Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สรุปหม้อแกงบ้านม้า2564

สรุปหม้อแกงบ้านม้า2564

Published by numdangsarin2207, 2021-04-22 01:54:10

Description: สรุปหม้อแกงบ้านม้า2564

Search

Read the Text Version

รายงานผลการดำเนนิ งาน รปู แบบกลมุ่ สนใจหลกั สตู ร การทำขนมหม้อแกง จำนวน 5 ชวั่ โมง วนั ท่ี 24 กมุ ภาพนั ธ์ 2564 กศน.ตำบลบา้ นมา้ ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อำเภอบางไทร จงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยา ประจำปงี บประมาณ 2564 ไตรมาส 1-2

บนั ทกึ ขอ้ ความ สว่ นราชการ ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อำเภอบางไทร ที่ ศธ ๐๒๑๐.๔๘๐๕/๑๐๗๘ วนั ที่ ๘ เดอื น เมษายน ๒๕๖๔ เรอื่ ง รายงานผลการดำเนนิ งานศนู ยฝ์ กึ อาชพี ชุมชน รูปแบบกลุ่มสนใจหลักสูตรการทำขนมหม้อแกง จำนวน ๕ชวั่ โมง ....................................................................................................................................................................................... เรียน ผอู้ ำนวยการศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อำเภอบางไทร ตามที่ ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอบางไทร ได้อนุมัติศูนย์ฝึก อาชพี ชุมชน รูปแบบกล่มุ สนใจหลักสูตรการทำขนมหมอ้ แกง จำนวน ๕ชว่ั โมง กศน.ตำบลบ้านม้า ได้ดำเนินการจัดศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน รูปแบบกลุ่มสนใจหลักสูตรการทำขนมหม้อแกง จำนวน ๕ชว่ั โมง ในวนั ท่ี ๒๔ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๔ ณ กศน.ตำบลบ้านม้า หมู่ที่ ๓ ตำบล บ้านมา้ อำเภอบางไทร จงั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยา มผี ู้เข้าร่วมโครงการ จำนวน ๑๑ คน เอกสารดังแนบ มาพรอ้ มนี้ จงึ เรียนมาเพ่อื โปรดทราบ (นางสาวสรินทร โกษะ) ครูศูนยก์ ารเรียนชุมชน ทราบ อน่ื ๆ (นางสาวมกุ ดา แขง็ แรง) ผูอ้ ำนวยการ กศน.อำเภอภาชี รักษาการในตำแหนง่ ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอบางไทร

คำนำ เอกสาร รายงานผลการดำเนินงาน การจัดและส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ ศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน รปู แบบกลมุ่ สนใจหลักสูตรการทำขนมหม้อแกง จำนวน ๕ช่ัวโมง จัดทำขึ้นเพื่อรายงานผลการดำเนินงานด้านการจัด การศกึ ษาตอ่ เน่ืองของ กศน.ตำบลบ้านม้า ภายใต้การดูแลของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย อำเภอบางไทร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบข้ันตอนการดำเนินกิจกรรม ประเมินผลและพัฒนาการดำเนิน กจิ กรรมของ กศน.ตำบลบา้ นม้า ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เอกสารรายงานผลการดำเนินงาน การจัดและส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ ศนู ย์ฝึกอาชีพชมุ ชนรปู แบบกล่มุ สนใจหลักสตู รการทำขนมหม้อแกง จำนวน ๕ช่ัวโมง นี้ จะเปน็ แนวทางในการพัฒนา งานและการจดั กิจกรรมด้านการศึกษาต่อเน่อื งของ กศน.ตำบลบา้ นมา้ ในโอกาสตอ่ ไป นางสาวสรินทร โกษะ ครู ศนู ย์การเรียนชุมชน

สารบญั คำนำ หนา้ สารบญั บทท่ี 1 บทนำ 1 เหตุผลและความจำเป็น 2 วัตถปุ ระสงค์ ประโยชนท์ ่ีคาดวา่ จะไดร้ ับ 4 บทที่ 2 เอกสารท่เี กย่ี วขอ้ ง 7 ความสำคัญของการจดั และส่งเสรมิ กระบวนการเรียนรศู้ นู ย์ฝึกอาชีพชมุ ชน 12 ทม่ี าและความสำคัญของหลกั สูตรการทำขนมหม้อแกง บทท่ี 3 วธิ กี ารดำเนนิ งาน บทที่ 4 ผลการดำเนนิ งาน บทท่ี 5 สรปุ อภปิ รายผล และขอ้ เสนอแนะ วัตถุประสงคก์ ารดำเนินงาน วิธดี ำเนนิ การ อภิปรายผล ขอ้ เสนอแนะ และแนวทางในการพฒั นากจิ กรรม ภาคผนวก ภาพกจิ กรรมศูนย์ฝกึ อาชีพชมุ ชนรูปแบบกลมุ่ สนใจหลกั สูตรการทำขนมหม้อแกง รายชื่อผ้เู ข้าร่วมกิจกรรม แบบสำรวจความต้องการเรียนรู้การศึกษาตอ่ เน่อื ง ใบสมัครผู้เรยี นหลักสูตรการศกึ ษาตอ่ เนือ่ ง

บทที่ 1 บทนำ เหตุผลและความจำเป็น สืบเนื่องจากกระทรวงศึกษาธิการได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ.2561 - 2580 และได้กำหนดบทบาท หน้าท่ีของสำนักงาน กศน ตามนโยบายและจุดเน้นการดำเนินงานของสำนักงาน กศน. ยุทธศาสตร์ท่ี 3 ด้านการ พัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคนใหม้ คี ุณภาพ 3.1 เร่งรัดดำเนนิ การจัดการศึกษาอาชีพเพ่ือยกระดับทกั ษะอาชพี ของ ประชาชนสู่ฝีมือแรงงาน 1) จัดการศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานทำท่ีสอดคล้องกับศักยภาพของชุมชน และความ ตอ้ งการของตลาด ให้ประชาชนสามารถนำไปประกอบอาชีพได้ (2) บูรณาการความร่วมมือในการพัฒนาฝีมือแรงงาน กับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ผ่านศูนย์ประสานงานการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษาภาคทั่ว ประเทศ เพ่ือมุ่งพัฒนาทักษะของประชาชนโดยใช้ประโยชนจ์ ากศกั ยภาพและภูมสิ ังคมเฉพาะของพ้ืนท่ี ยุทธศาสตรท์ ี่ 4 ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา 4.5 พัฒนาหลักสูตรการจัดการศึกษาอาชีพระยะสั้น ให้มี ความหลากหลาย ทันสมัย เหมาะสมกบั บริบทของพน้ื ท่ี และตอบสนองความตอ้ งการของประชาชนผรู้ บั บริการ เพือ่ ใหก้ ารดำเนินงานแผนยทุ ธศาสตรด์ า้ นการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคนให้มีคุณภาพบรรลุผลสำเร็จสู่ วิสัยทัศน์ กระทรวงศึกษาธิการจึงกำหนดวิสัยทัศน์ของประเทศ คือ ประเทศไทยมีความมั่นคง ม่ังค่ัง ย่ังยืน เป็น ประเทศที่พัฒนาแล้วด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง และกำหนดเป้าหมายการพัฒนาประเทศ คือ ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข เศรษฐกิจพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สังคมเป็นธรรมฐานทรพั ยากรธรรมชาติ ยั่งยืน โดยยกระดับศักยภาพของประเทศในหลากหลายมิติ พัฒนาคนในทุกมิติ และในทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี คนเก่ง และมคี ณุ ภาพ สร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคมสรา้ งการเตบิ โตบนคณุ ภาพชวี ติ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอบางไทร เห็นว่าเป็นการส่งเสริมสนับสนุนการ ดำเนินงานของศูนย์ฝกึ อาชีพชมุ ชนให้สอดคล้องกับยทุ ธศาสตร์ของกระทรวงศึกษาธิการ และแนวทางการขบั เคลื่อน การศึกษาของสำนักงาน กศน. โดยเฉพาะใน ๕ กลุ่มอาชีพใหม่ ซึ่งเป็นบทบาทของสถานศึกษา ในการดำเนินการ จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพและการมีงานทำให้สอดคล้องตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมายและศักยภาพของ พ้นื ที่ กศน.ตำบลแคตกจงึ ไดจ้ ดั ทำศนู ยฝ์ กึ อาชีพชุมชน รปู แบบกลุม่ สนใจหลักสตู รการทำขนมหม้อแกงขนึ้ วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพือ่ ให้ประชาชนผรู้ ับบริการมีความรู้ความเข้าใจในการทำขนมหมอ้ แกง 2. เพ่อื ให้ประชาชนผรู้ บั บรกิ ารมที กั ษะและมองเห็นช่องทางการทำขนมหม้อแกงเปน็ อาชีพได้ ประโยชน์ทค่ี าดวา่ จะไดร้ บั 1. เพอื่ ให้ประชาชนผูร้ ับบรกิ ารมคี วามรคู้ วามเข้าใจในการทำขนมหมอ้ แกง 2. เพ่อื ใหป้ ระชาชนผู้รบั บริการมีทักษะและมองเหน็ ชอ่ งทางการทำขนมหม้อแกงเปน็ อาชีพได้

บทที่ 2 เอกสารทเี่ กยี่ วขอ้ ง การศึกษาต่อเนือ่ งรูปแบบกลมุ่ สนใจ หลักสตู รการทำขนมหม้อแกง ได้เสนอแนวคิด หลักการและเอกสารที่ เกย่ี วข้อง ตามลำดบั ดงั ต่อไปนี้ 1. ความสำคญั ของการจดั และส่งเสรมิ กระบวนการเรียนรูศ้ ูนย์ฝกึ อาชีพชมุ ชน 2. ทีม่ าและความสำคญั ของ หลักสูตรการทำขนมหมอ้ แกง 1. ความสำคญั ของการจดั และส่งเสริมกระบวนการเรยี นรศู้ นู ยฝ์ ึกอาชีพชมุ ชน กจิ กรรมการจดั และส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ศูนยฝ์ ึกอาชพี ชุมน ตามนโยบายของสำนักงาน กศน. มลี ักษณะสำคัญดังนี้ - จัดให้มีศูนย์ฝึกอาชีพอาชีพชุมชนในทุกอำเภอ/เขต อย่างน้อยอำเภอ/เขตละ 3 แห่ง เพื่อเป็น ศูนย์กลางในการฝึก พัฒนา สาธิตและสร้างอาชีพของผู้เรียนและชุมชน รวมทั้งเป็นที่จัดเก็บ แสดง จำหน่ายและ กระจายสนิ ค้าและบริการของชมุ ชนอย่างเป็นระบบครบวงจร - พัฒนาและจัดทำหลักสูตรการศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานทำที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน ความต้องการของตลาด และศักยภาพของพ้ืนท่ี โดยมีเป้าหมายเพื่อให้การจัดการศึกษาอาชีพแนวใหม่ เป็นการจัด การศึกษาทสี่ ามารถสร้างอาชีพหลักท่ีมั่นคงให้กบั ผูเ้ รยี น โดยสามารถสรา้ งรายได้ได้จริงท้ังในระหวา่ งเรยี นและสำเร็จ การศึกษาไปแล้ว และสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอาชีพ เพื่อพัฒนาให้เป็น ผู้ประกอบการท่มี ีความสามารถเชิงการแขง่ ขนั อย่างย่ังยืน - ประสานการดำเนินงานกบั ศูนย์ฝึกอาชพี ชมุ ชนของหน่วยงานและสถานศกึ ษาตา่ งๆ ในพน้ื ท่ีเพอ่ื เช่ือมโยงเปน็ เครือขา่ ยการฝึกและสร้างอาชีพของประชาชนและชุมชนในจงั หวดั กลุม่ จังหวัด และระหวา่ งจงั หวดั - จัดให้มีระบบการประสานงานเพื่อสนับสนุนให้ผู้เรียนสามารถเข้าถึงแหล่งทุนต่างๆ สำหรับเป็น ชอ่ งทางในการเสริมสร้างความเข้มแขง็ และการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันด้านอาชีพอย่างต่อเนื่องให้กับ ผู้เรยี น - จัดใหม้ ีการกำกับ ติดตาม และรายงานผลการจัดการศึกษาอาชพี เพ่ือการมีงานทำอย่างเป็นระบบ และต่อเนื่องพร้อมทั้งนำผลที่ได้มาใชใ้ นการพัฒนาคุณภาพการดำเนินงานให้เป็นไปตามความต้องการด้านการศึกษา อาชีพเพ่อื การมีงานทำของประชาชนและความต้องการของตลาด

2. ทม่ี าและความสำคญั ของ หลกั สตู รการทำขนมหมอ้ แกง สืบเนื่องจากกระทรวงศึกษาธิการได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ.2561 - 2580 และได้กำหนดบทบาท หน้าที่ของสำนักงาน กศน ตามนโยบายและจุดเน้นการดำเนินงานของสำนักงาน กศน. ยุทธศาสตร์ท่ี 3 ด้านการ พัฒนาและเสรมิ สร้างศักยภาพคนใหม้ คี ุณภาพ 3.1 เรง่ รัดดำเนนิ การจดั การศึกษาอาชีพเพ่ือยกระดับทกั ษะอาชีพของ ประชาชนสู่ฝีมือแรงงาน 1) จัดการศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานทำที่สอดคล้องกับศักยภาพของชุมชน และความ ต้องการของตลาด ให้ประชาชนสามารถนำไปประกอบอาชพี ได้ (2) บูรณาการความร่วมมือในการพฒั นาฝีมือแรงงาน กับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ผ่านศูนย์ประสานงานการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษาภาคทั่ว ประเทศ เพื่อมุ่งพัฒนาทกั ษะของประชาชนโดยใช้ประโยชนจ์ ากศกั ยภาพและภูมสิ ังคมเฉพาะของพื้นที่ ยทุ ธศาสตรท์ ี่ 4 ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา 4.5 พัฒนาหลักสูตรการจัดการศึกษาอาชีพระยะสั้น ให้มี ความหลากหลาย ทนั สมยั เหมาะสมกบั บรบิ ทของพ้ืนที่ และตอบสนองความตอ้ งการของประชาชนผรู้ บั บรกิ าร เพื่อให้การดำเนินงานแผนยทุ ธศาสตร์ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคนให้มคี ุณภาพบรรลผุ ลสำเรจ็ สู่ วิสัยทัศน์ กระทรวงศึกษาธิการจึงกำหนดวิสัยทัศน์ของประเทศ คือ ประเทศไทยมีความม่ันคง ม่ังคั่ง ย่ังยืน เป็น ประเทศที่พฒั นาแล้วด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง และกำหนดเป้าหมายการพัฒนาประเทศ คือ ประเทศชาติม่ันคง ประชาชนมีความสุข เศรษฐกิจพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สังคมเป็นธรรมฐานทรัพยากรธรรมชาติ ยั่งยืน โดยยกระดับศักยภาพของประเทศในหลากหลายมิติ พัฒนาคนในทุกมิติ และในทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี คนเก่ง และมคี ุณภาพ สรา้ งโอกาสและความเสมอภาคทางสงั คมสร้างการเติบโตบนคณุ ภาพชีวติ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอบางไทร เห็นว่าเป็นการส่งเสริมสนับสนุนการ ดำเนินงานของศูนย์ฝกึ อาชีพชมุ ชนให้สอดคล้องกับยทุ ธศาสตร์ของกระทรวงศึกษาธิการ และแนวทางการขบั เคลื่อน การศึกษาของสำนักงาน กศน. โดยเฉพาะใน ๕ กลุ่มอาชีพใหม่ ซึง่ เป็นบทบาทของสถานศึกษา ในการดำเนินการ จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพและการมีงานทำให้สอดคล้องตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมายและศักยภาพของ พื้นที่ กศน.ตำบลแคตก จึงไดจ้ ัดทำศนู ย์ฝึกอาชีพชุมชน รูปแบบกลุ่มสนใจ หลักสูตรการทำขนมหมอ้ แกงขนึ้

บทที่ 3 วธิ ดี ำเนนิ งาน ด้วย กศน.ตำบลบ้านม้า ได้จัดโครงการจัดและส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ ศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน โดยยึด กลุ่มเป้าหมายเป็นสำคัญ ทำให้เน้ือหาตามหลักสูตรระยะเวลาการจัดกิจกรรม สถานที่ และลักษณะกิจกรรมการ เรียนรู้ข้ึนอยู่กับ ศักยภาพและความพร้อมของกลุ่มเป้าหมาย ซ่ึงเป็นการตอบสนองนโยบายขอสำนักงานส่งเสริม การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย ซ่ึงไดด้ ำเนินการ ดงั นี้ การจดั การศกึ ษาตอ่ เนอ่ื งรปู แบบกลมุ่ สนใจ หลกั สตู รการทำขนมหมอ้ แกง วนั ที่ 5 มนี าคม 2564 สาระสำคญั การทำขนมหม้อแกง สว่ นผสมขนมหมอ้ แกง ชอ้ นโตะ๊ 1. แป้งทองหยอด 3 1 กิโลกรัม 2. ถ่ัวซกี 2 ½ กโิ ลกรัม 3. นำ้ ตาลป๊ีบ 3 กิโลกรมั 4. กะทิ 30 ฟอง 5. ไขเ่ ปด็ 30 ฟอง 6. ไขไ่ ก่ 1 กโิ ลกรัม 7. หอมเจยี ว 1 กโิ ลกรัม 8. นำ้ มันพชื

ขนั้ ตอนการทำ วิธที ำ 1. นึง่ ถ่ัวซกี จนสุกแล้วนำมาปน่ั พร้อมกะทิ บางสว่ น 2. ผสม ส่วนผสม โดยนำไข่ กะทิ น้ำตาลปีปผสมเข้าด้วยกนั แลว้ กรอง 3. นำถั่วทป่ี ่ันผสมกบั ตัวไข่ ใสน่ ำ้ มนั ทไี่ ดจ้ ากการเจียวหวั หอมลงไป ผสมให้เขา้ กนั วอร์มเตาไว้ 20นาทีกอ่ น อบ 4. ตกั ส่วนผสมใสถ่ าดที่เราเตรียมไว้ 5. นำถาดเขา้ ไปอบ ในเตาอบ อบไฟบนล่าง 180 องศา เป็นเวลา 50 นาที (เวลาที่ใชใ้ นการอบขึน้ อยกู่ ับ ขนาดของถาด) วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพอ่ื ใหป้ ระชาชนผรู้ ับบริการมีความรู้ความเขา้ ใจในการทำขนมหมอ้ แกง 2. เพอ่ื ใหป้ ระชาชนผ้รู บั บริการมที กั ษะและมองเหน็ ชอ่ งทางการทำขนมหมอ้ แกงเป็นอาชพี ได้ กจิ กรรมทด่ี ำเนนิ การ จดั กิจกรรม ใหป้ ระชาชนกลุ่มเปา้ หมายในตำบลแคตก ได้แก่ 1. วิทยากรบรรยายให้ความรู้ในเรื่องต่อไปนี้ 1.1 ความปลอดภัยในการทำงาน 1.2 การใช้เคร่อื งมอื และอุปกรณ์ 1.3 วสั ด-ุ อปุ กรณ์ ท่ีใช้ในการทำขนมหมอ้ แกง 1.4 ความรเู้ บอ้ื งตน้ ในการทำขนมหม้อแกง 1.5 เทคนคิ การทำขนมหมอ้ แกง 2. วทิ ยากรและผูเ้ รยี นร่วมกันแลกเปลีย่ นเรียนรู้เก่ียวกับการทำขนมหมอ้ แกง 3. วทิ ยากรบรรยายให้ความรแู้ ละสาธติ การทำขนมหมอ้ แกง 4. ผ้เู รียน เรียนรู้และฝึกหดั ทำขนมหม้อแกง

ผลทไ่ี ด้รับจากการดำเนนิ กจิ กรรม 1. กลุ่มผเู้ รียนร้อยละ 80 มคี วามรแู้ ละทกั ษะ มองเห็นชอ่ งทางทำให้เกดิ รายได้เสรมิ สร้างอาชีพใหม่เกิดข้ึน ภายในตำบล 2. กลมุ่ ผู้เรยี นรอ้ ยละ 80 เกดิ กระบวนการเรียนรู้ มกี ารรวมกล่มุ เพ่ือพัฒนาอาชีพ 3. กลุม่ ผูเ้ รียนร้อยละ 80 เกิดกระบวนการคิดเปน็ แกป้ ัญหาเป็น ในการหาชอ่ งทางการขยายอาชีพ

บทที่ 4 ผลการดำเนนิ งาน จากการสำรวจความพึงพอใจ ศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน รูปแบบกลุ่มสนใจหลักสูตรการทำขนมหม้อแกง กศน.ตำบลบ้านม้า มผี ูเ้ ข้าร่วมโครงการ โดยใชแ้ บบประเมินความพึงพอใจ จำนวน 11 ฉบับ และไดร้ ับกลบั คืนมา จำนวน 11 ฉบบั วิเคราะห์ข้อมลู โดยใช้โปรแกรม Excel ตามขนั้ ตอนต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ 1. วเิ คราะหข์ อ้ มลู จากแบบสอบถามตอนที่ 1 โดยแจกแจงความถี่และคา่ รอ้ ยละ 2. วิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถามตอนท่ี 2 โดยหาค่าเฉล่ีย ( X ) แปลความหมายข้อมูลเชิง ปรมิ าณ ให้ระดับคะแนนในแบบสอบถามท่ีเปน็ แบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดบั ตามเกณฑ์ประเมินความคิดเห็น ของเบสท์ (Best. 1981 : 182ดงั นี้ 4.51–5.00 หมายถึงความพงึ พอใจอยใู่ นระดับดมี าก 3.51–4.50 หมายถึงความพึงพอใจอยูใ่ นระดับดี 2.51–3.50 หมายถงึ ความพึงพอใจอยู่ในระดบั ปานกลาง 1.51–2.50 หมายถึงความพึงพอใจอยใู่ นระดับพอใช้ 1.00–1.50 หมายถึงความพึงพอใจอยู่ในระดับปรับปรุง 3. วิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถามตอนที่3 ข้อมูลที่เป็นมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) โดยหาค่าเฉล่ีย (X ) แปลความหมายข้อมูล แปลความหมายข้อมูลเชิงปริมาณ โดยใช้เกณฑ์ข้อ 2 ข้อมูลที่เป็น ความคิดเห็น และข้อเสนอแนะ ใช้วิธีการวิเคราะห์เน้ือหา (Content Analysis) จัดกลุ่มคำตอบ และหาค่าความถ่ี สรปุ ผลการประเมินความพึงพอใจ ศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนรูปแบบกลุ่มสนใจหลกั สตู รการทำขนมหม้อ แกง ไดด้ งั น้ี

ตอนท่ี 1 ขอ้ มลู สว่ นตวั ของผตู้ อบแบบสอบถาม ตารางท่ี 1 ข้อมูลท่ัวไปของผ้ตู อบแบบสอบถาม จำแนกตาม เพศ อายุ ระดับการศึกษา และอาชีพ ขอ้ มลู ทวั่ ไป จำนวน รอ้ ยละ เพศ ชาย 1 9.09 หญิง 10 90.91 อายุ ต่ำกวา่ 15 ปี 0 0.00 15-29 ปี 0 0.00 30-39 2 18.18 40-49 ปี 4 36.36 50-59 1 9.09 60 ปขี ึน้ ไป 4 36.36 การศกึ ษา ต่ำกว่า ป.4 0 0.00 ป.4 3 27.27 ประถมศกึ ษา 1 9.09 มธั ยมศึกษาตอนต้น 0 0.00 มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 3 27.27 อนปุ รญิ ญา 1 9.09 ปรญิ ญาตรี 1 9.09 ปริญญาโท 2 18.18 อาชีพ รบั จ้าง 1 9.09 ค้าขาย 0 0.00 เกษตรกรรม 3 27.27 รบั ราชการ 0 0.00 อืน่ ๆแม่บ้าน 7 63.63 จากตารางท่ี 1 แสดงจำนวนผู้ตอบแบบสอบถามท้งั หมด 11 คน เป็นเพศหญิง จำนวน 10 คน (คิดเปน็ ร้อยละ 90.91) เปน็ เพศชาย จำนวน 1 คน (คิดเป็นร้อยละ 9.09) ด้านอายุ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม ส่วนมากอยู่ในช่วงอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 4 คน (คิดเป็นร้อยละ 36.36) ช่วงอายุ 40-49 ปขี ึ้นไป จำนวน 4 คน (คิดเป็นร้อยละ 36.36) รองลงมาคือช่วงอายุ 30 – 39 ปี จำนวน 2 คน (คิดเปน็ รอ้ ยละ 18.18) และช่วงอายุ 50 – 59 ปี จำนวน 1 คน (คิดเปน็ ร้อยละ 9.09)ตามลำดบั ดา้ นการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสำรวจส่วนมาก มีการศึกษาอยู่ในระดับป.4 จำนวน 3 คน (คิดเป็นรอ้ ยละ 27.27) รองลงมาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 3 คน (คิดเป็นร้อยละ 27.27) และระดบั ปรญิ ญาโท จำนวน 2 คน (คิดเปน็ ร้อยละ 18.18) ระดบั ปริญญาตรี อนุปรญิ ญา และระดับประถมศกึ ษา มีจำนวนระดับละ 1 คน (คิดเป็น ร้อยละ 9.09) (ตามลำดบั )

ด้านอาชีพ พบว่า ผู้ตอบแบบสำรวจส่วนมากประกอบอาชีพอ่ืนๆ จำนวน 7 คน (คิดเป็นร้อยละ 63.63) รองลงมาคืออาชีพเกษตรกรรม จำนวน 3 คน (คิดเป็นร้อย 27.27) และอาชีพรับจ้างจำนวน 1 คน (คิดเป็นร้อยละ 9.09) ตามลำดบั สรุปผลการประเมินความพึงพอใจศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนรูปแบบกลุ่มสนใจหลกั สูตรการทำขนมหม้อแกง ท่ีเข้า ร่วมโครงการ ไดด้ งั น้ี แบบประเมนิ ความพงึ พอใจ มี 4 ด้าน ผลการประเมนิ ความพงึ พอใจทม่ี ตี อ่ โครงการโดยรวมและแยกเปน็ รายด้าน ความหมาย รายการประเมนิ X 1. ความพึงพอใจดา้ นเนอ้ื หา 2. ความพึงพอใจด้านกระบวนการจดั กิจกรรมการอบรม 4.44 ดี 3. ความพงึ พอใจตอ่ วิทยากร 4.45 ดี 4. ความพึงพอใจด้านการอำนวยความสะดวก 4.47 ดี 4.48 ดี รวม 4.46 ดี จากตารางท่ี 2 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจท่ีมตี ่อโครงการ โดยรวมและรายดา้ น อยู่ในระดับ ดี ทกุ รายการ เมอ่ื พิจารณาเปน็ รายข้อ พบวา่ อันดับหน่ึงคือ ความพึงพอใจด้านการอำนวยความสะดวกรองลงมา ความพึงพอใจต่อวิทยากรรองลงมาความพงึ พอใจด้านกระบวนการจัดกิจกรรมการอบรมและด้านความพึงพอใจด้าน เน้ือหาตามลำดับ ตอนที่ 1 ความพงึ พอใจด้านเนอื้ หา รายการประเมนิ ผลการประเมนิ 1. เนอื้ หาตรงตามความตอ้ งการ X ความหมาย 4.44 ดี 2. เนอ้ื หาเพยี งพอต่อความต้องการ 4.44 ดี 3. เนื้อหาปจั จบุ นั ทันสมยั 4.44 ดี 4. เนอ้ื หามีประโยชนต์ อ่ การนำไปใชใ้ นการพฒั นาคุณภาพชีวิต 4.45 ดี รวม 4.44 ดี จากตอนที่ 1 พบว่าผตู้ อบแบบสอบถามมคี วามพงึ พอใจทมี่ ตี อ่ โครงการความพงึ พอใจดา้ นเนื้อหาโดยรวมและ รายด้านอยใู่ นระดับ ดี เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบวา่ อันดบั หน่ึงคือ เน้อื หามปี ระโยชน์ต่อการนำไปใช้ในการพฒั นา คุณภาพชีวิตรองมาอันดบั สองสามและส่ี เท่ากัน คอื เนอ้ื หาตรงตามความต้องการ/เน้ือหาเพียงพอต่อความต้องการ/และ เนอ้ื หาปจั จุบนั ทันสมัยตามลำดบั

ตอนที่ 2 ความพงึ พอใจดา้ นกระบวนการจดั กจิ กรรมการอบรม ผลการประเมนิ X ความหมาย รายการประเมนิ 4.45 ดี 4.44 ดี 1. การเตรียมความพร้อมกอ่ นอบรม 4.46 ดี 2. การออกแบบกจิ กรรมเหมาะสมกับวตั ถปุ ระสงค์ 4.45 ดี 3. การจัดกิจกรรมเหมาะสมกับเวลา 4.45 ดี 4. การจัดกจิ กรรมเหมาะสมกับกลมุ่ เป้าหมาย 4.45 ดี 5. วธิ ีการวดั ผล/ประเมินผลเหมาะสมกับวตั ถุประสงค์ รวม จากตอนท่ี 2 พบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามมีความพอใจดา้ นกระบวนการจดั กจิ กรรมการอบรมโดยรวมและราย ด้านอยใู่ นระดับ ดี เมอื่ พจิ ารณาเป็นรายขอ้ พบว่า อันดับหนงึ่ คอื การจัดกิจกรรมเหมาะสมกับเวลาอันดบั สองสามและ ส่ี คือการจัดกิจกรรมเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย/วิธีการวัดผล/ประเมินผลเหมาะสมกับวตั ถุประสงค์/การเตรยี มความพรอ้ ม ก่อนอบรมอนั ดับหา้ คอื การออกแบบกิจกรรมเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ตามลำดับ ตอนที่ 3 ความพงึ พอใจตอ่ วทิ ยากร ผลการประเมนิ X ความหมาย รายการประเมนิ 4.47 ดี 4.47 ดี 1. วทิ ยากรมคี วามรคู้ วามสามารถในเร่ืองท่ีถ่ายทอด 4.47 ดี 2. วทิ ยากรมเี ทคนคิ การถา่ ยทอดใชส้ ่อื เหมาะสม 4.47 ดี 3. วทิ ยากรเปิดโอกาสให้มีสว่ นรว่ มและซกั ถาม รวม จากตอนที่ 3 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจต่อวทิ ยากรโดยรวมและรายด้านอยู่ในระดบั ดี เม่ือ พิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อันดับหน่ึงสองและสาม คือวิทยากรมีความรู้ความสามารถในเรื่องที่ถ่ายทอด/วิทยากรมี เทคนิคการถ่ายทอดใช้สอ่ื เหมาะสม/วทิ ยากรเปิดโอกาสใหม้ สี ่วนร่วมและซักถามตามลำดับ

ตอนท่ี 4 ความพงึ พอใจดา้ นการอำนวยความสะดวก ผลการประเมนิ X ความหมาย รายการประเมนิ 4.48 ดี 4.47 ดี 1. สถานท่ี วสั ดุ อุปกรณแ์ ละสงิ่ อำนวยความสะดวก 4.49 ดี 2. การสือ่ สาร การสร้างบรรยากาศเพื่อใหเ้ กิดการเรยี นรู้ 4.48 ดี 3. การบริการ การช่วยเหลอื และการแก้ปัญหา รวม จากตอนท่ี 4 พบว่าผตู้ อบแบบสอบถามมีความพึงพอใจด้านการอำนวยความสะดวกโดยรวมและรายด้าน อยู่ในระดับดี เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อันดับหน่ึงสอง คือการบริการ การช่วยเหลือและการแก้ปัญหา อันดับสอง คือ สถานท่ี วัสดุ อุปกรณ์และส่ิงอำนวยความสะดวก และอันดับสาม คือ การส่ือสาร การสร้าง บรรยากาศเพื่อให้เกิดการเรยี นรู้ตามลำดับ

บทท่ี 5 สรปุ อภปิ รายผล และขอ้ เสนอแนะ ผลการดำเนนิ ศูนย์ฝกึ อาชีพชมุ ชน รูปแบบกลุ่มสนใจหลักสูตรการทำขนมหม้อแกง กศน.ตำบลบา้ นม้า คร้ังน้ี มวี ัตถุประสงคเ์ พ่ือประเมนิ ผลความพงึ พอใจของผ้เู รียน/ผู้รับบริการทม่ี ีต่อโครงการโดยรวมและแยกเป็นรายดา้ น โดย ใชแ้ บบสอบถามจำนวน 11 ฉบบั เครอ่ื งมือทใ่ี ช้เปน็ แบบสอบถามที่เปน็ แบบมาตราสว่ นประมาณค่า 5 ระดับ ตาม เกณฑ์ประเมินความคิดเห็นของเบสท์ (Best. 1981 : 182) วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าเฉล่ีย (X ) แปลความหมาย ขอ้ มูล แปลความหมายข้อมูลเชิงปริมาณ โดยใช้เกณฑ์ข้อ 2 ข้อมูลที่เป็นความคิดเห็น และข้อเสนอแนะ ใช้วิธีการ วิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) จัดกลุ่มคำตอบ และหาค่าความถ่ี สรปุ ผลการประเมนิ ความพงึ พอใจของผเู้ รยี น/ผรู้ บั บรกิ าร จากแบบประเมินความพงึ พอใจสรปุ ผลได้ ดงั น้ี 1. ดา้ นหลักสูตร พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจที่มีต่อโครงการด้านหลักสูตร โดยรวมและราย ด้านอยู่ในระดับดีมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อันดับหนึ่งคือผู้เรียน/ผู้รับบริการมีส่วนร่วมแสดงความ คดิ เห็นต่อการจดั ทำหลักสูตร รองมาอันดับสองคือ ผู้เรยี น/ผู้รับบริการสามารถนำความรไู้ ปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน อันดับสามคือกิจกรรมท่ีจัดสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของหลักสูตรอันดับส่ี คือ การจัดกิจกรรมทำให้ผู้เรียน/ ผูร้ ับบริการสามารถคิดเป็น ทำเปน็ แกป้ ัญหาเป็นอันดบั ห้าคือ สอื่ /เอกสารประกอบการจัดกิจกรรมมีความเหมาะสม และ อนั ดบั สดุ ทา้ ยคือ เนือ้ หาของหลักสตู รตรงกับความตอ้ งการของผเู้ รียน/ผรู้ บั บริการตามลำดบั 2. ด้านวิทยากร พบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจที่มีต่อโครงการด้านวิทยากรโดยรวมและราย ด้านอยู่ในระดับ ดีมาก เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อนั ดับหนึ่งคือวิทยากรมีคุณธรรม จรยิ ธรรมอันดับสองคือ วิทยากรมีเทคนิค กระบวนการจัดกิจกรรมอันดบั สาม คือ วิทยากร มีความรู้ความสามารถในการจัดกจิ กรรมอันดับส่ี คอื วิทยากรมีการใชส้ ่ือที่สอดคล้องและเหมาะสมกับกจิ กรรมและอันดบั สุดท้าย คอื บคุ ลกิ ภาพของวิทยากรตามลำดับ 3. ด้านสถานท่ี/ระยะเวลา/ความพึงพอใจ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจท่มี ีต่อโครงการด้าน สถานท่ี/ระยะเวลา/ความพึงพอใจ โดยรวมและรายด้านอยูใ่ นระดบั ดีมาก เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อันดับ หน่งึ คือ ความพงึ พอใจในภาพรวมของผู้รบั บรกิ ารต่อการเข้ารว่ มกจิ กรรมอันดับสองคือสถานที่ในการจดั กจิ กรรม และ อนั ดบั สุดท้าย คือ ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมเหมาะสม ตามลำดบั

ผลการดำเนนิ งาน 1. จำนวนผู้เข้าร่วมศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนรูปแบบกลุ่มสนใจหลักสูตรการทำขนมหม้อแกง กศน.ตำบลบา้ นม้า จำนวน 11 คน คือกลมุ่ เปา้ หมายร้อยละ 85 มีความรู้ทักษะ มองเห็นช่องทางในการประกอบอาชพี กลุ่มเป้าหมาย เกิดกระบวนการเรียนรู้ มีการรวมกลุ่มเพื่อพัฒนาอาชีพกลุ่มเป้าหมายมีการบริหารจัดการกลุ่มท่ีดี สามารถพัฒนา อาชีพของกลุม่ ได้ 2. ผเู้ ข้าร่วมศูนย์ฝกึ อาชีพชุมชน รูปแบบกลุ่มสนใจหลักสูตรการทำขนมหม้อแกง ได้ให้ความร่วมมือรว่ มใจ และลงมอื ทำเป็นอยา่ งดี 3. ผู้เข้าร่วมโครงการ มีความพึงพอใจในการจัดกจิ กรรม ในระดับดี ตามแบบประเมินความพึงพอใจในการ จัดกจิ กรรม ทแ่ี นบมาน้ี ปญั หาและอปุ สรรคในการปฏบิ ตั งิ าน - ขอ้ เสนอแนะ -

ภาคผนวก

ภาพกจิ กรรม กลมุ่ สนใจ หลกั สตู รการทำขนมหมอ้ แกง วนั ท่ี 24 กมุ ภาพนั ธ์ 2564 ณ กศน.ตำบลบา้ นมา้ หมทู่ ี่ 3 ตำบลบา้ นมา้ อำเภอบางไทร จงั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook