หมากรกุ ไทย Page 1 of 6 หมากรกุ ไทย หนา ตอ ไป (นายแพทย ประกอบ บุญไทย) ผเู ขียนมอี าชพี เปนแพทย มไิ ดคดิ วา ตนเปนผูชาํ นาญในการเลนหมากรกุ แตส นใจเกมสห มากรกุ มาแตเ ด็ก และชอบศึกษาดวยตนเองในการไลหมากรกุ จึงไดรวบรวมวธิ กี ารไลหมากรุกปลายกระดาน ท้ัง เบี้ย โคน มา และเรือ เหน็ วาเปน ประโยชน จงึ รวบรวมพิมพเปนเลม เพือ่ สะดวกในการใช กลหมากรกุ ไทยเลม นจ้ี ะชว ยฝก หัดการไล และการหนีหมากรุกปลายกระดานท่เี ราตอ งพบเปน ประจํา กบั ยังไดรวบรวมกลหมากรกุ ทีไ่ ดเปรยี บเสยี เปรียบกนั ไมมาก หากหมากเขากลกจ็ ะไลใ หจ นได หรอื ถาหนีออกจากกลไดก็จะไมแพ มีประโยชนท ั้งแกฝ า ยหนแี ละฝายไล เพอ่ื ใหการเดนิ หมากรุกมีแบบละมายผชู าํ นาญจะไดน ึกสนุก และนยิ มเลนโดยเฉพาะเยาวชน เปน การสง เสรมิ กีฬาหมากรกุ และรกั ษาเอกลกั ษณไทยแขนงนไ้ี วกบั อาจชว ยนาํ ชยั ชนะมาสทู ีมหรอื สถาบนั ของตนได นอกจากนไ้ี ดจ ดั เรยี งไวเ ปน ลําดบั โดยเรม่ิ จากกลที่งา ยซึง่ เปน กลหลักพนื้ ฐานขึน้ ไปถงึ กลท่ยี ากและซับซอ นกวา การเดนิ หมากรุกท่ีแสดงไว จะเปนการเดนิ ทยี่ าวท่ีสุดสําหรับผไู ลและผูหนที ่ีชาํ นาญดว ยกนั ทั้งสองฝาย ถาผูหนีไมส ันทดั จะจนเร็วกวา กาํ หนด ผไู ลไ มส นั ทัดอาจไลไมจ น เมื่อเราเขาใจกลตาง ๆ ถอ งแทจะทําใหเ ดนิ หมากรุกไดด แี ละ จะประเมินไดว าเราไดเ ปรยี บหรอื เสียเปรียบทาํ ใหการเลน ดีข้นึ กลหมากรุกไทยฉบบั นี้จะเปนประโยชนทงั้ แกผ ูท่เี ร่มิ เลนหมากรกุ ไทย เปนใหม ๆ และแกผทู ี่ตอ งการพัฒนาฝม ือของตนเอง ผูรวบรวมไดค น ควาจากตาํ ราหมากรกุ ไทยตาง ๆ ตงั้ แตส มยั พ.ศ.2465 จนถึงปจจบุ ัน ตาํ ราเหลา น้ันสว นใหญม ีอยใู นหอสมดุ แหงชาติ ทาวาสกุ รี กรงุ เทพมหานคร ผูสนใจอาจหาความรเู พม่ิ เตมิ ไดกลหมากรุกในเลม น้ีสามารถติดต้งั ในคอมพิวเตอรไดแ ละสามารถเลนรว มกบั หมากรุกไทยคอมพิวเตอรได หากสนใจโปรดติดตอ ผเู รยี บเรียงถา ทานผูใดเหน็ วากลหมากรกุ ใดสามารถปรบั ปรุงใหด ีกวานห้ี รอื พบทผ่ี ดิ พลาด โปรดแจง ใหผ ูเรียบเรียงทราบ เพื่อจะไดแกไขในการพิมพค รง้ั ตอ ไปและจะไดพ มิ พชือ่ ของทา นลงไวใ นฐานะผูแนะนาํ และแจงแกไขดว ยตํานานหมากรกุ บทความที่อัญเชญิ มาเปนอนั ดบั แรก เปน พระราชนพิ นธข องพระเจา บรมวงศเธอ กรมพระยาดํารงราชานุ ภาพ ซง่ึ ทรงพระนพิ นธคาํ นาํ ของหนังสอื ตํารากลหมากรุก ฉบับหอพระสมดุ วชริ ญาณ พมิ พที่โรงพิมพไทย เมอ่ื พ.ศ. 2465 มีเน้อื หาแสดงท่ีมาของตาํ รากลหมากรุกไทยเลมดงั กลา ว และจะไดเปนที่ทราบวา ตาํ นานหมากรุก ทหี่ นงั สือ หลายเลม อา งอิงถึงนั้น เปนพระราชนพิ นธข องพระองคทาน กบั ท่ีมาของเพลงยาวกระบวรไลหมากรุกของหลวงธรรมา ภมิ ณฑดว ย จึงขอคัดคํานํา อธบิ ายตํานานหมากรุก และเพลงยาวกระบวรไลห มากรกุ มาไวท้ังหมด สาํ หรบั เพลงยาวกระบวรไลหมากรกุ นั้น ในหนังสือตํารากลหมากรุก ฉบับหอพระสมุดวชริ ญาณไมมบี ทไหวค รูซึ่งบทไหวครคู นไดจากหนังสือสนุกกับหมากรุกไทย โดยวนิ ัย ลิม้ ดํารงคชิต พิมพโดยสาํ นกั พมิ พอ กั ษรวฒั นา ไมแ จงปที่พมิ พ จงึ ไดนาํ เสนอเรยี งกนั ไปเปน ลําดบั มขี อสังเกตวา ในหนังสือสนุกกับหมากรกุ ไทย ไดใ หข อ มูลผูเขยี นเพลงยาวเกีย่ วกบั หมากรุกวา เปน หลวงธรรมาภพิ ัฒน (ถกึ จิตถึก) สว นตําราหมากรกุ ฉบบั หอพระสมดุ วชิรญาณเปน หลวงธรรมาภมิ ณฑ (ถกึ จติ รกถกึ ) ซง่ึ นาจะเปนบุคคลเดียวกนั เนอื้ หาสําคญั ในเพลงยาวกระบวรไลหมากรกุ น้ัน พอสรุปได 3 ตอน ตอนแรก เปน การไหวค รู ตอนท่สี อง จะบอกกติการการนับตามศกั ด์ิหมาก ตอนทส่ี าม จะบอกกตกิ าการนบั ตามศักดิ์กระดานวา ถาสองฝา ยมหี มากอะไร จะตองไลใหจ นในก่ีที มฉิ ะนัน้ ถอื วา เสมอกนั และบางกรณที ีต่ า งฝายมหี มากตามกาํ หนด จะมชี อื่ เรียกใหดว ยตามลกั ษณะหมากที่สองฝา ยมีอยู เชน หอกขางแคร ลกู ตดิ แม ควายสเู สือ เปน ตน พระราชนิพนธ คาํ นําหนังสอื ตําราหมากรกุ ฉบบั หอพระสมุดวชิรญาณ ทอ่ี ญั เชิญมามดี ังน้ี ตํารากลหมากรกุ ทีพ่ ิมพในสมดุ เลม นี้ คดั มาจากตําราทไี่ ดรวบรวมไวในหอพระสมุดวชริ ญาณสําหรับพระนครบา ง คดั จากตาํ รา ฉบับของพระยาไพบลู ยสมบัติ (เดช บนุ นาค) ซ่งึ มแี กใ จใหม าเม่ือหอพระสมดุ ฯ คดิ จะพิมพต าํ ราเลม นี้บาง ไดวานขนุ ประสาทศุภกจิ คือ มหาแถม ที่มชี อ่ื เสียงในการเดินหมากรุกนัน้ เปนผูรวบรวมแลคดิ กญุ แจแกก ลจนสําเรจ็ตลอดทงั้ เร่อื ง แตก ารท่ีจะพมิ พตาํ รากลหมากรกุ ยากกวา พิมพหนังสอื อน่ื เพราะตองพิมพเ ปนรปู ภาพหมากรุกเปนพนื้ จาํ ตอ งทําแบบตวั หมากรกุ แลรปู กระดาน ท้งั ตอ งพมิ พซ าํ้ ๒ ครงั้ ทกุ นา จะตองลงทนุ มากกวา พมิ พหนงั สืออยางอน่ื ซ่ึงเลม เปนขนาดเดยี วกัน ยังไมม ผี ใู ดรบั พมิ พจงึ ไดร ัง้ รอมา บดั น้ีทา นเจาพระยาอภัยราชา มหายุตธิ รรมธร (ม.ร.ว. ลบ สทุ ศั น ณกรงุ เทพ) เสนาบดกี ระทรวงยุตธิ รรมรับจะพิมพ กรรมการหอพระสมุด ฯ จึงจัดการพิมพใหดว ยความยนิ ดี แลขอบใจทา นเจาพระยาอภัยราชา ฯ แลเชือ่ วา ทานทัง้ ปวงทีไ่ ดต าํ รานี้ไป คงจะรูส กึ ขอบใจไมมีทเ่ี วน หนงั สือตาํ รากลหมากรุกท่ีพมิ พครัง้ น้ีไดพ มิ พเ ปนชุด ๒ เลม คอื ตวั ตาํ รากลหมากรุกเลม ๑ กญุ แจแกกล หมากรกุ เลม ๑ ดว ยคิดเห็นวาถาพมิ พร วมกนั ไวในเลมสมุดเดยี วกัน จะพาใหก ลจดื เสีย เพราะใครคิดกลไมออก ก็จะพลกิ ไปหากญุ แจเอางาย ๆ ความสนกุ อนั ควรจะได ในการคดิแกกลหมากรกุ ดวยปญ ญา กจ็ ะเส่อื มคลายไป ถา เย็บเปน ๒ เลมไวเ ชน นี้ เหมอื นเปดไวใ หเ ลน ไดตามใจทัง้ ๒ ทาง ถา จะใหคดิ กันเลน ใหสนุก ก็สงใหแตเลมตํารา เก็บซอ นเลม กญุ แจเสยี ตอ เกิดขดั ขอ งหรอื โตแยง กันไมต กลง จึงคอ ยขยายกุญแจออกมา ถา ใครไมร ักสนกุ ในการคิดแกกล เห็นเสียเวลา อยากจะรแู ตวา เขาแกกนั อยางไร จะเอาเลม กญุ แจมากางดูกาํ กับตําราไปกไ็ ดเ หมอื นกัน อนง่ึ ขาพเจา ไดพบเรือ่ งตาํ นานหมากรกุ แตงไวใ นภาษาอังกฤษมีอยูในหอพระสมุด ฯ เลม ๑นึกวาถา นําความมาแสดงในหนงั สอื นี้ดวย ก็เห็นจะพอใจของทานผูอาน จงึ ไดเกบ็ เนื้อความมาเรยี บเรียงแตโดยยอ พอใหhttp://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct000.htm 14/10/2011
หมากรกุ ไทย Page 2 of 6ทราบเคาเงอื่ น พิมพไวขางทา ยคํานําน้ี กับเพลงยาวของหลวงธรรมาภมิ ณฑ แตง วาดวยบัญญตั กิ ารไลห มากรุกดวยอกีเรอื่ ง ๑ หวงั ใจวาทา นท้งั หลายท่ไี ดส มุดชุดนี้ไป จะพอใจทัว่ กนั . ดํารงราชานภุ าพ (พระเจา บรมวงศเธอ กรมพระยาดํารงราชานุภาพ ) สภานายก. หอพระสมุดวชริ ญาณ วันที่ ๑ พฤศจิกายน พระพทุ ธศักราช ๒๔๖๕อธิบายตาํ นานหมากรุก การเลนหมากรุกปรากฎวามีมาในประเทศอินเดียชา นานนับดวยพนั ป พวกชาวอนิ เดยี อางวาหมากรกุ เกดิ ขนึ้ เมื่อคร้งั พระรามไปลอ มเมอื งลังกา นางมณโฑเหน็ ทศกรรฐเดอื ดรอ นรําคาญ ในการทีต่ องเปนกงั วลคดิ ตอ สู สงคราม ไมมเี วลาเปนผาศุก นางรวู า จะชกั ชวนทศกรรฐ ใหพักผอ นดวยประการอยางอื่น กค็ งไมยอม จึงเอากระบวร การสงคราม คดิ ทาํ เปนหมากรกุ ขน้ึ ใหทศกรรฐเ ลน แกราํ คาญ มูลเหตทุ ่ีจะเกิดมหี มากรุก พวกชาวอินเดียกลาวกนั มา ดังน้ี แตช ่ือทีเ่ รียกวาหมากรุก เปนคําของไทยเราเรียก พวกชาวอินเดยี เขาเรยี กหมากรุกวา \"จตุรงค เพราะเหตุที่คดิ เอากระบวรพล ๔ เหลา ทาํ เปนตวั หมากรุก คอื หัสดพี ลชาง (ไดแกโ คน) ๑ อัศวพลมา ๑ โรกะพลเรือ ๑ (พลเรือน้ัน อธบิ ายวาเพราะคิดข้นึ ทีเ่ กาะลงั กา จึงใชเรือแทนรถ) ปาทิกะพลราบ (ไดแ กเบี้ย) ๑ มรี าชา (คอื ขุน) เปนจอมพล ตงั้ เลน กันบนแผน กระดานอันปนเปนตาราง ๖๔ ชอ ง (อยางกระดานหมากรุกทุกวันนี)้ วิธีเลน หมากรุกช้ันเดมิ ท่เี รียกวา จตรุ งคน ั้น ไมเหมือนอยางที่เลนกันในช้ันหลงั มีอธบิ ายอยูใ นหนงั สือมหาภารตะวาปน ตวั หมากรกุ เปน ๔ ชุด ยอ มสีตา งกัน สแี ดงชดุ ๑ สีเขียวชดุ ๑ สีเหลืองชดุ ๑ สีดําชดุ ๑ ในชุด ๑นั้น ตัวหมากรกุ มีขุนตวั ๑ ชา ง (โคน) ตัว ๑ มา ตัว ๑ เรือตวั ๑ เบีย้ ๔ ตัว รวมเปนหมากรกุ ๘ ตัว สมมตวา เปนกองทัพของประเทศ ๑ ตัง้ ตวั หมากรุกในกระดานดังน:ี้ - ชดุ ทางขวามอื สมมตวาอยูป ระเทศทางทิศตวนั ออก ชดุ ขางลา งวา อยปู ระเทศทศิ ใต ชุดขา งลา งวา อยูป ระเทศทิศใต พวกทางซายมือวาอยูประเทศทิศตวันตก ชุดขา งบนวาอยปู ระเทศทศิ เหนือ คนเลน ก็ ๔ คน ตา งถือหมากรกุ คนละชุดแตก ระบวรเลนนั้น ๒ พวกทอี่ ยทู แยงมมุ กัน (คอื พวกขาวในรูปน)ี้ เปนสมั พันธมิตรชว ยกนั ๒ พวก (ดํา) ซึ่งเปนสมั พันธมิตรกนั อีกฝา ยหน่งึ ลักษณเดนิ ตวั จตุรงคนัน้ ขุน มา เบ้ยี เดนิ อยา งเดียวกบั หมากรกุ ที่เราเลนกนั แตชางเดนิ อยางเราเดินเรอื ทกุ วนั น้ีสวนเรอื น้ันเดินทแยง (อยางเมด็ ) แตใ หข า มตาใกลเสียตา ๑ แตก ารทจี่ ะเดนิ ตอ งใชทอดลูกบาตร ลูกบาตรนัน้ ทาํ เปนส่ีเหล่ียมแทงยาว ๆ มีแต ๔ ดา น หมาย ๒ แตม ดา นหน่ึง ๓ แตม ดานหนึง่ ๔ แตมดานหนงึ่ ๕ แตม ดา นหนงึ่ คนเลนทอดลูกบาตรเวียนกันไป ถา ทอดไดแ ตม ๕ บังคบั ใหเ ดินขุนฤาเดินเบ้ีย ถา ทอดไดแตม ๔ ตองเดนิ ชาง แตม ๓ ตอ งเดนิ มาแตม ๒ ตอ งเดนิ เรือ แตจะเดินไปทางไหนก็ตามใจ เวน แตเ บยี้ น้ันไปไดแ ตข างนาทางเดยี ว (อยา งหมากรกุ ทเี่ ราเลนกัน)วิธเี ลน หมากรุกช้ันเดิมท่ีเรียกวาจตรุ งคมีเคา ดังกลา วมาน้ี ครัน้ จําเนียรกาลนานมาถึงเม่ือราว พ.ศ. ๒๐๐ ป วามีพระเจา แผน ดนิ ในอินเดียองค๑ ชอบพระหฤทยั ในการสงครามย่งิ นกั ต้งั แตเ สวยราชยก เ็ ทย่ี วรบพงุ บา นเมอื งทีใ่ กลเคียง จนไดเปนมหาราชไมมีเมอื งใดทจ่ี ะตอ สู พระเจา แผน ดินองคน นั้ ครน้ั ไมมโี อกาศท่ีจะเทีย่ วทําสงครามอยา งแตก อน ก็เกดิ เดือดรอนรําคาญพระหฤไทย จงึ ปฤกษามหาอํามาตยคนหนึ่ง ชือ่ วา สสั สะวา จะทําอยา งไรดีจงึ จะมคี วามศขุ มหาอาํ มาตยคนนนั้ คดิ วา จะแกดว ยอบุ ายอยา งอ่นื พระเจาแผนดนิ นน้ั ก็คงจะยังอยากหาเหตเุ ทีย่ วรบพุงอยนู ่ันเอง ท่ไี หนบานเมอื งจะไดม สี นั ตศิ ขุ จงึ เอาการเลน จตุรงคมาคิดดดั แปลงใหเลน กันแต ๒ คน แลเลกิ วิธที อดลูกบาตรเสียใหเดนิ แตมโดยใชปญญาความคดิ เอาชนะกนั เหมอื นทํานองอบุ ายการสงคราม แลวนาํ ขึ้นถวายพระเจาแผน ดนิ ชวนใหท รงแกรําคาญ พระเจาแผนดนิ องคนนั้ ทรงเลน จตุรงคอยา งที่มหาอาํ มาตยสสั สะคิดถวาย กเ็ พลิดเพลินพระหฤทัย หายเดอื ดรอนรําคาญ บานเมืองกเ็ ปนศุขสมบรู ณ (ตํานานเร่ืองมหาอํามาตยส สั สะคดิ แกการเลนจตรุ งค เลา กันเปนหลายอยาง อางกาลตา งยคุ กัน เลอื กมาแสดงในทีน่ ้แี ตเ ร่ืองเดียว) กระบวรหมากรกุ ทีว่ ามหาอาํ มาตยส สั สะคิดใหมน ้นั คอื รวมตวหมากรุกซ่ึงเดิมเปน ๔ พวกน้ันใหเ ปนแต ๒พวก ตง้ัเรยี งกันฝายละฟากกระดาน (ทํานองเดยี วกบั หมากรกุ ทเ่ี ราเลนกันทุกวันนี้) เมอ่ื จัดเปน กระบวรทัพแต ๒ ฝา ยจะมพี ระราชาฝา ยละ ๒ องคไ มไ ด จงึ ลดขนุ เสีย ๒ ตัว คิดเปน ตวั มนตรีขึน้ แทน (คอื ตัวท่ีเราเรียกกนั วา เม็ด) หมากรกุ อยา งท่ีมหาอาํ มาตยสัสสะคดิ แกไขน้ี ตอ มาแพรหลายไปถงึ นานาประเทศ พวกชาวประเทศอ่นื ไปคดิ ดดั แปลงแกไขตามนยิ มกนั ในประเทศนนั้ ๆ อกี ชน้ัหนึง่ หมากรกุ ทเ่ี ลน กนั ในนานาประเทศทุกวนั นจี้ งึ ผดิ เพีย้ นกนั ไป แตเ คา มูลยงั เปนอยา งเดยี วกนั เพราะตนแบบแผนไดม าhttp://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct000.htm 14/10/2011
หมากรุกไทย Page 3 of 6แตอินเดยี ดวยกันท้ังนั้น เรอื่ งตํานานหมากรุกท่กี ลาวมาน้ี ไดอาศรยั เก็บความในหนงั สอื เรื่องตาํ นานหมากรกุ ของดอกเตอรดันคนั ฟอบส มาแสดงพอใหทราบเคา ความ. อนึง่ มกี ลอนเพลงยาววา ดวยกระบวรไลหมากรกุ หลวงธรรมาภมิ ณฑ (ถึก จิตรกถกึ )ไดแตง ขน้ึ ในหอพระสมดุ ฯบท ๑ เห็นควรจะพมิ พรักษาไวม ใิ หส ญู เสยี จงึ นาํ มาพิมพไวใ นทายตํานานนี้ดวยประวัติหมากรุกไทย เมือ่ คนควาจากหนงั สือหมากรุกเทาท่จี ะคนหาไดใ นหอสมดุ แหงชาติ สรุปไดวา ตาํ นานหมากรุกมที ่ีมาคลา ยคลงึกัน และแทบทุกแหง จะอางองิ จากหนงั สือเลมเดียวกันคือ ตํารากลหมากรกุ ฉบบั หอพระสมดุ วชริ ญาณทง้ั ส้นิ ที่จะมีผดิ แผกไปบา งบางเลม เชน ผดู ัดแปลงหมากรุกจากเดมิ จตั รุ งคซึ่งมผี ูเลน สีค่ น มาเปนหมากรุกทมี่ ีผูเลนสองคน แทนทจ่ี ะเปนมหาอํามาตยส สั สะ ในประเทศอินเดยี บางเลม เพีย้ นไปเปน พระเจาอเลก็ ซานเดอรมหาราช ท่กี รีก แตกม็ ีรายละเอียดคลายคลึงกนัประวัติผปู ระดิษฐตัวหมากรุกไทย คดั จากบางตอนของบทที่วา ดวยตํานานหมากรุก หนังสือหมากรกุ ไทย ของบริษัทสุรามหาราษฎร จํากดั(มหาชน) พิมพท ่โี รงพิมพม หาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ไมแจงปท ีพ่ ิมพ มขี อ ความดังน้ี มีประวัตขิ องหมากรุกไทยกลาวไวว า ปฐมกษตั รยิ จ ีน ชือ่ พระเจา ฟูฮี คดิ ตําราหมากรกุ พชิ ัยยทุ ธตีเมอื งเชนสขี องชาวอัลไต หรอื ชาวไทยในอดตี เมอื่ ราว 2337 ป กอ นพทุ ธศักราช จนชาวอัลไตไดถ อยรนไปทางทิศใตแ ละทางทิศตวันออก และมกี ารอพยพมาต้งั อาณาจกั รอายลาวครงั้ แรกเมอ่ื 32 ป กอนพุทธศกั ราช ตอมาหลังจากที่อาณาจักรอายลาวแตกชาวอลั ไตก็ถอยรน ขา มแมนา้ํ โขง มาตงั้ นครโยนก ประมาณป พ.ศ.20 มกี ษตั รยิ ป กครองและไดม ีพระพทุ ธศาสนาแพรเ ขามา เมื่อ พ.ศ. 301 มีการกอ สรางเจดยี และวัดซง่ึ ทําใหบ า นเมอื งมคี วามเปนอยเู จรญิ ขนึ้ มาจนถึง พ.ศ. 902 กถ็ กู พวกมอญดํายดึ เมือง และไลใหชาวเมืองออกไปหาทองมาสงสว ยซง่ึ ก็ไดพบทองรอนเปนจํานวนมากจนไดช ือ่ วา สุวรรณภมู ิ ในป พ.ศ. 918 พระเจา พรหมมหาราชไดค ิดตําราพิชยั ยุทธนา วางแผนหมากรกุ ระดมผคู นทั้งเดก็ ผใู หญแ ละคนชราทั้งชายหญงิ ขึน้ ลุกฮอื ทําการตอ สูก วาดลางพวกมอญดาํ ถงึ 6 ป ตง้ั แตเ มอื งโยนกเชยี งแสนจนถงึ กาํ แพงเพชร ไดประกาศขอบเขตเปนอาณาจกั รใหมข องเมืองเชียงราย หากจะนับวาเมืองเชยี งรายเปน ชาวไทยกค็ วรจะนบั วาราชอาณาจกั รชาวอัลไตหรือชนชาวไทยตั้งเปนประเทศไทยโยนกตั้งแต พ.ศ. 20 โดยพระเจา อนุชิตกอบกูเอกราชคร้งั แรกไดสําเร็จ เมือ่ พ.ศ. 924 สมัยพระเจาพรหมมหาราช ผูเจริญพระชนมายเุ พียง 16 พรรษาเทานัน้ ไดทรงใชเวลา 6 ป ในการกราํ ศกึ นัน้ จงึ เปนท่เี ช่ือวา ชนชาวไทยไดเ อาหมากรุกจนี ซ่งึ เดนิ หมากตามเสนเขา มาประเทศไทยดว ย และตวั หมากรุกไทยไดป ระดิษฐใ นสมัยนี้เอง โดยใหเ ดนิ ตามชอ ง ตวั ขุนจําลองมาจากที่ประทับของกษัตรยิ ห รือพระโกศ ตวั โคนจําลองมาจากพระเจดยี ใ หญ ตวั เม็ดจาํ ลองมาจากเจดียเล็ก ตัวเรือจาํ ลองมาจากปอ มคา ยทหาร เบีย้ จําลองมาจากหมวกทหาร สวนมา นาํ มาจากหัวมาในละครโดยตรง จงึ ไมแ ปลกใจเลยท่ีมหี ลกั ฐานปรากฎวา ภาคเหนอื และภาคอสี านเปน ตน กําเนิดของหมากรกุ ไทยมากอน อน่งึ มีผกู ลา วไวว าชาวเปอรเซยี เปน ผคู ิดคน หมากรกุ เลน ในหมนู กั รบ เพื่อคลายอารมณก ระหายศกึ นัน้ ไมสามารถกําหนดชชี้ ัดได เพราะกลา วไววา ชาวเปอรเ ซียเลนหมากรุก 4 คนและใชลูกเตา ทอดดวยแลวยง่ิ ยากเชือ่ ถือ เนอ่ื งจากลูกเตาเปน ของประดิษฐชาวจนี จงึ มปี ญ หาที่นาสงสยั วาใครเปน ผูคิดคน การเลนกนั แน แตเ มอื่ พิจารณาถงึ หลักฐานที่ปรากฏเมือ่ สมัยโบราณ 4,000 ปม าแลวน้ัน ชาวจนี ไดรวมตวั เปนกลมุ เปนกอนแลว แตในขณะท่ีชาวอาหรบั ยังคงแตกแยกอยู ดังนัน้ หลกั ฐานจงึ คอนมาทางจนี มากกวา ประวัตกิ ารเลนหมากรุกไทยสมยั แรกเร่มิ จนถึงสมยั กรุงศรีอยุธยา พ.ศ. 20-2310 ยงั ไมพ บหลักฐาน ปรากฏวา มีการกลาวอา งถึงการเลนหมากรุกไทยในยคุ นี้ แตม ีการกลาววา สมยั พระพทุ ธเจา ทรงพระราชสมภพทเ่ี นปาลนั้น มีหมากรกุเลน กนั แลว แตไ มไดกลา ววาเปนหมากรุกอยางใด แตท ีเ่ นปาลกอ็ ยใู กลจ ีนและทิเบตมากกวา หากวา ประเทศไทยมีการเลนหมากรกุ กันมาตั้งแตส มยั พระเจา พรหมมหาราชนัน้ แลว อกี ประมาณ 876 ปก ็ถึงสมัยสุโขทัย กย็ ังไมมกี ารกลา วถึงไว ณ ที่หนง่ึ ทใ่ี ด แตตามพ้ืนวดั นั้นมแี ผน สี่เหลีย่ มอยูเปน อันมาก ทาํ ใหส ามารถสนั นษิ ฐานไดว าเปนกระดานหมากรกุประวัติการเลนหมากรกุ ไทยสมัยพระเจา กรุงธนบรุ ี พ.ศ. 2310 - 2325 ในสมัยพระเจากรุงธนบรุ ี เมือ่ พ.ศ. 2318 เดอื นอา ย อะแซหวุนกี้ แมทพั พมา วัย 72 ป ผเู หิมเกริมอาสานาํ ไพรพลฝม ือดี 35,000 คน คดิ รุกรานผืนแผน ดนิ ไทย โดยยกพลเขามาตง้ั คา ยอยูท ่ีเมอื งสุโขทยั กางตําราพิชยั สงครามเชงิ รุก และเร่มิ ลงมือกวาดตอนเสบยี งอาหารสะสมกกั ตุนไวทนั ที พระเจากรงุ ธนบรุ ีพรอมดว ยพระยาจักรีและพระยาสรุ สีห ทรงทราบยทุ ธศาสตรเ ชงิ รุกครง้ั นีเ้ ปนอยา งดี หากแตคร้ังนัน้ มรี ี้พลประมาณ 20,000 คนจงึ จาํ ตอ งวางแผนพิชัยสงครามในเชิงรกุ และรับดวยหนอ ยจโู จมหลีกเลย่ี งการเขา ปะทะศกึใหญ โดยใชแผนถอยเอาเชงิ 2 ชน้ั กลา วคอื ใหพ ระยาจกั รแี ละพระยาสรุ สหี ตัง้ หลกั อยทู ีเ่ มืองพษิ ณโุ ลก กวาดตอนเสบียงและผูค น ตลอดจนรกั ษาฐานะเมืองเชียงใหมไว ดวยหวงั ตรงึ กําลังอะแซหวุนกีไ้ วใหน านทส่ี ดุ สว นทพั หลวงน้นั พระเจากรุงธนบรุ ีกลบั เปนฝา ยเคลื่อนไหวประกอบกบั หนวยจูโจม และหนว ยกองเพลงิ ปา มงุ หวงั ตัดเสบียงและจโู จม รบกวนทําลายร้พี ลพมาท้งั กลางวนัและกลางคืน หลงั จากปะทะกนั มาถงึ 4 เดอื น ตา งกข็ ัดสนเสบียงอาหาร โดยเฉพาะเมืองพษิ ณุโลกยงั มผี หู ญงิ และเด็กมากมาย ครน้ั กองเสบยี งจากทพั หลวงถกู ตดั ขาด แผนการขน้ั ท่ี 2 จงึ ไดเรม่ิ ขน้ึ โดยพระยาจักรีออกอุบายจําทาํ การรบใหญดวยการเอาปพ าทยป ระโคมศึกตามปอมคาย พรอ มยิงปน ใหญกรุยทางตัง้ แตเ ชาจนคํ่า สว นพระองคพรอ มดว ยพระยาสรุ สหี ไดท รงนั่งเลนหมากรุกอยบู นเชงิ กําแพงเมือง รองเรียกใหอะแซหวุน กีข้ ึ้นมาประลองฝมือสักกระดานhttp://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct000.htm 14/10/2011
หมากรกุ ไทย Page 4 of 6แผนการถอยทพั เอาชัยจงึ สมั ฤทธผ์ิ ลในเวลาสามทุมคืนนั้นโดยมีผูหญิงและเดก็ แตง กายคลา ยทหารพกอาวุธทกุ คนถอยไปต้งั ทัพช่วั คราว ท่เี พชรบูรณ แลว วกลงใตไ ปตามแมน า้ํ ปา สกั และลพบรุ ีไปยงั แถบพระพทุ ธบาทสระบรุ ี แลว ออ มข้ึนไปอทุ ยั ธานี ทําหนาท่เี ปน หนว ยจรยทุ ธหนกั คอยตดี ดั หลัง ฝายอะแซหวุนก้ี หลังจากเสียเวลาตดิ ตามไปตเี มืองเพชรบรู ณ อยา งไรผ ลและขาดเสบยี งเพม่ิ เติมในทสี่ ดุ กต็ งั้ทัพอยกู บั ท่ี เปน เวลาหลายเดือนไมส ามารถหาเปาหมาย (ขนุ ) สาํ หรบั โจมตไี ด ตัวเองกลบั จะตกเปนเปา นง่ิ เลยตัดสินใจถอยทัพกลับพมา ระหวางทางถูกดกั ตีซาํ้ เติมเสยี รพี้ ลมากมาย กลบั ถึงพมาอยา งสะบกั สบอม ตาํ ราพชิ ยั สงครามกลาววา “ กองทพั เดินดว ยทอง หมากรุกเดินดว ยสมอง “ นับตง้ั แตนนั้ มา พมามิกลายกกองทัพใหญ มารกุ รานไทยอีกเลย ดวยเกรงพระปญ ญาบารมีของพระองคย ง่ิ นกั ย่งิ มาทราบวาพระองค 2 พนี่ องทางโปรดกฬี าหมากรุกดว ยแลว โดยเฉพาะกลถอยเอาชนะของพระองคน ้นั เปนที่เทิดทนู เคารพบูชา ทพี่ วกเราชาวไทยทุกคนทัง้หลายไดอยูยั่งยนื ยงมาจนถงึ ทกุ วันนี้ประวตั กิ ารเลน หมากรุกไทยต้งั แต กรุงรตั นโกสินทร พ.ศ. 2325-2526 หลงั จากการสรา งกรงุ รตั นโกสนิ ทรใ นป พ.ศ. 2325 แลว ก็ไดป รากฏวา มีการเลนหมากรกุ กันมากในหมูพระราชวงศ ดังจะเหน็ มหี มากรุกงาและเขาสตั ว แสดงความเกา แกมานานจนงานน้ั ผุพงั ไปกม็ ี ตวั อวนกลมเตย้ี ไมไ ดขนาดก็มีหมากรกุ ไดแพรหลายไปตามหมเู จา นาย ไพรพล หมทู หาร ขา ราชบริพาร และยังไปตามวัดวาอารามตา ง ๆ จนในทสี่ ดุ เขาถงึ ประชาชนโดยท่ัวไป ดังจะเห็นมีตํารากลหอพระสมุดแหงชาติ และตาํ ราเคล็ดลับทางโคนท่ไี ดมาจากทางภาคอิสานการแขง ขนั อยางไมเ ปน ทางการ คงจะมีขึ้นบา งเปน การประลองฝม อื แตการพนันรายใหญมักจะมใี นหมูเ ศรษฐี ดังเชน ศึกชิงเรือสาํ ปน ระหวา งนายโหมดกับเจา นายพระองคหนงึ่ ทางตําหนักเสาชิงชา นอกจากศกึ ชงิ เรอื สาํ ปน แลว ยังมศี กึ ผาขาวมา ศกึ สามเสา ตอนงกู นิ หางและตอนจับงอู กี ดว ยขอมูลจาก กรมพระยาดาํ รงราชานุภาพ และตําราพิชยั ยุทธ น.ต.มณเฑยี ร รนื่ วงษาเพลงยาวกระบวรไลหมากรกุ เน้อื หาสําคญั ในเพลงยาวกระบวรไลหมากรกุ น้ันพอสรปุ ได 3 ตอน ตอนแรกเปนการไหวครู ตอนทีส่ องจะบอกกติการการนับตามศักด์หิ มาก ตอนที่สามจะบอกกติกาการนับตามศักด์ิกระดานวาถา สองฝายมหี มากอะไรจะตองไลใ หจ นในกี่ที มิ ฉะนัน้ ถอื วาเสมอกนั และบางกรณีทต่ี า งฝายมีหมากตามกาํ หนดจะมีชอื่ เรียกใหด ว ยตามลักษณะหมากท่สี องฝายมีอยูเชน หอกขางแคร ลกู ตดิ แม ควายสเู สือ เปนตนเฉพาะบทแรกเปน บทไหวค รู คัดมาจาก หนังสือ สนกุ กบั หมากรกุ ไทย โดย วินัย ลิม้ ดาํ รงคชติ พิมพโ ดยสํานักพมิ พอักษรวฒั นา มาโนชนนอมพรอมกายวจสี รรพ ไหวด าบสพรตอุดมพรหมจรรย เจรญิ บรรพชากรสังวรฌาณ ทล่ี วงลปุ รโุ ปรงเปรื่องกสณิ ผองอภญิ ญายิง่ ภินิหาร ผรู ูรบจบแจง เจนวจิ ารณ ในตํานานชาญชัดอธิบาย ทานไดนาํ ตําราหมากรุกน้ี มาเชิดชีเ้ ปนอยางอางขยาย เบอ้ื งโบราณกาลเปรยี บปรุงภปิ ราย จึงแพรห ลายสืบกนั แตน น้ั มา วา มณโฑเทวีศรสี มร เห็นภธู รทศพกั ตรท าวยักษา เมื่อศกึ รามตามประชิดติดลงกา แตน ัน้ มามิไดมีทส่ี บาย ดวยความกตเวทีมใี นจิต นางจงึ คดิ หมากรกุ ข้นึ ถวาย ไวเลน แกท กุ ขรอ นพอผอนคลาย เรื่อนิยายกลาวมาวา อยา งน้ี แลวา เดิมสําเหนียกเรียกจตั ุรงค เพราะเทียบพลพยหุ ยงองคทงั้ สี่ คิดกระบวนชวนเลนเชน ราวี ใหต องทกี่ ารทพั แกอบั จน พระฤาษจี ําตาํ รามาแถลง จงึ ไดแ จง หมากรกุ ทกุ แหง หน อาศยั เหตตุ ามสังเกตประกอบกล ประชมุ ชนจงึ ไดช วนกนั ชื่นชม ตา งกค็ ดิ ผิดเพย้ี นเปลย่ี นแปลกบาง เพราะตา งชาตติ างภาษาภิรมยสม เห็นเปน เครื่องเรืองปญญาพานิยม เพราะอบรมความดํารใิ หตรติ รอง ครน้ั ตอ มาผูม ปี รีชาเฉลียว คิดผูกเกย่ี วขึ้นเปน กลประกอบสนอง หวงั ประกวดอวดกันขนั ประลอง เพอื่ สอดสอ งเสีย่ งปญ ญาหาความเพียร ตัง้ แตน ต้ี อ ไปจนจบคัดมาจาก หนงั สอื ตํารากลหมากรกุ ฉบับหอพระสมดุ วชริ ญาณ เจาพระยาอภยั ราชามหายุติธรรมธร ใหพ ิมพค รงั้ แรกเมือ่ พ.ศ. ๒๔๖๕ พมิ พที่โรงพมิ พไท อนั การไลห มากรุกสนกุ นึก ลวนลบั ลึกเลศไนยใชพาเหยี ร ควรใฝฝกตรกึ ตรองจองจาํ เนียร แมนแผกเพย้ี นผันผดิ พงึ คดิ ระแวง จงยลแยบแบบแผนใหแ มน มนั่ ตามทกี่ ลัน่ ไวเ ปนกลอนสุนทรแถลง บญั ญตั อิ ยางอางกลยบุ ลแสดง เพือ่ ใหแจงเจนตระหนักประจกั ษใ จ โดยวธิ ที จี่ ะเดินประเมนิ มาก มีหลากหลากลว นเลหสขุ มุ ไข พงึ เพียรพศิ คดิ คเนคนึงใน นิยมไวห วังวางเปนอยา งยลhttp://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct000.htm 14/10/2011
หมากรกุ ไทย Page 5 of 6 กาํ หนดทีหนไี ลไ วป ระจกั ษ อยาชะงกั งงงว งเหงาฉงน รุกรบรบั อัปราแลตาจน ควรคดิ คน ใหกระจางอยา คลางแคลง เรือสองลํากาํ หนดกฎเกณฑนบั บทบงั คับตามพกิ ดั บัญญัตแิ ถลง เพยี งคาํ รบครบแปดแตม แสดง อยาพึงแหนงพนนี้ไมมีจน แมวา เรือลาํ เดยี วเกีย่ วกวดขัน จะไลน ้นั ไดเพยี งสบิ หกหน อกี โคนคูดรู ะบอบใหชอบกล ยี่สบิ สองไมจนอยาบุกบัน แมโ คนเดยี วเดย่ี วโดดโสดพเิ ศษ นบั สังเกตสี่สบิ สีเ่ ปน ที่ขน้ั อกี สองมาไลโ ลดโดดประชัน พึงแมน ม่ันนับสามสิบสองผจง แมมา เดียวเปลย่ี วปละไมละลด นบั กําหนดหกสิบสี่ทปี่ ระสงค อกี เบี้ยหงายหลายหลากมากนอ ยคง แจงจาํ นงนับเทาตากระดาน แมหมากไลไ ลไมจนพน พิกัด ตามบัญญตั ิเกณฑน บั ตําหรบั ขาน เสมอื นเสมออยาไลใ หปว ยการ ยงั หลายสถานที่กาํ หนดในบทบรรพ อนึง่ หมากหนมี ีเบยี้ เขยี่ เขี้ยวขบั ติดกํากับอยกู บั ขุนไมหางหนั ขา งหมากไลไลรกุ เขาโรมรนั สามเบ้ยี กน้ั สงั กัดสังเกตจาํ หมากไลสามหนีหนง่ึ คาํ นึงนับ ตามบังคบั หกสิบสี่เปนทีข่ าํ โดยกําหนดบทระเบยี บเทยี บประจํา ถาเกนิ กําหนดกลา วเสมอกัน อกี หมากไลห มากหนดี ที ั้งคู มเี รอื อยูค นละลําปลาํ้ ขับขัน ขา งหมากไลไดเบีย้ ชว ยบงั กัน ไขวผ กู พนั ธเ บื้องหลงั พอบงั สกนธ หมากรูปน้ีมักจะมีอยูบ อยบอ ย จงคิดคอยดอู ยาเฟอนเลอื นฉงน ท้ังเบย้ี เทียมเทียบถกู ผกู จํานน นยิ มยลหกสบิ สีท่ ส่ี ัญญา แมไมจ นพนคาํ ณวนคํานงึ เสมอ ก็เสมอเหมือนตาํ หรบั ตําราวา อยาเลินเลอ เผลอพลา้ํ ใหพลง้ั ตา จงไตรตราตรึกตรดิ าํ รหิ ตรอง อกี ชอ่ื มขี ช้ี ัดถนดั แน เรียกกลหอกขา งแครส าํ เนาสนอง มีเบี้ยเดียวเลีย้ วลดบทละบอง ยกยา ยยอ งแอบขุนจุนประจาํ พวกหมากไลไ ดท ากฝ็ าแฝง โคนทะแยงเยอื้ งยางสามขมุ ขาํ ผูกกระชับกับเบ้ียคลอเคลียคลาํ รวมรุมรํ่ารุกรบตลบไป ไลไมจ นพน พิกดั บญั ญัติยก เกนิ เกณฑหกสบิ สส่ี ิ้นสงไสย ท้ังสองขางตา งแตม ไมต ่าํ ไกล ก็ยอมใหสมเสมอเสมือนกัน อกี จบั มา อุประการประกอบชอบ แบบระบอบหมากหนีทว งทขี นั มมี าม่งิ ว่งิ หลบไมรบรนั ขางหนึง่ นน้ั สองเบ้ยี แซกเซยี ซนุ กบั โคนหนง่ึ ขงึ ทาโถมสมทบ มาเลีย้ วหลบหลีกแฉลบเขาแอบขนุ ตางคมุ ทา หาทางจะรุกรนุ เมยี งมงุ มุนมองคมักคเมน ตา มเี กณฑย า งอยางกาํ หนดหกสิบส่ี แมห มากหนหี นไี มพน กจ็ นทา ตามพกิ ัดจัดไวในตาํ รา พงึ วิจาระณะจงใหเจนใจ อีกกลลกู ติดแมแ นกาํ หนด โดยแบบบทเบอื้ งบรรพธิบายไข ขา งหมากหนีมเี รอื เฝอแฝงไป กับเบี้ยหงายวางไวจงั หวะกนั ขางหมากไลไดโคนกับเบ้ยี หงาย แลเรอื รายรุกเรยี งเคียงกระสัน ไลไมจ นพน หกสบิ สี่พลนั เพราะโคนกันขนุ กมุ คมุ เชงิ ชน หณุมานอาสาทานวา ไว ขางหมากไลเ รอื กับมาอยา ฉงน อีกเบย้ี หงายรายคมุ โคนระคน มา ผจญโจมบกุ เขา รกุ รนั ขา งหมากหนีมเี รอื คอยรารับ โคนกํากบั เคียงขา งไมห า งหัน ตา งประชดิ ตดิ ตอไมรอกัน กาํ หนดน้ันหกสบิ สม่ี ีอตั รา ควายสูเสอื เหลอื ลําบากพวกหมากหนี คือโคนมีอยูกบั เบ้ยี ไมเ สียทา คอยปองปด ติดแวงทะแยงตา เขารบั หนา กนั รุกทกุ กระบวน ขา งหมากไลไ ดเ รอื ไวก บั เมด็ คอยลอดเล็ดลอมเลีย้ วตลบหวน มเี กณฑก ฎบทบงั คับนบั จาํ นวน ไมจนถว นหกสิบสีเ่ สมอกนั อีกอทู องหนหี านา สลด กําหนดบทหมากไลไมผ ดิ ผนั มโี คนหนึ่งเบีย้ สามพองามกัน เขาโรมรันโอบออมเที่ยวลอมราย ขางหมากหนีมเี รอื ลําเดียวเด่ยี ว เขา เกย้ี วเกีย่ วรุกกระชั้นเหมาะม่ันหมาย ไมจนแตม จนตาตามธิบาย กําหนดหมายหกสิบสเี่ สมอตัว พรานไลเ นือ้ หมากไลไ มเขด็ ขาม มีเบ้ียสามมา เด่ยี วขบั เข้ยี วข้ัว ขางหมากหนีเรือหนึง่ จาํ เพาะตัว พวกไลพ วั พันสกดสกดั ทาง ไมจนจบครบหกสบิ สที่ า กต็ างรากนั เองทัง้ สองขาง จงจาํ จดบทระยะจงั หวะวาง อยาหลงทางลืมท้งิ ทําเลกล นกกระจาบทํารังขา งหมากหนี น้นั เบ้ยี มีอยกู บั มา ทา สับสน ขางหมากไลไ ดเรือเจือระคน เขา ปะปนเบีย้ หงายรายระดม เรือกบั มาทา ทีกพ็ อสู ตําราครกู ลา วไวใ หเห็นสม หกสบิ สีห่ นไี ดโ ดยนยิ ม เขา เกลอื กกลมแอบเบีย้ ไมเสยี ที ถา เบีย้ ผกู ถูกกันทานใหตอ เอาเบ้ยี ลอรอรบั ขบั ใหหนี ขางหมากไลก ็จะเหลงิ ในเชิงที ถงึ แตมมีก็คงหมดกําลังลง อีกกลหนง่ึ นามคลืน่ กระทบฝงhttp://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct000.htm 14/10/2011
หมากรกุ ไทย Page 6 of 6 ขางหมากหนีโคนหน่ึงพึงจาํ นง นยิ มหวังอยา แหนงระแวงหลง หมากไลม ีมาหนึ่งกบั เบยี้ สอง ทะแยงยงเย้ืองทาคอยรารับ มาก็รุกคลกุ เคลา เขาสาํ ทับ เขาลอ มปอ งหลังโคนโผนขยับ ท้ังสองขา งตา งแตม ไมตกต่ํา โคนหลบลบั แอบขุนคอยคุมที เปนเขตรขัน้ สญั ญาอยางพอดี จบเกณฑกําหนดนบั หกสบิ สี่ หมหู ลบหอกกลอกกลง้ิ สิ่งสงั เกต ก็ตา งมีสว นสมเสมอกนั โคนกบั เรือเฝอแฝงชวยแรงกัน ฝา ยประเภทหมากหนีวิธีสรร ขนานเรยี งเคยี งคขู นาบลอ ม หมากไลน ัน้ เรือคูจปู ระจาํ ขางหมากหนีล้ซี มุ เขามุมทํา เขา โอบออ มแอบรุกบกุ กระหน่าํ ถึงจะรุกคลุกขลุมตลุมไล ในทีขาํ โคนเคียงเรียงประนงั เรือกับโคนสูก ันขนั ประดัง เรือกันไวม ิไดห ว่ันถวลิ หวัง แมนครบยกหกสิบส่มี จิ นแตม ตามบทบงั คับไวใ นตาํ รา ทั้งสองขา งตา งเสมอเหมอื นสัญญา ในกลแกมเกณฑนบั ตําหรบั วา ยังอีกหน่งึ พึงพศิ พนิ จิ นกึ กเ็ ลกิ ลาละลดงดกนั ไป มรี ูปหมากตั้งใหเ หน็ เชน กลไนย ตรติ รองตรึกดใู หส ้นิ ทีส่ งไสย กาํ หนดมีทไี ลใ หจ นแตม ไดว างไวหลายอยา งตา งตางกนั โดยวิธีมีเกณฑเ ปนสําคญั ประกอบแกมกลกระบวรอยาหวนหัน สําหรบั ลองปญ ญามาประดษิ ฐ เชน แบบบญั ญัตนิ ามตามจํานง ยังอีกมากพน รําพนั จะสรรคลง ใหผ คู ดิ คิดเดินโดยประสงค เชิญทานจงดตู ามแผนนั้นเถดิ เอย ฯ | หนา ตอ ไป | บน |http://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct000.htm 14/10/2011
หมากรกุ ไทย Page 1 of 2 | ยอ นกลับ | หนาตอไป |หมากรกุ ไทยขน้ั พ้ืนฐาน อุปกรณใ นการเลน หมากรุกไทย ประกอบดวย 1. กระดานหมากรุก เปนกระดานส่ีเหลีย่ ม มตี ารางสเี่ หลยี่ มจตั ุรสั ดา นละ 8 ชอ ง มีตาบนกระดานหมากรุกไทย 64 ตา ซึ่ง เปน ตาเรยี บธรรมดา(ไมมสี ลบั สดี งั เชน กระดานหมากฮอส ) ขอบกระดานสองขาง จะมีทีส่ าํ หรับใหเ ปนท่เี ก็บตัวหมากรุกท่ีกนิ กนั แลว ตองนําออกมาวางนอกกระดาน 2. ตวั หมากรุก มีรวม 32 ตวั แตละฝา ยจะมี 16 ตัว ตวั หมากรุกจะทาํ เปน สองสีใหเหน็ แตกตา งกนั เชน ดาํ กบั ขาว แดงกบั ดํา ฯลฯ แตก อ นตวั หมากรกุ จะทําดวยไมเ น้ือแขง็ แกะสลักเปน รูปตา งๆ อาจใชเขาสัตวหรืองาชางมาแกะสลกั เปนตวั หมากรกุ ปจ จบุ นั สว นใหญห ลอจากพลาสตกิ รายละเอียดของตวั หมากรุกแตล ะฝา ยมดี งั น้ี ขนุ 1 เมด็ 1 โคน 2 มา 2 เรือ 2 เบ้ยี 8 รวมมฝี ายละ 16 ตัว ผูเลนทั้งสองฝายจะนั่งเผชิญหนากัน มกี ระดานหมากรุกวางอยูตรงกลาง การตง้ั ตวั หมากรกุ และรูปรา งของตวั หมากรกุ แสดงไวในภาพ มีขอสงั เกตคอื เม็ดตอ งตงั้ อยเู บอื้ งขวาของขุนแตละฝา ย เมอื่ เริม่ เลน จะมกี ารเสี่ยงทายวาใครจะไดเปน ผเู ดินกอ น หลังจากน้นั กจ็ ะสลบั กนั เดนิ คนละที การเดนิ ของหมากรกุ แตล ะตัวในรปู จะแสดงใหเ ห็นอํานาจการเดิน และการกินของหมากรกุ แตละตัว ตามปกตหิ มากรุกเม่อื เดินไปตาไหนได ก็จะกินหมากของอีกฝายหน่งึ ในตานนั้ ไดดวย มยี กเวน คือ เบีย้ คว่าํ เวลาเดินจะเดินตรงๆไปขา งหนา ไดท ลี ะหนงึ่ ตา แตถา จะกินตองกินตวั หมากที่อยูในตาทะแยงดานหนา ซายหรอื ขวา เทาน้ัน จะเดนิ ถอยหลงั ไมได และจะกนิ ทะแยงถอยหลงั กไ็ มไ ดhttp://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct001.htm 14/10/2011
หมากรุกไทย Page 2 of 2 | ยอนกลบั | หนา ตอ ไป | บน |http://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct001.htm 14/10/2011
หมากรุกไทย Page 1 of 12 | ยอ นกลบั | หนาตอไป |คําทีเ่ กยี่ วของกับหมากรุกไทยกลหมากรกุ เปนรูปแบบของหมากรกุ ท้งั สองฝา ย ท่ีปรมาจารยหรือผูชํานาญไดคน ควา หรือมปี ระสบการณว า ถา หมากท้งั สองฝา ยตงั้ อยู ในรปู ทก่ี าํ หนด ฝา ยใดเดินกอ นจะเปน ฝา ยชนะ และชนะในกีท่ เี รียกวา เปนกลหมากรุก และยงั มีกุญแจกลเพ่ือบอกวธิ กี ารเดนิ ท้งั การ ไล และการหนีทดี่ ที ส่ี ดุ ไวด วย มักจะเปน หมากรกุ ทเี่ ลน ไปกนิ ไปจนเหลอื หมากนอ ยตวั เรยี กวา หมากรกุ ปลายกระดาน ตรงกบั ภาษาองั กฤษวา end play เม่อื สนใจกลหมากรุกใดก็จะต้ังตวั หมากรกุ ใหต รงตามกล แลวพยายามไลใ หจนตามกาํ หนด ฝา ยหนกี ต็ อง หนใี หไ ดนานตามกาํ หนด กลหมากรกุ ทผี่ ูชาํ นาญไดคนควาไวน นั้ หลายกลจะมชี ือ่ กาํ กับไวดว ย ชอื่ ของกลอาจช้ใี หเ ขา ใจถึง รปู แบบของการตัง้ หมาก หรอื เปน คําอธบิ ายลกั ษณะการเดิน เชน จรเขขา มฟาก ปลาดุกยักเงี่ยง พระรามเขาโกษฐ เปนตน หนังสือกลหมากรุกซง่ึ มคี ณุ คา และถูกอางอิงบอ ยทส่ี ุดเลมหนึง่ คือ ตํารากลหมากรกุ ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ เจา พระยาอภยัราชา มหายตุ ิธรรมธรใหพ ิมพคร้งั แรกเมอื่ พ.ศ.2465 พิมพที่โรงพิมพไ ท ซึ่งพระเจา บรมวงศเธอ กรมพระยาดํารงราชานภุ าพ ทรงพระนิพนธคํานํา เมอ่ื วนั ท่ี 2 พฤศจิกายน พระพทุ ธศกั ราช 2465 ซ่งึ ในบทความนก้ี ็ไดอ ัญเชิญท้งั คํานาํ และตาํ นานหมากรุกไทยไวทั้งหมดและเปนอักขระ สะกด การนั ตต ามของเดิมดวยการนบั เมื่อเลน หมากรุกไปจนทง้ั สองฝา ยตา งเหลือตัวนอยไดเ ปรยี บเสียเปรียบกนั ไมม าก และทัง้ สองฝายตองไมมเี บ้ียคว่าํ หากจะ ใหเ ลน ตอไปโดยไมมีกาํ หนดก็จะเปน การเสยี เวลา จงึ กาํ หนดใหมี การนบั โดยฝา ยทเ่ี ปนรองจะขอใหมกี ารนบั และจะเรม่ิ นับเม่ือมี การรอ งขอ ในกรณีนีจ้ ะนับต้งั แต 2 เมื่อถกู ขอใหนบั ไปจนถึง 64 เทา กับจํานวนตาในกระดานหมากรกุ เรียกการนบั แบบนี้วา นบั ตาม ศกั ด์ิกระดาน ถานบั ไปถึง 64 แลว ฝา ยไลยังไมส ามารถไลใ หจนได ถอื เปนเสมอกัน ถา ฝายเสยี เปรยี บเหลือ เพยี งขนุ ตวั เดยี ว ฝายไดเ ปรยี บมีตวั มากกวา และไมมีเบย้ี ควา่ํ กตกิ ากาํ หนดใหม กี ารนับ วิธนี ับ ตอง นบั ตัวหมากรุกทัง้ หมดทม่ี ีอยูใ นกระดาน รวมขนุ ทง้ั สองฝา ย เมอ่ื ฝายหนเี ดนิ ครัง้ แรกก็ ใหนบั ตอ จากจาํ นวนตวั หมากรกุ ท่ีมีอยูใ น กระดานขณะน้นั และนับตอ ไปจนถงึ กําหนดสงู สดุ ตามศักดขิ์ องตวั หมากรุกทฝี่ ายไลม อี ยูเรยี กวา ศักดห์ิ มาก โดยใชเกณฑด งั นี้ มี หลักจาํ งา ยๆวา เรือ 26 โคน 44 มา เม็ดหรือเบ้ียหงาย 64 มีรายละเอียดคือ เรือคู 8 เรอื เดยี่ ว 26 โคนคู 22 โคนเดี่ยว 44 มา คู 32 มา เดยี่ ว 64 เบยี้ หงายไมว ากี่ตัว 64 (โคน 2 มา 2 เบ้ียหงาย 2 นับ 44 มา 2 เบ้ยี หงาย 3 นบั 64 เรือ 2 เบี้ยหงาย 2 นบั 8 ถอื การนับหมากท่ีมีศักดส์ิ งู ทีส่ ดุ )http://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct002.htm 14/10/2011
หมากรุกไทย Page 2 of 12 รปู ที่ 1 รปู ที่ 2 ตวั อยา ง ฝา ยขาวเปนฝายเดนิ กอน รูปที่ 2 ยงั ไมเ รมิ่ นับเพราะฝายดาํ ยังมีเบ้ยี ควาํ่ อยู สมมตฝิ า ยขาวเดนิ เรือกินเบ้ยี ควา่ํ จะมหี มากเหลือรวม 5 ตัว ตามรูปที่ 2 ฝายดาํ เม่อื เดนิ หนคี รัง้ แรกจะเริม่ นบั 6 เมื่อนับไปถงึ ทีที่ 8 ถา ฝา ยขาวรกุ จนได ถือวา ฝา ยดาํ แพ ถาฝายดําสามารถเดินนับ 9 ได ถอื วา เสมอกัน โดยไมตองเดินตอ ตามตวั อยา งน้ี ถาฝายขาวยังไมก นิ เบย้ี ควา่ํ ในตอนแรก กส็ ามารถไลใ หจ นไดโ ดยไมตอ งนบักิน หมายถงึ การเดนิ หมากของฝา ยหน่งึ ในเขตอํานาจของหมากตัวน้ัน ไปกนิ หมากฝายตรงกนั ขามได โดยฝา ยกนิ ตอ งวาง หมากลงไปบนตาของหมากทถ่ี ูกกิน และยกหมากตัวท่ีถูกกนิ ออกนอกกระดาน หมากตวั ทจ่ี ะถูกกนิ ตอ งอยูในเขตอาํ นาจของหมาก ทจ่ี ะกนิ ฝา ยตรงขา มก็จะกินตอบแทนไดใ นทํานองเดียวกนั ในกรณกี นิ ปกติ หมากตัวใดเดนิ ไดอ ยางไรกก็ นิ ไดตามตาท่สี ามารถเดินไปไดแ ตม ขี อ ยกเวนคือเบีย้ คว่าํ ซ่ึง เวลาเดนิ เดินตรง ไปขา งหนาทลี ะตา แตเ วลากนิ ตองกนิ ตาทะแยงดานหนา ซา ยหรือขวาไดส องทิศ แตถาเบ้ยี ควํ่าตวั นั้นหงายเปนเบี้ยหงายแลว สามารถเดนิ และกินตาทะแยงไดท ้ังสี่ทศิ และไมอ าจเดินตรงๆเหมอื นเบ้ียควา่ํ อนงึ่ กติกาหมากรกุ ไทยไมไดบงั คับวา เมอ่ื ถึงตากนิ แลว ตองกนิ จะกนิ หรอื ไมก นิ กแ็ ลวแตผูเลนกินรกุ กิน ในขณะท่ฝี ายหนึ่งกนิ หมากของอกี ฝา ยหนึง่ และตาทกี่ นิ นนั้ เปนตาท่ีรุกขนุ ไดดว ย เรียกวา กินรกุ (กินดวย รกุ ดวย)กินสอง ในการเลน ปกติถาฝายหนึ่ง กนิ หมากของอีกฝา ยหน่งึ ไปหนง่ึ ตัว อกี ฝา ยหนึ่ง ก็นาจะกินหมากของปรปกษเ ปน การตอบแทนเรยี กวา กนิ แลกเปลีย่ นกนั ถา ฝา ยหน่งึ ฝายใด สามารถกินหมากฝายตรงขามไดสองตัว โดยเสยี หมากของตนไปเพยี งหนึง่ ตัวเรียกวา กินสอง ถอื เปนการไดเ ปรยี บอยางหนึง่ ถาตัวทไ่ี ดกนิ สองตวั มานัน้ มีศกั ดิ์สงู ฝายทเ่ี สยี หมากไปสองตัว โดยไดกินคนื มาเพยี งตัวเดยี วเรยี กวาเสียสองแกท ี เปน ที ในการไลหมากรกุ ปลายกระดาน จะมขี ณะหน่ึงซึง่ ตัวหมากจะตงั้ เหมือนกนั แตถ า ฝายไลเ ดนิ กอน จะไลจนโดยเรว็ ฝายหนเี ดนิกอ นจะยงั ไมจ น เรยี กวา หมากเปนที ฝายไลถามีประสบการณกจ็ ะมีวิธแี กทไี ด ฝา ยหนีกต็ องพยายามหนใี หเปน ที เพือ่ ฝา ยไลท ี่ประสบการณนอ ยจะไดไ ลไมจ นเรว็ เมอื่ หมากเปนที ฝา ยไลจ ะตอ ง แกท ี คือปรับจงั หวะการเดินใหถูก เพื่อใหส ามารถไลจ นไดใ นเวลาอนั รวดเร็ว การแกท ี มหี ลักวาพยายามบังคับขนุ ฝา ยหนใี หเดนิ อยใู นตาทจ่ี ํากัด เชน ฝายไลจะเดนิ ขนุ ใหเปนรปู สามเหลี่ยม คือเดินตาตรงสองคร้งั เดินทะแยงหนงึ่ คร้ังหรือถา มหี มากหลายตวั ฝา ยไลอาจเดนิ หมากตัวอ่นื เสยี หนงึ่ ครง้ั เปนการปรบั จังหวะ ขนุ ฝายหนจี ําเปน ตอ งเดิน และจะเปนการแกท ีแบบงา ยๆ การแกท ีนี้ บางกรณสี ลบั ซับซอ นผสู นใจตองดจู ากกลหมากรุก ท่ีผูช าํ นาญไดคน ควาแสดงไว ตวั อยา ง ทั้งสองรปู ฝา ยขาวเดนิ กอน ถาดําเดนิ กอ นจะตอ งเดนิ ขุนดาํ เขา มุม ฝา ยขาวจะรุกดว ยโคนทีเดยี วจน แตเ มอ่ื ฝา ยขาวตอ งเดินกอน จงึ เรยี กวา หมากเปน ที หรอื เปน ที ในรูปที่ 2 มหี มากตวั อ่ืนดวย ฝา ยขาวเพยี งเดนิ เบ้ียหงายหลงั โคนไปตาใดก็ได ฝา ยดําก็จะhttp://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct002.htm 14/10/2011
หมากรุกไทย Page 3 of 12ตองเดนิ ขุนเขามุม ฝา ยขาวรุกดว ยโคนจน เรียกวา เปนการแกที หรือแกจ งั หวะเดนิ อยา งงาย ในรูปที่ 2 ไมม หี มากตัวอนื่ ตอ งเดนิ ขุนขาวเปนรปู สามเหลยี่ ม คือเดนิ ตาตรงสองครัง้ ตาทะแยงหนง่ึ ครั้ง ขุนขาวจะกลบั ทเ่ี ดมิ แตขนุ ดําจะเปล่ยี นที่ หายเปนที ฝา ยขาวก็จะรุกจนได รูปที่ 2 รูปที่ 2ขาด หมายถึง ตวั หมากทไี่ มอ ยใู นเขตอาํ นาจของหมากฝายเดียวกัน คือไมมหี มากตวั อ่นื มาผูก ถา ฝายตรงขา มมากนิ หมากตัวนีไ้ ด ก็จะไมมโี อกาสกนิ ตอบแทน ถอื วาถูกกินเปลา หรอื กนิ ฟรี ถาหมากตัวนัน้ อยูไกลจากขุนหรอื หมากตวั อน่ื ฝายเดียวกัน บางคร้ังเรยี กวาลอย หรือหมากลอยข้นึ หมายถึงการเดนิ หมากรุกตวั แรก ตอนตนกระดาน อาจมกี ารเสี่ยงทายวา ใครจะเปน ผขู น้ึ กอ น หรือเดนิ กอ น หรอื ขน้ึ หมากกอ นแตล ะคนกจ็ ะมีลีลาการเดนิ ในตอนตนเกมของตนเอง ตวั อยางเชน เปดหมากหรือขน้ึ หมากแบบมา ผกู ในรูปที่ 2 ข้ึนหมากแบบมา เทียมในรูปท่ี 2ขุนอับ หมายถงึ การที่ขนุ ไมสามารถเดินได หรอื ไมม ีตาเดิน โดยไมถ ูกรุก ถาขนุ ฝา ยหนง่ึ ฝา ยใดอับ และตองไมม ีหมากตัวอนื่ เดนิ ไดดวย ใหถอื วาหมากรกุ กระดานนนั้ เสมอกัน ไมวาจะมีหมากไดเ ปรียบเสยี เปรยี บอยา งไร ตามตัวอยางในรปู แรก ถอื วา เสมอกัน เพราะขุนอบั และไมม ีหมากตวั อื่นที่จะเดินได แตถายังมีหมากตวั อืน่ เดินไดต ามรปู ที่ 2 กต็ อ งเดนิ หมากตัวอน่ื และฝา ยตรงขา ม อาจเดนิ หมากมารุกขุนท่ีอยูในทอ่ี บั น้ันใหจ นได และถอื เปนแพ ไมใชเสมอhttp://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct002.htm 14/10/2011
หมากรุกไทย Page 4 of 12โคน เปนช่อื ของตวั หมากรกุ ไทย ฝา ยหน่งึ จะมีโคน สอง ตวั บางทเี รยี กวา คน เพราะเขาใจวา นาจะเปนเหลา ทัพ มที ัพมา ทัพเรือ และทัพคน แตปจจุบันสว นมากเรยี กวา โคน บางตาํ ราทเ่ี รียกวา โคน อธิบายวาไดพ ฒั นามาจากตัวหมากรกุ สมัยโบราณ เดมิ เปนชา งคน ดโู คนคู หมายความวา มสี องตัว ภาษาหมากรกุ มกั ใชค ําวา คู แทนสองตวั เชน โคนคู มา คู เรอื คูจน หมายความวา ขุนถกู รกุ และไมม ตี าเดนิ ไมส ามารถเดนิ หนีออกจากตารุกไดถอื วาจน และเปนฝา ยแพรุก หมายความวา ฝายหน่ึงเดนิ หมากตัวใดตวั หนึง่ ยกเวนขุน เดินเขาไปถงึ ตาท่ขี ุนของฝายตรงขาม อยใู นเขตอาํ นาจของหมากตวัน้นั หรอื หมากตัวท่ีมารกุ จะมากนิ ขุนนน่ั เอง ขนุ ฝา ยทีถ่ กู รกุ จะตองแกไ ขดวยการหนีไปจากตาทีถ่ ูกรุกน้นั หรือกนิ หมากตัวทม่ี ารกุหรือในกรณีเรือ อาจหาหมากตัวอื่นมาปดทางเรอื เปน ตน ถาไมม ีตาหนี และไมสามารถแกไขใหก ารรุกยตุ ิได ถอื เปนแพ เรยี กวา จน ขนุจะรกุ ขนุ ดวยกนั เองไมไดจบั ตัววางตาย เปนภาษาพูดหรอื กตกิ า กาํ หนดวา ถาจบั หมากตัวไหนตองเดนิ ตวั น้ัน และเมื่อวางลงไปตาไหน ใหถอื วาเดนิ ไปตานนั้ เปน แนนอน เปลย่ี นไมไดตากด ฝายหนึง่ เดนิ เรือไปไวในแถวเดียวกบั ขนุ ฝายตรงขา ม เรียกวา เรือกด เปน การเดนิ หมากเชงิ ไดเ ปรียบ เพราะขุนฝายทอ่ี ยูในตากดไมอ าจเดินหมากตวั ท่อี ยหู นา ขนุ ได เพราะถูกเรือกดบังคบั รกุ อยู ตามตัวอยา งตาโปง ปกตมิ าจะตอ งเดินตามแบบตามา แตบ างครั้งผูเลน มือใหม หรอื มอื เกาอาจเผลอเดินมาเปน ตาทะแยงมุม เรียกวาเดินตาโปง หรอืตาโปรง ตามตัวอยา งhttp://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct002.htm 14/10/2011
หมากรุกไทย Page 5 of 12ถูกมุม มักใชก บั เบ้ียหงาย หรอื เม็ดถาเบ้ยี หงายตัวใด สามารถเดินเขา ตามุมกระดานได เรยี กวา เบ้ยี ถูกมมุ ถา ไมส ามารถเดนิ เขามุมไดเรยี กวาเบี้ยไมถูกมุม ถาเปนเบี้ยคหู นง่ึ ผกู กนั เรียกวา เบ้ียผูก ถาเขา มุมไดก็เรียก เบี้ยผูกถกู มมุ ตามตวั อยา ง มีประโยชนใ นการไลตอนปลายกระดาน เบีย้ ถูกมมุ ไมถ ูกมมุ มวี ธิ กี ารไลแ ตกตางกัน ตามตวั อยา ง เบ้ยี หงายขาวถกู มุม ซ่ึงจะถูกมมุ ทีอ่ ยตู รงกนั ขามดว ย แตถา เดนิ มาท่ีมมุ ดา นขวา เบี้ยหงายตัวเดยี วกนั นี้ จะเปนเบี้ยหงายไมถกู มมุ และจะไมถูกมมุ ทีม่ ุมตรงกนั ขามดวยเชนกนั เพราะฉะน้ัน บางครง้ั การไลท จี่ ําเปน ตองใชเบยี้ หงายที่ถกู มมุ จงึ จะไลใหจนได ผูชาํ นาญจะหนไี ปมมุ ทเ่ี บีย้ หงายไมถกู มุม แตผไู ลที่ชํานาญตอ งพยายามไลบ ังคบั ฝา ยหนี ใหไ ปมุมท่เี บย้ี หงายถูกมมุ เร่อื งนี้เปน จดุเดน นา สนใจของหมากรุกไทยนางแพลม หรอื อังแพลม เบี้ยควา่ํ ของฝายหนงึ่ ถาเดินไปหรือกินหมากของฝา ยตรงขาม พอดีถงึ แถวตงั้ เบยี้ ควาํ่ ของอกี ฝายหน่งึ ได ก็จะมสี ิทธหิ งาย และจะมีอาํ นาจเหมอื นเมด็ ในขณะทเี่ บีย้ ควา่ํ จะหงายเปน เบ้ียหงายนั้นเรียกวา องั แพลม อแี พลม นังแพลม หรือนางแพลม และถา เบ้ียคว่ําท่ีเพง่ิ หงายนั้นไปทําหนาทด่ี วยเชน รุก หรอื วารุกจน จะเรียกวา รุกดว ยอังแพลม หรอื รกุ จนดว ยองั แพลมผกู หมายความวา หมากตวั หนึ่ง อยูใ นเขตอาํ นาจของหมากตวั อื่นคุมอยู ถาฝา ยตรงขา มมากินหมากตัวนั้น หมากฝายเดยี วกันท่ผี กูอยหู รือคุมอยู กจ็ ะสามารถกินตอบแทนไดท นั ที เชน เบ้ยี ควํา่ อาจผกู หรอื คมุ มาอยู ขนุ ของอกี ฝายไมอ าจมากินมาได เปนตน มา อาจผูกเรือไว เบีย้ หงายคหู นึง่ ของฝายเดียวกัน ถาอยูในตาทะแยง สามารถคมุ หรอื ผกู กนั เองได เรยี กวา เบย้ี ผูก หรอื มาฝายเดยี วกันคูห น่ึง ตางอยูในตามาของกันและกันก็เรียกวา มา ผกูฝา ยไล ถาสองฝา ยมตี ัวหมากรกุ ไมเ ทากัน ฝายท่ีมกี าํ ลังมากกวา จะไดเปรยี บหรือหมากเปนตอ เรยี กวาเปน ฝายไลฝายหนี ฝา ยท่มี หี มากรวมแลว มกี าํ ลังดอ ยกวา หรอื หมากเปนรองจะเปนฝา ยหนีเดิน คือการเคลื่อนกาํ ลงั ของตัวหมากรกุ ไปตามเขตอาํ นาจ แตละฝายตอ งผลัดกันเดนิ คนละคร้ัง สาํ หรับการเดินครง แรกในการแขงขันตอ งมกี ารเสย่ี งทายวา ใครจะไดเปนผเู ดนิ กอนหรือขึ้นกอ น เพราะการเดินกอ นอาจชวงชิงความไดเ ปรยี บไดhttp://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct002.htm 14/10/2011
หมากรกุ ไทย Page 6 of 12เดนิ กอน ในการแขงขนั ผูท ีเ่ ส่ียงทายแลวไดเ ปน ผเู ดนิ หมากกอนเรยี กวาเปนผเู ดินกอนเด่ยี ว หมายถงึ มหี นึง่ ตวั หรอื ตัวเดยี ว ในภาษาหมากรุกมักใชค าํ วา เด่ียวแทนหนง่ึ ตัว หรือตวั เดียว เชน มาเด่ียว โคนเด่ียวเทยี ม หมายความวา อยูเ รียงหนาเสมอกันคกู ัน ถา เปน เบ้ยี หงายฝา ยเดยี วกันคูห นง่ึ ถาเดินมาชิดกันไดเรียกวา เบยี้ เทียม ถาเดินมาใกลกันในรูปทะแยงจะเรยี กวาเบีย้ ผูก หรอื เดินมามาอยเู รยี งกนั ก็เรยี กวามา เทียม ถา มา อยตู ามา ดว ยกนั เรียกมาผูกเบยี้ ผกู เบ้ียสองตัวหรือหลายตัวเมอื่ เดินมาใกลก ันไมอ าจมาเรียงตดิ กนั ได แตอ ยตู าทะแยงเบ้ยี สงู หลังจากการข้นึ หมากแลว ฝา ยหนึ่งสามารถเดนิ เบีย้ คว่ําข้ึนไปสูงอกี หนึง่ แถวได เรียกวาขึ้นเบี้ยสูง ถา สามารถรักษาไวไมใหเ สยีเบ้ียสูงนัน้ ไปถือวาเปน การไดเ ปรียบเบ้ยี หงาย ตัวหมากรุกตามปกติจะมเี ฉพาะเบี้ยคว่าํ แตเบ้ยี ควํา่ ของฝา ยหนึ่ง ถาสามารถเดนิ ขึ้นไปถึงแถวตงั้ ของเบีย้ ควาํ่ ของอกี ฝา ยหนึ่งไดกจ็ ะไดรับการสถาปนาเปน เบย้ี หงาย ทําหนา ทีเ่ หมอื นเม็ด ในขณะทเ่ี บ้ยี คว่าํ เปลย่ี นสภาพเปนเบยี้ หงายน้ันเรียก อังแพลมเปน ตอ เมื่อเลนหมากรุกไประยะหนึ่ง ฝา ยท่เี หลือหมากมกี าํ ลงั รวมมากกวา เรียกวา เปน ตอ หรือแมม หี มากไลเ ร่ียกนั แตมที างเดินทีด่ ีกวาหรือไดเ ปรียบกวา ก็เรยี กวาเปนตอ ฝา ยตรงขา มทีม่ ีกําลงั นอ ยกวาหรืออยูในทางเดินทีไ่ มด ี เรยี กวาเปน รองเปน ที ในการไลหมากรุกปลายกระดานจะมีขณะหนง่ึ ซงึ่ ตวั หมากจะตง้ั เหมอื นกัน แตถาฝา ยไลเ ดินกอนจะไลจ นโดยเร็ว ฝา ยหนเี ดินกอ นจะยงั ไมจน เรยี กวา หมากเปนที ฝา ยไลถา มีประสบการณก จ็ ะมวี ิธีแกท ไี ด ดูแกที ฝายหนีก็ตอ งพยายามหนีใหเปนที เพื่อฝายไลท ี่ประสบการณนอ ยจะไดไลไมจ นเร็วhttp://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct002.htm 14/10/2011
หมากรกุ ไทย Page 7 of 12 ตวั อยา ง ทัง้ สองรปู ฝา ยขาวเดินกอน ถา ดําเดินกอน จะตองเดินขนุ ดําเขามมุ ฝา ยขาวจะรกุ ดว ยโคนทีเดยี วจน แตเมือ่ ฝา ยขาวตอ งเดินกอน จงึ เรียกวา หมากเปนที หรอื เปน ที ในรูปท่ี 2 มีหมากตวั อ่ืนดวย ฝา ยขาวเพียงเดินเบ้ียหงายหลังโคนไปตาใดกไ็ ด ฝา ยดาํ ก็จะตอ งเดนิ ขุนเขา มุม ฝา ยขาวรกุ ดวยโคนจน เรียกวา เปนการ แกท ี หรอื แกจงั หวะเดนิ อยางงาย ในรูปที่ 2 ไมม ีหมากตวั อ่นื ตอ งเดนิ ขุนขาวเปนรปู สามเหลยี่ ม คือเดินตาตรงสองครง้ั ตาทะแยงหน่งึ คร้งั ขุนขาวจะกลับทเ่ี ดิม แตขนุ ดําจะเปลย่ี นท่ี หายเปนที ฝายขาวกจ็ ะรุกจนได รปู ที่ 2 รูปท่ี 2เปนรอง ฝา ยทเี่ หลือหมากมกี ําลังรวมนอยกวา หรืออยใู นทางเดนิ ท่แี คบกวาปด รกุ ดูรุก เมื่อขนุ ฝายหน่ึง ถกู อกี ฝายหน่งึ รกุ ดวยเรอื ฝายทถี่ กู เรอื รกุ เอาหมากตวั อืน่ มาปด ทางเรอื เรียกวา ปดรุก ถอื วา การรกุ ดวยเรอื ขณะนั้นยุติปดรกุ รุก ถา หมากตวั ทเี่ อาไปปดทางเรือ นน้ั เมอื่ ปด แลว ทําหนา รกุ ขุนอกี ฝายหนง่ึ ในขณะเดยี วกัน เรยี กวา ปดรกุ รุก คือปด รกุ แลวรกุเปนการตอ สูดวย ตามตวั อยางขางบน เรือขาวรุกขุนดาํ ถา ฝายดําเดนิ โคนดํามาทตี่ าขางขุนดํา เรียกวา ปด หรอื ปด รกุ แตถ าเดนิ มามาที่ตาเดียวกันนอกจากปด ตาเรือแลว ยังทําการรุกขนุ ขาวเปน การตอบแทนดวย เรยี กวา ปด รุก รุก คอื ปดรกุ และรุกฝา ยขาวดว ยเปด รุก เมือ่ ขุนดาํ อยูในตากด และในทางเรอื ของฝา ยขาวมีหมากของฝายขาวขวางอยู เชนโคน ตามตวั อยา ง ถาฝา ยขาวเดินโคนถอยหลงัตาทะแยงมาหลงั ขุนขาว เรือจะทําหนาทร่ี กุ ทนั ที เรยี กวา โคน เปด รุก แตถาเดินโคนตาทะแยงไปท่หี นา ขนุ ขาว ก็เปนการเปดรกุ เชน กนัแตโคนทําหนา ท่รี กุ ดว ย จงึ เรยี กวา โคน เปดรกุ รุก คือท้ังเปดรกุ โดยเรอื พรอ มกับรกุ ดวยโคนพรอ มกนั ทําใหย ากแกก ารแกไขhttp://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct002.htm 14/10/2011
หมากรกุ ไทย Page 8 of 12เปดรุก รกุ ดู เปด รกุเปดหมาก หมายถงึ ลลี าการเดินหมากตอนตน กระดาน เพื่อวางแผนชวงชิงความไดเ ปรียบ มีรูปแบบการเปด หมากหลายอยาง เชน การเปดหมากแบบมาผกู หรือแบบมา เทยี ม เปนตน ดู ข้นึเม็ดเดิม หมายถึง เม็ดตวั เดมิ ตั้งแตเริ่มเลน หมากรกุ กระดานนนั้ ถาสามารถไลจ นดวยเมด็ ที่มมี าแตแรก เรียกวา ไลจนดวยเมด็ เดิม ถา เมด็เดมิ ถูกกนิ ไป และตอมาภายหลงั เดินเบีย้ คว่ําไปหงายเปน เบ้ยี หงาย ซึง่ มอี าํ นาจเหมอื นเมด็ ทุกประการ แตไมเ รียกเบยี้ งหงายตวั ใหมวาเมด็ หรอื เม็ดเดมิ คงเรยี กวาเบยี้ หงาย ผชู ํานาญจะใหความสําคญั และรักษาเมด็ ไวเปนอยางดี เพราะชว ยคมุ กนั ปองกันขุนไดใ นหลายกรณีเรอื ลอย หมายถงึ เรือทไ่ี มอ ยูในเขตอาํ นาจของหมากฝา ยเดยี วกนั คอื ไมมหี มากตวั อ่ืนมาผกู หรอื มาคมุ ไว ถา ฝา ยตรงขามมากินเรอื ตวั น้ีได กจ็ ะไมม โี อกาสกนิ ตอบแทน ถือวา ถกู กนิ เปลา หรอื กินฟรี ยงิ่ ถาเรอื ตวั นนั้ อยูไ กลจากขนุ หรือหมากตวั อ่นื ฝา ยเดยี วกัน บางคร้งั เรยี กวา เรือลอย ผูมีประสบการณ จะเดนิ หมากรกุ ใหห มากแตละตัวผูกหรอื คุมอยา งรัดกุมเสมอ มีเรอ่ื งเลาวา ขณะทค่ี ุณลงุ ผูมีประสบการณสงู เลน หมากไมเ คยขาด กําลังเลน หมากรุกอยอู ยางเพลดิ เพลนิ จริงจงั มีเดก็ มาบอกวา ลงุ เรอื ลอย คณุ ลุงบอกวา เรือไมล อย เอามาผูกอยูกวา จะรูวา เรอื ที่คุณลงุ พายมาเลน หมากรุกจอดไวท่ที านาํ้ นน้ั โซขาด เรือลอยไป เรือของคุณลุงกล็ อยตามนา้ํ ไปไกล เสยี เวลานานกวา ตามเรือได ปจจุบันกย็ ังใชเ ปน ที่เลาขานกันอยูhttp://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct002.htm 14/10/2011
หมากรุกไทย Page 9 of 12 ตามตัวอยาง เรือดาํ ลอย ไมมีหมากตวั อน่ื มาผกู หรอื คมุ กัน แตเ รอื ขาวมีเบยี้ หงายผูกอยูมา ขโมย เปนลลี าการขนึ้ หมากแบบหนง่ึ ทีเ่ ดนิ มาขนึ้ สูงสามารถไปจบั เบีย้ ไดถึงสองตวั ทําความลาํ บากใหฝายตรงกันขา ม ดรู ูปประกอบฝา ยดาํ ขน้ึ หมากแบบมา ขโมยมาผกู เปนลีลาการเดนิ หมากตอนตนกระดาน โดยเดินมา ใหอ ยใู นตาท่มี าผกู กนัมาเทยี ม ดู เปด หมาก ขน้ึ หมาก เปน ลลี าการเดนิ หมากตอนตนกระดาน โดยเดินมา ใหดาหนา เรยี งกนั ทัง้ คูไมถ ูกมุม มกั ใชกับเบ้ยี หงายหรอื เม็ด มีความสาํ คญั ในตอนไลใหจ นในปลายกระดาน การที่เบี้ยถูกมกุ หรือไมถกู มุมมวี ธิ ีการไลตา งกนั ไมถกู มมุ หมายถึงเบยี้ หงายท่ีเดินไป ณ มุมนน้ั ไมส ามารถเดินเขา ตามมุ กระดานไดรกุ หมายความวา ฝายหนึง่ เดนิ หมากตัวใดตวั หนึง่ ยกเวน ขนุ เดินเขาไปถงึ ตาทีข่ ุนของฝา ยตรงขา มอยใู นเขตอาํ นาจของหมากตวั นน้ัหมายความวา หมากตวั ท่ไี ปรกุ นั้นจะกินขนุ ขุนฝายทถี่ กู รกุ จะตองแกไขดวยการหนีไปจากตาที่ถกู รกุ นนั้ หรอื กินหมากตัวทีม่ ารกุ หรอืในกรณเี รอื อาจหาหมากตัวอื่นมาปดทางเรือ เปน ตน ถา ไมมตี าหนี และไมสามารถแกไ ขใหการรกุ ยตุ ไิ ด ถอื เปน แพ เรยี กวา จน ขนุ จะรกุ ขุนดว ยกันเองไมไดรุกกนิ เรอื ในขณะทเี่ ดินหมากตวั ใดตวั หน่งึ ไปรุกขนุ ฝายตรงขามและในชณะเดยี วกนั กับท่รี ุกอยกู เ็ ปน ตาทส่ี ามารถกินเรือไดด วย เรยี กการรุกน้นั วา รุกกนิ เรือ และเชน เดียวกัน ถา รุกแลว สามารถจะกินตัวอ่นื กเ็ รยี กในทํานองเดยี วกนั เชน รกุ กินโคน รุกกินมา ฯลฯ ถาตัวทร่ี กุเปน มามกั เรียกวา รกุ ฆาต แตจ ะใชกบั หมากที่รุกตัวอื่นดวยกไ็ ดรุกฆาต มักใชก บั มา เมอื่ เดินมา ไปรกุ ขนุ ฝา ยตรงกนั ขาม ขณะท่ีรุกขนุ อยนู ั้น มหี มากตวั อ่ืนทอี่ าจจะถกู มา กินไดอกี ดว ย กรณีท้ังรกุ และอาจกินตัวอ่นื ไดน้ีเรยี กวา มา รกุ ฆาต เชน อาจจะรุกฆาตกินโคน หรอื รุกฆาตกินเรือ เปน ตน รกุ ฆาตอาจใชก บั หมากตัวอืน่ นอกจากมา ไดดวย ผเู ลน หมากรกุ ฝม อื ดี จะสงั เกตอยเู สมอวา ขุนกับหมากตวั อืน่ ของตน โดยเฉพาะเรือจะอยใู นตาที่เขา เกณฑถกู มารกุ ฆาตไดหรอื ไม ผูทเ่ี ดนิ มาเกง จะสามารถเดินมา ใหรุกฆาตกนิ เปลาหมากของฝายตรงขามไดบอยๆhttp://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct002.htm 14/10/2011
หมากรกุ ไทย Page 10 of 12ลอย ลอย หมายถึง ตัวหมากทไี่ มอยูใ นเขตอํานาจของหมากฝายเดยี วกนั คอื ไมม ีหมากตวั อ่นื มาผูกหรอื มาคมุ ไว ถาฝายตรงขา มมากินหมากตวั น้ไี ดกจ็ ะไมมีโอกาสกินตอบแทน ถือวาถกู กินเปลาหรอื กนิ ฟรี ถาหมากตวั นน้ั อยูไกลจากขุนหรือหมากตัวอื่นฝา ยเดียวกันเรียกวา ลอย หรอื หมากลอยศกั ด์ิกระดาน ในกระดานหมากรุก มตี าเดินรวม 64 ตา ในการนบั เพื่อเปนการตดั สนิ วาฝายไดเปรียบ จะสามารถไลฝ ายเสียเปรยี บใหจ นในกาํ หนดไดห รือไม ถา ไลจนในกําหนดถือวา เปนฝายชนะ ถาไมส ามารถไลจ นในกาํ หนด กถ็ อื วาเสมอกัน ไมว า หมากจะไดเ ปรียบมากนอยเพยี งใด ถาหมากไดเปรียบเสียเปรยี บกนั ไมมากเรยี กวา คคู ่ีกนั เชน ฝา ยหนึ่งมเี รือเด่ยี ว อีกฝา ยหนึง่ มีเรือเดี่ยวกบั เบย้ี หงายเดย่ี ว ฝายเสยี เปรียบอาจขอใหมีการนบั และการนับจะตอ งนบั ตามศกั ดิ์กระดาน โดยเรม่ิ นับหน่งึ เมอ่ื มีการขอรองใหน ับ จนถึง 64 ถา นบั ถงึ 64ฝายไดเปรยี บไมส ามารถไลใ หจนได ถือวาเสมอกนั ถารุกจนในตานบั ที่ 64 (สดุ ทาย)ถอื วา ฝา ยไลเปนฝายชนะ และการรุกจนในตานับครง้ั สดุ ทายน้ี ใชเหมือนกันกบั การนบั ตามศักดห์ิ มากตวั อื่นดวย ในขณะทีก่ ําลงั นบั ดว ยศักดิ์กระดานอยูน้นั ถาฝา ยเปน รองหรอื ฝา ยหนี ถกู กนิ หมากอื่นจนหมดเหลอื แตขนุ ก็จะตอ งเปลยี่ นไปนบั ตามศกั ดิ์หมากทันทที ี่ฝา ยหนีเหลอื ขุนตวั เดยี ว ไมน บั ตอ จากศกั ด์กิ ระดาน และตองเรมิ่ นบั ตามกตกิ ารของการนบั ตามศกั ด์ิหมากศกั ด์ิหมาก ในการไลห มากรุกปลายกระดาน ถาฝา ยหนีเหลือขนุ ตัวเดียว ฝา ยไลมตี วั มากกวา และไมมีเบยี้ คว่ํา (ถา ยงั มเี บย้ี คว่าํ เหลอื อยูจะไมมีการนบั ) จะอนญุ าตใหน ับไดเ ทาใดกแ็ ลว แตช นิด และจํานวนของหมากที่มอี ยเู รียกวา ศักดห์ิ มาก โดยมกี ําหนดดงั น้ี เรือคู นับ 8 เรอืเดี่ยว นับ 26 โคนคูน บั 22 โคนเด่ียว นบั 44 มา คู นบั 32 นอกจากน้ันนับ 64 และการเริม่ นับ จะตอ งนบั จาํ นวนหมากทกุ ตวั ทีม่ ีอยใู นขณะจะเร่มิ ไลก อน รวมขุนทงั้ สองฝาย แลวนบั ตอ ไปตามเกณฑด งั กลาว ถามีหมากผสมกันใหน ับตามศักด์ิหมากท่ีสูงสดุสตู รเม็ด ตอนขนึ้ หมากในตอนแรก ถาเลนกนั เองไมใ ชการแขงขนั เมอ่ื เดนิ เมด็ ครง้ั แรกอาจตกลงกนั วา เฉพาะการเดินเมด็ คร้ังแรกใหเ ดนิเม็ดไดคนละสองคร้งั คือ เดนิ ทะแยงสองคร้ัง ผดู จู ะเหน็ วาผูเลน เดินเม็ดครั้งแรกตรงไปขางหนา ทีเดยี วสองตา เรยี กวา สูตรเม็ด แตใ นการแขงขนั ไมอนญุ าตเชน นัน้ ตอ งเดนิ ทีละตาตามเขตอํานาจhttp://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct002.htm 14/10/2011
หมากรุกไทย Page 11 of 12เสมอ หมายถึง ไมแพและไมชนะ หมากรกุ เมื่อเลนไป จนแตละฝา ยเหลอื ขนุ กับหมากตวั อ่ืน ไมมากพอที่จะไลฝายตรงขามใหจนไดสองฝา ยอาจตกลงขอเสมอกันได หรือถา มีตวั หมากรุกที่ไดเปรยี บเสียเปรยี บกันไมม าก ฝายเสยี เปรียบอาจขอใหมกี ารนบั กจ็ ะนับตามศกั ดิ์กระดาน (ดูการนับ) ถานบั ตามศกั ดกิ์ ระดานแลวยงั ไลไมจน ถอื วา เสมอ หรือฝายหนเี หลือขุนตวั เดยี วฝา ยไลมหี มากมากกวา และไมมีเบ้ียคว่ํานบั ตามศักดิ์หมากแลว ไลไมจนถือวา เสมอ หรือฝายไลเ ดินหมากและทาํ ใหข นุ ฝา ยหนอี บั โดยไมถกู รกุ และไมมีหมากตัวอ่นื ท่ีจะเดนิ ได ถือวา หมากรกุ กระดานนน้ั เสมอกันเสียสอง เสียหมากไปสองตัวโดยไดก ินคืนมาเพยี งตัวเดยี ว ดู กนิ สองหงาย เบี้ยคว่าํ ของฝา ยหนึ่ง ถาเดนิ ตรงไปขางหนา ถงึ แถวตงั้ เบี้ยของฝายตรงขามได เบี้ยควํา่ ตัวนัน้ จะไดร บั สถาปนาใหเปนเบ้ียหงายโดยหงายเบ้ียตวั นนั้ ทําหนาท่ีเหมือนเมด็ ทุกประการ เบีย้ คว่าํ ทกุ ตวั มีสิทธหิ งายได ขณะจะหงายเบี้ยท่ีควา่ํ อยใู หหงายข้นึ นน้ั เรยี กวา อังแพลม (ดอู งั แพลม)หงายรุก ดู รกุ ขณะท่กี ําลังหงายเบีย้ ควํา่ อยูน น้ั เมอ่ื หงายทันทกี ็อยใู นตาทส่ี ามารถรกุ ขุนฝายตรงขา มไดดวย เรยี กวาหงายรุกหมากปอง เปนการลดแตมตอ ของผูมฝี ม อื ดี โดยฝายที่มีฝมอื ดีตอใหอีกฝายหนงึ่ โดยมีขอ ตกลงกนั วา ถาอีกฝายหนง่ึ สามารถรุกขนุ ของฝายมีฝมือดจี นตองเดนิ ขนุ เพ่ือใหห นีจากตารุกถือวา ฝา ยฝม อื ดีเปนฝา ยแพท ันที คาํ เต็มนา จะมาจากคําวา หมากปอ ง(กนั ) แตฝา ยมฝี มือดจี ะตองเดนิ หรอื ไลอ กี ฝายหน่งึ ใหจนตามกตกิ าเดิม นับวาเปนการลดแตม ตอ ท่ีนา สนใจ เพราะอกี ฝายหน่ึงอาจเอาชนะได แมม ตี วั เหลือนอย เชน เหลือเบี้ยหงายเพยี งสองตัวก็อาจเอาชนะหมากปอ งได เพราะเพยี งแตต อ งทาํ ใหขนุ เดนิ หนีจากตารกุ เทา นน้ั การตอแบบนี้อาจเรียกวา การรกุ ขุนใหเคลื่อนที่ก็ได การตอ แบบนี้ ขนุ ฝายฝมอื ดีจะเดินไปได เพียงตอ งระวงั ไมใหถ ูกรุกจนตอ งเดินขุนเทา นั้น เคยมีการตออีกแบบวา ขุนไมเ คล่ือนทีอ่ อกจากทต่ี ้งั เลย ถาอกี ฝายหนึ่ง สามารถทาํ ใหขุนฝา ยฝมือดตี อ งเดินออกจากทตี่ ้ังได กถ็ อืเปน ชนะ การตอ แบบนี้ ความสามารถของทั้งสองฝา ยคงแตกตา งกนั มาก อาจมีการตอ กันแบบอื่นๆอกี ได เชน ลดเบ้ียหนา เม็ด ลดเบยี้หนาโคน ยกเม็ด ยกเรือท้งั คู หรือยกเรือเดี่ยว หรือลดเรือเปน เบยี้ หงาย สดุ แตจะตกลงกนั เพ่ือใหการเลนไดสนุกใชความสามารถเตม็ ที่ทัง้ สองฝา ยหมากเปนที หมากรุกเปนที ดู เปน ที แกท ีหมากกล ดู กลหมากรกุหมากรุกกล ดู กลหมากรุกหมากรุกคน นบั เปน มหรสพหรือการแสดงอยา งหน่ึง โดยจะมผี ชู าํ นาญเลนหมากรุกกันอยจู ริงๆ และในสนามขางลา ง กจ็ ะจําลองทาํ เวทีใหคลา ยกระดานหมากรกุ ขนาดใหญ มีตวั หมากรุกซึ่งจะใชค นแตงตัวตามแบบนาฎศิลป เชน ขนุ ก็จะเปนพระราชา โคนกจ็ ะเปนนักรบ มากจ็ ะเปนทหารมา มีมา เปน สญั ลักษณ เรือก็เชนกนั เบี้ยก็จะเปน ทหารธรรมดา เมด็ กจ็ ะเปน ขนุ นาง เม่ือกระดานจรงิ เดินหมากตวั ใด ปพาทยก จ็ ะบรรเลงเพลงใหสมฐานะของหมากตวั น้ัน และ ตวั หมากในสนามก็จะเดินหรอื รําไปตามลีลาจังหวะของเพลง เปนทส่ี นุกสนาน เมอ่ื ถกู รุก กจ็ ะมีการตอสูกนั ถาถูกกนิ ก็จะตองตายมีเพลงโอด และตวั หมากทถ่ี กู กนิ จะตองเดินเขา ฉากไปปจจุบันหาดูไดยากหมากรุกปลายกระดาน เมอื่ เลนหมากรกุ ไป กจ็ ะมีการกนิ กนั ของท้งั สองฝาย หมากแตล ะฝายก็จะเหลอื นอ ยตวั ลงไป เมือ่ หมากเหลือนอยตัว ผทู ี่มีความชํานาญในการเลน หมากรุกบางคน สามารถจดจาํ ไดวาถา หมากอยูรูปนัน้ ฝา ยใดจะไดเปรยี บ และควรจะไลอยา งไร เรียกหมากรกุ ท่เี หลอืตัวนอ ยวา หมากรกุ ปลายกระดานhttp://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct002.htm 14/10/2011
หมากรุกไทย Page 12 of 12หมากรุกชน้ั เดียว สองช้ัน สามช้ัน ผูท ่ีเลนหมากรุกเปนใหมๆ นึกอยากจะเดนิ หมากตวั ไหน หรือเห็นวาเดินไปแลว จะดี ก็จะเดนิ ไปเลย บางครงั้ อาจเสียเปรียบคูตอสู แตผชู ํานาญจะคดิ กอนวา ถาเดินหมากตวั น้ีไปตาน้นั ฝายตรงขา มจะเดนิ มาอยา งไรไดบ าง และเราจะแกไ ขอยา งไร คิดตอ ไปหลายครั้ง เพือ่ ใหแ นใจวาเดนิ ไปแลว จะไมเสยี เปรียบ ถาคิดคร้งั เดียวแลวเดิน ก็เรียกวา เดินหมากรกุ ช้ันเดยี ว จะเปนในมอื ใหม ถาคดิ สองรอบกเ็ รยี กวา หมากรกุ สองชัน้ คดิ มากรอบก็จะเปน หมากรกุ สามชัน้ สช่ี ัน้ เร่อื ยไป แตถาคดิ นานไป คตู อ สูก็จะตอ งคอยและเบื่อ บางทกี ็บนเชงิ ลอเลียนวา เกง ไมกลัว กลัวชา หรือ เดินเสร็จแลว ปลุกผมดว ย ฯลฯ ในการแขงขนั จึงกําหนดใหม ีการจับเวลา เพือ่ ปองกนั ปญหาคดิชา ดังกลาวองั แพลม เบีย้ ควํ่าจะเดนิ ตรงไปขางหนา ไดทลี ะตา เมื่อเดนิ ไป หรือกนิ หมากของฝายตรงขาม พอดถี ึงแถวที่ต้งั เบย้ี ของฝา ยตรงกนั ขาม จะมีสทิ ธหิ งายเปนเบยี้ หงาย และถกู สถาปนาใหเปน หมากท่มี ีอาํ นาจเหมอื นเม็ด ในขณะท่ีเบย้ี ควํ่ากาํ ลังจะหงายเปนเบย้ี หงายอยูนน้ั จะเรยี กวา องั แพลม บางทีก็เรียก อแี พลม นางแพลม หรอื นังแพลม ถาเผอิญทําหนา ที่รกุ หรือรุกจน ขุนฝา ยตรงขา ม ก็จะพดู วา ขุนฝายตรงขามถกู รกุ จนดว ยอังแพลมอีแพลม ดูองั แพลมอบั หมายถึง การทข่ี ุนไมสามารถเดินได หรอื ไมม ีตาเดนิ โดยไมถ ูกรุก ถา ขุนฝา ยหนึ่งฝา ยใดอับ และตอ งไมม หี มากตัวอน่ื เดินไดดวย ใหถอื วา หมากรุกกระดานนน้ั เสมอกัน ไมวาจะมหี มากไดเปรียบเสียเปรียบอยา งไร แตถ ายังมีหมากตัวอืน่ เดินได กต็ อ งเดนิ หมากตัวอ่ืน และฝา ยตรงขาม อาจเดนิ หมากมารุกขนุ ทอ่ี ยูใ นท่อี ับนั้นใหจนได และถอื เปนแพ ไมใชเสมอ | ยอ นกลับ | หนาตอ ไป | บน |http://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct002.htm 14/10/2011
หมากรุกไทย Page 1 of 26 | ยอ นกลบั | หนา ตอไป |กลหมากรกุ ไทย ไดประมวลกลหมากรุกไว 224 กล เปน การไลและการหนหี มากรุกปลายกระดาน หมากรกุ ทไ่ี ดเ ปรียบเสยี เปรยี บกันไมม ากหากหมากเขากลกจ็ ะไลใหจ น หรือถาหนีออกจากกลไดกจ็ ะไมแพ ใชไ ดท ัง้ ฝา ยหนแี ละฝา ยไล การนําเสนอไดจ ดั เรยี งไวตามลาํ ดับจากกลทง่ี ายซึง่ เปนกลหลกั พน้ื ฐาน ไปหากลทยี่ าก และซับซอนกวา การเดินหมากรกุ ท่ีแสดงไว จะเปน การเดินที่ยาวทส่ี ุดสําหรับผูไลและผหู นีท่ชี ํานาญดว ยกันทั้งสองฝา ย ถา ผหู นีไมส นั ทัดจะจนเร็วกวา กาํ หนด ถา ผูไมไ มส ันทัดอาจไลไ มจ นคาํ ช้แี จงวิธีใชก ลหมากรุก 1. วางหมากรุกไวต ามกล 2. การเฉลย 2.1. การเฉลยหลกั เปน การเดินไลและหนีของผชู าํ นาญท้ังสองฝา ย 2.2. การเฉลยละเอยี ด เปน การเดนิ ไลเมอื่ ฝา ยหนี เดนิ ออกไปจากแบบของผูช าํ นาญ ถามีลูกศรแยกไป แสดงวาอาจหนีไดหลายทาง เวลาเดินจรงิ ใหเ ดนิ ตามทางท่ีดีกวา โดยสังเกตเครอ่ื งหมายตาเติมทด่ี กี วา การเฉลยละเอยี ดจะแสดงไวเพียงบางกลเพ่อืเปนตัวอยาง 3. ฝายดาํ เปนฝา ยหนี ฝา ยขาวเปนฝายไล ฝา ยขาวจะเปน ผเู ดินกอนทุกกล กลการไลแบบตาง ๆhttp://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct003.htm 14/10/2011
หมากรกุ ไทย Page 2 of 261. กลการไลด วยเบยี้ สองตัว ขุนฝายหนตี อ งอยหู นาเบ้ยี ฝา ยไล และตอ งอยใู กลมมุ ใดมมุ หนึ่งของกระดาน ในเบยี้ สองตัวนน้ั ตัวหน่ึงตอ งเปนเบย้ี ควา่ํ และมีขอบเขตจํากัด มีอยู 46 กล ดวยดวยกันคือกลที่ 1 1 ทีหมากดาํ หนี 2 ทีหมากขาวไล กลที่ 2 2 ทหี มากดําหนี 3 ทหี มากขาวไล กลท่ี 3 3 ทีหมากดาํ หนี 4 ทหี มากขาวไลhttp://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct003.htm 14/10/2011
หมากรกุ ไทย Page 3 of 26 กลที่ 4 4 ทหี มากดาํ หนี 5 ทีหมากขาวไล กลที่ 5 4 ทีหมากดําหนี 5 ทหี มากขาวไลhttp://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct003.htm 14/10/2011
หมากรกุ ไทย Page 4 of 26 กลที่ 6 5 ทหี มากดาํ หนี 6 ทีหมากขาวไล กลที่ 7 5 ทีหมากดําหนี 6 ทหี มากขาวไลhttp://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct003.htm 14/10/2011
หมากรุกไทย Page 5 of 26 กลท่ี 8 5 ทีหมากดาํ หนี 6 ทหี มากขาวไลhttp://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct003.htm 14/10/2011
หมากรุกไทย Page 6 of 26 กลที่ 9 6 ทีหมากดําหนี 7 ทหี มากขาวไล กลที่ 10 1 ทหี มากดาํ หนี 2 ทหี มากขาวไลกลท่ี 11 2 ทีหมากดําหนี 3 ทหี มากขาวไล กลที่ 12 3 ทีหมากดําหนี 4 ทหี มากขาวไลhttp://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct003.htm 14/10/2011
หมากรุกไทย Page 7 of 26 กลที่ 13 4 ทหี มากดาํ หนี 5 ทหี มากขาวไล กลท่ี 14 5 ทีหมากดําหนี 6 ทหี มากขาวไลhttp://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct003.htm 14/10/2011
หมากรุกไทย Page 8 of 26 กลที่ 15 6 ทีหมากดาํ หนี 7 ทีหมากขาวไล กลท่ี 16 7 ทีหมากดําหนี 8 ทีหมากขาวไล 14/10/2011http://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct003.htm
หมากรุกไทย Page 9 of 26 กลท่ี 17 8 ทีหมากดําหนี 9 ทีหมากขาวไลhttp://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct003.htm 14/10/2011
หมากรุกไทย Page 10 of 26 กลท่ี 18 9 ทีหมากดาํ หนี 10 ทีหมากขาวไล กลที่ 19 10 ทีหมากดาํ หนี 11 ทีหมากขาวไลhttp://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct003.htm 14/10/2011
หมากรุกไทย Page 11 of 26 กลท่ี 20 2 ทหี มากดาํ หนี 3 ทีหมากขาวไล กลท่ี 21 3 ทีหมากดําหนี 4 ทีหมากขาวไลhttp://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct003.htm 14/10/2011
หมากรุกไทย Page 12 of 26 กลที่ 22 4 ทีหมากดาํ หนี 5 ทหี มากขาวไล กลท่ี 23 4 ทหี มากดาํ หนี 5 ทหี มากขาวไล กลท่ี 24 5 ทีหมากดําหนี 6 ทีหมากขาวไล 14/10/2011http://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct003.htm
หมากรุกไทย Page 13 of 26 กลท่ี 25 5 ทหี มากดาํ หนี 6 ทหี มากขาวไลhttp://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct003.htm 14/10/2011
หมากรุกไทย Page 14 of 26 กลท่ี 26 6 ทีหมากดาํ หนี 7 ทหี มากขาวไล กลที่ 27 6 ทีหมากดาํ หนี 7 ทหี มากขาวไลhttp://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct003.htm 14/10/2011
หมากรุกไทย Page 15 of 26 กลท่ี 28 3 ทหี มากดําหนี 4 ทีหมากขาวไล กลที่ 29 5 ทีหมากดําหนี 6 ทหี มากขาวไลhttp://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct003.htm 14/10/2011
หมากรุกไทย Page 16 of 26 กลท่ี 30 6 ทีหมากดําหนี 7 ทีหมากขาวไล กลที่ 31 5 ทีหมากดาํ หนี 6 ทีหมากขาวไลhttp://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct003.htm 14/10/2011
หมากรุกไทย Page 17 of 26 กลท่ี 32 6 ทีหมากดําหนี 7 ทหี มากขาวไล กลที่ 33 7 ทีหมากดําหนี 8 ทหี มากขาวไล 14/10/2011http://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct003.htm
หมากรุกไทย Page 18 of 26 กลที่ 34 8 ทหี มากดาํ หนี 9 ทีหมากขาวไล กลท่ี 35 4 ทีหมากดําหนี 5 ทีหมากขาวไลhttp://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct003.htm 14/10/2011
หมากรุกไทย Page 19 of 26 กลท่ี 36 5 ทีหมากดาํ หนี 6 ทหี มากขาวไลhttp://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct003.htm 14/10/2011
หมากรุกไทย Page 20 of 26 กลท่ี 37 9 ทีหมากดาํ หนี 10 ทีหมากขาวไลhttp://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct003.htm 14/10/2011
หมากรุกไทย Page 21 of 26 กลท่ี 38 9 ทีหมากดาํ หนี 10 ทีหมากขาวไลhttp://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct003.htm 14/10/2011
หมากรุกไทย Page 22 of 26 กลท่ี 39 10 ทหี มากดาํ หนี 11 ทีหมากขาวไลhttp://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct003.htm 14/10/2011
หมากรุกไทย Page 23 of 26 กลท่ี 40 5 ทีหมากดําหนี 6 ทหี มากขาวไล กลที่ 41 5 ทหี มากดาํ หนี 6 ทหี มากขาวไลhttp://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct003.htm 14/10/2011
หมากรุกไทย Page 24 of 26 กลท่ี 42 7 ทีหมากดําหนี 8 ทีหมากขาวไล กลที่ 43 6 ทีหมากดําหนี 7 ทีหมากขาวไล 14/10/2011http://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct003.htm
หมากรุกไทย Page 25 of 26 กลที่ 44 7 ทหี มากดาํ หนี 8 ทหี มากขาวไลhttp://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct003.htm 14/10/2011
หมากรุกไทย Page 26 of 26 กลที่ 45 10 ทีหมากดําหนี 11 ทีหมากขาวไล กลท่ี 46 17 ทหี มากดาํ หนี 18 ทีหมากขาวไล 14/10/2011 กลนีเ้ ปนกลสําหรบั ใชไ ล ถา ฝา ยหนีไมเดินตามเฉลยหลัก พยายามเดนิ บงั คบั ขุนดาํ ใหเ ขากล เพอ่ื ไลก ินเบีย้ ควํา่ ดาํ เสียกอ น แลวจึงไลใหเ ขาตาจนตามเฉลยหลกั | ยอนกลับ | หนาตอไป | บน |http://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct003.htm
หมากรกุ ไทย Page 1 of 7 | ยอ นกลบั | หนา ตอ ไป | กลหมากรกุ ไทย2. กลการไลดว ยเบ้ยี หงายสามตวั - เบยี้ หงายสามตวั น้ันตอ งเปน เบ้ยี ผูกคหู นง่ึ และเบีย้ เทยี มหนึ่งตวั ถา เปน เบีย้ ผกู ทง้ั หมด จะไมจน - ในการไลขั้นแรกตอ งพยายามไลใ หเ ขา มมุ กระดานมมุ ใดมมุ หนง่ึ ที่ใกลท่ีสุดเสียกอน - เมอื่ ไลขนุ เขาใกลม ุมกระดานแลว ใหพ จิ ารณาเบยี้ คูผูกวา เบีย้ คผู กู น้ันถูกมุม คือ เดินเขา ตามุมกระดานไดห รือไม - ใหส งั เกตวธิ ีการไล เพราะการมีเบย้ี คผู กู ถกู มมุ และไมถ ูกมุมนัน้ การไลใหจ นมวี ิธตี า งกนั2.1 การไลด ว ยเบ้ยี หงายสามตัว เม่ือเบ้ยี คผู กู ถกู มุม มอี ยู 8 กลดวยกันคือกลท่ี 47 1 ทีหมากดําหนี 2 ทีหมากขาวไล กลท่ี 48 1 ทหี มากดาํ หนี 2 ทหี มากขาวไลhttp://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct004.htm 14/10/2011
หมากรกุ ไทย Page 2 of 7 กลที่ 49 3 ทหี มากดําหนี 4 ทีหมากขาวไล กลที่ 50 4 ทีหมากดาํ หนี 5 ทหี มากขาวไลกลที่ 51 5 ทหี มากดําหนี 6 ทหี มากขาวไลกลท่ี 52 6 ทหี มากดําหนี 7 ทหี มากขาวไลhttp://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct004.htm 14/10/2011
หมากรุกไทย Page 3 of 7 กลที่ 53 16 ทีหมากดาํ หนี 17 ทหี มากขาวไล กลที่ 54 8 ทีหมากดําหนี 9 ทีหมากขาวไล2.2 กลการไลด วยเบ้ียหงายสามตัว เบี้ยคูผ กู ไมถ ูกมมุ มีอยู 3 กลดวยกนั คือhttp://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct004.htm 14/10/2011
หมากรุกไทย Page 4 of 7 กลท่ี 55 4 ทีหมากดําหนี 5 ทีหมากขาวไล กลท่ี 56 9 ทีหมากดําหนี 10 ทีหมากขาวไลhttp://www1.mod.go.th/heritage/nation/thaichess/ct004.htm 14/10/2011
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155