เวลาเหลอื เฟอื กลายเปน็ ภาพสะท้อนของการใชช้ วี ติ บนเงอ่ื นไขของเวลา จนลืมมองหารปู แบบชวี ิต ที่สามารถมีความสุขได้ โดยการปฏิบัติท่ีไม่จำ�กัดเวลา ไม่ถูกยึดโยงกับเวลา ส่งผลแห่งความสุขทุกคร้ัง ทป่ี ฏิบตั ิ ไดท้ นั ที ซึง่ นั้นจะทำ�ใหท้ ง้ั คุณและครอบครวั มีความสขุ ไม่ว่าสถานการณจ์ ะเป็นเช่นไร และน้นั คือ 10 สิง่ ที่ผมได้เรยี นรูม้ า หวังว่าจะมีประโยชน์ไม่มากกน็ ้อยแกท่ ุกคนท่ีอา่ นมาถงึ ตรงน้ี นะครับ “Once cancer happens it changes the way you live for the rest of your life” ----Hayley Mills---- เพ่ิมเติมนดิ หนึง่ ในบทความน้ีผมพยายามเขยี นให้กระชบั และพยายามตดั เนือ้ เร่ืองที่ดูเศร้าออก เพอ่ื ทจี่ ะไดส้ ง่ ใจความหลกั ไดค้ รบถว้ น ไมถ่ กู ความรสู้ กึ หรอื อารมณก์ ลบไป แตถ่ า้ ทา่ นใดสนใจเนอ้ื เรอื่ งแบบ เต็มๆ เชญิ ทเี่ พจนดี้ ีกวา่ ครับ บทความจะคอ่ ยๆ ถูกเขยี น เปน็ ตอนๆ ส้นั ๆ เพื่อท่จี ะได้คอยฝกึ เจริญสติ ในแต่ละวันไปด้วยกัน (ตัวผมเองก็ต้องทำ�ไปด้วย เพราะเวลาเขียนเรื่องพวกน้ีออกมา มันเป็นการ เตือนสติตัวเองชนั้ ดีทีเดียว) รวมถึงสามารถแลกเปลี่ยนเรอ่ื งราวของแตล่ ะคนที่ตอ้ งเจอไดเ้ ตม็ ท่ี เพราะ ส่ิงที่ผมเผชิญมา มันทำ�ให้ผมเช่ืออย่างหมดใจเลยว่า คนส่วนใหญ่ของสังคมเรายังใช้ชุดความคิดเดิม เก่ียวกับมะเร็งเม่ือ 30 ปีก่อน มาใช้กับผู้ป่วยมะเร็ง ณ ปัจจุบัน ผมจึงคิดว่าบทความต่างๆ ที่ผมจะ เขียนขึ้นมาจะเป็นอีกหน่ึงชุดความคิดเกี่ยวกับมะเร็งท่ีจะเสนอให้สังคมได้เลือก (ผมอาจจะผิดก็ได้ แต่ ผมเชอ่ื ว่าทุกคนควรได้รบั รู้ในอกี ชดุ ความคิดหนึ่งแลว้ ใหท้ กุ คนตัดสินกนั เอง) 84 โครงการจัดการความรู้ สุขภาวะระยะท้าย เล่ม 2

“อากงกระสับกระส่ายไม่สงบ จะท�ำ อย่างไรดี” อากงตอนจบ กานดาวศรี ตลุ าธรรมกิจ http://www.gotoknow.org/posts/570098 10 มนี าคม 57 รบั แจง้ จากคุณหมอโอปอว่า “อากงกระสับกระส่าย ไมส่ งบ ไม่ปิดตา จะท�ำ อย่างไร ดลี ่ะ พ่ฟี ่ง” “อากงอยูท่ ่ีไหน” ฉนั ถาม “อยู่ท่ีห้องพิเศษของโรงพยาบาล ตอนนี้ลูกๆ หลานๆ ญาติพ่ีน้องมากันมาก และพระกำ�ลัง สวดมนต์” คุณหมอโอปอตอบด้วยน�้ำ เสียงส่ันเครอื “จะขึ้นไปเยยี่ มเด๋ียวนีเ้ ลยค่ะ” ฉันตอบ สภาพที่เห็นคือ อากงนอนลืมตากระสับกระส่ายอยู่บนเตียง ใส่หน้ากากออกซิเจนลักษณะการ หายใจคล้าย air hunger พระกำ�ลังสวดมนต์อยู่ข้างเตียง ลูกๆ หลานๆ ญาติพี่น้องนั่งพนมมืออยู่ท่ี พื้นหอ้ งประมาณ 10 คน ทุกคนมสี หี น้าเคร่งเครยี ดวิตกกงั วล ฉันไดเ้ ข้าไปน่งั ร่วมพธิ สี วดมนต์ หลังจากพระสวดมนต์/กรวดนำ้�เสร็จ คุณหมอโอปอเข้ามาสวัสดีแล้วกระซิบว่า “พี่ฟ่ง จะทำ� อยา่ งไรดี” ฉนั ถาม “คณุ หมอโอปอไดบ้ อกอากงบา้ งแลว้ ยงั วา่ ภมู ิใจมากทเี่ กิดเปน็ หลานอากง ถ้าไมม่ อี ากง เลี้ยงดคู อยสั่งสอนตักเตือน โอปอก็ไม่ได้เป็นหมอ อากงเป็นแบบอยา่ งที่ด…ี .” คณุ หมอโอปอ “ยังค่ะ” ฉนั เสรมิ ตอ่ “ถ้าอย่างน้ัน คณุ หมอโอปอเข้าไปบอกอากงตอนนี้เลยนะ” ก่อนที่คุณหมอโอปอจะเข้าไปพูดกับอากง ได้แนะนำ�ญาติทุกๆ คนว่า นี่คือพี่ฟ่ง เป็นพยาบาลท่ี คอยช่วยเหลือดูแลอากงมาตลอด ฉันเดินเข้าไปยกมือไหว้อากง “สวัสดีค่ะ อากง พยาบาลชื่อฟ่ง อยู่ รพ.มอ. ได้รู้จักกับคุณหมอโอปอและครอบครัวอากงมาหลายเดือน ทุกคนเคารพรักยกย่องชื่นชมอากง มาก ทอี่ ากงเปน็ แบบอยา่ งของผนู้ �ำ ครอบครวั ทดี่ ี ท�ำ ใหล้ กู หลานไดด้ ี ทงั้ หมอ วศิ วกร เภสชั กร นกั จติ วทิ ยา วันน้ีมาเย่ยี มและเปน็ ก�ำ ลงั ใจใหค้ ่ะ” หมอโอปอเดินเข้าไปกอดอากง “โอปอรักอากงมาก ท่ีโอปอได้เป็นหมอก็เพราะอากงได้อบรมสั่ง สอนเลยี้ งดูเป็นอยา่ งดี อากงเป็นแบบอย่างในดา้ นความเขม้ แขง็ ขยันอดทนและมมุ านะ” เกบ็ สุข กลางทกุ ข์ วธิ คี ิดและแนวทางเปลย่ี นทุกข์... เปน็ สุข 85

หลังจากคณุ หมอโอปอพูดจบ หลานๆ ทเี่ ป็นเภสัช นกั จิต วศิ วกร เขา้ ไปพดู และปฏบิ ตั เิ หมือนอย่าง คุณหมอโอปอ คุณหลิน (อาหญงิ ) เรยี กนอ้ งชาย คุณโปง้ (นามสมมต)ิ ลูกชายอากงคนสดุ ท้องใหม้ ากราบท่ีเทา้ อากงเพื่อขออโหสิกรรม “ป๊า ลูกจะลดการด่ืมสุรา จะดูแลสวนยางให้ดี และวันนี้เอาบัญชีค่าสวนยาง มาใหด้ ”ู คุณหลินเรียกคุณหมอโอปอและปูเป้มากราบขอขมาอโหสิกรรมอาโป้งที่ข้างเตียงอากง “หลาน ท้ังสองคนขอขมา ขออโหสิกรรมท่ีเคยได้ลว่ งเกนิ พูดจาไมด่ กี บั อาโป้ง” บรรยากาศในขณะนั้นเต็มไปด้วยความรักความอบอุ่น ฉันรู้สึกประทับใจท่ีได้เห็นลูกหลานอากง ได้ขอขมาขออโหสิกรรมซึ่งกันและกัน แสดงถึงพลังของความรักและความสามัคคีทุกคนบอกกับอากง ว่า “จะรักและช่วยเหลือกัน” หลังจากนั้นอาการกระสับกระส่ายของอากงลดลง ตาเร่ิมปิด ในท่ีสุด หลงั จากนัน้ ประมาณ 1 ช่ัวโมง อากงก็จากไปอย่างสงบ 86 โครงการจัดการความรู้ สขุ ภาวะระยะทา้ ย เลม่ 2

บุญสะดุ้ง เบญจมาส วงศม์ ณีวรรณ http://www.gotoknow.org/posts/570131 วนั น้ี ขณะทเ่ี ขา้ ไปเยยี่ มผปู้ ว่ ยมะเรง็ ตบั ทมี่ กี ารลกุ ลามของโรคไปทกี่ ระดกู ผปู้ ว่ ยเปน็ พทุ ธศาสนกิ ชน ผู้ปว่ ยรับทราบวา่ ตัวเองปว่ ยเป็นโรคมะเรง็ ภาพที่ไปพบ ผปู้ ่วยนอนอยู่ในทา่ ตะแคงหลบั ตา มีสามีนัง่ อย่ขู ้างๆ กอ่ นเขา้ ไปหาผู้ป่วย มโนภาพ ของตัวเองคิดวา่ จะพบผู้ปว่ ยที่ทอ้ งโตๆ ตัวเหลืองตาเหลอื งนอนหวั สงู หรอื นัง่ ฟุบกบั โตะ๊ คร่อมเตยี ง แต่ ผิดคาด เพราะภาพที่พบ ผูป้ ่วยทอ้ งโตจรงิ แตไ่ ม่เหลือง แตข่ าวซีดๆ จากการนอนนานแล้วไม่โดนแดด มากกว่า สามารถนอนราบได้ จงึ เขา้ ไปแนะน�ำ ตัว ทักทายจบั มือผู้ปว่ ย สอบถามอาการเจบ็ ปวด ผปู้ ่วย ลมื ตามอง แลว้ กห็ ลับตาตอ่ เมือ่ ซักถามอะไร ผปู้ ว่ ยก็ตอบแต่ยงั คงหลับตา จงึ ชวนพูดคยุ ไปเร่อื ยๆ เพอ่ื ค้นหาปัญหาผู้ป่วยท้ังทางร่างกาย จิตใจ ครอบครัวและจิตวิญญาณ พบว่าผู้ป่วยมีปัญหาแต่ทางด้าน รา่ งกาย คอื อาการปวด เมื่อเร่ิมจับประเด็นปัญหาและจุดเด่นของผู้ป่วยได้ จึงเริ่มเยียวยาและเสริมพลังผู้ป่วยโดยใช้ เรอื่ งเลา่ โดยการพดู คยุ ใหผ้ ปู้ ว่ ยเลา่ ความประทบั ใจในชวี ติ ทผี่ า่ นมาของผปู้ ว่ ย ซง่ึ จากการพดู คยุ ทผี่ า่ นมา จบั ประเดน็ ได้ว่า สิ่งท่ีท�ำ ให้ผู้ปว่ ยรู้สึกชวี ติ มีความสุขและมคี วามหมาย คือ สามีและบตุ รชาย ขณะทช่ี วนใหผ้ ู้ปว่ ยพูดคุย ท�ำ ใหท้ ราบวา่ เหตกุ ารณท์ ่ผี ปู้ ่วยประทบั ใจ คือ การเตรียมบวชลกู ชาย ซึ่งผู้ป่วยใช้ศัพท์ว่า บุญสะดุ้ง เพราะไม่คาดคิดว่า ลูกชายจะบวช ช่วงเล่า ผู้ป่วยเร่ิมหันหน้ามาพูดกับ พยาบาล พูดไปย้ิมไป ถึงจดุ ที่ไม่คาดคิดวา่ จะท�ำ ใหง้ านบวชส�ำ เร็จ ผู้ป่วยก็จะย้ิมและบอกวา่ ไมน่ า่ เชอื่ วา่ จะส�ำ เรจ็ ได้ พยาบาลจึงฟังอยา่ งต้งั ใจ ย้มิ ไปกับผ้ปู ว่ ย หลงั จากนนั้ ก็ถามถึงความหว่ งกังวลของผู้ปว่ ย ผู้ป่วยบอก ไม่ห่วงกังวลอะไรอีกแล้ว บุญก็ทำ�มามากแล้ว ก่อนล้มป่วยไปทำ�วัตรเย็นนั่งสมาธิ ทุกวันที่วัดใกล้บ้าน ลูกชายคนโตที่อยู่กรุงเทพฯ ก็ไปทำ�วัตรเย็น น่ังสมาธิแผ่ส่วนบุญมาให้เม่ือมีโอกาส ตอนนี้ไปวัดไม่ได้ สามกี ็ไปปฏิบัติแทน สำ�หรบั ตวั เองก็สวดมนตอ์ ยู่ที่บ้าน ทุกวันนี้ตนและสามีก็สวดมนต์ ท้ังเช้าและเย็น หลังสวดมนต์ ก็จะแผ่เมตตา หลังจากนั้นผู้ป่วยก็สวดมนต์ แผ่เมตตาให้พยาบาลฟัง นอกจากนัน้ ยังมีโอกาสไปร่วมงานบวชพระไดจ้ บั ชายผา้ เหลืองกอ่ นพระบวชใหม่เดินเขา้ วิหารก็หลายรูป ท�ำ ใหผ้ ู้ป่วยเช่อื ว่า ถา้ ตายตอ้ งได้ไปเกิดในภพภูมทิ ีด่ ี จึงไม่กลัวตาย พยาบาลนัง่ ฟังอย่างตงั้ ใจ เก็บสุข กลางทุกข์ วธิ คี ิดและแนวทางเปลี่ยนทกุ ข.์ .. เป็นสุข 87

ช่วงปวดผู้ป่วยเล่าว่า ปวดจนร้องไห้ปวดมาก จึงได้แนะนำ�ให้ผู้ป่วยทดลองใช้วิธีหันเหความ สนใจ โดยขณะทีป่ วด ชว่ งรอยาออกฤทธิ์ ให้ผู้ปว่ ยตง้ั จติ ใหน้ ิ่ง พยายามวางรา่ งกายน้ีทปี่ วด พร้อมกบั ระลึกถึงภาพพระประธานวัดที่ไปสวดมนต์ทุกเย็น (ผู้ป่วยบอกพระประธานสวยมาก) หลังจากนั้น ใหส้ วดมนต์ ในขณะเดยี วกนั สามีก็ให้สวดมนตพ์ ร้อมไปกับผู้ปว่ ย ปกติท่ีผู้ป่วย ช่วงฝันร้าย ไม่อยากนอนต่อ ก็นอนสวดมนต์ ทำ�สมาธิแผ่เมตตา สามีและลูก คนเล็กก็จะนั่งอยู่คนละข้าง ทำ�สมาธิให้ ทำ�ให้อุ่นใจ สามารถนอนหลับต่อได้ ปกติอยู่ท่ีบ้าน จะอาบนำ�้ ท่ีแช่ส้มปอยกับมะกรูด ก่อนอาบก็จะนึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ สามีช่วยเสริมว่าเป็นความเช่ือ ว่า เปน็ การไลแ่ ละปอ้ งกันคณุ ไสย ก่อนลากลบั จึงถามถงึ ส่ิงท่ีผู้ป่วยสัง่ เสียไวก้ บั สามีและลูกๆ มีอะไรบ้าง ผู้ปว่ ยบอก ไมห่ ว่ งอะไรเลย ไมส่ ่ังเสยี อะไรแลว้ ถ้าตวั เองตายก็ไปอยู่อีกภพทสี่ บาย จะได้ไมป่ วด ทรมาน คนทอ่ี ย่กู ็ดำ�เนนิ ชีวิตต่อไป พอผู้ป่วยพูดถึงตรงน้ี สามีเร่ิมตาแดงๆ เอามือจับขาของผู้ป่วยเพ่ือให้กำ�ลังใจ แล้วค่อยเดินไป เข้าห้องนำ้� สักพักก็มาร่วมวงสนทนาต่อ ทำ�ให้พยาบาลได้เรียนรู้ว่า ผู้ป่วยวางได้แล้วจริงๆ ไม่มีการ ส่ังอะไร ไมห่ ่วงอะไร เพราะทกุ อย่างกค็ งด�ำ เนินได้เองเป็นไปตามธรรมชาติ สง่ิ ท่ีท�ำ ให้ผ้ปู ว่ ยเข้มแขง็ ต่อสกู้ ับโรคไมก่ ลวั ตาย เนอื่ งจากความรกั ของครอบครัว ก่อนกลบั ผู้ปว่ ยบอก ขอขอบคณุ พยาบาลมากทีม่ าแนะน�ำ พยาบาลก็ขอขอบคณุ ผู้ป่วย ท่ีท�ำ ให้ ไดเ้ รยี นรหู้ ลายๆ เร่อื ง ได้ฟังเรื่องดีๆ ท�ำ ให้รสู้ ึกมคี วามสขุ และขออนุญาตน�ำ เรื่องผ้ปู ว่ ยไปยกตัวอย่าง กรณีท่ีได้สอนเร่ืองการดูแลแบบประคับประคอง การที่ครอบครัวนี้เก็บสุขกลางทกุ ข์ได้ เป็นเพราะ - พลังความรักของสามีและลูกๆ ที่ทำ�ในสิ่งที่ผู้ป่วยชอบ (บวช สวดมนต์ ปฏิบัติธรรม) ทำ�ให้ ผ้ปู ่วยเกิดความสุขทางใจบนความทุกข์ทางกายจากการเจ็บป่วย - การได้เรียนรู้ธรรมจากการปฏิบัติช่วงเจ็บป่วย ทำ�ให้ผู้ป่วยเกิดการเรียนรู้ว่า ชีวิตนี้มีเกิด มตี าย เปน็ ธรรมชาติ ผปู้ ว่ ยจึงไมก่ ลวั ตาย - ตายไป ไม่สามารถเอาอะไรไปได้ ทำ�ให้ปล่อยวางในทุกส่ิงไม่ยึดติดเป็นของของตัว จึงไม่ ส่งั เสียวา่ เมอื่ ตายไปแลว้ ต้องการให้ใครทำ�อะไร อยา่ งไร 88 โครงการจดั การความรู้ สขุ ภาวะระยะทา้ ย เลม่ 2

หากไม่มีการเจ็บปว่ ย ชวี ติ คูอ่ าจล้มไปแล้ว กัลยวรรธน์ หริ ญั วิทย์ http://www.gotoknow.org/posts/570178 กอ่ นสามีจะจากไป ไดพ้ าพี่กลับบ้านตามคำ�รอ้ งขอ เอามาดูแลเองทบ่ี ้าน พ่ีเขาเร่มิ หลับตลอดเป็น นานเกือบเดือน ทุกครั้งท่ีเข้าไปกอด หอมแก้ม ทำ�ความสะอาดให้ ให้อาหารทางสายยาง จัดยาให้กิน เปลย่ี นน�้ำ ยาล้างไตให้ เม่ือเข้าขยับตัวเปลี่ยนท่านอนให้ พี่เขาจะพยายามซุกหน้ามาซบเสมอ ตอนนอนจะคอยกอดพี่ เขาไว้ หรือไมก่ ็จะจับมอื ไว้จนตวั เราหลบั ไป จนคืนสดุ ทา้ ยก่อนจากกนั เรารอ้ งไห้ เพราะกลัวพเ่ี ขาจะจากไป และไม่แนใ่ จว่าตัวเองฝนั ไปหรอื ไม่... พ่ีเรยี กช่ือ..และพูดอกี หลายประโยค จำ�ไมไ่ ด้ รู้แตว่ ่า ตัวเองดีใจ พพ่ี ดู แลว้ พด่ี ขี ึน้ แล้ว.. ตอนเท่ียงกลับมาบ้าน คนที่ช่วยดูแลบอกว่าดูพ่ีแปลกๆ แล้วเรียกหา เข้าไปดู รู้แล้ว พ่ีต้อง จากไปแน่ รบี นิมนตพ์ ระมา จบั มอื พี่ให้ถวายสังฆทาน กรวดนำ�้ เย็นวนั นั้น นั่งเฝา้ อยู่ข้างเตียงตลอด น�ำ สวดมนต์ให้ กระซิบขา้ งหู ไม่ต้องห่วง สง่ พี่ไปกอ่ น ไป รบั บญุ ทีท่ �ำ มานะ สกั วนั จะตามไป พี่เขาหายใจเข้าออกชา้ ๆ แลว้ ก็จากไปอย่างสงบ สิ่งที่ทำ�ให้สามีนั้น ใช้ความรู้สึกของตัวเองเป็นท่ีตั้ง เพราะรู้ว่ารักมาก และก็รู้มาตลอดว่า พ่ีเขา จะอยไู่ ด้ไม่นาน พ่ีเขาปว่ ยประมาณ 20 กวา่ ปีได้ นับตง้ั แต่หมอบอก 10 ปสี ดุ ทา้ ย กเ็ ร่มิ ทรดุ เรอื่ ยๆ จน 2-3 ปีสุดทา้ ย มีปัญหาร่างกายอ่อนแรง ชว่ ยเหลือตัวเอง ไม่ได้ เมอ่ื หมอบอกวา่ ปว่ ยรกั ษาไม่หายนะ ก็ท้อนะคะ แต่ถ้าทอ้ ทงั้ สองคน มันกจ็ ะแย่ กต็ ้องเข็มแข็ง ส่ิงแรกที่คิดก็คือ เราเกิดมาใช้กรรมใช่ไหม บอกกับสามีมาตลอดว่า ช่างเถอะ เรามาใช้กรรม ใช้ชาตนิ ้ีใหห้ มดๆ ชาติหนา้ เราคงไมเ่ ป็นแบบนี้ บางครั้งเคยกอดกันรอ้ งไห้ ไดแ้ ตป่ ลอบใจพีเ่ ขา บอกเขาว่า ไมต่ ้องห่วง จะดูแล ไมท่ ิ้ง อดทนนะ และกลัวว่าพ่ีเขาจะตายแบบทรมาน พยายามพาพี่เขาไปท�ำ บุญเสมอ ถึงไม่ได้สวดมนต์ ไม่ปฏิบัติธรรม แบบคนอื่น แต่เขาชอบทำ�บุญ สังเกตว่า ระยะหลัง ก่อนพี่เขาจะจากไป เขาเร่ิมปล่อยสิ่งที่เขารัก เสื้อผ้า ของใช้ ของกิน มีแต่ให้ๆ เมื่อได้ ให้ ดูพ่ีเขามีความสุขมาก บางคร้ังตัวเองอยากร้องไห้มาก พ่เี ขากร็ ู้ พี่เขาจะบอกวา่ พี่จะอดทนนะ เก็บสุข กลางทกุ ข์ วธิ ีคดิ และแนวทางเปล่ยี นทุกข์... เป็นสขุ 89

ที่เขียนมานั้น เพียงอยากบอกให้ว่า เพราะรัก อยากให้พ่ีเขามีความสุข เพราะรู้เราต้องจากกัน ไม่รู้วันไหน ขอได้ให้ จะได้ไม่เสียใจภายหลัง พยายามทำ�ใจมาตลอด ไม่อยากส่งพ่ีเขาด้วยน้ำ�ตา แต่ ทำ�ไม่ได้เลย การท่ีใจเรายังผูกพันมากมาย เม่ือพ่ีเขาจากไป ทุกวันน้ีมันว่างเปล่านะคะ ทรมานมากกับ ความรู้สึกคดิ ถงึ ใจทีต่ ง้ั ใจ ตอนนีก้ พ็ ยายามทีจ่ ะสง่ บญุ ไปใหพ้ ีเ่ ขาทุกๆ วัน อยากใหเ้ ขาไดเ้ กดิ ภพภมู ิท่ดี ี ไม่ต้องมาเจบ็ ป่วยและทรมานเหมอื นชาติน้ี หมายเหตุ สิ่งที่ทำ�ให้เก็บสุขกลางทุกข์ได้ คือ ใช้ความรักเป็นตัวผลักดัน ท่ีจะทำ�ให้พ่ีเขาด้วย ความเตม็ ใจ หากตอนน้ีคิดยอ้ นกลับไป มีความสขุ ท่ีไดอ้ ยู่ใกล้ชิดกนั ...หากไม่มีการเจ็บป่วย ชวี ติ ค่อู าจ ล้มไปแล้ว 90 โครงการจดั การความรู้ สุขภาวะระยะท้าย เล่ม 2

“ยังไม่อยากตาย ห่วงลกู ” กานดาวศรี ตุลาธรรมกิจ http://www.gotoknow.org/posts/570834 นอ้ งทัศนยี ์ (พยาบาลเวชศาสตร์ชุมชน) ปรกึ ษาวา่ “ผปู้ ว่ ยไม่พร้อมทจี่ ะให้นักศึกษาแพทย์ไปเยีย่ ม คร้ังท่ี 2 จะท�ำ อย่างไรดี” ฉนั ถามน้องทศั นีย์วา่ “นอ้ งชว่ ยเลา่ เรื่องราวต้ังแตต่ ้นจนจบว่าเกิดอะไรขนึ้ ” น้องทัศนีย์ “ผู้ป่วยชายไทย ศาสนาพุทธ อายุ 39 ปี อาชีพรับจ้าง (พนักงานบริษัท) ช่ือพุธ (นามสมมติ) ป่วยเป็นมะเร็งลำ�ไส้ระยะสุดท้ายท่ีมีการกระจายไปยังปอด มีลูกสาว 2 คน คนโตอายุ 14 ปี ชอ่ื น้องแพร (นามสมมต)ิ ลูกสาวคนเล็กอายุ 9 ปี ชอื่ น้องพลอย (นามสมมต)ิ ส่วนภรรยาแยกทาง กันตั้งแต่น้องพลอยอายุ 9 เดือน ปัจจุบันอาศัยอยู่กับแม่ท่ีอายุ 65 ปี ในระหว่างท่ีเจ็บป่วยมีแม่และ พ่ีสาวช่ือจ๋า (นามสมมติ) มาดูแล พ่ีจ๋ามาช่วยดูแลในเวลากลางคืน กลางวันไปทำ�งานเป็นเจ้าหน้าท่ี รพ.สต.” ฉนั ถาม “ตอนน้ี คณุ พธุ มีอาการอยา่ งไร” นอ้ งทัศนีย์ “เหน่อื ยมากเวลามกี ิจกรรม ต้องใช้ออกซเิ จนเป็นชว่ งๆ และมีปวดทอ้ งปวดหลงั ” “พว่ี า่ ประเดน็ สำ�คญั ทเี่ ขา้ ไปชว่ ยตอนน้ี คอื เรอ่ื งเหนอื่ ยและปวดกอ่ น เพอ่ื ไม่ใหผ้ ปู้ ว่ ยทกุ ขท์ รมาน ส่วนประเด็นเรื่องนักศึกษาแพทย์นั้น ค่อยมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น พี่ให้น้องทัศนีย์ช่วยโทรคุยกับคุณจ๋าก่อน ว่า เป้าหมายตอนน้ีต้องการช่วยให้ผู้ป่วยไม่ทุกข์ทรมานกับการเหน่ือยและปวด จะขออนุญาตไปคุยกับ คุณจ๋าก่อน เพือ่ วางแผนชว่ ยเหลือคณุ พุธ” ฉันเสนอความคดิ เหน็ ในที่สุด คุณจ๋าอนุญาตให้ทีมเราไปคุยกันที่ รพ.สต. ในทีมมีน้องทัศนีย์ นักศึกษาแพทย์ 3 คน และฉัน วันนั้นเราคุยกันประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า คุณจ๋าเล่าว่า หลังจากนักศึกษาเยี่ยมเย็นวันศุกร์ คืน วนั อาทิตย์ ผปู้ ่วยเหน่อื ยมาก ตอ้ งไป รพ.ฉกุ เฉนิ และแพทยแ์ จง้ ขา่ วร้ายว่า “ปอดผู้ปว่ ยด�ำ มืดไปขา้ งหน่ึง และอีกข้างก็เหลือไมม่ าก” คืนน้นั ผู้ปว่ ยนอนกระสบั กระส่าย แลว้ เพอ้ ตลอดว่า “ยงั ไม่อยากตาย หว่ งลูก” “จะตอ้ งตายแนๆ่ แล้วหรือน่”ี พอเชา้ วันจนั ทร์ ผู้ป่วยเงียบ ซมึ เศรา้ ท้อแท้ และบอกพ่จี ๋าว่า ให้โทรบอกน้องทศั นีย์วา่ “ผปู้ ่วย ไมพ่ รอ้ มทจ่ี ะให้นกั ศกึ ษาแพทย์ไปเยี่ยม” เกบ็ สุข กลางทุกข์ วธิ ีคิดและแนวทางเปลยี่ นทุกข.์ .. เป็นสขุ 91

หลังจากพูดคยุ กับคุณจ๋า ถึงไดท้ ราบสาเหตทุ ีผ่ ู้ปว่ ยปฏเิ สธการเย่ียมของนกั ศึกษาแพทย์ ในวนั นน้ั ได้คุยประเด็นอ่ืนท่ีเก่ียวกับชีวิตของครอบครัวผู้ป่วยและของคุณจ๋า ที่ต้องดูแลสามีที่เป็นอัมพฤกษ์และ ลูกยงั เลก็ 2 คน รวมถึงการเตรียมใจคุณจา๋ กบั สง่ิ ทจ่ี ะเกิดขน้ึ วันนนั้ คณุ จา๋ รบั ปากวา่ จะไปขออนญุ าต น้องชาย ให้ทีมเราไปเยย่ี มเพอื่ บรรเทาอาการเหนอื่ ย ปวด ในท่ีสุดคุณพุธอนุญาตให้ทีมเราไปเย่ียม ก่อนไปเย่ียม น้องทัศนีย์ให้นักศึกษาไปขอข้อมูลจาก รพ.ทีค่ ณุ พุธไปรกั ษา และน�ำ มาปรึกษาแพทย์เวชศาสตรช์ ุมชนวา่ จะไปช่วยอะไรได้บา้ ง เชน่ ต้ังแต่ยาพน่ ที่พ่นยา ทว่ี ดั คา่ ออกซิเจน เคร่ืองวดั สัญญาณชพี เป็นต้น 2 วันต่อมา ทีมเราประกอบด้วยนักศึกษาแพทย์ 3 คน น้องพยาบาลทัศนีย์และฉัน ได้ไปเย่ียม คุณพุธท่ีบ้าน สภาพแรกรับมีอาการเหน่ือยมาก หายใจแรงและเร็ว วัดค่าออกซิเจนได้ 89 ความดัน 140/90 มม.ปรอท ชีพจร 120 ครั้งต่อนาที หายใจ 32 ครั้งต่อนาที ไม่มีไข้ รู้สึกตัวดี พูดคุยรู้เรื่อง นอนหัวสูงอยูบ่ นเก้าอ้ีโยก ไมบ่ ่นปวดท่ีใด ได้ชว่ ยเหลือโดยใหอ้ อกซิเจนและพน่ ยา ต่อมาวดั ค่าออกซเิ จน ได้ 94 หายใจ 24 คร้ังต่อนาที ในตอนนน้ั เอง ฉันสังเกตเห็นประกายตาของคณุ พธุ ทม่ี องมายังทมี เราน้ัน แสดงถงึ ความขอบคุณ ความเป็นมิตร หลังจากอาการเหน่ือยของคุณพุธสงบลง นักศึกษาแพทย์ 2 คนและน้องพยาบาลทัศนีย์น่ังอยู่ เป็นเพือ่ น ส่วนฉนั และนักศึกษาแพทย์อีก 1 คน ได้หาโอกาสไปคุยกบั แม่ผ้ปู ่วย คุณจนั ทร์ (นามสมมต)ิ เพือ่ ถามความร้สู กึ และเตรียมตัวเผชิญกบั สิ่งที่จะเกิดขน้ึ คุณจันทร์บอกว่า “ฉันเตรียมใจไว้แล้วว่า ลูกพุธคงอยู่ได้ไม่นาน แต่ไม่ต้องการให้ทุกข์ทรมาน” ขณะทกี่ �ำ ลังพูดคุยกันน้นั ลกู สาวคนเลก็ ของคุณพุธ นอ้ งพลอยเข้ามานง่ั ร่วมวงสนทนา “นอ้ งพลอยทราบไหมค่ะวา่ พอ่ ป่วย” ฉันหนั ไปถามนอ้ งพลอย “ทราบค่ะ” นอ้ งพลอยตอบ “ทราบไหมค่ะวา่ พอ่ ป่วยมาก” ฉันถามเพอ่ื ประเมนิ การรบั รู้ของน้องพลอย “ทราบค่ะ” น้องพลอยตอบพร้อมกับพยักหนา้ น้ำ�ตาซมึ “นอ้ งพลอยรู้สกึ อย่างไร” ฉนั ถามต่อ “กลัว...กลัวพอ่ ตาย” นอ้ งพลอยพูดแล้วน้�ำ ตาซมึ “ถา้ วนั หนง่ึ พ่อตอ้ งไปสวรรค์ น้องจะว่าไงคะ่ ” ฉนั ถาม นอ้ งพลอยองึ้ เงียบเศร้า น�้ำ ตาซึม 92 โครงการจดั การความรู้ สุขภาวะระยะทา้ ย เล่ม 2

ฉนั จงึ เขา้ ไปกอดนอ้ งพลอยพรอ้ มพูดวา่ “วนั หนง่ึ ทกุ ๆ คนต้องไปสวรรค์ ป้าเองก็ตอ้ งไปสวรรค์ แตจ่ ะไปช้าเร็วไมเ่ ท่ากัน แตก่ ารท่จี ะไปสวรรค์ไดน้ ้นั ต้องไปดว้ ยจติ ใจท่ีสงบและมีความสุข ถา้ นอ้ งพลอย ตอ้ งการให้พอ่ ได้ไปสวรรค์ ให้น้องพลอยบอกกบั พอ่ ว่า พลอยรักพ่อ พ่อไมต่ ้องหว่ งพลอย พลอยจะต้ังใจ เรียนหนงั สือเป็นเด็กดี โตข้ึนพลอยจะดแู ลยา่ ไมต่ ้องห่วงย่า” 3 วนั ตอ่ มา ผปู้ ว่ ยเขา้ รบั การรกั ษาตวั ในโรงพยาบาล เนอ่ื งจากมอี าการหอบเหนอื่ ยมาก ใสท่ อ่ ชว่ ย หายใจ ในระหวา่ ง 2 วันท่นี อนพกั รักษาตวั ที่โรงพยาบาล ผู้ป่วยมอี าการกระสับกระสา่ ย โดยมีแม่จันทร์ พี่จา๋ ลูกสาวน้องแพรและน้องพลอยอย่เู ป็นเพอื่ นเฝา้ อยู่ตลอด จนกระท่งั ก่อนเสยี ชีวติ 1 วัน นอ้ งพลอยเข้าไปกอดพอ่ แลว้ พูดวา่ “พลอยรกั พอ่ พ่อไมต่ ้องหว่ ง พลอย พลอยจะต้งั ใจเรยี นหนงั สอื เป็นเดก็ ดี โตขน้ึ พลอยจะดแู ลยา่ ไมต่ ้องหว่ งย่า” ญาติๆ ท่อี ยขู่ ้างเตยี ง ต่างนำ้�ตาซึม นึกไม่ถึงว่าน้องพลอยจะพูดเช่นนี้ หลังจากนั้นไม่นาน อาการกระสับกระส่ายของคุณพุธ ลดลง สดุ ทา้ ยจากไปอยา่ งสงบ เก็บสขุ กลางทุกข์ วธิ คี ดิ และแนวทางเปลยี่ นทุกข.์ .. เป็นสุข 93

ยนิ ยอมปล่อยมอื วรี มลล์ จันทรดี http://www.gotoknow.org/posts/571169 กว่าสิบปีที่แก้วป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเรื้อรัง จากวัยแรกรุ่นจนถึงวัยรุ่นตอนปลาย ผ่านการให้คีโมมานับไม่ถ้วน เข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น บางครั้งต้องนอนนานจนเป็นบ้านหลัง ที่สอง แก้วอดทนสู้กับความเจ็บความทรมานจากการรักษาจนกระทั่งโรคเริ่มสงบ แก้วได้กลับไปใช้ชีวิต เยี่ยงเด็กสาวคนอื่นๆ เร่ิมทำ�งานในโรงงานเย็บผ้า แก้วเป็นคนเงียบๆ แต่กลับมีเพื่อนเยอะ อาจเป็น เพราะความช่างย้ิม ไม่ขัดใจใคร มีน้ำ�ใจชอบช่วยเหลือเพื่อน แก้วสนุกและขยันทำ�งานจนไม่มีเวลา หาแฟน โรคมะเร็งสงบไปกวา่ ห้าปี จนแก้วสงั เกตเห็นความผิดปกติ จึงมาหาแพทยแ์ ละพบวา่ โรคกลบั เปน็ ซ้�ำ แก้วเร่ิมตน้ สอู้ กี ครง้ั แตผ่ ลการรักษาไมเ่ ปน็ อยา่ งครั้งแรก แพทยแ์ จ้งแก้วเปน็ ระยะๆ จนกระทั่งหลงั การใหค้ ีโมคร้ังหลังสุด แพทยข์ อเจาะไขกระดกู เพ่ือดูว่า ยาท่ีให้ไปจะฆา่ เจา้ ตัวรา้ ยได้หรอื ไม่ แพทย์นัดประชุมครอบครัว (family conference) ให้มาฟังผลด้วยกัน แก้วให้พี่สาวมาด้วย เพราะพ่อแม่แก่มากแล้วและอยู่ต่างจังหวัด เดินทางไม่สะดวก วันนัดหมาย ซึ่งฝ่ังคนไข้มีเพียงแก้วกับ พี่สาว ในขณะท่ีฝ่ังแพทย์มากันครบทีมทุกคนที่เก่ียวข้อง แม้แพทย์เจ้าของไข้จะไม่ใช่คนเดิมเมื่อแปดปี ทแี่ ลว้ แต่อาจารย์แพทย์ พยาบาล และนกั สงั คมสงเคราะห์ เป็นคนทีแ่ กว้ และพ่ีสาวคุน้ เคย เนื้อหาหลักในการคุย แพทย์บอกผลการให้ยาคีโมที่ผ่านมาว่า ไม่สามารถคุมมะเร็งได้ และมัน แพร่กระจายไปที่ไขกระดูก ขณะนี้โรคดำ�เนินไปจนยากแก่การรักษา และเร่ิมเข้าสู่ระยะท้ายของโรค แล้ว ให้แก้วตัดสินใจว่า จะเลือกการรักษาอย่างไร แม้จะเตรียมใจมาบ้าง แต่ก็แอบมีความหวังเล็กๆ เมอื่ รคู้ วามจรงิ น�้ำ ตาจงึ เปน็ ทางหนง่ึ ทช่ี ว่ ยระบายความเศรา้ นนั้ โชคดที แี่ พทย์ใหแ้ กว้ เอาคนในครอบครวั มาร่วมฟงั ดว้ ย ทำ�ให้ไดช้ ่วยกนั คดิ ว่า จะเลอื กการรกั ษาต่อไปเชน่ ไร แก้วตัดสินใจขอเปล่ียนเป้าหมายการรกั ษาเป็นเพื่อบรรเทาและเยียวยาตามอาการ (supportive treatment) ขอกลับไปพักท่ีบ้าน แต่แพทย์ยังคงนัดมาดูอาการบ้าง ทำ�ให้แก้วอุ่นใจว่าไม่ถูกท้ิง และ หากมีอาการหนักดูแลไม่ไหว มาหาแพทย์ก่อนนัดได้ นอกจากนี้ ยังได้วางแผนไปจนถึงขั้นว่า จะไม่เอา เครอ่ื งย้ือชีวิต ไม่ใสท่ อ่ ไม่เจาะคอ ไม่ป๊มั หวั ใจ พ่สี าวเคารพการตัดสนิ ใจของแก้ว และแพทยเ์ ขียนบันทกึ การคยุ ไว้ในแฟม้ ประวัติการรักษา 94 โครงการจัดการความรู้ สขุ ภาวะระยะท้าย เลม่ 2


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook