คำนำ ข้อเสนอเชิงนโยบายเป็นข้อเสนอที่ได้จากการสังเคราะห์ พัฒนาองค์ความรู้จากวิจัยหรือ งานวชิ าการที่เกย่ี วข้องในบริบทพ้นื ที่ สำหรบั ใชเ้ ปน็ ข้อมูลในเบ้อื งตน้ สำหรับผู้บริหารในการตัดสินใจดำเนินการ พัฒนาองค์กรและงานให้บรรลผุ ลสัมฤทธิ์ในพ้ืนที่ท้ังในระดับจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ระดบั พื้นท่ี หมายถึง พ้ืนที่ กลุ่มเป้าหมายในจังหวัดในเขตความรับผิดชอบของ สสว.1-11 ตามคำสั่งสำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนา สังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่ 346/2563 ลงวันที่ 10 มีนาคม 2563 เกณฑ์การประเมิน/ค่าเป้าหมาย : รอบ 6 เดือน (1 ตค. 63 – 31 มีนาคม 64 สำหรับใช้เป็นข้อมูลในเบื้องต้นสำหรับผู้บริหารในการตัดสินใจ ดำเนินการในการ พัฒนาองค์กร และงานให้บรรลุผลสัมฤทธิ์ เกิดมาตรการทางสังคม วิธีการที่ตั้งเป็นกฎ ข้อกำหนด ระเบียบ หรือกฎหมาย เป็นต้น หรือ วิธีการที่จะปรับเข้าไปสู่ผลสำเร็จ เช่น วางมาตรการในการ ดำเนนิ งาน (ความหมายตามพจนานกุ รมฉบับราชบัณฑิตยสถาน) กอ่ นการนำไปสูก่ ารปฏิบัติจริงการนำข้อเสนอ เชิงนโยบายที่ได้จากงานวิจัยหรืองานวิชาการไปใช้ประโยชน์ได้จริง โดยมีหลักฐานการนำไปใช้ประโยชน์เป็น รูปธรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง อาทิ 1) การอ้างอิงผลงานวิจัยที่มีการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ 2) การมีหลักฐาน การนำข้อมูลสู่การประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างการรับรู้แก่ผู้บริหารองค์การภาครัฐและเอกชน (กระทรวง,อปท., ภาคเี ครือขา่ ย) 3) หลักฐานการถา่ ยทอดองค์ความรู้ใหก้ ับชุมชน/องค์กร/หนว่ ยงาน สำนักส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1-11 ยังขาดต้นแบบและขาดงานวิชาการที่รวบรวม องค์ความรู้ในการดำเนินการพัฒนาเชิงพื้นที่ เห็นควรต้องมีการเตรียมความพร้อมทั้งในด้านขององค์ความรู้ และความรู้ ความเข้าใจของบุคลากรเพื่อรองรับทิศทางการพัฒนาดังกล่าว ให้มีองค์ความรู้และสมรรถนะ พรอ้ มสำหรับการปฏิบตั ิงานพัฒนาพลงั งานเชงิ พื้นท่ีอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ในปัจจบุ นั ยังขาดงานวิชาการและ ตัวอย่างการดำเนินการที่เป็นรูปธรรม เพื่อสนับสนุนให้เกิดจัดการองค์ความรู้เรื่องดังกล่าว สำนักงาน ปลัดกระทรวง จึงกำหนด ตัวชี้วัดและเป้าหมายตามแผนปฏิบัติราชการและภารกิจหลัก ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ของสำนักส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1-11 ระดับความสำเร็จในการจัดทำข้อเสนอแนะชิงนโยบาย ด้านสังคมในระดับพื้นที่เพื่อศึกษาการมีส่วนร่วมของประชาชน ประสิทธิภาพในการดำเนินงานตามหลัก ภารกิจพื้นฐานงานประจำ งานตามหน้าที่ปกติหรืองานตามหน้าที่ความรับผิดชอบหลัก งานตามกฎหมาย กฎ นโยบายของรัฐบาลหรือมติคณะรัฐมนตรี (Function Base) ดูความสำเร็จในการจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายใน การสร้างการมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาสังคมระดับพื้นที่ เพื่อสรุปบทเรียนแนวทางการสร้างการมีส่วนร่วม เพื่อ
พัฒนาสังคมระดับพื้นที่ และพัฒนาเป็นข้อเสนอเชิงนโยบายในการสร้างการมีส'วนร่วมเพื่อพัฒนาสังคมระดับ พื้นที่และแนวทางการขยายผล เสนอขอความเห็นชอบต่อปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของ มนุษยต์ ่อไป ซึ่งข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการสร้างการมีส'วนร่วมเพื่อพัฒนาสังคมระดับพืน้ ที่และแนว ทางการขยายผลท่จี ัดทำในครงั้ นี้ เปน็ การให้ขอ้ เสนอจากการถอดบทเรียนประสบการณ์ตรงจากการปฏิบัติการ ในพื้นที่ของสำนักสง่ เสริมและสนบั สนุนวิชาการ 1-11 การมีส่วนรว่ มของประชาชน มุ่งหวังให้เป็นงานวิชาการ ตั้งต้น เพื่อกระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนรู้ประสบการณ์ปฏิบัติงานของผู้สนใจในการพัฒนาสังคม เพื่อสร้าง คุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนไทย และมีข้อเสนอเชิงนโยบาย/มาตรการทางสังคมนำไปใช้ในการพัฒนาและ แก้ไขปัญหาสงั คมไดอ้ ย่างยั่งยืน ต่อไป สำนักงานส่งเสรมิ และสนับสนนุ วิชาการ 1 2564
บทสรุปผบู้ ริหาร สถานการณ์สูงอายุของประชากรไทย พบว่าประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมสูงอายุมาตั้งแต่ปี 2558 และเข้าสู่การเป็นสังคมสูงอายุระดับสมบูรณ์ในปี 2564 หมายถึงสังคมที่มีผู้สูงอายุมากกว่าร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด โดยคาดการณ์ว่าในปี 2574 ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่สังคมสูงอายุระดับสุดยอด คือ มี ผู้สูงอายุมากกว่าร้อยละ 28 ของประชากรทั้งหมด การเข้าสู่สังคมสูงอายุ กระทบต่อการพัฒนาประเทศและ การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยในระยะยาว ทั้งงบประมาณ เศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตของ ประชาชนโดยรวม ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุ เป็นการจัดสวัสดิการ สังคมสำหรับ ผ้สู งู อายุในชุมชนรูปแบบหนึง่ โดยใช้ชมุ ชนเปน็ ฐาน และเปิดโอกาสให้ผ้สู งู อายแุ กนนาํ อาสาสมัครชมุ ชน องค์กร เครือข่ายจากภาครัฐและภาคเอกชน มีส่วนร่วมขับเคลื่อนการดําเนินงานศูนย์ฯ โดยมีองค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น ให้การหนุนเสริม ศูนย์ฯ ดําเนินการภายใต้แนวคิด “ร่วมแรง ร่วมใจ ผู้สูงวัยกายใจ เบิกบาน” เพื่อให้ ผู้สูงอายุได้มีสถานที่ รวมกลุ่มในการจัดกิจกรรมและบริการที่ครอบคลุมทุกมิติทางด้านสุขภาพ สังคม จิตใจ และเศรษฐกิจ โดยเฉพาะมิติด้าน เศรษฐกิจที่เน้นการสร้างรายได้และการมีงานทําที่เหมาะสมสําหรับผู้สูงอายุ เพื่อยกระดับการจัดบริการและสวัสดิการทางสังคมในการคุ้มครอง ส่งเสริม และพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ แบบครบวงจร สามารถตอบสนองปัญหาและ ความตอ้ งการของผ้สู งู อายแุ ละชุมชนได้ สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 จึงได้ดำเนินการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องวิเคราะห์และสังเคราะห์ ข้อมูลเพื่อนำไปสู่การจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายด้านสังคมในระดับพื้นที่ เพื่อจะนำไปเป็นแนวทาง ในการ ขับเคล่ือนงานท่เี กยี่ วข้อง ขอ้ เสนอแนะเชงิ นโยบาย 1) การจัดตั้งศูนย์พฒั นาคุณภาพชวี ติ ผ้สู ูงอายุโดยกลไกศูนย์พัฒนาคุณภาพชวี ติ และส่งเสริมอาชพี ผสู้ งู อายุ 2) การสง่ เสริมใหผ้ ้สู งู อายุเขา้ ร่วมกจิ กรรมทางสังคม เพ่ือสร้างคณุ คา่ ให้กบั ผูส้ ูงอายุ 3) การถ่ายทอดภูมิปญั ญาของผู้สูงอายุในชุมชน 4) การสอนทักษะดา้ นเทคโนโลยีให้แกผ่ ้สู งู อายุ 5) การพฒั นาอาสาสมคั รดูแลผสู้ งู อายใุ นชมุ ชนให้มีศักยภาพในการดูแลผสู้ ูงอายุทกุ กลุ่ม 6) เสรมิ พลังและสร้างความเข้มแขง็ ให้กบั กลไกการขับเคล่ือนสงั คมผู้สูงอายุในระดับพน้ื ที่
สารบัญ 1 1 คำนำ 2 บทสรุปผู้บริหาร 3 ขอ้ เสนอเชิงนโยบาย บทที่ 1 บทนำ 3 5 1.1 ความเปน็ มาและความสำคญั 7 1.2 วัตถุประสงคข์ องการจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายด้านสงั คมในระดบั พื้นที่ 12 บทท่ี 2 แนวคดิ และทฤษฎีท่เี กย่ี วข้องกับการจัดทำข้อเสนอเชงิ นโยบายดา้ นสังคมในระดับพื้นท่ี สรา้ งการมีส่วนรว่ มเพอ่ื พัฒนาสังคมระดับพนื้ ท่ีและแนวทางการขยายผล 12 2.1 นโยบายทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง 14 2.2 แนวคิดเกี่ยวกับการมีสว่ นร่วม 15 2.3 แนวคดิ เกีย่ วกับการพัฒนาเชิงพ้ืนท่ี บทที่ 3 ขั้นตอนและเคร่ืองมือในการจัดทำขอ้ เสนอเชิงนโยบายในการสร้างการมีส่วนรว่ ม เพื่อพฒั นาสังคมระดับพน้ื ท่ีและแนวทางการขยายผล 3.1 ขน้ั ตอนและเครือ่ งมือในการปฏบิ ตั งิ นภาคสนามและสรุปบทเรยี น 3.2 ขน้ั ตอนและเครอ่ื งมือในการจัดทำข้อเสนอแนะและแนวทางการขยายผล บทที่ 4 สรปุ บทเรียนการสร้างการมีส่วนร่วมเพ่ือพัฒนาสังคมระดบั พื้นที่ บทท่ี 5 ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการสรา้ งการมสี ่วนร่วมเพื่อพฒั นาสังคมระดับพ้ืนที่ และแนวทางการขยายผล
บทที่ 1 บทนำ 1.1 ความเปน็ มาและความสำคัญ 1.1.1. ลักษณะองค์กรสำนกั ส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ1-11 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 เป็นหน่วยงานราชการส่วนกลางที่ตั้งอยู่ในภูมิภาค โดย จัดตั้งตามกระทรวง แบ่งส่วนราชการกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนษุ ย์ พ.ศ. 2545 ต่อมามพี ระราชบัญญัตปิ รับปรงุ กระทรวง ทบวง กรม (ฉบบั ท่ี 14) พ.ศ. 2558 ใหส้ ำนักงาน ส่งเสรมิ และสนับสนนุ วชิ าการท้ัง 12 แหง่ ไปสงั กัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่นั คงของมนษุ ย์ สำนักงาน ส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1-11 (สสว.) เป็นส่วนราชการส่วนกลางที่ตั้งอยู่ในส่วนภูมิภาค โดยมีอำนาจหน้าท่ี คือ ข้อ 1 พัฒนางานด้านวิชาการเกี่ยวกับการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ให้สอดคล้องกับพื้นที่และ เป้าหมาย ข้อ 2 ส่งเสริมและสนับสนุนงานด้านวิชาการองค์ความรู้ ข้อมูลสารสนเทศให้คำปรึกษาแนะนำแก่ หน่วยงานบริการกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ให้บริการ ในความรับผิดชอบของกระทรวง รวมทั้ง องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง องค์กรภาคเอกชนและประชาชน ข้อ 3 ศึกษาวิเคราะห์สถานการณ์และ สภาพแวดลอ้ มเพื่อคาดการณแ์ นวโน้มของสถานการณท์ างสงั คมและผลกระทบ รวมทั้งให้ข้อเสนอแนะการพัฒนา สงั คมและการจดั ยทุ ธศาสตรใ์ นพ้ืนท่ีกลุ่มจังหวัด ข้อ 4 สนับสนุนการนิเทศงาน ติดตามประเมนิ ผลการดำเนินงาน เชิงวิชาการตามนโยบายและภารกิจของกระทรวงในพื้นที่กลุ่มจังหวัด มีหน้าที่เป็นกลไกขับเคลื่อนภารกิจของ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นอกจากนี้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของ มนุษย์ ได้มอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการทำหน้าที่เชื่อมโยงประสานนโยบายระหว่าง หน่วยงานส่วนกลางกับส่วนภูมิภาคในการแปลงนโยบาย ข้อมูลสารสนเทศ องค์ความรู้ และแผนต่างๆ ของ กระทรวงฯ ให้เกิดการบูรณาการการปฏิบัติงานของหน่วยงานสังกัดกระทรวงฯ ในส่วนภูมิภาค ให้เหมาะสมกับ บริบทพื้นที่ และมีการปฏิบัติงานเปน็ ไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้องขับเคลือ่ นให้เกดิ การบูรณาการโครงการด้านสังคมเชงิ พื้นท่ีในระดับพื้นที่จังหวดั และกลุ่มจังหวัด ทั้งในส่วนของแผนปฏิบตั งิ านและ แผนคำของบประมาณเชิงพื้นที่ เพื่อตอบสนองความต้องการของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดในการบูรณาการการ ดำเนินงานพัฒนาสังคมและสวัสดิการสังคมที่สอดคล้องกับพื้นที่และยุทธศาสตร์ อย่างมีประสิทธิภาพและ ประสทิ ธผิ ล 1.1.2. ความเปน็ มาและความสำคญั ของการจัดทำขอ้ เสนอเชงิ นโยบายด้านสังคมในระดบั พ้ืนท่ี สรา้ งการมี ส่วนรว่ มเพ่ือพัฒนาสังคมระดบั พื้นทีแ่ ละแนวทางการขยายผล จากข้อมูลของ United Nations World Population Ageing พบว่าประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วง การเปลี่ยนผ่านเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society) ซึ่งสหประชาชาติระบุว่า ประเทศใดมีประชากร อายุเกิน 60 ปีขึ้นไป ในสัดส่วนเกินร้อยละ 10 ของประชากรทั้งประเทศ ถือว่าประเทศน้ันก้าวเข้าสู่สงั คมผูส้ ูงอายุ หรือ Aged Society และจะเป็นสังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบ (Aged Society) เมื่อสัดส่วนประชากรที่มีอายุ 60 ปี ขึน้ ไป เพิ่มขึน้ ถึงร้อยละ 20 โดยตวั เลขของประเทศไทย คาดการณ์ว่าในปี 2564 ไทยจะเข้าสสู่ ังคมประชากรสูงวัย
แบบสมบูรณ์ โดยมีผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี เกิน 20 % ของจำนวนประชากรทั้งหมด สถานการณ์นี้เป็นผลมาจาก การพัฒนาเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศ ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการแพทย์ทำให้ ประชากรมีอายุยืนยาว นโยบายและการวางแผนครอบครัวหรือการควบคมุ การมีบตุ ร ทำให้เกิดการลดภาวะเจริญ พันธ์ุอย่างรวดเรว็ และการลดลงอยา่ งต่อเนื่องของระดับการตายของประชากร ทำใหจ้ ำนวนและสัดส่วนประชากร ผู้สูงอายุของไทยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ผลที่ตามมาคือเมื่อมีผู้สูงอายุมากขึ้นทำให้ปัจจัยการผลิตทางด้านแรงงาน ลดลง ทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวมากขึ้น การลงทุนการออมน้อยลง ผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (GNP) หรือรายได้ประชาชาติน้อยลง งบประมาณรายจ่ายเพิ่มขี้นขณะที่งบประมาณรายได้ลดลง รัฐบาลต้อง สนับสนุนงบประมาณด้านสวัสดิการให้แก่ผู้สูงอายุมากขึ้น และก่อให้เกิดปัญหาสังคม เช่น ผู้สูงอายุถูกทอดทิ้ง สภาพจิตใจย่ำแย่ และความเสื่อมโทรมทางร่างกายและสุขภาพ จำเป็นต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่ ดังนั้นการ เตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุควรจะร่วมมือกันภาครัฐและเอกชน ตั้งแต่ระดับบุคคล ชุมชนและ ประเทศเพื่อใหต้ ระหนักถงึ ความสำคัญของการกา้ วเข้าสสู่ ังคมผสู้ ูงอายุ ให้ความรู้สังคม และสนับสนุนให้มีผู้สูงอายุ มีงานทำมากขึ้น สนับสนุนให้มีการเตรียมวางแผนการออม การใช้ชีวิตในบั้นปลาย ทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกว่าตัวเองมี คุณคา่ เพอื่ ไมใ่ หเ้ ปน็ ภาระสงั คมต่อไป 1.2 วัตถุประสงค์ของการจัดทำข้อเสนอเชงิ นโยบายด้านสงั คมในระดับพน้ื ท่ี 1) เพื่อจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายโดยการเตรียมความพร้อมการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุให้กับคนทุกช่วง วัย ในการเสริมสร้างทักษะความรู้ ความเข้าใจ และวางแผนการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างภาคภูมิใจและไม่เป็น ภาระตอ่ สงั คม 2) เพื่อสรุปบทเรียนและองค์ความรู้จาการปฏิบัติงานเพื่อพัฒนาสังคมระดับพื้นที่ในพื้นที่รับผิดชอบ ของสำนกั งานสง่ เสริมและสนับสนนุ วชิ าการ 1 หน้า 2 จาก 17
บทที่ 2 แนวคิดและทฤษฎที ี่เกีย่ วข้องกบั การจดั ทำข้อเสนอเชงิ นโยบายด้านสงั คมในระดบั พืน้ ที่ สร้างการมสี ่วนรว่ มเพ่ือ พัฒนาสังคมระดับพ้นื ที่และแนวทางการขยายผล 2.1 นโยบายที่เกี่ยวขอ้ ง 2.1.1 การดำเนินงานด้านผู้สงู อายุ ภายใต้กรอบสหประชาชาติ : แผนปฏิบตั กิ ารระหวา่ งประเทศ มาดริลว่าด้วยเรอื่ งผสู้ งู อายุ (The Madrid International Plan of Action on Ageing) องค์การสหประชาติ (United Nations) ได้จดั การประชมุ สมชั ชาระดับโลกวา่ ด้วยผูส้ งู อายุ ครงั้ ที่ 2 (The 2nd World Assembly on Ageing) ณ กรุงมาดริล ประเทศสเปน ในปี พ.ศ. 2545 ผลจากการ ประชมุ คราวน้นั ได้ก่อใหเ้ กิดพันธกรณรี ะหวา่ งประเทศในเรื่องของผู้สูงอายุท่ีเรยี กว่า แผนปฏิบตั ิการระหว่าง ประเทศมาดรลิ วา่ ดว้ ยเรือ่ งผู้สงู อายุ (The Madrid International Plan of Action on Ageing) ที่ได้กำหนด เป้าหมายหลกั ของการพัฒนาผสู้ ูงอายใุ น 3 ประเด็นตอ่ ไปน้ี คือ 1) ผสู้ งู อายกุ บั การพัฒนา (Older persons and development) 2) สูงวยั อย่างมีสขุ ภาพดแี ละมสี ุขภาวะ (Advancing health and well-being into old age) 3) การสร้างความมั่นใจว่าจะมสี ภาพแวดลอ้ มทเี่ ก้ือหนุนและเหมาะสม (Ensuring enabling and supportive environment) ซ่ึงเป็นพนั ธกรณีทีป่ ระเทศภาคีองคก์ ารสหประชาชาติจะต้องรว่ มยึดถือเป็นเปา้ หมายการ ดำเนินงานผู้สูงอายุ และร่วมกำหนดทศิ ทางกลยุทธ์ของการพฒั นาเพ่ือมงุ่ ไปสเู่ ป้าหมายดงั กล่าวรว่ มกัน ประเดน็ ความทา้ ทายในการดำเนินงานด้านผสู้ งู อายุ 1) การสร้างหลักประกันดา้ นรายได้เพื่อวัยสงู อายุ 2) การสง่ เสรมิ และขยายโอกาสในการทำงานของผสู้ งู อายุ 3) การสรา้ งและพฒั นาระบบการดแู ลผ้สู ูงอายุระยะยาว 4) การจัดให้มีสง่ิ อำนวยความสะดวกท่ีเหมาะสมและปลอดภยั ในที่สาธารณะสำหรับ ผสู้ ูงอายุ 5) การเสริมสรา้ งขดี ความสามารถขององค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ ในการดำเนินงานด้าน ผสู้ งู อายุ หน้า 3 จาก 17
2.1.2 แนวคดิ Active Ageing ขององคก์ ารอนามัยโลก Active Ageing ขององค์การอนามัยโลก อธิบายถงึ องค์ประกอบสำคญั ของการเป็นผสู้ ูงอายุท่ี มพี ลงั ประกอบด้วย 3 ประการได้แก่ 1) มสี ขุ ภาพท่ีดี (Healthy) 2) มีความมัน่ คง หรือการมหี ลกั ประกันในชวี ิต (Security) 3) มีสว่ นรว่ ม (Participation) กรอบแนวคิดขององค์การอนามยั โลก (WHO’ s Active Ageing framework) Active Ageing เปน็ กระบวนการท่สี ร้างโอกาสให้ผู้สูงอายเุ ข้าถึงระบบสาธารณสุข การมีสว่ นร่วมและได้รับความปลอดภยั เพือ่ ให้มีคุณภาพชวี ติ ท่ดี ี ในการวางนโยบายบรหิ ารจดั การ การให้บรกิ าร การจดั สภาพแวดล้อมและโครงสร้างเมือง ของเมืองทเ่ี ป็นมติ รต่อผสู้ งู อายุนัน้ ต้องคำนึงถงึ 1) ความหลากหลายของความสามารถและการเปน็ แหลง่ ทรพั ยากรของผ้สู ูงอายุ 2) ความยดื หยุน่ ในการตอบสนองและคาดการณ์ความต้องการและความชอบของผสู้ งู อายุ 3) ความสำคญั ของการตดั สินใจและวถิ ีชวี ติ ของผสู้ งู อายุ 4) การคุ้มครองป้องกันกลมุ่ เสีย่ งในผู้สูงอายุ 5) การสรา้ งโอกาสใหผ้ ูส้ ูงอายุได้มสี ว่ นรว่ มในเรื่องตา่ งๆ ในสังคม โดยผู้สงู อายุทอ่ี าศัยอยู่ตามลำพงั ควรไดร้ บั การส่งเสรมิ ใหเ้ ปน็ ผูท้ ่ีมพี ฤฒพลงั (Active Ageing) เรม่ิ จากผสู้ ูงอายุต้องสง่ เสริมให้เกิดการดแู ลตนเองให้เหมาะสมกบั โรคหรอื ความเจบ็ ป่วยทมี่ ี ตลอดจน กระตุน้ ให้ทำกิจกรรมต่างๆ ด้วยตนเองอยา่ งต่อเน่ืองตามศักยภาพ และมีกล่มุ ในสังคม โดยอาศัยเทคโนโลยีมา เช่อื มต่อสังคมให้กบั ผสู้ ูงอายุ 2.1.3 ประเดน็ ยุทธศาสตร์ เพ่ือให้ประเทศไทยสามารถยกระดบั การพฒั นาใหบ้ รรลุตามวสิ ยั ทัศน์ “ประเทศไทย มีความ มนั่ คง มั่งคงั่ ย่ังยนื เปน็ ประเทศพฒั นาแล้ว ด้วยการพฒั นาตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง” โดยมี ยทุ ธศาสตร์ท่เี กย่ี วข้องกบั การขับเคล่อื นงานด้านผู้สงู อายุ จำนวน 2 ยทุ ธศาสตร์ ได้แก่ 1) ยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสรมิ สร้างศักยภาพทรัพยากรมนษุ ย์ มีเปา้ หมายการ พฒั นาท่สี ำคัญเพ่ือพัฒนาคนในทกุ มติ ิและในทกุ ชว่ งวยั ใหเ้ ป็นคนดี เกง่ และมคี ุณภาพ โดยคนไทยมีความพร้อมทง้ั กาย ใจ สติปญั ญา มีพัฒนาการทด่ี รี อบดา้ นและมสี ุขภาวะทด่ี ีในทุกชว่ งวยั มีจิตสาธารณะรับผดิ ชอบต่อสงั คมและ ผ้อู ืน่ มัธยัสถ์ อดออม โอบอ้อมอารี มวี นิ ัย รกั ษาศลี ธรรม และเป็นพลเมืองดีของชาติ มหี ลกั คดิ ท่ีถูกต้อง มที ักษะที่ จำเป็นในศตวรรษท่ี 21 มีทักษะสอื่ สารภาษาองั กฤษ และภาษาที่ 3 และอนุรกั ษ์ภาษาท้องถิ่น มีนิสัยรกั การเรียนรู้ และพฒั นาตนเองอยา่ งต่อเนื่องตลอดชีวติ สกู่ ารเปน็ คนไทยทมี่ ีทกั ษะสูง เปน็ นวตั กร นักคิด ผูป้ ระกอบการ เกษตรกรยุคใหม่และอื่นๆ โดยมสี มั มาชพี ตามความถนัดของตนเอง หน้า 4 จาก 17
2) ยุทธศาสตร์ชาตดิ ้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสงั คม มีเป้าหมายการพัฒนาที่ สำคญั คือการดึงพลังของภาคส่วนต่างๆ ท้ังภาคเอกชน ประชาสงั คม ชุมชนท้องถ่ิน มาร่วมขับเคลอื่ น โดยการ สนบั สนุนการรวมตวั ของประชาชนในการรว่ มคดิ ร่วมทำเพื่อส่วนรวมการกระจายอำนาจและความรับผดิ ชอบไปสู่ กลไกบริหารราชการแผน่ ดนิ ในระดับท้องถ่นิ การเสรมิ สรา้ งความเข้มแขง็ ของชุมชนในการจัดการตนเอง และการ เตรียมความพรอ้ มของประชากรไทยท้งั ในมิตสิ ขุ ภาพ เศรษฐกจิ สงั คม และสภาพแวดลอ้ มใหเ้ ปน็ ประชากรทม่ี ี คุณภาพ สามารถพึ่งตนเองและทำประโยชน์แก่ครอบครวั ชมุ ชน และสงั คม โดยรัฐให้หลกั ประกนั การเขา้ ถึงบริการ และสวสั ดิการที่มีคณุ ภาพอย่างเป็นธรรมและทวั่ ถึง พระราชบญั ญตั ิผสู้ ูงอายุ พ.ศ. 2546 มีสาระสำคัญ ดังนี้ ผสู้ งู อายุ คอื ผทู้ ่มี ีอายุเกิน 60 ปี และมีสัญชาตไิ ทย มาตรา 11 ผู้สูงอายมุ ีสิทธไิ ดร้ บั การคุ้มครอง การส่งเสริมและการสนับสนุนในด้านตา่ งๆ ดังนี้ 1) การบรกิ ารทางการแพทยแ์ ละการสาธารณสุขทจ่ี ดั ไวโ้ ดยใหค้ วามสะดวกและรวดเรว็ แก่ ผ้สู งู อายเุ ปน็ กรณีพเิ ศษ 2) การศึกษา การศาสนา และข้อมลู ข่าวสารท่ีเปน็ ประโยชน์ตอ่ การดำเนินชวี ิต 3) การประกอบอาชีพหรอื ฝกึ อาชพี ที่เหมาะสม 4) การพัฒนาตนเองและการมีสว่ นรว่ มในกิจกรรมทางสงั คม การรวมกลมุ่ ในลักษณะ เครือข่ายหรือชมุ ชน 5) การอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยโดยตรงแกผ่ ูส้ ูงอายใุ นอาคาร สถานท่ี ยานพาหนะหรือการบริการสาธารณะอืน่ 6) การช่วยเหลือดา้ นคา่ โดยสารยานพาหนะตามความเหมาะสม 7) การยกเว้นคา่ เข้าชมสถานทขี่ องรัฐ 8) การชว่ ยเหลือผู้สงู อายซุ ่ึงไดร้ บั อันตรายจากการถกู ทารณุ กรรมหรอื ถูกแสวหาประโยชน์โดย มิชอบด้วยกฎหมาย หรอื ถูกทอดทิง้ 9) การให้คำแนะนำ ปรึกษา ดำเนนิการอื่นทีเ่ ก่ียวข้องในทางคดีหรือในทางการแกไ้ ขปัญหา ครอบครัว 10) การจดั ทพี่ กั อาศยั อาหารและเครื่องนงุ่ หม่ ให้ตามความจำเปน็ อย่างท่วั ถึง 11) การสงเคราะห์เบ้ยี ยงั ชพี ตามความจำเปน็ อย่างท่วั ถึงและเป็นธรรม 12) การสงเคราะห์ในการจดั การศพตามประเพณี 13) การอื่นตามท่ีคณะกรรมการประกาศกำหนด หน้า 5 จาก 17
2.2 แนวคิดเกย่ี วกับการมีสว่ นรว่ ม 2.2.1.แนวคิดเกี่ยวกับการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วมสำนักงาน กพร. ได้อธิบายความหมายของ การบริหารราชการแบบมีส่วนร่วมหรือการมีส่วนร่วมของประชาชนในการบริหารราชการไว้ว่าการมีส่วนร่วมเป็น หลักการหนึ่งของ “ธรรมาภิบาล” (Good Governance) หรือ “ระบบบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี” โดยหากส่วน ราชการได้มี การประยุกตใช้หลกั การบริหารราชการแบบมสี ่วนร่วมอย่างจริงจัง ก็จะส่งผลให้ระบบราชการ มีการ บริหารราชการที่มีคุณลักษณะสำคัญเป็นไปตามหลักธรรมาภบิ าล คือ โปร่งใส เปิดเผย ข้อมูล เป็นธรรม และการ บริหารงานที่เน้นประชาชนเป็นศูนย์กลางมุ่งประโยชน์สุขของประชาชนเป็นสำคัญ พัฒนาระบบราชการให้เป็น ราชการระบบเปดิ ท่ีให้ประชาชนและภาคสว่ นตา่ งๆ ท่เี ก่ียวข้องสามารถเขา้ ถึงได้ (Accessibility) และมวี ฒั นธรรม การทำงานที่เอื้อต่อการทำงานแบบมีส่วนรวม รวมทั้งมีการบูรณาการการทำงานกับภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนเกดิ การทำงานร่วมกันเป็นเครือข่ายความร่วมมือ ท่นี ำไปสกู่ ารยอมรับ และรวมเป็นพลังความร่วมมือของ ทุกภาคสว่ นทเี่ กย่ี วข้องการบรหิ ารราชการแบบมีสว่ นรว่ ม (Participatory Governance) เปน็ เรอื่ งท่ีมีความสำคัญ อย่างยิ่งสำหรับการบริหารงานของภาครัฐในปัจจุบัน เนื่องจากบริบทของการบริหารราชการมีการ เปลี่ยนแปลงหลายประการ ทัง้ จากบรบิ ทในระดับนานาชาติ กรอบการเมือง การปกครอง และการบริหารประเทศ กล่าวคือ ในระดับนานาชาติ มีวาระชัดเจน (Global Agenda) เกี่ยวกับการบริหารภาครัฐแบบมีส่วนร่วมและการ เสริมสร้างธรรมาภิบาล (Participatory and Good Governance) ซึ่งการบริหารราชการยุคใหม่มิใช่เพียงการ ทำงาน ตามกฎระเบียบหรือสาย การบังคับบัญชา แต่เป็นเรื่องความสัมพันธ์ กับประชาชน (Shifting from Government to Governance) ที่ภาครัฐต้องยึดหลักความโปร่งใส (Transparency) หลักการมีส่วนร่วมของ ประชาชน (Public Participation) หลักนิติรัฐ (Rule of Law) และ หลักความพร้อมรบั ผิดชอบ(Accountability) ในการบรหิ ารจัดการภาครัฐ และในระดบั ประเทศ แนวคิดการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วมนำเสนอแนวคิดต่างๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกันท้ัง 3 แนวคิด คือ ประชาธิปไตยแบบ มีส่วนร่วมการมีส่วนร่วมของประชาชน และการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม โดยอธิบายถึงแนวคิดและตัวแบบการมีส่วนร่วมของประชาชนของสมาคมการมีส่วนร่วมสากล (InternationalAssociation for Public Participation - IAP2) ทแ่ี บง่ ระดับการมสี ่วนรว่ มของประชาชน (Public ParticipationSpectrum) ออกเป็น 5 ระดับ และแนวคิดการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม ที่อธิบายเกี่ยวกับ แนวคิดการพัฒนาจากภายในภาคราชการ (Inside-out Approach) และ การพัฒนาจากภายนอกภาคราชการ (Outside-in Approach) ซง่ึ ตอ้ งมกี ารพัฒนาทง้ั ระดับ องคก์ าร ระดบั สถาบัน และระดบั บุคลากร รวมทั้งกล่าวถึง ประโยชน์ของการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักกณฑN3และวิธีการบริหารกิจการ บ้านเมอื งท่ีดีพ.ศ.2546หมวด 2 การบริหารราชการเพอ่ื ใหเ้ กดิ ประโยชน3สขุ ของประชาชนมาตรา 8 (3) กำหนดให้ \"ก่อนเริ่มดำเนินการส่วนราชการต้องจัตให้มีการศึกษาวิเคราะห์ผลดีผลเสียให้ครบทุกด้าน กำหนดขั้นตอนการ ดำเนินการที่โปร่งใสมีกลไกตรวจสอบการดำเนินการในแต่ละขั้นตอน ในกรณีที่ภารกิจใดจะมีผลกระทบต่อ ประชาชนส่วนราชการต้องรบั ฟังความคดิ เหน็ ของประชาชน หรอื ชแ้ี จงทำความเข้าใจเพื่อให้ประชาชนได้ตระหนัก หน้า 6 จาก 17
ถึงประโยชน์ท่ีส่วนรว่ มจะได้รับจากภารกิจนั้น\" และ (4) \"ให้ถือเป็นหน้าทีข่ องข้าราชการที่จะต้องคอยรับฟังความ คิดเห็นและความพึงพอใจของสังคมโดยรวมและประชาชนผู้รับบริการ เพื่อปรับปรุง หรือเสนอแนะต่อ ผู้บังคับบัญชาเพื่อให้มีการปรับปรุงวิธีปฏิบัติราชการให้เหมาะสม\"สำนักงาน ก.พ.ร. ได้ส่งเสริม และสนับสนุนให้ ระบบราชการไทยเปิดโอกาสให้ประชาชนและภาคส่วนตา่ งๆ เข้ามามสี ่วนร่วม ซึ่งสอดคลอ้ งกับแนวคิดการบริหาร จัดการภาครัฐแนวใหม่ (NewPublic Management) ที่ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชนในการ บริหารราชการแผ่นดิน หรือการบริหารราชการแบบมสี ว่ นร่วมอนั จะนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายในการพัฒนา เพ่ือ ตอบสนองตอ่ ความต้องการของประชาชน จึงได้จัดใหม้ กี ารมอบรางวัล \"ความเปน็ เลศิ ดา้ นการบรหิ ารราชการแบบ มีส่วนร่วม\"ให้กับส่วนราชการและจังหวัด เพื่อเป็นการส่งเสริมและผลักดันการขับเคลื่อนการบริหาราชการแบบมี ส่วนร่วมไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม และสร้างแรงจูงใจ กระตุ้นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการ บริหารราชการ รวมทั้งเชิดชูผลงานของส่วนราชการและจังหวัดที่เป็นต้นแบบที่ดีในด้านการบรหิ ารราชการแบบมี ส่วนร่วมตลอดจนพัฒนาระบบบริหารราชการที่สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ดังนั้น เพื่อยกระดับการมีส่วนร่วมของประชาชนในการบริหารราชการให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ(ก.พ.ร) โดยคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบราชการ (อ.ก.พ.ร) เกี่ยวกับการ พัฒนาและส่งเสริมการบริหาราชการ(เอกสารสรุปบทเรียนที่ดีของการดำเนินการเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามี สว่ นร่วมในการบริหารราชการสำนักงาน กพร. กนั ยายน 2557) มีเกณฑใ์ นการประเมินผลการดำเนินงานของส่วน ราชการ และจังหวัด เพื่อรับรางวัลได้กำหนดหลักเกณฑ3การประเมินให้สอดคล้องตามประเภทรางวัลและระดับ รางวัล โดยแบ่งออกเปน็ 2 มิติไดแ้ ก่ มิตทิ ี่ 1 ความสามารถของหน่วยงานภาครฐั มิตทิ ี่2 กระบวนการมีสว่ นรว่ มในการบรหิ ารราชการ อย่างเปน็ รปู ธรรมความสามารถของหน่วยงานรัฐ ( 30 คะแนน) พจิ ารณาจาก 1. การกำหนดนโยบาย/ทิศทางที่ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชนในการบริหาร ราชการ 2. การมกี ลไกหรอื หนว่ ยงานรองรับในการส่งเสรมิ การบรหิ ารราชการแบบมีส่วนรว่ ม 3. การสร้างระบบ หรอื วธิ กี ารปฏิบตั ิงาน เพือ่ ส่งเสริมวฒั นธรรม และคำ่ นยิ มที่ให้ความสำคัญกับ การบรหิ ารราชการแบบมสี ว่ นร่วม 4. การบริหารจัดการขอ้ มูลครือข่ายภาคประชาชน/ภาคประชาสังคม หรือกลุม่ เครือข่ายอืน่ ๆ ท่ี เก่ยี วข้องกระบวนการมสี ว่ นรว่ มในการบริหารราชการอย่างเป็นรปู ธรรม ( 70 คะแนน) พิจารณาจาก 1) ก า ร ส น ั บ ส น ุ น ก า ร ท ำ ง า น ข อ ง ภ า ค ป ร ะ ช า ช น / ป ร ะ ช า ส ั ง ค ม / ภ า ค เ อ ก ช น 2) การบูรณาการหรือการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคส-วนอื่นท่ี เกี่ยวข้อง หน้า 7 จาก 17
3) การส่งเสริมการทำงานร่วมกับภาคส่วนอื่นแบบหนุนเสริม (ระดับความร่วมมือ) ในการจัดทำ โครงการและบรกิ ารสาธารณะ 4) การเผยแพร่/แลกเปลีย่ นเรยี นรู้5.ระดับความพึงพอใจหรือความเชือ่ มน่ั ของภาคประชาชนและ ภาคสว่ นต่างๆที่เกีย่ วขอ้ ง 2.3 แนวคิดเกี่ยวกับการพฒั นาเชิงพื้นที่ 2.3.1 รายงานของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการบริหารราชการ แผ่นดิน สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ เรื่อง “การบริหารจัดการของจังหวัด ที่มุ่งหวังผลสัมฤทธิ์โดยยึดพื้นที่ เป็นหลัก (Area-based Approach)”กลางถึงความหมายของการพัฒนาเชิงพื้นที่ว่า คือ \"การบริหารจัดการเชิง พ้นื ท่ี หรอื area –based approach คอื การบริหารจัดการท่ลี งไปทำกระบวนการในพนื้ ท่ีเป้าหมาย โดยอาศัยการ มีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ทั้งภาคประชาชน ภาครัฐ ภาควิชาการ และองค3กรพัฒนาเอกชน ให้มารวมแก้ไข ปัญหาในเรื่องใหญ่ท่ที ุกคนในพื้นที่เห็นวา่ ต้องแก้ไข และจะสำเรจ็ ไดด้ ้วยความร่วมมอื ของคนในพนื้ ท่ี ในลักษณะทำ ไป ปรับไป เรียนรู้ไปเพ่ือพฒั นารูปแบบและกลไกการทำงานท่เี อ้ือต่อการแกป้ ัญหา\" แนวคิดเกีย่ วกบั การพัฒนาท่ียึดพ้ืนที่เปน็ หลกั 1. การพฒั นาทย่ี ึดพน้ื ทีเ่ ปน็ หลัก (Area-based Development Approach) การพฒั นาท่ยี ดึ พน้ื ทเ่ี ปน็ หลัก คือ การพัฒนาที่ใหค้ วามสำคัญกับการนำพื้นทซ่ี งึ่ เป็นทั้งพน้ื ที่ ทางภมู ิศาสตร์หรือพ้ืนท่ีในมติ ิอ่นื ๆ เปน็ นตวั ตง้ั เช่น พ้นื ทท่ี างวัฒนธรรม พื้นที่ล่มุ นำ้ แทนการเนน้ กลมุ่ เป้าหมาย หรือกลมุ่ งาน แนวคิดนีไ้ ดถ้ ูกนำมาใช้ อยา่ งแพรห่ ลายในทวีปยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง ประเด็นทน่ี ำแนวคดิ นไ้ี ปใช้มกั จะเป็นเร่อื งของการพัฒนา ประเทศ การพฒั นาชนบท การบรกิ ารสาธารณะ การแก้ปัญหา ความยากจน การแกป้ ญั หาความขดั แย้ง การจัดการ ทรัพยากร เป็นตน้ บางโครงการท่มี ีการใช้มิติอ่นื เขา้ มาประกอบในการพฒั นาที่เนน้ พนื้ ทเ่ี ป็นหลักด้วย เชน่ มติ ขิ อง ความเสมอภาคหญิงชายเขา้ มาประกอบหรือมิตพิ หนุ ิยมเป็นตน้ 1.1 เกณฑส์ ำหรับการพิจารณาเรื่องของการคำนึงถงึ พน้ื ที่เป็นหลัก ประกอบดว้ ย เรอื่ งของการ เป็นชุมชนทมี่ ีความเหมือนกันในเรอ่ื งของคณุ ลกั ษณะของความเป็นทอ้ งถิ่นหรือ ความเปน็ ชนบทหรอื ความเปน็ สังคมนัน้ ๆ เป็นการเฉพาะ นอกจากน้ี ยังมีเรอื่ งของพ้ืนท่ที ่ไี มก่ ว้างใหญ่ จนเกนิ ไปและมีอตั ลักษณ์ของตนเอง ตลอดจนความหนาแนน่ ของประชากรท่ีไม่สงู เกินไป มีความต้องการทีจ่ ะดำเนนิ การรว่ มกนั มคี วามเชอื่ มประสาน และจะมเี รือ่ งของประเดน็ ปaญหาทีเ่ ห็นพ้องต้องกันว่าเปน็ เร่ืองทีต่ ้องดำเนนิ การร่วมกัน แตก่ ็ไมม่ ีขอบเขตที่กำหนด ชัดเจนวา่ ต้องขนาดเท่าใดหรือกวา้ งขวางเพียงใด เร่อื งของการใชก้ ารพฒั นาทเี่ นน้ พื้นท่เี ป็นหลักนเ้ี ปน็ เร่ืองของการ นำสรรพกำลังที่มี เชน่ ทรัพยากร เข้ามาสู่การขับเคลือ่ นในรูปแบบของการคำนึงถึงพื้นที่เป็นหลัก 1.2 ขั้นตอนท่ีสำคัญในการดำเนินการ หน้า 8 จาก 17
1.2.1 การศึกษาศักยภาพของพื้นที่เป็นเรื่องที่สำคัญมากในการออกแบบการพัฒนานี้ โดย เรมิ่ จากศกึ ษาศักยภาพของพ้ืนทต่ี น ทั้งในเรื่องของกายภาพและในเรื่องของทรัพยากรมนุษย์ เรื่องของกิจกรรมหรือ งานที่มีตลอดจนทักษะความสามารถของผูค้ น วัฒนธรรม อัตลักษณ์ 3ของพื้นที่ การเมือง การปกครอง ความเชื่อ ค่านิยม ภาพลักษณ3ความสัมพันธ์กับภายนอก เป็นต้น ทั้งนี้การค้นหาทุนของพื้นที่ควรจะต้องดูว่าในอดีตเป็นมา อย่างไร มีประวัติศาสตร์ อย่างไร ในอนาคตต้องการจะเห็นอย่างไร ส่วนทุนภายในและทุนภายนอกนั้ นก็ต้องมี การศึกษาให้ชัดเจน ในเรื่องของทุนภายในเป็นการดูความสัมพันธ์3ของแต่ละเรื่อง ส่วนทุนภายนอกเป็นเรื่องของ การมศี กั ยภาพท่ีจะแลกเปล่ยี นกบั พนื้ ที่ภายนอกหรือสงั คมภายนอก 1.2.2 การวิเคราะห์เริ่มต้นในการดำเนินงาน นอกจากการพิจารณาว-าสถานการณ์ขณะนี้ เป็นเช่นไร สิ่งที่ต้องดำเนินการ คือ ต้องมาพิจารณาในเรื่องของชุมชนในพื้นที่และผู้ที่เกี่ยวข้อง มีใครบ้างที่จะมี บทบาทสำคัญ ทั้งนี้ การใช้กระบวนการมีส่วนร่วมเพื่อที่จะร่วมกันวิเคราะห์พื้นที่เบื้องต้นเป็นสิ่งจำเป็นมาก 1.2.3 การออกแบบอนาคตร่วมกันมีการจัดทำภาพอนาคตที่มีทางเลือกหลายทาง 1.2.4 การวิเคราะห์อีกครั้งหนึ่งว่าจะเริ่มต้นดำเนินการในด้านใดหลังจากที่ได้จัดลำดับความ สำคัญของทางเลือกและไดเ้ ลอื กว่าจะดำเนนิ การเร่ืองอะไรก่อนแล้ว และมีการระบุผลท่ีจะเกิดขึ้นทัง้ ทางตรงและ ทางอ้อม ตลอดจนระบุถึงการประสานพลังในการดำเนินการร่วมกันการหาความเป็นไปได้ในการที่จะขับเคลื่อน โครงการหรือการจะต้องปรับไปในทิศทางใด ดงั น้ัน เครือ่ งมือในการวิเคราะห์ตนเองมีความสำคัญมาก หากอธิบาย เป็นกราฟก็จะมี ทั้งหมดแปดแกนซ่ึงแกนแนวตั้ง คือ เรื่องของความสัมพันธ์กบั ภายนอกและในเรื่องของอัตลักษณ์ และ วัฒนธรรม ส่วนแกนแนวนอนก็จะเป็นเรื่องของทรัพยากรทางกายภาพ การเมือง การปกครอง และ การ บรหิ าร สว่ นแกนแนวเฉียงก็จะมเี ร่อื งของภาพลักษณ์ เรอ่ื งของความรเู้ ชงิ กระบวนการและทักษะ เรอ่ื งของกิจกรรม และงาน ตลอดจนทรัพยากรมนษุ ย์ ท่มี า: รายงานของคณะกรรมาธกิ ารขบั เคลอ่ื นการปฏริ ปู ประเทศ ด้านการบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ สภาขบั เคลื่อนการปฏิรปู ประเทศ เรือ่ ง “การ บริหารจดั การของจังหวัด ท่มี งุ่ หวังผลสัมฤทธิ์โดยยดึ พ้ืนทีเ่ ปน็ หลัก (Area-based Approach)” 2.3.2สำนกั งานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาติ กล่าวถึงการพัฒนาเชิงพื้นที่เป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการพัฒนาที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาตาม ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง “...การพัฒนาประเทศจำเป็นต้องทำเป็นลำดับข้ัน ต้องสร้างพื้นฐาน คือความพอมี พอกินพอใช้ของประชาชนส่วนใหญ่เป็นเบื้องต้นก่อน โดยใช้วิธีการและใช้อุปกรณ์ที่ประหยัด แต่ถูกต้องตามหลัก วิชา เมื่อได้พื้นฐานมัน่ คงพร้อมพอควรและปฏิบตั ิไดแ้ ล้วจงึ ค่อยสร้างค่อยเสรมิ ความเจริญและฐานะเศรษฐกิจขั้น เศรษฐกิจพอเพียงเป็นปรัชญาชี้ถึงแนวทางการดำรงอยู่และปฏิบัติของประชาชนในทุก ระดับตั้งแต่ครอบ ครัว ชุมชน จนถึงระดับรัฐ ทั้งในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดำเนินไปในทางสายกลางโดยเฉพาะการพัฒนา หน้า 9 จาก 17
เศรษฐกิจเพื่อให้ก้าวทันต่อยุคโลกาภิวัตน์ ความพอเพียงหมายถึง ความพอประมาณความมีเหตุผล รวมถึงความ จำเป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีพอสมควร ต่อการมีผลกระทบใดๆ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงท้ัง ภายนอกและภายใน ท้งั น้ี จะตอ้ งอาศัยความรอบรทู้ กุ ขน้ั ตอน และขณะเดียวกนั จะตอ้ งเสริมสร้างพื้นฐานทางจิตใจ ของคนในชาติ โดยเฉพาะ เจ้าหน้าที่รัฐ นักทฤษฎี และนักธุรกิจในทุกระดับ ให้มีสำนึกในคุณธรรมความซื่อสัตย์ สจุ รติ และใหม้ ี ความรอบรู้ท่ีเหมาะสม ดำเนินชวี ิตดว้ ยความอดทน ความเพยี ร มสี ติปัญญา 2.3.3 แนวคดิ พนื้ ฐานในการขบั เคลื่อนพฒั นา 1) หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง คือ การพฒั นาท่ตี ั้งอย่บู นพ้ืนฐานของทางสายกลาง โดยคำนึงถึง ความพอประมาณความมเี หตุผลการสรา้ งภูมิคมุ้ กัน ตลอดจนใชค้ วามรู้ ความรอบคอบ และคณุ ธรรม เพอ่ื ให้พร้อม รับตอ่ การเปล่ียนแปลงทางเศรษฐกจิ สงั คม สง่ิ แวดล้อม และกระแสโลกในยคุ โลกาภวิ ัตน์ 2) การพฒั นาเชงิ พน้ื ที่ (Area base Approach) คือ การสรา้ งกระบวนการ เรียนรูแ้ ละสรา้ งความ เช้าใจในสาเหตขุ องปัญหาและหาแนวทางแก้ไขปัญหาแบบบูรณาการร่วมกันกับ ทุกภาคส่วน เน้นการพฒั นา ทีม่ าจากความต้องการของชุมชน ยดึ หลัก“ระเบิดจากข้างใน” 3) การ “ทำตามลำดับขั้น” คือการพัฒนาโครงสร้างพืน้ ฐานทางธรรมชาติ โดย จัดสรรผลประโยชนใ์ ห้ ทวั่ ถึงเป็นธรรมโดยเรมิ่ จากความพอเพียง ดงั น้ี - ระดบั ครวั เรอื น ใหช้ าวบา้ นมอี าหารกินตลอดปี ลดรายจา่ ย สร้าง รายไดภ้ าคเกษตรและนอกภาค เกษตร - ระดบั ชุมชนรวมกลุ่มและแบง่ ปันการใช้ทรพั ยากรร่วมกัน โครงสรา้ งพ้ืนฐานการผลิตระดับชุมชน - ระดับพืน้ ท่ีและภมู ภิ าค ศูนย์กลางวิสาหกจิ ชุมชนแผนการผลิตการ แปรรปู และการตลาด ระบบ การขนส่งเพือ่ สนับสนนุ ระบบการผลติ ระดับครวั เรือนและชุมชน(Supply Chain) - ระดบั ประเทศ กำหนดเปน็ นโยบาย ระเบยี บกฎหมาย การกำกับ ดแู ล การสนบั สนุนงบประมาณ โครงสร้างพ้นื ฐานให้สอดคล้องกบั ความต้องการของแต่ละภูมิภาค 4. บูรณาการสนับสนุนจากหน่วยงานราชการและภาคส่วนอื่นๆ การร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมลงมือ ปฏิบัติโดยการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนมาร่วมแก้ไขปaญหา ปรับเปลี่ยน เรียนรู้ร่วมกันเพื่อพัฒนารูปแบบและ กลไกการทำงานทเี่ ออ้ื ต่อการแก้ไขปญั หา 5. การจัดการความรู้และพัฒนาคน มีหมวดหมู่การจัดเก็บฐานข้อมูล และ ความรู้ โดยการรวบรวม วิเคราะห์สังเคราะห์ เปรียบเทียบและกลั่นกรองความรู้จากการพัฒนาพื้นที่ จัดทำาเป็นระบบสารสนเทศเพื่อการ ตัดสนิ ใจ (DSSI) และคลงั ความรู้ ใช้แนวทางหรือเทคนคิ การ ทำงานในรปู แบบใหมท่ มี่ ปี ระสิทธภิ าพสงู ขึน้ หน้า 10 จาก 17
บทท่ี 3 ขั้นตอนและเคร่อื งมอื ในการจดั ทำขอ้ เสนอแนะเชิงนโยบาย ในการสร้างการมีสว่ นร่วมเพ่ือพัฒนาสงั คมระดบั พ้ืนทแี่ ละแนวทางการขยายผล 3.1.ขน้ั ตอนและเครื่องมือในการปฏบิ ตั ิงานภาคสนามและสรุปบทเรียน การศกึ ษาขอ้ มลู ชมุ ชนเบอื้ งตน้ จากเอกสารมอื สอง วางแผนรว่ มกบั ชมุ ชนในการลงพนื้ ท่แี ละการเก็บขอ้ มลู โดย ครา่ วๆ ลงพนื้ ท่สี ารวจขอ้ มลู (สมั ภาษณแ์ บบเด่ยี ว/แบบกล่มุ หรอื สรุปบทเรียนกรณีศกึ ษา .... เร่อื ง สนทนากบั บคุ คลเปา้ หมาย สรุป วิเคราะห์ สงั เคราะหข์ อ้ มลู จดั ทารายงาน/นาขอ้ มลู ไปใชป้ ระโยชน์ หน้า 11 จาก 17
3.2.ข้ันตอนและเครือ่ งมือในการจัดทำขอ้ เสนอแนะและแนวทางการขยายผล วางแนวทางการสรุปบทเรยี น และขอ้ เสนอแนะ ศกึ ษา วเิ คราะหข์ อ้ มลู ทตุ ยิ ภมู ิทเ่ี ก่ียวขอ้ งและขอ้ มลู จาก ภาคสนาม เก็บขอ้ มลู เพมิ่ เตมิ สรุปบทเรยี น ขอ้ เสนอเชงิ นโยบายและ แนวทางขยายผล สงั เคราะหข์ อ้ มลู จดั ทาเสนอแนะและแนวทางการขยายผล จดั ทารายงานเสนอผบู้ รหิ าร หน้า 12 จาก 17
บทที่ 4 สรปุ บทเรียนการสร้างการมสี ว่ นร่วมเพ่อื พัฒนาสังคมระดับพืน้ ที่ กรณีศกึ ษา การพฒั นาคุณภาพชวี ิตผู้สูงอายโุ ดยกลไกศูนยพ์ ฒั นาคณุ ภาพชีวิตและส่งเสรมิ อาชพี ผู้สงู อายุ 1. ความเปน็ มาของโครงการ สถานการณ์สูงอายุของประชากรไทย พบว่าประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมสูงอายุมาตั้งแต่ปี 2558 และเข้าสู่การเป็นสังคมสูงอายุระดับสมบูรณ์ในปี 2564 หมายถึงสังคมที่มีผู้สูงอายุมากกว่าร้อยละ 20 ของ ประชากรทั้งหมด โดยคาดการณ์ว่าในปี 2574 ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่สังคมสูงอายุระดับสุดยอด คือ มีผู้สูงอายุ มากกว่าร้อยละ 28 ของประชากรทั้งหมด การเข้าสู่สังคมสูงอายุ กระทบต่อการพัฒนาประเทศและการ เจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยในระยะยาว ทั้งงบประมาณ เศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยรวม ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุ เป็นการจัดสวัสดิการ สังคมสำหรับผู้สูงอายุ ในชุมชนรูปแบบหนึ่ง โดยใช้ชุมชนเป็นฐาน และเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุแกนนําอาสาสมัครชุมชน องค์กรเครือข่าย จากภาครัฐและภาคเอกชน มีส่วนร่วมขับเคลื่อนการดําเนินงานศูนย์ฯ โดยมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้การ หนนุ เสริม ศูนยฯ์ ดําเนนิ การภายใตแ้ นวคิด “รว่ มแรง รว่ มใจ ผู้สูงวยั กายใจ เบิกบาน” เพอ่ื ใหผ้ ูส้ ูงอายุได้มีสถานท่ี รวมกลุ่มในการจัดกิจกรรมและบริการที่ครอบคลุมทุกมิติทางด้านสุขภาพ สังคม จิตใจ และเศรษฐกิจ โดยเฉพาะ มิติด้าน เศรษฐกิจที่เน้นการสร้างรายได้และการมีงานทําที่เหมาะสมสําหรับผู้สูงอายุ เพื่อยกระดับการจัดบริการ และสวัสดิการทางสังคมในการคุ้มครอง ส่งเสริม และพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุแบบครบวงจร สามารถ ตอบสนองปัญหาและ ความต้องการของผู้สงู อายุและชุมชนได้ 2. วัตถุประสงค์ 2.1 เพื่อพัฒนาคณุ ภาพชีวติ ผู้สูงอายุ 2.2 เพอื่ การทำงานแบบบูรณาการร่วมกันระหวา่ งภาครัฐ ภาคประชาสังคม 3. หนว่ ยงานที่เกี่ยวข้อง หน้า 13 จาก 17
1) องค์การบริหารส่วนทอ้ งถนิ่ 2) สำนักงานพัฒนาสงั คมและความมน่ั คงของมนุษยจ์ งั หวดั 3) โรงพยาบาลส่งเสริมสขุ ภาพประจำตำบล/สำนักงานสาธารณสขุ จังหวดั 4) ศูนย์การศึกษาพเิ ศษ 5) สำนกั งานพฒั นาชุมชน 4. การดำเนนิ การ 1) ศึกษาข้อมูลในเบอ้ื งตน้ จากเอกสาร 2) คัดเลือกพ้นื ที่ 3) วางแผนร่วมกบั ชุมชน อพม. อปท. 4) สรุป วิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูล 5) จดั ทำรายงาน/นำข้อมูลไปใชป้ ระโยชน์ 5.สรปุ ผลการดำเนินงานโครงการ สำนกั งานส่งเสริมและสนบั สนุนวชิ าการ 1 ได้ดำเนนิ การชีแ้ จงเกย่ี วกับการจดั ทำข้อเสนอเชิงนโยบายดา้ นสงั คมใน ระดับพ้นื ที่ และสถานการณ์ผู้สงู อายุระดบั จังหวัด เพ่อื ใหห้ นว่ ยงาน พม.ในเขตพน้ื ที่รบั ผิดชอบรบั ทราบ โดยการ รว่ มประชมุ One Home จงั หวดั และหนว่ ยงาน พม.เห็นชอบกบั ข้อเสนอเชิงนโยบาย หน้า 14 จาก 17
บทที่ 5 ขอ้ เสนอแนะเชิงนโยบายในการสร้างการมีสว่ นรว่ มเพ่ือพฒั นาสังคมระดับพืน้ ท่ีและ แนวทางการขยายผล 6. ข้อเสนอแนะเชงิ นโยบาย 6.1. ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย 1) การจัดตงั้ ศนู ย์พฒั นาคุณภาพชีวติ ผู้สงู อายโุ ดยกลไกศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสรมิ อาชีพ ผู้สงู อายุ 2) การส่งเสริมให้ผู้สงู อายุเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคม เพ่ือสรา้ งคณุ คา่ ให้กบั ผู้สูงอายุ 3) การถา่ ยทอดภูมิปัญญาของผู้สูงอายุในชมุ ชน 4) การสอนทักษะดา้ นเทคโนโลยใี หแ้ ก่ผู้สงู อายุ 5) การพัฒนาอาสาสมคั รดแู ลผู้สงู อายใุ นชมุ ชนให้มีศกั ยภาพในการดูแลผูส้ ูงอายุทกุ กลุม่ 6) เสริมพลงั และสรา้ งความเขม้ แขง็ ให้กับกลไกการขับเคล่ือนสงั คมผูส้ งู อายุในระดับพ้ืนท่ี 6.2. แนวทางการขยายผล การเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปใช้ประโยชน์ในการขับเคลื่อนในพื้นที่ ในการกำหนดนโยบาย/ มาตรการ/แผนงาน/โครงการ/กิจกรรม ให้สอดคล้องกับบริบทพื้นท่ี เพื่อตอบสนองปัญหา ความต้องการนำไปสู่ การพฒั นาทีย่ ง่ั ยนื ของกลุม่ เปา้ หมาย หน้า 15 จาก 17
บรรณานุกรม กรมกจิ การผูส้ งู อายุ กระทรวงการพฒั นาสงั คมและความมั่นคงของมนุษย์ มาตรการการขบั เคลอ่ื นระเบยี บวาระ แหง่ ชาติ เรื่อง สังคมสูงอายุ ฉบบั ปรบั ปรุง นางสาวจิราภรณ์ การะเกตุ รายงานสถานการณผ์ ้สู ูงอายุ พ.ศ 2556 พระราชบญั ญตั ผิ ้สู ูงอายุไทย พ.ศ.2564 คณะกรรมการผสู้ ูงอายุแห่งชาติ 2552 แผนผสู้ ูงอายุแหง่ ชาติ ฉบับท่ี 2 (พ.ศ.2545-2564) ฉบบั ปรงุ ปรุง คร้งั ท่ี 1 พ.ศ.2552 รายงานของคณะกรรมาธกิ ารขบั เคลอ่ื นการปฏิรูปประเทศ ด้านการบรหิ ารราชการแผน่ ดิน สภาขับเคลื่อนการ ปฏิรปู ประเทศ เรื่อง “การบริหารจัดการของจงั หวดั ที่มงุ่ หวงั ผลสมั ฤทธ์โิ ดยยึดพนื้ ท่เี ป็นหลัก (Area-based Approach)” หน้า 16 จาก 17
หน้า 17 จาก 17
Search
Read the Text Version
- 1 - 23
Pages: