Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ระบบต่างๆในร่างกายNEW1

ระบบต่างๆในร่างกายNEW1

Published by nkaewklum, 2019-02-26 11:04:48

Description: ระบบต่างๆในร่างกายNEW1

Keywords: ระบบ,ย่อยอาหาร,หายใจ,ระบบต่างๆ,ขับถ่าย

Search

Read the Text Version

ระบบตา่ งๆ ในร่างกาย

คานา หนังสืออิเลก็ ทรอนกิ ส์ฉบบั นจ้ี ดั ทาข้ึนเพ่อื เผยแพร่ ความรู้เกย่ี วกับระบบตา่ งๆในร่างกาย กระบวนการของ ระบบตา่ งๆ ในร่างกาย เพื่อใหผ้ ูท้ ่ีสนใจสามารถอธบิ าย และเขา้ ใจระบบตา่ งๆ ในร่างกายไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง การผลติ ส่ืออเิ ลก็ ทรอนกิ ส์น้ที าขึ้นเพ่ือให้ผู้เรียนได้ ศกึ ษาหาความรู้ ค้นควา้ เพิม่ เตมิ จากที่ได้เรียนในหอ้ ง และ มิไดม้ งุ่ หวังเพ่อื การคา้ หรอื ธรุ กิจใดๆ นันทนา แกว้ กลุ่ม ผูจ้ ดั ทา

สารบญั หนา้ ก เรือ่ ง ข คานา 1 สารบญั 2 แบบทดสอบกอ่ นเรียน 3 ระบบต่างๆในรา่ งกายมนุษย์ 4 ระบบย่อยอาหาร 6 ระบบหายใจ 8 ระบบหมนุ เวียนเลือด 11 ระบบขับถา่ ย 18 สรุปความรู้ 19 แบบทดสอบหลังเรียน 20 เฉลยแบบทดสอบ บรรณานุกรม

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 1.อวยั วะใด อยูใ่ นระบบหายใจ ก. กระเพาะอาหาร ข. ลาไส้เลก็ ค. ปอด ง. ทวารหนัก 2.อวัยวะใด อยู่ในระบบย่อยอาหาร ก. ดวงตา ข. ปอด ค. จมูก ง. กระเพาะอาหาร 3.อวัยวะใดทีช่ ว่ ยทาให้การไหลเวียนของเลือดในร่างกายไหลไปในทศิ ทาง เดยี ว ก. หวั ใจ ข. ล้ินหวั ใจ ค. ปอด ง. หลอดเลือดแดงและหลอดเลอื ดดา 4. การหายใจถูกควบคมุ โดย ก. จมูก ข. หลอดลม ค. ปอด ง. กระบังลม 5. การหายใจเข้า ลักษณะของกระบังลมเป็นอยา่ งไร ก. กระบังลมหดตัว ข. กระบังลมคลายตวั ค. กระบงั ลมคงท่ี ง. กระบงั ลมทางานแผว่ ลง

ระบบตา่ งๆ ในรา่ งกาย ภายในรา่ งกายของเรามอี วยั วะหลายอวยั วะทท่ี าหน้าท่ี รว่ มกนั อวัยวะกลุ่มที่ทาหนา้ ท่ีร่วมกันเรยี กวา่ ระบบอวัยวะ ซึ่งมอี ยู่หลายระบบ ส่วนในระดับช้ันประถมศึกษาปที ่ี6 น้ี เรา จะสนใจเพียง 4 ระบบ ดงั น้ี 1.ระบบยอ่ ยอาหาร 2.ระบบหมุนเวยี นเลอื ด 3.ระบบหายใจ 4.ระบบขบั ถา่ ย

ระบบยอ่ ยอาหาร สว่ นตา่ งๆของระบบทางเดินอาหาร 1.ช่องปาก ภายในประกอบด้วย ฟัน ท่มี ีหนา้ ทใ่ี นการบดเคยี้ วอาหาร ลน้ิ มีหนา้ ที่ในการคลกุ เคลา้ อาหาร 2.หลอดอาหาร ประกอบขน้ึ ดว้ ยกล้ามเนือ้ เรยี บทส่ี ามารถบีบตวั เปน็ จังหวะในขณะทีอ่ าหารผ่านลงมา ในสว่ นนี้ไม่มกี ารสร้างน้ายอ่ ยแต่หลั่ง สารเมอื กช่วยหล่อลนื่ 3.กระเพาะอาหาร ประกอบขน้ึ ด้วยกลา้ มเนอ้ื เรยี บท่ีอัดกันหนามาก ช่วยในการบดอาหารให้มีขนาดเลก็ ลงอกี แต่ยังไมส่ ามารถดูดซึมได้ 4.ลาไส้เล็ก เปน็ ทางเดนิ อาหารสว่ นท่ียาวมากผนังลาไสเ้ ลก็ สามารถ สรา้ งนา้ ย่อยขึน้ มาได้ และยังไดร้ ับนา้ ย่อยจากตับอ่อนและน้าดีจากตบั ในส่วนน้สี ามารถยอ่ ยคารโ์ บไฮเดรต โปรตีนและไขมนั ได้ 5.ลาไส้ใหญ่ เปน็ ทางเดนิ อาหารสว่ นสดุ ท้าย ซึ่งไมม่ ีการย่อยเกิดข้ึน จงึ ทาหนา้ ทใ่ี นด้านการดูดซมึ น้า เกลือแรแ่ ละวิตามนิ บางชนิด

ระบบหายใจ มนุษย์ทกุ คนตอ้ งหายใจเพอื่ มีชีวิตอยู่ การหายใจเขา้ อากาศผ่านไป ตามอวัยวะของระบบหายใจตามลาดบั ดังนี้ 1.จมูก เปน็ ส่วนท่ียนื่ ออกมาจากตรงก่งึ กลางของใบหนา้ มีลักษณะ เป็นรูปสามเหลย่ี มพรี ะมดิ จมูกทาหนา้ ท่เี ปน็ ทางผ่านของอากาศที่หายใจ เขา้ ไปยังชอ่ งจมูกและกรองฝนุ่ ละอองดว้ ย 2.ท่อลม ทาหนา้ ทเ่ี ปน็ ทางเข้าออกของอากาศตอ่ จากจมูก ทปี่ ลาย ดา้ นลา่ งสุดของทอ่ ลมจะแตกออกเปน็ 2 ท่อ แต่ละท่อจะตดิ กบั ปอดทา ใหอ้ ากาศเคลอ่ื นท่เี ข้าสู่ปอดได้ 3.ปอด เป็นที่รวมของถงุ ลมเล็กๆ จานวนมาก ทาหน้าที่ แลกเปล่ยี นแก๊ส ถา้ แกส๊ ออกซิเจนในถงุ ลมมีความเขม้ ข้นมากกว่าใน หลอดเลอื ดจะแพรเ่ ขา้ สูก่ ระแสเลือดและถา้ แกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์ใน กระแสเลือดมคี วามเขม้ ขน้ มากกว่าในถงุ ลมจะแพร่เข้าสู่ถุงลม

ระบบหายใจ(ตอ่ ) 4.กระบงั ลมและซ่ีโครง เปน็ กลไกในการหายใจคือขณะที่ปริมาณ แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ในกระแสเลอื ดมีปริมาณมาก สมองจะ สั่งงานมายงั กระบงั ลมและซี่โครงให้กระบังลมหดตวั และซ่ีโครงเคลือ่ น ตัวสูงขนึ้ ทาใหเ้ กิดการหายใจเขา้ หรือขณะที่กระบงั ลมขยายตวั และ ซ่โี ครงเคลื่อนตัวตา่ ลงทาให้เกดิ การหายใจออก กลไกการทางานของระบบหายใจ การหายใจเข้า กะบงั ลมจะเลื่อนตา่ ลง กระดูกซโี่ ครงจะเลอื่ น สูงข้ึน ทาให้ปรมิ าตรของช่องอกเพมิ่ ขึน้ ความดันอากาศในบรเิ วณ รอบ ๆ ปอดลดต่าลงกว่าอากาศภายนอก อากาศภายนอกจึงเคลอื่ น เขา้ สูจ่ มูก หลอดลม และไปยงั ถุงลมปอด การหายใจออก กะบังลมจะเล่ือนสูง กระดูกซ่ีโครงจะเล่อื น ต่าลง ทาใหป้ ริมาตรของชอ่ งอกลดนอ้ ยลง ความดนั อากาศในบริเวณ รอบ ๆ ปอดสูงกวา่ อากาศภายนอก อากาศภายในถุงลมปอดจงึ เคล่อื นที่จากถงุ ลมปอดไปสู่หลอดลมและออกทางจมูก

ระบบหมนุ เวยี นโลหติ 1. เลือด ประกอบดว้ ยน้าเลอื ด หรือ พลาสมาและเมด็ เลอื ดซึ่งประกอบดว้ ย เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดแดง มีสว่ นประกอบ สว่ นใหญ่เปน็ โปรตีนและเหลก็ มีชอื่ เรยี กว่าเฮโมโกลบนิ ก๊าซออกซเิ จน จะ รวมตัวกบั เฮโมโกลบนิ แล้วลาเลยี งไปใช้ ยงั สว่ นตา่ งๆ ของรา่ งกาย เมด็ เลือดขาว ผลิตโดยมา้ ม จะทา หน้าทต่ี ่อสู้กับเชอ้ื โรคที่จะเขา้ สู่ร่างกาย สว่ นเกล็ดเลือดจะเปน็ ตัวชว่ ยใหเ้ ลอื ด แข็งตวั เม่ือเกิดบาดแผล น้าเลือด ประกอบดว้ ยน้าประมาณ รอ้ ยละ 91 ทเ่ี หลอื เป็นสารอาหารต่างๆ เช่น โปรตนี วิตามิน แร่ธาตุ เอนไซม์ และก๊าซ

ระบบหมนุ เวียนโลหิต(ตอ่ ) 2.เส้นเลือด คือทอ่ ท่ีเปน็ ทางใหเ้ ลอื ดไหลเวียนในรา่ งกายซึง่ มี 3 ระบบ คือเสน้ เลอื ดแดง เสน้ เลอื ดดา และเสน้ เลอื ดฝอย 3.หวั ใจ ต้งั อยู่ในทรวงอกระหวา่ งปอดทั้งสองข้างเอียงไป ทางซ้ายของแนวกลางตัว ประกอบด้วยกลา้ มเนื้อทแี่ ขง็ แรงภายในมี 4 ห้อง หวั ใจห้องบนซ้ายมีหน้าที่ รบั เลอื ดทผี่ า่ นการฟอกท่ีปอด หัวใจห้องบนขวามีหน้าที่ รับเลอื ดที่ร่างกายใช้แลว้ หวั ใจหอ้ งลา่ งขวามหี นา้ ที่ สูบฉดี เลือดไปฟอกทปี่ อด หัวใจหอ้ งล่างซา้ ยมหี น้าที่ สูบฉดี เลอื ดไปเลย้ี งสว่ นต่างๆ ของ ร่างกาย

ระบบขับถา่ ย การกาจดั ของเสยี ออกทางผวิ หนงั ในรูของเหงอื่ เหงอ่ื ประกอบไป ด้วยน้าเป็นสว่ นใหญ่ เหงอ่ื จะถูกขับออกจากร่างกายทางผิวหนงั โดย ผ่านต่อมเหง่ือซึง่ อยู่ใตผ้ ิวหนงั ต่อมเหง่อื มี 2 ชนิด คือ 1.ตอ่ มเหงอ่ื ขนาดเลก็ มอี ยูท่ วั่ ผวิ หนังในรา่ งกาย ยกเวน้ ท่า รมิ ฝปี ากและอวัยวะสบื พันธ์ุ ต่อมเหง่อื ขนาดเลก็ มีการขับเหงอื่ ออกมา ตลอดเวลา เหง่ือท่อี อกจากตอ่ มขนาดเลก็ นี้ประกอบด้วยนา้ ร้อยละ99 สาร อ่ืนๆร้อยละ 1 ไดแ้ ก่ เกลือโซเดยี ม และยูเรยี 2.ตอ่ มเหงอื่ ขนาดใหญ่ จะอยู่ท่ีบริเวณรักแร้ รอบ หวั นม รอบสะดอื ชอ่ งหูส่วนนอก อวยั วะเพศบางส่วน ตอ่ มนม้ี ที อ่ ขับถ่ายใหญก่ วา่ ชนิดแรกต่อมนจ้ี ะตอบสนองทางจติ ใจ สารที่ขับถ่ายมกั มี กลนิ่ ซ่งึ ก็คือกลิน่ ตัวเหงื่อจะถูกลาเลยี งไปตามท่อทเ่ี ปดิ อยู่ท่ีเรียกวา่ รู เหงอ่ื

ระบบขบั ถา่ ย(ตอ่ ) การกาจดั ของเสยี ออกทางไต ไต เปน็ อวยั วะที่ลักษณะคล้ายถว่ั มีขนาดประมาณ 10 กวา้ ง 6 เซนติเมตรและหนาประมาณ 3 เซนตเิ มตร มีสีแดงแกมนา้ ตาลมเี ย่อื หมุ้ บางๆ ไตมี 2 ข้างซา้ ยและขวา บรเิ วณด้านหลังของชอ่ งท้องใกล้ กระดูกสันหลังบรเิ วณเอว บรเิ วณสว่ นทเ่ี วา้ เป็นกรวยไต มหี ลอดไต ตอ่ ไปยังมกี ระเพาะปสั สาวะ เป็นอวยั วะท่ที างานหนกั วนั หนึ่งๆเลอื ดท่ีหมุนเวียนในรา่ งกาย ต้องผ่านมายงั ไตประมาณ 1200 มลิ ลิลิตรหรอื วันละ 180 ลติ ร ไตจะ ขบั ของเสียมาในรูปของน้าปัสสาวะ แลว้ ส่งตอ่ ไปยงั กระเพาะปสั สาวะ มีความจุประมาณ 500 ลูกบาศก์เซนตเิ มตร รา่ งกายจะรู้สกึ ปวด ปัสสาวะเม่ือนา้ ปัสสาวะไหลสูก่ ระเพาะปสั สาวะประมาณ 250 ลูกบาศกเ์ ซนตเิ มตร ใน 1 วนั คนเราจะขบั ปัสสาวะออกมาประมาณ 1 – 1.5 ลิตร

ระบบขับถา่ ย(ตอ่ ) การกาจดั ของเสียออกทางลาไสใ้ หญ่ การกาจดั ของเสยี ทางปอด กากอาหารที่เหลอื จากการย่อย กา๊ ซคารบ์ อนไดออกไซด์ จะถูกลาเลยี งผา่ นมาที่ลาไส้ใหญ่ กา๊ ซและนา้ ซ่ึงเกดิ จากการเผา โดยลาไส้ใหญจ่ ะทาหนา้ ท่ีสะสมกาก ผลาญอาหารภายในเซลลจ์ ะถูกส่ง อาหารและจะดูดซมึ สารอาหารท่ีมี เข้าสูเ่ ลือด จากน้นั หัวใจจะสบู ประโยชน์ตอ่ รา่ งกายไดแ้ ก่ นา้ เลอื ดทีม่ กี า๊ ซคารบ์ อนไดออกไซด์ แร่ธาตุ วิตามนิ และกลูโคส ไปไวท้ ี่ปอด จากนั้นปอดจะทา ออกจากกากอาหาร ทาใหก้ าก การกรองกา๊ ซคารบ์ อนไดออกไซด์ อาหารเหนียวและขน้ จนเป็นกอ้ น เกบ็ ไว้ แลว้ ขับออกจากร่างกาย แขง็ จากน้ันลาไส้จะบบี ตวั เพ่อื ให้ โดยการหายใจออก กากอาหารเคลอื่ นที่ไปรวมกนั ที่ ลาไส้ตรงและขับถ่ายสภู่ ายนอก รา่ งกายทางทวารหนักที่เรียกว่า อุจจาระ

สรปุ ความรรู้ ะบบตา่ งๆ ในร่างกาย ระบบยอ่ ยอาหาร อวยั วะทีเ่ ป็นทางเดนิ อาหาร ทาหนา้ ท่ีในการรบั และสง่ อาหารโดย เร่มิ จาก ปาก คอหอย หลอด กระเพาะ ลาไส้เลก็ ลาไส้ ทวาร อาหาร ใหญ่ หนัก

สรปุ ความรรู้ ะบบตา่ งๆ ในรา่ งกาย(ตอ่ ) ระบบหายใจ การหายใจ เปน็ การนาอากาศเขา้ และออกจากรา่ งกาย ส่งผลใหแ้ กส๊ ออกซเิ จนทาปฏิกริ ยิ ากบั สารอาหารได้พลังงาน น้า และแกส๊ คารบ์ อนได ออกไซต์ กระบวนการหายใจเกิดข้ึนกับทกุ เซลลต์ ลอดเวลา การหายใจ จาเป็นตอ้ งอาศยั โครงสร้าง 2 ชนดิ คือ กล้ามเนือ้ กะบงั ลม และกระดูก ซโ่ี ครง ซึ่งมกี ลไกการทางานของระบบหายใจ ดังนี้ กลไกการทางานของระบบหายใจ 1. การหายใจเข้า กะบังลมจะเล่ือนต่าลง กระดูกซ่โี ครงจะเลอื่ น สงู ข้ึน ทาใหป้ ริมาตรของช่องอกเพ่ิมขึ้น ความดันอากาศในบริเวณรอบ ๆ ปอดลดต่าลงกวา่ อากาศภายนอก อากาศภายนอกจงึ เคลือ่ นเขา้ สูจ่ มูก หลอดลม และไปยงั ถุงลมปอด 2. การหายใจออก กะบงั ลมจะเลื่อนสูง กระดูกซโี่ ครงจะเล่ือนตา่ ลง ทาให้ปริมาตรของช่องอกลดน้อยลง ความดนั อากาศในบรเิ วณรอบ ๆ ปอดสูงกวา่ อากาศภายนอก อากาศภายในถุงลมปอดจงึ เคลอ่ื นทีจ่ ากถุงลม ปอดไปสหู่ ลอดลมและออกทางจมูก

สรปุ ความรรู้ ะบบตา่ งๆ ในรา่ งกาย(ตอ่ ) วงจรการไหลเวยี นเลอื ด วงจรการไหลเวียนเลือด เริม่ จากหัวใจห้องบนซา้ ยรบั เลอื ดท่ีมี ปริมาณออกซิเจนสูงจากปอดแลว้ บบี ตัวดนั ผ่านลนิ้ หวั ใจลงสู่หวั ใจ ห้องล่างซา้ ยแลว้ บบี ตวั ดนั เลอื ดไปยงั ส่วนตา่ งๆของร่างกายและ เปล่ียนเป็นเลอื ดที่มคี าร์บอนไดออกไซด์สูงหรือเลือดดาไหลผ่าน หลอดเลือดดาหัวใจห้องบนขวาแลว้ บบี ตวั ดันผา่ นลิ้นหัวใจลงสูห่ ้อง ล่างขวา แล้วกลับเขา้ สู่ปอดเพ่ือแลกเปลีย่ นแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ให้เปน็ แก๊สออกซิเจน เปน็ วัฎจกั รการหมนุ เวียนเลือดในร่างกาย เชน่ น้ีตลอดไป การไหลเวยี นเลอื ดภายในหวั ใจ

สรปุ ความรรู้ ะบบตา่ งๆ ในร่างกาย(ตอ่ ) ระบบการขับถา่ ยของเสยี การกาจดั ของเสยี ทางไต ไตทาหนา้ ที่กาจดั ของเสยี ในรูปของนา้ ปัสสาวะมี 1 คู่ รูปรา่ ง คล้ายเมลด็ ถัว่ ดา อยู่ในชอ่ งทอ้ งสองข้างของกระดูกสนั หลังระดับเอว ถ้าผ่าไตตามยาวจะพบว่าไตประกอบดว้ ยเน้อื เยอ่ื 2 ช้นั คือเปลือกไต ช้นั นอกกบั เปลอื กไตชนั้ ในมขี นาดยาวประมาณ 10 เซนตเิ มตร กวา้ ง 6 เซนตเิ มตร หนา 3 เซนตเิ มตร บริเวณตรงกลางของไตมีส่วนเว้า เป็นกรวยไต มหี ลอดไตตอ่ ไปยังกระเพาะ สว่ นของเสียท่ไี ดจ้ ะอยู่ใน รูปน้าปัสสาวะ

สรุปความรรู้ ะบบตา่ งๆ ในรา่ งกาย(ตอ่ ) การกาจดั ของเสยี ทางผวิ หนงั เหง่อื ประกอบดว้ ยน้าเป็นส่วนใหญ่ และมีสารอน่ื ๆ บ้างชนดิ ปน อยู่ด้วย เชน่ เกลือโซเดยี มคลอไรด์ ยูเรีย เปน็ ตน้ เหง่อื จะถูกขบั ออก จากร่างกายทางผิวหนงั โดยผา่ นทาวต่อมเหงือ่ ซึ่งมีอยู่ทว่ั รา่ งกายใต้ผวิ หนัง ตอ่ มเหงือ่ ของคนเราแบง่ ได้เป็น 2 ชนดิ คือ 1. ตอ่ มเหงอ่ื ขนาดเล็ก มอี ยูท่ ่ีผวิ หนงั ทว่ั ทุกแหง่ ของร่างกายยกเว้นที่ ริมฝีปากและทอ่ี วัยวะสบื พนั ธุ์บางส่วน 2. ตอ่ มเหง่อื ขนาดใหญ่ ไมไ่ ดม้ อี ยูท่ ่วั รา่ งกาย พบไดเ้ ฉพาะบางแห่ง ได้แก่ รักแร้ รอบหวั นม รอบสะดือ ช่องหูสว่ นนอก จมูก อวยั วะ สบื พันธ์ุบางส่วน

สรปุ ความรรู้ ะบบตา่ งๆ ในร่างกาย(ตอ่ ) การกาจดั ของเสยี ทางลาไส้ใหญ่ หลังจากการยอ่ ยอาหารเสรจ็ สิน้ ลง อาหารส่วนทีเ่ หลอื และส่วน ท่ีรา่ งกายไมส่ ามารถยอ่ ยได้จะถูกกาจัดออกจากรา่ งกายทางลาไส้ใหญ่ (ทวารหนัก) ในรูปรวมท่เี รยี กว่า “อุจจาระ” ถา้ อุจจาระตกค้างอยู่ในลาไสใ้ หญ่หลายวัน ผนงั ลาไสใ้ หญ่จะดูด น้ากลบั เขา้ ไปในเส้นเลอื ด ทาให้อจุ จาระแข็งเกิดความยากในการ ขับถา่ ย เรียกว่า “ท้องผูก” การรับประทานอาหารท่มี กี ากใยอาหารนอ้ ยเกนิ ไป กินอาหาร รสจัด ถ่ายไม่เปน็ เวลา เครียด สูบบหุ รีจ่ ัด ด่ืมนา้ ชาหรอื กาแฟมาก เกนิ ไป ควรทานอาหารทมี่ ีใยอาหาร ไดแ้ ก่ พชื ผักต่างๆ ใยอาหาร นอกจากจะไมท่ าใหท้ ้องผูกแลว้ ยงั ชว่ ยลดสารพิษต่างๆ ทาให้สารพิษ ผา่ นลาไส้ใหญ่ไปอย่างรวดเร็ว ปอ้ งกนั โรคมะเรง็ ลาไสใ้ หญ่

สรปุ ความรรู้ ะบบตา่ งๆ ในร่างกาย(ตอ่ ) การกาจดั ของเสยี ทางปอด ของเสยี ที่ถูกกาจดั ออกนอกรา่ งกายทางปอด ไดแ้ ก่ น้าและ แกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์ ซงึ่ เกดิ ขึ้นจากกระบวนการหายใจของเซลล์ ต่างๆ ในร่างกาย ขนั้ ตอนในการกาจัดของเสยี ออกจากร่างกายทางปอด มดี ังน้ี 1.นา้ และแกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์ท่ีเกิดขึน้ แพร่ออกจากเซลล์ เข้าสู่หลอดเลือด โดยจะละลายปนอยูใ่ นเลอื ด 2.เลอื ดทม่ี ีของเสยี ละลายปนอยู่จะถูกลาเลยี งส่งไปยังปอด โดยการลาเลยี งผ่านหัวใจเพอ่ื สง่ ต่อไปแลกเปลยี่ นแก๊สที่ปอด 3.เลือดทมี่ ขี องเสียละลายปนอยู่เมื่อไปถงึ ปอด ของเสยี ตา่ งๆท่ี สะสมอยู่ในเลอื ดจะแพรผ่ า่ นผนังของหลอดเลอื ดเข้าสูถ่ งุ ลมของปอด แลว้ ลาเลียงไปตามหลอดลม เพ่อื กาจดั ออกจากร่างกาย ทางจมกู พรอ้ มกบั ลมหายใจออก

แบบทดสอบหลังเรยี น 1.อวัยวะใด อยู่ในระบบหายใจ ก. กระเพาะอาหาร ข. ลาไสเ้ ลก็ ค. ปอด ง. ทวารหนัก 2.อวัยวะใด อยูใ่ นระบบยอ่ ยอาหาร ก. ดวงตา ข. ปอด ค. จมูก ง. กระเพาะอาหาร 3.อวยั วะใดทช่ี ว่ ยทาให้การไหลเวยี นของเลอื ดในรา่ งกายไหลไปในทศิ ทาง เดียว ก. หัวใจ ข. ลิ้นหัวใจ ค. ปอด ง. หลอดเลือดแดงและหลอดเลือดดา 4. การหายใจถูกควบคมุ โดย ก. จมูก ข. หลอดลม ค. ปอด ง. กระบังลม 5. การหายใจเข้า ลักษณะของกระบังลมเป็นอย่างไร ก. กระบงั ลมหดตวั ข. กระบังลมคลายตัว ค. กระบังลมคงที่ ง. กระบังลมทางานแผ่วลง

เฉลยแบบทดสอบ 1.ค 2.ง 3.ข 4.ง 5.ก

บรรณานกุ รม _______.[นามแฝง].ระบบอวยั วะในรา่ งกาย.(สบื คน้ เม่ือวันท:ี่ 26/02/2562).เข้าถึงไดจ้ าก:https://sites.google.com ภทั รลดา เอย่ี มพนั ธและคณะ.ระบบหายใจ.(สบื ค้นเม่ือ วนั ท:่ี 26/02/2562).เข้าถึงไดจ้ าก:https://sites.google.com วริ ชั ชัย ทอดเสียง.ระบบขบั ถา่ ย.(สบื คน้ เมือ่ วันท:่ี 26/02/2562). เข้าถึงได้จาก:http://www.bwc.ac.th อุทมุ พร แสนส.ี ร่างของเรา.(สบื ค้นเมือ่ วันท:่ี 26/02/2562). เข้าถึงได้จาก : http://www.med.cmu.ac.th Natthawan Janngam.(2014). สรุประบบหายใจ . สบื ค้นเมอ่ื วันท:่ี 26/02/2562).เข้าถงึ ได้จาก : http://www.krusarawut.net

ผูจ้ ดั ทา ชือ่ : นางสาวนันทนา แก้วกล่มุ ตาแหนง่ : ครูผู้สอน สถานทที่ างาน : โรงเรยี นเซนต์โยเซฟแมร่ ะมาด จ.ตาก รหัสนักศึกษา : 61941900512


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook