วทิ ยาการคานวณ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 อัลกอรทิ มึ และการแกป้ ญั หา (สปั ดาห์ท่ี 5)
อลั กอรทิ ึม (Algorithm) 1 กระบวนการแก้ปัญหาท่ีมลี าดับหรอื วิธีการในการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นข้นั เปน็ ตอนและชดั เจน 1 การแสดงอลั กอริทมึ ด้วยข้อความ • ก(าNรใaชtข้ u้อrคaวlามLแaสnดgงขuั้นaตgอeน)การทางาน มีส่วนประกอบ 2 ส่วน คือ ลาดับ และข้ันตอนการทางาน
การปรงุ บะหมีก่ ึ่งสาเร็จรปู 2 ตัวอย่าง การปรงุ บะหมี่กง่ึ สาเร็จรปู การปรุงบะหมก่ี ่ึงสาเร็จรูปเพอ่ื รบั ประทาน การแกป้ ัญหาน้ีสามารถ ถ่ายทอดความคดิ เป็นข้อความ ได้ ดงั น้ี วิธีที่ 1 ใชห้ มอ้ ไฟฟ้า ใส่นา้ ในหม้อ ต้มนา้ ให้เดือด นาบะหม่ีใสล่ งในหมอ้ แล้วปิดฝา ตม้ ต่ออีก 2 นาที
3 วิธีท่ี 2 ใชก้ ระติกนา้ ร้อนไฟฟา้ ใส่นา้ ในกระติกน้าร้อนไฟฟ้า เสยี บปลก๊ั ไฟ รอจนนา้ เดือด นาบะหมใ่ี สช่ าม เทน้ารอ้ น ปดิ ฝา ตัง้ ท้ิงไว้ 3 นาที กจิ กรรมท่ี 10 ฝกึ ลาดบั ความคดิ นักเรยี นเขยี นลาดบั ของการทากจิ กรรม ดงั นี้ 1. นักเรยี นมีวิธกี ารใดบ้างในการชงนม อธิบาย 2-3 วธิ ี
4 วดี โี อประกอบการสอน สปั ดาหท์ ่ี 1 https://www.youtube.com/watch?v=xKhkdHhO3ck วีดีโอพบครผู ้สู อน สัปดาหท์ ี่ 1 https://www.youtube.com/watch?v=lXgqrTySHdk
วธิ ีปฏบิ ตั ิ 5 กจิ กรรมท่ี 1 ช่ือ................................................นามสกุล................................................ชัน้ .............................. วธิ ีท่ี 1 วิธีท่ี 2 ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ? วิธกี ารท่ีนักเรียนเสนอวธิ ใี ดดที ี่สุด เพราะเหตุใด ตอบ ................................................................................................... ..................................................................................................................... .....................................................................................................................
6 2 การแสดงอัลกอริทมึ ดว้ ยรหสั จาลองหรือซูโดโคด้ (Pseudocode) • การอธบิ ายดว้ ยรหสั เราสามารถกาหนดรหสั จาลองข้ึนเองได้ รหสั จาลองสาหรับการเดินทาง รหัสจาลอง เดินไปทางขคววาามหมาย เดินไปทางซา้ ย เดนิ ขนึ้ ขา้ งบน เดนิ ลงขา้ งลา่ ง เดินตรงแล้วเลยี้ วขวา เดินตรงแลว้ เลยี้ วซา้ ย เดนิ ข้ึนข้างบนไปทางขวา เดินขึน้ ขา้ งบนไปทางซา้ ย จาไว้นะ..... จาไว้นะ..... สัญลักษณน์ ี้ ให้เดนิ ไปทางซ้าย
7 การแก้ปญั หา (problem solving) เป็ นการค้นหาคาตอบ หาวธิ ีแก้ปัญหาหรือทางานนัน้ ให้สาเร็จ โดยเร่ิมจากการกาหนดคาถามเก่ยี วกับปัญหานัน้ ว่าเราจะ แก้ปัญหาหรือทางานนัน้ ให้สาเร็จได้อย่างไร การให้เหตุผล (reasoning) เป็ นการคดิ และอธิบายความคดิ ออกมาเป็ นแผนงาน สาหรับการ แก้ปัญหานัน้ เราอาจเสนอวธิ ีการแก้ปัญหา โดยการถ่ายทอดออกมาเป็ นข้อความ ซ่ึงแสดงวธิ ีการแก้ปัญหา ออกมาเป็ นลาดับขนั้ ทาให้มองเหน็ วธิ ีการแก้ปัญหาได้อย่าง ชดั เจน โดยแต่ละขนั้ จะต้องพจิ ารณาเง่ือนไขหรือเหตุผล ประกอบด้วย การเลือกวิธีการแกป้ ัญหาทุกปญั หานนั้ นักเรยี นควรพจิ ารณาเงื่อนไขใหค้ รบทกุ กรณี สาหรบั แนวทางการแก้ปญั หานั้น นักเรียนอาจนาเครอ่ื งมอื ตา่ ง ๆ ท่ีมีอยมู่ าชว่ ยได้ เชน่ กนั วธิ ีการแกป้ ญั หาวิธีหน่งึ อาจจะดสี าหรบั เพอ่ื นแต่อาจไมเ่ หมาะสมกับตัว นักเรียนกไ็ ดเ้ ชน่ กัน
8 วดี โี อประกอบการสอน สปั ดาหท์ ่ี 2 https://www.youtube.com/watch?v=HDS8sc0E8U0&pbjreload=101 วีดโี อพบครผู ู้สอน สปั ดาหท์ ี่ 2 https://www.youtube.com/watch?v=YVHWWbfdKF0
กจิ กรรมท่ี 1.2 9 ฝึกลาดับความคดิ ใครจะไปถึงโรงเรียนก่อนกัน นกั เรยี นสังเกตภาพเส้นทางการไปโรงเรียน 2 เสน้ ทาง แล้วตอบคาถาม ตัวอยา่ งการตอบคาถาม 1. เสน้ ทางในเมือง เป็นเสน้ ทางตรงจากบ้านถงึ โรงเรยี นการจราจรหนาแน่น ผู้คนมกั ใช้เดินทางเปน็ หลัก 2. เสน้ ทางนอกเมอื ง เปน็ ทางเลย่ี งจากชุมชน ระยะทางค่อนขา้ งไกล แต่การจราจรไมห่ นาแนน่ ****************************************************************************************************** แนวทางการตอบคาถาม 1. นกั เรียนมีวิธีเดนิ ทางไปโรงเรยี นวธิ ีใดบ้าง บอกมาหลาย ๆ วิธี ตอบ.....เ.ด...นิ ..ไ.ป..โ.ร..ง.เ.ร..ีย..น....ถ..บี ..จ..กั..ร..ย..า..น.................................................................................................................. .............ผ..ูป้ ..ก..ค...ร.อ..ง..ข..ับ...ร.ถ..ไ..ป..ส..่ง...โ.ด...ย..ส..า..ร.ร..ถ..ป..ร..ะ..จ..า..ท..า..ง.......................................................................................... 2. วิธีเดินทางวิธใี ดรวดเรว็ ทส่ี ุด เพราะเหตุใด ตอบ........................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... 3. วิธเี ดินทางวิธใี ดประหยัดทีส่ ดุ เพราะเหตุใด ตอบ........................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... 4. วธิ เี ดินทางวิธีใดปลอดภัยทส่ี ุด เพราะเหตุใด ตอบ........................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... 5. หากวนั นนี้ ักเรียนต่ืนเช้า นักเรยี นจะเดนิ ทางไปโรงเรียนด้วยวิธีใด และเลือกเส้นทางใด เพราะเหตุใด ตอบ........................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... 6. หากวันนนี้ กั เรียนต่ืนสาย นกั เรียนจะเดินทางไปโรงเรียนด้วยวธิ ีใด และเลือกเส้นทางใด เพราะเหตุใด ตอบ...........................................................................................................................................................
เฉลย กิจกรรมที่ 1.2 10 ฝึกลาดับความคดิ ใครจะไปถงึ โรงเรยี นกอ่ นกนั นักเรยี นสงั เกตภาพเส้นทางการไปโรงเรียน 2 เสน้ ทาง แล้วตอบคาถาม การตอบคาถาม 1. นกั เรียนมวี ิธเี ดินทางไปโรงเรียนวิธีใดบ้าง บอกมาหลาย ๆ วิธี ตอบ.....เ.ด...นิ ..ไ.ป..โ.ร..ง.เ.ร..ยี..น....ถ..ีบ..จ..ัก..ร..ย..า..น.................................................................................................................. .............ผ..ปู้ ..ก..ค...ร.อ..ง..ข..บั...ร.ถ..ไ..ป..ส..ง่...โ.ด...ย..ส..า..ร.ร..ถ..ป..ร..ะ..จ..า..ท..า..ง.......................................................................................... 2. วธิ เี ดินทางวธิ ใี ดรวดเรว็ ทีส่ ุด เพราะเหตุใด ตอบ.......ผ..ปู้ ..ก.ค..ร..อ..ง..ข..ับ..ร..ถ..ไ..ป..ส..่ง...เ.พ...ร.า..ะ..ย..า..น..พ...า.ห...น..ะ..เ.ด..ิน..ท...า..ง.ไ..ด..ร้ .ว..ด...เ.ร.็ว..แ...ล..ะ..ไ.ม..ต่..อ้..ง..จ..อ..ด..ร..ับ..น...กั ..เ.ร..ยี ..น..ห..ล..า..ย..ค..น................... ................................................................................................................................................................... 3. วิธีเดินทางวิธใี ดประหยดั ที่สุด เพราะเหตุใด ตอบ.....ถ..บี...จ..ัก..ร..ย..าน....เ.พ..ร..า..ะ..ไ.ม..เ่.ส...ยี ..ค..่า.ใ..ช..้จ..า่..ย..ใ.น...ก..า..ร.เ.ด...ิน..ท..า..ง................................................................................... ................................................................................................................................................................... 4. วิธเี ดินทางวิธใี ดปลอดภยั ที่สดุ เพราะเหตุใด ตอบ.....ผ...ู้ป..ก..ค.ร..อ..ง..ข..ับ..ร..ถ..ไ.ป...ส..่ง...เ.พ..ร..า..ะ..ผ..ู้ป..ก..ค..ร..อ..ง..ด..ูแ..ล..ร..ะ..ห..ว..า่..ง..ก..า..ร.เ.ด..ิน...ท..า..ง..ไ.ป..โ..ร.ง..เ.ร..ยี ..น................................................ ................................................................................................................................................................... 5. หากวนั นีน้ ักเรยี นตนื่ เชา้ นักเรยี นจะเดินทางไปโรงเรยี นด้วยวิธใี ด และเลอื กเสน้ ทางใด เพราะเหตุใด ตอบ.......ถ..บี. .จ..กั ..ร..ย..า.น...ไ.ป..โ..ร.ง..เ.ร..ยี ..น..แ..ล..ะ..เ.ล..อื...ก..เ.ส..น้ ..ท..า..ง..น..อ..ก..เ..ม..อื ..ง...เ.พ..ร..า..ะ..เ.ล..่ีย..ง..ส..ถ..า..น..ก..า..ร.ณ....์ .ร.ถ...ต..ิด..แ..ล..ะ..ป..ล..อ..ด...ภ..ยั ..ใ.น............... ...............ก..า..ร.เ.ด..นิ...ท..า..ง..................................................................................................................................... 6. หากวันนี้นักเรียนต่ืนสาย นักเรียนจะเดนิ ทางไปโรงเรยี นดว้ ยวธิ ใี ด และเลือกเสน้ ทางใด เพราะเหตุใด ตอบ........ใ.ห...้ผ.ปู้ .ก..ค..ร..อ..ง.ข..บั..ร..ถ..ไ.ป..ส..ง่..เ.ส..้น..ท..า.ง..น..อ..ก..เ.ม..ือ..ง..เ.พ...ร.า..ะ..ร.ว..ด..เ.ร.็ว..แ..ล..ะ..ก..า.ร..จ..ร.า..จ..ร.ไ.ม...่ต.ดิ..ข..ดั..................................
1 11 ระบุปัญหา เปน็ การทาความเข้าใจเก่ียวกับปัญหา 5 ว่าตอ้ งการอะไร โจทย์ตอ้ งการทราบอะไร ทดสอบและประเมินผล ขั้นตอน เป็นการตรวจสอบผลลัพธท์ ีไ่ ดว้ า่ การแกป้ ัญหา สามารถแก้ปญั หาที่ต้องการได้หรือไม่ 4 แกป้ ัญหา เปน็ การเร่มิ แก้ปญั หา ตามวิธกี ารท่ีเลอื ก 2 3 รวบรวมขอ้ มลู เปน็ การรวบรวมขอ้ มลู นา วางแผนการแกป้ ญั หา เป็นการวางแผน ความรทู้ ีม่ ีอยู่หรือหาความรเู้ พิ่มเตมิ ออกแบบวิธีการแกป้ ัญหาซ่ึงอาจมไี ดห้ ลายวธิ ี มาแก้ปญั หานน้ั โดยเลอื กวธิ กี ารที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของตนเอง
12 กจิ กรรมท่ี 1.3 เล่นเกม OX นกั เรยี นเลน่ เกม ox กับเพื่อน โดยคร้ังแรกให้เพื่อนเร่ิมเลน่ กอ่ นและคร้งั ท่ี 2 นักเรียนเรมิ่ เล่นกอ่ น 1. ในการเล่นเกม ox ฝ่ายที่เล่นกอ่ นหรือหลงั จะไดเ้ ปรียบหรอื เสียเปรียบอย่างไร …ฝ…่าย…ท…เี่ ร…มิ่ เ…ล่น…ก…อ่ น…ได…้เป…ร…ียบ…เ…น่ือ…ง…จา…กไ…ด้ว…า…งแ…ผน…ก…่อน…ก…าร…เด…ิน…ทา…ง………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ในการเลน่ เกม ox เป็นไปได้หรอื ไมท่ เ่ี ขียนเตม็ ทุกช่องแล้วยังไมม่ ีผู้ชนะ ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… 3. เกม ox สามารถเพ่ิมชอ่ งได้หรือไม่ และจะเพิม่ อยา่ งไร ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… นกั เรยี นสามารถฝกึ เลน่ เกม ox ได้ค่ะ หลกั จากทากิจกรรมเสรจ็ แล้ว https://www.ufreegames.com/play/tic-tac-toe.html
13 เฉลย กจิ กรรมท่ี 1.3 เล่นเกม OX นกั เรยี นเล่นเกม ox กับเพื่อน โดยครง้ั แรกใหเ้ พือ่ นเริ่มเล่นกอ่ นและครั้งที่ 2 นักเรียนเร่มิ เลน่ กอ่ น 1. ในการเลน่ เกม ox ฝา่ ยท่ีเลน่ ก่อนหรือหลงั จะได้เปรียบหรอื เสียเปรยี บอย่างไร …ฝ…า่ …ยท…่ีเ…ริม่ …เล…น่ …ก…่อน…ไ…ด้เ…ป…รยี …บ…เ…น่อื…ง…จา…ก…ได…ว้ …าง…แ…ผน…ก…่อ…นก…า…รเ…ด…นิ ท…า…ง……………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ในการเล่นเกม ox เป็นไปไดห้ รอื ไมท่ ี่เขียนเต็มทุกชอ่ งแลว้ ยงั ไมม่ ผี ชู้ นะ …เ…ป็…น…ไป…ไ…ด้ ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… 3. เกม ox สามารถเพมิ่ ช่องได้หรือไม่ และจะเพม่ิ อย่างไร …เพ…่มิ …ไ…ด้โ…ด…ย…ทา…ต…า…รา…ง…4…×…4…ห…ร…ือ…5…×…5…ห…รื…อเ…พ…่มิ …จา…น…ว…น…ตา…ม…ท…่ีต…้อ…งก…า…ร …………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………
14 พาเด็กน้อยข้ึนจรวด เดก็ คนหนึง่ จะเดินทางผ่านดา่ นไปขน้ึ จรวดท่ีอยอู่ ีกด้านหนงึ่ แตต่ อ้ งเสยี คา่ ใช้จ่ายตามตาราง นกั เรยี นจะ หาเสน้ ทางพาเด็กเดนิ ผา่ นไปได้อย่างไร ให้เสียค่าใชจ้ ่ายนอ้ ยท่ีสุด และการเดนิ ทางตอ้ งเดินทางขนึ้ หรือ ลง ไปทางซา้ ยหรอื ขวา ไม่สามารถเดินทางแนวทแยงหรือแนวเฉยี งได้ การแก้ปญั หาอาจทาได้ตามขน้ั ตอน ดังนี้ 1. ระบุปัญหา โจทย์ต้องการให้พาเดก็ เดนิ ทางเสยี คา่ ใช้จ่ายนอ้ ยทส่ี ุด และห้ามเดนิ แนวทแยงหรอื แนวเฉียง 2. รวบรวมขอ้ มูล สง่ิ ทีโ่ จทย์ให้มา คอื ทางเขา้ ทางออกไปยังจรวด และคา่ ใชจ้ า่ ยใน การเดินทางแตล่ ะด่าน 3. วางแผนการแก้ปัญหา จะพาเด็กเดนิ เข้าไปอยา่ งไร ซ่งึ มีหลายวธิ ี หลายเสน้ ทาง แต่ละเสน้ ทางมคี ่าใช้จ่ายต่างกัน นักเรียนอาจเดินเข้า ไปในดา่ นทเี่ สียเงินนอ้ ยทีส่ ดุ แล้วพิจารณาว่าเป็นไปตามเงือ่ นไขหรอื ไม่ 4. แกป้ ญั หา ทดลองเดินทางไปแตล่ ะเส้นทาง โดยเสน้ ทางทเ่ี ลือกเป็น ดงั น้ี
15 4. ทดสอบและประเมินผล พบวา่ เส้นทางนี้เสยี คา่ ใชจ้ ่าย 10 หน่วย ซ่งึ นอ้ ยท่สี ดุ คาถามสาคญั 1. จากตวั อย่างทผี่ า่ นมา จงบอกจานวนครั้งของด่านทต่ี ้องผ่าน ตอบ 6 คร้ัง 2. มเี สน้ ทางทส่ี น้ั กว่านห้ี รอื ไม่ ถ้ามี ทาไมจึงไมเ่ ลอื กเส้นทางนนั้ ตอบ ไมม่ ี เพราะเส้นทางเดนิ อนื่ ๆ จะเสียค่าใช้จ่ายมาก และการเดนิ ทางจะไม่เป็นไปตามท่เี งือ่ นไขกาหนดไว้ กจิ กรรม 1.4 ลกู บาศก์ เสนอวธิ ีการคาดการณผ์ ลลพั ธจ์ ากปญั หาแลว้ ตอบคาถาม นักเรียนลองนาลูกบาศก์ 4 ลูก ท่ีมสี ตี า่ งกัน มาเรียงต่อกนั จะมีวธิ ีเรียงได้กี่แบบ โดยปฏบิ ัตติ ามข้นั ตอนการแกป้ ัญหา ดังน้ี 1. ระบปุ ญั หา - โจทยต์ ้องการอะไร ……ต…อ…บ……เร…ีย…ง…ลกู…บ…า…ศ…ก…์ …4…ล…กู …ไ…ด้ก…ีว่…ิธ…ี ……………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. รวบรวมข้อมูล – เราทราบอะไรมาบ้าง ……ต…อ…บ…ล…ูก…บ…า…ศ…ก…์ 4……ล…กู …แ…ต…ล่ …ะ…ล…กู ม…สี…ีแ…ต…ก…ต…า่ …ง…ก…ัน…………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. วางแผนการแก้ปัญหา – เราจะแก้ปัญหาน้ีอย่างไร ……ต…อบ……ล…า…ด…ับ…ค…ว…าม…ค…ิด…เ…ป…็น…ข…อ้ …ค…ว…าม………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. แก้ปัญหา - ทดลองวาดภาพและระบายสี แลว้ เรียงไม่ให้ซา้ กนั ……ต…อบ……ว…า…ด…ภ…าพ……แล…ะ…ร…ะ…บ…า…ย…สีต…า…ม…ค…ว…า…ม…ค…ิด…ท…วี่ …าง…แ…ผ…น…ไ…ว…้ …………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. ทดสอบและประเมนิ ผล – มวี ิธีอ่นื นอกจากวิธที น่ี กั เรียนเรยี งอีกหรือไม่ …ต…อ…บ…พ…จิ…า…ร…ณ…า…แ…ล…ะ…ต…ร…ว…จ…ส…อ…บ…ค…าต…อ…บ…ท…ไี่ …ด…้ ………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………
16
17 นกั เรียนสามารถเรียงลูกบาศก์ 4 ลูกไดก้ ่ีแบบ (ตวั อยา่ งคาตอบ 24 แบบ) ถา้ ลูกบาศกส์ ีแดงและสีเหลืองตอ้ งอยตู่ ิดกนั เสมอ จะเรียงไดก้ ่ีแบบ (ตวั อยา่ งคาตอบ 12 แบบ) ถา้ มีลูกบาศก์ 3 ลูก จะเรียงไดก้ ี่แบบ (ตวั อยา่ งคาตอบ 6 แบบ)
18 วดี โี อพบครผู ้สู อน สปั ดาหท์ ี่3 https://www.youtube.com/watch?v=QiR0WEfO8ws
19 เฉลย กจิ กรรม สัปดาหท์ ่ี 3 2. นกั เรียนร่วมกนั พจิ ารณาภาพสถานการณ์จากบตั รภาพที่กาหนด แลว้ วเิ คราะหว์ า่ ภาพใดเป็นปัญหา และไม่เป็นปัญหา แลว้ ช่วยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ดงั น้ี 1. อ่านหนังสือ 2 นักเรียนทะเลาะววิ าทกนั 3 ปลกู ต้นไม้ 4 ห้องเรียนสกปรก 5. สอบไดค้ ะแนนนอ้ ย 6. ทาความสะอาดบา้ น ภาพท่ีเกิดปัญหา ได้แก่ภาพท่ี (ภาพท่ี 2 , 4 และ 5)
20 ตัวอย่าง การวิเคราะหป์ ัญหา ของภาพท่ี 2 การวเิ คราะหป์ ัญหา ของภาพท่ี 4
21 เฉลย การวเิ คราะห์ปญั หา ของภาพท่ี 4 สปั ดาหท์ ่ี 4 วิดโี อ ประกอบการสอนสปั ดาหท์ ่ี 4 https://www.youtube.com/watch?v=NN7Lczd3__4&t=100s การหารปู แบบของปญั หา Pattern https://www.youtube.com/watch?v=_wW48zZAsUQ การแบง่ ยอ่ ยปญั หา decomposition
22 ภาระงาน สปั ดาห์ท่ี 4 วิเคราะห์ปัญหาภาพท่ี 5 กจิ กรรมเกมสบ์ นั ไดงู https://poki.com/en/g/snakes-and-ladders
23 เฉลย ภาระงาน สปั ดาหท์ ่ี 4 วเิ คราะหป์ ญั หาภาพที่ 5
สัปดาห์ท่ี 5 24 วิดีโอ ประกอบการสอนสปั ดาหท์ ี่ 5 https://www.youtube.com/watch?v=vKGo4ZW7yLI ความสาคัญของปัญหา Abstraction(Computational thinking) ภาระงาน สปั ดาหท์ ่ี 5 นกั เรียนใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะแก้ปญั หาในข้อที่ 4ทั้ง 3 ปัญหาโดยเลอื กแกป้ ญั หาจากสาเหตุใด สาเหตหุ นึ่งใหป้ ระสบความสาเร็จแล้วเขยี นลงใน แบบบนั ทึก ตวั อย่างการเขียนลงในแบบบนั ทึก 5.1 แบบบนั ทกึ การแกป้ ญั หาที่ 1 1. ปัญหาคือ นักเรยี นทะเลาะวิวาทกนั 2. สาเหตุของปญั หาท่เี ลอื ก คอื ล้อปมด้อยของเพ่ือน 3. เป้าหมายท่ีต้องการในการแก้ปญั หา คอื เลิกทะเลาะกับเพอื่ นและกลบั มาคนื ดกี ัน 4. ทางเลอื กในการแกป้ ัญหา ทางเลอื กท่ี 1 ไมล่ ้อปมด้อยเพ่อื นและพดู กบั เพ่อื นดี ๆ ทางเลือกที่ 2 มองขอ้ ดีของเพอื่ นแทนปมด้อย 5. แก้ปญั หาโดยใช้ทางเลือกใด เพราะเหตุใด ทางเลือกท่ี 1 เพราะ เปน็ การแกป้ ัญหาท่สี าเหตุ ทางเลือกที่ 2 เพราะ ........................................... 6. วางแผนการแก้ปญั หาอย่างไร 1. ปรับเปลย่ี นพฤติกรรมของตนเอง 2. มองหาจุดเด่นของเพื่อนแทนจดุ ด้อย 3. เตือนตัวเองใหพ้ ูดจุดดขี องเพือ่ นและไม่พูดจุดด้อยของเพอื่ น 7. ทดสอบและประเมนิ ผลอย่างไร สังเกตพฤติกรรมของเพอื่ นวา่ เวลาคยุ ดว้ ยกัน ยิ้มแยม้ และมีปฏิสัมพันธ์ทีด่ ีระหวา่ งกันหรือไม่
ภาระงานสัปดาห์ ท่ี 5 หน้าที่ 22 ขอ้ 5.2 25 5.1 แบบบนั ทกึ การแกป้ ญั หาที่ 2 1. ปญั หาคือ ห้องเรยี นสกปรก 2. สาเหตขุ องปัญหาท่เี ลอื ก คือ …………………………………………………………………………………………………….. 3. เปา้ หมายทต่ี ้องการในการแกป้ ัญหา คอื ………………………………………………………………………………... 4. ทางเลือกในการแกป้ ัญหา ทางเลือกที่ 1 ………………………………………………………………………………………… ทางเลือกที่ 2 ………………………………………………………………………………………… 5. แก้ปญั หาโดยใช้ทางเลือกใด เพราะเหตใุ ด ทางเลอื กท่ี 1 เพราะ ........................................... ทางเลอื กที่ 2 เพราะ ........................................... 6. วางแผนการแกป้ ญั หาอยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………….............................................................. ……………………………………………………………………………………………………..........................................................…… ………………………………………………………………………………………………................................................................... 7. ทดสอบและประเมนิ ผลอยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………….......................................................... ……………………………………………………………………………………………………..........................................................
26
การออกแบบขั้นตอนการแกไ้ ขปัญหานั้น ควรออกแบบให้ครอบคลมุ ทุกกรณีตาม เงือ่ นไขที่โจทยก์ าหนด และเราอาจนาขั้นตอนนไ้ี ปใชไ้ ดห้ ลาย ๆ ครงั้ ตามตอ้ งการได้ อีกด้วย ตัวอย่าง การสร้างเครอื่ งคานวณสาหรบั บวกเลขจานวนเต็ม 2 จานวน วิธปี ฏบิ ัติ 1. ระบุปัญหา โจทย์ตอ้ งการใหส้ ร้างเครอ่ื งคานวณสาหรับบวกเลข 2. รวบรวมข้อมลู เราทราบมาว่าขอ้ มลู ทน่ี ามาบวกกนั เปน็ เลขจานวนเตม็ 2 จานวน เมอ่ื บวกกนั แล้วผลลพั ธท์ ่ีไดจ้ ะเปน็ เลขจานวนเต็มเช่นกนั 3. วางแผนการแกป้ ัญหา เราจะแก้ปัญหานโี้ ดยรับคา่ ตวั เลขแต่ละคา่ เขา้ มา คา่ แรกเกบ็ ไว้ใน A ค่าท่ี 2 เก็บไวใ้ น B จากนั้นนาทง้ั 2 คา่ มารวมกนั แล้วเกบ็ ไวใ้ น C 4. แก้ปัญหา อาจเขยี นลาดบั การแก้ไขปัญหาเปน็ ภาพหรือเขยี นเป็นขนั้ ตอน ดังน้ี เรม่ิ ตน้ นาค่าแรกเก็บใน A A นาค่าท่ี 2 เก็บใน B นา A กับ B มารวมกนั แล้วเกบ็ ใน C B แสดงผล C C AB จบ
27 5. ทดสอบและประเมนิ ผล ลองทดสอบการบวกเลขระหวา่ ง 2 กบั 3 2 จากขัน้ ตอนการแกไ้ ขปัญหาทอ่ี อกแบบขน้ึ ดลองใหค้ า่ แรกเป็น 2 3 จากน้นั ทดลองให้คา่ ที่ 2 เปน็ 3 5 2 3 ระบบทางาน จะเห็นไดว้ า่ ผลลัพธ์ทไี่ ด้เปน็ 5 จากการออกแบบขัน้ ตอนการแกไ้ ขปัญหาวิธนี ้ี จะเห็นได้วา่ ข้ันตอนทอี่ อกแบบขน้ึ สามารถนาไปใชก้ ับตัวเลขตา่ ง ๆ ได้ และค่าตวั เลขหรอื ขอ้ มลู input เปล่ยี นแปลงไป ผลลัพธ์ทีไ่ ดก้ จ็ ะเปลยี่ นแปลงไปดว้ ย
Search
Read the Text Version
- 1 - 30
Pages: