Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore KM : เรื่อง การพัฒนา EQ ระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน

KM : เรื่อง การพัฒนา EQ ระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน

Published by สสว ปทุมธานี, 2021-09-27 07:17:45

Description: KM : เรื่อง การพัฒนา EQ ระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน

Search

Read the Text Version

Knowledge Management : KM เ รื อ ง ก า ร พั ฒ น า E Q ร ะ ดั บ เ จ้ า ห น้ า ที ผู้ ป ฏิ บั ติ ง า น โดย สํานักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1



KM : เรื่อง การพัฒนา EQ ระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน คานา สานักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 สานักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและ ความมั่นคงของมนุษย์ เห็นความสาคัญของการจัดการความรู้ (Knowledge Management : KM) ซึง่ เป็นการรวบรวมองค์ความรู้ทีม่ ีอยู่ในองค์กร บุคคล และเอกสาร โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมอบรมได้รับความรู้ ทักษะ และแนวทาง “การพัฒนา EQ สาหรับเจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงาน” ให้ผู้เข้าร่วมอบรมมีเทคนิคในการสร้างความฉลาดทางอารมณ์ในการแก้ไข ปัญหา เสริมสร้างทัศนคติเชิงบวก นาหน่วยงานพิชิตเป้าหมายตามแผนที่วางไว้ได้อย่าง เหมาะสมกับบริบทหน่วยงาน และพัฒนาการจัดบริการช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคม และพัฒนาการปฏิบัติงานให้เกิดประสิทธิภาพ จึงได้ดาเนินการถอดบทเรียน เรื่อง การพัฒนา EQ ระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน เพื่อให้บุคลากรที่ปฏิบัติงานด้านสวัสดิการ สังคมและสังคมสงเคราะห์ มีความฉลาดทางอารมณ์ มีทัศนคติที่ดีต่อการให้บริการ ตระหนักรู้ถึงความสาคัญของการสร้างความพึงพอใจให้กับผู้มาติดต่อขอใช้บริการ ควบคุม และจัดการอารมณ์ได้อย่างเหมาะสม ตลอดจนให้กาลังใจในการเผชิญปัญหาและทางาน ร่วมกับคนอืน่ ได้อย่างมีความสุข โดยยึดถือปฏบิ ัติให้บังเกิดผลประโยชน์ต่อทางราชการ ในนามของส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 ขอขอบคุณหน่วยงาน ทีม พม. (One Home) ทั้ง 8 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร นนทบุรี นครนายก ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สมุทรปราการ สระบุรี และอ่างทอง และผู้ที่เกี่ยวข้องทุก ๆ ท่าน ที่เป็นผู้ให้ข้อมูล ท าให้การจัดท าเอกสารการถอดบทเรียน บรรลุวัตถุประสงค์ ซึง่ สามารถนาความรู้ไปพัฒนาต่อยอดในการพัฒนางาน พัฒนาคน ได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ ทั้งนี้ คณะผู้จัดทาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผลการถอดบทเรียนในครั้งนี้จะเปน็ ประโยชน์กับ ผู้ทีเ่ กีย่ วข้อง และผู้ทีส่ นใจได้นาองค์ความรู้ทีไ่ ด้ไปใช้ประโยชน์ต่อไป สานักงานสง่ เสริมและสนับสนับสนุนวิชาการ 1 สิงหาคม 2564



KM : เรื่อง การพัฒนา EQ ระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน สารบัญ เรื่อง หน้า ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Quotient : EQ) 1 แนวทางในการพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ของตนเอง 3 ปจั จัยสาคัญของความฉลาดทางอารมณ์ 4 สิ่งที่ต้องมี เพื่อ EQ ที่ดี 6 7 อุปนิสัยของผู้มี EQ สูง 10 12 วิธีในการพัฒนา EQ ให้สูงขึ้น 14 ความสาคัญของ EQ กับการทางาน 18 IQ และ EQ กุญแจสู่ความสาเร็จในการทางาน 21 เรียนรู้เรื่อง EQ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทางาน 24 การพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ (E.Q) 27 บรรณานุกรรม



KM : เรื่อง การพัฒนา EQ ระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Quotient : EQ) ในปัจจุบันจะเห็นได้ว่ามีเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมายไม่ว่าจะทางโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ สื่อ ออนไลน์ หรือที่เราได้มีโอกาสพบเจอ มีเหตุการณ์การใช้ ความรุนแรง เหตุการณ์ทาร้ายกันอันเกิดจาก การควบคุมอารมณ์และความคิด ของตัวเองไม่ได้ ก่อให้เกิดพฤติกรรมที่ไม่ประสงค์ด้านลบและเกิดความ วุ่นวายในสังคม ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีที่มาจากการการไม่รู้จักวิธี จัดการกับอารมณ์ของตัวเอง จนทาให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผลและความ เหมาะสม อารมณ์ของคนเราสามารถแสดงออกได้หลายทาง ไม่ว่าจะเป็นทาง สีหน้า แววตา น้าเสียง ท่าทางและอากับกิริยาและพฤติกรรมต่าง ๆ ดังนั้น เราจึงมีความจาเป็นที่จะต้องรู้จักการบริหารจัดการอารมณ์ของ ตัวเราเองและรู้จักสังเกตอารมณ์ของ ผู้อื่น เพื่อให้เราและผู้อื่นต่างอยู่ร่วมกัน ได้อย่างมีความสุข ทางานร่วมกันได้จนงานประสบผลสาเร็จ องค์กรและ ประเทศชาติก็จะเกิดการพัฒนา ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Quotient : EQ) ได้มีการให้ความหมายไว้หลายอย่าง ตัวอย่าง เช่น 1 | ห น้ า

KM : เรื่อง การพัฒนา EQ ระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน 1. ความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) หมายถึง ความสามารถในการควบคุม อารมณ์ มีจิตใจที่มั่นคง การมองโลกในแง่ดี รู้จักเห็นอกเห็นใจผู้อื่น รู้จักเอา ใจเขามาใส่ใจเรา มีความมุ่งมั่นแน่วแน่ มีเหตุผล มีสติ สามารถควบคุมตนเอง มีความสามารถในการรับรู้ถึงความต้องการของคนอื่น และรู้จักมารยาททาง สังคม เป็นต้น 2. ความฉลาดทางอารมณ์ คือ ความสามารถทางอารมณ์ที่จะช่วยให้ การดาเนินชีวิตเปน็ ไปอย่างสร้างสรรค์และมีความสุข นอกจากนี้ กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ยังได้มีการพัฒนา แนวคิดเรื่องความฉลาดทาง อารมณ์ ประกอบด้วย 3 ประการ คือ เก่ง ดี มีสุข การพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ในส่วนที่เกี่ยวกับตนเอง คือ การรู้เท่าทันอารมณ์ของตนเอง สามารถติดตามอารมณ์ของตนเองอยู่เสมอ และในทุกอารมณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลง ซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของตนเอง ตระหนักถึงข้อดีและข้อบกพร่องของตนเอง โดยรู้ด้วยตนเอง และการที่ผู้อื่น ให้ข้อมูลย้อนกลับ การยอมรับข้อบกพร่องของตนเป็นการเปิดโอกาสให้ได้ ปรับปรุงตนเองหรือเกิดความระมัดระวังในการแสดงอารมณ์มากขึ้น 2 | ห น้ า

KM : เรื่อง การพัฒนา EQ ระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน แนวทางในการพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ของตนเอง 1. ฝึกให้สามารถรู้เท่าทันความรู้สึกของตนเองและคลี่คลายอารมณ์ทาง ลบให้หมดไป ฝึกฝนการมีสมาธิจดจ่ออยู่กับกิจกรรมหรืองานที่ทา ทาให้ต้อง ตริตรองในเรื่องนั้น ๆ ซึ่งเป็นการสร้างความ เพลิดเพลินใจขึ้นมาแทนที่ ความรู้สึกทางลบที่มีอยู่เดิมให้ได้ 2. ฝึกการใช้อารมณ์ให้ส่งเสริมความคิดของตน โดยอารมณ์จะช่วย ปรับแต่งและปรับปรุงความคิดให้เป็นไปในทางที่มีประโยชน์ มีความรู้สึก กลมกลืนไปกับงานซึ่งเกิดขึ้นจากการท้าทายที่เหมาะสม ไม่มากหรือน้อย เกินไป 3. สร้างเสริมพลังจูงใจให้ตนเอง ด้วยการมองและเห็นถึงความงดงาม ของโลกหรือบุคคลอื่น ควรละจากความหมกมุ่นในกิจกรรมส่วนตัว และ พิจารณาสิ่งรอบข้างบุคคลรอบตัว เพื่อน ร่วมงาน รวมทั้งตนเอง ชื่นชมใน ส่วนดีทั้งของเขาและของเรา ความเคร่งเครียดของจิตใจและการเห็นทุกอย่าง เต็มไปด้วยอุปสรรคจะลดลง 3 | ห น้ า

KM : เรื่อง การพัฒนา EQ ระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ปจั จัยสาคัญของความฉลาดทางอารมณ์ ความฉลาดทางอารมณ์ หรือ EQ (Emotional Quotient ห ร ื อ Emotional Intelligence) ในภาษาไทยยังสามารถ แปลความหมายได้อีกหลายชื่อ เช่น การบริหารอารมณ์ สติอารมณ์ อัจฉริยะ ทางอารมณ์ เชาว์อารมณ์ ความเฉลียว ฉลาดทางอารมณ์ ปรีชาเชิงอารมณ์ วุฒิภาวะทางอารมณ์ ปัญญาทางอารมณ์ ซึ่งทั้งหมดนี้มาจากคาภาษาอังกฤษที่มี ความหมายเดียวกัน ความฉลาดทางอารมณ์ เป็นความสามารถในการควบคุมอารมณ์ มี จิตใจที่มั่นคง การมองโลกในแง่ดี รู้จักเห็นอกเห็นใจผู้อื่น รู้จักเอาใจเขามาใส่ ใจเรา มีความมุ่งมั่นแน่วแน่ มีเหตุผล มีสติ สามารถควบคุมตนเอง มี ความสามารถในการรับรู้ถึงความต้องการของคนอื่น และรู้จักมารยาททาง สังคม เป็นต้น ความฉลาดทางอารมณ์ประกอบด้วยปัจจัยสาคัญ 3 ประการ ได้แก่ 1. ความดี 2. ความเก่ง และ3. ความสุข ซึ่งแต่ละปัจจัยก็ให้ความหมาย ที่แตกต่างกันดังต่อไปนี้ ดี หมายถึง ความสามารถในการควบคุมอารมณ์และความต้องการของ ตนเอง รู้จักเห็นใจผู้อื่น และมีความรับผิดชอบต่อส่วนร่วม ซึ่งมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้ 4 | ห น้ า

KM : เรื่อง การพัฒนา EQ ระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ความสามารถในการควบคุมอารมณ์และความต้องการของตนเอง ✓ รู้อารมณ์และความต้องการของตนเอง ✓ ควบคุมอารมณ์และความต้องการได้ ✓ แสดงออกอย่างเหมาะสม ความสามารถในการเห็นใจผู้อื่น ✓ ใส่ใจผู้อื่น ✓ เข้าใจและยอมรับผู้อื่น ✓ แสดงความเห็นใจอย่างเหมาะสม ความสามารถในการรับผิดชอบ ✓ รู้จักการให้ รู้จักการรับ ✓ รู้จักรับผิด รู้จักให้อภัย ✓ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม เก่ง หมายถึง ความสามารถในการ รู้จักตนเอง มีแรงจูงใจ สามารถตัดสินใจ แก้ปัญหา และสามารถแสดงออกได้อย่างมี ประสิทธิภาพตลอดจนมีสัมพันธภาพที่ดี กับผู้อื่น ประกอบไปด้วย ความสามารถในการรู้จักและสร้างแรงจูงใจให้ตนเอง ✓ รู้ศักยภาพของตนเอง ✓ สร้างขวัญและกาลังใจให้ตนเองได้ ✓ มีความมุ่งมั่นที่จะไปให้ถึงเป้าหมาย 5 | ห น้ า

KM : เรื่อง การพัฒนา EQ ระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ความสามารถในการตัดสินใจและแก้ปญั หา ✓ รับรู้และเข้าใจปญั หา ✓ มีขั้นตอนในการแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสม ✓ มีความยืดหยุ่น ความสามารถในการมีสัมพันธภาพกับผู้อื่น ✓ รู้จักการสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับผู้อื่น ✓ กล้าแสดงออกอย่างเหมาะสม ✓ แสดงความเห็นที่ขัดแย้งได้อย่างสร้างสรรค์ และสุดท้ายก็คือ สุข หมายถึง ความสามารถในการดาเนินชีวิตอย่าง เปน็ สุข มีความภูมิใจในตนเองพอใจในชีวิต และมีความสุขสงบทางใจ ประกอบไปด้วย ความภูมิใจในตนเอง ✓ เห็นคุณค่าในตนเอง ✓ เชื่อมั่นในตนเอง ความพึงพอใจในชีวิต ✓ รู้จักมองโลกในแง่ดี ✓ มีอารมณ์ขัน ✓ พอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่ ความสงบทางใจ ✓ มีกิจกรรมที่เสริมสร้างความสุข ✓ รู้จักผ่อนคลาย ✓ มีความสงบทางจิตใจ 6 | ห น้ า

KM : เรื่อง การพัฒนา EQ ระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ดังนั้น ความฉลาดทางอารมณ์ สามารถสรุปได้ดังนี้ ความฉลาดทางอารมณ์  เข้าใจตนเอง + เข้าใจผู้อื่น + แก้ไขความขัดแย้งได้ เข้าใจตนเอง  เข้าใจอารมณ์ ความรู้สึกและความต้องการในชีวิตของตนเอง เข้าใจผู้อื่น  เข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของผู้อื่น และสามารถแสดงออกมาได้ อย่างเหมาะสม แก้ไขความขัดแย้งได้  เมื่อมีปญั หาสามารถแก้ไขจัดการให้ผ่านพ้นไปได้ อย่างเหมาะสมทั้งปัญหาความเครียดในใจ หรือ ปญั หาที่เกิดจากการขัดแย้งกับผู้อื่น 7 | ห น้ า

KM : เรื่อง การพัฒนา EQ ระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน สิ่งที่ต้องมีเพื่อ EQ ที่ดี ในแต่ละวันที่ใช้ชีวิตเรามักจะพบเจอกับเรื่องมากมายที่ส่งผลต่อ อารมณ์ บางคนอาจมีการจัดการกับอารมณ์ได้ง่าย ๆ หรือบางคนอาจจะจัดการ กับอารมณ์ได้ยาก คนที่มีความฉลาดทางด้านอารมณ์ หรือ EQ (Emotional Quotient) ที่ดีและแข็งแกร่ง ย่อมเรียนรู้การจัดการความรู้สึกของตนเองเพื่อ รับมือกับอารมณ์ในทุก ๆ วันได้เปน็ อย่างดี พฤติกรรมที่สร้างเสริม EQ 1. ปกป้องความสุขของตนเอง พึงพอใจกับความสุขของตนเอง และไม่ ย่อมให้ใคร ๆ มาทาลายความสุขนั้นลงได้ง่าย ๆ เพียงแค่คาพูดหรือการกระทา ปกป้องโดยการปล่อยผ่าน ปล่อยวาง ไม่เก็บคาพูดร้าย ๆ หรือเรื่องทุกข์ เหล่านั้นมาใส่ใจ แยกให้ออกระหว่างคากล่าวที่ว่าร้าย และคาติเพราะหวังดี 2. ให้อภัย ไม่เพียงแต่ทาให้คนอื่นรู้สึกดีขึ้น ทาให้เหตุการณ์ทุกอย่าง ราบรื่นขึ้น สาคัญไปกว่านั้นคือเป็นการแก้ปัญหาได้ตรงจุด รู้สึกสบายใจที่ ทุกอย่างมันจบลงด้วยดี มีความเข้าใจกันมากขึ้น 8 | ห น้ า

KM : เรื่อง การพัฒนา EQ ระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน 3. ยอมบ้างก็ได้ “ยอม” ในที่นี้ไม่ใช่การยอมแพ้ ไม่ใช่ยอมถูกเอาเปรียบ แต่เป็นการยืดหยุ่น เพราะการปะทะไม่ว่าจะเป็นทางอารมณ์ ทางกาย ทางใจ ก็ตาม ไม่ได้เกิดผลดีกับตนเองและผู้อื่น รู้จักการประนีประนอมและฉลาดอ่าน สถานการณ์ 4. ลดการเสพติดความสมบูรณ์ ความสมบูรณ์แบบนั้นไม่มีอยู่จริง การปรับตัวเอง สนุกกับการสร้างความสาเร็จครั้งใหม่ ไม่คิดถึงแต่ความ ล้มเหลว รับฟังคนอื่นรอบ ๆ ตัว และให้อภัยตัวเองกับความผิดพลาดที่ไม่ได้ ตั้งใจให้เกิด 5. ไม่จมอยู่กับอดีต ใช้สติไปกับปัจจุบัน ไม่ยึดติดกับอดีต ต้อง ไม่ปล่อยให้ความผิดพลาดมาบั่นทอนความเชื่อมั่นและศักยภาพที่มี 6. ไม่จมอยู่กับปญั หา ใช้สติจัดการปญั หา และพัฒนาตนเองให้ดียิ่งขึ้น 7. ไม่อยู่ใกล้คนที่มองโลกในแง่ลบ 8. ไม่เจ้าคิดเจ้าแค้น 9. ทาความเข้าใจความต้องการของตนเอง รู้จักการปฏิเสธในสิ่งที่ ไม่ต้องการ 10. ไม่ยอมแพ้ พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับทุกปัญหาที่เข้ามาด้วยความ เข้าใจ “สิ่งที่สาคัญที่สุดในการจัดการอารมณ์ คือการทบทวนตัวเองในแต่ละวัน ว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้นกับตัวเราบ้างและเรามีการจัดการกับอารมณ์อย่างไร เพื่อ ทบทวนและทาความเข้าในอารมณ์และความรู้สึกของตนเองให้มากขึ้น และ เพื่อที่เราจะได้รู้ว่าเราควรพัฒนาตนเองอย่างไรต่อไป” 9 | ห น้ า

KM : เรื่อง การพัฒนา EQ ระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน 7 อุปนิสัยของผู้มี EQ สูง งานวิจัยในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา พบว่าความฉลาดทางอารมณ์ หรือ ที่เรียกว่า EQ ( Emotional Intelligence) เป็นตัวชี้วัดความสุข ความสาเร็จ ในชีวิต แม้ว่า EQ จะเป็นสิ่งที่เรามองไม่เห็น จับต้องได้ยาก แต่มันจะปรากฏ ออกมาในพฤติกรรมของแต่ละคน ความสามารถในการเข้าสังคม การรับมือ กับสถานการณ์ที่ยาก กระบวนการในการตัดสินใจ และมุมมองในชีวิต เปน็ ต้น ปัจจุบันการทดสอบ EQ ทางวิทยาศาสตร์นั้น สามารถทาได้ แต่ก็มี ค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตามงานวิจัยจากผู้คนนับพันก็พบว่า มีพฤติกรรม บางอย่างที่บ่งชี้ว่าคนเหล่านี้มี EQ ที่สูงกว่าคนทั่วไป 1. สามารถบ่งบอก “ภาวะอารมณ์” ของตัวเองได้ มนุษย์ทุกคนต่างมีอารมณ์ แต่เชื่อไหมว่า มีคนเพียง 36% เท่านั้น ที่จะสามารถบอกได้ว่า ขณะนี้ตัวเองรู้สึกอย่างไร คนทั่วไปไม่เข้าใจอารมณ์ มักปฏิเสธ หรือกดทับอารมณ์ของตัวเอง คนที่มี EQ สูง จะสามารถบ่งบอก และแยกแยะระดับอารมณ์ได้อย่างละเอียดชัดเจน เช่น ตอนนี้รู้สึกแย่ หงุดหงิด ราคาญ ขุ่นเคือง โกรธ กังวล กระวนกระวาย ว้าวุ่น ฟุ้งซ่าน ยิ่งสามารถอธิบาย ได้ละเอียดมากเท่าไหร่ แสดงว่าเขารู้จักตัวเองดีมากเท่านั้น 10 | ห น้ า

KM : เรื่อง การพัฒนา EQ ระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน 2. มีความสนใจผู้คน และไม่ด่วนตัดสินผู้อื่น คนมี EQ สูงนั้นจะมีความห่วงใยใส่ใจผู้คนที่อยู่รอบ ๆ ตัวของเขา จะไม่ เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางในการคิดหรือตัดสินใจ แต่จะมองรอบ ๆ ตัวว่าจะทา ให้เกิดประโยชน์กับทุกฝ่ายได้มากที่สุดอย่างไร เมื่อต้องเจอกับคนที่ขี้หงุดหงิด ขี้วีน เขาจะรักษาระดับอารมณ์ไม่ให้ ขึ้นไปตามสิ่งที่มากระทบ เขามองว่า คนเหล่านี้อาจจะก าลังเผชิญกับ ปัญหาส่วนตัวอยู่ และรู้ว่าไม่มีใครถูก หรือผิดไปหมดทุกอย่าง ดังนั้นเขาจะ ไม่ด่วนตัดสินคนอื่น และจะสื่อสาร โดยใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ 3. โอบอุ้มความเปลี่ยนแปลง ไม่มองหาความสมบูรณ์แบบ เขาคือคนที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับเปลี่ยนแผนได้ตลอด เขารู้ ว่าความกลัวต่อการเปลี่ยนแปลง คืออุปสรรคต่อความสาเร็จและความสุขใน ชีวิต เขาจึงมองว่าความไม่แน่นอน คือสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ และก็พร้อมที่ จะเผชิญกับสิ่งเหล่านั้น เขาจะไม่ตั้งเป้าหมายถึงความสมบูรณ์แบบ เพราะรู้ว่ามันไม่มีอยู่จริง แทนที่จะมองว่าตัวเองห่างจากความสมบูรณ์แบบมากแค่ไหน เขาจะมองว่า ตัวเองทาอะไรสาเร็จมาแล้วบ้าง และจะทาอะไรต่อไป 11 | ห น้ า

KM : เรื่อง การพัฒนา EQ ระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน 4. รู้จักตัวเอง จึงไม่โกรธง่ายๆ คนที่มี EQ สูงจะรู้ว่าตัวเองถนัดอะไร และจะปรับใช้สิ่งเหล่านั้นมากขึ้น เพื่อสร้างความได้เปรียบ ขณะเดียวกันก็จะเก็บจุดอ่อนเอาไว้ ไม่ให้มาฉุดรั้ง ตัวเอง เขารู้ดีว่าอะไรเปน็ สิ่งที่จะมากดปุม่ ให้ตัวเองโกรธหรือเสียใจ และอะไร ที่จะสร้างกาลังใจไปสู่ความสาเร็จ เขาจะเป็นผู้ “เลือกตอบสนองต่อ สถานการณ์” ไม่ใช่ “เป็นเหยื่อของสถานการณ์” ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ว่าโกรธไม่เป็น แต่ด้วยความที่เขารู้จักตัวเองดี จึงมีความมั่นใจ ในและเคารพในตัวเอง ดังนั้นแม้ว่าจะมีใครมาแหย่ให้โกรธ พูดจาดูถูก หรือ ล้อเลียน เขาจะไม่ถือเป็นอารมณ์ เพราะลึก ๆ แล้วเขารู้ว่า นั่นเป็นเพราะอีก ฝา่ ยอิจฉา และรู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพอต่างหาก 5. รู้ว่าเมื่อไหร่ควรปฏิเสธ คนมี EQ สูง รู้ความต้องการของตัวเอง และควบคุมตัวเองได้ เขารู้ว่ายิ่ง อดทนมากไป ยิ่งจะสร้างความเครียด ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะพูดว่า “ไม่” อย่าง สุภาพ โดยที่ไม่รู้สึกแย่หรือกังวลภายหลัง เขารู้ว่าการใช้คาว่า “บางที ไม่แน่ใจ อาจจะ ดูอีกทีนะ” ยิ่งจะทาให้เกิดความคาดหวัง และอึดอัดทั้ง 2 ฝ่าย ดังนั้นเค้าจะให้คาสัญญาหรือตอบรับ ก็ต่อเมื่อเค้าหมายความถึงสิ่งที่ พูดจริง ๆ 6. ยอมให้ตัวเองผิดพลาดได้ คนมี EQ สูง ตระหนักดีว่า “ความผิดกับตัวเขา” ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน ดังนั้นเขาจะให้อภัยตัวเองได้เร็ว เมื่อเกิดความผิดพลาด เขาจะมองหา บทเรียนที่ได้รับ และนาไปปรับปรุงสาหรับครั้งต่อไป เขาไม่ลืมความผิดนั้น แล้วก็ไม่ “จมอยู่กับความผิด” มันจะเป็นเพียงความทรงจาที่เตือนใจไม่ให้ทา ผิดซ้า และความผิดที่ดูลาบากหนักหนาในครั้งนี้ เป็นสิ่งที่จะทาให้เค้าลุกขึ้น ได้ง่ายและเร็วขึ้นในครั้งต่อไป 12 | ห น้ า

KM : เรื่อง การพัฒนา EQ ระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน 7. รู้ว่าเมื่อไรควรหยุด คนมี EQ สูงนั้นมักจัดสรรเวลา “หยุดพัก” ให้กับตัวเองอย่างสม่าเสมอ แม้เขาจะทางานหนัก และมีเรื่องต้องทามากมาย แต่เค้าก็หาเวลา “ออฟไลน์” ให้กับตัวเองได้ การปิดเครื่องมือสื่อสารทุกชนิด ออกจากเครื่องคอมพิวเตอร์ และงาน ไม่ต้องติดต่อหรือพูดคุยกับใคร คือการมอบ “ช่วงเวลาเงียบ” ให้กาย และใจได้หยุดพักอย่างแท้จริง การที่ได้มีเวลาทบทวน ใคร่ครวญกับตัวเอง ทาให้เขากลับมาทางานได้อย่างสดชื่น มีชีวิตชีวา และเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง “7 อุปนิสัยของผู้มี EQ สูง ทาให้เราสามารถประเมินตัวเองคร่าว ๆ ได้ว่า ยังขาดตกบกพร่องในข้อใด เพราะระดับ EQ ของเรานั้น แปรผันโดยตรงกับ ความสุขในชีวิต” 13 | ห น้ า

KM : เรื่อง การพัฒนา EQ ระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน 12 วิธีในการพัฒนา EQ ให้สูงขึ้น จากบทความ 12 Ways to Improve Your Emotional Intelligence โดย Sarah Landrum 1. ฝึกรับรู้ความรู้สึกของผู้อื่น การรับรู้ความรู้สึกของผู้อื่น หมายถึง การที่เรารู้ว่า ถ้าเราลองไปเปน็ เขา บ้างแล้วเราจะรู้สึกอย่างไร ดังนั้นเราจึงต้องฝึกที่จะสนใจคนที่อยู่รอบ ๆ ตัวเรา หัดสังเกตว่าเขารู้สึกอย่างไร เพื่อให้เราเข้าใจและตอบสนองความรู้สึกนั้นได้ อย่างสอดคล้อง 2. เรียนรู้ที่จะปฏิเสธ การปฏิเสธ ต้องฝึก 2 ระดับ คือ 1. หัดปฏิเสธกับตัวเองก่อน โดยควบคุม แรงกระตุ้นต่าง ๆ อย่าตามใจตัวเองไปหมดทุกอย่าง และ 2. หัดปฏิเสธกับคน อื่น เมื่อเขาขอให้ทาในสิ่งที่เราทาไม่ได้ หรือไม่อยากทา การปฏิเสธ ไม่ได้หมายถึงการที่ทาให้เขารู้สึกแย่ มันคือการที่เรา เคารพตัวเราเอง เคารพในกฎกติกาที่เราตั้งไว้ ถ้าเราทาได้ จะช่วยลด ความเครียดไปได้มากและช่วยให้เราควบคุมอารมณ์ตนเองได้มากขึ้น 14 | ห น้ า

KM : เรื่อง การพัฒนา EQ ระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน 3. ฝึกการบ่งบอกสภาวะของอารมณ์ การที่เราบ่งบอกสภาวะอารมณ์ของเราได้ จะทาให้เราเข้าใจว่ามัน เกิดขึ้นได้อย่างไร และทาไม เช่น แทนที่จะพูดคาว่าเสียใจ ลองบอกให้ชัดขึ้น ไปอีก เช่น มันเป็นความเจ็บปวด ผิดหวัง พ่ายแพ้ อ่อนแอ หรือ ความ เศร้าโศก เมื่อเราเข้าใจถึงความรู้สึกที่ แท้จริงของเราแล้ว เราจะสามารถตัดสินใจ ได้ถูกต้องว่าจะตอบสนองกับอารมณ์ เหล่านั้นอย่างไร 4. ประเมินความสามารถของเราอย่างจริงใจ ลองประเมินจุดแข็ง จุดอ่อนของเรา การที่เรารู้ว่าอะไรเป็นตัวกระตุ้นให้ เกิดความเครียดและสภาพแวดล้อมแบบใดที่ช่วยให้เราดีขึ้นได้ จะเป็นสิ่ง ช่วยเพิ่ม EQ เราจะสามารถดึงจุดแข็งของเรามาใช้ได้เต็มที่ และหลีกเลี่ยง สภาวะที่ดึงเข้าไปสู่จุดอ่อนของเรา เช่น ถ้าเรารู้ตัวว่า กลับถึงบ้านแล้วจะไม่ อยากออกมาอีกก็ให้แวะทาธุระให้เรียบร้อยก่อนกลับบ้านแทน 5. เปิดโอกาสต่อสิ่งใหม่ ๆ การกลัวความเปลี่ยนแปลงเป็นตัวยับยั้งการสร้าง EQ เราต้อง เพิ่ม EQ ของเราโดยการฝึกปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ และเปิด โอกาสต่อสิ่งใหม่ ๆ เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในชีวิต จงอย่าวิ่งหนีหรือ ต่อต้านมัน จงยอมรับและเตรียมรับมือกับมันล่วงหน้าเท่าที่เราจะสามารถทา ได้ เพื่อให้เราปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงนั้นได้ 15 | ห น้ า

KM : เรื่อง การพัฒนา EQ ระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน 6. รู้จักตัวเองและรักในสิ่งที่เราเป็น ค้นพบตัวตนให้เจอว่าเราเป็นคนอย่างไร และรักในสิ่งที่เราเป็น คนที่ มี EQ สูงเป็นคนที่มั่นใจในตนเอง และไม่ยอมให้ความกดดันจากคนอื่นมาลด คุณค่าในตัวเราเอง เราจะต้องสร้างความมั่นใจให้เราเอง เมื่อเรารักในสิ่งที่เรา เปน็ EQ ของเราก็จะเข้มแข็งและมั่นคงมากขึ้นเช่นกัน 7. เรียนรู้จากความผิดพลาด สิ่งที่จะช่วยเพิ่มพูน EQ ของเราคือ การที่เรารู้ว่าจะตอบสนองต่อความ ผิดพลาดได้อย่างไร ทุกคนล้วนทาสิ่งที่ผิดพลาดทั้งนั้น จงอย่าให้มันมา ครอบงา จนทาให้เราก้าวเดินต่อไปไม่ไหว แต่จงเรียนรู้จากความผิดพลาด เก็บมันไว้เปน็ บทเรียนในก้าวต่อ ๆ ไปของเรา 8. การให้อภัย ฝึกให้อภัยบ่อย ๆ จะช่วยเพิ่ม EQ ของเราได้ หลาย ๆ คนไม่ยอมให้ อภัย เพราะมองว่าเป็นการยอมให้อีกฝ่ายกลับเข้ามาในชีวิตเขาอีก แต่ความ จริงแล้วการให้อภัยถือเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการเข้าใจความรู้สึกผู้อื่น และ เป็นการช่วยปลดปล่อยความรู้สึกด้านลบที่เราแบกเอาไว้ออกไปด้วย การให้อภัยคือ การเข้าใจถึงความเจ็บปวดของอีกฝ่ายหลังจากที่เขาทา ไม่ดีกับเราไว้ มันจะช่วยปลดปล่อยความรู้สึกแย่ ๆ และความเครียดของเรา เอง ทาให้เราสามารถก้าวเดินต่อไปได้ จงมองว่า การให้อภัยก็เหมือนการให้ ของขวัญกับตัวเองและผู้อื่น 16 | ห น้ า

KM : เรื่อง การพัฒนา EQ ระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน 9. หยุดพักจากเทคโนโลยีบ้าง ไม่ว่าจะเป็น email หรือเหล่า social Media ต่าง ๆ ทั้ง Facebook twitter ข้อความต่าง ๆ ที่ไม่ดี ที่เข้ามา สามารถเปลี่ยนอารมณ์ของเราให้แย่ ลงได้ เราสามารถเพิ่ม EQ ได้โดยการแยกแยะชีวิตงานกับชีวิตส่วนตัวให้ ชัดเจน ลองปิดมือถือแล้วออกไปเดินชมสวนหรือกินข้าวกับครอบครัวบ้าง เป็นการเปิดโอกาสให้กายและใจของตัวเองได้เชื่อมต่อกับคนอื่นและช่วย ปรับปรุงอารมณ์ของเราเอง 10. เลิกที่จะเปน็ คนที่สมบูรณ์แบบ ไม่มีใครสมบูรณ์แบบบนโลกใบนี้ การไล่ล่าหาความสมบูรณ์แบบ ยิ่งจะทาให้เรารู้สึกสิ้นหวัง การเพิ่ม EQ คือ การไม่ไปยึดติดกับสิ่งที่เราทา ไม่ได้ แต่ให้สนใจในการพัฒนาและปรับปรุงตนเองในโอกาสหน้าดีกว่า 11. ขอบคณุ ขอบคณุ ขอบคุณ งานวิจัยทั้งหลายพบว่า การหัดขอบคุณต่อสิ่งต่าง ๆ ที่เรามีในทุกวัน เป็นประโยชน์ในการดาเนินชีวิตของเรา นอกจากจะช่วยให้เกิดความรู้สึกดี ๆ แล้ว ยังช่วยเสริมสร้างสุขภาพอีกด้วย ทั้งเรื่องการบรรเทาอาการนอนไม่หลับ ลดความเครียด 12. นอนให้เพียงพอ การอดนอนเป็นการลดความสามารถในการควบคุมอารมณ์ สมองของ เราก็เหมือนแบตเตอรี่คอมพิวเตอร์ มันต้องการชาร์ตไฟ ดังนั้น ควรนอนหลับ ให้เพียงพอเพื่อที่จะช่วยชาร์ตสมอง เพิ่ม EQ 17 | ห น้ า

KM : เรื่อง การพัฒนา EQ ระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ความสาคัญของ EQ กับการทางาน ในการทางาน เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเจอกับความเครียดและความ กดดันจากสิ่งต่าง ๆ รอบตัว ดังนั้น เราก็ควรมีทักษะในการจัดการกับอารมณ์ หรือที่เรียกว่า EQ (Emotional Quotient) ซึ่งกลายเป็นคุณสมบัติสาคัญใน การทางานในยุคปัจจุบันไปแล้ว เพราะจะช่วยให้เราทางานได้อย่างมืออาชีพ และมั่นคงในการทางาน EQ หรือ ความฉลาดทางอารมณ์ เป็นความสามารถในการจัดการ อารมณ์ของตนเอง และยังรับรู้อารมณ์ความรู้สึกของผู้อื่นอีกด้วย เพราะการ แสดงออกทางอารมณ์นั้นมีผลต่อผู้อื่นที่ต้องทางานร่วมกัน ซึ่งจะให้เรา สามารถทางานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข หรือจะเรียกอีกอย่างว่าเป็น ความฉลาดทางสังคมในการเข้าหาผู้อื่นก็ได้ จึงจาเป็นต้องมีความสามารถใน การแยกแยะความแตกต่างทางอารมณ์ เพื่อจะบริหารจัดการความคิดและการ กระทาต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม 18 | ห น้ า

KM : เรื่อง การพัฒนา EQ ระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ดังนั้น EQ จึงมีความสาคัญกับการทางาน เพราะเป็นตัวช่วยที่จะทาให้ เรารับมือและเผชิญหน้ากับปัญหาได้ดียิ่งขึ้น แม้ว่าจะไม่สามารถควบคุม สถานการณ์ภายนอกได้ แต่เราควบคุมตนเองได้ นอกจากนี้ยังช่วยสร้าง ภาพลักษณ์ที่ดีในการเป็นผู้นาหรือพนักงาน พร้อมที่จะเติบโตในหน้าที่การ งาน โดย EQ ที่จาเป็นต้องมีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทางานมีทั้งหมด 5 ด้าน ดังนี้ 1. การตระหนักรู้ในตัวเอง (Self-Awareness) เป็นความสามารถในการ เข้าใจและรับรู้อารมณ์ของตนเอง ว่าแท้จริงแล้วเราเป็นคนแบบไหน อะไรคือ ข้อดีของเรา และอะไรเป็นข้อด้อยที่ควรปรับปรุงแก้ไข ต้องรู้ตัวเองว่าหากมี อารมณ์เปลี่ยนแปลงจะมีการแสดงออกอย่างไร เพราะอารมณ์มีผลต่อ พฤติกรรมที่เราจะปฏิบัติต่อผู้อื่น ดังนั้น เราควรฝึกฝนให้ตนเองมีสติรู้เท่าทัน ตัวเองอยู่ตลอดเวลา เพื่อหาทางจัดการกับตัวเองให้ได้ 2. การควบคุมตนเอง (Self-Regulation) สืบเนื่องมาจากการตระหนักรู้ตัวเอง ในเมื่อ การแสดงออกของเราจะมีผลกระทบต่อผู้อื่น เราจึงต้องควบคุมตนเองให้ได้ เพื่อที่จะไม่ แสดงอาการในทางลบต่อหน้าผู้อื่น ซึ่งคน ที่สามารถควบคุมตนเองได้ถือว่าเป็นคน ที่ทางานอย่างมืออาชีพ และสร้างความ น่าเชื่อถือได้ ทาให้เรามีความยืดหยุ่น ปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ได้ดี และพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงเสมอ การฝึกการควบคุมอารมณ์ตนเองนี้จะต้อง พยายามใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ 19 | ห น้ า

KM : เรื่อง การพัฒนา EQ ระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน 3. การเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ( Empathy) “เอาใจเขามาใส่ใจเรา” คือ ความสามารถในการรับรู้อารมณ์ความรู้สึกของผู้อื่น หากคนที่เราร่วมงานด้วย อยู่ในอารมณ์ที่ไม่ดี สังเกตจากภาษากาย น้าเสียง แววตา เมื่อเห็นดังนั้นก็ ควรใส่ใจเป็นพิเศษ เพื่อช่วยแบ่งเบาหรือแสดงความเห็นอกเห็นใจ พร้อมเปิด ใจรับฟังความคิดเห็นเมื่อเกิดปัญหา และเพื่อที่จะได้ปฏิบัติตัวได้อย่าง เหมาะสมในสถานการณ์นั้น ๆ การเห็นอกเห็นใจผู้อื่นจะทาให้เราเป็นเพื่อน ร่วมงานที่ดีให้กับคนอื่น ๆ 4. การอยู่ร่วมกับผู้อื่น (Social Skills) เมื่อเราสามารถเข้าใจอารมณ์ของ ผู้อื่นได้ ปฏิบัติต่อผู้อื่นได้อย่างเหมาะสม จะช่วยให้ความสัมพันธ์ระหว่างเรา และเพื่อนร่วมงานเป็นไปได้ด้วยดี ทาให้สภาพแวดล้อมในการทางานดี ลด บรรยากาศกระอักกระอ่วน และยังทาให้ใคร ๆ ก็อยากที่จะร่วมงานด้วย ทักษะ ในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นเริ่มต้นได้จากการเปน็ ผู้ฟังที่ดี ให้เกียรติผู้อื่น รู้จักความ เกรงใจ รวมถึงกล่าวชื่นชมและให้กาลังใจผู้อื่นบ้างตามโอกาส 5. การมีแรงจูงใจ (Motivation) การเป็นคนที่มีแรงจูงใจ มีเป้าหมาย มีพลังมุ่งมั่นที่จะทาสิ่งต่าง ๆ ให้สาเร็จ และพร้อมที่จะพัฒนาตัวเองอยู่ ตลอดเวลา จะแสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการทางาน ทางานได้อย่าง กระตือรือร้น และยังส่งต่อพลังบวกนี้ไปถึงเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ ได้ด้วย การสร้างแรงจูงใจในตัวเอง เราต้องหมั่นสร้างกาลังใจและให้กาลังใจตัวเอง อยู่เสมอ ไม่บั่นทอนตัวเองด้วยความคิดในแง่ลบ แต่ให้คิดบวกอยู่เสมอว่า “ฉันทาได้” 20 | ห น้ า

KM : เรื่อง การพัฒนา EQ ระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน IQ และ EQ กุญแจสู่ความสาเร็จในการทางาน สังคมในปัจจุบันนี้เต็มไปด้วยการแข่งขัน ไม่ว่าจะเพื่อความอยู่รอด เพื่อตาแหน่งงาน หรือเพื่อการยอมรับ ซึ่งจาเปน็ ต้องใช้ทักษะส่วนตัวและไหว พริบในการทางานของแต่ละคน กุญแจสู่ความสาเร็จคืออะไร การมี IQ และ EQ สูงคือปัจจัยสาคัญที่ช่วยให้ประสบความสาเร็จได้หรือไม่ และสองสิ่งนี้ คืออะไร? หาคาตอบไปด้วยกัน การเพิ่มประสิทธิภาพในการทางาน ทาได้โดยการเพิ่มทักษะในหลาย ๆ ด้าน เช่น ด้าน IQ และ EQ ซึ่ง Q หรือ Quotient คือ ค่า หรือระดับของ ศักยภาพความรู้ความสามารถ หรือคุณลักษณะที่มีอยู่ในตัวของเรา ทาให้ บุคคลนั้นเป็นคนที่ฉลาด รู้ทันต่อสถานการณ์ และสามารถพัฒนาความรู้ ความสามารถให้เพิ่มขึ้นไปอีกได้ 21 | ห น้ า

KM : เรื่อง การพัฒนา EQ ระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน IQ หรือ Intelligence Quotient เชื่อว่าหลายคนคงทราบอยู่แล้ว IQ คืออะไร ซึ่งความหมายที่แท้จริง ของ IQ นั้นคือเรื่องของความฉลาดทางด้านสติปัญญา วัดจากอายุสมองเทียบ กับอายุจริง ซึ่งคนปกติจะอยู่ที่ 90-110 โดยเป็นการวัดความสามารถทางการ คิดวิเคราะห์ ความสามารถทางวิชาการ ความจา การอ่านเขียน ซึ่งการพัฒนา IQ นั้น • 50% เกิดจากกรรมพันธุ์ • อีก 50% เกิดจากสิ่งแวดล้อมโดยรอบ สิ่งแวดล้อมโดยรอบนั้น สามารถพัฒนาให้เกิดการเรียนรู้เพื่อเพิ่ม ทักษะ IQ ให้สูงขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกินโดยเลือกรับประทานอาหาร ให้ครบห้าหมู่ และเลือกอาหารที่ส่งเสริมต่อการพัฒนาทักษะ เช่น ปลา ถั่วเหลือง อาหารที่มีธาตุเหล็ก วิตามินต่าง ๆ ไอโอดีน โปรตีน และการออก กาลังกาย ก็เป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนา IQ ได้ เพราะจะทา ให้มีสมาธิ สมองปลอดโปร่งสดชื่น กระฉับกระเฉง คิดอะไรได้เร็ว มีความ อดทน หรือแม้กระทั่งประสบการณ์จากการทางานก็ช่วยเพิ่มการพัฒนา IQ ได้ เช่นกัน เพราะการทางานเหมือนได้ใช้สมองในการคิด วิเคราะห์ แยกแยะ ทา ให้เราได้ฝึกกระบวนการคิด ทาให้สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ดี รวมทั้ง การคิดในแง่ดี การคิดเชิงสร้างสรรค์ หรือการได้รับการยอมรับนับถือใน ผลงาน ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทางานให้ดีเยี่ยมได้เช่นกัน 22 | ห น้ า

KM : เรื่อง การพัฒนา EQ ระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน EQ หรือ Emotional Quotient EQ เป็นการรู้อารมณ์ของตนเอง สามารถควบคุมหรือระงับอารมณ์ของ ตนเองได้เมื่อเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ การพัฒนาทักษะด้าน EQ จะช่วยลด อารมณ์ฉุนเฉียว ช่วยให้เราเก็บอารมณ์ได้ดี เข้าใจอารมณ์ของผู้อื่น มีความเห็นอกเห็นใจ ช่วยเหลือ ให้กาลังใจหรือปลอบประโลมผู้อื่นเป็น รู้จัก เอาใจเขามาใส่ใจเรา มีความรับผิดชอบต่อส่วนรวม สามารถช่วยเหลือหรือ ร่วมมือกันเป็นกลุ่มได้ เข้ากับสังคมได้ดี มีไหวพริบในการแก้ไขปัญหาที่ เกิดขึ้นได้ มีความกระตือรือร้นพร้อมที่จะเรียนรู้อยู่เสมอ คล่องแคล่ว ว่องไว ไม่เฉื่อยชา เมื่อมีโปรเจคหรือได้รับมอบหมายงานมาก็มุ่งมั่น ตั้งใจทา ไม่ย่อท้อหรือลดละความพยายามเมื่อมีอุปสรรคเกิดขึ้นระหว่างงานที่ทา สามารถรับแรงกดดันต่าง ๆ คิดในแง่ดี จิตใจเบิกบาน ไม่หมกมุ่นกับสิ่งที่บั่น ทอนจิตใจ เห็นไหมว่า การเพิ่ม EQ ให้กับตนเอง คือกุญแจสาคัญที่สามารถ ช่วยเสริมให้เราทางานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 23 | ห น้ า

KM : เรื่อง การพัฒนา EQ ระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน เรียนรู้เรื่อง EQ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทางาน ทักษะในการบริหารอารมณ์ ห ร ื อ Emotional Quotient (EQ) คุณสมบัติที่คนทางาน ขาดไม่ได้ ตัวช่วยที่จะทาให้ คุณรับมือกับปัญหาพร้อม เผชิญหน้ากับการทางานได้ ดีขึ้น การบริหารจัดการอารมณ์ของตัวเองอย่างฉลาด มีสติ และรู้เท่าทัน ถือเปน็ อีกหนึ่งคุณสมบัติที่จะช่วยให้คุณรับมือกับการทางานได้ดีขึ้น รวมทั้ง เป็นปัจจัยพื้นฐานของความสุขและความสาเร็จในชีวิต แม้เราจะไม่สามารถ ควบคุมปัจจัยภายนอกได้ แต่สิ่งที่เราสามารถควบคุมได้แน่ก็คือจิตใจของตัว เราเอง ทักษะในการบริหารอารมณ์หรือ EQ นี้ ถือได้ว่าเป็นคุณสมบัติที่ คนทางานทุกคนต้องมี 24 | ห น้ า

KM : เรื่อง การพัฒนา EQ ระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน เรียนรู้เรื่อง EQ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทางาน ดังนี้ 1. เปิดใจให้กว้างมากขึ้น เพื่อจะได้มีทางเลือกใหม่ๆ เพิ่มขึ้นในการใช้แก้ปญั หาต่าง ๆ บอกตัวเอง ว่าทางเลือกมีมากกว่าหนึ่ง ทางออกมีมากมาย เผื่อใจไว้ด้วยการเปิดรับข้อมูล ความรู้จากแหล่งต่าง ๆ เสมอ นอกจากนี้ก็ต้อง “รู้” ปัญหา หมายถึงรู้ว่าอะไร คือปัญหาระบุให้ชัดเจนว่าปัญหาของคุณคืออะไรกันแน่ ปัญหาที่ต้องได้รับ การแก้ไขในเวลานั้นคืออะไร 2. มีความยืดหยุ่น ฝึกตัวเองให้เป็นคนยืดหยุ่น ผ่อนปรนหรือปรับเปลี่ยนสิ่งต่าง ๆ ด้วย แนวทางใหม่ๆ เครื่องมือใหม่ๆ ที่ไม่เคยใช้มาก่อน ถามตัวเองว่า คุณมี ความสามารถในการแก้ปัญหาตรงหน้าได้กี่วิธี หรือจะทาอย่างไรถ้าหาก สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป 3. มองโลกแง่ดี ให้คิดเสมอว่าปัญหาคือความท้าทาย ความเปลี่ยนแปลงทั้งหลายที่ เกิดขึ้น อาจนามาซึ่งปญั หาที่ท้าทายความสามารถของเราอีกขั้น นี่คือเรื่องดี ไม่ใช่เรื่องแย่ 4. หมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลง เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือกับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ตลอดเวลา หรือหากมีปัญหาเกิดขึ้นแล้วก็จะได้เห็นช่องทางในการแก้ปัญหา ได้ง่ายขึ้น 25 | ห น้ า

KM : เรื่อง การพัฒนา EQ ระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน 5. ความหาสาเหตุและเรียนรู้ ศึกษาว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทาให้เกิดปัญหาขึ้น โดยให้พิจารณาทั้งใน ส่วนของความรู้สึกและข้อมูลข้อเท็จจริงทั้งหมดประกอบกัน วิธีนี้ดีกว่าที่จะ มุ่งไปเฉพาะด้านใดด้านหนึ่ง รวมทั้งไม่หยุดศึกษาหาความรู้ คนทางานต้อง เรียนรู้ตลอดเวลา โดยเฉพาะแนวทางการแก้ปญั หา คนที่คุณเรียนรู้จากเขานั้น คนๆ นั้นอาจเป็นหัวหน้าของคุณ เพื่อนร่วมงานของคุณหรือเป็นเพียงลูกน้อง ตัวเล็ก ๆ แต่มีความสามารถในการแก้ปัญหาได้ดีภายใต้สถานการณ์หรือ เงื่อนไขบางอย่าง คาแนะนาก็คือคุณเรียนรู้ได้จากทุกคน ดังนั้น เราควรพัฒนาทักษะทางด้าน IQ และ EQ ควบคู่กันไป เพราะ นอกจากจะต้องใช้ไหวพริบให้ดีเยี่ยมในการทางานแล้ว การรู้จักควบคุมอารมณ์ หรือทักษะการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน ก็มีส่วนสาคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพใน การทางานให้ยอดเยี่ยมด้วยเช่นกัน ทาให้คุณเป็นคนฉลาดคิด ฉลาดควบคุม อารมณ์ได้พัฒนาตัวเองไปอีกขั้น จึงสามารถกล่าวได้ว่า IQ และ EQ คือ กุญแจสาคัญที่ทาให้ประสบความสาเร็จในการทางานนั่นเอง 26 | ห น้ า

KM : เรื่อง การพัฒนา EQ ระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน การพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ (E.Q) ปัจจุบันเปน็ ที่ยอมรับกันแล้วว่า ผู้ที่จะประสบความสาเร็จในชีวิตได้นั้น ไม่ใช่อาศัยเพียงความฉลาดทางวิชาการเท่านั้น เพราะ I.Q มีส่วนแค่ 20% เท่านั้น ที่เหลืออีก 80% มาจากปัจจัยอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความฉลาด ทาง อารมณ์ (E.Q) หรือการมีวุฒิภาวะทางอารมณ์ ซึ่งมีส่วนสาคัญอย่างยิ่ง ต่อการใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ผู้ที่รู้จักอารมณ์ของตนเอง อย่างแท้จริง รู้จักใช้อารมณ์ให้เกิดประโยชน์ เป็นไปในทางสร้างสรรค์จะช่วย คุณสามารถอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นได้ดีขึ้น สามารถแก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้า ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ชีวิตของคุณจะมีความสุขมากขึ้นด้วย และที่ สาคัญคุณจะเป็นที่รักของคนทั่วไป ซึ่งคงจะเปน็ สิ่งที่ทุกคนปรารถนามากกว่า การเรียนเก่งมีสติปญั ญาล้าเลิศ แต่เข้ากับใครไม่ได้เลย หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ ลองนา ขั้นตอนต่อไปนี้ ไปฝึกปฏิบัติ 1. สารวจตนเอง การสารวจตนเองจะช่วยให้คุณรู้เท่าทัน ความรู้สึกของตนเองว่าขณะนั้นคุณมีความ รู้สึกอย่างไร มีอารมณ์โกรธ ดีใจ เสียใจ หรือ อิจฉาริษยา ซึ่งเป็นการแสดงถึงการเข้าใจ ความรู้สึกลึกๆ ที่อยู่ภายในตัวคุณ เช่น เวลาที่ 27 | ห น้ า

KM : เรื่อง การพัฒนา EQ ระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน คุณมีอารมณ์โกรธ คุณรับรู้ถึงการสูบฉีดของเลือด หัวใจของคุณจะเต้น เร็ว กว่าปกติ ม่านตาขยายออก หน้าตาบึ้งตึง และคุณจะใช้วาจาตอบโต้คู่สนทนา อย่างก้าวร้าว หากคุณลองสังเกตดูอารมณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้งได้มาก เท่าไหร่ คุณก็จะสามารถแก้ไขความรู้สึก หรือรู้จักเก็บอารมณ์ได้มากเท่านั้น ซึ่งการหมั่นสารวจตนเองนั้นไม่ว่าอารมณ์ทางบวก หรือทางลบ จะช่วยให้คุณ จัดการกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้นได้ดีขึ้น 2. หาวิธีจัดการกับอารมณ์ เมื่อคุณรู้สึกโกรธใครสักคน คุณลองกาหนดความคิดเสียใหม่ แล้ว เปลี่ยนจากพฤติกรรมที่ก้าวร้าว (ตามปรกติของคุณ) เปน็ การมองสถานการณ์ ที่เกิดขึ้นในขณะนั้นได้อย่างมีสติ โดยการสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วค่อย โต้ตอบ หรือหากคุณอยากหลีกเลี่ยงสถานการณ์นั้นก็เดินออกไปก่อน (ที่จะมี เรื่อง) หรืออาจจะเลือกการออกกาลังกายก็จะช่วยลดความตึงเครียดได้ และ การนั่งสมาธิ ซึ่งสามารถใช้ได้ผลกับอารมณ์เสียทุกประเภท ไม่ว่าคุณใช้วิธี ไหนก็ดีทั้งนั้นจาไว้ว่าเสียเวลากับอารมณ์ลบใด ๆ แต่ให้พยายามดึงตัวเอง ให้พ้นจากอารมณ์ไม่พึงประสงค์ 3. รับรู้อารมณ์ของผู้อื่นอย่างถูกต้อง บางครั้งในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น ไม่ว่าจะ เป็นครอบครัว คนรัก เพื่อน หรือใครก็ตาม อารมณ์ที่คุณรับรู้นั้น อาจมีลักษณะบิดเบือน หรือซ่อนเร้นจนคุณแทบจะสังเกตไม่เห็น เช่น การกล่าวขอบคุณ อาจเป็นได้ทั้งความรู้สึก ประชดประชัน หรือเป็นบุญคุณ หรือชื่นชมคุณอย่างแท้จริงก็ได้ การหยั่งรู้ถึง ความรู้สึกของผู้อื่นได้อย่างถูกต้อง จะช่วยให้คุณโต้ตอบได้อย่างมี 28 | ห น้ า

KM : เรื่อง การพัฒนา EQ ระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ประสิทธิภาพ แสดงถึงความเข้าใจผู้อื่นอย่างแท้จริง และสามารถควบคุมการ แสดงออกของตัวเองได้มากขึ้น 4. สร้างสัมพันธภาพที่ดีกับคนทั่วไป อยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมนั้น โดย คุณจะต้องตระหนักถึงความแตกต่าง ระหว่างบุคคลให้ได้ก่อน คุณควรยอมรับ ธรรมชาติของมนุษย์ว่าแต่ละคนมาจาก ครอบครัวที่แตกต่างกัน สภาพแวดล้อมต่างกัน ความสามารถไม่เหมือนกัน ลักษณะการแสดงออกทางอารมณ์ก็ไม่เหมือนกัน แต่ในความแตกต่างนั้น ทุกคนล้วนมีข้อดีที่คุณสามารถมองเห็นได้เหมือนกัน ควรนาข้อดีต่าง ๆ ของ บุคคลเหล่านั้นมาใช้ให้ เกิดประโยชน์ต่ออารมณ์ของคุณ ทาให้อารมณ์ของ คุณแจ่มใสด้วยการมองคนในแง่ดีแล้วชีวิตคุณจะมีสุขได้ไม่ยาก 5. เอาชนะภาวะทางอารมณ์ให้ได้ ข้อสุดท้ายที่คุณพึงปฏิบัติอย่างสม่าเสมอ ก็คือการเหนี่ยวรั้งอารมณ์ ของคุณไม่ให้ทาอะไรตามอาเภอใจโดยเฉพาะการควบคุมอารมณ์ชั่ววูบต่าง ๆ ซึ่งคุณจะต้องฝึกฝน และพยายามพัฒนาจนเป็นนิสัย เช่น ถ้าคุณต้องการ แก้ไขอารมณ์โกรธของคุณก็ควรมีความตั้งใจที่จะแก้ไขอย่างจริงจัง หากคุณ ฝึกที่จะรับมือกับอารมณ์ต่าง ๆ ได้มากเท่าไหร่ คุณก็จะพัฒนาไปสู่การมีวุฒิ ภาวะทางอารมณ์ได้มากขึ้นเท่านั้น และนั่นคืออีกก้าวหนึ่งของการที่คุณ สามารถพัฒนาตนเองไปสู่ความ เจริญงอกงามในชีวิต 29 | ห น้ า

KM : เรื่อง การพัฒนา EQ ระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน คุณมี EQ มากน้อยแค่ไหน… 30 | ห น้ า

KM : เรื่อง การพัฒนา EQ ระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน บรรณานุกรม ธัญญรัตน์ เกิดสุวรรณ. สานักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ. ความฉลาดทาง อารมณ์ (ออนไลน์). แหล่งที่: https://www.hiso.or.th/hiso/tonkit/tonkits_ 55.php. 13 ก.ค. 2564. แนวทางในการพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ของตนเอง (ออนไลน์). แหล่งที่มา : https://secretaryscience.mju.ac.th/goverment/25570522101243_scie nce_ secretary/Doc_25600531165433_469495.pdf . 14 ก.ค. 2564. โพสต์ทูเดย์. 2562. รู้หรือไม่! EQ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทางานได้ไม่แพ้กับ IQ ( อ อ น ไ ล น ์ ) . แ ห ล ่ ง ท ี ่ ม า : https://www.posttoday.com/life/work-life- balance/591761. 13 ก.ค. 2564. รัศมี มณีนิล . 2560. ความฉลาดทางอารมณ์ (ออนไลน์). แหล่งที่มา:http://www.dmh. go.th/download/ebooks/EQ11.pdf. 8 ก.ค. 2564. สานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ. 2562. สิ่งที่ต้องมีเพื่อ EQ ที่ดี (ออนไลน์). แหล่งที่มา : https://www.thaihealth.or.th/ . 16 ก.ค. 2564. สานักแนะแนวและทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา มหาวิทยาลัยสยาม. มาพัฒนาความฉลาดทาง อารมณ์ (E.Q) กันเถอะ (ออนไลน์). แหล่งที่มา : https://www.col.siam.edu/ index.php/2-uncategorised/70-eq. 16 ก.ค. 2564. Krungsri Academy. IQ และ EQ กุญแจสู่ความส าเร็จในการท างาน (ออนไลน์). แ ห ล ่ ง ท ี ่ ม า : https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/increasing- your-iq-eq-can-efficiency-in-work. 7 ก.ค. 2564. Natui Website. 2 5 5 8 . 7 อ ุ ป น ิ ส ั ยของ ผู ้ มี EQ ส ู ง ( อ อ น ไ ล น ์ ) . แ ห ล ่ ง ท ี ่ ม า : http://www.natui.com.au/articles/item/view/5991. 16 ก.ค. 2564. Sanook. 2563. ค วามส าคัญของ EQ ก ับการท างาน (ออน ไ ลน ์ ) . แ หล่ง ที่มา : https://www.sanook.com/campus/1401339/. 6 ก.ค. 2564. Sirintip. 2560. ความฉลาดทางอารมณ์ หรือ EQ (ออนไลน์). แหล่งที่มา : http://www. thaihealth.or.th. 9 ก.ค. 2564. True ปลูกปัญญา. 2564. 12 วิธีในการพัฒนา EQ ให้สูงขึ้น (ออนไลน์). แหล่งที่มา : https://www.trueplookpanya.com/trueplookpanyablog/2 2 3 8 0 / 1 / 1 . 13 ก.ค. 2564. 31 | ห น้ า

KM : เรื่อง การพัฒนา EQ ระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน คณะผู้จัดทา ที่ปรึกษา นายพิสิฐ พูลพิพัฒน์ ผู้อานวยการสานักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 นางวรรทณา นวลย่อง หัวหน้ากลุ่มการวิจัยและการพัฒนาระบบเครือข่าย ผู้จัดทาเนื้อหา/ออกแบบรูปเล่ม นางสาวปทุมมา ไชยบุญ นักพัฒนาสังคม นางสาวสุวรรณา เสือจาศิล พนักงานบริการ จัดพิมพ์เผยแพร่ สานักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 32 | ห น้ า



สํานกั งานส่งเสรมิ และสนับสนนุ วิชาการ 1 สํานกั งานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมนั คงของมนุษย์ เลขที 1/2 หมู่ที 2 ตําบลรงั สิต อาํ เภอธัญบรุ ี จังหวดั ปทมุ ธานี 12110 โทร.0 2577 1857 http://tpso1.m-society.go.th