1
ก คำนำ การเรียนรู้การทดลองวิทยาศาสตร์ เป็นกระบวนการแสวงหาความรู้หรือการค้นคว้า หาคำตอบในสิ่งที่ เด็กๆอยากรู้หรือสงสัยด้วยวิธีการต่างๆ เปน็ วิธีการเรียนรู้ท่เี ด็กๆได้เลือกศึกษาตาม คเวามสนใจของตนเองหรือ ของกลุ่มเป็นการตัดสินใจร่วมกัน เป็นกิจกรรมทดลองวิทยาศาสตร์ที่เด็ก อยากรู้และสนใจมีการจัดการเรียนรู้ท่ี หลากหลาย เช่น กระบวนการกลุ่ม รายบุคคล การฝึกคิด การแก้ปัญหาและการร่วมมือกันคิด ฯลฯ เด็กๆได้ลง มือปฏิบัติกิจกรรมต่างๆเพื่อค้นหาคำตอบด้วย ตนเอง และไดเ้ รียนรู้จากประสบการณต์ รง เด็กมีความสนใจ และกระตอื รือรน้ ในการร่วมกิจกรรมเป็น อย่างดี รู้จักหน้าที่ ความรับผิดชอบของตนเอง รู้จักการรอคอย เกิดทักษะทางวิทยาศาสตร์ มีความ ภาคภูมิใจในตนเองและผู้อื่น ขอขอบพระคุณผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านทับกุมารทอง ที่สนับสนุน กิจกรรมการทดลองและโครงงานวิทยาศาสตร์ ให้กำลังใจและคำปรึกษาที่ดี ตลอดมาหวังเป็นอย่างยิ่ง ว่ากิจกรรมการทดลองและโครงงานวิทยาศาสตร์ จะเป็นประโยชน์กับผู้ที่สนใจ และหากท่านผู้รู้มี คำแนะนำเพื่อจะพัฒนากิจกรรมการทดลองและโครงงานวิทยาศาสตร์ทางผู้จัดทำน้อมรับ เพื่อจะได้ นำไปปรบั ปรุงพฒั นาให้ดียิง่ ขึ้นต่อไป ผ้จู ดั ทำ นางสาววิญญูดา กมั ปะหะ
สารบัญ ข คำนำ หน้า สารบญั ก กิจกรรม ข กจิ กรรมท่ี 1 เรื่อง น้ำเป็นของเหลว 1 กิจกรรมที่ 2 เรอ่ื ง น้ำ ทรายและนำ้ มนั ๕ กิจกรรมที่ 3 เรอ่ื ง ไหลแรงหรือค่อย ๙ กิจกรรมท่ี 4 เรอ่ื ง น้ำตาลละลายในน้ำได้มากทส่ี ดุ กี่กอ้ น 1๓ กจิ กรรมที่ 5 เรือ่ ง เนินน้ำ 1๗ กจิ กรรมที่ 6 เรื่อง การเผาไหม้ ๒๑ กิจกรรมท่ี 7 เรื่อง อากาศ ลกู โป่งพองโต ๒๕ กิจกรรมท่ี 8 เรอ่ื ง กักน้ำไวไ้ ด้ ๒๙ กจิ กรรมที่ 9 เรื่อง การกรองน้ำ ๓๓ กิจกรรมท่ี 10 เรื่อง มีอากาศอยู่ในฟองสบู่เท่าได ๓๗ กิจกรรมที่ 11 เรอ่ื ง ทอร์นาโดในขวด ๔๑ กิจกรรมท่ี 12 เรอ่ื ง แม่เหล็กสามารถดูดสื่งของได้แมม้ ีวสั ดมุ าขวางกั้น ๔๕ กิจกรรมที่ 13 เรื่อง สนุกกับไฟฟา้ สถติ ๔๙ กิจกรรมที่ 14 เร่ือง แสงและถาพ ๕๓ กิจกรรมท่ี 15 เรื่อง แสงเลีย้ วเบน ๕๗ กจิ กรรมท่ี 16 เรื่อง การฟงั เสยี งผ่านของแขง็ และน้ำ ๖๑ กจิ กรรมที่ 17 เรื่อง นำ้ แข็งกลายเปน็ นำ้ ๖๔ กิจกรรมที่ 18 เรื่อง รจู้ ักกบั เหลีย่ มและมุม ๖๗ กจิ กรรมที่ 19 เรอ่ื ง อนิ ดเิ คเตอรจ์ ากพืช ๗๑ กจิ กรรมท่ี 20 เรอ่ื ง ความลับของสดี ำ ๗๔ ภาคผนวก ๗๘
1 รายงานผลการจดั กิจกรรมการทดลองตามโครงการบ้านนกั วทิ ยาศาสตรน์ อ้ ย ประเทศไทย กิจกรรมที่ 1 เร่ือง น้ำเปน็ ของเหลว จดุ ประสงค์ 1. เพ่อื ใหเ้ ด็กเรียนรู้ เรอื่ ง น้ำเปน็ ของเหลว 2. เพ่อื ใหเ้ ดก็ ไดท้ ำการทดลองน้ำเปน็ ของเหลว 3. เพื่อให้เด็กได้มีมีเจตคติที่ดีต่อการทดลองวิทยาศาสตร์ในการทดลองเรื่องน้ำเป็น ของเหลว ขั้นตอนการจัดกิจกรรม ขน้ั ที่ 1 ต้งั คำถามเก่ียวกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ครูสนทนากับเด็กๆ โดยครูใช้คำถามกระตุ้นเด็กเพื่อส่งเสริมให้เด็กตั้งคำถามที่เด็กอยากรู้ เกี่ยวกับน้ำเป็นของเหลวครูไปจัดกิจกรรมนอกอาคาร โดยแนะนำอุปกรณ์แล้วให้เด็กลองจับ กรวด ทรายและมีความแตกตา่ งอยา่ งไร ครู : เดก็ ลองจับ กรวดและทรายแลว้ รู้สึกอย่างไร เดก็ : ทรายกับกรวดแขง็ แล้วถ้าทรายกบั กรวดแขง็ เราจับได้แล้วนำ้ เราจะจบั ได้ไหม ข้ันที่ 2 รวบรวมความคิดและข้อสันนิษฐาน ครูสนทนากับโดยครูสนทนากับเด็กในเรื่องที่เด็กสงสัยและอยากรู้เกี่ยวกับน้ำเป็นของเหลว เดก็ ได้รวบรวมความคิดและคาดคะเนคำตอบว่า ในชีวติ ประจำวนั เด็กๆใช้นำ้ ชำระรา่ งกายและล้างส่ิง ตา่ งๆ ไดแ้ ละนำ้ ไมไ่ ด้อยใู่ นสถานะเป็นของแข็ง จึงจบั นำ้ เอาไวไ้ มไ่ ด้ ขน้ั ท่ี 3 ทดสอบและปฏิบัติการสืบเสาะ เด็กๆและครูร่วมกันวางแผนกำหนดขั้นตอนการทดลอง ร่วมกันออกแบบบันทึกผลการ ทดลอง กำหนดวัสดุอุปกรณ์ที่จะใช้ และดำเนินการสำรวจตรวจสอบโดยใช้คำถามกระตุ้นให้เด็ก สำรวจตรวจสอบตามแผนที่วางไว้และดำเนินการสำรวจตรวจสอบ และเด็กสังเกตผลการทดองโดย เดก็ ๆได้ทดลองจบั กรวด ทราย และน้ำด้วยมอื เปลา่ สามารถบอกได้ว่านำ้ เป็นของเหลว จบั ไมไ่ ด้ ขัน้ ที่ 4 การสังเกตและบรรยาย เด็กๆสังเกตและช่วยกันบรรยายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นขณะที่ทำการทดลองโดยครูใช้คำถามกระตุ้น ให้เด็กสังเกตและเล่าถึงสิ่งที่เด็กๆสังเกตว่า เด็กๆจับ กรวด ทราย และน้ำ ด้วยมือเปล่า บอกรวด ทราย มสี ถานะเป็นของแข็งและน้ำไม่มสี ถานะเป็นของแขง็ ขน้ั ที่ 5 บันทกึ ขอ้ มลู เด็กๆบันทึกผลการทดลองลงในแบบบันทึกที่ร่วมกันออกแบบไว้โดยครูสนทนากับเด็ก เกี่ยวกับผลการทดลองและเดก็ บันทกึ ผลตามแบบทีก่ ำหนดไว้โดยเด็กๆบันทึกผลการทดลองวาดภาพ วิธกี ารดำเนนิ การทดลองนำ้ เปน็ ของเหลวลงในแบบบนั ทึกผลทอ่ี อกแบบไว้และนำเสนอผลงานหน้าชั้น เรยี น
2 ข้ันท่ี 6 สรปุ และอภิปราย เดก็ ๆช่วยกนั สรุปผลการทดลองโดยครูสนทนากับเด็กเก่ียวกบั ผลการทดลองที่เกิดข้ึนโดยครู ใช้คำถามกระตุ้นให้เด็กทบทวนผลจากการทดลอง เด็กๆสรุปว่าได้เรียนรู้การใช้มือจับ กรวด ทราย และน้ำด้วยมือและบอกความแตกต่าง กรวด ทราย เป็นของแข็ง น้ำเปน็ ของเหลว ภาพการดำเนนิ กิจกรรม วัสดุ / อุปกรณใ์ นการทดลอง ภาพกิจกรรมการ
3 ภาพเด็กบันทกึ ผลการทดลองและนำเสนอผลงาน ผลงานท่ีสำเร็จ ผลทเ่ี กดิ กบั เด็ก 1. ผลทเ่ี กดิ ขึน้ ตามจดุ ประสงค์ 1.1. เด็กเรยี นรู้ เรอ่ื ง นำ้ เปน็ ของเหลว 1.2. เดก็ ไดท้ ำการทดลองนำ้ เปน็ ของเหลว 1.3. เดก็ ไดม้ ีความสุขสนกุ สนานกบั การทดลอง 2. พฒั นาการความสามารถพื้นฐาน และพัฒนาการของเด็กปฐมวยั 2.1. ด้านการเรยี นรู้/ดา้ นภาษา/สตปิ ัญญา 2.1.1 ดา้ นการเรียนรู้ - เด็ก ไดเ้ รียนรู้เรื่องนำ้ - เดก็ ไดเ้ รยี นรู้และสังเกต เปรยี บเทยี บนำ้ เปน็ ของเหลว 2.1.2 ดา้ นภาษา - เดก็ สามารถพดู อธบิ ายสง่ิ ทเ่ี หน็ และสังเกตได้ - เด็กสนทนาและแสดงความคดิ เห็นจากการทดลอง 2.1.3 ดา้ นสตปิ ญั ญา - เดก็ ไดเ้ รยี นรู้ จำนวน ขนาด รูปรา่ งเวลา - เดก็ คิดล่วงหน้าโดยการคาดคะเนได้
4 - เดก็ รูจ้ ักการแก้ไขปัญหาเฉพาะหนา้ ได้ - เด็กวาดรปู จากการทำกจิ กรรมได้ 2.2 ด้านสงั คม - เด็กร้จู กั การปรบั ตัวในการเล่นและทำงานรว่ มกับผอู้ น่ื - เดก็ ร้จู ักการให้ การช่วยเหลอื และแบ่งปนั ผู้อ่ืน - เด็กรู้จกั การเปน็ ผูน้ ำและการเสนอความคิดเหน็ 2.3 ดา้ นอารมณ์-จิตใจ - เดก็ ไดท้ ำกิจกรรมอย่างมคี วามสุขสนุกสนานกบั การทดลอง
5 รายงานผลการจัดกิจกรรมการทดลองตามโครงการบา้ นนักวทิ ยาศาสตร์นอ้ ย ประเทศไทย กจิ กรรมที่ 2 น้ำ ทราย และ น้ำมนั จุดประสงค์ 1. เพอื่ ใหเ้ ดก็ เรยี นรูก้ ารจมและการลอย นำ้ หนกั น้อยกว่ามากกว่า หรอื เทา่ กบั 2. เพือ่ ใหเ้ ดก็ เรยี นทดลอง น้ำ ทราย และน้ำมนั 3. เพือ่ ใหเ้ ดก็ เกดิ ความสนกุ สนานในการทดลอง ข้ันตอนการจัดกจิ กรรม ขั้นที่ 1 ตัง้ คำถามเก่ยี วกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ เดก็ และครูสนทนา เรอื่ งน้ำ ทราย และน้ำมัน วา่ เดก็ เคยสงั เกตเห็นว่าในต้มจืดที่เด็กเคยทาน น้ำมนั และนำ้ เปน็ อยา่ งไรบา้ ง นอ้ งอาทิตย์ : นำ้ มันจะลอยอยู่บนต้มจดื ค่ะ น้องไอโฟน จึงถามต่อว่า : แลว้ ทำไมเวลาผมเอาท่ตี กั ทรายมาล้างไม่เห็นจะลอยเหมือน นำ้ มันครับ ขั้นที่ 2 รวบรวมความคดิ และข้อสันนิษฐาน เด็กและครสู นทนา และช่วยการคิดวา่ จะ นำ้ ทราย และน้ำมนั วา่ สิ่งไหนจะจมและสงิ่ ไหน จะลอย และเมอ่ื นำท้งั 3 อยา่ ง มาผสมกนั จะเปน็ อยา่ งไร นอ้ งพริ้ม : หนวู ่ามันจะผสมกันหมดแน่เลย นอ้ งโอม : หนูวา่ ทรายกบั น้ำจะผสมส่วนนำ้ มันจะลอย เหมือนตม้ จืดทเี่ ราทาน ครสู นทนาวธิ ีการสังเกตว่าเราจะมวี ิธีการสังเกตไดอ้ ย่างไรว่า นำ้ ทราย และนำ้ มนั จะผสมเขา้ กนั หรือไม่ ขั้นที่ 3 ทดสอบและปฏิบัตกิ ารสืบเสาะ ครูใช้คำถามกระตุ้นให้เด็ก ๆได้วางแผนการทดลอง และออกแบบบันทึกการทดลอง ครูถาม เด็ก ๆ จะมีวิธีสังเกตว่า น้ำ ทราย และน้ำมัน จะผสมเข้ากันได้อย่างไร จากนั้น ให้เด็ก ๆ ร่วมกัน กำหนดว่าจะสังเกต โดยการเด็กได้ตวงน้ำใส่ขวดแก้ว ประมาณ ¾ ขวดแก้ว ต่อจาก ให้เทส่วนผสมที ละอย่าง เริ่มด้วยการตักทรายลงไป 4 ช้อนชา แต่ก่อนที่จะตักทรายลงไปในขวดแก้ว ครูถามเด็กว่า ทำไมเราจึงต้องล้างทรายก่อนนำมาทดลอง โดยครูเปิดโอกาสให้นักเรียนยกมือพูดทีละกลุ่ม น้อง อาทิตย์ : บอกว่าทรายมันดำ น้องโอม : บอกว่าเดี๋ยวน้ำจะขุ่นครบั ครูจึงแนะนำว่า ทรายที่เรานำมา ทดลองควรมีการล้างก่อน เนื่องจากทรายมีส่วนผสมของดินอยู่ อาจจะทำให้น้ำขุ่น จะทำให้เด็ก มองเห็นไม่ชัดเจน เมื่อตักทรายใส่เรียบร้อยให้ ให้คนให้เข้ากัน จากนั้นให้เทน้ำมันพืชจากแก้วใบเล็ก ใส่ขวดแก้วแล้วปิดฝาขวดให้แน่น แล้วเข่าขวดหลาย ๆ ครั้ง แล้วนำไปวางบนโต๊ะ เพื่อสังเกตการ เปลย่ี นแปลง ขั้นท่ี 4 สังเกตและบรรยาย เด็กๆช่วยกันสังเกตและบรรยายสิ่งที่เห็นในขวดแก้ว เด็ก ๆ บอกว่า น้ำ ทราย และน้ำมัน ไม่ผสม เขา้ ดว้ ยกนั ข้นั ท่ี 5 บันทึกข้อมูล ก่อนการสรุปเด็กได้บันผลการทดลอง โดยเด็กวาดภาพขวดแก้วทีเ่ ด็กๆ เห็นลงไปในกระดาษ พร้อมกับระบายสีใหส้ วยงาม และนำเสนอผลงาน
6 ข้ันท่ี 6 สรปุ และอภปิ ราย เด็กและครูสนทนา ชว่ ยกันรวบรมผลการทดลองท่ีค้นพบวา่ วัตถุทลี่ อยนำ้ ได้จะต้องมีน้ำหนัก นอ้ ยกวา่ หรอื เท่ากับนำ้ และถา้ ขนาดของวตั ถุเทา่ กนั ทรายหนกั กวา่ น้ำจงึ จมลงในน้ำ น้ำมันจะเบากว่า น้ำจึงลอยอยู่บนน้ำ และแยกชั้นกันกับน้ำเสมอ โดยที่น้ำมันจะอยู่ด้านบนและน้ำอยู่ได้ด้านล่าง จากนนั้ ครูถามเด็ก ๆ วา่ มอี ะไรสงสยั เก่ยี วกับการทดลองอีกไหม เด็กบอกว่า ภาพการดำเนนิ กิจกรรม ภาพวัสดุ / อุปกรณ์ในการทดลอง ภาพกิจกรรมการทดลอง เด็กนำเสนอผลงาน
7 ผลงานท่ีสำเรจ็ ของเด็ก ผลท่เี กดิ กับเด็ก 1. ผลที่เกดิ ขนึ้ ตามวตั ถุประสงค์ 1.1. เด็กเรียนรู้การจมและการลอย โดยท่ีทรายจมลงไปในนำ้ และน้ำมนั จะลอยอยู่บนน้ำ น้ำหนักน้อยกว่าและมากกว่า จากการทดลองน้ำมันมีน้ำหนักที่น้อยกว่าน้ำและทรายเนื่องจากน้ำมัน ลอยอยบู่ นสดุ และทรายมีนำ้ หนักมากที่สดุ มากกวา่ นำ้ และนำ้ มันเน่อื งจากทรายจมอยขู่ ้างลา่ งสดุ 1.2. เดก็ เรียนทดลอง เรือ่ ง น้ำ ทราย และนำ้ มัน โดยผ่านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 1.3. เด็กเกิดความสนกุ สนานในการทดลอง เรือ่ งน้ำ ทราย และนำ้ มัน 2. พฒั นาการความสามารถพ้ืนฐาน และพัฒนาการของเด็กปฐมวัย 2.1. ด้านการเรยี นรู้ / ดา้ นภาษา / สตปิ ัญญา 2.1.1. ด้านการเรยี นรู้ - เดก็ ได้เรยี นรู้เร่ืองการจมการลอย - เดก็ ได้เรียนรู้เร่ือง นำ้ หนัก มากกว่า น้อยกวา่ - เด็กได้เรียนรู้ เร่ืองน้ำ ทราย และนำ้ มนั ผ่านประสาทสมั ผสั ท้งั 5 - เดก็ ได้เรียนรู้การเปรยี บเทยี บนำ้ หนกั 2.1.2. ดา้ นภาษา - เดก็ ได้เรียนรู้การสนทนารว่ มกบั ผู้อน่ื - เด็กไดเ้ รียนรู้การอธบิ ายสงิ่ ท่ีเห็น สง่ิ ท่ีทดลอง 2.1.3. สติปัญญา - เดก็ สามารถบอกลกั ษณะของ นำ้ ทราย และน้ำมนั - เดก็ สามารถบอกขนาดทรายได้ - เด็กสามารถสังเกตและอธิบายได้ - เด็กสามารถผงั แลว้ ปฏบิ ตั ิตามข้นั ตอนได้ 2.2. ดา้ นสังคม - เดก็ สามารถทำงานร่วมกับผู้อ่นื และการทำงานเปน็ กลุม่ ได้ - เด็กสามารถเปน็ ผ้นู ำผตู้ ามได้ - เดก็ ร้จู ักการรอคอย ตามลำดบั ก่อน – หลงั ได้
8 2.3 ดา้ นอารมณ์-จิตใจ - เดก็ มคี วามมุ่งมั่นที่รอคอยน้ำ ทราย และนำ้ มันแยกชน้ั - เด็กมคี วามสขุ กับการทดลอง - เดก็ มีความกลา้ แสดงออกในการนำเสนอสง่ิ ท่ีตนเองวาดภาพ 2.4 ดา้ นการเคลอื่ นไหว/ร่างกาย - เด็กได้ใชก้ ลา้ มเน้อื มดั เล็กในการล้างทราย และหยบิ ช้อนชา - เดก็ ได้ใชก้ ล้ามเน้ือมันเลก็ ในการวาดภาพและระบายสีภาพผลงาน
9 รายงานผลการจัดกิจกรรมการทดลองตามโครงการบา้ นนักวิทยาศาสตรน์ ้อย ประเทศไทย กิจกรรมท่ี 3 เร่อื ง ไหลแรงหรือไหลคอ่ ย จุดประสงค์ 1. เพอ่ื ให้เดก็ เรยี นรเู้ รื่องไหลแรงหรือไหลค่อย 2. เพ่ือให้เด็กมีทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์การทดลอง 3. เพื่อให้เด็กมีเจตคติที่ดีต่อการทดลองวิทยาศาสตร์ในการทดลองเรื่อง ไหลแรงหรือ ไหลค่อย ขน้ั ตอนการจัดกจิ กรรม ขั้นท่ี 1 ตงั้ คำถามเก่ยี วกับปรากฏการณท์ างธรรมชาติ ครูสนทนากับเด็กๆ โดยครูใช้คำถามกระตุ้นเด็กเพื่อส่งเสริมให้เด็กตั้งคำถามที่เด็กอยากรู้ เกยี่ วกับความดันนำ้ เช่นเมอื่ เปิดก๊อกใหน้ ้ำไหลออกจากถงั เก็บในทสี่ งู ๆน้ำจะค่อยๆไหลจากที่สงู ลงส่ทู ต่ี ่ำ ครู : เด็กๆเคยเปดิ ก๊อกนำ้ ใชท้ โ่ี รงเรียนและสังเกตว่าเปน็ อยา่ งไร เด็ก : น้ำจะไหลออกมาจากอ๊ ก เราจะทำใหน้ ำ้ ไหลออกมาเหมอื นมาจากกอ๊ กได้อย่างไร ขัน้ ที่ 2 รวบรวมความคดิ และขอ้ สนั นษิ ฐาน ครสู นทนากับเดก็ ๆ โดยครูสนทนากับเดก็ ในเรื่องทีเ่ ด็กสงสัยและอยากรู้เก่ยี วกับไหลแรงหรือ ไหลค่อย โดยให้เด็กรวบรวมความคดิ และคาดคะเนคำตอบวา่ น้ำจากก๊อกมาจากถังเก็บนำ้ ในโรงเรียน แล้วเราจะทำเลียนแบบถังเกบ็ ได้โดยให้นำ้ พงุ่ ออกมาเหมือนก๊อกน้ำ ขั้นท่ี 3 ทดสอบและปฏิบตั กิ ารสบื เสาะ เด็กๆและครูร่วมกันวางแผนกำหนดขั้นตอนการทดลอง ร่วมกันออกแบบบันทึกผลการ ทดลอง กำหนดวัสดุอุปกรณ์ที่จะใช้ และดำเนินการสำรวจตรวจสอบโดยใช้คำถามกระตุ้นให้เด็ก สำรวจตรวจสอบตามแผนท่วี างไว้และดำเนนิ การสำรวจตรวจสอบ และเดก็ สงั เกตผลการทดองโดยครู และเด็กเตรียมวัสดุอุปกรณ์ในการทดลองน้ำไหลออกจากรู้ด้านล่างแรงกว่ารูด้านบนเด็กใช้เข็มหมุด เจาะที่ขวดน้ำอย่างน้อยสองรูใช้เทปกาวปิดทับรูเติมน้ำลงไปแล้วเมื่อดึงเทปกาวออกจาก จะพุ่งจากรู ขา้ งลา่ งแรงกว่ารูด้านบน ขั้นที่ 4 การสงั เกตและบรรยาย เด็กๆสังเกตและช่วยกันบรรยายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นขณะที่ทำการทดลองโดยครูใช้คำถามกระตุ้น ให้เด็กสังเกตและเล่าถึงสิ่งที่เด็กๆสังเกตว่าน้ำพุ่งจากรูด้านล่างมากกว่าดา้ นบนเพราะมีแรงดนั อากาศ มากกวา่ ขัน้ ท่ี 5 บนั ทกึ ขอ้ มูล เด็กๆบันทึกผลการทดลองลงในแบบบันทึกที่ร่วมกันออกแบบไว้และนำเสนอผลการทดลอง โดยครสู นทนากับเด็กเก่ียวกับผลการทดลองและเด็กบันทึกผลตามแบบท่กี ำหนดไวโ้ ดยเดก็ วาดภาพ บันทึกผลการทดลองน้ำไหลจากรดู ้านล่างแรงกวา่ ดา้ นบนแลว้ นำเสนอหนา้ ชน้ั เรยี น
10 ขั้นที่ 6 สรปุ และอภิปราย เด็ก และครูช่วยกันสรุปผลการทดลองโดยครูสนทนากับเด็กเกี่ยวกับผลการทดลองเกิดข้ึน โดยครใู ชค้ ำถามกระตุ้นใหเ้ ด็กทบทวนจากการคาดคะเนของเดก็ และผลจากการทดลองว่ามผี ลตรงกับ การคาดคะเนคือสรุปว่าเมื่อทำการทดลองเราทำเหมือนถังเก็บน้ำได้โดยน้ำจะไหลออกจากรูด้านล่าง มากกว่าด้านบนเพราะมีแรงดนั อ ภาพการดำเนินกจิ กรรม ภาพวสั ด/ุ อปุ กรณ์ในการทดลอง ภาพกจิ กรรมการทดลอง
11 ภาพเดก็ บนั ทึกผลการทดลองและนำเสนอผลงาน ภาพผลงานทส่ี ำเร็จของเด็ก ผลทเี่ กิดกบั เด็ก 1. ผลทเ่ี กดิ ขึ้นตามจดุ ประสงค์ 1.1 เด็กเรยี นร้เู ร่อื งแรงดนั การทดลองไหลแรงหรือไหลค่อย 1.2 เดก็ มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 1.3 เดก็ มีเจตคติทด่ี ตี ่อการทดลองวิทยาศาสตรใ์ นการทดลองเร่ือง ไหลแรงหรอื ไหลคอ่ ย 2. พฒั นาการความสามารถพน้ื ฐาน 2.1 ด้านการเรยี นรู้/ดา้ นภาษา/สตปิ ญั ญา 2.1.1 ด้านการเรียนรู้ - เด็กไดเ้ รียนร้เู รอ่ื งแรงดนั น้ำ - เดก็ ได้เรียนร้กู ระบวนการทดลองทางวิทยาศาสตร์ 2.1.2 ด้านภาษา - เด็กบรรยายและสามารถอธบิ ายสงิ่ ที่เหน็ จากการทดลองได้ - เด็กสนทนาและแสดงความคดิ เหน็ จากการทดลอง 2.1.3 ด้านสติปญั ญา - เดก็ ได้เรยี นรูเ้ ร่อื ง ไหลแรงไหลค่อย - เด็กคิดล่วงหน้าโดยการคาดคะเนได้ - เดก็ ได้รู้จกั การแกไ้ ขปญั หาเฉพาะหนา้ - เดก็ รู้จักการสังเกตและเปรยี บเทยี บ
12 2.2 ด้านสังคม - เดก็ ได้รู้จกั การปรบั ตวั ในการทำงานกับผ้อู นื่ - เดก็ ได้รจู้ ักการให้ การชว่ ยเหลอื และการแบ่งปัน - เดก็ ร้จู กั การเป็นผนู้ ำ และการเสนอความคดิ เหน็ 2.3 ด้านอารมณ์-จติ ใจ - เด็กได้ทำงานอยา่ งมีความสขุ สนุกสนาน - เด็กมคี วามเชื่อมั่นในตนเองในการทำกจิ กรรม 2.4 ดา้ นการเคลอ่ื นไหวรา่ งกาย - เดก็ ไดใ้ ชก้ ล้ามเน้ือมดั เลก็ ในการจับอุปกรณก์ ารทดลองตา่ งๆ - เด็กใช้ประสาทสัมผัสในการทดลองกิจกรรม - เด็กวาดรปู ตามแบบไดโ้ ดยการวาดรูปแรงดันอากาศไหลแรงหรือไหล
13 รายงานผลการจดั กิจกรรมการทดลองตามโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย กิจกรรมท่ี 4 นำ้ ตาลละลายในนำ้ ไดม้ ากทีส่ ดุ กี่กอ้ น จดุ ประสงค์ 1. เพือ่ ใหเ้ ด็กเรียนรู้ เรอื่ ง นำ้ ตาลละลายในนำ้ ไดม้ ากท่สี ุดก่กี ้อน 2. เพือ่ ให้เดก็ ได้ทำการทดลองน้ำตาลละลายในนำ้ ได้มากที่สุดก่ีก้อน 3. เดก็ เพ่ือให้เด็กมเี จตคตทิ ด่ี ีต่อการทดลองวิทยาศาสตร์เรื่องนำ้ ตาลละลายในนำ้ ได้มากที่สุด กก่ี อ้ น ข้นั ตอนการจดั กิจกรรม ขนั้ ที่ 1 ตง้ั คำถามเก่ียวกบั ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ครสู นทนากบั เดก็ ๆ โดยครูใชค้ ำถามกระตนุ้ เด็กโดยใหเ้ ด็กตั้งคำถามทีเ่ ด็กอยากรเู้ กี่ยวกับการ ละลายของน้ำตาลว่าจะต้องใส่น้ำตาลมากเท่าใดน้ำตาลจึงไม่สามารถละลายต่อไปได้อีกครูใช้คำถาม เพ่ือกระตุ้นให้เด็กซักถามในสิ่งท่เี ดก็ สงสัย ครู : เด็กเคยทานนำ้ หวานใช่ไหมคะเดก็ ๆทราบไหมว่าทำไมน้ำถึงหวาน เด็ก : หวานเพราะนำ้ ตาล แลว้ เราจะใส่น้ำตาลลงไปในน้ำกีก่ ้อนนำ้ ตาลถึงจะไม่ละลายต่อ ขนั้ ท่ี 2 รวบรวมความคดิ และข้อสนั นษิ ฐาน ครสู นทนากับเด็กๆ โดยครใู หเ้ ด็กซักถามสิ่งทีเ่ ด็กสงสยั และอยากรู้เกี่ยวกับว่าเกิดอะไรข้ึนกับ น้ำตาลระหว่าง ที่กำลังละลายอยู่ โดยให้เด็กรวบรวมความคิดและคาดคะเนคำตอบว่าถ้าเราใส่ นำ้ ตาลลงไปในแก้วน้ำตาลก็จะละลายและถา้ ใส่น้ำตาลลงไปเรื่อยๆนำ้ ตาลกจ็ ะละลายช้าลง ขั้นที่ 3 ทดสอบและปฏบิ ตั ิการสบื เสาะ เด็กๆและครูร่วมกันวางแผนกำหนดขั้นตอนการทดลอง ร่วมกันออกแบบบันทึกผลการ ทดลองกำหนดวัสดุอุปกรณ์ที่จะใช้ และดำเนนิ การสำรวจตรวจสอบโดยใช้คำถามกระตนุ้ ใหเ้ ด็กสำรวจ ตรวจสอบตามแผนที่วางไว้และดำเนินการสำรวจตรวจสอบ และเด็กสังเกตผลการทดองโดยให้เด็กๆ เติมน้ำตาลในจำนวนที่ได้ประมาณเอาไว้ลงในแก้ว แต่ละแก้วต้องมีปริมาณน้ำเท่ากันสังเกตว่าเกิด อะไรขน้ึ ครูให้เดก็ ตดั สินใจเองว่าจะละลายน้ำตาลก้อนทีล่ ะก้อนหรอื ใสร่ วดเดยี วหมด แล้วค่อยทำให้ ละลาย เมือ่ นำ้ ตาลท่ีกะไว้ได้ละลายในแก้วหมดแลว้ ให้เดก็ ๆลองกะและทดสอบดูอีกคร้ังว่าน้ำตาลจะ ยังละลายในน้ำได้อีกเป็นจำนวนกี่ก้อน ให้เด็กทำกระบวนการนี้ซ้ำจนกว่านำ้ ตาลก้อนจะไม่ละลายใน นำ้ อกี ขนั้ ท่ี 4 การสังเกตและบรรยาย เด็กๆสังเกตและช่วยกันบรรยายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นขณะที่ทำการทดลองโดยครูใช้คำถามกระตุ้น ให้เด็กสังเกตและเล่าถึงสิ่งที่เด็กๆสังเกตว่า เด็กๆใส่น้ำตาลก้อนลงไปในแก้วน้ำที่ละก้อนแล้ว สังเกตเห็นน้ำตาลก้อนละลายในน้ำและเมื่อใส่ลงไปในจำนวน10ก้อนน้ำตาลก้อนละลายจมลงก้น ภาชนะและนำ้ เหนยี วข้น
14 ข้นั ท่ี 5 บันทึกข้อมลู เด็กๆบันทึกผลการทดลองลงในแบบบันทึกที่ร่วมกันออกแบบไว้โดยครูสนทนากับเด็ก เกี่ยวกับผลการทดลองและเด็กบันทกึ ผลตามแบบที่กำหนดไว้โดยเด็กๆบันทึกผลการทดลองวาดภาพ วิธกี ารดำเนินการทดลองน้ำตาลละลายในน้ำได้มากท่สี ุดกี่ก้อนและนำเสนอหน้าชนั้ เรยี น ข้นั ที่ 6 สรปุ และอภิปราย เด็ก ๆชว่ ยกันสรุปผลการทดลองโดยครูสนทนากับเด็กเก่ยี วกับผลการทดลองท่ีเกิดข้ึนโดยครู ใชค้ ำถามกระตุ้นให้เด็กทบทวนผลจากการทดลองเดก็ ๆช่วยกันสรุปวา่ เมื่อใส่นำ้ ตาลก้อนลงไปจำนวน 10 ก้อนและจำนวนน้ำตาลก้อนท่ีกะเอาไว้นำ้ ก้อนจะละลายในนำ้ และนำ้ จะมีลกั ษณะเหนยี วขน้ ภาพการดำเนนิ กิจกรรม ภาพวัสดุ / อปุ กรณใ์ นการทดลอง ภาพเด็กกำลงั ทำการทดลอง
15 บนั ทกึ ผลการทดลองและนำเสนอ ภาพผลงานทส่ี ำเร็จของเด็ก ผลท่เี กิดกับเด็ก 1. ผลทเ่ี กดิ ขน้ึ ตามจดุ ประสงค์ ๑.๑ เด็กเรยี นรู้ เร่ืองนำ้ ตาลละลายในน้ำได้มากที่สุดกกี่ ้อน ๑.๒ เด็กไดท้ ำการทดลองนำ้ ตาลละลายในน้ำไดม้ ากทส่ี ุดกก่ี ้อน ๑.๓ เดก็ ไดม้ ีความสขุ สนุกสนานกับการทดลอง 2. พฒั นาการความสามารถพ้ืนฐาน และพฒั นาการของเด็กปฐมวยั 2.1.ดา้ นการเรียนรู้/ด้านภาษา/สตปิ ญั ญา 2.1.1 ด้านการเรยี นรู้ - เด็กๆ ได้เรียนรู้ เมอื่ เตมิ น้ำตาลลงในแก้วเพ่ือเพิม่ รสหวานในแก้ว - เด็กได้เรียนรู้และสงั เกต เปรียบเทียบ ว่าใส่น้ำตาลเท่าไรจงึ จะถึงจุดอ่มิ ตวั ท่ีน้ำไม่สามารถละลายน้ำตาล ไดอ้ กี 2.1.2 ด้านภาษา - เด็กสามารถพดู อธิบายสงิ่ ท่เี ห็นและสังเกตได้ - เด็กสนทนาและแสดงความคิดเหน็ จากการทดลอง 2.1.3 ด้านสตปิ ัญญา - เด็กไดเรยี นรู้ จำนวน ขนาด รูปร่าง - เด็กคิดล่วงหนา้ โดยการคาดคะเนได้
16 - เดก็ รจู้ ักการแกไ้ ขปญั หาเฉพาะหน้าได้ - เดก็ วาดรปู จากการทำกิจกรรมได้ 2.2 ดา้ นสังคม - เด็กรจู้ กั การปรับตวั ในการเลน่ และทำงานรว่ มกับผอู้ ืน่ - เด็กรู้จักการให้ การชว่ ยเหลอื และแบ่งปนั ผ้อู ื่น - เดก็ รจู้ กั การเป็นผ้นู ำและการเสนอความคิดเหน็ 2.3 ด้านอารมณ์-จติ ใจ - เด็กไดท้ ำกจิ กรรมอย่างมีความสุขสนุกสนานกับการทดลอง - เดก็ มคี วามเชอื่ ม่นั ในตนเองจากการทำกจิ กรรม 2.4 ด้านการเคลือ่ นไหว/รา่ งกาย - เดก็ เคลื่อนไหวหยบิ จบั อปุ กรณใ์ นการทดลองทำกิจกรรม - เดก็ ได้ฝกึ การใชก้ ลา้ มเนือ้ มัดเล็กในการวาดรปู ทำกจิ กรรม
17 รายงานผลการจัดกจิ กรรมการทดลองตามโครงการบา้ นนักวทิ ยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย กิจกรรมท่ี 5 เนินน้ำ จุดประสงค์ 1. เพ่ือให้เดก็ เรียนรจู้ ักแรงตึงผวิ ของน้ำและการเกิดเนินนำ้ 2. เพื่อใหเ้ ด็กไดท้ ำการทดลองการเกดิ เนนิ ด้วยตนเอง 3. เดก็ มคี วามสุขสนกุ กบั การทดลอง ขัน้ ตอนการจัดกจิ กรรม ขนั้ ที่ 1 ตั้งคำถามเกย่ี วกบั ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ทบทวนความรู้เดิม ครั้งก่อนเด็กๆไปที่ไหนนะ? น้องแพรตอบว่า “ไปดูน้ำแม่กับทุ่งนาค่ะ” ถูกตอ้ งเกง่ มาก มีใครสงสัยส่งิ ใดอีกไหม น้องไอโฟนถามข้ึนมาว่า “คุณครทู ำไหมไม้ถึงลอยน้ำได้ไม่จม ครับ”ครตู อบ “เพราะน้ำแรงตงึ ผิวทำให้ไม้ไม่จมคะ” นอ้ งนีโน่ถามวา่ “แรงตึงผวิ มนั เปน็ ยังไงครบั ไร” ขนั้ ท่ี 2 รวบรวมความคดิ และข้อสันนิษฐาน เด็กและครูสนทนาร่วมกัน โดย ครูใช้คำถามกระตุ้น ถ้าเด็กเทน้ำลงในแก้วเต็มแก้วแล้วเติม น้ำลงไปอีกๆ เดก็ ๆคิดวา่ จะเกิดส่ิงใดขึน้ อาทิตย์: ผมคดิ ว่าน้ำก็จะล้นไหลออกแก้วครบั ทำวิธีใดถงึ จะรู้ วา่ น้ำจะล้นลงแก้ว นอ้ งพรมิ้ :ทดลองเป็นนกั วทิ ยาศาสตรค์ ่ะ ขัน้ ที่ 3 ทดสอบและปฏิบัตกิ ารสืบเสาะ เด็กๆและครูร่วมกันวางแผนกำหนดขั้นตอนการทดลองและวัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ทำการทดลอง เมื่อเด็กๆทำการทดลองสำเร็จแล้วจะบันทึกผลความรู้โดยวิธีใดดี โอม: ภาพถ่ายครับ อาทิตย์: วาด ภาพและนำเสนอผลงานค่ะ ตกลงตามที่โอมกับอาทิตย์ ( ครับ , คะ่ ) เดก็ และครูร่วมกันเสนอข้อปฏิบัติขณะทำ การทดลอง ดังนี้ สงั เกต ไมเ่ ลน่ กนั เมอื่ สงสยั ใหถ้ าม ข้นั ท่ี 4 การสังเกตและบรรยาย เด็กใชห้ ลอดหยดดูดน้ำจากแก้วหยดลงบนกระดาษรองสติ๊กเกอร์ใส และ หยดลงบนเหรียญที ละหยดช้าๆอย่างระมดั ระวัง (เด็กๆสังเกต บอก และบรรยายสิ่งทีเ่ กิดขึ้น) ครูเติมน้ำลงในแก้วให้เดก็ เกือบเต็มเหลือที่ว่างจากปากแก้วประมาณ 1 เซนติเมตร และเทน้ำใส่ถ้วยให้เด็กใช้หลอดหยดดูดน้ำ จากถ้วยแลว้ หยดทีละหยดลงในแก้ว ยิ่งระดับน้ำสงู มากข้ึนให้ระมัดระวังในการหยดน้ำมากขึ้น (เด็กๆ สังเกต บอก และบรรยายส่งิ ทีเ่ กิดข้นึ ) ข้นั ท่ี 5 บนั ทึกขอ้ มูล เด็ก ๆ บนั ทกึ ผลการทดลองตามท่ีเด็ก ๆ ตกลงไวใ้ นขน้ั ที่ 3 และนำเสนอผลงาน ข้ันที่ 6 สรุปและอภปิ ราย เด็กและครูร่วมกันสรุป เมื่อเด็กๆใช้หลอดหยดดูดน้ำจากแก้วบีบน้ำลงบนกระดาษรอง สติ๊กเกอร์ใส หยดลงบนเหรียญและลงบนน้ำในแก้วน้ำ มีลักษณะอย่างไร เด็กช่วยกันแสดงความ คิดเห็น “พริ้มก้อนกลมๆบนกระดาษ บนเงินเหรียญน้ำสูงขึ้นเป็นกลมๆ ที่แก้วน้ำสูงขึ้นเลยปากแก้ว น้ำไมไ่ หลลงแก้ว ครบั , ค่ะ” นิว : คณุ ครทู ำไมนำ้ มันสูงขึ้นแลว้ ไม่ไหลลงแกว้ ครบั (เก่งมากเป็นคำถาม ทดี่ )ี
18 ครู : ให้ความรู้เด็กดังนี้ “น้ำประกอบด้วยอนุภาคเล็ก ๆ ซึ่งมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เราเรียก อนภุ าค เล็กๆ นีว้ า่ โมเลกุล โมเลกุลของน้ำนั้นช้อนกันอยู่และจับตวั กันยึดเหน่ยี วกันอย่างแน่นหนา ที่ผิวน้ำทำให้เกิดแรงตึงผิวที่ผิวน้ำ ทำให้ผิวน้ำนูนขึ้น เรียกผิวน้ำที่นูนขึ้นว่า “ เนินน้ำ” ซึ่งเด็กๆ สังเกตเห็นเนินน้ำในการทดลองครั้งนี้ ดังนั้น น้ำที่นูนสูงขึ้นที่ปากแก้วน้ำ บนเหรียญและบนกระดาษ รองสต๊กิ เกอร์ใส เรียกว่าเนนิ น้ำ ใหเ้ ด็กๆยนื ล้อมวงแล้วจบั มือกนั ใหแ้ น่น โดยแต่ละคนแทนโมเลกลุ ของนำ้ พรอ้ มทัง้ อธิบายวา่ โมเลกุลของน้ำซึ่งอยู่บริเวณเนินน้ำนั้นยึดเหนี่ยวกันเช่นเดียวกับการจับมือ ดังนั้น ที่ไม้ลอยน้ำได้ เพราะว่าน้ำมีแรงยึดเหนี่ยวที่ผิวน้ำมากกว่าน้ำหนักของไม้ที่ลอยน้ำ ไม้จึงไม้จมน้ำไงคะ มีใครสงสัย อะไรอกี (ไมแ่ ล้วค่ะ, ครบั ) ภาพการดำเนินกจิ กรรม ภาพวสั ด/ุ อปุ กรณ์ในการทดลอง ภาพกิจกรรมการทดลอง
19 ภาพเด็กบันทกึ ผลการทดลองและนำเสนอผลงาน ภาพผลงานทส่ี ำเร็จของเด็ก ผลทเี่ กิดกบั เดก็ 1. ผลที่เกดิ ข้ึนตามจดุ ประสงค์ 1.1 เดก็ ไดเ้ รยี นรู้จกั แรงตงึ ผิวของนำ้ และการเกิดเนนิ นำ้ 1.2 เด็กไดท้ ำการทดลองการเกดิ เนนิ น้ำดว้ ยตนเอง 1.3 เด็กมีความสุขสนกุ กับการทดลอง 2. พฒั นาการความสามารถพ้ืนฐาน และพัฒนาการของเดก็ ปฐมวยั 2.1 ดา้ นการเรยี นรู้ /ด้านภาษา / สติปญั ญา 2.1.1 ดา้ นการเรียนรู้ - เด็กได้เรียนรู้ว่าแรงตึงผิวของน้ำ เกิดจากโมเลกุลเล็กๆของน้ำยึดเหนี่ยวกัน อย่างแน่นหนาที่ผวิ ของนำ้ ทำให้เกิดแรงตงึ ท่ีผิวน้ำ เรียกว่า แรงตึงผิว จึงทำ ใหว้ ัตถมุ นี ้ำหนักเบากวา่ แรงตึงผวิ ลอยน้ำได้ - เด็กได้เรียนรู้ว่าการเกิดเนินน้ำที่เกิดขึ้น บนกระดาษสติ๊กเกอร์ไส บนเงิน เหรียญ และ บนปากแก้วน้ำได้เพราะแรงตึงผิวของน้ำยึดเหนี่ยวกันอย่าง แนน่ หนาจึงทำให้น้ำนนู สงู ขึน้ เรยี กว่า เนินน้ำ - เดก็ ไดเ้ รียนรทู้ ักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
20 2.1.2 ดา้ นภาษา - เด็กมีพัฒนาการดา้ นภาษาจากการสนทนาโต้ตอบ การแสดงความคดิ เห็น - มที กั ษะด้านภาษาจากการพูด บรรยาย และสง่ิ ทสี่ งั เกตเหน็ จากการทดลอง 2.1.3 สตปิ ัญญา - เด็กรู้จกั ต้ังคำถามทต่ี นเองสงสยั - เดก็ สามารถอธิบายถึงสง่ิ ที่พวกเขาสังเกตเหน็ จากการทดลองได้ - เด็กสามารถสรปุ เล่า และนำเสนอผลงานของตนเองใหค้ นอนื่ ฟังๆ ได้ 2.2 ด้านสังคม - เดก็ สามารถทำงานร่วมกบั ผูอ้ ืน่ และปฏบิ ตั ติ ามกฎขอ้ ตกลงร่วมกันได้ - เด็กสามารถแสดงความคิดเห็นและรับฟงั ความคิดเห็นของผ้อู ่นื ได้ ๒.๓ ดา้ นอารมณ์- จติ ใจ - เดก็ สนใจ/ต้งั ใจทำกจิ กรรมทดลอง - เด็กมคี วามสุขและสนกุ กับการทำกจิ กรรมทดลอง ๒.๔ ดา้ นการเคล่อื นไหว/รา่ งกาย - เดก็ สามารถเคลื่อนไหว หยบิ จับ และใชอ้ ปุ กรณก์ ารทดลองไดค้ ลอ่ งแคล่ว - เด็กได้ใชก้ ลา้ มเนื้อมดั เลก็ ในการปฏบิ ัติกจิ กรรมได้มน่ั คงคลอ่ งแ
21 รายงานผลการจัดกจิ กรรมการทดลองตามโครงการบา้ นนักวิทยาศาสตร์นอ้ ย ประเทศไทย กิจกรรมท่ี 6 การเผาไหม้ จุดประสงค์ 1. เพอ่ื ให้เดก็ เรยี นรูก้ ระบวนการเผาไหม้ 2. เพ่อื ใหเ้ ด็กทำการทดลองการเผาไหมด้ ว้ ยตนเอง 3. เดก็ ความสขุ สนุกกบั การปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ขนั้ ตอนการจัดกจิ กรรม ขน้ั ท่ี 1 ตง้ั คำถามเก่ียวกับปรากฏการณท์ างธรรมชาติ เด็กและครสู นทนาด้วยกัน นอ้ งน้ำป่ัน: คณุ ครูเอาเทียน แก้ว ไฟแซก็ มาทำไมค่ะ เด็กๆคิดว่า ครูจะเอามาทำอะไรดคี ะ น้องพริ้ง: ไฟแซ็กจุดเทียนค่ะ แล้วแก้วหละ นิว: เอาครอบเทียนไม่ใหไ้ ฟดับ ครับ เป็นความคิดทด่ี ี เราลองทำดูนะ อาทติ ย์: คณุ ครูเอาแกว้ คอบแลว้ ทำไมไฟดับครบั ข้ันที่ 2 รวบรวมความคดิ และขอ้ สันนิษฐาน เด็กคิดว่าสิ่งใดทำให้ไฟดับค่ะ โอม ลมครับ ไอโฟน: แก้วมันเล็กทำให้ไฟดับครับ น้องนิว: ผม ว่าเป็นอากาศในแก้วดันไฟให้ดับครับ เป็นคำตอบที่ดีทุกคนเก่งมาก เด็กๆ เรามาทำการทดลองอีก คร้งั ดไี หมว่าอะไรทำใหไ้ ฟดบั ในแก้วได้ (ดคี รบั ,ค่ะ) ขน้ั ที่ 3 ทดสอบและปฏิบัตกิ ารสืบเสาะ เด็กๆและครูช่วยกันกำหนดวัสดุ/ อุปกรณ์ที่ใช้ในการทดลองและวางแผนขั้นตอนทำการ ทดลองเมื่อเด็กๆทำการทดลองสำเร็จแล้วจะบันทึกผลการทดลองโดยวิธีใด (วาดภาพ และนำเสนอ ผลงาน) เด็กและครูร่วมกันเสนอข้อปฏิบัติขณะทำการทดลอง ดังนี้ ไม่เล่นกัน ทำพร้อมกันทุกกลุ่ม สังเกตส่งิ ทีเ่ กดิ ข้นึ และข้อสงสัยขณะทำการทดลองจะชว่ ยกนั หาคำตอบตอนสรุปผลการทดลอง ขั้นท่ี 4 การสังเกตและบรรยาย เดก็ ๆปฏบิ ตั ิการทดลองตามแผนขั้นตอนทกี่ ำหนดไว้และครูคอยใช้คำถามกระตุ้นขณะทำการ ทดลอง ครั้งที่ 1 ใช้แก้วที่มีขนาดเท่ากันครอบเทียน“ไฟค่อยๆดับพร้อมกันเลยแล้วมีควันสีขาวด้วย ค่ะ, ครับคุณคร”ู ครัง้ ท่ี2 ใชแ้ ก้วอยา่ งไร “ใบเล็กกับใบใหญ่ คะ่ , ครบั “คณุ ครูไฟค่อยๆดับแก้วใบเล็ก ดับก่อนใบใหญ่มีควันสีขาวเหมือนกัน” ครั้งท่ี3 ทำอะไรต่อค่ะ “เมื่อไฟใกล้ดับแล้วยกแก้วขึ้นค่ะ, ครับ” “คุณครูไฟติดไม่ดับค่ะ, ครับ” ต่อไปทำอะไรต่อคะ น้องกันต์: คว่ำแก้วบนจานที่มีน้ำสีครับ “คุณครูตรงที่ปากแก้วคว่ำเห็นก้นจานค่ะ, ครับ” (เด็กเอาแก้วขึ้นเอาเทียนไปว่างแทนครูจะจุดเทียน ให้) นับ 1,2,3 เอาแก้วครอบเทียน เตรียมนับ “ คุณครูไฟค่อยๆดับน้ำเข้าไปในแก้วสูงขึ้นๆ ครับ, ค่ะ” เดก็ ๆ คอ่ ยๆยกแกว้ ขน้ึ แลว้ สังเกต น้องพี: คุณครูแก้วมันหนักนำ้ หล่นลงเสียงดังบกึ ครับ ข้ันที่ 5 บนั ทึกข้อมูล เดก็ ๆ บันทึกผลการทดลองตามทตี่ กลงไว้ข้างบนโดยการวาดภาพและนำเสนอผลงาน ขน้ั ท่ี 6 สรุปและอภิปราย เดก็ ๆ และครูร่วมกนั สรุป โดยครูใช้คำถามกระตนุ้ เดก็ ๆสงั เกตเห็นสิ่งใดบ้างจากการทดลอง ครั้งนี้ยกมือ น้ำปั่น: คุณครูเอาแก้วครอบเทียนทำไมไฟค่อยๆดับค่ะ อาเอ๊ก: ทำไมน้ำเข้าไปอยู่แก้วได้
22 ครับ ทอฝัน:ไฟจะดับยกแก้วขึ้นแล้วทำไมไฟไม่ดับคะ เป็นคำถามที่ดีทุกคนสังเกตเก่งมาก การที่ไฟ ค่อยดับเป็นเพราะว่า การเผาไหม้จะต้องมีสารตั้งต้นคือเทียนเปน็ เชื้อเพลิงที่ไฟติดได้และออกซิเจนที่ อยู่ในอากาศช่วยในการให้ตดิ ไฟ ออกซิเจนเป็นสิ่งสำคัญในการช่วยใหไ้ ฟติด ถ้าขาดออกซิเจนไฟก็ดับ ในแก้วเปล่าๆมีอะไรอยู่คะเด็กๆ “อากาศกับออกซิเจนค่ะ, ครับ” ออกชิเจนในแก้วก็ช่วยให้ไฟติดพอ ออกซิเจนมีน้อยลงไฟก็ค่อยๆหลี่ลงๆไฟก็ดับ น้ำในอากาศในแก้วได้รับความร้อนจากไฟก็กายเป็นไอ ติดในแกว้ อากาศเบาก็เหลือมีท่ีวา่ งในแกว้ อากาศภายนอกแก้วมีแรงดนั มากกว่าในแก้วก็ดันน้ำเข้าไป อยใู่ นแกว้ ได้ เม่ือเด็กๆเอาแกว้ ครอบเทียนไฟใกลจ้ ะดับยกแกว้ ข้นึ ไฟเป็นอยา่ งไรคะ่ “ไฟติด ไม่ดบั ค่ะ, ครับ”ไฟติดได้เพราะสิ่งใด “ออกซิเจนในอากาศช่วยใหไ้ ฟติดค่ะ, ครับ”เก่งมากตบมือให้ตนเองเรามา ช่วยกันสรุป กระบานการเผาไหม้ๆ มีสารตั้งตน้ คือเช้ือเพลิงและก๊าชออกซิเจนๆ มีความสำคัญในการ เผาไหม้ๆ ไม่สามารถเกิดขึ้นได้เองต้องมีสารกระตุ้นคือไฟ ในการทดลองครั้งนี้คือ ไฟจากไฟแช็ก หลังจากได้รับการกระตุ้นให้ไฟติดแล้ว กระบวนการเผาไหม้จะดำเนินต่อไปจนเชื้อเพลิงหมด ดังน้ัน กระบวนการเผาไหมจ้ ะเกดิ ขึน้ ได้ จะตอ้ งมี 1. เช้ือเพลิง 2. ไฟ 3. กา๊ ชออกซิเจนๆในอากาศ ภาพการดำเนนิ กิจกรรม ภาพวสั ดุ / อปุ กรณใ์ นการทดลอง ภาพกิจกรรมการทดลอง
23 ภาพเดก็ บนั ทึกผลการทดลองและนำเสนอผลงาน ภาพผลงานท่สี ำเรจ็ ของเด็ก ผลทเี่ กิดกับเดก็ 1. ผลทเี่ กดิ ขน้ึ ตามจดุ ประสงค์ 1.1 เดก็ ไดเ้ รยี นรู้ กระบวนการเผาไหม้ 1.2 เดก็ ไดท้ ำการทดลองการเผาไหมด้ ว้ ยตนเอง 1.3 มคี วามสขุ สนุกกบั การปฏิบตั กิ ิจกรรม 2. พฒั นาการความสามารถพ้นื ฐาน และพัฒนาการของเดก็ ปฐมวัย 2.1 ด้านการเรยี นรู้ /ด้านภาษา / สตปิ ัญญา 2.1.1 ดา้ นการเรยี นรู้ - เดก็ ได้เรยี นรวู้ ่ากระบานการเผาไหมจ้ ะเกิดข้นึ ได้ ตอ้ งมี 3 อย่างคอื สารตั้ง ต้นคือเชื้อเพลิง ไฟ และก๊าชออกซิเจนที่อยู่ในอากาศช่วยในการให้ติดไฟ กา๊ ชออกซิเจนเปน็ สงิ่ สำคญั ทสี่ ดุ ทีช่ ่วยใหไ้ ฟติด - เดก็ ไดเ้ รยี นรทู้ กั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 2.1.2 ดา้ นภาษา - เดก็ มพี ัฒนาการด้านภาษาจากการสนทนาโตต้ อบ การแสดงความคิดเหน็ - มที กั ษะดา้ นภาษาจากการพดู บรรยาย และส่ิงท่สี ังเกตเหน็ จากการทดลอง 2.1.3 สติปัญญา - เด็กรจู้ กั ตัง้ คำถามที่ตนเองสงสัย - เด็กสามารถอธิบายถงึ ส่งิ ทพี่ วกเขาสังเกตเห็นจากการทดลองได้
24 - เด็กสามารถสรปุ เล่า บรรยาย และนำเสนอผลงานของตนเองใหค้ นอ่ืนฟังๆ ได้ 2.2 ด้านสงั คม - เดก็ สามารถทำงานร่วมกับผอู้ น่ื ได้ - เดก็ ปฏบิ ัตติ ามกฎขอ้ ตกลงร่วมกนั ได้ - เด็กสามารถแสดงความคดิ เห็นและรับฟังความคดิ เหน็ ของผอู้ ืน่ ได้ 2.3 ดา้ นอารมณ์- จิตใจ - เดก็ สนใจ/ต้ังใจทำกิจกรรมทดลอง - เด็กมคี วามสุขและสนกุ กับการทำกจิ กรรมทดลอง 2.4 ดา้ นการเคลอ่ื นไหว/ร่างกาย - เดก็ สามารถเคล่อื นไหว หยบิ จบั และใช้อปุ กรณ์การทดลองได้คลอ่ งแคล่ว - เด็กสามารถใชก้ ล้ามเนือ้ มัดเล็กในการปฏิบัตกิ ิจกรรมได้มัน่ คงคล่องแคล่ว
25 รายงานผลการจัดกจิ กรรมการทดลองตามโครงการบ้านนักวทิ ยาศาสตร์นอ้ ย ประเทศไทย กิจกรรมท่ี 7 อากาศ ลกู โป่งพองโต จุดประสงค์ 1. เดก็ เรียนรู้เร่ืองลกู โป่งพองโต 2. เด็กมที ักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 3. เด็กมีเจตคตทิ ดี่ ีต่อการทดลองวทิ ยาศาสตรใ์ นการทดลองเร่ือง ลกู โป่งพองโต ขัน้ ตอนการจดั กจิ กรรม ขั้นท่ี 1 ตัง้ คำถามเกย่ี วกบั ปรากฏการณท์ างธรรมชาติ ครูสนทนากับเด็กๆ โดยครูใช้คำถามกระตุ้นเด็กเพื่อส่งเสริมให้เด็กตั้งคำถามที่เด็กอยากรู้ เกี่ยวกับเรื่องลูกโป่งพองโตเด็กและครูสนทนาร่วมกันเรื่องลูกโป่ง ว่าลูกโป่งสามารถพองขึ้นได้อย่างไรและมี วธิ กี ารอยา่ งไรท่ที ำใหล้ กู โป่งสามารถพอง ครู : เด็กเคยเลน่ ลูกโปง่ เด็กๆทำอย่างไรใหล้ กู โปง่ พองใหญ่ขึ้นบา้ ง เดก็ : เป่าทำใหล้ กู โป่งพองใหญข่ น้ึ ถา้ เราไม่เป่าลูกโป่งเราจะทำใหล้ ูกโปง่ พองข้ึนไดอ้ ย่างไร ขัน้ ท่ี 2 รวบรวมความคดิ และข้อสนั นิษฐาน ครูสนทนากับเด็กๆโดยครูสนทนากับเด็กในเรื่องที่เด็กสงสัยและอยากรู้เกี่ย วกับการทำให้ ลูกโป่งพองโตเด็กและครูสนทนาร่วมกันโดยให้เด็กคาดคะเนคำตอบว่าสามารถทำให้ลูกโป่งพองโตได้และเรา สามารถทำให้ลูกโปง่ พองโตโดยไมเ่ ปา่ ได้ ขัน้ ที่ 3 ทดสอบและปฏบิ ัติการสืบเสาะ เด็กๆและครูร่วมกันวางแผนกำหนดขั้นตอนการทดลอง ร่วมกันออกแบบบันทึกผลการ ทดลอง กำหนดวัสดุอุปกรณ์ที่จะใช้ และดำเนินการสำรวจตรวจสอบโดยใช้คำถามกระตุ้นให้เด็ก สำรวจตรวจสอบตามแผนที่วางไว้และดำเนินการสำรวจตรวจสอบ และเด็กสังเกตผลการทดองโดย เด็กทำการทดลองโดยการใช้น้ำร้อนเทลงในขวด และเทน้ำเย็นลงในขวดอีกใบหนึ่งแล้วนำลูกโป่งมา ปดิ ไว้บนปากขวดให้เด็กสงั เกตดวู ่าลกู โปง่ มลี กั ษณะเป็นอย่างไรน้ำในขวดทัง้ สองขวดมีอุณหภูมิเท่ากัน หรือไม่ลกู โปง่ จะพองขนิ้ หรือไมม่ ีอะไรเกดิ ขี้น ขั้นที่ 4 การสงั เกตและบรรยาย เด็กๆสังเกตและช่วยกันบรรยายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นขณะที่ทำการทดลองโดยครูใช้คำถามกระตุ้น ให้เด็กสังเกตและเล่าถงึ ส่ิงที่เด็กๆสังเกตว่าเด็กๆสังเกตและบอกสิ่งทีเ่ หน็ เมื่อเด็กๆทดลองโดยการนำ ลูกโป่งมาปิดไว้ที่ปากขวดที่เป็นเป็นน้ำร้อน ลูกโป่งที่อยู่บนขวดที่เป็นน้ำรอ้ นจะพองขึ้นแต่ลูกโป่งที่อยู่บนขวดที่ เป็นน้ำเยน็ ไม่มีการเปลยี่ นแปลง ข้ันที่ 5 บันทกึ ข้อมูล เด็กๆบันทึกผลการทดลองลงในแบบบันทึกที่ร่วมกันออกแบบไว้และนำเสนอผลการทดลอง โดยครูสนทนากับเด็กเกี่ยวกับผลการทดลองและเด็กบันทึกผลตามแบบที่กำหนดไว้โดยเด็กและครู สนทนาร่วมกันและบันทึกผลการทดลองโดยการวาดภาพระบายสีจากการทดลองเรื่องลูกโป่งพองโต
26 ว่าถ้านำลูกโป่งไปปิดไว้บนขวดที่เป็นน้ำร้อนลูกโป่งสามารถพองขึ้นเองได้โดยที่ไม่ต้องเป่าเด็กบันทึก ผลการทดลองแลว้ นำเสนอหนา้ ชนั้ เรยี น ขั้นที่ 6 สรปุ และอภิปราย เด็ก และครูช่วยกันสรุปผลการทดลองโดยครูสนทนากับเด็กเกี่ยวกับผลการทดลองเกิดข้ึน โดยครใู ชค้ ำถามกระตุ้นใหเ้ ด็กทบทวนจากการคาดคะเนของเด็กและผลจากการทดลองว่ามผี ลตรงกับ การคาดคะเนคือเด็กและครู ช่วยกันสรุปว่าเมื่อเรานำลูกโป่งมาปิดไว้ที่ปากขวดที่เป็นเป็นน้ำร้อน ลูกโปง่ ท่อี ยู่บนขวดที่เปน็ น้ำร้อนจะพองขนึ้ แต่ลกู โปง่ ท่อี ยู่บนขวดท่เี ป็นนำ้ เยน็ ไม่พองข้ึน ภาพการดำเนนิ กจิ กรรม ภาพวัสดุ / อุปกรณ์ในการทดลอง ภาพเดก็ กำลังทำการทดลอง
27 ภาพเดก็ บันทึกผลการทดลองและนำเสนอ ภาพผลงานที่สำเร็จของเดก็ ผลทเี่ กิดกับเดก็ 1. ผลท่ีเกิดขึ้นตามจุดประสงค์ 1.1 เดก็ เรียนรเู้ รอ่ื งลกู โป่งพองโตได้เพราะกา๊ ซคาร์บอนไดออกไซด์ 1.2 เด็กมที กั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 1.3 เด็กมีเจตคตทิ ี่ดตี ่อการทดลองวิทยาศาสตรใ์ นการทดลองเร่ือง ลูกโปง่ พองโต 2. พฒั นาการความสามารถพนื้ ฐาน 2.1 ด้านการเรยี นรู้/ดา้ นภาษา/สตปิ ญั ญา 2.1.1 ด้านการเรยี นรู้ - เด็กได้เรยี นรูอ้ ากาศร้อนขยายตวั และอากาศเย็นหดตัว - เด็กไดเ้ รียนรู้กระบวนการทดลองทางวิทยาศาสตร์ 2.1.2 ด้านภาษา - เด็กสามารถพดู อธบิ ายสง่ิ ท่ีเห็นและสังเกตได้ - เดก็ สนทนาและแสดงความคดิ เห็นจากการทดลอง 2.1.3 ด้านสตปิ ญั ญา - เด็กไดเ้ รยี นรู้การนับจำนวน สี ขนาด รูปทรง - เดก็ คดิ ลว่ งหนา้ โดยการคาดคะเนได้
28 - เด็กไดร้ จู้ ักการแกไ้ ขปญั หาเฉพาะหนา้ - เด็กวาดรปู จากการทำกจิ กรรม 2.2 ดา้ นสังคม - เด็กไดร้ ้จู กั การปรับตวั ในการเลน่ และการทำงานกับผอู้ ื่น - เด็กได้รจู้ ักการให้ การชว่ ยเหลือและการแบง่ ปนั - เด็กร้จู กั การเปน็ ผูน้ ำ และการเสนอความคดิ เหน็ 2.3 ด้านอารมณ์-จติ ใจ - เดก็ ไดท้ ำงานอย่างมีความสขุ สนกุ สนาน - เดก็ มีเช่อื ม่ันในตนเองในการทำกจิ กรรม 2.4 ด้านการเคลอื่ นไหวรา่ งกาย - เด็กไดฝ้ กึ การใชก้ ล้ามเนอื้ มดั เล็กในการวาดรูปการณ์ทำกิจกรรม - เดก็ ไดฝ้ ึกกระบวนการคิดในการตอบคำถาม
29 รายงานผลการจดั กิจกรรมการทดลองตามโครงการบา้ นนกั วิทยาศาสตร์นอ้ ย ประเทศไทย กจิ กรรมท่ี 8 ภูเขาไฟระเบิด จุดประสงค์ 1. เด็กเรยี นรเู้ ร่อื งภเู ขาไฟระเบดิ 2. เด็กมที ักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 3. เดก็ มเี จตคติทด่ี ตี ่อการทดลองวทิ ยาศาสตรใ์ นการทดลองเรื่อง ภูเขาไฟระเบิด ขัน้ ตอนการจัดกจิ กรรม ข้ันที่ 1 ตงั้ คำถามเกย่ี วกับปรากฏการณท์ างธรรมชาติ ครูสนทนากับเด็กๆ โดยครูใช้คำถามกระตุ้นเด็กเพื่อส่งเสริมให้เด็กตั้งคำถามที่เด็กอยากรู้ เก่ียวกบั ครแู ละเด็ก ๆ สนทนาร่วมกนั วา่ ครู เดก็ ๆเคยเหน็ ภูเขาไฟระเบิดไหมลักษณะของภูเขาไฟเป็น อยา่ งไร ครู : เด็กเคยเหน็ ภูเขาไฟไหม เด็ก : เคยเห็นในทีวี แลว้ เราจะทำภูเขาไฟระเบิดได้หรอื ไมแ่ ลว้ ทำอย่างไร ขนั้ ท่ี 2 รวบรวมความคดิ และขอ้ สันนิษฐาน ครูสนทนากับเด็กๆ โดยครูสนทนากับเด็กในเรื่องที่เด็กสงสัยและอยากรู้เกี่ยวกับภูเขาไฟ ระเบิดเด็กคาดคะเนคำตอบว่าเราสามารถทำภูเขาไฟระเบิดได้ ครูและเด็กสนทนาร่วมกันว่า เมื่อใส่ ส่วนผสมท่ีเตรียมไวล้ งในภูเขาไฟจำลองแล้วใส่นำ้ มะนาวลงไป ทำให้เกดิ ฟองฟูไ่ หลออกมาจากปลอ่ ง ขน้ั ท่ี 3 ทดสอบและปฏบิ ตั ิการสบื เสาะ เด็กๆและครูร่วมกันวางแผนกำหนดขั้นตอนการทดลอง ร่วมกันออกแบบบันทึกผลการ ทดลอง กำหนดวัสดุอุปกรณ์ที่จะใช้ และดำเนินการสำรวจตรวจสอบโดยใช้คำถามกระตุ้นให้เด็ก สำรวจตรวจสอบตามแผนที่วางไว้และดำเนินการสำรวจตรวจสอบ และเด็กสังเกตผลการทดองโดย เด็กปั้นดินน้ำมันเป็นรูปภูเขา เจาะรูตรงกลางวางบนจานก้นลึก จากนั้นเด็กๆได้ทำการทดลองโดยใช้ ชอ้ นชาตกั เบกกงิ โซดา 1 ชอ้ นชา ใสล่ งไปในปากปลอ่ งภเู ขาไฟแลว้ หยดน้ำยาล้างจานลงไป ตามด้วยสี ผสมอาหารและน้ำมะนาว ขั้นที่ 4 การสังเกตและบรรยาย เด็กๆสังเกตและช่วยกันบรรยายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นขณะที่ทำการทดลองโดยครูใช้คำถามกระตุ้น ให้เด็กสังเกตและเล่าถึงสิ่งที่เด็กๆสังเกตว่าเด็กๆสังเกตและบอกสิ่งที่เกิดขึ้นกับภูเขาไฟจำลองว่า มี ฟองฟู่ไหลออกมาจากปล่องภูเขาไฟจำลองเป็นสีแดงเพราะเราใส่สีผสมอาหารลงไปด้วย ข้ันที่ 5 บนั ทกึ ข้อมลู เด็กๆบันทึกผลการทดลองลงในแบบบันทึกที่ร่วมกันออกแบบไว้และนำเสนอผลการทดลอง โดยครูสนทนากับเด็กเกี่ยวกับผลการทดลองและเด็กบันทึกผลตามแบบที่กำหนดไว้โดยเด็กและ สนทนาร่วมกันเมื่อทำการทดลองเรื่องภูเขาไฟระเบิดแลว้ เด็กๆบันทึกผลการทดลองโดยการวาดภาพระบาย สกี ารทดลองภเู ขาไฟจำลองระเบดิ แล้วออกนำเสนอหนา้ ช้ัน
30 ขน้ั ท่ี 6 สรุปและอภิปราย เด็ก และครูช่วยกันสรุปผลการทดลองโดยครูสนทนากับเด็กเกี่ยวกับผลการทดลองเกิดข้ึน โดยครใู ช้คำถามกระตนุ้ ให้เด็กทบทวนจากการคาดคะเนของเดก็ และผลจากการทดลองวา่ มผี ลตรงกับ การคาดคะเนคือเด็กและครูช่วยกันสรปุ ว่าเม่ือเราเบกกงิ โซดาลงไปแล้วหากผสมกับน้ำมะนาวซึ่งมีฤทธ์ิ เป็นกรดก็จะเกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จึงทำให้ภูเขาไฟจำลองของเราระเบิดออกมาโดยมีฟองฟู่ ออกมาจากปลอ่ งภเู ขาไฟ ภาพการดำเนินกจิ กรรม ภาพวัสด/ุ อุปกรณ์ในการทดลอง ภาพกจิ กรรมการทดลอง
31 ภาพเด็กบนั ทกึ ผลการทดลอง และ นำเสนอผลงาน ภาพผลงานทส่ี ำเรจ็ ของเดก็ ผลทีเ่ กิดกบั เดก็ 1. ผลทีเ่ กิดข้ึนตามจุดประสงค์ 1.1 เด็กเรียนรูเ้ รอ่ื งการเกิดของก๊าซคารบ์ อนไดออกไซด์ 1.2 เดก็ มที กั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 1.3 เด็กมีเจตคติท่ดี ตี ่อการทดลองวิทยาศาสตรใ์ นการทดลองเร่ือง ภเู ขาไฟระเบดิ 2. พัฒนาการความสามารถพ้ืนฐาน 2.1 ด้านการเรยี นรู้/ดา้ นภาษา/สติปญั ญา 2.1.1 ด้านการเรียนรู้ - เดก็ ไดเ้ รยี นร้ลู ักษณะนามของสง่ิ ของ 2.1.2 ด้านภาษา - เดก็ ไดส้ ามารถพดู อธบิ ายส่ิงท่เี หน็ และสงั เกตได้ 2.1.3 ดา้ นสติปัญญา - เดก็ ได้เรียนร้กู ารนับจำนวน สี ขนาด รูปทรง ความจุ และปรมิ าณมาก น้อย - เด็กคดิ ลว่ งหนา้ โดยการคาดคะเนได้ - เด็กไดร้ ู้จักการแกไ้ ขปญั หาเฉพาะหนา้ - เดก็ วาดรูปจากการทำกิจกรรม 2.2 ด้านสังคม
32 - เด็กได้รจู้ กั การปรบั ตัวในการเล่นและการทำงานกบั ผู้อ่ืน - เดก็ ได้รูจ้ ักการให้ การช่วยเหลือและการแบ่งปัน - เด็กร้จู กั การเป็นผูน้ ำ และการเสนอความคดิ เห็น 2.3 ด้านอารมณ์-จติ ใจ - เดก็ ไดท้ ำงานอย่างมีความสขุ สนกุ สนาน - เดก็ มีเช่อื มั่นในตนเองในการทำกิจกรรม 2.4 ดา้ นการเคลื่อนไหวรา่ งกาย - เดก็ ได้ฝกึ กลา้ มเน้ือมดั เล็กในการจับอุปกรณก์ ารทดลองต่างๆ - เดก็ วาดรูปตามแบบไดโ้ ดยการวาด ภูเขาไฟที่มฟี องอากาศไหลออกมา
33 รายงานผลการจดั กิจกรรมการทดลองตามโครงการบ้านนักวทิ ยาศาสตรน์ อ้ ย ประเทศไทย กจิ กรรมท่ี 9 กักนำ้ ไว้ได้ จุดประสงค์ 1. เดก็ เรยี นร้เู รอื่ งกกั นำ้ ไวไ้ ด้ 2. เด็กมที กั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 3. เดก็ มเี จตคตทิ ดี่ ีตอ่ การทดลองวิทยาศาสตรใ์ นการทดลองเรื่อง กักนำ้ ไว้ได้ ขัน้ ตอนการจัดกจิ กรรม ข้ันที่ 1 ตัง้ คำถามเก่ียวกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ครูสนทนากับเด็กๆ โดยครูใช้คำถามกระตุ้นเด็กเพื่อส่งเสริมให้เด็กตั้งคำถามที่เด็กอยากรู้ เกยี่ วกบั เรื่องการเกบ็ น้ำไว้ในแกว้ โดยท่ีไม่ทำใหน้ ำ้ หกเดก็ แลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ วา่ ครู : เดก็ ๆเคยเหน็ การเลน่ กลของนกั มายากลในทวี วี า่ มกี ารเลน่ กลที่ทำใหน้ ้ำไม่หกได้ไหม เดก็ : เราจะมีวธิ กี ารทำให้นำ้ ไมห่ กไดอ้ ย่างไร ขั้นที่ 2 รวบรวมความคิดและขอ้ สนั นษิ ฐาน ครูสนทนากบั เด็กๆ โดยครสู นทนากบั เด็กในเร่ืองท่ีเด็กสงสัยและอยากรู้เกี่ยวกับการกักน้ำไว้ ไดโ้ ดยไม่ทำใหน้ ้ำหก เดก็ คาดคะเนคำตอบว่าเราสามารถทำให้นำ้ ไม่หกโดยการใช้มือปิดท่ีแก้วน้ำก็จะ ทำให้น้ำไม่หกได้ ขั้นท่ี 3 ทดสอบและปฏบิ ัติการสบื เสาะ เด็กๆและครูร่วมกันวางแผนกำหนดขั้นตอนการทดลอง ร่วมกันออกแบบบันทึกผลการ ทดลอง กำหนดวัสดุอุปกรณ์ที่จะใช้ และดำเนินการสำรวจตรวจสอบโดยใช้คำถามกระตุ้นให้เด็ก สำรวจตรวจสอบตามแผนที่วางไว้และดำเนินการสำรวจตรวจสอบ และเด็กสังเกตผลการทดองโดย เด็กทำการทดลองเทน้ำลงไปในแกว้ น้ำให้เต็มและใหเ้ ด็กๆนำกระดาษทตี่ ัดไว้ใหม้ ีขนาดใหญ่กว่าขนาด ของแก้วมาวางไว้บนปากแก้ว ให้สนิทแล้วใช้มือปิดทับบนกระดาษโดยใช้มือปิดให้แน่นแล้วให้ค่อยๆ คว่ำแก้วลงบนฝ่ามือ แล้วค่อยๆเอาฝ่ามือออก น้ำในแก้วไม่หกขณะที่เราคว่ำแก้วน้ำโดยยังมีกระดาษ ปิดที่ปากแก้วอยู่ ขน้ั ที่ 4 การสังเกตและบรรยาย เด็กๆสังเกตและช่วยกันบรรยายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นขณะที่ทำการทดลองโดยครูใช้คำถามกระตุ้น ใหเ้ ด็กสังเกตและเลา่ ถงึ สง่ิ ท่เี ดก็ ๆสงั เกตว่า เม่ือเด็กๆทดลองเร่อื งกกั นำ้ ไว้ไดเ้ ด็กๆสังเกตเห็นว่า เมอ่ื เรา นำเติมนำ้ ใหเ้ ตม็ แกว้ แลว้ นำกระดาษมาปดิ แลว้ ควำ่ แกว้ นำ้ ในแกว้ ไม่หกออกมา ข้นั ท่ี 5 บันทกึ ข้อมลู เด็กๆบันทึกผลการทดลองลงในแบบบันทึกที่ร่วมกันออกแบบไว้และนำเสนอผลการทดลอง โดยครูสนทนากับเด็กเกี่ยวกับผลการทดลองและเด็กบันทึกผลตามแบบที่กำหนดไว้โดยการวาดภาพ ระบายสีจากการทดลองเรื่องกักน้ำไว้ได้ว่าจากการทดลองน้ำไม่หกออกมาเมื่อเราเติมน้ำเต็มแก้วแล้วปิด ดว้ ยกระดาษให้สนิทเดก็ บันทึกผลแล้วนำเสนอหน้าชนั้ เรียน
34 ข้ันท่ี 6 สรปุ และอภิปราย เด็ก และครูช่วยกนั สรุปผลการทดลองโดยครูสนทนากับเดก็ เกีย่ วกับผลการทดลองเกิดผลโดยครูใช้ คำถามกระตุ้นให้เด็กทบทวนจากการคาดคะเนของเด็กและผลจากการทดลองว่ามีผลตรงกับการคาดคะเนคอื เดก็ และครู ชว่ ยกันสรปุ วา่ เม่ือเราเติมนำ้ เตม็ แก้วแลว้ ปิดกระดาษลงบนปากแกว้ ใหส้ นิทแลว้ คว่ำแก้วลงทำให้ น้ำไมห่ กเพราะน้ำมีแรงดนั ทำใหน้ ้ำไมห่ ก ภาพการดำเนนิ กิจกรรม ภาพวัสดุ / อุปกรณ์ในการทดลอง ภาพเด็กกำลงั ทำการทดลอง
35 ภาพเด็กบนั ทกึ ผลการทดลองและนำเสนอ ภาพผลงานท่สี ำเรจ็ ของเด็ก ผลทเี่ กิดกับเด็ก 1. ผลท่ีเกดิ ข้ึนตามจดุ ประสงค์ 1.1 เดก็ เรียนรู้วิธกี ารกักเก็บน้ำไว้ไดโ้ ดยไม่ทำให้น้ำหก 1.2 เดก็ มีทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 1.3 เด็กมเี จตคตทิ ่ีดีตอ่ การทดลองวทิ ยาศาสตรใ์ นการทดลองเร่ือง กกั น้ำไวไ้ ด้ 2. พฒั นาการความสามารถพนื้ ฐาน 2.1 ดา้ นการเรียนรู้/ดา้ นภาษา/สติปัญญา 2.1.1 ด้านการเรยี นรู้ - เด็กไดเ้ รียนรู้ลกั ษณะนามของสิ่งของ - เด็กไดเ้ รยี นรู้กระบวนการทดลองทางวิทยาศาสตร์ 2.1.2 ดา้ นภาษา - เดก็ สามารถพูดอธิบายสิ่งทเ่ี ห็นและสงั เกตได้ - เด็กสนทนาและแสดงความคดิ เหน็ จากการทดลอง 2.1.3 ดา้ นสตปิ ญั ญา - เด็กไดเ้ รยี นรกู้ าร รูปทรง ความจุ และปรมิ าณมาก นอ้ ย - เด็กคดิ ล่วงหนา้ โดยการคาดคะเนได้
36 - เดก็ ได้ร้จู ักการแก้ไขปญั หาเฉพาะหน้า - เดก็ วาดรูปจากการทำกจิ กรรม 2.2 ด้านสังคม - เดก็ ไดร้ ้จู ักการปรบั ตัวในการเลน่ และการทำงานกบั ผูอ้ นื่ - เดก็ ไดร้ ้จู กั การให้ การชว่ ยเหลือและการแบง่ ปัน - เด็กรู้จกั การเปน็ ผูน้ ำ และการเสนอความคดิ เหน็ 2.3 ดา้ นอารมณ์-จติ ใจ - เด็กไดท้ ำงานอย่างมีความสุขสนุกสนาน - เด็กมเี ช่อื มนั่ ในตนเองในการทำกิจกรรม 2.4 ดา้ นการเคล่ือนไหวร่างกาย - เดก็ ฝึกใชก้ ลา้ มเน้ือมัดเล็กในการจบั อปุ กรณ์การทดลองตา่ งๆ - เด็กไดแ้ สดงความคดิ เห็นขณะทำกจิ กรรม - ได้ฝึกการใชภ้ าษาในการสอื่ สาร
37 รายงานผลการจัดกิจกรรมการทดลองตามโครงการบ้านนักวิทยาศาสตรน์ ้อย ประเทศไทย กจิ กรรมท่ี 10 มีอากาศอยูใ่ นฟองสบู่เทา่ ใด จุดประสงค์ 1. เพ่ือใหเ้ ด็กเรยี นรู้ เรื่อง มีอากาศอยใู่ นฟองสบูเ่ ท่าใด 2. เพือ่ ใหเ้ ดก็ ไดท้ ำการทดลองมอี ากาศอยูใ่ นฟองสบู่เท่าใด 3. เพื่อให้เด็กมีเจตคติที่ดีต่อการทดลองวิทยาศาสตร์ในการทดลองเรื่องมีอากาศอยู่ในฟอง สบู่เทา่ ใด ขั้นตอนการจัดกจิ กรรม ข้ันที่ 1 ต้ังคำถามเกยี่ วกบั ปรากฏการณท์ างธรรมชาติ ครูสนทนากับเด็กๆ โดยครูใช้คำถามกระตุ้นเด็กเพื่อส่งเสริมให้เด็กตั้งคำถามที่เด็กอยากรู้ เก่ียวกับอากาศอยใู่ นฟองสบูเ่ ท่าใดและครูแลกเปลี่ยนความคดิ เหน็ กับเด็กๆ เรอ่ื งมอี ากาศในฟองสบู่ ครู : การกกั เก็บอากาศมีหลายวิธี เช่น ในลูกโปง่ ถุงพลาสตกิ ตุ๊กตายาง รวมทัง้ ฟองสบู่ เด็ก : เรากักเก็บอากาศไว้ในฟองสบู่ได้อย่างไรคะและเราจะใส่อากาศในฟองสบู่อย่างไรและจะใส่อากาศปริมาณ มากในฟองสบู่อย่างไร ขัน้ ที่ 2 รวบรวมความคิดและข้อสันนษิ ฐาน ครูสนทนากับเด็กๆ โดยครูสนทนากับเด็กในเรื่องที่เด็กสงสัยและอยากรู้เกี่ยวกับในการสร้างฟองสบู่โดยให้ เด็กรวบรวมความคิดและคาดคะเนว่าเป่าอากาศลงไปในน้ำฟองสบู่ก็จะทำใหเ้ กดิ ฟองสบู่ถ้าใช้หลอดใหญ่เป่าฟองสบู่ก็ จะใหญ่ถ้าใช้หลอดเล็กฟองสบูก่ ็จะเล็ก ขั้นท่ี 3 ทดสอบและปฏบิ ัตกิ ารสืบเสาะ เดก็ ๆและครรู ่วมกันวางแผนกำหนดขั้นตอนการทดลองร่วมกนั ออกแบบบันทึกผลการทดลอง กำหนดวัสดุอุปกรณ์ที่จะใช้และดำเนินการสำรวจตรวจสอบโดยใช้คำถามกระตุ้นให้เด็กสำรวจ ตรวจสอบตามแผนที่วางไว้และดำเนินการสำรวจตรวจสอบ และเด็กสังเกตผลการทดองโดยเทน้ำสบู่ เล็กน้อยลงในจานแล้วใช้หลอดดูดเป่าลงไปให้เกิดฟอง จากนั้นจุ่มหลอดลงในน้ำสบู่แล้วยกขึ้นมาเปา่ ใช้หลอดดดู ทมี่ ขี นาดตา่ งกันเปา่ ฟองสบู่ เทคนคิ การเป่าท่หี ลากหลาย เช่น เปา่ ส้นั และแรง จากนั้นเป่า ยาวและเบา ข้นั ที่ 4 การสงั เกตและบรรยาย เด็กๆสังเกตและช่วยกันบรรยายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นขณะที่ทำการทดลองโดยครูใช้คำถามกระตุ้น ให้เดก็ สงั เกตและเล่าถงึ สิง่ ท่เี ด็กๆสังเกตวา่ เด็กๆมองเห็นวา่ ฟองสบู่ในจานมีรปู ร่างลกั ษณะคล้ายผลไม้ ที่เป็นพวง เมื่อจุ่มหลอดดูดแล้วยกขึ้นเป่าฟองสบู่จะลอยในอากาศ เป่าสั้นลูกโป่งขนาดเล็ก เป่ายาว ลูกโป่งขนาดใหญ่ ขนั้ ท่ี 5 บันทึกขอ้ มูล เด็กๆบันทึกผลการทดลองลงในแบบบันทึกที่ร่วมกันออกแบบไว้และนำเสนอผลการทดลอง โดยครูสนทนากับเด็กเกี่ยวกับผลการทดลองและเด็กบันทึกผลตามแบบที่กำหนดไว้โดยการวาดภาพ วิธีการดำเนินการทดลองของตนและผลจากการทดลองขนาดของฟองสบู่ลงไป เด็กบันทึกระหว่าง
38 หลอดทีม่ ขี นาดใหญก่ ับเล็ก หลอดชนิดไหนสร้างฟองได้ใหญ่กว่ากันและระหว่างการเป่าแรงๆและการ เป่าเบาๆแบบใดทำให้ฟองใหญ่กว่ากันเด็กวาดภาพบันทึกผลการทดลองและนำเสนอหน้าช้นั เรียน ข้ันที่ 6 สรุปและอภิปราย เด็ก และครูช่วยกันสรุปผลการทดลองโดยครูสนทนากับเด็กเกี่ยวกับผลการทดลองเกิดขึ้น โดยครูใชค้ ำถามกระตุ้นใหเ้ ด็กทบทวนจากการคาดคะเนของเด็กและผลจากการทดลองว่ามผี ลตรงกับ การคาดคะเนคือวธิ ีการเป่าฟองสบู่แบบหลอดขนาดใหญ่กับเล็ก หลอดดูดใหญฟ่ องสบู่จะใหญ่ หลอดดูด เล็กฟองสบู่จะเล็ก เมื่อเป่าแรงๆก็จะเกิดฟองสบู่ที่มาก ถ้าเป่าเบาๆก็จะเกิดฟองสบู่น้อย เมื่อเป่าฟอง สบ่ไู ปในอากาศ ถา้ เป่าส้นั กจ็ ะเปน็ ฟองสบ่เู ล็ก ถ้าเป่ายาวก็จะเป็นฟองขนาดใหญ่ ภาพการดำเนินกิจกรรม ภาพวสั ดุ / อุปกรณใ์ นการทดลอง ภาพเดก็ ทำการทดลอง
39 ภาพเด็กบนั ทึกผลการทดลองและนำเสนอ ภาพผลงานที่ สำเร็จของเดก็ ผลทเ่ี กดิ กับเด็ก 1. ผลท่ีเกิดขน้ึ ตามจดุ ประสงค์ 1.1.เดก็ เรียนรู้ เร่อื งมีอากาศอยู่ในฟองสบู่ 1.2.เด็กไดท้ ำการทดลองการมีอากาศอยู่ในฟองสบ่เู ท่าใด 1.3.เด็กได้มีความสขุ สนกุ สนานกบั การทดลอง 2. พฒั นาการความสามารถพ้ืนฐาน และพฒั นาการของเด็กปฐมวยั 2.1.ด้านการเรยี นรู้/ด้านภาษา/สติปญั ญา 2.1.1 ดา้ นการเรยี นรู้ - เดก็ ๆ ไดเ้ รยี นรู้ ว่าการเป่าฟองสบู่แบบวิธีตา่ งๆ - เดก็ ได้เรียนรู้และสงั เกต เปรียบเทยี บ การเป่าฟองสบู่ 2.1.2 ด้านภาษา - เดก็ สามารถพูดอธบิ ายสง่ิ ที่เหน็ และสังเกตได้ - เดก็ สนทนาและแสดงความคิดเหน็ จากการทดลอง 2.1.3 ดา้ นสติปัญญา - เด็กไดเ้ รียนรู้ จำนวน ขนาด รปู ทรง - เด็กคดิ ลว่ งหน้าโดยการคาดคะเนได้
40 - เด็กรจู้ กั การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ - เด็กวาดรูปจากการทำกจิ กรรมได้ 2.2. ด้านสังคม: - เดก็ รจู้ กั การปรบั ตวั ในการเล่นและทำงานร่วมกับผู้อ่นื - เด็กรู้จักการให้ การชว่ ยเหลอื และแบง่ ปนั ผอู้ น่ื - เดก็ รู้จกั การเป็นผนู้ ำและการเสนอความคดิ เหน็ 2.3.ด้านอารมณ์-จติ ใจ - เดก็ ไดท้ ำกจิ กรรมอยา่ งมีความสขุ สนุกสนานกับการทดลอง - เด็กมีความเชือ่ มน่ั ในตนเองจากการทำกิจกรรม 2.4.ดา้ นการเคลื่อนไหว/ร่างกาย - เดก็ ๆเคลื่อนไหวหยิบจบั อุปกรณ์ในการทดลอง - เด็กสามารถใชป้ ระสาทสมั ผัสในการสังเกตดว้ ยตวั เองจนไดข้ อ้ มลู ท่ีชดั เจน
41 รายงานผลการจดั กจิ กรรมการทดลองตามโครงการบ้านนักวิทยาศาสตรน์ อ้ ย ประเทศไทย กิจกรรมที่ 11 ทอรน์ าโดในขวด จุดประสงค์ 1. เพื่อใหเ้ ดก็ เรยี นรวู้ ่าอากาศมีตัวตนและต้องการท่ีอยู่ 2. เพือ่ ให้เด็กทำการทดลองทอรน์ าโดในขวดด้วยตนเอง 3. เพอื่ ให้เด็กมคี วามสขุ สนกุ กบั การปฏบิ ัตกิ จิ กรรมทดลอง ขัน้ ตอนการจดั กิจกรรม ข้ันท่ี 1 ตง้ั คำถามเก่ียวกบั ปรากฏการณท์ างธรรมชาติ ครูนำสนทนาทบทวนความรู้เดิมกับเด็กๆ อากาศที่อยู่รอบๆตัวเรามีลักษณะอย่างไรบ้างนะ เด็กๆช่วยกันตอบ “มีแรง มีแรงดันกระดาษติดกับแก้ว มีตัวตนแต่มองไม่เห็นครับ, ค่ะ” เด็กๆ อากาศตอ้ งการที่อยู่อย่างเราไหม นอ้ งพี : มันไม่ต้องการท่ีอยู่ ครบั นอ้ งเต้: ผมคดิ ว่ามันต้องการท่ีอยู่ น้องเรมี่ : คุณครูจะรู้ได้อย่างไรว่าอากาศต้องการที่อยู่ เรามองไม่เห็นตัวมันนะ เรามาเป็น นกั วิทยาศาสตร์น้อยกันดีไหม(ครับ, คะ่ ) ขั้นท่ี 2 รวบรวมความคิดและขอ้ สนั นษิ ฐาน ครูใช้คำถามกระตุ้น เด็กๆ คิดว่าอากาศมีอยู่ที่ใดบ้าง “รอบตัวเรา ในห้องน้ำ ในห้องเรียน ในสนาม” แล้วน้ำหละอยู่ที่ไหนบ้าง “ในขวด ในแม่น้ำ ในห้องน้ำ ในก๊อกน้ำ” เด็กๆน้ำกับอากาศ อยู่ด้วยกันได้ไหม น้องแพร : คุณครูหนูว่าน้ำกับอากาศอยู่ด้วยกันได้ คนอื่นหละมีความเห็นอย่างไร (เหมอื นนอ้ งแพร คะ, ครับ) ข้นั ที่ 3 ทดสอบและปฏบิ ตั กิ ารสบื เสาะ เด็กๆและครูร่วมกันวางแผนกำหนดขั้นตอนการทดลองและวัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ในการทดลอง เมื่อเด็กๆทำการทดลองสำเร็จเสร็จแล้วจะบันทึกผลการทดลองโดยวิธีใด (วาดภาพ และนำเสนอ ผลงาน) เด็กและครูร่วมกันเสนอข้อปฏิบัติขณะทำการทดลอง ดังนี้ ไม่เล่นกัน ทำพร้อมกันทุกกลุ่ม สังเกตสงิ่ ทีเ่ กิดขนึ้ ขน้ั ท่ี 4 การสงั เกตและบรรยาย เด็กๆปฏิบัติการทดลองตามแผนข้ันตอนที่กำหนดไว้ครูใช้คำถามกระตุ้น เมื่อเด็กๆ พลิกขวด ที่มีน้ำให้อยู่ด้านบนมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง(มีฟองอากาศขึ้นที่น้ำๆไหลลงขวดล่างเล็กน้อย ครับ:ค่ะ)เด็กๆ บีบขวดล่างแรงๆแล้วปล่อยมือมีอะไรเกิดข้ึนบ้าง (น้ำไหลลงขวดล่างมีฟองอากาศขึ้นที่ขวดน้ำข้างบน เสียงดังปุดๆเด๋ียวเดียวก็หยุด น้ำก็หยุดไหล ค่ะ:ครับ) เด็กๆช่วยกันกำที่ข้อต่อแน่นๆแล้วเขย่าขวดบน แรงๆแล้วหยุดสังเกตว่ามีอะไรเกิดขึ้น(น้ำเป็นพายุหมุนน้ำไหลลงขวดล่างจนหมดสนุกจังหนูขอทำอีก นะคะ) ค่ะ (เดก็ ๆสนุกสนานกับกิจกรรม) ขน้ั ท่ี 5 บนั ทึกข้อมลู เด็ก ๆ บนั ทึกผลการทดลองตามท่ตี กลงไว้ขา้ งบนโดยการวาดภาพและนำเสนอผลงาน
42 ขั้นท่ี 6 สรุปและอภิปราย เด็ก ๆ และครูร่วมกันสรุป โดยครูใช้คำถามกระตุ้น เด็กๆมีความสงสัยสิ่งใดบ้างจากการทำ การทดลองครั้งนี้ เด็กๆถามพร้อมกันว่า “ ทำไมน้ำเป็นพายุหมุนในขวดได้ครับ: ค่ะ) น้ำหมุนเป็น เกลียวในขวดเหมือพายุทอร์นาโด เรียกว่า ทอร์นาโดในขวด สาเหตุการเกิดพายุหมุนหรือทอร์นาโด ในขวดได้ เนื่องจากอากาศในขวดล่างเคลื่อนตวั ผ่าน “ตา”ของน้ำวนท่ีอยู่ตรงรูข้อต่อขึ้นสู่ด้านบนด้วย ความเร็ว น้ำที่อยู่ขวดบนหมุนไหลผ่านผิวด้านในของขวดไปด้านล่าง การหนุ่มนี้จะเกิดขึ้นจนกระท้ัง ขวดบนว่างเปล่าจึงหยุดหมุน น้ำลงไปอยู่ในที่ของใครคะ(ของอากาศในขวดล่างค่ะ:ครับ) แล้วอากาศ หละไปอยู่ที่ไหน (ไปอยู่ขวดบนของน้ำ ค่ะ:ครับ) ถูกต้องเก่งมากน้ำและอากาศอยู่ด้วยกันได้ไหมใน เวลาเดียว(ไม่ได้ครับ:คะ่ ) เก่งมาก ครูให้ความรู้เพิ่มเตมิ น้ำมีตัวตน อากาศก็ตัวตนใช้ไหมคะอากาศก็ ต้องการที่อยู่ ดังนั้นของสองสิ่งคอื น้ำกับอากาศ ไม่สามารถอยู่ในที่เดียวกัน ณ เวลาเดียวกันได้ ดังนัน้ จึงเกิดพายุทอร์นาโดในขวด เรามาช่วยกันสรุปผลการทดลอง อากาศมีตัวตนและต้องการที่อยู่ มีใคร สงสัยอะไรอกี ไหมคะ (ไมม่ คี ่ะ, ครับ) ภาพการดำเนนิ กิจกรรม ภาพวสั ดุ / อุปกรณใ์ นการทดลอง ภาพกิจกรรมการทดลอง
43 ภาพเดก็ บนั ทึกผลการทดลองและนำเสนอ ภาพผลงานทสี่ ำเร็จของเดก็ ผลที่เกิดกบั เด็ก 1. ผลทเ่ี กิดขน้ึ ตามจดุ ประสงค์ 1.1 เด็กไดเ้ รียนรวู้ ่า อากาศมีตัวตนและตอ้ งการท่ีอยู่ 1.2 เด็กไดท้ ำการทดลองทอร์นาโดในขวดด้วยตนเอง 1.3 เด็กมคี วามสุขสนุกกบั การปฏบิ ัติกจิ กรรม 2. พัฒนาการความสามารถพื้นฐาน และพฒั นาการของเดก็ ปฐมวัย 2.1 ดา้ นการเรียนรู้ /ดา้ นภาษา / สติปญั ญา 2.1.1 ดา้ นการเรียนรู้ - เดก็ ไดเ้ รยี นรูว้ ่า อากาศมีตัวตนและต้องการที่อยจู่ ากการทดลองทอร์นาโด - เด็กไดเ้ รยี นรู้วา่ นำ้ และอากาศไมส่ ามารถอย่ทู เี่ ดยี่ วกันในเวลาเดย่ี วกันได้จาก การทดลอง - เดก็ ได้เรยี นรทู้ กั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 2.1.2 ด้านภาษา
44 - เดก็ มีพฒั นาการดา้ นภาษาจากการสนทนาโตต้ อบ การแสดงความคดิ เห็น - มที ักษะด้านภาษาจากการพูด บรรยาย และสงิ่ ท่สี ังเกตเหน็ จากการทดลอง 2.1.๓ สติปญั ญา - เดก็ รจู้ ักตงั้ คำถามทต่ี นเองสงสยั - เด็กสามารถอธบิ ายถงึ ส่ิงท่ีพวกเขาสังเกตเหน็ จากการทดลองได้ - เดก็ สามารถสรุป เลา่ บรรยาย และนำเสนอผลงานของตนเองให้คนอืน่ ฟังๆ ได้ 2.2 ดา้ นสังคม - เด็กสามารถทำงานรว่ มกับผอู้ ่ืนได้ - เด็กปฏิบตั ติ ามกฎข้อตกลงร่วมกนั ได้ - เดก็ สามารถแสดงความคิดเห็นและรับฟงั ความคิดเหน็ ของผู้อืน่ ได้ 2.3 ด้านอารมณ์- จิตใจ - เด็กสนใจ/ตัง้ ใจทำกจิ กรรมทดลอง - เด็กมีความสขุ และสนุกกับการทำกจิ กรรมทดลอง 2.4 ดา้ นการเคลอื่ นไหว/รา่ งกาย - เด็กสามารถเคล่ือนไหว หยบิ จับ และใช้อุปกรณก์ ารทดลองได้คลอ่ งแคลว่ - เด็กสามารถใชก้ ลา้ มเนอื้ มัดเล็กในการปฏิบตั ิกจิ กรรมได้มั่นคงคล่องแคล่ว
45 รายงานผลการจดั กิจกรรมการทดลองตามโครงการบ้านนกั วทิ ยาศาสตร์นอ้ ย ประเทศไทย กิจกรรมที่ 12 แมเ่ หลก็ สามารถดดู ส่งิ ของไดแ้ ม้มีวสั ดอุ ่นื มาขวางกัน้ จุดประสงค์ 1. เพื่อใหเ้ ด็กเรยี นร้เู รอื่ งแมเ่ หลก็ สามารถดดู สง่ิ ของไดแ้ ม้มีวัตถุอ่นื มาขวางก้นั 2. เพอ่ื ให้เดก็ ได้ทดลอง แมเ่ หลก็ สามารถดดู สิง่ ของได้แมม้ ีวสั ดุอ่ืนมาขวางกนั้ 3. เพือ่ ใหเ้ ดก็ เกดิ ความสนกุ สนานในการทดลอง ขัน้ ตอนการจดั กจิ กรรม ขนั้ ที่ 1 ต้ังคำถามเก่ยี วกบั ปรากฏการณท์ างธรรมชาติ เด็กและครูร่วมกันสนทนา เรื่อง แม่เหล็กสามารถดูดสิ่งของได้แม้มีวัตถุอื่นมาขวางกั้น โดย เด็กๆ ถามหากมวี ัตถุมาขวางกนั้ จะขวางแรงดึงดดู ของแมเ่ หล็กไดห้ รอื ไม่ ขั้นที่ 2 รวบรวมความคิดและขอ้ สนั นิษฐาน เด็กและครูร่วมกันสนทนาและทบทวนการดูดของแม่เหล็กสามารถดุดติดวัตถุใดได้บ้าง เช่น ลวดเสียบกระดาษ ลูกกุญแจ เข็ม กรรไกร หมุด ครูจึงถามเด็ก ๆ ต่อไปว่าหากเรานำวัตถุมาขวางก้ัน แม่เหล็กจะยังสามารถดูดดูดได้หรือไม่ แล้วถ้าดูดได้วัตถุที่นำมาขวางจะมีลักษณะอย่างไร เด็ก ๆ คาดคะเนวา่ สามารถดดู ได้ถา้ วตั ถุนนั้ ทาจากเหล็กเหมือนกนั ขนั้ ที่ 3 ทดสอบและปฏิบตั กิ ารสบื เสาะ ครูถามกระตุ้นให้เด็กคิด ว่า “เราจะมีการทดลองอย่างไรเพื่อให้รู้ว่าวัตถุใดบ้างที่นำมาขวาง แม่เหล็กแล้วยังสามารถดูดลวดเสียบได้” เด็ก ๆ ช่วยกันคิดออกแบบการทดลอง โดยนำแม่เหล็กวาง บนโต๊ะแล้วนำวัตถุวางขวางแม่เหล็กแลว้ นำลวดเสียบกระดาษวางสังเกตการดูดของแม่เหล็ก จากนั้น เด็ก ๆ ช่วยกันหาวัสดุที่ต้องการมาทดสอบ เช่น ไม่บล็อก กระดาษ ผ้า เพื่อทดสอบดูว่าเมื่อวัตถุมา ขวางกนั้ แมเ่ หล็กยังสามารถดูดลวดเสียบได้หรอื ไม่ ขน้ั ที่ 4 สังเกตและบรรยาย ใหเ้ ด็ก ๆ ชว่ ยกนั สงั เกตความแตกต่างของวัตถุทน่ี ำมาขางกัน้ พรอ้ มกบั แบ่งวัตถุ เป็น 2 กลุ่ม คือกลุม่ ทีแ่ ม่เหล็กสามารถทะลุผ่านไม่ และกลุ่มทีข่ วางก้นั พลังของแมเ่ หลก็ ขัน้ ท่ี 5 บนั ทึกข้อมลู เด็กๆ ช่วยกันบนั ทึกผลการทดลองตามแบบบันทึกผลการทดลอง และนำเสนอหนา้ ชัน้ เรียน ขน้ั ที่ 6 สรุปและอภปิ ราย เด็กและครู ช่วยกันสรุป โดยเด็กบอกว่าชื่อวัตถุที่แม่เหล็กสามารถทะลุผ่านได้ เช่นกระดาษ ผา้ บาง ๆ และวสั ดุท่ขี วางกนั้ พลังของแม่เหล็ก เชน่ ไมบ่ ลอ็ ก กระดาษหลายแผน่ ครจู งึ แนะนำให้เด็ก สังเกตวา่ วัตถุท้ัง 2 กองลกั ษณะแตกต่างกันอย่างไร เดก็ ๆ บอกวา่ กองท่ีแมเ่ หล็กสามารถทะลุผ่านได้ น้นั มลี กั ษณะบาง และกองท่ีขวางก้ันพลังแม่เหล็กมลี ักษณะหนากว่ากองที่ 1 จากนนั้ ครูจึงถามเด็ก ๆ ว่ามอี ะไรสงสยั จากการทดลองอีกหรือไม่ เด็ก ๆ ตอบวา่ “ไม่มี”
46 ภาพการดำเนนิ กจิ กรรรม ภาพวัสดุ/อุปกรณก์ ารทดลอง ภาพกิจกรรมการทดลอง ภาพเด็กบนั ทกึ ผลการทดลองและนำเสนอผลงาน
47 ผลงานทส่ี ำเร็จของเด็ก ผลท่เี กิดกบั เดก็ 1. ผลทเี่ กิดข้นึ ตามวัตถุประสงค์ 1.1 เดก็ เรียนรเู้ ร่อื งแม่เหลก็ สามารถดูดสิ่งของได้แม้มีวตั ถุอน่ื มาขวางกน้ั 1.2 เดก็ ได้ทดลอง เร่ือง แม่เหลก็ สามารถดดู สง่ิ ของไดแ้ มม้ วี ัสดุอื่นมาขวางกัน้ โดยผา่ น ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 1.3 เดก็ เกิดความสนกุ สนานในการทดลอง 2. พฒั นาการความสามารถพืน้ ฐาน และพฒั นาการของเด็กปฐมวัย 2.1. ด้านการเรียนรู้ / ดา้ นภาษา / สตปิ ัญญา 2.1.1. ดา้ นการเรยี นรู้ - เด็กได้เรยี นรเู้ รื่องแม่เหล็กสามารถดดู สงิ่ ของได้แม้มวี ัตถุอืน่ มาขวางกั้นผา่ น ประสาทสมั ผัสทงั้ 5 - เด็กไดเ้ รียนรเู้ ร่ือง ขนาด หนา-บาง - เด็กไดเ้ รยี นรู้ เร่ือง เปรียบเทยี บลกั ษณะของวัตถุ - เดก็ ไดเ้ รียนรู้การสนทนารว่ มกบั ผู้อ่นื - เด็กได้เรยี นรู้การอธิบายสิ่งทเ่ี ห็น ส่ิงทีท่ ดลอง 2.1.2. สติปญั ญา - เดก็ สามารถบอกขนาดหนา- บางของวตั ถุได้ - เด็กสามารถบอกความแตกตา่ งของวัตถไุ ด้ - เด็กสามารถฟังแล้วอธบิ ายผลการทดลองได้ - เด็กสามารถผังแลว้ ปฏิบัติตามขน้ั ตอนได้ 2.2. ด้านสงั คม - เดก็ สามารถทำงานรว่ มกับผูอ้ นื่ และการทำงานเปน็ กล่มุ ได้ - เดก็ สามารถเปน็ ผู้นำผู้ตามได้ - เดก็ รจู้ ักการรอคอย ตามลำดบั กอ่ น – หลังได้ 2.3 ด้านอารมณ์-จติ ใจ - เด็กมีความม่งุ ม่นั ทจ่ี ะทดลองใหส้ ำเรจ็ - เดก็ มคี วามสขุ กับการทดลอง
Search