คำนำ หนงั สอื อิเล็กทรอนกิ สเ์ ลม่ นี้ เร่ือง พทุ ธประวตั ิ เป็ นสว่ นหนง่ึ ของวิชาพระพทุ ธศาสนา ซ่ึงบรู ณาการกบั วิชาคอมพิวเตอร์ มจี ดุ ประสงคเ์ พอ่ื ใหผ้ อู้ ่านไดท้ ราบเก่ียวกบัประวตั ขิ องพระพทุ ธเจา้ ศาสดาของศาสนาพทุ ธ ผา่ นสอื่เทคโนโลยีเพ่ือใหเ้ ขา้ กบั ความเปลยี่ นแปลงในปัจจบุ นั ผจู้ ดั ทาขอขอบอาจารยท์ ่ีใหค้ าแนะนาจนทาหนงั สอืสาเร็จและสมาชกิ ผจู้ ดั ทาที่ทาใหง้ านก็ไดป้ ระสบความสาเร็จผจู้ ดั ทาหวงั วา่ ผอู้ า่ นจะไดร้ บั ความรจู้ ากการอ่านไมม่ ากก็นอ้ ยหากมขี อ้ ผดิ พลาดประการใดตอ้ งขออภยั มา ณ ที่นด้ี ว้ ย
สำรบญั หนำ้ 1เรอ่ื ง 2การประสตู ิ และคาทานาย 3การเจริญวยั และพบเทวทตู ทงั้ ส่ี 4การปฏิบตั ติ นเพ่ือพน้ จากทกุ ข์ 5-6การตรสั รู้ 7การเผยแพรศ่ าสนาพทุ ธ 8การปลงอายสุ งั ขารและปรินพิ พาน 9ตอบคาถาม 10เฉลยตอบคาถาม 11บรรณานกุ รมรายชอ่ื สมาชกิ ผจู้ ดั ทา
ประสตู ิ และคำทำนำยพระนางสริ ิมหามายาทรงพระสบุ ินนมิ ติ ว่า มชี า้ งเผอื กมงี าสามคไู่ ดเ้ ขา้มาสพู่ ระครรภ์ ณ ท่ีบรรทม กอ่ นทพ่ี ระนางจะเสด็จกลบั กรงุ เทวทหะเพื่อประสตู พิ ระโอรส แตร่ ะหวา่ งทาง ทรงมพี ระประสตู กิ าล ท่ีใตต้ น้สาละ ณ สวนลมุ พินวี นั เมอื่ วนั ขนึ้ สิบหา้ คา่ เดอื นวิสาขะ ทนั ทที ป่ี ระสตู ิ เจา้ ชายสิทธตั ถะทรงดาเนนิ ดว้ ยพระบาท 7กา้ ว และมดี อกบวั ผดุ ขน้ึ มารองรบั พระบาท พรอ้ มเปลง่ พระวาจาวา่\"เรำเป็ นเลิศท่ีสดุ ในโลก ประเสรฐิ ท่ีสดุ ในโลก กำรเกิดครง้ั น้ีเป็ นครง้ั สดุ ทำ้ ยของเรำ\" แต่ หลงั จากเจา้ ชายสิทธตั ถะประสตู ิกาลได้แลว้ 7 วนั พระนางสริ ิมหามายาก็เสด็จสวรรคาลยั เจา้ ชายสิทธัตถะจึงอยใู่ นความดแู ลของพระนางประชาบดโี คตมี ซ่ึงเป็ นพระกนิษฐาของพระนางสิริมหามายา พราหมณ์ ทงั้ 8 ไดท้ านายวา่เจา้ ชายสิทธตั ถะมลี กั ษณะเป็ นมหาบรุ ษุ คือหากดารงตนในฆราวาสจะไดเ้ ป็ นจกั รพรรดิถา้ ออกบวชจะไดเ้ ป็ นศาสดาเอกของโลกแตโ่ กณฑญั ญะพราหมณผ์ อู้ ายนุ อ้ ยท่ีสดุ นนั้ยืนยนั วา่ เจา้ ชายสิทธตั ถะจะเสด็จออกบวชและจะไดต้ รสั รเู้ ป็ นพระพทุ ธเจา้ แนน่ อน
กำรเจรญิ วยั และพบเทวทตู ทง้ั 4 ตอ่ มา เจา้ ชายสทิ ธตั ถะทรงศึกษาเลา่ เรียนจนจบศิลปศาสตรท์ งั้ 18 ศาสตร์ ในสานกั ครวู ิศวามติ ร และเนอื่ งจากพระบิดาไม่ประสงคใ์ หเ้ จา้ ชายสทิ ธตั ถะออกผนวช จงึ พยายามทาใหเ้ จา้ ชายสทิ ธตัถะพบเห็นแตค่ วามสขุ โดยการสรา้ งปราสาท 3 ฤดู ใหอ้ ย่ปู ระทบั และจดั เตรียมความพรอ้ มสาหรบั การราชาภเิ ษกใหเ้ จา้ ชายขน้ึ ครองราชย์ เมอื่ มพี ระชนมายุ 16 พรรษา ทรงอภเิ ษกสมรสกบั พระนางพมิ พา หรือยโสธรา พระธดิ าของพระเจา้ กรงุ เทวทหะซึ่งเป็ นพระญาติฝ่ ายพระมารดา จนเมอ่ื มพี ระชนมายุ 29 พรรษา เจา้ ชายสิทธตั ถะทรงเบื่อความจาเจในปราสาท 3 ฤดู จึงชวนสารถีทรงรถมา้ ประพาสอทุ ยาน ครงั้ นนั้ ไดท้ อดพระเนตรเห็นคนแก่ คนเจ็บ คนตาย และนกั บวช โดยเทวทตู (ทตู สวรรค)์ ท่แี ปลงกายมา พระองคจ์ ึงทรงคิดได้วา่ นเ่ี ป็ นธรรมดาของโลก ชวี ิตของทกุ คนตอ้ งตกอยใู่ นสภาพเชน่ นน้ัไมม่ ใี ครสามารถหลกี เล่ยี งเกดิ แก่ เจ็บ ตายได้ จงึ ทรงเห็นว่าความสขุทางโลกเป็ นเพียงภาพมายาเทา่ นน้ั และวิถีทางทีจ่ ะพน้ จากความทกุ ข์คอื ตอ้ งครองเรือนเป็ นสมณะ ในขณะนน้ั พระนางพมิ พาไดใ้ หป้ ระสตู ิพระราชโอรส มพี ระนามวา่ \"รำหลุ \" ซ่ึงหมายถึง \"บ่วง\" ดงั นนั้พระองคจ์ ึงใครจ่ ะเสด็จออกบรรพชำ
กำรปฏิบตั ิตนเพื่อพน้ จำกควำมทกุ ข์ ครานน้ั พระองคไ์ ดเ้ สด็จไปพรอ้ มกบั นายฉนั ทะ สารถี ซึ่งเตรียมมา้ พระทนี่ งั่ นามวา่ กณั ฑกะ มงุ่ ตรงไปยงั แมน่ า้ อโนมานที กอ่ นจะประทบั นงั่ บนกองทราย ทรงตดั พระเมาลดี ว้ ยพระขรรค์ และเปล่ียนชดุ ผา้ กาสาวพตั ร์ (ผา้ ยอ้ มดว้ ยรสฝาดแห่งตน้ ไม)้ และใหน้ ายฉนั ทะนาเครื่องทรงกลบั พระนคร กอ่ นที่พระองคจ์ ะเสด็จออกไปโดยเพียงลาพงั และทรงบาเพ็ญทกุ รกริ ิยา แตห่ ลงั จากทดลองได้ 6 ปี ทรงเห็นวา่ นย่ี งั ไมใ่ ชท่ างพน้ ทกุ ข์ จงึ ทรงเลกิ บาเพ็ญทกุ รกริ ิยา และหนั มาฉนัอาหารตามเดมิ ดว้ ยพระราชดาริตามท่ที า้ วสกั กเทวราชไดเ้ สด็จลงมาดดี พณิ ถวาย 3 วาระ คือดดี พิณสายท่ี 1 ขงึ ไวต้ งึ เกินไปเมอื่ ดดี ก็จะขาดดดี พณิ วาระท่ี 2 ซ่ึงขงึ ไวห้ ยอ่ น เสยี งจะยืดยาดขาดความไพเราะดดี พิณวาระที่ 3 ดดี พณิ สายสดุ ทา้ ยท่ขี งึ ไวพ้ อดี จึงมีเสียงกงั วานไพเราะ ดงั นนั้ จึงทรงพจิ ารณาเห็นวา่ ทางสายกลางคอื ไมต่ งึ เกินไปและไมห่ ยอ่ นเกินไป นนั่ คือทางที่จะนาสกู่ ารพน้ ทกุ ข์ ทาใหพ้ ระปัญจวคั คยี ท์ งั้ 5 ท่มี าคอยรบั ใชพ้ ระองคเ์ กิดเสื่อมศรทั ธาท่พี ระองคล์ ม้ เลกิ ความตงั้ ใจ จงึ เดนิ ทางกลบั ไปที่ป่ าอิสปิ ตนมฤคทายวนั ตาบลสารนาถ เมอื งพาราณสี
กำรตรสั รู้ จนเวลาผา่ นไปในทส่ี ดุ พระองคท์ รงบรรลรุ ปู ฌาณ คือ ครานน้ัพระองคท์ รงประทบั นงั่ ขดั สมาธิ ใตต้ น้ พระศรีมหาโพธิ์ ณ อรุ เุ วลาเสนานคิ ม เมอื งพาราณสี หนั พระพกั ตรไ์ ปทางทิศตะวนั ออก และตง้ัจิตอธษิ ฐานดว้ ยความแนว่ แนว่ า่ ตราบใดทีย่ งั ไมบ่ รรลสุ มั มาสมั โพธิญาณ ก็จะไมล่ กุ ขน้ึ จากสมาธบิ ลั ลงั ก์ แมจ้ ะมหี มมู่ ารเขา้ มาขดั ขวางแตก่ ็พา่ ยแพพ้ ระบารมขี องพระองคก์ ลบั ไป จนเวลาผา่ นไปในท่ีสดุพระองคท์ รงบรรลรุ ปู ฌาณ คือ ยำมตน้ หรือปฐมยาม ทรงบรรลปุ ุพเพนวิ าสานสุ ตญิ าณ คือสามารถระลึกชาตไิ ด้ ยำมสอง ทางบรรลจุ ตุ ปู ปาตญาณ (ทิพยจกั ษญุ าณ) คอื รู้เรื่องการเกิดการตายของสตั วท์ ง้ั หลายวา่ เป็ นไปตามกรรมท่ีกาหนดไว้ ยำมสำม ทรง บรรลอุ าสวกั ขยญาณ คอื ความรทู้ ่ที าใหส้ ิน้อาสวะ หรือกเิ ลส ดว้ ยอริยสจั 4 ไดแ้ ก่ ทกุ ข์ สมทุ ยั นโิ รธ และมรรคและไดต้ รสั รดู้ ว้ ยพระองคเ์ องเป็ นพระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ และเป็ นศาสดาเอกของโลก ซึ่งวนั ทีพ่ ระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ตรสั รู้ ตรงกบั วนั เพ็ญเดอื น6 ขณะที่มพี ระชนม์ 35 พรรษา
กำรเผยแพรศ่ ำสนำพทุ ธ หลงั จากพระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ตรัสรแู้ ลว้ ทรงพิจารณาธรรมที่พระองคต์ รสั รมู้ าเป็ นเวลา 7 สปั ดาห์ และทรงเห็นวา่ พระธรรมนนั้ ยากตอ่บคุ คลทวั่ ไปทจี่ ะเขา้ ใจและปฏิบตั ไิ ด้ พระองคจ์ งึ ทรงพิจารณาว่า บคุ คลในโลกนม้ี หี ลายจาพวกอยา่ ง บวั 4 เหลา่ ท่ีมที งั้ ผทู้ ี่สอนไดง้ า่ ย และผทู้ ส่ี อนไดย้ ากพระองคจ์ งึ ทรงระลกึ ถึงอาฬารดาบสและอทุ กดาบส ผเู้ ป็ นพระอาจารย์ จงึหวงั เสด็จไปโปรดแตท่ งั้ สองทา่ นเสยี ชวี ิตแลว้ พระองคจ์ ึงทรงระลกึ ถึงปัญจวคั คีย์ ทงั้ 5 ท่เี คยมาเฝ้ ารบั ใช้ จงึ ไดเ้ สด็จไปโปรดปัญจวคั คียท์ ีป่ ่ าอิสิปตนมฤคทายวนั ธรรมเทศนากณั ฑแ์ รกทีพ่ ระองคท์ รงแสดงธรรมคือ \"ธมั มจกักปั ปวตั ตนสตู ร\" แปล วา่ สตู รของการหมนุ วงลอ้ แห่งพระธรรมใหเ้ ป็ นไป ซึ่งถือเป็ นการแสดงพระธรรมเทศนาครงั้ แรก ในวนั เพ็ญ ขน้ึ 15 คา่ เดอื น 8ซึ่งตรงกบั วนั อาสาฬหบชู า ในการนพ้ี ระโกณฑญั ญะไดธ้ รรมจกั ษุ คือดวงตาเห็นธรรมเป็ นคนแรก พระพทุ ธองคจ์ งึ ทรงเปลง่ วาจาวา่ \"อญั ญาสิ วตโกณฑญั โญ\" แปล วา่โกณฑญั ญะไดร้ แู้ ลว้ ทา่ นโกณฑญั ญะ จงึ ไดส้ มญาวา่ อญั ญาโกณฑัญญะและไดร้ บั การบวชเป็ นพระสงฆอ์ งคแ์ รกในพระพทุ ธศาสนา โดยเรียกการบวชที่พระพทุ ธเจา้ บวชใหว้ า่ \"เอหิภกิ ขอุ ปุ สมั ปทา\" หลงั จากปัญจวคั คียอ์ ปุ สมบททงั้ หมดแลว้ พทุ ธองคจ์ งึ ทรงเทศน์อนตั ตลกั ขณสตู ร ปัญจวคั คียจ์ ึงสาเร็จเป็ นอรหันตใ์ นเวลาตอ่ มา
ตอ่ มาพระพทุ ธเจา้ ไดเ้ ทศนพ์ ระธรรมเทศนาโปรดแกย่ สกลุ บตุ รรวมทงั้ เพอ่ื นของยสกลุ บตุ ร จนไดส้ าเร็จเป็ นพระอรหันตท์ ั้งหมด รวม60 รปู พระพทุ ธเจา้ ทรงมพี ระราชประสงคจ์ ะใหม้ นษุ ยโ์ ลกพน้ ทกุ ข์พน้ กเิ ลส จึงตรสั เรียกสาวกทงั้ 60 รปู มาประชมุ กนั และตรัสให้พระสาวก 60 รปู จาริกแยกยา้ ยกนั เดนิ ทางไปประกาศศาสนา 60แห่ง โดยลาพงั ในเสน้ ทางที่ไมซ่ า้ กนั เพื่อใหส้ ามารถเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาไดใ้ นหลายพน้ื ทอ่ี ย่างครอบคลมุ สว่ นพระองคเ์ องได้เสด็จไปแสดงธรรมณ ตาบลอรุ เุ วลา เสนานคิ ม หลงั จากสาวกไดเ้ ดนิ ทางไปเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาในพน้ื ที่ตา่ งๆ ทาใหม้ ผี เู้ ลอ่ื มใสพระพทุ ธศาสนาเป็ นจานวนมาก พระองคจ์ งึทรงอนญุ าตใหส้ าวกสามารถดาเนนิ การบวชได้ โดยใชว้ ิธกี าร \"ตสิ รณคมนปู สมั ปทา\" คือ การปฏิญาณตนเป็ นผถู้ ึงพระรตั นตรยัพระพทุ ธศาสนาจึงหยงั่ รากฝังลึกและแพร่หลายในดนิ แดนแห่งนนั้ เป็ นตน้ มา
กำรปลงอำยสุ งั ขำรและปรนิ ิพพำน พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ไดเ้ สด็จโปรดสตั วแ์ ละแสดงพระธรรมเทศนา ตลอดระยะเวลา 45 พรรษา ทรงสดบั วา่ อีก 3 เดอื นขา้ งหนา้ จะปรินพิ พาน จงึ ได้ทรงปลงอายสุ งั ขาร ขณะนนั้ พระองคไ์ ดป้ ระทบั จาพรรษา ณ เวฬคุ าม ใกล้เมอื งเวลาสี แควน้ วชั ชี โดยกอ่ นเสด็จดบั ขนั ธป์ รินพิ พาน 1 วนั พระองคไ์ ด้เสวยสกุ รมทั ทวะที่นายจนุ ทะทาถวาย แตเ่ กดิ อาพาธลง ทาใหพ้ ระอานนทโ์ กรธแตพ่ ระองคต์ รสั วา่ \"บิณฑบาตทม่ี อี านสิ งสท์ ี่สดุ มี 2 ประการ คือ เมอื่ ตถาคต(พทุ ธองค)์ เสวยบิณฑบาตแลว้ ตรสั รู้ และปรินพิ พาน\" และมพี ระดารสัวา่ \"ดกู อ่ นอานนท์ ธรรมและวินยั อนั ทีเ่ ราแสดงแลว้ บญั ญตั แิ ลว้ แกเ่ ธอทงั้ หลาย ธรรมวินยั นน้ั จกั เป็ นศาสดาของเธอทงั้ หลาย เมอื่ เราลว่ งลบั ไปแลว้ \" พระพทุ ธเจา้ ทรงประชวรหนกั แตท่ รงอดกลนั้ มงุ่ หนา้ ไปยงั เมอื งกสุ ินารา ประทบั ณ ป่ าสาละ เพ่ือเสด็จดบั ขนั ธป์ุ รินพิ พาน โดยกอ่ นท่ีจะเสด็จดบัขนั ธป์ รินพิ พานนนั้ พระองคไ์ ดอ้ ปุ สมบทแกพ่ ระสภุ ทั ทะปริพาชก ซึ่งถือไดว้ ่า\"พระสภุ ภทั ทะ\" คือสาวกองคส์ ดุ ทา้ ยทพ่ี ระพทุ ธองคท์ รงบวชให้ ในครานนั้ พระองคท์ รงมปี ัจฉิมโอวาทวา่ \"ดกู อ่ นภกิ ษทุ งั้ หลาย เราขอบอกเธอทงั้ หลาย สงั ขารทงั้ ปวงมคี วามเส่ือมสลายไปเป็ นธรรมดา พวกเธอจึงทาประโยชนต์ นเอง และประโยชนข์ องผอู้ ่ืนใหส้ มบรู ณด์ ว้ ยความไมป่ ระมาทเถิด\" (อปปมาเทน สมปาเทต) จากนนั้ ไดเ้ สด็จดบั ขนั ธป์ รินพิ พาน ใตต้ น้ สาละ ณ สาลวโนทยาน ของเหลา่ มลั ลกษตั ริย์ เมอื งกสุ ินารา แควน้ มลั ละ ในวนั ขน้ึ 15 คา่ เดอื น 6รวมพระชนม์ 80 พรรษา และวนั นถี้ ือเป็ นการเร่ิมตน้ ของพทุ ธศกั ราช
ตอบคำถำม1) พระพทุ ธเจา้ ทรงประสตู ทิ ี่ใดตอบ2) พระพทุ ธเจา้ มีอีกชอ่ื ชอื่ วา่ อะไรตอบ3) พราหมณท์ งั้ 8 ทานายว่าอย่างไรตอบ4) เมื่อพระพทุ ธเจา้ ทรงอายุ 16 พรรษา ทรงอภเิ ษกกบั ใครตอบ5) พระพทุ ธเจา้ ไดเ้ สด็จลงมาดดี พิณถวาย 3 วาระ คืออะไรบา้ งตอบ6) ธรรมเทศนากณั ฑแ์ รกทพ่ี ระองคท์ รงแสดงธรรม เรียกวา่ อะไรตอบ7) ใครคือดวงตาเห็นธรรมเป็ นคนแรกตอบ8) พระพทุ ธศาสนา โดยเรียกการบวชท่พี ระพทุ ธเจา้ บวชวา่ตอบ9) พระพทุ ธเจา้ ทรงอนญุ าตใหส้ าวกสามารถดาเนนิ การบวชได้ โดยใชว้ ิธีการใดตอบ10) พระพทุ ธเจา้ ทรงดบั ขนั ธป์ รินพิ พานทีใ่ ดตอบ
เ ฉ ล ย ต อ บ คำ ถ ำ ม1) พระพทุ ธเจา้ ทรงประสตู ทิ ่ีใดตอบ ใตต้ น้ สาละ ณ สวนลมุ พินวี นั2) พระพทุ ธเจา้ มอี ีกชอื่ ชอ่ื วา่ อะไรตอบ เจา้ ชายสทิ ธตั ถะ3) พราหมณท์ ง้ั 8 ทานายว่าอยา่ งไรตอบ เจา้ ชายสิทธตั ถะจะเสด็จออกบวช และจะไดต้ รสั รเู้ ป็ นพระพทุ ธเจา้ แนน่ อน4) เม่ือพระพทุ ธเจา้ ทรงอายุ 16 พรรษา ทรงอภิเษกกบั ใครตอบ อภิเษกสมรสกบั พระนางพมิ พา5) พระพทุ ธเจา้ ไดเ้ สด็จลงมาดีดพิณถวาย 3 วาระ คืออะไรบา้ งตอบ ดีดพิณสายท่ี 1 ขงึ ไวต้ งึ เกนิ ไปเมอ่ื ดีดก็จะขาด ดีดพิณวาระที่ 2 ซึ่งขงึ ไวห้ ยอ่ น เสยี งจะยืดยาดขาดความไพเราะ ดีดพณิ วาระที่ 3 ดีดพิณสายสดุ ทา้ ยที่ขงึ ไวพ้ อดี จงึ มีเสียงกังวานไพเราะ6) ธรรมเทศนากณั ฑแ์ รกทพ่ี ระองคท์ รงแสดงธรรม เรียกว่าอะไรตอบ \"ธมั มจกั กปั ปวตั ตนสตู ร\"7) ใครคือดวงตาเห็นธรรมเป็ นคนแรกตอบ พระโกณฑญั ญะไดธ้ รรมจกั ษุ8) พระพทุ ธศาสนา โดยเรียกการบวชท่พี ระพทุ ธเจา้ บวชวา่ตอบ \"เอหิภิกขอุ ปุ สมั ปทา\"9) พระพทุ ธเจา้ ทรงอนญุ าตใหส้ าวกสามารถดาเนนิ การบวชได้ โดยใชว้ ิธกี ารใดตอบ \"ตสิ รณคมนปู สมั ปทา\"10) พระพทุ ธเจา้ ทรงดบั ขนั ธป์ รินพิ พานทใ่ี ดตอบ ใตต้ น้ สาละ ณ สาลวโนทยาน ของเหลา่ มลั ลกษตั ริย์ เมืองกสุ ินารา แควน้ มลั ละ
บรรณำนกุ รม• http://www.learntripitaka.com/Hi story/Buddhist.html• https://hilight.kapook.com/view/ 37629• http://www.dharma- gateway.com/buddha/buddha- history/buddha-history-01.htm
วิ ชำพระพทุ ธศำสนำ จัด ทำ โ ด ย ม.4/4 นางสาว เมธนยิ า วารีรกั ษ์ เลขท่ี 16 นางสาว พชั ริดา บญุ ทองซนุ่ เลขที่ 27 นางสาว ปัณณาธร สเุ มธจรสั เลขที่ 30 นางสาว อยั ยา กลั ปพฤกษ์ เลขท่ี 37 นางสาว วิรินทป์ ภา ปั้นเพรช เลขท่ี 37นางสาว วรรณพร วงษส์ วุ รรณ เลขท่ี 38 นายสวุ รรณเทพ คาศรี เลขที่ 39นางสาว ธนวรรณ คณุ วฒุ ิโอภาส เลขที่ 40 นางสาว จณิสตา กระแสรโ์ ท เลขที่ 42 นางสาว นริศรา สงปรีชา เลขที่ 43 นางสา วีรวรรณ ใจสนกุ เลขที่ 44 เสนอ อาจารย์ อภวิ ฒั น์ แกว้ ระยา้โรงเรยี นสตรวี ิทยำ ๒ ในพระรำชปู ถมั ภ์
Search
Read the Text Version
- 1 - 14
Pages: