Best Practice ศูนย์ฝึ กอาชีพชุมชน (ช้ันเรียนวชิ าชีพ) หลกั สูตร การสานตะกร้าจากเชือกมดั ฟาง ระหว่างวนั ท่ี 27 กรกฎาคม – 5 สิงหาคม 2563 กศน.ตาบลบ้านม้า ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอบางไทร จงั หวดั พระนครศรีอยุธยา ประจาปี งบประมาณ 2563 ไตรมาส 3-4
บันทกึ ข้อความ สว่ นราชการ ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอบางไทร ท่ี ศธ ๐๒๑๐.๔๘๐๕/ วนั ที่ เดือน สงิ หาคม ๒๕๖๓ เรือ่ ง รายงานผลการจัดทาผลการปฎบิ ตั งิ านทีด่ ี Best Practice ศนู ยฝ์ กึ อาชพี ชุมชน (ชนั้ เรยี นวิชาชีพ) หลกั สูตรการสานตะกร้าจากเชือกมัดฟาง ............................................................................................................................. .......................................................... เรยี น ผอู้ านวยการศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอบางไทร ตามท่ีผู้อานวยการศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอบางไทร ได้อนุมัติ ศูนย์ฝกึ อาชพี ชมุ ชน (กลุ่มสนใจ) หลกั สตู รการสานตะกร้าจากเชือกมัดฟาง กศน.ตาบลบ้านมา้ ได้ดาเนินการจดั ทาผลการปฎิบัตงิ านที่ดี Best Practice ศูนยฝ์ ึกอาชีพชุมชน (ช้ันเรียนวิชาชีพ) หลักสูตรการสานตะกร้าจากเชือกมัดฟาง หลักสูตร ๔๐ ชั่วโมง ระหว่างวันท่ี ๒๗ กรกฎาคม – ๕ สิงหาคม ๒๕๖๓ ณ กศน.ตาบลบ้านม้า หมู่ที่ ๓ ตาบบ้านม้า อาเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มผี ู้เขา้ รว่ มโครงการ จานวน ๑๔ คน เอกสารดังแนบมาพร้อมน้ี จึงเรียนมาเพ่ือโปรดทราบ (นางสาวสรินทร โกษะ) ครู ศูนย์การเรยี นชมุ ชน ทราบ อื่น ๆ (นางสาววริศรา คานงึ ธรรม) ผูอ้ านวยการ กศน.อาเภอบางซา้ ย รักษาการในตาแหน่ง ผ้อู านวยการ กศน.อาเภอบางไทร
1. ชอ่ื โครงการ ศูนย์ฝึกอาชีพชมุ ชน (ชนั้ เรยี นวิชาชีพ) หลักสูตรการสานตะกร้าจากเชอื กมัดฟาง 2. นางสาวสรนิ ทร โกษะ ตาแหน่ง ครูศูนย์การเรียนชมุ ชน รับผิดชอบ กศน.ตาบลบา้ นม้า 3. ความเป็นมา สืบเนื่องจากกระทรวงศึกษาธิการได้จัดทาแผนยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ.2561 - 2580 และได้กาหนดบทบาท หน้าที่ของสานักงาน กศน ตามนโยบายและจุดเน้นการดาเนินงานของสานักงาน กศน. ยุทธศาสตร์ท่ี 3 ด้านการ พัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคนให้มีคุณภาพ 3.1 เร่งรัดดาเนินการจดั การศึกษาอาชีพเพื่อยกระดับทักษะอาชีพของ ประชาชนสู่ฝีมือแรงงาน 1) จัดการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทาที่สอดคล้องกับศักยภาพของชุมชน และความ ต้องการของตลาด ใหป้ ระชาชนสามารถนาไปประกอบอาชีพได้ (2) บูรณาการความร่วมมือในการพัฒนาฝีมือแรงงาน กับสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ผ่านศูนย์ประสานงานการผลิตและพัฒนากาลังคนอาชีวศึกษาภาคท่ัว ประเทศ เพ่ือมุ่งพัฒนาทักษะของประชาชนโดยใช้ประโยชน์จากศักยภาพและภูมิสงั คมเฉพาะของพ้ืนท่ี ยุทธศาสตร์ท่ี 4 ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา 4.5 พัฒนาหลักสูตรการจัดการศึกษาอาชีพระยะส้ัน ให้มี ความหลากหลาย ทันสมยั เหมาะสมกบั บรบิ ทของพืน้ ที่ และตอบสนองความตอ้ งการของประชาชนผรู้ บั บรกิ าร เพื่อใหก้ ารดาเนนิ งานแผนยุทธศาสตรด์ า้ นการพฒั นาและเสรมิ สร้างศักยภาพคนใหม้ ีคณุ ภาพบรรลผุ ลสาเรจ็ สู่ วิสัยทัศน์ กระทรวงศึกษาธิการจึงกาหนดวิสัยทัศน์ของประเทศ คือ ประเทศไทยมีความมั่นคง ม่ังค่ัง ยั่งยืน เป็น ประเทศที่พัฒนาแล้วด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และกาหนดเป้าหมายการพัฒนาประเทศ คือ ประเทศชาติม่ันคง ประชาชนมีความสุข เศรษฐกิจพัฒนาอย่างต่อเน่ือง สังคมเป็นธรรมฐานทรัพยากรธรรมชาติ ยั่งยืน โดยยกระดับศักยภาพของประเทศในหลากหลายมิติ พัฒนาคนในทุกมิติ และในทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี คนเก่ง และมีคณุ ภาพ สร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสงั คมสร้างการเตบิ โตบนคุณภาพชวี ิต ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอบางไทร เห็นว่าเป็นการส่งเสริมสนับสนุนการ ดาเนินงานของศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของกระทรวงศึกษาธิการ และแนวทางการขับเคล่ือ น การศึกษาของสานักงาน กศน. โดยเฉพาะใน ๕ กลุ่มอาชีพใหม่ ซึ่งเป็นบทบาทของสถานศึกษา ในการดาเนินการ จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพและการมีงานทาให้สอดคล้องตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมายและศักยภาพของ พน้ื ที่ กศน.ตาบลบา้ นมา้ จงึ ได้จัดทาศูนยฝ์ กึ อาชีพชุมชน (ชนั้ เรยี นวิชาชพี ) หลักสตู รการสานตะกร้าจากเชือกมดั ฟาง ขนึ้ 4. วตั ถุประสงค์ 1. เพื่อใหป้ ระชาชนผรู้ ับบรกิ ารมีความรคู้ วามเข้าใจการสานตะกร้าจากเชอื กมดั ฟาง 2. เพอื่ ใหป้ ระชาชนผู้รบั บริการมที กั ษะและมองเหน็ ชอ่ งทางการสานตะกร้าจากเชอื กมัดฟาง
5. กิจกรรม/วธิ ีการ/ขัน้ ตอนที่สาคัญ วิทยากรบรรยายความรูเ้ ก่ยี วกับ จดั กจิ กรรม ให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายในตาบลบา้ นม้า ได้แก่ 1. วทิ ยากรบรรยายใหค้ วามรู้ในเรื่องต่อไปน้ี 1.1 ความปลอดภยั ในการทางาน 1.2 การใชเ้ ครือ่ งมือและอปุ กรณ์ 1.3 วัสดุ-อปุ กรณ์ ทใี่ ชใ้ นการสานตะกร้าจากเชือกมดั ฟาง 1.4 ความรู้เบอ้ื งต้นในการสานตะกรา้ จากเชือกมัดฟาง 1.5 เทคนิคการสานตะกรา้ จากเชอื กมัดฟาง 2. วทิ ยากรและผู้เรยี นรว่ มกนั แลกเปลย่ี นเรยี นรู้การสานตะกร้าจากเชือกมัดฟาง 3. วิทยากรบรรยายให้ความรู้และสาธิตการสานตะกรา้ จากเชือกมดั ฟาง 4. ผูเ้ รยี น เรยี นรู้และฝึกการสานตะกร้าจากเชอื กมัดฟาง 6. ผลสาเรจ็ 6.1 กลุ่มเปา้ หมายไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ 80 มคี วามรแู้ ละทกั ษะ มองเหน็ ช่องทางในการประกอบอาชพี 6.2 กลมุ่ เปา้ หมายไมน่ อ้ ยกว่าร้อยละ 80 เกิดกระบวนการเรียนรู้ มีการรวมกลมุ่ เพอ่ื พัฒนาอาชีพ 6.3 กลุ่มเป้าหมายไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 เกิดกระบวนการคิดเป็น แก้ปัญหาเป็นในการหาช่องทางการ ขยายอาชีพ 7. สัมฤทธผ์ิ ล/การไดร้ ับการยอมรับ 7.1 ผู้เรยี นมคี วามร้แู ละทักษะ มองเหน็ ช่องทางทาให้เกิดรายไดเ้ สริม สร้างอาชีพใหมเ่ กดิ ข้นึ ภายในตาบล 7.2 ผูเ้ รยี นเกิดกระบวนการเรยี นรู้ มกี ารรวมกลุ่มเพ่อื พัฒนาอาชีพ 7.3 ผเู้ รียนเกดิ กระบวนการคิดเปน็ แกป้ ัญหาเปน็ ในการหาชอ่ งทางการขยายอาชีพ
คานา เอกสาร รายงานผลการดาเนินงาน การจัดและส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ ศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน (ชั้นเรียนวิชาชีพ) หลักสูตรการสานตะกร้าจากเชือกมัดฟาง นี้ จัดทาขึ้นเพ่ือรายงานผลการดาเนินงานด้านการจัด การศึกษาต่อเนื่องของ กศน.ตาบลบ้านม้า ภายใต้การดูแลของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อาเภอบางไทร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบขั้นตอนการดาเนินกิจกรรม ประเมินผลและพัฒนาการดาเนิน กิจกรรมของ กศน.ตาบลบ้านมา้ ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างย่ิงว่า เอกสารรายงานผลการดาเนินงาน การจัดและส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ ศนู ย์ฝกึ อาชพี ชุมชน (ชั้นเรียนวิชาชีพ) หลักสตู รการสานตะกร้าจากเชอื กมัดฟาง นี้ จะเป็นแนวทางในการพัฒนางาน และการจดั กิจกรรมดา้ นการศกึ ษาต่อเน่ืองของ กศน.ตาบลบา้ นมา้ ในโอกาสตอ่ ไป นางสาวสรนิ ทร โกษะ ครู ศูนย์การเรียนชุมชน
สารบัญ หนา้ คานา สารบญั บทท่ี 1 บทนา 1 เหตผุ ลและความจาเปน็ วตั ถปุ ระสงค์ ประโยชนท์ ี่คาดว่าจะไดร้ ับ บทที่ 2 เอกสารทเี่ กีย่ วข้อง 3 ความสาคัญของการจดั และส่งเสริมกระบวนการเรยี นรู้ศูนย์ฝกึ อาชีพชุมชน ที่มาและความสาคัญของหลักสตู ร หลักสตู รการสานตะกร้าจากเชือกมัดฟาง 4 บทที่ 3 วิธกี ารดาเนินงาน 5 บทที่ 4 ผลการดาเนนิ งาน 9 บทท่ี 5 สรปุ อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ 15 วัตถุประสงคก์ ารดาเนนิ งาน วธิ ดี าเนินการ อภิปรายผล ข้อเสนอแนะ และแนวทางในการพัฒนากิจกรรม ภาคผนวก โครงการศนู ย์ฝึกอาชีพชุมชนการเพ่ือการมีงานทา หลกั สตู รการสานตะกรา้ จากเชือกมัดฟาง แบบประเมินความพงึ พอใจ รายช่อื ผเู้ ข้ารว่ มกิจกรรม
บทท่ี 1 บทนา เหตุผลและความจาเปน็ สืบเนื่องจากกระทรวงศึกษาธิการได้จัดทาแผนยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ.2561 - 2580 และได้กาหนดบทบาท หน้าที่ของสานักงาน กศน ตามนโยบายและจุดเน้นการดาเนินงานของสานักงาน กศน. ยุทธศาสตร์ท่ี 3 ด้านการ พฒั นาและเสริมสร้างศักยภาพคนให้มีคุณภาพ 3.1 เร่งรัดดาเนินการจัดการศึกษาอาชีพเพ่ือยกระดบั ทักษะอาชีพของ ประชาชนสู่ฝีมือแรงงาน 1) จัดการศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานทาที่สอดคล้องกับศักยภาพของชุมชน และความ ต้องการของตลาด ให้ประชาชนสามารถนาไปประกอบอาชีพได้ (2) บูรณาการความรว่ มมือในการพัฒนาฝีมือแรงงาน กับสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ผ่านศูนย์ประสานงานการผลิตและพัฒนากาลังคนอาชีวศึกษาภาคท่ัว ประเทศ เพื่อมุ่งพัฒนาทักษะของประชาชนโดยใช้ประโยชน์จากศักยภาพและภูมิสงั คมเฉพาะของพื้นท่ี ยุทธศาสตร์ที่ 4 ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา 4.5 พัฒนาหลักสูตรการจัดการศึกษาอาชีพระยะส้ัน ให้มี ความหลากหลาย ทันสมยั เหมาะสมกบั บรบิ ทของพ้ืนท่ี และตอบสนองความต้องการของประชาชนผู้รับบรกิ าร เพ่อื ใหก้ ารดาเนนิ งานแผนยุทธศาสตร์ด้านการพฒั นาและเสรมิ สรา้ งศักยภาพคนใหม้ ีคณุ ภาพบรรลผุ ลสาเร็จสู่ วิสัยทัศน์ กระทรวงศึกษาธิการจึงกาหนดวิสัยทัศน์ของประเทศ คือ ประเทศไทยมีความม่ันคง ม่ังค่ัง ยั่งยืน เป็น ประเทศท่ีพัฒนาแล้วด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และกาหนดเป้าหมายการพัฒนาประเทศ คือ ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข เศรษฐกิจพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สังคมเป็นธรรมฐานทรัพยากรธรรมชาติ ยั่งยืน โดยยกระดับศักยภาพของประเทศในหลากหลายมิติ พัฒนาคนในทุกมิติ และในทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี คนเก่ง และมีคุณภาพ สร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสงั คมสร้างการเตบิ โตบนคณุ ภาพชีวิต ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอบางไทร เห็นว่าเป็นการส่งเสริมสนับสนุนการ ดาเนินงานของศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของกระทรวงศึกษาธิการ และแนวทางการขับเคล่ือน การศึกษาของสานักงาน กศน. โดยเฉพาะใน ๕ กลุ่มอาชีพใหม่ ซึ่งเป็นบทบาทของสถานศึกษา ในการดาเนินการ จัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาอาชีพและการมีงานทาให้สอดคล้องตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมายและศักยภาพของ พื้นที่ กศน.ตาบลบ้านม้า จึงได้จัดทาศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน (ช้ันเรียนวิชาชีพ) หลักสูตรการสานตะกร้าจากเชือกมัด ฟาง ขน้ึ วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพอ่ื ให้ประชาชนผ้รู บั บรกิ ารมีความรู้ความเข้าใจการสานตะกร้าจากเชอื กมัดฟาง 2. เพ่ือใหป้ ระชาชนผรู้ บั บริการมที กั ษะและมองเห็นช่องทางการสานตะกร้าจากเชอื กมัดฟาง ประโยชนท์ ่ีคาดว่าจะไดร้ ับ 1. เพื่อให้ประชาชนผูร้ บั บริการมีความรูค้ วามเข้าใจการสานตะกร้าจากเชอื กมดั ฟาง 2. เพื่อให้ประชาชนผู้รบั บรกิ ารมที กั ษะและมองเห็นชอ่ งทางการสานตะกร้าจากเชอื กมัดฟาง
บทที่ 2 เอกสารทเ่ี กี่ยวข้อง ศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน (ชั้นเรยี นวิชาชีพ) หลักสูตรการสานตะกร้าจากเชือกมัดฟาง ได้เสนอแนวคิด หลักการ และเอกสารทเี่ กี่ยวข้อง ตามลาดับดงั ตอ่ ไปน้ี 1. ความสาคัญของการจัดและสง่ เสรมิ กระบวนการเรียนรู้ศูนยฝ์ กึ อาชีพชุมชน 2. ท่มี าและความสาคัญของ หลกั สตู รการสานตะกร้าจากเชือกมดั ฟาง 1. ความสาคัญของการจัดและส่งเสริมกระบวนการเรียนรศู้ ูนย์ฝกึ อาชีพชุมชน กจิ กรรมการจัดและสง่ เสริมกระบวนการเรียนรู้ศูนย์ฝึกอาชีพชมุ น ตามนโยบายของสานักงาน กศน. มีลักษณะสาคัญดังนี้ - จัดให้มีศูนย์ฝึกอาชีพอาชีพชุมชนในทุกอาเภอ/เขต อย่างน้อยอาเภอ/เขตละ 3 แห่ง เพ่ือเป็น ศูนย์กลางในการฝึก พัฒนา สาธิตและสร้างอาชีพของผู้เรียนและชุมชน รวมท้ังเป็นท่ีจัดเก็บ แสดง จาหน่ายและ กระจายสนิ คา้ และบรกิ ารของชมุ ชนอย่างเปน็ ระบบครบวงจร - พัฒนาและจัดทาหลักสูตรการศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานทาท่ีสอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน ความต้องการของตลาด และศักยภาพของพ้ืนที่ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้การจัดการศึกษาอาชีพแนวใหม่ เป็นการจัด การศึกษาที่สามารถสร้างอาชีพหลักท่ีมั่นคงให้กับผู้เรียน โดยสามารถสร้างรายได้ได้จริงท้ังในระหว่างเรียนและสาเร็จ การศึกษาไปแล้ว และสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอาชีพ เพื่อพัฒนาให้เป็น ผปู้ ระกอบการทมี่ ีความสามารถเชิงการแขง่ ขนั อย่างย่งั ยืน - ประสานการดาเนนิ งานกับศนู ย์ฝึกอาชีพชุมชนของหน่วยงานและสถานศึกษาต่างๆ ในพืน้ ท่ีเพื่อ เช่ือมโยงเปน็ เครือข่ายการฝกึ และสร้างอาชีพของประชาชนและชุมชนในจังหวดั กลมุ่ จังหวัด และระหว่างจังหวัด - จัดให้มีระบบการประสานงานเพื่อสนับสนุนให้ผู้เรียนสามารถเข้าถึงแหล่งทุนต่างๆ สาหรับเป็น ช่องทางในการเสริมสร้างความเข้มแข็งและการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันด้านอาชีพอย่างต่อเนื่องให้กับ ผเู้ รียน - จัดให้มีการกากับ ติดตาม และรายงานผลการจัดการศึกษาอาชีพเพ่อื การมงี านทาอย่างเป็นระบบ และต่อเน่ืองพร้อมทั้งนาผลท่ีได้มาใช้ในการพัฒนาคุณภาพการดาเนินงานให้เป็นไปตามความต้องการด้านการศึกษา อาชพี เพอื่ การมงี านทาของประชาชนและความต้องการของตลาด
2. ที่มาและความสาคญั ของ หลักสตู รการสานตะกร้าจากเชอื กมดั ฟาง สืบเนื่องจากกระทรวงศึกษาธิการได้จัดทาแผนยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ.2561 - 2580 และได้กาหนดบทบาท หน้าที่ของสานักงาน กศน ตามนโยบายและจุดเน้นการดาเนินงานของสานักงาน กศน. ยุทธศาสตร์ที่ 3 ด้านการ พัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคนให้มีคุณภาพ 3.1 เร่งรัดดาเนินการจดั การศึกษาอาชีพเพื่อยกระดับทักษะอาชีพของ ประชาชนสู่ฝีมือแรงงาน 1) จัดการศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานทาที่สอดคล้องกับศักยภาพของชุมชน และความ ต้องการของตลาด ใหป้ ระชาชนสามารถนาไปประกอบอาชีพได้ (2) บูรณาการความรว่ มมือในการพัฒนาฝีมือแรงงาน กับสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ผ่านศูนย์ประสานงานการผลิตและพัฒนากาลังคนอาชีวศึกษาภาคท่ัว ประเทศ เพ่ือมุ่งพัฒนาทักษะของประชาชนโดยใช้ประโยชน์จากศักยภาพและภูมิสงั คมเฉพาะของพ้ืนที่ ยุทธศาสตร์ท่ี 4 ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา 4.5 พัฒนาหลักสูตรการจัดการศึกษาอาชีพระยะสั้น ให้มี ความหลากหลาย ทันสมัย เหมาะสมกบั บรบิ ทของพนื้ ท่ี และตอบสนองความต้องการของประชาชนผูร้ บั บรกิ าร เพ่อื ใหก้ ารดาเนนิ งานแผนยุทธศาสตร์ด้านการพฒั นาและเสรมิ สร้างศกั ยภาพคนให้มีคุณภาพบรรลผุ ลสาเรจ็ สู่ วิสัยทัศน์ กระทรวงศึกษาธิการจึงกาหนดวิสัยทัศน์ของประเทศ คือ ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็ น ประเทศที่พัฒนาแล้วด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และกาหนดเป้าหมายการพัฒนาประเทศ คือ ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข เศรษฐกิจพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สังคมเป็นธรรมฐานทรัพยากรธรรมชาติ ยั่งยืน โดยยกระดับศักยภาพของประเทศในหลากหลายมิติ พัฒนาคนในทุกมิติ และในทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี คนเก่ง และมีคุณภาพ สร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสงั คมสรา้ งการเตบิ โตบนคณุ ภาพชวี ติ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอบางไทร เห็นว่าเป็นการส่งเสริมสนับสนุนการ ดาเนินงานของศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของกระทรวงศึกษาธิการ และแนวทางการขับเคลื่อน การศึกษาของสานักงาน กศน. โดยเฉพาะใน ๕ กลุ่มอาชีพใหม่ ซึ่งเป็นบทบาทของสถานศึกษา ในการดาเนินการ จัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาอาชีพและการมีงานทาให้สอดคล้องตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมายและศักยภาพของ พื้นที่ กศน.ตาบลบ้านม้า จึงได้จัดทาศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน (ชั้นเรียนวิชาชีพ) หลักสูตรการสานตะกร้าจากเชือกมัด ฟาง ขึ้น
บทท่ี 3 วิธีดาเนินงาน ด้วย กศน.ตาบลบ้านม้า ได้จัดโครงการจัดและส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ ศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน โดยยึด กลุ่มเป้าหมายเป็นสาคัญ ทาให้เนื้อหาตามหลักสูตรระยะเวลาการจัดกิจกรรม สถานท่ี และลักษณะกิจกรรมการ เรียนรู้ข้ึนอยู่กับ ศักยภาพและความพร้อมของกลุ่มเป้าหมาย ซ่ึงเป็นการตอบสนองนโยบายขอสานักงานส่งเสริม การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย ซ่งึ ได้ดาเนนิ การ ดังน้ี ศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน (ชน้ั เรยี นวิชาชีพ) หลกั สตู รการสานตะกร้าจากเชอื กมดั ฟาง (27 กรกฎาคม – 5 สิงหาคม 2563) สาระสาคัญ การสานตะกรา้ ดว้ ยเชอื กฟาง วสั ดอุ ปุ กรณ์ที่ใชผ้ ลติ 1. เชอื กมัดฟาง 2. กรรไกร 3. เข็มเย็บกระสอบ 4. ไฟแชค๊ 5. โครงเหลก็ ทาตะกรา้ หรือลวดขนาดใหญ่ วิธีการคดั เลือกวสั ดุอุปกรณ์ เลอื กเชือกมัดฟางแบบสาเร็จรูปตามขนาดและสที ี่ตอ้ งการ เลอื กโครงเหล็กตะกรา้ ที่ดัดโครงตามขนาดและรูปแบบท่ตี ้องการ วสั ดอุ ปุ กรณ์ท่ีใชผ้ ลติ 1. เชอื กมัดฟาง 2. กรรไกร 3. เขม็ เยบ็ กระสอบ 4. ไฟแช๊ค 5. โครงเหลก็ ทาตะกร้า หรือลวดขนาดใหญ่ วธิ ีการคดั เลอื กวัสดอุ ปุ กรณ์ เลอื กเชอื กมดั ฟางแบบสาเรจ็ รูปตามขนาดและสที ่ีตอ้ งการ เลือกโครงเหลก็ ตะกรา้ ทด่ี ดั โครงตามขนาดและรูปแบบทีต่ ้องการ
ข้นั ตอนวธิ ีการผลติ 1. เริ่มแรกนาเชอื ก 1 เส้นมาตีให้แตกแลว้ นามาพันรอบโครงเหลก็ ตะกร้าให้มิดทั้งใบ 2. ขึ้นขอบของโครงเหลก็ ใหร้ อบทัง้ กน้ และปากของตะกร้า โดยการสานหรือผกู เชอื กมัดฟางแบบผูกไขว้ สลับ ซา้ ยและขวา 3. ร้อยเชือกสานก้นตะกร้า โดยใช้เชือกสอด 1 ช่อง เว้น 1 ช่อง แล้วเอาเชือกสองเส้นคู่หรือส่ีเส้น นามาผูก กันหรือสานใหเ้ ตม็ ส่วนกน้ ตะกรา้ เป็นลายขดั 4. ร้อยเชือกถักข้ึนลายขอบ การถักลวดลาย คือการข้ึนลายของขอบตะกร้าโดยใช้เชือกมัดฟาง ใส่หน่ึงเส้น เวน้ 1 ชอ่ ง จะเป็นหนึ่งตวั ของสี่เสน้ แล้วนามาผกู หรือสานให้เปน็ ลายดอก แล้วจะขนึ้ ลวดลายตามแบบลายท่ตี ้องการ ถกั จนเต็มถึงก้นตะกร้าแล้วมัดติดกับสว่ นล่างของก้นตะกร้า และตัดเชอื กด้วยไฟแช็คเพื่อไม่ให้เชือกลุ่ย ทาการถักสาน จนเสร็จท้งั ใบ 5. ร้อยเชือกถักหูตะกร้า โดยถักเชือกในส่วนของด้านข้างหูจับตะกร้าจะถักเป็นลายเกลียว วิธีคือเร่ิมถักจาก ด้านใดด้านหนึ่งก่อนแล้วลายจะหมุนเป็นลายเกลียว ส่วนด้านบนของตัวจับตะกร้า จะถักสลับซ้ายขวา จะได้เป็นสัน บริเวณขอบหูและนาเชือกมาถักบรเิ วณด้านบนของหจู ับ เป็นลายสันปลาชอ่ น เป็นการเสรจ็ ขัน้ ตอน วัตถุประสงค์ 1. เพ่ือให้ประชาชนผูร้ บั บริการมีความรคู้ วามเข้าใจการสานตะกรา้ จากเชอื กมัดฟาง 2. เพื่อใหป้ ระชาชนผูร้ ับบรกิ ารมีทกั ษะและมองเหน็ ช่องทางการสานตะกรา้ จากเชอื กมัดฟาง กจิ กรรมทดี่ าเนินการ จดั กิจกรรม ใหป้ ระชาชนกลมุ่ เปา้ หมายในตาบลโพแตง ได้แก่ 1. วิทยากรบรรยายใหค้ วามรู้ในเรอื่ งต่อไปนี้ 1.1 ความปลอดภยั ในการทางาน 1.2 การใช้เครือ่ งมือและอปุ กรณ์ 1.3 วสั ดุ-อปุ กรณ์ ทีใ่ ชใ้ นการสานตะกรา้ จากเชอื กมัดฟาง 1.4 ความร้เู บื้องต้นในการสานตะกรา้ จากเชือกมดั ฟาง 1.5 เทคนคิ การสานตะกรา้ จากเชือกมัดฟาง 2. วทิ ยากรและผเู้ รียนรว่ มกันแลกเปลยี่ นเรยี นรู้การสานตะกร้าจากเชอื กมดั ฟาง 3. วทิ ยากรบรรยายให้ความรู้และสาธติ การสานตะกรา้ จากเชอื กมัดฟาง 4. ผเู้ รยี น เรียนรูแ้ ละฝึกการสานตะกร้าจากเชือกมดั ฟาง
ผลทไ่ี ด้รับจากการดาเนินกิจกรรม 1. กลุ่มผู้เรียนร้อยละ 80 มีความรู้และทักษะ มองเห็นช่องทางทาให้เกิดรายได้เสริมสร้างอาชีพ ใหมเ่ กดิ ขน้ึ ภายในตาบล 2. กล่มุ ผูเ้ รยี นร้อยละ 80 เกดิ กระบวนการเรยี นรู้ มีการรวมกล่มุ เพื่อพฒั นาอาชพี 3. กลุ่มผู้เรียนร้อยละ 80 เกิดกระบวนการคิดเป็น แก้ปัญหาเป็น ในการหาช่องทางการขยาย อาชพี
บทที่ 4 ผลการดาเนินงาน จากการสารวจความพึงพอใจ ศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน (ชั้นเรียนวิชาชีพ) หลักสูตรการสานตะกร้าจาก เชือกมัดฟาง กศน.ตาบลบ้านม้า มีผู้เข้าร่วมโครงการ โดยใช้แบบประเมินความพึงพอใจ จานวน 14 ฉบับ และ ไดร้ บั กลับคืนมา จานวน 14 ฉบับ วิเคราะห์ขอ้ มลู โดยใชโ้ ปรแกรม Excel ตามขั้นตอนตา่ ง ๆ ดังตอ่ ไปนี้ 1. วเิ คราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถามตอนท่ี 1 โดยแจกแจงความถีแ่ ละคา่ ร้อยละ 2. วิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถามตอนท่ี 2 โดยหาค่าเฉลี่ย ( X ) แปลความหมายข้อมูลเชิง ปริมาณ ให้ระดับคะแนนในแบบสอบถามทเี่ ป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ตามเกณฑ์ประเมินความคิดเห็น ของเบสท์ (Best. 1981 : 182ดงั นี้ 4.51–5.00 หมายถึงความพงึ พอใจอยใู่ นระดับดีมาก 3.51–4.50 หมายถึงความพึงพอใจอย่ใู นระดับดี 2.51–3.50 หมายถึงความพงึ พอใจอยใู่ นระดบั ปานกลาง 1.51–2.50 หมายถึงความพงึ พอใจอยู่ในระดบั พอใช้ 1.00–1.50 หมายถึงความพงึ พอใจอยู่ในระดบั ปรบั ปรุง 3. วิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถามตอนท่ี3 ข้อมูลท่ีเป็นมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) โดยหาค่าเฉล่ีย (X ) แปลความหมายข้อมูล แปลความหมายข้อมูลเชิงปริมาณ โดยใช้เกณฑ์ข้อ 2 ข้อมูลที่เป็น ความคิดเห็น และข้อเสนอแนะ ใช้วิธีการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) จัดกลุ่มคาตอบ และหาค่าความถ่ี สรปุ ผลการประเมินความพึงพอใจ ศูนยฝ์ ึกอาชีพชุมชน (ชั้นเรยี นวชิ าชีพ) หลักสูตรการสานตะกร้า จากเชอื กมัดฟาง ได้ดังน้ี
ตอนที่ 1 ข้อมูลส่วนตัวของผู้ตอบแบบสอบถาม ตารางท่ี 1 ข้อมูลท่ัวไปของผ้ตู อบแบบสอบถาม จาแนกตาม เพศ อายุ ระดับการศึกษา และอาชีพ ข้อมูลท่ัวไป จานวน รอ้ ยละ เพศ ชาย 0 0.00 หญงิ 14 100.00 อายุ ตา่ กวา่ 15 ปี 0 0.00 15-29 ปี 1 7.14 30-39 0 0.00 40-49 ปี 4 28.57 50-59 3 21.42 60 ปีข้ึนไป 6 42.87 การศกึ ษา ต่ากว่า ป.4 0 0.00 ป.4 3 21.42 ประถมศึกษา 1 7.14 มธั ยมศึกษาตอนตน้ 2 14.38 มธั ยมศึกษาตอนปลาย 7 50.00 อนุปริญญา 0 0.00 ปริญญาตรี 1 7.14 อื่น ๆ 0 0.00 อาชีพ รับจา้ ง 4 28.57 คา้ ขาย 0 0.00 เกษตรกรรม 2 14.28 รบั ราชการ 0 0.00 อนื่ ๆแม่บ้าน/ นักเรยี น 8 57.15 จากตารางท่ี 1 แสดงจานวนผู้ตอบแบบสอบถามท้ังหมด 14 คน เป็นเพศหญิง จานวน 14 คน (คิดเป็นร้อย ละ 100.00) ด้านอายุ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม ส่วนมากอยู่ในช่วงอายุ 60 ปีข้ึนไป จานวน 6 คน (คิดเป็นร้อยละ 42.87) รองลงมาช่วงอายุ 40-49 ปี จานวน 4 คน (คิดเปน็ ร้อยละ 28.57) รองลงมาคือช่วงอายุ 50-59 ปี จานวน 3 คน (คดิ เป็นรอ้ ยละ 21.42) และช่วงอายุ 15-29 ปี จานวน 1 คน (คดิ เป็นรอ้ ยละ 7.14) ตามลาดบั ด้านการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสารวจส่วนมาก มีการศึกษาอยู่ในระดับ ม.ปลาย จานวน 7 คน (คิดเป็น รอ้ ยละ 50.00) รองลงมาระดับ ป.4 จานวน 3 คน (คิดเป็นรอ้ ยละ 21.42) ระดับ ม.ต้น จานวน 2 คน (คิดเป็นรอ้ ย ละ 14.38) ระดบั ประถม และระดบั ปริญญาตรี จานวน 1 คน (คดิ เปน็ ร้อยละ 7.14) (ตามลาดับ)
ด้านอาชีพ พบว่า ผู้ตอบแบบสารวจส่วนมากประกอบอาชีพอ่ืนๆ จานวน 8 คน (คิดเป็นร้อยละ 57.15) รองลงมาอาชีพรับจ้าง จานวน 4 คน (คิดเป็นร้อย 28.57) และอาชีพเกษตรกรรม จานวน 2 คน (คิดเป็นร้อยละ 14.28) ตามลาดับ สรุปผลการประเมินความพึงพอใจศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน (ชน้ั เรียนวิชาชีพ) หลักสตู รการสานตะกร้าจากเชือก มดั ฟาง ทเ่ี ขา้ ร่วมโครงการ ไดด้ งั น้ี แบบประเมินความพงึ พอใจ มี 4 ด้าน ผลการประเมิน ความพงึ พอใจท่ีมตี ่อโครงการโดยรวมและแยกเปน็ รายด้าน ความหมาย รายการประเมนิ X 1. ความพงึ พอใจด้านเน้อื หา 2. ความพึงพอใจด้านกระบวนการจัดกิจกรรมการอบรม 4.44 ดี 3. ความพงึ พอใจต่อวทิ ยากร 4.45 ดี 4. ความพึงพอใจด้านการอานวยความสะดวก 4.47 ดี 4.48 ดี รวม 4.46 ดี จากตารางท่ี 2 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจที่มีต่อโครงการ โดยรวมและรายด้าน อยู่ในระดับ ดี ทุกรายการ เม่ือพจิ ารณาเป็นรายข้อ พบว่า อันดบั หนงึ่ คอื ความพึงพอใจด้านการอานวยความสะดวกรองลงมา ความพึงพอใจต่อวิทยากรรองลงมาความพึงพอใจด้านกระบวนการจัดกิจกรรมการอบรมและด้านความพึงพอใจด้าน เน้อื หาตามลาดบั ตอนท่ี 1 ความพึงพอใจด้านเนอื้ หา รายการประเมิน ผลการประเมิน 1. เนื้อหาตรงตามความต้องการ X ความหมาย 4.44 ดี 2. เนื้อหาเพยี งพอต่อความต้องการ 4.44 ดี 3. เนอื้ หาปัจจุบนั ทันสมยั 4.44 ดี 4. เนอ้ื หามปี ระโยชน์ต่อการนาไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิต 4.45 ดี รวม 4.44 ดี จากตอนท่ี 1 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจที่มตี ่อโครงการความพึงพอใจด้านเนื้อหาโดยรวมและ รายด้านอยู่ในระดับ ดี เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อันดับหน่ึงคือ เนื้อหามีประโยชน์ต่อการนาไปใช้ในการพัฒนา คณุ ภาพชีวิตรองมาอันดับสองสามและสี่ เท่ากัน คือ เน้ือหาตรงตามความต้องการ/เนื้อหาเพียงพอต่อความต้องการ/และ เนอื้ หาปจั จุบันทนั สมยั ตามลาดบั
ตอนท่ี 2 ความพึงพอใจดา้ นกระบวนการจัดกิจกรรมการอบรม ผลการประเมนิ X ความหมาย รายการประเมนิ 4.45 ดี 4.44 ดี 1. การเตรยี มความพรอ้ มก่อนอบรม 4.46 ดี 2. การออกแบบกจิ กรรมเหมาะสมกบั วัตถปุ ระสงค์ 4.45 ดี 3. การจดั กจิ กรรมเหมาะสมกบั เวลา 4.45 ดี 4. การจดั กจิ กรรมเหมาะสมกบั กล่มุ เปา้ หมาย 4.45 ดี 5. วธิ กี ารวดั ผล/ประเมนิ ผลเหมาะสมกบั วตั ถปุ ระสงค์ รวม จากตอนที่ 2 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามมีความพอใจด้านกระบวนการจดั กจิ กรรมการอบรมโดยรวมและราย ดา้ นอยู่ในระดบั ดี เมือ่ พจิ ารณาเป็นรายขอ้ พบวา่ อนั ดบั หนงึ่ คือการจัดกจิ กรรมเหมาะสมกบั เวลาอนั ดับสองสามและ ส่ี คือการจดั กจิ กรรมเหมาะสมกับกลมุ่ เปา้ หมาย/วธิ ีการวัดผล/ประเมินผลเหมาะสมกบั วตั ถุประสงค์/การเตรียมความพร้อม ก่อนอบรมอนั ดับห้า คือ การออกแบบกิจกรรมเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ตามลาดับ ตอนที่ 3 ความพึงพอใจต่อวิทยากร ผลการประเมนิ X ความหมาย รายการประเมิน 4.47 ดี 4.47 ดี 1. วทิ ยากรมีความรู้ความสามารถในเร่ืองท่ีถา่ ยทอด 4.47 ดี 2. วิทยากรมเี ทคนิคการถ่ายทอดใช้สอ่ื เหมาะสม 4.47 ดี 3. วิทยากรเปดิ โอกาสให้มีส่วนรว่ มและซักถาม รวม จากตอนท่ี 3 พบวา่ ผ้ตู อบแบบสอบถามมีความพึงพอใจต่อวิทยากรโดยรวมและรายด้านอยใู่ นระดับดี เมื่อ พิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อันดับหนึ่งสองและสาม คือวิทยากรมีความรู้ความสามารถในเร่ืองท่ีถ่ายทอด/วิทยากรมี เทคนคิ การถา่ ยทอดใช้สอื่ เหมาะสม/วิทยากรเปิดโอกาสใหม้ ีสว่ นร่วมและซกั ถามตามลาดบั ตอนที่ 4 ความพึงพอใจด้านการอานวยความสะดวก ผลการประเมิน X ความหมาย รายการประเมนิ 4.48 ดี 4.47 ดี 1. สถานท่ี วัสดุ อุปกรณ์และสิ่งอานวยความสะดวก 4.49 ดี 2. การสื่อสาร การสรา้ งบรรยากาศเพ่ือใหเ้ กิดการเรยี นรู้ 4.48 ดี 3. การบริการ การช่วยเหลอื และการแก้ปัญหา รวม
จากตอนท่ี 4 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจด้านการอานวยความสะดวกโดยรวมและรายด้าน อยู่ในระดับดี เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อันดับหน่ึงสอง คือการบริการ การช่วยเหลือและการแก้ปัญหา อันดับสอง คือ สถานท่ี วัสดุ อุปกรณ์และส่ิงอานวยความสะดวก และอันดับสาม คือ การสื่อสาร การสร้าง บรรยากาศเพ่ือใหเ้ กดิ การเรยี นรู้ตามลาดับ
บทท่ี 5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ ผลการดาเนินศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน (ช้ันเรียนวิชาชีพ) หลักสูตรการสานตะกร้าจากเชือกมัดฟาง กศน.ตาบล บ้านม้า ครั้งน้ีมีวัตถุประสงค์เพ่ือประเมินผลความพึงพอใจของผู้เรียน/ผู้รับบริการที่มีต่อโครงการโดยรวมและแยก เป็นรายดา้ น โดยใช้แบบสอบถามจานวน 14 ฉบบั เครอ่ื งมือท่ีใช้เป็นแบบสอบถามท่ีเป็นแบบมาตราส่วนประมาณ ค่า 5 ระดับ ตามเกณฑ์ประเมินความคิดเห็นของเบสท์ (Best. 1981 : 182) วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าเฉล่ีย (X ) แปลความหมายข้อมูล แปลความหมายข้อมูลเชิงปริมาณ โดยใช้เกณฑ์ข้อ 2 ข้อมูลที่เป็นความคิดเห็น และ ข้อเสนอแนะ ใช้วิธีการวิเคราะห์เน้ือหา (Content Analysis) จัดกลุ่มคาตอบ และหาคา่ ความถ่ี สรุปผลการประเมินความพึงพอใจของผู้เรียน/ผูร้ บั บริการ จากแบบประเมนิ ความพึงพอใจสรุปผลได้ ดังนี้ 1. ด้านหลักสูตร พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจท่ีมีต่อโครงการด้านหลักสูตร โดยรวมและราย ด้านอยู่ในระดับดีมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อันดับหนึ่งคือผู้เรียน/ผู้รับบริการมีส่วนร่วมแสดงความ คิดเห็นต่อการจัดทาหลักสูตร รองมาอันดับสองคือ ผู้เรียน/ผู้รับบริการสามารถนาความรู้ไปปรับใช้ในชีวิตประจาวัน อันดับสามคือกิจกรรมที่จัดสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของหลักสูตรอันดับส่ี คือ การจัดกิจกรรมทาให้ผู้เรียน/ ผูร้ ับบริการสามารถคิดเป็น ทาเป็น แกป้ ัญหาเป็นอันดับห้าคือ ส่ือ/เอกสารประกอบการจัดกิจกรรมมีความเหมาะสม และ อนั ดบั สุดทา้ ยคือ เนอ้ื หาของหลกั สูตรตรงกับความต้องการของผู้เรยี น/ผรู้ ับบรกิ ารตามลาดบั 2. ด้านวิทยากร พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจที่มีต่อโครงการด้านวิทยากรโดยรวมและราย ด้านอยู่ในระดับ ดีมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อันดับหน่ึงคือวิทยากรมีคุณธรรม จริยธรรมอันดับสองคือ วทิ ยากรมเี ทคนิค กระบวนการจัดกจิ กรรมอันดับสาม คือ วิทยากร มีความรู้ความสามารถในการจัดกิจกรรมอันดับส่ี คือวิทยากรมกี ารใช้สอื่ ท่ีสอดคลอ้ งและเหมาะสมกับกิจกรรมและอันดบั สดุ ทา้ ย คือบุคลิกภาพของวิทยากรตามลาดับ 3. ด้านสถานที่/ระยะเวลา/ความพึงพอใจ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจท่ีมีต่อโครงการด้าน สถานที่/ระยะเวลา/ความพึงพอใจ โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับ ดีมาก เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อันดับ หนงึ่ คือ ความพึงพอใจในภาพรวมของผู้รบั บริการต่อการเข้าร่วมกจิ กรรมอันดับสองคอื สถานที่ในการจัดกิจกรรม และ อันดับสดุ ท้าย คือ ระยะเวลาในการจดั กิจกรรมเหมาะสม ตามลาดับ
ผลการดาเนินงาน 1. จานวนผู้เข้าร่วมศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน (กลุ่มสนใจ) หลักสูตรการสานตะกร้าจากเชือกมัดฟาง กศน.ตาบล บ้านม้า จานวน 14 คน คือกลุ่มเป้าหมายร้อยละ 85 มีความรู้ทักษะ มองเห็นช่องทางในการประกอบอาชีพ กลุ่มเป้าหมายเกิดกระบวนการเรียนรู้ มีการรวมกลุ่มเพื่อพัฒนาอาชีพกลุ่มเป้าหมายมีการบริหารจัดการกลุ่มท่ีดี สามารถพฒั นาอาชพี ของกลุ่มได้ 2. ผู้เข้าร่วมศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน (กลุ่มสนใจ) หลักสูตรการสานตะกร้าจากเชือกมัดฟาง ได้ให้ความร่วมมือ รว่ มใจและลงมือทาเปน็ อยา่ งดี 3. ผู้เข้าร่วมโครงการ มีความพึงพอใจในการจัดกิจกรรม ในระดับดี ตามแบบประเมินความพึงพอใจในการ จัดกจิ กรรม ทแ่ี นบมานี้ ปญั หาและอุปสรรคในการปฏบิ ัตงิ าน - ข้อเสนอแนะ -
ภาคผนวก
ภาพถ่ายการจดั กิจกรรม หลักสูตรการสานตะกรา้ จากเชือกมดั ฟาง ระหว่างวันท่ี 27 กรกฎาคม – 5 สงิ หาคม 2563 ณ กศน.ตาบลบ้านมา้ หมู่ท่ี 3 ตาบลบา้ นมา้ อาเภอบางไทร จังหวดั พระนครศรอี ยธุ ยา
Search
Read the Text Version
- 1 - 22
Pages: