โป๊ ยเซียน (ช่ือวทิ ยาศาสตร์: Euphorbia milli) เป็น หนง่ึ ในไม้มงคล จดั อยใู่ นวงศ์ Euphorbiaceae อยใู่ น สกลุ Euphorbia ซงึ่ เป็นสกลุ เดียวกบั พืชหลายชนิด เชน่ ต้นคริสต์มาส และส้มเช้า โป๊ ยเซียน (八仙) มาจากภาษาจีน แปลวา่ เทพยดาทงั้ 8 องค์ ได้แก่ เซียนทิกว๋ ยลี ้เซียนฮน่ั จงหลี เซียนลือทง่ ปิ น เซียน เจียงกว๋ั เล้า เซียนหลนั ไฉ่เหอ เซียนฮอ่ เซียนโกว เซียนหนั เซีย งจือ เซียนเชาก๊กกู๋ เชื่อกนั วา่ ถ้าบ้านใดมีดอกโป๊ ยเซียนครบ 8 ดอก จะนําความโชคดีมาให้แก่บ้านของผ้นู นั้
ลกั ษณะโดยทว่ั ไป ใบยาวรี ปลายใบจะแหลม ออกดอกเป็นกลมุ่ ๆ แตล่ ะ ดอกจะมีกลบี อยตู่ รงข้ามกนั ดอกโป๊ ยเซียนมีหลายสี เช่น แดง เหลือง ชมพู ส้ม ขาว เป็นต้น ดอกโป๊ ยเซียนจะ ออกดอกทงั้ ปี แตอ่ อกมากในหน้าหนาว และดอกจะทน มาก ลาํ ต้นมหี นามแหลม และแข็งคล้ายกระบองเพชร การขยายพนั ธ์โุ ป๊ ยเซียน สามารถทําได้หลายวิธี เช่น การปักชํา การตอนกิ่ง การ เสยี บก่ิง และการเพาะเมลด็ แตท่ ่ีนิยมทํามากและ ได้ผลดีคือ การปักชํา และการเสยี บก่งิ การดแู ลรักษา เน่ืองจากโป๊ ยเซียนเป็นพชื มงคล ผ้ปู ลกู จงึ ควรดแู ลรักษา มากเป็นพิเศษเพราะมนั มีคณุ คา่ ทางจติ ใจ ผ้ปู ลกู จงึ ควร ปลกู ในสภาพแวดล้อมท่ีดี และควรจะมีการดแู ลรักษาท่ี ดีด้วย
ดินที่นํามาปลกู ควรเป็นดนิ ร่วนซยุ ระบายนํา้ ได้ดี ไมเ่ ช่นนนั้ ราก โป๊ ยเซียนอาจเนา่ ได้ ท่ีสาํ คญั ควรเปลีย่ นดินทกุ ๆ ปี แสงแดด โป๊ ยเซียนเป็นพืชที่ชอบแดด จงึ ควรให้โป๊ ยเซียนได้รับแสงแดด ที่เพียงพอ ถ้ามากไปดอกจะเลก็ แตถ่ ้าน้อยไปดอกจะโต ต้นจะไม่ แข็งแรง นํา้ โป๊ ยเซียนทนตอ่ สภาพแล้งได้ดีพอสมควร จงึ ไมจ่ ําเป็นต้องให้นํา้ ทกุ วนั ถ้าโป๊ ยเซียนอยใู่ นชว่ งออกดอก ไมค่ วรรดนํา้ ที่ดอกเพราะจะทาํ ให้ ดอกเนา่ และร่วงเร็ว และหากรดนํา้ มากเกินไป จะทาํ ให้โป๊ ยเซียนเป็น โรครากเน่า และเกิดเชือ้ ราขนึ ้ ในดินที่ใช้ปลกู
ป๋ ยุ สามารถใสไ่ ด้ทงั้ ป๋ ยุ เคมีและป๋ ยุ อนิ ทรีย์ โดยป๋ ยุ อนิ ทรีย์ เชน่ ป๋ ยุ คอกหรือ ป๋ ยุ หมกั จะทําให้ดนิ ร่วนซยุ ควรให้ป๋ ยุ แก่ โป๊ ยเซียนเดือนละ 1-2 ครัง้ การตดั แตง่ กิ่ง โป๊ ยเซียนบางพนั ธ์ุอาจ แตกกิ่งออกมามาก ทําให้ใบอาจจะไป ปิ ดบงั แสง แล้วทําให้อากาศไมถ่ ่ายเท จงึ ควรมีการตดั แตง่ กิ่งทงั้ เพื่อให้อากาศ ถ่ายเทสะดวก และเพือ่ ความสวยงาม นอกจากนีก้ ิ่งที่ตดั ออกมายงั สามารถ นําไปขยายพนั ธ์ุตอ่ ได้อีกด้วย
ลนั่ ทม หรือ ลลี าวดี เป็นไม้ดอกยืนต้นในวงศ์ตีนเป็ด หรือ วงศ์ไม้ ลน่ั ทม (Apocynaceae) มีหลายชนิดด้วยกนั บางคนมี ความเช่ือวา่ ไมค่ วรปลกู ต้นลนั่ ทมในบ้านเพราะมีความเชื่อวา่ เป็นอปั มงคล คือไปพ้องกบั คําวา่ 'ระทม' ซง่ึ แปลวา่ เศร้าโศก ทกุ ข์ใจ นิยมปลกู กนั แพร่หลายอย่างมาก ชื่อพืน้ เมืองอื่น ๆ ได้แก่ จําปา, จําปาลาว และจําปาขอม เป็นต้น (สําหรับชื่อภาษาองั กฤษ ได้แก่ Frangipani, Plumeria, Temple Tree, Graveyard Tree)[1] ต้นลลี าวดีเป็นพืชนิยมปลกู เพราะดอกมีสสี นั หลากหลาย สวยงาม ได้แกข่ าว เหลอื งออ่ น แดง ชมพู สีขาวข่นุ ฯลฯ บาง ดอกมีมากกวา่ 1 สี อาจมีมากถึงหลายสใี นดอกเดียว
ดอกลีลาวดียงั เป็นดอกไม้ประจําชาติของประเทศลาว โดย เรียกวา่ \"ดอกจําปา และพบได้มากบริเวณทางขนึ ้ พระธาตทุ ี่เมือง หลวงพระบาง สําหรับในประเทศไทยนนั้ มกั พบต้นลนั่ ทมตาม ธรรมชาติทางภาคเหนือเป็นสว่ นใหญ่
ชื่อพืน้ เมือง รู้จกั กนั อยา่ งแพร่หลายในปัจจบุ นั ในชื่อ ลีลาวดี โดยบาง แหลง่ งดใช้ชื่อ ลน่ั ทม ตามความเชื่อ บางแหลง่ รู้จกั กนั ใน ชื่อ จําปา เนื่องจากเป็นดอกไม้ประจําชาตขิ องลาวและ ประเทศไทยมีดนิ แดนตดิ กบั ลาว หรือรู้จกั ในชื่อ จําปาลาว และจําปาขอม ซง่ึ ชื่อท่ีใช้ในปัจจบุ นั และรู้จกั กนั ทวั่ ไปจะอยู่ ลําดบั แรกสดุ ความเชื่อ คนโบราณมคี วามเชื่อวา่ ต้นลนั่ ทมนนั้ ไมค่ วรปลกู ในบ้าน ด้วยมีชื่ออปั มงคล คือไปพ้องกบั คําวา่ ระทม ซง่ึ แปลวา่ เศร้าโศก ทกุ ข์ใจ จงึ ได้มีการเรียกชื่อเสียใหมใ่ ห้เป็นมงคล วา่ ลีลาวดี ภาษาดอกไม้ของ \"ลนั่ ทม\" หมายถึง การละแล้วซง่ึ ความ โศก ซงึ่ มาจากคําวา่ \"ลน่ั \" หมายถงึ การละทงิ ้ แตกหกั สว่ น \"ทม\" หมายถงึ ความเศร้าโศก เสียใจ ไมไ่ ด้มี ความหมายวา่ \"ระทม\" เหมือนท่ีคนเข้าใจ
ทางพฤกษศาสตร์ สกลุ Plumeria มีมากกวา่ 21 ชนิด เทา่ ท่ีตรวจพบสาย พนั ธ์ุมีมากกวา่ ร้อยสายพนั ธ์ุ[4] Plumeria หลายสาย พนั ธ์ุจะมียาง คล้ายกบั สายพนั ธ์ุอื่นๆ ในวงศ์ตีนเป็ด Apocynaceae ซงึ่ ประกอบไปด้วยสารพษิ และทําให้ ระคายเคืองตอ่ ตาและผิวหนงั [5] ในหลายสายพนั ธ์ุมี ลกั ษณะของใบและการเรียงตวั ของเนือ้ เยื่อใบท่แี ตกตา่ งกนั ใบของสายพนั ธ์ุ Plumeria alba จะเรียวและแหลม ในขณะท่สี ายพนั ธ์ุ Plumeria pudica มีรูปร่างยาว และมนั วาว สีเขียวเข้ม และในสายพนั ธ์ุ Plumeria pudica ใบออ่ นจนถงึ ใบแกม่ ีสเี ทา่ กนั ตลอดจนร่วง สว่ น ในสายพนั ธ์ุที่ดอกและใบไม้ร่วงแม้ในฤดหู นาวคือสายพนั ธ์ุ Plumeria obtusa หรือรู้จกั กนั อยา่ งเป็นทางการคือ ลีลาวดีสิงคโปร์ ซงึ่ มีต้นกําเนิดจากอเมริกากลาง
ชื่อวิทยาศาสตร์ ลีลาวดีมชี ่ือทางวิทยาศาสตร์ คือ Plumeria spp. ลกั ษณะทวั่ ไป ต้น เป็นไม้ยืนต้น มีขนาดตงั้ แตพ่ มุ่ เตีย้ แคระสงู ประมาณ 0.9-1.2 เมตร จนถึงต้นที่สงู มาก อาจสงู ถงึ 12 เมตร ลําต้นแตกกิ่งก้านสขาและพมุ่ ใบ สวยงาม มีนํา้ ยางสขี าวข้น เป็นไม้ผลดั ท่ีสลดั ใบในฤดแู ล้งกอ่ นที่จะผลิ ดอกและผลใิ บรุ่นใหม่ กิง่ ทย่ี งั ไมแ่ กม่ ีสเี ขียว ออ่ นนมุ่ ดเู กือบจะอวบนํา้ ก่ิงแก่มีสีเทามีรอยตะป่ มุ ตะป่ํ า กิ่งไมส่ ามารถทานนํา้ หนกั ได้ กิ่งเปราะ เปลือกลําต้นหนา ต้นที่โตเตม็ ท่ีแล้วจะพฒั นาจนกระทงั่ มีความแขง็ แรง มากขนึ ้
ใบ เป็นใบเด่ียว มีการเรียงตวั แบบสลบั และหนาแน่นใกล้ปลาย กิ่ง มีลกั ษณะแตกตา่ งกนั ไปทงั้ รูปร่าง ขนาด สี และความ หนาแน่น โดยทว่ั ไป ใบจะหนา เหนียวแขง็ และมีสตี งั้ แตส่ เี ขียว ออ่ นถงึ สเี ขียวเข้ม มเี ส้นกลางใบแตกสาขาออกไปคล้ายขนนก ขนาดใบแตกตา่ งกนั ไมม่ าก ช่อดอก ดอกจะผลอิ อกมาจากปลายยอดเหนือใบ เหน็ เป็นชอ่ ดอกใหญ่สวยงาม แตก่ ม็ ีบางชนิดท่ีออกช่อดอกระหวา่ งใบ หรือ ใต้ใบ บางชนิดห้อยลงบางชนิดตงั้ ขนึ ้ ในหนง่ึ ชอ่ จะมดี อกบาน พร้อมกนั 10 – 30 ดอก บางต้นที่มีความสมบรู ณ์เตม็ ที่อาจมี ดอกมากกวา่ 100 ดอก ตอ่ 1 ช่อ ออกดอกประมาณเดือน กมุ ภาพนั ธ์ถงึ เดือนเมษายน บางพนั ธ์ุสามารถออกดอกได้ตลอด ทงั้ ปี
ปี บ หรือ กาสะลอง ในภาษาไทยถ่ินเหนือ (ชื่อ วิทยาศาสตร์: Millingtonia hortensis) เป็น ไม้ยืนต้นสงู ประมาณ 15 เมตร มีดอกรูปแตรสขี าวหอม ออ่ น ๆ นิยมปลกู เป็นไม้ประดบั ปี บยงั มีช่ือพืน้ เมืองอืน่ อีกคือ เตก็ ตองโพ่ (กะเหรี่ยง กาญจนบรุ ี)
ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ ดอกปี บ ปี บเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถงึ ขนาดใหญ่มีความสงู ประมาณ 10- 20 เมตร ผลดั ใบ เรือนยอดเป็นพมุ่ ทรงกระบอก กง่ิ ก้านมกั จะย้อย ลง เปลอื กสีนํา้ ตาลแตกเป็นร่องลกึ ตามยาวลําต้นอยา่ งไมเ่ ป็น ระเบียบ ใบประกอบแบบขนนก 2-3 ชนั้ เรียงเวียน ช่อแขนง ด้านข้างมี 3-5 คู่ ปลายค่ี เรียงตรงข้าม ใบยอ่ ยแขนงละ 2-4 คู่ เรียง ตรงข้าม ใบรูปไข่หรือรูปไขแ่ กมใบหอก กว้าง 2-3 ซม. ยาว 4-8 ซม. ปลายแหลม โคนใบมน ขอบใบหยกั มนหรือเว้าเป็นคล่นื เลก็ น้อย
ดอกมีสีขาวหรือชมพู มีกลน่ิ หอม ออกเป็นช่อแบบชอ่ กระจกุ ซ้อน ตามปลายกิ่ง ชอ่ ดอกขนาดใหญ่ ยาว 10-35 ซม. มีขน กลีบ เลยี ้ งมีขนาดเลก็ โคนติดกนั เป็นรูปถ้วย ปลายแยก 5 แฉก ปลาย มนกว้างม้วนลง เป็นหลอดยาวปลาย 4 แฉก มี 1 กลีบท่ีปลาย เป็น 2 แฉก ดอกบานเตม็ ที่กว้าง 3.5-4 ซม. ผลแห้งแตก เป็นฝัก แบนและตรง สนี ํา้ ตาล หวั ท้ายแหลม กว้าง 1.5-2.3 ซม. ยาว 25-30 ซม. เมลด็ แบนมีปี กบาง
ประโยชน์ ดอกตากแห้งนํามาม้วนเป็นบหุ รี่สบู รักษาริดสีดวงจมกู และมีสาร hispidulin มีฤทธิ์ในการขยายหลอดลม รักษาอาการหอบหืด[2] สารสกดั จากใบท่ีสกดั ด้วยเอทา นอลสามารถยบั ยงั้ การเจริญของคะน้าได้[
พญาสตั บรรณ หรือ สตั บรรณ หรือ ตีนเป็ด (ชื่อวิทยาศาสตร์: Alstonia scholaris) เป็นไม้ยืนต้น ขนาดใหญ่มีความสงู ประมาณ 12-20 เมตร อยใู่ นวงศ์ Apocynaceae มีถิ่นดงั้ เดมิ ในเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ และพบได้ทกุ ภาคในประเทศไทย [2] และเป็นต้นไม้ประจํา จงั หวดั สมทุ รสาคร
ลกั ษณะ เปลือกหนาแตเ่ ปราะ ผวิ ต้นมีสะเก็ดเลก็ ๆ สีขาวปนนํา้ ตาล กรีดดจู ะมียางสีขาวลาํ ต้นตรง แตกกิ่งก้านสาขามากลกั ษณะ เป็นชนั้ ๆ เปลือกชนั้ ในสนี ํา้ ตาล มีนํา้ ยางสีขาว ใบเป็นกลมุ่ บริเวณปลายกิ่งช่อหนงึ่ มีใบประมาณ 5-7 ใบ ก้านใบสนั้ แผน่ ใบรูปรีแกมรูปขอบขนานถงึ รูปหอกแกมรูปขอบขนาน หรือรูป มนแกมรูปบรรทดั ปลายใบเป็นติ่งเลก็ น้อย ใบด้านบนมีสีเขียว เข้ม ด้านลา่ งมีสีขาวนวล ถ้าเดด็ ก้านใบจะมียางสีขาว ลกั ษณะ ใบยาวรีปลายใบมนโคนใบแหลม ขนาดใบยาวประมาณ 10- 12 เซนตเิ มตร ออกดอกสีเขียวออ่ นเป็นชอ่ ตามปลายก่ิง ปาก ทอ่ ของกลบี ดอกมีขนยาวปกุ ปยุ ดอกมีกล่ินฉนุ รุนแรง ดอกเป็น กลมุ่ คล้ายดอกเขม็ ช่อหนง่ึ จะมีกลมุ่ ดอกประมาณ 7 กลมุ่ ดอก มีสีขาวอมเหลอื ง ปกติจะออกดอกในช่วงเดือนตลุ าคมถึงเดือน ธนั วาคมผลเป็นฝักยาว ฝักคหู่ รือเดี่ยว ลกั ษณะเป็นเส้นๆ กลม เรียวยาวประมาณ 20-30 เซนติเมตร เม่ือแกจ่ ะแตก มีขยุ สขี าว คล้ายฝ้ ายปลวิ ไปตามลมได้ในฝักมีเมลด็ เลก็ ๆ ติดอยกู่ บั ขยุ นนั ้
ต้นไม้ประจําจงั หวดั สตั บรรณ ถือเป็นไม้มงคลของจงั หวดั สมทุ รสาคร เน่ืองจากเมื่อวนั ที่ 9 พฤษภาคม พทุ ธศกั ราช 2537 ผ้วู า่ ราชการจงั หวดั สมทุ รสาคร ได้รับ พระราชทานพนั ธ์ุไม้ดงั กลา่ วจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสท่ีเสดจ็ พระราชดําเนินเป็นองค์ประธาน เปิ ดวนั รณรงค์โครงการปลกู ป่ าเฉลมิ พระเกียรตพิ ระบาทสมเดจ็ พระ เจ้าอยหู่ วั ทรงครองราชย์ ปี ท่ี 50 ณ ศนู ย์การประชมุ แหง่ ชาตสิ ริ ิกิติ์ และ เพื่อความเป็นศิริมงคลของประชาชนชาวจงั หวดั สมทุ รสาครผ้วู า่ ราชการจงั หวดั สมทุ รสาครจงึ ได้นําพนั ธ์ุไม้สตั บรรณพระราชทานมา ปลกู เป็นปฐมฤกษ์ ในกิจกรรมวนั ปลกู ต้นไม้ตาม โครงการปลกู ป่ าถาวร เฉลมิ พระเกียรติ เม่ือวนั ที่ 9 มิถนุ ายน พทุ ธศกั ราช 2537 ท่ีบริเวณ สนามหน้าศาลากลางจงั หวดั สมทุ รสาคร จงึ ถือได้วา่ ต้นสตั บรรณเป็น ต้นไม้มงคลของจงั หวดั สมทุ รสาคร นอกจากนีต้ ้นพญาสตั บรรณยงั เป็น ต้นไม้ประจําเขตพญาไท ในกรุงเทพมหานครอีกด้วย
การใช้ประโยชน์ ในเอเชียใต้และเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ใช้เปลอื กต้น พญาสตั บรรณรักษาโรคบิด ลาํ ไส้ตดิ เชือ้ และมาลาเรีย ใบ ใช้ในการรักษาโรคระบบทางเดนิ หายใจเรือ้ รัง ในประเทศ อนิ เดียมีการนําสว่ นตา่ งๆ ของต้น พญาสตั บรรณมาใช้เป็น พืชสมนุ ไพรเชน่ ใช้เป็นยาสมนุ ไพรรักษาโรคมาลาเรียในชื่อ Ayush-64 ซงึ่ มีขายตามท้องตลาด นํายางสขี าวและใบ รักษาแผล แผลเปื่ อย และอาการปวดข้อ นอกจากนี ้ต้น พญาสตั บรรณยงั เป็นแหลง่ ของสารอลั คาลอยด์ที่สาคญั [2] ในบอร์เนียว นําเนือ้ ไม้ไปทําทนุ่ ของแหและอวน
Search
Read the Text Version
- 1 - 22
Pages: