Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ที่สุดเเห่งธรรมถึงได้ด้วยความเคารพ 3

ที่สุดเเห่งธรรมถึงได้ด้วยความเคารพ 3

Published by jariya5828.jp, 2022-08-31 04:05:00

Description: ที่สุดเเห่งธรรมถึงได้ด้วยความเคารพ 3

Search

Read the Text Version

๓. นั่งขัดสมาธิ ขาขวาทับขาซ้าย มือขวาทับมือซ้าย น้ิวช้ี ของมอื ข้างขวาจรด น้วิ หวั แมม่ อื ขา้ งซา้ ย นัง่ ใหอ้ ย่ใู นท่าที่พอดี ไม่ฝืน รา่ งกายมากจนเกินไป ไม่ถึงกับเกร็ง แต่อย่าให้หลังโค้งงอ หลับตา พอสบายคล้ายกับก�ำลังพักผ่อน ไม่บีบกล้ามเน้ือตาหรือขมวดค้ิว แล้วต้ังใจมั่น วางอารมณ์สบาย สร้างความรู้สึกให้พร้อมท้ังกาย และใจว่าก�ำลังจะเข้าไปสู่ภาวะแห่งความสงบสบายอย่างย่ิง ๔. นึกก�ำหนดนิมิต เป็น “ดวงแก้วกลมใส” ขนาดเท่า แกว้ ตาดำ� ใสบรสิ ทุ ธิ์ ปราศจากรอยตำ� หนิใด ๆ ขาวใส เยน็ ตาเยน็ ใจ ดงั ประกายของดวงดาว ดวงแกว้ กลมใสน้ีเรียกว่า บริกรรมนิมติ นึก สบาย ๆ นึกเหมอื นดวงแก้วนน้ั มานงิ่ สนทิ อยู่ ณ ศนู ย์กลางกายฐาน ท่ี ๗ นกึ ไปภาวนาไปอยา่ งนมุ่ นวลเปน็ พทุ ธานสุ ตวิ า่ “สมั มาอะระหงั ” หรอื คอ่ ย ๆ นอ้ มนกึ ถงึ ดวงแกว้ กลมใสใหค้ อ่ ย ๆ เคลอ่ื นเขา้ สศู่ นู ยก์ ลาง กายตามแนวฐาน โดยเรม่ิ ตน้ ตัง้ แต่ฐานท่ี ๑ เป็นตน้ ไป น้อมนกึ อยา่ ง สบาย ๆ ใจเย็น ๆ ไปพร้อม ๆ กับคำ� ภาวนา สงั ฆคารวตา เคารพในพระสงฆ์ 139 www.kalyanamitra.org

อนง่ึ เมอ่ื นมิ ติ ดวงแกว้ กลมใสปรากฏแลว้ ณ กลางกาย ใหว้ าง อารมณส์ บาย ๆ กบั นมิ ติ น้ัน จนเหมอื นกบั ว่าดวงนมิ ิตเปน็ ส่วนหนึง่ ของอารมณ์ หากดวงนิมิตน้ันอันตรธานหายไป ก็ไม่ต้องนึกเสียดาย ให้วางอารมณส์ บาย แลว้ นกึ นิมติ นนั้ ข้ึนมาใหมแ่ ทนดวงเกา่ หรือเมอ่ื นิมติ นั้นไปปรากฏทอี่ ืน่ ท่มี ิใช่ศนู ย์กลางกาย ใหค้ ่อย ๆ น้อมนิมิตเข้า มาอยา่ งค่อยเปน็ ค่อยไป ไม่มกี ารบงั คับ และเมอ่ื นิมิตมาหยดุ สนทิ ณ ศนู ยก์ ลางกาย ใหว้ างสตลิ งไปยงั จดุ ศนู ยก์ ลางของดวงนมิ ติ ดว้ ยความ ร้สู กึ คลา้ ยมดี วงดาวดวงเลก็ ๆ อีกดวงหน่งึ ซอ้ นอยู่ตรงกลางดวงนิมติ ดวงเดิม แล้วสนใจเอาใจใส่แต่ดวงเล็ก ๆ ตรงกลางน้ันไปเร่ือย ๆ ใจจะปรับจนหยุดได้ถูกส่วน เกิดการตกศูนย์และเกิดดวงสว่างข้ึนมา แทนท่ี ดวงน้เี รียกว่า “ดวงธรรม” หรอื “ดวงปฐมมรรค” อนั เปน็ ประตูเบื้องตน้ ที่จะเปดิ ไปสหู่ นทางแหง่ มรรคผลนิพพาน การระลกึ นกึ ถงึ นมิ ติ สามารถทำ� ไดใ้ นทกุ แหง่ ทกุ ที่ ทกุ อริ ยิ าบถ ไมว่ า่ จะนั่ง นอน ยนื เดิน หรือขณะทำ� ภารกิจใด ๆ ข้อแนะน�ำ คือ ต้องท�ำให้สม่�ำเสมอเป็นประจ�ำ ท�ำเรื่อย ๆ ทำ� อย่างสบาย ๆ ไม่เร่ง ไมบ่ ังคับ ท�ำได้แคไ่ หนใหพ้ อใจแค่นั้น ซ่ึงจะ เป็นการป้องกันมิให้เกิดความอยากจนเกินไป จนถึงกับท�ำให้ใจ ต้องสูญเสียความเป็นกลาง และเมื่อการฝึกสมาธิบังเกิดผลจนได้ “ดวงปฐมมรรค” ที่ใสเกินใส สวยเกินสวย ติดสนิทมั่นคงอยู่ที่ ศูนยก์ ลางกายแลว้ ให้หมนั่ ตรกึ ระลกึ นกึ ถึงอยูเ่ สมอ 140 ที่สดุ แหง่ ธรรม ถึงได้ด้วยความเคารพ www.kalyanamitra.org

อยา่ งนแี้ ลว้ ผลแหง่ สมาธจิ ะทำ� ใหช้ วี ติ ดำ� รงอยบู่ นเสน้ ทางแหง่ ความสขุ ความสำ� เรจ็ และความไมป่ ระมาทไดต้ ลอดไป ทง้ั ยงั จะทำ� ให้ สมาธิละเอียด ลมุ่ ลึกไปตามลำ� ดบั อีกดว้ ย ข้อควรระวงั ๑. อย่าใช้กำ� ลงั คือไมใ่ ชก้ ำ� ลงั ใด ๆ ทัง้ ส้นิ เช่น ไมบ่ บี กล้าม เนอ้ื ตาเพอ่ื จะใหเ้ หน็ นมิ ติ เรว็ ๆ ไมเ่ กรง็ แขน ไมเ่ กรง็ กลา้ มเนอ้ื หนา้ ทอ้ ง ไมเ่ กรง็ ตวั ฯลฯ เพราะการใชก้ ำ� ลงั ตรงสว่ นไหนของรา่ งกายกต็ าม จะ ทำ� ให้จิตเคลื่อนจากศูนย์กลางกายไปสจู่ ุดนั้น ๒. อยา่ อยากเหน็ คอื ทำ� ใหใ้ จเปน็ กลาง ประคองสตมิ ใิ หเ้ ผลอ จากบรกิ รรมภาวนาและบรกิ รรมนมิ ติ สว่ นจะเหน็ นมิ ติ เมอื่ ใดนนั้ อยา่ กังวล ถ้าถึงเวลาแล้วย่อมเห็นเอง การบังเกิดของดวงนิมิตนั้นอุปมา เสมือนการขนึ้ และตกของดวงอาทิตย์ เราไมอ่ าจเรง่ เวลาได้ ๓. อย่ากังวลถึงการก�ำหนดลมหายใจเข้าออก เพราะ การฝึกสมาธิเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกายภายใน อาศัยการนึกถึง “อาโลกกสณิ ” คือกสณิ แสงสว่างเป็นบาทเบือ้ งต้น เม่อื ฝึกสมาธิจน เข้าถึงดวงปฐมมรรค แล้วฝึกสมาธิต่อไป ผ่านกายมนุษย์ละเอียด กายทพิ ย์ กายรปู พรหม กายอรปู พรหม จนกระทง่ั เขา้ ถงึ พระธรรมกาย แล้วจึงเจริญวิปัสสนาในภายหลัง ดังน้ันจึงไม่มีความจ�ำเป็นต้อง ก�ำหนดลมหายใจเข้าออกแต่ประการใด สังฆคารวตา เคารพในพระสงฆ์ 141 www.kalyanamitra.org

๔. เมื่อเลิกจากน่ังสมาธิแล้ว ให้ตั้งใจไว้ท่ีศูนย์กลางกาย ท่ีเดียวไม่ว่าจะอยู่ในอิริยาบถใดก็ตาม เช่น ยืนก็ดี เดินก็ดี นอนก็ดี หรอื นงั่ กด็ อี ยา่ ยา้ ยฐานทต่ี งั้ จติ ไปไวท้ อ่ี นื่ เปน็ อนั ขาด ใหต้ งั้ ใจบรกิ รรม ภาวนา พรอ้ มกบั นกึ ถงึ บรกิ รรมนมิ ติ เปน็ ดวงแกว้ ใสควบคกู่ นั ตลอดไป ๕. นิมิตต่าง ๆ ท่ีเกิดขึ้น จะต้องน้อมไปตั้งไว้ท่ีศูนย์กลาง กายท้ังหมด ถ้านิมิตท่ีเกิดข้ึนแล้วหายไปก็ไม่ต้องตามหา ให้ภาวนา ประคองใจต่อไปตามปกติ ในท่ีสุดเมื่อจิตสงบ นิมิตย่อมปรากฏขึ้น ใหมอ่ กี การฝกึ สมาธเิ บอ้ื งตน้ เทา่ ทก่ี ลา่ วมาทงั้ หมดนี้ ยอ่ มเปน็ ปจั จยั ให้ เกดิ ความสขุ ไดพ้ อสมควร เมอื่ ซกั ซอ้ มปฏบิ ตั อิ ยเู่ สมอ ๆ ไมท่ อดทง้ิ จนได้ ดวงปฐมมรรคแลว้ กใ็ หห้ มน่ั ประคองรกั ษาดวงปฐมมรรคนนั้ ไวต้ ลอด ชีวิต ด�ำรงตนอยู่ในศีลธรรมอันดี ย่อมเป็นหลักประกันได้ว่าได้ที่พ่ึง ของชีวิตท่ีถูกต้องดีงาม ท่ีจะส่งผลให้เป็นผู้มีความสุขความเจริญ ท้ังในภพชาตนิ ี้และภพชาติหน้า หากสามารถแนะน�ำต่อ ๆ กนั ไป ขยายไปยังเหล่ามนษุ ยชาติ อย่างไม่จ�ำกัดเชื้อชาติ ศาสนา และเผ่าพันธุ์ สันติสุขอันไพบูลย์ท่ี ทุกคนใฝ่ฝนั กย็ ่อมบังเกิดขึ้นอยา่ งแน่นอน 142 ทีส่ ดุ แหง่ ธรรม ถึงได้ดว้ ยความเคารพ www.kalyanamitra.org

ประโยชนข์ องการฝกึ สมาธิ ๑. ผลต่อตนเอง ๑.๑ ด้านสขุ ภาพจติ ส่งเสริมให้คุณภาพของใจดีข้ึน คือ ท�ำให้จิตใจผ่องใส สะอาด บริสุทธิ์ สงบ เยอื กเยน็ ปลอดโปร่ง โลง่ เบา สบาย มีความจ�ำ และสตปิ ญั ญาดีข้ึน สง่ เสรมิ สมรรถภาพทางใจ ทำ� ใหค้ ดิ อะไรไดร้ วดเรว็ ถกู ตอ้ ง และเลอื กคดิ แต่ในสิง่ ทีด่ ีเท่านัน้ ๑.๒ ดา้ นพัฒนาบคุ ลกิ ภาพ จะเปน็ ผมู้ บี คุ ลกิ ภาพดี กระฉบั กระเฉง กระปรก้ี ระเปรา่ มคี วามองอาจสงา่ ผา่ เผย มผี วิ พรรณผอ่ งใส มีความม่ันคงทางอารมณ์ หนักแน่น เยือกเย็น และ เชอื่ มน่ั ในตนเอง มมี นษุ ยสัมพนั ธ์ดี วางตัวไดเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะ เป็น ผมู้ เี สนห่ ์ เพราะไมม่ กั โกรธ มคี วามเมตตากรณุ าตอ่ บคุ คลทว่ั ไป ๑.๓ ดา้ นชวี ติ ประจำ� วนั ชว่ ยใหค้ ลายเครยี ด เปน็ เครอ่ื งเสรมิ ประสทิ ธภิ าพในการ ท�ำงาน และการศึกษาเล่าเรียน ชว่ ยเสรมิ ใหม้ สี ขุ ภาพรา่ งกายแขง็ แรง เพราะรา่ งกายกบั จิตใจย่อมมีอิทธิพลต่อกัน ถ้าจิตใจเข้มแข็ง ย่อมเป็นภูมิ ตา้ นทานโรคไปในตวั สังฆคารวตา เคารพในพระสงฆ์ 143 www.kalyanamitra.org

๑.๔ ดา้ นศีลธรรมจรรยา ย่อมเป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิ เช่ือกฎแห่งกรรม สามารถ คุ้มครองตนให้พ้นจากความช่ัวท้ังหลายได้ เป็นผู้มีความ ประพฤตดิ ี เนอ่ื งจากจติ ใจดี ทำ� ใหค้ วามประพฤตทิ างกายและ วาจาดตี ามไปด้วย ย่อมเป็นผู้มีความมักน้อย สันโดษ รักสงบ และมี ขนั ตเิ ป็นเลศิ ยอ่ มเปน็ ผมู้ คี วามเออื้ เฟอ้ื เผอ่ื แผ่ เหน็ ประโยชนส์ ว่ นรวม มากกวา่ ประโยชนส์ ว่ นตวั ยอ่ มเปน็ ผมู้ สี มั มาคารวะและมคี วาม อ่อนน้อมถ่อมตน ๒. ผลต่อครอบครัว ๒.๑ ท�ำให้ครอบครัวมีความสงบสุข เพราะสมาชิกใน ครอบครวั เห็นประโยชน์ของการประพฤตธิ รรม ทุกคนตั้งม่นั อยใู่ น ศีล ปกครองกนั ดว้ ยธรรม เดก็ เคารพผใู้ หญ่ ผู้ใหญเ่ มตตาเดก็ ทกุ คน มคี วามรกั ใครส่ ามคั คเี ปน็ นำ�้ หนงึ่ ใจเดียวกนั ๒.๒ ท�ำให้ครอบครัวมีความเจริญก้าวหน้า เพราะสมาชิก ต่างก็ทำ� หนา้ ทข่ี องตนโดยไม่บกพรอ่ ง เป็นผู้มใี จคอหนกั แนน่ เม่ือมี ปญั หาครอบครวั หรอื มอี ปุ สรรคอนั ใด ยอ่ มรว่ มใจกนั แกไ้ ขปญั หาให้ ลลุ ว่ งไปได้ดว้ ยดี ๓. ผลตอ่ สังคมและประเทศชาติ ๓.๑ ทำ� ใหส้ งั คมสงบสขุ ปราศจากปญั หาอาชญากรรม และ ปญั หาสังคมอ่ืน ๆ เพราะปัญหาท้งั หลายท่ีเกดิ ข้นึ ในสังคม ไม่ว่าจะ เป็นปญั หาการฆ่า การขม่ ขนื โจรผูร้ า้ ย การทุจริตคอร์รัปชนั ลว้ น เกดิ ขน้ึ มาจากคนทข่ี าดคณุ ธรรม เปน็ ผทู้ มี่ จี ติ ใจออ่ นแอ หวนั่ ไหวตอ่ อ�ำนาจสิ่งยั่วยวนหรือกิเลสได้ง่าย ผู้ท่ีฝึกสมาธิย่อมมีจิตใจเข้มแข็ง 144 ท่ีสุดแห่งธรรม ถงึ ไดด้ ว้ ยความเคารพ www.kalyanamitra.org

มคี ณุ ธรรมในใจสงู ถา้ แตล่ ะคนในสงั คม ตา่ งฝกึ ฝนอบรมใจของตนให้ หนกั แนน่ มน่ั คง ปญั หาเหลา่ นก้ี จ็ ะไมเ่ กดิ ขน้ึ สง่ ผลใหส้ งั คมสงบสขุ ได้ ๓.๒ ทำ� ใหเ้ กิดความมรี ะเบยี บวินัย และเกิดความประหยดั ผู้ที่ฝึกใจให้ดีงามด้วยการท�ำสมาธิอยู่เสมอ ย่อมเป็นผู้รักความมี ระเบยี บวนิ ยั รกั ความสะอาด มคี วามเคารพกฎหมายบา้ นเมอื ง ดงั นน้ั บา้ นเมอื งเราก็จะสะอาดนา่ อยู่ ไม่มีคนมักง่ายท้ิงขยะลงบนพ้ืนถนน จะข้ามถนนก็เฉพาะตรงทางข้าม เป็นต้น เป็นเหตุให้ประเทศชาติ ไม่ต้องส้ินเปลืองงบประมาณ เวลา และก�ำลังเจ้าหน้าที่ ท่ีจะไปใช้ ส�ำหรบั แกป้ ญั หาทเี่ กิดขึน้ จากความไม่มีระเบียบวินัยของประชาชน ๓.๓ ทำ� ใหส้ งั คมเจรญิ กา้ วหนา้ เมอ่ื สมาชกิ ในสงั คมมสี ขุ ภาพ จิตดี รักความเจริญกา้ วหน้า มีประสิทธิภาพในการท�ำงานสูง ยอ่ ม ส่งผลให้สังคมเจริญก้าวหน้าตามไปด้วย และจะสละความสุขส่วน ตนใหค้ วามรว่ มมอื กบั สว่ นรวมอยา่ งเตม็ ที่ และถา้ มผี ไู้ มป่ ระสงคด์ ตี อ่ สงั คม จะมายแุ หยใ่ หเ้ กดิ ความแตกแยก กจ็ ะไมเ่ ปน็ ผลสำ� เรจ็ เพราะ สมาชิกในสงั คมเปน็ ผ้มู จี ิตใจหนกั แนน่ มเี หตผุ ล และเป็นผู้รกั สงบ สงั ฆคารวตา เคารพในพระสงฆ์ 145 www.kalyanamitra.org

๔. ผลต่อศาสนา ๔.๑ ทำ� ใหเ้ ขา้ ใจพระพทุ ธศาสนาไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง และรซู้ ง้ึ ถึงคุณค่าของพระพุทธศาสนา รวมท้ังรู้เห็นด้วยตัวเองว่า การฝึก สมาธไิ มใ่ ชเ่ รอื่ งเหลวไหล หากแตเ่ ปน็ วธิ เี ดยี วทจ่ี ะทำ� ใหพ้ น้ ทกุ ขเ์ ขา้ สูน่ ิพพานได้ ๔.๒ ทำ� ใหเ้ กดิ ศรทั ธาตง้ั มน่ั ในพระรตั นตรยั พรอ้ มทจ่ี ะเปน็ ทนายแกต้ า่ งใหก้ บั พระศาสนาอนั จะเปน็ กำ� ลงั สำ� คญั ในการเผยแผ่ การปฏบิ ัตธิ รรมท่ีถูกต้อง ใหแ้ พร่หลายไปอยา่ งกว้างขวาง ๔.๓ เป็นการสืบอายุพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรือง ตลอดไป เพราะตราบใดท่ีพุทธศาสนิกชนยังสนใจปฏิบัติธรรม เจรญิ ภาวนาอยู่ พระพทุ ธศาสนาก็จะเจรญิ รงุ่ เรอื งอย่ตู ราบนัน้ ๔.๔ จะเป็นกำ� ลังส่งเสริมทะนบุ �ำรงุ ศาสนา โดยเม่ือเขา้ ใจ ซาบซึ้งถึงประโยชน์ของการปฏิบัติธรรมด้วยตนเองแล้ว ย่อมจะ ชกั ชวนผอู้ นื่ ใหท้ ำ� ทาน รกั ษาศลี เจรญิ ภาวนาตามไปดว้ ย และเมอื่ ใด ที่ทุกคนในสังคมต้ังใจปฏิบัติธรรม ท�ำทาน รักษาศีล และเจริญ ภาวนา เมอื่ นนั้ ยอ่ มเปน็ ทหี่ วงั ไดว้ า่ สนั ตสิ ขุ ทแ่ี ทจ้ รงิ กจ็ ะบงั เกดิ ขนึ้ อยา่ งแน่นอน 146 ทีส่ ุดแห่งธรรม ถึงได้ดว้ ยความเคารพ www.kalyanamitra.org

www.kalyanamitra.org


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook