คูม่ ือ / องค์ความรู้ เร่ือง “คู่มอื การจัดทารายงานประมาณการเศรษฐกจิ จงั หวดั ลาปาง” สานกั งานคลังจังหวัดลาปาง
ค่มู ือการปฏบิ ัติงานเรอ่ื ง : คมู่ ือการจัดทารายงานประมาณการเศรษฐกจิ จงั หวัดลาปาง หน่วยงาน : สานกั งานคลังจังหวดั ลาปาง หน้าท่ี : หมายเลขเอกสาร : แก้ไขครั้งท่ี : - วันท่ีเรม่ิ ใช้ : 1 กุมภาพนั ธ์ 2565 ผู้จัดทา ผู้ตรวจสอบ นางสาว ธัญจริ า บุญรักษา นางสุภามาศ ใจเย็น เจ้าพนักงานการคลังชานาญงาน นกั วชิ าการคลังชานาญการพเิ ศษ กลมุ่ งานนโยบายและเศรษฐกิจจงั หวดั สานักงานคลงั จังหวัดลาปาง ผู้อนุมัติ นางสภุ าภรณ์ จลุ ละสภุ า คลงั จงั หวัดลาปาง
สำนักงำนคลงั จงั หวดั ลำปำง กลมุ่ งำนนโยบำยและเศรษฐกิจจงั หวดั
1. ขน้ั ตอนและวธิ ีการจดั ทำแบบจำลองเศรษฐกจิ จงั หวดั โดยวิธี Management Chart การจัดทำแบบจำลองเศรษฐกิจจังหวัดโดยวิธี Management Chart จะจัดทำโดยใช้ข้อมูลเครื่องชี้ เศรษฐกจิ จังหวัดรายเดอื น ประกอบดว้ ยเคร่อื งชี้ดา้ นการผลติ (Supply Side) ดา้ นการใชจ้ า่ ย (Demand Side) และ ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ ด้วยการจัดทำดัชนีเศรษฐกิจจังหวัดในแต่ละด้าน (Main Worksheet) โดยมี ข้ันตอนการจัดทำ ดงั นี้ วิธีการจดั ทำประมาณการเศรษฐกจิ โดยวธิ ี Management Chart เตรียมขอ้ มลู สร้างแบบจำลอง สอบถามความคิดเหน็ 1. จัดเก็บและตรวจสอบเครื่องช้ี ด้านการผลิต (Supply Side) 1. จดั ทำ Consensus และ รายเดอื น ConsensusRange และเชื่อมเขา้ 2.ปรับปรุงข้อมูลท่ีผดิ ปกติ - ดัชนผี ลผลิตภาคเกษตรกรรม API กบั แบบจำลอง - ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม IPI 2. สอบถามความคดิ เห็น Focus กำหนด Base year - ดัชนีผลผลิตภาคบรกิ าร SI Group - ดัชนรี ายไดเ้ กษตรกร คำนวณน้ำหนักแต่ละ จัดทำตารางสรปุ Summary Table เคร่อื งชี้ ดา้ นการใชจ้ ่าย (Demand Side) จัดทำรายงานประมาณการเศรษฐกจิ จดั ทำดชั นีแตล่ ะดา้ น ราย - ดชั นกี ารบรโิ ภคภาคเอกชน CP MC เดอื น รายปี Growth - ดัชนีการลงทนุ ภาคเอกชน IP ,Moving Average - ดชั นกี ารใชจ้ ่ายภาครัฐ G เผยแพรร่ ายงาน - ดัชนีการคา้ ชายแดน Xm (ลป.ไม่ คำนวณน้ำหนักดชั นี ศก. ม)ี ด้านการผลติ และด้าน ดา้ นเสถยี รภาพทางเศรษฐกจิ การใชจ้ ่าย เพอ่ื จดั ทำ GPPS และ GPPD - ด้านระดับราคา - GPP Deflator - ดา้ นการจา้ งงาน
1.1 จัดเก็บ และตรวจสอบข้อมูลเครื่องชี้เศรษฐกิจจงั หวัดรายเดือน (จากตารางเครือ่ งช้ีภาวะเศรษฐกิจ จังหวัด หรือตาราง Economic Leading Indicators : ELI)เพือ่ เพ่ิมเตมิ และปรับปรุงพร้อมบันทึกขอ้ มูลเครือ่ งช้ี เศรษฐกิจจังหวดั ตัง้ แต่ปี 2548 ถงึ ปจั จุบนั ใหม้ ีความครบถ้วน 1.2 การปรับปรุง และซ่อมขอ้ มูล (ถ้าข้อมูลบางเดือนท่ีผดิ ปกต)ิ โดยเฉพาะข้อมูลผลผลิตการเกษตรทีม่ ี การเหลอ่ื มเดอื นทไี่ ม่ตรงตามฤดูกาล ตอ้ งปรับข้อมลู ใหเ้ ปน็ ตามฤดกู าล 1.3 นำข้อมลู เครื่องชเ้ี ศรษฐกิจจงั หวดั รายเดอื น มาจดั ทำแบบจำลองเศรษฐกจิ จงั หวัด ประกอบด้วย ดา้ นการผลิต (Supply Side) ประกอบด้วย - ดัชนผี ลผลิตภาคเกษตรกรรมจงั หวดั (Agriculture Production Index: API) - ดชั นผี ลผลิตภาคอตุ สาหกรรมจงั หวัด (Industrial Production Index: IPI) - ดัชนผี ลผลิตภาคบรกิ ารจังหวัด (Service Index: SI) - ดชั นีรายได้เกษตรกร (Farm Income Index) ด้านการใชจ้ า่ ย (Demand Side) ประกอบด้วย - ดชั นกี ารบริโภคภาคเอกชนจังหวัด (Private Consumption Index: Cp Index) - ดัชนีการลงทนุ ภาคเอกชนจงั หวดั (Private Investment Index: Ip Index) - ดชั นีการใช้จา่ ยภาครฐั จงั หวดั (Government Expenditure Index: G Index) - ดัชนกี ารค้าชายแดนจังหวดั (Export Import Index: Xm Index) ด้านเสถยี รภาพเศรษฐกจิ ไดแ้ ก่ - ด้านระดบั ราคา (ดัชนีราคาผ้บู รโิ ภคจงั หวัด/อตั ราเงนิ เฟอ้ ) ดัชนรี าคาผู้ผลิต - GPP Deflator - ดา้ นการจา้ งงาน 1.4 กำหนดปี 2548 เป็นปีฐาน (Base Year) ในการทำดัชนีแต่ละด้านและคำนวณหาน้ำหนักแต่ละ เคร่ืองช้เี ศรษฐกจิ จังหวดั แต่ละดา้ น เพ่อื จัดทำดชั นเี ศรษฐกิจจงั หวดั แต่ละด้านเปน็ รายเดอื นรายปี และคำนวณหา อัตราการเปลีย่ นแปลง (% Growth)ของข้อมูลรายเดือน และรายปีพร้อมทั้งคำนวณค่าเฉล่ียเคลื่อนที่ (Moving Average) 3 เดือน6 เดือน จากขอ้ มลู ดชั นีรายเดือน 1.5 คำนวณน้ำหนักแต่ละดัชนีเศรษฐกิจด้านการผลิตและด้านการใช้จ่าย( Worksheet weight) เพอื่ จัดทำ GPP ดา้ นอปุ ทาน (GPP Supply Side : GPPS) และ GPP ด้านอปุ สงค์ (GPP Demand Side : GPPD) 1.6 จัดทำConsensusและConsensus Range (Worksheet Consensus) โดยการสอบถามความ คดิ เหน็ (Focus Group) จากผเู้ ชี่ยวชาญด้านเศรษฐกจิ ของเครอื่ งชเ้ี ศรษฐกิจจังหวัดแต่ละดา้ นเพ่อื ประมาณการว่า ทั้งปีจะเจริญเตบิ โต (ขยายตวั ) กีเ่ ปอร์เซน็ ต์ (%) และคำนวณหาคา่ Min (%) Consensus (%)และ Max (%) 1.7 การสอบถามความคิดเหน็ จะต้องสอบถามเป็นระยะ ทกุ ๆ สามเดอื น เช่น - สอบถาม ณ เดือนมนี าคม 2557 ว่าท้ังปี 2557 จะเจริญเตบิ โต (ขยายตัว) กีเ่ ปอร์เซน็ ต์ (%) - สอบถาม ณ เดอื นมิถนุ ายน 2557 ว่าทัง้ ปี 2557 จะเจรญิ เติบโต (ขยายตวั ) กีเ่ ปอรเ์ ซน็ ต์ (%) - สอบถาม ณ เดือนกันยายน 2557 ว่าทั้งปี 2557 และปี 2558 จะเจริญเติบโต (ขยายตัว) กเี่ ปอรเ์ ซ็นต์ (%) - สอบถาม ณ เดือนธันวาคม 2557ว่าทั้งปี 2557และปี 2558จะเจริญเติบโต (ขยายตัว) กีเ่ ปอร์เซน็ ต์ (%) 1.8จากนนั้ เชือ่ ม Consensus และ Consensus Range เขา้ กับแบบจำลองเศรษฐกิจจงั หวัดทมี่ ีการปรับ เข้าสสู่ มดุล และมกี ารปรบั ค่า Error ให้เปน็ ทย่ี อมรบั ทางสถิติ
1.9 จัดทำตารางสรปุ (Summary Table) เพื่อพจิ ารณาผลการประมาณการเศรษฐกจิ จงั หวดั ต่อตัวแปร เศรษฐกิจจงั หวดั ทส่ี ำคัญ (Worksheet Summary) 1.10 ขอ้ มูลตารางสรุป (SummaryTable) ท่ีมกี ารทดสอบค่าตามตารางการวเิ คราะห์ความออ่ นไหวของ ตวั แปรสมมตฐิ าน (Sensitivity Analysis Table) นำมาจัดทำรายงานประมาณการเศรษฐกจิ จงั หวดั ปี 2557 1.11 จดั ทำรายงานประมาณการเศรษฐกจิ จงั หวัด ปี 2557 นำเสนอเปน็ ระยะทุก 3 เดือน (ตามข้อมูล ทไ่ี ดท้ ำจดั ทำ Consensusณ เดอื น มนี าคม มิถุนายนกันยายน และธันวาคม 2557) เพ่อื เผยแพรใ่ ห้กับผู้บริหาร ของจงั หวัดหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนในจงั หวดั และประชาชนทว่ั ไป 2. วิธกี ารคำนวณ 3.1 ด้านอปุ ทาน (Supply Side) 3.1.1ดัชนผี ลผลิตภาคเกษตรกรรม (Agriculture Production Index : API) 3.1.1.1 คดั เลอื กเครื่องชเ้ี ศรษฐกจิ จังหวดั ภาคเกษตรกรรม จากตารางเครอ่ื งชี้ ภาวะ เศรษฐกจิ จงั หวดั (Economic Leading Indicators : ELI)ทสี่ ำคญั เช่น (1) ปรมิ าณผลผลิตขา้ วโพดเลีย้ งสัตว์ (2) ปริมาณผลผลติ ขา้ ว (3) ปรมิ าณผลผลติ มันสำปะหลัง (4) ปรมิ าณผลผลิตลำไย (5) ปริมาณผลผลติ ถ่ัวเหลือง (6) ปริมาณผลผลติ ยางพารา (7) ปริมาณผลผลติ สกุ ร (8) ปริมาณผลผลิตโค โดยพิจารณาจากสัดส่วนมูลค่าการผลิตของเครื่องชี้เศรษฐกิจภาคเกษตรที่สำคัญ คิดเป็นร้อยละ 70 ของ GPP ภาคเกษตร จัดเก็บข้อมูลจากสำนักงานเกษตรจังหวัด และสำนักงานเศรษฐกิจ การเกษตร ซึ่งเป็นแหล่งขอ้ มลู เดยี วกันในการจัดทำผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดของสำนักงานพัฒนาการเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ (สศช.) (GPP แบบ Top down) 3.1.1.2 การปรับปรุง และซ่อมข้อมูลผลผลิตการเกษตรบางเดือนที่ผิดปกติ หรือ เหล่อื มเดือนทีไ่ ม่ตรงตามฤดูกาล ให้เป็นไปตามฤดกู าล 3.1.1.3 กำหนดปี 2548 เป็นปีฐาน เนื่องจากสำนักงานคลังจังหวัดเริ่มมีข้อมูล ภาวะเศรษฐกิจต้ังแต่ ปี 2548 ประกอบกับเปน็ ปีที่เหตกุ ารณป์ กติ ไม่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ วิธีการกำหนดปีฐาน คอื นำขอ้ มลู สนิ คา้ เกษตรของจังหวัดในปที จี่ ะใหเ้ ป็นปีฐาน คือปี 2548 ตัง้ แต่ เดอื นมกราคม – ธันวาคม 2548 จำนวน 12 เดือน มาหาคา่ เฉลี่ย
การกำหนดปีฐาน ในตวั อย่างใชป้ ี 2548 ดังน้ันใหน้ ำข้อมลู ทงั้ 12 เดือน มาหาคา่ เฉลยี่ ตัวอยา่ ง : ปริมาณ ขา้ วโพดเลย้ี งสตั ว์2548 เฉลยี่ 12 เดอื น สูตร =(AVERAGE(C114:114)) ได้เทา่ กับ 19,542 ตนั 3.1.1.4 แปลงผลผลติ สินค้าเกษตรของจงั หวดั ตั้งแตป่ ี 2548 - ปปี ัจจุบันทมี่ ขี อ้ มูล ให้ เปน็ ดัชนี (Index) ทีม่ ปี ฐี านเดียวกัน จะทำให้ไดด้ ชั นีของสินคา้ เกษตรแต่ละชนิดออกมา เป็นชุดของขอ้ มูลอนุกรม เวลา (Time Series Data) ที่สามารถนำมารวมกันได้ (ดัชนีกับดัชนีเท่านั้นที่จะรวมกันได้) เป็น การ แก้ปัญหาหน่วยที่ไมเ่ หมอื นกัน เชน่ บางรายการเป็นกิโลกรัม บางรายการเปน็ ชนิ้ เปน็ ตน้ ดงั ภาพ
ตวั อย่าง :ดชั นขี ้าวโพดเลย้ี งสตั วม์ .ค.48 สตู ร =(C114/$B$134*100) ไดเ้ ทา่ กบั 17.7 - ตรวจสอบว่าผลการคำนวณถูกต้องหรือไม่ โดยการรวมดัชนีในแต่ละเดือนของ ปี 2548 ซงึ่ เม่อื เฉล่ยี แลว้ ต้องมมี ูลคา่ เทา่ กับ 100 (เนื่องจากปี 2548 เปน็ ปีฐาน) ดังภาพ
3.1.1.5 หาอัตราการเปลี่ยนแปลงของดัชนีแต่ละรายการ เริ่มทำตั้งแตป่ ี พ.ศ. 2549 เนื่องจาก ปี 2548 กำหนดให้เป็นปีฐานได้แก่ - อตั ราการเปลยี่ นแปลง (% Y-O-Y)ดงั ภาพ หาค่าอตั ราการเปล่ยี นแปลง (% YOY) โดย นำดัชนเี ดอื น ม.ค.49 หารด้วย ดชั นี ม.ค.48 คูณ 100 ลบ 100 ตวั อยา่ ง :อัตราการเปลี่ยนแปลง (% YOY)ของดชั นขี า้ วโพดเลีย้ งสัตว์ม.ค.49 สตู ร =(O134/C134*100-100,\"\") ไดเ้ ท่ากบั 1.76
3.1.1.6 ทำดชั นผี ลผลิตภาคเกษตร (API) การคำนวณหานำ้ หนกั การผลติ ภาคเกษตรกรรม ตามแนวทางการจัดทำประมาณการเศรษฐกิจจังหวัดโดยวิธี Management Chart การจัดทำดัชนี เศรษฐกิจ ด้านอุปทาน(Supply Side) ในขั้นตอนการจัดทำดัชนีผลผลิตภาคเกษตรกรรม (API) การหาน้ำหนัก (Weight) ของการผลติ ภาคเกษตรกรรม มี 2 วธิ ี ไดแ้ ก่ 1. คำนวณโดยการนำมูลค่าเพิ่ม(VA) ของเครื่องชี้แต่ละชนดิ มาหาสัดส่วนตามมลู ค่าการผลิตรวมของ การผลติ ภาคเกษตรกรรม 2. คำนวณจากโครงสรา้ งผลติ ภณั ฑ์มวลรวมจังหวดั (GPP) สาขาเกษตรกรรมแบบ Bottom up ณ ราคา ประจำปี ของแต่ละจังหวดั ในปัจจุบันพบปัญหาในเรื่องความไม่ทันสมัยของข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP)ที่นำมาใช้ใน การ จัดทำประมาณการเศรษฐกิจจังหวัดโดยวิธี Management Chartกล่าวคือ รายงานประมาณการเศรษฐกจิ จงั หวดั ปีพ.ศ. 2558 ใชข้ อ้ มลู ผลติ ภณั ฑม์ วลรวมจงั หวัด(GPP) แบบ Bottom up ปี พ.ศ.2555 ซ่งึ เป็น GPP ปที ี่ จดั ทำลา่ สุด มาประกอบการจัดทำประมาณการเศรษฐกจิ ปี 2558 - 2559 ซงึ่ อาจจะไมส่ ะท้อนภาพเศรษฐกิจท่ี แท้จริง โดยเฉพาะหากอยู่ในช่วงที่จังหวัดมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการผลิตหรือมีการเปลี่ยนความนิยม (Trend) การทำการเกษตรกรรม การจัดทำข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด(GPP) มีกระบวนการในการจัดทำท่ี ต้องอาศัยข้อมูลจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ใช้ระยะเวลาและงบประมาณในการดำเนินงาน ประกอบกับในปงี บประมาณ พ.ศ. 2558 กรมบัญชีกลางมีนโยบายให้ชะลอการจดั ทำ GPP ซึ่งทำให้ขาดความ ต่อเน่อื งในการจัดทำขอ้ มลู ดังนัน้ เพ่อื แก้ไขปัญหาดังกลา่ วและเตรยี มความพรอ้ มให้ การดำเนินการจัดทำประมาณ การเศรษฐกิจจังหวัดโดยวิธี Management Chart เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพ ในกรณีที่ไม่มีการ จดั ทำ GPP จงึ มีวิธกี ารหานำ้ หนกั (Weight) ของการผลิตภาคเกษตรกรรม โดยใช้ขอ้ มูลดงั ตอ่ ไปน้ี 1. ข้อมลู พืชเศรษฐกจิ จังหวัด จากสำนกั งานเกษตรจงั หวัด หรือ สำนักงานเศรษฐกจิ การเกษตร 2. ขอ้ มลู สัตว์เศรษฐกิจจงั หวดั จากสำนักงานปศสุ ัตว์จังหวดั 3. ข้อมลู สตั วน์ ้ำเศรษฐกจิ จังหวัด จากสำนักงานประมงจังหวัด
ตวั อยา่ งทีม่ าและรายละเอยี ดของขอ้ มลู แตล่ ะประเภท 1. ข้อมลู พชื เศรษฐกจิ จงั หวดั จากเวบ็ ไซต์สำนกั งานเกษตรจงั หวดั เป็นข้อมูลที่ทันสมยั Update ทกุ ปี รายละเอยี ดขอ้ มลู ท่ไี ดร้ บั
2.ขอ้ มลู สตั ว์เศรษฐกิจจงั หวดั ในเวบ็ ไซต์ สำนกั งานปศุสัตว์จังหวดั เป็นขอ้ มูลที่ทันสมัย Update ทุกปีเช่นกัน รูปแบบของข้อมูลทไี่ ด้รบั
ตารางแสดงรายละเอยี ดขอ้ มูลทไี่ ด้รับ 3. ข้อมูลสัตว์นำ้ เศรษฐกจิ จังหวดั จากสำนักงานประมงจงั หวดั เปน็ ขอ้ มูลท่ที นั สมัย Update ทกุ ปเี ชน่ เดยี วกนั
รายละเอียดขอ้ มลู ที่ไดร้ ับ(มรี ายละเอยี ดคลา้ ยกบั ข้อมลู ท่ใี ช้จดั ทำ GPP สาขาประมง)
ข้อมูลทั้ง 3 ประเภท ที่ได้มานั้นหากนำมาพจิ ารณาความเชื่อมโยงกับ GPP ก็คือ ข้อมูลเบื้องตน้ ที่ใช้ใน การคำนวณ GO ในแต่ละกิจกรรมการผลิตเพียงแต่ในคร้ังนี้ไม่มีการดำเนินการจัดเกบ็ แบบสอบถามเพื่อสำรวจ คา่ ใชจ้ ่ายข้นั กลาง (IC) แนวทางการประยุกต์ใช้ขอ้ มูลข้างตน้ ในการถว่ งน้ำหนัก กรณีที่ 1กรณีที่โครงสรา้ งเศรษฐกิจ ที่การผลิตภาคเกษตรกรรมของจงั หวดั ขับเคลื่อนโดยกจิ กรรมการ เพาะปลูก หรือ ปศุสัตว์ หรือ ประมง เพียงอย่างใดอยา่ งหนึ่งเป็นหลัก มีสัดส่วนกว่า เกินรอ้ ยละ 70 สามารถใช้ เพียงขอ้ มูลใดขอ้ มลู หน่งึ มาดำเนนิ การหานำ้ หนักได้ โดยจะยกตวั อยา่ งในกจิ กรรมการปลกู พืชซึ่งมขี น้ั ตอน ดังน้ี ขน้ั ตอนท่ี 1.หามูลค่าผลผลติ ของพืชแต่ละชนิด นำข้อมูลพืชเศรษฐกิจ มาทำการคำนวณหามูลค่าผลผลิต (GO) โดยใช้ปริมาณผลผลิตที่เก็บเกี่ยวได้ (Q)คูณราคาทีเ่ กษตรกรขายได้ (P) ข้นั ตอนท่ี 2.หามลู ค่ารวมกิจกรรมการปลกู พืชทงั้ หมด ขัน้ ตอนท่ี 3 หาสดั ส่วน นำมลู ค่าของกจิ กรรมการปลกู พชื แตล่ ะชนิด หารด้วยมลู คา่ รวม (มูลคา่ ของกิจกรรมการปลกู พชื แต่ละ ชนดิ /มลู ค่ารวม) จะได้สัดส่วนการผลติ ของแตล่ ะกจิ กรรม
สัดส่วน ขัน้ ตอนท่ี 4คัดเลอื กกจิ กรรมการปลกู พืชเศรษฐกจิ หลกั ของจังหวดั ทำการคดั กจิ กรรมการปลกู พชื เศรษฐกจิ ทม่ี สี ัดส่วนการผลิตมากทสี่ ดุ ไล่เรียงกนั ลงมาทรี่ วมกนั เกนิ ร้อยละ 70 เพอ่ื เปน็ ตวั แทนการผลิตภาคเกษตรกรรมซงึ่ ตามตัวอยา่ งกิจกรรมการปลกู พชื เศรษฐกจิ รวม 6 อนั ดบั แรก มี สัดส่วนรวม ร้อยละ 77.26 พชื ลำดับพืชเศรษฐกจิ ที่มี เศรษฐกิจ สดั ส่วนเกนิ ร้อยละ 70 คัดแล้ว ขน้ั ตอนที่ 5 ถ่วงน้ำหนกั กจิ กรรมการปลกู พชื เศรษฐกจิ หลกั ของจังหวัด ลำดบั ชนิดพืช ผลผลติ รำคำ มูลคำ่ สดั สว่ น ถว่ งนำหนกั 34.09% 44.12% 1 ข้าว 106,187,005.50 11.62 1,270,644,710.90 12.17% 15.75% 11.32% 14.65% 2 ข้าวโพดเลย้ี งสัตว์ 95,629,490.00 4.74 453,693,623.27 6.75% 8.73% 6.56% 8.49% 3 ยางพารา 16,257,050.25 25.95 421,870,453.99 6.37% 8.25% 4 มะนาว 5,304,090.00 47.43 251,553,098.36 5 ลาไย 20,572,467.00 11.89 244,591,938.01 6 ลนิ้ จ่ี 16,502,995.00 14.39 237,522,106.04 รวม 2,879,875,930.57 77.26% 100.00%
นำสัดส่วนที่คำนวณได้มาหาน้ำหนกั โดยนำสัดสว่ นรวมทงั้ หมดของเคร่ืองชี้ทค่ี ัดเลอื กแล้วมาทำการหาร สัดส่วนของเครื่องชี้ทุกตัวจะได้ น้ำหนักของเครื่องชี้แต่ละตัว จากตัวอย่างคือ นำ 77.26 % หารสัดส่วนของ เคร่ืองช้ที ุกตัว โดยน้ำหนกั ทีค่ ำนวณไดส้ ามารถนำไปใชใ้ นการประมาณการเศรษฐกิจจังหวดั โดยวธิ ี Management Chart กรณีท่ี 2สำหรับจงั หวดั ทเ่ี ศรษฐกจิ ภาคเกษตรกรรมขับเคลอ่ื น โดยกจิ กรรมการผลติ มากกว่าหนงึ่ กจิ กรรม คือกิจกรรมการปลูกพืช กิจกรรมปศุสตั ว์ และกิจกรรมประมง ซึ่งไม่สามารถใช้เพียงข้อมูลด้านใดด้านหนึง่ เพียง ด้านเดียวได้จำเป็นต้องใช้ขอ้ มูลด้านที่เกี่ยวข้องทุกด้านร่วมกันในการหาน้ำหนัก เช่น จังหวัดที่มีการขับเคลื่อน เศรษฐกจิ ภาคเกษตรกรรม ดว้ ยกจิ กรรมการปลกู พชื ควบคกู่ บั ปศสุ ตั ว์ มีวิธกี ารถว่ งนำ้ หนกั ดงั น้ี ขั้นตอนที่1. ทำการรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานต่าง ๆ ตามที่ได้กล่าวมาแลว้ ในกรณีที่ 1 เพื่อคัดเลอื ก พชื และสตั วเ์ ศรษฐกจิ ท่ีมีสัดส่วนรวมกนั ในแต่ประเภทเกินกว่ารอ้ ยละ 70 ของการผลติ ทง้ั หมด ข้อมูลพชื เศรษฐกจิ ปี 2555 ลำดบั ชนดิ /พนั ธพุ์ ชื ผลผลิต (ก.ก.) รำคำทเ่ี กษตรกรขำยไดเ้ ฉลี่ย(บำท) มูลค่ำ(บำท)(GO) สัดส่วน 1 ลำไยดอ 252,806,200.00 17.00 4,297,705,400.00 61.03% 12.12 863,316,084.00 12.26% 2 ข้ำวเหนยี วนำปี 71,230,700.00 7.85 591,602,690.00 8.40% 12.50 233,861,250.00 3.32% 3 ข้ำวโพดเลียงสัตว์ 75,363,400.00 10.00 128,293,000.00 1.82% 13.16% 4 ข้ำวเหนย่ี วนำปรัง 18,708,900.00 926,433,353.00 100.0% 7,041,517,028 5 มะม่วงเขียวมรกต 12,829,300.00 6 อน่ื ๆ รวม ข้อมูลสัตว์เศรษฐกจิ ปี 2555 ลำดบั ชนดิ /พนั ธพุ์ ชื ผลผลิต (ก.ก.) รำคำทเ่ี กษตรกรขำยไดเ้ ฉลี่ย(บำท) มูลค่ำ(บำท)(GO) สัดส่วน 1 สุกร 282,545.00 5,506.92 1,555,952,711.40 56.59% 2 ไกเ่ นอื 8,829,418.16 43.82 386,905,103.77 14.07% 3 ไกไ่ ข่ 113,704,640.00 2.63 299,043,203.20 10.88% 4 อนื่ ๆ 507,481,113.66 18.46% รวม 2,749,382,132.029 100.00%
ขัน้ ตอนท่ี2.ทำการสอบถามข้อมลู อัตราสว่ นค่าใช้จา่ ยข้นั กลาง (IC) ต่อมลู คา่ การผลติ (GO)(IC/GO) พชื /สัตวป์ ี พ.ศ. 2555 ท่ีได้คัดเลอื กแลว้ ในข้อท่ี 1 โดยใช้แบบสอบถามตามตัวอยา่ งดงั น้ี (ตวั อย่างแบบสอบถาม) แบบสำรวจข้อมลู อตั ราส่วนคา่ ใช้จา่ ยขน้ั กลาง (IC) ต่อมลู ค่าการผลติ (GO)(IC/GO)พืช/สตั ว์ปี พ.ศ. ……… หน่วยงาน..................................................................................................................... ............................. ผตู้ อบแบบสอบถาม................................................................................................................................... วนั ที่ทำการสำรวจ...................................................................................................................................... ลำดบั รายชอ่ื พชื /สัตว์ รอ้ ยละของค่าใช้จ่ายข้ันกลาง (IC) หมายเหตุ (สำนักงานคลังจงั หวัดเปน็ ผู้ ต่อมลู ค่าการผลติ (GO) คัดเลือกให)้ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 นิยามคา่ ใช้จา่ ยขนั้ กลาง(IC) ด้านพืช ประกอบด้วย 1.ค่าพันธุ์ (สำหรับพืชลม้ ลุก) 2.ค่าปุ๋ยและเคมีภัณฑ์บำรุงพืช 3.ค่ายาฆ่าแมลง และกำจัดวชั พืช 4. คา่ บรกิ ารทางการเกษตร 5. คา่ อุปกรณ์ในการเกษตร 6. ค่าน้ำมันเช้อื เพลิงและหล่อลนื่ 7.คา่ ซ่อมแซมอุปกรณก์ ารเกษตร 8. คา่ วสั ดใุ นการหีบหอ่ 9. ดอกเบย้ี จ่าย – ดอกเบี้ยรับ 10. ค่าใชจ้ ่ายอ่ืน ๆ ด้านสัตว์ ประกอบด้วย 1.ค่าอาหาร 2.ค่ายารักษาโรค 3.ค่าอุปกรณ์ในการเลี้ยง 4.ค่าไฟฟ้าและ น้ำประปา 5.ค่าขนส่ง 6.ค่าซ่อมแซมอาคาร 7.ค่าซ่อมแซมอุปกรณ์ 8.ค่าวัสดุในการบรรจุ 9.ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง 10.ดอกเบย้ี จา่ ย – ดอกเบี้ยรับ 11.ค่าใช้จา่ ยอ่นื ๆ
แบบสำรวจอตั ราสว่ นคา่ ใช้จา่ ยขน้ั กลาง (IC) ต่อมลู คา่ การผลิต(GO)(IC/GO) พืช/สัตวป์ ี พ.ศ. 2555 หนว่ ยงาน..................สำนกั งานเกษตรจงั หวัด............................................................................................ ผู้ตอบแบบสอบถาม.............................................................................................................. ...................... วันทที่ ำการสำรวจ...................................................................................................................................... รายช่อื พชื รอ้ ยละของคา่ ใช้กลางขนั้ กลาง หมายเหตุ (IC) ตอ่ มูลค่าการผลติ (GO) ลำดับ (สำนกั งานคลงั จังหวดั เป็นผู้ คดั เลือกให้) 1 ลำไยดอ 0.305 2 ขา้ วเหนียวนาปี 0.510 3 ขา้ วโพดเลีย้ งสัตว์ 0.717 4 ข้าวเหนียวนาปรงั 0.510 5 มะมว่ งเขยี วมรกต 0.280 แบบสำรวจอตั ราส่วนคา่ ใช้จา่ ยข้ันกลาง (IC) ต่อมลู คา่ การผลติ (GO)(IC/GO) พชื /สตั วป์ ี พ.ศ. 2555 หนว่ ยงาน..................สำนักงานปศสุ ตั วเ์ กษตรจังหวัด.................................................................................. ผ้ตู อบแบบสอบถาม..................................................................................................................................... วนั ท่ที ำการสำรวจ........................................................................................................................................ ลำดบั รายช่ือพืช รอ้ ยละของค่าใชก้ ลางขั้นกลาง (IC) หมายเหตุ (สำนักงานคลงั จังหวัดเปน็ ผ้คู ดั เลือกให)้ ตอ่ มลู ค่าการผลิต(GO) 1 สุกร 0.305 2 ไกเ่ นื้อ 0.510 3 ไกไ่ ข่ 0.717 ขนั้ ตอนท่ี 3.นำข้อมลู อัตราส่วน IC/GO ท่ีได้จากแบบสอบถาม มาคำนวณหาคา่ ใช้จ่ายขัน้ กลาง (IC) ตาม วิธกี ารของการจัดทำ GPP ข้อมูลพชื เศรษฐกจิ ปี 2555 ลำดบั ชนดิ /พนั ธพ์ุ ชื ผลผลิต (ก.ก.) รำคำทเี่ กษตรกรขำยไดเ้ ฉลี่ย(บำท) มูลค่ำ(บำท)(GO) สัดส่วน IC/GO ค่ำใช้จำ่ ยขันกลำง (IC) 1 ลำไยดอ 252,806,200.00 17.00 4,297,705,400.00 61.03% 0.305 1,310,800,147.00 2 ข้ำวเหนยี วนำปี 71,230,700.00 12.12 863,316,084.00 12.26% 0.510 440,291,202.84 3 ข้ำวโพดเลียงสัตว์ 75,363,400.00 7.85 591,602,690.00 8.40% 0.717 424,179,128.73 12.50 233,861,250.00 3.32% 0.510 119,269,237.50 4 ข้ำวเหนย่ี วนำปรัง 18,708,900.00 5 มะม่วงเขียวมรกต 12,829,300.00 10.00 128,293,000.00 1.82% 0.280 35,922,040.00 ข้อมูลสัตว์เศรษฐกจิ ปี 2555 ลำดบั ชนดิ /พนั ธพ์ุ ชื ผลผลิต (ก.ก.) รำคำทเี่ กษตรกรขำยไดเ้ ฉล่ีย(บำท) มูลค่ำ(บำท)(GO) สัดส่วน IC/GO ค่ำใช้จำ่ ยขนั กลำง (IC) 1 สุกร 282,545.00 5,506.92 1,555,952,711.40 56.59% 0.305 474,565,576.98 2 ไกเ่ นอื 8,829,418.16 43.82 386,905,103.77 14.07% 0.510 197,321,602.92 3 ไกไ่ ข่ 113,704,640.00 2.63 299,043,203.20 10.88% 0.717 214,413,976.69
เมื่อได้ค่าใช้จ่ายขั้นกลาง(IC) ของกิจกรรมการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์แต่ละชนิดแล้วนำไป ลบ ออกจาก มลู คา่ การผลติ (GO)ของพืชและสตั ว์ชนิดนั้นๆทคี่ ำนวณได้ จะไดม้ ลู ค่าเพมิ่ (VA) ทีจ่ ะนำมาเรยี งลำดับ เพ่อื คัดเลอื ก เคร่ืองชี้ภาคเกษตรกรรมของจงั หวัด ข้อมูลพชื เศรษฐกจิ ปี 2555 ลำดบั ชนดิ /พนั ธพ์ุ ชื ผลผลิต (ก.ก.) รำคำทเ่ี กษตรกรขำยไดเ้ ฉลี่ย(บำท) มูลค่ำ(บำท)(GO) สัดส่วน IC/GO ค่ำใช้จำ่ ยขันกลำง (IC) มูลค่ำเพมิ่ (VA) 1 ลำไยดอ 252,806,200.00 17.00 4,297,705,400.00 61.03% 0.305 1,310,800,147.00 2,986,905,253.00 2 ข้ำวเหนยี วนำปี 71,230,700.00 12.12 863,316,084.00 12.26% 0.510 440,291,202.84 423,024,881.16 3 ข้ำวโพดเลียงสัตว์ 75,363,400.00 7.85 591,602,690.00 8.40% 0.717 424,179,128.73 167,423,561.27 4 ข้ำวเหนย่ี วนำปรัง 18,708,900.00 12.50 233,861,250.00 3.32% 0.510 119,269,237.50 114,592,012.50 10.00 128,293,000.00 1.82% 0.280 35,922,040.00 92,370,960.00 5 มะม่วงเขียวมรกต 12,829,300.00 ข้อมูลสัตว์เศรษฐกจิ ปี 2555 ลำดบั ชนดิ /พนั ธพุ์ ชื ผลผลิต (ก.ก.) รำคำทเ่ี กษตรกรขำยไดเ้ ฉล่ีย(บำท) มูลค่ำ(บำท)(GO) สัดส่วน IC/GO ค่ำใช้จำ่ ยขนั กลำง (IC) มูลค่ำเพมิ่ (VA) 1 สุกร 282,545.00 5,506.92 1,555,952,711.40 56.59% 0.305 474,565,576.98 1,081,387,134.42 2 ไกเ่ นอื 8,829,418.16 43.82 386,905,103.77 14.07% 0.510 197,321,602.92 189,583,500.85 3 ไกไ่ ข่ 113,704,640.00 2.63 299,043,203.20 10.88% 0.717 214,413,976.69 84,629,226.51 ขน้ั ตอนที่ 4 รวมขอ้ มลู เคร่ืองช้ีภาคเกษตรกรรมโดยเรียงลำดับตามสดั สว่ นท่ีคำนวณได้ ข้อมูลพชื เศรษฐกจิ ปี 2555 ลำดบั ชนดิ /พนั ธพ์ุ ชื ผลผลิต (ก.ก.) รำคำทเี่ กษตรกรขำยไดเ้ ฉล่ีย(บำท) มูลค่ำ(บำท)(GO) สัดส่วน IC/GO ค่ำใช้จำ่ ยขนั กลำง (IC) มูลค่ำเพมิ่ (VA) สัดส่วน 1 ลำไยดอ 252,806,200.00 17.00 4,297,705,400.00 61.03% 0.305 1,310,800,147.00 2,986,905,253.00 58.11% 2 สุกร 282,545.00 5,506.92 1,555,952,711.40 56.59% 0.305 474,565,576.98 1,081,387,134.42 21.04% 12.12 863,316,084.00 12.26% 0.510 440,291,202.84 423,024,881.16 8.23% 3 ข้ำวเหนยี วนำปี 71,230,700.00 43.82 386,905,103.77 14.07% 0.510 197,321,602.92 189,583,500.85 3.69% 4 ไกเ่ นอื 8,829,418.16 7.85 591,602,690.00 8.40% 0.717 424,179,128.73 167,423,561.27 3.26% 12.50 233,861,250.00 3.32% 0.510 119,269,237.50 114,592,012.50 2.23% 5 ข้ำวโพดเลียงสัตว์ 75,363,400.00 10.00 128,293,000.00 1.82% 0.280 35,922,040.00 92,370,960.00 1.80% 6 ข้ำวเหนย่ี วนำปรัง 18,708,900.00 2.63 299,043,203.20 10.88% 0.717 214,413,976.69 84,629,226.51 1.65% 7 มะม่วงเขียวมรกต 12,829,300.00 8 ไกไ่ ข่ 113,704,640.00 ข้ันตอนที่ 5 คดั เลอื กเครอ่ื งชี้ภาคเกษตรกรรมทสี่ ำคัญของจงั หวัด 5 อนั ดบั แรก เรียงตามสัดส่วน (หาก 5 อันดับแรก สัดสว่ นไม่ถงึ ร้อยละ 70 ใหเ้ ลอื กเพมิ่ จนกวา่ สดั สว่ นรวมจะเกนิ รอ้ ยละ 70) ข้อมูลพชื เศรษฐกจิ ปี 2555 ลำดบั ชนดิ /พนั ธพุ์ ชื ผลผลิต (ก.ก.) รำคำทเ่ี กษตรกรขำยไดเ้ ฉลี่ย(บำท) มูลค่ำ(บำท)(GO) สัดส่วน IC/GO ค่ำใช้จำ่ ยขันกลำง (IC) มูลค่ำเพมิ่ (VA) สัดส่วน สัดส่วนรวม 1 ลำไยดอ 252,806,200.00 17.00 4,297,705,400.00 61.03% 0.305 1,310,800,147.00 2,986,905,253.00 58.11% 2 สุกร 282,545.00 5,506.92 1,555,952,711.40 56.59% 0.305 474,565,576.98 1,081,387,134.42 21.04% 12.12 863,316,084.00 12.26% 0.510 440,291,202.84 423,024,881.16 8.23% 94.33% 3 ข้ำวเหนยี วนำปี 71,230,700.00 43.82 386,905,103.77 14.07% 0.510 197,321,602.92 189,583,500.85 3.69% 4 ไกเ่ นอื 8,829,418.16 7.85 591,602,690.00 8.40% 0.717 424,179,128.73 167,423,561.27 3.26% 5 ข้ำวโพดเลียงสัตว์ 75,363,400.00 ตามตวั อยา่ ง พืชและสัตว์เศรษฐกิจ 5 อนั ดบั แรก ประกอบดว้ ย ลำไยดอ สกุ ร ข้าวเหนียวนาปี ไกเ่ นื้อ และขา้ วโพดเล้ยี งสตั ว์ ซ่งึ มสี ัดส่วนรวมกนั ถงึ ร้อยละ 94.33
ขัน้ ตอนที่ 6ทำการถว่ งน้ำหนัก ข้อมูลพชื เศรษฐกจิ ปี 2555 ลำดบั ชนดิ /พนั ธพ์ุ ชื ผลผลิต (ก.ก.) รำคำทเ่ี กษตรกรขำยไดเ้ ฉล่ีย(บำท) มูลค่ำ(บำท)(GO) สัดส่วน IC/GO ค่ำใช้จำ่ ยขนั กลำง (IC) มูลค่ำเพมิ่ (VA) สัดส่วน นำหนกั 1 ลำไยดอ 252,806,200.00 17.00 4,297,705,400.00 61.03% 0.305 1,310,800,147.00 2,986,905,253.00 58.11% 61.61% 2 สุกร 282,545.00 5,506.92 1,555,952,711.40 56.59% 0.305 474,565,576.98 1,081,387,134.42 21.04% 22.30% 12.12 863,316,084.00 12.26% 0.510 440,291,202.84 423,024,881.16 8.23% 8.73% 3 ข้ำวเหนยี วนำปี 71,230,700.00 43.82 386,905,103.77 14.07% 0.510 197,321,602.92 189,583,500.85 3.69% 3.91% 4 ไกเ่ นอื 8,829,418.16 7.85 591,602,690.00 8.40% 0.717 424,179,128.73 167,423,561.27 3.26% 3.45% 5 ข้ำวโพดเลียงสัตว์ 75,363,400.00 ตามตัวอยา่ งหลังจากทำการถ่วงน้ำหนักวิธีการเดียวกบั ขั้นตอนท่ี 5 กรณที ี่ 1 แลว้ จะพบว่า พืชและสัตว์ เศรษฐกิจ 5 อันดับแรก ประกอบด้วย ลำไยดอ มีน้ำหนัก ร้อยละ 61.61 สุกร มีน้ำหนัก ร้อยละ 22.30 ข้าว เหนียวนาปี มีน้ำหนัก ร้อยละ 8.73 ไก่เนื้อ มีน้ำหนัก ร้อยละ 3.91 และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มีน้ำหนัก ร้อยละ 3.45 จากน้ำหนักทีไ่ ด้สามารถนำไปใช้ใน การจดั ทำประมาณการเศรษฐกจิ จังหวัดโดยวิธี Management Chart ได้ 3.1.1.5การคำนวณหารายไดเ้ กษตรกร (Farm Income Index) เป็นเครื่องช้ีภาวะเศรษฐกิจท่ี สำคัญ สามารถสะท้อนภาวะเศรษฐกิจของจังหวัดภาคเกษตรกรรมทม่ี สี ดั ส่วนสูง และมีแรงงานสว่ นมากอยูใ่ นภาค เกษตร สามารถคำนวณได้จาก Farm Income Index = API × ดัชนรี าคาผลผลิตภาคเกษตร โดยที่ดัชนีราคาผลผลิตภาคเกษตร คำนวณด้วยวิธีเดียวกันกับ API เพียงแต่เปลี่ยนจาก “ปรมิ าณ” เปน็ “ราคา” แทน โดยใช้น้ำหนกั (Weight) อย่างเดียวกนั ดงั ภาพ Farm Income Index = API × ดัชนีราคาผลผลติ ภาคเกษตร จากตารางตงั อยา่ งขา้ งตน้ คำนวณFarm Income Index ได้ดงั นี้ C162 * C217 = 26.0 อยา่ งข้างต้น คำนวณFarm Income Index ไดด้ ังน้ี C162 * C217 = 26.0
3.1.2 ดชั นผี ลผลิตภาคอตุ สาหกรรม (Industrial Production Index : IPI) 3.1.2.1 คัดเลือกเครื่องชี้เศรษฐกจิ จังหวัดภาคอตุ สาหกรรม จากตารางเครือ่ งชี้ภาวะ เศรษฐกิจจังหวัด (Economic Leading Indicator : ELI) ทสี่ ำคัญ เช่น (1) ปริมาณการใช้ไฟฟา้ ภาคอุตสาหกรรม (2) ปรมิ าณการใช้นำ้ ประปาภาคอตุ สาหกรรม (3) จำนวนโรงงานอตุ สาหกรรมในจังหวัด (4) จำนวนทนุ จดทะเบียนโรงงานอุตสาหกรรมใหม่ 3.1.2.2 กำหนดปี 2548 เป็นปีฐาน เนื่องจากสำนักงานคลังจังหวัดเริ่มมีข้อมูล ภาวะเศรษฐกิจต้ังแต่ ปี 2548 ประกอบกับเป็นปีที่เหตุการณป์ กติ ไม่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ วิธีการกำหนดปีฐาน คอื นำขอ้ มูลเครอ่ื งชเี้ ศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมทสี่ ำคัญของจงั หวัดในปที จี่ ะใหเ้ ปน็ ปฐี าน คอื ปี 2548 ต้งั แตเ่ ดือน มกราคม –ธันวาคม 2548 จำนวน 12 เดือน (ข้อมูลมาจากตาราง ELI) มาหาค่าเฉลีย่ การกำหนดปฐี าน : ในตัวอย่างใช้ปี 2548 ดงั น้ันใหน้ ำข้อมลู ทง้ั 12 เดอื น มาหาคา่ เฉลีย่ ตัวอย่าง : ปรมิ าณการใช้ไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรมปี 2548 เฉล่ีย 12 เดอื น สตู ร =AVERAGE(D236:O236) ไดเ้ ท่ากบั 3.6 ล้านกโิ ลวัตต์ สำหรบั เครอ่ื งช้เี ศรษฐกจิ ภาคอตุ สาหกรรมอน่ื ให้คำนวณโดยใช้วิธีคิดเดียวกัน 3.1.2.3 แปลงเครื่องชี้เศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมของจังหวัด ตั้งแต่ปี 2548–ปี ปจั จบุ นั ทมี่ ขี ้อมูลใหเ้ ปน็ ดชั นี (Index) ทมี่ ีปีฐานเดียวกัน จะทำให้ไดด้ ชั นีของเคร่อื งช้เี ศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมแต่ ละชนิดออกมาเป็นชุดของขอ้ มลู อนกุ รมเวลา (Time Series Data) ที่สามารถนำมารวมกนั ได้ (ดชั นกี ับดัชนีเทา่ น้ันทจ่ี ะ รวมกนั ได้) เป็นการแก้ปญั หาหน่วยท่ีไมเ่ หมือนกนั เชน่ บางรายการเป็นโรง บางรายการเป็นลูกบาศกเ์ มตร เป็นตน้ ดงั ภาพ
การคำนวณหาดชั นีของเครอ่ื งชเ้ี ศรษฐกจิ ภาคอตุ สาหกรรมแตล่ ะชนิด : ให้นำค่าผลผลติ ในแต่ละเดือน หารด้วยคา่ เฉล่ยี ปฐี านแลว้ คูณด้วย 100 ตวั อย่าง : ดัชนปี ริมาณการใชไ้ ฟฟ้าภาคอุตสาหกรรม ม.ค.48 สตู ร =D236/$D246*100 หรอื (2.7/3.6* 100) ไดเ้ ท่ากับ 75.2 - ตรวจสอบว่าผลการคำนวณถกู ต้องหรอื ไม่ โดยการรวมดัชนใี นแตล่ ะเดอื นของปี 2548 ซ่ึงเม่อื เฉลีย่ แลว้ ต้องมมี ลู คา่ เทา่ กับ 100 (เนือ่ งจากปี2548เป็นปีฐาน) ดังภาพ ค่าเฉลย่ี : 100
3.1.2.4 หาอัตราการเปลี่ยนแปลงของดัชนีแต่ละรายการ เริ่มทำตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 เน่ืองจาก ปี 2548 กำหนดใหเ้ ป็นปีฐานไดแ้ ก่ - อตั ราการเปลี่ยนแปลง (% YOY) - คา่ เฉลย่ี เคลอื่ นที่ 3 เดอื น (Moving Average 3 month) - ค่าเฉลย่ี เคลอื่ นท่ี 6 เดอื น(Moving Average 6 month) 3.1.2.5 คำนวณหาดชั นีผลผลติ ภาคอุตสาหกรรม (IPI) (1) หานำ้ หนกั (Weight) ของเครอื่ งช้ีภาคอุตสาหกรรมแตล่ ะรายการ (เคร่ืองช)้ี โดยกำหนดน้ำหนักขององคป์ ระกอบในการจดั ทำ IPI แบ่งเปน็ 2 วิธี ดังน้ี วิธีที่ 1 คำนวณจากค่าสหสัมพันธ์ ( Correlation) ระหว่าง GPP ภาคอุตสาหกรรม ณ ราคาคงที่ (CVM) จากตาราง GPP Top Down ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการ เศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาติ(สศช.) ซงึ่ ประกอบด้วย สาขาเหมอื งแร่ สาขาอตุ สาหกรรม และสาขาไฟฟา้ โดยการ จับคู่ Simple Correlation ระหวา่ ง GPP ภาคอุตสาหกรรม กบั ดัชนีเครื่องชี้เศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมรายปีแต่ ละตวั เมื่อไดค้ ่า Correlation มาแลว้ จะตอ้ งนำมาหาระดบั ความสมั พนั ธว์ า่ เคร่ืองชีเ้ ศรษฐกิจภาคอตุ สาหกรรมใดมี ความสามารถในการเป็นเครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรมได้ดีกว่ากัน เพื่อกำหนดเป็นน้ำหนัก ( Weight) สำหรับ ภาคอตุ สาหกรรม ซง่ึ ค่า Correlation อย่รู ะหว่าง -1 ถงึ 1 หากเคร่ืองช้ีมคี า่ Correlation ไมอ่ ยใู่ นชว่ งดงั กลา่ วให้ เลือกใชว้ ิธที ี่ 2 โดยมขี ้ันตอนการคำนวณ ดงั นี้ 1) กำหนดเซลล์ท่จี ะหาค่า Correlation 1. เลือก Cell K3
2) เลือกสตู รในการคำนวณจากฟังกช์ ั่น CORREL 3) เลือกช่วงข้อมูลระหว่างดัชนีเครื่องชี้เศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมแต่ละตวั (Array1) กบั GPP ภาคอุตสาหกรรม ณ ราคาคงที่ (Array2) หรือ สูตร =CORREL(B3:J3,$B$7:$J$7) Array1 Array2 4) เมื่อไดค้ ่า Correlation ครบทุกเครื่องชแ้ี ลว้ หาผลรวมของค่า Correlation โดยใชส้ ตู ร = SUM(K3:K6) หรอื (0.69+0.76+0.80+0.76) ไดเ้ ทา่ กบั 3.01 เพ่ือใช้ในการคำนวนนำ้ หนักของ แต่ละเครื่องชี้ จากนั้นพิจารณาค่า Correlation ของแต่ละเครื่องชี้ว่าอยู่ระหว่าง -1 ถึง 1 หรือไม่ หากไม่อยู่ ในช่วงดงั กล่าวใหเ้ ลอื กใช้วธิ ีที่ 2
การคำนวณหานำ้ หนกั ของเคร่อื งชี้เศรษฐกจิ ภาคอุตสาหกรรมแต่ละชนดิ : ให้นำคา่ Correlation ของ เครื่องชีแ้ ตล่ ะเคร่อื งช้ี หารผลรวม Correlation ตวั อย่าง : การคำนวณหาน้ำหนกั ของปรมิ าณการใช้ไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรม สูตร =K3/$K$7 หรอื (0.69/3.01) ได้เทา่ กบั 0.23 วิธีที่ 2 คำนวณหาน้ำหนักโดยการหาค่าเฉลี่ยของดัชนีเครื่องชี้เศรษฐกิจ ภาคอตุ สาหกรรมรายปี และค่าเฉลี่ย GPP ภาคอตุ สาหกรรม ณ ราคาคงที่ (CVM) แล้วคำนวณหาสัดสว่ นระหว่าง ค่าเฉลี่ยของดัชนีเครื่องชี้เศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรม เทียบกับ ค่าเฉลี่ย GPP ภาคอุตสาหกรรม ณ ราคาคงที่ (CVM) เพื่อคำนวณหาน้ำหนกั ตอ่ ไป ดงั นี้ (1) คำนวณหาคา่ เฉล่ยี ของดัชนเี ครือ่ งช้ีเศรษฐกจิ ภาคอุตสาหกรรม และค่าเฉลยี่ GPP ภาคอุตสาหกรรม ณ ราคาคงที่ (CVM) ตัวอย่าง : ค่าเฉล่ยี ปริมาณการใชไ้ ฟฟ้าภาคอุตสาหกรรม โดยใช้สตู ร =AVERAGE(B3:J3) จะได้ค่าเฉลยี่ ปริมาณการใช้ไฟฟา้ ภาคอุตสาหกรรม = 132.45 คำนวณทกุ เครอ่ื งช้ีดว้ ยวิธีเดียวกนั รวมท้ัง GPP ภาคอตุ สาหกรรม ณ ราคาคงที่ (CVM) (2) คำนวณหาสดั ส่วนของดชั นเี ครอื่ งชี้เศรษฐกิจภาคอตุ สาหกรรม ตัวอย่าง : สดั สว่ นปริมาณการใชไ้ ฟฟา้ ภาคอตุ สาหกรรม โดยใช้ สูตร =K3/$K$7 หรือ(132.45/2,069.40) จะไดส้ ัดส่วน = 0.06 คำนวณทกุ เครอ่ื งชี้ ด้วยวธิ ีเดียวกัน และผลรวมของสดั สว่ นทงั้ หมดเทา่ กบั = 0.27 (3) คำนวณหานำ้ หนกั แต่ละเคร่ืองชี้ ตัวอยา่ ง : นำ้ หนักของปรมิ าณการใช้ไฟฟา้ ภาคอตุ สาหกรรม คำนวณโดย ใชส้ ูตร =L3/$L$7 หรือ (0.06/0.27) จะไดน้ ้ำหนักของปรมิ าณการใชไ้ ฟฟ้าภาคอุตสาหกรรม = 0.24 คำนวณ ทุกเครอื่ งชดี้ ้วยวธิ ีเดยี วกนั
เมื่อพิจารณาการคำนวณน้ำหนักวิธีที่ 1 พบว่าค่า Correlation ของเครื่องชี้เศรษฐกิจ ภาคอุตสาหกรรมทุกรายการ อยู่ระหว่าง -1 ถึง 1 จึงเลือกคำนวณน้ำหนักดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (IPI) ตามวธิ ที ่ี 1 ดังน้นั น้ำหนกั ของเครื่องชเ้ี ศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรม 4 ตวั มีดงั นี้ 1) ปรมิ าณการใช้ไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรม ใหน้ ำ้ หนกั 0.23 2) ปรมิ าณการใช้นำ้ ประปาภาคอตุ สาหกรรม ใหน้ ้ำหนัก 0.25 3) จำนวนโรงงานอุตสาหกรรมในจังหวัด ใหน้ ้ำหนกั 0.27 4) ทนุ จดทะเบียนโรงงานอตุ สาหกรมใหม่ ให้น้ำหนัก 0.25 (2) นำสัดส่วนนำ้ หนกั ของเครือ่ งชีเ้ ศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมแตล่ ะรายการท่ี หาได้ตามวธิ ที ี่ 1 คณู กบั ดชั นภี าคอตุ สาหกรรมแต่ละรายการทหี่ าได้ในขอ้ 3.1.2.3 แล้วนำผลที่ไดม้ ารวมกัน จะ ทำให้ได้ดัชนี IPI ตามสูตร IPI = w1*X1+w2*X2+…….+wnXn ตัวอย่าง การคำนวณหาดัชนีผลผลิต ภาคอตุ สาหกรรม ประจำเดอื นมกราคม 2548 ดงั นี้ จากสตู ร IPI = w1*X1+w2*X2+…….+wnXn IPI = (น้ำหนักปริมาณการใช้ไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรม Xดัชนีปริมาณการใช้ไฟฟ้า ภา ค อ ุ ต ส าหก รรรม) +( น้ ำหน ัก ปริม าณกา รใ ช้ น้ ำ ประปา ภาค อ ุต สาหก รรม Xดั ชนี ปริม าณกา รใ ช้น้ำประปา ภา คอ ุ ต ส า หกรรม ) +(น้ ำ หนั กจำ น วนโ รงงา นอ ุต สา หกรรม ใน จั งหวัด Xด ัชน ีจำ น วนโ รงงา นอ ุต สาหกรรมใน จงั หวัด)+(นำ้ หนกั ทนุ จดทะเบียนโรงงานอตุ สาหกรรมใหม่Xดัชนีทนุ จดทะเบยี นโรงงานอตุ สาหกรรมใหม)่ 83.9 ตวั อยา่ ง : การคำนวณ IPI IPI (ม.ค. 48) = (0.23x75.2)+(0.25x85.5)+(0.27x83.2)+(0.25x90.8) = 83.9 และคำนวณทกุ เดือนด้วย วธิ เี ดยี วกันจนถงึ ปจั จบุ ัน 3.1.2.5 คำนวณหาอตั ราการเปลีย่ นแปลงของดชั นีผลผลติ ภาคอุตสาหกรรม (IPI) - อัตราการเปลยี่ นแปลง (% Y-O-Y) - ค่าเฉล่ียเคลือ่ นที่ 3 เดอื น (Moving Average 3 month) - คา่ เฉล่ียเคลอ่ื นท่ี 6 เดอื น (Moving Average 6 month)
3.1.2.6 คำนวณ IPI เปน็ รายปี ตง้ั แต่ เดือนมกราคม –ธันวาคม จำนวน 12 เดือน ของแต่ ละปี แลว้ คำนวณหาอัตราการเปล่ยี นแปลง(% Y-O-Y)ของดัชนีภาคอุตสาหกรรม(IPI) 3.1.3 ดชั นผี ลผลติ ภาคบริการจงั หวดั (Service Index: SI) 3.1.3.1 คัดเลือกเครื่องชี้เศรษฐกิจจังหวัดภาคบริการ จากตารางเครื่องชี้ภาวะ เศรษฐกิจจังหวัด (Economic Leading Indicator : ELI) ทีส่ ำคัญ เชน่ (1) ภาษมี ลู ค่าเพ่ิม (2) จำนวนนกั ท่องเท่ียว (3) จำนวนผโู้ ดยสารผา่ นทา่ อากาศยาน (4) ค่าธรรมเนยี มจากผ้เู ข้าพกั โรงแรม (5) จำนวนรถโดยสารจดทะเบยี นใหม่ (6) ภาษธี รุ กิจเฉพาะ (7) คา่ เช่าอสงั หารมิ ทรพั ย์(จากธนารกั ษ์) (8) รายจ่ายประจำจากงบประมาณ (9) ปรมิ าณสินเช่อื (10)พื้นที่ขออนุญาตกอ่ สร้างที่อยอู่ าศัย และอาคารพาณชิ ย์ (11)ภาษีมูลค่าเพม่ิ หมวดโรงแรมและภัตตาคาร (12)ปรมิ าณการใชไ้ ฟฟา้ ภาคบริการ โดยเครือ่ งช้ฯี ทคี่ ัดเลอื กมาต้องมนี ้ำหนกั ไมต่ ่ำกวา่ รอ้ ยละ 50 ของภาคบรกิ ารรวม (11 สาขา ตงั้ แต่สาขากอ่ สรา้ ง ถึงสาขาลูกจา้ งในครัวเรอื น) ซง่ึ คำนวณจากมลู คา่ เพมิ่ ณ ราคาปัจจบุ ันของปลี ่าสุดของกิจรรมเครอื่ งชี้ฯ ที่ คดั เลอื กมาเทียบกบั มูลคา่ GPP ภาคบริการรวม ณ ราคาปจั จุบนั ของปีล่าสดุ 3.1.3.2 กำหนดปี2548เป็นปีฐานเนื่องจากสำนักงานคลังจังหวัดเริ่มมีข้อมูล ภาวะเศรษฐกิจตั้งแต่ ปี 2548 ประกอบกับเปน็ ปีที่เหตกุ ารณป์ กติ ไม่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ วิธีการกำหนดปีฐาน คือ นำข้อมูลเครื่องชี้ภาคบริการที่สำคัญของจังหวัดในปีที่จะให้เป็นปีฐาน คือปี2548ตั้งแต่ เดือนมกราคม – ธนั วาคม 2548จำนวน 12 เดอื น (ขอ้ มูลมาจากตาราง ELI) มาหาค่าเฉลย่ี
การกำหนดปฐี าน ในตวั อย่างใชป้ ี 2548 ดงั นน้ั ให้นำขอ้ มูลทงั้ 12 เดือน มาหาค่าเฉลีย่ ตวั อย่าง : ภาษีมลู คา่ เพิม่ 2548 เฉลยี่ 12 เดือน สตู ร =AVERAGE(C303:N303) ไดเ้ ท่ากบั 95,681 คน 3.1.3.3 แปลงเครื่องชี้ภาคบริการจังหวัด ตั้งแต่ปี 2548-ปีปัจจุบันที่มีข้อมูลใหเ้ ป็น ดัชนี (Index) ที่มีปีฐานเดียวกัน จะทำให้ได้ดัชนีของเครื่องชี้ภาคบริการแต่ละชนิดออกมา เป็นชุดของข้อมูล อนุกรมเวลา (Time Series Data) ที่สามารถนำมารวมกันได้ (ดัชนีกับดัชนีเท่านั้นที่จะรวมกันได้) เป็นการ แกป้ ัญหาหนว่ ยที่ไมเ่ หมอื นกัน เช่น บางรายการหน่วยเปน็ ลา้ นบาท บางรายการหน่วยเป็นคนดงั ภาพ
หาค่าดัชนโี ดยการนำคา่ ผลผลติ ในแตล่ ะเดอื นมาคูณด้วย 100 แลว้ หารด้วยค่าเฉลี่ยตามขอ้ 2) ซ่งึ เปน็ ปีฐาน ตัวอย่าง : จำนวนนักท่องเที่ยว ม.ค.48 สูตร =C303/$B$317 หรือ (138,412/95,681*100) ได้เท่ากบั 144.7 - ตรวจสอบว่าผลการคำนวณถกู ตอ้ งหรอื ไม่โดยการรวมดัชนใี นแตล่ ะเดอื นของปี 2548 ซึ่งเมื่อเฉลี่ยแล้วต้องมีมูลค่าเท่ากับ 100 (เนื่องจากปี 2548 เป็นปีฐาน) โดยใช้วิธีปฏิบัติเช่นเดียวกับการ ตรวจสอบผลการคำนวณภาคเกษตร 3.1.3.4 หาอัตราการเปลีย่ นแปลงของดัชนีแต่ละรายการ เริ่มทำตั้งแตป่ ี พ.ศ. 2549 เนอ่ื งจาก ปี 2548 กำหนดให้เป็นปฐี านได้แก่ - อัตราการเปลย่ี นแปลง (% YOY) - คา่ เฉลีย่ เคล่ือนที่ 3 เดอื น (Moving Average 3 month) - คา่ เฉลีย่ เคลื่อนที่ 6 เดือน (Moving Average 6 month) 3.1.3.5 ทำดชั นผี ลผลติ ภาคบรกิ าร (SI) (1) หาน้ำหนกั (Weight) ของเครอื่ งชภี้ าคบรกิ ารแตล่ ะรายการ (เครอ่ื งช้ี) โดยกำหนดนำ้ หนกั ขององคป์ ระกอบในการจัดทำ SI การกำหนดน้ำหนักขององคป์ ระกอบในการจัดทำSI ใหน้ ้ำหนักของเครอื่ งช้ี โดยเครื่องชีภ้ าคบรกิ ารดา้ นต่างๆ ประกอบดว้ ย ภาษีมูลคา่ เพ่ิม (สาขาค้าสง่ ค้าปลกี ฯ) จำนวนนกั ทอ่ งเทย่ี ว ภาษมี ูลค่าเพมิ่ หมวดโรงแรมและภัตตาคาร ปรมิ าณการใช้ไฟฟา้ ภาคบริการ และ คา่ ธรรมเนียมจากผูเ้ ข้าพกั โรงแรม (สาขาโรงแรมฯ) จำนวนรถโดยสารจดทะเบยี นใหมแ่ ละจำนวนผู้โดยสารผา่ นท่า อากาศยาน (สาขาขนส่ง) ภาษธี รุ กจิ เฉพาะและคา่ เชา่ อสังหาริมทรัพย์ (สาขาอสงั หารมิ ทรัพย)์ รายจา่ ยประจำจาก งบประมาณ (สาขาบรหิ าร การศึกษา และสขุ ภาพ)ปรมิ าณสนิ เชอื่ (สาขาการเงนิ ) และพ้ืนที่ขออนุญาตก่อสร้าง (สาขากอ่ สรา้ ง) โดยหาสัดส่วนของGPP ภาคบรกิ าร ณ ราคาประจำปี (11 สาขา ตัง้ แต่สาขากอ่ สรา้ ง ถงึ สาขา ลกู จ้างในครวั เรือน) แลว้ นำมาเครือ่ งชภ้ี าคบรกิ ารมาหาสัดสว่ นตามสดั ส่วน GPP ภาคบรกิ าร แลว้ เปรยี บเทยี บ อตั ราการขยายตัว(% yoy)ของ SI ท่ีไดก้ บั GPP Service constant prices (สศช.) แล้วพิจารณาคา่ เฉล่ยี error ท่ี เกิดกับ SI และ GPP Service constant prices (สศช.) ใหค้ ่าเฉล่ีย error อยรู่ ะหว่าง -2 ถงึ 2 มีข้นั ตอน ดงั น้ี
1) หาโครงสร้าง GPP ภาคบริการ ณ ราคาประจำปี โดยใช้ปีปัจจุบัน เช่นปี 2556 (จำนวน 11 สาขา ตั้งแตส่ าขากอ่ สรา้ ง ถงึ สาขาลูกจา้ งในครัวเรือน) ดังตาราง สาขาการผลิต/เคร่ืองช้ี IPI VA ปี 2556 โครงสร้าง สาขากอ่ สร้าง 3,406 0.0364 สาขาการขายส่งการขายปลีก การซ่อมแซมยานยนต์ 12,256 0.1310 สาขาโรงแรมและภตั ตาคาร 2,498 0.0267 สาขาการขนสง่ สถานที่เก็บสินค้าและการคมนาคม 4,030 0.0431 สาขาตวั กลางทางการเงิน 5,640 0.0603 สาขาบรกิ ารดา้ นอสงั หาริมทรพั ย์การให้เช่าและบรกิ ารทางธรุ กจิ 5,119 0.0547 สาขาการบรหิ ารราชการและการป้องกันประเทศ 4,062 0.0434 สาขาการศึกษา 9,040 0.0967 สาขาการบรกิ ารด้านสขุ ภาพและสังคม 2,718 0.0291 สาขาการให้บริการด้านชุมชนสังคมและบริการส่วนบคุ คลอื่นๆ 1,125 0.0120 สาขาลูกจ้างในครัวเรอื นสว่ นบคุ คล 553 0.0059 ภาคบรกิ าร 50,446.8 0.5394 2) นำเคร่ืองช้ภี าคบรกิ ารแต่ละเครื่องชี้ท่ีนำมาเป็นตวั แทน (Proxy) แต่ ละสาขาการผลิตมากำหนดนำ้ หนักตามโครงสร้างแต่ละสาขาการผลิต หากสาขาการผลิตใดมีเครือ่ งช้ีมากกว่า 1 ตัว ให้แบ่งน้ำหนักแต่ละเครื่องชี้เทา่ ๆกัน เช่น สาขาโรงแรม มีสัดส่วน 0.0267 มีเครื่องชี้ที่เป็นตัวแทน 4 ตัว ได้แก่ จำนวนนักท่องเที่ยว ภาษีมูลค่าเพิ่มหมวดโรงแรมและภัตตาคาร ปริมาณการใช้ไฟฟ้าภาคบริการ และ ค่าธรรมเนียมจากผู้เข้าพักโรงแรม ดังนั้นต้องกำหนดน้ำหนักเท่ากันคือ 0.007 และใช้วิธีการเดียวกันนี้กับทุก เครอ่ื งชี้จนครบ 3) เมื่อกำหนดน้ำหนักเสร็จสิ้นแล้ว ให้คำนวณน้ำหนักโดยวิธีการถ่วง น้ำหนัก เนื่องจากเคร่ืองชี้ทีน่ ำมาเป็นตัวแทน ตัวอย่างของจงั หวัดเชียงรายมที ั้งส้ิน 6 ตัว คิดเป็นสาขาการผลิต จำนวน 4 สาขาการผลิต ไม่ครบทั้ง 10 สาขาการผลิต จำเป็นต้องมีการถ่วงน้ำหนัก โดยหาผลรวมของน้ำหนกั แลว้ นำไปถว่ งนำ้ หนักกับเครื่องชแ้ี ต่ละสาขาการผลติ ดังตาราง ตัวอยา่ ง : ตารางการคำนวณนำ้ หนักดัชนผี ลผลติ ภาคบรกิ าร (SI) เครอื่ งชี้ สาขาการผลิต โครงสร้าง GPP น้ำหนัก จำนวนนักท่องเที่ยว สาขาโรงแรมฯ 0.00890 0.02992 จำนวนผูโ้ ดยสารผ่านท่าอากาศยาน สาขาขนส่งฯ 0.04309 0.14484 ภาษีมลู คา่ เพิ่มหมวดโรงแรมและภัตตาคาร สาขาโรงแรม 0.00890 0.02992 ปรมิ าณการใชไ้ ฟฟ้าภาคบริการ สาขาโรงแรมฯ 0.00890 0.02992 ปรมิ าณคา้ ปลีก สาขาขายส่งขายปลีกฯ 0.13105 0.44050 ปรมิ าณด้านการศึกษา สาขาการศึกษา 0.09665 0.32489 รวม 0.2975 1.000 หาน้ำหนกั ของแตล่ ะเครอ่ื งชี้กับผลรวมของสัดสว่ นท้งั หมด ตวั อยา่ ง : น้ำหนักของ จำนวนนักท่องเทีย่ ว หาโดยใช้สตู ร = (0.00890/0.2975)จะไดน้ ้ำหนกั ของจำนวนนักท่องเทย่ี ว = 0.02992และทำทุกเครื่องชี้ ดว้ ยวธิ เี ดยี วกนั
(2) นำสดั ส่วนนำ้ หนกั ของเครือ่ งชี้ภาคบริการแต่ละรายการท่ีหาได้ในข้อ (1) คณู กบั ดชั นผี ลผลิตภาคบรกิ ารแตล่ ะรายการทหี่ าไดใ้ นข้อ 3) แลว้ นำผลที่ได้มารวมกนั จะทำใหไ้ ด้ดัชนี SIตามสตู ร SI = w1*X1+w2*X2+…….+wnXnตัวอย่าง การคำนวณหาดัชนีผลผลิตภาคบริการ ประจำเดือนมกราคม 2548 ดงั น้ี จากสูตร SI = w1*X1+w2*X2+…….+wnXn SI = (น้ำหนกั จำนวนนักทอ่ งเทีย่ วXดัชนจี ำนวนนกั ท่องเทย่ี ว)+(นำ้ หนักจำนวน ผู้โดยสารผ่านท่าอากาศยานXดัชนีจำนวนจำนวนผู้โดยสารผ่านท่าอากาศยาน)+(น้ำหนักภาษีมูลค่าเพิ่มหมวด โรงแรมและภัตตาคารXดชั นีภาษมี ลู ค่าเพ่ิมหมวดโรงแรมและภัตตาคาร)+(นำ้ หนกั ปรมิ าณการใช้ไฟฟา้ ภาคบริการ Xดัชนีปริมาณการใช้ไฟฟ้าภาคบรกิ าร)+(นำ้ หนักปรมิ าณการคา้ ปลีกXดชั นปี ริมาณการคา้ ปลีก)+(น้ำหนักปริมาณ ด้านการศึกษาXดชั นปี รมิ าณดา้ นการศึกษา) ตวั อย่าง : การคำนวณ SI SI = (0.02992x144.7)+(0.14484x118.0)+( 0.02992x154.7)+ (0.02992x85.6)+(0.44050xC325)+(0.32489xC327) = 28.6 หมายเหตุ : ปรมิ าณการคา้ ปลกี และ ปริมาณด้านการศึกษา ไม่มีขอ้ มลู เครอ่ื งชีร้ ายเดือน 3.1.3.6 คำนวณหาอัตราการเปล่ยี นแปลงของดชั นผี ลผลิตภาคบริการ (SI) - อัตราการเปลย่ี นแปลง (% YOY) - คา่ เฉล่ียเคลื่อนท่ี 3 เดอื น (Moving Average 3 month) - ค่าเฉลย่ี เคลอื่ นที่ 6 เดือน (Moving Average 6 month) 3.1.3.7 คำนวณ SI เปน็ รายปี ตงั้ แต่ เดือนมกราคม –ธันวาคม จำนวน 12 เดือน ของ แต่ละปี แล้วคำนวณหาอัตราการเปลี่ยนแปลง(% YOY)ของดัชนีผลผลิตภาคบริการ(SI) เทียบกับอัตราการ เปลี่ยนแปลงของผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดภาคบริการ(GPP Service constant prices)เพื่อตรวจสอบ
ความสมั พันธ์ระหวา่ งเคร่อื งชี้ท่ีคดั เลือกมาและการกำหนดนำ้ หนกั แตล่ ะเคร่ืองช้ีกบั GPP ภาคบริการ โดยใช้สูตร การคำนวณ Error (SI(Q) - GPP Service constant prices) เพ่ือพจิ ารณาคา่ Average Error ทไ่ี ด้ วา่ (-) Under Estimated หรอื (+)Over Estimated ซงึ่ คา่ ท่ไี ด้ควรอยรู่ ะหวา่ ง -2 ถึง 2 และค่าทไี่ ด้จากการคำนวณเทา่ กบั 1.0 ดังภาพ Average Error = 1.0 3.1.4. การคำนวณดชั นชี ีว้ ดั เศรษฐกจิ ดา้ นอุปทาน (Supply Side : GPPS) จากสูตรคำนวณ GPPS = w1*API+w2*IPI+w3*SI กำหนดให้ • w คอื นำ้ หนักทีเ่ กดิ ขึน้ จากการคำนวณในแตล่ ะสมการจะมคี ่าแตกต่างกนั ในแต่ละจงั หวัด แตผ่ ลรวมของ w ในสมการเดยี วกนั จะมีคา่ เท่ากับ 1 เสมอ • API คอื ดชั นีผลผลิตภาคเกษตรกรรม • IPI คอื ดชั นผี ลผลติ ภาคอตุ สาหกรรม • SI คือ ดัชนภี าคบริการ การคำนวณหานำ้ หนัก (Weight) ในการคำนวณหา GPP ด้านอปุ ทาน การกำหนดนำ้ หนักของแต่ละองค์ประกอบของดัชนี โดยหาสัดสว่ นจากมูลคา่ เพิม่ (VA) ราคาปีปัจจุบันของเครื่องชี้เศรษฐกิจภาคเกษตรกรรม (สาขาเกษตร + สาขาประมง) เครื่องชี้เศรษฐกิจ ภาคอตุ สาหกรรม (สาขาเหมืองแร่ สาขาอตุ สาหกรรม และสาขาไฟฟ้า)และเครื่องชเ้ี ศรษฐกิจภาคบริการ(11 สาขา ตั้งแต่สาขาก่อสร้าง ถึง สาขาลูกจ้างในครัวเรอื น) จากข้อมลู GPP ของ สศช. เทียบกับ GPP รวมราคาปีปัจจบุ นั ของ สศช.เพอื่ กำหนดนำ้ หนกั ดงั ตาราง ภาคการผลิต VA-2552 นำ้ หนัก ภาคเกษตร 15,085.2 0.41 ภาคอตุ สาหกรรม 2,849.3 0.08 ภาคบรกิ าร 19,087.1 0.52 ผลติ ภณั ฑม์ วลรวมจังหวัด (GPP) 37,021.6 1.00
จากตารางสามารถคำนวณหานำ้ หนักของแตล่ ะดัชนี ไดด้ งั นี้ 1) นำ้ หนกั ดชั นี API คำนวณนำ้ หนัก ดังนี้ 15,085.2/37,021.6 = 0.41 2) น้ำหนกั ดัชนี IPI คำนวณนำ้ หนัก ดงั น้ี 2,849.3/37,021.6 = 0.08 3) น้ำหนกั ดชั นี SI คำนวณนำ้ หนัก ดังนี้ 19,087.1/37,021.6 = 0.52 4) นำ้ หนักดชั นีแต่ละคา่ เมื่อรวมกันแล้วตอ้ งมีมลู ค่าเท่ากบั 1 เมื่อได้น้ำหนักของดัชนีแต่ละภาคแล้ว สามารถคำนวณหา GPP ด้านอุปทาน ตามสูตร GPPS= w1*API+w2*IPI+w3*SI ตวั อยา่ ง การคำนวณหา GPP ดา้ นอปุ ทาน ประจำเดอื นมกราคม 2548 ดังน้ี จากสูตร GPPS = w1*API+w2*IPI+w3*SI GPPS = (น้ำหนักดัชนีภาคเกษตรกรรมXดัชนีภาคเกษตรกรรม)+(น้ำหนักดัชนี ภาคอุตสาหกรรมXดัชนีภาคอุตสาหกรรม)+(น้ำหนักดชั นีภาคบรกิ ารXดชั นภี าคบรกิ าร) = (0.41 X 109.5) + (0.08 X 86.7) + (0.52 X 108.5) = 107.2 ดังภาพ คำนวณ GPPS เป็นรายปี ตั้งแต่ เดือนมกราคม –ธันวาคม จำนวน 12 เดือนของแตล่ ะปี แลว้ คำนวณหาอัตราการเปลย่ี นแปลง(% YOY)ของ GPPS เทยี บกบั อตั ราการเปลย่ี นแปลงของผลติ ภณั ฑม์ วลรวม จังหวัด(GPP constant prices (NESDB)) โดยใชส้ ตู รการคำนวณ Error (GPPS - GPP constant prices (NESDB)) เพอ่ื พิจารณาคา่ Average Error ที่ได้ วา่ (-) Under Estimate หรอื (+)Over Estimate ซ่งึ ค่าที่ได้ควรอยูร่ ะหว่าง -2 ถึง 2 และค่าที่ได้จากการคำนวณเทา่ กับ 0.9 เป็นค่าท่ียอมรับได้แสดงถึงแบบจำลอง สามารถอธบิ ายความสัมพันธ์ระหวา่ งตวั แปรต่างๆไดด้ ี ดังภาพ
Average Error = 0.9 3.2 ด้านอุปสงค์ (Demand Side : GPPD) 3.2.1 ดชั นกี ารบรโิ ภคภาคเอกชนจงั หวัด (Private Consumption Index: Cp Index) 3.2.1.1 คัดเลือกเครือ่ งชี้การใช้จ่ายเพื่อการบริโภคภาคเอกชนของจังหวัด จากตาราง เครอ่ื งช้ีภาวะเศรษฐกจิ จงั หวดั (Economic Leading Indicator: ELI) ท่ีสำคัญ เช่น (1) ภาษมี ลู ค่าเพิ่มหมวดการขายสง่ ขายปลีก (2) ปริมาณรถยนตจ์ ดทะเบียนใหม่ (3) ปริมาณรถจกั รยานยนตจ์ ดทะเบียนใหม่ (4) ปรมิ าณการใช้ไฟฟา้ ภาคครัวเรอื น (5) ปรมิ าณการจำหน่ายน้ำประปา (6) ปริมาณการจำหน่ายสรุ า 3.2.1.2 กำหนดปี 2548 เป็นปีฐาน เนื่องจากสำนักงานคลังจังหวัดเริ่มมีข้อมูล ภาวะเศรษฐกิจตั้งแต่ ปี 2548 ประกอบกับเปน็ ปีที่เหตกุ ารณ์ปกติ ไม่เกิดวกิ ฤติเศรษฐกิจ วิธีการกำหนดปีฐาน คือ นำข้อมูลเครื่องชีก้ ารใช้จ่ายเพ่ือการบริโภคภาคเอกชนของจงั หวดั ในปีท่ีจะให้เป็นปฐี าน คือ ปี2548 ตั้งแต่ เดือนมกราคม – ธนั วาคม 2548 จำนวน 12 เดอื น (ข้อมูลมาจากตาราง ELI) มาหาคา่ เฉล่ยี หาค่าเฉล่ยี ทงั้ 12 เดอื น ของภาษีมลู ค่าเพมิ่ หมวดขายส่งขายปลีก ในปี 2548 โดยใชส้ ูตร =AVERAGE(C5:N5) ไดเ้ ทา่ กบั 2.98 ล้านบาท ทำในทำนองเดยี วกันนกี้ บั ทกุ เครอ่ื งชี้การบรโิ ภคภาคเอกชน ปี 2548
3.2.1.3 แปลงเคร่ืองชก้ี ารใช้จา่ ยเพ่ือการบรโิ ภคภาคเอกชนของจังหวดั ต้งั แตป่ ี2548- ปปี ัจจบุ ันทม่ี ีขอ้ มลู ใหเ้ ป็นดชั นี (Index) ที่มปี ฐี านเดยี วกนั จะทำให้ไดด้ ัชนีของเครือ่ งช้กี ารใช้จ่ายเพ่ือการบริโภค ภาคเอกชนของจังหวัดแต่ละชนิดออกมาเป็นชุดของข้อมูลอนุกรมเวลา (Time Series Data) ที่สามารถนำมา รวมกนั ได้ (ดัชนีกบั ดชั นีเท่านนั้ ทีจ่ ะรวมกนั ได)้ เปน็ การแก้ปญั หาหน่วยที่ไมเ่ หมือนกัน เช่น บางรายการเป็นล้าน บาท บางรายการเปน็ คัน ดงั ภาพ แปลงเคร่อื งช้ภี าคบรกิ ารของจังหวดั แต่ละรายการ ตัง้ แตป่ ี 2548 - ปีปจั จุบนั ทม่ี ีขอ้ มูล ใหเ้ ปน็ ดชั นี (Index) โดยใชส้ ตู ร =IF($B12=0,0,C5/$B12*100) =IF($B12=0,0,2.12/2.98*100) =71.18 จะได้ดชั นีภาษมี ูลค่าเพ่ิมหมวดขายส่งขายปลกี เดือนมกราคม 2548 เท่ากบั 71.18 และทำในทำนองเดียวกัน นี้กับทกุ เครอ่ื งชก้ี ารบรโิ ภคภาคเอกชน ซง่ึ ใช้ค่าเฉลีย่ ในปี 2548 ของทุกเครอื่ งชเ้ี ปน็ ตัวหารตลอด - ตรวจสอบวา่ ผลการคำนวณถกู ต้องหรือไม่โดยการรวมดัชนใี นแตล่ ะเดือนของปี 2548 ซง่ึ เมื่อเฉล่ียแล้วต้องมมี ลู ค่าเทา่ กบั 100 (เนื่องจากปี 2548 เปน็ ปฐี าน) โดยใช้วธิ ีปฏบิ ตั ิเชน่ เดียวกบั การ ตรวจสอบผลการคำนวณภาคเกษตร 3.2.1.4หาอัตราการเปลีย่ นแปลงของดัชนีแต่ละรายการ เริ่มทำตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 เนือ่ งจาก ปี 2548 กำหนดให้เป็นปฐี านได้แก่ - อตั ราการเปลีย่ นแปลง (% YOY) - ค่าเฉลย่ี เคลอ่ื นท่ี 3 เดือน (Moving Average 3 month) - ค่าเฉลีย่ เคล่อื นท่ี 6 เดือน (Moving Average 6 month) 3.2.1.5 ทำดัชนกี ารบรโิ ภคภาคเอกชนจังหวัด (Cp) (1) หานำ้ หนกั (Weight) ของเครอื่ งชี้การใชจ้ า่ ยเพอื่ การบรโิ ภคภาคเอกชนของ จงั หวดั แต่ละรายการ โดยกำหนดนำ้ หนักขององค์ประกอบในการจดั ทำ Cp Indexกำหนดนำ้ หนกั ของเคร่อื งชจี้ าก การหาค่าเฉลีย่ ของเคร่อื งชี้ในการจัดทำ Cp Index และแปลงเปน็ มลู ค่าหนว่ ยเดยี วกนั (บาท) แลว้ หานำ้ หนักจาก สดั สว่ นมลู คา่ เคร่อื งชี้ เทียบกบั มูลคา่ รวมของเครอ่ื งช้ีทัง้ หมดดงั นี้
ตารางการคำนวณหาน้ำหนกั ดัชนกี ารบรโิ ภคภาคเอกชน (Cp) จากตารางการหาคา่ เฉลยี่ ของดัชนีการบริโภคภาคเอกชน มแี นวทางดังนี้ หาค่าเฉลี่ยของเครื่องชี้แต่ละเครื่องชี้ โดยใช้สูตร =AVERAGE (C42:H42) แล้วคูณด้วยราคาของ เคร่อื งชี้น้นั ๆ เพือ่ แปลงเป็นมูลค่าตอ่ บาท โดย - ภาษมี ลู คา่ เพิ่มหมวดขายส่งขายปลกี คำนวณจาก = ภาษมี ูลค่าเพิ่มหมวดขายส่งขายปลกี เฉล่ีย*1,000,000 = (107.65*1,000,000) = 107,650,815 บาท - จำนวนรถยนต์นงั่ ส่วนบคุ คลจดทะเบยี นใหม่ คำนวณจาก = จำนวนรถยนตน์ ่งั สว่ นบคุ คลจดทะเบยี นใหม่เฉลีย่ ต่อปี*ราคาเฉลย่ี ของรถยนตน์ ง่ั ส่วนบคุ คล จดทะเบียนใหม่ = 607*718,285 = 435,999,116 บาท - จำนวนรถจกั รยานยนต์จดทะเบียนใหม่ คำนวณจาก = จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่เฉลยี่ ตอ่ ปี*ราคาเฉลย่ี ของจำนวนรถจกั รยานยนต์จดทะเบยี นใหม่ = 12,967*46,392 = 601,546,661 บาท - ปรมิ าณการใช้ไฟฟา้ ของครวั เรือนท่ีอยอู่ าศยั คำนวณจาก = ปริมาณการใช้ไฟฟ้าของครวั เรือนที่อยูอ่ าศยั เฉลีย่ ตอ่ ป*ี (ราคาเฉลี่ยตอ่ หนว่ ยของปรมิ าณการใช้ไฟฟ้าของ ครวั เรือนทีอ่ ยู่อาศัย*1,000,000) = 153.56*(3.386233*1,000,000) = 519,994,057 บาท - ปริมาณการจำหน่ายนำ้ ประปา คำนวณจาก = ปรมิ าณการจำหน่ายนำ้ ประปา เฉลี่ยต่อปี*ราคาเฉลย่ี ตอ่ หนว่ ยปรมิ าณการจำหนา่ ยน้ำประปา = 2,198,713*14.80 = 32,547,831 บาท - ปริมาณการจำหนา่ ยสรุ า คำนวณจาก = ปริมาณการจำหนา่ ยสุราเฉลี่ยต่อปี*ราคาเฉล่ยี ต่อหน่วยปริมาณการจำหน่ายสรุ า = 1,398,223*350 = 489,378,174 บาท
3) การคำนวณหานำ้ หนกั แตล่ ะดชั นี ดงั น้ี โดยใช้สูตร =K42/SUM($K$42:$K$47) ตัวอย่างการคำนวณหาน้ำหนักภาษีมูลค่าเพิ่มหมวดขายส่งขาย ปลกี =107,650,815/2,187,116,655 =0.04922 ทำในทำนองเดยี วกันนีก้ บั ทุกเครื่องชี้ โดยผลรวมของน้ำหนักจากทกุ เครื่องชนี้ ั้นต้องรวมกนั เทา่ กับ 1.00000 (2) นำสัดส่วนน้ำหนักเครื่องช้ีการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคภาคเอกชนของ จงั หวดั แต่ละรายการที่หาได้ในข้อ (1) คูณกบั ดัชนีผลผลิตภาคบรกิ ารแต่ละรายการทหี่ าได้ในข้อ 3) แล้วนำผลท่ี ไดม้ ารวมกนั จะทำใหไ้ ด้ดชั นี Cp ตามสูตรCp = w1*X1+w2*X2+……. +wnXn ตัวอยา่ ง การคำนวณหาดัชนกี ารบรโิ ภคภาคเอกชน ประจำเดอื นมกราคม 2548 ดังนี้ จากสูตร Cp = w1*X1+w2*X2+……. +wnXn โดยมีสตู รการคำนวณ =($B$19*C12)+($B$20*C13)+($B$21*C14)+($B$22*C15)+($B$23*C16)+($B$24*C17) =(น้ำหนกั ภาษีมลู คา่ เพม่ิ หมวดขายสง่ ขายปลีก*ดชั นภี าษีมลู คา่ เพม่ิ หมวดขายสง่ ขายปลีก)+(น้ำหนกั จำนวน รถยนตน์ ัง่ ส่วนบุคคลจดทะเบยี นใหม*่ ดชั นจี ำนวนรถยนตน์ ั่งส่วนบคุ คลจดทะเบียนใหม่)+(น้ำหนกั จำนวน รถจักรยานยนตจ์ ดทะเบยี นใหม่ *ดัชนีจำนวนรถจกั รยานยนต์จดทะเบยี นใหม)่ +(นำ้ หนักปรมิ าณการใช้ไฟฟ้า
ของครวั เรอื นทีอ่ ยู่อาศยั *ดัชนปี รมิ าณการใช้ไฟฟา้ ของครัวเรือนทีอ่ ยูอ่ าศัย) +(นำ้ หนักปรมิ าณการจำหนา่ ย นำ้ ประปา *ดัชนีปรมิ าณการจำหน่ายน้ำประปา)+(นำ้ หนักปรมิ าณการจำหนา่ ยสรุ า*ดชั นปี ริมาณการจำหน่าย สุรา = (0.0492*71.18)+(0.1993*130.16)+(0.2750*75.68)+(0.2378*91.17)+(0.0149*73.92) +(0.2238*101.33) = 95.72 และทำในทำนองเดียวกนั นีจ้ นถึงขอ้ มลู ปจั จบุ ัน 3.2.1.6 คำนวณหาอัตราการเปลย่ี นแปลงของดัชนกี ารบรโิ ภคภาคเอกชน (Cp) - อตั ราการเปล่ียนแปลง (% YOY) - ค่าเฉลีย่ เคลอ่ื นท่ี 3 เดือน (Moving Average 3 month) - คา่ เฉล่ียเคลอ่ื นท่ี 6 เดือน (Moving Average 6 month) 3.2.1.7 คำนวณ Cp เป็นรายปี ตั้งแต่ เดือนมกราคม –ธันวาคม จำนวน 12 เดือน ของแต่ละปี แล้ว คำนวณหาอัตราการเปลีย่ นแปลง (% YOY) ของดัชนีการบรโิ ภคภาคเอกชน (Cp) การหาราคาเฉลย่ี ของเครอื่ งช้ีเศรษฐกิจดา้ นการใชจ้ ่าย (Demand Side) การหาราคาของเครื่องชี้เศรษฐกิจจะนำไปใชใ้ นเครื่องชี้ฯ ในด้านการใช้จา่ ย (Demand Side) ดัชนีการ บริโภคภาคเอกชนจังหวัด (Private Consumption Index: Cp Index) และดัชนีการลงทุนภาคเอกชนจังหวัด (Private Investment Index: Ip Index) ซึ่งตามหนังสือกรมบัญชีกลาง ที่ กค 0407.4/00267 ลงวันที่ 3 พฤษภาคม 2554 เรื่อง การจัดทำรายงานประมาณการเศรษฐกิจจังหวัดรายไตรมาส ได้กำหนดแนวทางการ พัฒนาคุณภาพของการจดั ทำประมาณการเศรษฐกจิ จงั หวดั โดยวธิ ี Management Chart ไวใ้ นดังนี้ 1. เคร่อื งช้เี ศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชนที่นำมาใชเ้ ปน็ เคร่ืองช้ีในการจัดทำแบบจำลองประมาณ การเศรษฐกิจจังหวดั หรือดชั นกี ารบรโิ ภคภาคเอกชนจงั หวดั (Private Consumption Index: Cp Index) ได้แก่ 1.1) ภาษีมูลค่าเพิ่มจากธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง/รายได้ของผู้ประกอบการค้าปลีกที่แจ้งยื่นเสีย ภาษีมูลคา่ เพม่ิ 1.2) ปริมาณจำหน่ายรถยนต์น่งั ส่วนบคุ คล/จำนวนรถยนต์นงั่ สว่ นบคุ คลจดทะเบยี นใหม่ 1.3) ปรมิ าณจำนวนรถจกั รยานยนต์/จำนวนจกั รยานยนต์จดทะเบยี นใหม่ ข้อมูลทัง้ 3 เครื่องชี้ฯ ที่ได้กล่าวมาแล้วนี้จำเปน็ ต้องจัดเก็บและนำมาใช้ในแบบจำลอง ส่วนปรมิ าณ จำหน่ายสุราและเบียร์ และข้อมูลอื่น ๆ นั้น จะนำมาใช้ในแบบจำลองหรือไม่ ให้เป็นไปตามความเหมาะสมของ สภาพพน้ื ทจ่ี ังหวดั น้ัน 2. เคร่อื งชเี้ ศรษฐกจิ ด้านการลงทุนภาคเอกชนทน่ี ำมาเป็นเครื่องช้ีในการจัดทำแบบจำลองประมาณการ เศรษฐกิจจังหวดั หรือดชั นีการลงทนุ ภาคเอกชนจังหวัด (Private Investment Index: Ip Index) ได้แก่ 2.1) พื้นทีข่ ออนญุ าตกอ่ สรา้ ง 2.2) ปรมิ าณจำหน่ายรถยนต์เพือ่ การพาณชิ ย์/จำนวนรถยนต์เพอื่ การพาณิชยจ์ ดทะเบียนใหม่ 2.3) ปรมิ าณสนิ เชอ่ื เพือ่ การลงทุน ข้อมูลทั้ง 3 เครื่องชี้ฯ ที่ได้กล่าวมาแล้วนี้จำเป็นต้องจัดเก็บและนำมาใช้ในแบบจำลอง ส่วนเคร่อื งช้ี ภาษีจากการทำธุรกรรมอสังหาริมทรพั ย์/ค่าธรรมเนยี มขายฝากท่ีดิน ยอดขายปูนซีเมนต์ จำนวนทุนจดทะเบียน ธรุ กจิ นติ ิบุคคล หรือข้อมูลอน่ื ๆ นน้ั จะนำมาใช้ในแบบจำลองหรือไม่ ให้เปน็ ไปตามความเหมาะสมของสภาพพน้ื ที่ จงั หวดั นัน้ จากทก่ี ลา่ วมาแล้วในหนา้ 42 ว่าการทำดชั นกี ารบรโิ ภคภาคเอกชนจังหวดั (Private Consumption Index: Cp Index) และดัชนีการลงทุนภาคเอกชนจังหวัด (Private Investment Index: Ip Index) นั้น ต้อง
คำนวณหานำ้ หนกั ของเครอื่ งชี้ฯ ต่างๆ เพ่อื ประมวลผลออกมาเปน็ ดชั นี โดยตอ้ งแปลงเคร่ืองช้ฯี ที่มีหน่วยต่างกัน เป็นมูลคา่ หน่วยเดียวกนั (บาท) เพื่อหาน้ำหนักจากสัดส่วนมูลคา่ ของแต่ละเครื่องชี้ฯ กับมลู คา่ รวมของเคร่ืองช้ีฯ ทง้ั หมด อีกท้ังในการจดั โครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ตั กิ ารโครงการเพม่ิ ประสทิ ธิภาพงานวเิ คราะหเ์ ศรษฐกิจการคลงั จังหวดั โดยวิธี Management Chart ใหก้ บั บคุ ลากรของสำนักงานคลงั เขตและสำนักงานคลงั จังหวดั ในช่วงที่ผา่ น มายังไมไ่ ด้ให้ความสำคัญในการหาราคาท่ีสะทอ้ นถงึ สถานการณ์ในพ้ืนทจี่ งั หวดั เพือ่ แปลงเปน็ มูลค่า ซงึ่ นำไปส่กู าร หานำ้ หนักของเครือ่ งช้ฯี และประมวลผลกนั ให้ไดเ้ ปน็ ดชั นใี นแต่ละดา้ น จะเห็นได้ว่าราคาท่ีนำมาแปลงเป็นมูลค่า ของแต่ละเครื่องชี้ฯ นั้นมีความสำคัญอย่างมาก หากนำราคาที่ไม่เป็นไปตามสถานการณ์หรือสภาพพื้นที่ที่เกดิ ขึ้นมาใชใ้ นแบบจำลองฯ จะส่งผลถึงการคำนวณหานำ้ หนกั ของเครอ่ื งชีฯ้ และประมวลผลกันใหไ้ ด้เป็นดัชนีท่ีอาจ ไม่สะท้อนสถานการณ์จริงในพื้นท่ีจังหวดั ประกอบกับหากไม่สามารถอธิบายหรือนำเสนอถงึ แหล่งที่มาของการ ไดม้ าราคาในแบบจำลองฯ อาจจะสง่ ผลใหค้ วามน่าเชอ่ื ถอื ของแบบจำลองฯ ลดลงตามไปดว้ ย ดังน้ันคณะทำงานจงึ เห็นความสำคญั ของการไดม้ าซึง่ ราคาของเครอื่ งชีฯ้ เพ่อื ใช้ในแบบจำลองฯ ซึ่งใช้ ข้อมูลของหนว่ ยงานในพน้ื ทจี่ งั หวัดที่เกย่ี วขอ้ งทมี่ ีการจดั เก็บอยแู่ ลว้ และใชข้ ้อมลู ท่ีได้จากการสืบคน้ จากเว็บไซด์มา ใชใ้ นการคำนวณหาราคาของเคร่อื งชี้ฯ ดังกล่าวขา้ งต้น โดยนำเสนอ ดังน้ี 1) การหาราคาของรถยนตแ์ ละรถจักรยานยนต์ Cp Index: จำนวนรถยนตน์ ง่ั ส่วนบุคคลจดทะเบยี นใหม่ (รย.1 และ รย.2)1 จำนวนจักรยานยนตจ์ ดทะเบียนใหม่ (รย.12)2 จำนวนรถยนต์เพอ่ื การพาณิชย์จดทะเบียนใหม่ (รย.3)3 Ip Index: โดยข้อมูลเครื่องชี้ทั้ง 3 นี้ได้มาจากสำนักงานขนส่งจังหวัด ซึ่งวิธีการหาราคาเฉล่ียถ่วงน้ำหนักของ เครื่องชี้คล้ายกัน เพื่อความเข้าใจขอยกตัวอย่างวิธีการหาราคาเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของ จำนวนรถยนต์เพื่อการ พาณชิ ยจ์ ดทะเบยี นใหม่ ปี 2557 โดยใชข้ ้อมูลจากรายงานสถิติจำนวนรถใหม่ (ป้ายแดง) ท่ีจดทะเบียนโดยแยก ยี่ห้อรถ ประเภทรถบรรทุกส่วนบุคคล (รย.3) ปี 2557 (STT0R061) สำนักงานขนส่งจังหวัด ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม 2557 ซึ่งมีรายละเอียดสถิตจิ ำนวนรถใหม่ (ป้ายแดง) ที่จดทะเบียนโดยแยกย่หี ้อรถ ประเภทรถบรรทุกสว่ นบุคคล ทแ่ี สดงให้เห็นถงึ ยีห่ อ้ รถ และความจุกระบอกสูบ 1รย.1 ประเภทรถน่งั สว่ นบคุ คลไม่เกิน 7 คน (STT0R041) และ รย.2 ประเภทรถนัง่ สว่ นบคุ คลเกิน 7 คน (STT0R051) 2รย.12 ประเภทรถจกั รยานยนต์สว่ นบคุ คล (STT0R071) 3รย.3 ประเภทรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (STT0R061)
ท่มี า : สำนักงานขนส่งจงั หวัดลำพนู นำมาสร้างตารางการคำนวณราคารถใหม่ (ปา้ ยแดง) ท่จี ดทะเบยี นโดยแยกยห่ี ้อรถ ประเภท รถบรรทุกส่วนบุคคล โดยแยกเป็นยหี่ อ้ และกระบอกสบู โดยแทรกบรรทดั ราคา ในแตล่ ะยหี่ อ้ ราคาของแต่ละยีห่ อ้ หาข้อมูลได้จากเว็บไซต์ของรถยนตแ์ ตล่ ะยห่ี ้อ ซ่งึ จะมีคำถามว่าจะทราบ ได้อย่างไรวา่ ควรใช้ราคาของรุ่นใดในยหี่ อ้ นน้ั ๆ โดยหลกั แลว้ ควรใช้รนุ่ ทม่ี สี ดั สว่ นใหญใ่ นแตล่ ะกระบอกสูบ(CC) ซึ่ง สามารถสอบถามได้จากสำนกั งานขนส่งจังหวัด ตัวอยา่ งเช่น ในยีห่ อ้ MITSUBISHI ซ่งึ มีจำนวน 65 คัน โดยส่วน
ใหญ่ท่มี าจดทะเบียนใหม่เป็นรนุ่ Mitsubishi Triton Mega Cab PLUS 2.4 GLS BENZENE MT ซง่ึ จะตอ้ งแทรก ขอ้ คิดเห็นเพอ่ื บันทึกร่นุ ทใ่ี ชม้ าเปน็ ตัวแทนของรถในแต่ละยห่ี อ้ เมื่อได้ข้อมูลราคาที่แยกตามยี่ห้อรถและกระบอกสูบ(CC) ครบแล้วต้องมีการถ่วงน้ำหนกั ราคาในแต่ละยีห่ อ้ ก่อน ซึ่งตัวอย่างมีความแตกต่างกันท้ังกระบอกสูบ (CC) และลักษณะรถในย่ีห้อเดียวกัน โดย ถว่ งน้ำหนกั ตามปริมาณรถบรรทุกสว่ นบุคคลจดทะเบยี นใหม่ท่ีแยกตามกระบอกสบู (CC) และชนิดรถ สตู ร =IFERROR (D11*(D10/H10) +E11*(E10/H10) +F11*(F10/H10) +G11*(G10/H10), 0) =IFERROR ((708,000 X (550/551) + (1,500,000 X (1/551), 0) ISUZU = 709,437 บาท (ราคาเฉลี่ยถว่ งน้ำหนกั ยีห่ อ้ ISUZU) โดยทำรปู แบบเดียวกันนี้ทกุ ยหี่ อ้ รถ เมื่อได้ราคาเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของแต่ละยี่ห้อรถแล้ว เพื่อให้ได้ราคาเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักรถบรรทุกส่วน บุคคล เพอื่ นำไปใชใ้ นเคร่ืองชี้เศรษฐกจิ : จำนวนรถยนต์เพ่อื การพาณิชยจ์ ดทะเบยี นใหมจ่ ึงต้องมีการถ่วงน้ำหนัก ราคารถบรรทกุ สว่ นบุคคลระดับจงั หวัด โดยถ่วงนำ้ หนกั ตามปริมาณรถฯจดทะเบียนใหม่
สตู ร =IFERROR(H7*(H6/H26)+H9*(H8/H26)+H11*(H10/H26)+H13*(H12/H26)+H15* (H14/H26)+H17*(H16/H26)+H19*(H18/H26)+H21*(H20/H26)+H23*(H22/H26)+H25* (H24/H26),0) =IFERROR(688,000*(120/1,407)+285,000*(1/1,407)+709,437*(551/1,407)+659, 000*(24/1,407)+ (PCHEVROLETX WCHEVROLET)+(PDFMX WDFM)+(PISUZUX WISUZU )+(PMAZDAX WMAZDA )+ 718,000*(65/1,407)+730,000*(38/1,407)+369,800*(2/1,407)+448,000*(1/ 1,407)+ (PMITSUBISHIX W MITSUBISHI)+ (PNISSANX WNISSAN)+ (PSUZUKIX W SUZUKI)+(PSOKONX WSOKON)+ 476,000*(598/1,407)+521,714*(7/1,407),0) (PTOYOTAX WTOYOTA)+ (PTATAX WTATA) = 721,335 บาท ดังนั้นราคารถใหม่ (ป้ายแดง) ที่จดทะเบียนโดยแยกยี่ห้อรถประเภทรถบรรทุกส่วนบุคคลเฉลี่ยถ่วง น้ำหนักของจงั หวัด เท่ากับ 721,335 บาท เพื่อนำไปใช้กบั เครื่องชี้จำนวนรถยนต์เพือ่ การพาณิชย์จดทะเบียน ใหม่ ซึง่ เป็นหนึง่ ในเคร่อื งช้เี ศรษฐกิจของการลงทุนภาคเอกชนจงั หวดั (Private Investment Index: Ip Index) สำหรับราคาของจำนวนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ และจำนวนจักรยานยนต์จดทะเบียน ใหม่ ซง่ึ เป็นเครอ่ื งชี้เศรษฐกจิ ดัชนกี ารบรโิ ภคภาคเอกชนจงั หวัด (Private Consumption Index: Cp Index) ให้ ดำเนินการจดั ทำในรปู แบบเดียวกัน 2) การหาปริมาณจำหนา่ ยสุราและเบียร์ ซึ่งไม่ใช่เครือ่ งชีเ้ ศรษฐกิจที่จำเปน็ ต้องจัดเก็บและใช้ใน แบบจำลองฯ แต่อย่างไรก็ตามมหี ลายจังหวัดที่ใช้เครือ่ งชี้ฯ นี้ในแบบจำลองฯ เพื่อสะทอ้ นภาพเศรษฐกิจในด้าน การบรโิ ภคภาคเอกชนของจงั หวดั โดยขอ้ มลู ดงั กลา่ วน้ีได้มาจากสำนักงานสรรพสามิตพ้ืนท่ี ซ่งึ บางจงั หวัดไดข้ ้อมลู ปรมิ าณจำหน่ายสรุ าและเบียร์รวม บางจังหวัดได้ขอ้ มูลท่แี ยกรายละเอียดเปน็ ชนดิ
การหาราคาสรุ าและเบียร์ของจังหวัดนัน้ จำเป็นต้องมีรายละเอียดข้อมลู ปรมิ าณจำหนา่ ยสุราและเบียรด์ งั ตัวอย่างดา้ นล่างน้ี จากน้นั คำนวณหาสัดส่วนปรมิ าณจำหนา่ ยสรุ าและเบียรแ์ ตล่ ะชนิด กับปริมาณจำหน่ายสุราและเบยี ร์รวม ของทงั้ จงั หวดั เพ่ือนำไปเปน็ นำ้ หนักในการคำนวณราคาสรุ าและเบียร์ถ่วงน้ำหนกั ต่อไป โดยมสี ตู รคำนวณดงั นี้
สูตร =C10/SUM ($C$4:$C$18) หรอื เท่ากับ =3,996,557.06/9,789,034.24 =0.40827 ในส่วนของราคาสุราและเบียร์นั้นจังหวัดสามารถหาข้อมูลได้จากสำนักงานพาณิชย์จังหวัด สำนักงาน การคา้ ภายในจงั หวัด หรือจดั เกบ็ เองโดยลงพนื้ สำรวจราคาร้านค้าขายของชำ ร้านสะดวกซ้อื ทวั่ ไป อย่างไรก็ตาม ราคาทีไ่ ด้มานั้น เป็นราคาต่อขวดซงึ่ มใิ ชร่ าคาท่เี ปน็ ราคาตอ่ ลิตร จึงจำเปน็ ตอ้ งแปลงราคาทไี่ ด้มานั้นเป็นราคาต่อ ลติ รกอ่ น ตวั อยา่ งเชน่ เบยี ร์ช้าง ราคาต่อขวด เทา่ กบั 42 บาท โดยมปี ระมาณ 0.640 ลิตร จึงต้องแปลงราคา เปน็ ราคาตอ่ ลติ ร โดยมคี ำนวณไดด้ ังน้ี สตู ร = H11/G11 = 42/0.640 = 65.63 ตอ่ ลิตร ดำเนนิ การตามกระบวนการดงั กล่าวกบั ทกุ ชนิดสรุ าและเบยี ร์ เม่ือไดร้ าคาสรุ าและเบยี ร์ต่อลิตรครบทุกชนดิ แลว้ น้ัน ขัน้ ตอนตอ่ ไปคอื การคำนวณหาราคาสุราและเบียร์ เฉลยี่ ถ่วงน้ำหนกั โดยมสี ตู รคำนวณดงั นี้
สตู ร = (D4*E4)+(D5*E5)+(D6*E6)+(D7*E7)+(D8*E8)+(D9*E9)+(D10*E10)+(D11*E11)+ (D12*E12)+(D13*E13)+(D14*E14)+(D15*E15)+(D16*E16)+(D17*E17)+(D18*E18) = (0.0000*121.60)+(0.18883*128.00)+(0.02078*172.80)+(0.09467*271.43) +(Pขาว30*Wขาว30)+(Pขาว35*Wขาว35)+(Pเซย่ี งซุน*Wเซ่ียงซุน)+(Pหงส์ทอง*Wหงสท์ อง) +(0.00027*280.00)+(0.0000*0.0000)+(0.0000*0.0000)+(0.40827*65.63) +(Pมงั กรทอง*Wมงั กรทอง)+(Pแสงทพิ ย์*Wแสงทิพย์)+(Pแม่โขง*Wแมโ่ ขง)+(Pเบยี รช์ า้ ง*Wเบียรช์ ้าง) +(0.00026*64.06)+(0.01718*87.50)+(0.26078*71.88)+(0.00578*107.81) +(Pเบยี รอ์ าชา*Wเบยี รอ์ าชา)+(Pเบยี ร์สงิ ห์*Wเบยี รส์ งิ ห)์ +(Pเบยี รล์ ีโอ*Wเบยี รล์ โี อ)+(Pเบียรไ์ ฮเนเกน้ *Wเบยี ร์ไฮเนเก้น) +(0.00297*62.50)+(0.00022*84.38)+(0.0000*89.06) +(Pเบยี ร์เชยี ร์*Wเบียรเ์ ชียร)์ +(Pเบยี รไ์ ทเกอร์*Wเบยี รไ์ ทเกอร์)+(Pเบยี ร์ Federbrau*Wเบยี ร์ Federbrau) = 101.41 บาท ดงั น้นั ราคาสุราและเบยี รเ์ ฉลีย่ ถ่วงน้ำหนักของจงั หวัด เท่ากบั 101.41 บาทต่อลิตร เพ่ือนำไปใช้กับเคร่ืองช้ี ปริมาณจำหน่ายสุราและเบียร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องช้ีเศรษฐกิจของดัชนีการบริโภคภาคเอกชนจังหวัด ( Private Consumption Index: Cp Index) 3.2.2 ดชั นีการลงทนุ ภาคเอกชน (Private Investment Index : Ip Index) 3.2.2.1 คัดเลือกเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชน จากตารางเครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจ จงั หวดั (Economic Leading Indicators : ELI)ที่สำคัญ เช่น (1) ทุนจดทะเบยี นธุรกิจใหม่ (2) จำนวนรถยนต์พาณชิ ย์จดทะเบียนใหม่ (รย.3และอ่ืน ๆ) (3) จำนวนรถยนตบ์ รรทุกจดทะเบียนใหม่ (4) จำนวนรถโดยสารจดทะเบยี นใหม่ (5) พน้ื ทีไ่ ดร้ บั อนญุ าตให้ก่อสรา้ งรวม (6) ทุนจดทะเบียนโรงงานทเ่ี ปดิ ดำเนินการใหม่ (7) สนิ เช่อื เพ่ือการลงทนุ (8) ยอดขายวัสดแุ ละอปุ กรณก์ ่อสรา้ ง 3.2.2.2 กำหนดปี 2548 เป็นปีฐาน เนื่องจากสำนักงานคลังจังหวัดเริ่มมีข้อมูล ภาวะเศรษฐกิจตั้งแต่ ปี 2548 ประกอบกับเป็นปีที่เหตุการณป์ กติ ไม่เกิดวกิ ฤติเศรษฐกิจ วิธีการกำหนดปีฐาน คือ นำข้อมูลเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนในปีที่จะให้เป็นปีฐาน คือปี2548 ตั้งแต่ เดือนมกราคม - ธันวาคม 2548 จำนวน 12 เดือน (ขอ้ มูลมาจากตาราง ELI) มาหาคา่ เฉลี่ย
การกำหนดปีฐาน ในตัวอยา่ งใชป้ ี 2548 ดังนัน้ ใหน้ ำขอ้ มูลทงั้ 12 เดือน มาหาค่าเฉล่ยี ตวั อยา่ ง : ทนุ จด ทะเบียนธรุ กจิ ใหม่ เฉลย่ี 12 เดอื น สูตร =IFERROR(AVERAGE(C5:N5),0)ไดเ้ ท่ากบั 34 ลา้ นบาท 3.2.2.2 แปลงเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชน ตั้งแต่ปี 2548-ปีปัจจุบันที่มขี ้อมูลให้ เป็นดชั นี (Index) ที่มีปีฐานเดียวกัน จะทำให้ได้ดชั นีของเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนแตล่ ะชนดิ ออกมา เป็นชุด ของข้อมลู อนุกรมเวลา (Time Series Data) ท่ีสามารถนำมารวมกันได้ (ดชั นีกับดชั นีเทา่ น้นั ที่จะรวมกันได)้ เป็น การแก้ปัญหาหนว่ ยทไี่ ม่เหมอื นกนั เช่น บางรายการเป็นล้านบาท บางรายการเปน็ ตารางเมตร ดงั ภาพ
หาคา่ ดัชนโี ดยการนำคา่ ผลผลิตในแตล่ ะเดอื นมาคูณด้วย 100 แล้วหารดว้ ยคา่ เฉลย่ี ตามขอ้ 2) ซ่งึ เป็นปีฐาน ตัวอย่าง : จำนวนรถยนตพ์ าณิชย์ท่จี ดทะเบียนใหม่ (รย.3และอื่น ๆ) ม.ค.48 สตู ร = (IFERROR(C7/$B$25*100,\"\")หรอื (353/221*100) ได้เทา่ กับ 159.79 - ตรวจสอบวา่ ผลการคำนวณถูกต้องหรอื ไมโ่ ดยการรวมดัชนใี นแต่ละเดือนของปี2548 ซงึ่ เม่ือเฉล่ยี แล้วต้องมีมลู คา่ เท่ากับ 100 (เน่อื งจากปี 2548 เปน็ ปฐี านโดยใชว้ ิธปี ฏบิ ัติเชน่ เดยี วกับการตรวจสอบ ผลการคำนวณภาคเกษตร 3.2.2.4 หาอัตราการเปลีย่ นแปลงของดัชนีแต่ละรายการ เริ่มทำต้ังแตป่ ี พ.ศ. 2549 เน่ืองจาก ปี 2548 กำหนดใหเ้ ปน็ ปีฐานได้แก่ - อตั ราการเปล่ยี นแปลง (% YOY) - คา่ เฉลย่ี เคลือ่ นท่ี 3 เดอื น (Moving Average 3 month) - ค่าเฉล่ยี เคล่ือนท่ี 6 เดอื น(Moving Average 6 month) 3.2.2.5 ทำดัชนกี ารลงทนุ ภาคเอกชน (Ip) (1) หาน้ำหนัก (Weight) ของเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนของจังหวัดแต่ละ รายการ โดยกำหนดน้ำหนักขององค์ประกอบในการจัดทำ Ip Index ให้น้ำหนักของเครื่องชี้ จากการหาค่าเฉลยี่ ของเครื่องชี้ในการจัดทำ Ip Index และแปลงเป็นมูลค่าหน่วยเดยี วกัน (บาท) แล้วหาน้ำหนักจากสัดส่วนมูลคา่ เครื่องชเี้ ทยี บกบั มลู คา่ รวมของเครอื่ งชี้ทงั้ หมดดงั น้ี
ตารางการคำนวณหานำ้ หนักดัชนีการลงทนุ ภาคเอกชน (Ip) IP 2548 2549 2550 2551 2552 2553 Average รำคำต่อห น่ วย มูลค่ำ นำห นั ก 25.3 15.4 21.1 49.0 76.8 37.8 1,000,000.0 37,751,045.5 0.007 ทุ น จดท ะเบี ยน ธุ รกิจให ม่ 34.2 0.031 2,715.0 2,531.0 2,211.0 1,676.0 2,267.0 548 ,512.0 จำน วน รถยน ต์พำณิชยท์ ่ี จดท ะเบี ยน ให ม่ 2,461.0 0.004 215.0 131.0 209.0 247.0 301.0 25,194,444.4 0.001 (รย.3และอน่ื ๆ) 9.0 25.0 68 .0 11.0 34.0 3,08 8 ,8 8 8 .9 0.035 24,049.2 18 ,432.8 14,48 5.4 37,309.7 202,217,136.8 0.009 จำน วน รถยน ต์บรรทุ กจดท ะเบี ยน ให ม่ 229.0 20,8 66.3 33,191,329.8 51,509,756.7 37,090,416.7 17,78 9,58 3.3 50,719,668 .4 0.8 8 0 24,78 7,000.0 3,8 8 9.5 4,136.1 4,257.6 5,060.1 5,059,8 33,333.3 0.034 จำน วน รถโดยสำรจดท ะเบี ยน ให ม่ 39.0 171.0 18 1.0 176.4 18 8 .6 193,8 16,799.8 1.000 3,975.6 5,752,443,539.4 พืน ท่ี ได้รับอนุ ญำตให้ ก่อสร้ำงรวม 26,58 2.7 203.0 27,78 0.6 7,279.1 50,719,668 .4 ทุ น จดท ะเบี ยน โรงงำน ที่ เปิ ดดำเนิ น กำรให ม่ 74,814,787.8 1,000,000.0 5,059.8 1,000,000.0 สนิ เช่ือเพื่อกำรลงทุ น 3,8 07.0 193.8 ยอดขำยวสั ดุและอปุ กรณ์กำรก่อสร้ำง 168 .7 จากตารางการหาคา่ เฉล่ยี ของดชั นีการลงทนุ ภาคเอกชน มแี นวทางดงั น้ี 1) จากดชั นกี ารลงทนุ ภาคเอกชนแตล่ ะตัว โดยการหาคา่ เฉล่ยี ตั้งแตป่ ี 2548 ถึงปปี ัจจุบัน แล้วแปลงมูลค่าหนว่ ยเป็นบาท จากตารางคำนวณหาค่าเฉลี่ยตง้ั แต่ปี 2548 - 2553 2) การแปลงมลู ค่าเป็นหน่วยเดยี วกนั คือ หนว่ ยบาท แตล่ ะตวั ช้วี ัด ดังนี้ • ทุนจดทะเบียนธุรกิจใหม่ แปลงหน่วยจากล้านบาทเป็นบาท โดยนำมูลคา่ เฉลี่ยมาคณู 1,000,000 โดยสามารถคำนวณได้ ดังนี้ 37.8 x 1,000,000 = 37,751,045.5 บาท • จำนวนรถยนตพ์ าณิชยท์ ่ีจดทะเบียนใหม่ (รย.3และอ่นื ๆ) สามารถคำนวณได้ ดังน้ี โดยข้อมูลนี้ได้มาจากกรมการขนส่งทางบก โดยใช้ข้อมูลจากรายงานสถิติจำนวนรถใหม่ (ป้ายแดง) ที่จด ทะเบียนในปี พ.ศ. 2557 โดยแยกยี่ห้อรถ ประเภทรถบรรทุกส่วนบุคคล (รย.3) ปี 2557 (STT0R061) สำนกั งานขนส่งจังหวดั ต้งั แต่วันที่ 1 มกราคม ถงึ 31 ธนั วาคม 2557 ซง่ึ มรี ายละเอียดสถติ ิจำนวนรถใหม่ (ป้าย แดง) ที่จดทะเบยี นโดยแยกย่ีห้อรถ ประเภทรถบรรทุกส่วนบุคคล ท่แี สดงใหเ้ ห็นถงึ ยห่ี ้อรถ และความจุกระบอกสบู ทีม่ า : กรมการขนสง่ ทางบก นำมาสร้างตารางการคำนวณราคารถใหม่ (ป้ายแดง) ทจี่ ดทะเบียนโดยแยกยห่ี อ้ รถ ประเภท รถบรรทุกส่วนบคุ คล โดยแยกเป็นยห่ี ้อและกระบอกสบู โดยแทรกบรรทดั ราคา ในแต่ละยห่ี ้อ
ราคาของแต่ละย่หี ้อหาข้อมูลไดจ้ ากเวบ็ ไซต์ของรถยนต์แตล่ ะยีห่ ้อ ซึ่งจะมคี ำถามว่าจะทราบ ได้อยา่ งไรว่าควรใช้ราคาของรนุ่ ใดในยห่ี ้อน้นั ๆ โดยหลกั แล้วควรใชร้ ุน่ ทม่ี ีสดั ส่วนใหญใ่ นแต่ละกระบอกสูบ(CC) ซึ่ง สามารถสอบถามไดจ้ ากสำนกั งานขนสง่ จงั หวดั ตัวอย่างเช่น ในย่หี ้อ CHEVROLET ซ่งึ มจี ำนวน 95 คนั โดยส่วน ใหญ่ที่มาจดทะเบียนใหม่เป็นรุ่น Corolado s-cab 2.5 LS ซึ่งจะต้องแทรกข้อคิดเห็นเพ่ือบันทึกรุ่นทีใ่ ช้มาเปน็ ตัวแทนของรถในแตล่ ะยห่ี อ้
Search