Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โลกแห่งสัตว์น้ำใต้ท้องทะเลลึก

โลกแห่งสัตว์น้ำใต้ท้องทะเลลึก

Published by Athitiya Sanchondong, 2022-09-24 12:01:51

Description: โลกแห่งสัตว์น้ำใต้ท้องทะเลลึก

Search

Read the Text Version

โลกแห่งสัตว์น้ำใต้ท้อง ทะเลลึก โรงเรียนสอยดาววิทยา

ผีเสื้อทะเล (Sea Butterfly) ผีเสื้อทะเล เป็นสัตว์ในกลุ่มทากทะเล แต่สิ่งที่ให้พวกมันดู แปลกตาที่สุดก็คือ พวกมันเหมือนหอยที่มีปีก โบยบินอยู่ใน ทะเล สายพันธุ์ที่อยู่ในน้ำเย็นบริเวณอาร์ติกจะมีขนาดเปลือก ใหญ่ได้ถึง 15 มิลลิเมตร แต่พวกในเขตน้ำอุ่นจะมีขนาด เปลือกประมาณ 1-3 มิลลิเมตรเท่านั้น พวกมันจะต้อง กระพือปีกตลอดเวลา เนื่องจากเปลือกที่หนักจะทำให้พวก มันจมสู่ก้นทะเลได้ กินแพลงก์ตอน แบคทีเรีย ครัสเตเชีย ขนาดเล็ก ตัวอ่อนหอยทากเป็นอาหาร โดยการปล่อยใยเมือก ที่อาจจะยาวได้ถึง 5 เซ็นติเมตร ใช้จับเหยื่อ

ปลา Sarcastic Fringehead Sarcastic Fringehead เป็นปลาหน้ าตาประหลาดที่ ค่อนข้างดุร้ายและมีนิสัยหวงถิ่น เมื่อโตเต็มที่มีขนาด ประมาณ 30 เซ็นติเมตร มีครีบหน้ าอกขนาดใหญ่ และมี ปากที่สามารถอ้าได้กว้างมาก เมื่อเกิดการต่อสู้กันพวก มันจะอ้าปากประกบกันเพื่อวัดพลังและขนาดของปาก อาหารของมันคือกุ้ง หอย ปู ปลา ที่ขนาดเล็กกว่าปาก ของมัน มีถิ่นกำเนิดในมหาสมุทรแปซิฟิกแถบทวีป อเมริกาเหนือ มักอาศัยอยู่ในซากเปลือกหอยหรือตาม ร่องหิน ที่ระดับความลึก 3-73 เมตร

หนอนหมึก (Squid Worm) หนอนหมึก เป็นหนอนทะเลชนิดหนึ่ง อาศัยอยู่บริเวณ ก้นทะเลเซลีเบสระหว่างอินโดนีเซียกับฟิลิปปินส์ เมื่อโตเต็ม วัยหนอนหมึกมีความยาวประมาณ 9.4 เซนติเมตร และ สามารถเคลื่อนที่ในแนวตั้งโดยใช้ครีบเล็กๆ ที่เรียงตลอด ความยาวลำตัว หัวของมันมีหนวดยาวยื่นคล้ายปลาหมึก และ มีอวัยวะรูปเกลียวด้านหลังคอที่ช่วยในการรับกลิ่นรสในทะเล ทีมนักชีววิทยาทางทะเลแห่งสถาบันวิจัยสมุทรศาสตร์สคริ ปปส์ มลรัฐแคลิฟอร์เนียเป็นผู้ค้นพบสัตว์ประหลาดชนิดนี้ใน ทะเลเซลีเบส ที่ความลึก 2.8 กิโลเมตร หนอนหมึกจะลอยตัว อยู่เหนือพื้นทะเลประมาณ 100-200 เมตร ซึ่งเป็นระดับความ ลึกที่พบสิ่งมีชีวิตแปลกใหม่หลายชนิด

นางฟ้าทะเล (Sea Angel) นางฟ้ าทะเล ถือเป็นหอยฝาเดี่ยวที่ไม่มีเปลือก มีลำตัวใส มี อวัยวะเล็ก ๆ คล้ายปีกอยู่สองข้าง ใช้สำหรับกระพือขึ้นลง เคลื่อนไหวในน้ำเป็นจังหวะ ดูแล้วคล้ายกับนางฟ้ าในนิทาน อัน เป็นที่มาของชื่อ นางฟ้ าทะเล นางฟ้ าทะเลจะพบในบริเวณที่เป็น น้ำเย็นจัดแถบขั้วโลกเท่านั้น ทั้งขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ กิน หอยฝาเดียวที่มีเปลือกแต่ว่ายน้ำได้เช่นเดียวกันคือ ผีเสื้อทะเล เป็นอาหาร การจู่โจมเข้าใส่เพื่อล่าเหยื่ออย่างรวดเร็วมาก ผิดกับ สภาพการดำรงชีวิตปกติที่ดูเชื่องช้า นางฟ้ าทะเลมีรายงานว่า สามารถมีชีวิตได้ด้วยการกินอาหารเพียงครั้งเดียว สามารถอด อาหารได้นานถึงเกือบ 1 ปี เพราะสามารถเก็บสำรองพลังงาน จำนวนมากไว้ในตัว เนื่องจากเป็นสัตว์ที่มีอัตราการเผาผลาญ พลังงานที่ต่ำมาก เนื่องจากอาศัยอยู่ในน้ำที่มีอุณหภูมิต่ำ

ปูเยติ (Yeti Crab) ปูเยติ ปูชนิดนี้ถูกค้นพบในทะเลลึกแถบมหาสมุทร แปซิฟิก ห่างออกไปทางใต้จากเกาะอิสเตอร์ราว 1,500 กิโลเมตร ในเขตน่านน้ำของประเทศชิลี การค้นพบนี้ เป็ นการค้นพบโดยบังเอิญจากการที่มีเรือดำน้ำลงไปสำรวจ ทะเลที่ความลึก 2,200 เมตร และพบว่ามีตัวแปลกๆ เกาะ อยู่ที่รอยแยกตรงพื้นทะเล ด้วยลักษณะที่มีขนปกคลุมจึง ถูกเรียกว่า เยติ มาเรื่อย นอกจากนี้ปูเยติ ยังมีก้ามที่มี ลักษณะสีสันสวยงามโดยมักจะยื่นก้ามเข้าไปในน้ำแร่ร้อนที่ พ่นออกตามรอบแยกของพื้นทะเล ทั้งนี้ก็ยังปริศนาอีก ประการว่าการกระทำเช่นนี้ทำไปเพื่ออะไร

กั้งตั๊กแตนเจ็ดสี (Mantis Shrimp) กั้งตั๊กแตนเจ็ดสี เป็นกั้งที่มีสีสวย มีขนาดความยาว ประมาณ 20 เซนติเมตร มักอยู่ตามพื้นทราย นอกเขตแนว ปะการัง บางครั้งอาจพบได้ในเขตน้ำตื้น แต่บางครั้งอาจเดินอยู่ บนพื้นเพื่อหาอาหาร ได้แก่ หอยฝาเดียว, กุ้ง, ปู หรือปลาขนาด เล็ก ตามีการพัฒนาสูงสุด สามารถสแกนภาพได้ โดยใช้เส้น ขนานกลางตาเพื่อเล็งเหยื่อ ก่อนใช้ขาคู่หน้ าดีดไปอย่างแรง ลักษณะคล้ายตั๊กแตนตำข้าวจับเหยื่อ อาจใช้ดีดจนกระดองปู หรือเปลือกหอยแตกได้ มันมีพฤติกรรมหลบซ่อนอยู่ในรู โดย โผล่มาแต่เฉพาะส่วนหัว แต่ถ้าเดินหากินอยู่ไกลโพรง เมื่อพบ เจอกับศัตรู บางครั้งจะชูตัวยกขึ้นแล้วชูขาหน้ าเพื่อขู่ศัตรู หาก ไม่ได้ผลจะงอตัวกลิ้งกับพื้น พบในความลึกไม่เกิน 20 เมตร กระจายพันธุ์ในเขตอินโด-แปซิฟิก ตั้งแต่เกาะกวมจนถึง แอฟริกาตะวันออก ในน่านน้ำไทยพบได้น้ อยทางฝั่งอ่าวไทย

ดาวขนนก (Feather Star) ดาวขนนก เป็นสัตว์จำพวกเดียวกับดาวทะเล หรือที่ คนทั่วไปนิยมเรียกกันว่า ปลาดาว ซึ่งความจริงแล้วมันไม่ใช่ ปลาและไม่ได้มีส่วนคล้ายกับปลาเลย โดยส่วนใหญ่สัตว์ ทะเลกลุ่มนี้จะคืบคลานหากินอยู่บนพื้นทรายใต้ท้องทะเล แต่ดาวขนนกแตกต่างจากพวกนั้นเพราะมันชอบเกาะอยู่บน โขดปะการังหรือยอดหินบริเวณที่มีกระแสน้ำไหลผ่าน ยิ่งน้ำ ไหลแรงมันยิ่งชอบ เพราะเจ้าดาวขนนกนั้นจะคลี่รยางค์แขน จำนวนมากออกไปเพื่อดักจับอาหารที่ลอยมากับกระแสน้ำส่ง เข้าไปทางช่องปากที่อยู่ตรงศูนย์กลางลำตัวด้านล่าง มันมี อวัยวะยึดเกาะที่อยู่ด้านล่างลักษณะคล้ายรากของต้น โกงกาง คอยเกาะจับเกาะกับพื้นปะการังอย่างมั่นคงไม่ว่า กระแสน้ำจะไหลแรงเพียงใด

หมูทะเล (Sea Pig) หมูทะเล เป็นสัตว์ที่จัดอยู่ในกลุ่มปลิงทะเลน้ำลึก มี ลักษณะอ้วนกลม ผิวสีชมพู มีปากที่คล้ายจมูกหมู จึงไม่ แปลกที่พวกมันจะถูกเรียกว่า \"หมูทะเล\" กินอาหารพวกเศษ ซากพืช ซากสัตว์ ที่ปะปนอยู่ในโคลนของพื้นทะเล พบได้ใน มหาสมุทรแอตแลนติก แปซิฟิกและมหาสมุทรอินเดีย ที่ ความลึกมากก

หอยเบี้ยลิ้นเฟมมิงโก้ (The Flamingo Tongue Snail) ที่เราเห็นสีส้ม เหลือง ดำ ที่ดูสดใสบนตัวของเจ้าหอย เบี้ยลิ้นเฟมมิงโก้นั้น แต่จริงๆแล้วมันไม่ได้เป็นส่วนนึงของ ตัวมันเอง แต่เป็นเสมือนเสื้อผ้าที่ปกคลุมมันอยู่ ขนาดตัว ของมันเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 0.98-1.38 นิ้วเท่านั้นเอง อาศัย อยู่ในน่านน้ำเขตร้อนของมหาสมุทรแอตแลนติกทางทิศ ตะวันตกจากนอร์ทแคโรไลนาไปยังชายฝั่งทางตอนเหนือ ของบราซิล รวมทั้งเบอร์มิวดา, ทะเลแคริบเบียน อ่าว เม็กซิโกและแอนทิลเลสเบี้ยน

บลูซีซลัก (Glaucus Atlanticus) บลูซีซลัก มันเป็นสัตว์จำพวกหอย แต่จะมีรูปร่าง ลักษณะที่แปลกประหลาดไปจากหอยทั่วไป ตัวโตเต็มที่มี ความยาวเพียง 3 เซนติเมตร แม้จะมีขนาดเล็กแต่พิษที่ ซ่อนอยู่ในตัวมันสร้างความเจ็บปวดไปสู่หัวใจและปอดได้ และอาจนำไปสู่การเสียชีวิต มันสามารถลอยอยู่เหนือผิวน้ำ ได้ด้วยการพองถุงก๊าซในกระเพาะอาหารของตัวมันเอง สี ฟ้ าของตัวมันสามารถอำพรางให้กลมกลืนกับน้ำทะเลได้เป็น อย่างดี กินสัตว์เล็กๆรวมไปถึงสัตว์มีพิษขนาดเล็กเป็น อาหาร หอยบลูซีซลักจะแพร่กระจายในมหาสมุทรทั่วโลกใน น่านน้ำเขตร้อนเท่านั้น

หมึกหิงห้อย (Firefly Squid) หมึกหิ่งห้อย คือหมึกเรืองแสง ขนาดโตเต็มที่ 3 นิ้ว หมึกพันธุ์นี้ผลิตแสงได้เพราะมีอวัยวะพิเศษที่เรียกว่า Photophores รวมพลังกันขับลำแสงสีฟ้ าระยิบระยับยาม ค่ำคืน หมึกหิ่งห้อยอาศัยอยู่ใต้ทะเลที่ลึกประมาณ 1,200 ฟุต และถูกแรงดันจากคลื่นซัดขึ้นมาเรืองแสงอยู่บนผิวน้ำ โดยฤดูวางไข่ของหมึกหิ่งห้อยจะรวมตัวกันผสมพันธุ์และ วางไข่ที่ อ่าวโทมายะ ซึ่งถือเป็นสถานที่ซึ่งงดงามไปด้วย หมึกหิ่งห้อย และมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจมากที่สุด ทั้ง ในเรื่องรูปลักษณ์และรสชาติ ซึ่งถือเป็นหนึ่งอาหารอันโอชะ ของประเทศญี่ปุ่น

ปลาบาร์เรลอาย (ฺBarreleye) ปลาบาร์เรลอาย เป็นปลาน้ำลึกที่ถูกค้นพบ อาศัยอยู่ใน น้ำลึกมากกว่า 2000 ฟุต (600 เมตร) บริเวณเขตน่านน้ำ แคริฟอร์เนียกลาง ซึ่งเป็นการค้นพบสายพันธ์ใหม่ของปลา ที่มีหัวเป็นโดมโปร่งใส มีขนาดลำตัวยาวประมาณ 6 นิ้ว (15 เซ็นติเมตร) บริเวณส่วนหน้ าที่เห็น 2 จุดเล็กนั้นไม่ใช่ ตาแต่เป็น อวัยวะรับกลิ่น และที่เห็นเป็นโดมสีเขียวนั้นคือ ตัวกรองแสงอาทิตย์จากด้านบน และมีดวงตาเป็นจุดเล็กๆ เหนือรูรับกลิ่น

มังกรทะเลใบหญ้า (Weedy Sea Dragon) มังกรทะเลใบหญ้า เป็นปลาทะเลชนิดหนึ่ง ในวงศ์ปลา จิ้มฟันจระเข้และม้าน้ำ มีลักษณะทั่วไปคล้ายกับมังกรทะเล ใบไม้ ซึ่งเป็นปลาชนิดที่ใกล้เคียงมากที่สุด เพียงแต่มังกร ทะเลใบหญ้ามีระยางค์ต่าง ๆ น้ อยกว่า มีความยาวเต็มที่ได้ ถึง 45 เซนติเมตร แต่ขนาดโดยทั่วไปประมาณ 30 เซนติเมตร พบกระจายพันธุ์เฉพาะตอนใต้ของออสเตรเลีย เท่านั้น และเกาะทัสมาเนีย เหมือนกับมังกรทะเลใบไม้ โดย อาศัยอยู่ตามกองหินและแนวปะการัง หรือกอสาหร่าย พบได้ ในระดับความลึกถึง 50 เมตร เป็นปลาที่มีพฤติกรรมการ ขยายพันธุ์เช่นเดียวกับปลาชนิดอื่นในวงศ์เดียวกัน คือ ตัวผู้ เป็นฝ่ายอุ้มท้อง ตัวเมียจะวางไข่ได้ครั้งละประมาณ 1,200 ฟองในหน้ าท้องของตัวผู้ ไข่ใช้เวลาประมาณ 1 เดือนถึงจะ ฟักเป็นตัว ตัวอ่อนเมื่อฟักออกมาแล้วจะกินอาหารได้เลยทัน

มังกรทะเลใบไม้ (Leafy Sea Dragon) มังกรทะเลใบไม้ เป็นปลาทะเลกระดูกแข็งชนิดหนึ่ง เป็นวงศ์ เดียวกันกับม้าน้ำ มีความยาวเต็มที่ได้ประมาณ 35 เซนติเมตร พบ ทางตอนใต้และตะวันตกของทวีปออสเตรเลีย ถือเป็นปลาเฉพาะถิ่น มักอาศัยอยู่ในกระแสน้ำอุ่นในความลึกตั้งแต่ 3-50 เมตร มีจุดเด่น ตรงที่มีครีบต่าง ๆ ลักษณะคล้ายใบไม้หรือสาหร่ายทะเล ซึ่งครีบ เหล่านี้ไม่ได้มีไว้ว่ายน้ำแต่ใช้สำหรับอำพรางตัวจากศัตรูและยังใช้หา อาหารอีกด้วย กินอาหารจำพวกแพลงก์ตอน, กุ้งและครัสเทเชียนข นาดเล็กๆ การผสมพันธุ์และวางไข่ เนื่องจากมังกรทะเลใบไม้ไม่มีถุง หน้ าท้องเหมือนม้าน้ำ แต่ตัวเมียมีไข่ติดอยู่กับใกล้ส่วนหางซึ่งเต็มไป ด้วยเส้นเลือดที่มีอยู่มากมายซึ่งพัฒนาขึ้นมาเฉพาะตัวผู้ในช่วงผสม พันธุ์เท่านั้น เมื่อผสมพันธุ์กันตัวเมียจะวางไข่บริเวณหางของตัวผู้ซึ่ง จะม้วนงอเข้า ปริมาณไข่ราว 100-200 ฟอง หรือเต็มที่ 250 ฟอง ใช้ เวลาฟักเป็นตัวราว 4-6 สัปดาห์

ปลาแสงอาทิตย์ (Mola Mola) ปลาแสงอาทิตย์ หรือ ปลาโมลา โมลา เป็นปลาที่มีรูปร่าง ประหลาด เนื่องจากมีรูปร่างเป็นทรงกลม ส่วนหัวมีขนาดใหญ่จน ดูคล้ายมีแต่เพียงหัวอย่างเดียว ขณะที่ส่วนครีบต่าง ๆ ถูกหดสั้น ลง โดยส่วนครีบหลังมีขนาดใหญ่ตั้งยาวขึ้นไปข้างบน และครีบ ก้นให้มีขนาดใหญ่ยื่นยาวลงมาด้านล่างลำตัว แม้จะแลดูมีรูปร่าง ประหลาดแต่ก็ยังเป็ นปลาที่ว่ายน้ำได้และมีความเร็วมากพอที่จะ จับกินแมงกะพรุนทัน ซึ่งเป็นอาหารหลัก มีขนาดโตเต็มที่ได้ถึง 3.2 เมตร และมีน้ำหนักได้มากถึง 2,300 กิโลกรัม หรือมากกว่า 2 ตัน ซึ่งนับได้ว่าเป็นปลากระดูกแข็งที่มีน้ำหนักมากที่สุดในโลก ปลาที่ไม่มีเกล็ด มีผิวหนังที่หนาหยาบและยืดหยุ่น และมีเมือก หนา ทำหน้ าที่เสมือนเกราะหุ้มตัวไปตามอายุ เพื่อเป็นเครื่อง ป้ องกันตัว โดยเฉพาะจากเข็มพิษของแมงกะพรุนซึ่งเป็นอาหาร หลัก บางตัวอาจมีหนังหนาถึง 15 มิลลิเมตร ปลาแสงอาทิตย์ สามารถพบได้ในทะเลเขตร้อนและอบอุ่นทั่วโลก

แมงกะพรุนยักษ์โนมูระ (Nomura's Jellyfish) แมงกะพรุนโนะมุระ เป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังจำพวก แมงกะพรุนชนิดหนึ่ง จัดเป็นแมงกะพรุนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เป็นแมงกะพรุนชนิดที่รับประทานได้แต่ไม่เป็นที่นิยมนัก แมงกะพรุน โนะมุระ แพร่กระจายพันธุ์อย่างรวดเร็วในน่านน่้ำญี่ปุ่น ปัจจุบันคาด การณ์ว่ามีประมาณ 2 หมื่นล้านตัว มากกว่าประชากรมนุษย์บนโลกถึง 3 เท่า แมงกะพรุนโนะมุระขนาดใหญ่สุดมีน้ำหนักได้มากถึง 450 ปอนด์ และมีเส้นรอบวงประมาณ 12 ฟุต จากการศึกษาพบว่า เมื่อผ่า ตัวหรือจับขึ้นมาแล้ว แมงกะพรุนโนะมุระตัวเมียจะปล่อยไข่หลาย ล้านฟอง และตัวผู้ก็มีสเปิร์มหลายล้านตัว เมื่อถูกจู่โจมไข่และสเปิร์ม จะถูกปฏิสนธิทันที ไข่ที่สุกแล้วจะจมลงไปสู่พื้นทะเลเพื่อรอการเจริญ เติบโตไป โดยสามารถอยู่รอดได้หลายปีหรือแม้กระทั้งหลาย 10 ปี จนกระทั่งถูกภาวะบางประการกระตุ้น แมงกะพรุนตัวอ่อนจะลอยตัว ขึ้นมาสู่ท้องทะเลทันที

ปลาฉลามกอบลิน (Goblin Shark) ฉลามก็อบลิน เป็นปลาฉลามน้ำลึกที่พบเห็นตัวได้ยาก เป็น เพียงสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวในวงศ์และสกุลเดียวกันนี้ก็ยังดำรงเผ่า พันธุ์มาจนถึงปัจจุบัน ถือได้ว่าเป็น \"ซากดึกดำบรรพ์มีชีวิต\" มี ความยาวเต็มที่ 3 - 4 เมตร ปลาฉลามกอบลินมีลักษณะเด่น คือ บริเวณส่วนหัวด้านบนที่มีส่วนกระดูกที่ยื่นแหลมออกไปข้างหน้ า เหนือกรามบน ในปากเต็มไปด้วยฟันที่แหลมคม ซึ่งส่วนหัวที่ยื่น ยาวออกไปนั้น ด้านล่างประกอบไปด้วยอวัยวะเล็ก ๆ หลายร้อย อันที่ทำหน้ าที่เหมือนเซนเซอร์ตรวจจับคลื่นไฟฟ้ าของสิ่งมีชีวิต ต่าง ๆ เพื่ออาหารซึ่งได้แก่ ปู หรือสัตว์น้ำชนิดต่าง ๆ ที่หลบซ่อน ตัวลงในพื้นโคลนใต้ทะเล ซึ่งเป็นสถานที่หาอาหารได้ยากยิ่ง อีก ทั้งกรามยังสามารถขยายออกมาเพื่อพุ่งงับเหยื่อมิให้หลุดไปได้ อีกด้วย ฉลามก็อบลินอาศัยอยู่ในเขตน้ำลึกได้มากกว่า 100 เมตร ซึ่งอาศัยอยู่ในทะเลน้ำลึกแถบมหาสมุทรแปซิฟิคตอนใต้ไล่ ไปจนถึงมหาสมุทรแอตแลนติคและมหาสมุทรอินเดียตอนใต้

ซาล์ป (Salp) ซาล์ป เป็นสัตว์ทะเลชนิดหนึ่ง ตัวของมันจะโปร่งใส ยาวประมาณ 1-10 เซนติเมตร ลักษณะกลม ตรงกลางป่อง และมักต่อเป็นลูกโซ่เคลื่อนตัวตามกระแสน้ำ กินสาหร่าย โดยการอ้าปากรับน้ำทะเข้าไปแล้วก็กรองน้ำออก เก็บส่วนที่ เป็นอาหารไว้ ซาล์ปถือว่าเป็นสัตว์ที่ช่วยลดโลกร้อนได้ เพราะเวลาซาล์ปกินสาหร่ายเข้าไป ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่อยู่ในสาหร่ายก็จะถูกขับออกมาในรูปของเสียแล้วก็จมลงสู่ พื้นทะเล จึงทำให้ระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ผิวน้ำลด ลง มักพบได้ในเขตน่านน้ำต่างๆ ของประเทศออสเตรเลีย

แมงป่องทะเล (Sea Scorpion) แมงป่องทะเล เป็นสัตว์ขาปล้องที่เคยมีชีวิตอยู่เมื่อ 470 ล้านปี ถึง 370 ล้านปีที่แล้ว ปัจจุบันสูญพันธุ์ไปหมด แล้ว ลักษณะทั่วไปของมันก็ตามชื่อเลย คือ มีก้ามหน้ าเป็น คีมใหญ่ๆ สองอัน และมีหางยื่นออกไปยาวๆ เหมือน แมงป่อง ปลายหางอาจเป็นหนามแหลมหรือแผ่นแบนก็ได้ แมงป่องทะเลบางชนิดอาจมีความยาวสูงสุดได้ถึง 2.5 เมตร ตัวอย่างได้แก่เจ้าของฟอสซิลก้ามที่ถูกขุดพบในปี 2007 ถือว่าเป็ นสัตว์ขาปล้องที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีชีวิตบนโลกนี้

หวีวุ้น (Comb Jelly) หวีวุ้น เป็นสัตว์ที่มีลักษณะคล้ายกับแมงกะพรุน มีลำ ตัวใส เป็นทรงกลม มีแผ่นหวีที่ช่วยให้หวีวุ้นเคลื่อนที่ไปมา ได้อย่างมีประสิทธิภาพในทะเล หวีวุ้นเป็นนักล่าที่ดุร้าย โดย ใช้แส้เส้นยาวๆ 2 เส้น เป็นเครื่องมือจับเหยื่อส่งเข้าปาก บน แส้ทั้งสองมีกาวที่มีคุณสมบัติเป็ นเลิศซึ่งสามารถดักจับเหยื่ อ คล้ายกับทำให้เกิดอาการชาและติดแน่นบนแส้ ลำตัวหวีวุ้น ประกอบด้วยเซลล์ที่เปล่งแสงเรืองอย่างสวยงามในยาม ค่ำคืน ซึ่งเป็นคุณสมบัติอีกข้อหนึ่ง ที่ช่วยล่อเหยื่อให้ติดกับ ได้

แมงกินลิ้น Tongue-eating Louse แมงกินลิ้น เป็นปรสิตจำพวกกุ้ง กั้ง ปู มีความยาวตั้งแต่ 3-4 เซนติเมตร แมงกินลิ้นจะเข้าไปในปากของปลาทางเหงือก และเกาะที่ลิ้นของปลา แมงกินลิ้นจะใช้ก้ามที่ขาสามคู่หน้ าหนีบ ลิ้นของปลาไว้ทำให้เลือดออก ยิ่งแมงกินลิ้นตัวโตขึ้น ลิ้นของ ปลาก็จะมีเลือดไหลเวียนได้น้ อยลงเรื่อยๆ จนกระทั่งลิ้นนั่นฝ่อ เนื่องจากขาดเลือด จากนั้นแมงกินลิ้นจะเอาตัวเองติดกับกล้าม เนื้อลิ้น ซึ่งปลาจะใช้แมงกินลิ้นได้เหมือนลิ้นปกติ แมงกินลิ้นจะ ดูดเลือดหรือไม่ก็กินเนื้อเยื่อของของปลาเป็นอาหาร โดยไม่ได้ กินเศษอาหารของปลาแต่อย่างใด ได้มีการพบปลาที่ถูกแมงกิน ลิ้นเกาะในสหราชอาณาจักร ซึ่งปกติแล้วจะพบแมงกินลิ้นใน แถบชายฝั่งของรัฐแคลิฟอร์เนียทำให้มีการคาดเดาว่าแมงกิน ลิ้นอาจจะเพิ่มถิ่นหากินมากขึ้น แต่ก็เป็นไปได้ว่าแมงกินลิ้นตัว นี้อาจจะเพียงแต่ติดไปกับปลาซึ่งว่ายน้ำไปจากอ่าวแคลิฟอร์เนีย เพียงตัวเดียว

นาร์วาล (Narwhal) นาร์วาล เป็นวาฬมีฟันขนาดกลาง เป็นหนึ่งในสองของสปีชี ส์วาฬวงศ์โมโนดอนติแด เช่นเดียวกับวาฬเบลูกา นาร์วาลเพศผู้มี ลักษณะที่โดดเด่นคือ มีงาที่ยาว ตรง เป็นเกลียวที่ยื่นมาจาก กรามบนด้านซ้ายของพวกมัน ซึ่งแท้ที่จริงแล้วคือ ฟันเพียงซี่ เดียวของพวกมันที่อาจยาวได้ถึง 3 เมตร ปัจจุบันยังไม่ทราบเป็น ที่แน่ชัดว่ามีไว้สำหรับทำอะไร เพราะนาร์วาลไม่ได้ใช้งาตรงนี้ใน การขุดเจาะหาอาหารหรือต่อสู้กันเอง นาร์วาลใช้ชีวิตตลอดทั้งปีที่ บริเวณอาร์กติก พบในบริเวณอาร์กติกของแคนาดาและเขตทะเล ของกรีนแลนด์ หาได้ยาก นาร์วาลเป็นนักล่าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ตัวในเขตอาร์กติก มันกินเหยื่อบริเวณพื้นใต้น้ำเป็นอาหาร โดย เป็นปลาซีกเดียวเป็นส่วนใหญ่ ที่ระดับความลึกถึง 1,500 เมตร ใต้ก้อนน้ำแข็งหนา มีการล่านาร์วาลมากว่า 1,000 ปีโดยชา วอินูอิตในภาคเหนือของแคนาดาและกรีนแลนด์

Lancet Fish Lancet Fish เชื่อกันว่าเป็นปลาที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน กับไดโนเสาร์ มีครีบหลังขนาดใหญ่และเขี้ยวที่แหลมคม สามารถ โตเต็มที่ได้ขึ้นถึง 2 เมตร น้ อยมากที่จะมีใครรู้เกี่ยวกับวงจรชีวิต ของพวกมันแม้ว่าพวกมันจะกระจายกันอย่างแพร่หลายใน มหาสมุทรทั่วโลก ยกเว้นทะเลขั้วโลก พวกมันอาศัยทะเลลึกถึง 1,000 เมตร ในเขตร้อน หากินในตอนกลางคืนโดยกินปลา กุ้ง หมึกเป็ นอาหาร

ปลาเเลมป์เพรย์ (Lamprey) ปลาแลมเพรย์เป็นปลาไหลชนิดหนึ่ง ลำตัวด้านหลังมักจะเป็น สีดำ มีครีบหลังและครีบหาง แต่ไม่มีครีบคู่ ไม่มีเกล็ด ปากจะอยู่ ค่อนลงมาทางด้านท้อง มีลักษณะคล้ายแว่นใช้สำหรับดูด ปากกลม ซึ่งไม่จำเป็ นต้องมีกล้ามเนื้ อขนาดใหญ่ขึ้นมาบังคับขากรรไกรให้ อ้าและหุบแบบปัจจุบัน พวกมันต้องการเพียงปากที่มีตะขอสำหรับ เกาะเหยื่อเพื่อดูดเลือดสัตว์อื่นเป็นอาหาร และดำรงชีพเป็นปรสิต เมื่อดูดเลือดของเหยื่อจนตัวเหยื่อแห้งก็จะปล่อยแล้วหาเหยื่อใหม่ แลมเพรย์มีหลายชนิด บางชนิดไม่จำเป็นต้องดำรงแบบปรสิต มี ทั้งในน้ำจืดและน้ำทะเล และมีกระจายอยู่ทั่วโลก คือ อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ ยุโรป อาฟริกาตะวันตก ญี่ปุ่น ชิลี นิวซีแลนด์ และ ทาสเมเนีย

แฟงค์ทูธ (Fangtooth) แฟงค์ทูธ เป็นปลาที่อาศัยอยู่ในทะเลน้ำลึก และถึงแม้ว่า รูปร่างของมันนั้นจะมีรูปร่างเหมือนกันอย่างกับสัตว์ประหลาด นั้น แต่ว่าเมื่อมันมีการโตเต็มวัยนั้นมันก็จะมีความยาวเพียง แค่ 6 นิ้ว เท่านั้น และลำตัวนั้นจะสั้นแต่ว่าจะมีหัวที่มีขนาด ใหญ่ เป็นปลาที่มีฟันที่แหลมคมและยาว เหมือนกับเขี้ยวที่ เรียงตัวกันอยู่ในปากที่มีขนาดใหญ่นั่นเอง แฟงค์ทูธอาศัยอยู่ ในใต้ทะเลน้ำลึกลงไปถึง 16,000 ฟุต และด้วยความลึกขนาด นี้นั้นก็จะทำให้แรงดันน้ำนั้นมีระดับที่สูงและเย็นมากจนแทบที่ จะเป็นน้ำแข็งเลยทีเดียว และในเรื่องของอาหารของแฟงค์ทู ธนั้นก็จะหาได้ยาก มันจึงทำให้แฟงค์ทูธนั้นกินทุกอย่างที่ขว้าง หน้ าที่หากินได้ และสำหรับอาหารส่วนใหญ่แล้วนั้นก็จะตกลง มาจากทะเลด้านบน เจ้าแฟงค์ทูธสามารถพบได้ในเขตอบอุ่น และร้อนชื้นทั่วโลกรวมไปถึงทวีปออสเตรเลียด้วย

ปลาค้างคาวปากแดง (Red- Lipped Batfish) ปลาค้างคาวปากแดง พวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตบนโลก มี ลักษณะเด่นคือ ริมฝีปากสีแดงสด พวกมันไม่ได้เป็นนักว่าย น้ำที่ดี เลยต้องปรับตัวโดยมีครีบแข็งบริเวณใต้ท้องของมัน ที่ทำหน้ าที่เหมือนกับขาที่ใช้ในการคลานหรือเดินบนพื้น มหาสมุทร พบได้ทั่วหมู่เกาะกาลาปากอสที่ระดับความลึก 30 เมตรหรือมากกว่า ปลาค้างคาวปากแดง (Red-Lipped Batfish) มีความสัมพันธุ์ใกล้ชิดกับ ปลาค้างคาวปากสีดอก กุหลาบ (Rosy-Lipped Batfish) ซึ่งจะพบอยู่แถวเกาะโค โคส บริเวณนอกชายฝั่งของประเทศคอสตาริกา

ปลาไหลริบบิ้น (Ribbon Eel) ปลาไหลริบบิ้น เป็นปลาทะเลชนิดหนึ่ง อยู่ในวงศ์ปลาไห ลมอเรย์ มีขนาดเล็ก มีสีสันสดใส และสามารถเปลี่ยนเพศได้ ตามวัย นั้นคือเมื่อยังเล็ก ลำตัวเป็นสีดำ โดยที่ไม่สามารถรู้ได้ ว่าเป็นตัวผู้หรือตัวเมีย แต่เมื่อโตขึ้นลำตัวเป็นสีน้ำเงินและเป็น ตัวผู้และเมื่ อมีอายุมากขึ้นอีกลำตัวเป็ นสีเหลืองและกลายเป็ น ตัวเมีย กินสัตว์น้ำขนาดเล็กเป็นอาหาร โดยปลาไหลจะยืดตัว ออกจากรูเพื่อหาอาหาร โดยปกติจะซ่อนตัวอยู่ในรูตามพื้นทะเล ซึ่งเป็นทราย มีขนาดความยาวเต็มที่ประมาณ 1 เมตร เป็นปลา ที่พบได้น้ อย กระจายพันธุ์อยู่ในมหาสมุทรอินเดียและแปซิฟิก ในน่านน้ำไทยก็พบได้น้ อย โดยพบได้ทั้งทางฝั่งทะเลอันดามัน และอ่าวไทย เช่น เกาะเต่า, หมู่เกาะสิมิลัน เป็นต้น

แอกโซลอเติล (Axolotl ) แอกโซลอเติล เป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำในอันดับซาลาแมนเด อร์ชนิดหนึ่ง เป็นซาลาแมนเดอร์ขนาดเล็ก ที่มีถิ่นที่อยู่ค่อนข้าง จำกัด โดยจะพบได้เฉพาะทะเลสาบหรือพื้นที่ชุ่มน้ำใกล้กับกรุง เม็กซิโกซิตี ประเทศเม็กซิโกเท่านั้น จุดเด่นของแอกโซลอเติลก็ คือ มีพู่เหงือกสีแดงสดซึ่งเป็นอวัยวะช่วยในการหายใจซึ่งติดตัว มาตั้งแต่ฟักออกจากไข่ โดยที่ไม่หายไปเหมือนกับสัตว์ครึ่งบก ครึ่งน้ำจำพวกอื่น เช่น กบหรือซาลาแมนเดอร์ชนิดอื่น ซึ่งที่ถือได้ ว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์อีกประการหนึ่งของแอกโซลอเติล คือ เมื่อ อวัยวะไม่ว่าส่วนใดของร่างกายขาดหายไปจะสามารถซ่อมแซม ตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็นอวัยวะภายนอกหรืออวัยวะสำคัญภายใน ร่างกาย เช่น หัวใจ ปอด แอกโซลอเติลยังเป็นสัตว์ที่ไม่มีเปลือก ตา และของเหลวที่ขับออกมาเป็นของเสียออกจากร่างกายก็ไม่ใช่ ปัสสาวะ แต่เป็นน้ำที่ผ่านเหงื่อ อีกทั้งยังมีสีผิวแตกต่างกันหลาก หลายด้วย เช่น สีน้ำตาลเข้ม สีดำ สีส้ม สีขาวตาดำ

หมีน้ำ (Water Bear) หมีน้ำ เป็นสัตว์ขนาดเล็ก เมื่อโตเต็มที่มีขนาดเพียง 1.5 มิลลิเมตร ส่วนตัวที่เล็กที่สุดมีขนาดเพียง 0.1 มิลลิเมตร มันมี มากกว่า 1000 สายพันธุ์ โดยมากเป็นพวกกินพืช ส่วนน้ อยกิน แบคทีเรีย และกินสัตว์ สามารถพบได้ทั่วโลก ตั้งแต่ที่ยอดเขา หิมาลัยที่ความสูงกว่า 6,000 เมตร จนถึงในทะเลลึกถึง 4,000 เมตร ไม่ว่าจะเป็นที่ขั้วโลกหรือในบริเวณเส้นศูนย์สูตร มันอยู่ได้ ในที่ที่มีแรงดันสูงถึง 6,000 atm ซึ่งแรงดันปกติที่มนุษย์อยู่ทุก วันนี้คือแรงดันบรรยากาศ มีค่าเท่ากับ 1 atm เท่านั้น หมีน้ำได้ ขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์ที่ทรหดที่สุดในโลก มันสามารถมีชีวิตอยู่ได้ใน ที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า -272.8°C (ได้ประมาณ 1 นาที ) และที่ -200°C ( อยู่ได้ประมาณ 1 วัน ) สามารถมีชีวิตอยู่ได้ในที่มี อุณหภูมิสูงกว่า 151 °C ทนรังสีได้มากกว่ามนุษย์ถึง 1,000 เท่า


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook