1 รายงานผลการดำเนินงาน โครงการ พลเมืองดี วถิ ปี ระชาธปิ ไตย วนั ท่ี 17 กมุ ภาพนั ธ์ 2564 หอ้ งประชมุ อำเภอบางไทร จงั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยา นางสาวสรนิ ทร โกษะ กศน.ตำบลบา้ นมา้ ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อำเภอบางไทร จงั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยา ประจำปงี บประมาณ 2564 ไตรมาส 1-2
บนั ทกึ ขอ้ ความ สว่ นราชการ ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอบางไทร ท่ี ศธ 0210.4805/๑๐๘๓ วนั ท่ี ๘ เดือน เมษายน 2564 เรอ่ื ง รายงานผลการดำเนินงานโครงการพลเมืองดี วิถปี ระชาธปิ ไตย ......................................................................................................................................................................................... เรยี น ผอู้ ำนวยการศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อำเภอบางไทร ตามทผี่ ู้อำนวยการศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอบางไทร ได้อนุมัติ โครงการ พลเมืองดี วิถปี ระชาธปิ ไตย กศน.ตำบลบ้านม้า ไดด้ ำเนินการจดั โครงการ พลเมอื งดี วิถปี ระชาธิปไตย ในวนั ท่ี 17 กมุ ภาพนั ธ์ 2564 ณ หอ้ งประชุม อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรอี ยธุ ยา จงั หวัดพระนครศรอี ยธุ ยา มีผู้เขา้ ร่วมโครงการ จำนวน 15 คน เอกสารดังแนบมาพรอ้ มน้ี จงึ เรียนมาเพือ่ โปรดทราบ (นางสาวสรินทร โกษะ) ครู ศูนย์การเรยี นชมุ ชน ทราบ อน่ื ๆ (นางสาวมุกดา แข็งแรง) ผูอ้ ำนวยการ กศน.อำเภอภาชี รกั ษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการกศน.อำเภอบางไทร
คำนำ เอกสาร รายงานผลการดำเนินงาน การจัดและส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้โครงการ พลเมืองดี วิถี ประชาธปิ ไตย จดั ทำขน้ึ เพอ่ื รายงานผลการดำเนินงานด้านการจัดการศกึ ษาตอ่ เน่ืองของกศน.ตำบลบ้านม้า ภายใต้การ ดูแลของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อำเภอบางไทร โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือตรวจสอบ ขนั้ ตอนการดำเนนิ กิจกรรม ประเมนิ ผลและพฒั นาการดำเนินกิจกรรมของ กศน.ตำบลแคตก ผู้จัดทำหวงั เป็นอย่างยิ่งว่า เอกสารรายงานผลการดำเนินงาน การจดั และส่งเสริมกระบวนการเรยี นรู้ โครงการ พลเมืองดี วิถปี ระชาธปิ ไตย นี้ จะเป็นแนวทางในการพัฒนางานและการจัดกิจกรรมด้านการศกึ ษาต่อเนือ่ ง ของ กศน.ตำบลบ้านม้า ในโอกาสต่อไป คณะผู้จดั ทำ
สารบญั หนา้ คำนำ 1 สารบญั บทที่ 1 บทนำ 2 เหตุผลและความจำเป็น 3 วัตถุประสงค์ 5 ประโยชน์ท่ีคาดว่าจะไดร้ บั 10 บทที่ 2 เอกสารท่เี กยี่ วขอ้ ง ความสำคญั ของการจดั และส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ ทีม่ าและความสำคญั ของโครงการ พลเมอื งดี วิถีประชาธิปไตย บทที่ 3 วธิ กี ารดำเนนิ งาน บทท่ี 4 ผลการดำเนนิ งาน บทที่ 5 สรปุ อภิปรายผล และขอ้ เสนอแนะ วตั ถปุ ระสงคก์ ารดำเนินงาน วธิ ีดำเนินการ อภิปรายผล ข้อเสนอแนะ และแนวทางในการพัฒนากิจกรรม ภาคผนวก ภาพกิจกรรมโครงการพลเมอื งดี วถิ ีประชาธปิ ไตย แบบประเมินความพึงพอใจโครงการพลเมอื งดี วถิ ปี ระชาธิปไตย
1 บทที่ 1 บทนำ เหตุผลและความจำเป็น ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมาเปน็ เวลาหลายทศวรรษแล้ว รากฐานที่แท้จริงของประชาธิปไตยน้ันก็คือ \"ความแตกต่าง\" จุดประสงค์ของประชาธิปไตยก็คือ \"การยอมรับความ แตกต่างน้ันๆ\" และ เป้าหมายของประชาธิปไตยก็คือ \"การทำใหค้ วามแตกต่างเหล่านั้นสามารถอยู่ร่วมกันได้โดยสงบ สุขและไม่เบียดเบียนหรือละเมิดสิ่งที่แตกต่างเหล่าน้ัน\" สถานศึกษาถือได้ว่าเป็นองค์กรสำคัญอย่างยิ่งในการสร้าง และพัฒนาประชาธิปไตยให้กับประชาชนท่ัวไป บุคคลเหล่านี้มีหน้าที่ท่ีสำคัญคือ นอกจากจะเป็นคนดีและพัฒนา ประเทศแล้ว ยังต้องรักษาการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข โดยมีกฎหมาย รฐั ธรรมนญู อันเป็นกฎหมายสูงสุดท่ีใช้ในการปกครองเป็นสำคัญอีกดว้ ย แต่สภาวการณข์ องระบอบประชาธิปไตยใน ประเทศไทยมุ่งแต่จะเอาชนะกนั โดยไม่คำนึงถงึ ว่าเปน็ คนไทยโดยเสมอภาคกัน ซึ่งกค็ ือหลักแห่งความสมานฉันท์หรือ ความสามคั คีปรองดองนัน่ เอง ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอบางไทร ได้ตระหนกั ถงึ ความสำคญั ดังกล่าว จึงได้ จัดทำกิจกรรมการศึกษาเพ่ือพัฒนาสังคมและชุมชน ชื่อโครงการพลเมืองดี วิถีประชาธิปไตย เพ่ือส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจท่ีถูกต้องในการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข สร้างความตระหนักรู้ ให้กับประชาชนท่ัวไป ได้ทราบถึงกฎหมายใหม่ท่ีจะใช้ในการเลือกตั้งระดับท้องถ่ิน อีกท้ังเพ่ือให้เป็นกลุ่มพลัง ขับเคลื่อนนำความรักความสามัคคี สร้างความเข้าใจและมีส่วนร่วมดำเนินกิจกรรมที่เก่ียวข้องกับประชาธิปไตยใน ชุมชนของตนเองอย่างถกู ตอ้ ง อยา่ งยัง่ ยนื ต่อไป วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพื่อให้ประชาชนผู้เข้าร่วมโครงการมคี วามรู้ ความเขา้ ใจกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายการเลือกต้งั ระดับ ท้องถิน่ พรอ้ มตระหนักในความรับผดิ ชอบเกี่ยวกบั กิจกรรมประชาธิปไตยในชุมชนอยา่ งถกู ตอ้ ง 2. เพ่ือใหป้ ระชาชนและชุมชน มีชีวิตแบบสงั คมประชาธิปไตยท่เี ข้มแข็งอย่างย่งั ยืนบนเง่อื นไขแหง่ ความ ปรองดองสมานฉนั ท์ พรอ้ มกบั สามารถนำไปถา่ ยทอดต่อได้ ประโยชนท์ คี่ าดวา่ จะไดร้ บั ร้อยละ 80 ของประชาชนทเ่ี ข้ารว่ มโครงการ มีความรู้ ความเขา้ ใจกฎหมายรัฐธรรมนญู และกฎหมาย การเลอื กต้งั ระดบั ท้องถน่ิ พร้อมตระหนกั ในความรับผดิ ชอบเกี่ยวกับกิจกรรมประชาธปิ ไตยในชุมชนอย่างถูกต้อง มี ชวี ิตแบบสังคมประชาธิปไตยท่ีเข้มแข็งอยา่ งย่ังยืนบนเงื่อนไขแห่งความปรองดองสมานฉันท์ พรอ้ มกับสามารถนำไป ถ่ายทอดต่อได้
2 บทที่ 2 เอกสารที่เกย่ี วขอ้ ง โครงการ พลเมืองดี วถิ ปี ระชาธปิ ไตย ได้เสนอแนวคิด หลกั การและเอกสารทีเ่ ก่ยี วขอ้ ง ตามลำดับ ดงั ต่อไปนี้ 1. ความสำคัญของการจัดการศกึ ษาตอ่ เนื่องกิจกรรมพัฒนาสังคมและชุมชน 2. ที่มาและความสำคญั ของโครงการ พลเมืองดี วิถีประชาธปิ ไตย 1. ความสำคญั ของการจดั และส่งเสริมกระบวนการเรยี นรู้กิจกรรมพฒั นาสังคมและชุมชน นโยบายเรง่ ดว่ นเพอ่ื รว่ มขบั เคลอ่ื นยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาประเทศ นโยบายและจดุ เนน้ การดำเนนิ งาน สำนกั งาน กศน. ประจำปงี บประมาณ พ.ศ.2564 นโยบายเร่งด่วนเพ่ือรว่ มขบั เคล่ือนยทุ ธศาสตร์การพัฒนาประทศ ๑.ยุทธศาสตร์ด้านความมน่ั คง ๑.๒ เสรมิ สร้างความรูค้ วามเขา้ ใจท่ีถกู ต้องและการมสี ่วนรว่ มอย่างถูกต้องกบั การปกครองระบอบ ประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั รยิ เ์ ป็นประมุข ในบรบิ ทของไทย มคี วามเปน็ พลเมอื งดี ยอมรับและเคารพความ หลากหลายทางความคดิ และอดุ มการณ์ 2. ท่มี าและความสำคญั ของโครงการ พลเมืองดี วถิ ีประชาธิปไตยใกล้ ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมาเป็นเวลาหลาย ทศวรรษแลว้ รากฐานท่ีแท้จริงของประชาธิปไตยน้ันก็คือ \"ความแตกต่าง\" จุดประสงค์ของประชาธิปไตยก็คอื \"การ ยอมรับความแตกต่างน้ันๆ\" และ เป้าหมายของประชาธิปไตยก็คือ \"การทำให้ความแตกต่างเหล่าน้ันสามารถอยู่ รว่ มกันได้โดยสงบสุขและไม่เบยี ดเบียนหรือละเมิดสิง่ ท่ีแตกตา่ งเหล่าน้นั \" สถานศึกษาถอื ได้ว่าเปน็ องค์กรสำคญั อย่าง ยง่ิ ในการสรา้ ง และพัฒนาประชาธิปไตยให้กับประชาชนท่ัวไป บคุ คลเหลา่ น้ีมหี นา้ ทีท่ ่ีสำคญั คือ นอกจากจะเป็นคน ดีและพัฒนาประเทศแล้ว ยังต้องรักษาการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข โดยมี กฎหมายรัฐธรรมนูญอันเป็นกฎหมายสูงสุดที่ใช้ในการปกครองเป็นสำคัญ อีกด้วย แต่สภาวการณ์ของระบอบ ประชาธิปไตยในประเทศไทยมุ่งแต่จะเอาชนะกัน โดยไม่คำนึงถึงว่าเป็นคนไทยโดยเสมอภาคกัน ซ่ึงก็คือหลักแห่ง ความสมานฉันท์หรอื ความสามัคคีปรองดองนน่ั เอง ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอำเภอบางไทร ได้ตระหนักถงึ ความสำคญั ดังกล่าว จงึ ได้ จัดทำกิจกรรมการศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน ช่ือโครงการพลเมืองดี วิถีประชาธิปไตย เพ่ือส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจท่ีถูกต้องในการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข สร้างความตระหนักรู้ ให้กับประชาชนทั่วไป ได้ทราบถึงกฎหมายใหม่ท่ีจะใช้ในการเลือกต้ังระดับท้องถิ่น อีกทั้งเพื่อให้เป็นกลุ่มพลัง ขับเคล่ือนนำความรักความสามัคคี สร้างความเข้าใจและมีส่วนร่วมดำเนินกิจกรรมท่ีเกี่ยวข้องกับประชาธิปไตยใน ชุมชนของตนเองอย่างถูกตอ้ ง อย่างยง่ั ยนื ตอ่ ไป
3 บทท่ี 3 วธิ ดี ำเนนิ งาน ด้วย กศน.ตำบลบ้านม้า ได้จัดโครงการ พลเมืองดี วิถีประชาธปิ ไตย โดยยึดกล่มุ เป้าหมายเป็นสำคัญ ทำให้ เนื้อหาตามหลักสูตรระยะเวลาการจัดกิจกรรม สถานที่ และลักษณะกิจกรรมการเรียนรู้ขึ้นอยู่กับ ศักยภาพและ ความพร้อมของกลมุ่ เป้าหมาย ซ่งึ เป็นการตอบสนองนโยบายขอสำนักงานส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศยั ซึ่งได้ดำเนินการ ดงั นี้ โครงการ พลเมอื งดี วถิ ปี ระชาธปิ ไตย (วนั ที่ 17 กมุ ภาพนั ธ์ 2564) สาระสำคญั ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมาเป็นเวลาหลายทศวรรษแล้ว รากฐานท่ีแท้จริงของประชาธิปไตยน้ันก็คือ \"ความแตกต่าง\" จุดประสงค์ของประชาธิปไตยก็คือ \"การยอมรับความ แตกต่างนั้นๆ\" และ เป้าหมายของประชาธิปไตยก็คือ \"การทำใหค้ วามแตกต่างเหล่านั้นสามารถอยู่ร่วมกันได้โดยสงบ สุขและไม่เบียดเบียนหรือละเมิดสิ่งท่ีแตกต่างเหล่านั้น\" สถานศึกษาถือได้ว่าเป็นองค์กรสำคัญอย่างยิ่งในการสร้าง และพัฒนาประชาธิปไตยให้กับประชาชนท่ัวไป บุคคลเหล่าน้ีมีหน้าท่ีท่ีสำคัญคือ นอกจากจะเป็นคนดีและพัฒนา ประเทศแล้ว ยังต้องรักษาการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข โดยมีกฎหมาย รฐั ธรรมนูญอันเป็นกฎหมายสูงสุดท่ีใช้ในการปกครองเปน็ สำคัญอีกด้วย แต่สภาวการณ์ของระบอบประชาธิปไตยใน ประเทศไทยมุ่งแต่จะเอาชนะกัน โดยไมค่ ำนึงถึงว่าเป็นคนไทยโดยเสมอภาคกัน ซ่ึงก็คือหลักแห่งความสมานฉนั ท์หรือ ความสามคั คีปรองดองนน่ั เอง ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอบางไทร ได้ตระหนกั ถึงความสำคญั ดังกล่าว จึงได้ จัดทำกิจกรรมการศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน ช่ือโครงการพลเมืองดี วิถีประชาธิปไตย เพื่อส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องในการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข สร้างความตระหนักรู้ ให้กับประชาชนท่ัวไป ได้ทราบถึงกฎหมายใหม่ที่จะใช้ในการเลือกต้ังระดับท้องถ่ิน อีกท้ังเพ่ือให้เป็นกลุ่มพลัง ขับเคลื่อนนำความรักความสามัคคี สร้างความเข้าใจและมีส่วนร่วมดำเนินกิจกรรมที่เก่ียวข้องกับประชาธิปไตยใน ชุมชนของตนเองอยา่ งถูกตอ้ ง อย่างยง่ั ยนื ตอ่ ไป วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพ่อื ให้ประชาชนผ้เู ข้าร่วมโครงการมีความรู้ ความเขา้ ใจกฎหมายรฐั ธรรมนญู และกฎหมายการเลือกตงั้ ระดบั ท้องถ่นิ พรอ้ มตระหนักในความรบั ผิดชอบเก่ียวกบั กจิ กรรมประชาธปิ ไตยในชุมชนอยา่ งถูกตอ้ ง 2. เพ่ือใหป้ ระชาชนและชุมชน มีชีวิตแบบสงั คมประชาธปิ ไตยท่เี ขม้ แข็งอย่างยงั่ ยนื บนเง่อื นไขแห่งความ ปรองดองสมานฉันท์ พร้อมกับสามารถนำไปถา่ ยทอดตอ่ ได้
4 กจิ กรรมทด่ี ำเนนิ การ เวลา กจิ กรรม ๐๘.๐๐ น. – ๐๘.๓๐ น. ลงทะเบยี นผ้รู ว่ มโครงการ ๐๘.๓๐ น. – ๐๙.๐๐ น. ประธานในพิธีกลา่ วเปิดโครงการและบรรยายพิเศษเร่อื ง พลเมอื งดีตามวถิ ีประชาธิปไตยเปน็ เชน่ ไร ? โดยนายอนุสรณ์ โกษะ อดตี กรรมการการเลือกตัง้ ประจำจงั หวดั พระนครศรอี ยุธยา ๐๙.๐๐ น. – ๑๐.๓๐ น. วิทยากรกล่าวใหก้ ารต้อนรับและสนทนาแลกเปล่ียนประสบการณก์ ับ ผ้รู ่วมโครงการ (วทิ ยากรโดยเจ้าหนา้ ที่จากสำนกั งานคณะกรรมการการเลือกตงั้ ประจำจังหวดั พระนครศรอี ยธุ ยา งานดา้ นการมสี ่วนร่วม ) ๑๐.๓๐ น. – ๑๐.๔๕ น. พกั รับประทานอาหารว่างและเครื่องดม่ื ๑๐.๔๕ น. – ๑๑.๐๐ น. วทิ ยากรนำชมวดิ ที ศั น์ ๘๘ ปปี ระชาธปิ ไตยไทย เราจะไปทางไหน ? ๑๑.๐๐ น. – ๑๒.๐๐ น. วทิ ยากรบรรยายเรอื่ ง พลเมืองดตี ามวิถีประชาธปิ ไตย ๑๒.๐๐ น. – ๑๓.๐๐ น. รับประทานอาหารกลางวนั ๑๓.๐๐ น. – ๑๔.๐๐ น. วิทยากรบรรยายความรู้ การเปรียบเทียบกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับปีพ.ศ. ๒๕๔๐ กับกฎหมายรฐั ธรรมนญู ฉบับปัจจบุ นั และข้อปรบั ปรุงกฎหมายการเลือกตงั้ ระดบั ท้องถิ่น ๑๔.๐๐ น. – ๑๕.๐๐ น. วิทยากรบรรยายความรกู้ ารเลอื กตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชกิ เทศบาล ๑๕.๐๐ น - ๑๕.๑๕ น พกั รบั ประทานอาหารว่างและเคร่อื งด่ืม ๑๕.๑๕ น. – ๑๖.๐๐ น. วทิ ยากรบรรยายความรู้บทบาทหน้าท่ีและความสำคญั ของคณะกรรมการศนู ย์ สง่ เสรมิ พัฒนาประชาธปิ ไตยตำบล ๑๖.๐๐ น. – ๑๖.๓๐ น. วทิ ยากรบรรยายสรปุ และตอบขอ้ ซักถามจากผเู้ ขา้ ร่วมอบรม ผลทไ่ี ดร้ บั จากการดำเนนิ กจิ กรรม ร้อยละ 80 ของประชาชนท่เี ข้าร่วมโครงการ มคี วามรู้ ความเข้าใจกฎหมายรัฐธรรมนญู และกฎหมาย การเลือกต้ังระดบั ท้องถน่ิ พร้อมตระหนกั ในความรับผดิ ชอบเก่ียวกับกิจกรรมประชาธปิ ไตยในชุมชนอย่างถูกต้อง มี ชีวติ แบบสงั คมประชาธิปไตยทเี่ ข้มแข็งอยา่ งยงั่ ยืนบนเง่ือนไขแห่งความปรองดองสมานฉันท์ พร้อมกับสามารถนำไป ถ่ายทอดตอ่ ได้
5 บทท่ี 4 ผลการดำเนนิ งาน จากการสำรวจความพึงพอใจ โครงการพลเมืองดี วิถีประชาธิปไตย กศน.ตำบลบ้านม้า มีผู้เข้าร่วม โครงการ โดยใช้แบบประเมินความพึงพอใจ จำนวน 15 ฉบับ และได้รับกลับคืนมา จำนวน 15 ฉบับ วิเคราะห์ ขอ้ มลู โดยใช้โปรแกรม Excel ตามขน้ั ตอนต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ 1. วเิ คราะหข์ อ้ มูลจากแบบสอบถามตอนที่ 1 โดยแจกแจงความถแี่ ละค่ารอ้ ยละ 2. วิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถามตอนที่ 2 โดยหาค่าเฉลี่ย ( X ) แปลความหมายข้อมูลเชิง ปรมิ าณ ใหร้ ะดบั คะแนนในแบบสอบถามท่ีเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ตามเกณฑป์ ระเมินความคิดเห็น ของเบสท์ (Best. 1981 : 182ดงั นี้ 4.51–5.00 หมายถงึ ความพงึ พอใจอยูใ่ นระดบั ดีมาก 3.51–4.50 หมายถงึ ความพงึ พอใจอยู่ในระดบั ดี 2.51–3.50 หมายถึงความพงึ พอใจอย่ใู นระดบั ปานกลาง 1.51–2.50 หมายถงึ ความพึงพอใจอยูใ่ นระดบั พอใช้ 1.00–1.50 หมายถึงความพึงพอใจอยใู่ นระดบั ปรบั ปรุง 3. วิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถามตอนท่ี3 ข้อมูลที่เป็นมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) โดยหาค่าเฉล่ีย ( X) แปลความหมายข้อมูล แปลความหมายข้อมูลเชิงปริมาณ โดยใช้เกณฑ์ข้อ 2 ข้อมูลที่เป็น ความคิดเห็น และข้อเสนอแนะ ใช้วิธีการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) จัดกลุ่มคำตอบ และหาคา่ ความถี่ สรปุ ผลการประเมินความพงึ พอใจ โครงการพลเมืองดี วถิ ปี ระชาธปิ ไตย ไดด้ ังนี้
6 ตอนท่ี 1 ขอ้ มลู สว่ นตวั ของผตู้ อบแบบสอบถาม ตารางที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตาม เพศ อายุ ระดับการศกึ ษา และอาชพี ขอ้ มลู ทว่ั ไป จำนวน รอ้ ยละ เพศ ชาย 9 60.00 หญิง 6 40.00 อายุ ตำ่ กว่า 15 ปี 0 0.00 15-29 ปี 0 0.00 30-39 1 6.66 40-49 ปี 2 13.33 50-59 8 53.33 60 ปีขึน้ ไป 4 26.66 การศึกษา ป.4 2 13.33 ประถมศึกษา 4 26.66 มัธยมศึกษาตอนตน้ 3 20.00 มัธยมศกึ ษาตอนปลาย 3 20.00 ปวส 1 6.66 ปรญิ ญาตรี 2 13.33 อาชีพ รบั จา้ ง 5 33.33 คา้ ขาย 0 0.00 เกษตรกรรม 10 66.66 รับราชการ 0 0.00 อน่ื ๆแมบ่ า้ น 0 0.00 จากตารางที่ 1 แสดงจำนวนผู้ตอบแบบสอบถามท้งั หมด 15 คน เปน็ เพศหญงิ จำนวน 6 คน (คิดเป็นรอ้ ยละ 40.00) และเป็นเพศชาย จำนวน 9 คน (คดิ เป็นร้อยละ 60.00) ดา้ นอายุ พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถาม สว่ นมากอยู่ในชว่ งอายุ50-59ปี จำนวน 8 คน (คิดเปน็ รอ้ ยละ 53.33) รองลงมาช่วงอายุ 60 ปีข้ึนไป จำนวน 4 คน (คิดเป็นร้อยละ 26.66)ช่วงอายุ 40 – 49 ปี จำนวน 2 คน (คิดเป็น ร้อยละ 13.33) และชว่ งอายุ 30 – 39 ปี จำนวน 1 คน (คดิ เปน็ ร้อยละ 6.66) ตามลำดบั ด้านการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสำรวจส่วนมาก มีการศึกษาอยู่ในระดับประถมศึกษา จำนวน 4 คน (คิด เปน็ ร้อยละ 26.66) ระดับ มธั ยมศึกษาตอนตน้ และมธั ยมศึกษาตอนปลาย จำนวนระดับละ 3 คน (คดิ เป็นร้อยละ 20.00) ระดบั ป.4 และปรญิ ญาตรี จำนวน 2 คน (คิดเปน็ รอ้ ยละ 13.33) ระดับปวส. จำนวน 1 คน (คิดเป็นร้อยละ 6.66) ตามลำดับ
7 ด้านอาชพี พบว่า ผู้ตอบแบบสำรวจส่วนมากประกอบอาชีพเกษตรกรรม จำนวน 10 คน (คิดเป็นร้อยละ 66.66) อาชพี รับจ้างจำนวน 5 คน (คิดเป็นร้อยละ 33.33) ตามลำดับ โครงการพลเมืองดี วถิ ีประชาธปิ ไตย ไดด้ งั นี้ แบบประเมนิ ความพงึ พอใจ มี 4 ด้าน ความพงึ พอใจทม่ี ตี อ่ โครงการโดยรวมและแยกเปน็ รายดา้ น รายการประเมนิ ผลการประเมนิ 1. ความพงึ พอใจดา้ นเนือ้ หา ความหมาย X 4.44 ดี 2. ความพึงพอใจดา้ นกระบวนการจัดกิจกรรมการอบรม 4.45 ดี 3. ความพึงพอใจตอ่ วิทยากร 4.47 ดี 4. ความพึงพอใจด้านการอำนวยความสะดวก 4.48 ดี รวม 4.46 ดี จากตารางท่ี 2 พบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามมคี วามพงึ พอใจท่ีมตี ่อโครงการ โดยรวมและรายดา้ น อยู่ในระดับ ดี ทุกรายการ เมือ่ พิจารณาเปน็ รายขอ้ พบว่า อันดับหน่ึงคือ ความพงึ พอใจด้านการอำนวยความสะดวกรองลงมา ความพงึ พอใจต่อวิทยากรรองลงมาความพึงพอใจด้านกระบวนการจดั กิจกรรมการอบรมและด้านความพึงพอใจด้าน เน้อื หาตามลำดบั ตอนที่ 1 ความพงึ พอใจดา้ นเนอ้ื หา รายการประเมนิ ผลการประเมนิ 1. เนื้อหาตรงตามความตอ้ งการ X ความหมาย 4.44 ดี 2. เน้ือหาเพยี งพอต่อความตอ้ งการ 4.44 ดี 3. เนอ้ื หาปจั จบุ นั ทนั สมัย 4.44 ดี 4. เนื้อหามปี ระโยชนต์ อ่ การนำไปใช้ในการพฒั นาคณุ ภาพชีวติ 4.45 ดี รวม 4.44 ดี จากตอนที่ 1 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีความพงึ พอใจทมี่ ีตอ่ โครงการความพงึ พอใจด้านเนื้อหาโดยรวมและ รายดา้ นอยู่ในระดับ ดี เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อันดับหนึ่งคือ เนื้อหามปี ระโยชน์ต่อการนำไปใช้ในการพัฒนา คณุ ภาพชวี ิตรองมาอันดับสองสามและสี่ เท่ากัน คือ เนอ้ื หาตรงตามความต้องการ/เนื้อหาเพียงพอต่อความต้องการ/และ เน้อื หาปจั จุบนั ทนั สมยั ตามลำดับ
8 ตอนที่ 2 ความพงึ พอใจด้านกระบวนการจดั กจิ กรรมการอบรม รายการประเมนิ ผลการประเมนิ 1. การเตรียมความพรอ้ มก่อนอบรม X ความหมาย 4.45 ดี 2. การออกแบบกิจกรรมเหมาะสมกับวัตถปุ ระสงค์ 4.44 ดี 3. การจดั กจิ กรรมเหมาะสมกับเวลา 4.46 ดี 4. การจดั กจิ กรรมเหมาะสมกับกลุม่ เป้าหมาย 4.45 ดี 5. วธิ กี ารวัดผล/ประเมนิ ผลเหมาะสมกบั วัตถุประสงค์ 4.45 ดี รวม 4.45 ดี จากตอนท่ี 2 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีความพอใจด้านกระบวนการจัดกิจกรรมการอบรมโดยรวมและ รายดา้ นอยู่ในระดับ ดี เมอ่ื พจิ ารณาเป็นรายขอ้ พบว่า อันดบั หนึ่งคอื การจดั กิจกรรมเหมาะสมกับเวลาอนั ดับสองสาม และสี่ คือการจัดกจิ กรรมเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย/วิธีการวัดผล/ประเมินผลเหมาะสมกับวัตถุประสงค์/การเตรียมความ พรอ้ มกอ่ นอบรมอนั ดับห้า คือ การออกแบบกจิ กรรมเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ตามลำดบั ตอนท่ี 3 ความพงึ พอใจตอ่ วทิ ยากร รายการประเมนิ ผลการประเมนิ X ความหมาย 1. วทิ ยากรมคี วามรูค้ วามสามารถในเร่อื งที่ถ่ายทอด 4.47 ดี 2. วิทยากรมีเทคนคิ การถ่ายทอดใชส้ อื่ เหมาะสม 4.47 ดี 3. วิทยากรเปดิ โอกาสใหม้ ีสว่ นรว่ มและซักถาม 4.47 ดี รวม 4.47 ดี จากตอนท่ี 3 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจต่อวิทยากรโดยรวมและรายดา้ นอยใู่ นระดับดี เมื่อ พิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อันดับหนึ่งสองและสาม คือวิทยากรมีความรู้ความสามารถในเรื่องท่ีถ่ายทอด/วิทยากรมี เทคนิคการถ่ายทอดใชส้ ่ือเหมาะสม/วทิ ยากรเปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมและซกั ถามตามลำดบั
ตอนท่ี 4 ความพงึ พอใจดา้ นการอำนวยความสะดวก 9 รายการประเมนิ ผลการประเมนิ X ความหมาย 1. สถานท่ี วัสดุ อปุ กรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวก 4.48 ดี 2. การสื่อสาร การสร้างบรรยากาศเพ่ือใหเ้ กดิ การเรยี นรู้ 4.47 ดี 3. การบรกิ าร การชว่ ยเหลอื และการแกป้ ัญหา 4.49 ดี 4.48 ดี รวม จากตอนท่ี 4 พบว่าผ้ตู อบแบบสอบถามมีความพึงพอใจด้านการอำนวยความสะดวกโดยรวมและรายด้าน อยู่ในระดับดี เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อันดับหน่ึงสอง คือการบริการ การช่วยเหลือและการแก้ปัญหา อันดับสอง คือ สถานท่ี วัสดุ อุปกรณ์และส่ิงอำนวยความสะดวก และอันดับสาม คือ การสื่อสาร การสร้าง บรรยากาศเพื่อให้เกดิ การเรยี นรู้ตามลำดับ
10 บทท่ี 5 สรปุ อภปิ รายผล และขอ้ เสนอแนะ ผลการดำเนิน โครงการพลเมอื งดี วถิ ีประชาธิปไตย กศน.ตำบลบ้านม้า ครั้งนี้ มวี ตั ถุประสงค์เพือ่ ประเมนิ ผล ความพงึ พอใจของผู้เรียน/ผู้รบั บริการที่มีต่อโครงการโดยรวมและแยกเปน็ รายด้าน โดยใชแ้ บบสอบถามจำนวน 15 ฉบับ เคร่ืองมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามที่เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ตามเกณฑ์ประเมินความคิดเห็น ของเบสท์ (Best. 1981 : 182) วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าเฉลี่ย ( X ) แปลความหมายข้อมูล แปลความหมาย ข้อมูลเชิงปริมาณ โดยใช้เกณฑ์ข้อ 2 ข้อมูลที่เป็นความคิดเห็น และข้อเสนอแนะ ใช้วิธีการวิเคราะ ห์เนื้อหา (Content Analysis) จัดกลุ่มคำตอบ และหาค่าความถ่ี สรปุ ผลการประเมนิ ความพงึ พอใจของผเู้ รยี น/ผรู้ บั บรกิ าร จากแบบประเมนิ ความพงึ พอใจสรปุ ผลได้ ดงั นี้ 1. ด้านหลักสตู ร พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจที่มีต่อโครงการด้านหลักสูตร โดยรวมและราย ด้านอยู่ในระดับดีมาก เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อันดับหน่ึงคือผู้เรียน/ผู้รับบริการมีส่วนร่วมแสดงความ คดิ เห็นต่อการจัดทำหลักสูตร รองมาอันดับสองคือ ผู้เรยี น/ผู้รบั บริการสามารถนำความรู้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน อันดับสามคือกิจกรรมที่จัดสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของหลักสูตรอันดับสี่ คือ การจัดกิจกรรมทำให้ผู้เรียน/ ผู้รับบรกิ ารสามารถคิดเปน็ ทำเป็น แกป้ ัญหาเป็นอันดบั ห้าคือ สื่อ/เอกสารประกอบการจัดกิจกรรมมคี วามเหมาะสม และ อนั ดับสุดท้ายคือ เนื้อหาของหลักสตู รตรงกับความต้องการของผเู้ รียน/ผ้รู ับบริการตามลำดบั 2. ด้านวิทยากร พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจที่มีต่อโครงการด้านวิทยากรโดยรวมและราย ด้านอยู่ในระดับ ดีมาก เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อนั ดับหน่ึงคือวิทยากรมีคุณธรรม จริยธรรมอันดับสองคือ วิทยากรมเี ทคนิค กระบวนการจัดกจิ กรรมอันดบั สาม คือ วิทยากร มีความรู้ความสามารถในการจัดกจิ กรรมอันดับสี่ คือวิทยากรมกี ารใช้สอ่ื ทีส่ อดคลอ้ งและเหมาะสมกบั กจิ กรรมและอันดบั สุดท้าย คือบคุ ลกิ ภาพของวิทยากรตามลำดับ 3. ดา้ นสถานท่ี/ระยะเวลา/ความพึงพอใจ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจทีม่ ีต่อโครงการด้าน สถานท่ี/ระยะเวลา/ความพึงพอใจ โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดบั ดีมาก เมื่อพจิ ารณาเป็นรายข้อ พบว่า อันดับ หนงึ่ คือ ความพงึ พอใจในภาพรวมของผู้รบั บรกิ ารต่อการเข้ารว่ มกจิ กรรมอันดับสองคอื สถานทใี่ นการจัดกจิ กรรม และ อันดบั สุดทา้ ย คอื ระยะเวลาในการจัดกจิ กรรมเหมาะสม ตามลำดับ ผลการดำเนนิ งาน รอ้ ยละ 80 ของประชาชนทเี่ ข้ารว่ มโครงการ มคี วามรู้ ความเข้าใจกฎหมายรฐั ธรรมนูญและกฎหมาย การเลอื กต้ังระดับท้องถิ่น พร้อมตระหนักในความรับผดิ ชอบเกี่ยวกับกิจกรรมประชาธปิ ไตยในชุมชนอย่างถูกต้อง มี ชีวิตแบบสงั คมประชาธิปไตยทเ่ี ข้มแข็งอยา่ งยง่ั ยนื บนเงื่อนไขแห่งความปรองดองสมานฉนั ท์ พรอ้ มกับสามารถนำไป ถา่ ยทอดต่อได้ ปญั หาและอปุ สรรคในการปฏบิ ตั งิ าน - ขอ้ เสนอแนะ -
11 ภาคผนวก
12 ภาพถา่ ยการจดั กจิ กรรม โครงการพลเมอื งดวี ถิ ปี ระชาธปิ ไตย จำนวน 6 ชวั่ โมง วนั ท่ี 17 เดอื น กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564 ณ หอประชมุ อำเภอบางไทร อำเภอบางไทร จงั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยา
Search
Read the Text Version
- 1 - 16
Pages: