Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โครงงานสมบูรณ์

โครงงานสมบูรณ์

Published by arawan0101, 2021-03-02 07:12:19

Description: โครงงานสมบูรณ์

Search

Read the Text Version

48 2.4 ด้านการเคลอ่ื นไหว/รา่ งกาย - เด็กไดใ้ ชก้ ล้ามเนือ้ มัดเล็กในหยิบจบั วตั ถุทมี่ ขี นาดเลก็

49 รายงานผลการจัดกิจกรรมการทดลองตามโครงการบา้ นนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย กจิ กรรมที่ 13 สนกุ กับไฟฟ้าสถติ จดุ ประสงค์ 1. เพอ่ื ใหเ้ ดก็ เรยี นรเู้ ร่ืองการดงึ ดูดและผลักกันของวสั ดทุ ี่มไี ฟฟา้ สถติ 2. เพอ่ื ใหเ้ ด็กไดท้ ดลอง สนกุ กับไฟฟา้ สถิต 3. เพ่ือให้เดก็ เกดิ ความสนุกสนานในการทดลอง ขนั้ ตอนการจดั กิจกรรม ข้ันท่ี 1 ตง้ั คำถามเก่ยี วกบั ปรากฏการณท์ างธรรมชาติ เด็กสนทนากับครูเรื่องไฟฟ้าสถิตเด็ก ๆ สังเกตไหมว่าเวลาเราหวีผม ผมเราทำไมลอยติดกับ หวี เด็ก : เพราะผมมนั ติดกบั หวคี รับ ขนั้ ที่ 2 รวบรวมความคิดและข้อสันนษิ ฐาน เดก็ และครสู นทนา ครู: ว่าเด็ก ๆ เคยหวีผมในชว่ งหน้าหนาวน้ี ผมจะเป็นอย่างไร เด็กๆ บอก ว่าหนูเคยหวีผม ผมมันชี้เลย ครูจึงให้เด็กๆ ช่วยการคิดว่าถ้าเรานำหวีหรือลูกโป่งถูไปที่ผมแลว้ นำมา ใกล้เส้นผมอกี ครง้ั ผมจะติดลูกโป่งหรอื ไม่ เด็ก ๆ คาดคะเนวาติดเพราะวา่ ลูกโปง่ ร้อน ข้นั ท่ี 3 ทดสอบและปฏิบัตกิ ารสืบเสาะ ครูใช้คำถามกระตุ้นให้เด็กช่วยกันคิดวางแผนกำหนดขั้นตอนการหาคำตอบ ออกแบบการ บันทึกผลการทดลอง และเตรียมวัสดุในการทดลองโดยให้เด็กหาวัสดุที่มีลักษณะเบา ๆ เช่นเม็ดโฟม กระดาษชิ้นเลก็ ๆ เด็ก ๆ ลองหาวิธกี ารทดลอง โดยนำลูกโปง่ ถผู ้า แล้วนำไปวางใกล้เม็ดโฟมแล้วสังเก จการเปลี่ยนแปลง จากนั้นนำกระดาษทิชชูให้เด็ก วาดภาพเกลียว ดังตัวอย่าง แล้วติดให้เป็นรูปงู ตอ่ จากนน้ั ให้เดก็ นำลูกโป่งถูบนผ้า จากนัน้ นำลูกโปง่ ไปใกล้กระดาษทเ่ี กิดอะไรขึน้ ขั้นท่ี 4 สงั เกตและบรรยาย เด็กๆช่วยกันสังเกตและบรรยายส่ิงที่เด็ก ๆ เห็นจากการทดลอง โดยเมื่อนำลูกโป่งถกู ับผ้าจะ เกิดอะไรข้นึ แล้วเมอ่ื นำมาใกลเ้ ม็ดโฟมจะเกิดอะไรข้ึน และเมอ่ื นำลกู โป่งถูบนผ้า จากนน้ั นำลูกโปง่ ไป ใกล้กระดาษทเ่ี กดิ อะไรขึ้นแล้วใหเ้ ดก็ สงั เกต และบรรยายเหตุการณท์ เ่ี กิดข้ึน ขัน้ ที่ 5 บันทกึ ขอ้ มูล เด็ก ๆ จดบันทึกการทดลองโดยการวาดภาพลูกโป่งติดกับกระดาษทิชชูรูปงูและนำเสนอ ผลงาน ขน้ั ท่ี 6 สรปุ และอภปิ ราย เด็กและครูสทนาในสิ่งที่เด็ก ๆ สังเกต เมื่อนำลูกโป่งถูกับผ้า แล้วนำไปใกล้กับเม็ดโฟม เกิด อะไรขน้ึ เด็ก ๆ เมด็ โฟมตดิ กบั ลูกโปง่ แตท่ ิง้ ไวส้ กั พัก เม็ดโฟมจะไม่ติดกับลูกโป่ง แล้วเม่ือนำกระดาษ ทชิ ชทู ีต่ ัดเตรียม แลน้ ำลกู โปง่ ที่ถูกกับผ้ามาใกล้ กระดาษทิชชจู ะถูกตดิ กับลูกโป่งจากนัน้ ครูถามเด็ก ๆ ว่ามอี ะไรสงสัยเกี่ยวกบั การทดลองอีกไหม เดก็ บอกว่า “ไม่ม”ี

50 ภาพการดำเนนิ กิจกรรม ภาพวัสดุ/อปุ กรณก์ ารทดลอง ภาพกจิ กรรมการทดลอง

51 ภาพเด็กบันทกึ ผลการทดลองและนำเสนอผลงาน ผลงานทสี่ ำเร็จของเด็ก ผลท่ีเกดิ กับเดก็ 1. ผลทีเ่ กิดขน้ึ ตามวตั ถุประสงค์ 1.1. เด็กเรยี นรู้เรอ่ื งการดึงดูดและผลกั กนั ของวัสดทุ ี่มีไฟฟา้ สถิต 1.2. เดก็ ได้ทดลอง เรื่องสนุกกบั ไฟฟ้าสถิต โดยผา่ นทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 1.3. เดก็ เกิดความสนกุ สนานในการทดลอง 2.พฒั นาการความสามารถพ้ืนฐาน และพัฒนาการของเดก็ ปฐมวัย 2.1. ด้านการเรียนรู้ / ดา้ นภาษา / สตปิ ัญญา 2.1.1. ด้านการเรียนรู้ - เดก็ ได้เรยี นรู้เร่ืองนยิ าม ของคำว่าไปฟา้ สถิต - เดก็ ไดเ้ รยี นรู้เร่ือง การดงึ ดูด - เด็กไดเ้ รยี นรู้ นำ้ หนัก เบา-หนัก 2.1.2. ดา้ นภาษา - เดก็ ได้เรยี นรู้การสนทนารว่ มกบั ผอู้ ่ืน - เดก็ ได้เรยี นรู้การอธบิ ายสิ่งท่เี ห็น ส่งิ ทีท่ ดลอง

52 2.1.3. สติปญั ญา - เด็กสามารถบอกลักษณะสงิ่ ของทีล่ กู โปง่ ดูดได้ - เดก็ สามารถบอกขนาดและนำ้ หนกั ของต่าง ๆ - เดก็ สามารถสังเกตและอธบิ ายการทดลองได้ - เดก็ สามารถฟงั แลว้ ปฏิบัตติ ามขน้ั ตอนได้ 2.2. ด้านสงั คม - เดก็ สามารถทำงานรว่ มกับผู้อ่ืน และการทำงานเป็นกลุ่มได้ - เด็กสามารถเปน็ ผูน้ ำผู้ตามได้ - เดก็ รู้จักการรอคอย ตามลำดบั กอ่ น – หลงั ได้ 2.3 ด้านอารมณ์-จิตใจ - เด็กมคี วามสุขกับการทดลอง - เด็กมีความกลา้ แสดงออกในการนำเสนอสิง่ ทีต่ นเองวาดภาพ 2.4 ด้านการเคล่ือนไหว/ร่างกาย - เดก็ ได้ใชก้ ล้ามเนื้อมัดเล็กในหยบิ จับส่งิ ของ - เดก็ ไดใ้ ช้กล้ามเนือ้ มันใหญ่ไดเ้ คลือ่ นทต่ี ามเวลาที่กำหนด

53 รายงานผลการจดั กิจกรรมการทดลองตามโครงการบ้านนักวทิ ยาศาสตร์นอ้ ย ประเทศไทย กิจกรรมที่ 14 แสงและภาพ จุดประสงค์ 1. เพอื่ ใหเ้ ด็กเรยี นรู้เร่อื งแสงทีเ่ พียงพอช่วยทำใหเ้ รามองเห็นภาพได้ชัดเจน 2. เพอ่ื ให้เด็กลงมอื ปฏบิ ัตกิ ารทดลอง แสงและภาพ 3. เพือ่ ใหเ้ ด็กไดม้ ีความสขุ สนกุ สนานกับการทดลอง ข้นั ตอนการจัดกิจกรรม ขัน้ ที่ 1 ต้ังคำถามเกี่ยวกบั ปรากฏการณท์ างธรรมชาติ ครูใช้คำถามกระตุ้นให้เด็ก ๆตั้งคำถาม เกี่ยวกับเรื่องแสงและภาพ“ว่าเด็กเคยสังเกตไหมว่า ตอนกลางคืนและตอนกลางวันเราสามารถมองเห็นภาพแตกต่างกันอยา่ งไร” นอ้ งพร้มิ : ตอนกลางวัน เห็นชัดเจนค่ะ แต่ตอนกลางคืนมืดคะ่ เดก็ ๆ จึงสงสัยว่า เราจะทำอย่างไรใหม้ องเห็นได้ชัดเจนในตอน กลางคนื เด็กบางคน บอกวา่ ตอ้ งเปิดไฟจึงจะมองเห็นได้ชัดเจนครูจึงอธิบายเร่ืองแสง เพิ่มเติม จากนั้น ครูจึงทำถามเด็ก ๆ ว่าเราจะมีวธิ ีการอยา่ งไรเพื่อเปรยี บเทียบวา่ แสงมีผลต่อการมองเหน็ เด็ก ๆ ตอบ ว่า เราตอ้ งทดลอง ครบู ันทึกสงิ่ ท่เี ด็กอยากรู้ ขัน้ ท่ี 2 รวบรวมความคิดและขอ้ สันนษิ ฐาน ครถู ามเดก็ ๆ เกย่ี วกบั สงิ่ ทเี่ ดก็ พบเจอในชีวติ ประจำวัน ดงั น้ี ครู : เด็ก ๆ สงั เกตเวลาพลบค่ำหรือในท่มี ดื เราจะมองเหน็ สง่ิ ที่อย่รู อบตวั เรา เป็นอย่างไร เด็ก ๆ : มองไมเ่ หน็ ค่ะ ครู : แล้วเราจะทำอย่างไรให้เห็นว่าส่ิงของได้ชัดเจน เด็ก ๆ : เอาไฟฉายไปส่อง ดังน้นั ครูจึงถามเดก็ ๆ วา่ ถา้ เราไมใ่ ช้ไฟฉายสอ่ งภาพ จะเห็นภาพเปน็ อยา่ งไร เดก็ คาดคะเน ว่าเราจะมองเหน็ ภาพมดื แลว้ ถ้าเราเอาไฟฉายส่องภาพ ภาพจะเปน็ อยา่ งไร เดก็ ๆคาดคะเนวา่ “ เรา จะเหน็ ภาพชัดข้นึ ” ขน้ั ท่ี 3 ทดสอบและปฏบิ ัติการสืบเสาะ ครใู ชค้ ำถามกระตุ้นให้เด็กช่วยกันทำการทอดลอง โดยท่เี ดก็ จะจำลองสถานการณ์ให้ภาพวาด ที่เด็กวาดมืดโดยวางทับกระทับกระดาษดำเพือ่ สมมุตวิ ่าเปน็ ตอนกลางคืน และประดิษฐ์ไฟฉายเพือ่ ใช้ ในที่มืด โดยให้เด็กช่วยออกแบบการบันทึกผลการทดลอง และวัสดุอุปกรณ์ท่ีจะต้องใช้ เด็กตัด กระดาษแข็งสีดำเท่ากับขนาด A4 เพื่อที่จะประดิษฐ์ไฟฉายและตัดดาษสีดำเป็นรูปกระบอกไฟฉาย และตดั กระดาษสีขาวเป็นรปู วงกลม เพอ่ื ทำเป็นส่วนของแสงไฟ จากนัน้ แผ่นพลาสติกใสทเี่ ตรียมไว้บน กระดาษสีขาวแล้วใช้ปากกาเคมีช่วยกันวาดเรื่องราวลงบนแผ่นใส ให้เด็ก ๆ นำแผ่นใสที่วาดภาพ ติดกันด้วยเทปกาวขอบด้นบน จากนั้นให้เด็ก ๆ สังเกตการณ์เปลี่ยนแปลง แล้วให้เด็กๆ ทอดลองนำ ไฟฉายสอดเข้าไปใตแ้ ผ่นใส แล้วให้เด็ก ๆ สงั เกตสิง่ ท่เี ห็น

54 ขั้นท่ี 4 สังเกตและบรรยาย เด็กๆชว่ ยกนั สังเกตและบรรยายสิ่งท่ีเห็นภาพท่เี ด็ก ๆ วาดภาพลงในแผ่นใส และเปรยี บเทียบ การมองเหน็ กอ่ นและหลงั ทจี่ ะนำไฟฉายสอดใต้แผน่ ใส ข้ันที่ 5 บันทึกข้อมูล เด็กๆ บันทึกผลการทดลองลงในแบบบันทึกท่รี ่วมกนั ออกแบบไวเ้ ปน็ กลุ่มเพ่ือนำมาเสนอใหเ้ พ่ือนฟัง หนา้ ช้ันเรยี น ข้นั ที่ 6 สรุปและอภิปราย เด็กๆและครู ช่วยกันรวบรวมผลการสังเกตสิ่งที่เด็ก ๆ เห็น โดยให้เด็กๆ สนทนาเมื่อเด็ก ๆ วาดภาพลงบนแผ่นใสท่วี างทับบนกระดาษสีขาว เดก็ ๆ สังเกตเห็นภาพไดช้ ดั จน แต่ไมส่ ามารถมองได้ ทะลุ จากนั้นเมื่อเด็ก ๆ นำแผ่นใสยกขึ้นมาสามารถมองทะลุแผ่นใสสามารถเห็นภาพได้ทั้ง 2 ด้าน และเมื่อนำแผ่นใสวางบนกระดาษแข็งสีดำ เราจะมองเห็นภาพได้ไม่ชัดเจน รายละเอียดมองเห็นได้ ยาก และแยกแยะสีกท็ ำให้ยาก จากนนั้ เมอ่ื เด็กนำไฟฉายสอดใตแ้ ผ่นพลาสติกทำใหส้ แี ละรายละเอียด ของภาพกลับมาชัดจนอีกครั้ง เหมือนถูกไฟส่องจากนั้นครูถามเด็ก ๆ ว่ามีอะไรสงสัยเกี่ยวกับการ ทดลองอีกไหม เดก็ บอกวา่ “ไม่ม”ี

55 ภาพการดำเนนิ กจิ กรรม ภาพวัสดุ/อปุ กรณ์การทดลอง ภาพกจิ กรรมการทดลอง ภาพเด็กบนั ทกึ ผลการทดลองและนำเสนอผลงาน

56 ผลท่เี กดิ กบั เดก็ 1. ผลท่ีเกิดข้นึ ตามวัตถปุ ระสงค์ 1. เดก็ เรียนร้เู ร่ืองแสงท่เี พียงพอช่วยทำใหเ้ รามองเหน็ ภาพได้ชัดเจน 2. เด็กลงมือปฏบิ ัตกิ ารทดลองเรอ่ื ง แสงและภาพโดยผา่ นกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 3. เด็กไดม้ ีความสขุ สนุกสนานกบั การทดลอง 2. พฒั นาการความสามารถพ้ืนฐาน และพัฒนาการของเดก็ ปฐมวัย 2.1. ดา้ นการเรยี นรู้ / ดา้ นภาษา / สติปญั ญา 2.1.1. ด้านการเรยี นรู้ - เด็กได้เรียนรเู้ รื่องแสงส่งผลต่อการมองเหน็ ภาพ - เด็กได้เรียนรู้เร่ือง ขนาดของกระดาษ - เด็กไดเ้ รยี นรู้ เร่ืองแสงและภาพ ผา่ นประสาทสัมผัสท้ัง 5 - เดก็ ได้เรยี นรู้การเปรียบเทยี บการมองเห็นรปู ภาพ ในแสงที่แตกต่างกนั 2.1.2. ด้านภาษา - เด็กได้เรยี นรู้การสนทนารว่ มกับผู้อน่ื - เด็กได้เรยี นรู้การอธบิ ายสิ่งทีเ่ ห็น สง่ิ ทีท่ ดลอง - เดก็ สามารถเลา่ เรื่องราวท่เี ด็กวาดได้ 2.1.3. สติปญั ญา - เดก็ สามารถบอกลักษณะของ ของภาพท่ีเด็ก ๆ วาดได้ - เด็กสามารถสงั เกตและอธบิ ายไดส้ งิ่ ท่เี หน็ ได้ - เด็กสามารถฟงั แลว้ ปฏิบัตติ ามขนั้ ตอนได้ 2.2 ดา้ นสงั คม - เดก็ สามารถทำงานร่วมกบั ผู้อ่นื และการทำงานเปน็ กลุ่มได้ - เด็กสามารถลงความคิดเห็นรว่ มกันกลุม่ ได้ - เด็กรูจ้ กั การรอคอย ตามลำดบั ก่อน – หลงั ได้ 2.3 ดา้ นอารมณ์-จิตใจ - เด็กมีความมุ่งม่ันที่ทำงานให้เสร็จ - เด็กมคี วามสุขกับการทดลองและเลน่ สงิ่ ทเี่ ด็กประดษิ ฐ์ - เด็กมีความกลา้ แสดงออกในการนำเสนอส่งิ ท่ีตนเองวาดภาพ 2.4 ดา้ นการเคล่อื นไหว/ร่างกาย - เดก็ ได้ใช้กล้ามเนอ้ื มดั เลก็ ในการวาดภาพ - เด็กได้ใชก้ ล้ามเน้ือมันเล็กในการตัดกระดาษ

57 รายงานผลการจดั กิจกรรมการทดลองตามโครงการบา้ นนกั วทิ ยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย กิจกรรมที่ 15 แสงเล้ียวเบน จุดประสงค์ 1. เพือ่ ใหเ้ ดก็ เรยี นร้คู ุณสมบตั ิของแสงวา่ แสงสามารถเล้ียวและเบนได้ 2. เพอื่ ใหเ้ ด็กไดท้ ดลอง แสงเล้ยี วเบน 3. เพอ่ื ให้เดก็ เกดิ ความสนุกสนานในการทดลอง ขน้ั ตอนการจดั กิจกรรม ขน้ั ท่ี 1 ตั้งคำถามเกี่ยวกับปรากฏการณท์ างธรรมชาติ เดก็ และครสู นทนา ครู : “เดก็ ๆ เคยสังเกตไหมวา่ เวลาเรามองสิ่งของที่อยู่ในแก้วน้ำบางมุมก็ เห็นบางมมุ ก็ไม่เหน็ ” เดก็ ๆ ตอบว่า “ไมท่ ราบ” เด็ก ๆ จึงถามครูวา่ “ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ทำไมมอง ไมเ่ ห็น เราตอ้ งทดลองให้รู้ว่าเปน็ เพราะอะไร” ขนั้ ท่ี 2 รวบรวมความคดิ และข้อสนั นษิ ฐาน เด็กสนทนากับครูว่า “ เด็กสังเกตเห็นเหรียญที่อยู่ใต้แก้วน้ำ” เด็ก ๆ บอกว่า “บางมุมก็ มองเห็นเหรียญบางมุมก็ไม่เห็น” ครูจึงอธิบายว่า การมองของเราต้องการแสงช่วยในการมองเห็น ตามที่เราเคยทดลองมาในเรื่องแสงและภาพ ดังนั้นเมื่อเราเอาเหรียญวางไว้ใต้แก้วน้ำ เกิดการเลี้ยว ของแสงจึงทำใหเ้ รามองไมเ่ หน็ ทุกมุม” ครูจงึ ถามถ้าเด็ก ๆ นำหลอดใส่ในแก้วทีม่ นี ้ำ แล้วแกว้ ที่ไม่มีน้ำ จะแตกตา่ งกนั อยา่ งไร เด็ก ๆคาดคะเนว่า ต้องเหมอื นกนั เพราะ หลอดตรง แล้วเหมอื นกนั ข้นั ท่ี 3 ทดสอบและปฏบิ ัติการสบื เสาะ ครูใช้คำถามกระตุ้นเพื่อนให้เด็ก ๆ วางแผนขั้นตอนการทดลอง และออกแบบบันทึกการ ทดลองเอง เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว ครูจึงถามเด็ก ๆ ต่อไปว่า เด็ก ๆ จะอุปกรณ์อะไรบ้างในการ ทดลอง จากนั้นเด็กก็ร่วมกันคิดอุปกรณ์การทดลองโดยนำแก้วมา 2 ใบ แก้วใบที่หนึ่งไม่ต้องเติมน้ำ แก้วใบทสี่ องเติมน้ำลงไปครงึ่ แกว้ จากนั้นใหใ้ ส่หลอดดูดให้เด็ก ๆ สงั เกตหลอดดูดที่อยู่ในแก้วที่ 2 ใบ จากนน้ั คอ่ ยเทน้ำมนั ลงไปในแกว้ แลว้ เปรียบเทยี บแกว้ ทง้ั 2 ใบ ขน้ั ที่ 4 สงั เกตและบรรยาย เด็กๆช่วยกันสังเกตและบรรยายสิ่งที่เห็น โดยครูให้เด็กเปรียบเทียบการมองเห็นเหรียญจาก มุมต่างๆ วา่ มองเห็นเป็นอย่างไร การทดลองต่อไปเด็กสังเกตหลอดดูที่อยใู่ นแก้วทั้ง 2 ใบ ว่าแต่ละใบ หลอดดูดมีลักษณะอย่างไร เหมือนหรอื แตกต่างกันอยา่ งไรแล้วบันทึกการทดลองตามแบบบันทึกท่ไี ด้ ออกแบบไว้ ขนั้ ที่ 5 บันทึกข้อมูล เมอ่ื เดก็ ๆ บนั ทกึ ผลการทดลองเป็นทเ่ี รยี บรอ้ ย แต่ละกลุ่มก็ได้นำผลงานเพ่ือเสนอมานำหน้า ช้นั เรยี นจากนน้ั ครูสังเกตและบนั ทกึ พฤตกิ รรมการของเด็ก ขั้นท่ี 6 สรปุ และอภปิ ราย เด็ก ๆ ช่วยกันรวบรวมผลการทดลองและเปรยี บเทียบผลการทดลอง โดยทีค่ รูเปน็ ผจู้ ดบันทึก เพอ่ื เปรยี บเทียบผลการทดลองใหช้ ัดข้ึน โดยการวาดภาพ ลงบนกระดาน จากการสงั เกต เดก็ ๆบอกว่า

58 แก้วใบที่ 1 ไม่ใส่น้ำสามารถเห็นหลอดดูดไดต้ รงเหมอื นเดิม แต่หลอดดูดมีขนาดใหญ่ขึ้นเม่ือมองผา่ น แก้วนำ้ แกว้ ใบท่ี 2 เมือ่ ใส่น้ำเด็กๆ เห็นหลอดมีการหักงอบรเิ วณผิวนำ้ และเมอื่ คอ่ ย ๆ เทน้ำมนั ลงไป ทำให้หลอดหักงอเป็น 2 ท่อน ครูจึงอธิบายปรากฏการณ์ที่เกดิ ขึ้นว่า การที่เรามองเห็นหลอดที่อยูใ่ น แก้วใบท่ี 2 ท่มี ีน้ำและน้ำมันหักงอ เน่อื งจากเราจะสามารถเห็นหลอดดผู ่านน้ำ และน้ำมัน ดังน้ันแสง ทผ่ี ่านนำ้ และน้ำมันมกี ารเลีย้ ว เบน หรือเรยี กวา่ การหกั เหของแสง จงึ ทำให้เรามองเหน็ หลอดดดู หักงอ ซึ่งแท้ที่จริงแล้วหลอดไม่ได้หักงอใด ๆ ปรากฏการณ์ทั้งหมดที่เราทดลองเขาเรียกว่า คุณสมบัติของ แสง จากนนั้ ครถู ามเด็ก ๆ วา่ มอี ะไรสงสยั เกย่ี วกบั การทดลองอีกไหม เดก็ บอกวา่ “ไม่ม”ี ภาพการดำเนนิ ภาพวัสด/ุ อปุ กรณ์การทดลอง ภาพกจิ กรรมการทดลอง

59 ภาพเดก็ บันทกึ ผลการทดลองและนำเสนอผลงาน ผลงานทสี่ ำเรจ็ ของเด็ก ผลที่เกดิ กับเด็ก 1. ผลทเ่ี กิดข้นึ ตามวัตถปุ ระสงค์ 1. เด็กเรียนรู้คุณสมบัติของแสง เรื่องการเลี้ยวเบนของแสงจากที่เด็ก สังเกตหลอดดูดท่ี สังเกตเหน็ หกั งอในแกว้ ใบทใี่ สน่ ้ำ ทำใหม้ องเหน็ หลอดดูดในแกว้ มลี กั ษณะที่หกั งอ 2. เด็กไดท้ ดลอง เรื่อง แสงเล้ียวเบน โดยผา่ นทักษะ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 3. เด็กเกิดความสนกุ สนานในการทดลอง เร่อื งการเล้ียวเบนของแสง 2. พฒั นาการความสามารถพ้ืนฐาน และพฒั นาการของเด็กปฐมวัย 2.1. ด้านการเรยี นรู้ / ด้านภาษา / สติปัญญา 2.1.1. ดา้ นการเรยี นรู้ - เด็กได้เรยี นรูเ้ รื่องการเล้ียวเบนของแสง - เด็กไดเ้ รยี นรู้ เรื่องการเล้ียวเบนของแสง ผา่ นประสาทสมั ผัสทั้ง 5 - เดก็ ไดเ้ รยี นรู้การเปรยี บเทยี บการสงั เกตแก้วท้ัง 2 ใบ 2.1.2. ด้านภาษา - เด็กไดเ้ รียนรู้การสนทนาร่วมกบั ผู้อน่ื - เด็กได้เรยี นรู้การอธบิ ายสงิ่ ที่เห็น ส่ิงท่ีทดลอง

60 2.1.3. สติปญั ญา - เดก็ สามารถบอกลกั ษณะของ เหรยี ญท่อี ย่แู ก้วแก้วนำ้ และหลอดดดู ใน แก้วท้ัง 2 ใบ - เด็กสามารถบอกขนาดของหลอดดูด - เดก็ สามารถเปรยี บเทยี บลักษณะของหลอดดูดได้ - เดก็ สามารถสงั เกตและอธิบายทีส่ งิ่ ทส่ี ังเกตได้ - เดก็ สามารถฟงั แล้วปฏิบัตติ ามขน้ั ตอนได้ 2.2. ด้านสงั คม - เด็กสามารถทำงานร่วมกบั ผู้อ่นื และการทำงานเปน็ กลุ่มได้ - เดก็ สามารถเป็นผู้นำผตู้ ามได้ - เดก็ รู้จักการรอคอย ตามลำดบั ก่อน – หลังได้ 2.3 ดา้ นอารมณ์-จิตใจ - เด็กมีความมุ่งม่ันทำการทดลองใหส้ ำเรจ็ - เด็กมคี วามสขุ กบั การทดลอง - เดก็ มีความกล้าแสดงออกในการนำเสนอส่งิ ท่เี ห็น 2.4 ดา้ นการเคลือ่ นไหว/ร่างกาย - เด็กได้ใชก้ ลา้ มเน้อื มดั เลก็ ในการจับเหรียญ จับหลอดดดู - เด็กไดใ้ ชก้ ล้ามเนอ้ื มันเลก็ ในการวาดภาพและระบายสีภาพผลงาน

61 รายงานผลการจัดกจิ กรรมการทดลองตามโครงการบ้านนกั วิทยาศาสตรน์ อ้ ย ประเทศไทย กิจกรรมที่ 16 การฟังเสยี งผ่านของแขง็ และน้ำ จุดประสงค์ 1. เพอื่ ให้เด็กเรียนรู้ว่า เสยี งสามารถเดินทางผา่ นของแข็งและน้ำได้ 2. เพ่ือให้เดก็ ไดท้ ำการทดลองการฟังเสียงผา่ นของแข็งและน้ำได้ดว้ ยตนเอง 3. เพ่อื ให้เด็กได้มีความสุขสนกุ สนานกับการทดลอง ขัน้ ตอนการจดั กิจกรรม ขั้นที่ 1 ต้ังคำถามเกยี่ วกบั ปรากฏการณท์ างธรรมชาติ ครูและเด็กสนทนารว่ มกัน ว่า ถา้ เราเอามอื ปิดหู เราจะได้ยนิ เสียงไหม เด็กๆ : ได้ยนิ แตไ่ ดย้ นิ ไม่ชัด เรม่ี : ถ้าพูดเบาๆ ก็จะไมไ่ ดย้ ินเสียง แตถ่ า้ พดู ดงั ๆก็จะได้ยนิ เสยี ง เด็กๆคิดว่าทำไมถงึ เปน็ เช่นนัน้ ค่ะ ขัน้ ที่ 2 รวบรวมความคิดและข้อสนั นิษฐาน ถ้าเราเอาหูแนบไว้ทพ่ี น้ื จะได้ยนิ เสียงไหม เต้ : ไดย้ ินครบั แลว้ ถ้าเอาหแู นบในนำ้ จะไดย้ ินไหม แพร : ไมไ่ ดย้ นิ ค่ะ เพราะนำ้ อยู่ในหคู ะ่ ขั้นท่ี 3 ทดสอบและปฏบิ ัติการสืบเสาะ เด็กและครูร่วมกันวางแผนการทดลองมีการกำหนดขั้นตอนการทดลองและร่วมออกแบบ บนั ทกึ ผลการทดลองจากนนั้ จัดเตรยี มวสั ดุอุปกรณก์ ารทดลองและลงมือทำการทดลองโดยเด็กได้นอน ควำ่ แลว้ เอาหูแนบกับพนื้ แลว้ ฟงั เสยี ง โดยมเี พอ่ื นอีกคนกระโดดไปมาในห้องเรยี น ขดู ขว่ นพ้ืน และทิ้ง สิ่งของลงบนพื้น จากนั้นก็ประดิษฐ์โทรศัพท์และพูดสนทนาโต้ตอบกัน และสังเกตการทดลองซึ่งใช้ กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ขนั้ ท่ี 4 สังเกตและบรรยาย เด็กๆร่วมกันสังเกตว่าเส้นเชือกต้องมีลักษณะอย่างไรถึงจะได้ยินเสียง เชือกแต่ละชนิดใช้ได้ หรือไม่ และเมื่อมคี นมสี มั ผัสเชอื กจะเปน็ อย่างไร ตอ้ งใช้เชือกยาวเท่าไรถ่ งึ จะไดย้ ินเสียงชดั เจน ขั้นท่ี 5 บันทึกข้อมลู เด็กๆได้ทำการทดลองและได้บันทึกผลการทดลองโดยการวาดภาพการทดลองการละลาย ของน้ำตาลลงในกระดาษเพื่อนำมานำเสนอหน้าชั้นเรียนจากนั้นครูสังเกตและบันทึกพฤติกรรมการ ของเด็ก เด็กๆบอกว่าเชือกทุกชนิดสามารถทำให้เกิดเสียงได้ แต่เชือกจะต้องมีความตึง ถึงจะได้ยิน เสียง ถา้ เชอื กหยอ่ นจะไมไ่ ด้ยนิ เสยี ง

62 ขนั้ ที่ 6 สรปุ และอภิปราย ครูและเด็ก ๆ ช่วยกันสรปุ เสียงจะเดินทางผ่านของแข็งได้ดี การฟังเสียงจากโทรศัพท์ เชือกที่ชนดิ ไดก็ได้ และเวลาพูดเชือกต้องมีความตึง ถึงจะได้ยินเสียงได้ดี ถ้าเชือกไม่ตึง หย่อนเสียงจะเดินทาง ตามเชอื กได้ไม่ดี จะไดย้ ินเสยี งเชือกเพียงเลก็ น้อยหรือไม่ไดย้ ินเลย ภาพการดำเนินกิจกรรม ภาพวัสด/ุ อปุ กรณ์การทดลอง ภาพกจิ กรรมการทดลอง ภาพเดก็ นำเสนอผลงาน

63 ผลงานทส่ี ำเร็จของเดก็ ผลที่เกดิ กับเด็ก 1. ผลที่เกิดข้ึนตามจุดประสงค์ 1. เดก็ เรยี นรเู้ ร่ืองว่าเสียงสามารถเดินทางผา่ นของแขง็ และนำ้ ได้ 2. เดก็ ได้ทำการทดลองการฟังเสียงผา่ นของแข็งและนำ้ ได้ดว้ ยตนเอง 3. เดก็ ได้มคี วามสขุ สนุกสนานกับการทดลอง 2. พฒั นาการความสามารถพน้ื ฐาน และพฒั นาการของเด็กปฐมวัย 2.1 ดา้ นการเรยี นรู้/ดา้ นภาษา /สติปญั ญา : - เด็กเรยี นรูเ้ ร่อื ง วา่ เสยี งสามารถเดินทางผา่ นของแขง็ และน้ำได้ - เด็กได้เรยี นรแู้ ละสงั เกต เปรยี บเทียบเชือกทใ่ี ชฟ้ งั เสียง - เด็กได้ฝึกการคาดคะเนเหตุการณท์ ี่จะเกดิ ขึ้น - เดก็ ได้ฝึกการแกป้ ญั หาด้วยตัวเอง - เด็กเรยี นรทู้ ักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ - เด็กๆสามารถเลา่ วธิ ีการหาคำตอบ ได้ด้วยวธิ กี ารของตนเอง - เด็กมพี ฒั นาการด้านภาษาจากการสนทนาโตต้ อบ แสดงความคิดเห็น - ทกั ษะด้านภาษาจากการพูด บรรยาย เลา่ สิ่งที่สงั เกต 2.2 ดา้ นสังคม - เด็กสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ - เดก็ แสดงความคดิ เหน็ ของตนเองและยอมรับฟงั ความคิดเห็นของผู้อนื่ - เดก็ ๆปฏิบัตติ นตามข้อตกลงได้ 2.3ด้านอารมณ์ – จิตใจ : - เดก็ มีความสุขกบั การที่ไดท้ ำการทดลองดว้ ยตนเอง 2.4 ด้านการเคลอื่ นไหว : - เดก็ ๆเคล่ือนไหวหยบิ จบั อปุ กรณใ์ นการทดลอง - เดก็ สามารถใช้ประสาทสมั ผัสในการสังเกตด้วยตวั เองจนได้ขอ้ มูลทช่ี ัดเจน

64 รายงานผลการจัดกิจกรรมการทดลองตามโครงการบ้านนกั วทิ ยาศาสตรน์ อ้ ย ประเทศไทย กจิ กรรมท่ี 17 น้ำแข็งกลายเปน็ น้ำ จดุ ประสงค์ 1. เพือ่ ให้เด็กเรยี นรู้ การเปล่ียนสถานะของน้ำ 2. เพือ่ ใหเ้ ดก็ ได้ทำการทดลองน้ำแขง็ กลายเป็นนำ้ ไดด้ ว้ ยตนเอง 3. เพื่อให้เดก็ ไดม้ คี วามสุขสนุกสนานกบั การทดลอง ขัน้ ตอนการจัดกจิ กรรม ขัน้ ท่ี 1 ตง้ั คำถามเกยี่ วกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ครูสนทนากับเดก็ ๆ ว่าชว่ งฤดรู ้อนน้ำแขง็ หรือไอศกรีมจะหลอมเหลวเรว็ จนเรากินแทบไม่ทัน และในต่างประเทศช่วงปลายฤดูหนาวน้ำแข็งและหิมะจะเริ่มหลอมเหลว ครูจึงถามเด็กๆว่าทำไมจึง เป็นเชน่ นัน้ ขนั้ ที่ 2 รวบรวมความคดิ และขอ้ สนั นิษฐาน เด็กๆร่วมกนั สนทนา ว่า น้ำแขง็ จะหลอมละลายเม่ืออยู่ทท่ี ่ีมีอากาศร้อน และจะไมล่ ะลายเมื่ออยู่ในที่ที่มี อากาศเย็น ขนั้ ท่ี 3 ทดสอบและปฏิบัติการสบื เสาะ เด็กและครูร่วมกันวางแผนกำหนดขั้นตอนการทดลองและออกแบบบันทึกผลการทดลอง จากนั้นเด็กๆได้เตรียมวัสดุอุปกรณ์ในการทดลองเพื่อนำมาใช้ในการสำรวจตรวจสอบ ครูและเด็กๆ ปรึกษากันว่าจะวัดระยะเวลาในการทดลองการหลอมเหลวของน้ำแข็งได้อย่างไร เด็กรู้จักนาฬิกา ทรายหรอื นาฬิกาจับเวลา จากน้นั ใหเ้ ดก็ ๆกำหนดวา่ การจับเวลาควรเริ่มตน้ และสิ้นสุดลงเมื่อใด และ ทำการทำลองโดยหาวิธีการต่างการในการทำให้น้ำแข็งละลาย และสังเกตการณ์ทดลองจากการ ละลายของนำ้ แขง็ ขั้นที่ 4 สงั เกตและบรรยาย เด็กๆช่วยกันสังเกตและบรรยายสภาพที่แตกต่างกันของน้ำแข็งที่กำลังหลอมเหลว เด็กแยก ความแตกตา่ งของบริเวณท่ีเย็น อนุ่ และร้อนดว้ ยการใชม้ อื สัมผัส ขั้นที่ 5 บนั ทกึ ข้อมลู เด็กๆ ชว่ ยกนั อธิบายว่าน้ำแข็งจะละลายเรว็ ต่อเมื่อเจอของที่รอ้ น เชน่ ไดร์เปา่ ผม เม่ือนำมา ตากแดด และเม่อื เอาไปวางไว้ที่กลางแดด น้ำแขง็ จะละลายชา้ เมื่ออยู่ในท่ีเย็นหรืออุ่น เช่น ในมือ ใน ห้องที่เย็น ในน้ำที่มีความเย็น และบันทึกผลการทดลองโดยเด็กๆวาดภาพลงบนกระดาษและนำมา นำเสนอหนา้ ชัน้ เรียน ครูสังเกตพฤตกิ รรมและบนั ทกึ พฤติกรรมของเด็ก ข้ันท่ี 6 สรุปและอภิปราย ครูและเด็ก ๆ ช่วยกันสรุปน้ำแข็งจะละลายได้เร็วเมื่ออยู่ในที่มีความร้อน และน้ำแข็งจะ ละลายชา้ เม่อื อยูใ่ นท่ีอากาศเยน็

65 ภาพกิจกรรม ภาพวสั ดุ/อปุ กรณ์การทดลอง ภาพการดำเนินกจิ กรรมภาพกจิ กรรมการทดลอง ภาพบันทกึ ผลการทดลองและนำเสนอผลงาน

66 ผลงานที่สำเร็จของเด็ก ผลท่เี กิดกบั เด็ก 1. ผลท่เี กดิ ข้ึนตามจุดประสงค์ 1.1 เด็กเรียนรู้ การเปลีย่ นสถานะของน้ำ 1.2 เดก็ ได้ทำการทดลองน้ำแขง็ กลายเปน็ น้ำไดด้ ว้ ยตนเอง 1.3 เดก็ ได้มีความสุขสนุกสนานกับการทดลอง 2. พฒั นาการความสามารถพืน้ ฐาน และพฒั นาการของเดก็ ปฐมวัย 2.1 ด้านการเรยี นร/ู้ ดา้ นภาษา /สติปญั ญา : - เด็กเรียนรู้เรือ่ ง การเปลยี่ นสถานะของน้ำ - เดก็ ไดเ้ รยี นรู้และสังเกต - เดก็ ไดฝ้ ึกการคาดคะเนเหตุการณ์ท่ีจะเกดิ ขึน้ - เด็กได้ฝึกการแก้ปัญหาดว้ ยตัวเอง - เด็กเรียนรทู้ กั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ - เดก็ ๆสามารถเลา่ วธิ ีการหาคำตอบ ได้ด้วยวธิ กี ารของตนเอง - เดก็ มีพฒั นาการด้านภาษาจากการสนทนาโตต้ อบ แสดงความคดิ เห็น - ทักษะดา้ นภาษาจากการพดู บรรยาย เล่า ส่งิ ทส่ี ังเกต 2.2 ดา้ นสงั คม : - เด็กสามารถทำงานร่วมกับผูอ้ ื่นได้ - เดก็ แสดงความคดิ เห็นของตนเองและยอมรบั ฟงั ความคดิ เห็นของผู้อน่ื - เดก็ ๆปฏิบตั ิตนตามข้อตกลงได้ 2.3 ดา้ นอารมณ์ – จิตใจ : - เดก็ มคี วามสขุ กับการท่ีไดท้ ำการทดลองดว้ ยตนเอง 2.4 ด้านการเคลือ่ นไหว : - เดก็ ๆเคล่ือนไหวหยิบจบั อปุ กรณ์ในการทดลอง - เดก็ สามารถใชป้ ระสาทสมั ผัสในการสังเกตดว้ ยตวั เองจนได้ข้อมลู ท่ชี ัดเจน

67 รายงานผลการจัดกจิ กรรมการทดลองตามโครงการบา้ นนักวิทยาศาสตรน์ อ้ ย ประเทศไทย กจิ กรรมที่ 18 รูจ้ ักกับเหลีย่ มและมมุ จดุ ประสงค์ 1. เพอ่ื ให้เด็กเรียนรู้ เก่ยี วกับรปู ทรงเลขาคณิตแบบตา่ งๆ 2. เพ่อื ให้เดก็ เกิดความคิดสรา้ งสรรค์ในการสรรค์ผลงานจากรูปทรง 3. เพอื่ ใหเ้ ดก็ ไดม้ ีความสขุ สนุกสนานกับการทดลอง ขั้นตอนการจดั กจิ กรรม ขนั้ ท่ี 1 ตงั้ คำถามเกย่ี วกบั ปรากฏการณท์ างธรรมชาติ ครูสนทนากับเด็ก ๆ เรื่องสิ่งที่พบเห็นในชีวิตประจำวัน ส่วนใหญ่จะเป็นรูปทรงเลขาคณิต ประกอบอยู่ เชน่ หลงั คาบ้าน ประตูหน้าตา่ ง โต๊ะ เก้าอ้ี ซง่ึ รูปเลขาคณิตเล่าน้ปี ระกอบด้วยเหล่ียม และมมุ ซ่ึงจะแตกตา่ งกนั ไป และถา้ สงั เกตให้ดสี ง่ิ ตา่ งๆทอ่ี ย่รู อบตวั เราจะเปน็ รปู ทรงเลขาคณิตท้ังสนิ้ ขัน้ ที่ 2 รวบรวมความคดิ และข้อสันนษิ ฐาน ครูและเด็กๆ ช่วยการคิดว่าเมื่อเราเจอรูปทรงเลขาคณิตตามที่ต่างๆ เราสามารถสร้างขึ้นมา ได้ โดยวิธีการต่างๆได้ หลากหลายวธิ ี เชน่ การวาด การตัด การพบั การใชเ้ ชอื ก ขนั้ ท่ี 3 ทดสอบและปฏิบัติการสบื เสาะ เด็กและครูร่วมกันวางแผนการทดลองมีการกำหนดขั้นตอนการทดลองและร่วมออกแบบ บันทกึ ผลการทดลองจากน้ันจดั เตรียมวสั ดุอุปกรณ์การทดลองและลงมือทำการทดลองโดยเด็กๆได้ทำ การทดลองโดยใช้กระดาษแข็งมาตัดให้เป็นรูปทรงเลขาคณิตและใส่ในถุงทึบ แล้วจับออกมาให้เพื่อน ทายว่าเป็นรูปทรงอะไรแล้วสร้างรูปทรงด้วยเชือก และสังเกตการทดลองซึ่งใช้กระบวนการทาง วทิ ยาศาสตร์ ขั้นท่ี 4 สังเกตและบรรยาย ให้เด็กๆช่วยกันสังเกตการณ์รูปทรงที่เพื่อจับขึ้นมาจากถุงแล้ววิธีการดึงเชือกให้ตึงหากไม่ตึง จะเกดิ การโคง้ และขนาดรปู ทรงก็จะเปลยี่ นไป ข้ันที่ 5 บนั ทึกข้อมลู เมื่อเราสร้างรูปทรงจากเชือก ต้องรู้จักมุมก่อนว่าในรูปทรงนั้นมุมกี่มุม ถึงจะสามารถสร้าง รปู ทรงจากเชอื กได้งา่ ย ไดบ้ นั ทึกผลการทดลองโดยการวาดภาพการทดลองการละลายของน้ำตาลลง ในกระดาษเพ่ือนำมานำเสนอหนา้ ชัน้ เรยี นจากนัน้ ครสู ังเกตและบนั ทึกพฤติกรรมการของเดก็ ขน้ั ที่ 6 สรปุ และอภปิ ราย เด็กๆ ช่วยกันอธิบายว่าถ้าเราจะสร้างรูปทรงขึ้นมาเราต้องนับมุมของรูปทรงก่อนที่จะสร้าง และก็สรา้ งขนึ้ มาโดยท่ี เพื่อนจะต้องชว่ ยกัน รูปทรงเลขาคณิตการใช้เชือกสร้างรปู เลขาคณิตต่างๆนั้น ทำให้เรียนรวู้ ่ายงั มรี ูปทรงเรขาคณติ อีกหลายชนดิ นอกจากนั้นการเปลยี่ นตำแหน่งของการจบั เชือกทำ ให้รดู้ ว้ ยวา่ รูปเรขาคณติ มีหลายรปู แบบตามรปู ทรงทีเ่ ราสรา้ งขน้ึ มา

68 ภาพกจิ กรรม ภาพวัสดุ/อุปกรณ์การทดลอง ภาพวัสดุอุปกรณ์ในการทดลอง ภาพกจิ กรรมการทดลอง ภาพเด็กบนั ทกึ ผลการทดลองและนำเสนอผลงาน

69 ผลงานทส่ี ำเร็จของเด็ก ผลทเี่ กิดกับเด็ก 1. ผลทเ่ี กดิ ข้นึ ตามจดุ ประสงค์ 1.1 เด็กเรยี นรู้ เกี่ยวกบั รปู ทรงเลขาคณิตแบบต่างๆ 1.2 เดก็ เกดิ ความคดิ สรา้ งสรรคใ์ นการสรรค์ผลงานจากรูปทรง 1.3 เด็กได้มคี วามสุขสนุกสนานกับการทดลอง 2. พัฒนาการความสามารถพนื้ ฐาน และพัฒนาการของเดก็ ปฐมวัย 2.1. ด้านการเรียนรู้ /ด้านภาษา /สตปิ ญั ญา : - เดก็ เรียนรู้ เกีย่ วกับรปู ทรงเลขาคณิตแบบต่างๆ - เด็กเกดิ ความคิดสร้างสรรคใ์ นการสรรคผ์ ลงานจากรปู ทรง - เด็กไดเ้ รียนรู้และสังเกต เปรียบเทียบ รปู ทรง - เดก็ ได้ใช้ประสาทสัมผัสในการหารูปทรง - เด็กได้ฝึกการแก้ปัญหาด้วยตัวเอง - เด็กเรียนรทู้ ักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ - เดก็ ๆสามารถเลา่ วธิ ีการหาคำตอบ ได้ด้วยวธิ ีการของตนเอง - เด็กมีพัฒนาการด้านภาษาจากการสนทนาโต้ตอบ แสดงความคดิ เหน็ - ทกั ษะด้านภาษาจากการพดู บรรยาย เลา่ ส่งิ ท่ีสังเกต 2.2 ด้านสังคม : - เด็กสามารถทำงานร่วมกับผูอ้ ่ืนได้ - เด็กแสดงความคดิ เห็นของตนเองและยอมรับฟงั ความคดิ เห็นของผู้อ่นื - เดก็ ๆปฏิบตั ติ นตามข้อตกลงได้ 2.3 ด้านอารมณ์ – จติ ใจ : - เดก็ มีความสขุ กบั การที่ไดท้ ำการทดลองดว้ ยตนเอง

70 2.4 ด้านการเคลื่อนไหว : - เด็กๆเคล่ือนไหวหยบิ จบั อปุ กรณ์ในการทดลอง - เดก็ สามารถใชป้ ระสาทสมั ผสั ในการสงั เกตดว้ ยตวั เองจนได้ข้อมลู ท่ีชดั เจน

71 รายงานผลการจัดกจิ กรรมการทดลองตามโครงการบา้ นนักวิทยาศาสตรน์ ้อย ประเทศไทย กจิ กรรมที่ 19 อินดเิ คเตอรจ์ ากพืช จุดประสงค์ 1. เพ่อื ให้เดก็ เรยี นรเู้ รอื่ งกรดและเบส 2. เพื่อใหเ้ ด็กไดท้ ำการทดลองการอินดเิ คเตอรจ์ ากพืชไดด้ ว้ ยตนเอง 3. เพื่อใหเ้ ด็กไดม้ ีความสุขสนกุ สนานกบั การทดลอง ขน้ั ตอนการจัดกิจกรรม ขนั้ ท่ี 1 ต้ังคำถามเก่ยี วกบั ปรากฏการณท์ างธรรมชาติ ครูและเด็กๆสนทนาร่วมกนั ว่าเด็กๆเคยหรือมีประสบการณ์เกี่ยวกับน้ำที่ได้มาจากพืชตา่ งๆบ้างไหม คะ่ เรม่ี : หนูเคยเอาใบไม้มาตำค่ะแลว้ มนั กก็ ลายเป็นทเ่ี ขียวดว้ ยค่ะ ขน้ั ท่ี 2 รวบรวมความคิดและข้อสนั นิษฐาน เด็กๆคิดวา่ ถา้ เรานำพืชมาตำจะเกดิ อะไรขนึ้ ค่ะ โยมิ : ถ้าใบเปน็ สีเขียวเวลาเราตำมันก็จะเป็นสีเขียวค่ะ ครู : แลว้ ถ้าเราเอาเมล็ดผกั ปลังมาตำจะเป็นสีอะไรค่ะ เด็กๆ : เปน็ สีแดงครับ/คะ่ ขนั้ ท่ี 3 ทดสอบและปฏิบัตกิ ารสบื เสาะ เด็กและครูร่วมกันวางแผนการทดลองมีการกำหนดขั้นตอนการทดลองและร่วมออกแบบ บนั ทกึ ผลการทดลองจากนั้นจัดเตรียมวสั ดุอุปกรณ์การทดลองและลงมือทำการทดลองโดยเด็กๆได้ทำ การทดลองโดยชว่ ยกันห่ันกะหล่ำปลีสีม่วง จากนั้นก็นำไปใส่ในแก้วน้ำ 2 ใบ ใบที่ 1 น้ำร้อน ใบที่ 2 นำ้ เยน็ สงั เกตการณ์เปล่ียนแปลง เม่อื นำ้ เปลีย่ นสี เด็กๆจึงแบ่งนำ้ ที่มสี ีเข้มกว่าเป็น 2 แก้ว แล้วหยด น้ำมะนาว และโซดาลงไป สังเกตการเปลี่ยนแปลงและสังเกตการทดลองซึ่งใช้กระบวนการทาง วทิ ยาศาสตร์ ขั้นที่ 4 การสังเกตและบรรยาย เด็กๆช่วยกันบอกลักษณะของสีน้ำเมื่อใส่กะหล่ำปลี ในน้ำร้อนและน้ำเย็น และเมื่อหยดน้ำ มะนาวและโซดาลงไปในน้ำกะหลำ่ ปลี ขนั้ ที่ 5 บนั ทึกข้อมลู เด็กๆและครูร่วมกันสนทนาว่ากะหล่ำปลีจะเปลีย่ นสเี ม่ือเจอน้ำร้อน และเมื่อหยดน้ำมะนาว ลงไปน้ำกะหล่ำปลีจะเปลี่ยนสีเป็นสีแดง แต่เมื่อหยดน้ำโซดาลงไปน้ำกะหล่ำปลีจะไม่เปลี่ยนสี ได้ บันทึกผลการทดลองโดยการวาดภาพการทดลองการละลายของน้ำตาลลงในกระดาษเพื่อนำมา นำเสนอหน้าช้ันเรยี นจากนั้นครูสงั เกตและบนั ทึกพฤติกรรมการของเด็ก ขั้นที่ 6 สรปุ และอภิปราย ครูและเด็ก ๆ ช่วยกันสรุป เมื่อนำกะหล่ำปลีม่วงมาแช่ในน้ำร้อน สีของกะหล่ำปลีในน้ำร้อน จะเข้มกว่าทีแ่ ช่ในนำ้ เย็น เมื่อนำน้ำกะหลำ่ ปลี (น้ำเงิน) มาทดสอบกับสารที่มีรสเปร้ียวน้ำจะเปล่ยี นสี

72 เป็นสีแดง ยิ่งกรดมีความเข้มข้นมาก น้ำจะยิ่งแดงขึ้นมากขึ้น น้ำมะนาวมีความเป็นกรดสูง น้ำ กะหล่ำปลีม่วงจึงเปลี่ยนไปเป็นสีแดงเข้ม ส่วนน้ำโซดา มีความเป็นกรดน้อยน้ำกะหล่ำปลีสีม่วงจึง เปลี่ยนสีเลก็ น้อย ภาพการดำเนินกิจกรรม ภาพวสั ดุ/อปุ กรณก์ ารทดลอง ภาพการดำเนนิ กจิ กรรมภาพกิจกรรมการทดลอง ภาพเด็กบนั ทึกผลการทดลองและนำเสนอผลงาน

73 ผลงานทสี่ ำเร็จของเด็ก ผลท่เี กิดกบั เดก็ 1. ผลท่ีเกิดขึ้นตามจุดประสงค์ 1.1 เดก็ เรยี นร้เู ร่อื งกรดและเบส 1.2 เด็กได้ทำการทดลองการอินดิเคเตอรจ์ ากพืชได้ดว้ ยตนเอง 1.3 เด็กได้มีความสุขสนุกสนานกับการทดลอง 2. พัฒนาการความสามารถพืน้ ฐาน และพฒั นาการของเดก็ ปฐมวัย 2.1 ด้านการเรียนร/ู้ ดา้ นภาษา /สติปัญญา : : - เดก็ เรียนรู้เร่อื ง กรด เบส - เดก็ ได้เรยี นรวู้ า่ กรด สามารถทำใหส้ ารสามารถเปลย่ี นสีได้ - เดก็ ได้เรยี นรู้และสังเกต การเปลี่ยนสขี องน้ำกะหล่ำปลี - เดก็ เรยี นรู้ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ - เด็กๆสามารถเลา่ วธิ กี ารหาคำตอบ ได้ด้วยวิธกี ารของตนเอง - เดก็ มีพัฒนาการด้านภาษาจากการสนทนาโตต้ อบ แสดงความคิดเหน็ - ทกั ษะด้านภาษาจากการพูด บรรยาย เล่า ส่งิ ทีส่ ังเกต 2.2 ดา้ นสงั คม - เดก็ สามารถทำงานรว่ มกบั ผู้อ่ืนได้ - เดก็ แสดงความคดิ เห็นของตนเองและยอมรบั ฟงั ความคิดเห็นของผู้อน่ื - เดก็ ๆปฏิบตั ติ นตามข้อตกลงได้ 2.3 ด้านอารมณ์ – จติ ใจ 2.4 ดา้ นการเคล่อื นไหว - เดก็ ๆเคลื่อนไหวหยบิ จบั อปุ กรณ์ในการทดลอง - เดก็ สามารถใช้ประสาทสัมผัสในการสงั เกตด้วยตัวเองจนได้ขอ้ มลู ทช่ี ัดเจน

74 รายงานผลการจดั กิจกรรมการทดลองตามโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย กิจกรรมที่ 20 ความลบั ของสีดำ จุดประสงค์ 1. เพื่อให้เด็กเรยี นรเู้ รื่องสี 2. เพือ่ ให้เดก็ ได้ทำการทดลองความลับของสดี ำได้ด้วยตนเอง 3. เพื่อใหเ้ ดก็ ได้มีความสขุ สนกุ สนานกบั การทดลอง ขั้นตอนการจดั กจิ กรรม ขน้ั ท่ี 1 ต้ังคำถามเกี่ยวกบั ปรากฏการณท์ างธรรมชาติ เด็ก ๆ สนทนากับ ครู เดก็ ๆ คดิ ว่าสีดำเกิดจากสีอะไรมารวมกันค่ะ โฟน : สีนำ้ เงนิ สีนำ้ ตาล คะ่ ทติ : แลว้ มนั จะเปน็ สดี ำจรงิ หรอื เปล่าครับ ข้ันท่ี 2 รวบรวมความคดิ และข้อสันนิษฐาน ครูและเด็กสนทนาและคาดร่วมกนั วา่ ถา้ เราใช้ปากกาสดี ำวาดรปู ลงบนกระดาษ แล้ว กระดาษโดนนำ้ กรดาษจะเปียกน้ำและสจี ะเลอะ พริง้ : กระดาษจะเปยี กน้ำ และจะดดู นำ้ ครู : แลว้ รูปที่เราวาดลงไปในกระดาษละคะ นวิ : รปู ทวี่ าดจะหายไป และกระดาษก็จะเลอะเทอะ ข้ันท่ี 3 ทดสอบและปฏบิ ัตกิ ารสืบเสาะ เด็ก ๆ และครูร่วมกันวางแผนกำหนดขั้นตอนการทดลอง ออกแบบบันทึกผลการทดลอง จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ ดำเนินการทดลอง ตามแผนที่วางไว้ โดยเด็ก ๆเตรียมกระดาษกรองคนละ 1 แผ่น แล้วใช้ปากกาเมจิกสีดำวาดภาพหรือระบายสีตรงกลางแผ่น หลังจากนั้นให้หงายฝาขวดขึ้น แล้วนำ กระดาษกรองที่ระบายสีแล้ววางไว้ด้านบน ใช้หลอดหยดน้ำ หยดน้ำทีละหยดตรงกลาง กระดาษกรอง สงั เกตการทดลอง ขั้นท่ี 4 การสังเกตและบรรยาย เด็ก ๆช่วยกันบอกลักษณะของน้ำมันหยดลงไปในกระดาษกรองการดูดน้ำของกระดาษกรอง หมึกท่ีใช้วาดรูป เดก็ ๆและครรู ว่ มกันสนทนาวา่ เมื่อวาดรูปวงกลมแลว้ นำนำ้ มาหยดท่ีกระดาษท่ีวาดไว้ รปู ที่เป็นวงกลมหมกึ สจี ะค่อยๆซมึ และจางลงสจี ะแตกตัวกระจาย ทำใหเ้ กดิ สีหลายสีในกระดาษ ขัน้ ท่ี 5 บนั ทึกข้อมลู เด็กๆ บันทึกผลการทดลองลงในแบบบันทึกท่ีร่วมกันออกแบบไว้เป็นกลุ่มเพือ่ นำมาเสนอใหเ้ พื่อนฟงั หนา้ ชนั้ เรียน ขั้นที่ 6 สรปุ และอภิปราย ครูและเดก็ ๆ ช่วยกนั สรุป สีดำของเมจกิ เกดิ จากการผสมของสีหลายสี จะพบว่าสชี มพู สีฟ้า สเี หลอื ง และสเี ขียวซ่อนอยูใ่ นสดี ำ

75 ภาพการดำเนินกิจกรรม ภาพวสั ด/ุ อปุ กรณ์การทดลอง ภาพกจิ กรรมการทดลอง

76 ภาพเด็กบันทึกนำเสนอผลงาน ผลงานท่ีสำเร็จของเดก็ ผลท่เี กิดกบั เดก็ 1. ผลทเ่ี กดิ ขึน้ ตามจุดประสงค์ 1. เดก็ เรียนรู้เรื่องสี 2. เดก็ ได้ทำการทดลองความลับของสีดำได้ดว้ ยตนเอง 3. เดก็ ได้มคี วามสขุ สนุกสนานกับการทดลอง 2. พฒั นาการความสามารถพ้นื ฐาน และพัฒนาการของเดก็ ปฐมวัย 2.1 ดา้ นการเรยี นรู้/ดา้ นภาษา /สตปิ ญั ญา : 2.1.1 ด้านการเรยี นรู้ - เด็กไดเ้ รยี นรู้เรื่องสี - ได้เรียนรวู้ ่า สดี ำเกิดจากสีหลายๆสี มารวมกนั จึงเกดิ เป็นสีดำ - เดก็ ไดเ้ รียนรู้และสังเกต - เด็กเรยี นรูท้ กั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 2.1.2 ด้านภาษา - เดก็ ๆสามารถเล่าวธิ ีการหาคำตอบ ได้ดว้ ยวิธีการของตนเอง - เด็กมีพฒั นาการด้านภาษาจากการสนทนาโตต้ อบ แสดงความคิดเหน็ - ทักษะด้านภาษาจากการพดู บรรยาย เล่า สิง่ ที่สังเกต

77 2.1.3 ดา้ นสติปญั ญา - เด็กเกดิ การเรยี นรเู้ กีย่ วกับขัน้ ตอนการทดลองความลบั ของสดี ำได้ตาม ขัน้ ตอน 2.2 ดา้ นสังคม : - เดก็ สามารถทำงานรว่ มกับผู้อ่ืนได้ - เด็กแสดงความคิดเหน็ ของตนเองและยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อนื่ - เด็กๆปฏบิ ัติตนตามข้อตกลงได้ 2.3 ด้านอารมณ์ – จิตใจ : - เด็กมีความสุขกบั การท่ีไดท้ ำการทดลองด้วยตนเอง 2.4 ด้านการเคล่ือนไหว : - เดก็ ๆเคลื่อนไหวหยบิ จบั อุปกรณ์ในการทดลอง - เด็กสามารถใช้ประสาทสัมผสั ในการสงั เกตดว้ ยตัวเองจนได้ขอ้ มูลทชี่ ดั เจน

78 ภาคผนวก

79

80

81


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook