2.3.2 ดไี ซน์ดี มีรางวัล พัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณค่าและเติบโต กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดย ศูนย์ เปน็ Green Product ทสี่ มบูรณแ์ ละสามารถแขง่ ขันในตลาดเทคโนโลยีโลหะและวสั ดุแหง่ ชาติ (เอม็ เทค) สำ� นักงานพฒั นา โลกได้ต่อไปในอนาคตวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้จัดกิจกรรมกระตนุ้ เตอื นสงั คมใหห้ นั มาใสใ่ จ ปลกู จติ สำ� นกึ ในการดแู ลและ 2.4 วัสดุอา้ งองิ กับการพฒั นามาตรฐานผลิตภัณฑ์รกั ษาสงิ่ แวดลอ้ มรว่ มกนั อยา่ งยงั่ ยนื ผา่ นการประกวดออกแบบผลติ ภณั ฑเ์ ชงิ นเิ วศเศรษฐกจิ แหง่ ประเทศไทย ครง้ั ท่ี 3 ในหวั ขอ้ การเสริมสร้างศักยภาพของห้องปฏิบัติการและผู้“ลดโลกรอ้ นดว้ ยการออกแบบผลติ ภณั ฑแ์ ละบรกิ ารทเี่ ปน็ มติ ร ประกอบการในทางด้านการตรวจวิเคราะหแ์ ละวดั คา่ ทางเคมีต่อส่ิงแวดล้อม” ชิงโล่พระราชทานจากสมเด็จพระเทพ เป็นก�ำลังส�ำคัญเพ่ือสร้างหลักประกันทางด้านคุณภาพและรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และเงินรางวัลรวมกว่า ความปลอดภัยให้กับพืชเศรษฐกิจหลักของประเทศ รวมถึง400,000 บาท สร้างความเป็นธรรมให้กับเกษตรกร และเสริมศักยภาพและ ท้ังนี้โครงการดังกล่าวได้รับความสนใจโดยมีผู้ส่งเข้า ขดี ความสามารถในการสง่ ออกสนิ คา้ เกษตรไทยไปยงั ตลาดโลกประกวด 298 ผลงาน และผา่ นการคดั เลอื ก จำ� นวน 70 ผลงาน กระทรวงวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โดยสถาบันมาตรวทิ ยาโดยผลงานทผี่ า่ นเขา้ รอบชงิ ชนะเลศิ มจี ำ� นวน 31 ผลงาน อาทิ แหง่ ชาติ (มว.) ไดพ้ ฒั นาผลงานวจิ ยั วสั ดอุ า้ งองิ ลา่ สดุ ทม่ี คี วามเทยี นลดโลกรอ้ น เครอ่ื งนวดขา้ วประหยดั พลงั งาน (ผลติ กระแส สำ� คัญและพรอ้ มจะเปดิ ตวั 3 ชนดิ ไดแ้ ก่ไฟฟา้ ) เปลอื กลำ� ไยไลแ่ มลง พดั ลมพลงั งานหารสาม ผลติ ภณั ฑ์ 1. วัสดุอ้างอิงเพ่ือตรวจปรมิ าณแคดเมียมในข้าว ซึง่ขัดรองเท้าหนังจากเปลือกกล้วย หนังเทียมจากเซลลูโลส มคี วามสำ� คญั เพราะขา้ วเปน็ อาหารหลกั ของคนไทย และเปน็อฐิ บลอ็ กประดบั ขยะโฟมผสมเปลอื กหอย ลกู หมนุ ระบายอากาศ สินคา้ เกษตรสง่ ออกหลกั อันดบั ที่ 1 ทส่ี รา้ งรายได้เข้าประเทศผลิตกระแสไฟฟ้า และ TWIST BOX ซึ่งผลงานต้นแบบทั้ง ปีละไม่ต่�ำกว่า 1 แสนล้านบาท อีกท้ังในปัจจุบันทางสหภาพ31 ผลงานไดน้ �ำมาจัดแสดงที่ บรเิ วณลานกจิ กรรมชัน้ 1 ศูนย์ ยุโรปและญี่ปุ่นซ่ึงเป็นผู้น�ำเข้าข้าวรายใหญ่ได้ออกข้อก�ำหนดการค้าสยามดิสคัพเวอรี่เซ็นเตอร์ แห่งน้ี ต้ังแต่วันท่ี 18-20 หา้ มนำ� เขา้ ขา้ วทม่ี ปี รมิ าณสารแคดเมยี มสงู เกนิ มาตรฐาน ดงั นนั้พฤศจิกายน ท่ผี า่ นมา กระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เชอื่ วา่ โครงการ EcoDe-sign 2010 เป็นอีกหน่ึงโครงการท่ีจะเป็นสะพานน�ำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม และเป็นการแสดงออกทางความคิดในการรักษาส่ิงแวดล้อมของคนในทุกภาคสว่ น อกี ทงั้ เปน็ การตอ่ ยอดความคดิ ทน่ี ำ� ไปสกู่ ารผลติ ผลติ ภณั ฑเ์ พอ่ื สง่ิแวดลอ้ มทมี่ คี ณุ ภาพเปน็ ทยี่ อมรบั ในระดบั สากล และทกุ ผลงานทเี่ ขา้ รว่ มการประกวดมีโอกาสจะได้รับการ ขัน้ ตอนการผลติ และรูปขวดบรรจวุ ัสดุอ้างองิ รบั รองส�ำหรับการวิเคราะหโ์ ลหะหนักในข้าว48 AMinnisntryuaoflScRienecpe oanrdtTe2ch0n1ol0ogy
มกี ารตรวจพบการปนเปอ้ื นของสารแคดเมยี ม กจ็ ะกระทบตอ่ การผลติ วสั ดอุ า้ งองิ ทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั ปากทอ้ งและความปลอดภยัขดี ความสามารถในการสง่ ออกขา้ วไทยไปยงั ตลาดโลก และหาก ของพี่น้องประชาชนและเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันน�ำข้าวท่ีมีแคดเมียมไปรับประทานก็จะท�ำให้เจ็บป่วย เพราะ ของประเทศ จะเน้นการน�ำวัสดุอ้างอิงที่ผลิตได้ออกไปสู่ห้องแคดเมยี มจะไปสะสมในไตและตบั จะทำ� ใหก้ ระดกู เปราะ และ ปฏิบัติการและผู้ประกอบการให้ได้มากท่ีสุด เพ่ือยกระดับโลหิตจาง หากได้รบั ปรมิ าณมากจะท�ำใหเ้ สยี ชวี ิตได ้ และสร้างมาตรฐานให้กับห้องปฏิบัติการและภาคเอกชนให้ ดงั นน้ั การมวี สั ดอุ า้ งองิ เพอ่ื ตรวจวดั ปรมิ าณแคดเมยี ม ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับของสากล รวมทั้งจะมุ่งยกระดับในขา้ ว จะเปน็ การชว่ ยในดา้ นการคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภคใหท้ านขา้ ว การตรวจวัดมาตรฐานทางด้านเคมีและการผลิตวัสดุอ้างอิงดว้ ยความปลอดภยั มากขึ้น และจะชว่ ยสร้างหลักประกันและ ของไทยให้ได้รับการรับรองขีดความสามารถในระดับโลก ซึ่งการยอมรบั ทางดา้ นคณุ ภาพของขา้ วไทยทสี่ ง่ ออกไปขายในตา่ ง ประเทศไทยถอื วา่ มขี ดี ความสามารถในดา้ นการวดั และการเทยี บประเทศ เพอื่ ใหข้ า้ วไทยสามารถแขง่ ขนั ในตลาดโลกไดต้ อ่ ไปใน มาตรฐานทางเคมอี ยใู่ นระดบั แนวหนา้ ของอาเซยี นอยใู่ นขณะน้ีอนาคต 2. วัสดุอ้างอิงเพื่อตรวจวัดค่าความหวาน เป็นเร่ือง 2.5 ศนู ย์เช่ยี วชาญด้านแก้วแหง่ แรกในอาเซียนท่ีทางสมาคมอ้อยและน้�ำตาลทรายได้ขอให้ทางสถาบันมาตร อตุ สาหกรรมแกว้ เปน็ อตุ สาหกรรมทสี่ ำ� คญั สาขาหนงึ่วทิ ยาแหง่ ชาตชิ ว่ ยทำ� ขน้ึ เนอ่ื งจากวสั ดอุ า้ งองิ วดั คา่ ความหวาน ของประเทศไทย เนอื่ งจากแกว้ เปน็ ผลติ ภณั ฑท์ ใี่ ชว้ ตั ถดุ บิ ภายในมีความส�ำคัญอย่างมากต่อระบบการปลูกอ้อยและผลิต ประเทศ (local content) เปน็ วตั ถดุ บิ ทใี่ ชใ้ นการผลติ ถงึ รอ้ ยละนำ้� ตาลทราย เพราะค่าความหวานเปน็ ปจั จัยสำ� คัญทโี่ รงงาน 80 เปน็ วสั ดทุ เ่ี ปน็ มติ รกบั สงิ่ แวดลอ้ ม (green product) เพราะน้�ำตาลใช้เป็นตัวก�ำหนดราคาซื้อขายอ้อยจากชาวไร่อ้อย สามารถนำ� กลบั มารไี ซเคลิ ได้ 100% โดยแกว้ ทผ่ี า่ นการรไี ซเคลิดังน้ัน ถ้าเครื่องมือตรวจวัดค่าความหวานไม่ได้มาตรฐาน จะมคี ณุ ภาพทดี่ ี ไมเ่ สอ่ื มคณุ ภาพเหมอื นวสั ดอุ น่ื ๆ นอกจากน้ีวดั ไดค้ า่ ความหวานตำ่� เกนิ ไปชาวไรอ่ อ้ ยกจ็ ะเสยี เปรยี บเพราะ อุตสาหกรรมแก้วยังสร้างรายได้ในแต่ละปีเป็นเม็ดเงินจ�ำนวนขายไดร้ าคาตำ�่ เกนิ ไป แตถ่ า้ วดั ไดค้ า่ ความหวานสงู เกนิ ไปโรงงาน มาก โดยในปี 2552 มูลคา่ การสง่ ออกผลติ ภัณฑแ์ กว้ ของไทยนำ้� ตาลก็ต้องขาดทนุ ซง่ึ ไม่ว่ากรณีใด ๆ กจ็ ะส่งผลกระทบต่อ อยู่ที่ประมาณ 2 หม่ืนล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นเคร่ืองแก้วที่ระบบการปลูกอ้อยและผลิตน้�ำตาลทรายทั้งระบบซึ่งมีมูลค่า ใชบ้ นโตะ๊ อาหารและในครวั (consumer product) ซงึ่ ตลาดสูงถงึ กว่า 5 หมื่นลา้ นบาทต่อป ี และอาจจะสง่ ผลกระทบตอ่ สำ� หรบั ผลติ ภณั ฑแ์ กว้ ในตลาดโลกมแี นวโนม้ ทจี่ ะขยายตวั อยา่ งอุตสาหกรรมท่ีเก่ียวเน่ืองได้ ทั้งน้ี วัสดุอ้างอิงที่นักวิจัยท�ำขึ้น ตอ่ เนอื่ ง อกี ทง้ั ยงั เกยี่ วขอ้ งกบั อตุ สาหกรรมอนื่ เปน็ จำ� นวนมากน้ีมีราคาถูกกว่าวสั ดทุ ่ีนำ� เข้ามาจากตา่ งประเทศถงึ รอ้ ยละ 40 เชน่ อตุ สาหกรรมรถยนต ์ อตุ สาหกรรมเครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ (โคมไฟ 3. วัสดุอ้างอิงเพื่อตรวจวัดปริมาณก๊าซออกซิเจนใน หลอดไฟ) อุตสาหกรรมกอ่ สร้าง (บล็อกแก้ว ฉนวนใยแก้ว)อากาศ ซง่ึ แมจ้ ะไมเ่ กยี่ วขอ้ งกบั การสง่ ออก แตเ่ กย่ี วขอ้ งกบั ความ ด้วยเหตุนี้ กรมวิทยาศาสตร์บริการ จึงได้ให้ความปลอดภยั ในชวี ติ และทรพั ยส์ นิ ของประชาชนอยา่ งมาก เพราะ สำ� คญั กับการวิจัยพัฒนาเพือ่ สร้างความเช่ยี วชาญด้านแก้วขน้ึการทำ� งานในบางสถานทจี่ ำ� เปน็ ตอ้ งมกี ารควบคมุ ปรมิ าณกา๊ ซ เพื่อช่วยยกระดับการผลิตแก้วของผู้ประกอบการไทยให้ได้ออกซเิ จนทเี่ หมาะสม เชน่ การทำ� งานในเหมอื ง ในอโุ มงค์ หรอื คุณภาพและมาตรฐาน และช่วยลดต้นทุนการผลิตให้น้อยลงในสถานทที่ เี่ กบ็ วตั ถไุ วไฟตา่ ง ๆ เพราะถา้ เครอื่ งวดั ปรมิ าณกา๊ ซ เพอื่ ใหภ้ าคอตุ สาหกรรมแกว้ ของไทยมขี ดี ความสามารถในการออกซเิ จนไมไ่ ดม้ าตรฐานแลว้ อาจทำ� ใหแ้ รงงานขาดอากาศหมด แข่งขนั ทส่ี งู ข้ึน โดยในปงี บประมาณ 2553 กรมวิทยาศาสตร์สตหิ รอื เสยี ชวี ติ ได้ หรอื อาจทำ� ใหเ้ กดิ ไฟไหมห้ รอื การระเบดิ ขน้ึ บริการ ได้เปิดศูนย์เช่ียวชาญด้านแก้วแห่งแรกในอาเซียนขึ้นตามมาได ้ อย่างเป็นทางการ ซึ่งศูนย์เชี่ยวชาญดังกล่าวจะมีบทบาทและ สำ� หรับกา้ วตอ่ ไป สถาบนั มาตรวทิ ยาแหง่ ชาตจิ ะเนน้ 49รากยระงทารวนงวิทปยารศะาสจตร�ำแ์ ปละเี ท2คโ5น5โล3ยี
ภารกิจสำ� คญั คือ วัตถดุ ิบท่ีมีผลตอ่ การเกดิ สขี องแกว้ เป็นตน้ 1. เปน็ ศนู ยเ์ ชยี่ วชาญดา้ นแกว้ แหง่ แรกและแหง่ เดยี ว - ในภาคธรุ กิจ SME เนน้ การวจิ ัยพัฒนาเพอ่ื พัฒนาของไทยและอาเซยี น ทไ่ี ดร้ บั การรบั รองมาตรฐานความเชย่ี วชาญ คุณภาพและมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ของภาคเอกชนแต่ละดา้ นแกว้ จาก Bureau of Analysed Sample LTD หรอื BAS ราย รวมทงั้ ชว่ ยเรอื่ งการออกแบบผลติ ภณั ฑ์ เพอื่ เพม่ิ ขดี ความจากประเทศองั กฤษ ซง่ึ องคก์ รดงั กลา่ วถอื เปน็ องคก์ รทไ่ี ดร้ บั การ สามารถในการแข่งขันของ SME ในอุตสาหกรรมแก้วขึ้นมารบั รองจากคณะกรรมการระหวา่ งประเทศดา้ นแกว้ ใหท้ ำ� หนา้ ท่ี อยา่ งเป็นระบบให้การสอบเทียบและรับรองมาตรฐานสากลของห้องปฏิบัติ - ในภาคชุมชน-ครัวเรือน เน้นการพัฒนาต้นแบบการวิเคราะห์ทดสอบผลิตภณั ฑแ์ กว้ ซง่ึ การท่ปี ระเทศไทยมี ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ท่ีสามารถผลิตได้ในชุมชน แล้วถ่ายทอดศูนย์เช่ียวชาญที่ได้รับมาตรฐานสากล จะท�ำให้นานาประเทศ องค์ความรู้ลงไปสู่ชุมชน เพื่อให้เกิดการสร้างงานสร้างรายได้โดยเฉพาะประเทศผู้น�ำเข้าสินค้าแก้วจากไทย ให้การยอมรับ ภายในชุมชน ซึ่งอุตสาหกรรมแก้ว ก็ได้สร้างช่ือเสียงให้แก่ในคุณภาพและมาตรฐานของสินค้าแก้วท่ีผ่านการรับรองจาก ชุมชนมาแล้วในต่างประเทศมากมาย เช่น แกว้ มูราโน่ ท่เี มอื งกรมวทิ ยาศาสตรบ์ ริการ เวนสิ ประเทศอิตาล ี ในส่วนของไทยเอง ก็สามารถสง่ เสรมิ ได้ 2. ศนู ยเ์ ชยี่ วชาญดา้ นแกว้ นจ้ี ะทำ� หนา้ ทส่ี ำ� คญั 3 เรอ่ื ง อีกมาก เชน่ การท�ำแกว้ เปา่ เป็นรูปตา่ ง ๆ การทำ� ผลติ ภัณฑ์คอื ลูกปัดจากแก้ว รวมทั้งการจัดท�ำของที่ระลึกหรือผลิตภัณฑ์ 2.1 ใหบ้ รกิ ารวเิ คราะห-์ ทดสอบ ซงึ่ ไดก้ ลา่ วไปแลว้ อน่ื ๆ อกี มากมายว่าบทบาทหน้าท่ีน้ีของศูนย์ ได้รับการรับรองจากหน่วยงาน 2.3 ให้ค�ำปรึกษาและแก้ไขปัญหาแก่ภาคเอกชนระดับโลกแลว้ แต่ละราย เนื่องจากศูนย์เช่ียวชาญจะมีบุคลากรท่ีมีความรู้ 2.2 วิจยั และพัฒนา ความชำ� นาญและมที กั ษะในอตุ สาหกรรมนอี้ ยา่ งด ี จงึ สามารถ - ในระดบั hi-end เนน้ การวจิ ยั และพฒั นาทเ่ี กยี่ วขอ้ ง เขา้ ไปเปน็ พี่เลยี้ งหรอื ใหค้ ำ� ปรึกษาแนะน�ำ เพ่ือแกไ้ ขปญั หาให้กบั การปรบั สูตรการหลอมแกว้ เพื่อลดการใช้พลังงาน รวมท้งั แก่ภาคเอกชนแตล่ ะรายในลักษณะ problem solving ลดเกดิ กา๊ ซซลั เฟอรไ์ ดออกไซดแ์ ละไนโตรเจนไดออกไซค์ (เปน็ ดงั นนั้ จะเหน็ ไดว้ า่ การทำ� หนา้ ทข่ี องศนู ยเ์ ชย่ี วชาญฯกา๊ ซเรอื นกระจก) ในกระบวนการผลติ / การวเิ คราะหท์ ดสอบ จะท�ำหน้าที่ครอบคลุมการให้บริการแก่ภาคเอกชนและสังคม50 MAinnisntryuaoflScRienecpe oanrdtTe2ch0n1ol0ogy
ครอบคลมุ ทงั้ ระบบทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี การส่งออก โดยอาคารดงั กล่าวไดก้ อ่ สรา้ งเสร็จสนิ้ และพรอ้ มคือ ครอบคลมุ งานวจิ ยั พฒั นา งานวิเคราะหท์ ดสอบ และงาน จะใหบ้ รกิ ารแกผ่ สู้ ง่ ออกอญั มณไี ดภ้ ายในเดอื นธนั วาคม 2553 นี้ใหบ้ รกิ าร 2.6 เพ่ิมมลู ค่าอญั มณดี ้วยเทคโนโลยนี วิ เคลยี ร์ 2.7 แสงสยาม เทคโนโลยลี �้ำหนา้ ปัจจุบันตลาดโลกมีความต้องการอัญมณีประเภท สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) ได้โทแพชและทวั มาลนี เป็นจำ� นวนมาก ในขณะทีผ่ ูป้ ระกอบการ สนับสนุนทุนวิจัยให้แก่นักศึกษาปริญญาเอกมหาวิทยาลัยส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทย ก็มีความต้องการท่ี เทคโนโลยสี รุ นารี เพอ่ื ศกึ ษาการสรา้ งอปุ กรณต์ รวจวดั ความชนื้จะนำ� อญั มณที ง้ั โทแพชและทวั มาลนี มาฉายรงั สี เพอ่ื ใหอ้ ญั มณี หรอื เซนเซอรว์ ดั ความชนื้ สมั พทั ธ์ (Relative Humidity Sen-ทั้งสองชนิดมีสีสันสวยงามตามความต้องการของตลาด ซึ่ง sor) โดยใช้กระบวนการลิโธกราฟฟีด้วยรังสีเอ็กซ์ ณ ระบบอัญมณีโทแพชและทัวมาลีน เมื่อผ่านการฉายรังสีนิวเคลียร์ ลำ� เลยี งแสง BL–6 ห้องปฏิบัติการแสงสยาม ทำ� ให้ได้อุปกรณ์แล้ว นอกจากจะมีสีสันที่สวยงามขึ้น ยังมีมูลค่าท่ีเพิ่มสูงขึ้น ตรวจวัดความช้ืนท่ีมีประสิทธิภาพดีกว่าอุปกรณ์ตรวจวัดที่มีกว่าอญั มณีท่ไี มผ่ า่ นการฉายรังสีถงึ 5-30 เท่า ขายอยู่ในท้องตลาด ดงั นนั้ เพอ่ื เปน็ การเพมิ่ ศกั ยภาพในการใหบ้ รกิ ารฉายรงั สอี ญั มณใี หเ้ พยี งพอและสามารถรองรบั ความตอ้ งการของผู้ประกอบการสง่ ออกอญั มณแี ละเครอื่ งประดบั ในการนำ� อญั มณีมาฉายรงั สมี ากกวา่ 15,000 กโิ ลกรมั ตอ่ ป ี สถาบนั เทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (สทน.) จึงได้เร่งก่อสร้างอาคารเคร่ืองเร่งอิเล็กทรอน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิตอัญมณีฉายรังสีเพ่ือ 51รากยระงทารวนงวิทปยารศะาสจตร�ำ์แปละเี ท2คโ5น5โล3ยี
ทง้ั น้ี เพอื่ ใหเ้ ทคโนโลยที มี่ อี ยไู่ ดน้ ำ� ไปสกู่ ารใชป้ ระโยชน์ ใชใ้ นการผลติ โซลารเ์ ซลล์ หรอื ใชใ้ นการพฒั นาสว่ นประกอบของสูงสุดสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอนได้เปิดห้องปฏิบัติการแสง ฮารด์ ดสิ กไ์ ดรฟ์ โดยเฉพาะหวั อา่ นแมเ่ หลก็ และสอื่ บรรจขุ อ้ มลู ฯสยามอยา่ งเป็นทางการ ซึง่ ตั้งอยู่ภายในอาคารสงู 4 ชนั้ เพื่อ กลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตแม่แบบ ใช้ในการผลิตแม่เปน็ หอ้ งปฏบิ ตั กิ ารและทดลองทางวทิ ยาศาสตร์ หอ้ งปฏบิ ตั กิ าร แบบท่ีมีขนาดเล็กมากในระดับไมครอน หรือต่�ำกว่าได้ ซึ่งมีทางวศิ วกรรม หอ้ งปฏบิ ตั งิ านกลมุ่ นกั วจิ ยั หอ้ งสมดุ หอ้ งประชมุ ความคาดเคลื่อนในแต่ละมิติน้อยมาก เช่น การผลิตแม่แบบสมั มนา หอ้ งพกั กลมุ่ ผใู้ ชบ้ รกิ ารแสงซนิ โครตรอน และการปฏบิ ตั ิ สำ� หรับช้นิ ส่วนอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ไมโครชิบในคอมพวิ เตอร์ หรอืงานทว่ั ไป มพี นื้ ทร่ี วมทงั้ สน้ิ 16,408 ตารางเมตร และใหบ้ รกิ าร ชนิ้ สว่ นเครือ่ งจักรขนาดจว๋ิเทคนิคการวิเคราะห์ด้วยแสงซินโครตรอน แก่ผู้ประกอบการ กลุ่มสิ่งทอและเคมีภัณฑ์ ใช้ในการศึกษาการจัดเรียงภาคอตุ สาหกรรม ในการแกป้ ญั หาหรอื พฒั นากระบวนการผลติ ตวั ของสารเคลอื บผวิ ผา้ ในระดบั นาโนเมตร หรอื การวเิ คราะห์พรอ้ มทงั้ ใหบ้ รกิ ารถา่ ยทอดเทคโนโลยแี กภ่ าคอตุ สาหกรรม เพอื่ โครงสรา้ งของเสน้ ใยนาโน เพอ่ื การปรบั ปรงุ และพฒั นาสง่ิ ทอให้เพ่ิมขีดความสามารถในการแขง่ ขัน และเพิม่ ขีดความสามารถ มคี ณุ สมบตั พิ เิ ศษได้ หรอื การวเิ คราะหโ์ ครงสรา้ งของพอลเิ มอร์ในการพ่ึงพาตนเอง อุตสาหกรรมท่ีรับบริการของสถาบัน เพือ่ หาคำ� ตอบว่าเป็นชนดิ ใด และมโี ครงสร้างแบบใด เพ่ือนำ�สรุปตามกลุม่ ได้ดงั น้ี ไปผสมในพอลิเมอร์แล้วถักทอเป็นเส้นใยที่มีคุณสมบัติพิเศษ กลุ่มอุตสาหกรรมยา และเคร่ืองส�ำอาง ผู้ผลิตได้ใช้ ตา่ งๆ เช่น เส้นใยผ้าท่ีผสมซิลเวอร์นาโนเพ่ือฆา่ เช้อื โรค ฯลฯ แสงซินโครตรอนในข้ันตอนการวิจัยผลิตภัณฑ์ ตัวอย่างเช่น กลุ่มอุตสาหกรรมโลหะ และวัสดุ ใช้ในการศึกษาผลิตภัณฑ์บ�ำรุงผิว ใช้ศึกษากลไกการแพร่ผ่านชั้นผิวหนังของ คณุ สมบตั เิ หลก็ แผน่ รดี รอ้ นประเภทกดั กรดและเคลอื บผวิ ดว้ ยสารออกฤทธิ์ หรอื สารอน่ื ๆ ทเ่ี ปน็ สว่ นประกอบของเครอื่ งสำ� อาง นำ้� มนั เพอ่ื ทจ่ี ะใหไ้ ดเ้ หลก็ ทม่ี คี ณุ ภาพผวิ ทดี่ เี ยย่ี ม เหมาะสำ� หรบั กลุ่มอตุ สาหกรรมอาหารแปรรปู ใชใ้ นการตรวจสอบ การประกอบช้นิ สว่ นต่างๆ ทใ่ี ช้ในรถยนตเ์ ครื่องใชไ้ ฟฟา้ และการปนเปอ้ื นโลหะและสารเคมบี างชนดิ ทม่ี ปี รมิ าณนอ้ ยมากๆ อื่นๆ ซ่งึ ตอ้ งการคุณภาพผิวทดี่ เี ยยี่ มในอาหารแปรรปู เชน่ สารปนเปอ้ื นในปลากะตกั เพอื่ การสง่ ออก 2.8 สรา้ งบุคลากรนกั วิทย์ ปอ้ นภาคผลติ และอตุ สาหกรรม กลุ่มอุตสาหกรรมยาง เพื่อการตรวจสอบโครงสร้าง นอกจากการลงทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานทางของผลติ ภณั ฑท์ ที่ ำ� จากยางพาราธรรมชาติ และยางสงั เคราะห์ ดา้ นวทิ ยาศาสตร์ และการวจิ ยั พฒั นาเพอ่ื เพม่ิ ศกั ยภาพและขดีเพื่อพัฒนาให้มีคุณสมบัติตามที่ต้องการ เช่น หาโครงสร้างที่ ความสามารถในการแข่งขันทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีจะท�ำให้ยางมีความเหนียว ทนแรงกระแทกได้มากข้ึนในยาง นวตั กรรม และเศรษฐกจิ ของประเทศแลว้ การเตรยี มความพรอ้ มรถยนต ์ การหาโครงสรา้ งของถุงมอื ยาง หรือถุงยางอนามยั ที่ และการพฒั นาบคุ ลากรทางดา้ นวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และท�ำให้มคี ณุ สมบตั ไิ ม่ขาดงา่ ย ยดื หยุ่นสงู และบางเฉยี บ ฯลฯ นวตั กรรม กน็ บั เปน็ ปจั จยั ทม่ี คี วามสำ� คญั ไมย่ ง่ิ หยอ่ นไปกวา่ กนั กลุ่มอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ ไมโครชิป และอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ใช้ในการศกึ ษาสารก่งึ ตวั นำ� ชนดิ ฟลิ ์มบางเพื่อ52 MAinnisntryuaoflScRienecpe oanrdtTe2ch0n1ol0ogy
2.8.1 สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีช้ันสูง ประเทศไทยมมี ลู คา่ การสง่ ออกผลติ ภณั ฑย์ างพาราแปรรปู โดย(THAIST) เฉพาะผลติ ภณั ฑย์ างลอ้ มากทสี่ ดุ คอื รอ้ ยละ 43 ทงั้ น้ี จงึ จำ� เปน็ ส�ำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ ทจี่ ะตอ้ งมกี ารพฒั นาบคุ ลากรระดบั สงู และเครอื ขา่ ยเชยี่ วชาญเทคโนโลยแี ละนวตั กรรมแหง่ ชาติ (สวทน.) ไดเ้ ปดิ ตวั “สถาบนั ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม โดยมีการตัง้ เปน็วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีช้ันสูง” (THAIST) เพื่อเป็น เครือข่ายท่ชี ่อื วา่ Tire Academy of Thailand (TiAT) เพอื่ศูนย์กลางประสานงานและสนับสนุนหน่วยงานต่างๆ ท้ังใน เพมิ่ ความสามารถในการผลติ ในอตุ สาหกรรมยางลอ้ ในระยะ 5และต่างประเทศท่ีเก่ียวข้องกับการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ ปขี า้ งหนา้ ไมว่ า่ จะเปน็ ดา้ นการจดั การความรู้ ดา้ นการพฒั นาและเทคโนโลยใี หท้ ำ� งานรว่ มกนั อยา่ งมบี รู ณาการ รวมทงั้ ผลกั ความรบู้ คุ ลากร โดย สวทน. จะท�ำหนา้ ที่เปน็ เสมอื นผจู้ ัดการดันให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงความส�ำคัญต่อการวิจัยและพัฒนา โครงการและเปน็ ผปู้ ระสานงานกบั หนว่ ยงานหลักน่ันเองของไทยในอนาคต โดยในปี 2553 สวทน. ได้จัดตั้งสถาบัน ในปี 2553 สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีช้ันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีช้ันสูงในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ สงู ในอุตสาหกรรมยางลอ้ ได้จัดการฝกึ อบรมส�ำหรับโครงการยางล้อ และสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นสูงส�ำหรับ พัฒนาเครือข่ายเช่ียวชาญส�ำหรับอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางการออกแบบเชิงอุตสาหกรรมข้ึน เพื่อเตรียมความพร้อม ล้อขึ้นจ�ำนวน 1 คร้ัง ในระหว่างวันที่ 13-15 ตุลาคม พ.ศ.ทางด้านบุคลากร และพัฒนาทักษะและความเชี่ยวชาญของ 2553 ณ. โรงแรมมริ าเคลิ แกรนด์ กรงุ เทพฯ ภายใตห้ วั ขอ้ Tireบุคลากรทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศ Technology ม ี Dr. Rani Joseph, Director, J.J. Murphyให้มคี ณุ ภาพทดั เทยี มนานาประเทศ Research Centre, Rubber Park India Ltd. และ Mr. Jose โครงการน�ำร่องเพ่ือพัฒนาอุตสากรรมผลิตภัณฑ์ Narikulam Iype, Plant Head (retired), Apollo Tyresยางลอ้ จะมีส่วนส�ำคัญตอ่ การพัฒนาเศรษฐกิจไทย เนื่องจาก Ltd เป็นวิทยากร และมวี ิศวกรและชา่ งเทคนิคจากบริษทั ท่ี 53รากยระงทารวนงวทิปยารศะาสจตร�ำแ์ ปละเี ท2คโ5น5โล3ยี
ท�ำธุรกิจผลิตภัณฑ์ยางล้อ ตัวแทนจากสภาอุตสาหกรรมแห่ง (Own Equipment Manufacturer : OEM) ไปสู่อตุ สาหรรมประเทศไทย บุคลากรจากหน่วยงานภาครัฐ อาทิ ส�ำนักงาน ท่ีมีการออกแบบของตนเอง (Own Design Manufacturer :กองทุนสนับสนุนการวิจัย สถาบันวิจัยยาง และอาจารย์และ ODM) ได ้ เนอ่ื งจากขาดองคค์ วามรแู้ ละบคุ ลากรทางดา้ นการนกั ศกึ ษาจากมหาวทิ ยาลยั ตา่ ง ๆ เขา้ รว่ มรบั การฝกึ อบรมเกย่ี ว ออกแบบเชงิ อุตสาหกรรม (Industrial Design) กบั เทคโนโลยที สี่ ำ� คญั ในขนั้ ตอนการผลติ ยางลอ้ อาทิ การผสม กระทรวงวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยสำ� นกั งานยาง การตรวจสอบขอ้ บกพร่องของยางและการแกไ้ ข เป็นตน้ คณะกรรมการนโยบายวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวตั กรรมรวมทงั้ ยงั ไดจ้ ดั ใหบ้ รกิ ารคำ� ปรกึ ษาในการแกป้ ญั หาดา้ นเทคนคิ จึงได้ร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยส�ำรวจใหแ้ ก่ผ้เู ขา้ รว่ มการฝกึ อบรมโดยไม่เสยี คา่ ใชจ้ ่ายอกี ดว้ ย ความต้องการและความพร้อมในการใช้ความรู้จากงานวิจัย นอกจากอตุ สาหกรรมผลติ ยางล้อแลว้ สวทน. ยงั ได้ ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นสูงในการออกแบบให้ความส�ำคญั กบั การเตรยี มความพรอ้ มเพือ่ นำ� ไปส่กู ารจดั ต้งั สง่ิ ประดษิ ฐ์ การนำ� ไปประยกุ ตใ์ ชง้ าน และการสรา้ งนวตั กรรมสถาบนั วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยขี น้ั สงู ในอตุ สาหกรรมขนสง่ เชิงพาณิชย์ของภาคอุตสาหกรรม เพื่อให้ได้รับทราบถึงความระบบราง เนอ่ื งจากเลง็ เหน็ วา่ การพฒั นาระบบขนสง่ ทางรางใน ต้องการของภาคอุตสาหกรรม และได้จัดต้ังศูนย์เครือข่ายระยะ 20 ปขี า้ งหน้าของประเทศไทยเป็นการลงทนุ โครงสร้าง ความรู้ด้านการออกแบบเพ่ือการผลิตเชิงนวัตกรรมข้ึน เพ่ือพน้ื ฐานขนาดใหญ่ และมมี ลู คา่ สงู มากมลู คา่ กวา่ 1 ลา้ นลา้ นบาท ก�ำหนดแผนกลยุทธ์และแผนปฎิบัติการในระยะเวลา 5 ปีซึ่งจะก่อให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมเกี่ยวเน่ือง และเกิด โดยแผนดังกล่าวจะน�ำไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมยุคใหม่การจ้างงานเป็นจ�ำนวนมาก ดังนั้น จึงควรมีการเตรียมความ ที่เรียกว่า “นักนวัตอุตสาหกรรม” และจะท�ำให้การพัฒนาพรอ้ มในดา้ นการพฒั นาบคุ ลากรเพอ่ื รองรบั ความตอ้ งการของ ระบบอุตสาหกรรมการออกแบบและการผลิตของไทยอยู่ได้ภาคอุตสาหกรรรมในอนาคตให้ได้เพียงพอทั้งในเชิงปริมาณ ด้วยตัวเองอยา่ งย่ังยนื และสามารถแข่งขันในเวทีสากลได้และคณุ ภาพ เพอ่ื ใหส้ ามารถรองรบั การเดนิ รถไฟฟา้ สายตา่ ง ๆ นอกจากน้ี ส�ำนักงานคณะกรรมการนโยบายในปัจจุบันและการเปิดสายใหม่ในอีก 6 ปีข้างหน้าได้อย่างมี วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ยังได้จัดโปรแกรมประสิทธภิ าพ ฝึกอบรมหลักสูตรการออกแบบเชิงอุตสาหกรรมข้ันพ้ืนฐาน สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีช้ันสูง หรือ และหลกั สตู รการออกแบบเพอื่ การผลติ ภาคอตุ สาหกรรมใหแ้ ก่(THAIST) ภายใตก้ ารดแู ลของสำ� นกั งานคณะกรรมการนโยบาย ผปู้ ระกอบการทว่ั ไป ซง่ึ มบี คุ ลากรของภาคอตุ สาหกรรมในสาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) ที่ ตา่ ง ๆ เขา้ รว่ มเปน็ จำ� นวนมาก และไดน้ ำ� หลกั สตู ร i Designerกระทรวงวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีจดั ตัง้ ข้นึ น้ี จะทำ� หนา้ ท่ี ซ่ึงเป็นหลักสูตรการออกแบบเพ่ือการผลิตภาคอุตสาหกรรมเปน็ ศนู ยก์ ลางประสานงานและสนบั สนนุ หนว่ ยงานทเี่ กยี่ วขอ้ ง (Manufacturing Design) ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยสหภาพกบั การพฒั นาดา้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยใี หท้ ำ� งานรว่ มกนั ยโุ รปเขา้ มาฝกึ อบรมใหแ้ กว่ ศิ วกรภาคอตุ สาหกรรม เพอ่ื พฒั นาอยา่ งบรู ณาการ ทกั ษะในการออกแบบผลติ ภณั ฑอ์ ยา่ งครบวรจรการผลติ อกี ทง้ั 2.8.2 Industrial Design ดีไซน์เพื่อยกระดับภาค ยงั ไดจ้ ดั ใหม้ บี รกิ ารใหค้ ำ� ปรกึ ษาเพอ่ื การออกแบบนวตั กรรมแก่อตุ สาหกรรมของไทย ผปู้ ระกอบการทม่ี คี วามประสงคห์ รอื แผนธรุ กจิ ทจี่ ะผลติ สนิ คา้ ปจั จบุ นั อตุ สาหกรรมขนาดกลางและขนาดยอ่ มของไทย หรือบริการในเชิงนวัตกรรมออกมาสู่ตลาดเป็นการเฉพาะประสบปญั หาหลกั ในการพง่ึ พาตวั เองในสว่ นการออกแบบสนิ คา้ รายด้วยหรอื เครอ่ื งมอื อปุ กรณต์ า่ ง ๆ ทำ� ใหไ้ มส่ ามารถยกระดบั การผลติ 2.8.3 Computer Numercial Controlของภาคอุตสาหกรรมไทยจากอุตสาหกรรมที่ต้องรับจ้างผลิต สถาบนั มาตรวทิ ยาแหง่ ชาติ ในฐานะทเ่ี ปน็ หนว่ ยงาน54 MAinnisntryuaoflScRienecpe oanrdtTe2ch0n1ol0ogy
หลักด้านมาตรวิทยา ได้ริเร่ิมโครงการ “ผลิตช่างผู้ตรวจสอบ เทยี บ ISO/IEC 17025 จากสถาบนั รบั รองมาตรฐานระดบั โลกเคร่ืองจักรกลซีเอ็นซี (CNC : Computer Numerical จากประเทศสหพนั ธส์ าธารณรฐั เยอรมนี และประเทศญป่ี นุ่ จงึControl) เบื้องต้น” ขึ้น เพื่อสนับสนุนให้อุตสาหกรรม ท�ำให้ในปัจจุบันหน่วยงานท้ังภาครัฐ เอกชน และประชาชนการผลิตมีศักยภาพเพิ่มขึ้น และสามารถแข่งขันได้ในตลาด ทั่วไป สามารถเข้าถึงวิธีการเปรียบเทียบเวลามาตรฐานผ่านการค้าได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ ทางอนิ เตอรเ์ นต็ ระบบโทรศพั ทพ์ นื้ ฐาน สถานวี ทิ ยุ FM ระบบ โครงการดงั กลา่ วนอกจากจะสรา้ งงานใหก้ บั ชา่ งเทคนคิ RDS และเครอ่ื งมือวัดทางด้านเวลาและความถ่ีแลว้ ยงั เปน็ การเพมิ่ ความรใู้ นการใชง้ านและดแู ลเครอื่ งจกั รกล 2.9 iTAP เพม่ิ ศกั ยภาพเอสเอ็มอไี ทยอย่างยง่ั ยนืซีเอน็ ซีอย่างถูกต้องใหก้ บั บุคลากรในภาคอตุ สาหกรรม ท�ำให้ ท่ีผ่านมากระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเครอื่ งจกั รกลซเี อน็ ซมี คี ณุ ภาพไดม้ าตรฐาน พรอ้ มผลติ ผลติ ภณั ฑ์ มกี ลไกทชี่ ว่ ยเหลอื อตุ สากรรมไทยในรปู แบบโครงการสนบั สนนุทไ่ี ดม้ มี าตรฐานสงู ขนึ้ เปน็ การขยายตลาดในการรบั ผลติ ชน้ิ สว่ น การพฒั นาเทคโนโลยขี องอตุ สาหกรรมไทย (iTAP) ของ สวทช.ท่ีมคี ุณสมบตั ิ (Specification) ไดส้ ูงขนึ้ อนั เปน็ การสร้างราย ในสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยโครงการได้ให้กบั ผปู้ ระกอบการอีกทางหนงึ่ นอกจากนย้ี งั เป็นการเพมิ่ ดังกล่าวได้สนับสนุนผู้ประกอบการไทยในกลุ่มอุตสาหกรรมจ�ำนวนบุคลากรท่ีมีความรู้ความสามารถด้านเครื่องจักรกล หรือเอสเอ็มอีต่างๆ อย่างต่อเนื่องผ่านเครือข่ายมหาวิทยาลัยซเี อ็นซที จ่ี ะเข้าสู่ภาคการผลติ ในอนาคต ในภมู ภิ าค ซงึ่ ทำ� ใหเ้ กดิ การลงทนุ วจิ ยั และพฒั นาในภาคเอกชน ในสว่ นของหอ้ งปฏบิ ตั กิ ารดา้ นเวลาและความถี่ สถาบนั แลว้ ไมน่ อ้ ยกวา่ 382 ลา้ นบาท เชน่ สรา้ งเครอื่ งมอื -เครอื่ งจกั รมาตรวิทยาแห่งชาติได้มีการพัฒนาขีดความสามารถด้านการ ใหม่ พัฒนากระบวนการผลิตให้ได้ระดับคุณภาพมาตรฐานวัดเวลาและความถี่จนเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และได้รับ โรงงานอตุ สาหกรรม สนบั สนนุ การใชร้ ะบบไอทใี นอตุ สาหกรรมการรบั รองมาตรฐานขดี ความสามารถของหอ้ งปฏบิ ตั กิ ารสอบ รวมถึงออกแบบผลิตภัณฑ์ จัดการของเสีย และจัดการด้าน สง่ิ แวดลอ้ มกว่า 400 โครงการ iTAP ได้ท�ำหน้าที่สนับสนุนเอกชนโดยเฉพาะขนาด กลาง ขนาดเลก็ และธรุ กจิ ชมุ ชน ดว้ ยการสง่ ผเู้ ชยี่ วชาญเขา้ ให้ คำ� ปรกึ ษาดา้ นการพฒั นาและปรบั ปรงุ เทคโนโลยที มี่ อี ยเู่ ดมิ ให้ มปี ระสทิ ธภิ าพมากขนึ้ และใหธ้ รุ กจิ เหลา่ นเี้ รยี นรเู้ กย่ี วกบั การ วจิ ัยพัฒนาและสรา้ งนวตั กรรม เพ่อื เพ่ิมขีดความสามารถและ มลู คา่ เพิม่ ของสนิ คา้ หรอื บรกิ าร ในปงี บประมาณ 2553 โครงการ iTAP ไดส้ นับสนุน การพฒั นาเทคโนโลยีของ SMEs โดยการวิเคราะห์ปัญหาทาง เทคโนโลยีแก่ 903 บริษัท จัดท�ำโครงการให้คำ� ปรึกษาเชงิ ลกึ เพ่ือวิจัย พัฒนา และยกระดับมาตรฐานของ SMEs จ�ำนวน 724 โครงการ โดยมีการพัฒนากลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร และเกษตรมากท่ีสุด รองลงมาคืออุตสาหกรรมไม้และเครื่อง เรือน อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ อุตสาหกรรมการผลิต อตุ สาหกรรมการแพทยแ์ ละสขุ ภาพ และอตุ สาหกรรมพลงั งาน 55รากยระงทารวนงวิทปยารศะาสจตรำ� แ์ ปละเี ท2คโ5น5โล3ยี
และสง่ิ แวดลอ้ ม ตามล�ำดับ ผลลัพธ์และผลกระทบท่ีเกิดขึ้นทั้งในเชิงเศรษฐกิจ สงั คมและสง่ิ แวดลอ้ ม และวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยที ส่ี ำ� คญั ไดแ้ ก่ 1) กอ่ ใหเ้ กดิ การลงทนุ วจิ ยั และพฒั นาของภาคเอกชน ไม่นอ้ ยกวา่ 450 ล้านบาท 2) มีนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่และกระบวนการผลิต ทโ่ี ดดเด่น ไดแ้ ก่ น�้ำส้มสายชูหมกั จากขา้ วโพด (corn cider) ตู้อัตโนมัติรับฝากดอกเบ้ียและเพ่ิมวงเงินกู้ยืมทองรูปพรรณ ของรา้ นทอง และระบบตรวจนบั ทองและจวิ เวลรอ่ี ตั โนมตั ดิ ว้ ย เทคโนโลยี RFID แผน่ อะครลิ คิ ทนแรงกระแทกสูง พดั ลมไอ น�้ำแบบจานหมนุ ทดแทนการนำ� เขา้ ระบบอัตโนมัตกิ ารผลติ ถงุ มอื ยาง โรงอบแหง้ กลว้ ยตากและขา้ วแตน๋ จากพลงั งานแสง อาทติ ยห์ อ้ งนงั่ เลน่ สไตลล์ า้ นนาซงึ่ ผสมผสานวทิ ยาศาสตร์ ศลิ ปะ และเอกลกั ษณข์ องท้องถ่นิ 3) พฒั นาโรงสขี า้ วเกอื บ 100 โรงงานใหส้ ามารถสขี า้ ว เต็มเม็ดไดเ้ พิม่ ขน้ึ มกี ารสีข้าวท่ีถูกตอ้ งตามหลกั วิศวกรรม ก่อ ให้เกิดประโยชนท์ ป่ี ระหยดั ตน้ ทุนไดม้ ากกว่า 500 ล้านบาท 4) ดา้ นสงิ่ แวดลอ้ ม มกี ารนำ� เศษวสั ดเุ หลอื ใชใ้ นโรงงาน อตุ สาหกรรมตา่ งๆมาสรา้ งสรรคอ์ อกแบบและพฒั นาเปน็ สนิ คา้ ทม่ี มี ลู คา่ สงู และรกั ษาสง่ิ แวดลอ้ ม เชน่ หอ้ งนง่ั สมาธใิ นบา้ น โตะ๊ ดีไซดเ์ กจ๋ ากเศษกระจก เป็นตน้ 2.10 นวตั กรรมดไี มม่ ดี อกเบ้ีย ลดตน้ ทนุ การผลติ ส่งเสริม เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ดร.วรี ะชยั วรี ะเมธกี ลุ รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงวทิ ยาศาสตร์ สำ� นกั งานนวัตกรรมแหง่ ชาติ (องค์การมหาชน) หรอืและเทคโนโลยี เยี่ยมชมโรงงานผลิตภัณฑ์นม แดร่ีโฮม ซึ่งได้ร่วมกับ สนช. ร่วมกบั สถาบันการเงนิ 9 แห่ง ไดแ้ ก่ ธนาคารกรุงเทพฯมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ภายใต้การสนับสนุนจาก โครงการ จำ� กดั (มหาชน) ธนาคารกสกิ รไทย จำ� กดั (มหาชน) ธนาคารiTAP ของส�ำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ไทยพาณชิ ย์ จำ� กดั (มหาชน) ธนาคารกรงุ ไทย จำ� กดั (มหาชน)(สวทช) กระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ดำ� เนนิ การวจิ ยั และพฒั นา ธนาคารกรงุ ศรอี ยธุ ยา จำ� กดั (มหาชน) ธนาคารนครหลวงไทยผลิตภัณฑ์นมท่ีมีระดับเมลาโทนินธรรมชาติสูง ออกจ�ำหน่ายเพ่ือเป็น จ�ำกัด (มหาชน) ธนาคารทหารไทย จำ� กัด (มหาชน) ธนาคารทางเลอื ก แกผ่ ทู้ มี่ ปี ญั หาการนอนหลบั แทนการใชย้ า ณ บรษิ ทั แดรโ่ี ฮม ซไี อเอม็ บี ไทย จ�ำกดั (มหาชน) และธนาคารพฒั นาวสิ าหกิจจำ� กดั ต.พญาเยน็ อ.ปากชอ่ ง จ.นครราชสมี า เมอื่ วนั ท่ี 28 สงิ หาคม 2553 ขนาดกลางและขนาดยอ่ มแห่งประเทศไทย ใหก้ ารสนบั สนุน ผู้ประกอบการผ่าน โครงการ “นวัตกรรมดี... ไม่มีดอกเบ้ีย”56 MAinnisntryuaoflScRienecpe oanrdtTe2ch0n1ol0ogy
เพ่ือพัฒนาและส่งเสริมผู้ประกอบการไทยท่ีลงทุนใน “ธุรกิจ ทางดา้ นเทคโนโลยแี ละนวตั กรรม เขา้ มาชว่ ยเหลอื แนะนำ� และนวัตกรรม” และให้ผู้ประกอบการที่ต้องการลงทุนในธุรกิจ ถา่ ยทอดองคค์ วามรใู้ หก้ บั ผปู้ ระกอบการทเ่ี ขา้ รว่ มโครงการ ในนวตั กรรมซง่ึ เปน็ การลงทนุ ทม่ี คี วามเสย่ี งสงู จะไดม้ โี อกาสเขา้ ลักษณะของผใู้ หบ้ ริการนวตั กรรม ซง่ึ ถือเป็นปจั จยั ส�ำคัญที่จะถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น และช่วยความเสี่ยงและลดต้นทุน ท�ำใหโ้ ครงการคูปองนวัตกรรมประสบความส�ำเรจ็ทางการเงนิ ของนักลงทุนนวัตกรรมลงได้ ทงั้ นี้ คาดวา่ โครงการดงั กลา่ วจะสามารถเปดิ ตวั อยา่ ง ในปีงบประมาณ 2553 ส�ำนักงานนวัตกรรมแห่ง เปน็ ทางการไดภ้ ายในตน้ ปี พ.ศ. 2554 โดยจะใชว้ งเงนิ งบประมาณชาติ ได้สนับสนุนด้านการเงินให้แก่ผู้ประกอบการนวัตกรรม ด�ำเนินการท้ังส้ิน 120 ล้านบาท เพื่อให้สภาอุตสาหกรรมผ่านโครงการนวัตกรรมดี ... ไม่มีดอกเบี้ย จ�ำนวนท้ังสิ้น 7 แห่งประเทศไทยน�ำใช้ไปบริหารจัดการโครงการ มีก�ำหนดโครงการ วงเงนิ 6,822,329 บาท และไดส้ นบั สนนุ ดา้ นการเงนิ ระยะเวลาด�ำเนินโครงการ 2 ปี และต้ังเป้าหมายว่าโครงการสำ� หรบั โครงการนวตั กรรม แปลงเทคโนโลยเี ปน็ เงนิ จำ� นวน 78 ดงั กลา่ วนจี้ ะชว่ ยกระตนุ้ ใหเ้ กดิ การลงทนุ ในธรุ กจิ นวตั กรรมโดยโครงการ วงเงนิ 56,398,860 บาท และผา่ นโครงการทนุ เครอื ผู้ประกอบการขนาดเลก็ ขน้ึ ได้ไม่ต�่ำกวา่ 500 ล้านบาทขา่ ยวสิ าหกจิ นวตั กรรม จำ� นวน 2 โครงการ วงเงนิ 1,500,000 นบั เปน็ โครงการนำ� รอ่ งในการนำ� เงนิ ทนุ และองคค์ วามรู้บาท ทางดา้ นวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวตั กรรม ไปชว่ ยเหลอื ผู้2.11 คูปองนวัตกรรม สานฝันเอสเอ็มอีไทยสู่เศรษฐกิจ ประกอบการขนาดกลางและขนาดเลก็ ในตา่ งจงั หวดั ใหส้ ามารถสรา้ งสรรค์ พฒั นาศกั ยภาพและความสามารถในการแขง่ ขนั ของตนเองใหส้ งู นอกจากโครการนวัตกรรมดีไม่มีดอกเบี้ยแล้ว ขน้ึ ซงึ่ ในทสี่ ดุ แลว้ จะนำ� ไปสกู่ ารเกดิ วฒั นธรรมนวตั กรรมขน้ึ ในกระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โดยสำ� นกั งานนวตั กรรม สงั คมไทย และนำ� พาเศรษฐกจิ ไทยไปสเู่ ศรษฐกจิ แบบสรา้ งสรรค์ แหง่ ชาติ ยงั ไดผ้ นึกก�ำลังกบั สภาอตุ สาหกรรม จดั ท�ำโครงการคูปองนวตั กรรม เพอ่ื ยกระดบั เอสเอม็ อไี ทยกา้ วไปส่เู ศรษฐกจิสรา้ งสรรค์ โดยใชอ้ งคค์ วามรทู้ างดา้ นวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวตั กรรม โครงการคูปองนวัตกรรมท่ีส�ำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติได้ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยจัดท�ำขึ้นนี้จะเป็นโครงการน�ำร่องในการน�ำเงินทุนและองค์ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ไปช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็กในต่างจังหวัด เพ่ือลดความเสย่ี งดา้ นการเงนิ และพฒั นาศกั ยภาพและความสามารถในการแขง่ ขนั ของตนเองใหส้ งู ขนึ้ ซง่ึ ในทสี่ ดุ แลว้ จะนำ� ไปสกู่ ารเกิดวฒั นธรรมนวัตกรรมขน้ึ ในสังคมไทย และนำ� พาเศรษฐกิจไทยไปสเู่ ศรษฐกจิ แบบสรา้ งสรรค ์ นอกจากน ้ี ทางกระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีโดยสำ� นกั งานนวตั กรรมแหง่ ชาติ จะไดร้ ว่ มกบั สภาอตุ สาหกรรมแหง่ ประเทศไทยในการคดั เลอื กสถาบนั วชิ าการและผเู้ ชยี่ วชาญ 57รากยระงทารวนงวทิปยารศะาสจตรำ� แ์ ปละเี ท2คโ5น5โล3ยี
2.12 ต่อยอดเทคโนโลยีดว้ ยวิศวกรรมย้อนรอย โครงการวศิ วกรรมยอ้ นรอย ซง่ึ ดำ� เนนิ การโดยสำ� นกั งาน เครอ่ื งหีบปาล์มขนาด 15 ตนั ทะลายปาลม์ ตอ่ ชั่วโมงแบบสกรูคู่ปลดั กระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี มเี ปา้ หมายเชอื่ มโยงความรว่ มมอื ระหวา่ งมหาวทิ ยาลยั และเอกชน สรา้ งเทคโนโลยี เคร่อื งต้นแบบขนาดใหญส่ �ำหรบั งานเซรามกิ พร้อมซอฟทแ์ วร์ จากการยอ้ นรอยทางวศิ วกรรม เพอ่ื สง่ เสรมิ ใหภ้ าคเอกชนไทย ชว่ ยในการผลิตสามารถพึ่งพาตนเองทางด้านเทคโนโลยีได้เพิ่มมากขึ้น และสามารถผลติ เทคโนโลยที มี่ ปี ระสทิ ธภิ าพขน้ึ มาใชไ้ ดเ้ องในราคาประหยดั อาทิ ชุดเครือ่ งจกั รสำ� หรับกระบวนการสกัดน�้ำมันปาลม์ ดบิ ชนดิ ประสทิ ธภิ าพสงู การพฒั นาระบบโรงสขี นาดเลก็ส�ำหรับกลุ่มเกษตรชุมชน ชุดเครื่องจักรส�ำหรับกระบวนการผลติ ชวี มวลอดั แท่ง เครอื่ งอบของเหลวสญุ ญากาศ เครื่องหบีปาลม์ ขนาด15 ตันทะลาย ตอ่ ช่ัวโมง เครื่องต้นแบบโรงไฟฟา้ชีวมวล แบบถอดประกอบได้ ขนาด 25 กิโลวัตต์ เครื่องต้นแบบขนาดใหญ่ส�ำหรับงานเซรามิค พร้อมซอฟท์แวร์ช่วยการผลิต เคร่ืองแสกนฟันและผลิตฟันเทียม เครื่องบรรจุหลอดพรอ้ มปอ้ นหลอดอัตโนมัติ ส�ำหรับโครงการวิศวกรรมย้อนรอย มีโครงการท่ีได้ให้การสนับสนุนให้พัฒนาเคร่ืองจักร ประจ�ำปีงบประมาณ2553 จำ� นวน 20 โครงการ ได้แก่ ชุดเคร่อื งจกั รสำ� หรบั กระบวนการสกดั น้�ำมนั ปาลม์ ดบิ เคร่อื งต้นแบบโรงไฟฟ้าชวี มวลแบบถอดประกอบได้ ชนิดประสทิ ธภิ าพสูง ขนาด 25 กิโลวัตต์58 MAinnisntryuaoflScRienecpe oanrdtTe2ch0n1ol0ogy
ชดุ โรงสขี นาดเล็กสำ� หรบั ชุมชน 1) ชดุ เครือ่ งจักรส�ำหรับกระบวนการผลติ ปยุ๋ ชวี ภาพเครอื่ งบรรจหุ ลอดพร้อมปอ้ นหลอดอัตโนมตั ิ จากชวี มวล พัฒนาโดย มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ 2) เคร่ืองฉีดพลาสติกขนาดเล็ก (Mini Plastic Injection Machine) พฒั นาโดย สถาบันไทย – เยอรมัน 3) เครื่องจักรเก็บเก่ียวทะลายปาล์ม และรถขนถ่าย ทะลายปาลม์ พฒั นาโดย สมาคมเครื่องจกั รกลไทย 4) เตาเผาไฟฟ้า (Graphite Furnace) พัฒนาโดย สถาบนั ไทย – เยอรมัน 5) ชุดหัวเผาอัจฉริยะโดยใช้เช้ือเพลิงแท่งตะเกียบ ส�ำหรับกระบวนการอบแห้งผลผลิตทางการเกษตรพัฒนาโดย สมาคมเครอ่ื งจักรกลไทย 6) เครื่องรไี ซเคลิ น้ำ� ยาหล่อเยน็ อตุ สาหกรรม พัฒนา โดย สถาบันไทย – เยอรมัน 7) เครอ่ื ง INVERTER แบบ PURE SINE WAVE ใชก้ บั พลงั งานแสงอาทิตย์ พัฒนาโดย สมาคมเครอ่ื งจักรกลไทย 8) เคร่ืองชงกาแฟสด พฒั นาโดย สมาคมเครื่องจักร กลไทย 9) ชุดเครื่องจักรส�ำหรับกระบวนการผลิตมันเส้น คณุ ภาพสูง พฒั นาโดย มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ 10) เคร่ืองตัดครีบ ลมคม ฟันเฟือง พัฒนาโดย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ ธนบรุ ี 11) ระบบเผาไหม้แบบไดออกซินต�่ำ พัฒนาโดย มหาวทิ ยาลัยมหดิ ล 12) เครอ่ื งเคลอื บยาดว้ ยนำ�้ ตาลแบบอตั โนมตั ิ พฒั นา โดย สถาบนั ไทย – เยอรมัน 13) เครอื่ งคว่ั กาแฟสด พฒั นาโดย สมาคมเครอ่ื งจกั ร กลไทย 14) อปุ กรณส์ ำ� หรบั การตรวจสอบสมรรถนะเครอื่ งจกั ร กล CNC (CNC Checker) พฒั นาโดย มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ 15) รถขบั เคลอ่ื นอตั โนมตั ิ แบบ Automatic Guider Vehicle (AGVs) พฒั นาโดย สถาบนั ไทย – เยอรมนั 16) เครื่องผสมทรายหล่อแบบต่อเนื่อง พัฒนาโดย สถาบนั ไทย – เยอรมนั 17) เตาอบไมอ้ ดั แผน่ วเี นยี ร์ พฒั นาโดย มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีพระจอมเกลา้ พระนครเหนือ 59รากยระงทารวนงวทิปยารศะาสจตร�ำ์แปละเี ท2คโ5น5โล3ยี
18) ปน้ั จน่ั แบบ Derrick Crane ขนาด 3.5 ตนั พฒั นาโดย มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ 19) เครื่องสร้างตัวเร่งปฏิกิริยาด้วยเทคนิคคาโทดิกอารค์ พฒั นาโดย มหาวิทยาลัยบูรพา 20) เครื่องป้องกันการจุดระเบิดด้วยสัญญาณวิทยุสอ่ื สาร พฒั นาโดย กระทรวงกลาโหม2.13 สารพดั เทคโนโลยี แกไ้ ขปญั หาท่มี ขี องภาคเอกชน ด้านการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาและ เอกลกั ษณภ์ ายนอกที่ได้จากบัตรจรงิอปุ สรรคในการดำ� เนนิ ธรุ กจิ นน้ั ศนู ยเ์ ทคโนโลยอี เิ ลก็ ทรอนกิ ส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) ส�ำนักงานพัฒนา เอกลกั ษณภ์ ายนอกที่ได้จากบัตรปลอมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้เดินหน้าพฒั นาเทคโนโลยใี หมเ่ พอื่ ตอบโจทยอ์ ตุ สาหกรรมและแกป้ ญั หา เหลก็ หรอื ชปิ ทำ� ใหป้ ราศจากขอ้ กงั วลในเรอ่ื งการละเมดิ ขอ้ มลูทม่ี ผี ลกระทบในเชงิ เศรษฐกจิ อาทิ โครงการพฒั นาเครอ่ื งตรวจ สว่ นบคุ คล ตลอดจนทดสอบการใชง้ านรว่ มกบั บรษิ ทั บตั รกรงุสอบบตั รเครดิตและเดบติ ปลอม ท่รี เิ รม่ิ ขนึ้ เพอ่ื แกป้ ัญหาบัตร ไทย (มหาชน) จำ� กัด (KTC) มาแลว้ โดยปัจจุบันธนาคารไทยเครดิตและบัตรเดบิตปลอมเป็นปัญหาที่เกิดข้ึนในทั่วโลกรวม พาณิชย์ได้มีเครื่องดังกล่าวไว้ใช้จริง นอกจากนี้ยังได้ขายสิทธิ์ท้ัง ประเทศไทยซึ่งเกดิ ขึ้นในหลายจงั หวัดของประเทศ การผลิตใหแ้ ก่บริษัท นวิ เวฟไอเดียส์ จำ� กดั เพ่ือต่อยอดในเชิง โดยทีมวิจัยเนคเทคได้วิจัยพัฒนา “เครื่องตรวจสอบ พาณิชย์ตอ่ ไปบตั รเครดติ และบตั รเดบติ ปลอม”ขน้ึ จากการผสมผสานความรู้ทางดา้ นแสง อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ และ ซอฟทแ์ วร์ เขา้ ดว้ ยกนั ทงั้ ยงัไดจ้ ดสทิ ธบิ ตั รคมุ้ ครอง และ มผี ลการทดสอบทเี่ ปน็ ทยี่ อมรบั ในวงการวชิ าการระดบั สากลในวารสารวชิ าการ Applied Opticsเดือน ธนั วาคม 2552 และ กุมภาพนั ธ์ 2553 เครอ่ื งตรวจบตั รเครดติ และบตั รเดบติ ปลอมทพ่ี ฒั นาขนึ้สามารถตรวจสอบตวั บตั รเครดติ และบตั รเดบติ ไดว้ า่ เปน็ บตั รจรงิหรอื ปลอม โดยไมต่ อ้ งตรวจสอบขอ้ มลู ทเี่ กบ็ อยภู่ ายในแถบแม่60 MAinnisntryuaoflScRienecpe oanrdtTe2ch0n1ol0ogy
สรา้ งงาน สรา้ งรายได้ พฒั นาชีวติ สง่ เสรมิ เศรษฐกิจชมุ ชน
III. สร้าสง่งงเาสนริมสเศร้ารงษรฐากยิจไดชุม้ พชัฒน นาชีวติ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ไม่ใช่เรื่อง มุ่งหวังท่ีจะผลักดันให้เกิดการน�ำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไกลตัว แต่เป็นเร่ืองท่ีเก่ียวข้องกับรายได้ ปากท้อง และการ ลงไปใช้ประโยชน์เพ่ือการสร้างงาน สร้างรายได้ ลดรายจ่ายดำ� รงชวี ติ ของพนี่ อ้ งประชาชน เปน็ สง่ิ ทก่ี ระทรวงวทิ ยาศาสตร์ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องในชุมชนชนบทห่างไกลและเทคโนโลยี ใหค้ วามสำ� คญั และเดนิ หนา้ อยา่ งตอ่ เนอื่ ง โดย 3.1.1 คลนิ กิ เทคโนโลย ี ถา่ ยทอดองคค์ วามรดู้ ี ๆ สชู่ มุ ชนมองว่าความเข้มแข็งของคนในชุมชนจะเป็นพลังส�ำคัญในการ กระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยไี ดส้ รา้ งความรว่ มขับเคล่ือนประเทศให้เดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง โดยมุ่งไป มอื กบั สถาบนั วชิ าการในพน้ื ทตี่ า่ ง ๆ ทวั่ ทกุ ภมู ภิ าคของประเทศท่ีโครงการเพื่อพัฒนาศักยภาพชุมชนด้วยวิทยาศาสตร์และ เพอ่ื เปน็ เครอื ขา่ ยการท�ำงานรว่ มกนั กบั กระทรวงวทิ ยาศาสตร์เทคโนโลยี และเทคโนโลยใี นการลงไปรบั ฟงั ปญั หาความตอ้ งการของพน่ี อ้ ง กระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ไดส้ ง่ เสรมิ และ ประชาชน การร่วมกันท�ำงานวิจัยและพัฒนาเพ่ือตอบสนองสนบั สนนุ ชมุ ชนใชแ้ นวทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี กป้ ญั หา ความตอ้ งการและแก้ไขปัญหาให้กับพ่ีน้องประชาชน รวมทงั้ความยากจน โดยน�ำโครงการวิจัยตามแนวพระราชด�ำริ และ รว่ มกนั ในการฝกึ อบรมและถา่ ยทอดเทคโนโลยตี า่ ง ๆ ลงไปยงัผลงานวิจัยท่ีมีอยู่ไปประยุกต์ใช้เพ่ือเพ่ิมคุณภาพชีวิตและราย พี่นอ้ งประชาชน โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ในระดับชมุ ชนทอี่ าศัยอยู่ได้ให้กับประชาชน โดยน�ำองค์ความรู้ และผลการวิจัยด้าน ในต่างจงั หวดัวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมเข้าไปผลักดันการ ในปงี บประมาณ 2553 ส�ำนักสง่ เสรมิ และถ่ายทอดเปลี่ยนแปลงในกระบวนการผลิต และการบริหารจัดการเพื่อ เทคโนโลยี ไดจ้ ดั ใหม้ โี ครงการฝกึ อบรมและถา่ ยทอดเทคโนโลยียกระดับขีดความสามารถของหมู่บ้านให้ได้กระบวนการผลิต ให้กับผู้ใช้บริการทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ใน 14 กลุ่มท่ีมีคุณภาพ และมาตรฐาน รวมถึง กระบวนการลดต้นทุน เทคโนโลยี ได้แก่ การพัฒนาอาชีพ การเกษตร การผลิตในการผลิต และการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตหรือ เครอ่ื งจกั รและอปุ กรณ์ เครอื่ งจกั สาน เครอื่ งปน้ั ดนิ เผา เครอ่ื งส่ิงของเหลือใช้ในท้องถิ่น ท้ังนี้ เพ่ือเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่าย สำ� อาง การแปรรูปผลติ ผลทางการเกษตร การแปรรูปอาหารภาคครวั เรอื นของชมุ ชนในชนบท และชว่ ยสรา้ งงาน สรา้ งรายได้ พลงั งานทดแทน สมุนไพร สิ่งก่อสร้าง สิ่งทอ โครงการพระและพัฒนาคุณภาพชีวิตของพนี่ อ้ งประชาชนให้ดขี ้นึ ราชด�ำริในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ และกลุ่มโครงการ3.1 วิทยาศาสตรส์ ชู่ ุมชน ลดช่องว่างของการพฒั นา ศลิ ปาชีพ โดยมีผู้เข้ารับการฝึกอบรมและถา่ ยทอดเทคโนโลยี สาเหตสุ ำ� คญั ประการหนง่ึ ทกี่ อ่ ใหเ้ กดิ ชอ่ งวา่ งของการ จ�ำนวน 9,672 คน ใช้เงินงบประมาณด�ำเนินการทั้งส้ินพฒั นาระหวา่ งสงั คมเมอื งและสงั คมชนบท คอื โอกาสและความ 21,321,856 บาทสามารถในการเขา้ ถงึ แหลง่ ความรู้ โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ทางดา้ น นอกจากน้ี ยังได้พัฒนาเครือข่ายการท�ำงานร่วมกับวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวตั กรรม จงึ ทำ� ใหภ้ าคครวั เรอื น สถาบนั วชิ าการตา่ ง ๆ เพอ่ื ให้เข้ามาร่วมเป็นคลนิ กิ เทคโนโลยีและภาควสิ าหกจิ ชมุ ชนในชนบทพฒั นาศกั ยภาพของตนเองทาง เครือข่ายของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้เพ่ิมด้านเศรษฐกิจและพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของตนได้ ข้ึนอีก 17 แห่งในปี 2553 ได้แก่ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง นอ้ ยกวา่ เมอ่ื เทยี บกบั สงั คมเมอื ง ดงั นน้ั กระทรวงวทิ ยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา มหาวิทยาลัยแม่โจ้เฉลิมพระเกียรติและเทคโนโลยี จงึ ไดม้ งุ่ เนน้ การสรา้ งเครอื ขา่ ยการทำ� งาน เพอื่ (แพร่) มหาวิทยาลัยราชภัฎพิบูลสงคราม มหาวิทยาลัย ราชภัฎนครสวรรค ์ มหาวิทยาลยั มหิดล วิทยาเขตกาญจนบรุ ี 63รากยระงทารวนงวิทปยารศะาสจตร�ำ์แปละเี ท2คโ5น5โล3ยี
มหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยาเขตหนองคาย มหาวิทยาลัย หรอื บรกิ ารชมุ ชน การอนรุ กั ษแ์ ละฟน้ื ฟสู ภาพแวดลอ้ ม ซง่ึ ขนึ้ราชภัฎสกลนคร มหาวทิ ยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด มหาวิทยาลัย อยกู่ บั ความตอ้ งการ ความพรอ้ ม และจดุ แขง็ ของแตล่ ะหมบู่ า้ นราชภฎั บรุ รี มั ย ์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฎั สรุ นิ ทร์ มหาวทิ ยลยั แมโ่ จ้ ลงไปใชใ้ นการพฒั นาหมบู่ า้ น โดยรว่ มมอื กบั สถาบนั วชิ าการในวทิ ยาเขตชมุ พร มหาวทิ ยาลยั ราชภฎั สรุ าษฎรธ์ านี มหาวทิ ยาลยั พนื้ ทซ่ี งึ่ เปน็ คลนิ กิ เทคโนโลยเี ครอื ขา่ ย ทง้ั นี้ เพอื่ พฒั นาหมบู่ า้ นราชภฎั นครศรธี รรมราช มหาวทิ ยาลยั ทกั ษณิ วทิ ยาเขตพทั ลงุ ดังกล่าวให้เป็นต้นแบบของการพัฒนา และเป็นศูนย์เพ่ือการและมหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์ วทิ ยาเขตกระบี่ เรียนรขู้ องชมุ ชนต่าง ๆ ตอ่ ไป ทงั้ น้ี การขยายจำ� นวนคลนิ กิ เทคโนโลยเี ครอื ขา่ ยทเ่ี พมิ่ ในปีงบประมาณ 2553 เป็นปีแรกที่กระทรวงมากขนึ้ น้ี จะทำ� ใหก้ ารทำ� งานดา้ นการถา่ ยทอดวทิ ยาศาสตรแ์ ละ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้ร่วมกบั สถาบนั การศกึ ษาเครอืเทคโนโลยลี งสชู่ มุ ชนของกระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ขา่ ยนำ� วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยลี งไปถา่ ยทอด ชว่ ยเหลอื และเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุมการให้บริการแก่พี่ ตอ่ ยอดการพัฒนาหมบู่ า้ นจำ� นวน 160 หม่บู ้านใน 55 จังหวดัน้องประชาชนได้มากข้นึ โดยใชเ้ งนิ งบประมาณ 60 ลา้ นบาท ซงึ่ ในจำ� นวน 160 หมบู่ า้ นน้ี 3.1.2 หม่บู ้านวทิ ยาศาสตร ์ ศนู ย์การเรียนร้ตู น้ แบบ กระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยสี ามารถพฒั นาศกั ยภาพทางวิทยาศาสตร์ ของหม่บู า้ นและชุมชนจนประสบความส�ำเรจ็ ตามทตี่ ้งั ไว้ และ โครงการหมบู่ า้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เปน็ การ ยกระดับหมู่บ้านดังกล่าวขึ้นเป็นหมู่บ้านแม่ข่ายวิทยาศาสตร์นำ� วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยที สี่ อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของ และเทคโนโลยี เพอ่ื ใหเ้ ปน็ ศนู ยเ์ รยี นรทู้ างดา้ นการพฒั นาชมุ ชนประชาชนในหมบู่ า้ น ไมว่ า่ จะเปน็ ดา้ นการประกอบอาชพี การ ดว้ ยวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี จำ� นวนท้ังสน้ิ 35 หม่บู า้ นสร้างมูลค่าเพ่ิมให้แก่ผลิตภัณฑ์ การยกระดับการผลิตสินค้า ตัวอย่างหมู่บ้านท่ีสามารถพัฒนาจนเป็นหมู่บ้านแม่ ขา่ ยวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เชน่ หมบู่ า้ นตน้ นำ้� บา้ นทราย ดร.วรี ะชยั วรี ะเมธกี ลุ รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงวทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เปน็ ประธานในการมอบปา้ ยโครงการหมบู่ า้ นวทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยีเครือข่ายของมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ วิทยาเขต ก�ำแพงแสน เมื่อวนั ที่ ๑๗ กนั ยายน ๒๕๕๓ ณ ศูนยเ์ รียนร้เู กษตรครบ วงจรอยา่ งยง่ั ยนื ตามแนวเศรษฐกจิ พอเพยี ง อำ� เภอกำ� แพงแสน จงั หวดั นครปฐม64 MAinnisntryuaoflScRienecpe oanrdtTe2ch0n1ol0ogy
นวล บา้ นบางทรายนวล ต.คลองชะอนุ่ อ.พนม จ.สรุ าษฎรธ์ านี ดร.วรี ะชยั วรี ะเมธกี ลุ รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงวทิ ยาศาสตร์โดยสถาบันสารสนเทศทรพั ยากรน�้ำและการเกษตร (องค์การ และเทคโนโลยี รว่ มเวทีเสวนาอาสาสมัครวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีมหาชน) ร่วมกับหน่วยงานที่เก่ียวข้อง ได้เข้าไปช่วยส่งเสริม (อสวท.) ในการประชมุ “รวมพลคน อสวท. ประจ�ำปี 2553” พรอ้ มศักยภาพการบริหารจัดการน�้ำ ด้วยการน�ำความรู้ เครื่องมือ เย่ียมชมนิทรรศการของคลินิกเทคโนโลยีเครือข่าย อสวท. 4 ภาค ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้ร่วมกับการ ณ วังรี รีสอร์ท จงั หวัดนครนายก เม่ือวนั ท่ี 24 กนั ยายน 2553บรหิ ารจดั การนำ�้ ของชมุ ชนบา้ นทบั ครสิ ต์ ตลอดจนประยกุ ตใ์ ช้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยใี นเรอื่ งของการจดั การแผนทค่ี ณุ ภาพ ร่วมมืออันเหนียวแน่นจากชุมชน โดยกระทรวงวิทยาศาสตร์ดนิ เพอื่ ให้เกษตรกรสามารถใช้ปุ๋ยไดถ้ กู กบั ความตอ้ งการของ และเทคโนโลยี ได้จัดตั้งโครงการอาสานักวิทยาศาสตร์ชุมชนพชื และดนิ ดว้ ย ซง่ึ ทำ� ใหช้ มุ ชนบา้ นทบั ครสิ ตม์ กี ารบรหิ ารจดั การ (อสวท.) และคลนิ กิ เทคโนโลยี นำ� รอ่ งทจ่ี งั หวดั กระบี่ โดยรว่ มกบัทรพั ยากรนำ�้ ทพ่ี อเพยี ง ครอบคลมุ พนื้ ที่ 2,628 ไร่ และสามารถ มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตรแ์ ละหนว่ ยงานทเี่ กยี่ วขอ้ งทง้ั ภาครฐัสร้างอาชีพเสริมอื่นๆ เช่น กลุ่มเล้ียงหมูหลุม กลุ่มไม้ดอกไม้ประดบั กล่มุ ปยุ๋ อนิ ทรีย์ เปน็ ตน้ หมู่บา้ นแมข่ ่ายวทิ ยาศาสตร์ 65รากยระงทารวนงวิทปยารศะาสจตรำ� ์แปละเี ท2คโ5น5โล3ยีและเทคโนโลยแี หง่ น้ี สามารถสรา้ งรายไดเ้ พมิ่ ขนึ้ ไมน่ อ้ ยกวา่ ปลี ะ50 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมหี มู่บ้านตน้ นำ�้ (บา้ นป่าสกั งาม)จ.เชียงใหม่ หมู่บ้านน�้ำแล้ง (บ้านลิ่มทอง) จ.บุรีรัมย์ และหมู่บ้านน�้ำกร่อย (บ้านเปร็ดใน) จ.ตราด ที่ได้น�ำเทคโนโลยีการบรหิ ารจดั การนำ้� ไปใชใ้ นการพฒั นาหมบู่ า้ นจนประสบความสำ� เรจ็ เชน่ เดียวกัน สำ� หรบั หมบู่ า้ นเทคโนโลยพี ลงั งาน สวทช. ไดถ้ า่ ยทอดเทคโนโลยกี ารพฒั นาพลงั งานทดแทนจากกา๊ ซชวี ภาพทบี่ า้ นอดุ มและบา้ นสมบรู ณ์ ต.ชุมแสง จ.สุรินทร์ และไดพ้ ัฒนาหมู่บ้านแมข่ า่ ยก๊าซชวี มวลในครัวเรือน อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ โดยร่วมกับมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ถ่ายทอดการผลิตเตาแก๊สชีวภาพที่ใช้แกลบและเศษไม้ เป็นเช้ือเพลงิ สำ� หรับครัวเรือน ส่วนหมู่บ้านเทคโนโลยีด้านอาหารและการแปรรูปผลิตผลทางการเกษตร เช่น หมู่บ้านแปรรูปข้าวหอมนิล ที่อ.ผักไห่ จ.อยุธยา โดยกรมวิทยาศาสตร์บริการ หมู่บ้านกระเทียมไร้น้�ำมัน โดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบรุ ี หมู่บ้านแปรรปู ถวั่ ลสิ ง ที่ จ.รอ้ ยเอด็ โดยมหาวทิ ยาลยัราชภฎั มหาสารคาม เปน็ ต้น 3.1.3 รวมพลคน อสวท. สรา้ งเครอื ขา่ ยนกั วทิ ยร์ ะดบัชุมชน ความส�ำเร็จของการเสริมศักยภาพชุมชนด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะส�ำเร็จลงไม่ได้ถ้าขาดความ
และเอกชนในจังหวัด เดินหน้าหาอาสานกั วิทยาศาสตรช์ มุ ชน และคลนิ กิ เทคโนโลย ี เพอื่ พฒั นาบคุ ลากรในชมุ ชนใหน้ ำ� ความรู้ ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสนับสนุนการพัฒนางานของ ชมุ ชน โครงการ อสวท. เป็นเสมือนตวั กลางในการเช่ือมโยง ระหว่างกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกับชุมชน โดย อสวท. ซ่ึงเป็นคนในชุมชน จะไปส�ำรวจความต้องการของ ชุมชน แล้วน�ำมาคุยกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อน�ำองค์ความรู้ท่ีมีถ่ายทอด โดยปัจจุบันโครงการดังกล่าว มีอาสาสมคั รมากกวา่ 389 คน จากแต่ละหมู่บา้ น ทไี่ ด้รับการ ถา่ ยทอดเทคโนโลยที เี่ กยี่ วขอ้ งกบั การประกอบอาชพี และการ จดั การสงิ่ แวดลอ้ ม ในปี 2553 กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้ ร่วมกบั สถาบันการศกึ ษา 3 แหง่ ไดแ้ ก่ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฎ รำ� ไพพรรณ ี วิทยาลัยเทคโนโลยแี ละอุตสาหกรรมการตอ่ เรือ พระนครศรอี ยธุ ยา และวทิ ยาลยั เทคนคิ นครนายก ดำ� เนนิ การ จัดกิจกรรมฝกึ อบรมเพ่ือสรรหาสมาชิก อสวท.ใหมใ่ นพ้นื ท่ี 3 จังหวัด โดยสามารถสรรหาสมาชิกใหม่ได้เพ่ิมใน 3 จังหวัด ได้แก่ จ.จนั ทบรุ ี 159 คน จ.พระนครศรีอยุธยา 194 คน และ จ.นครนายก 162 คน นอกจากนี้ ยงั ไดด้ ำ� เนนิ โครงการถา่ ยทอด เทคโนโลยสี ชู่ มุ ชนทผี่ ลกั ดนั โดย อสวท. อกี จำ� นวน 19 โครงการ เช่น โครงการผลิตน�้ำมันบริสุทธิ์และผลิตภัณฑ์จากวัสดุท่ีเกิด จากการผลิต โครงการผลิตปุ๋ยอนิ ทรียแ์ ละปุย๋ ชีวภาพจากผล ไม ้ โครงการถา่ ยทอดเทคโนโลยกี ารพฒั นาผลติ ภณั พแ์ ละบรรจุ ภณั ฑอ์ าหารของสมาชกิ อสวท.อ.ชะอำ� เพอื่ เพม่ิ ศกั ยภาพการ แขง่ ขนั โครงการถา่ ยทอดเทคโนโลยกี ารทำ� แกส๊ ชวี ภาพชมุ ชน บางเสร ่ โครงการถา่ ยทอดเทคโนโลยกี ารท�ำถา่ ยอดั แท่งจาก เศษวสั ดเุ หลอื ใช ้ โครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ตั กิ ารเรอ่ื งกระบวนการ ผลติ ขา้ วตงั หมหู ยองสกู่ ารเปน็ สนิ คา้ ชมุ ชน โครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ตั กิ ารเรอ่ื งการพฒั นาลวดลายและแปรรปู เสอื่ กก โครงการ ถา่ ยทอดเทคโนโลยสี ยี อ้ มผา้ ไหมดว้ ยวตั ถดุ บิ ธรรมชาตแิ ละวาด ลายแบบบาติกเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์ชุมชน เป็นต้น โดยมจี ำ� นวนผูเ้ ข้ารับการถ่ายทอดเทคโนโลยีรวม 890 คน และเพอ่ื ใหเ้ ปน็ ไปตามนโยบายของรฐั มนตรวี า่ กระทรวง วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ทตี่ อ้ งการให้ อสวท.ไดเ้ หน็ บทบาท66 MAinnisntryuaoflScRienecpe oanrdtTe2ch0n1ol0ogy
ภารกจิ และศักยภาพของหนว่ ยงานต่าง ๆ ในสังกัดกระทรวง ศนู ยว์ ทิ ยบรกิ ารมหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ เปน็ สอ่ื กลางในการวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เพอ่ื เปน็ การอบรมและเสรมิ สรา้ ง ถา่ ยทอดและฝกึ อบรมความรแู้ ละเทคโนโลยแี บบไรข้ องเสยี ให้ความรเู้ กย่ี วกบั ความกา้ วหนา้ ทางดา้ นวทิ ยาศาสตร์ การพฒั นา กบั พนี่ อ้ งในชมุ ชน จ.กระบี่และจังหวดั ใกลเ้ คียงอสวท.ให้เป็นผู้ท่ีท�ำหน้าท่ีประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ผลงาน 2) ประสานงานกบั จงั หวดั กระบี่ เพอ่ื ดำ� เนนิ การคดั เลอื กวจิ ยั และการใหบ้ รกิ ารทางวทิ ยาศาสตรล์ งไปสชู่ มุ ชนรากหญา้ ผแู้ ทนหรอื แกนนำ� หมูบ่ ้านใน จ.กระบี่ หมูบ่ ้านละ 1 คน เพอ่ืและเพ่ือเปิดโอกาสให้ อสวท.สามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้และ นำ� มาศกึ ษาดงู านและฝกึ อบรมใหเ้ ปน็ อาสาสมคั รวทิ ยาศาสตร์สรา้ งเครอื ขา่ ยความรว่ มมอื ระหวา่ ง อสวท.ดว้ ยกนั และระหวา่ ง และเทคโนโลยชี มุ ชน เพอื่ ทจ่ี ะทำ� ใหส้ มาชกิ ในชมุ ชนทกุ หมบู่ า้ นอสวท.กับนักวิจัยของคลินิกเทคโนโลยีเครือข่าย กระทรวง ของ จ.กระบี่ ได้เรียนรู้และเข้าใจเก่ียวกับเทคโนโลยีการผลิตวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยจี งึ ไดจ้ ดั กจิ กรรม รวมพล คน อสวท. แบบไร้ของเสีย หรือการน�ำวัสดุเหลือจากภาคเกษตรหรือในขึ้นทวี่ งั รีรีสอร์ท จ.นครนายก โดยมี อสวท.ระดบั แกนนำ� และ ครัวเรือนมาสร้างประโยชน์ หรือผลิตเป็นสินค้าออกจ�ำหน่ายนกั วจิ ยั จากคลนิ กิ เทคโนโลยเี ขา้ รว่ มการฝกึ อบรม สมั มนา และ เพอื่ เพม่ิ รายไดใ้ หก้ บั ครวั เรอื น สรา้ งมลู คา่ เพมิ่ ใหก้ บั ชมุ ชน และศกึ ษาดงู านของหนว่ ยงานตา่ ง ๆ ในสงั กดั กระทรวงวทิ ยาศาสตร์ รกั ษาสิ่งแวดล้อมของชมุ ชนใหส้ ะอาดปราศจากขยะและเทคโนโลยี รวมทั้งสนิ้ 150 คน ทงั้ น ้ี กระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ไดท้ ำ� พธิ ี 3.1.4 เปลย่ี นขยะเปน็ เงนิ บรู ณาการเทคโนโลยเี พอื่ ชมุ ชน เปิดห้องเรียนต้นแบบเกษตรอินทรีย์แบบไร้ของเสียอย่างเป็น จากแนวคิดในการปลูกและผลิตข้าวอินทรีย์แบบไร้ ทางการ เมือ่ วนั ท่ี 15 ตลุ าคม 2553 และจะไดน้ ำ� แนวคิดการของเสยี ของชมุ ชนหมู่ 1 บา้ นเกาะกลาง อ.เมอื ง จ.กระบ่ี ซึ่ง ผลติ แบบไรข้ องเสยี และวธิ กี ารถา่ ยทอดเทคโนโลยสี ชู่ มุ ชนอยา่ งเปน็ หมบู่ า้ นแมข่ า่ ยวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ทป่ี ระสบความ บูรณาการไปขยายผลในจังหวดั ต่าง ๆ ให้เพ่มิ มากข้นึ ต่อไปในสำ� เรจ็ ในการเปลยี่ นขยะเปน็ เงนิ โดยเอาทกุ สว่ นของขา้ วมาใช้ ปงี บประมาณ 2554 เพอื่ ชว่ ยกนั สรา้ งสรรคป์ ระโยชนจ์ ากขยะประโยชน์ ไมว่ า่ จะเปน็ แกลบ ปลายขา้ ว หรอื รำ� ขา้ ว จนไมเ่ หลอื สรา้ งรายได้ ลดรายจา่ ย และรกั ษาสง่ิ แวดลอ้ มในชมุ ชนชนบทส่วนหน่ึงส่วนใดของข้าวเป็นของเสียหรือขยะเลยน้ัน ท�ำให้ และเพอื่ การพฒั นาชนบทและการพฒั นาภาคเกษตรกรรมของดร.วรี ะชัย วรี ะเมธกี ลุ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงวิทยาศาสตร์ ประเทศใหก้ า้ วหน้า เข้มแข็ง และย่งั ยนื ตอ่ ไปและเทคโนโลยมี อบเปน็ นโยบายใหก้ ระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละ 3.2 เทคโนโลยเี พ่อื สุขภาพเทคโนโลยีขยายผลแนวคิดในการ “เปลี่ยนขยะเป็นเงิน” ดัง ความไม่มีโรคนั้น เป็นลาภอันประเสริฐ ที่ทุกคนกลา่ วใหค้ รอบคลุมพนื้ ท่ีอนื่ ๆ ในจังหวดั กระบ่ี เพอ่ื พฒั นาให้ ปรารถนา ดังนน้ั กระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีจงึ ได้จงั หวัดกระบ่เี ป็นเมอื งไร้ของเสยี ต้นแบบ มุ่งมั่นในการวิจัยพัฒนาเพื่อน�ำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจึงได้บูรณา มาใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพ่ีน้องประชาชนให้ดีขึ้นการการท�ำงานร่วมกับจังหวัดกระบี่ และศูนย์วิทยาบริการ สรา้ งหลกั ประกนั ใหก้ ารรกั ษาพยาบาลมคี ณุ ภาพมากขน้ึ และมหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ จ.กระบ่ี เพอ่ื ขยายผลโครงการใน ลดค่าใชจ้ า่ ยในการเขา้ ถึงการรักษาพยาบาลตา่ ง ๆ ใหน้ อ้ ยลงลกั ษณะ 2 กิจกรรมคขู่ นาน ได้แก่ เพื่อเปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชนที่มีรายได้น้อยสามารถ 1) การสนับสนุนงบประมาณและการถ่ายทอด เขา้ ถงึ การรกั ษาพยาบาลดว้ ยเทคโนโลยที างการแพทยส์ มยั ใหม่เทคโนโลยรี ่วมกบั ศนู ยว์ ทิ ยบรกิ ารมหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ ได้เพมิ่ มากข้นึจ.กระบ่ี เพอื่ จดั ตงั้ หอ้ งเรยี นตน้ แบบเกษตรอนิ ทรยี แ์ บบไรข้ องเสยี ซ่ึงเป็นหอ้ งเรียนกลางแจง้ ท่ชี าวบา้ นสามารถเข้ามาศึกษาเรยี นรู้ และทดลองปฏบิ ตั ไิ ดจ้ รงิ ดว้ ยตนเอง โดยมบี คุ ลากรของ 67รากยระงทารวนงวิทปยารศะาสจตรำ� แ์ ปละเี ท2คโ5น5โล3ยี
3.2.1 เครอื่ งดงึ หลงั และคออตั โนมตั เิ ครอ่ื งแรกของไทย 3.2.2 รถนงั่ เคล่ือนที่เอนกประสงค์ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่ง สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยแี ห่งชาตหิ รือประเทศไทย (วว.) ได้ประสบผลส�ำเร็จในการวิจัยและพัฒนา วว. ไดพ้ ฒั นา “รถนง่ั เคลอ่ื นทอ่ี เนกประสงค”์ เพอ่ื อำ� นวยความ“เคร่ืองดึงหลังและคออัตโนมัติ” (Automatic Traction สะดวกให้กับผู้สูงอายุและผู้บกพร่องทางร่างกายให้มีโอกาสMachine รุ่น TISTRAC0901) เครื่องแรกของประเทศไทย ช่วยเหลือตวั เองไดม้ ากข้นึ โดยที่รถนง่ั เคลื่อนทอ่ี เนกประสงค์ในการบ�ำบัดรักษาผู้ป่วยซ่ึงเป็นโรคท่ีเก่ียวข้องกับหมอนรอง มลี กั ษณะเดน่ แตกตา่ งจากรถนง่ั เคลอ่ื นทท่ี วั่ ไปในทอ้ งตลาดคอืกระดกู สนั หลงั ขอ้ ตอ่ หลงั กลา้ มเนอื้ หลงั และกระดกู หลงั รวม สามารถสนองตอบความตอ้ งการในด้านการบรหิ ารสว่ นต่างๆทงั้ ผปู้ ว่ ยทม่ี คี วามเสอื่ มหรอื มคี วามผดิ ปกตขิ องกระดกู สนั หลงั ของร่างกาย การท�ำกายภาพบ�ำบัดส�ำหรับแก้ปัญหาเร่ืองเอ็นในระดับคอและหลัง ซึ่งภายหลังจากการทดสอบการท�ำงาน ยึดติดบรเิ วณหวั เขา่ และขอ้ เท้า (CPM-Continuous Passiveของเครอื่ งกบั ผปู้ ว่ ยในสาขากายภาพบำ� บดั คณะสหเวชศาสตร์ Motion) การลุกยืนเพ่ือให้กระดูกส่วนต่างๆ ได้รับน�้ำหนักมหาวทิ ยาลยั ศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ วทิ ยาเขตองคร์ กั ษ์ ซง่ึ เจา้ หนา้ ท่ี แทนการนอนอยกู่ บั ท ่ี ตลอดจนการเคลือ่ นที่ไปมา นอกจากและคนไข้ส่วนใหญม่ คี วามพงึ พอใจ นย้ี งั มรี ะบบขบั ถา่ ยอจุ จาระและปสั สาวะขณะนงั่ บนรถ ในสว่ น เครื่องดึงหลังและคออัตโนมัติ เป็นหนึ่งในงานวิจัย ของการบงั คบั ควบคมุ การเคลอื่ นทก่ี ส็ ะดวกเพยี งบงั คบั คนั โยกท่ีกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้การสนับสนุนเพื่อ เลยี้ วซา้ ย-ขวา เดนิ หนา้ -ถอยหลงั หรอื ปรบั นอนราบ นงั่ ยนื ได้พฒั นาเทคโนโลยใี หม้ ปี ระสทิ ธภิ าพการใชง้ านทดั เทยี มกบั เครอื่ งทน่ี ำ� เขา้ จากตา่ งประเทศ มตี น้ ทนุ ถกู กวา่ เครอื่ งนำ� เขา้ ถงึ 60%ชว่ ยลดการนำ� เขา้ เครอื่ งมอื แพทยจ์ ากตา่ งประเทศทม่ี รี าคาแพงรวมถงึ ลดการใชบ้ คุ ลากรทางการแพทยข์ องประเทศทม่ี อี ยอู่ ยา่ งจำ� กดั 3.2.3 สุขภาพดดี ว้ ยนาโนเทคโนโลยี ศูนยน์ าโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สำ� นักงาน พฒั นาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สวทช.) ไดพ้ ฒั นาผลติ ภณั ฑ์68 MAinnisntryuaoflScRienecpe oanrdtTe2ch0n1ol0ogy
ไลย่ งุ จากสารสกดั สมนุ ไพรทมี่ กี ลนิ่ จากนำ�้ มนั หอมระเหย ซง่ึ ผลติ บริสุทธิ์ท่ีปลอดโรค โดยกรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) ได้จากสารกันยุงที่ได้จากธรรมชาติมีข้อดีกว่าสารเคมีสังเคราะห์ ศึกษาวิจัยและผลิตสารกรองสนิมเหล็กในน�้ำบาดาล รวมถึงเนื่องจากมีแนวโน้มที่ปลอดภัยต่อผู้ใช้มากกว่า ไม่ท�ำลาย ผลติ เครือ่ งกรองนำ�้ เพอ่ื การอปุ โภคและบรโิ ภค ซ่ึงมีประโยชน์สงิ่ แวดลอ้ มและบางชนดิ มคี วามจำ� เพาะตอ่ ชนดิ ของยงุ ไดอ้ กี ดว้ ย อยา่ งมากกบั ชมุ ชนทข่ี าดแคลนแหลง่ นำ้� ทสี่ ะอาด และตอ้ งเจาะผลงานวิจัยดังกล่าว เป็นหนึ่งในผลงานวิจัยด้านสุขภาพและ น�้ำบาดาลใตด้ นิ ขึ้นมาใช้สาธารณสุขของศูนยน์ าโนเทคโนโลยีแหง่ ชาติ ท่ีมศี ักยภาพใน สารสนมิ เหลก็ และ สารประกอบอนื่ ๆ ปะปนอยใู่ นนำ�้การตอ่ ยอดเชงิ พาณชิ ย์ เพราะนอกจากสารสกดั สมนุ ไพรฆา่ ยงุ บาดาลสง่ ผลตอ่ สขุ ภาพและอนามยั ของประชาชน ทำ� ใหเ้ กดิ โรคแลว้ นาโนเทคยงั ไดว้ จิ ยั และพฒั นาเสน้ ใยคณุ สมบตั พิ เิ ศษสำ� หรบั ตา่ งๆ และยงั กอ่ ใหเ้ กดิ ปญั หานำ้� มสี แี ดงมกี ลน่ิ เกดิ คราบสนมิ ขนึ้สงิ่ ทอฆา่ ยงุ เพอ่ื เพม่ิ ทางเลอื กในการควบคมุ การระบาดของเชอ้ื กบั เครอื่ งสขุ ภณั ฑแ์ ละทำ� ใหผ้ า้ เปอ้ื นอกี ดว้ ย ซงึ่ ในอดตี ทผ่ี า่ นมามาลาเรียด้วยสิ่งทอคุณสมบัติพิเศษและนาโนเทคโนโลยี โดย มีประชาชนไม่มากนักสามารถติดตั้งเคร่ืองกรองน้�ำเพื่อกรองพฒั นาเสน้ ใยเดย่ี วสงั เคราะห์ ทมี่ สี ว่ นผสมของสารออกฤทธฆิ์ า่ ยงุ สนมิ เหล็กดังกล่าวได้ เน่ืองจากเครือ่ งกรองและสารกรองยงั มีพรอ้ มทง้ั ปรบั ปรงุ คณุ สมบตั วิ สั ดแุ ละผลติ ภณั ฑท์ ม่ี คี ณุ สมบตั ฆิ า่ ราคาทค่ี อ่ นขา้ งแพง เพราะตอ้ งนำ� เขา้ สารกรองจากตา่ งประเทศยงุ ใหม้ คี ณุ สมบตั พิ เิ ศษทเ่ี ออ้ื ตอ่ การดแู ลรกั ษา คงประสทิ ธภิ าพ ปัจจุบันกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้และอายุการใช้งาน ตลอดจนเพิ่มคุณสมบัติพิเศษอื่นๆ ลงใน ถ่ายทอดเทคโนโลยีเชิงปฏิบัติการโดยให้ความรู้เรื่องน้�ำ การมุ้ง เช่น คุณสมบัติท�ำความสะอาดตัวเองได้ คุณสมบัติหน่วง ปรบั ปรงุ คณุ ภาพนำ้� การผลติ สารกรองสนมิ เหลก็ การผลติ เครอื่ งไฟ คณุ สมบัติกันน้�ำ เป็นต้น กรองสนิมเหล็ก และการผลิตเครื่องกรองน�้ำเพื่อการอุปโภค บริโภคอย่างง่ายที่ชุมชนสามารถผลิตเองได้ โดยมีเป้าหมาย 3.2.4 น้�ำด่มื สะอาด สขุ ภาพดี ชมุ ชนทำ� ได้ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยียังได้เดินหน้า 69รากยระงทารวนงวิทปยารศะาสจตรำ� ์แปละเี ท2คโ5น5โล3ยีพัฒนาระบบกรองน�้ำให้กับชุมชน เพื่อสุขภาพอนามัย ได้น�้ำ
ใหท้ กุ พน้ื ทขี่ องประเทศไทยปราศจากนำ�้ สนมิ เหลก็ ทง้ั ยงั พฒั นา อาคารผลติ เภสชั ภณั ฑร์ งั สี (ทอี่ งครกั ษ)์ (Clean room Gradeให้ชุมชนสามารถผลิตน้�ำดื่มท่ีสะอาดและปลอดภัยเพ่ือการ A,B,C,D) เพื่อผลิตเภสัชภัณฑ์ส�ำเร็จรูปของเทคนีเซียม – 99บริโภค ตลอดจนสร้างเครือข่ายถ่ายทอดเทคโนโลยีขยายผล เอม็ (Tc – 99m - Radiopharmaccuticals) เพอ่ื การวนิ จิ ฉยั ,ครอบคลมุ พ้นื ท่ีในทกุ ภูมภิ าคใหม้ ากข้นึ Labeled compounds เพอ่ื การวนิ จิ ฉยั และรกั ษา และสำ� หรบั 3.2.5 สุขภาพดีได้ ดว้ ยเทคโนโลยนี ิวเคลยี ร์ รองรับการผลิตเภสัชภัณฑ์รังสีท่ีผลิตจากเครื่องไซโคลตรอน สถาบนั เทคโนโลยนี วิ เคลยี รแ์ หง่ ชาติ (องคก์ ารมหาชน) (Cyclotron) ในอนาคต นอกจากนั้นก็มี Hot cell (Isolator)หรอื สทน. ไดว้ จิ ยั และพฒั นาการนำ� เทคโนโลยนี วิ เคลยี รม์ าใช้ สำ� หรบั ปฏบิ ตั งิ านวจิ ยั ดา้ นเภสชั รงั สี ปจั จบุ นั กำ� ลงั ตดิ ตงั้ เครอื่ งประโยชน์ในทางการแพทย์และเภสัช โดยมผี ลการด�ำเนินงาน มอื และอปุ กรณต์ า่ งๆ ทส่ี ำ� คญั คาดวา่ จะแลว้ เสรจ็ ในกลางเดอื นในปีงบประมาณ 2553 ดังน้ี มถิ นุ ายน 2554 และจะเรมิ่ ทดลองผลติ และขอการรบั รอง GMP 1) ศูนย์ไอโซโทปรังสีได้ด�ำเนินการผลิตสารไอโซโทป ในกลางปี 2555รงั สี สารประกอบตดิ ฉลากรงั สี เภสชั ภณั ฑส์ ำ� เรจ็ รปู ของไอโอดนี ทั้งนี้ ศูนย์ผลิตเภสัชรังสีแห่งใหม่ของ สทน.จะ131 เทคนเี ซยี ม – 99 เอม็ : ซามาเรยี ม 153 เพอื่ ใชป้ ระโยชน์ กอ่ สรา้ งแลว้ เสรจ็ ซงึ่ จะทำ� ใหส้ ามารถผลติ เภสชั รงั สชี นดิ ใหมๆ่ทางการแพทย์ การเกษตรและการศึกษาวิจัย ทั้งภาครัฐและ ท่ีมีคุณภาพและมาตรฐานได้เพ่ิมมากขึ้นเพ่ือรองรับกับความเอกชน ประมาณ 25 แห่ง ผลิตภณั ฑข์ องศูนย์ไอโซโทปรังสี มี ตอ้ งการผปู้ ว่ ยทรี่ อรบั การรกั ษาอยปู่ จั จบุ นั โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิทงั้ หมด 32 ชนิด และสามารถใหบ้ รกิ ารตรวจวินจิ ฉยั โรคและ ประชาชนทม่ี รี ายไดน้ อ้ ยจะไดส้ ามารถเขา้ ถงึ การรกั ษาพยาบาลรักษาผ้ปู ่วยได้ประมาณ 32,000 คน โดยใช้เภสชั รังสีได้อยา่ งทว่ั ถงึ 2) ศนู ยไ์ อโซโทปรงั สี ไดพ้ ฒั นากระบวนการผลติ เภสชั 3) สามารถวิจัยและพัฒนาเพ่ือเพ่ิมชนิดของเภสัชรังสีเพื่อให้ได้คุณภาพและเป็นไปตามมาตรฐานสากล จนได้ ภณั ฑร์ ังสชี นดิ พร้อมใช้ (Unit Dose) สำ� หรับผูป้ ว่ ยเฉพาะรายรับรองมาตรฐาน ISO 9001 : 2008 เมื่อวันที่ 9 พฤศจกิ ายน เภสชั ภณั ฑร์ ังสีชนิดใหม่ เชน่ Tc – 99m – IIynic TOC ได้2553 และไดพ้ ัฒนาระบบผลิตใหเ้ ปน็ ไปตามมาตรฐาน GMP เสร็จสมบรู ณ์เพ่ือให้เป็นไปตามกฎหมายการผลิตยา จากส�ำนักงานคณะ 4) ไดพ้ ัฒนาและปรบั ปรุงบรรจุภณั ฑจ์ นไดม้ าตรฐานกรรมการอาหารและยา (อย.) ทก่ี ำ� ลงั จะออกบงั คบั ใชใ้ นเรว็ ๆ นี้ การขนสง่ สารไอโซโทปรังสี เช่น ทนนำ�้ การตกหล่นจากทส่ี ูงโดยปรบั ปรงุ หอ้ งปฏบิ ตั กิ ารรงั สสี งู สำ� หรบั การผลติ I – 131 – เปน็ ตน้ รวมทงั้ ได้พัฒนาและปรบั ปรุงรูปแบบการบริการ โดยsolution, I – 131 – capsulc, I – 131 – MIBG สำ� หรับการ จดั ระบบการสงั่ ซอ้ื และการผลติ เภสชั ภณั ฑร์ งั สพี รอ้ มใช้ (Unitวินิจฉัยและรกั ษาเป็น Clean room Grade D และโครงการ Dose) โดยเมอ่ื ใชร้ ะบบสารสนเทศ เชน่ สงั่ ซอ้ื ตรวจสอบ หรอื แกไ้ ขรายการสั่งซอื้ แบบ Online 5) ไดด้ ำ� เนนิ งานวจิ ยั เภสชั รงั สชี นดิ ใหม่ 68Ga – NOTA – RGD สำ� หรบั ตรวจวนิ จิ ฉยั มะเรง็ ปอดรว่ มกบั โรงพยาบาลจฬุ า ภรณ์ เร่ิมทดลองในคนไข้ 5 ราย เปน็ ผู้ปว่ ยชาย 3 ราย ผูป้ ว่ ย หญงิ 2 ราย ซงึ่ ผลการศกึ ษาเบอ้ื งตน้ เป็นทนี่ า่ พอใจ นอกจากน ี้ สทน. อยใู่ นระหวา่ งพฒั นายาในรปู พรอ้ มฉดี และพรอ้ มกนิ เพอื่ ประโยชนใ์ นการวนิ จิ ฉยั ทเ่ี หมาะสมกบั ผปู้ ว่ ย แตล่ ะราย และตง้ั เปา้ จะผลติ จำ� หนา่ ยในราคาตน้ ทนุ เพอ่ื ใหแ้ พทย์ และคนไขม้ โี อกาสเขา้ ถงึ ยาทเี่ ปน็ ผลงานนกั วจิ ยั ไทยไดม้ ากทสี่ ดุ70 MAinnisntryuaoflScRienecpe oanrdtTe2ch0n1ol0ogy
3.3 เทคโนโลยีเพ่อื คนพกิ าร ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่ง ดร.วรี ะชยั วรี ะเมธกี ลุ รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงวทิ ยาศาสตร์ชาติ (เนคเทค) กระทรวงวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ร่วมกบั และเทคโนโลยี เป็นประธานในพิธีมอบพระบรมฉายาลักษณ์สำ� นกั งานคณะกรรมการกจิ การกระจายเสยี ง กจิ การโทรทศั น์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้แก่ผู้ป่วยที่ได้รับการใส่รากฟันและกจิ การโทรคมนาคมแหง่ ชาติ จดั ตงั้ ศนู ยส์ าธติ อปุ กรณแ์ ละ เทียม ในโครงการรากฟันเทียมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จบริการโทรคมนาคมส�ำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ (ศอบท.) พระเจา้ อยหู่ วั เนอื่ งในโอกาสมหามงคลเฉลมิ พระชนมพรรษา 80 พรรษาเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้เร่ืองอุปกรณ์และบริการโทรคมนาคม 5 ธนั วาคม 2550 ณ โรงแรมววี นั นครราชสมี า เมอื่ วนั ที่ 31 มนี าคม 2554 สำ� หรบั คนพกิ ารและผสู้ งู อายุ ทจี่ ำ� เปน็ ตอ้ งใชง้ านในชวี ติ ประจำ�วัน โดยให้ความส�ำคัญในการช่วยลดความเหลื่อมล้�ำด้านการ ประสิทธภิ าพในการบดเค้ยี วเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร เพ่ือให้ได้รับความเท่าเทียมเหมือนกับ ศนู ยเ์ ทคโนโลยที างทนั ตกรรมขนั้ สงู สำ� นกั งานพฒั นาบคุ คลท่ัวๆ ไป วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยแี ห่งชาติ (สวทช.) รว่ มกบั สถาบัน การด�ำเนินการของ ศอบท. ได้แบ่งเป้าหมายเป็น 6 ทันตกรรม กรมการแพทย์ จัดท�ำโครงการรากฟันเทียมเฉลิมกลมุ่ คอื กลมุ่ คนพกิ ารทางการมองเหน็ กลมุ่ คนพกิ ารทางการ พระเกยี รตฯิ พรอ้ มมอบพระบรมฉายาลกั ษณพ์ ระบาทสมเดจ็ไดย้ นิ กลมุ่ คนพกิ ารทางการพดู กลมุ่ คนพกิ ารทางรา่ งกายและ พระเจา้ อยหู่ วั โดยทผ่ี า่ นมามยี อดผใู้ ชบ้ รกิ ารรากฟนั เทยี มจำ� นวนการเคลอ่ื นไหว กลมุ่ คนพกิ ารทางสตปิ ญั ญาและบคุ คลออทสิ ตกิ มาก การดำ� เนนิ การดงั กลา่ วเรม่ิ มาตง้ั แตป่ ี 2550 จนถงึ ปจั จบุ นัและกลุ่มผู้สูงอายุ โดยเทคโนโลยีส�ำหรับคนพิการและผู้สูง มหี นว่ ยบรกิ ารจากสำ� นกั งานสาธารณสขุ จงั หวดั ทง้ั 75 จงั หวดัอายุเกิดจากการวิจัยและพัฒนา โดยสถาบันวิศวกรรมฟื้นฟู เข้าร่วม ซ่ึงจังหวัดนครราชสีมาเป็นหน่ึงในเครือข่ายบริการสมรรถภาพและเทคโนโลยีส่งิ อำ� นวยความสะดวก (REAT) รากฟันเทียม ของเขตตรวจราชการที่ 14 โดยมีเป้าหมายใน3.4 รากฟนั เฉลมิ พระเกยี รติ เพอ่ื สขุ ภาพชอ่ งปากทด่ี ขี องคนไทย การให้บริการฝังรากฟันเทียมจ�ำนวนทง้ั ส้นิ 100 ราย ปจั จุบัน ปจั จบุ นั ยงั คงมผี ปู้ ว่ ยจำ� นวนมากทม่ี ปี ญั หาดา้ นสขุ ภาพ ได้ให้บริการไปแล้วจ�ำนวน 118 ราย ผลการด�ำเนินงานเกินช่องปากและการบดเคี้ยวอาหาร ส่งผลให้สุขภาพร่างกาย เปา้ หมายทีก่ �ำหนดไว้เสอื่ มโทรมลงและทำ� ลายคณุ ภาพชวี ติ ทด่ี ี แมว้ า่ การใสฟ่ นั เทยี ม ทั้งนี้ โครงการรากฟันเทียม ได้ผลิตรากฟันเทียมที่มีทดแทนฟนั ธรรมชาตจิ ะสามารถบรรเทาปญั หาการสญู เสยี ฟนั คณุ ภาพไดม้ าตรฐานยโุ รป แตม่ ตี น้ ทนุ การผลติ ทถ่ี กู กวา่ รากฟนัในการบดเคี้ยวอาหารของผู้ป่วยไปได้ในระดับหน่ึงก็ตาม แต่ เทยี มทน่ี ำ� เขา้ จากตา่ งประเทศ จงึ ทำ� ใหส้ ามารถลดชอ่ งวา่ งการกลับพบว่าผู้ป่วยอีกส่วนหนึ่งยังไม่สามารถใช้ฟันเทียมในการ รกั ษาพยาบาลด้วยวธิ กี ารฝังรากฟันเทียมได้ ทำ� ให้กระทรวงบดเค้ยี วอาหารได้ เนอ่ื งจากมีการละลายตัวของสันกระดูกขา วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยไี ดข้ ยายผลการดำ� เนนิ โครงการเขา้กรรไกร ท�ำให้ฟันเทียมหลวม และไม่สามารถใช้ฟันเทียมใน สู่โครงการประกันสังคมและเตรียมความพร้อมในการผลักดันการบดเค้ียวอาหารให้ได้ดี ดังน้ันการฝังรากฟันเทียมให้แก่ผู้ เขา้ สโู่ ครงการ 30 บาทรกั ษาทุกโรคต่อไปสูงอายุ จึงเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาดังกล่าว และเพ่ือให้บริการแกผ่ ูส้ งู อายุทีด่ อ้ ยโอกาส ทมี่ ปี ัญหาการใส่ฟันปลอมทัง้ 71รากยระงทารวนงวิทปยารศะาสจตรำ� ์แปละเี ท2คโ5น5โล3ยีปาก และจำ� เปน็ ต้องได้รับการฝังรากฟนั เทียม โดยจะท�ำการฝังรากฟนั เทียมจ�ำนวน 2 ราก บรเิ วณขากรรไกรลา่ ง เพอื่ เพม่ิ
รบั มือกบั กกาารรเเปตลร่ยีียนแมแลคปะวลามงสพภราอ้ พมภมู ิอากาศ
IV. การเตรยี มความสพภราอ้ พมภแมูละอิ ราบักมาศอื กบั การเปลย่ี นแปลง การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในปัจจุบัน สานงานตามแนวทางพระราชด�ำริ โดยประยุกตอ์ งค์ความร้ใู ห้เป็นส่ิงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่สามารถหาแนวทางรับมือกับ สอดคลอ้ งกบั ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ เพอ่ื ใหป้ ระชาชนสามารถนำ� ไปผลกระทบที่จะเกิดขึ้นได้เพ่ือผ่อนหนักให้เป็นเบา โดย ใช้ประโยชนไ์ ดจ้ ริงและเป็นส่วนหนึง่ ในชีวติ ประจ�ำวนั ซ่ึงเปน็วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเปรียบเสมือนอาวุธช้ินส�ำคัญที่ใช้ โครงการนำ� รอ่ งใน จ. ชมุ พร เพอ่ื ใหเ้ ปน็ ตน้ แบบของการด�ำเนนิตอ่ กรกบั ภยั พบิ ตั ทิ างธรรมชาตอิ นั เปน็ ผลพวงจากภาวะโลกรอ้ น การดา้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยใี นเชงิ พน้ื ที่ (Area Based) ปีงบประมาณ 2553 กระทรวงวิทยาศาสตร์และ การนำ� วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยไี ปพฒั นา จ.ชมุ พรเทคโนโลยี ได้น�ำเอาศักยภาพของเทคโนโลยีเหล่านั้นมาใช้ ใหเ้ ป็นเมืองไบโอเทคโนโลยี มจี ดุ ประสงค์ ดังนี้ (1) เพ่ือสร้างประโยชน์ในการติดตามการเปลี่ยนแปลงของโลก ช่วยรับมือ มูลค่าเพิ่มให้ผลผลิตทางการเกษตรท่ีเกินจากความต้องการและแกไ้ ขปญั หาทเี่ กดิ ขน้ึ จากภยั ธรรมชาติ รวมไปถงึ การผลกั ดนั ของตลาด (2) เพอื่ พฒั นาคุณภาพมาตรฐานสนิ คา้ ผลติ ภณั ฑ์เทคโนโลยที ่เี ป็นมติ รต่อสงิ่ แวดล้อม เพือ่ น�ำพาใหป้ ระเทศไทย และบรกิ าร (3) เพอ่ื พฒั นาสนิ คา้ และบรกิ ารของจงั หวดั ชมุ พรกา้ วไปสูส่ ังคมทีอ่ ย่ไู ด้อยา่ งยัง่ ยืน สมู่ าตรฐานสากล (4) เพอื่ พฒั นาชมุ ชน/กลมุ่ ผปู้ ระกอบการให้4.1 พลงั งานทดแทนเพอื่ ส่งิ แวดลอ้ ม ใช้เทคโนโลยที ี่เหมาะสมในภาคการผลิตท้งั จงั หวดั ปญั หาดา้ นความมน่ั คงทางดา้ นพลงั งานนบั เปน็ ประเดน็ ทง้ั นี้ กระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ไดจ้ ดั กจิ กรรมปญั หาทส่ี ำ� คญั และทา้ ทายอยา่ งมากสำ� หรบั โลกอนาคต ดงั นน้ั วทิ ยาศาสตรเ์ พอ่ื การเรยี นรู้ ประกอบดว้ ย (1) นทิ รรศการหนว่ ยการเตรยี มความพรอ้ มเพอ่ื สรา้ งความมนั่ คงทางดา้ นพลงั งานให้ งานในสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไดแ้ ก่ ดาวเกดิ ขน้ึ ภายในประเทศ โดยอาศยั วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยเี พอื่ เทียมธีออสและการใช้ประโยชน์ภาพถ่ายทางอากาศ ผลงานการวจิ ยั และพฒั นาพลงั งานทดแทนทเ่ี หมาะสมและสอดคลอ้ ง วิจัยด้านเทคโนโลยีชีวภาพ เช่น การผลิตข้าวพ้ืนเมือง เห็ดกบั วตั ถดุ บิ เทคโนโลยี ระดบั ราคา และการใชป้ ระโยชนภ์ ายใน นกยูง ผลติ ภัณฑ์จากผักเหลียง เช่น ชาผกั เหลียง ขา้ วเกรยี บประเทศ จึงเปน็ สิง่ สำ� คัญและจำ� เปน็ ท่จี ะตอ้ งด�ำเนนิ การ เพอ่ื ผกั เหลยี ง เครอื่ งดม่ื ผกั เหลยี งกงึ่ สำ� เรจ็ รปู ผลงานวจิ ยั ดา้ นการเปน็ การลดรายจา่ ยของภาคครวั เรอื นและภาคการผลติ สรา้ ง แปรรูปผลผลิตทางการเกษตร (ผลไม)้ เชน่ นำ้� มงั คดุ นำ้� กลว้ ยมลู คา่ เพมิ่ และเสถยี รภาพทางดา้ นราคาใหก้ บั พชื พลงั งาน เพมิ่ หอมทอง (จาก อ.ละแม) แสงซนิ โครตรอนและการใชป้ ระโยชน์ศกั ยภาพในการแขง่ ขนั ของประเทศ ลดปญั หาสงิ่ แวดลอ้ มทเ่ี กดิ เป็นต้น (2) นิทรรศการของคลินิกเทคโนโลยีเครือข่าย ได้แก่จากพลงั งานฟอสซลิ และสรา้ งความมน่ั คงทางดา้ นพลงั งานให้ การประยุกต์ใช้สมุนไพรพ้ืนบ้านของจังหวัดชุมพร การผลิตกบั ประเทศอยา่ งย่งั ยนื กา๊ ซชวี ภาพจากขยะ และการผลติ ไบโอดเี ซลจากนำ้� มนั ใชแ้ ลว้ 4.1.1 หมู่บ้านก๊าซชวี มวล และปาลม์ น�้ำมัน เพอ่ื เพิม่ ขีดความสามารถในการแขง่ ขนั ดา้ น กระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ไดร้ ว่ มกบั จงั หวดั การตลาดต่อไปชุมพร หอการค้าจังหวัด และกลุ่มเกษตรกรและการแปรรูป นอกจากนี้ กระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โดยผลกั ดนั จงั หวดั ชมุ พร ใหเ้ ปน็ เมอื งไบโอเทคโนโลยี โดยกระทรวง สำ� นกั สง่ เสรมิ และถา่ ยทอดเทคโนโลยยี งั ไดร้ ว่ มกบั มหาวทิ ยาลยัวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี สนบั สนนุ เทคโนโลยลี งสชู่ มุ ชน เพอื่ เชยี งใหม่ จดั ตง้ั หมบู่ า้ นวทิ ยาศาสตรเ์ ตาเชอื้ เพลงิ ชวี มวลขน้ึ ท่ี อ.แมร่ มิ จ.เชยี งใหม่ โดยพฒั นาเตาและหวั เผาสำ� หรบั เชอ้ื เพลงิ ชีวมวลแบบไร้ควันข้ึน ซึ่งเตาดังกล่าวสามารถใช้วัสดุเหลือใช้ ทางการเกษตรในพน้ื ทมี่ าเปน็ เชอ้ื เพลงิ เชน่ เศษไม้ และแกลบ 75รากยระงทารวนงวทิปยารศะาสจตร�ำแ์ ปละเี ท2คโ5น5โล3ยี
ขา้ ว และสามารถชว่ ยลดรายจา่ ยคา่ พลงั งานใหแ้ กค่ รวั เรอื นได้ ดร.วีระชัย วีระเมธีกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเฉลีย่ เดอื นละ 300 บาท เทคโนโลยี นายขยัน วิพรหมชัย สส. จ.ล�ำพูน นายมัธยม นิภาเกษม 4.1.2 จากล�ำไยคา้ งสต๊อค สแู่ ท่งเช้ือเพลงิ ชวี มวล ท่ีปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ชมการอัดแท่ง จากปญั หาผลผลติ ลำ� ไยคา้ งสตอ๊ คทเี่ กดิ ขนึ้ เปน็ ประจำ�ทุกปี กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้ริเริ่มโครงการ เชอ้ื เพลงิ ชีวมวล ณ โกดังโมเดริ ์นเอน็ เนอรย์ ี อ.เมอื งล�ำพนูรีไซเคิลล�ำไยค้างสต๊อค โดยใช้เป็นพลังงานชีวมวล โดยมอบหมายใหม้ หาวทิ ยาลยั เทคโนโลยสี รุ นารี ซงึ่ เปน็ เครอื ขา่ ยคลนิ กิเทคโนโลยแี ละเปน็ ผดู้ ำ� เนนิ งานโรงไฟฟา้ ชวี มวลของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปน็ ผปู้ ฏิบัติงานโครงการรไี ซเคิลลำ� ไยคา้ งสตอ๊ ค ซง่ึ โครงการดงั กลา่ วทำ� ใหเ้ กดิ การพฒั นาเครอื่ งอัดแทง่ ชวี มวล โดยสมาคมเคร่อื งจกั รกลไทย ภายใตโ้ ครงการวิศวกรรมย้อนรอยของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีรว่ มดำ� เนนิ การบดทำ� ลายลำ� ไยหนา้ โกดงั แลว้ นำ� มาอดั เปน็ เชอื้เพลงิ แทง่ ชีวมวล นอกจากน้ี กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้มอบเครอ่ื งบดยอ่ ยชวี มวล หรอื เครอ่ื งบดยอ่ ยเอนกประสงคใ์ ห้พนี่ อ้ งเกษตรกรเขา้ มามสี ว่ นรว่ มในการเรยี นรแู้ ละใชเ้ ทคโนโลยี ดร.วีระชัย วีระเมธีกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ประธานในงานมอบเคร่อื งบดลำ� ไย ณ จ.ลำ� ปางเชอ้ื เพลิงชวี มวลแทง่ ตะเกยี บการสาธิตหวั เผาอจั ฉริยะใชเ้ ชือ้ เพลิงชีวมวลทผี่ ลติ ได้ ณ โกดังโมเดิรน์ รศ.ดร.วีระพงษ์ แพสุวรรณ รองปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และ เอน็ เนอรย์ ี อ.เมืองล�ำพนู เทคโนโลยี กล่าวรายงานในพธิ มี อบเคร่ืองบดล�ำไย ณ โกดังโมเดิรน์ เอ็นเนอร์ยี อ.เมืองลำ� พูน ใหเ้ กดิ ประโยชนส์ งู สดุ สามารถนำ� ไปปรบั ใชก้ บั ผลผลติ ทางการ เกษตรอน่ื ๆ ในทอ้ งถน่ิ พฒั นาไปสกู่ ารใชเ้ ชอื้ เพลงิ จากชวี มวล ลดปญั หาสงิ่ แวดลอ้ ม เปน็ การสรา้ งมลู คา่ เพมิ่ ใหภ้ าคการเกษตร โดยไดม้ อบเครอ่ื งบดยอ่ ยชวี มวลใหก้ บั ผแู้ ทนเกษตรกร จ.ลำ� ปาง76 MAinnisntryuaoflScRienecpe oanrdtTe2ch0n1ol0ogy
จำ� นวน 4 เครอื่ ง และ จ.ลำ� พนู จำ� นวน 9 เครื่อง และหลัง บนเกาะเสมด็ ตอ่ ไป นบั เปน็ มติ ใิ หมข่ องการกำ� จดั ขยะอนิ ทรยี ์จากนจี้ ะมอบเครอ่ื งใหผ้ แู้ ทนเกษตรกร จ.เชยี งราย อกี 4 เครอื่ ง สำ� หรบั ชมุ ชน โดยเฉพาะบนเกาะตา่ ง ๆ ทม่ี ปี รมิ าณพน้ื ทจ่ี ำ� กดัและ จ.เชยี งใหม่ 8 เคร่ือง ในการน้ี สำ� นกั งานนวตั กรรมแหง่ ชาติ (องคก์ ารมหาชน) (สนช.) 4.1.3 ก�ำจัดขยะอนิ ทรียด์ ว้ ยถุงพลาสตกิ ชวี ภาพ กระทรวงวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ไดร้ ่วมกับกรมอทุ ยาน ปัญหาขยะสดหรือขยะอินทรีย์นับเป็นปัญหาท่ีสร้าง แหง่ ชาติ สตั วป์ า่ และพนั ธพ์ุ ชื บรษิ ทั ปตท. จำ� กดั (มหาชน) และความเดือดร้อนร�ำคาญให้กับพี่น้องที่อาศัยอยู่ในเกาะเสม็ด บรษิ ทั มติ ซูบิชิ เคมคิ อล คอร์ปอเรชน่ั จ�ำกดั ได้ลงนามบนั ทกึเนอื่ งจากเกาะเสมด็ เปน็ เกาะขนาดเลก็ แตม่ จี ำ� นวนนกั ทอ่ งเทยี่ ว ขอ้ ตกลงความรว่ มมอื “โครงการการใชถ้ งุ ขยะพลาสตกิ ชวี ภาพเป็นจ�ำนวนมาก จึงท�ำให้มีขยะจ�ำพวกเศษอาหารเป็นจ�ำนวน PBS คดั แยกขยะอนิ ทรยี เ์ พอ่ื ผลติ ปยุ๋ ชวี ภาพ ณ เกาะเสมด็ ” เพอ่ืมาก การก�ำจัดขยะดังกล่าวด้วยวิธีการฝังกลบน้ัน นอกจาก รณรงคล์ ดปรมิ าณขยะอนิ ทรยี บ์ นเกาะเสมด็ พรอ้ มทง้ั คดั แยกจะก่อให้เกิดกล่ินเหม็น และเกิดน้�ำเสียไหลลงสู่แหล่งน้�ำจืด ขยะอนิ ทรยี เ์ พอ่ื นำ� มาผลติ เปน็ ปยุ๋ ชวี ภาพ ซง่ึ คาดวา่ ชว่ ยลดปญั หาและชายฝง่ั ทะเลแลว้ ยงั กอ่ ใหเ้ กดิ แมลงและโรคตา่ ง ๆ เกดิ ขนึ้ การก�ำจัดขยะในพื้นที่แหล่งท่องเท่ียวได้กว่า 100 ตัน/เดือนตามมา ซงึ่ หากขาดการแกไ้ ขปญั หาอยา่ งเปน็ ระบบและถกู ตอ้ ง และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตัวการส�ำคัญที่ก่อให้เกิดแล้ว ย่อมจะสง่ ผลกระทบต่อการทอ่ งเทยี่ ว คณุ ภาพชวี ติ และ ภาวะโลกร้อน คิดเปน็ ปริมาณคารบ์ อนไดถ้ ึง 1,600 ตนั /ปีส่ิงแวดล้อมของเกาะเสมด็ ตามมาไดใ้ นอนาคตอันใกล ้ 4.1.4 พระพาย กงั หันลมผลติ ไฟฟ้า สำ� นกั งานนวตั กรรมแหง่ ชาติ (องคก์ ารมหาชน) (สนช.) สำ� นกั งานนวตั กรรมแหง่ ชาติ (องคก์ ารมหาชน) (สนช.)จงึ รเิ รม่ิ โครงการการใชถ้ งุ ขยะพลาสตกิ ชวี ภาพ PBS คดั แยกขยะ ได้ให้การสนับสนุน บรษิ ัท พระพายเอ็นจิเนยี ร่ิง จำ� กดั ในการอนิ ทรยี เ์ พอ่ื ผลติ ปยุ๋ ชวี ภาพ ณ เกาะเสมด็ ขน้ึ เพอ่ื นำ� มาใชเ้ ปน็ พฒั นานวตั กรรมระดบั ประเทศ ดา้ นผลติ ภณั ฑก์ งั หนั ลมขนาด เครอ่ื งมอื สำ� คญั ในการสง่ เสรมิ ชมุ ชนเกาะเสมด็ ใหเ้ ปน็ ตวั อยา่ ง 2 กิโลวัตต์ ชนิดเสาเดี่ยวร่วม ซ่ึงได้ออกแบบใบกังหันลมให้ของ “ชุมชนเกาะสเี ขยี ว” ทยี่ ่ังยนื หรอื “green island” ซึง่ เหมาะสมกับความเร็วลมต่�ำในประเทศไทย ภายใต้โครงการเป็นการเสริมภาพลักษณ์ด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม และยก “แปลงเทคโนโลยีเป็นทุน” จ�ำนวน 708,000 บาท รวมถึงระดบั การทอ่ งเทยี่ วในเชงิ อนรุ กั ษช์ มุ ชนใหโ้ ดดเดน่ ยงิ่ ขน้ึ และ ออกแบบชุดส่ายหาลม ชุดหางกังหันลม ชุดเพลาส่งก�ำลังแสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพนอกจากจะช่วยสร้างมูลค่าเพ่ิมให้กับเศรษฐกิจของประเทศแล้วยังเป็นการแกไ้ ขปัญหาสง่ิ แวดลอ้ มได้อย่างเป็นระบบและมปี ระสิทธิภาพ โดยขยะสดที่คัดแยกใส่ในถุงพลาสติกชีวภาพท่ีสามารถย่อยสลายไดเ้ องนนั้ จะถกู นำ� ไปกำ� จดั และเปลย่ี นสภาพใหเ้ ปน็ กา๊ ซชวี มวลและปยุ๋ อนิ ทรยี ์ เพอื่ นำ� กลบั มาใชป้ ระโยชนใ์ หก้ บั ชมุ ชน 77รากยระงทารวนงวทิปยารศะาสจตร�ำแ์ ปละเี ท2คโ5น5โล3ยี
และระบบเบรกพร้อมชดุ Absorber อกี ท้ังสามารถลดต้นทนุ พายพั ในโครงการระบบผลติ ไฟฟา้ พลงั งานทดแทนเพอื่ อปุ กรณ์ในการผลิตของคา่ ติดตั้งเสา ค่าขนส่งและใชพ้ ้นื ที่ในการตดิ ตัง้ สอ่ื การเรยี นการสอน โดยตดิ ตงั้ ทโี่ รงเรยี นบา้ นพลง่ั แท อ.อมกอ๋ ยน้อย โดยผลงานดังกล่าวเป็นเทคโนโลยีจากมหาวิทยาลัย จ.เชยี งใหม่ และมอี กี 4 ทมี รองชนะเลศิ ได้แก่เทคโนโลยีราชมงคลธัญบรุ ี 1) ทีมหนองกระโห้ 2 จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี โครงการกังหันลมผลิตไฟฟ้าขนาด 2 กิโลวัตต์ชนิด ราชมงคลลา้ นนาตาก ในโครงการระบบพลงั งานแสงอาทติ ย์เสาเดี่ยวร่วม จงึ มีจุดมุง่ หมายหลกั คอื การสรา้ งตน้ แบบและ รว่ มกบั พลงั งานนำ้� ยกระดบั คณุ ภาพชวี ติ ผดู้ อ้ ยโอกาสตามแนวการใชเ้ ทคโนโลยกี ารผลติ ไฟฟา้ จากพลงั งานลมใหเ้ หมาะสมกบั เศรษฐกจิ พอเพยี ง ตดิ ตง้ั ทห่ี มบู่ า้ นเลอตอ ต.แมต่ น่ื อ.แมร่ ะมาดความเรว็ ลมตำ่� อกี ทงั้ ออกแบบการใชเ้ สาเดยี่ วกนั ตอ่ หวั กงั หนั ลม จ.ตาก2 ชดุ เพอ่ื ลดตน้ ทนุ ของเสาและวสั ดเุ หลก็ ทงั้ นตี้ อ้ งออกแบบให้ 2) ทีมเวิร์ค จากมหาวิทยาลัยนเรศวร ในโครงการสามารถทำ� งานไดต้ อ่ เนอ่ื งหากชดุ ใดชดุ หนง่ึ ตอ้ งการซอ่ มบำ� รงุ พัฒนาระบบไฟฟ้าและประปา ติดตั้งท่ีโรงเรียนบ้านเนินทองหรือดูแลรักษา หมู่ 5 ต.บา้ นดง อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก กงั หนั ลมผลติ ไฟฟา้ ขนาด 2 กโิ ลวตั ตช์ นดิ เสาเดย่ี วรว่ ม 3) ทมี คชสารโซลารเ์ ซลล์ จากจฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยัมีข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับกังหันลมทั่วไป คือ ใช้พ้ืนท่ีในการ ในโครงการโซลารเ์ ซลลเ์ พอื่ การอยรู่ ว่ มกนั ระหวา่ งเกษตรกรกบัตดิ ตงั้ นอ้ ย ต้นทุนในการผลิตตำ่� กวา่ กงั หนั ลมผลิตไฟฟ้าขนาด ชา้ งป่า ติดตงั้ ที่ ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสด์ิ จ.กาญจนบุรี2 กโิ ลวตั ต์ท่วั ไป สะดวกในการตดิ ตงั้ และใชร้ ะยะเวลาในการ 4) ทมี KU-SRC WIN จากมหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ตดิ ตงั้ นอ้ ย โครงการดงั กลา่ วเปน็ การสรา้ งความตระหนกั การใช้ วทิ ยาเขตศรรี าชา ในโครงการโซลาร์เซลล์ พลังงานเพ่อื ความพลงั งานทดแทนจากพลงั งานลมและสง่ เสรมิ ความเขา้ ใจในการ เปน็ อยอู่ ยา่ งยง่ั ยนื ตดิ ตงั้ ทโี่ รงเรยี นบา้ นเกา่ คอ้ ต.หนองมะนาวใชก้ งั หนั ลมผลติ ไฟฟา้ ทเ่ี หมาะสมกบั ความเรว็ ลมในประเทศไทย อ.คง จ.นครราชสมี า 4.1.5 โซลารเ์ ซลล์ เพ่ือชุมชนพอเพียง 4.2 วทิ ยาศาสตรเ์ พ่อื รับมอื กับภยั พิบตั ิ สำ� นกั งานพฒั นาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี หง่ ชาติ ปัญหาภัยพิบัติและผลกระทบทางธรรมชาติทเี่ กิดขน้ึ(สวทช.) ตระหนักถึงปัญหาการขาดแคลนพลังงานซึ่งมี จากการเปลย่ี นแปลงสภาพภมู อิ ากาศของโลก ไดส้ ง่ ผลกระทบแนวโนม้ สงู ข้ึน จึงไดใ้ ห้การสนบั สนุน บรษิ ทั โอสถสภา จ�ำกดั และสรา้ งความเดอื ดรอ้ นและความเสยี หายอยา่ งมหาศาลใหก้ บัจัดโครงการ “M-150 Ideology - พลังงานโซลาร์เซลล์เพ่ือ พี่น้องประชาชนท่ัวทุกภูมิภาคของประเทศ ดังนั้น การน�ำชุมชน” ภายใต้แนวคิดพลังงานทดแทน เพื่อให้คนรุ่นใหม่ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาใช้เพ่ือการเตรียมความพร้อมในวยั ศกึ ษาไดน้ ำ� ศกั ยภาพของตนเองมาสรา้ งประโยชนใ์ หเ้ กดิ กบั ในการป้องกันแก้ไขปัญหา การบรรเทาผลกระทบ และการสงั คมทย่ี งั ขาดโอกาส โดยเปดิ โอกาสใหน้ สิ ติ นกั ศกึ ษานำ� เสนอ เตรยี มการรบั มอื กบั ภยั พบิ ตั ติ า่ ง ๆ ทจ่ี ะเกดิ ขนึ้ รวมถงึ การปรบั ตวัแผนงานการใชแ้ ผงโซลารเ์ ซลลจ์ ดั สรา้ งแหลง่ ผลติ พลงั งานไฟฟา้ เพอ่ื รองรบั กบั การเปลยี่ นแปลงของสภาพภมู อิ ากาศจงึ นบั เปน็จากแสงอาทติ ย์ เพอ่ื นำ� ไปใชป้ ระโยชนใ์ นทอ้ งถน่ิ ทหี่ า่ งไกล และ ภารกจิ ส�ำคญั ของกระทรวงวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลย ีภายหลังเสร็จสิ้นการประกวดแข่งขัน ทาง สวทช.และบริษัท โอสถสภา จ�ำกัด ก็ได้สง่ มอบแหล่งผลติ ไฟฟา้ จากแสงอาทติ ย์ 4.2.1 การพัฒนาเทคโนโลยีเพือ่ ติดตามสภาพอากาศใหช้ ุมชนเพือ่ ใชป้ ระโยชนต์ อ่ ไป ในปงี บประมาณ 2553 สถาบนั สารสนเทศทรพั ยากร ทง้ั นี้ ผลการแขง่ ขนั โครงการ M-150 Ideology 2010 น�้ำและการเกษตร (องค์การมหาชน) (สสนก.) ได้ด�ำเนินงานในปี 2553 ประกอบด้วย ทมี ชนะเลิศ ได้แก่ ทีมพยคั ฆ์ลา้ นนา โครงการตามแนวพระราชด�ำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เขตพ้ืนท่ีภาค78 MAinnisntryuaoflScRienecpe oanrdtTe2ch0n1ol0ogy
ผา่ นเครอื ขา่ ยอนิ เทอรเ์ นต็ ทางเวบ็ ไซต์ www.thaiweather.net พรอ้ มทง้ั พฒั นาระบบสง่ ขอ้ ความแจง้ เหตเุ ตอื นภยั เมอื่ ตรวจพบ ข้อมูลท่ีมแี นวโน้มจะก่อให้เกดิ ภยั ธรรมชาติ จากปริมาณฝนท่ี ตกหนักในพนื้ ท่ี เพื่อเตือนไปยังหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องให้เตรียมพร้อม รบั สถานการณไ์ ดท้ นั ที โดยไดส้ รา้ งระบบเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์ และอุปกรณ์ท่ีมีประสิทธิภาพส�ำหรับระบบเครือข่ายเพื่อการ จัดการทรัพยากรน้�ำแห่งประเทศไทย และได้พัฒนาระบบ รายงานข้อมูลสถานการณ์น้�ำท่ัวประเทศผ่านโทรศัพท์มือถือ (RSS) โดยความร่วมมอื กบั บรษิ ทั แอดวานซ์ อนิ โฟร์ เซอร์วิส จำ� กดั (มหาชน) โดยแสดงผลท่ีเวบ็ ไซต์ www.thaiwater.net และ www.thaiweather.net สำ� หรบั ในปงี บประมาณ 2553 สสนก. ได้ด�ำเนินการปรับปรุงประสิทธิภาพสถานีโทรมาตร จ�ำนวน 408 สถานี ทั่วประเทศ ใหม้ สี ภาพพรอ้ มใช้งานในการ เตือนภัยจากกรณีฝนตกหนัก และด�ำเนินการติดตั้งสถานี โทรมาตรเพม่ิ เตมิ อกี จำ� นวน 30 สถานี ใหค้ รอบคลมุ มากยงิ่ ขนึ้ โทรมาตร ต�ำแหนง่ สถานีโทรมาตรตรวจวดั สภาพอากาศของ สสนก.เกย่ี วกบั การบรหิ ารจดั การทรพั ยากรนำ�้ ไดแ้ ก่ โครงการพฒั นา 79รากยระงทารวนงวทิปยารศะาสจตร�ำแ์ ปละเี ท2คโ5น5โล3ยีอปุ กรณต์ รวจวดั ระยะไกล หรือระบบโทรมาตรขนาดเลก็ ที่มีราคาถูก เคลื่อนย้ายได้ง่าย ส�ำหรับปรับใช้แทนหรือเสริมการท�ำงานของสถานีโทรมาตรขนาดใหญ่ เพ่ือประยุกต์ใช้ตรวจวัดข้อมูลสภาพอากาศในพ้ืนท่ีต่างๆ พร้อมทั้งเช่ือมโยงข้อมูลอตั โนมตั ิ และแสดงผลในรปู แบบของภมู ศิ าสตรส์ ารสนเทศ (GIS)บนเครอื ขา่ ยอนิ เทอรเ์ นต็ โครงการดงั กลา่ วไดร้ บั ความรว่ มมอืจาก สำ� นกั งานคณะกรรมการพเิ ศษเพอ่ื ประสานงานโครงการอนั เนอื่ งมาจากพระราชดาํ ริ กรมชลประทาน จงั หวดั นนทบรุ ี และบรษิ ทั แอดวานซ ์ อนิ โฟร์ เซอรว์ สิ จำ� กดั (มหาชน) ดำ� เนนิ การติดตั้งอุปกรณ์โทรมาตรตรวจวัดสภาพอากาศในพ้ืนท่ีต่างๆท่ัวประเทศ และให้บริการข้อมูลจากระบบโทรมาตรดังกล่าว
นอกจากน้ี สสนก. ไดว้ ิจยั และพฒั นาระบบวเิ คราะห์ อากาศได้ในระดับ 3 x 3 ตารางกิโลเมตรหรือเทียบเท่ากับการเปลยี่ นแปลงอณุ หภมู ผิ วิ นำ�้ ทะเล และการเปลย่ี นแปลงระดบั ระดบั ตำ� บล จากระบบเดมิ ทป่ี ระมวลผลไดเ้ พยี งในระดบั จงั หวดันำ้� ทะเลทเ่ี บย่ี งเบนจากปกตทิ กุ สปั ดาหเ์ พอื่ ตดิ ตามสถานการณ์ และตอ้ งใชเ้ วลาในการประมวลผลแบบจำ� ลองทงั้ สองระบบไม่นำ�้ อยา่ งใกลช้ ดิ จดุ เดน่ ของงานวจิ ยั นค้ี อื สามารถบอกชว่ งเวลา ตำ่� กวา่ 2 วัน ปัจจุบนั กระทรวงมหาดไทยไดใ้ ช้ข้อมลู นใี้ นการการเปลี่ยนแปลงฤดูกาลได้ หรือระบุบริเวณในมหาสมุทร เตรยี มความพรอ้ มรบั มอื กบั ภยั ธรรมชาติ โดยเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพทม่ี โี อกาสเกดิ พายลุ ว่ งหนา้ ไดถ้ งึ 2-4 สปั ดาห์ หรอื ความผดิ ปกติ ในการบริหารจัดการทรัพยากรน�้ำ ทั้งในระดับประเทศและในทะเลซงึ่ นำ� มาสสู่ ภาพอากาศทตี่ ่างไปจากค่าเฉล่ียในอดตี ระดับชมุ ชน และการวางแผนเพ่ือการท�ำฝนหลวงในชว่ งหนา้ แลง้ และการระบายน�้ำในชว่ งนำ้� หลาก ตวั อย่างการวิเคราะห์การเกดิ พายุ ด้วยขอ้ มูลการเปล่ียนแปลงอณุ หภูมิผิวน้�ำทะเล 4.2.2 แบบจ�ำลองสภาพอากาศป้องกนั ภัยพิบตั ิ ในปัจจุบัน กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้�ำและการเกษตร (องคก์ าร มหาชน) หรอื สสนก. ไดพ้ ฒั นาระบบคอมพวิ เตอรส์ มรรถนะสงู (High Performance Computer) เพอ่ื ชว่ ยเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพ ในการวเิ คราะหล์ มและสภาพอากาศดว้ ยแบบจำ� ลอง ใหร้ วดเรว็ มากขนึ้ และคลอบคลมุ พนื้ ทท่ี ว่ั ประเทศไดใ้ นเวลาเดยี วกนั เพอื่ ศกึ ษาและตดิ ตามการเปลย่ี นแปลงภมู อิ ากาศทเี่ กยี่ วกบั อณุ หภมู ิ ทศิ ทางลม และคลนื่ ลมในทะเล ตามแนวพระราชด�ำริ และใช้ เป็นขอ้ มลู แจ้งเตือนภัยพบิ ตั ิให้แก่ประชาชนได้ ระบบคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูงนี้อาศัย แบบจ�ำลอง อุตุนิยมวิทยา 3 มิติ (RAMS) และแบบจ�ำลองสภาพอากาศ (WRF) ในลักษณะคู่ขนานกัน เพ่ือจัดท�ำแผนที่ลมและแผนที่ สภาพอากาศท่ีครอบคลุมพื้นที่ทั่วทั้งประเทศไทยได้ล่วงหน้า 3 วนั สามารถประมวลผลได้วันละ 2 รอบ คาดการณ์สภาพ80 AMinnisntryuaoflScRienecpe oanrdtTe2ch0n1ol0ogy
- นำ�้ ทว่ ม ภยั แลง้ ไฟปา่ ภาพท่ี 2 แสดงสถานภาพพื้นท่ีที่ได้รับผลกระทบจากการกัดเซาะ ในรอบปที ผ่ี า่ นมาหลายพน้ื ทใี่ นประเทศไทยไดป้ ระสบ และทบั ถม บรเิ วณชายฝง่ั ของประเทศไทย โดยใชภ้ าพถา่ ยดาวเทยี มกับปัญหาภัยแล้งอย่างรุนแรง โดยเฉพาะภาคเกษตรกรรมท่ีจำ� เปน็ ตอ้ งใชน้ ำ้� เพอื่ การเพาะปลกู ในปรมิ าณมาก แตเ่ มอื่ ฤดนู ำ้� ระหว่าง SPOT -5 ปี 2550 และ THEOS ปี 2552-2553หลากมาเยอื น ปญั หาภยั แลง้ กลบั ถกู แทนทดี่ ว้ ยภาวะนำ้� ทว่ มที่เกดิ ขน้ึ ทวั่ ทกุ ภมู ภิ าคของประเทศ และนบั วา่ รนุ แรงมากทสี่ ดุ ในรอบหลายสบิ ปี เทคโนโลยีภาพถ่ายดาวเทียม โดยส�ำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือสทอภ. เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีท่ีกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ริเริ่มน�ำมาใช้เพ่ือติดตามสถานการณ์น้�ำท่วมและคาดการณท์ ศิ ทางของกระแสนำ�้ ตลอดจนประเมนิ ความเสยี หายท่ีเกิดข้ึนในพ้ืนท่ีท่ีถูกน้�ำท่วม ช่วยให้ภาครัฐสามารถวางแผนการชว่ ยเหลือผูป้ ระสบอทุ กภยั ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ งและเหมาะสม ภาพถ่ายดาวเทียม ระบบโทรมาตรวัดระดับน้�ำ คือเทคโนโลยีหลักของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีท่ีกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เลือกน�ำมาใช้เป็นเครื่องมือในการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้�ำท่วมและน�้ำแล้งในประเทศไทย - การกดั เซาะชายฝัง่ ภาพถ่ายจากดาวเทียมธีออสนอกจากจะน�ำมาใช้ประโยชนใ์ นการตดิ ตามปญั หานำ�้ ทว่ ม นำ�้ แลง้ แลว้ ทางสำ� นกั งานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน)(สทอภ.) ยังได้น�ำภาพถ่ายดาวเทียมมาใช้เพ่ือวิเคราะห์และภาพที่ 1 ปัจจัยที่มีผลตอ่ การเปล่ียนแปลงพน้ื ท่ชี ายฝั่ง ภาพที่ 3 แสดงอตั ราการกัดเซาะและทบั ถมในบรเิ วณชายฝ่ังทะเล ของประเทศไทย วเิ คราะหโ์ ดยใชภ้ าพดาวเทยี ม LANDSAT-5 TM ระหว่างปี พ.ศ. 2542 และ 2552 81รากยระงทารวนงวิทปยารศะาสจตรำ� ์แปละเี ท2คโ5น5โล3ยี
ภาพที่ 4 แผนที่ 1: 50,000 แสดงพ้ืนที่ท่ีถูกกัดเซาะ บริเวณจังหวัด ภาพท่ี 5 แผนท่ี 1: 50,000 แสดงการเปลย่ี นแปลงเส้นชายฝัง่ ระหวา่ งปีสมทุ รปราการโดยใชภ้ าพถา่ ยดาวเทยี ม SPOT-5 ปี 2548 และ THEOS 2542-2552 บริเวณจังหวดั สมุทรปราการ ปี 2552ภาพท่ี 6 แผนที่ 1: 50,000 แสดงพื้นท่ีท่ีถูกกัดเซาะ บริเวณจังหวัด ภาพท่ี 7 แผนท่ี 1: 50,000 แสดงพน้ื ท่ีชมุ พร โดยใชภ้ าพถา่ ยดาวเทยี ม SPOT-5 ปี 2548 และ THEOS ปี 2552 ที่ถูกกัดเซาะ บริเวณแหลมผักเบี้ย จังหวัดเพชรบุรี โดยใช้ภาพถ่าย ดาวเทยี ม SPOT-5 ปี 2548 และ THEOS ปี 2552 ประเมนิ สถานการณก์ ารกดั เซาะชายฝง่ั ในประเทศไทย โดยใช้ 4.3 วิทยาศาสตร์กับการบริหารจัดการน้�ำระดับชุมชน ภาพถา่ ยดาวเทยี ม (ระยะที่ 1) ระบบฐานขอ้ มลู ภมู สิ ารสนเทศ ประเทศไทยเปน็ ประเทศเกษตรกรรม ซง่ึ ทรพั ยากรนำ้� เพอ่ื ตดิ ตามการเปลย่ี นแปลงชายฝง่ั ของประเทศไทย (Coastal มคี วามจำ� เปน็ อยา่ งยงิ่ ในการดำ� รงชวี ติ และการประกอบอาชพี Information Geo-database) การประยุกต์ใช้แบบจ�ำลอง เกษตรกรรมของประชาชนสว่ นใหญข่ องประเทศ ดังนั้น หาก ทางคณิตศาสตร์ร่วมกับการวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียม ชุมชนสามารถบริหารจัดการทรัพยากรน้�ำได้อย่างเป็นระบบ ในการคาดการณก์ ารเปลย่ี นแปลงชายฝง่ั ของไทย ทงั้ น้ี ฐานขอ้ มลู ในพื้นท่ีของตนเอง ก็จะช่วยส่งผลให้การประกอบอาชีพ การ เชงิ พนื้ ทแี่ ละเชงิ เวลาดงั กลา่ วจะสามารถสนบั สนนุ การวางแผน ด�ำรงชีวิตและความเป็นอยู่ของเกษตรกร ซ่ึงเป็นคนส่วนใหญ่ การจดั การ และปอ้ งกนั การเกดิ ผลกระทบตอ่ การเปลยี่ นแปลง ของประเทศดขี ึ้น ชายฝั่งเชิงบูรณาการ ระหว่างหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องได้อย่าง มปี ระสทิ ธภิ าพ82 MAinnisntryuaoflScRienecpe oanrdtTe2ch0n1ol0ogy
สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้�ำและการเกษตร (องค์การ จดุ GPS ในการบรหิ ารจดั การทรพั ยากรนำ�้ รายได้ และผลผลติมหาชน) ได้คัดเลือกชุมชนที่เป็นตัวอย่างความส�ำเร็จในการ ของชมุ ชน ทำ� ใหช้ มุ ชนมรี ะบบการจดั การทรพั ยากรนำ�้ ทดี่ แี ละมีจดั การทรพั ยากรนำ้� มาเปน็ เครอื ขา่ ยในการขยายผล เพอ่ื พฒั นา ประสทิ ธภิ าพมากยงิ่ ขนึ้ และพฒั นาใหเ้ กดิ เครอื ขา่ ยการจดั การเป็นแม่ข่ายหรือต้นแบบในการขยายผลแนวทางการจัดการ ทรพั ยากรนำ้� ทใ่ี หช้ มุ ชนรว่ มแลกเปลยี่ นความรแู้ ละประสบการณ์ทรพั ยากรนำ้� ไปสชู่ มุ ชนอน่ื ๆ ดว้ ยการประยกุ ตใ์ ชว้ ทิ ยาศาสตร์ เกดิ เครอื ขา่ ยความคดิ และการทำ� งานทชี่ มุ ชนมบี ทบาทรว่ มในเทคโนโลยี และระบบสารสนเทศ เชน่ คอมพวิ เตอร์ อนิ เทอรเ์ นต็ การพฒั นาศักยภาพซึง่ กนั และกนั โดยในปีงบประมาณ 2553แผนท่ภี าพถา่ ยดาวเทียมความละเอียดสูง และเครอ่ื งจบั พกิ ัด ไดด้ �ำเนนิ การในพืน้ ทีช่ ุมชนรวมท้งั ส้ิน 15 แห่ง ไดแ้ ก่ ตวั อยา่ งความสำ� เรจ็ การจัดการน้ำ� ชุมชนบ้านล่มิ ทอง ต.หนองโบสถ์ อ.นางรอง จ. บุรีรัมย์ตวั อยา่ งความสำ� เร็จการจัดการน�้ำชุมชนบ้านผาชนั ต.สำ� โรง อ.โพธไิ์ ทร จ.อุบลราชธานีรายงานประจ�ำปี 2553 83ฝายวงั อแี ร้ง 2 ชุมชนบา้ นผาชัน กระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
1. เครอื ขา่ ยรักษ์ปา่ ต้นนำ้� แมล่ าว จ.เชยี งราย รปู ที่ 1 สถานเี ฝ้าระวังภยั ทางรงั สี ณ สำ� นักงานปรมาณูเพอื่ สันติ 2. เครอื ขา่ ยลุ่มนำ้� แม่ละอุป จ.เชียงใหม่ บางเขน กรงุ เทพฯ 3. บ้านป่าสักงาม จ.เชยี งใหม่ 4. บ้านดอนหวั วงั จ.ลำ� ปาง รปู ที่ 2 โปรแกรมประมวลผลการเฝ้าระวังระดบั รงั สีแกมมาในอากาศ 5. บ้านหว้ ยปลาหลด จ.ตาก 6. บ้านโปง่ แดง จ.ตาก ปส.จึงได้จัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังภัยทางรังสีแห่งชาติข้ึน 7. บา้ นหนองปิ้งไก่ จ.ก�ำแพงเพชร โดยเป็นศูนย์ที่รวบรวมข้อมูลจากสถานีเฝ้าระวังภัยทางรังสี 8. บ้านโนนรัง จ.นครราชสีมา ท่ัวประเทศท้ัง 7 สถานี มาใช้ประโยชน์ในการเฝ้าระวังและ 9. บ้านผาชัน จ.อบุ ลราชธาน ี การเตือนภัยทางรังสี โดยได้ด�ำเนินการเฝ้าระวังภัยจากรังสี 10. บ้านโนนขวาง จ.บุรรี ัมย ์ ใหป้ ระชาชนมาเปน็ เวลาหลายปแี ลว้ ซง่ึ ปจั จบุ นั อยภู่ ายใตก้ าร 11. บา้ นลม่ิ ทอง จ.บุรีรมั ย์ ดำ� เนนิ งานของกลมุ่ เฝา้ ตรวจกมั มนั ตภาพรงั สี สำ� นกั สนบั สนนุ 12. บา้ นเปร็ดใน จ.ตราด การก�ำกบั ดแู ลความปลอดภยั จากพลงั งานปรมาณู 13. บา้ นบางทรายนวล จ.สรุ าษฎรธ์ าน ี โดยในปีงบประมาณ 2553 ได้มีการพัฒนาสถานี 14. บา้ นลีเล็ด จ.สรุ าษฎร์ธาน ี เฝ้าระวังภัยทางรังสีจ�ำนวน 4 สถานี ได้แก่ สถานีเฝ้าระวัง 15. บ้านเขาพระ จ.สงขลา ภัยทางรังสี จ.เชียงใหม่ จ.ขอนแกน่ จ.สงขลา และกรุงเทพฯ ซ่ึงมีพ่ีน้องประชาชนได้รับประโยชน์รวมกว่า 5,000 โดยท�ำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยที่มีความเช่ียวชาญ ได้แก่ครวั เรอื น (21,817 คน) มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ และมหาวทิ ยาลยั ชาวบ้านชมุ ชนบ้านผาชนั จ. อบุ ลราชธานี ไดร้ ่วมกนั ทักษิณ เพื่อให้มีการใช้ข้อมูลจากสถานีให้เกิดประโยชน์สรา้ งฝายวงั อแี รง้ 2 สามารถเพม่ิ ปรมิ าณนำ�้ สำ� รองใหแ้ กช่ มุ ชนได้38,684 ลบ.ม. และชว่ ยลดรายจา่ ยคา่ สบู นำ้� ไดป้ ลี ะ 24,520 บาท ในอดตี ชมุ ชนบา้ นผาชนั ไดร้ บั ความเสยี หายประมาณ20% ของผลผลติ ขา้ วนาปตี อ่ ไรใ่ นสภาวะฝนทงิ้ ชว่ ง (จากพนื้ ท่ีผลติ ขา้ ว 300 ไร)่ การสรา้ งฝายวงั อแี รง้ 2 สามารถลดความเสยีหายดงั กลา่ ว คดิ เป็นมลู คา่ ขนั้ ตำ่� 150,000 บาท4.4 การเฝา้ ระวงั ภยั ทางรงั สี ส�ำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) ได้ริเร่ิมโครงการเฝา้ ระวงั ภยั ทางรงั สขี องประเทศไทย เนอ่ื งจากปจั จบุ นั ทวั่ โลกมีการใช้เทคโนโลยีด้านนิวเคลียร์ในโครงการขนาดใหญ่อยา่ งแพรห่ ลาย ทงั้ ในดา้ นการทหารเพอื่ เสรมิ สรา้ งความมนั่ คงของประเทศ เช่น การพัฒนาและสะสมอาวุธนิวเคลียร์ และในดา้ นการพฒั นาทางสนั ติ เชน่ โรงไฟฟา้ นวิ เคลยี ร์ การพฒั นาท้ังสองด้านน้ีอาจมีการแพร่กระจายของนิวไคลด์รังสีออกสู่ส่งิ แวดล้อมได้84 MAinnisntryuaoflScRienecpe oanrdtTe2ch0n1ol0ogy
สูงสุด และมีการถ่ายทอดข้อมูลสู่ภาคประชาชนมากย่ิงข้ึน สัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนเป็น 20% ภายในปี 2565 จากผลการดำ� เนนิ งานทผ่ี า่ นมา ทำ� ใหศ้ นู ยเ์ ฝา้ ระวงั ภยั จากเดิมที่ใช้แค่ 7% โดยหน่วยงานกระทรวงวิทยาศาสตร์ทางรงั สมี ปี ระสทิ ธภิ าพในการเฝา้ ตรวจและเตอื นภยั มากยง่ิ ขน้ึ และเทคโนโลยี พร้อมหนุนเทคโนโลยีลดใช้พลังงาน พัฒนาอนั จะท�ำใหป้ ระชาชนมคี วามมนั่ ใจวา่ ประเทศไทยมรี ะบบการ พลังงานทางเลือกใหม่ และส่งเสริมพลังงานแห่งอนาคตเฝา้ ระวงั ภยั ทางรงั สที ม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพ อยา่ งไรกต็ ามเพอื่ ใหก้ าร โดยทง้ั 2 กระทรวงไดร้ ว่ มลงนามบนั ทกึ ขอ้ ตกลงความเฝา้ ระวงั และการเตือนภยั ทางรังสขี องประเทศไทยครอบคลุม ร่วมมือวิจัยและพัฒนาการน�ำเทคโนโลยีมาใช้เพ่ือการพัฒนามากยง่ิ ขน้ึ ในปตี อ่ ๆ ไป สำ� นกั งานปรมาณเู พอ่ื สนั ติ มแี ผนทจี่ ะ พลังงานทดแทน เพ่ือบรรลุวัตถุประสงค์ตามแผนแม่บทการขยายเครอื ขา่ ยสถานเี ฝา้ ระวงั ภยั ทางรงั สเี พมิ่ ขน้ึ และจะยกระดบั พัฒนาพลังงานแห่งชาติ 15 ปี (2551-2565)ทั้งนี้ กระทรวงเข้าสู่เครือข่ายการเฝ้าระวังภัยทางรังสีระดับนานาชาติต่อไป วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ไดใ้ หก้ ารสนบั สนนุ ดา้ นเทคโนโลยี นอกจากน้ี สำ� นกั งานปรมาณเู พอื่ สนั ติ (ปส.) ไดด้ ำ� เนนิ ว่าจะเน้น 3 เร่อื ง คือ งานวจิ ัยและพัฒนาด้านการลดใชน้ ำ�้ มนัการจัดต้ังห้องปฏิบัติการวัดรังสีมาตรฐานทุติยภูมิ (SSDL) โดยการสนับสนุนไบโอดีเซลและเอธานอล ด้วยงานวิจัยเพ่ิมมหี นา้ ทส่ี ำ� คญั ในการดำ� เนนิ การเกย่ี วกบั มาตรฐานทางรงั สขี อง ผลผลติ ออ้ ย น�้ำมัน สบูด่ ำ� สาหร่าย รวมถึงขา้ วฟา่ งหวานซึง่ประเทศ เพอื่ เปน็ กลไกในการถา่ ยทอดมาตรฐานการวดั รงั สไี ป เปน็ วตั ถดุ บิ ความหวงั ใหมใ่ นการพฒั นาพลงั งานชนดิ น้ี อกี เรอื่ งสภู่ าคเศรษฐกจิ และอตุ สาหกรรม โดยในปีงบประมาณ 2553 คือการพัฒนาพลังงานทางเลือกในการผลิตกระแสไฟฟ้าและหอ้ งปฏบิ ตั กิ ารวดั รงั สมี าตรฐานทตุ ยิ ภมู ิ ไดร้ บั การรบั รองความ ความร้อน ซึ่งงานวิจัยยังอยู่ระยะกลาง เรื่องสุดท้ายคืองานสามารถหอ้ งปฏบิ ตั กิ ารสอบเทยี บ ดา้ นการสอบเทยี บเครอ่ื งวดั วิจัยเพือ่ พฒั นาแบตเตอรีในอนาคตและพลังงานไฮโดรเจนรงั สี ตามมาตรฐาน มอก. และเขา้ เปน็ สมาชกิ ขององคก์ รมาตร นอกจากน้ี กระทรวงวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ยังวทิ ยาระหวา่ งประเทศ Asia Pacific Metrology Programme ไดเ้ รม่ิ หารอื รว่ มกบั กระทรวงมหาดไทย เพอื่ วางแผนการบรู ณา(APMP) อยา่ งเปน็ ทางการแล้ว การการทำ� งานรว่ มกนั โดยการนำ� ภาพถา่ ยดาวเทยี ม และระบบ4.5 ความร่วมมอื เพ่อื ลดโลกร้อนอยา่ งบรู ณาการ คอมพวิ เตอรส์ มรรถนะสงู ชว่ ยเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพในการวเิ คราะห์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกับ และประมวลผลแบบจ�ำลองลมและแบบจ�ำลองสภาพอากาศกระทรวงพลังงาน พัฒนาพลังงานทดแทน ที่ต้องเพิ่ม ให้รวดเร็วมากขึ้นและครอบคลุมพ้ืนท่ีท่ัวประเทศได้ในเวลา เดียวกัน มาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหา ภยั พบิ ัตใิ หก้ ับประชาชนในพน้ื ท่ตี า่ ง ๆ ของประเทศอีกด้วย 85รากยระงทารวนงวิทปยารศะาสจตร�ำ์แปละเี ท2คโ5น5โล3ยี
พฒั นากบาคุ รลสารกา้ รงทคแาวลงาะดม้าตนรวะทิหยนากั ศาสตร์
และพัฒVน. ากบาคุรลสารก้างรคทวาางมดตา้ นระวหทิ นยกัาศาสตร์ การสร้างความตระหนักทางด้านวิทยาศาสตร์ในหมู่ เยาวชน อีกทั้งรูปแบบการน�ำเสนอน้ันจะเน้นในเรื่องเน้ือหาเด็กและเยาวชนเพื่อวางรากฐานในการสร้างบุคลากรทาง สาระและความรู้ ควบคู่ไปกับความสนุกสนานและความวทิ ยาศาสตรน์ นั้ เปน็ สง่ิ ทกี่ ระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี น่าสนใจ ตลอดจนจะเปิดโอกาสให้ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมได้มี(วท.) ไม่เคยมองข้าม เหตุเพราะเป็นรากฐานส�ำคัญในการ โอกาสทดลอง สมั ผสั ของจรงิ คดิ และเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง ซง่ึ เปน็พฒั นาประเทศไทยใหเ้ จรญิ กา้ วหนา้ มขี ดี ความสามารถในการ พน้ื ฐานส�ำคัญยงิ่ ของการเรียนทางด้านวทิ ยาศาสตร์แขง่ ขนั ทางเศรษฐกจิ และสรา้ งคณุ ภาพชวี ติ ใหก้ บั ประชาชนใน สงั คม 5.1.1 การจดั งานมหกรรมวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากสภาพปัจจุบัน เด็ก องคก์ ารพพิ ิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาตหิ รือ อพวช.เยาวชน และประชาชนไทย ยงั มคี วามสนใจและมคี วามตระหนกั ไดเ้ ปน็ เจา้ ภาพหลกั ในการจดั งาน “มหกรรมวทิ ยาศาสตรแ์ ละในความสำ� คญั ของวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยไี มเ่ พยี งพอทจี่ ะ เทคโนโลยแี หง่ ชาติ ประจำ� ปี 2553” ขึ้นระหวา่ งวันที่ 7 - 22ผลักดันให้เกิดกระแสการขับเคลื่อนประเทศให้เจริญก้าวหน้า สิงหาคม 2553 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี บางนา ภายใตแ้ นวคดิ หลัก “จุดประกายความคดิ พฒั นาชีวติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะเป็น ด้วยวิทยาศาสตร์” โดยมีโซนนิทรรศการหลัก 3 โซน ได้แก ่ หน่วยงานหลักที่มีภารกิจในการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาตระหนักในความส�ำคัญของนโยบายการสร้างความรู้ความตระหนักด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อมุ่งเน้นการสร้างปัญญาในสังคม ให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้บนรากฐานของหลกั เหตผุ ลทางวทิ ยาศาสตร์ พยายามปลกู ฝงัให้เยาวชนและประชาชน สามารถเข้าถึงข้อมูลความรู้ และผลงานวิจัยพัฒนา ผ่านกิจกรรมต่างๆ โดยมีแต่ละหน่วยงานภายใต้กระทรวงท�ำหนา้ ที่เปน็ ก�ำลังขบั เคลื่อน5.1 นิทรรศการเรื่องวิทย์ฯ จุดประกายความคิดทางวทิ ยาศาสตร์ การจดั นทิ รรศการเพอื่ การเรยี นรทู้ างดา้ นวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี นบั เปน็ กจิ กรรมสำ� คญั ทกี่ ระทรวงวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยนี ำ� มาใชเ้ ปน็ เครอื่ งมอื ในการสรา้ งความตระหนกัทางด้านวิทยาศาสตร์ในหมู่เด็กและเยาวชน โดยเน้ือหาและเรอื่ งราวทน่ี ำ� มาเสนอในนทิ รรศการนน้ั จะเปน็ เรอ่ื งวทิ ยาศาสตร์ทใี่ กลต้ วั หรอื เปน็ เรอ่ื งราวและองคค์ วามรทู้ างดา้ นวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีท่ีก�ำลังเป็นที่ได้รับความสนใจในหมู่เด็กและ 89รากยระงทารวนงวิทปยารศะาสจตรำ� ์แปละเี ท2คโ5น5โล3ยี
90 AMinnisntryuaoflScRienecpe oanrdtTe2ch0n1ol0ogy
โซนนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ โดยได้จัดแสดงพระราช เวลาพักผ่อนอยา่ งมคี ุณภาพของคนเมืองกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่และพระบรมวงศ์ “จัตรุ ัสวิทยาศาสตร์ อพวช.” นี้ จะเปน็ แหล่งเรียนรู้ในส่วนท่ีเก่ียวข้องกับการอนุรักษ์ฟื้นฟูส่ิงแวดล้อมและ แหง่ ใหมใ่ นรปู แบบสาระบนั เทงิ (Edutainment) ทมี่ งุ่ ใหค้ วามความหลากหลายทางชีวภาพ โซนวกิ ฤติโลก โดยไดจ้ ดั แสดง รู้ ประสบการณ์ สร้างจนิ ตนาการ แรงบันดาลใจใหแ้ กผ่ ู้เขา้ ชมภัยภิบัติอันเกิดจากการเปล่ียนแปลงของสภาพภูมิอากาศใน และสรา้ งสรรคน์ ทิ รรศการและกจิ กรรมตา่ งๆ ใหส้ อดคลอ้ งกบัรูปแบบ 4 มิติ และโซนความหลากหลายทางชีวภาพ โดยได้ ไลฟส์ ไตลข์ องคนเมอื งโดยเฉพาะ ดว้ ยชน้ิ งานวทิ ยาศาสตรแ์ บบจัดแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายทางชีวภาพของไทย ใน Interactive ที่พัฒนาข้ึนมาใหมล่ ่าสดุ และไมเ่ คยจัดแสดงที่ใดรูปแบบของการผจญภัยจากใต้ท้องทะเลจรดยอดเขาสูง ซึ่ง มากอ่ น เชน่ การเรยี นรกู้ ารใชช้ วี ติ ของคนตาบอด (Dialogue inการน�ำเสนอสาระความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ “ความหลาก the Dark) หอ้ งการแสดงทางวทิ ยาศาสตร์ (Science Show) หลายทางชีวภาพ” น้ีก็เนื่องจากปี 2553 นั้นถือเป็นปีสากล หอ้ งปฏบิ ตั กิ ารทางวทิ ยาศาสตร์ (Science Lab) และมมุ ปลกูแห่งความหลากหลายทางชีวภาพ ฝงั ปัญญาเยาว์ส�ำหรบั เดก็ เล็ก เป็นต้น นอกจากโซนนทิ รรศการหลกั แลว้ ภายในงานยงั มกี าร จัดแสดงนวัตกรรมทางวทิ ยาศาสตร์ จากหน่วยงานต่าง ๆ ทง้ั - นทิ รรศการเสือ พยัคฆร์ ้ายที่ใกลส้ ญู พนั ธ์ุภาครฐั ภาควชิ าการ และเอกชน และมกี ารจดั แสดงนทิ รรศการ อพวช. ยังได้ร่วมกับพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และทางวิทยาศาสตรต์จากต่างประเทศมาให้คนไทยได้เรียนรู้ เทคโนโลยีแห่งนครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ท่ีอยู่ในมากมาย ตลอดจนมีการจัดกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ท่ี เครือข่ายพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์เขตภาคพ้ืนเอเชียแปซิฟิกหลากหลายเพื่อให้เด็กและเยาวชนที่เข้ารับชมงานมหกรรม (Asia Pacific of Science and Technology Centers)ได้มีโอกาสสัมผัส ทดลอง และเข้าร่วมกิจกรรมด้วยตนเอง น�ำนิทรรศการชุด “เสือ...พยัคฆ์ร้ายที่ใกล้ สูญพันธุ์” จากได้แก่ การแสดงความสามารถด้านวิทยาศาสตร์ของเยาวชนเช่น ประกวดโครงการวิทยาศาสตร์ การแข่งขันตอบปัญหา 91รากยระงทารวนงวิทปยารศะาสจตรำ� แ์ ปละเี ท2คโ5น5โล3ยีวทิ ยาศาสตร์ การแขง่ ขนั การแสดงทางวทิ ยาศาสตร์ การทดลองสรา้ งหนุ่ ยนต์ และการทดลองทางวทิ ยาศาสตรใ์ นหอ้ งปฏบิ ตั กิ ารจ�ำลอง เป็นต้น ซึ่งตลอดระยะเวลาของการจัดงานมีจ�ำนวนผ้เู ข้าชมงานจากทั่วประเทศทั้งสิ้น 1,298,162 คน 5.1.2 การจดั แสดงนทิ รรศการทางดา้ นวทิ ยาศาสตร์ - จัตรุ สั วิทยาศาสตร์ พพิ ธิ ภัณฑว์ ิทย์ใจกลางเมือง องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.)กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้เปิด “จัตุรัสวิทยาศาสตร์ อพวช.” แหล่งเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยอี ันทนั สมยั แห่งใหม่ ใจกลางกรงุ อย่างเป็นทางการ ณ ชน้ั 4 อาคารจามจรุ สี แควร ์ โดยมงุ่ สรา้ งความตระหนกั ดา้ นวทิ ยาศาสตรแ์ กเ่ ยาวชนและประชาชนไทยใหก้ า้ วสสู่ งั คมวทิ ยาศาสตรท์ ใี่ ชข้ อ้ มลู ในการตดั สนิ ใจ ทง้ั เปน็ ทางเลอื กใหมใ่ นการใช้
92 AMinnisntryuaoflScRienecpe oanrdtTe2ch0n1ol0ogy
สาธารณรฐั ประชาชนจนี และนทิ รรศการเสอื ของประเทศไทย 5.1.3 คาราวานวทิ ยาศาสตร์ หอ้ งเรยี นวทิ ยเ์ คลอื่ นที่จากสวนเสอื ศรรี าชา มาจดั แสดงเพอ่ื รว่ มฉลองปี 2553 ปนี กั ษตั ร คาราวานวิทยาศาสตร์ เป็นกิจกรรมการให้บริการขาล เพอื่ สรา้ งความรคู้ วามเขา้ ใจเกยี่ วกบั เสอื ความหลากหลาย พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์เคลื่อนท่ี ขององค์การพิพิธภัณฑ์ทางชวี ภาพและสรา้ งความตระหนกั ในการอนรุ กั ษส์ ตั วป์ า่ และ วิทยาศาสตร์แห่งชาติ โดยจะน�ำเอาชิ้นงานนิทรรศการทางสงิ่ แวดลอ้ ม และเปน็ การเฉลมิ ฉลองความสมั พนั ธท์ างการทตู วิทยาศาสตร์ต่าง ๆ สัญจรไปจัดนิทรรศการในจังหวัดต่าง ๆไทย-จนี ครบ 36 ปี ทวั่ ประเทศ เพอ่ื สร้างความสนใจ และสรา้ งโอกาสการเรยี นรู้ - นทิ รรศการภาวะโลกร้อน ทางวทิ ยาศาสตรข์ องเยาวชนในภมู ภิ าค โดยรว่ มกบั หนว่ ยงาน อพวช. ได้จัดนิทรรศการ “โลกร้อน” ท่ีได้รวบรวม องคก์ ร และสถาบนั การศกึ ษารวมทงั้ องคก์ ารบรหิ ารสว่ นทอ้ งถน่ิข่าวสารเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจัดแสดงในรูปบอร์ดนิทรรศการและภาพเคลื่อนไหวผ่านโปรเจกเตอร์2.กลไกการเกิดภาวะโลกร้อน จัดแสดงความสัมพันธ์ระหว่างโลกและดวงอาทติ ย์ วฏั จกั รนำ้� -วฏั จกั รคารบ์ อน ปรากฏการณ์เรือนกระจก ในรูปช้ินงานโมเดลและกราฟิกพาเนล อีกหนึ่งนิทรรศการที่น�ำไปจัดแสดงเคลื่อนท่ีท่ัวประเทศร่วมกับ“คาราวานวิทยาศาสตร์ อพวช.” ซึ่งนอกจากนิทรรศการที่สร้างข้ึนจากวัสดุเหลือใช้และกระดาษรีไซเคิลแล้ว ทุกช้ินยังออกแบบให้สามารถเคลือ่ นย้ายไดโ้ ดยสะดวก - นทิ รรศการ สขุ ภาวะทางเพศ องค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ได้ร่วมกับ องค์การพิพิธภัณฑ์วทิ ยาศาสตรแ์ หง่ ชาติ (อพวช.) จดั นทิ รรศการ “สขุ ภาวะทางเพศHealthy Sexuality : Story of Love” ภายใต้การสนับสนนุของคณะกรรมการกองทนุ สนบั สนนุ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ สสส.และมูลนิธิสร้างความเข้าใจเร่อื งสขุ ภาพผู้หญิง (สคส.) เนอ้ื หาท่ีจดั แสดงในพพิ ิธภณั ฑ์จะประกอบด้วย 6 โซนแห่งการเรียนรู้ไดแ้ ก่ แนะนำ� เขา้ สนู่ ทิ รรศการ โซนความรกั และความปรารถนาโซนของความสัมพันธ์และการสื่อสารระหว่างมนุษย์ โซนความรู้ในเร่ืองเพศสัมพันธ์ การให้ก�ำเนิดการคุมก�ำเนิด และโซนใหค้ วามรเู้ ร่อื งโรคติดต่อทางเพศสัมพนั ธ์ และการป้องกันทงั้ ตอ่ ตนเองและผอู้ น่ื ตลอดจนโซนทางเลอื ก ผา่ นเทคนคิ การนำ� เสนอขอ้ มลู ทแี่ ปลกใหมแ่ ละนา่ สนใจ เพอื่ ใหค้ วามรแู้ ละความเข้าใจแกเ่ ยาวชนมากขึน้ 93รากยระงทารวนงวทิปยารศะาสจตร�ำ์แปละเี ท2คโ5น5โล3ยี
วัตถุประสงค์เพ่ือสร้างความเข้าใจและกระตุ้นความสนใจด้าน 5.2.1 ค่ายเยาวชนนิวเคลยี ร์สมั พันธ์ “รักอะตอม”วิทยาศาสตร์ เพิ่มโอกาสการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ของเยาวชน กระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ยงั ตระหนกั ถงึในภมู ิภาค และใชป้ ระโยชน์จากทรัพยากรในท้องถ่ิน ความส�ำคัญของเทคโนโลยีแห่งอนาคต หนึ่งในน้ันคือ การใช้ กจิ กรรมในนิทรรศการวทิ ยาศาสตร์ประเภท hands ประโยชนจ์ ากพลงั งานนวิ เคลยี รแ์ ละรงั สี โดยเฉพาะในแงข่ องon ครอบคลุมทุกสาขาวิทยาศาสตร์พ้ืนฐาน กิจกรรมเสริม การนำ� มาใช้พัฒนาประเทศ แต่ต้องยอมรบั วา่ เร่อื งดงั กล่าวยังความรสู้ รา้ งทกั ษะทางวทิ ยาศาสตร์ การแสดงทางวทิ ยาศาสตร์ เปน็ ทสี่ นใจในวงแคบ รวมทงั้ มปี ระชาชนจำ� นวนไมน่ อ้ ยไมเ่ ขา้ ใจน�ำปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ ถึงความส�ำคัญของการนำ� พลังงานดังกล่าวมาใช้สรา้ งความคนุ้ เคยกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสมั มนาครู สำ� นกั งานปรมาณเู พอ่ื สนั ติ (ปส.) กระทรวงวทิ ยาศาสตร์อาจารย์ “การเรยี นรนู้ อกหอ้ งเรยี นดว้ ยพพิ ธิ ภณั ฑว์ ทิ ยาศาสตร”์ และเทคโนโลยี จึงริเร่ิมโครงการสร้างความตระหนักด้านอพวช. ยงั จดั คาราวานวทิ ยาศาสตรข์ นึ้ โดยมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนิวเคลียร์ เพื่อสร้างความรู้ความกระจายฐานการเรียนรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์สู่ทุกภูมิภาคของ เขา้ ใจอยา่ งถกู ตอ้ งเกยี่ วกบั ประโยชน์ โทษ และมาตรฐานกำ� กบัประเทศ ผา่ นการจดั แสดงนทิ รรศการและกจิ กรรมเสรมิ ศกึ ษา ดูแลด้านความปลอดภัยจากเทคโนโลยีนิวเคลียร์และรังสีไปสู่มากมาย ซงึ่ เนน้ ใหเ้ ยาวชนสามารถเขา้ ไปมสี ว่ นรว่ ม เพอ่ื คน้ หา ประชาชน โดยเฉพาะกลุม่ เด็ก เยาวชน และพี่นอ้ งประชาชนค�ำตอบได้ดว้ ยตนเอง โดยในปงี บประมาณ 2553 นัน้ อพวช. ในชนบทห่างไกล ผา่ นส่อื และกิจกรรมต่างๆ กจิ กรรมหนง่ึ ที่ได้จัดคาราวานวิทยาศาสตร์ขึ้นใน 21 จังหวัด ได้แก่ จังหวัด ไดร้ บั ความสนใจมาโดยตลอด ไดแ้ ก่ กิจกรรมโครงการพฒั นาล�ำปาง ตาก ชลบุรี นครปฐม เชียงใหม่ นครสวรรค์ พะเยา แหลง่ เรยี นรดู้ า้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยนี วิ เคลยี ร์ ซงึ่ เปน็ตรัง ภูเก็ต ระนอง ระยอง มหาสารคาม เพชรบูรณ์ สุโขทัย กจิ กรรมหลกั ในโครงการสรา้ งความตระหนกั ดา้ นวทิ ยาศาสตร์เชยี งราย ขอนแกน่ สระแกว้ บรุ รี มั ย์ พทั ลงุ กระบ่ี และนนทบรุ ี และเทคโนโลยนี ิวเคลียร์ 5.2 ค่ายวิทยาศาสตร์ กจิ กรรมในโครงการดงั กลา่ วไดแ้ ลกเปลยี่ นความคดิ เหน็ ค่ายวิทยาศาสตร์ เป็นกิจกรรมท่ีหน่วยงานในสังกัด เกี่ยวกับพลังงานนิวเคลียร์และรังสี แก่กลุ่มนักเรียนระดับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้ความส�ำคัญ และน�ำ มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย และเทยี บเทา่ ผา่ นกจิ กรรมคา่ ยเยาวชนมาเป็นกลไกในการอบรมให้ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ท้ัง นวิ เคลยี รส์ มั พนั ธ์ “รกั อะตอม” โดยไดจ้ ดั ขนึ้ ใน 5 จงั หวดั ไดแ้ ก่ทางด้านทฤษฎีและลงมือปฏิบัติจริง ผ่านกิจกรรมการเรียน สะตลู ยะลา พะเยา ลพบรุ ี และนครราชสมี า มโี รงเรยี นเขา้ รว่ มรู้และการพัฒนาทักษะทางวิทยาศาสตร์ อีกทั้งกิจกรรมค่าย กจิ กรรม 103 แหง่ และมผี เู้ ขา้ รว่ มกจิ กรรมทง้ั สนิ้ 759 คน ซงึ่วทิ ยาศาสตรย์ งั เปน็ กลไกสำ� คญั ในการสรา้ งและพฒั นาเครอื ขา่ ย กิจกรรมค่ายเยาวชนรักอะตอมได้เน้นรูปแบบการให้ความรู้คู่การท�ำงานของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และ ความสนกุ สนาน ผา่ นการบรรยาย กจิ กรรม และเกมส ์ เพอื่ ให้เทคโนโลยี รว่ มกับภาควิชาการ ส่วนราชการในระดบั ภมู ิภาค สงั คมไทยไดร้ บั ทราบขอ้ มลู ทถ่ี กู ตอ้ งและรอบดา้ นเกยี่ วกบั การน�ำและทอ้ งถนิ่ รวมถงึ ครอู าจารยแ์ ละเดก็ นกั เรยี นทเ่ี ขา้ รว่ มกจิ กรรม นิวเคลยี รม์ าใชป้ ระโยชนเ์ พือ่ การพัฒนาประเทศในด้านตา่ ง ๆเพอ่ื ฐานในการสานสมั พนั ธ์ และการสรา้ งความรคู้ วามเขา้ ใจเกยี่ ว และการสร้างความตระหนักถึงอันตรายและมาตรการในการกบั ภารกจิ ของแตล่ ะหนว่ ยงานในสงั กดั กระทรวงวทิ ยาศาสตร์ ปอ้ งกนั ภยั จากนวิ เคลยี ร ์ ซงึ่ การใหข้ อ้ มลู อยา่ งถกู ตอ้ ง รอบดา้ นและเทคโนโลยีไดเ้ ปน็ อย่างดี จะเป็นกลไกส�ำคัญท่ีส่งเสริมให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมใน กระบวนการตัดสินใจเก่ียวกับการน�ำเทคโนโลยีนิวเคลียร์มา ใชป้ ระโยชนเ์ พอื่ การพฒั นาประเทศในทางสนั ตติ อ่ ไปในอนาคต นอกจากน้ี ปส.ยงั ไดเ้ รม่ิ จดั กจิ กรรมเวทชี มุ ชนปรมาณู เพ่ือสันติขึ้นใน 5 จังหวัดน�ำร่อง ได้แก่ ชลบุรี เชียงใหม่94 AMinnisntryuaoflScRienecpe oanrdtTe2ch0n1ol0ogy
พัฒนาก�ำลังคนและการสร้างความตระหนักด้านเทคโนโลยี อวกาศและภูมิสารสนเทศ ได้จัดกิจกรรมค่ายเยาวชนตะลุย อวกาศขึ้นจ�ำนวน 12 คร้ังใน 12 จังหวัด โดยมีนักเรียนและ ครูอาจารยเ์ ข้าร่วมกจิ กรรมจ�ำนวน 2,857 คน นอกจากน้ี สทอภ. ยังได้จัดหลักสูตรฝึกอบรมในรูป แบบตา่ งๆ ขน้ึ ในปี 2553 ไดแ้ ก่ การจดั ฝกึ อบรมบคุ ลากรภาครฐั เอกชนและสถาบนั การศกึ ษา ในระดบั ประเทศและตา่ งประเทศ ท้ังส้ินรวม 18 หลักสูตร แบ่งเป็นหลักสูตรทั่วไป หลักสูตร ฝึกอบรมเพ่ือการเรียนการสอนด้านเทคโนโลยีอวกาศและภูมิ สารสนเทศ หลกั สตู รฝกึ อบรมการประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยอี วกาศ และภมู สิ ารสนเทศเพอื่ บรหิ ารจดั การทรพั ยากรและสงิ่ แวดลอ้ ม โรงเรียนและท้องถ่ินของเรา หลักสูตรฝึกอบรม เทคโนโลยี ภมู สิ ารสนเทศเพอ่ื การบรหิ ารจดั การทรพั ยากรและสงิ่ แวดลอ้ มอบุ ลราชธานี สรุ าษฎรธ์ านี และกรงุ เทพมหานคร ภายใตแ้ นวคดิ“รจู้ กั เชอ่ื มน่ั สำ� นกั งานปรมาณเู พอ่ื สนั ต”ิ เพอ่ื เปน็ การทำ� งานประชาสมั พนั ธเ์ ชงิ รกุ สรา้ งความเชอื่ มนั่ และภาพลกั ษณท์ ดี่ ขี ององคก์ รและทัศนคติทีถ่ กู ตอ้ งเกยี่ วกับพลังงานปรมาณู รวมถงึการสร้างเครอื ขา่ ยความร่วมมือลงไปในระดับชุมชนท้องถ่ิน 5.2.2 คา่ ยเยาวชนตะลยุ อวกาศ สำ� นกั งานพฒั นาเทคโนโลยอี วกาศและภมู สิ ารสนเทศ(องคก์ ารมหาชน) หรือ สทอภ. ซึ่งมีภารกิจในการดำ� เนินการ 95รากยระงทารวนงวิทปยารศะาสจตรำ� แ์ ปละเี ท2คโ5น5โล3ยี
เยาวชน โดยในปี 2553 สถาบันฯ ได้จัดโครงการค่ายเยาวชน คนดดู าวและแลกเปลยี่ นวฒั นธรรม จำ� นวน 2 ครง้ั โดยมเี ยาวชน จากทัว่ ประเทศ เข้ารว่ มครงั้ ละ 120 คน นอกจากการจดั คา่ ยเยาวชนคนดดู าวแลว้ สถาบนั วจิ ยั ดาราศาสตรแ์ หง่ ชาติ ยงั ไดจ้ ดั กจิ กรรมเปดิ ฟา้ ตามหาดาว โดย เปดิ โอกาสใหเ้ ดก็ เยาวชน และประชาชนทวั่ ไป สามารถเขา้ รว่ ม กิจกรรมดูดาวในช่วงที่มีปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ ทนี่ า่ สนใจอกี ทงั้ สนิ้ 8 ครงั้ ซง่ึ การจดั แตล่ ะครง้ั ไดร้ บั ความสนใจจาก เดก็ เยาวชน และนกั ทอ่ งเทยี่ วเขา้ รว่ มกจิ กรรมเปน็ จำ� นวนมาก ส�ำหรับผู้บริหาร และหลักสูตรผลิตบัณฑิตระดับปริญญาเอก ตลอดจนการจดั กจิ กรรมการฝกึ อบรมการประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยี อวกาศและภูมิสารสนเทศ ตลอดจนการเตรียมการจัดท�ำ GIS Tool Kit for School เพือ่ เปน็ เคร่อื งมือหรอื สื่อในการเรียน การสอนด้านเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศในโรงเรียน โดยเฉพาะการประยกุ ตใ์ ชข้ อ้ มลู ภมู สิ ารสนเทศ เพอ่ื การบรหิ าร จดั การทรพั ยากร สิง่ แวดล้อมและภยั พิบัติ 5.2.3 กจิ กรรมเปดิ ฟ้า ตามหาดาว สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.)ได้จัดโครงการค่ายเยาวชนคนดูดาวและแลกเปล่ียน วัฒนธรรม เพ่ือให้เยาวชนที่ชื่นชอบและสนใจเกี่ยวกับ ดาราศาสตร์ เข้าร่วมกิจกรรมเพ่ือเรียนรู้พื้นฐานและข้อมูล ทางดาราศาสตร์ รวมถึงสามารถน�ำองค์ความรู้ที่ได้ไปศึกษา ขยายผลและประกอบการเรียนทางด้านดาราศาสตร์ อีกท้ัง ยงั เปน็ การสรา้ งเครอื ขา่ ยทางดา้ นดาราศาสตรใ์ นระดบั เยาวชน และเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ทางด้านดาราศาสตร์ในกลุ่ม96 AMinnisntryuaoflScRienecpe oanrdtTe2ch0n1ol0ogy
5.2.4 ค่ายเยาวชนแสงสยาม สถาบนั วจิ ยั แสงซนิ โครตรอน (องคก์ ารมหาชน) (สซ.)กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้ให้ความส�ำคัญในการเร่งพัฒนาบุคคลากรด้านเทคโนโลยีซินโครตรอน ซ่ึงปจั จบุ นั มนี กั วจิ ยั ดา้ นนนี้ อ้ ยมาก การเรง่ พฒั นาคนนจี้ ะเปน็ การเตรยี มความพรอ้ มของกลมุ่ ผใู้ ชป้ ระโยชนจ์ ากแสงซนิ โครตรอนให้เกิดประสทิ ธิภาพสงู สดุ ในรอบปที ผี่ า่ นมาสถาบนั วจิ ยั แสงซนิ โครตรอน ไดจ้ ดัโครงการคา่ ยวทิ ยาศาสตรแ์ สงสยาม โดยมนี กั เรยี นมธั ยมศกึ ษาสายวิทยาศาสตร์ที่ผ่านการคัดเลือก เข้าร่วมในกิจกรรมค่ายพรอ้ มกบั นกั ศกึ ษาและอาจารยใ์ นโครงการนกั ศกึ ษาและครสู อนฟิสิกสภ์ าคฤดรู ้อนเซริ น์ (CERN Programme for SummerStudent and Physics High School Teacher) และนกั ศกึ ษาโครงการนักศึกษาภาคฤดูรอ้ นเดซี ร่นุ ที่ 8 (DESY SummerStudent Program) โดยนกั เรียน นักศึกษาทเ่ี ขา้ คา่ ยเยาวชนแสงสยาม จะได้เรียนรู้เก่ียวกับองค์ความรู้และความกา้ วหน้าของวิทยาการแสงซินโครตรอนจากวิทยากรชั้นน�ำ และได้มี โอกาสสัมผัสและศึกษาการใช้ประโยชน์ของเครื่องก�ำเนิดแสง ซนิ โครตรอนอย่างใกล้ชิด นอกจากน้ี สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การ มหาชน) ยังได้จัดโครงการแสงสยามสู่โรงเรียน และการ สนับสนุนทุนระดับบัณฑิตศึกษาและทุนผู้ช่วยวิจัย การจัด แสดงนทิ รรศการผลงานเทคโนโลยซี นิ โครตรอน การจดั กจิ กรรม สมั มนาฝกึ อบรมเชงิ วชิ าการและเชงิ ปฏบิ ตั กิ ารโครงการอบรม ครฟู สิ กิ สไ์ ทย ทงั้ น้ี เพอ่ื ทำ� ใหเ้ ทคโนโลยแี สงซนิ โครตรอนเปน็ ท่ี รจู้ กั ในวงกวา้ ง และมกี ารศกึ ษาวจิ ยั เพอ่ื นำ� ไปสกู่ ารใชป้ ระโยชน์ ในดา้ นตา่ ง ๆ ให้เพม่ิ มากขน้ึ 5.2.5 คา่ ยเยาวชน สานใจไทย สู่ใจใต้ กระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ไดเ้ ปดิ โลกการ เรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรก์ บั ทรู วชิ นั่ ส-์ อพวช.” ในโครงการ “สานใจ ไทย สใู่ จใต”้ รนุ่ ท่ี 14 ณ องคก์ ารพพิ ธิ ภณั ฑว์ ทิ ยาศาสตรแ์ หง่ ชาติ โดยมี พลเอก สุรยทุ ธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เปน็ ประธาน คณะกรรมการด�ำเนินการโครงการ 97รากยระงทารวนงวิทปยารศะาสจตรำ� ์แปละเี ท2คโ5น5โล3ยี
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138