Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สาธารณรัฐประชาชนจีน มีอะไรมากกว่าที่คุณคิด?

สาธารณรัฐประชาชนจีน มีอะไรมากกว่าที่คุณคิด?

Published by Miumiu Papipu, 2022-07-10 15:30:23

Description: จัดดทำโดย
ด.ช.ภพ เบียดนอก ชั้นม.1 จากโรงเรียน สาธิตวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูวปถัมภ์ ฝ่ายมัฐยม และ ด.ญ.ณิณภัทร คำเวียง ชั้นม.1 จากโรงเรียน สาธิตวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูวปถัมภ์ ฝ่ายมัฐยม
ห้ามนำไปใช้ทางการพานิช เด็ดขาด สงวนสิทธิ์ เป็นของ ทั้งสองคนที่กล่าวมาข้างต้น

Search

Read the Text Version

สารบัญ 2 3 บทนํา 4 ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ และ ภูมิอากาศ 5 เชอื ้ ชาติ ศาสนา คา่ เงิน อาชพี และ วฒั นธรรม 6 วฒั นธรรม และ ประเพณี 8 การแต่งกาย 10 อาหารการกิน 12 ภาษา 24 ประวตั ิศาสตร์ช่วงยุคโบราณ 29 ราชวงศ์ฉนิ กําแพงเมืองจีน และ สสุ าน ฉินสอื่ หวงตี ้ 53 ประวตั ศิ าสตร์ช่วงยุค ราชวงศ์ และ จกั วรรดิ 54 ราชวงศ์สดุ ท้ายของจีน และ ปยู ี จกั พรรดิ โลกไม่ลมื 59 จีนยคุ ใหม่ 61 สาธารณะรัฐประชาชนจีน บรรณานกุ รม 1

สาธารณรัฐประชาชนจีน หรือ ประเทศจีนท่เี รารู้จกั กนั เป็นประเทศทม่ี ีประชากรมากที่สดุ ใน โลก และ เป็ นประเทศท่ีมีพนื ้ ท่มี ากเป็ นอนั ดบั ที่4 มรี ะบบการปกครองแบบ สาธารณรฐั สงั คมนิยม ตงั ้ อย่ใู น ทวปี เอเชียตะวนั ออก มีเมืองหลวงอย่ทู กี่ รุงปักกิง่ มอี าณาเขตการปกครองทงั ้ หมด 22มณฑล 5เขตปกครองตนเอง 4 มหานคร 2เขตบริหารพเิ ศษ 2

มปี ระธาณาธิบดี เป็ นประมขุ ประธานาธิบดี คนปัจบุ นั ชื่อวา่ สี จิน้ ผิง ลักษณะภูมปิ ระเทศของประเทศจนี ได้แก่ เน่ืองจากประเทศจีนมีพืน้ ที่กว้างใหญ่ไพศาล จงึ มภี ูมปิ ระเทศหลากหลาย ซง่ึ ประกอบ ไปด้วยภูเขา แมน่ ้า ทร่ี าบสงู ท่รี าบลมุ่ ท่งุ หญ้า และ ทะเลทราย ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศจีนด้าน ตะวนั ตกเป็ นท่ีสงู ลาดเอียงไปสดู่ ้านตะวนั ออกซง่ึ เป็ นที่ตา่ บริเวณเทอื กเขาเนินเขาและที่ราบสงู ลักษณะภมู อิ ากาศของประเทศจนี ได้แก่ ดินแดนของประเทศจีนสว่ นมากอยทู่ ่เี ขตอบอ่นุ เหนอื โดยมีภมู ิอากาศไม่ร้อนไม่หนาว มีส่ีฤดอู ยา่ งชดั เจนเหมาะกับความเป็ นอยขู่ องมนษุ ย์ ภูมิอากาศของประเทศจนี คือดนิ ฟ้ าอากาศที่มีลกั ษณะ ผนื แผ่นดนิ ใหญ่มีลมประจาํ ฤดกู าล เป็ น หลกั เดือน 9 ถงึ เดอื น 4 ปี หน้าของทกุ ปี ลมหนาวประจําฤดกู าล 3

เชอื้ ชาติของชาวจีน ชาวจีนสว่ นใหญ่ เป็นชาวฮนั่ มากถงึ 91.1% และ อ่นื ๆ 8.9% รวมถงึ ศาสนา แก่ 74.5% ไม่มีศาสนา 18.3% พธุ 5.2% คริสต์ 1.6% อสิ ลาม และ อ่นื ๆ 0.4% ค่าเงนิ ท่ีใช้กันได้แก่ ค่าเงิน หยวน โดย 1หยวน = 5บาท อาชพี อาชพี ท่ีคนจนี สว่ นใหญ่ทาํ กนั ได้แก่ คนเชอื ้ สายจีนสว่ นใหญ่มีรากฐานอาชพี ค้าขายหรือ ทาํ ธรุ กิจสว่ นตวั ไมใ่ ช่รับราชการ หรือเป็ นลกู จ้างประจํา เราจะเหน็ ได้ว่าเมื่อคนจนี อพยพหรือ ย้ายถ่ินฐานเข้ามาในประเทศใดกต็ ามมกั จะเอาความรู้เดิมท่ตี ดิ ตวั มาเป็ นจดุ เร่ิมต้นของการ ค้าขาย ด้วยคนจนี เช่อื ว่าการค้าขายคอื การลงทนุ ที่ดที ่สี ดุ วฒั นธรรม และ ประเพณี ต่างๆ คือ การไหว้เจ้า เทศกาลกนิ เจ เทศกาลขนมบ๊ะจ่าง เทศกาลตรุษจีน เทศกาลหยวนเซียว(โคมไฟ) เทศกาลไหว้พระจนั ทร์ และ อืน่ ๆ 4

5

การแต่งกาย เนื่องจากประเทศจีนมีประวตั ิศาสตร์อนั ยาวนาน จงึ มีชดุ ประจําชาติหลายแบบ เชน่ ฮน่ั ฟู 6

และ ชดุ ยคุ ราชวงศ์ หมงิ 7

อาหารการกิน คนจีนสว่ นใหญ่จะ มีอาหารการกนิ ทีค่ ล้ายๆกนั เช่น ตมิ่ ซาํ เป็ ดปักก่ิง ไก่ขอทาน และ อืน่ ๆ สว่ นเคร่ืองด่มื คนจีนจะชอบด่ืมชามากๆ 8

9

และสุดท้าย เร่ืองภาษา ประเทศจีนมีการค้นพบ ภาษาหรืออักษรจีนมาตงั้ แต่ ราชวงศ์ฉนิ โดยมภี าษาจนี ดงั ้ เดมิ และ ตวั ยอ่ ตวั อกั ษรจีนแบบดดงั ้ เดิม 10

ตวั อกั ษรจนี แบบตวั ยอ่ 11

ประเทศจีน มปี ระวตั ิศาสตร์อนั ยาวนาน มาก่อนยคุ ประวตั ิศาสตร์ ยาวนานถงึ 1,700,000 ปี เนื่องจากมีการค้นพบ มนษุ ย์หยวนโหมว่ 12

จนี เป็ นดนิ แดนทีม่ นษุ ย์อาศยั เป็ นเวลานานท่ีสดุ แหง่ หนง่ึ ในทวีปเอเชยี หลกั ฐานท่ีพบคือมนษุ ย์ หยวนโหม่ว มอี ายปุ ระมาณ 1,700,000 ปี ลว่ งมาแล้ว ถกู ค้นพบในปี ค.ศ. 1965 ทมี่ ณฑลยนู นาน ภาคตะวนั ตกเฉียงใต้ของจนี และ พบโครงกระดกู มนษุ ย์ปักกง่ิ มีอายปุ ระมาณ 700,000 ปี - 200,000 ปี ลว่ งมาแล้ว ถกู ค้นพบในปี ค.ศ. 1929 ที่บริเวณตะวนั ตกเฉียงใต้ของปักกง่ิ และ พบ หลกั ฐานมนษุ ย์ถาํ ้ มีอายปุ ระมาณ 18,000 ปี ลว่ งมาแล้ว ถกู ค้นพบในปี ค.ศ. 1930 ทีบ่ ริเวณ ตะวนั ตกเฉยี งใต้ของปักกิ่ง ประวตั ศิ าสตร์ยคุ โบราณ ราชวงศ์เซ่ีย 夏朝2100-1600 ปี ก่อนคริสต์ศกั ราช มกี ารเลา่ ขานกนั วา่ ในสมยั เหยา แม่นาํ ้ ฮวงเหอ เกดิ อทุ กภยั นํา้ หลากเข้าเมอื ง ผ้คู นจงต้องอพยพ ขนึ ้ ไปอยบู่ นภูเขา และ ต้นไม้ ตอ่ จากนนั ้ พระเจ้าอวใ่ี ช้เวลาในการแก้ไขปัญหาถงึ 13 ปี 13

หลงั จากแก้ปัญหาแล้วกไ็ ด้รับขานนามวา่ พระเจ้าต้า ยว่ี ราชวงศ์เซี่ยปกครองจีนในช่วง 2100- 1600ปี ก่อนคริสตกาล มอี ํานาจอย่แู ถบ มณฑลชานซี ในปัจจบุ นั มีกษัตริย์เซี่ยองค์แรกคือ พระเจ้าอว่ี เร่ิมประเพณกี ารสบื ราชสมบตั ิตามสายโลหิต ในระยะแรกสบื จากพ่ีมาสนู่ ้อง สมัย ราชวงศ์เซยี่ นี ้มีหลกั ฐานว่าผ้ปู กครองมกั เป็ นหวั หน้าทางศาสนาหรือมีหน้าทท่ี าํ ปฏิทนิ ด้วย ราชวงศ์เซี่ยมีประวตั ยิ าวนานเกอื บ 500 ปี มีกษัตริย์ปกครองทงั ้ สนิ ้ 17 องค์ จนกระทง่ั พระเจ้าเจย๋ี ซง่ึ มีนิสยั โหดร้าย ไร้คณุ ธรรม จงึ เป็ นทเี่ กลยี ดชงั ของประชาราษฎร์ ผ้นู าํ เผ่าซาง ช่อื ทงั ผนกึ กําลงั กบั เผา่ ต่าง ๆ ทาํ สงครามขบั ไลพ่ ระเจ้าเจ๋ยี และเอาชนะได้ที่ หมิงเถียว พระเจ้าเจี๋ยหนแี ละ สนิ ้ พระชนม์ที่หนานเฉา ราชวงศ์เซ่ียจงึ ลม่ สลายอย่างสมบรู ณ์ 14

รูปพระเจ้าเจยี๋ แห่งราชวงศ์เซ่ีย อ้างองิ จาก วิกิพเี ดยี 15

ราชวงศ์ซาง 商朝 1600-1046 ปี ก่อนคริสต์ศักราช ราชวงศ์ซางมีอาํ นาจอยปู่ ระมาณ 550 ปี คือ ตงั ้ แต่ 1600-1046 ปี กอ่ นคริสต์ศักราช (1057-503 ปี ก่อน พ.ศ.) ในช่วงนีเ้ร่ิมมีการกอ่ ตงั ้ กองทหาร, ข้าราชการและมกี ารลงโทษตามกฎหมาย มีกษัตริย์ ปกครองทัง้ สนิ ้ 31 พระองค์ เมอ่ื พระเจ้าเจ๋ียแห่งราชวงศ์เซ่ียซงึ่ ไร้คุณธรรมสร้างความเกลยี ดชงั แก่ คนทงั ้ แผ่นดินเพ่มิ ขนึ ้ จนกระท่ังเปิ ดโอกาสให้ผ้ทู ม่ี ชิ อบพฤติกรรมของพระองค์ รวมตวั กนั เป็ นกอง กําลงั เพ่อื ต่อต้านการปกครองของเจ้าแผ่นดนิ ทงั มอี ํานาจอย่แู ถบเมืองซางได้รบั การสนบั สนนุ จากหวั หน้าเผา่ ต่าง ๆ จงึ ใช้กําลงั พลและอาวธุ โคน่ ล้มการปกครองของราชวงศ์เซี่ย แล้วสถาปนา ราชวงศ์ซางขนึ ้ โดยตัง้ เมอื งหลวงท่ี เมืองป๋ัว เนอ่ื งจากทงั เป็ นชนชนั ้ สงู ในราชวงศ์เซี่ยมากอ่ น จงึ ถอื วา่ เป็ นการปฏิวัติของชนชนั ้ สงู ครัง้ แรกในประวตั ศิ าสตร์จนี 16

รูปภาพ เมอื งป๋ัว ในปัจจบุ นั คือ อําเภอเฉาเซ่ยี น การครองราชย์ชว่ งแรกของพระเจ้าซางทงั และทายาท บ้านเมืองมีความร่มเยน็ เป็ นสขุ จนกระทงั่ ไปถงึ พระเจ้าโจวหวัง ซง่ึ เป็ นกษัตริย์องค์สดุ ท้ายของราชวงศ์นีเ้ป็ นผ้เู หีย้ มโหด ขดู รีดเงนิ ทองจาก ราษฎรอย่างหนกั เพื่อสร้างอทุ ยานแหง่ ใหม่ และลงโทษทณั ฑ์แก่ผู้ตอ่ ต้านนโยบายหรือสร้างความ ขดั เคอื งใจด้วยการประหารชีวิต เหลา่ ขนุ นางเสพสขุ บนความทกุ ข์ของราษฎรโดยเจ้าแผน่ ดินไม่ เหลยี วแล จงึ สร้างแรงกดดนั และเกดิ การรวมตวั ของ (นาจา เจยี งจ่ือหยา เอ้อหลางฯ) และ พวก เผ่าโจวซง่ึ อาศัยบนทีร่ าบสงู และมีกําลงั เข้มแข็ง โดยผ้นู ํา ชื่อ จีฟา ได้รวมกําลงั พลกบั เผ่าอืน่ ท่ี ประสบความเดือดร้อนเพ่ือโจมตีกองทพั ของพระเจ้าโจ้วหวงั ซงึ่ แตกพา่ ยแพ้ยบั เยินท่ี มเู่ หยีย พระ เจ้าโจ้วหวงั ต้องฆ่าตวั ตายด้วยการเผาตวั เอง ราชวงศ์ซางจงึ ลม่ สลายลงแล้วสถาปนาราชวงศ์ โจวปกครองแผ่นดนิ แทนราชวงศ์ซางเม่ือประมาณ 1046 ปี กอ่ นคริสตกาล 17

รูปภาพพระเจ้าโจวหวงั 18

ราชวงศ์โจว 周朝 1046-256 ปี ก่อนคริสต์ศักราช นกั ประวตั ิศาสตร์จีนแบ่งราชวงศ์โจวออกเป็ น ราชวงศ์โจวตะวนั ตก และ ราชวงศ์โจวตะวนั ออก ซงึ่ มี ระยะครองแผ่นดนิ ตอ่ เน่อื งกนั 790 ปี แต่มกี ารย้ายเมอื งหลวงหลงั จากแพ้ชนะกนั จึงแบ่งราชวงศ์นี ้ ด้วยทศิ ทางของเมืองหลวงเป็ นหลกั 19

ราชวงศ์โจวตะวนั ตก 1046-771 ปี ก่อนคริสต์ศกั ราช เผา่ โจวเป็ นเผา่ เกา่ แกแ่ ละใช้แซ่ จี โดยอาศยั แถบลมุ่ นาํ ้ เว่ยเหอ ต่อมาย้ายถน่ิ ไปอยู่ ฉซี าน (ด้าน เหนอื อาํ เภอฉซี าน มณฑลฉ่านซปี ัจจบุ นั ) ซง่ึ มีความอดุ มสมบรู ณ์ด้านการเพาะปลกู มากกวา่ แล้ว เรียกตนเองว่า ชาวโจว ผ้นู าํ เผา่ ทกุ รุ่นตา่ งปรับปรุงโครงสร้างเผ่า ก่อสร้างบ้านเรือน และกําหนด ตําแหนง่ ขนุ นาง ทําให้มลี กั ษณะของชาติรัฐชดั ขนึ ้ เมอ่ื ผ้นู ํานามว่า จฟี า ทาํ ลายราชวงศ์ซางสาํ เร็จ แล้ว จงึ สถาปนาราชวงศ์โจวขนึ ้ ปกครองแผน่ ดิน และเปลย่ี นพระนามเป็ น พระเจ้าโจวอหู่ วงั แล้ว สร้างเมอื งหลวงใหม่ท่ี เมืองเฮา่ (ด้านตะวนั ตกอาํ เภอฉางอาน มณฑลฉา่ นซีปัจจบุ นั ) นกั ประวตั ศิ าสตร์เรียกแผน่ ดินโจวชว่ งนีว้ า่ ราชวงศ์โจวตะวนั ตก นอกจากนนั ้ ยงั ริเร่ิมปนู บําเหน็จ ความชอบด้วยที่ดินและทรพั ย์สนิ แก่ขนุ นางซง่ึ สร้างความชอบแก่แผ่นดินหรือเจ้าแผน่ ดนิ เป็ นครัง้ แรกด้วย ราชวงศ์โจว ตราระบบสบื สายวงศ์ขนึ ้ ใช้อย่างชัดเจนเป็ นครงั ้ แรก โดยกําหนดวา่ ตําแหนง่ กษัตริย์หรือเจ้านครรัฐต่าง ๆ ต้องสบื ทอดเฉพาะบตุ รคนโตของภรรยาเอกเทา่ นนั ้ บตุ รที่เหลอื จะรับ การแต่งตงั ้ ในตาํ แหน่งตา่ํ ลงไป การสบื ทอดชดั เจนนีส้ ร้างความมน่ั คงแก่ราชวงศ์ย่ิงขนึ ้ เมื่อลว่ งถงึ สมยั ของพระเจ้าโจวโยวหวงั เมอื งเฮา่ ซง่ึ เป็ นเมืองหลวงเกิดแผ่นดินไหวร้ายแรง เกิดโรคระบาด ประชาชนลาํ บากยากแค้นโดยกษัตริย์ไม่สนใจไยดี กลบั ลมุ่ หลงสรุ านารีและความบนั เทงิ หรูหรา สว่ นขนุ นางประจบสอพลอ ไม่ทํางานตามหน้าที่ ทําให้เจ้านครรัฐบางคนรวมตวั กบั ชนเผา่ ฉวีย่ นหรง เข้าโจมตแี ละปลงพระชนม์กษัตริย์ ถือเป็ นจดุ สนิ ้ สดุ อาณาจกั รโจวตะวนั ตก 20

ยุคชุนชวิ 春秋 770-256 ปี ก่อนคริสต์ศักราช 春秋五霸 มี 5 นคร คอื 齐桓公 Qí huángōng 宋襄公 Sòng xiānggōng 晋文公 Jìn wéngōng 秦穆公 Qín mùgōng และ 楚庄王 Chǔ zhuāng wáng หลงั จากอาณาจกั รโจวตะวนั ตกของพระโจวโยวหวงั ลม่ สลายลงโดยความร่วมมอื ของเจ้านครรัฐบาง คนกบั เผ่าเฉวยี่ นหรงแล้ว พวกเขาสถาปนารชั ทายาท อีจ้ วิ ้ ขนึ ้ เป็ นกษัตริย์องค์ใหม่ทรงพระนามว่า พระเจ้าโจวผิงหวงั แล้วย้ายไปตงั ้ เมืองหลวงใหมท่ ่ี เมืองลวั่ อี ้เนื่องจากเมืองเฮา่ ได้รับความเสยี หาย จากเพลงิ ไหม้อย่างมาก นกั ประวตั ิศาสตร์เรียกช่วงการครองอํานาจของราชวงศ์นีว้ ่า ยคุ ชนุ ชวิ (Spring and Autumn Period) ซงึ่ มีสงครามแยง่ ชิงความเป็ นใหญ่ของเจ้านครรฐั ต่าง ๆ เป็ นระยะ เพอ่ื ความเป็ นเจ้าผ้นู าํ นครรัฐ ยคุ นเี ้ริ่มต้นในปี 770 ก่อน ค.ศ. (227 ปี กอ่ น พ.ศ.) รัชสมยั พระเจ้าโจ วผิงหวัง ถงึ ปี 476 กอ่ น ค.ศ. (พ.ศ. 67) หรือปี ท่ี 44 สมยั พระเจ้าโจวจิง้ หวัง 21

ยุคเลียดก๊ก 战国七雄 ต้นยคุ ชนุ ชวิ แผ่นดินจีนมปี ระมาณสองร้อยนครรฐั แต่สงครามแย่งชิงอํานาจหรือแผ่ขยายอทิ ธิพล ตา่ งผนวกดินแดนตา่ ง ๆ เข้ากบั รัฐผ้ชู นะจนกระทงั่ เหลอื เพยี งรัฐใหญ่ เจด็ รัฐมหาอาํ นาจในตอน ปลายยคุ ชนุ ชิวนกั ประวตั ศิ าสตร์จีนเรียกวา่ เจด็ มหานครรฐั แห่งยคุ จนั ้ กว๋ั ได้แก่ รัฐฉี (齐:Qí), รฐั ฉู่ ( 楚:Chǔ), รัฐเยียน (燕:Yàn), รฐั หาน (韩:Hán), รฐั เจ้า (赵:Zhào), รฐั เว่ย (魏:Wèi), และรัฐ ฉิน (秦:Qín) ยคุ สมยั นีม้ ีสงครามดเุ ดือดระหว่างรัฐตอ่ เน่ือง รัฐฉินกบั รฐั ฉไี ด้รับการขนานนามเป็ น สองรัฐมหาอํานาจฟากตะวนั ออกและฟากตะวนั ตก ซง่ึ ถือเป็ นดลุ อํานาจต่อกนั ยุคนสี ้ นิ ้ สดุ โดยการ ขนึ ้ ครองอํานาจของ อ๋ิงเจิง้ แหง่ รัฐฉนิ หรือท่รี ู้จกั กนั ในนาม พระเจ้าฉินสอื่ หวงตี ้โดยถือเป็ น จกั รพรรดอิ งค์แรกของจีน 22

สมัยราชวงศแ ละจกั รวรรดิ 23

ราชวงศ์ฉนิ 221-206 ปี ก่อนคริสต์ศกั ราช จนี ยุคจกั รวรรดิ นกั ประวตั ิศาสตร์นิยมเรียกประวตั ศิ าสตร์จีนตงั ้ แต่ ราชวงศ์ฉิน ถึง ราชวงศ์ชิง ว่าเป็ นจนี ยคุ จกั รวรรดิ ถงึ แม้ว่าราชวงศ์ฉินจะมอี ายเุ พียงแค่ 12 ปี แตพ่ ระองค์ได้วางรากฐานสาํ คัญของอารยธรรมชนเผ่า ฮนั่ ไว้เป็ นจํานวนมาก เมืองหลวงตงั ้ อย่ทู ี่เสยี นหยาง (咸陽) บริเวณเมืองซอี านปัจจบุ นั สงิ่ ก่อสร้างท่สี ําคญั ของราชวงศ์ฉินคือ กําแพงเมืองจนี ซ่งึ เป็ นการต่อแนวกาํ แพงเก่าให้เป็ นปึกแผ่น ฉินซฮี อ่ งเต้สร้างแนวปกกนั พวกป่ าเถ่ือนจากทางเหนอื โดยการสร้างกาํ แพงตอ่ เชือ่ มกาํ แพงเดิมทอ่ี ยู่ เดมิ จากการก่อสร้างของรฐั ต่าง ๆ สมยั จ้านกว๊ั การกอ่ สร้างนที ้ าํ ให้กลายเป็ นกําแพงขนาดยาวนบั หมน่ื ลี ้จงึ เรียกกําแพงนีว้ า่ “กาํ แพงหมน่ื ล”ี ้ ผลงานอน่ื ๆ ได้แก่ระบบกฎหมาย การเขยี นหนงั สอื ระบบเงนิ ตรา เป็ นต้น ฉินซีฮอ่ งเต้เปิ ดศกึ กบั กษัตริย์ของรฐั ทงั ้ 6 ประเทศในแมน่ าํ ้ หวง คือ หาน (韩 ) จ้าว (赵) เว้ย (魏) ฉู่ (楚) เยียน (燕) และฉี (齐) ในที่สดุ การผนกึ รวมรฐั ต่าง ๆ เป็ น มหาอํานาจทางทหาร เศรษฐกิจ สงั คม กลา่ วคือมีการใช้ภาษาเขียนภาษาเดียวคอื จนี มาตราชงั่ ตวง วดั การเงิน เป็ นหนว่ ยเดียวกนั ทว่ั ประเทศ มีระบบความกว้างของถนนกว้างสาํ หรับรถม้า 2 คนั สวน กนั ได้ทว่ั ประเทศ ไม่เว้นแม้แต่กาํ แพงเมอื งจีน อนญุ าตให้ประชาชนมสี ทิ ธิเป็ นเจ้าของที่ดนิ จากเดิม ท่ีดินทงั ้ หมดเป็ นของพระราชา ฉนิ หาน จ้าว เว้ย ฉู่ เยียน และฉี ภายใต้อํานาจเบด็ เสร็จและการ ปกครองแบบรวบอาํ นาจทีศ่ นู ย์กลาง (ยกเลิกระบบอ๋อง (กษัตริย์) ครองประเทศราช) หลงั จากจ๋นิ ซี ฮอ่ งเต้สวรรคต เกดิ ความวนุ่ วายขนึ ้ ในราชวงศ์ ทําให้เกิดกบฏมากมาย หลวิ ปังสามารถรบชนะ ราชวงศ์ฉนิ ได้ แตเ่ ซย่ี งอถี ้ ือโอกาศยดึ อํานาจ แต่หลวิ ปังกร็ บชนะได้และสถาปนาราชวงศ์ฮน่ั 24

กาํ แพงเมอื งจนี (จีนตวั ยอ่ : 长城; จีนตวั เต็ม: 長城; พินอนิ : Chángchéng \"ฉางเฉิง\", องั กฤษ: Great Wall of China) เป็ นกําแพงทีม่ ีป้ อมคนั่ เป็ นชว่ ง ๆ ของจนี สมัยโบราณ กาํ แพงสว่ น ใหญ่ทปี่ รากฏในปัจจบุ นั สร้างขนึ ้ ในสมยั ราชวงศ์ฉิน ทงั ้ นเี ้พอื่ ป้ องกันการขายของราคาถูกจาก ชาว ฮนั หรือ ซยฺ งหนู คําว่า ซยฺ งหนู บางทีก็สะกดว่า ซุงหนู หรือ ซวงหนู ทเี่ ป็ นไม้เบ่ือไม้เมากบั อารยธรรม จีนในยคุ ต้น ๆ ตงั ้ แตส่ มยั ราชวงศ์โจว เนื่องจากจะเข้ามารุกรานจีนตามแนวชายแดนทางใต้ ในสมยั ราชวงศ์ฉนิ ได้สง่ั ให้สร้างกาํ แพงหมื่นลตี ้ ามชายแดน เพ่ือป้ องกนั พวกซยฺ งหนแู ละพวกเติร์ก ทเ่ี ข้ามา รุกรานจากทางเหนือ หลงั จากนนั ้ ยงั มกี ารสร้างกําแพงตอ่ อกี หลายครัง้ ด้วยกนั แตภ่ ายหลงั ก็มเี ผ่า เร่ร่อนจากมองโกเลียและแมนจเู รียสามารถบกุ ฝ่ ากําแพงเมอื งจีนได้สาํ เร็จ 25

กาํ แพงเมอื งจีนยงั คงเรียกวา่ \"กาํ แพงหมนื่ ล\"ี ้ สาํ นกั งานมรดกวฒั นธรรมแห่งชาติจนี ประกาศเมอื่ วนั ท่ี 7 มถิ นุ ายน พ.ศ. 2555 วา่ นกั โบราณคดีได้ตรวจวดั ความยาวของสงิ่ ก่อสร้างจากนํา้ มือมนษุ ย์ท่ี ใหญ่ทสี่ ดุ ในโลกหรือ \"กาํ แพงเมืองจีน\" อย่างเป็ นทางการนานร่วม 5 ปี ตงั ้ แต่ 2008-2012 และพบวา่ ยาวกว่าทบี่ นั ทกึ ไว้เดิมกว่า 2 เท่า หรือ 21,196.18 กโิ ลเมตร จากเดิม 8,850 กโิ ลเมตร ครอบคลมุ พนื ้ ท่ี 15 มณฑลทว่ั ประเทศ และนบั เป็ น 1 ใน 7 สงิ่ มหศั จรรย์ของโลก ยคุ กลาง ด้วย มีความเชอื่ กนั ว่า หากมองเมอื งจนี จากอวกาศจะสามารถเห็นกําแพงเมืองจีนได้ ซงึ่ ในความเป็ นจริงไม่สามารถ มองเหน็ จากอวกาศได้ 26

ระยะเวลาในการสร้ าง กําแพงเมอื งจีนสร้างขนึ ้ ในระยะเวลา 4 ชว่ งหลกั ๆ ดงั นี ้ • 205 ปี กอ่ นคริสต์ศกั ราช ราชวงศ์ฉิน • 100 ปี กอ่ นคริสต์ศกั ราช ราชวงศ์ฮน่ั • ค.ศ. 1138 - 1198 สมยั 5 ราชวงศ์ 10 อาณาจกั ร • ค.ศ. 1368 - 1620 รัชสมยั สมเด็จพระจกั พรรดหิ งอู่ ยุคต้น ราชวงศ์หมงิ กาํ แพงเมืองจีนสร้างเมื่อกวา่ 2,500 ปี มาแล้ว ตงั ้ แตก่ ่อนรัชสมยั ของจิ๋นซีฮ่องเต้ ปฐมจกั รพรรดิ พระองค์แรกในประวตั ิศาสตร์จีน จดุ ประสงค์กเ็ พื่อป้ องกนั การรุกรานจากชนเผ่าเร่ร่อนทางตอน เหนือ โดยมีการกอ่ สร้างเพ่มิ เติมโดยฮอ่ งเต้องค์ตอ่ มาอกี หลายพระองค์ จนสาํ เร็จในท่ีสดุ กําแพง เมืองจีนถือเป็ นงานกอ่ สร้างท่ีมหศั จรรย์ทีส่ ดุ แห่งหนง่ึ ของโลกเท่าที่เคยมมี าเลย 27

สุสานจ๋นิ ซฮี ่องเต้ สสุ านฉินสอื่ หวง จนี ตวั ยอ่ : 秦始皇兵马俑; ฉนิ สอื่ หวงปิ งหมาหยง่ แปลวา่ หนุ่ ทหาร และม้าของฉนิ สอ่ื หวง คือ ฮวงซ้ยุ ของจักรพรรดิจนี ฉนิ สอื่ หวงแห่งราชวงศ์ฉิน ตงั ้ อย่ทู ่ีตําบล หลนิ ถง ห่างจากเมืองซีอาน มณฑลฉ่านซี ประเทศจนี สสุ านฉนิ สอ่ื หวงได้ค้นพบโดยบงั เอิญเมื่อ 29 มีนาคม พ.ศ. 2517 โดยชาวนาในหมบู่ ้านซีหยาง ชื่อ หยางจือ้ ฟา ในขณะทข่ี ดุ ดนิ เพื่อทําบอ่ นํา้ บริเวณเชิงเขาหลซี าน หา่ งจากตวั เมืองซอี าน ไปทางทิศตะวนั ออกประมาณ 35 กม. โดยใน ระหวา่ งทีข่ ดุ นนั ้ ก็บงั เอญิ พบกบั ซากของทหารดนิ เผา ทีท่ ราบภายหลงั วา่ มีอายมุ ากกวา่ 2,000 ปี 28

ราชวงศ์ฮ่นั ตะวนั ตก 206 ปี ก่อนคริสต์ศักราช - ค.ศ. 220 เมือ่ เลา่ ปังเอาชนะเซ่ียงอ่ีสาํ เร็จ จงึ สถาปนาตนเองเป็ นจักรพรรดอิ งค์แรกของราชวงศ์ฮน่ั อนั ย่งิ ใหญ่และยาวนาน มพี ระนามวา่ สมเดจ็ พระจกั รพรรดิฮน่ั เกาจู โดยตงั ้ เมอื งหลวงที่ ฉางอาน (ใกล้บริเวณเมอื งซีอาน มณฑลฉา่ นซีปัจจบุ นั ) แล้วเรียกช่อื ประเทศว่า อาณาจกั รฮน่ั นกั ประวตั ิศาสตร์จนี แบ่งยคุ สมัยของราชวงศ์ฮน่ั เป็ นสองยคุ ตามทีต่ ัง้ ของเมืองหลวง คอื ราชวงศ์ฮนั่ ตะวนั ตก เร่ิมต้นโดยพระเจ้าฮน่ั เกาจู่ โดยมีราชวงศ์ซินของอองมงั มาคนั่ เป็ นระยะสนั ้ ๆ กอ่ นท่จี ะ เกิดการฟื น้ ฟู ราชวงศ์ฮนั่ ตะวนั ออก เริ่มต้นที่พระเจ้าฮน่ั กวงอู่ โดยย้ายนครหลวงไปทเี่ มอื งลว่ั หยาง 29

จกั พรรดิฮน่ั เกาจู่ 30

พระเจ้าฮน่ั กวงอู่ 31

เมืองลวั่ หยาง ในปัจจบุ นั ราชวงศ์ซนิ ค.ศ. 9-23 ราชวงศ์ซนิ มีเป็ นราชวงศ์สนั ้ ๆ ผ้กู ่อตงั ้ คือ อองมงั ทรงได้อํานาจมาจากการปฏิวตั ิโคน่ ล้ม จกั รพรรดฮิ น่ั เมื่อเสด็จสวรรคต ราชวศ์ฮนั่ กฟ็ ื น้ ฟกู ลบั ขนึ ้ มาอีกครัง้ 32

รูปภาพ อองมงั หรือ หวางมง่ั 33

ราชวงศ์ฮ่นั ตะวันออก ค.ศ. 23-220 ราชวงศ์นเี ้ป็ นราชวงศ์ที่ถกู ก้ขู นึ ้ มา หลงั ถกู อองมงั ยดึ อํานาจ เป็ นราชวงศ์ฮน่ั ดงั เดมิ แต่ย้าย เมอื งหลวงไปลวั่ หยาง ชว่ งเสอ่ื มของฮน่ั ตะวนั ออก เกดิ กบฏโจรโพกผ้าเหลอื ง ขนึ ้ ใน ค.ศ. 184 ซงึ่ เป็ นจดุ เร่ิมต้นของยุคขนุ ศกึ หลงั จากนนั ้ ได้มีอาณาจกั รสามแหง่ ตงั ้ ประชนั กนั โดยเรียกว่า ยคุ สามก๊ก เป็ นทีม่ าของวรรณกรรมเร่ืองสามก๊ก 34

ยคุ สามก๊ก ค.ศ. 220-280 เป็ นยคุ ทีแ่ ผ่นดนิ จนี แตกออกเป็ น สามก๊ก โดยมจี ๊กก๊กของ เลา่ ปี่ วยุ ก๊กของ โจโฉ และง่อก๊กของ ซนุ กวน 35

ทงั ้ สามก๊กต่างก็ทาํ สงครามแยง่ ชิงความเป็ นใหญ่ในแผ่นดนิ จนี โดยจดุ เร่ิมต้นของการแตกแยก เป็ นสามก๊ก มเี ค้ารางเริ่มจากการกบฏของโจรโพกผ้าเหลอื ง ทาํ ให้ราชวงศ์ฮน่ั อ่อนแอลง ตง๋ั โต๊ะ ซงึ่ เป็ นแมท่ พั ชายแดนจงึ เข้ามาควบคมุ อํานาจในเมอื งหลวง นาํ ไปสกู่ ารแตกแยกกนั ของเหลา่ ขนุ ศกึ ทว่ั สารทิศ และทาํ ศึกสงครามต่อเนื่องกนั ตงั ้ แต่ ค.ศ. 189 ซง่ึ ในช่วงเวลานี ้มีเหลา่ ขนุ ศกึ ขนุ พล ขนุ นาง และเสนาธิการที่ปรึกษาท่ีเก่งกล้า สร้างชอื่ เสยี งในการทาํ สงครามและการ ปกครองเป็ นจาํ นวนมาก ราชวงศ์จนิ้ ตะวนั ตก ค.ศ. 265-317 สมุ าเอ๋ยี น สถาปนาตนเองเป็ นจิน้ อตู่ ี ้ก่อตงั ้ ราชวงศ์จนิ ้ ตะวนั ตกใน ค.ศ. 265 (พ.ศ. 808) เข้า แทนทรี่ าชวงศ์วยุ่ ของเฉาเชาหรือโจโฉ กระทงั่ ใน ค.ศ. 280 (พ.ศ. 823) ราชวงศ์จนิ ้ ตะวนั ตกก็ ปราบง่อก๊กลงได้ รวมแผน่ ดินเป็ นปึกแผ่น เป็ นอนั สนิ ้ สดุ ยคุ สามก๊ก 36

พระเจ้าจนิ ้ อ่ตู ี ้ 37

ราชวงศ์จนิ้ ตะวันออก ค.ศ. 317-420 การลม่ สลายของราชวงศ์จนิ ้ ตะวนั ตก ทําให้แผ่นดนิ จีนตกอย่ใู นภาวะแตกเป็ นเสยี่ ง ๆ ราช สาํ นกั จิน้ ย้ายฐานทีม่ นั่ ทางการปกครองและเมอื งหลวงลงไปทางใต้ สถาปนา ราชวงศ์จิน้ ตะวนั ออก (ค.ศ. 317-420 หรือ พ.ศ. 860-963) ขณะท่ีสถานการณ์ทางตอนเหนอื ว่นุ วายหนกั แผ่นดินท่ีแตกออกเป็ นแวน่ แคว้นของชนเผ่าตา่ ง ๆ 16 แคว้น โดยเรียกยคุ นีว้ า่ ยุคห้าชนเผ่าสบิ หกแคว้น เป็ นยคุ สนั ้ ๆ ที่เกิดการหลอมรวมทางวฒั นธรรมของชาวจีนเชอื ้ สายตา่ ง ๆ 38

ราชวงศ์เหนือใต้ ค.ศ. 420-581 หลงั จากการลม่ สลายของราชวงศ์จนิ ้ ตะวนั ตก ค.ศ. 265 – 316 หรือ พ.ศ. 808-860 ภาคเหนอื ของจีนก็ตกอย่ใู นภาวะจลาจลและสงครามชนเผ่าของยคุ 16 แคว้น จวบจน ค.ศ. 386 หวั หน้า เผา่ ทว่ั ป๋ าเซียนเปยได้สถาปนารัฐเว่ย์เหนอื และตงั ้ นครหลวงที่เมืองผิงเฉิง ปัจจบุ นั คอื เมอื งต้าถง ในมณฑลซนั ซี ยตุ ิความว่นุ วายจากสงครามแย่งชิงอํานาจทเ่ี กิดขนึ ้ ทางภาคเหนอื ใน ค.ศ. 439 (พ.ศ. 982)เมื่อถงึ ปี ค.ศ. 581 พ.ศ. 1124หยางเจียนปลดจกั รพรรดโิ จวจิง้ จากบลั ลงั ก์ สถาปนา ราชวงศ์สยุ จากนนั ้ กรีธาทพั ลงใต้ ยตุ ิสภาพการแบง่ แยกเหนือใต้อันยาวนานของแผน่ ดินจีนได้ เป็ นผลสาํ เร็จ ราชวงศ์สุย ค.ศ. 581-618 สยุ เหวนิ ตีฮ้ อ่ งเต้ ได้รวบรวมประเทศให้เป็ นปึกแผน่ ได้อีกครัง้ แต่โอรสคือสยุ หยางตีไ้ มม่ ี ความสามารถ ทําให้ซาํ ้ รอยราชวงศ์ฉนิ บรรดาผ้ปู กครองหวั เมืองต่างตงั ้ ตนเป็ นใหญ่และแย่ง อาํ นาจกนั ราชวงศ์สยุ อยไู่ ด้เพยี งสองรชั กาลเช่นกนั พ.ศ. 1124 – 1160 ค.ศ. 581-617ภายหลงั การรวมแผน่ ดินของราชวงศ์สยุ สภาพสงั คมโดยรวมได้รับการฟื น้ ฟจู ากภาวะสงคราม มีการ เติบโตด้านการผลติ เกดิ ความสงบสขุ ระยะหนงึ่ สยุ เหวินตี ้ได้ดาํ เนินการปฏิรูปการปกครองครัง้ ใหญ่ โดยยบุ รวมเขตปกครองในท้องถิ่น ลดขนาดองค์กรบริหาร รวมศนู ย์อํานาจไว้ที่สว่ นกลาง ฮอ่ งเต้กมุ อาํ นาจเด็ดขาดทงั ้ ในทางทหาร การปกครองและเศรษฐกิจ โดยมขี นุ นางเป็ นเพยี ง ผ้ชู ่วยในการบริหาร 39

ราชวงศ์ถัง ค.ศ. 618-907 หลหี่ ยวน หรือถงั เกาจฮู อ่ งเต้ ขนุ นางใหญ่ในสมยั สยุ ได้ลกุ ฮือที่แดนไท่หยวน และได้บตุ รชายคนรองหล่ซี ื่อหมนิ ทาํ การชนะ ศกึ อยา่ งตอ่ เน่อื ง ได้ตงั ้ ราชธานี ทีเ่ มอื งฉางอนั (เมอื งฉางอนั เป็ นเมืองหลวงของหลายราชวงศ์ อาทิ ฮนั่ ตะวนั ตก ราชวงศ์สยุ ราชวงศ์จนิ ้ ตะวนั ออก) ผ้นู ําของแคว้นถงั ได้สถาปนาตวั เองเป็ น อสิ ระจากสยุ หยางตี ้และได้ชยั ชนะเด็ดขาดจากแคว้นอืน่ ๆ 40

ตอ่ มา เหลา่ โอรสของหลหี่ ยวนมคี วามขัดแย้งกนั องค์ชายรองหลซี่ ื่อหมนิ ได้ทําการยดึ อํานาจ จากรัชทายาท หลเี่ จีย้ นเฉิง และโอรสองค์ทีส่ ามหลห่ี ยวนจ๋ี จากในเหตกุ ารณ์ทป่ี ระตเู สยี นอู่ สดุ ท้ายหลเี่ อียนถกู บีบให้สละราชสมบตั ิ หลซ่ี ่ือหมินได้สถาปนาตนขนึ ้ เป็ น ถงั ไทจ่ งฮ่องเต้ 41

อยา่ งไรก็ตาม หลงั จากถังไท่จงสนิ ้ แล้ว ราชวงศ์ถงั กเ็ ร่ิมเสอ่ื มโทรม กระทงั่ พระสนมของถงั ไท่จง คอื พระนางบเู ช็กเทยี น 42

ก็ได้เข้ากมุ อาํ นาจบริหารประเทศ กลายเป็ นฮอ่ งเต้หญิงองค์แรกและองค์เดียวของจนี และ เร่ิมต้นราชวงศ์โจว ในยคุ ของพระนางเป็ นหนง่ึ ในยคุ ท่ีจนี มีความรุ่งเรืองทางด้านศาสนา วฒั นธรรม มากท่ีสดุ ยุคหนงึ่ ของจนี แต่นกั ประวัติศาสตร์จนี ในยคุ ก่อนจะกลา่ วโจมตีพระนาง อยา่ งรุนแรงเนอ่ื งจากเป็ นสตรีที่เข้ามาย่งุ กบั การบริหารปกครองประเทศ แตภ่ ายหลงั นกั ประวตั ิศาสตร์จีนได้เปลี่ยนทศั นคติมาชื่นชมพระนางมากขนึ ้ หลงั จากสนิ ้ ยคุ ของพระนางบเู ช็ก เทียนแล้ว ราชวงศ์ถงั ก็กลบั คนื มาสคู่ นในสกุลหลอ่ี ีกครงั ้ แต่ก็เป็ นการเสอ่ื มถอยลง เน่ืองจากใน รัชสมยั ของพระเจ้าถังสวนจง ซง่ึ รุ่งเรืองในด้านศลิ ปะและบทกวี กลบั ไม่สนใจการบริหาร บ้านเมอื ง แล้วลมุ่ หลงพระสนมหยางกุ้ยเฟย ซงึ่ ได้ชอ่ื ว่าเป็ นหนง่ึ ในสย่ี อดหญิงงามของจีน ต่อมา อานลซู่ านแมท่ พั ชายแดนจงึ ได้เข้ามาก่อการปฏิวตั แิ ละยดึ เมืองหลวงฉางอานไว้เป็ นผลสาํ เร็จ ราชวงศ์ถงั มรี ะยะเวลาอยใู่ นราว พ.ศ. 1161-1450 ค.ศ. 618-907 43

ยคุ ห้าราชวงศ์สิบอาณาจกั ร ค.ศ. 907-960 44

ในชว่ งปลายราชวงศ์ถงั มกี ารกอ่ กบฏประชาชนตามชายแดน ขนั ทีครองอาํ นาจบริหารบ้านเมอื ง อยา่ งเหิมเกริม มกี ารแยง่ ชงิ อาํ นาจกนั แมท่ พั จเู วิน สงั หารขนั ทที รงอาํ นาจในราชสาํ นกั แล้ว สถาปนาตนเป็ นจกั รพรรดิ ทําให้ราชวงศ์ถงั สนิ ้ สดุ บรรดาหวั เมืองต่าง ๆ มีการแบง่ อํานาจกนั เป็ นห้าราชวงศ์ สบิ อาณาจกั ร คอื ราชวงศ์เหลยี ง ถงั จนิ ้ ฮนั่ และโจว โดยปกครองแถบล่มุ นํา้ ฮ วงโหติดตอ่ กนั มาตามลาํ ดบั สว่ นเขตลมุ่ แม่นํา้ แยงซีเกียงกบั ดินแดนทางใต้ลงไปเกิดเป็ นรัฐ อสิ ระอีก 10 รัฐ รวมเรียกว่า สบิ อาณาจกั ร การแบ่งแยกอํานาจปกครองยุคนีข้ าดเสถยี รภาพ ชวี ติ ของประชาชนเต็มไปด้วยความลาํ บากยากแค้น ต่อมา เจ้าควงอนิ ้ ผ้บู ญั ชาการทหาร องครักษ์ชิงอาํ นาจจากราชวงศ์โจวตงั ้ ตนสถาปนาราชวงศ์ซ่งหรือซ้องเป็ น พระเจ้าซง่ ไทจ่ ู่ แล้ว ปราบปรามรวมอาณาจักรเรื่อยมา จนกระทงั่ พระเจ้าซ่งไทจ่ ง ผ้สู บื ทอดราชบัลลงั ก์ปิ ดฉากสภาพ การแบง่ แยกดินแดนทงั ้ หมดลงสาํ เร็จโดยใช้เวลาเกือบ 20 ปี 45

ราชวงศ์ซ่ง ค.ศ. 960-1279 ปี ค.ศ. 960 เจ้าควงอิน้ หรือพระเจ้าซ่งไทจ่ ู่ สถาปนาราชวงศ์ซ่งหรือซ้องเหนือ เมอื งหลวงอยทู่ ีไ่ คฟง รวบรวมแผน่ ดนิ จีนเป็ นอนั หนงึ่ อนั เดียว สาํ เร็จ แล้วใช้นโยบายแบบ “ลาํ ต้นแขง็ กิ่งก้านออ่ น” ในการบริหารประเทศ ปฏิรูปการปกครอง 46

การทหาร การคลงั อนั มปี ระโยชน์ในการสร้างเสถียรภาพแกอ่ ํานาจสว่ นกลาง แตส่ ว่ นท้องถน่ิ กลบั อ่อนแอ เมื่อต้องทาํ สงคราม ย่อมไม่มีกาํ ลงั ตอ่ ต้านศตั รูได้ อํานาจการใช้กระบวนการ ยตุ ธิ รรมถูกควบคมุ โดยส่วนกลาง ราชวงศ์หยวน ค.ศ. 1279-1368 ยคุ นีป้ ระเทศจีนถกู ปกครองโดยชาวมองโกล นาํ โดย กบุ ไลข่าน 47

ซงึ่ โค่นราชวงศ์ซง่ ตงั ้ ราชวงศ์หยวน หรือราชวงศ์มองโกลขนึ ้ ยคุ สมัยนไี ้ ด้มชี าวต่างประเทศ เดินทางมาค้าขายเชน่ มาร์โคโปโล มีการพิมพ์ธนบตั รจนี ขนึ ้ ครงั ้ แรกมีการสง่ กองทพั รุกราน ชวา เวยี ดนาม ญ่ีป่ นุ แต่ไม่ประสบ ความสาํ เร็จ สมยั นีอ้ าณาเขตมขี นาดใหญ่มาก วา่ กนั ว่าใหญ่กว่าอาณาจกั รโรมนั ถงึ 4 เท่า หลงั จากกบุ ไลข่านสนิ ้ พระชนม์ ชนชนั ้ มองโกลได้กดขี่ชาวจีนอย่างรุนแรงจนเกิดกบฏและสะสม 48

กองกําลงั ทหารหรือกลมุ่ ตอ่ ต้านขนึ ้ ช่วงปลายราชวงศ์หยวน จหู ยวนจาง ได้ปราบปรามกลมุ่ ต่างๆ และขบั ไลร่ าชวงศ์หยวนออกไปจากแผ่นดนิ จีนได้สาํ เร็จ ราชวงศ์หมงิ ค.ศ. 1368-1644 ราชวงศ์หมงิ เป็ นราชวงศ์ของจีนสถาปนาโดยจหู ยวนจาง หรือ จกั รพรรดหิ มงิ ไท่จู่ เมอ่ื ปี ค.ศ. 1368 จหู ยวนจาง เป็ นฮ่องเต้คนที่สองในประวตั ิศาสตร์จีนหลงั จากหลวิ ปัง หรือพระ เจ้าฮน่ั เกาจู่ ทีไ่ ตเ่ ต้าสร้างฐานะขนึ ้ มาจากชาวนา จหู ยวนจาง เป็ นผ้นู าํ กองกาํ ลงั ทที่ ําศกึ ปราบ ราชวงศ์หยวน แล้วขบั ไลม่ องโกลออกจากแผ่นดินจนี ได้ จากนนั ้ สถาปนาตนขนึ ้ เป็ นฮ่องเต้นที่ เมืองนานกิง และสถาปนาราชวงศ์หมิงขนึ ้ จกั รพรรดิหมงิ ไทจ่ ่ปู กครองประเทศนานกว่า 31 ปี เสริมสร้างความเข้มแข็งในอาณาจกั รด้วยการรวมศนู ย์อํานาจปกครอง ทาํ ให้บ้านเมืองมี แสนยานภุ าพทางทหารเข้มแข็งกวา่ สมัยราชวงศ์ซง่ มาก พระองค์ยังลดหย่อนการเก็บภาษีจาก 49


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook