ชาดก 500 ชาติ อตั ถสั สทวารชาดก ชาดกว่าดว้ ยประตูแหง่ ประโยชน์
ลูกเป็นเหมือนแก้วตาดวงใจของพ่อและแม่ เม่ือได้ให้ กาเนิดออกมาแล้ว ผู้เป็นพ่อและแม่ก็ยอ่ มอยากเลี้ยงดูบุตรของ ตัวเองให้ดีท่ีสุด ดังเศรษฐีคนหนึ่งในนครสาวัตถีเมื่อผู้เป็น ภรรยาได้ให้กาเนิดลูกชายกับเขาแล้ว เขาก็เพียรหาส่ิงที่ดีที่สุด ให้ลูกของเขาเสมอไม่ว่าจะเป็นอาหารดีๆ ของเล่นดีๆ หรือ ส่ิงอื่นๆ ไม่ว่าจะมีราคามากเท่าไหร่ หายากเพียงไหน เขาก็ จะพยายามเสาะหามาจนได้ “ โอ้ ลูกน้อยของพอ่ พอ่ รักลูกมากท่ีสุดเลยรู้ไหม ขอให้ เจ้ามีสขุ ภาพที่แขง็ แรง ไดเ้ ป็นใหญ่เป็นโตนะลูก ดสู ิ เด็กอะไร ก็ไม่รู้หนา้ ตาหลอ่ เหลาเหมือนพ่อไมม่ ผี ดิ เลย ”
ลกู ชายเศรษฐีเม่ือเจรญิ วยั พดู ได้ เดินได้ วิง่ ได้ ก็เรม่ิ ซกุ ซน ชอบสังเกต ชอบถามชั่งพูดช่างจา เม่ือเหน็ อะไรทีไ่ ม่เขา้ ใจ ก็จะซกั ถามผูเ้ ป็นพอ่ ของเขาเสมอ “ พอ่ ๆ ทาไมผเี ส้อื มนั ชอบบินมาเกาะบนดอกไม้ละครับ ” “ ผีเส้ือมันดดู กินน้าหวานจากเกสรดอกไม้นะลูก น่ีไงข้างใน ดอกไม้มนั จะมีเกสรอยู่ ” บุตรเศรษฐีผู้นี้เป็นผมู้ ปี ญั ญาฉลาดเฉลียว เม่ือได้ 7 ขวบ กม็ เี รือ่ งราวต่างๆ ทีไ่ ม่เขา้ ใจมากขนึ้ จนผู้เปน็ พอ่ อธบิ ายไมไ่ หว เศรษฐีจึงเสาะหาอาจารย์มาประสิทธ์ปิ ระสาทวชิ าใหก้ ับ บตุ รชายของเขา “ อาจารย์ครับ ทาไมเร่ืองน้ี ถงึ เป็นอยา่ งน้ลี ะครับ ” อาจารยไ์ ดเ้ สาะหาตารามากมายใหล้ กู เศรษฐผี ูเ้ ป็นศิษยไ์ ด้ ศึกษา
วันหนง่ึ เขากม็ ีเร่ืองท่ีไม่เข้าใจ เมอื่ ได้ศกึ ษาจากตาราทอ่ี าจารย์ ให้ไวก้ ็ยังไมบ่ รรลถุ ึงคาถามขอ้ นนั้ จงึ นามาถามผเู้ ป็นอาจารย์ “ อาจารยค์ รับ ประตแู หง่ ประโยชน์ คอื อะไรหรอครับศิษยไ์ ด้ พยายามเสาะหาคาตอบจากตาราแล้วแต่กไ็ มม่ ีเล่มไหน กลา่ วถึงเรื่องนี้เลยครบั ” “คาถามนี้ช่งั ยากยิ่งนกั อาจารย์ตอบเจ้าไมไ่ ด้หรอก ศษิ ยเ์ อ้ย” เมื่อผ้เู ปน็ อาจารยต์ อบคาถามนีไ้ ม่ได้ ลูกเศรษฐีจึงนาคาถาม ไปถามพอ่ “ พ่อครบั ประตูแห่งประโยชนค์ อื อะไรเหรอครับ อาจารย์บอกวา่ ปญั หาน้ียากเกนิ กว่าจะตอบไดค้ รับ ” ท่านเศรษฐีผบู้ ิดาไม่ทราบปญั หาน้ัน จึงได้เกิดปริวิตกว่า ปญั หาน้ีสขุ มุ ย่งิ นัก เวน้ พระสมั มาสมั พุทธเจ้าเสียแล้ว ผู้อ่ืนท่ชี อ่ื วา่ จะสามารถแก้ปญั หานี้ได้ไม่มีเลย
เศรษฐีจึงพาลูกถือดอกไม้ของหอมและเคร่ืองลูบไล้เป็น อันมากไปสู่พระเชตวันวิหาร เมื่อถึงแล้วท้ังสองพ่อลูกบูชา พระศาสดาแล้วถวายบังคมน่ัง ณ ส่วนข้างหนึ่งผู้เป็นพ่อ กราบทลู ความข้อนี้กับพระผู้มีพระภาพเจ้า “ ข้าแต่พระองค์ ผู้เจริญ เด็กน้ีมีปัญญา ฉลาดใน ประโยชน์ ถามปัญหาประตู้แห่งประโยชน์กับข้าพระองค์ ข้าพระองค์ไม่ทราบจะตอบคาถามน้ันได้อย่างไร จึงมาสู่ สานักของพระองค์ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ตัวข้าพระองค์นี้ ขอโอกาส ขอพระผมู้ ีพระภาคเจ้า โปรดแกป้ ญั หานนั้ ดว้ ยเถิด พระเจ้าค่ะ ” “ ดูก่อนอุบาสก แม้ในกาลก่อนเราก็ถูกเด็กน้ีถามปัญหา น้ันแล้ว แล้วเราก็กล่าวแก้ปัญหานั้นแล้ว ในคร้ังน้ัน เด็กนี้รู้ ปัญหานั้น แต่บัดนี้เขากาหนดไม่ได้ เพราะความส้ิน ไปแห่งภพ ”
ครั้นเมื่อท่านเศรษฐีกราบทูลอาราธนา ทรงนาเรื่องในอดีต มาสาทกดังต่อไปน้ี ในอดีตกาลคร้ังพระเจ้าพรหมทัตเสวยราช สมบัติอยู่ในกรุงพาราณสี เศรษฐีคนหน่ึงในกรุงพาราณสีนั้นได้ เกิดความปรีดีล้นปร่ี เม่ือภรรยาของเขาได้ให้กาเนิดบุตรชาย “ นี่นะเหรอลูกของเรา ” ลูกของพ่อพ่อดีใจเหลือเกินท่ี เจา้ คลอดอย่างปลอดภัย ขอบคุณมากนะนอ้ งของพที่ เ่ี จา้ ใหส้ ง่ิ ท่ี วิเศษท่ีสุดแก่พี่เศรษฐีรักและเอ็นดูบุตรชายของเขามาก เม่ือมีโอกาสได้เจอะเจอกับพ่อค้าต่างแดน เขาก็จะสรรหาซื้อ ของทค่ี ิดวา่ ดีทส่ี ดุ ใหก้ บั ลกู รกั ของเขา “ ท่านเศรษฐีดนู ่เี ถอะเส้อื ผ้าเหลา่ นี้งามยิง่ นัก ” “ ก็ผมนามาจากต่างเมืองโน่น ผ้าเนื้อดี เหมาะสาหรับ เด็กๆ ใสแ่ ลว้ ไม่ระคายผวิ นุ่มสบายดีนะทา่ นเศรษฐี
ไ ม่ เ พี ย ง แ ต่ เ รื่ อ ง สิ่ ง ข อ ง ท่ี ใ ห้ กั บ ลู ก เ ท่ า นั้ น ท่ี เ ศ ร ษ ฐี ใ ห้ ความสาคัญ แม้แต่ห้องหับที่พักอาศัย เศรษฐีก็ให้เด็กรับใช้ใน บ้านจัดให้สะอาดอยู่เสมอ ส่ิงไหนท่ีเห็นว่าไม่เหมาะเป็น อันตรายต่อลูกก็ส่ังให้รื้อทิ้งทาใหม่ท้ังหมด “ ตอนนี้ลูกของเรา กเ็ รม่ิ คลานได้แล้ว พวกเจ้าคอยดูให้ดี หากมีตรงไหนเป็นช่อง เป็นหลุมให้ทาใหม่ให้หมด เด๋ียวลูกของเราจะพลัดตกลงไป แล้วพ้ืนก็ต้องถูให้สะอาดอย่าให้มีฝุ่นเชียว เดี๋ยวลูกเราจะ หายใจเอาฝุ่นพวกนี้เข้าไป ” “ น่ีแก่ ท่านเศรษฐีก็เห่อลูก เนาะ อะไรๆ ก็ลกู หมด ฉันถพู ืน้ ทจี นมือจะหงกิ อยแู่ ลว้ ” “ เอาเถอะน่า คุณพ่อก็อย่างนี้แหละ เขาก็ต้องห่วงลูก เขาอยู่แล้ว คุณหนูแก่น่ารักด้วย ” เศรษฐีผู้น้ีนอกจากจะทา หน้าที่ของผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวได้เป็นอย่างดีแล้ ว
แต่กิจอีกอย่างที่เค้าปฏิบัติไม่ขาดเว้นเลย คือการนั่งสมาธิ ตั้งอานาปานสติประพฤติตนอยู่ในศีลธรรม “ โอ้ ลูกของพ่อ ไหน เรียกพ่อสิลูก เรียกว่าพ่อเร็ว ” “ พ่อจ๋าๆ ” “ เฮอะๆ น่ารักน่าเอ็นดูจริงๆ เลย ลูกรักของเรา ” บุตรเศรษฐีเป็นผู้ มีปัญญาฉลาดเฉลียว เมื่อเจริญวัยพูดได้ก็กลายเป็นเด็กน่ารัก ช่างซักช่างถาม ช่างพูดช่างคุยจนเป็นท่ีรักของทุกคนในบ้าน ไม่เว้นแม่แต่คนรับใช้หรือผู้คนทั่วไปที่พบเห็น “ ตามมาเร็วๆ เราจะตามนกตัวน้ันไป เราอยากรู้นกมันจะบินไปไหนกัน ” ด้วยความเป็นเด็กฉลาดลูกเศรษฐีจึงมักจะมีคาถามต่างๆ มา ถามผู้เป็นพ่อของเขาเสมอ “ พ่อๆ นกมันบินไปไหนกัน วันนี้ ลูกวิ่งตามจะไปดู แต่ก็ว่ิงตามนกไม่ทัน มันบินสูงมาก ลูกวิ่ง ตามทีไร กไ็ มเ่ คยทนั สกั ที ”
“ ลูกเอ๋ย เจ้าวิง่ ตามนกไปไม่ไดห้ รอกนะ เพราะนกมัน บินบนทอ้ งฟ้า แต่เจา้ วง่ิ อยู่บนพื้นดิน ” “ พ่อดสู ิ ทาไมผีเสื้อมันไม่บินไปเกาะนกละพ่อ มันบนิ ได้ เหมือนกนั น่นี า่ ” “ มนั บนิ ได้เหมือนกัน แต่มันเปน็ สัตว์คนละชนดิ กนั นะ ลูก มนั ย่อมใช้ชีวติ แตกต่างกันไป เจา้ นี่ นบั วนั ก็ชา่ งซักช่าง ถามจริงๆ เลยนะ ” วันเวลาผา่ นไป เมื่อบุตรเศรษฐไี ดเ้ จรญิ วัยขนึ้ จนสามารถ เรียนรู้เร่อื งตา่ งๆ ไดแ้ ล้ว เศรษฐีก็เกิดความคดิ ทจี่ ะหาอาจารย์ มาสงั่ สอนวทิ ยาการตา่ งๆ ให้ลูกของเขา “ นี่ลูกของเราโตแลว้ สนิ ะแตล่ ะวันมเี ร่ืองถามมากมาย หากเราเป็นผูใ้ ห้คาตอบเพยี งผูเ้ ดยี ว เกรงว่าจะไม่พอแน่ๆ ควรแลว้ ท่ีมีอาจารย์มาสืบสานวชิ าต่างๆ ให้เพมิ่ เตมิ ” ตง้ั แต่น้ันมาเศรษฐีกจ็ ัดหาอาจารยต์ ่างๆ มาศิลปะศาสตร์ ให้กบั บุตรของตน
ลูกเศรษฐีด้วยความเป็นคนกระตือรือร้นในการเสาะหาความ รู้อยู่แล้วจึงตั้งใจศึกษาเล่าเรียนกับอาจารย์ต่างจากเด็กวัย เดยี วกันที่สนใจแต่เร่ืองการเล่นซนเพียงอยา่ งเดียว “ วันนี้มีแต่พวกเราเหรอ แล้วคุณหนูลูกเศรษฐีไม่มาด้วย เหรอ ” “ วันนี้เขาไม่มาหรอก ท่านเศรษฐหี าอาจารยม์ าสอน หนังสือแล้ว คงเย็นโน่นแหละถึงจะมาเล่นกับพวกได้ ” “ โฮ้ ทาไม่ต้องเรียนด้วยนะ วิ่งเล่นสนุกว่ากันตั้งเยอะ ” นอกจากความรู้ศาสตร์ต่างๆ แล้ว เศรษฐียังให้อาจารย์สอน บตุ รของเขาเรียนร้ดู ้านวิชาการต่อสรู้ ูปแบบต่างๆ ด้วยเพ่อื ใช้ใน การป้องกันภัย ด้วยเหตุน้ีจึงทาให้ลูกเศรษฐีท่ีมีวัยเพียงเจด็ ขวบ แต่มีความรู้วิชาการต่างรอบตัวมากมาย “ เฮ้ย แบบนี้ใช่ไหม ครบั ท่านอาจารย์ ”
นอกเหนือจากการเล่าเรียนศิลปะศาสตร์วิทยาต่างๆ แล้ว เศรษฐียงั สอนบุตรชายของตัวเองนั่งสมาธิ สอนให้เป็นคนดี อยู่ ในศีลในธรรม ไม่คิดเอาเปรียบผู้อ่ืน บุตรเศรษฐีแม้นจะมี อาจารย์มาสอนสั่งวิชาต่างๆ ให้มากมาย แต่เขาก็ยังมีคาถามท่ี ยังไมเ่ ข้าใจหลายเร่อื ง บางเรือ่ งเขาจะศกึ ษาจากตาราที่อาจารย์ ให้ บางเร่ืองเขาก็จะศึกษาจากอาจารย์แต่ละท่านแต่ละสานัก วันหนึ่ง เด็กคนนี้ก็เกิดไม่เข้าใจอยู่ปัญหาหนึ่ง เด็กวัยเจ็ด ขวบศึกษาหาคาตอบท่ีเขาไม่เข้าใจ ไม่ว่าจะอ่านจากตาราหรือ ถามจากอาจารย์ แต่ก็ไม่มีใครตอบปัญหานไ้ี ดเ้ ลย “ เอ้ ประตูแห่งประโยชน์คือส่ิงใดกันนะ ทาไมในตารา ไม่มีบอกเร่ืองนี้ไว้เลย ” “ อาจารย์ครับ ประตแู ห่งประโยชน์ คอื สิ่งใดหรอื ครบั ทาไมผมศึกษาจากตาราแล้ว ไมม่ ีบอกเรอื่ ง น้ไี วเ้ ลยครับ ”
“ ศิษย์เอ้ย อาจารย์ตอบคาถามของเจ้าไม่ได้หรอก ปัญหานี้มันยากนัก เจ้าลองไปถามอาจารย์จากสานักอื่นดู เถอะ ” “ อาจารย์ครับ ประตูแห่งประโยชน์ คือส่ิงใดหรือ ครับผมศึกษาจากตาราแล้ว ทั้งอาจารย์สานักอื่น ก็ไม่มีใคร ตอบได้เลยครับ ” “ ศิษย์เอ๋ย ปัญหานี้มันช่างยากจริงๆ แ ม้ แ ต่ อ า จ า ร ย์ ค น นี้ ก็ ต อ บ เ จ้ า ไ ม่ ไ ด้ เ ช่ น กั น ” เมื่อซักถามอาจารย์ท่านใดก็ไม่เป็นผล บุตรเศรษฐีจึงนา ปัญหานี้ไปถามบิดา “ พ่อครับ ผมมีปัญหาหน่ึงที่ไม่เข้าใจมา นานแล้ว แม้ว่าจะศึกษาตามตารา หรือถามจากอาจารย์ หมดแล้วทุกคน แต่ก็ไม่มีใครตอบลูกได้เลยครับ ” “ ปัญหา อะไรล่ะ ลูกเอ้ย บอกพ่อมาสิ ” “ อะไรที่ช่ือว่า ประตูแห่ง ประโยชน์ ตาราเล่มไหนๆ ก็ไม่มีบอกไว้ แม้แต่อาจารย์กต็ อบ ไมไ่ ด้ ”
เม่อื เศรษฐีได้ยนิ คาถามน้ันจึงตอบว่า “ บคุ คลควรปรารถนาลาภอย่างยงิ่ คือความไม่มโี รค ศลี ความคล้อยตามผูร้ ู้ การสดบั ตรับฟัง การประพฤตติ ามธรรม ความไมท่ อ้ ถอยคุณธรรมหกประการนี้ เปน็ ประตูแห่ง ประโยชนน์ ั่นเองละลกู ” บตุ รเศรษฐเี มอื่ ไดร้ บั คาตอบจากพอ่ ตง้ั แตน่ น้ั มาเขาก็ประพฤติในธรรม 6 ประการน้นั ส่วนเศรษฐกี ็ ตงั้ ตนบาเพญ็ บญุ มีทานเป็นต้นแล้วก็ไปตามยถากรรม บุตรในครัง้ นน้ั ไดม้ าเปน็ บตุ รคนปัจจบุ ัน ทา่ นเศรษฐี เสวยพระชาติเปน็ พระสัมมาสัมพทุ ธเจ้า
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: