Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การสำรวจไมโครพลาสติกในทางเดินอาหารปลาและหอยฝาเดียวน้ำจืด-พร้อมเข้าเล่ม

การสำรวจไมโครพลาสติกในทางเดินอาหารปลาและหอยฝาเดียวน้ำจืด-พร้อมเข้าเล่ม

Published by miw-miw26, 2023-07-05 05:44:19

Description: การสำรวจไมโครพลาสติกในทางเดินอาหารปลาและหอยฝาเดียวน้ำจืด-พร้อมเข้าเล่ม

Search

Read the Text Version

บทที่ 4 ผลและอภปิ รายผลการวิจัย ในการสารวจไมโครพลาสตกิ ในทางเดินอาหารปลา และหอยฝาเดียวน้าจืด ในแหล่งน้าพื้นที่ จังหวัดเชียงใหม่ ได้ทาการสารวจจากพื้นที่ตวั อย่างได้แก่ แม่นา้ ปงิ เขือ่ นแมง่ ดั สมบูรณ์ชล ทะเลสาบ ดอยเต่า ห้วยบ้านทุ่งจาเริง แม่น้าอาเภอสะเมิง อ่างเก็บน้าแม่ริม คลองชลประทานสารภี อ่างเก็บน้า ห้วยไร่ อ่างเก็บน้าห้วยลาน อ่างเก็บน้าห้วยโตน อ่างเก็บน้าห้วยก๋องงอง อ่างเก็บน้าแม่ปาน อ่างเก็บ น้าแม่สาบ อ่างเก็บน้าแม่นาปา้ ด อ่างเก็บน้าป่ามา่ น เขื่อนแม่กวงอุดมธารา อ่างเก็บน้าหนองสะเรียม และแม่น้าสันทราย ดังภาพท่ี 4.1 ซงึ่ ผลการสารวจไมโครพลาสตกิ มีรายละเอียดดงั ต่อไปน้ี 4.1 สถานที่เก็บตวั อย่าง ภาพที่ 4.1 สถานท่ีเก็บตัวอย่าง แหลง่ น้าในพนื้ ทีจ่ ังหวดั เชยี งใหม่

41 4.1.1 แม่น้าปิง ทาการเก็บตัวอย่างบริเวณสะพานนวรัฐ อาเภอเมอื ง จงั หวัดเชียงใหม่ เปน็ แม่น้าสายหลักที่มี ความสาคัญในภาคเหนือตอนบน ในปัจจุบันมีการทาประมงและการใช้ประโยชน์จากแม่น้าปิงเป็น อยา่ งมาก ทง้ั การจับปลา การเกษตรและการเลยี้ งปลาในกระชงั 4.1.2 เขอื่ นแม่งัดสมบูรณช์ ล เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลตั้งอยู่ อาเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ การทาหน้าที่ส่งน้าหล่อเลี้ยง พื้นที่เพาะปลกู ในท่ีราบเชิงเขาทั้งสองฝ่ังของลาน้าแม่งดั อีกทั้งยังช่วยบรรเทาอุทกภัยในเขตลุ่มน้าปิง โดยเฉพาะบรรเทาน้าหลากเข้าทว่ มตวั เมอื งเชยี งใหม่ รวมทั้งยงั เปน็ แหล่งเพาะพันธุส์ ัตว์น้า 4.1.3 ทะเลสาบดอยเตา่ ทะเลสาบดอยเต่าอยู่ในเขตอาเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ เป็นอ่างเก็บน้าขนาดใหญ่ ที่อยู่ เหนือเขื่อนภูมิพล ดอยเต่า ถือเป็นแหล่งต้นน้าของเขื่อนและเป็นต้นน้าของลาน้าปิง เป็นพื้นท่ี เกษตรกรรม เลี้ยงสัตว์ และทาประมงนา้ จดื ของชาวดอยเต่า 4.1.4 ห้วยบา้ นทุ่งจาเรงิ ห้วยบา้ นทุง่ จาเรงิ ตาบลอมก๋อย อาเภออมก๋อย จงั หวดั เชยี งใหม่ ห้วยบ้านทงุ่ จาเรงิ มีลักษณะ เป็นแอ่งน้ากว้างที่ทางน้าไหลตลอดปี เกิดจากลาน้าสองลาน้าคือห้วยแม่ต๋อมกับห้วยบ้านทุ่งจาเริง ชาวบ้านในชุมชนสว่ นใหญ่ใช้นา้ ในชวี ติ ประจาวนั ทัง้ การอุปโภค บรโิ ภค เลีย้ งสัตว์ ทาการเกษตร และ เปน็ แหล่งอาหารตามธรรมชาติผ่านการจับสตั ว์นา้ 4.1.5 แม่นา้ สะเมิง แม่น้าสะเมิงมีการไหลของน้าตลอดทั้งปี ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในชุมชนการมีการใช้ประโยชน์ จากแม่นา้ สายนีท้ ัง้ การเกษตร การตกปลา การอปุ โภค และบริโภคตา่ ง ๆ แม่น้าสายนีถ้ ือว่าเป็นแม่น้า สายสาคญั ของคนในอาเภอสะเมิง

42 4.1.6 อ่างเกบ็ น้าแม่ริม เป็นอ่างเกบ็ น้าที่มีขนาดใหญ่ ทา่ มกลางธรรมชาติ ชาวบ้านในพืน้ ที่ได้ใช้ประโยชน์ในหลาย ๆ ด้านทั้งการเพาะปลกู พชื การเล้ียงสัตว์ การตกปลา และการเกษตร 4.1.7 คลองชลประทานสารภี คลองชลประทานสารภี อาเภอสารภี เป็นคลองชลประทานที่ใช้ในการเกษตร การเพาะปลูก พืช ชาวบ้านส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพเกษตร ทาสวน ทาไร่ ชาวบ้านจึงใช้น้าจากคลองชลประทาน ในการทาการเกษตร และการตกปลาตามธรรมชาติ 4.1.8 อ่างเกบ็ น้าห้วยลาน อ่างเก็บน้าห้วยลาน อาเภอสันกาแพง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นอ่างเก็บน้าเพื่อส่งน้าให้พื้นที่ใน เขตตาบลออนใต้และสามารถเก็บกักน้าให้ทันในฤดูฝน และก่อสร้างอ่างเก็บน้าขนาดเล็กอีก 2 แห่ง คือ อ่างเก็บน้าดอยโต และอ่างเก็บน้าห้วยป่าไร่ ในลาห้วยมีน้าในปริมาณที่เพียงพอต่อการอุปโภค บรโิ ภคของชาวบ้าน ทสี่ าคัญนา้ ต้องมคี ุณภาพทด่ี ี และไหลตลอดทั้งปี 4.1.9 อ่างเกบ็ น้าห้วยก๋องงอง อ่างเก็บน้าห้วยก๋องงอง อาเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นอ่างเก็บน้าที่อยู่กลางหุบเขา มีภูเขาล้อมรอบ ชาวบ้านในชุมชนใช้ประโยชน์จากอ่างเก็บน้าในด้านต่าง ๆ เช่น การทาเกษตร การเล้ียงสตั ว์ การอุปโภค บรโิ ภคและเป็นแหลง่ อาหารตามธรรมชาติ 4.1.10 อา่ งเกบ็ นา้ แม่ปาน อา่ งเก็บน้าหว้ ยแม่ปาน ตงั้ อยู่หม่ทู ่ี 4 ตาบลสะเมิงเหนอื อาเภอสะเมิง จังหวดั เชียงใหม่ มเี นื้อ ที่ทั้งหมดประมาณ 100 ไร่ เหมาะสาหรับเป็นสถานที่พักผ่อนหน่อยใจ และตกปลา แหล่งท่องเที่ยว ที่คงความเป็นธรรมชาติ ช่วยอานวยประโยชน์ให้กับชุมชนพื้นที่ ใช้เป็นแหล่งกักเก็บน้าสาหรับการ อุปโภคและบริโภคของประชาชน ช่วยบรรเทาปัญหาอุทกภยั นา้ ป่าไหลหลาก รวมถึงช่วยเพิ่มปริมาณ น้าต้นทุนลดความเสี่ยงจากการขาดแคลนน้าเพื่อการเกษตรในช่วงหน้าแล้ง ทั้งยังช่วยในการอนุรักษ์ พนั ธุ์สตั ว์นา้ ฟืน้ ฟรู ะบบนเิ วศน์ใหด้ ขี ้นึ

43 4.1.11 อา่ งเกบ็ น้าแมน่ าปา้ ด อา่ งเกบ็ นา้ แม่นาปา้ ด ตาบลแมห่ อพระ อาเภอแม่แตง จงั หวัดเชยี งใหม่ อ่างเก็บน้าแม่นาป้าด เป็นโครงการพระราชดาริ เป็นอ่างเก็บน้าขนาดกลาง ที่ใช้กักเก็บน้าและเพื่อสูบฉีดน้าให้คนในชุมชน เปน็ สถานท่พี กั ผอ่ นสามารถตงั้ แคมป์ปง้ิ และชาวบ้านสามารถเขา้ มาตกปลาได้ 4.1.12 เขือ่ นแมก่ วงอุดมธารา ตั้งอยู่ในเขต ตาบลลวงเหนือ อาเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เป็นเขื่อนที่มีขนาดใหญ่ รองลงมาจากเขอ่ื นแม่งัดสมบรู ณ์ชล เขือ่ นแม่กวงอดุ มธาราสูง 68 เมตร สันเข่อื นยาว 610 เมตร สร้าง เพ่อื ก้นั ลาน้าจากแม่กวง สามารถกกั เกบ็ นา้ ในเขื่อนได้ 263 ล้านลกู บาศก์เมตร เขือ่ นแม่กวงอุดมธารา จะส่งนา้ ใหก้ บั เกษตรกรในพื้นที่อาเภอดอยสะเก็ด อาเภอสันทราย อาเภอสนั กาแพง จังหวัดเชียงใหม่ และอาเภอบา้ นธิ จังหวัดลาพนู เขอ่ื นแมก่ วงอุดมธาราจะถูกล้อมรอบด้วยป่าและภูเขา ยังเป็นสถานที่ ท่องเที่ยว ที่พักผ่อนหย่อนใจ และยังสามารถใช้ประโยชน์จากเขื่อนได้ ทั้งการอุปโภค บริโภค การเกษตร และการประมง 4.1.13 อา่ งเก็บนา้ แมส่ าบ อ่างเก็บน้าแม่สาบ ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 8 ตาบลสะเมิงใต้ อาเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ ใช้ใน การเกษตรและอุปโภคบริโภค การก่อสร้างโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้าแม่สาบเพื่อพัฒนาแหล่งน้า ธรรมชาติ ลาน้าแม่สาบ นาน้าไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในกิจการต่างๆ ให้ได้มากที่สุด ให้มีการพัฒนา อาชีพราษฎรในพื้นที่มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยเน้นหนักในด้านการเกษตร มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพการ ผลิต การปลูกพืชทดแทน การใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างจากัด เช่น น้า พืชที่เพาะปลูก ให้มี ประสิทธิภาพสูงสุด การป้องกันการบุกรุกทาลายป่า การอนุรักษ์ป่า การปรับปรุงบารุงดินและน้า ตลอดจนการพฒั นาจิตใจของราษฎรให้เกดิ ความสามัคคีและหวงแหนแผน่ ดนิ ที่ตนอาศัยอยู่ 4.1.14 อ่างเก็บน้าหนองสะเรียม ตั้งอยู่บ้านต้นผึ้ง ตาบลยุหว่า อาเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและ พักผ่อนหย่อนใจ หนองสะเรียมเป็นแหล่งน้าทางการเกษตรและแหล่งประมงที่สาคัญช่วยล่อเลี้ยงวิถี ชวี ิตแบบพอเพยี งแกช่ าวบ้านบริเวณใกล้เคียง

44 4.1.15 แมน่ ้าสันทราย แม่น้าสันทราย ไหลผ่านในพื้นที่ของชุมชนหมู่ที่ 2 บ้านสีบัวเงิน เป็นแหล่งพักผ่อนทาง ธรรมชาติทสี่ วยงามและร่มรื่น ตามสภาพภมู ิศาสตร์น้ันไม่มตี ้นกาเนิดจากป่าต้นน้าหลักๆเหมือนแม่น้า สายอื่นๆ เป็นแม่น้าที่รับน้าที่เหลือจากการทานา ทาสวน ของพื้นที่การเกษตรในเขตอาเภอแม่ริม อาเภอสนั ทราย และไหลไปรวมกบั ลานา้ แมก่ วง รวมระยะทางทั้งหมดประมาณ 35 กิโลเมตร 4.1.16 อา่ งเก็บน้าห้วยไร่ อา่ งเก็บนา้ ห้วยไร่ อาเภอสนั กาแพง จงั หวดั เชียงใหม่ เปน็ อ่างเก็บน้าเพ่ือส่งน้าให้พื้นที่ในเขต ตาบลออนใต้และสามารถเก็บกักน้าให้ทันในฤดูฝน และก่อสร้างอ่างเก็บน้าขนาดเล็กอีก 2 แห่ง คือ อา่ งเกบ็ น้าดอยโตน และอ่างเก็บนา้ ห้วยลาน ในลาห้วยมนี า้ ในปรมิ าณท่ีเพยี งพอต่อการอุปโภคบริโภค ของชาวบา้ น ท่สี าคญั น้าตอ้ งมคี ุณภาพทดี่ ี และไหลตลอดท้ังปี 4.1.17 อา่ งเก็บน้าห้วยโตน อ่างเก็บน้าห้วยโตน อาเภอสันกาแพง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นอ่างเก็บน้าเพื่อส่งน้าให้พื้นที่ใน เขตตาบลออนใต้และสามารถเก็บกักน้าให้ทันในฤดูฝน และก่อสร้างอ่างเก็บน้าขนาดเล็กอีก 2 แห่ง คือ อ่างเก็บน้าห้วยไร่ และอ่างเก็บน้าห้วยลาน ในลาห้วยมีน้าในปริมาณที่เพียงพอต่อการอุปโภค บริโภคของชาวบา้ น ที่สาคัญน้าตอ้ งมคี ณุ ภาพทด่ี ี และไหลตลอดท้ังปี 4.1.18 อ่างเก็บนา้ ปา่ มา่ น อ่างเก็บน้าป่าม่านตั้งอยู่ที่อาเภอสะเมิง เป็นอ่างเก็บน้าเพื่อส่งน้าให้พื้นที่ในเขตหมู่บ้านและ สามารถเก็บกักน้าให้ทันในฤดูฝน นักตกปลานิยมไปตกปลาบริเวณนี้ ในลาห้วยมีน้าในปริมาณท่ี เพยี งพอตอ่ การอุปโภคบรโิ ภคของชาวบ้าน ท่สี าคัญนา้ ต้องมีคณุ ภาพทด่ี ี และไหลตลอดท้งั ปี

45 4.2 ผลการศึกษาไมโครพลาสติกในทางเดินอาหารปลา 4.2.1 จานวนตัวอยา่ งปลา ชนิดปลา และปริมาณไมโครพลาสติก ในการทาวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยได้เก็บตัวอย่างปลาจากแหล่งน้าพื้นที่ต่างๆ ในจังหวัด เชียงใหม่ จานวน 80 ตัว 11 ชนิด จากทั้งหมด 10 พื้นที่ ได้แก่ เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล เขื่อนแม่กวง อุดมธารา แม่น้าปิง ทะเลสาบดอยเต่า แม่น้าสะเมิง ห้วยบ้านทุ่งจาเริง อ่างเก็บน้าแม่ริม คลอง ชลประทานสารภี อ่างเก็บน้าหนองสะเรียม และแม่น้าสันทราย จากการสารวจปริมาณไมโครพลา สติกในตัวอย่างปลาจากทั้ง 10 พื้นที่ พบว่า ตัวอย่างปลาที่เก็บจากพื้นที่มาทั้งหมดมีปริมาณไมโครพ ลาสติกที่แตกต่างกัน โดยตัวอย่างปลาที่สารวจจากเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลมีตัวอย่างปลา 3 ชนิดคือ ปลาตะเพียนขาว จานวน 3 ตัว ปลาสร้อยขาวจานวน 2 ตัวและปลากระสูบขีดจานวน 2 ตัวพบ ไมโครพลาสติกรวมกันทั้งสิ้น 9 เส้นใย เขื่อนแม่กวงอุดมธารา มีตัวอย่างปลา 2 ชนิดคือ ปลายี่สก จานวน 4 ตวั และปลากระสบู ขีดจานวน 2 ตวั พบไมโครพลาสติกรวมกันทั้งส้นิ 35 เส้นใย แม่น้าปิงมี ตัวอย่างปลา 3 ชนิดคือ ปลาดุกจานวน 3 ตัว ปลานิลจานวน 3 ตัว และปลาช่อนจานวน 3 ตัว พบ ไมโครพลาสติกรวมกันทั้งสิ้น 32 เส้นใย ทะเลสาบดอยเต่ามีตัวอย่างปลา 3 ชนิดคือ ปลาปีกแดง จานวน 6 ตัว ปลาสร้อยขาวจานวน 3 ตัว และปลากระมังจานวน 7 ตัว พบไมโครพลาสติกรวมกัน ทงั้ สน้ิ 11 เสน้ ใย ห้วยบ้านทุ่งจาเริงมีตัวอย่างปลา 1 ชนดิ คือ ปลานิลจานวน 3 ตัว พบไมโครพลาสติ กรวมกันทั้งสิ้น 3 เส้นใย แม่น้าสะเมิงมีตัวอย่างปลา 1 ชนิดคือ ปลาตะเพียนขาวจานวน 17 ตัว พบ ไมโคร พลาสติกรวมกันทั้งสิ้น 2 ชิ้น อ่างเก็บน้าแม่ริมมีตัวอย่างปลา 1 ชนิดคือ ปลาดุกจานวน 3 ตัว ไม่พบไมโครพลาสติก คลองชลประทานสารภีมีตัวอย่างปลา 1 ชนิดคือ ปลาไหลจานวน 3 ตัว พบ ไมโครพลาสติกรวมกันทั้งสิ้น 5 เส้นใย อ่างเก็บน้าหนองสะเรียมมีตัวอย่างปลา 1 ชนิดคือ ปลา ตะเพียนหางแดงจานวน 3 ตัวพบไมโครพลาสติกรวมกันทั้งสิ้น 1 ตัว และแม่น้าสันทรายมีตัวอย่าง ปลา 4 ชนิดคือ ปลาตะเพียนขาว ปลายี่สก ปลาหมอช้างเหยียบ ปลานิล จานวน 10 ตัว พบไมโคร พลาสตกิ รวมกนั ทง้ั สิ้น 2 เส้นใย ดังแสดงในตารางท่ี 4.1

46 ตารางท่ี 4.1 จานวนตวั อยา่ งปลา ชนดิ ปลา และปรมิ าณไมโครพลาสติก พื้นท่ี ชนิดปลา ตัวท่ี ความยาว นา้ หนกั สด นา้ หนัก ปรมิ าณไมโคร ตวั อยา่ ง (เซนติเมตร) (กรัม) ทางเดินอาหาร พลาสตกิ เข่อื นแมง่ ัด (กรมั ) (ชิน้ ) สมบรู ณ์ชล ปลาตะเพียน 1 21.1 139 4.8 3 เขื่อนแมก่ วง ขาว 2 19 94 4.6 2 อดุ มธารา 3 19.2 89 2.7 1 ปลาสรอ้ ยขาว 1 21.1 148 2.1 - 2 21 139 2.3 1 ปลากระสบู 1 21.6 142 6.7 2 2 25.7 216 9.7 - ปลาย่ีสก 1 22.5 195 19 4 ปลากระสูบ 2 22.3 187 16 1 3 35 484 57 15 4 32 468 42 1 1 21.3 177 11 4 2 30 433 40 10 แม่น้าปงิ ปลาดกุ 1 22 149 13 4 ปลานิล 2 25 95 13 4 ปลาชอ่ น 3 27 116 19 3 1 23 332 13 5 2 24.5 284 13 6 3 25.4 315 18 5 1 30 323 17 3 2 27.5 210 15 1 3 28 256 11 1

47 ทะเลสาบ ปลาปกี แดง 1 17.2 69 1.4 5 ดอยเต่า 2 14.0 38 2.2 - ปลาสรอ้ ยขาว 3 14.0 37 1.8 1 แม่นา้ สะเมงิ ปลากระมัง 4 13.5 37 2.2 - 5 12.0 25 1.6 - ปลาตะเพียน 6 12.5 30 3.9 2 ขาว 1 17.7 58 1.2 - 2 18.0 53 0.7 - 3 19.0 59 3.6 - 1 17.5 57 0.9 - 2 15.5 40 1.7 - 3 16.2 50 1.4 - 4 19.5 82 2.5 - 5 20.0 99 2.1 - 6 22.3 129 4.1 3 7 21.0 131 3.9 - 1 12.8 46 3 - 2 13 57 4 - 3 15 28 1 - 4 14.4 31 2 - 5 13 30 1.5 - 6 11.8 31 2.5 2 7 12.4 24 1.8 - 8 12.2 21 1 - 9 11 12 0.3 - 10 10 12 0.6 - 11 12.5 25 3 -

48 12 12 21 2.3 - 13 12.3 21 2.1 - 14 8.5 10 0.4 - 15 12 26 2.6 - 16 10.5 25 2.3 - 17 9.3 8 0.2 - หว้ ยบา้ น ปลานิล 1 16 81 6 2 ทงุ่ จาเรงิ 2 15 56 5 1 3 14 50 4 - อา่ งเก็บน้าแม่ 1 32 219 13 - ริม ปลาดกุ 2 30 235 15 - 3 30 221 20 - คลอง ปลาไหล 1 50 107 9 2 ชลประทาน 2 40 75 6 1 สารภี 3 45 91 4 2 อา่ งเก็บนา้ ปลาตะเพียน 1 15 41 2.2 - หนองสะ หางแดง 2 16.5 70 2.3 1 เรียม 3 18 74 3.5 - แม่นา้ สัน ปลาตะเพียน 1 28 376 33.5 - ทราย ขาว 1 26.4 230 19.4 - ปลาย่ีสก

49 ปลาหมอ 1 14.5 64 6.3 - ชา้ งเหยียบ 2 12.5 42 4.3 2 3 11.0 32 4.1 - ปลานลิ 4 12.0 29 4.8 - 1 13.0 56 7.9 - 2 12.3 48 6.6 - 3 11.5 38 6.5 - 4 11.4 34 5.6 - 4.2.2 ความยาวเฉลี่ยของตัวอย่างปลา น้าหนักเฉลี่ยตัวอย่างปลา ปริมาณไมโครพลา สติกเฉลีย่ และเปอร์เซน็ ตก์ ารพบไมโครพลาสตกิ ในแตล่ ะพืน้ ท่ี จากการเก็บตัวอย่างปลาจากพื้นที่แหล่งน้าในจังหวัดเชียงใหม่ พบว่า ตัวอย่างปลา จากเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลคือ ปลาตะเพียนขาว มีความยาวเฉลี่ย 19.77±1.16 เซนติเมตร มีน้าหนกั เฉลี่ย 107.33±27.54 กรัม ปลาสร้อยขาวมีความยาวเฉลี่ย 21.05±0.07 เซนติเมตร มีน้าหนักเฉลี่ย 143.50±6.36 กรัม และปลากระสูบขีดมีความยาวเฉลี่ย 23.65±2.05 เซนติเมตร มีน้าหนักเฉล่ีย 179.00±37.00 กรมั ตัวอย่างปลาจากเข่ือนแม่กวงอุดมธาราคือ ปลาย่สี กมีความยาวเฉล่ีย 27.95± 6.53 เซนติเมตร มีน้าหนกั เฉลีย่ 333.5±164.71 กรัมและปลากระสูบมีความยาวเฉลี่ย 25.65±6.15 เซนตเิ มตร มีน้าหนักเฉลยี่ 305.00±181.02 กรัม ตวั อยา่ งปลาจากทะเลสาบดอยเต่าคือ ปลาปีกแดง มีความยาวเฉลีย่ 13.87±1.82 เซนติเมตร มีน้าหนกั เฉลี่ย 39.33±15.39 กรัม ปลาสร้อยขาวมคี วาม ยาวเฉลย่ี 18.23±0.68เซนตเิ มตร มนี ้าหนกั เฉล่ยี 56.67±3.21 กรมั และปลากระมงั มีความยาวเฉล่ีย 18.86±2.53 เซนติเมตร มีน้าหนักเฉลี่ย 84.00±37.16 กรัม ตัวอย่างปลาจากห้วยบ้านทุ่งจาเริง คือ ปลานิลมีความยาวเฉลี่ย 15.00±1.00 เซนติเมตร มีน้าหนักเฉลี่ย 62.33±16.44 กรัม ตัวอย่าง ปลาจากแม่น้าสะเมิงคือ ปลาตะเพียนขาวมีความยาวเฉลี่ย 11.92±1.67 เซนติเมตร มีน้าหนักเฉล่ีย 25.18±12.43 กรัม ตัวอย่างปลาจากอ่างเก็บน้าแม่ริมคือ ปลาดุกมีความยาวเฉลี่ย 30.67±1.15 เซนติเมตร มีนา้ หนกั เฉลยี่ 225.00±8.72 กรมั ตวั อย่างปลาจากคลองชลประทานสารภคี ือ ปลาไหล มีความยาวเฉลี่ย 45.00±5.00 เซนติเมตร มีน้าหนักเฉลี่ย 91.00±16.00 กรัม ตัวอย่างปลาจากอ่าง เก็บน้าหนองสะเรียมคือ ปลาตะเพียนหางแดงมีความยาวเฉลี่ย 16.50±1.50 เซนติเมตร มีน้าหนัก

50 เฉลย่ี 61.67±18.00 กรมั และตวั อยา่ งปลาจากแม่น้าสันทรายคือ ปลาตะเพียนขาวและ ปลาย่ีสกไม่มี ความยาวเฉลี่ยและน้าหนักเฉลี่ยเพราะมีจานวนปลาเพียงตัวเดียว ปลาหมอช้างเหยียบมีความยาว เฉลี่ย 12.50±1.47 เซนติเมตร มีน้าหนักเฉลี่ย 41.75±15.84 กรัม และปลานิลมีความยาวเฉลี่ย 12.05±0.75 เซนตเิ มตร มนี า้ หนกั เฉลี่ย 44.00±9.93 กรัม จากการสารวจไมโครพลาสติกที่พบในตัวอย่างปลาทุกพื้นที่ตัวอย่าง รวมทั้งสิ้น 80 ตัว มีจานวนไมโครพลาสติกรวมทั้งหมด 99 ชิ้น คิดเป็นเปอร์เซ็นต์การพบไมโครพลาสติกในเขื่อนแม่งัด สมบูรณ์ชล8.08 % เขื่อนแม่กวงอุดมธารา 35.35% แม่น้าปิง 32.32% ทะเลสาบดอยเต่า 11.11% แม่น้าสะเมิง 2.02% ห้วยบ้านทุ่งจาเริง 3.03% อ่างเก็บน้าแม่ริม ไม่พบไมโครพลาสติก คลองชลประทานสารภี 5.05%อา่ งเกบ็ น้าหนองสะเรยี ม 1.01% และแม่น้าสนั ทราย 2.02% ดงั แสดง ในตารางที่ 4.2 ตารางท่ี 4.2 ความยาวเฉลี่ยของตวั อยา่ งปลา น้าหนักเฉลยี่ ตัวอยา่ งปลา ปริมาณไมโครพลาสติกเฉล่ีย และเปอรเ์ ซน็ ต์การพบไมโครพลาสตกิ ในแตล่ ะพนื้ ท่ี พ้ืนท่ีตวั อยา่ ง ความยาวเฉล่ีย นา้ หนักเฉลย่ี ปรมิ าณไมโคร- เปอรเซ็นต์การ พลาสตกิ เฉลี่ย พบไมโคร- เขอ่ื นแม่งัดสมบูรณช์ ล (เซนตเิ มตร) (กรัม) พลาสตกิ เขื่อนแมก่ วงอดุ มธารา (ชนิ้ /ตวั ) 8.08 แมน่ ้าปิง 21.49±2.22 143.28±41.40 1.80±2.63 35.35 ทะเลสาบดอยเตา่ 26.80±5.87 319.25±151.81 5.83±7.14 32.32 แม่นา้ สะเมงิ 25.82±2.54 231.11±92.22 3.50±7.39 11.11 ห้วยบา้ นทงุ่ จาเริง 16.98±2.95 0.70±2.16 2.02 อา่ งเก็บน้าแม่ริม 11.92±1.67 60.00±8.16 0.10±1.00 3.03 คลองชลประทานสารภี 15.00±1.00 25.18±12.43 1.00±0.96 - อา่ งเก็บน้าหนองสะเรยี ม 30.67±1.15 62.33±16.44 5.05 แมน่ ้าสนั ทราย 45.00±5.00 225.00±8.72 - 1.01 16.50±1.50 91.00±16.00 2.02 19.74±6.38 61.67±18.01 1.60±1.50 172.94±115.46 0.30±0.50 0.2±0.56

51 4.2.3 รูปรา่ งของไมโครพลาสตกิ จากการสารวจไมโครพลาสติกในตัวอย่างปลาจากพื้นที่แหล่งน้าในจังหวัดเชียงใหม่ พบรูปร่างของไมโครพลาสติกเพียงชนิดเดียวคือ รูปร่างที่เป็นลักษณะของเส้นใยที่มีขนาดที่แตกต่าง กนั ภาพท่ี 4.2 ไมโครพลาสติกรปู ร่างเส้นใยทสี่ ารวจจากพื้นทแ่ี หล่งนา้ ในจังหวดั เชียงใหม่

52 4.2.4 สีของไมโครพลาสติก ผลจากการสารวจไมโครพลาสติกพบไมโครพลาสติกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีแดง สีน้าเงิน สีม่วง และใสไม่มีสี ซึ่งจากการจาแนกพบว่า ไมโครพลาสติกที่มีสีน้าเงินมีปริมาณมากที่สุด จากพื้นที่ตัวอย่างแหล่งน้าในจังหวัดเชียงใหม่ โดยเมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของไมโครพลาสติกพบว่า ไมโครพลาสติกสีน้าเงินมีมากกว่าของไมโครพลาสติกทั้งหมด (ภาพที่ 4.3) โดยพื้นที่เขื่อนแม่ งัด สมบูรณ์ชลมีเปอร์เซ็นต์ไมโครพลาสติกสีน้าเงิน 7.27% เขื่อนแม่กวงอุดมธารามีเปอร์เซ็นต์ไมโคร พลาสตกิ สีนา้ เงนิ 34.55% แมน่ ้าปิงมีเปอรเ์ ซ็นต์ไมโครพลาสติกสนี ้าเงนิ 30.91% ทะเลสาบดอยเต่ามี เปอร์เซ็นต์ไมโครพลาสติกสีน้าเงิน 9.09% แม่น้าสะเมิงมีเปอร์เซ็นต์ไมโครพลาสติกสีน้าเงิน 3.64% ห้วยบ้านทุ่งจาเริงมีเปอร์เซ็นต์ไมโครพลาสติกสีน้าเงิน 1.82% อ่างเก็บน้าแม่ริมมีเปอร์เซ็นต์ไมโคร พลาสติกสีน้าเงิน ไม่พบไมโครพลาสติก คลองชลประทานสารภีมีเปอร์เซ็นต์ไมโครพลาสติกสีน้าเงิน 5.45% อ่างเก็บน้าหนองสะเรียมมีเปอร์เซ็นต์ไมโครพลาสติกสีน้าเงิน 1.82% และแม่น้าสันทรายมี เปอรเ์ ซน็ ต์ไมโครพลาสตกิ สีนา้ เงนิ 1.82% อำ่ งเก็บนำ้ แม่รมิ นำ้ เงนิ เขอื่ นแมก่ วงอุดมธำรำ ม่วง เขอื่ นแมง่ ัดสมบรู ณช์ ล แดง ใสไมม่ สี ี ทะเลสำบดอยเตำ่ แมน่ ้ำสะเมงิ 20% 40% 60% 80% 100% แม่น้ำสนั ทรำย อำ่ งเกบ็ นำ้ หนองสะเรยี ม ห้วยบำ้ นทงุ่ จำ้ เรงิ คลองชลประทำนสำรภี แม่นำ้ ปงิ 0% ภาพท่ี 4.3 เปอร์เซ็นต์สีทพ่ี บไมโครพลาสตกิ ในพ้ืนท่ีแหล่งน้าในจงั หวดั เชียงใหม่

53 4.2.5 ความยาวของไมโครพลาสติก จากการวดั ความยาวของไมโครพลาสติกจากพนื้ ท่ีแหล่งน้าในจังหวัดเชยี งใหม่ พบว่า มีคา่ เฉล่ยี ทีใ่ กล้เคยี งกัน โดยค่าเฉลย่ี ของความยาวของไมโครพลาสตกิ ทีส่ ารวจจากเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ ชลมีความเฉลี่ย 1.36±1.08 มิลลเิ มตร เขือ่ นแม่กวงอุดมธารามีความยาวเฉล่ีย 1.86±1.43 มิลลิเมตร แม่น้าปิงมีความยาวเฉลี่ย 2.88±0.84 มิลลิเมตร ทะเลสาบดอยเต่ามีความยาวเฉลี่ย 1.72±1.08 มิลลิเมตร แม่น้าสะเมิงมีความยาวเฉลี่ย 0.75±0.35 มิลลิเมตร ห้วยบ้านทุ่งจาเริงมีความยาวเฉล่ีย 1.10±0.17 มลิ ลเิ มตร อ่างเก็บน้าเม่ริมไม่พบไมโครพลาสติก คลองชลประทานสารภีมีความยาวเฉลี่ย 0.98±0.25 มลิ ลเิ มตร อ่างเก็บนา้ หนองสะเรยี มมีความยาวเฉลี่ย 1.20±0.00 มิลลเิ มตร และแม่น้าสัน ทรายมีความยาวเฉลี่ย 1.00±0.00 มิลลิเมตร โดยค่าเฉลี่ยความยาวของไมโครพลาสติกของทั้ง 10 พืน้ ทีไ่ ม่มคี วามแตกต่างอย่างมนี ัยสาคญั ทางสถติ ทิ ี่ระดับนยั สาคญั 0.05 ดังแสดงในตารางท่ี 4.3 ตารางที่ 4.3 ความยาวของไมโครพลาสติกท่ีพบในพ้นื ทแ่ี หล่งนา้ ในจังหวดั เชียงใหม่ ท้งั 10 พน้ื ท่ี พ้นื ทตี่ วั อย่าง ความยาวของไมโครพลาสติก (มิลลเิ มตร) ค่าเฉล่ีย ค่าต่าสุด – คา่ สงู สุด เข่อื นแมง่ ดั สมบูรณ์ชล 1.36±1.08a 0.50-4.00 เขอ่ื นแม่กวงอุดมธารา 1.86±1.43a 0.50-6.00 แม่น้าปิง 2.88±0.84a 0.30-6.00 ทะเลสาบดอยเต่า 1.72±1.08a 0.30-6.00 แม่นา้ สะเมิง 0.75±0.35a 0.50-1.00 หว้ ยบ้านทุ่งจาเริง 1.10±0.17a 1.00-1.30 อ่างเก็บนา้ เมร่ ิม - - คลองชลประทานสารภี 0.98±0.25a 0.60-1.30 อ่างเก็บน้าหนองสะเรียม 1.20±0.00a 0.00-1.20 แม่นา้ สนั ทราย 1.00±0.00a 1.00-1.00 * หมายเหตุ อกั ษรเหมอื นกันในคอลัมนแ์ สดงว่า ไมม่ คี วามแตกต่างอย่างมีนัยสาคญั ทางสถิติทร่ี ะดบั นยั สาคญั 0.05

54 จากการแบ่งช่วงของความยาวไมโครพลาสติก ได้มีการแบ่งเปน็ 3 ช่วงได้แก่ ความ ยาวตงั้ แต่ 0-2 มลิ ลเิ มตร ความยาว2-4 มิลลิเมตร และความยาว 4-6 มลิ ลเิ มตร พบว่าทง้ั เขือ่ นแม่งัด สมบูรณ์ชล เขื่อนแม่กวงอุดมธารา แม่น้าปิง ทะเลสาบดอยเต่า แม่น้าสะเมิง ห้วยบ้านทุ่งจา เริง อ่างเก็บน้าเม่ริม คลองชลประทานสารภี แม่น้าสันป่าตอง และแม่น้าสันทรายมีไมโครพลาสติกที่อยู่ ในช่วงความยาวตั้งแต่ 0-2 มิลลิเมตรมากที่สุด คิดเป็น 77.78% , 76.44% , 87.5% , 81.82% , 100% , 100% , 0% , 100% , 100% , 100% ตามลาดับ โดยเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลมีความยาว ของไมโครพลาสติก 2 ช่วงคือความยาวต้งั แต่ 0-2 มิลลิเมตร ความยาว2-4 มิลลิเมตร โดยไม่มไี มโครพ ลาสตกิ ความยาวชว่ ง 4-6 มิลลิเมตร เขือ่ นแมก่ วงอดุ มธารามีความยาวไมโครพลาสติก 3 ช่วงคอื ความ ยาวตั้งแต่ 0-2 มิลลิเมตร ความยาว2-4 มิลลิเมตร และความยาว 4-6 มิลลิเมตร แม่น้าปิงมีความยาว ไมโครพลาสติก 3 ช่วงคือความยาวตั้งแต่ 0-2 มิลลิเมตร ความยาว2-4 มิลลิเมตร และความยาว 4-6 มิลลิเมตร ทะเลสาบดอยเตา่ มีความยาวไมโคร พลาสติก 2 ช่วงคอื ความยาวตั้งแต่ 0-2 มิลลิเมตร และ ความยาว 4-6 มิลลิเมตร โดยไม่มีไมโครพลาสติกความยาวชว่ ง 2-4 มิลลิเมตร แม่น้าสะเมิงมีความ ยาวไมโครพลาสติก 1 ช่วงคือความยาวตั้งแต่ 0-2 มิลลิเมตร โดยไม่มีไมโครพลาสติกความยาวช่วง 2-4 มิลลิเมตรและความช่วง 4-6 มิลลิเมตร ห้วยบ้านทุ่งจาเริงมีความยาวไมโครพลาสติก 1 ช่วงคือ ความยาวตั้งแต่ 0-2 มิลลิเมตร โดยไม่มีไมโครพลาสติกความยาวช่วง 2-4 มิลลิเมตรและความยาว 4-6 มิลลิเมตร อ่างเก็บน้าแม่ริมไม่มีความยาวไมโครพลาสติกเลยสักช่วง คลองชลประทานสารภีมี ความยาวไมโครพลาสติก 1 ช่วงคือความยาวตั้งแต่ 0-2 มิลลิเมตร โดยไม่มีไมโครพลาสติกความยาว ช่วง 2-4 มลิ ลิเมตรและความยาว 4-6 มลิ ลิเมตร แมน่ า้ สนั ป่าตองมีความยาว ไมโครพลาสตกิ 1 ชว่ ง คือความยาวตัง้ แต่ 0-2 มิลลิเมตร โดยไม่มีไมโครพลาสติกความยาวช่วง 2-4 มิลลิเมตรและความยาว 4-6 มลิ ลิเมตร และแมน่ ้าสนั ทรายมีความยาวไมโครพลาสติก 1 ช่วงคือความยาวต้ังแต่ 0-2 มิลลเิ มตร โดยไมม่ ไี มโครพลาสติกความยาวช่วง 2-4 มิลลิเมตรและความยาว 4-6 มิลลิเมตร

55 ภาพท่ี 4.4 เปอรเ์ ซ็นต์ความยาวท่พี บไมโครพลาสติกในทางเดินอาหารปลาในพ้ืนทแ่ี หลง่ นา้ ทง้ั 10พื้นท่ี 4.2.6 ปรมิ าณไมโครพลาสติกกับชนิดปลา จากการสารวจไมโครพลาสติกในทางเดินอาหารปลา ได้เก็บตัวอย่างจากปลาทั้งหมด 11 ชนิด แตล่ ะชนดิ จะมพี ฤติกรรมการกินอาหารทแ่ี ตกต่างกัน โดยผู้วิจยั ไดท้ าการแบ่งประเภทพฤติกรรม การกินอาหารออกเป็น ชนิดปลาที่หากินอาหารบริเวณผิวน้าพบ 28 เส้นใย ชนิดปลาที่หากินอาหาร บริเวณใต้พื้นน้าหรือโคลนดินพบ 13 เส้นใย และชนิดปลาที่ไม่เลือกบริเวณหากินอาหารพบ 58 เส้นใย สามารถแบง่ ชนิดปลาได้ดังตารางท่ี 4.4 ตารางท่ี 4.4 กลุ่มชนิดปลาแบง่ ตามพฤติกรรมการหากนิ อาหาร หากินอาหารบรเิ วณผิวน้า หากินอาหารบริเวณใตพ้ ื้นน้า ไมเ่ ลือกบรเิ วณหากนิ อาหาร ปลานิล ปลาดกุ ปลาช่อน ปลาปีกแดง ปลาตะเพียนขาว ปลาหมอช้างเหยียบ ปลาสร้อยขาว ปลากระมัง ปลากระสบู ขีด ปลายสี่ กเทศ ปลาไหล

56 ในแต่ละกลมุ่ สามารถเปรยี บเทยี บปริมาณไมโครพลาสตกิ ที่พบไดด้ ังในตารางที่ 4.5 ตารางท่ี 4.5 เปรยี บเทยี บปริมาณไมโครพลาสติกที่พบในแตล่ ะกล่มุ ชนิดปลา หากินอาหารบรเิ วณผิวนา้ หากนิ อาหารบริเวณใตพ้ ้ืนน้า ไมเ่ ลอื กบรเิ วณหากนิ อาหาร ปลานลิ 19 เส้นใย ปลาดุก 11 เสน้ ใย ปลาชอ่ น 5 เสน้ ใย ปลาตะเพยี นขาว 9 เสน้ ใย ปลาหมอช้างเหยียบ 2เส้นใย ปลาปีกแดง 8 เส้นใย ปลาสร้อยขาว 1 เส้นใย รวมทงั้ หมด 28 เสน้ ใย รวมท้ังหมด 13 เส้นใย ปลากระมัง 3 เส้นใย ปลากระสบู 16 เส้นใย ปลายสี่ ก 20 เสน้ ใย ปลาไหล 5 เสน้ ใย รวมท้ังหมด 58 เส้นใย 4.3 ผลการศึกษาไมโครพลาสติกในหอยฝาเดียวนา้ จดื 4.2.1 จานวนตัวอย่างหอยฝาเดียวน้าจืด และปรมิ าณไมโครพลาสตกิ ในการทาวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยได้เก็บตัวอย่างหอยฝาเดียวน้าจืดจากแหล่งน้าพืน้ ทีต่ ่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ 1 ชนิดคือ หอยขม จากทั้งหมด 3 พื้นที่ ได้แก่ แม่น้าปิง อ่างเก็บน้าแม่ริม และ คลองชลประทานสารภี โดยกาหนดนา้ หนกั ในการเก็บตวั อย่างหอยขมคือ น้าหนกั สด 500 กรัม พบว่า แม่น้าปิงมีปริมาณไมโครพลาสติกรวมกันทั้งสิ้น 17 เส้นใยอ่างเก็บน้าแม่ริมมีปริมาณไมโครพลาส ติกรวมกันทั้งสิ้น 15 เส้นใย และคลองชลประทานสารภีมีปริมาณไมโครพลาสติกรวมกันทั้งสิ้น 10 เส้นใย ดังแสดงในตารางท่ี 4.6

57 ตารางท่ี 4.6 จานวนตัวอยา่ งหอยฝาเดยี วนา้ จืด และปรมิ าณไมโครพลาสติก พ้นื ที่ตวั อย่าง ขอ้ มูลหอยฝาเดียวนา้ จืด แมน่ ้าปิง นา้ หนัก (กรมั ) ปรมิ าณไมโครพลาสติกทพ่ี บ อ่างเก็บน้าแมร่ ิม คลองชลประทานสารภี (ชน้ิ ) 500 17 500 15 500 10 4.2.2 ปริมาณไมโครพลาสติกเฉลี่ยและเปอร์เซน็ ต์การพบไมโครพลาสติกในแต่ละพ้นื ท่ี จากการเก็บตัวอย่างหอยฝาเดียวน้าจืด (หอยขม) จากพื้นที่แหล่งน้าในจังหวัด เชียงใหม่ ทั้งหมด 3 พื้นที่ พบว่า หอยฝาเดียวน้าจืด (หอยขม) มีจานวนไมโครพลาสติกรวมทั้งหมด 42 เส้นใย คิดเป็นเปอร์เซ็นต์การพบไมโครพลาสติกในแม่น้าปิง 40.48% อ่างเก็บน้าแม่ริม 35.71% และคลองชลประทานสารภี 23.81% ดังแสดงในตารางที่ 4.7 ตารางที่ 4.7 ปรมิ าณไมโครพลาสติกเฉลีย่ และเปอรเ์ ซน็ ต์การพบไมโครพลาสติกในแตล่ ะพ้ืนที่ พนื้ ท่ตี ัวอยา่ ง ปรมิ าณไมโครพลาสตกิ เปอรเซน็ ต์การพบไมโครพลาสตกิ (เส้นใย) แม่น้าปิง 17 40.48 อา่ งเก็บน้าแมร่ ิม 15 35.71 คลองชลประทานสารภี 10 23.81

58 4.2.3 รูปรา่ งของไมโครพลาสติก จากการสารวจไมโครพลาสติกในหอยฝาเดียวน้าจืดจากพื้นที่แหล่งน้าในจังหวัด เชียงใหม่ พบรูปร่างของไมโครพลาสติกเพียงชนิดเดียวคอื รูปร่างท่ีเป็นลักษณะของเส้นใยที่มีขนาดที่ แตกตา่ งกัน ภาพที่ 4.5 รูปรา่ งทเี่ ปน็ ลักษณะของเส้นใยที่มีขนาดท่ีแตกต่างกนั 4.2.4 สีของไมโครพลาสตกิ ผลจากการสารวจไมโครพลาสติกพบไมโครพลาสติกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีแดง สีน้าเงิน สีม่วง และใสไม่มีสี ซึ่งจากการจาแนกพบว่า ไมโครพลาสติกที่มีสีน้าเงินมีปริมาณมากที่สุด จากพื้นที่ตัวอย่างแหลง่ น้าในจังหวัดเชียงใหม่ โดยเมื่อคิดเป็นเปอร์เซน็ ต์ของไมโครพลาสตกิ พบว่า ไม โครพลาสติกสีน้าเงินมีมากกว่า 10% ของไมโครพลาสติกทั้งหมด (ภาพที่ 4.5) โดยพื้นที่แม่น้าปิงมี เปอร์เซ็นต์ไมโครพลาสติกสีน้าเงิน 44.44% อ่างเก็บน้าแม่ริมมีเปอร์เซ็นต์ไมโครพลาสติกสีน้าเงิน 37.04% และคลองชลประทานสารภมี ีเปอรเ์ ซน็ ตไ์ มโครพลาสติกสีน้าเงนิ 18.52% ้ืพน ่ีทตัวอ ่ยาง คลองชลประทำนสำรภี นำ้ เงนิ ม่วง อ่ำงเกบ็ นำ้ แมร่ มิ แดง ใสไมม่ สี ี แม่น้ำปงิ 0% 20% 40% 60% 80% 100% เปอรเ์ ซ็นต์ ภาพที่ 4.6 เปอร์เซ็นต์สที ี่พบไมโครพลาสติกในพนื้ ทีแ่ หล่งน้าในจังหวัดเชียงใหม่

59 4.2.5 ความยาวของไมโครพลาสตกิ จากการวัดความยาวของไมโครพลาสติกจากพืน้ ท่ีแหล่งน้าในจังหวดั เชยี งใหม่ พบว่า มีค่าเฉลี่ยที่ใกล้เคียงกัน โดยค่าเฉลี่ยของความยาวของไมโครพลาสติกที่สารวจจากแม่น้าปิงมีความ ยาวเฉลี่ย 1.46±0.95 มิลลิเมตร อ่างเก็บน้าแม่ริมมีความยาวเฉลี่ย 1.95±0.89 มิลลิเมตร และ คลองชลประทานสารภีมีความยาวเฉลี่ย 0.89±0.81 มิลลิเมตร โดยค่าเฉลี่ยความยาวของไมโครพลา สติกของทั้ง 3 พื้นที่ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับนัยสาคัญ 0.05 ดังแสดงใน ตารางท่ี 4.8 ตารางท่ี 4.8 ความยาวของไมโครพลาสติกทพี่ บในพนื้ ท่แี หล่งน้าในจงั หวดั เชยี งใหม่ ทง้ั 3 พ้ืนที่ พ้นื ท่ตี ัวอย่าง ความยาวของไมโครพลาสติก (มิลลเิ มตร) ค่าเฉล่ีย ค่าต่าสดุ – ค่าสงู สุด แม่นา้ ปงิ 1.46±0.95a 0.20-3.20 อ่างเก็บนา้ แมร่ ิม 1.95±0.89a 1.00-3.00 คลองชลประทานสารภี 0.89±0.81a 0.30-3.00 * หมายเหตุ อักษรเหมือนกนั ในคอลมั นแ์ สดงวา่ ไมม่ คี วามแตกตา่ งอยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถิตทิ รี่ ะดับนยั สาคญั 0.05 จากการแบ่งช่วงของความยาวไมโครพลาสติก ได้มีการแบ่งเป็น 2 ช่วงได้แก่ ความยาวตง้ั แต่ 0-2 มิลลเิ มตร และความยาว2-4 มิลลิเมตร พบวา่ ทั้ง แม่นา้ ปงิ อ่างเกบ็ นา้ แมร่ ิม และ คลองชลประทานสารภีมีไมโครพลาสติกที่อยู่ในช่วงความยาวตั้งแต่ 0-2 มิลลิเมตรมากที่สุด คิดเป็น 64.80% , 60.00% , 90.00% ตามลาดับ โดยแม่น้าปิงมีความยาวของไมโครพลาสติก 2 ช่วงคือ ความยาวตั้งแต่ 0-2 มิลลิเมตร และความยาว 2-4 มิลลิเมตร อ่างเก็บน้าแม่ริมมคี วามยาวไมโครพลา สติก 2 ช่วงคือความยาวตั้งแต่ 0-2 มิลลิเมตร และความยาว 2-4 มิลลิเมตร และคลองชลประทาน สารภีมีความยาวไมโครพลาสติก 2 ช่วงคือคือความยาวตั้งแต่ 0-2 มิลลิเมตร และความยาว 2-4 มลิ ลเิ มตร

60 4.4 ผลการศึกษาไมโครพลาสตกิ ในน้า 4.2.1 ปรมิ าณไมโครพลาสติก ในการทาวิจัยในครั้งนี้ ผู้ทาวิจัยได้นาตัวอย่างน้าบริเวณผิวน้า มาจากพื้นที่ตัวอย่าง ทั้งหมด 3 พื้นที่คือ อ่างเก็บน้าห้วยไร่ อ่างเก็บน้าห้วยลาน และอ่างเก็บน้าห้วยโตน ตาบลออนใต้ อาเภอสันกาแพง จังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้ในปริมาตร 500 มิลลิลิตรต่อพื้นที่ จากการสารวจไมโคร พลาสติกในตัวอย่างน้าทั้ง 3 พื้นที่ พบว่า ในพื้นที่ตัวอย่างมีปริมาณไมโครพลาสติกที่แตกต่างกัน โดยปริมาณไมโครพลาสติกจากอา่ งเกบ็ น้าห้วยไร่ จากการสารวจพบไมโครพลาสตกิ ท้ังหมด 16 เสน้ ใย ปริมาณไมโครพลาสติกจากอ่างเก็บน้าห้วยลาน พบไมโครพลาสติกทั้งหมด 48 เส้นใย และปริมาณ ไมโครพลาสติกจากอา่ งเก็บนา้ ห้วยโตนพบไมโครพลาสติกทง้ั หมด 73 เส้นใย ดังแสดงในตารางที่ 4.9 ตารางท่ี 4.9 ปรมิ าณโครพลาสติกท่พี บในแตล่ ะพื้นท่ีตัวอย่าง พน้ื ทต่ี วั อย่าง ปริมาณไมโครพลาสติก (เส้นใย) อา่ งเก็บนา้ ห้วยไร่ 16 อ่างเก็บน้าห้วยลาน 48 อ่างเก็บนา้ หว้ ยโตน 73 4.2.2 ปริมาณไมโครพลาสติกเฉลยี่ และเปอรเ์ ซน็ ตก์ ารพบไมโครพลาสติกในแต่ละพ้ืนท่ี จากการเก็บตัวอย่างน้าจากพื้นที่ตัวอย่างทั้งหมด 3 พื้นที่คือ อ่างเก็บน้าห้วยไร่ อ่างเก็บน้าห้วยลาน และอ่างเก็บน้าห้วยโตน ตาบลออนใต้ อาเภอสันกาแพง จังหวัดเชียงใหม่ มีจานวนไมโครพลาสติกรวมทั้งหมด 137 เส้นใย คิดเป็นเปอร์เซ็นต์การพบไมโครพลาสติกในพื้นท่ี ตัวอย่าง คือ อ่างเก็บน้าห้วยไร่ 11.67% อ่างเก็บน้าห้วยลาน 35.03% และอ่างเก็บน้าห้วยโตน 53.30% ดงั แสดงในตารางที่ 4.10 ตารางที่ 4.10 เปอรเ์ ซ็นต์การพบไมโครพลาสตกิ ในแตล่ ะพ้ืนที่ พื้นทีต่ ัวอย่าง เปอร์เซน็ ตก์ ารพบไมโครพลาสตกิ อา่ งเก็บนา้ หว้ ยไร่ 11.67% อา่ งเก็บน้าหว้ ยลาน 35.03% อา่ งเก็บน้าห้วยโตน 53.30%

61 4.2.3 รปู รา่ งของไมโครพลาสตกิ จากการเก็บตัวอย่างน้าจากพื้นที่ตัวอย่างทั้งหมด 3 พื้นที่คือ อ่างเก็บน้าห้วยไร่ อ่างเก็บนา้ หว้ ยลาน และอา่ งเกบ็ นา้ หว้ ยโตน พบรปู ร่างไมโครพลาสติกเพยี งรูปแบบเดยี ว คอื รปู ร่างท่ี เปน็ ลักษณะของเส้นใยที่มีขนาดทีแ่ ตกต่างกนั ดงั ภาพท่ี 4.6 ภาพที่ 4.7 ไมโครพลาสติกรูปร่างเส้นใยในตัวอยา่ งน้าท่สี ารวจจากแหล่งน้าใน จงั หวัดเชยี งใหม่

62 4.2.4 สีของไมโครพลาสตกิ ผลจากการสารวจพบไมโครพลาสติกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีแดง สีน้าเงิน สีม่วง และ ใสไมม่ ีสี ซ่ึงจากการจาแนกพบวา่ ไมโครพลาสติกทีม่ สี นี ้าเงินมีปริมาณมากที่สดุ ในตวั อยา่ งนา้ ทส่ี ารวจ จากอา่ งเก็บนา้ ห้วยไร่ อา่ งเก็บนา้ ห้วยลาน และอา่ งเกบ็ นา้ ห้วยโตน โดยเมอื่ คดิ เป็นเปอร์เซ็นต์ของไม โครพลาสติกที่พบท้ังหมด พบว่า ไมโครพลาสติกสีน้าเงินมีมากกว่า 30% ของไมโครพลาสติกทั้งหมด (ภาพที่ 4.7) โดยอ่างเก็บน้าห้วยไร่มีเปอรเ์ ซ็นต์ไมโครพลาสติกสีน้าเงิน 62.5% อ่างเก็บน้าห้วยลานมี เปอร์เซ็นต์ไมโครพลาสติกสีน้าเงิน 54.16% และอ่างเก็บน้าห้วยโตนมีเปอร์เซ็นต์ไมโครพลาสตกิ สีน้า เงนิ 37% อา่ งเก็บนา้ ห้วยโตน ้พืน ่ทีตัวอ ่ยาง อ่างเกบ็ นา้ หว้ ยลาน น้าเงิน อ่างเก็บน้าหว้ ยไร่ แดง ม่วง ใสไมม่ สี ี 0% 20% 40% 60% 80% 100% เปอรเ์ ซน็ ต์ ภาพที่ 4.8 เปอร์เซ็นต์สที ่ีพบไมโครพลาสตกิ ในตัวอยา่ งนา้ ในพ้ืนท่ีแหลง่ น้าทงั้ 3 พืน้ ที่ 4.2.5 ความยาวของไมโครพลาสติก จากการวัดความยาวของไมโครพลาสติกในตัวอย่างน้าบริเวณผิวน้าจากแหล่งน้า 3 พื้นที่ ทั้งอ่างเก็บนา้ หว้ ยไร่ อ่างเก็บน้าห้วยลาน และอ่างเก็บน้าห้วยโตน พบว่า มีค่าเฉลี่ยที่ใกล้เคียง กัน โดยค่าเฉลี่ยของความยาวของไมโครพลาสติกที่สารวจจากอ่างเก็บน้าห้วยไร่ มีความยาวเฉลี่ย 1.09±0.87 มลิ ลิเมตร อา่ งเก็บน้าหว้ ยลานมีความยาวเฉลี่ย1.03±0.50 มลิ ลเิ มตร และอ่างเก็บน้าห้วย โตนมีความยาวเฉลี่ย1.86±0.95 มิลลิเมตร โดยค่าเฉลี่ยความยาวของไมโครพลาสติกของทั้ง 3 พื้นที่ แหลง่ นา้ ไมม่ คี วามแตกตา่ งกันอยา่ งมีนัยสาคัญทร่ี ะดบั นัยสาคัญ 0.05 ดงั แสดงในตารางท่ี 4.11

63 ตารางที่ 4.11 ความยาวของไมโครพลาสติกท่พี บจากแหลง่ นา้ 3 พ้นื ท่ี พนื้ ท่แี หลง่ น้า ความยาวของไมโครพลาสติก (มิลลเิ มตร) คา่ เฉลี่ย ค่าตา่ สดุ -ค่าสงู สุด อ่างเก็บน้าหว้ ยไร่ 1.09±0.87a 0.2 - 3.0 อา่ งเก็บนา้ หว้ ยลาน 1.03±0.50a 0.3 - 2.0 อา่ งเก็บนา้ หว้ ยโตน 1.86±0.95a 0.5 - 4.0 * หมายเหตุ อกั ษรเหมอื นกนั ในคอลัมน์แสดงวา่ ไม่มคี วามแตกต่างอย่างมนี ยั สาคัญทางสถิตทิ ี่ระดบั นยั สาคัญ 0.05 จากการแบ่งช่วงของความยาวไมโครพลาสติก ได้มีการแบ่งเป็น 2 ช่วงได้แก่ ความยาวที่มีคา่ ต้ังแต่ 0-2 มิลลิเมตร และความยาวตั้งแต่ 2-4 มิลลิเมตร พบว่าทั้งอ่างเกบ็ น้าหว้ ยไร่ อ่างเก็บน้าห้วยลาน และอ่างเก็บน้าห้วยโตน มีไมโครพลาสติกที่อยู่ในช่วงความยาว 0-2 มิลลิเมตร มากที่สุด คิดเป็นมากกว่า 80% ของทั้งหมด โดยอ่างเก็บน้าห้วยไร่มีความยาวของไมโครพลาสติก 2 ช่วง คอื ช่วงความยาวตั้งแต่ 0-2 มิลลเิ มตร และความยาวต้ังแต่ 2-4 มลิ ลเิ มตร อา่ งเก็บนา้ หว้ ยลาน มีความยาวไมโครพลาสตกิ 1 ชว่ งคือความยาวตั้งแต่ 0-2 มลิ ลเิ มตร โดยไม่มีไมโครพลาสติกความยาว ช่วง 2-4 มลิ ลิเมตร และอา่ งเกบ็ นา้ ห้วยโตนมีความยาวไมโครพลาสติก 2 ช่วง คอื ช่วงความยาวตั้งแต่ 0-2 มิลลเิ มตร และความยาวตัง้ แต่ 2-4 มลิ ลเิ มตร (ภาพที่ 4.8) อา่ งเก็บน้าหว้ ยโตน พ้ืน ่ทีตัวอย่าง อา่ งเก็บนา้ ห้วยลาน 2-4 mm อา่ งเกบ็ น้าหว้ ยไร่ 0-2 mm 0 20 40 60 80 100 120 เปอรเ์ ซน็ ต์ ภาพที่ 4.9 เปอร์เซ็นตข์ องความยาวไมโครพลาสตกิ ในตัวอย่างนา้ ท้ัง 3 พื้นท่ีแหลง่ นา้

64 4.5 ผลการศึกษาไมโครพลาสตกิ ในตะกอนดิน 4.2.1 ปรมิ าณไมโครพลาสติก ในการทาวิจัยในครั้งนี้ ผู้ทาวิจัยได้นาตัวอย่างตะกอนดิน มาจากพื้นที่ตัวอย่าง ทั้งหมด 8 พื้นที่คือ อ่างเก็บน้าห้วยไร่ อ่างเก็บน้าห้วยลาน อ่างเก็บน้าห้วยโตน อ่างเก็บน้า หว้ ยก๋องงอง อา่ งเกบ็ น้าแมป่ าน อ่างเกบ็ น้าแมส่ าบ อ่างเก็บนา้ แมน่ าปา้ ด และอ่างเกบ็ น้าปา่ ม่าน โดย ใช้ในน้าหนัก 500 กรัมต่อพื้นที่ จากการสารวจไมโครพลาสติกในตัวอย่างน้าทั้ง 8 พื้นที่พบว่า ใน พื้นที่ตัวอย่างมีปริมาณไมโครพลาสติกทีแ่ ตกตา่ งกันโดยปริมาณไมโครพลาสติกจากอ่างเก็บนา้ หว้ ยไร่ จากการสารวจพบไมโครพลาสติกทั้งหมด 5 เส้นใย ปริมาณไมโครพลาสติกจากอ่างเก็บน้าห้วยลาน พบไมโครพลาสติกทั้งหมด 10 เส้นใย ปริมาณไมโครพลาสติกจากอ่างเก็บน้าห้วยโตน พบไมโคร พลาสติกทั้งหมด 5 เส้นใย อ่างเก็บน้าห้วยก๋องงองพบไมโครพลาสติกทง้ั หมด 3 เส้นใย อ่างเก็บน้าแม่ ปานพบไมโครพลาสติกทั้งหมด 4 เส้นใย อ่างเก็บน้าแม่สาบพบไมโครพลาสติกทั้งหมด 2 เส้นใย อ่างเก็บน้าแม่นาปา้ ดพบไมโครพลาสติกท้ังหมด 11 เส้นใย และอ่างเก็บนา้ ปา่ มา่ นพบไมโครพลาสตกิ ทั้งหมด 12 เสน้ ใย ดังแสดงในตารางท่ี 4.12 ตารางที่ 4.12 ปริมาณโครพลาสติกที่พบในแตล่ ะพ้นื ท่ตี ัวอย่าง พนื้ ทต่ี ัวอย่าง ปริมาณไมโครพลาสติก (เส้นใย) อา่ งเก็บนา้ ห้วยไร่ 5 อา่ งเก็บนา้ ห้วยลาน 10 อา่ งเก็บนา้ ห้วยโตน 5 อา่ งเก็บนา้ ห้วยก๋องงอง 3 อ่างเก็บนา้ แมป่ าน 4 อ่างเก็บน้าแม่สาบ 2 อา่ งเก็บนา้ แมน่ าป้าด 11 อา่ งเก็บน้าปา่ ม่าน 12

65 4.2.2 ปรมิ าณไมโครพลาสติกเฉลยี่ และเปอรเ์ ซ็นต์การพบไมโครพลาสตกิ ในแต่ละพนื้ ท่ี จากการเก็บตัวอย่างน้าจากพื้นที่ตัวอย่างทั้งหมด 8 พื้นที่คือ อ่างเก็บน้าห้วยไร่ อ่างเก็บน้าห้วยลาน อ่างเก็บน้าห้วยโตน อ่างเก็บน้าห้วยก๋องงอง อ่างเก็บน้าแม่ปาน อ่างเก็บน้าแม่ สาบ อ่างเก็บน้าแม่นาป้าด และอ่างเก็บน้าป่าม่านมีจานวนไมโครพลาสติกรวมทั้งหมด 52 ชิ้น คิดเป็นเปอร์เซ็นต์การพบไมโครพลาสติกในพื้นที่ตัวอย่าง คือ อ่างเก็บน้าห้วยไร่ 9.67% อ่างเก็บน้า ห้วยลาน 19.22% อ่างเก็บน้าห้วยโตน 9.67% อ่างเก็บน้าห้วยก๋องงอง 5.77% อ่างเก็บน้าแม่ปาน 7.67% อ่างเก็บน้าแม่สาบ 3.89% อ่างเก็บน้าแม่นาป้าด 21.11% และอ่างเก็บน้าป่าม่าน 23.00% ดงั แสดงในตารางที่ 4.13 ตารางที่ 4.13 เปอร์เซน็ ต์การพบไมโครพลาสตกิ ในแตล่ ะพื้นที่ พ้ืนทต่ี ัวอยา่ ง เปอร์เซน็ ต์การพบไมโครพลาสตกิ อ่างเก็บนา้ ห้วยไร่ 9.67 อา่ งเก็บน้าห้วยลาน 19.22 อ่างเก็บนา้ ห้วยโตน 9.67 อ่างเก็บนา้ หว้ ยก๋องงอง 5.77 อา่ งเก็บนา้ แมป่ าน 7.67 อา่ งเก็บน้าแมส่ าบ 3.89 อา่ งเก็บน้าแมน่ าปา้ ด 21.11 อ่างเก็บน้าป่ามา่ น 23.00 4.2.3 รูปรา่ งของไมโครพลาสตกิ จากการเก็บตัวอย่างน้าจากพื้นที่ตัวอย่างทั้งหมด 8 พื้นที่คือ อ่างเก็บน้าห้วยไร่ อ่างเก็บน้าห้วยลาน อ่างเก็บน้าห้วยโตน อ่างเก็บน้าห้วยก๋องงอง อ่างเก็บน้าแม่ปาน อ่างเก็บน้าแม่ สาบ อา่ งเกบ็ นา้ แม่นาปา้ ด และอา่ งเก็บน้าปา่ ม่าน พบรูปรา่ งไมโครพลาสติก 3 รูปแบบ คือ รูปร่างที่ เป็นลักษณะของเส้นใยที่มีขนาดที่แตกต่างกัน (ภาพที่ 4.9) รูปร่างที่เป็นลักษณะไร้รูปแบบที่มีขนาด แตกตา่ งกนั (4.10) และรปู ร่างทเี่ ป็นลักษณะของแผน่ แข็งที่มีขนาดที่มแี ตกต่างกัน (ภาพที่ 4.11)

66 ภาพที่ 4.10 รปู รา่ งทีเ่ ปน็ ลักษณะของเส้นใย ภาพที่ 4.11 รูปร่างทีเ่ ปน็ ลักษณะไรร้ ปู แบบ ภาพท่ี 4.12 รปู ร่างท่ีเป็นลักษณะของแผน่ แข็ง 4.2.4 สีของไมโครพลาสติก ผลจากการสารวจพบไมโครพลาสติกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีแดง สีน้าเงิน และสีม่วง ซึ่งจากการจาแนกพบว่า ไมโครพลาสติกลักษณะเส้นใยมีทั้งหมด 39 เส้นใย สีน้าเงินมีปริมาณมาก ที่สุด ในตัวอย่างตะกอนดินที่สารวจจากอ่างเก็บน้าห้วยไร่ อ่างเก็บน้าห้วยลาน อ่างเก็บน้าห้วยโตน อ่างเก็บน้าห้วยก๋องงอง อ่างเก็บน้าแม่ปาน อ่างเก็บน้าแม่สาบ อ่างเก็บน้าแม่นาป้าด และอ่างเก็บ นา้ ป่ามา่ น โดยเมื่อคดิ เป็นเปอร์เซน็ ต์ของไมโครพลาสติกที่พบทั้งหมด พบวา่ ไมโครพลาสติกสีน้าเงินมี มากกว่า 30% ของไมโครพลาสติกทั้งหมด (ภาพที่ 4.12) โดยอ่างเก็บน้าห้วยไร่มีเปอร์เซ็นต์ไมโครพ ลาสติกสีน้าเงิน 66.67% อ่างเก็บน้าห้วยลานมีเปอร์เซ็นต์ไมโครพลาสติกสีน้าเงิน 100% อ่างเก็บน้า ห้วยโตนมีเปอร์เซ็นต์ไมโครพลาสติกสีน้าเงิน 66.67% อ่างเก็บน้าห้วยก๋องงอง มีเปอร์เซ็นต์ไมโคร พลาสติกสีน้าเงิน 33.33% อ่างเก็บน้าแม่ปานมีเปอร์เซ็นต์ไมโครพลาสติกสีน้าเงิน100% อ่างเก็บน้า แม่สาบมเี ปอรเ์ ซน็ ตไ์ มโครพลาสติกสนี ้าเงนิ 100% อา่ งเกบ็ น้าแม่นาปา้ ดมเี ปอร์เซ็นต์ไมโครพลาสติกสี น้าเงิน 62.5% และอา่ งเกบ็ น้าปา่ มา่ นมเี ปอร์เซ็นตไ์ มโครพลาสตกิ สีนา้ เงนิ 41.7%

67 อ่างเก็บน้าป่าม่าน สีไมโครพลำสตกิ นา้ เงิน อ่างเก็บน้าแมน่ าป้าด แดง 20% 40% 60% มว่ ง อา่ งเกบ็ น้าแม่สาบ อ่างเกบ็ น้าแม่ปาน 80% 100% อ่างเก็บน้าหว้ ยกอ๋ งงอง อ่างเก็บนา้ หว้ ยโตน อา่ งเก็บน้าหว้ ยลาน อ่างเก็บนา้ ห้วยไร่ 0% ภาพที่ 4.13 เปอรเ์ ซน็ ตส์ ที ่ีพบไมโครพลาสติกในตะกอนดินในพ้ืนที่แหลง่ น้าทัง้ 8 พ้นื ที่ 4.2.5 ความยาวของไมโครพลาสตกิ จากการวัดความยาวของไมโครพลาสติกในตัวอย่างน้าบริเวณผิวน้าจากแหล่งน้า 8 พน้ื ท่ี ทง้ั อ่างเก็บนา้ ห้วยไร่ อ่างเก็บนา้ หว้ ยลาน อา่ งเกบ็ นา้ ห้วยโตน อา่ งเกบ็ นา้ หว้ ยก๋องงอง อ่างเก็บ น้าแม่ปาน อา่ งเกบ็ น้าแม่สาบ อา่ งเก็บน้าแมน่ าป้าด และอ่างเกบ็ น้าป่ามา่ น พบวา่ ในรูปร่างลักษณะ เส้นใยมีค่าเฉลี่ยความยาวไมโคร พลาสติกที่ใกล้เคียงกัน โดยค่าเฉลี่ยของความยาวของไมโคร พลาสตกิ ท่สี ารวจจากอ่างเก็บน้าห้วยไร่ มีความยาวเฉลย่ี 1.60±0.57 มลิ ลิเมตร อ่างเก็บน้าห้วยลานมี ความยาวเฉลี่ย 2.00±1.41 มิลลิเมตร อ่างเก็บน้าห้วยโตนมีความยาวเฉลี่ย2.00±0.00 มิลลิเมตร อ่างเก็บน้าห้วยก๋องงองมีความยาวเฉลี่ย1.67±0.00 มิลลิเมตร อ่างเก็บน้าแม่ปานมีความยาวเฉล่ีย 2.25±0.71 มิลลิเมตร อา่ งเกบ็ น้าแม่สาบมคี วามยาวเฉลีย่ 1.50±0.71 มิลลิเมตร อ่างเก็บนา้ แม่นาป้าด มีความยาวเฉลย่ี 2.50±2.83 มิลลิเมตร และอา่ งเก็บน้าปา่ ม่านมีความยาวเฉลีย่ 1.70±0.57 มลิ ลิเมตร โดยค่าเฉลี่ยความยาวของไมโครพลาสติกของทั้ง 8 พื้นที่แหล่งน้าไม่มีความแตกต่างกันอย่างมี นัยสาคัญที่ระดับนัยสาคัญ 0.05 ดังแสดงในตารางที่ 4.14 ในรูปร่างลักษณะแผ่นแข็งมีค่าเฉลี่ย ความยาวไมโครพลาสตกิ ที่ใกลเ้ คียงกนั โดยคา่ เฉล่ยี ของความยาวของไมโครพลาสติกทส่ี ารวจจากอ่าง เก็บน้าห้วยลานมีความยาวเฉลี่ย 1.00±0.00มิลลิเมตร อ่างเก็บน้าห้วยก๋องงองมีความยาวเฉลี่ย 0.47±0.31 มิลลิเมตร และอ่างเก็บน้าแม่นาป้าดมีความยาวเฉลี่ย0.90±0.14 มิลลิเมตร โดยค่าเฉล่ีย ความยาวของไมโครพลาสติกของทั้ง 3 พื้นที่แหล่งน้าไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญที่ระดับ

68 นัยสาคญั 0.05 ดังแสดงในตารางท่ี 4.15 ในรูปร่างลกั ษณะไร้รูปแบบมีค่าเฉล่ยี ความยาว ไมโครพลา สติกที่ใกล้เคียงกัน โดยค่าเฉลี่ยของความยาวไมโครพลาสติกที่สารวจจากอ่างเก็บน้าห้วยลานมีความ เฉลี่ย 1.00±0.00 มิลลิเมตร และอ่างเก็บน้าห้วยโตนมีความยาวเฉลี่ย 1.20±0.72 มิลลิเมตรโดย ค่าเฉลยี่ ความยาวของไมโครพลาสติกของทัง้ 3 พื้นท่ีแหลง่ น้าไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญที่ ระดบั นยั สาคญั 0.05 ดังแสดงในตารางท่ี 4.16 ตารางที่ 4.14 ความยาวของไมโครพลาสตกิ ทพี่ บจากแหล่งน้า 8 พื้นทใี่ นรูปร่างลักษณะเสน้ ใย พน้ื ทีแ่ หล่งนา้ ความยาวของไมโครพลาสติก (มิลลเิ มตร) ค่าเฉลย่ี คา่ ตา่ สุด-ค่าสงู สุด อ่างเก็บน้าหว้ ยไร่ 1.60±0.57a 1.20-2.00 อ่างเก็บน้าห้วยลาน 2.00±1.41 a 1.00-3.00 อ่างเก็บน้าหว้ ยโตน 2.00±0.00 a 2.00-2.00 อา่ งเก็บน้าห้วยก๋องงอง 1.67±0.00 a 1.00-2.00 อ่างเก็บนา้ แมป่ าน 2.25±0.71 a 1.00-3.00 อา่ งเก็บนา้ แมส่ าบ 1.50±0.71 a 1.00-2.00 อ่างเก็บนา้ แมน่ าปา้ ด 2.50±2.83 a 0.50-5.00 อา่ งเก็บน้าป่าม่าน 1.70±0.57 a 1.00-5.00 * หมายเหตุ อักษรเหมือนกันในคอลมั นแ์ สดงว่า ไม่มคี วามแตกต่างอย่างมนี ัยสาคัญทางสถิติทีร่ ะดบั นยั สาคญั 0.05 ตารางท่ี 4.15 ความยาวของไมโครพลาสตกิ ท่พี บจากแหลง่ น้า 3 พ้นื ทใี่ นรูปร่างลักษณะแผ่นแข็ง พ้ืนทแ่ี หลง่ น้า ความยาวของไมโครพลาสติก (มิลลิเมตร) คา่ เฉลี่ย คา่ ตา่ สดุ -ค่าสงู สุด อ่างเก็บนา้ หว้ ยลาน 1.00±0.00a 1.00-1.00 อ่างเก็บนา้ หว้ ยก๋องงอง 0.47±0.31a 0.20-0.80 อ่างเก็บนา้ แมน่ าปาด 0.90±0.14a 0.80-1.00 * หมายเหตุ อกั ษรเหมือนกนั ในคอลมั นแ์ สดงว่า ไม่มคี วามแตกต่างอยา่ งมนี ยั สาคัญทางสถติ ิทรี่ ะดบั นยั สาคญั 0.05

69 ตารางที่ 4.16 ความยาวของไมโครพลาสตกิ ท่พี บจากแหล่งน้า 2 พนื้ ทีใ่ นรปู รา่ งลกั ษณะไร้รปู แบบ พนื้ ท่แี หล่งนา้ ความยาวของไมโครพลาสติก (มิลลเิ มตร) คา่ เฉลีย่ คา่ ต่าสุด-ค่าสูงสุด อา่ งเก็บนา้ หว้ ยลาน 1.00±0.00a 1.00-1.00 อา่ งเก็บน้าห้วยโตน 1.20±0.72a 0.60-2.00 * หมายเหตุ อักษรเหมอื นกนั ในคอลมั น์แสดงวา่ ไม่มีความแตกตา่ งอย่างมีนยั สาคญั ทางสถิตทิ ีร่ ะดับนยั สาคัญ 0.05 จากการแบ่งช่วงของความยาวไมโครพลาสติก ได้มีการแบ่งเป็น 3 ช่วงได้แก่ ความ ยาวตั้งแต่ 0-2 มิลลิเมตร ความยาว2-4 มิลลิเมตร และความยาว 4-6 มิลลิเมตร พบว่าทั้งอ่างเก็บน้า ห้วยไร่ อ่างเก็บน้าหว้ ยลาน อ่างเก็บน้าห้วยโตน อ่างเก็บน้าห้วยก๋องงอง อ่างเก็บน้าแมป่ าน อ่างเก็บ น้าแม่สาบ อ่างเก็บน้าแม่นาปา้ ด และอ่างเก็บน้าป่าม่านมีไมโครพลาสติกที่อยูใ่ นช่วงความยาวตั้งแต่ 0-2 มิลลิเมตรมากที่สุด คิดเป็น 100% , 66.67% , 100% , 100% , 50% , 100% , 55.56% , 91.67% ตามลาดับ โดยอ่างเก็บน้าห้วยไรม่ ีความยาวของไมโคร พลาสติก 1 ช่วงคือ ความยาวตั้งแต่ 0-2 มิลลิเมตร โดยไม่มี ไมโครพลาสติกความยาว 4-6 มิลลิเมตร และความยาวช่วง 2-4 มิลลิเมตร อ่างเก็บน้าหว้ ยลานมีความยาวไมโครพลาสติก 2 ชว่ งคอื ความยาวต้งั แต่ 0-2 มลิ ลเิ มตรและความยาว 2-4 มิลลิเมตร โดยไม่มีไมโครพลาสติกความยาวชว่ ง4-6 มิลลิเมตร อ่างเก็บน้าห้วยโตนมีความยาวไม โคร พลาสติก 1ช่วงคือ ความยาวตั้งแต่ 0-2 มิลลิเมตร โดยไม่มีไมโครพลาสติกความยาว 4-6 มิลลิเมตร และความยาวช่วง 2-4 มิลลเิ มตร อ่างเก็บน้าห้วยกอ๋ งงองมคี วามยาวไมโครพลาสติก 1 ชว่ ง คือ ความยาวตัง้ แต่ 0-2 มิลลิเมตร โดยไมม่ ี ไมโครพลาสตกิ ความยาว 4-6 มลิ ลเิ มตร และความยาว ช่วง 2-4 มิลลิเมตร อ่างเก็บน้าแม่ปานมีความยาวไมโครพลาสติก 2 ช่วงคือ ความยาวตั้งแต่ 0-2 มิลลิเมตรและความยาว 2-4 มิลลิเมตร โดยไมม่ ีไมโคร พลาสติกความยาวช่วง 4-6 มิลลิเมตร อ่างเก็บ น้าแม่สาบมีความยาวไมโครพลาสติก 1 คือความยาวตั้งแต่ 0-2 มิลลิเมตร โดยไม่มีไมโครพลาสติก ความยาว 4-6 มิลลิเมตร และความยาวช่วง 2-4 มิลลิเมตร อ่างเก็บน้าแม่นาป้าดมีความยาวไมโครพ ลาสติก 3 ช่วงคือ ความยาวตั้งแต่ 0-2 มิลลิเมตร ความยาว 4-6 มิลลิเมตร และความยาวช่วง 2-4 มิลลิเมตร และอ่างเก็บน้าป่าม่านมีความยาวไมโครพลาสตกิ 2 ช่วงคือความยาวตั้งแต่ 0-2 มิลลิเมตร และความยาวช่วง 4-6 มลิ ลิเมตร โดยไมม่ ไี มโครพลาสติกความยาวช่วง 2-4 มลิ ลเิ มตร (ภาพที่ 4.13)

70 ้พืนท่ีตัวอย่าง อ่างเก็บนา้ ป่ามา่ น 4-6 mm อ่างเกบ็ น้าแมน่ าปา้ ด 2-4 mm 0-2 mm อ่างเกบ็ น้าแม่สาบ อา่ งเก็บน้าแมป่ าน อา่ งเก็บนา้ หว้ ยกอ๋ งงอง อา่ งเกบ็ นา้ หว้ ยโตน อ่างเก็บน้าหว้ ยลาน อา่ งเกบ็ นา้ ห้วยไร่ 0 20 40 60 80 100 120 เปอร์เซ็นต์ ภาพที่ 4.14 เปอรเ์ ซน็ ต์ของความยาวไมโครพลาสติกในตะกอนดนิ ในพืน้ ท่ีแหล่งน้า 8 พ้ืนท่ี 4.6 อภิปรายผลการวจิ ัย 4.6.1 ปริมาณไมโครพลาสติกที่พบ จากการสารวจปริมาณไมโครพลาสติกในทางเดินอาหารปลาและหอยฝาเดียวนา้ จดื ในแหล่งน้าพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้ทาการสารวจเก็บตัวอย่างปลาจานวน 80 ตัว 11 ชนิด จากทั้งหมด 10 พื้นที่คือ เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล เขื่อนแม่กวงอุดมธารา แม่น้าปิง ทะเลสาบดอยเต่า แม่น้าสะเมิง ห้วยบ้านทุ่งจาเริง อ่างเก็บน้าแม่ริม คลองชลประทานสารภี อ่างเก็บน้าหนองสะเรียม และแมน่ ้าสันทราย พบไมโครพลาสตกิ รวมกนั ท้งั สน้ิ 9 เส้นใย 35 เสน้ ใย 32 เส้นใย 11 เส้นใย 3 เส้น ใย 2 เส้นใย ไม่พบไมโครพลาสติก 5 เส้นใย 1 เส้นใย และ 2 เส้นใย ตามลาดับ มีจานวนไมโคร พลาสติกทั้ง 10 พื้นที่รวมกันได้ทั้งหมด 100 ชิ้น คิดเป็นเปอร์เซ็นต์การพบไมโครพลาสติกได้ดังนี้ เข่ือนแมก่ วงอุดมธาราพบมากท่สี ดุ คือ 35.35% แมน่ า้ ปงิ 32.32% ทะเลสาบดอยเต่า 11.11% เข่ือน แม่งัดสมบูรณ์ชล 8.08% คลองชลประทานสารภี 5.05% ห้วยบ้านทุ่งจาเริง 3.03% แม่น้าสันทราย 2.02% อ่างเก็บน้าหนองสะเรียม 1.01% และอ่างเก็บน้าแม่ริมไม่พบไมโครพลาสติกคือ 0% จะเห็น ได้วา่ ปรมิ าณไมโครพลาสติกที่พบในแต่ละพ้ืนทแี่ หล่งนา้ น้นั มีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สภาพแวดล้อมแหล่งน้า เป็นแหล่งน้าธรรมชาติหรืออ่างเก็บน้าที่เปิดให้ประชาชนผู้คนทั่วไปเขา้ ไปตกปลา ท่องเที่ยวหรือทาการประมง ซึ่งหากเป็นแหล่งน้าธรรมชาติจะมีโอกาสที่จะได้รับไมโคร

71 พลาสตกิ ที่ลอยมากบั กระแสน้า ถา้ เป็นแหล่งน้าที่เป็นลักษณะอา่ งเก็บน้าท่เี ปดิ ใหป้ ระชาชนผู้คนทั่วไป เข้าไปใช้ประโยชน์ทาการประมง เช่น เลี้ยงสัตว์น้าในกระชังบนดินหรือบ่อดินจะมีโอกาสได้รับไมโคร พลาสติกจากเส้นใยที่อาจมาจากอวน กระสอบ หรือจากเส้นใยของอวนที่เมื่อมีการใช้งานเป็นระยะ เวลานานทาให้เกิดการหลุดรุ่ยได้ แต่ถ้าเลี้ยงในบ่ออ่างเก็บน้าท่ีเป็นลักษณะซีเมนต์จะมีโอกาสท่ีไดร้ บั ไมโครพลาสติกน้อยกว่าการเลี้ยงแบบอื่น ปัจจัยต่อมาคือ พฤติกรรมการกินและการย่อยของปลาแต่ ละชนิดที่นามาทาการทดลองก็มีความแตกต่างกัน เช่น ปลาดุกบิ๊กอุยมีพฤติกรรมการกินดินโคลนใต้ แหล่งน้าและการย่อยอาหารของปลาดุกบิ๊กอุยจะมีการย่อยไมโครพลาสติกออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ทาให้ พบปริมาณไมโครพลลาสติกที่มีขนาดชิ้นเล็กได้ และการสารวจไมโครพลาสติกที่พบในพื้นที่แหล่งน้า ต่างๆจานวน 10 พื้นที่ พบว่า น้าหนักตัว ความยาว มผี ลตอ่ การพบปริมาณไมโครพลาสติก เช่น เข่ือน แม่กวงอุดมธารา จากการเก็บตัวอย่างปลามีความยาวเฉลี่ย 26.80±5.87 เซนติเมตร น้าหนักเฉลี่ย 319.25±151.81 กรัม มีปริมาณไมโครพลาสติกเฉลี่ย 5.83±7.14 เส้นใย/ตัว สอดคล้องกับงานวิจัย ของปริชญา (2562) ที่กล่าวว่า การสารวจไมโครพลาสติกที่พบในตลาดศิริวัฒนาที่มีความยาวเฉลี่ย 30.60±2.28 เซนติเมตร น้าหนักเฉลี่ย 260.45±74.89 กรัม พบไมโครพลาสติกเฉลี่ย 26.33±14.35 เส้นใย/ตัว ซึ่งเป็นตลาดที่มีการพบปริมาณไมโครพลาสติดมากที่สุด จะเห็นได้ว่า พบปริมาณไมโคร พลาสติกจานวนมากในพื้นที่ที่มีตัวอย่างปลาความยาวเฉลี่ยมาก น้าหนักเฉลี่ยมาก ดังนั้น ความยาว และน้าหนักของตวั อยา่ งปลาทน่ี ามาทาการทดลองมีผลต่อการพบปริมาณไมโครพลาสติก จากการสารวจไมโครพลาสติกในหอยฝาเดียวน้าจืด (หอยขม) พบว่า จากการเก็บ ตัวอย่างหอยน้าหนักสด 500 กรัม จากทั้งหมด 3 พื้นที่ได้แก่ แม่น้าปิง อ่างเก็บน้าแม่ริมและ คลองชลประทานสารภี พบไมโครพลาสติกรวมกันทั้งสิ้น 17 เส้นใย 15 เส้นใย และ10 เส้นใย ตามลาดบั มีจานวน ไมโครพลาสตกิ ทัง้ 3 พืน้ ท่รี วมกันไดท้ ัง้ หมด 42 เส้นใย คิดเป็นเปอรเ์ ซ็นต์การพบ ไมโครพลาสติกได้ดังนี้ แม่น้าปิงพบมากที่สุดคือ 40.48% อ่างเก็บน้าแม่ริม 35.71% และคลอง ชลประทานสารภีพบน้อยที่สุดคือ 23.81% จะเห็นได้ว่าปริมาณไมโครพลาสติกที่พบในแต่ละพื้นที่มี ความแตกต่างกัน อาจเนื่องมาจากสภาพแวดล้อมแหล่งที่อยู่อาศัยของหอยขมนั้นมีความแตกต่างกัน แหล่งน้าขนาดใหญ่เช่นแม่น้าปงิ มีการทาการประมง การเกษตรจานวนมาก ทาให้มีการพบไมโครพลา สติกมากที่สุด ตรงกันข้ามในคลองชลประทานสารภีมีระยะทางสั้นอาจทาให้พบปริมาณไมโครพลา สติกน้อย สอดคล้องกับงานวิจัยของกฤษฎาวุฒิ (2562) ที่ทาการสารวจไมโครพลาสติกจากตลาดใน จังหวัดพะเยา พบว่า ในตลาดมณีรัตน์อยู่ที่ 2.10 เส้นใย/ตัว เนื่องจากบริเวณที่นาหอยขมมาทดลอง นั้นไดม้ ีการทาประมงอยู่เป็นสว่ นใหญ่ ดงั นัน้ สภาพแวดลอ้ มมีผลต่อการพบปรมิ าณไมโครพลาสติก

72 จากการสารวจไมโครพลาสติกในน้าบริเวณผิวน้า พบว่า จากการเก็บตัวอย่างจากทั้งหมด 3 พื้นที่ ได้แก่ อ่างเก็บน้าห้วยไร่ อ่างเก็บน้าห้วยลาน และอ่างเก็บน้าห้วยโตน พบไมโคร พลาสติก รวมกันทั้งสิ้น 16 เส้นใย 48 เส้นใย และ73 เส้นใย ตามลาดับ มีจานวนไมโครพลาสติกทั้ง 3 พื้นที่ รวมกนั ได้ทั้งหมด 137 เสน้ ใย คดิ เปน็ เปอร์เซน็ ต์การพบไมโครพลาสติกไดด้ ังนี้ อา่ งเกบ็ นา้ ห้วยโตนพบ มากที่สุดคือ 53.30% อ่างเก็บน้าห้วยลาน 35.03% และอ่างเก็บน้าห้วยไร่พบน้อยที่สุดคือ 11.67% จะเห็นได้ว่า ปริมาณไมโครพลาสติกที่พบในแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน อาจเนื่องมาจาก สภาพแวดล้อมของอา่ งเกบ็ น้าน้นั ๆ โดยอาจเป็นปัจจัยมาจากการทาประมง การตกปลา เช่น อา่ งเก็บ น้าห้วยโตนมีการทาการประมงควบคู่ด้วยทาให้พบปริมาณไมโครพลาสติกมากกว่าอ่างเก็บน้าอื่น ๆ ดงั น้นั สภาพแวดล้อมมผี ลต่อการพบปริมาณไมโครพลาสติก จากการสารวจไมโครพลาสติกในตะกอนดิน พบว่า จากการเก็บตัวอย่างตะกอนดิน น้าหนัก 500 กรัม จากทั้งหมด 8 พื้นที่ ได้แก่ อ่างเก็บน้าห้วยไร่ อ่างเก็บน้าห้วยลาน อ่างเก็บน้าห้วย โตน อ่างเก็บน้าห้วยก๋องงอง อ่างเก็บน้าแม่ปาน อ่างเก็บน้าแม่สาบ อ่างเก็บน้าแม่นาป้าด และ อ่างเก็บน้าป่าม่าน พบไมโครพลาสติกรวมกันทั้งสิ้น 5 เส้นใย 10 เส้นใย 5 เส้นใย 3 เส้นใย 4 เส้นใย 2 เส้นใย 11 เสน้ ใย และ12 เสน้ ใย ตามลาดับ จานวนไมโครพลาสติกท้ัง 8 พื้นทรี่ วมกนั ไดท้ งั้ หมด 52 เส้นใย คิดเป็นเปอร์เซ็นต์การพบไมโคร พลาสติกได้ดังนี้ อ่างเก็บน้าป่าม่านพบมากที่สุดคือ 23.00% อ่างเก็บน้าแม่นาป้าด 21.11% อ่างเก็บน้าห้วยลาน 19.22% อ่างเก็บน้าห้วยไร่ 9.67% อ่างเก็บน้า ห้วยโตน 9.67% อ่างเก็บน้าแม่ปาน 7.67% อ่างเก็บน้าห้วยก๋องงอง 5.77% และอ่างเก็บน้าแม่สาบ พบน้อยที่สุดคือ 3.89% จะเห็นได้ว่า ปริมาณไมโครพลาสติกที่พบในแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน อาจเนื่องมาจากสภาพแวดล้อมของอ่างเก็บน้านั้น ๆ โดยอาจเป็นปัจจยั มาจากการทาประมง การตก ปลา เชน่ อา่ งเกบ็ นา้ ป่าม่านเปน็ อ่างเกบ็ น้าท่ีกักเก็บน้าท่ีไหลมาจากชุมชนเพื่อใช้ในฤดูแล้ง อาจทาให้ เกดิ การสะสมไมโครพลาสติกที่มีนา้ หนักเบาไวจ้ านวนมากบริเวณผวิ น้า จึงพบปรมิ าณไมโครพลาสติก จานวนมาก ดังนน้ั สภาพแวดล้อมมผี ลตอ่ การพบปริมาณไมโครพลาสติก

73 4.6.2 รูปรา่ งของไมโครพลาสติก จากการสารวจรูปร่างของไมโครพลาสติกที่พบในพื้นที่แหล่งน้าในจังหวัดเชียงใหม่ ในตวั อยา่ งปลา หอยฝาเดียวนา้ จืด และน้าบรเิ วณผวิ นา้ มกี ารพบไมโครพลาสติกรปู ร่างเสน้ ใย (fiber) เพียงอย่างเดียว โดยเส้นใยนั้นอาจเป็นส่วนประกอบของอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในการทาประมง การเกษตรบริเวณใกล้แหลง่ น้า หรือแม้กระท่ังเศษของเสน้ ใยกระสอบ อวน เชือก ตาข่าย ท่ีเมื่ออยู่ใน น้าและโดนแสงแดดเป็นระยะเวลานานจะเกิดการแตกหรือขาดเป็นชิ้นเล็ก ๆ อยู่ในบริเวณผิวน้า เพราะไมโครพลาสติกมีความหนาแน่นน้อย และในตะกอนดิน มีการพบไมโครพลาสติกรูปร่างเส้นใย (fiber) แบบชิ้นส่วนไร้รูปแบบ และแบบแผ่นแข็ง ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของสุภาพร เสาวลักษณ์ และณัฐธิดา (2562) มีการพบไมโคร พลาสติกในปลาทูที่สารวจบริเวณหาดเจ้าไหมทั้งหมด 4 รูปร่าง ได้แก่ แบบเส้นใย แบบชิ้นส่วนไร้รูปแบบ แบบแท่ง และแบบแผ่นแข็ง โดยรูปร่างที่พบมากที่สุดคือ แบบชิ้นส่วนไร้รูปแบบสีดา ซึ่งมีหลายรูปแบบมากกว่าในพื้นที่แหล่งน้าจืด เพราะหาดเจ้าไหมเป็น ทะเลมคี วามหลากหลายสูงกว่า หรือมสี ภาพแวดล้อมทีม่ ีปจั จัยภายนอกจานวนมาก เช่นนักท่องเที่ยว นิยมมาท่องเที่ยวทาให้เกิดขยะจานวนมาก หรืออุปกรณ์จับปลา เช่น ทุ่น ลูกลอย ดังนั้นใน สภาพแวดล้อมที่มีความหลากหลายหรือมีปัจจัยภายนอกมากกว่าจะส่งผลต่อรูปร่างของไมโคร พลาสตกิ ท่ีอาจพบได้ 4.6.3 สีของไมโครพลาสติก จากการสารวจสีของไมโครพลาสติกที่พบในพื้นที่แหล่งน้าในจังหวัดเชียงใหม่ ในตวั อยา่ งปลา หอยฝาเดียวนา้ จดื และน้าบรเิ วณผิวนา้ สามารถจาแนกสีของไมโครพลาสติกออกเป็น 4 สีได้แก่ สนี า้ เงนิ สแี ดง สีม่วง และใสไมม่ ีสี และในตัวอย่างตะกอนดนิ สามารถจาแนกสขี องไมโครพ ลาสตกิ ออกเป็น 3 สี ไดแ้ ก่ สนี า้ เงนิ สแี ดง และสมี ว่ ง ซง่ึ จากการจาแนกพบว่า ไมโครพลาสติกท่มี สี ีน้า เงินมีปริมาณมากที่สุดในแต่ละตัวอย่างที่ทาการสารวจทั้งในทางเดินอาหารปลา หอยฝาเดียวน้าจืด น้าบริเวณผวิ นา้ และตะกอนดิน อาจเนอ่ื งมาจากอุปกรณ์ทใ่ี ช้ในการเลีย้ งสัตวน์ า้ เป็นส่วนใหญ่จะเป็นสี น้าเงนิ โดยพลาสตกิ สนี ้าเงินอาจจะผลิตมาจากพลาสตกิ ท่มี คี วามหนาแนน่ มากกวา่ นา้ จงึ ทาใหส้ ามารถ ฝังตวั อยใู่ นตะกอนดนิ ได้ เชน่ ไนลอน (Nylon) ซ่ึงเป็นพลาสติกท่มี คี วามหนาแน่นมากกวา่ น้าคือ 1.15 กรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร ในอีกนัยหนึ่งอาจไม่ได้มาจากอุปกรณ์ที่ใช้ในการเลี้ยงสัตว์น้าเพียงอย่าง เดียว อาจจะมาจากขยะทีท่ ิ้งลงสู่แหล่งนา้ เช่น พอลโี พรพิลีน (PP) ซงึ่ เป็นพลาสตกิ ท่ีมคี วามหนาแน่น น้อยกว่าน้าคือ 0.90-0.91 กรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร ทาให้ยังสามารถลอยอยู่ในบริเวณผิวน้าได้

74 (สถานบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและป่าชายเลน คณะเทคโนโลยีทางทะเล มหาวิทยาลัย บูรพา ,(2557)) และอีกปัจจัยหนึ่งนอกเหนือลักษณะทางกายภาพแล้ว ในตัวสิ่งมีชีวิตเองอาจมีส่วน เกี่ยวข้องกับปัจจัยที่ทาให้พบสีของไมโครพลาสติก เพราะสิ่งมีชีวิตนั้นมีการเลือกกินพลาสติกที่มีสี คล้ายกบั เหย่ือของสัตวช์ นดิ น้ัน เป็นกลไกในส่งิ มชี ีวิตท่ีมีระบบประสาทการรับรู้ภาพและสี (Bessa et al.,(2011)) 4.6.4 ความยาวของไมโครพลาสตกิ จากการวัดความยาวของไมโครพลาสติกที่สารวจจากแหล่งน้าต่างๆในพื้นที่จังหวัด เชียงใหม่ พบว่า ในตัวอย่างทางเดินอาหารปลา มีคา่ เฉลี่ยความยาวไมโครพลาสติกที่ใกล้เคยี งกัน โดย คา่ เฉลี่ยของความยาวของไมโครพลาสติกท่ีสารวจจากเขื่อนแม่งัดสมบูรณช์ ลมีความเฉลย่ี 1.36±1.08 มิลลิเมตร เขื่อนแม่กวงอุดมธารามีความยาวเฉลี่ย 1.86±1.43 มิลลิเมตร แม่น้าปิงมีความยาวเฉล่ีย 2.88±0.84 มิลลิเมตร ทะเลสาบดอยเต่ามีความยาวเฉล่ีย 1.72±1.08 มิลลิเมตร แม่น้าสะเมิงมีความ ยาวเฉลี่ย 0.75±0.35 มิลลิเมตร ห้วยบ้านทุ่งจาเริงมีความยาวเฉลี่ย 1.10±0.17 มิลลิเมตร อ่างเก็บ น้าเม่ริมไม่พบไมโครพลาสติก คลองชลประทานสารภมี ีความยาวเฉล่ยี 0.98±0.25 มิลลิเมตร อ่างเก็บ น้าหนองสะเรียมมีความยาวเฉลี่ย 1.20±0.00 มิลลิเมตร และแม่น้าสันทรายมีความยาวเฉล่ีย 1.00±0.00 มิลลิเมตร โดยค่าเฉลี่ยความยาวของไมโครพลาสติกของทั้ง 10 พื้นที่ไม่มีความแตกต่าง อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับนัยสาคัญ 0.05 ในตัวอย่างหอยฝาเดียวน้าจืด พบว่า มีค่าเฉลี่ยที่ ใกล้เคียงกัน โดยค่าเฉลี่ยของความยาวของไมโครพลาสติกท่ีสารวจจากแม่น้าปิงมีความยาวเฉลี่ย 1.46±0.95 มลิ ลเิ มตร อา่ งเกบ็ น้าแมร่ มิ มคี วามยาวเฉลีย่ 1.95±0.89 มิลลิเมตร และคลองชลประทาน สารภีมีความยาวเฉลี่ย 0.89±0.81 มิลลิเมตร โดยค่าเฉลี่ยความยาวของไมโครพลาสติกของทั้ง 3 พื้นที่ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับนัยสาคัญ 0.05 ในตัวอย่างน้าบริเวณผิวน้า พบว่า มีค่าเฉลี่ยที่ใกล้เคียงกัน โดยค่าเฉลี่ยของความยาวของไมโครพลาสติกที่สารวจจากอ่างเก็บน้า ห้วยไร่ มีความยาวเฉลี่ย 1.09±0.87 มิลลิเมตร อ่างเก็บน้าห้วยลานมีความยาวเฉลี่ย1.03±0.50 มิลลิเมตร และอ่างเก็บน้าห้วยโตนมีความยาวเฉลี่ย1.86±0.95 มิลลิเมตร โดยค่าเฉลี่ยความยาวของ ไมโครพลาสติกของทั้ง 3 พื้นที่แหล่งน้าไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทีร่ ะดับนัยสาคัญ 0.05 และในตัวอยา่ งบริเวณตะกอนดนิ พบว่า ในรูปรา่ งลักษณะเสน้ ใยมีคา่ เฉล่ยี ความยาวไมโคร พลาสติก ที่ใกล้เคียงกัน โดยค่าเฉลี่ยของความยาวของไมโครพลาสติกที่สารวจจากอ่างเก็บน้าห้วยไร่ มีความ ยาวเฉลี่ย1.60±0.57 มิลลิเมตร อ่างเก็บน้าห้วยลานมีความยาวเฉลี่ย 2.00±1.41 มิลลิเมตร อ่างเก็บ น้าหว้ ยโตนมีความยาวเฉล่ยี 2.00±0.00 มลิ ลเิ มตร อ่างเก็บนา้ หว้ ยกอ๋ งงองมคี วามยาวเฉลีย่ 1.67±0.00

75 มิลลิเมตร อ่างเก็บน้าแม่ปานมีความยาวเฉลี่ย2.25±0.71 มิลลิเมตร อ่างเก็บน้าแม่สาบมีความยาว เฉล่ีย1.50±0.71 มิลลเิ มตร อ่างเก็บนา้ แมน่ าป้าดมีความยาวเฉลี่ย 2.50±2.83 มิลลเิ มตร และอ่างเก็บ น้าป่ามา่ นมีความยาวเฉลี่ย1.70±0.57 มลิ ลิเมตร โดยคา่ เฉลี่ยความยาวของ ไมโครพลาสติกของท้ัง 8 พ้ืนท่แี หลง่ นา้ ไม่มคี วามแตกตา่ งกนั อยา่ งมีนยั สาคญั ทร่ี ะดบั นัยสาคัญ 0.05 ในรปู ร่างลักษณะแผ่นแข็ง มีค่าเฉลี่ยความยาวไมโครพลาสติกที่ใกล้เคียงกัน โดยค่าเฉลี่ยของความยาวของไมโคร พลาสติกที่ สารวจจากอ่างเก็บน้าหว้ ยลานมีความยาวเฉล่ีย 1.00±0.00มลิ ลิเมตร อ่างเก็บน้าห้วยก๋องงองมีความ ยาวเฉล่ีย 0.47±0.31 มลิ ลิเมตร และอา่ งเกบ็ น้าแม่นาป้าดมีความยาวเฉลีย่ 0.90±0.14 มิลลเิ มตร โดย คา่ เฉลี่ยความยาวของไมโครพลาสติกของท้ัง 3 พ้ืนทีแ่ หล่งนา้ ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญท่ี ระดับนัยสาคัญ 0.05 ในรูปร่างลักษณะไร้รูปแบบมีค่าเฉลี่ยความยาว ไมโครพลาสติกที่ใกล้เคียงกัน โดยค่าเฉลี่ยของความยาวไมโครพลาสติกที่สารวจจากอ่างเก็บน้าห้วยลานมีความเฉลี่ย 1.00±0.00 มิลลิเมตร และอ่างเก็บน้าห้วยโตนมีความยาวเฉลี่ย 1.20±0.72 มิลลิเมตรโดยค่าเฉลี่ยความยาวของ ไมโครพลาสติกของทั้ง 3 พื้นที่แหล่งน้าไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญที่ระดับนัยสาคัญ 0.05 จะเหน็ ไดว้ ่า ความยาวของไมโครพลาสติกประเภทเส้นใย ประเภทแผ่นแขง็ ประเภทชิ้นส่วนไร้รูปแบบ เมื่ออยู่ในน้า ซึ่งความยาวของไมโครพลาสติกที่พบนั้นอาจจะมาจากพลาสติกที่เป็นเส้นสั้นอยู่แล้วต้ัง แตะ่ กระบวนการผลิต หรืออาจเกิดจากการแตกหกั จากเส้นยาวกไ็ ด้ 4.6.5 ปริมาณไมโครพลาสติกทพี่ บกบั ชนดิ ปลา จากการทดลองเก็บตัวอย่างทางเดินอาหารปลาจากปลาทั้งหมด 11 ชนิด ผู้วิจัย นามาจัดกลุ่มตามประเภทพฤติกรรมการหากินอาหาร พบว่า ในกลุ่มชนิดปลาที่มีการหากินอาหาร บริเวณผิวน้า พบปริมาณไมโครพลาสติกทั้งหมด 28 เส้นใย ในกลุ่มชนิดปลาที่มีการหากินอาหารใต้ พื้นน้าพบปริมาณไมโครพลาสติกทั้งหมด 13 เส้นใย และในกลุ่มชนิดปลาที่มีพฤติกรรมไม่เลือกกิน อาหารต่างๆ พบปรมิ าณไมโครพลาสตกิ ทั้งหมด 58 เสน้ ใย จะเหน็ ได้ว่า ในกล่มุ ชนดิ ปลาทมี่ พี ฤติกรรม ไม่เลือกกินอาหาร จะพบปริมาณไมโครพลาสติกมากที่สุด เนื่องจากไมโครพลาสติกนั้นมีการสะสมใน ทกุ บรเิ วณของแหล่งน้า ทงั้ พน้ื นา้ ใต้โคลน ผวิ น้า ริมฝั่งทม่ี ตี ะกอนดนิ หรือแม้กระทั่งในสัตว์น้าอื่นๆท่ี มีขนาดเล็ก เช่น ปลาขนาดเล็ก ลูกสัตว์น้าตา่ งๆ เพราะปลาชนิดนั้นเป็นนักล่า ด้วยพฤติกรรมการกนิ อาหารเช่นนี้จึงทาให้ปลาที่ไม่เลือกกินมีการสะสมของไมโครพลาสติกมากกว่าชนิดปลากลุ่มอื่น และ สามารถสรุปได้ว่า ในแหล่งน้าที่ทาการสารวจนี้มีการสะสมของปริมาณไมโครพลาสติกในทุกบริเวณ ของแหลง่ น้า

76 4.6.6 ปรมิ าณไมโครพลาสติกท่พี บกับพน้ื ที่เก็บตัวอย่าง ในการเกบ็ ตวั อย่างพน้ื ที่แหล่งนา้ ในจงั หวัดเชียงใหม่ ทาการเก็บตวั อย่างทั้งหมดจาก 18 พื้นที่ 11 อาเภอในจังหวัดเชียงใหม่ โดยแต่ละพื้นที่เก็บตัวอย่างผู้วิจัยได้ทาการเก็บตัวอย่างจาก พื้นที่ที่มีความแตกต่างกันคือ บริเวณน้าไหล และบริเวณน้านิ่ง พบว่า ในบริเวณน้าไหล ทั้งหมด 8 พ้นื ทไี่ ดแ้ ก่ เข่อื นแมง่ ัดสมบูรณ์ชล เขอ่ื นแม่กวงอดุ มธารา แม่น้าสะเมงิ ทะเลสาบดอยเตา่ หว้ ยบ้านทุ่ง จาเริง แม่น้าปิง คลองชลประทานสารภี และแม่น้าสันทราย พบปริมาณไมโครพลาสติกรวมกัน ทั้งหมด 125 เส้นใย ในบริเวณน้าน่ิง ทั้งหมด 10 พื้นที่ได้แก่ อ่างเก็บน้าแม่นาป้าด อ่างเก็บน้าหว้ ยไร่ อ่างเก็บน้าห้วยลาน อ่างเก็บน้าห้วยโตน อ่างเก็บน้าห้วยก๋องงอง อ่างเก็บน้าแม่ปาน อ่างเก็บน้าแม่ สาบ อ่างเก็บน้าปา่ มา่ น อา่ งเก็บน้าหนองสะเรยี ม และอ่างเก็บน้าแม่รมิ พบปรมิ าณไมโครพลาสติกรวม กันทั้งหมด 205 เส้นใย จะเห็นได้ว่า ในบริเวณน้านิ่งจะมีการพบปริมาณไมโครพลาสติกที่มากกว่า บริเวณน้าไหล เป็นเพราะในเรื่องของปัจจัยภายนอกอื่นๆที่มีผลต่อการพบไมโครพลาสติกด้วย เช่น กระแสลม กระแสนา้ ในบรเิ วณนา้ ไหลจะมีการพบปัจจัยนี้ร่วมดว้ ย เพราะเป็นบรเิ วณกว้างมักมีฤดูน้า หลาก ทาให้ไมโครพลาสติกนั้นกระจายในวงกว้างกว่าในบริเวณน้านิ่ง เพราะมีการสะสมในบริเวณท่ี นอ้ ยกว่า ทาใหพ้ บปริมาณไมโครพลาสติกท่ีมากกว่า ดังนัน้ ในเร่ืองของพื้นท่ีและลักษณะของแหล่งน้า นน้ั ยอ่ มสง่ ผลต่อการพบปริมาณไมโครพลาสตกิ ในแหลง่ นา้ นนั้ ๆ 4.6.7 ผลกระทบของไมโครพลาสติกที่อาจเกิดขึน้ กบั สัตว์นา้ ในแหล่งนา้ เมื่อสัตว์น้าที่ไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่างเหยื่อและไมโครพลาสติกได้นั้น ทาการบริโภคไมโครพลาสติกน้ันเขา้ ไป อาจเกิดผลกระทบจากการกินไมโครพลาสติกนั้น เพราะไมโค รพลาสติกสามารถเขา้ ไปยับยั้งกระบวนการเมแทบอลิซึมต่างๆภายในร่างกายของสัตวช์ นิดน้ัน ซ่ึงเมื่อ มีการสะสมไมโครพลาสติกจานวนมากในร่างกายของสัตว์น้าอาจทาให้เกิดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จากไมโครพลาสตกิ ท่มี คี วามแหลมคม ลดการกระตนุ้ ความอยากอาหารทาให้ร่างกายของสตั ว์น้าได้รับ สารอาหารน้อยลง ไมโครพลาสติกเข้าไปพันหลอดลมทาให้ขาดอากาศหายใจ รวมทั้งทาให้ร่างกาย ของสัตว์นาเจริญเติบโตได้ไม่เต็มประสิทธิภาพอีกด้วย (สถานบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล และป่าชายเลน คณะเทคโนโลยีทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา ,(2557)) แต่อย่างไรก็ตามการศึกษา การสารวจในครั้งนี้เป็นเพียงการสารวจไมโครพลาสติกที่พบในปลาน้าจืด หอยฝาเดียวน้าจืด น้าบริเวณผิวน้า และตะกอนดินเท่านั้น ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า การสะสมของไมโครพลาสติกใน ร่างกายของมนุษย์นั้นจะส่งผลต่อการทางานต่างๆของระบบในร่างกายมนุษย์หรือส่งผลต่อสิ่งมีชีวิต

77 อื่นๆที่มีการบริโภคไมโครพลาสติกเข้าไปหรือไม่ รวมทั้งยังไม่สามารถระบุแหล่งที่มาของไมโคร พลาสตกิ ไดอ้ ย่างแนช่ ัด แตผ่ ลการศกึ ษาน้ชี ้ใี ห้เหน็ วา่ มีการสะสมของไมโครพลาสตกิ ในทางเดนิ อาหาร ปลา หอยฝาเดียวน้าจืด น้าบริเวณผิวน้าและตะกอนดินอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงต้องมีการศึกษา เพิ่มเติมถึงความเสี่ยงในการสะสมของไมโครพลาสติกที่อาจส่งผลกระทบต่อปลาน้าจืด หอยฝาเดียว นา้ จดื และจะถา่ ยทอดมายงั ห่วงโซ่อาหารจะมคี วามเสีย่ งมากน้อยเพียง

บทท่ี 5 สรุปผลการวิจัย 5.1 สรุปผลการวจิ ยั จากการสารวจปริมาณไมโครพลาสติกในทางเดินอาหารปลาจากแหล่งน้าในพื้นท่ี จงั หวดั เชียงใหม่ จานวน 10 พ้ืนทไ่ี ดแ้ ก่ ได้แก่ เข่อื นแม่งัดสมบรู ณ์ชล เขอื่ นแมก่ วงอดุ มธารา แม่น้าปิง ทะเลสาบดอยเต่า แม่น้าสะเมิง ห้วยบ้านทุ่งจาเริง อ่างเก็บน้าเม่ริม คลองชลประทานสารภี อ่างเก็บ น้าหนองสะเรียม และแม่น้าสันทราย โดยเก็บตัวอย่างจากแหล่งน้าต่างๆในจังหวัดเชียงใหม่ รวม ทั้งสิ้น 80 ตัว 11 ชนิด พบว่า ปลาจากเขื่อนแม่กวงอุดมธารามีปรมิ าณไมโครพลาสติกมากที่สุดเฉล่ีย 5.83 เสน้ ใย/ตวั รูปร่างของไมโครพลาสติกท่ีพบเป็นรปู รา่ งเส้นใยทั้งหมด สีของไมโครพลาสติก ได้แก่ สีแดง สีน้าเงิน สีม่วง และใสไม่มีสี ซึ่งพบไมโครพลาสติกสีน้าเงินมากที่สุด ความยาวของไมโคร พลาสติกที่สารวจจากแหล่งน้าพบว่า แม่น้าปิงมีความยาวเฉลี่ยมากที่สุดคือ 2.88 มิลลิเมตร โดยใน ชนิดปลาที่ไม่เลือกกินจะพบปริมาณไมโครพลาสติกมากที่สุด ในหอยฝาเดียวน้าจืดจากการสารวจ 3 พื้นที่ได้แก่ แม่น้าปิง อ่างเก็บน้าแมร่ ิมและคลองชลประทานสารภี โดยเก็บตัวอย่างน้าหนกั 500 กรัม พบว่า หอยฝาเดียวน้าจืดจากแม่น้าปิงมีปริมาณไมโครพลาสติกมากที่สุดคือ 17 เส้นใย รูปร่างของ ไมโครพลาสติกที่พบเป็นรูปร่างเส้นใยทั้งหมด สีของไมโครพลาสติก ได้แก่ สีแดง สีน้าเงิน สีม่วง และ ใสไม่มีสี ซึ่งพบไมโครพลาสติกสีน้าเงินมากที่สุด ความยาวของไมโครพลาสติกที่สารวจจากแหล่งน้า พบว่า อ่างเก็บน้าแม่ริมมีความยาวเฉลี่ยมากท่ีสุดคือ 1.95 มิลลิเมตร ในน้าผิวดินจากการสารวจ 3 พน้ื ทีไ่ ด้แก่ อา่ งเกบ็ น้าห้วยไร่ อ่างเกบ็ นา้ ห้วยลาน และอา่ งเก็บน้าห้วยโตน โดยทาการเกบ็ ตัวอย่างน้า ริเวณผิวดินมาทั้งหมด 500 มิลลิลิตรต่อพื้นที่ พบว่า น้าจากอ่างเก็บน้าห้วยโตนมีปริมาณไมโคร พลาสติกมากที่สุดคือ 73 เส้นใย รูปร่างของไมโครพลาสติกที่พบเป็นรูปร่างเส้นใยทั้งหมด สีของ ไมโครพลาสติก ได้แก่ สีแดง สีน้าเงิน สีม่วง ซึ่งพบไมโครพลาสติกสีน้าเงินมากที่สุด ความยาวของ ไมโครพลาสติกที่สารวจจากแหล่งน้าพบว่า อ่างเก็บน้าห้วยโตนมีความยาวเฉลี่ยมากที่สุดคือ 1.86 มิลลิเมตร ในตะกอนดินจากการสารวจ 8 พื้นที่ได้แก่ อ่างเก็บน้าห้วยไร่ อ่างเก็บน้าห้วยลาน อ่างเก็บ นา้ หว้ ยโตน อ่างเก็บน้าห้วยก๋องงอง อ่างเกบ็ น้าแมป่ าน อา่ งเก็บนา้ แม่สาบ อ่างเกบ็ น้าแมน่ าปา้ ด และ อา่ งเกบ็ นา้ ปา่ ม่าน โดยใช้ในน้าหนัก 500 กรมั ต่อพื้นท่ี พบวา่ อ่างเก็บนา้ ป่าม่านมีปริมาณไมโครพลา สติกมากที่สุดคือ 12 เส้นใย รูปร่างของไมโครพลาสติกที่พบเป็นรูปร่างเป็นเส้นใย แผ่นแข็งและ ช้นิ ส่วนไร้รูปแบบ สขี องไมโครพลาสติกไดแ้ ก่ สีแดง สนี ้าเงิน และสมี ่วงซ่ึงพบไมโคร

78 พลาสติกสีน้าเงินมากที่สุด ความยาวของไมโครพลาสติกที่สารวจจากแหล่งน้าพบว่า อ่างเก็บน้าแม่ นาปา้ ดมคี วามยาวเฉล่ียมากท่ีสุดคือ 2.50 มิลลเิ มตร และจากพื้นทีต่ ัวอย่างทง้ั หมดในบริเวณแหล่งน้า ทเ่ี ป็นน้านง่ิ จะมกี ารพบปรมิ าณไมโครพลาสตกิ มากกว่าบริเวณนา้ ไหลอีกดว้ ย 5.2 ข้อเสนอแนะ สาหรับผู้ท่จี ะใชร้ ายงานการวจิ ัยเล่มนี้ไปศึกษาแนวทางวิธีการดาเนนิ งานทางผู้วิจัยมี ข้อเสนอแนะเพื่อให้งานวิจัยสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ควรทาการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับชนิดของไมโคร พลาสติกที่พบวา่ เปน็ พลาสตกิ ชนดิ ใด โดยการนาไมโครพลาสติกท่ไี ดไ้ ปทาการวเิ คราะหด์ ว้ ยเคร่ืองมือ ช้นั สงู ตา่ งๆ เช่น FTIR spectroscopy , Raman spectroscopy เป็นต้น

79 บรรณานุกรม กนกวรรณ เนตรสิงแสง. (2563). การปนเปื้อนไมโครพลาสติกในน้าผวิ ดนิ และปลาในพื้นที่ชุม่ น้าบึง บอระเพด็ จงั หวดั นครสวรรค์ (วทิ ยานพิ นธ์เสนอบัณฑติ วทิ ยาลัย). มหาวทิ ยาลยั นเรศวร. สืบค้นเมือ่ 2 มกราคม 2565, จาก http://nuir.lib.nu.ac.th/dspace/bitstream/123456789/1735/3/60060189.pdf. กฤษฎาวฒุ ิ ไชยวฒุ ิ. (2562). การสารวจไมโครพลาสติกในหอยขมจากตลาดในจังหวดั พะเยา. รายงาน การวจิ ยั ปริญญาครศุ าสตรบ์ ัณฑิต สาขาชีววิทยา มหาวทิ ยาลัยราชภฏั เชียงใหม่, เชียงใหม.่ จนั ทมิ า ปยิ ะพงษ,์ และกรองทอง ตั้งสทิ ธิ. (2561). การเลือกฝงู ในปลาตะเพียน. วารสารหน่วยวิจยั วทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยี. ชนกนั ต์ จิตมนสั .(2547). การพฒั นาอวัยวะสืบพันธุ์ และฤดูการวางไข่ของปลาเศรษฐกิจบางชนิดใน เขอ่ื นแม่งดั สมบรู ณ์ชลจ.เชียงใหม่(รายงานผลการวจิ ัย).เชยี งใหม.่ ชาญชยั คหาปนะ. (2560). ไมโครพลาสติก….ภยั มดื ในทะเล. KM Tank [Web blog post]. สบื ค้น เมือ่ วันท่ี 2 มกราคม 2565,จาก https://www.tistr.or.th/tistrblog/?p=4707. ณฐั รินทร์ กวางอิน. (2558). ความหลากชนิดและการกระจายของหอยน้าจดื หลงั การขุดลอกคลอง บริเวณพ้นื ที่เขตหนองจอก กรงุ เทพมหานคร (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑติ ). มหาวทิ ยาลยั บรู พา. ปิติพงษ์ ธาระมนต์, สุหทยั ไพรสานฑ์ และนภาพร เสยี ดประถม. (2559). การปนเปอ้ื นของไมโคร พลาสติกในหอยสองฝาบรเิ วณชายหาดเจา้ ลาวและชายหาดคุ้งวิมาน จังหวดั จนั ทบรุ ี. วารสาร แก่นเกษตร4(1),738-744. ประทปี พันธป์ุ ลา. (ม.ป.ป.). ปลาดกุ ประทีปพันธุ์ปลา [Web blog post]. สบื ค้นเมอื่ วนั ที่ 30 ธนั วาคม 2564, จาก http://www.bestfish4u.com/best-fish-article-19.php. ปริชญา สุภาทา. (2562). ผลการปนเป้อื นของไมโครพลาสตกิ ในทางเดนิ อาหารของปลาดกุ บก๊ิ อุยจาก ตลาดในจังหวัดเชยี งใหม่. รายงานการวิจัยปริญญาครุศาสตร์บณั ฑิต สาขาชีววทิ ยา มหาวทิ ยาลัยราชภัฏเชยี งใหม่, เชียงใหม.่ วีรพงศ์ วุฒิพนั ธชุ์ ยั , และสุบณั ฑิต นิม่ รัตน์. (2562). การพัฒนาสูตรอาหารเม็ดสาหรบั การเลี้ยงปลานลิ ดว้ ยแนวทางการศึกษาประสิทธิภาพการย่อยอาหาร. มหาวทิ ยาลัยบรู พา.

80 ศุลพี ร แสงกระจ่าง, ปทั มา พลอยสว่าง, ปริณดา พรหมหิตาธร. (2556). ผลกระทบของพลาสตกิ ต่อ สุขภาพและสงิ่ แวดลอ้ ม. วารสารพิษวิทยาไทย, 28(1). ศนู ย์วิจัยและพฒั นาประมงนา้ จืดนา่ น. (2018). ปลาปีกแดง. สืบค้นเม่ือวันที่ 30 ธนั วาคม 2564.จาก https://www4.fisheries.go.th/local/index.php/main/view_blog2/117/13547/30 สถาบนั วิจยั และพฒั นาทรพั ยากรทางทะเลและป่าชายเลย. (2557). การสารวจและจาแนกตัวอยา่ ง ขยะทะเลประเภทไมโครพลาสตกิ (รายงานผลการวิจัย). คณะเทคโนโลยีทางทะเล มหาวทิ ยาลยั บรู พา. สานกั วจิ ัยและพัฒนาประมงน้าจดื . (2553). การเพาะและอนุบาลปลาย่สี ก. สบื คน้ เมอ่ื วนั ท่ี 30 ธนั วาคม 2564จาก https://www.fisheries.go.th/sf-chaiyaphum/data8/km.pdf. สพุ ตั ร์ ศรพี ัฒน์, ธราพันธ์ วฒั นะมหาตม.์ (2546). การอนบุ าลปลากระมงั . สืบคน้ เม่อื วนั ท่ี 3 มิถนุ ายน 2564, จาก https://www.fisheries.go.th/sf-phetchabun/data.pdf/V3.pdf. อมรรัตน์ รังสิวิวัฒน์, สมศักดิ์ ระยัน, และบุญทิวา ชาติชานิ. (2562). ความชุกชุมของหอยฝาเดยี วน้า จืดและความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพน้า บริเวณอ่างเก็บน้าเขื่อนน้าอูน จังหวัดสกลนคร. วารสารวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี, 21(1). greenpeace. (2561). พลาสตกิ ตัวรา้ ย ภัยคุกคามหว่ งโซอ่ าหาร. Greenpeace [Web blog post]. สบื ค้นจาก https://www.greenpeace.org/thailand/explore/resist/ plastic/harmplastic/?fbclid=IwAR2t6H_4aJ6FIbs9hHLCTmqYx3v0fdrOMF226t5X 76qrW0dkwk8y7MPVsE Melissa B. Phillips and Timothy H. Bonner. ( 2 0 1 5 ) . Occurrence and amount of microplastic ingested by fishes in watershedsof the Gulf of Mexico. Marine Pollution Bulletin, 100, 268. Silva-Cavalcanti, J. S., Silva, J. D. B., de França, E. J., de Araújo, M. C. B., & Gusmao, F. (2017). Microplastics ingestion by a common tropical freshwater fishing resource. Environmental Pollution, 221, 218-226.

81 Su, L., Xue, Y., Li, L., Yang, D., Kolandhasamy, P., Li, D., & Shi, H. (2016). Microplastics in Taihu Lake, China. Environmental Pollution, 216, 711-719. Zhao, S., Zhu, L., Wang, T., & Li, D. (2014). Suspended microplastics in the surface water of the Yangtze Estuary System, China: first observations on occurrence, distribution. Marine pollution bulletin, 86(1-2), 562-568.

ภาคผนวก

ภาคผนวก ก สิ่งมชี ีวติ ทีใ่ ชใ้ นการศกึ ษา ภาพท่ี ก.1 ตัวอย่างปลาจากเข่ือนแม่งดั สมบูรณ์ชล ภาพที่ ก.2 ตัวอย่างปลาจากทะเลสาบดอยเตา่ ภาพที่ ก.3 ตัวอยา่ งปลาจากหว้ ยบา้ นทงุ่ จาเริง ภาพที่ ก.4 ตวั อย่างปลาจากแมน่ ้าปิง

ภาพที่ ก.5 ตัวอย่างปลาจากคลองชลประทานสารภี ภาพท่ี ก.6 ตัวอย่างปลาจากอา่ งเก็บนา้ แม่ริม ภาพที่ ก.7 ตัวอย่างปลาจากหนองสะเรยี ม ภาพที่ ก.8 ตวั อย่างปลาจากเข่ือนแม่กวงอดุ มธารา

ภาพที่ ก.9 ตวั อยา่ งปลาจากแมน่ า้ สะเมงิ ภาพที่ ก.10 ตัวอยา่ งปลาจากสันทราย ภาพที่ ก.11 ตัวอย่างหอยจากคลองชลประทานสารภี ภาพที่ ก.12 ตวั อย่างหอยจากแม่น้าปิง

ภาพที่ ก.13 ตวั อย่างหอยจากอ่างเก็บนา้ แมร่ มิ

ภาคผนวก ข ภาพขนั้ ตอนในการทดลอง 1.ปลา ภาพที่ ข.1 นาตัวอย่างปลามาวัดความยาวและชั่งน้าหนักตัวปลา ภาพที่ ข.2 ทาการชาแหละปลาเพ่ือนาเครอ่ื งในปลาออกมาและนาไปอบดว้ ย เครือ่ งอบลมร้อน (Hot air oven) ท่ี 65 องศาเซลเซียส

ภาพท่ี ข.3 นาเคร่ืองในปลาท่ีถกู อบไปบดด้วยโกรง่ บดให้ละเอียด ภาพที่ ข.4 เตมิ โซเดยี มคลอไรดล์ งในตัวอย่างปลาเพอ่ื รักษาสภาพเซลล์ และทาการกรองรินใสก่ ระดาษกรองเบอร์ 1 แล้วท้งิ ไวจ้ นกว่าจะเสร็จ